📜

๘. วงฺคีสสํยุตฺตํ

๑. นิกฺขนฺตสุตฺตวณฺณนา

๒๐๙. อาฬวิยนฺติ อาฬวินครสมีเป. อคฺคเจติเยติ โคตมกเจติยาทีหิ อุตฺตมเจติเย. ตํ กิร ภูมิรามเณยฺยกภาเวน มนุฺตาย ปธานยุตฺตตาทิสมฺปตฺติยา จ อิตรเจติเยหิ เสฏฺสมฺมตํ. กปฺปตฺเถเรนาติ ‘‘กปฺโป’’ติ โคตฺตโต อาคตนาโม เถโร, สหสฺสปุราณชฏิลานํ อพฺภนฺตเร อยํ มหาเถโร. โอหีนโกติ เถเรสุ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺเสุ วิหาเร เอว อวหีนโก ิโต. ตตฺถ การณมาห ‘‘วิหารปาโล’’ติอาทิ. สมลงฺกริตฺวาติ สมํ อลงฺกาเรน อลงฺกริตฺวา. กุสลจิตฺตํ วิทฺธํเสติ ปวตฺติตุํ อปฺปทานวเสน. เอตสฺมินฺติ เอตสฺมึ ราเค อุปฺปนฺเน. ‘‘เอกสฺมิ’’นฺติ วา ปาโ, เอกสฺมึ วิสภาควตฺถุเก ราเค อุปฺปนฺเน. ธมฺโม วาติ มม จิตฺเต อุปฺปชฺชนกโต อฺโ ธมฺโม วา. เยน การเณน ปโร อนภิรตึ วิโนเทตฺวา อิทาเนว อภิรตึ อุปฺปาเทยฺย, ตํ การณํ กุโต ลพฺภาติ โยชนา, ตํ การณํ นตฺถีติ อตฺโถ, ตสฺส อภาวการณวจนํ.

อนคาริยนฺติ อคารวิรหโต อนคารํ ปพฺพชฺชา. ตตฺถ นิยุตฺตตฺตา อนคาริยํ ก-การสฺส ย-การํ กตฺวา, ปพฺพชิตนฺติ อตฺโถ. อาธาวนฺตีติ หทยํ อภิภวิตฺวา ธาวนฺติ. อุคฺคตานนฺติ อุฬารานํ ปุตฺตา. เตนาห ‘‘มเหสกฺขา ราชฺภูตา’’ติ. อุตฺตมปฺปมาณนฺติ สหสฺสปลํ สมนฺตาติ สมนฺตโต. ปริกิเรยฺยุนฺติ วิชฺเฌยฺยุํ. เอตสฺมา สหสฺสาติ ยถาวุตฺตา ธนุคฺคหสหสฺสโต. อติเรกตรา อเนกสหสฺสา. อิตฺถิโย โอโลกนสิตลปิตโรทิตสเร ขิปนฺติโย. เนว มํ พฺยาธยิสฺสนฺติ เนว มํ นิชฺฌายิสฺสนฺติ. ‘‘พฺยาธยิสฺสตี’’ติ ปาโติ วุตฺตํ ‘‘จาเลตุํ น สกฺขิสฺสตีติ อตฺโถ’’ติ. ธมฺเม สมฺหีติ สเก สนฺติเก ปติฏฺิเต สาสนธมฺเม. เตนาห ‘‘อนภิรตึวิโนเทตฺวา’’ติอาทิ.

มคฺคนฺติ ‘‘มคฺโค’’ติ วตฺตพฺเพ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ. เตนาห ‘‘โส หิ นิพฺพานสฺส ปุพฺพภาคมคฺคฺโค’’ติ.

นิกฺขนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อรติสุตฺตวณฺณนา

๒๑๐. วิหารครุโกกิเรส เถโรติ เอเตน เถโร อตฺตโน สทฺธิวิหาริกํ วงฺคีสํ โอวทิตุํ อนวสโร. เตน อนฺตรนฺตรา ตสฺส จิตฺตํ ราโค อนุทฺธํเสตีติ ทสฺเสติ. สาสเน อรตินฺติ สีลปริปูรเณ สมถวิปสฺสนาภาวนาย จ อนภิรตึ. กามคุเณสุ จ รตินฺติ ปฺจสุ กามโกฏฺาเสสุ อสฺสาทํ. ปาปวิตกฺกนฺติ กามสงฺกปฺปํ. สพฺพากาเรนาติ สพฺเพ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺฉินฺทนากาเรน. ยถา มหนฺตํ อรฺํ วนถนฺติ, เอวํ มหนฺตํ กิเลสวนํ ‘‘วนถ’’นฺติ วุตฺตํ.

ปถวิฺจ เวหาสนฺติ ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, ตสฺมา ปถวิยํ อากาเส จาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปถวิฏฺิต’’นฺติอาทิ. ชคตีติ จ ปถวิยา เววจนํ. เตนาห ‘‘อนฺโตปถวิย’’นฺติ. ปริชีรตีติ สพฺพฺพโส ชรํ ปาปุณาติ. สมาคนฺตฺวาติ าเณน สมาคนฺตฺวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘มุตตฺตาติ วิฺาตตฺตภาวา’’ติ.

ปฏิฆปเทน คนฺธรสา คหิตา ฆานชิวฺหานํ ปฏิหนนวเสน ปวตฺตนโต. มุตปเทน โผฏฺพฺพารมฺมณํ คหิตํ มุตฺวา คเหตพฺพโต. น ลิปฺปตีติ น มกฺขียติ.

สฏฺิ-สทฺโท ฉ-สทฺเทน สมานตฺโถติ ‘‘สฏฺินิสฺสิตา’’ติ ปทสฺส ‘‘ฉอารมฺมณนิสฺสิตา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. ปุถู อธมฺมวิตกฺกาติ รูปวิตกฺกาทิวเสน พหู นานาวิตกฺกา มิจฺฉาสงฺกปฺปา. ชนตาย นิวิฏฺาติ มหาชเน ปติฏฺิตา. เตสํ วเสนาติ เตสมฺปิ มิจฺฉาวิตกฺกานํ วเสน. น กตฺถจิ อารมฺมเณ. กิเลสวคฺคคโตติ กิเลสสงฺคณิกํ อุปคโต น ภเวยฺย, กิเลสวิตกฺกา น อุปฺปาเทตพฺพาติ อตฺโถ. ทุฏฺุลฺลวจนํ กามปฏิสํยุตฺตกถา.

ทพฺพชาติโกติ ทพฺพรูโป. เนปกฺเกนาติ โกสลฺเลน. นิพฺพานํ ปฏิจฺจาติ อสงฺขตธาตุํ อารมฺมณวเสน ปฏิจฺจ. ปรินิพฺพานกาลนฺติ อนุปาทิเสสนิพฺพานกาลํ.

อรติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เปสลสุตฺตวณฺณนา

๒๑๑. เอเตสนฺติ เอเตสํ มหลฺลกานํ. น ปาฬิ อาคจฺฉติ อปฺปคุณภาวโต. น จ ปาฬิ อุปฏฺาติ, เอกาย ปาฬิยา สติ ปาฬิคติยา ตถา ตถา อุปฏฺานมฺปิ เนสํ นตฺถีติ วทติ. น อฏฺกถาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สิถิลธนิตาทิตํตํพฺยฺชนพุทฺธึ อหาเปตฺวา อุจฺจารณํ ปทพฺยฺชนมธุรตา. อติกฺกมิตฺวา มฺติ อฺเ ภิกฺขู. หีฬนวเสน อภิภวิตฺวา ปฏิภานสุเตน อตฺตานํ ปสํสติ สมฺภาเวติ. มานสฺส ปวตฺติตาย สหชาตนิสฺสยาทิปจฺจยธมฺมา ตํสหภุธมฺมา. มานวเสน วิปฺปฏิสารี อหุวา. มา อโหสีติ โยชนา. วณฺณภณนนฺติ ปเรหิ กิริยมานํ คุณาภิตฺถวํ. อขิโลติ ปฺจเจโตขิลรหิโต. นิสฺเสสํ นววิธนฺติ นววิธมฺปิ มานํ กสฺสจิ เอกเทสสฺสปิ อเสสโต. วิชฺชายาติ อคฺคมคฺควิชฺชาย. อจฺจนฺตเมว สมิตตาย วูปสมิตตาย สมิตาวี.

เปสลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา

๒๑๒. ราโคติ เอตฺถ อายสฺมโต วงฺคีสสฺส ราคสฺส อุปฺปตฺติยา การณํ วิภาเวตุํ ‘‘อายสฺมา อานนฺโท’’ติอาทิ วุตฺตํ. นฺติ อานนฺทตฺเถรํ. อารมฺมณํ ปริคฺคเหตุนฺติ กายเวทนาทิเภทํ อารมฺมณํ สติโคจรํ. อสุภทุกฺขาทิโต, รูปาทิเอเกกเมว วา ฉฬารมฺมณํ อนิจฺจทุกฺขาทิโต ปริคฺคณฺหิตุํ ปริจฺฉิชฺช ชานิตุํ. อิตฺถิรูปารมฺมเณติ อิตฺถิสนฺตาเน รูปสภาเว อารมฺมเณ.

นิพฺพาปนนฺติ นิพฺพาปยติ เอเตนาติ นิพฺพาปนํ. วิปลฺลาเสนาติ อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติ วิปลฺลาสภาวเหตุ. ราคฏฺานิยนฺติ ราคุปฺปตฺติเหตุ. อิฏฺารมฺมณนฺติ สุภารมฺมณํ. เอตฺถ จ อิฏฺารมฺมณสีเสน ตตฺถ อิฏฺาการคฺคหณํ วทติ. ตฺหิ วชฺชนียํ. ปรโตติ อวสวตฺตนตฺเถน อฺโต. สงฺขารา หิ ‘‘มา ภิชฺชนฺตู’’ติ อิจฺฉิตาปิ ภิชฺชนฺเตว, ตสฺมา เต อวสวตฺติตฺตา ปโร นาม, สา จ เนสํ ปรตา อนิจฺจทสฺสเนน ปากฏา โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปรโต ปสฺสาติ อนิจฺจโต ปสฺสา’’ติ. กามํ วิปสฺสนา สงฺขารนิมิตฺตํ น ปริจฺจชติ สงฺขาเร อารพฺภ วตฺตนโต, เยสํ ปน นิมิตฺตานํ อคฺคหเณน อนิมิตฺตาติ คหิตุํ อรหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘นิจฺจาทีนํ นิมิตฺตาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. สลกฺขณ-สามฺลกฺขณ-ทสฺสนวเสน มานสฺส ทสฺสนาภิสมโย, วิปสฺสนาย ปหานาภิสมโย. ‘‘มคฺเคนา’’ติ วทนฺติ, มคฺเคเนว ปน อสมฺโมหโต ปริฺาปฏิเวธวเสน ทสฺสนาภิสมโย, ปหานปฏิเวธวเสน ปหานาภิสมโย. ราคาทิสนฺตตายาติ ราคาทีนํ สมุจฺเฉทวเสน ปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน วูปสเมตพฺพโต สนฺตภาเวน.

อานนฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สุภาสิตสุตฺตวณฺณนา

๒๑๓. องฺคียนฺติ เหตุภาเวน อาคมภาเวน อวยวภาเวน วา ายนฺตีติ องฺคานิ, การณานิ, อวยวา วาติ อาห ‘‘องฺเคหีติ การเณหิ, อวยเวหิ วา’’ติ. วิรติโย สุภาสิตวาจาย ปุพฺพํ ปติฏฺิตา โหนฺตีติ มุสาวาทาเวรมณิอาทโย ตสฺสา วิเสสเหตูติ อาห ‘‘มุสาวาทา…เป… การณานี’’ติ. ยสฺมา อริยโวหารา วิเสสโต เจตนาสภาวา, ตสฺมา วจีสุจริตสมุทายสฺส สจฺจวาจาทโย องฺคภูตาติ อาห ‘‘สจฺจวจนาทโย จตฺตาโร อวยวา’’ติ. นิสฺสกฺกวจนนฺติ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนํ. เตนาห ‘‘สมนุอาคตา ปวตฺตา’’ติ. วาจา หิ ตาย วิรติยา สมฺมา อนุรูปโต อาคตา ปวตฺตาติ ‘‘สมนฺนาคตา’’ติ วุจฺจติ. กรณวจนนฺติ สหโยเค กรณวจนํ. เตนาห ‘‘ยุตฺตา’’ติ. สหชาตาปิ หิ เจตนา ยถาสมาทินฺนาย วิรติยา สมฺมา อนุรูปโต ยุตฺตาติ วตฺตุํ อรหติ.

สมุลฺลปนวาจาติ สทฺทวาจา, สา วุจฺจตีติ วาจา นาม. วิฺตฺติ ปน วุจฺจติ เอตายาติ วาจา นาม, ตถา วิรติ เจตนาวาจา. น สา อิธ อธิปฺเปตาติ สา เจตนาวาจา วิฺตฺติวาจา วิย อิธ อิมสฺมึ สุตฺเต น อธิปฺเปตา ‘‘สุภาสิตา โหตี’’ติ วจนโต. เตนาห ‘‘อภาสิตพฺพโต’’ติ. สุฏฺุ ภาสิตาติ สมฺมา าเยน ภาสิตา วจีสุจริตภาวโต. อตฺถาวหตนฺติ หิตาวหกาลํ ปติ อาห. การณสุทฺธินฺติ โยนิโสมนสิกาเรน การณวิสุทฺธึ. โทสาภาวนฺติ อคติคมนาทิโทสาภาวํ. ราคโทสาทิวินิมุตฺตฺหิ ตํ ภาสโต อนุโรธวิโรธวิวชฺชนโต อคติคมนํ ทูรสมุคฺฆาฏิตเมวาติ. อนุวาทวิมุตฺตาติ อปวาทวิรหิตา. สพฺพาการสมฺปตฺตึ ทีเปติ, อสติ หิ สพฺพาการสมฺปติยํ อนุวชฺชตาปิ.

กิฺจาปิ ปุพฺเพ ธมฺมาธิฏฺานา เทสนา อารทฺธา, ปุคฺคลชฺฌาสยโต ปน ปุคฺคลาธิฏฺานาย…เป… วจนเมตํ. กามฺเจตฺถ ‘‘อฺตรนิทฺโทสวจน’’นฺติ อวิเสสโต วุตฺตํ, ‘‘ธมฺมํเยว ภาสตี’’ติอาทินา ปน อธมฺมโทสาทิรหิตาย วาจาย วุจฺจมานตฺตา อิธาปิ สุภาสิตา วาจา อธิปฺเปตาติ. ‘‘สุภาสิตํเยวา’’ติ อวธารเณน นิวตฺติตํ สรูปโต ทสฺเสติ ‘‘โน ทุพฺภาสิต’’นฺติ อิมินา. เตนาห ‘‘ตสฺเสว วาจงฺคสฺส ปฏิปกฺขภาสนนิวารณ’’นฺติ. ปฏิโยคีนิวตฺตนตฺโถ หิ เอว-สทฺโท, เตน ปิสุณวาจาปฏิกฺเขโป ทสฺสิโต. ‘‘สุภาสิต’’นฺติ วา อิมินา จตุพฺพิธํ วจีสุจริตํ คหิตนฺติ ‘‘โน ทุพฺภาสิตนฺติ อิมินา มิจฺฉาวาจปฺปหานํ ทีเปตี’’ติ วุตฺตํ. สพฺพวจีสุจริตสาธารณวจนฺหิ สุภาสิตนฺติ. เตน ปรเภทนาทิกํ อสพฺภาทิกฺจ โพธิสตฺตานํ วจนํ อปิสุณาทิวิสยนฺติ ทฏฺพฺพํ. ภาสิตพฺพวจนลกฺขณนฺติ ภาสิตพฺพสฺส วจนสฺส สภาวลกฺขณํ ทีเปตีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. ยทิ เอวํ นนุ อภาสิตพฺพํ ปมํ วตฺวา ภาสิตพฺพํ ปจฺฉา วตฺตพฺพํ ยถา ‘‘วามํ มุฺจ, ทกฺขิณํ คณฺหา’’ติ อาห ‘‘องฺคปริทีปนตฺถํ ปนา’’ติอาทิ.

ปเมนาติ ‘‘สุภาสิต’’นฺติ ปเทน. ธมฺมโต อนเปตนฺติ อตฺตโน ปเรสฺจ หิตสุขาวหธมฺมโต อนเปตํ. มนฺตาวจนนฺติ มนฺตาย ปวตฺเตตพฺพวจนํ. ปฺวา อวิกิณฺณวาโจ หิ น จ อนตฺถาวหํ วาจํ ภาสติ. อิตเรหิ ทฺวีหีติ ตติยจตุตฺถปเทหิ. ‘‘อิเมหิ โขติอาทีนีติ กรเณ เอตํ อุปโยควจน’’นฺติ เกจิ. ตํ วาจนฺติ ยถาวุตฺตํ จตุรงฺคิกํ. ยฺจ วาจํ มฺนฺตีติ สมฺพนฺโธ. อฺเติ อิโต พาหิรกา ายวาทิโน อกฺขรจินฺตกา จ. ‘‘ปฏิฺาเหตุอุทาหรณูปนยนิคมนานิ อวยวา วากฺยสฺสา’’ติ วทนฺติ. นามาทีหีติ นามาขฺยาตปเทหิ. ลิงฺคํ อิตฺถิลิงฺคาทิ วจนํ เอกวจนาทิ. ปมาทิ วิภตฺติ อตีตาทิ กาลํ. กตฺตา สมฺปทานํ อปาทานํ กรณํ อธิกรณํ กมฺมฺจ การกํ. สมฺปตฺตีหิ สมนฺนาคตนฺติ เอเต อวยวาทิเก สมฺปาเทตฺวา วุตฺตํ. ตํ ปฏิเสเธตีติ ตํ ยถาวุตฺตวิเสสมฺปิ วาจํ ‘‘อิเมหิ โข’’ติ วทนฺโต ภควา ปฏิเสเธติ. โข-สทฺโท เหตฺถ อวธารณตฺโถ. เตนาห ‘‘อวยวาที’’ติอาทิ. ยา กาจิ อสภาวนิรุตฺติลกฺขณา. สา มิลกฺขุภาสา. สีหฬเกเนวาติ สีหฬภาสาย ปริยาปนฺเนน วจเนน. อรหตฺตํ ปาปุณึสูติ สํสาเร อติวิย สฺชาตสํเวคา ตนฺนิสฺสรเณ นินฺนโปณมานสา หุตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ.

ปาโตว ผุลฺลิตโกกนทนฺติ ปาโตว สํผุลฺลปทุมํ. ภิชฺชิยเตติ นิพฺภิชฺชิยติ นิพฺภิคฺโค ชายติ. มนุสฺสตฺตํ คตาติ มนุสฺสตฺตภาวํ อุปคตา.

พุทฺธนฺตเรติ พุทฺธุปฺปาทนฺตเร ทฺวินฺนํ พุทฺธุปฺปาทานํ อนฺตรา. ตทา หิ ปจฺเจกพุทฺธานํ สาสเน, น พุทฺธสาสเน ทิปฺปมาเน.

ชราย ปริมทฺทิตนฺติ ยถา หตฺถจรณาทิองฺคานิ สิถิลานิ โหนฺติ, จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ สวิสยคฺคหเณ อสมตฺถานิ โหนฺติ, โยพฺพนํ สพฺพโส วิคตํ, กายพลํ อปคตํ, สติมติธิติอาทโย วิปฺปยุตฺตา, ปุพฺเพ อตฺตโน โอวาทปฏิกรา ปุตฺตทาราทโยปิ อปสาทกา, ปเรหิ วุฏฺาปนียสํเวสนียตา ปุนเทว พาลภาวปฺปตฺติ จ โหนฺติ, เอวํ ชราย สพฺพโส วิมทฺทิตํ. เอตนฺติ สรีรํ วทติ. มิลาตฉวิจมฺมนิสฺสิตนฺติ ชิณฺณภาเวน อปฺปมํสโลหิตตฺตา มิลาเตหิ คตโยพฺพเนหิ ธมฺเมหิ สนฺนิสฺสิตํ. ฆาสมามิสนฺติ ฆาสภูตํ อามิสํ มจฺจุนา คิลิตฺวา วิย ปติฏฺเปตพฺพโต. เกสโลมาทินานากุณปปูริตํ. ตโต เอว อสุจิภาชนํ เอตํ. สพฺพถาปิ นิสฺสารตาย กทลิกฺขนฺธสมํ.

อนุจฺฉวิกาหีติ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อนุรูปาหิ. น ตาเปยฺยาติ จิตฺตฺจ กายฺจ น ตาเปยฺย. ตาปนา เจตฺถ สมฺปติ อายติ จ วิสาทนา. น พาเธยฺยาติ ‘‘นาภิภเวยฺยา’’ติ ปทสฺส อตฺถทสฺสนํ. อปิสุณวาจาวเสนาติ สพฺพโส ปหีนปิสุณวาจตาวเสน. ปาปานีติ ลามกานิ นิกิฏฺกานิ. เตนาห ‘‘อปฺปิยานี’’ติอาทิ. อนาทายาติ อคฺคเหตฺวา.

สาธุภาเวนาติ นิทฺโทสมธุรภาเวน. อมตสทิสาติ สทิเส ตพฺโพหาโรติ, การเณ วายํ การิยโวหาโรติ อาห ‘‘นิพฺพานามตปจฺจยตฺตา วา’’ติ. ปจฺจยวเสน หิ สา ตทา ทสฺสนปฺปวตฺติ. จริยาติ จาริตฺตํ. โปราณา นาม ปมกปฺปิกา, พุทฺธาทโย วา อริยา.

ปติฏฺิตาติ นิจฺจลภาเวน อฏฺึ กตฺวา ปจฺจยายตฺตภาวโต อวิสํวาทนกา. อุภยถา ปฏิปตฺตึ อาห ‘‘อตฺตโน จ ปเรสฺจ อตฺเถ ปติฏฺิตา’’ติ. อตฺเถ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกาทิหิเต ปติฏฺิตตฺตา เอว ธมฺเม อวิหึสาทิธมฺเม ปติฏฺิตา. อนุปโรธกรนฺติ เอเตน หิตปริยาโยยํ อตฺถ-สทฺโทติ ทสฺเสติ. ธมฺมิกนฺติ ธมฺมโต อนเปตํ, อตฺถธมฺมูปสํหิตํ วา.

นิพฺพานปฺปตฺติยาติ นิพฺพานปฺปตฺติยตฺถํ. ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยาย อนฺตกรณตฺถํ. ยสฺมา พุทฺโธ เขมาย ภาสติ, ตสฺมา เขมุปฺปตฺติเหตุยา เขมา, ตสฺมา สา สพฺพวาจานํ อุตฺตมาติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. มนฺตาวจนวเสนาติ สพฺพโทสรหิตวเสน.

สุภาสิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา

๒๑๔. วากฺกรณจาตุริยโต วจนคุณเหตูนํ ปูริยา ปูเร ภวาติ โปรี, ตาย โปริยา. เตนาห ‘‘อกฺขราทิปริปุณฺณายา’’ติ. อวิพทฺธายาติ ปิตฺตาทีหิ น วิพทฺธาย อนุปทฺทุตาย. เตนาห ‘‘อปลิพุทฺธายา’’ติอาทิ. นิทฺโทสายาติ อตฺถโต พฺยฺชนโต วิคตโทสาย. อกฺขลิตปทพฺยฺชนายาติ อคลิตปทพฺยฺชนาย, อตฺถสฺส วิฺาปนิยาติ ทิฏฺธมฺมิกาทิอตฺถสฺส โพธเน ปริยตฺตาย. ภิกฺขุนนฺติ คาถาสุขตฺถํ รสฺสํ กตฺวา วุตฺตํ.

‘‘สํขิตฺเตนปิ เทเสติ, วิตฺถาเรนปิ ภาสตี’’ติ นยิทํ ปมํ อุทฺทิสิตฺวา ตสฺส อตฺถสฺส กิตฺตนวเสน ปวตฺติตํ วจนํ สนฺธาย วุตฺตํ. สา หิ วิตฺถารเทสนา เอว โหติ. ยา ปน เทสนา กทาจิ ธมฺมปฏิคฺคาหกานํ อชฺฌาสยวเสน สํขิตฺเตเนว ทสฺเสตฺวา นิกฺขิปติ, ยา จ กทาจิ วิตฺถาเรน, ตทุภยํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘จตฺตาริมานี’’ติอาทิ. สภาวมธุโร ปจฺจยวเสน มธุรตโร โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิวิธาการํ กตฺวา ธมฺมํ กเถตุํ ปฏิภาตีติ ปฏิภานํ, เทสนาปการาณํ. เตนาห ‘‘สมุทฺทโต’’ติอาทิ. โอทหนฺตีติ อวชานนวเสน คเมนฺติ.

สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ปวารณาสุตฺตวณฺณนา

๒๑๕. ตสฺมึ อหูติ ตสฺมึ อหนีติ อาห ‘‘ตสฺมึ ทิวเส’’ติ. อนสเนนาติ สพฺพโส อาหารสฺส อภุฺชเนน. สาสนิกสีเลน พาหิรกอนสเนน วา อุเปตา หุตฺวาติ โยชนา. วา-สทฺเทน ขีรปานมธุสายนาทีนิปิ สงฺคณฺหาติ. ปกาเรหิ ทิฏฺาทีหิ วาเรติ กายกมฺมาทิเก สราเปติ คารยฺเห กโรติ เอตายาติ ปวารณา, ปฏิปตฺติวิโสธนาย อตฺตโน อตฺตโน วชฺชโสธนาย โอกาสทานํ. ยสฺมา เยภุยฺเยน วสฺสํวุฏฺเหิ กาตพฺพา เอสา วิสุทฺธิเทสนา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘วสฺสํวุฏฺปวารณาย. วิสุทฺธิปวารณาติปิ เอติสฺสาว นาม’’นฺติ. ตทา ตสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ตุณฺหีภาวสฺส อนวเสสตายปิ วณฺณํ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘ตุณฺหีภูต’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยโต ยโต…เป…นตฺถี’’ติ. หตฺถสฺส กุกฺกุจฺจตา อสํยโม อสมฺปชฺกิริยา หตฺถกุกฺกุจฺจํ. ตถา ปาทกุกฺกุจฺจํ เวทิตพฺพํ, วา-สทฺโท อวุตฺตวิกปฺปตฺโถ, เตน ตทฺเสมภาโว วิภาวิโตติ ทฏฺพฺพํ.

ปฺจปสาเทหีติ ปฺจวณฺเณหิ ปสาเทหิ. โวสฺสคฺคตฺโถ ยถารุจิ กิริยาย โวสฺสชฺชนํ. ปุจฺฉนตฺเถติ ปฏิกฺเขปมุเขเนว ปุจฺฉนตฺเถ กาโร, เม กิฺจิ กิริยํ วา วาจสิกํ วา น ครหถ, กึ นุ ครหถ กายวาจาหีติ อตฺโถ. เกจิ ‘‘ทฺวาราเนวา’’ติ ทฺวารสีเสน ทฺวารปฺปวตฺตจริยํ วทนฺติ. วิสุทฺธิปวารณาย อธิปฺเปตตฺตา เยน ปวาริตํ, เตเนว วิสุทฺธีติ ายติ, เยน น ปวาริตํ. กึ นุ ตํ อวิสุทฺธนฺติ สิยา กสฺสจิ ปุถุชฺชนสฺส อาสงฺกา? ตนฺนิวารณตฺถมาห ‘‘โน อปริสุทฺธตฺตา’’ติ. มโนทฺวารํปริสุทฺธํ อสุจิการกอุปกฺกิเลสานํ ทูรีกตตฺตา. อิทานิ เอตรหิ พุทฺธกาเล. เอตฺถาติ มโนทฺวารปริสุทฺธิยํ.

กายวจีสมาจารปริสุทฺธิยา ปเวทิตาย มโนสมาจารปริสุทฺธิ อตฺถโต ปเวทิตาว โหตีติ ‘‘กายิกํ วา วาจสิกํ วา’’อิจฺเจวาห. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘กายิกํ วา วาจสิกํ วาติ อิทํ จตุนฺนํ อรกฺขิยตํ สนฺธาย เถโร อาหา’’ติ. ‘‘ภิกฺขเว, ปวาเรมิ โว’’ติ ภิกฺขุสงฺฆวิสยตฺตา ปวารณาย ตตฺถ ภิกฺขุสงฺเฆน วตฺตพฺพํ ปฏิวจนํ เทนฺโต ธมฺมเสนาปติ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ภารํ วหนฺโต’’ติ วุตฺโต. เตนาห ‘‘น โข มยํ, ภนฺเต’’ติอาทิ. อรกฺขิยานีติ ปรานุวาทโต น ภายิตพฺพานิ สุปริสุทฺธภาวโต.

‘‘อนุปฺปนฺนสฺสา’’ติ อิทํ อธิปฺปายิกวจนนฺติ ตทธิปฺปายํ วิวรนฺโต ‘‘กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธโต ปฏฺายา’’ติอาทิมาห. กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธโตติ วิภตฺเต นิสฺสกฺกํ, ตสฺมา กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธโต โอรนฺติ อตฺโถติ. อฺเนาติ อิโต ภควโต อฺเน. อนุปฺปาทิตปุพฺพสฺสาติ ปรสนฺตาเน น อุปฺปาทิตปุพฺพสฺส. สสนฺตาเน ปน ปจฺเจกพุทฺธานํ วเสน น อุปฺปาทิโตติ น สกฺกา วตฺตุํ. สมนุอาคตาติ สมฺมา อนุ อุปคตา. ภควโต สีลาทโย คุณาติ พุทฺธภูตสฺส คุณา อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘อรหตฺตมคฺคเมว นิสฺสาย อาคตา’’ติ. สพฺพคุณาติ ทสพลาณาทโย สพฺเพ พุทฺธคุณา. ภนฺเตติ เอตฺถ อิติสทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน ‘‘อิเมสํ ปน…เป… วาจสิกํ วา’’ติ ยาวายํ ปาฬิปเทโส, ตํ สพฺพํ คณฺหาติ. เตนาห ‘‘อิทํ เถโร…เป… ปวาเรนฺโต อาหา’’ติ.

ยํ อตฺตโน ปุฺานุภาวสิทฺธํ จกฺกรตนํ นิปฺปริยายโต เตน ปวตฺติตํ นาม, น อิตรนฺติ ปมนโย วุตฺโต. ยสฺมา ปวตฺติตสฺเสว อนุปวตฺตนํ, ปมนโย จ ตํสทิเส ตพฺโพหารวเสน วุตฺโตติ ตํ อนาทิยิตฺวา ทุติยนโย วุตฺโต. ทสวิธนฺติ อนฺโตชนสฺมึ, พลกาเย รกฺขาวรณคุตฺติยา สํวิธานํ, ขตฺติเยสุ อนุยุตฺเตสุ, พฺราหฺมณคหปติเกสุ, เนคมชานปเทสุ, สมณพฺราหฺมเณสุ, มิคปกฺขีสุ อธมฺมจารปฏิกฺเขโป, อธนานํ ธนานุปฺปทานํ, สมณพฺราหฺมเณ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหปุจฺฉนนฺติ เอวํ ทสวิธํ. ตตฺถ คหปติเก ปกฺขิชาเต จ วิสุํ กตฺวา คหณวเสน ทฺวาทสวิธํ. จกฺกวตฺติวตฺตนฺติ จกฺกวตฺติภาวาวหํ วตฺตํ. ยสฺมา ยาถาวโต ปวตฺติตํ, ตทนุรูปกํ ปน าเยน ยุตฺตเกน ปวตฺติตํ นาม โหตีติ อาห ‘‘สมฺมา นเยน เหตุนา การเณนา’’ติ. อุภโตภาควิมุตฺตาติ อุภยภาเคหิ อุภยภาคโต วิมุตฺตาติ อยเมตฺถ อตฺโถติ ทสฺเสติ ‘‘ทฺวีหิ ภาเคหิ วิมุตฺตา, อรูปา…เป… นามกายโต’’ติ อิมินา. เตวิชฺชาทิภาวนฺติ เตวิชฺชฉฬภิฺจตุปฺปฏิสมฺภิทภาวํ. ปฺาวิมุตฺตา หิ ตํ ติวิธํ อปฺปตฺตา เกวลํ ปฺาย เอว วิมุตฺตา.

วิสุทฺธตฺถายาติ วิสุทฺธิปวารณตฺถาย. สํโยชนฏฺเน สํโยชนสงฺขาเต เจว พนฺธนฏฺเน พนฺธนสงฺขาเต จ. วิชิตสงฺคามนฺติ ยถา ราคาทโย ปุน น สีสํ อุกฺขิปนฺติ, เอวํ อริยมคฺคเสนาย วเสน วิชิตสงฺคามํ. เตนาห ‘‘วิชิตราคโทสโมหสงฺคาม’’นฺติ. มารพลสฺสาติ มารเสนาย, มารสฺส วา สามตฺถิยสฺส. เวเนยฺยสตฺถนฺติ วิเนตพฺพชนสมูหํ. สกฏาทิสตฺถสภาคโต วิเนยฺโยว สตฺโถติ ตํ เวเนยฺยสตฺถํ. สีลสาราทิอภาวโต อนฺโตตุจฺโฉ.

ปวารณาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ปโรสหสฺสสุตฺตวณฺณนา

๒๑๖. สหสฺสโต ปรํ อฑฺฒเตยฺยภิกฺขุสตํ ตทา ภควนฺตํ ปยิรุปาสตีติ อาห ‘‘ปโรสหสฺสนฺติ อติเรกสหสฺส’’นฺติ. นิพฺพาเน กุโตจิ ภยํ นตฺถีติ กุโตจิปิ การณโต นิพฺพาเน ภยํ นตฺถิ อสงฺขตภาเวน สพฺพโส เขมตฺตา. เตนาห ภควา – ‘‘เขมฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ เขมคามินิฺจ ปฏิปท’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๔.๓๗๙-๔๐๘). น กุโตจิ ภยํ เอตสฺมึ อธิคเตติ อกุโตภยํ, นิพฺพานํ. เตนาห ‘‘นิพฺพานปฺปตฺตสฺสา’’ติอาทิ. วิปสฺสิโต ปฏฺายาติ อมฺหากํ ภควโต นามวเสน อิสีนํ สตฺตมภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เต หิ ตตฺถ ตตฺถ สุตฺเต พหุโส กิตฺติตา. อิสีนนฺติ วา ปจฺเจกพุทฺธสาวกพาหิรกอิสีนํ สตฺตโม อุตฺตโร เสฏฺโติ อตฺโถ.

อฏฺุปฺปตฺติวเสนาติ การณสมุฏฺานวเสน. ตทสฺส อฏฺุปฺปตฺตึ วิภาเวตุํ ‘‘สงฺฆมชฺเฌ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปฏิภานสมฺปนฺนวาจาย อฺเ อีสติ อภิภวตีติ วงฺคีโส. เตนาห ‘‘ปฏิภานสมฺปตฺติ’’นฺติอาทิ.

กิเลสุมฺมุชฺชนสตานีติ ราคาทิกิเลสานํ รชฺชนทุสฺสนาทินเยหิ สวิสเย อโยนิโส อุฏฺานานิ. ยทิ อเนกานิ สตานิ, อถ กสฺมา ‘‘อุมฺมคฺคปถ’’นฺติ? วุตฺตนฺติ อาห ‘‘วฏฺฏปถตฺตา ปน ปถ’’นฺติ. ราคโทสโมหมานทิฏฺิวเสน ราคขิลาทีนิ ปฺจขิลานิ. วิภชนฺตนฺติ วิภชนวเสน กเถนฺตํ. วิภชิตฺวาติ าเณน วิเวเจตฺวา.

อมเตอกฺขาเตติ อมตาวเห ธมฺเม เทสิเต. ธมฺมสฺส ปสฺสิตาโร สจฺจสมฺปฏิเวเธน. อสํหีรา ทิฏฺิวาเตหิ.

อติวิชฺฌิตฺวาติ ปฏิวิชฺฌิตฺวา. อติกฺกมภูตนฺติ อติกฺกมนฏฺเน ภูตํ. ทสทฺธานนฺติ ทสนฺนํ อุปฑฺฒานํ. เตนาห ‘‘ปฺจนฺน’’นฺติ. ชานนฺเตนาติ ธมฺมสฺส สุทุลฺลภตํ ชานนฺเตน.

ปโรสหสฺสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. โกณฺฑฺสุตฺตวณฺณนา

๒๑๗. เอวํคหิตนาโมติ ‘‘อฺาสิ วต, โภ, โกณฺฑฺโ’’ติ สตฺถุ วจนํ นิสฺสาย ภิกฺขูหิ อฺเหิ โกณฺฑฺนามเกหิ วิเสสนตฺถํ เอวํคหิตนาโม. ทฺวาทสนฺนํ สํวจฺฉรานํ วเสน จิรสฺสํ. ฉทฺทนฺตภวเนติ ฉทฺทนฺตนาคราชภวนฏฺาเน. ปฺวา มหาสาวโก รตฺตฺุตาย. ‘‘ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ เทวมนุสฺสานนฺติ ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ เทวานํ, อิมสฺมึ จกฺกวาเฬ เทวมนุสฺสานฺจาติ เอวํ ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ เทวมนุสฺสาน’’นฺติ วทนฺติ. อคฺคนฺติอาทิโต. ตตฺถาติ มนฺทากินิตีเร.

วสฺสคฺเคนาติ วสฺสปฏิปาฏิยา. นฺติ อฺาสิโกณฺฑฺตฺเถรํ. มหาพฺรหฺมานํ วิย โลกิยมนุสฺสา หรายนฺติ. ปาโมกฺขภูโต อายสฺมา เถโร อนฺตรนฺตรา ตตฺถ ตตฺถ ชนปเท วสิตฺวา ตทนุกฺกเมน มนฺทากินิตีรํ อุปคโต, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, ชนปเท วสิตุ’’นฺติ.

อานุภาวสมฺปนฺนา ทิพฺพายุกา เต หตฺถินาคาติ วุตฺตํ ‘‘ปุพฺเพ ปจฺเจกพุทฺธานํ ปาริจริยาย กตปริจยา’’ติ. เถรสฺส สฺจรณฏฺาเน อาวรณสาขา หริตฺวา อปเนตฺวา. มุโขทกฺเจว ทนฺตกฏฺฺจ เปตีติ สฬลเทวทารุกฏฺาทีนิ อฺมฺํ ฆํสิตฺวา อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา ชาเลตฺวา ตตฺถ ปาสาณขณฺฑานิ ตาเปตฺวา ตานิ ทณฺฑเกหิ วฏฺเฏตฺวา ตฬากาสุ อุทกโสณฺฑีสุ ขิปิตฺวา อุทกสฺส ตตฺตภาวํ ตฺวา นาคลตาทนฺตกฏฺํ อุปเนนฺโต มุโขทกฺจ เปติ. วตฺตํ กโรตีติ อนฺโตกุฏิยา พหิ จ ปมุเขปิ องฺคเณปิ สาขาภงฺเคหิ สมฺมชฺชนฺโต วกฺขมานนเยน อาหารํ อุปเนนฺโต วตฺตํ กโรติ.

ปติฏฺปฺปมาเณติ กฏิปฺปมาเณ, อยเมว วา ปาโ ตาว มหนฺตเมวาติ ยาว มหนฺตํ เสตปทุมวนํ , ตาว มหนฺตเมว. เอเสว นโย รตฺตกุมุทวนาทีสุ. ขาทนฺตา มนุสฺสา. ปกฺกปโยฆนิกา วิยาติ สุปกฺกปโยฆนํ วิย. ฆนภาเวน ปน ปกฺขิตฺตขุทฺทมธุ วิย โหติ. เตนาห ‘‘เอตํ โปกฺขรมธุ นามา’’ติ. มุฬาลนฺติ เสตปทุมานํ มูลํ. ภิสนฺติ เตสํเยว กนฺทํ. เอกสฺมึ ปพฺเพติ เอเกกสฺมึ ปพฺพนฺตเร. ปาทฆฏกนฺติ โทณสฺส จตุภาโค สณฺานโต ขุทฺทโก, ตสฺมา ปาทฆฏกปฺปมาณนฺติ ตุมฺพมตฺตํ. โสณฺฑิอาวาเฏติ ขุทฺทกโสณฺฑิโย เจว ขุทฺทกอาวาเฏ จ.

เอตํ โภชนนฺติ ยถาวุตฺตํ นิรุทกปายสโภชนํ. เกจิ สฺชานนฺติ เย เถรา วุฑฺฒตรา. เกจิ น สฺชานนฺติ เย นวา อจิรปพฺพชิตา.

พุทฺธานุพุทฺโธติ พุทฺธสฺส อนุพุทฺโธ. พาฬฺหวีริโยติ จตุนฺนํ สมฺมปฺปธานานํ วเสน จิรนิจิตวีริโย. ติณฺณํ วิเวกานนฺติ กายจิตฺตอุปธิวิเวกานํ ลาภีติ โยชนา. จตสฺโส วทติ วงฺคีสตฺเถโร สยํปฏิภานํ, น เสสาภิฺานํ อภาวโตติ อาห ‘‘อิตรา’’ติอาทิ. ปริสา สนฺนิสีทิ นิสฺสทฺทภาเวน ตุณฺหี อโหสีติ อตฺโถ. อนุชานาเปสีติ ปมํ อตฺตนา าตํ อุปฏฺิตํ อตฺตโน ปรินิพฺพานกาลํ อนุ ปจฺฉา สตฺถารํ ชานาเปสีติ เอวํ เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

นฺติ อาสาฬฺหิปุณฺณมาย อิสิปตเน ยํ ทสฺสนํ, ยํ วา ทุกฺกรจริยายํ ตุมฺหากํ อุปฏฺานํ อาทิโต ทสฺสนํ, ตํ, ภนฺเต, ปมทสฺสนํ. โอนตวินตาติ เหฏฺา อุปริ จ โอนตา วินตา. กมฺเปตฺวาติ โถกํ จาเลตฺวา ทสฺสนตฺถํ เอกนินฺนาโท เตสํ หตฺถินาคานฺเจว นาคยกฺขกุมฺภณฺฑานํ เทวตานฺจ สทฺเทน. พฺรหฺมาโน เทวานํ อทํสูติ สมฺพนฺโธ.

สชฺฌายมกํสุ ปสาทนีเยสุ ปสาทวเสน สนฺนิปติตปริสาย ปสาทชนนตฺถํ ภควติ นิกฺขมิตฺวาติ ภควติ คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา. ธรติเยวาติ อทุฏฺตํ ปตฺวา ติฏฺเตว.

โกณฺฑฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. โมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา

๒๑๘. ปจฺจเวกฺขตีติ เตสํ อริยานํ จิตฺตํ อตฺตโน าณจกฺขุนา ปติ อเวกฺขติ ปจฺจเวกฺขติ. ปพฺพตสฺสาติ อิสิคิลิปพฺพตสฺส. ทุกฺขปารํ คตนฺติ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปารํ ปริยนฺตํ คตํ . สพฺพคุณสมฺปนฺนนฺติ สพฺเพหิ พุทฺธคุเณหิ จ สาวกคุเณหิ จ ปริปุณฺณํ. อเนกาการสมฺปนฺนนฺติ รูปโฆสลูขธมฺมปฺปมาณิกานํ สตฺตานํ เตหิ เตหิ อากาเรหิ สพฺเพสฺจ อเนเกหิ อนนฺตาปริเมยฺเยหิ ปสีทิตพฺพากาเรหิ สมนฺนาคตํ. เต ปน อาการา ยสฺมา อนฺสาธารณา พุทฺธคุณา เอว, ตสฺมา อาห ‘‘อเนเกหิ คุเณหิ สมนฺนาคต’’นฺติ.

โมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. คคฺคราสุตฺตวณฺณนา

๒๑๙. เตติ เต เทวมนุสฺเส. ‘‘สรีรวณฺเณนาติ สรีเร ฉวิวณฺเณนา’’ติ วทนฺติ. สรีรวณฺเณนาติ วา ธมฺมรูปกายคุเณน. ‘‘ยสสา’’ติปิ ปาโ, โส เอวตฺโถ. วิคตมโลติ อพฺภามหิกาทีหิ วิคตูปกฺกิเลโส . ภาณุ วุจฺจติ ปภา, สาติสโย ภาณุ เอตสฺส อตฺถีติ ภาณุมา. สูริโยติ อาห ‘‘อาทิจฺโจ วิยา’’ติ.

คคฺคราสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. วงฺคีสสุตฺตวณฺณนา

๒๒๐. โส กิร วิจรตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ยถายํ ทีโป ชมฺพุทีโปติ ชมฺพุนา ปฺาโต, เอวาหมฺปิ เตน ชมฺพุนา ปฺายิสฺส’’นฺติ ชมฺพุสาขํ ปริหริตฺวา. วาทํ กตฺวาติ ‘‘อิมสฺมึ วาเท สเจ เต ปราชโย โหติ, ตฺวํ เม ทาโส โหหิ. สเจ เม ปราชโย, อหํ เต ภริยา’’ติ เอวํ กติกํ กตฺวา. วาเท ชยปราชยานุภาเวนาติ ตถาปวตฺติเต วาเท ปริพฺพาชกสฺส ชยานุภาเวน เจว อตฺตโน ปราชเยน จ. วยํ อาคมฺมาติ สิปฺปุคฺคหณวยํ อาคมฺม. วิชฺชนฺติ มนฺตํ.

นิพฺพตฺตคติวิภาวนวเสน ฉวสีสภาวํ ทูเสติ วินาเสตีติ ฉวทูสกํ สิปฺปํ, ตถาปวตฺตํ มนฺตปทํ. อตฺตโน อานุภาเวนาติ นิรเย นิพฺพตฺตสตฺตสฺส สีสํ ยตฺถ กตฺถจิ ิตํ พุทฺธานุภาเวน อาเนตฺวา ทสฺเสตฺวา. ขีณาสวสฺส สีสนฺติ ปรมปฺปิจฺฉตาย กฺจิปิ อชานาเปตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา ปรินิพฺพุตสฺส ขีณาสวสฺส ฉฑฺฑิตํ สีสกฏาหํ. ทสฺเสสีติ อตฺตโน อานุภาเวน อาเนตฺวา ทสฺเสสิ.

‘‘ตุมฺเห, โภ โคตม, ชานาถา’’ติ กามํ วงฺคีโส นิพฺพตฺตฏฺานํ สนฺธาย ปุจฺฉติ, ภควา ปน อนุปาทิเสสนิพฺพานํ สนฺธาย ‘‘อาม, วงฺคีส…เป… คตึ ชานามี’’ติ อาห. วุตฺตฺเหตํ ‘‘นิพฺพานํ อรหโต คตี’’ติ. วงฺคีโส สยํ มนฺตพเลน คติปริยาปนฺนสฺส คตึ ชานนฺโต ภควนฺตมฺปิ ‘‘อยมฺปิ ตถา’’ติ มฺมาโน ‘‘มนฺเตน ชานาสิ, โภ โคตมา’’ติ อาห. ภควา อตฺตโน พุทฺธาณเมว มนฺตํ กตฺวา ทีเปนฺโต ‘‘อาม, วงฺคีส, เอเกน มนฺเตเนว ชานามี’’ติ อาห. มุธา เอว ทาตพฺพนฺติ อมูลิโก. อนนฺตรหิตาย ภูมิยา สยนํ ถณฺฑิลเสยฺยา. อาทิ-สทฺเทน สายตติยํ อุทโกโรหณภูมิหรณาทึ สงฺคณฺหาติ. โส ตํ…เป… อรหตฺตํ ปาปุณีติ อิมินา วงฺคีสตฺเถโร ปพฺพชิตฺวา น จิรสฺเสว สุขาย ปฏิปทาย อรหตฺตํ ปตฺโต วิย ทิสฺสติ, น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ, อายตึ เถโร ปพฺพชิตฺวา สมถวิปสฺสนาสุ กมฺมํ อารภิตฺวาปิ ทุกฺขาย ปฏิปทาย ตาทิสํ กาลํ วีตินาเมตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตนาห –

‘‘นิกฺขนฺตํ วต มํ สนฺตํ, อคารสฺมานคาริยํ;

วิตกฺกา อุปธาวนฺติ, ปคพฺภา กณฺหโต อิเม’’. (สํ. นิ. ๑.๒๐๙; เถรคา. ๑๒๑๘);

อายสฺมโต วงฺคีสสฺส อนภิรติ อุปฺปนฺนา โหติ, ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสติ, ‘‘กามราเคน ฑยฺหามิ, จิตฺตํ เม ปริฑยฺหตี’’ติอาทิ (เถรคา. ๑๒๓๒).

วิมุตฺติสุขนฺติ สพฺพโส กิเลสวิมุตฺติยํ นิพฺพาเน จ อุปฺปนฺนํ สมฺปติอรหตฺตผลสุขํ ปฏิสํเวเทนฺโตติ ยถาปริจฺฉินฺนํ กาลํ ปติ สมฺมเทว เวเทนฺโต อนุภวนฺโต. กวินา กตํ, ตโต วา อาคตํ, ตสฺส วา อิทนฺติ กาเวยํ, ตเทเวตฺถ ‘‘กาเวยฺย’’นฺติ วุตฺตํ. เย นิยามคตทฺทสาติ เย ภิกฺขู อริยา พุทฺธานํ สาวกา ผลฏฺภาเวน นิยามคตา เจว มคฺคฏฺภาเวน นิยามทสา จ. นิยาโมติ หิ สมฺมตฺตนิยาโม อธิปฺเปโต. สุอาคมนนฺติ มม อิมสฺส สตฺถุโน สนฺติเก อาคมนํ อุปคมนํ, อิมสฺมิฺจ ธมฺมวินเย อาคมนํ ปพฺพชนํ อุปสมฺปทา สุนฺทรํ อาคมนํ. ตตฺถ การณมาห ‘‘ติสฺโส วิชฺชา’’ติอาทิ. อวุตฺตมฺปิ คาถาย อตฺถโต คหิตเมว เถรสฺส ฉฬภิฺภาวโต.

วงฺคีสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

วงฺคีสสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.