📜
๒. เทวปุตฺตสํยุตฺตํ
๑. ปมวคฺโค
๑. ปมกสฺสปสุตฺตวณฺณนา
๘๒. เทวสฺส ¶ ¶ ปุตฺโต เทวปุตฺโต. เทวานํ ชนกชเนตพฺพสมฺพนฺธาภาวโต กถมยํ เทวปุตฺโตติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘เทวานํ หี’’ติอาทิ. ‘‘อปากโฏ อฺตโรติ วุจฺจตี’’ติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ. ปากโฏปิ หิ กตฺถจิ ‘‘อฺตโร’’ติ วุจฺจติ. เหฏฺา เทวตาสํยุตฺเต ‘‘อปากฏา อฺตรา เทวตา’’ติ วตฺวา อิธ ‘‘ปากโฏ เทวปุตฺโต’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิสฺส กสฺสโปติ โคตฺตนามํ คหิตํ, ตฺจ โข ปุริมชาติสิทฺธสมฺาวเสน. อนุสาสนํ อนุสาโส, ตํ อนุสาสํ. ภิกฺขุนิทฺเทสนฺติ ภิกฺขุสทฺทสฺส นิทฺเทสํ. ภิกฺขุโอวาทนฺติ ภิกฺขุภาวาวหํ โอวาทํ. ยทิ ปน น อสฺโสสิ, กถมยํ ปฺหํ กเถสีติ? อฺโต สุตํ นิสฺสาย ปฺหํ กเถสิ, น ปน ภควโต สมฺมุขา สุตภาเวน.
เตสนฺติ ยถาวุตฺตานํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ. ‘‘กเถตุกาโม เจวา’’ติอาทินา หิ จตุตฺถํ อิธ อุทฺธฏํ. ตตฺถ อาทิโต ติณฺณํ ภควา ปฺหํ ภารํ น กโรติ เอเกกงฺคเวกลฺลโต เจว องฺคทฺวยเวกลฺลโต จ, จตุตฺถสฺส ปน อุภยงฺคปาริปูรตฺตา ภารํ กโรตีติ อาห ‘‘อยํ ปนา’’ติอาทิ.
คาถายํ ‘‘สุภาสิตสฺสา’’ติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนนฺติ อาห ‘‘สุภาสิตํ สิกฺเขยฺยา’’ติ. จตุสจฺจาทินิสฺสิตํ พุทฺธวจนํ สิกฺขนฺโต จตุพฺพิธํ วจีสุจริตํ สิกฺขติ นามาติ อาห ‘‘จตุสจฺจนิสฺสิตํ…เป… สิกฺเขยฺยา’’ติ. อวธารเณน ตปฺปฏิปกฺขํ ปฏินิวตฺเตติ. อุปาสิตพฺพนฺติ อาเสวิตพฺพํ ภาเวตพฺพํ พหุลีกาตพฺพํ. อฏฺตึสเภทํ กมฺมฏฺานนฺติ อิทํ ตสฺส วิปสฺสนาปทฏฺานตํ หทเย เปตฺวา วุตฺตํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ทุติยปเทน อธิปฺาสิกฺขา กถิตา’’ติ. เย ปน ‘‘ทุติยปเทน อธิจิตฺตสิกฺขา จิตฺตวูปสเมน อธิปฺาสิกฺขา’’ติ ¶ ปนฺติ, เตสํ ปเทน อฏฺตึสปฺปเภทกมฺมฏฺานํ สุทฺธสมถกมฺมฏฺานสฺเสว คหณํ ทฏฺพฺพํ. ยทิ เอวํ ‘‘อฏฺสมาปตฺติวเสนา’’ติ อิทํ กถนฺติ? ‘‘ตํ วิปสฺสนาธิฏฺานานํ สมาปตฺตีนํ วเสน ¶ กถิต’’นฺติ วทนฺติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘ทุติยปเทน อธิปฺาสิกฺขา’’ติ อิทํ วจนํ สมตฺถิตํ โหติ. สิกฺขนํ นาม อาเสวนนฺติ อาห ‘‘ภาเวยฺยาติ อตฺโถ’’ติ. อุปาสนนฺติ ปยิรุปาสนํ. ตฺจ โข อสฺสุตปริยาปุณนกมฺมฏฺานุคฺคหาทิวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘ตมฺปี’’ติอาทิมาห. อธิสีลสิกฺขา กถิตา ลกฺขณหารนเยน. วจีสุจริตสฺส หิ สีลสภาวตฺตา ตคฺคหเณเนว ตเทกลกฺขณํ กายสุจริตมฺปิ อิตรมฺปิ คหิตเมวาติ. เอตฺถ จ อธิสีลสิกฺขาย จิตฺตวิเวโก, อธิปฺาสิกฺขาย อุปธิวิเวโก, อธิจิตฺตสิกฺขาย กายวิเวโก กถิโต, กายวิเวโก ปน สรูเปเนว ปาฬิยํ คหิโตติ ติวิธสฺสปิ วิเวกสฺส ปกาสิตตฺตํ ทฏฺพฺพํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
ปมกสฺสปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยกสฺสปสุตฺตวณฺณนา
๘๓. ทฺวีหิ ฌาเนหีติ อารมฺมณลกฺขณูปนิชฺฌานลกฺขเณหิ ทฺวีหิ ฌาเนหิ. กมฺมฏฺานวิมุตฺติยาติ กมฺมฏฺานานุโยคลทฺธาย วิมุตฺติยา. เตน ตทงฺควิกฺขมฺภนวิมุตฺติโย วทติ. สตฺถุสาสนสฺส หทยตฺตา อพฺภนฺตรตฺตา หทยสฺส มานสสฺส, อนุปตฺตึ ปฏิลาภมานสํ. ตํ ปน อตฺถโต อฺา เอวาติ อาห ‘‘อรหตฺต’’นฺติ. ตํ ปตฺตุกาเมน เอกนฺตโต วชฺเชตพฺพตณฺหาทิฏฺีนํ ภาเว ตสฺส อนิชฺฌนโต, ตทภาเว อิชฺฌนโต จ เต อุปฺปาทนวเสน ยทคฺเคน นิสฺสิโต, ตทคฺเคน ปนายมฺปิ เตหิ นิสฺสิโต นาม โหตีติ อาห ‘‘อนิสฺสิโต’’ติอาทิ. อรหตฺตํ อานิสํสิตพฺพฏฺเน อานิสํสํ เอตสฺสาติ อรหตฺตานิสํโส. อรหตฺตํ ปตฺตุกามสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทา อิจฺฉิตพฺพา. ตตฺถ จ สพฺพปโม กมฺมฏฺานอตฺตานุโยโค, โส อิธ น คหิโตติ อาห ‘‘ตนฺติธมฺโม ปุพฺพภาโค’’ติ. ตตฺถ ตนฺติธมฺโมติ ปริยตฺติธมฺโม.
ทุติยกสฺสปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. มฆสุตฺตวณฺณนา
๘๔. มโฆติ ¶ สกฺกสฺเสตํ นามํ ปุริมชาติอนุคตํ. สฺเววาติ สกฺโก เอว. วเตนาติ มาตาปิตุอุปฏฺานาทิจาริตฺตธมฺเมน ¶ . อฺเติ อุปธิเวปกฺกปาปธมฺเม อภิภวิตฺวา. อสุรนฺติ อินฺทสตฺตุภูตํ อสุรํ.
มฆสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. มาคธสุตฺตวณฺณนา
๘๕. จตุตฺถสุตฺตํ วุตฺตตฺถเมวาติ เทวตาสํยุตฺเต สํวณฺณิตตฺถเมว, ตสฺมา อิธ น วตฺตพฺโพ อตฺโถติ อธิปฺปาโย.
มาคธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา
๕. ทามลิสุตฺตวณฺณนา
๘๖. เตน การเณนาติ เตน ปธาเนน การณภูเตน, ปธานกรณนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. ยํ กิฺจิ ขุทฺทกมฺปิ มหนฺตมฺปิ หีนมฺปิ ปณีตมฺปิ ภวํ. อายตปคฺคโหติ ทีฆรตฺตสฺส วีริยารมฺโภ. กิจฺจโวสานนฺติ กิจฺจนิฏฺานํ. ตเถวาติ ยถา อรหตฺตุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ, ตโต ปจฺฉาปิ ตเถว ‘‘พุทฺธิปคฺคโห’’ติ วีริยํ ทฬฺหํ กโรตูติ กุปฺปธมฺมํ วิย มฺมาโน วทติ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราทิอตฺถํ ปน วีริยกรณํ อิจฺฉิตพฺพเมว.
อสํกิณฺณาติ อโวมิสฺสา เอวํ อฺตฺถ อนาคตตฺตา. เตนาห ‘‘ภควตา หี’’ติอาทิ. ยทิ เอวํ อิเธว กสฺมา เอตํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิธ ปนา’’ติอาทิ. ปติฏฺนฺติ นที นาม อนวฏฺิตตีรา, ตตฺถ ปติฏฺาตพฺพฏฺานํ.
ทามลิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. กามทสุตฺตวณฺณนา
๘๗. ปุพฺพโยคาวจโรติ ¶ ปุพฺเพ โยคาวจโร ปุริมตฺตภาเว ภาวนมนุยุตฺโต. อยํ กิร กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวาว พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ สมณธมฺมํ อกาสิ, น ปน วิเสสํ นิพฺพตฺเตสิ. ตมตฺถํ การเณน สทฺธึ ทสฺเสตุํ ‘‘พหลกิเลสตายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอกนฺตปริสุทฺธสฺสาติ ยถา วิเสสาวโห โหติ ¶ , เอวํ เอกนฺเตน ปริสุทฺธสฺส สพฺพโส อนุปกฺกิลิฏฺสฺส. สีเลน สมาหิตาติ ยถา สีลํ อุปรูปริ วิเสสาวหํ นิพฺเพธภาคิยฺจ โหติ, เอวํ สมฺมเทว อาหิตจิตฺตา สุฏฺุ สมฺปนฺนจิตฺตา. ตถาภูตา เตน สมนฺนาคตา โหนฺตีติ อาห ‘‘สมุเปตา’’ติ. ปติฏฺิตสภาวาติ เสกฺขตฺตา เอว ยถาธิคตธมฺเมน นิจฺจลภาเวน อธิฏฺิตสภาวา. มยา ตุฏฺิยา คหิตาย เทวปุตฺโต ‘‘ทุลฺลภา ตุฏฺี’’ติ วกฺขตีติ ภควา ‘‘ตุฏฺิ โหติ สุขาวหา’’ติ อโวจาติ อาห ‘‘อุปริ ปฺหสมุฏฺาปนตฺถ’’นฺติ. ปพฺพชิโต รุกฺขมูลิโก อพฺโภกาสิโก วา อนคาริยุเปโต นาม โหติ, เสนาสเน ปน วสนฺโต กถนฺติ อาห ‘‘สตฺตภูมิเก’’ติอาทิ. จตุปจฺจยสนฺโตโสติ ภาวนาภิโยคสิทฺโธ จตูสุ ปจฺจเยสุ สนฺโตโส. เตน จิตฺตวูปสเมน ตุฏฺิ ลทฺธาติ ทสฺเสติ. จิตฺตวูปสมภาวนายาติ จิตฺตกิเลสานํ วูปสมกรภาวนาย, มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ นิพฺพิเสวนภาวกรเณน สวิเสสํ จิตฺตสฺส วูปสมกรภาวนาย รโต มโนติ โยชนา.
เอตฺถ จ อินฺทฺริยูปสเมน จิตฺตสมาธานํ ปริปุณฺณํ โหติ อินฺทฺริยภาวนาย จิตฺตสมาธานสฺส อการกานํ ทูรีกรณโต. อธิจิตฺตสมาธาเนน จตุปจฺจยสนฺโตโส สวิเสสํ ปริสุทฺโธ ปริปุณฺโณ จ โหติ ปจฺจยานํ อลาภลาเภสุ ปริจฺจาคสภาวโต. วุตฺตนเยน ปน สนฺตุฏฺสฺส ยถาสมาทินฺนํ สีลํ วิสุชฺฌติ ปาริปูริฺจ อุปคจฺฉติ, ตถาภูโต จตุสจฺจกมฺมฏฺาเน ยุตฺโต มคฺคปฏิปาฏิยา สพฺพโส กิเลเส สมุจฺฉินฺทนฺโต นิพฺพานทิฏฺโ โหตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘เย รตฺตินฺทิว’’นฺติอาทินา. กึ น คจฺฉิสฺสนฺติ? คมิสฺสนฺเตวาติ อริยมคฺคภาวนํ ปหาย สมฺมาปฏิปตฺติยา ทุกฺกรภาวํ สนฺธาย สาสงฺกํ วทติ. เตนาห ‘‘อยํ ปน ทุคฺคโม ภควา วิสโม มคฺโค’’ติ.
ตตฺถ ¶ เกจิ ‘‘อยํ ปนาติ เทวปุตฺโต. โส หิ ภควโต ‘อริยา คจฺฉนฺตี’ติ วจนํ สุตฺวา ‘ทุคฺคโม ภควา’ติอาทิมาหา’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุชฺชติ. ยสฺมา ‘‘สจฺจเมต’’นฺติ เอวมาทิปิ ตสฺเสว เววจนํ กตฺวา ทสฺสิตํ, ตสฺมา ‘‘เยน มคฺเคน อริยา คจฺฉนฺตี’’ติ ตุมฺเหหิ วุตฺตํ, อยํ ปน ‘‘ทุคฺคโม ภควา วิสโม มคฺโค’’ติ อาห เทวปุตฺโต. อริยมคฺโค กามํ กทาจิ อติทุกฺขา ปฏิปทาติปิ วุจฺจติ, ตฺจ โข ปุพฺพภาคปฏิปทาวเสน, อยํ ปน อตีว สุคโม สพฺพกิเลสทุคฺควิวชฺชนโต กายทุจฺจริตาทิวิสมสฺส ราคาทิวิสมสฺส จ ทูรีกรณโต น วิสโม. เตนาห ‘‘ปุพฺพภาคปฏิปทายา’’ติอาทิ. อสฺสาติ อริยมคฺคสฺส. อริยมคฺคสฺส หิ อธิสีลสิกฺขาทีนํ ปริพุนฺธิตพฺพภาเคน พหู ปริสฺสยา โหนฺตีติ. เอวํ วุตฺโตติ ‘‘ทุคฺคโม วิสโม’’ติ จ เอวํ วุตฺโต.
อวํสิราติ อนุฏฺหเนน อโธภูตอุตฺตมงฺคา. กุสลงฺเคสุ หิ สมฺมาทิฏฺิ อุตฺตมงฺคา สพฺพเสฏฺตฺตา ¶ , ตฺจ อนริยา ปตนฺติ น อุฏฺหนฺติ มิจฺฉาปฏิปชฺชนโต. เตนาห ‘‘าณสิเรนา’’ติอาทิ. อนริยมคฺเคติ มิจฺฉามคฺเค. เตนาห ‘‘วิสเม มคฺเค’’ติ. ตํ มคฺคนโต อนริยา อริยานํ มคฺคโต อปาปุณเนน ปริจฺจตฺตา หุตฺวา อปาเย สกลวฏฺฏทุกฺเข จ ปตนฺติ. สฺเววาติ สฺวายํ อนริเยหิ กทาจิปิ คนฺตุํ อสกฺกุเณยฺโย มคฺโค อริยานํ วิสุทฺธสตฺตานํ สพฺพโส สมธิคเมน สโม โหติ. กายวิสมาทีหิ สมนฺนาคตตฺตา วิสเม สตฺตกาเย เตสํ สพฺพโสว ปหาเนน สพฺพตฺถ สมาเยว.
กามทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ปฺจาลจณฺฑสุตฺตวณฺณนา
๘๘. สมฺพาเธติ สมฺปีฬิตตณฺหากิเลสาทินา สอุปฺปีฬตาย ปรมสมฺพาเธ. อติวิย สงฺการฏฺานภูโต หิ นีวรณสมฺพาโธ อธิปฺเปโต. โส หิ ทุคฺคหโน ตสฺมึ อสติ กามคุณสมฺพาโธ อนวสโร เอว เสยฺยถาปิ มหากสฺสปาทีนํ. โอกาสนฺติ ฌานสฺเสตํ นามํ นีวรณสมฺพาธาภาวโต. อสมฺพาธภาเวน หิ ฌานํ อิธ ‘‘โอกาโส’’ติ วุตฺตํ, ตฺจ โข อจฺจนฺตาสมฺพาธฏฺานตาย วิปสฺสนาปาทกตาย ¶ . ตถา หิ ปาฬิยํ ‘‘อวินฺที’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อวินฺทีติ วินฺทิ ปฏิลภิ. ภูริเมธโสติ มหาปฺโ, สปฺโติ อตฺโถ. อพุชฺฌีติ พุชฺฌิ ปฏิวิชฺฌิ. ปฏิลีโน หุตฺวา เสฏฺโ, ปฏิลีนานํ วา เสฏฺโติ ปฏิลีนเสฏฺโ. มานุสฺสยวเสน อุนฺนตภาวโต ปฏิลีโน นาม ปหีนมาโน. ปฏิลภึสูติ กามคุณสมฺพาเธปิ ‘‘อิเม กามคุณา มาทิสานํ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ? เต อภิภุยฺย นิพฺพานปฺปตฺติยา สมฺมาสตึ ปฏิลภึสุ. เตน สมฺปยุตฺเตน โลกุตฺตรสมาธินาปิ สุฏฺุ สมาหิตา.
อยํ กิร เทวปุตฺโต อิโต ปุริมวาเร อตฺตภาเว ปมชฺฌานลาภี หุตฺวา ตโต จวิตฺวา พฺรหฺมกายิกาสุ นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺถ ฌานสุขํ อนุภวิตฺวา ตโต จุโต อิทานิ กามภเว นิพฺพตฺโต, ตสฺมา ตํ ฌานํ สมฺภาเวนฺโต ‘‘ตาทิสสฺส นาม ฌานสุขสฺส ลาภี ภควา’’ติ เตน คุเณน ภควนฺตํ อภิตฺถวนฺโต ‘‘สมฺพาเธ วตา’’ติ คาถํ อภาสิ. อถสฺส ภควา ยถา นาม อฏฺสฏฺิโยชนสตสหสฺสุพฺเพธสิเนรุปพฺพตราชํ อุปาทาย สาสโป น กิฺจิ โหติ, เอวํ อนนฺตาปริเมยฺยพุทฺธคุเณ อุปาทาย รูปาวจรปมชฺฌานํ น กิฺจิ โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เย สติ’’นฺติอาทินา อนุตฺตรคุณาธิคมํ ปเวเทสิ. ตตฺถ สตินฺติ วิปสฺสนาสติยา สทฺธึ อริยมคฺคสตึ. สุสมาหิตาติ โลกิยสมาธินา เจว โลกุตฺตรสมาธินา จ สุฏฺุ สมาหิตา. เต ¶ หิ อจฺจนฺตํ สุสมาหิตา, น ฌานมตฺตลาภิโน อกุปฺปธมฺมตฺตา. เกจิ ‘‘กมฺมนฺเต สุสมาหิตา’’ติ ปาํ วตฺวา ‘‘มคฺคสมาหิตา’’ติ อตฺถํ วทนฺติ.
ปฺจาลจณฺฑสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ตายนสุตฺตวณฺณนา
๘๙. อตีตชาติยํ สยํการวเสน ตาย ทิฏฺิยา อุปฺปาทิตตฺตา ปุพฺเพ ติตฺถกโร. เตนาห ‘‘ทิฏฺิ อุปฺปาเทตฺวา’’ติ. อปเร อาหุ ‘‘อยํ เม สตฺถาติ คหณวเสน ติตฺถกโร อสฺส อตฺถีติ ปุพฺเพ ติตฺถกโร, อตีตตฺตภาเว ติตฺถกรสาวโก’’ติ. เต ‘‘ทิฏฺึ อุปฺปาเทตฺวาติ ¶ ตสฺส สตฺถุโน ทิฏฺึ อาทาย คเหตฺวาติ อตฺโถ’’ติ วทนฺติ. ติตฺถํ นาม ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ตพฺพินิมุตฺตสฺส มิจฺฉาวาทสฺส อภาวโต. ติตฺเถ นิยุตฺตาติ ติตฺถิกา, เต เอว ติตฺถิยาติ วุตฺตา ก-การสฺส ย-การํ กตฺวา. ตสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส กลฺยาณกมฺมสฺส. นิสฺสนฺเทนาติ ผลภาเวน. วีริยปฺปฏิสํยุตฺตาติ วีริยทีปนาติ อตฺโถ.
อนิยมิตอาณตฺตีติ อนิยมวิธานํ อนิยมวเสน วิธิวจนํ. ตณฺหาโสตนฺติ ตณฺหาปฺปพนฺธนํ. นีหราติ สเมหิ ปชห. เอกตฺตนฺติ เอกคฺคํ. เตนาห ‘‘ฌาน’’นฺติ. อุปปชฺชตีติ น อุปฺปชฺชติ น ปาปุณาตีติ อาห ‘‘น ปฏิลภตี’’ติ. น โอสกฺเกยฺยาติ น สงฺโกจํ อาปชฺเชยฺย. ฆราวาสโต ปริพฺพชนํ ปริโต อปคโมติ ปริพฺพโช. ปพฺพชิตวตสมาทานสฺส อทฬฺหตาย จ ตตฺถ จ อสกฺกจฺจกิริยาย สิถิลคหิตา. อติเรกนฺติ ปพฺพชฺชาย ปุริมกาลโตปิ อธิกํ. อุปรีติ อุปรูปริ. ทุกฺกฏํ อกตเมว เสยฺโยติ ทุจฺจริตํ นาม สพฺเพน สพฺพํ อกตเมว หิตาวหํ.
ยํ กิฺจีติ ยํ กิฺจิ กมฺมํ. สิถิลํ กตนฺติ อสกฺกจฺจการิตาย สิถิลํ กตฺวา ปวตฺติตํ. เอวรูปเมวาติ เอวรูปํ ปรามฏฺสามฺสทิสเมว ปจฺฉานุตาปจริยาทิปฏิภาคโต. สํกิลิฏฺเมว ตณฺหาสํกิเลสอุปกฺกิลิฏฺตฺตา. อาสงฺกิตปริสงฺกิตนฺติอาทิโต สมนฺตโตปิ ปเรหิ สงฺกิตํ. พฺรหฺมจริยสฺส อาทิ อาทิพฺรหฺมจริยํ, ตตฺถ นิยุตฺตาติ อาทิพฺรหฺมจริยิกา, มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตา’’ติ. ปุพฺพปธานภูตาติ ปมารมฺภภูตา.
ตายนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. จนฺทิมสุตฺตวณฺณนา
๙๐. วิมาเน ¶ คหิเต ตํนิวาสีปิ คหิโต โหตีติ วุตฺตํ ‘‘จนฺทวิมานวาสี เทวปุตฺโต’’ติ. สพฺพธีติ สพฺพสฺมา ทุคฺคฏฺานา วิปฺปมุตฺโตสิ ภควา ตฺวํ, ตสฺมา มยฺหมฺปิ อิโต สมฺพาธฏฺานโต วิปฺปโมกฺขํ กโรหีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ตสฺส เม สรณํ ภวา’’ติ. โลกานุกมฺปกาติ สพฺพสฺส ¶ โลกสฺส อนุคฺคหา, ตสฺมา ตุยฺหมฺปิ เอตสฺสปิ จนฺทสฺส. ตาทิสา เอวาติ สมานา เอว. ปมฺุจสีติ ปมฺุจิตฺถ. เตนาห ‘‘อตีตตฺเถ วตฺตมานวจน’’นฺติ.
จนฺทิมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สูริยสุตฺตวณฺณนา
๙๑. อนฺธภาวกรเณติ โลกสฺส อนฺธกรเณติปิ อปเร. เตนาห ‘‘ตมสี’’ติ. วิโรจตีติ วิชฺโชตติ. กามํ เทวปุตฺตวเสน ปมํ เทวตา อุทฺธฏา, ราหุโน ปน ปโยโค ตสฺส วิมาเนติ อาห ‘‘มณฺฑลีติ มณฺฑลสณฺาโน’’ติ. วทติ ตทา มุเขน คหิตตฺตา. มุเขน คหณฺเจตฺถ ‘‘คิลี’’ติ อธิปฺเปตํ, น จ อชฺโฌหรณนฺติ อาห ‘‘คิลีติ วทตี’’ติ. อิทานิ ตสฺส มุเขน คหณสมตฺถตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ราหุสฺส หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โสติอาทิ ตสฺส จนฺทิมสูริยานํ คหณการณทสฺสนํ. อธิวตฺถา เทวตาติ จนฺทิมสูริยานํ ปริจารกเทวตา. เวคนฺติ ชวํ. โส หิ เกนจิ อภิมุขํ อติทุนฺนิวาโร กมฺมนิยามสิทฺโธ. มตฺถกนฺติ กณฺสฺส อุปริมเทสํ. เกจิ ‘‘สีสมตฺถกเมวา’’ติ วทนฺติ. นิกฺขเมยฺย เวคสฺส ติกฺขสีฆถามภาวโต. อากฑฺฒิตฺวาติ อตฺตโน คมนทิสาภิมุขํ อากฑฺฒิตฺวา. นนฺติ ราหุํ. อุทฺธํ อุลฺลงฺเฆตุกามมฺปิ โอนเมยฺย. ปททฺวเยนปิ โส มหาสรีโร มหาพโล, จนฺทิมสูริยานํ ปน คมนเวโค เตน สพฺพถาปิ ทุนฺนิวาริโยวาติ ทสฺเสติ. วิมาเนนาติ จนฺทคฺคเห จนฺทวิมาเนน, สูริยคฺคเห สูริยวิมาเนน อุภินฺนมฺปิ วิมาเนน สเหว. อมาวาสิยฺหิ ทฺเว วิมานานิ โยชนมตฺตนฺตริตานิ หุตฺวา สเหว ปวตฺตนฺติ. ยทิ ทฺเวปิ เทวปุตฺตา โสตาปตฺติผลํ ปตฺตา, อถ กสฺมา สูริยสุตฺเต เอว ‘‘ปชํ มม’’นฺติ วุตฺตํ, น จนฺทสุตฺเตติ? ‘‘โส จ กิร น จิรสฺเสว ตโต จวิตฺวา อฺตฺถ นิพฺพตฺโต, อฺา เอว จ เทวตา ตตฺถ วสิ, ยสฺมึ จนฺทคฺคเห ภควา ตํ คาถํ อภาสิ, น ตถา สูริโย, อปรภาเค ปน ตตฺถปิ กาเลน กาลํ ราหุคฺคโห โหตี’’ติ วทนฺติ.
สูริยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อนาถปิณฺฑิกวคฺโค
๑. จนฺทิมสสุตฺตวณฺณนา
๙๒. ปพฺพตตฏา ¶ ¶ สนฺทมาโน ตถารูโป นทีนิวตฺตนปเทโสปิ สมฺพาธฏฺานตาย กจฺโฉ วิยาติ อาห ‘‘ปพฺพตกจฺเฉปี’’ติ. ปฏิปกฺขทูรีภาเวน เสฏฺฏฺเน จ เอโก อุเทตีติ เอโกทิ, เอกคฺคตา. ตสฺมึ โยคโต เอกคฺคจิตฺตา อิธ เอโกที. ปฏิปกฺขโต อตฺตานํ นิปยนฺติ วิโสเธนฺตีติ นิปกา, ปฺวนฺโต. เตนาห ‘‘เอกคฺคจิตฺตา เจวา’’ติอาทิ. กายาทิเภทํ อารมฺมณํ สาติสยาย สติยา สรนฺตีติ สตา. เตนาห ‘‘สติมนฺโต’’ติ. โสตฺถึ คมิสฺสนฺตีติ ยถาวุตฺตปเทเส มคา โสตฺถิมนุปทฺทเวน วตฺติสฺสนฺติ, เอวํ ฌานลาภิโน โสตฺถึ กิเลเสหิ อนุปทฺทุตา วตฺติสฺสนฺติ. อยํ กิร เทวปุตฺโต พฺรหฺมโลเก นิพฺพานสฺี, ตสฺมา เอวมาห. ภควา ‘‘อยํ เทวปุตฺโต อนิพฺพานคามี สมาโน นิพฺพานคามิสฺี, หนฺทสฺส นิพฺพานคามิโน ทสฺเสมี’’ติ ทุติยํ คาถมาห. จตุนฺนํ โอฆานํ, สํสารมโหฆสฺเสว วา ปรตีรภาวโต ปรตีรนฺติ นิพฺพานํ. อมฺพุนิ ชาโต อมฺพุโช, มจฺโฉ. สุตฺตชาลํ ฉินฺทิตฺวา มจฺฉา วิย กิเลสชาลํ ภินฺทิตฺวา คมิสฺสนฺตีติ.
จนฺทิมสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. เวณฺฑุสุตฺตวณฺณนา
๙๓. ปยิรุปาสิยาติ ปยิรุปาสเหตุ. สิกฺขนฺตีติ ติสฺโสปิ สิกฺขา สิกฺขนฺติ. สิฏฺิปเทติ กิเลสานํ สาสนโต วฏฺฏทุกฺขปริตฺตาสนโต จ สิฏฺิสฺิเต ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชิตพฺพโต ปเท, สทฺธมฺเมติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อนุสิฏฺิปเท’’ติ. ตตฺถ อนุสิฏฺีติ สทฺธมฺโม. กาเลติ ยุตฺตปตฺตกาเล. อปฺปมาโทนาม สมถวิปสฺสนาภาวนา.
เวณฺฑุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ทีฆลฏฺิสุตฺตวณฺณนา
๙๔. ตเถว ¶ ปฺายีติ ทีฆลฏฺิตฺเวว ปฺายิ, ตถาสมฺา เอว อโหสิ.
ทีฆลฏฺิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. นนฺทนสุตฺตวณฺณนา
๙๕. นตฺถิ ¶ เอตสฺส อาวฏฺฏํ อาวรณนฺติ อนาวฏํ. รุกฺโข วา ปพฺพโต วาติ สตฺตานํ ปกติจกฺขุสฺส อาวรณภูโต รุกฺโข วิย ปพฺพโต วิย จ อภิภวิตุํ สมตฺโถ เยฺยาวรโณ นตฺถิ. กถํวิธนฺติ กถํสณฺิตํ, กถํปการํ วา. ทุกฺขนฺติ วฏฺฏทุกฺขํ.
นนฺทนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จนฺทนสุตฺตวณฺณนา
๙๖. เหฏฺาติ กามภเว. ตตฺถ หิ ปริพฺภมนฺตสฺส ปติฏฺา ทุลฺลภา เยภุยฺเยน ตตฺถ สตฺตา นิมุคฺคา เอว โหนฺติ, ตสฺมา เหฏฺา อปฺปติฏฺโ สํสาโร. อุปรีติ มหคฺคตภเว. ตตฺถ หิ นิพฺพตฺตสฺส นิพฺพานํ อารุหิตุํ อาลมฺพนา ทุลฺลภา, ฌานาภิรติยา ตตฺเถว นิกนฺติ เตสํ พลวตี โหติ, ตสฺมา อุปริ อนาลมฺพโน สํสาโร. เปสิตตฺโตติ นิพฺพานํ ปติ เปสิตจิตฺโต. ตโย กมฺมาภิสงฺขาราติ ปฺุาภิสงฺขาราทโย ตโย อภิสงฺขารา. เตน ‘‘นนฺทีปุพฺพโก กมฺมภโว’’ติ วตฺวา ‘‘นนฺทึ ชเนตฺวา’’ติ วุตฺโต. กามสฺาสีเสน กามจฺฉนฺทสฺส คหณํ, กามจฺฉนฺทปมุขานิ จ โอรมฺภาคิยสํโยชนานิ คหิตานีติ อาห ‘‘กามสฺาคหเณน ปฺโจรมฺภาคิยสํโยชนานี’’ติ. รูปภโว รูปํ ภวปทโลเปน. รูปภวคฺคหเณน เจตฺถ เสสภวสฺสปิ คหณํ. ตสฺส สํโยชนคฺคหเณน ปฺจ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานิ คหิตานิ. มโหเฆติ ¶ สํสารมโหเฆ. เตสนฺติ กามภวาทีนํ คหเณน ภวภาเวน ตเทกลกฺขณตาย. อรูปภโว คหิโต ลกฺขณหารนเยน. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
จนฺทนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. วาสุทตฺตสุตฺตวณฺณนา
๙๗. ฉฏฺํ เหฏฺา เทวตาสํยุตฺตวณฺณนายํ วุตฺตตฺถเมว.
วาสุทตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สุพฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา
๙๘. สุพฺรหฺมาติ ตสฺส เทวปุตฺตสฺส นามํ. ตสฺส สตฺถุ สนฺติกูปสงฺกมนสฺส การณํ ทสฺเสนฺโต ¶ ‘‘โส กิรา’’ติอาทิมาห. ตเทว โสกํ ตสฺส เทวปุตฺตสฺส อฏฺุปฺปตฺติ. อจฺฉราสงฺฆปริวุโตติ สหสฺสมตฺเตน อจฺฉราสงฺเฆน ปริวุโต. นนฺทนกีฬิกนฺติ นนฺทนวนกีฬิกํ. หตฺถํ อาคจฺฉตีติ หตฺถคยฺหุปโค โหติ. คนฺเถนฺตีติ เอตฺถ มาลาเวนมฺปิ ขิฑฺฑาปสุตตายาติ ทฏฺพฺพํ. อฺถา ปุปฺผานิเยว ตาย ตาย จิตฺตสฺส วเสน มาลาภาเวน หตฺถํ อุปคจฺฉนฺตีติ. อุปจฺเฉทกกมฺมวเสนาติ ตสฺมึ เทวโลเก อายุเสเส สติ เอว ตสฺส ปน อุปฆาตกสฺส ลทฺโธกาสสฺส ปาปกมฺมสฺส วเสน. ‘‘ปหาโร’’ติ ทิวสสฺส ตติโย ภาโค วุจฺจติ, ตสฺมา เอกปฺปหาเรเนวาติ เอกเวลายเมวาติ อตฺโถ.
ปิยวตฺถุกโสเกนาติ ปิยวตฺถุนิมิตฺตเกน โสเกน. รุปฺปมาโนติ ปีฬิยมาโน. สตฺตเม ทิวเสติ มนุสฺสคณนาย สตฺตเม ทิวเส. ตตฺเถวาติ ตสฺมึเยว นิรเย นิพฺพตฺติตพฺพํ อิมินา ตาหิ จ สเหว ปุพฺเพ ตสฺส ปาปกมฺมสฺส กตตฺตา. รุปฺปีติ จิตฺตสนฺตาสํ อาปชฺชิ. นิทฺธมิตุนฺติ นีหริตุํ อปเนตุํ. สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวาติ ตาหิ ปฺจสตาหิ อจฺฉราหิ สทฺธึ ภควโต สนฺติกํ คนฺตฺวา.
อิทนฺติ ¶ อตฺตโน จิตฺตํ ทสฺเสติ อาสนฺนปจฺจกฺขภาวโต. นิจฺจนฺติ สทา. สฺวายํ นิจฺจตฺโถ อธิปฺปายวเสน คเหตพฺโพติ ตตฺถ ปหาตพฺพํ คเหตพฺพฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘เทวโลเก’’ติอาทิมาห. น คเหตพฺโพ เหตุปวตฺติโต ปุพฺเพ ตสฺส อุตฺราสสฺส อภาวโต. เตสูติ ทุกฺเขสุ. ตานิ หิ เหตุปจฺจเยหิ กตฺตพฺพโต คาถายํ ‘‘กิจฺเฉสู’’ติ วุตฺตานิ. กิจฺเฉสูติ วา กิจฺฉนิมิตฺตํ. ยาสฺหิ ปโยควิปตฺตีนํ วเสนสฺส ตานิ ทุกฺขานิ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตํนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. ตา หิ อสฺส ปโยควิปตฺติโย คติวิปตฺติโย สตฺถุ สนฺติกํ อุปคมเนน หาเยยฺยุํ. นิพฺพตฺตานํ ทิฏฺานีติ นิพฺพตฺตานํ วเสน ทิฏฺานิ ทุกฺขานิ. เตสุ จ ทุกฺเขสุ. สพฺพตฺถ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. ฑยฺหมาโน วิย จิตฺตสนฺตาเปน.
จตฺตาริปิ สจฺจานิ พุชฺฌติ ปฏิวิชฺฌตีติ โพธิ, สติอาทิธมฺมสามคฺคี, ตสฺมา โพชฺฌา โพธิโต. สา ปน โพธิ ภาวนากาเรเนว ปวตฺตติ, อฺตฺรสทฺทโยเคน จ ‘‘โพชฺฌา’’ติ นิสฺสกฺกวจนนฺติ ตทตฺถํ ทสฺเสนฺโต มฺุจิตฺวาปทํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘โพชฺฌงฺคภาวน’’นฺติ อาห. ตโปคุณนฺติ ธุตธมฺมมาห. โส หิ ตณฺหาโลลุปฺปสฺส ตปนโต ตโป, สยํ คุณสภาวตฺตา คุณสนฺนิสฺสยโต จ คุณนฺติ. เตนาห ‘‘ธุตงฺคสงฺขาตํ ตโปคุณ’’นฺติ. สพฺเพ สงฺขารคตา นิสฺสชฺชียนฺติ เอตฺถาติ สพฺพนิสฺสคฺโค, อสงฺขตธาตูติ อาห ‘‘สพฺพนิสฺสคฺคาติ นิพฺพานโต’’ติ.
อินฺทฺริยสํวโรว ¶ ปมํ เวทิตพฺโพ ปฏิปตฺติกฺกมวเสน ตสฺเสว ปมตฺตา. ตํ ปน ปฏิปตฺติกฺกมํ ทสฺเสตุํ ‘‘อินฺทฺริยสํวเร หี’’ติอาทิมาห. นิปฺปริยายโต มคฺคปริยาปนฺนา เอว โพชฺฌงฺคาติ อาห ‘‘สหวิปสฺสนาย โพชฺฌงฺเค’’ติ. ตสฺสาติ ตถาภาเวน ตสฺส โยคิโน. ยสฺมา เทวปุตฺตสฺส สตฺถา ตํ คาถํ วตฺวา อุปริ จ สจฺจานิ ปกาเสสิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ภควา จตุสจฺจวเสน เทสนํ วินิวตฺเตสี’’ติ. เทวปุตฺโต โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหีติ กามํ ตสฺเสว วิเสสาธิคโม อิธาคโต, ปฺจสตมตฺตาหิ ปน อจฺฉราหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหีติ เวทิตพฺพํ. เตนาห มหาสติปฏฺานสุตฺตวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๖) ‘‘โส เทสนาปริโยสาเน ปฺจหิ อจฺฉราสเตหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย ตํ สมฺปตฺตึ ถาวรํ กตฺวา เทวโลกเมว อคมาสี’’ติ.
สุพฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. กกุธสุตฺตวณฺณนา
๙๙. ‘‘นนฺทามี’’ติ ¶ วุตฺเต นนฺที นาม ปพฺพชิตสฺส มลนฺติ โจเทตุกาโม เทวปุตฺโต ‘‘นนฺทสี’’ติ ปุจฺฉิ. อถสฺส ภควา ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘กึ ลทฺธา’’ติ? อาห. เตน ‘‘ตยา มม อธิปฺเปตนนฺทิยา อิธ ปจฺจโย เอว นตฺถิ, กุโต สา นนฺที’’ติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ตุฏฺิ นามา’’ติอาทิ. อถ เทวปุตฺโต นนฺทิยา อสติ โสเกน ภวิตพฺพํ, โสโก จ ปพฺพชิตสฺส มลนฺติ โจเทนฺโต อาห ‘‘เตน หิ, สมณ, โสจสี’’ติ. ภควา ตมฺปิ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘กึ ชียิตฺถา’’ติอาทิมาห. กึ มํ ชินาตีติ อตฺโถ?
ยทิ เต นนฺทิโสกา น สนฺติ หาสวตฺถุโน ลาภสฺส ชานิยา จ อภาวโต, เอกวิหาริโน ปน อรติยา ภวิตพฺพนฺติ อาห – ‘‘กจฺจิ ตํ เอกมาสีนํ, อรตี นาภิกีรตี’’ติ. ตสฺมิมฺปิ ภควตา ปฏิกฺขิตฺเต อถ เนสมฺปิ นนฺทิโสการตีนํ อภาเว การณํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘กถํ ตฺว’’นฺติ คาถมาห? อถสฺส ภควา ตํ การณํ ปเวเทนฺโต ‘‘อฆชาตสฺสา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อฆชาตสฺสาติ อเฆ ชาตสฺส. เตนาห ‘‘วฏฺฏทุกฺเข ิตสฺสา’’ติ. ชาตตณฺหสฺส อปฺปหีนตณฺหสฺส วฏฺฏทุกฺขํ อาคตเมว การณสฺส อปฺปหีนตฺตา. ตสฺเสว หิ การณสฺส อปฺปหีนตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทุกฺขี สุขํ ปตฺถยตีติ หิ วุตฺต’’นฺติ อาห. ทุกฺขปฺปวตฺติยา สาปิ ตณฺหาปฺปวตฺติ เตน ทสฺสิตา. อิตีติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ นิคมนวเสน ทสฺเสติ.
กกุธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อุตฺตรสุตฺตวณฺณนา
๑๐๐. นวมนฺติ ¶ อุตฺตรสุตฺตํ เหฏฺา เทวตาสํยุตฺตวณฺณนายํ วุตฺตตฺถเมว.
อุตฺตรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อนาถปิณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๑. ทสเม ¶ กามํ เทวตาสํยุตฺเตปิ ‘‘อิทํ หิ ตํ เชตวน’’นฺติอาทินา อิมา เอว คาถา อาคตา. ตตฺถ ‘‘อฺตรา เทวตา’’ติ นิทานํ อาโรปิตํ. เหฏฺา อาคตนยตฺตา เอว หิ โปตฺถเกสุ น ลิขิตํ, อิธ ปน เทวปุตฺตสํยุตฺเต ‘‘อนาถปิณฺฑิโก เทวปุตฺโต’’ติ นิทาเน นิคเม จ อาคตํ, ตตฺถ เทวปุตฺเตน สตฺถุ วุตฺตปฺปการคุณปเวทนวเสน วุตฺตํ. สตฺถา ปน ภิกฺขูนํ ตมตฺถํ ปเวเทนฺโต ‘‘อฺตโร เทวปุตฺโต’’ติ อาห. ตถา ปเวทเน ปน การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อานนฺทตฺเถรสฺสา’’ติอาทิมาห. อนุมานพุทฺธิยาติ อนุมานาณสฺส. อานุภาวปฺปกาสนตฺถนฺติ พลทีปนตฺถํ.
อนาถปิณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. นานาติตฺถิยวคฺโค
๑. สิวสุตฺตวณฺณนา
๑๐๒. ตติยวคฺคสฺส ปมนฺติ ตติยวคฺเค ปมสุตฺตํ. วุตฺตตฺถเมว เหฏฺา สตุลฺลปกายิกวคฺเค ปมสุตฺเต.
สิวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. เขมสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓. ปมํเยวาติ ชรามรณาทิภาวโต ปเคว. พลวจินฺตนํ จินฺเตตีติ ยถา สากฏิโก อชานิตฺวา วิสเม มคฺเค สกฏํ ปาเชนฺโต อกฺเข ฉินฺเน ปติกาตุํ อวิสหนฺโต ทุกฺขี ¶ ทุมฺมโน พลวจินฺตนํ จินฺเตติ, มหนฺตํ จิตฺตสนฺตาปํ ปาปุณาติ, เอวํ อธมฺมวาที มจฺจุมุขํ ปตฺโต พลวจิตฺตสนฺตาปํ ปาปุณาติ, ตสฺมา ธมฺมจริยาย นปฺปมชฺชิตพฺพนฺติ.
เขมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. เสรีสุตฺตวณฺณนา
๑๐๔. ยํ ¶ ทานํ เทมีติ ยํ เทยฺยธมฺมํ ปรสฺส เทมิ. ตสฺส ปติ หุตฺวาติ ตพฺพิสยํ โลภํ สุฏฺุ อภิภวนฺโต ตสฺส อธิปติ หุตฺวา เทมิ เตน อนากฑฺฒนียตฺตา. ‘‘น ทาโส น สหาโย’’ติ วตฺวา ตทุภยํ อนฺวยโต พฺยติเรกโต ทสฺเสตุํ ‘‘โย หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทาโส หุตฺวา เทติ ตณฺหาย ทาสพฺยสฺส อุปคตตฺตา. สหาโย หุตฺวา เทติ ตสฺส ปิยภาวาวิสฺสชฺชนโต. สามี หุตฺวา เทติ ตณฺหาทาสพฺยโต อตฺตานํ โมเจตฺวา อภิภุยฺย ปวตฺตนโต. สามิปริโภคสทิสา เหตสฺสายํ ปวตฺตตีติ.
อถ วา โย ทานสีลตาย ทายโก ปุคฺคโล, โส ทาเน ปวตฺติเภเทน ทานทาโส ทานสหาโย ทานปตีติ ติปฺปกาโร โหตีติ ทสฺเสติ. ตทสฺส ติปฺปการตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘โย หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทาตพฺพฏฺเน ทานํ, อนฺนปานาทิ. ตตฺถ ยํ อตฺตนา ปริภฺุชติ ตณฺหาธิปนฺนตาย, ตสฺส วเส วตฺตนโต ทาโส วิย โหติ. ยํ ปเรสํ ทียติ, ตตฺถปิ อนฺนปานสามฺเน อิทํ วุตฺตํ ‘‘ทานสงฺขาตสฺส เทยฺยธมฺมสฺส ทาโส หุตฺวา เทตี’’ติ. สหาโย หุตฺวา เทติ อตฺตนา ปริภฺุชิตพฺพสฺส ปเรสํ ทาตพฺพสฺส จ สมสมฏฺปเนน. ปติ หุตฺวา เทติ สยํ เทยฺยธมฺมสฺส วเส อวตฺติตฺวา ตสฺส อตฺตโน วเส วตฺตาปนโต.
อปโร นโย – โย อตฺตนา ปณีตํ ปริภฺุชิตฺวา ปเรสํ นิหีนํ เทติ, โส ทานทาโส นาม ตนฺนิมิตฺตนิหีนภาวาปตฺติโต. โย ยาทิสํ อตฺตนา ปริภฺุชติ, ตาทิสเมว ปเรสํ เทติ, โส ทานสหาโย นาม ตนฺนิมิตฺตนิหีนาธิกภาววิสฺสชฺชเนน สทิสภาวาปตฺติโต. โย อตฺตนา นิหีนํ ปริภฺุชิตฺวา ปเรสํ ปณีตํ เทติ, โส ทานปติ นาม ตนฺนิมิตฺตเสฏฺภาวปฺปตฺติโต. กมฺมสริกฺขโก หิ วิปาโก, ตสฺมา เทวปุตฺโต ‘‘ทานปตี’’ติ วทนฺโต ‘‘อหํ ตาทิโส อโหสิ’’นฺติ ทสฺเสติ.
‘‘จตูสุ ทฺวาเรสุ ทานํ ทียิตฺถา’’ติ ปาฬิยํ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺส กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทานนฺติ ยิฏฺํ, ตฺจ โข สพฺพสาธารณวเสน กตนฺติ อาห ‘‘สมณ ¶ …เป… ยาจกาน’’นฺติ. ปพฺพชฺชูปคตาติ ¶ ยํ กิฺจิ ปพฺพชฺชํ อุปคตา. โภวาทิโนติ ชาติมตฺตพฺราหฺมเณ วทติ. นาลตฺถ พุทฺธสฺุตฺตา ตทา โลกสฺส. ทุคฺคตาติ ทุกฺขชีวิกกปฺปกา กสิรวุตฺติกา. เตนาห ‘‘ทลิทฺทมนุสฺสา’’ติ. กสิวาณิชฺชาทิชีวิกํ อนุฏฺาตุํ อสมตฺถา อิธ ‘‘กปณา’’ติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘กาณกุณิอาทโย’’ติ. ปถาวิโนติ อทฺธิกา. วนิพฺพกาติ ทายกานํ คุณกิตฺตนกมฺมผลกิตฺตนวเสน ยาจกา เสยฺยถาปิ นคฺคาทโย. เตนาห ‘‘อิฏฺํ ทินฺน’’นฺติอาทิ. ปสตมตฺตนฺติ วีหิตณฺฑุลาทิวเสน วุตฺตํ. สราวมตฺตนฺติ ยาคุภตฺตาทิวเสน. ยถา คามลาโภ คาเม อุปฺปชฺชนโก อายลาโภ, เอวํ ตตฺถ ทฺวารลาโภติ อาห ‘‘ตตฺถ อุปฺปชฺชนกสตสหสฺเส’’ติ. มหนฺตตรํ ทานํ อทํสุ อฺสฺสปิ ธนสฺส วินิโยคํ คตตฺตา. ตํ สนฺธายาติ ตํ มหนฺตตรํ ทานํ กตํ สนฺธาย. รฺโ หิ ตตฺถ ทานํ อิตฺถาคารสฺส ทาเนน มหตา อภิภูตํ วิย ปฏินิวตฺตํ โหตีติ อาห ‘‘ปฏินิวตฺตี’’ติ. โกจีติ ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ. เตนาห ‘‘กตฺถจี’’ติ. อเนกวสฺสสหสฺสายุกกาเล ตสฺส อุปฺปนฺนตฺตา อสีติวสฺสสหสฺสานิ โส ราชา ทานมทาสีติ.
เสรีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ฆฏีการสุตฺตวณฺณนา
๑๐๕. จตุตฺถํ เหฏฺา เทวตาสํยุตฺตวณฺณนายํ วุตฺตตฺถเมว.
ฆฏีการสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ชนฺตุสุตฺตวณฺณนา
๑๐๖. เย วินเย อปกตฺุโน สํกิเลสิเกสุ โวทานิเยสุ ธมฺเมสุ น กุสลา ยํ กิฺจิ น การิโน วิปฺปฏิสารพหุลา. เตสํ อนุปฺปนฺนฺจ อุทฺธจฺจํ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนฺจ ภิยฺโยภาวํ เวปุลฺลํ อาปชฺชตีติ อาห ‘‘อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาย…เป… อุทฺธจฺจปกติกา’’ติ. สาราภาเวน ตุจฺฉตฺตา จ นโฬ วิยาติ นโฬ, มาโนติ อาห ‘‘อุนฺนฬาติ อุคฺคตนฬา’’ติ. เตนาห ‘‘อุฏฺิตตุจฺฉมานา’’ติ. มาโน หิ เสยฺยสฺส เสยฺโยติ ¶ สทิโสติ จ ปวตฺติยา วิเสสโต ตุจฺโฉ. จาปลฺเลนาติ จปลภาเวน, ตณฺหาโลลุปฺเปนาติ อตฺโถ. มุขขราติ มุเขน ผรุสา, ผรุสวาทิโนติ อตฺโถ. วิกิณฺณวาจาติ วิสฏวจนา, สมฺผปฺปลาปตาย อปริยนฺตวจนา. เตนาห ‘‘อสํยตวจนา’’ติอาทิ. จณฺฑโสเต พทฺธนาวาสทิสาติ เอเตน อนวฏฺิตกิริยตํ ทสฺเสติ. เยน สมนฺนาคตา สตฺตา เอกสฺมึ าเน าตุํ วา นิสีทิตุํ วา น ¶ สกฺโกนฺติ, อิโต จิโต จ วิจรนฺติ. อนวฏฺิตจิตฺตาติ เอกสฺมึ อารมฺมเณ น อวฏฺิตจิตฺตา. วิวฏอินฺทฺริยาติ อสํวุตจกฺขาทิอินฺทฺริยา.
คุณกถาย สทฺธึ กถิยมาโน นิคฺคุณสฺส อคุโณ ปากโฏ โหติ ชาติมณิสมีเป ิตสฺส วิย กาจมณิโน โทโส. สุขชีวิโนติ สุเข ิตา. ยถา ทายกานํ สุภรํ โหติ, เอวํ สุเขน อกิจฺเฉน ปวตฺตชีวิกา. เตนาห ‘‘ปุพฺเพ ภิกฺขู’’ติอาทิ.
อตฺตโน รุจิวเสน คามกิจฺจํ เนตีติ คามณิ, เต ปน หีเฬนฺโต วทติ ‘‘คามณิกา’’ติ. วิสฺสชฺเชตฺวาติ สติโวสฺสคฺควเสน วิสฺสชฺเชตฺวา กิเลสมุจฺฉายาติ มหิจฺฉาสงฺขาตาย ตณฺหามุจฺฉาย. สีลวนฺตานํเยว หิ ทุปฺปฏิปตฺตึ สนฺธาย เทวปุตฺโต วทติ. วตฺตพฺพยุตฺตเกเยวาติ โอวาเทน มยา อนุคฺคเหตพฺพเมว. ฉฑฺฑิตกาติ ปริจฺจตฺตา อาจริยุปชฺฌายาทีหิ. ตโต เอว อนาถา อปฺปติฏฺา. เปตาติ วิคตชีวิตา มตา. ยถา เปตา, ตเถว โหนฺติ อตฺตหิตาสมตฺถตาย วิฺูนํ ชิคุจฺฉิตพฺพตาย จ.
ชนฺตุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. โรหิตสฺสสุตฺตวณฺณนา
๑๐๗. เอโกกาเสติ จกฺกวาฬสฺส ปริยนฺตสฺิเต เอกสฺมึ โอกาเส. ภุมฺมนฺติ ‘‘ยตฺถา’’ติ อิทํ ภุมฺมวจนํ, สามฺโต วุตฺตมฺปิ ‘‘โส โลกสฺส อนฺโต’’ติ วจนโต วิสิฏฺวิสยเมว โหติ. ‘‘น ชายติ น มียตี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘น จวติ น อุปปชฺชตี’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิทํ อปราปรํ…เป… คหิต’’นฺติ. ปทคมเนนาติ ปทสา คมเนน. สงฺขารโลกสฺส อนฺตํ สนฺธาย วทติ อุปริ สจฺจานิ ปกาเสตุกาโม. สงฺขารโลกสฺส หิ อนฺโต นิพฺพานํ.
ทฬฺหํ ¶ ถิรํ ธนุ เอตสฺสาติ ทฬฺหธนฺวา. โส เอว ทฬฺหธมฺโมติ วุตฺโต. เตนาห ‘‘ทฬฺหธนู’’ติ. อุตฺตมปฺปมาเณนาติ สหสฺสถามปฺปมาเณน. ธนุสิปฺปสิกฺขิตตาย ธนุคฺคโห, น ธนุคฺคหมตฺเตนาติ อาห ‘‘ธนุคฺคโหติ ธนุอาจริโย’’ติ. ‘‘ธนุคฺคโห’’ติ วตฺวา ‘‘สิกฺขิโต’’ติ วุตฺเต ธนุสิกฺขาย สิกฺขิโตติ วิฺายติ, สิกฺขา จ เอตฺตเก กาเล สมตฺถสฺส อุกฺกํสคโต โหตีติ อาห ‘‘ทส ทฺวาทส วสฺสานิ ธนุสิปฺปํ สิกฺขิโต’’ติ. อุสภปฺปมาเณปีติ วีสติยฏฺิโย อุสภํ, ตสฺมึ อุสภปฺปมาเณ ปเทเส. วาลคฺคนฺติ วาฬโกฏึ. กตหตฺโถติ ¶ ปริจิตหตฺโถ. กตสรกฺเขโปติ วิวฏสรกฺเขปปเทสทสฺสนวเสน สรกฺเขปกตาวี. เตนาห ‘‘ทสฺสิตสิปฺโป’’ติ. ‘‘กตสิปฺโป’’ติ เกจิ. อสนฺติ เอเตนาติ อสนํ, กณฺโฑ. ตาลจฺฉายนฺติ ตาลจฺฉาทึ, สา ปน รตนมตฺตา, วิทตฺถิจตุรงฺคุลา วา.
ปุรตฺถิมสมุทฺทาติ เอกสฺมึ จกฺกวาเฬ ปุรตฺถิมสมุทฺทา. สมุทฺทสีเสน ปุรตฺถิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏึ วทติ. ปจฺฉิมสมุทฺโทติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. นิปฺปปฺจตนฺติ อทนฺธการิตํ. สมฺปตฺเตติ ตาทิเสน ชเวน คจฺฉนฺเตน สมฺปตฺเต. อโนตตฺเตติ เอตฺถาปิ ‘‘สมฺปตฺเต’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ, ตถา ‘‘นาคลตาทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา’’ติ เอตฺถาปิ. ตทาติ ยทา โส โลกนฺตคเวสโก อโหสิ, ตทา. ทีฆายุกกาโลติ อเนกวสฺสสหสฺสายุกกาโล. จกฺกวาฬโลกสฺสาติ สามฺวเสน เอกวจนํ, จกฺกวาฬโลกนฺติ อตฺโถ. อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ นิพฺพตฺติ ปุพฺพปริจริยสิทฺธาย นิกนฺติยา. สสฺิมฺหิ สมนเกติ น รูปธมฺมมตฺตเก, อถ โข ปฺจกฺขนฺธสมุทาเยติ ทสฺเสติ. สมิตปาโปติ สมุจฺฉินฺนสํกิเลสธมฺโม.
โรหิตสฺสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗-๘. นนฺทสุตฺตนนฺทิวิสาลสุตฺตวณฺณนา
๑๐๘-๑๐๙. นนฺทสุตฺตวิสาลสุตฺตานิ สตฺตมอฏฺมานิ เหฏฺา สํวณฺณิตรูปตฺตา วุตฺตตฺถาเนว.
นนฺทสุตฺตนนฺทิวิสาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. สุสิมสุตฺตวณฺณนา
๑๑๐. ตุยฺหมฺปิ ¶ โนติ ตุยฺหมฺปิ นุ, นุ-สทฺโท ปุจฺฉายํ, ตสฺมา วณฺณํ กเถตุกาโม ปุจฺฉตีติ อธิปฺปาโย. น วฏฺฏตีติ น ยุชฺชติ, กถิโตติ กเถตุํ อารทฺโธ, เตนาห ‘‘มตฺถกํ น ปาปุณาตี’’ติ. ตเมว มตฺถกาปาปุณนํ ทสฺเสตุํ ‘‘โส หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สติสมฺปชฺาโยคโต โครูปสีโล, มูฬฺโห ขลิตปฺโ, โครูปสฺส วิย สีลํ เอตสฺสาติ หิ โครูปสีโล. สภาโค เอกรูปจิตฺตตาย. อริยานํ สภาคตา นาม คุณวนฺตวเสนาติ อาห ‘‘อฺมฺสฺส คุเณสุ ปสีทิตฺวา’’ติ. โสฬสวิธํ ปฺนฺติ มหาปฺาทิกา ฉ, นว อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติปฺา, อาสวกฺขยปฺาติ อิมํ โสฬสวิธํ ปฺํ. เตสฏฺิ สาวกสาธารณาณานิปิ เอตฺเถว สงฺคหํ สโมสรณํ คจฺฉนฺติ.
อานนฺทาติ ¶ เถรํ อาห. อาจาโรติ จาริตฺตสีลมาห. โคจโรติ โคจรสมฺปตฺติ. วิหาโรติ สมาปตฺติวิหาโร. อภิกฺกโมติอาทินา อิริยาปถวิหารํ. ตุยฺหมฺปีติ ปิ-สทฺเทน ภควตา อตฺตานํ อาทึ กตฺวา ตทฺเสํ วิฺูนํ สพฺเพสํ เถรสฺส รุจฺจนสภาโว ทีปิโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มยฺหํ รุจฺจตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สติปิ อานนฺทตฺเถรสฺสปิ อสีติยา มหาเถรานํ อนฺโตคธภาเว ‘‘อสีติยา มหาเถรานํ รุจฺจตี’’ติ วตฺวา ‘‘ตุยฺหมฺปิ รุจฺจตี’’ติ วจนํ เตน ธมฺมเสนาปติโน วณฺณํ กถาเปตุกามตายาติ ทฏฺพฺพํ.
สาฏกนฺตเรติ นิวตฺถวตฺถนฺตเร. ลทฺโธกาโสติ นิพฺพุทฺธํ กโรนฺโต สาฏกนฺตเร ลทฺธํ คเหตุํ ลทฺธาวสโร. ลภิสฺสามิโนติ ลภิสฺสามิ วต. ทีปธชภูตนฺติ สตโยชนวิตฺถิณฺณํ ชมฺพุทีปสฺส ธชภูตํ. ปุคฺคลปลาเปติ อนฺโตสาราภาวโต ปลาปภูเต ปุคฺคเล หรนฺโต. พาลตายาติ รุจิขนฺติอาทิอภาวตาย. โทสตายาติ ทุสฺสกภาเวน. โมเหนาติ มหามูฬฺหตาย. เกจิ ปน ‘‘พาโล พาลตายาติ มูฬฺหตาย ปกติพาลภาเวน น ชานาติ. มูฬฺโห โมเหนาติ สยํ อพาโล สมาโนปิ ยทา โมเหน ปริยุฏฺิโต โหติ, ตทา โมเหน น ชานาติ, อยํ ปททฺวยสฺส วิเสโส’’ติ วทนฺติ. วิปลฺลตฺถจิตฺโตติ ยกฺขุมฺมาเทน ปิตฺตุมฺมาเทน วา วิปรีตจิตฺโต.
‘‘จตูสุ ¶ โกสลฺเลสู’’ติ วุตฺตํ จตุพฺพิธํ โกสลฺลํ ปาฬิยา เอว ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตํ เหต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โย อฏฺารส ธาตุโย สมุทยโต อตฺถงฺคมโต อสฺสาทโต อาทีนวโต นิสฺสรณโต จ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ ธาตุกุสโล. วุตฺตนเยน อายตเนสุ กุสโล อายตนกุสโล. อวิชฺชาทีสุ ทฺวาทสปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ กุสโล ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสโล. ‘‘อิทํ อิมสฺส ผลสฺส านํ การณํ, อิทํ อฏฺานํ อการณ’’นฺติ เอวํ านฺจ านโต, อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานโต านาฏฺานกุสโล. โย ปน อิเมสุ ธาตุอาทีสุ ปริฺาภิสมยาทิวเสน นิสฺสงฺคคติยา ปณฺฑาติ ลทฺธนาเมน าเณน อิโต คโต ปวตฺโต, อยํ ปณฺฑิโต นาม.
มหนฺตานํ อตฺถานํ ปริคฺคณฺหนโต มหตี ปฺา เอตสฺสาติ มหาปฺโ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโยติ อาห ‘‘มหาปฺาทีหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ’’ติ. นานตฺตนฺติ ยาหิ มหาปฺาทีหิ สมนฺนาคตตฺตา เถโร ‘‘มหาปฺโ’’ติอาทินา กิตฺติโต, ตาสํ มหาปฺาทีนํ อิทํ นานตฺตํ อยํ เวมตฺตตา. ยสฺส กสฺสจิ วิเสสโต อรูปธมฺมสฺส มหตฺตํ นาม กิจฺจสิทฺธิยา เวทิตพฺพนฺติ ตทสฺส กิจฺจสิทฺธิยา ทสฺเสนฺโต ‘‘มหนฺเต สีลกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เหตุมหนฺตตาย ปจฺจยมหนฺตตาย นิสฺสยมหนฺตตาย ปเภทมหนฺตตาย กิจฺจมหนฺตตาย ผลมหนฺตตาย อานิสํสมหนฺตตาย จ สีลกฺขนฺธสฺส มหนฺตภาโว ¶ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ เหตู อโลภาทโย. ปจฺจยา หิโรตฺตปฺปสทฺธาสติวีริยาทโย. นิสฺสยา สาวกโพธิปจฺเจกโพธิสมฺมาสมฺโพธินิยตตา, ตํสมงฺคิโน จ ปุริสวิเสสา. ปเภโท จาริตฺตาทิวิภาโค. กิจฺจํ ตทงฺคาทิวเสน ปฏิปกฺขสฺส วิธมนํ. ผลํ สคฺคสมฺปทา นิพฺพานสมฺปทา จ. อานิสํโส ปิยมนาปตาทิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๘-๙) อากงฺเขยฺยสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๑.๖๔ อาทโย) จ อาคตนเยน เวทิตพฺโพ. อิมินา นเยน สมาธิกฺขนฺธาทีนมฺปิ มหนฺตตา ยถารหํ นิทฺธาเรตฺวา เวทิตพฺพา. านาฏฺานาทีนํ ปน มหนฺตภาโว มหาวิสยตาย เวทิตพฺโพ. ตตฺถ านาฏฺานานํ มหาวิสยตา พหุธาตุกสุตฺตาทีสุ อาคตนเยน, วิหารสมาปตฺตีนํ สมาธิกฺขนฺเธ นิทฺธาริตนเยน เวทิตพฺพา. อริยสจฺจานํ สกลสาสนสงฺคณฺหนโต สจฺจวิภงฺเค ¶ (วิภ. ๑๘๙ อาทโย) ตํสํวณฺณนาสุ (วิภ. อฏฺ. ๑๘๙ อาทโย) อาคตนเยน; สติปฏฺานาทีนํ สติปฏฺานวิภงฺคาทีสุ (วิภ. ๓๕๕ อาทโย) ตํสํวณฺณนาทีสุ (วิภ. อฏฺ. ๓๕๕ อาทโย) จ อาคตนเยน; สามฺผลานํ มหโต หิตสฺส มหโต สุขสฺส มหโต อตฺถสฺส มหโต โยคกฺเขมสฺส นิปฺผตฺติภาวโต สนฺตปณีตนิปุณอตกฺกาวจรปณฺฑิตเวทนียภาวโต จ; อภิฺานํ มหาสมฺภารโต มหาวิสยโต มหากิจฺจโต มหานุภาวโต มหานิปฺผตฺติโต จ; นิพฺพานสฺส มทนิมฺมทนาทิมหตฺถสิทฺธิโต มหนฺตตา เวทิตพฺพา. ปริคฺคณฺหาตีติ สภาวาทิโต ปริจฺฉิชฺช คณฺหาติ ชานาติ ปฏิวิชฺฌตีติ อตฺโถ. สา ปนาติ มหาปฺตา.
ปุถุปฺาติ เอตฺถ นานาขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ อยํ รูปกฺขนฺโธ นาม…เป… อยํ วิฺาณกฺขนฺโธ นามาติ เอวํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ นานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ. เตสุ เอกวิเธน รูปกฺขนฺโธ, เอกาทสวิเธน รูปกฺขนฺโธ, เอกวิเธน เวทนากฺขนฺโธ, พหุวิเธน เวทนากฺขนฺโธ, เอกวิเธน สฺากฺขนฺโธ, สงฺขารกฺขนฺโธ, วิฺาณกฺขนฺโธติ เอวํ เอเกกสฺส ขนฺธสฺส เอกวิธาทิวเสน อตีตาทิวเสนปิ นานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ. ตถา อิทํ จกฺขายตนํ นาม…เป… อิทํ ธมฺมายตนํ นามํ. ตตฺถ ทสายตนา กามาวจรา, ทฺเว จตุภูมกาติ เอวํ อายตนานํ นานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ. นานาธาตูสูติ อยํ จกฺขุธาตุ นาม…เป… อยํ มโนวิฺาณธาตุ นาม. ตตฺถ โสฬส ธาตุโย กามาวจรา, ทฺเว จตุภูมกาติ เอวํ ธาตุนานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ, ตํ อุปาทิณฺณธาตุวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ ปจฺเจกพุทฺธานฺหิ ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานฺจ อุปาทิณฺณธาตูสุ เอว นานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ. ตฺจ โข เอกเทสมตฺตโต, น นิปฺปเทสโต, อนุปาทิณฺณกธาตูนํ ปน นานากรณํ น ชานนฺติ เอว. อิตรสาวเกสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, สพฺพฺุพุทฺธานํเยว ปน อิมาย นาม ธาตุยา อุสฺสนฺนตฺตาว อิมสฺส รุกฺขสฺส ขนฺโธ เสโต โหติ, อิมสฺส กาโฬ, อิมสฺส มฏฺโ, อิมสฺส ¶ พหลตฺตโจ, อิมสฺส ตนุตฺตโจ, อิมสฺส ปตฺตํ วณฺณสณฺานาทิวเสน เอวรูปํ; อิมสฺส ปุปฺผํ นีลํ ปีตกํ โลหิตกํ โอทาตํ, สุคนฺธํ ทุคฺคนฺธํ; ผลํ ขุทฺทกํ มหนฺตํ ทีฆํ วฏฺฏํ สุสณฺานํ มฏฺํ ¶ ผรุสํ สุคนฺธํ มธุรํ ติตฺตกํ อมฺพิลํ กฏุกํ กสาวํ; กณฺฏโก ติขิโณ อติขิโณ อุชุโก กุฏิโล ตมฺโพ โลหิโต โอทาโต โหตีติ ธาตุนานตฺตํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ.
อตฺเถสูติ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ. นานาปฏิจฺจสมุปฺปาเทสูติ อชฺฌตฺตพหิทฺธาเภทโต จ สณฺานเภทโต จ นานปฺปเภเทสุ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ. อวิชฺชาทิองฺคานฺหิ ปจฺเจกํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺิตาติ. เตนาห สงฺขารปิฏเก ‘‘ทฺวาทส ปจฺจยา ทฺวาทส ปฏิจฺจสมุปฺปาทา’’ติ. นานาสฺุตมนุปลพฺเภสูติ นานาสภาเวสุ นิจฺจสาราทิวิรหโต สฺุสภาเวสุ, ตโต เอว อิตฺถิปุริสอตฺตอตฺตนิยาทิวเสน อนุปลพฺเภสุ สภาเวสุ. ม-กาโร เหตฺถ ปทสนฺธิกโร. นานาอตฺเถสูติ อตฺถปฏิสมฺภิทาวิสเยสุ ปจฺจยุปฺปนฺนาทิเภเทสุ นานาวิเธสุ อตฺเถสุ. ธมฺเมสูติ ธมฺมปฏิสมฺภิทาวิสเยสุ ปจฺจยาทินานาธมฺเมสุ. นิรุตฺตีสูติ เตสํเยว อตฺถธมฺมานํ นิทฺธารณวจนสงฺขาตาสุ นิรุตฺตีสุ. ปฏิภาเนสูติ อตฺถปฏิสมฺภิทาทีสุ วิสยภูเตสุ ‘‘อิมานิ อิทมตฺถโชตกานี’’ติ ตถา ตถา ปฏิภานโต ปติฏฺานโต ปฏิภานานีติ ลทฺธนาเมสุ าเณสุ. ปุถุ นานาสีลกฺขนฺเธสูติอาทีสุ สีลสฺส ปุถุตฺตํ นานตฺตฺจ วุตฺตเมว. อิตเรสํ ปน วุตฺตนยานุสาเรน สุวิฺเยฺยตฺตา ปากฏเมว. ยํ ปน อภินฺนํ เอกเมว นิพฺพานํ, ตตฺถ อุปจารวเสน ปุถุตฺตํ คเหตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปุถุ ชนสาธารเณ ธมฺเม สมติกฺกมฺมา’’ติ. เตนสฺส อิธ มทนิมฺมทนาทิปริยาเยน ปุถุตฺตํ ทีปิตํ โหติ.
เอวํ วิสยวเสน ปฺาย มหตฺตํ ปุถุตฺตฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมฺปยุตฺตธมฺมวเสน หาสภาวํ, ปวตฺติอาการวเสน ชวนภาวํ, กิจฺจวเสน ติกฺขาทิภาวฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘กตมา หาสปฺา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ หาสพหุโลติ ปีติพหุโล. เสสปทานิ ตสฺส เววจนานิ. สีลํ ปริปูเรตีติ หฏฺปหฏฺโ อุทคฺคุทคฺโค หุตฺวา ปีติสหคตาย ปฺาย ปาติโมกฺขสีลํ เปตฺวา หาสนียตรสฺเสว วิสุํ คหิตตฺตา อิตรํ ติวิธํ สีลํ ปริปูเรติ. ปีติโสมนสฺสสหคตา หิ ปฺา อภิรติวเสน ตทารมฺมเณ ผุลฺลิตา วิกสิตา วิย วตฺตติ, น อุเปกฺขาสหคตา. สีลกฺขนฺธํ สมาธิกฺขนฺธนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เถโรติอาทินา อภินีหารสิทฺธา เถรสฺส หาสปฺตาติ ทสฺเสติ.
สพฺพํ ¶ รูปํ อนิจฺจลกฺขณโต ขิปฺปํ ชวตีติ รูปกฺขนฺธํ อนิจฺจนฺติ สีฆเวเคน ปวตฺติยา ปฏิปกฺขทูรีภาเวน ปุพฺพาภิสงฺขารสฺส สาติสยตฺตา อินฺเทน วิสฏฺวชิรํ วิย ลกฺขณํ ¶ ปฏิวิชฺฌนฺตี อทนฺธายนฺตี รูปกฺขนฺเธ อนิจฺจลกฺขณํ เวเคน ปฏิวิชฺฌติ, ตสฺมา สา ชวนปฺา นามาติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เอวํ ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาวเสน ชวนปฺํ ทสฺเสตฺวา พลววิปสฺสนาวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘รูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ขยฏฺเนาติ ยตฺถ ยตฺถ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ ตตฺเถว ขเณเนว ภิชฺชนโต ขยสภาวโต. ภยฏฺเนาติ ภยานกโต. อสารกฏฺเนาติ อตฺตสารวิรหโต นิจฺจสาราทิวิรหโต จ. ตุลยิตฺวาติ ตุลาภูตาย วิปสฺสนาย ตุลยิตฺวา. ตีรยิตฺวาติ ตาย เอว ตีรณภูตาย ตีเรตฺวา. วิภาวยิตฺวาติ ยาถาวโต ปกาเสตฺวา ปฺจกฺขนฺธํ วิภูตํ กตฺวา ปากฏํ กตฺวา. รูปนิโรเธติ รูปกฺขนฺธสฺส นิโรธภูเต นิพฺพาเน นินฺนโปณปพฺภารภาเวน. อิทานิ สิขาปฺปตฺตวิปสฺสนาวเสน ชวนปฺํ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘รูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาวเสนา’’ติ เกจิ.
าณติกฺขภาโว นาม สวิเสสํ ปฏิปกฺขสมุจฺฉินฺทเน เวทิตพฺโพติ ‘‘ขิปฺปํ กิเลเส ฉินฺทตีติ ติกฺขปฺโ’’ติ วตฺวา เต ปน กิเลเส วิภาเคน ทสฺเสนฺโต ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺก’’นฺติอาทิมาห. ติกฺขปฺโ ขิปฺปาภิฺโ โหติ, ปฏิปทา จสฺส น จลตีติ อาห ‘‘เอกสฺมึ อาสเน จตฺตาโร จ อริยมคฺคา อธิคตา โหนฺตี’’ติอาทิ. เถโร จาติอาทินา ธมฺมเสนาปติโน ติกฺขปฺตา สิขาปฺปตฺตาติ ทสฺเสติ.
‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา’’ติ ยาถาวโต ทสฺสเนน สจฺจสมฺปฏิเวโธ อิชฺฌติ, น อฺถาติ การณมุเขน นิพฺเพธิกปฺํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพสงฺขาเรสุ อุพฺเพคพหุโล โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุพฺเพคพหุโลติ วุตฺตนเยน สพฺพสงฺขาเรสุ อภิณฺหปฺปวตฺตสํเวโค. อุตฺตาสพหุโลติ าณุตฺตาสวเสน สพฺพสงฺขาเรสุ พหุโส อุตฺรสฺตมานโส. เตน อาทีนวานุปสฺสนมาห. อุกฺกณฺนพหุโลติ อิมินา ปน นิพฺพิทานุปสฺสนมาห, อรติพหุโลติอาทินา ตสฺสา เอว อปราปรุปฺปตฺตึ. พหิมุโข สพฺพสงฺขารโต พหิภูตํ นิพฺพานํ อุทฺทิสฺส ปวตฺตาณมุโข, ตถา ¶ วา ปวตฺติตวิโมกฺขมุโข. นิพฺพิชฺฌนํ นิพฺเพโธ, โส เอติสฺสา อตฺถิ, นิพฺพิชฺฌตีติ วา นิพฺเพธา, สา เอว ปฺา นิพฺเพธิกา. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยเมว.
อปฺปิจฺโฉติ สนฺตคุณนิคุหนตาติ อตฺตนิ วิชฺชมานานํ พาหุสจฺจธุตธมฺมสีลาทิคุณานฺเจว ปฏิเวธคุณสฺส จ นิคุหนํ, ปฏิคฺคหเณ จ มตฺตฺุตาติ เอเตเนว ปริเยสนปริโภคมตฺตฺุตาปิ วุตฺตา โหติ. ตีหิ สนฺโตเสหีติ จตูสุ ปจฺจเยสุ ปจฺเจกํ ตีหิ สนฺโตเสหิ ¶ , สพฺเพ ปน ทฺวาทส. ปฏิสลฺลีเนน วิเวกฏฺกายานํ น สงฺคณิการามานํ. เนกฺขมฺมาภิรตานนฺติ ปพฺพชฺชํ อุปคตานํ. ปริสุทฺธจิตฺตานํ วิคตจิตฺตสํกิเลสานํ. ปรมโวทานปฺปตฺตานํ อฏฺสมาปตฺติสมธิคเมน อติวิย โวทานํ วิสุทฺธึ ปตฺตานํ. กิเลสุปธิอาทีนํ อภาวโต นิรุปธีนํ. ผลสมาปตฺติวเสน สพฺพสงฺขารวินิสฺสฏตฺตา วิสงฺขารํ นิพฺพานํ. อุปคตานํ, อิเมสํ ติณฺณํ วิเวกานํ ลาภี ปวิวิตฺโต ‘‘ปกาเรหิ วิวิตฺโต’’ติ กตฺวา. สมาสชฺชนํ ปริสิเนหุปฺปาโท สํสคฺโค, สวนวเสน อุปฺปชฺชนกสํสคฺโค สวนสํสคฺโค. เอส นโย เสเสสุปิ. สมุลฺลปนํ อาลาปสลฺลปนํ. สํสคฺควตฺถุนา อิมินา ตสฺส ปริโภโค ปริโภคสํสคฺโค.
อารทฺธวีริโยติ เอตฺถ วีริยารมฺโภ นาม วีริยสฺส ปคฺคณฺหนํ ปริปุณฺณกรณํ. ตํ ปน สพฺพโส กิเลสานํ นิคฺคณฺหนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห. โอธุนนวตฺตาติ กิเลสานํ ยสฺส กสฺสจิ สาวชฺชสฺส โอธุนนวเสน วตฺตา. เตนาห ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติอาทิ. โอติณฺณํ นาม วชฺชํ อชฺฌาจริตนฺติ อาโรจิตํ. อโนติณฺณํ อนาโรจิตํ. ตนฺติวเสนาติ ปาฬิธมฺมวเสน, ยุตฺตสทฺทสฺส วเสนาติ อตฺโถ. ปาเป ลามเก ปุคฺคเล ธมฺเม จ ครหติ ชิคุจฺฉตีติ ปาปครหี. เตนาห ‘‘ปาปปุคฺคเล’’ติอาทิ. เอกทสฺสีติ เอกภวทสฺสี, อิธโลกมตฺตทสฺสี ทิฏฺธมฺมิกสุขมตฺตาเปกฺขี. สมนฺตาติ สมนฺตโต, ปริโต เม กตฺถจิ มา อหูติ โยชนา.
โสฬสหิ ปเทหีติ โสฬสหิ โกฏฺาเสหิ. อกุปฺปนฺติ เกนจิ อโกปนียํ. อยํ ธมฺมเสนาปติโน คุณกถา สตฺถุ วจนานุสาเรน ทสสหสฺสจกฺกวาฬพฺยาปินี ¶ อโหสิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอว’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. จตุพฺพิธา วณฺณนิภา ปาตุภวิ อุฬารปีติโสมนสฺสสมุฏฺานตฺตา. สุฏฺุ โอภาสตีติ สุโภ. โอภาสสมฺปตฺติยา มณิโน ภทฺทกตาติ อาห ‘‘สุโภติ สุนฺทโร’’ติ. ชาติมา ปริสุทฺธอากรสมุฏฺิตตฺตา. กุรุวินฺทชาติอาทิชาติวิเสโสปิ มณิ อากรปริสุทฺธมูลโก เอวาติ อาห ‘‘ชาติสมฺปนฺโน’’ติ. โธวนาทิปริกมฺเมนาติ จตูสุ ปาสาเณสุ โธวนโทสนีหรณตาปนสณฺหกรณาทิปริกมฺเมน. รตฺตกมฺพลสฺส วเสน สภาววณฺณสิทฺธิยา เวฬุริยมณิ อติวิย โสภตีติ อาห ‘‘ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺโต’’ติ. นิกฺขนฺติ ภณฺฑมาห. ตฺจ อปฺปเกน สุวณฺเณน กตํ ภณฺฑํ น โสภติ โสภาวิปุเลนาติ อาห ‘‘อติเรกปฺจสุวณฺเณน กตปิฬนฺธน’’นฺติ. สุวณฺณนฺติ ปฺจธรณสฺส สมฺา, ตสฺมา ปฺจวีสติสุวณฺณสาริยา วิจิตฺตอาภรณํ อิธ ‘‘นิกฺข’’นฺติ อธิปฺเปตํ. ตฺหิ วิปุลํ น ปริตฺตกํ. มหาชมฺพุสาขาย ปวตฺตนทิยนฺติ มหาชมฺพุสาขาย เหฏฺา สฺชาตนทิยํ. ตํ กิร รตนํ รตฺตํ. สุกุสเลน…เป… สมฺปหฏฺนฺติ สุฏฺุ กุสเลน สุวณฺณกาเรน อุกฺกาย ตาเปตฺวา สมฺมา ¶ ปหฏฺํ มชฺชนาทิวเสน สุกตปริกมฺมํ. ธาตุวิภงฺเคติ ธาตุวิภงฺคสุตฺเต. กตภณฺฑนฺติ อาภรณภาเวน กตํ ภณฺฑํ.
นาติอุจฺโจ นาตินีโจ ตรุณสูริโย นาม. สตฺถารา อาภตวณฺโณ อุพฺภตคุโณติ อตฺโถ. เนว มรณํ อภินนฺทตีติ อตฺตโนปิ มรณํ เนว อภินนฺทติ อตฺตวินิปาตสฺส สาวชฺชภาวโต. โพธิสตฺโต ปน ปเรสํ อตฺถาย อตฺตโน อตฺตภาวํ ปริจฺจชติ กรุณาวเสน, เอวํ โวสชฺชนํ ปรมตฺถปารมีปาริปูรึ คจฺฉตีติ สาวกา น ตถา กาตุํ สกฺกา สิกฺขาปทโต. น ชีวิตํ ปตฺเถติ ชีวิตาสาย สมุจฺฉินฺนตฺตา. ทิวสสงฺเขปนฺติ อชฺช ตฺวํ อิทํ นาม กมฺมํ กโรหิ, อิทํ เต เวตนนฺติ ทิวสภาเคน ปริจฺฉินฺนํ เวตนํ. ตาทิโส หิ ภตโก ทิวสกฺขยเมว อุทิกฺขติ, น กมฺมนิฏฺานํ. นิพฺพิสํ ภตโก ยถาติ เวตนํ ภตึ อิจฺฉนฺโต กาลกฺขยํ อุทิกฺขนฺโต ภตกปุริโส วิย.
สุสิมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. นานาติตฺถิยสาวกสุตฺตวณฺณนา
๑๑๑. นานาติตฺถิยสาวกาติ ¶ ปุถุติตฺถิยานํ สาวกา. ฉินฺทิเตติ หตฺถจฺเฉทาทิวเสน เฉเท. มาริเตติ มารเณ. น ปาปํ สมนุปสฺสตีติ กิฺจิ ปาปํ อตฺถีติ น ปสฺสติ, ปเรสฺจ ตถา ปเวเทติ. วิสฺสาสนฺติ วิสฺสตฺถภาวํ. ‘‘กตกมฺมานมฺปิ วิปาโก นตฺถี’’ติ วทนฺโต กตปาปานํ อกตปฺุานฺจ วิสฺสตฺถตํ นิราสงฺกตํ ชเนติ.
ตโปชิคุจฺฉายาติ ตปสา อเจลวตาทินา ปาปโต ชิคุจฺฉเนน, ‘‘ปาปํ วิราชยามา’’ติ อเจลวตาทิสมาทาเนนาติ อตฺโถ. ตสฺมิฺหิ สมาทาเน ิเตน สํวเรน สํวุตจิตฺโต สมนฺนาคโต ปิหิโต จ นาม โหตีติ ‘‘สุสํวุตตฺโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. จตฺตาโร ยามา ภาคา จตุยามา, จตุยามา เอว จาตุยามา. ภาคตฺโถ หิ อิธ ยาม-สทฺโท ยถา ‘‘รตฺติยํ ปโม ยาโม’’ติ. โส ปเนตฺถ ภาโค สํวรลกฺขโณติ อาห ‘‘จาตุยาเมน สุสํวุโต’’ติ, จตุโกฏฺาเสน สํวเรน สุฏฺุ สํวุโตติ อตฺโถ. ปฏิกฺขิตฺตสพฺพสีโตทโกติ ปฏิกฺขิตฺตสพฺพสีตุทกปริโภโค. สพฺเพน ปาปวารเณน ยุตฺโตติ สพฺพปฺปกาเรน สํวรลกฺขเณน ปาปวารเณน สมนฺนาคโต. ธุตปาโปติ สพฺเพน นิชฺชรลกฺขเณน ปาปวารเณนปิ ธุตปาโป. ผุฏฺโติ อฏฺนฺนมฺปิ กมฺมานํ เขปเนน วิกฺเขปปฺปตฺติยา กมฺมกฺขยลกฺขเณน สพฺเพน ปาปวารเณน ผุฏฺโ, ตํ ผุสิตฺวา ิโต. น นิคุหนฺโตติ น นิคุหนเหตุ ทิฏฺสุเต ตเถว กเถนฺโต.
นานาติตฺถิยานํเยว ¶ อุปฏฺาโกติ ปรวาทีนํ สพฺเพสํเยว ติตฺถิยานํ อุปฏฺาโก, เตสุ สาธารณวเสน อภิปฺปสนฺโน. โกฏิปฺปตฺตาติ โมกฺขาธิคเมน สมณธมฺเม ปตฺตพฺพมริยาทปฺปตฺตา.
สหจริตมตฺเตนาติ สีหนาเทน สห วสฺสกรณมตฺเตน. สีเหน สีหนาทํ นทนฺเตน สเหว สิงฺคาเลน อตฺตโน สิงฺคาลรวกรณมตฺเตน. โกตฺถุโกติ ขุทฺทกโกตฺถุ. อาสงฺกิตสมาจาโรติ อตฺตนา จ ปเรหิ จ อาสงฺกิตพฺพสมาจาโร. สปฺปุริสานนฺติ พุทฺธาทีนํ.
ตสฺสาติ เวคพฺภริสฺส เทวปุตฺตสฺส. สรีเร อนุอาวิสีติ สรีเร อนุปวิสิตฺวา วิย อาวิสิ. อธิมุจฺจีติ ยถา คหิตสฺส วเสน จิตฺตํ น วตฺตติ, อตฺตโน เอว วเส วตฺตติ, เอวํ อธิฏฺหิ. อายุตฺตาติ ทสฺสเนน สํยุตฺตา ¶ . ปวิเวกิยนฺติ กปฺปกวตฺถภฺุชนเสนาสเนหิ ปวิวิตฺตภาวํ. เตนาห ‘‘เต กิรา’’ติอาทิ. รูเป นิวิฏฺาติ จกฺขุรูปธมฺเม อภินิวิฏฺา. เตนาห ‘‘ตณฺหาทิฏฺีหิ ปติฏฺิตา’’ติ. เทวโลกปตฺถนกามาติ เทวโลกสฺเสว อภิปตฺถนกามา. มรณธมฺมตาย มาติยา. เตนาห ‘‘มาติยาติ มจฺจา’’ติ. ปรโลกตฺถายาติ ปรสมฺปตฺติภาวาย โลกสฺส อตฺถาย.
ปภาสวณฺณาติ ปภาย สมานวณฺณา. เกสํ ปภายาติ อาห ‘‘จนฺโทภาสา’’ติอาทิ. สชฺฌาราคปภาสวณฺณา อินฺทธนุปภาสวณฺณาติ ปจฺเจกํ โยชนา. อาโม อามคนฺโธ เอตสฺส อตฺถีติ อามิสํ. วธายาติ วิทฺธํสิตุํ. รูปาติ รูปายตนาทิรูปิธมฺมา.
ราชคหสมีปปฺปวตฺตีนํ ราชคหิยานํ. ‘‘เสโต’’ติ เกลาสกูโฏ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘เสโตติ เกลาโส’’ติ. เกนจิ น ฆฏฺเฏตีติ อฆํ, อนฺตลิกฺขนฺติ อาห ‘‘อฆคามีนนฺติ อากาสคามีน’’นฺติ. อุทกํ ธียติ เอตฺถาติ อุทธิ, มโหทธิ. วิปุโลติ เวปุลฺลปพฺพโต. หิมวนฺตปพฺพตานนฺติ หิมวนฺตปพฺพตภาคานํ. พุทฺโธ เสฏฺโ สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนาทีหิ สพฺพคุเณหิ.
นานาติตฺถิยสาวกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย
เทวปุตฺตสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.