📜

๙. วนสํยุตฺตํ

๑. วิเวกสุตฺตวณฺณนา

๒๒๑. สํเวเชตุกามาติ อตฺถโต สํเวคํ อุปฺปาเทตุกามา. ตถาภูตา นํ กิเลสสงฺคณิกาทิโต วิเวเจตุกามา นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘วิเวกํ ปฏิปชฺชาเปตุกามา’’ติ. พาหิเรสูติ โคจรชฺฌตฺตโต พหิภูเตสุ. ปุถุตฺตารมฺมเณสูติ รูปาทินานารมฺมเณสุ. จรตีติ ปวตฺตติ. ตฺวํ ชโนติ ตฺวํ อตฺตโน กิเลเสหิ ชนนโต วิสุํ ชาโต ตาทิเส เอว อฺสฺมึ ชเน อิมํ อโยนิโสมนสิการวเสน ปวตฺตมานํ ฉนฺทราคํ วินยสฺสุ วิโนเทหิ. สตํ ตํ สารยามเสติ นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวา สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อรฺวาเสน จ สติมนฺตํ ปณฺฑิตํ ตํ มยมฺปิ ยถาอุปฺปนฺนํ วิตกฺกํ วิโนทนาย สารยาม, สตํ วา สปฺปุริสานํ กิเลสวิคมนธมฺมํ ปฏิปชฺชิตฺวา วสนฺตํ ตํ สารยาม วฏฺฏทุกฺขํ. ปาตาลนฺติ โมหปาตาลํ กิเลสรโช, ตเทว ‘‘ปาตาล’’นฺติ วุตฺตํ. มา อวหรีติ เหฏฺา ทุคฺคติโสตํ มา อุปเนสิ. สิตนฺติ สมฺพนฺธํ. เตนาห ‘‘สรีรลคฺค’’นฺติ. วิเวกมาปนฺโนติ กิเลสวิเวกํ สมถวิปสฺสนาภาวนมาปนฺโน. อุตฺตมวีริยนฺติ อุสฺโสฬฺหิลกฺขณปฺปตฺตํ วีริยํ, จตุพฺพิธํ สมปฺปธานวีริยํ วา สมฺปตฺตํ. ปคฺคยฺหาติ อาโรเปตฺวา. ปรมวิเวกนฺติ ปรมํ สมุจฺเฉทวิเวกํ.

วิเวกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อุปฏฺานสุตฺตวณฺณนา

๒๒๒. กายทรโถ โหติเยว นิยเมน, น จิตฺตทรโถ ตสฺส มคฺเคเนว สมุคฺฆาฏิตตฺตา.

ชราตุโรติ ชราภิภวเนน อาตุโรเยว. ปททฺวเยปิ เอเสว นโย. อุปริฏฺตาย ปริโต ทีฆปุถุลตาย อติวิย วิชฺฌตีติ สตฺติสลฺลคฺคหณํ. เอวํ หิสฺส ตณฺหาสลฺลสฺส สทิสตา. อวิชฺชาย ปน สมฺโมหาปาทเนน ทุกฺขาปาทเนน จ วิสสทิสตา. รุปฺปโตติ วิการํ อาปาทิยมานสฺส ปีฬิยมานสฺสาติ อตฺโถติ อาห ‘‘ฆฏฺฏิยมานสฺสา’’ติ.

ปพฺพชิตนฺติ สสนฺตานโต ปพฺพชิตํ วา ราคาทิมลโต ปพฺพชิตํ วา. ตสฺมาติ ยสฺมา เถรสฺเสเวตํ วจนํ, ตสฺมา อยํ อิทานิ วุจฺจมาโน เอตฺถ คาถาย อตฺโถ. เทวตาย หีติอาทิ วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส ปากฏกรณํ. เอตฺถาติ เสสคาถาสุ. อตฺถสฺส วุตฺตนยตฺตา ‘‘อนุตฺตานปทวณฺณนา’’ติ อาห. วินยาติ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนนฺติ ตสฺส เหตุมฺหิ กรณวจเนน อตฺถมาห ‘‘วินเยนา’’ติ. ตถา ‘‘สมติกฺกมา’’ติ เอตฺถาปิ. ปรมปริสุทฺธํ สํกิเลสสมุจฺฉินฺทนโต. อารทฺธวีริยนฺติ สมฺภาวิตวีริยํ. สมฺภาวนฺจสฺส ปคฺคณฺหนํ ปริปูรณฺจาติ อาห ‘‘ปคฺคหิตวีริยํ ปริปุณฺณวีริย’’นฺติ.

อุปฏฺานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. กสฺสปโคตฺตสุตฺตวณฺณนา

๒๒๓. เฉตนฺติ มิคานํ ชีวิตํ เฉตํ. เตนาห ‘‘มิคลุทฺทก’’นฺติ. โรหิตมิคนฺติ โลหิตวณฺณํ ขุทฺทกมิคํ, ‘‘มหาโรหิตมิค’’นฺติ เกจิ. สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ตสฺส ชนปทสฺส สุลภภิกฺขตาย ตตฺถ คนฺตฺวา วิหรตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย ‘‘ปมสุตฺเต วุตฺตนเยเนวา’’ติ วุตฺตํ. อยํ ปน เถโร ปฺจาภิฺโ วิปสฺสนากมฺมิโก. ตฺวาติ ปทานุพนฺธนวเสน คมนํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา เถรสฺส อาสนฺนฏฺาเน ตฺวา. ตสฺส วจนํ โสตุํ อารทฺโธ. องฺคุฏฺกํ ชาลาเปสีติ อธิฏฺานพเลน ทณฺฑทีปิกํ วิย อตฺตโน องฺคุฏฺกํ ชาลาเปสิ. อกฺขีหิปิ ปสฺสติ องฺคุฏฺกํ ชาลมานํ. กณฺเณหิปิ สุณาติ เตน วุจฺจมานํ ธมฺมํ เอกเทเสน. จิตฺตํ ปนสฺส ธาวตีติ สมฺพนฺโธ. เอตสฺสปีติ ลุทฺทกสฺสปิ.

อปฺปปฺนฺติ เอตฺถ อปฺป-สทฺโท ‘‘อปฺปหริเต’’ติอาทีสุ วิย อภาวตฺโถติ อาห ‘‘นิปฺปฺ’’นฺติ. การณชานนสมตฺเถนาติ อิมินา การเณน สตฺตานํ สุขํ, อิมินา ทุกฺขนฺติ เอวํ สมาจรมาเนน การณํ ชานิตุํ สมตฺเถน กมฺมสฺสกตาณสมฺปยุตฺตจิตฺเตนาติ อตฺโถ. สุณาตีติ เกวลํ สวนมตฺตวเสน สุณาติ, น ตทตฺถวเสน. เตนาห ‘‘อตฺถมสฺส น ชานาตี’’ติ. การณรูปานีติ สภาวการณานิ. กึ เม อิมินาติ? ‘‘อิทํ ปปฺจ’’นฺติ ปหาย. วีริยํ ปคฺคยฺหาติ จตุพฺพิธํ สมฺมปฺปธานํ วีริยํ ปคฺคณฺหิตฺวา.

กสฺสปโคตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สมฺพหุลสุตฺตวณฺณนา

๒๒๔. สมฺพหุลาติ สุตฺตนฺตนเยน สมฺพหุลา. สุตฺตนฺเต สชฺฌายึสูติ สุตฺตนฺติกา. วินยํ ธาเรนฺตีติ วินยธรา. ยุฺชนฺตีติ วาสธุเร โยคํ กโรนฺติ. ฆเฏนฺตีติ ตตฺถ วายามํ กโรนฺติ. กโรนฺตานํเยว อรุโณ อุคฺคจฺฉตีติ สมฺพนฺโธ.

โกเมติ กึ อิเม? เตนาห ‘‘กหํ อิเม’’ติ? วชฺชิภูมึ วชฺชิรฏฺํ คตาติ วชฺชิภูมิยา. เตนาห ‘‘วชฺชิรฏฺาภิมุขา คตา’’ติ. นตฺถิ เอเตสํ นิเกภํ นิพทฺธนิวาสฏฺานนฺติ อนิเกตา เตนาห ‘‘อเคหา’’ติ. อุตุ เอว สปฺปายํ, อุตุวเสน วา กายจิตฺตานํ กลฺลตฺตา สปฺปายํ. เอส นโย เสเสสุปิ.

สมฺพหุลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา

๒๒๕. อติเวลนฺติ อติพหุกาลํ. ภิกฺขุนา นาม อุปคตานํ อุปนิสินฺนกถามตฺตํ วตฺวา คนฺถธุเรหิ วาสธุเรหิ วา ยุตฺตปยุตฺตจิตฺเตน ภวิตพฺพํ, นาติเวลํ เตสํ สฺตฺติพหุเลน. เถโร ปน ตทา เกนจิ การเณน พหุเวลํ คิหิสฺตฺติพหุโล อโหสิ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อติเวล’’นฺติอาทิ. อิทานิ ตมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘ภควตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. นฺติ ตํ ตาทิสํ สฺาปนํ สนฺธาย เอตํ ‘‘อติเวลํ คิหิสฺตฺติพหุโล’’ติ วจนํ วุตฺตํ. ภิกฺขุสงฺฆสฺส กถํ สุตฺวาติ สงฺฆสฺส มชฺเฌ นิสีทิตฺวา เถเรน กถิตตฺตา วุตฺตํ. สตฺถุสาสนนฺติ ปิฏกตฺตยํ วทติ.

ปสกฺกิยาติ อุปสกฺกิตฺวา คนฺตฺวา. ตํ ปน ตตฺถ อชฺโฌคาหนํ โหตีติ อาห ‘‘ปวิสิตฺวา’’ติ. สงฺขารทุกฺขโต นิพฺพินฺนหทยสฺส สพฺพสงฺขารวินิสฺสฏํ นิพฺพานํ ยาถาวโต ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส สมฺมเทว สมสฺสาสกรํ หุตฺวา อุปฏฺหนฺตํ ตํ อุปริ อธิคมาย อุสฺสุกฺกํ กโรนฺโต นิพฺพานํ หทเย นิกฺขิปติ นามาติ อาห – ‘‘นิพฺพานํ…เป… โอเปติ นามา’’ติ. นิพฺพานํ…เป… อารมฺมณโต โอเปติ นามาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. อตฺถวิรหิตา ‘‘พิฬิพิฬี’’ติ ปวตฺตกิริยา พิฬิกา, อยํ ปน คิหิสฺตฺติกถา เถรสฺส อตฺตโน สามฺตฺถอสาธนโต เทวตาย พิฬิกา วิยาติ พิฬิพิฬิกาติ วุตฺตา.

อานนฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อนุรุทฺธสุตฺตวณฺณนา

๒๒๖. อนนฺตเรอตฺตภาเวติ อตีตานนฺตเร เทวตฺตภาเว. เถโร หิ ตาวตึสเทวโลกา จวิตฺวา อิธูปปนฺโน. อคฺคมเหสีติ กาจิ ปริจาริกา เทวธีตา จิตฺตปณิธานมตฺเตน อิทานิปิ เทวกาเย ภวิสฺสติ อุปจิตกุสลธมฺมตฺตาติ มฺมานา ตสฺมึ วตฺตมานํ วิย กเถนฺตี ‘‘โสภสี’’ติ อาห. เอวํ อตีตมฺปิสฺส ทิพฺพโสตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ วิย มฺเยฺย นาติจิรกาลตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปุพฺเพปิ โสภสี’’ติ อาห. สุคตินิรยาทิทุคฺคติยา วเสน ทุคฺคตา เอตรหีติ อธิปฺปาโย. ปฏิปตฺติทุคฺคติยา กาเมสุ สมฺมุจฺฉิตภาวโต.

ปติฏฺหนฺโตติ นิวิสนฺโต. อฏฺหิ การเณหีติ จิรกาลปริภาวนาย วิรุฬฺหมูเลหิ อโยนิโสมนสิการาทิปจฺจยมูลเกหิ วุจฺจมาเนหิ อฏฺหิ การเณหิ. รตฺโต ราควเสนาติ สภาวโต สงฺกปฺปโต จ ยถาสมีหิเต อิฏฺากาเร สกฺกาเย สฺชาตราควสา รตฺโต คิทฺโธ คธิโต. ปติฏฺาตีติ โอรุยฺห ติฏฺติ. ทุฏฺโ โทสวเสนาติ สภาวโต สงฺกปฺปโต จ ยถาสมีหิเต อนิฏฺากาเร สกฺกาเย สฺชาตโทสวเสน ทุฏฺโ รุปิตจิตฺโต. มูฬฺโห โมหวเสนาติ อสมเปกฺขเนน มูฬฺโห มุยฺหนวเสน. วินิพทฺโธติ อหํกาเรน วิเสสโต นิพนฺธนโต มานวตฺถุสฺมึ พนฺธิโต. มานวเสนาติ เตน เตน มฺนากาเรน. ปรามฏฺโติ ธมฺมสภาวํ นิจฺจาทิวเสน ปรโต อามฏฺโ. ทิฏฺิวเสนาติ มิจฺฉาทสฺสนวเสน. ถามคโตติ ราคาทิกิเลสวเสน ถามํ ถิรภาวํ อุปคโต. อนุสยวเสนาติ มคฺเคน อปฺปหีนตาย อนุ อนุ สนฺตาเน สยนวเสน. อปฺปหีนฏฺโ หิ เตสํ อนุสยฏฺโ. อนิฏฺงฺคโตติ สํสยิโต. วิกฺเขปคโตติ วิกฺขิตฺตภาวํ อุปคโต. อุทฺธจฺจวเสนาติ จิตฺตสฺส อุทฺธตภาววเสน. ตาปีติ ตาปิ เทวกฺาโย. เอวํ ปติฏฺิตาวาติ ยถาวุตฺตนเยน รตฺตภาวาทินา สกฺกายสฺมึ ปติฏฺิตา เอว. นรเทวานนฺติ ปุริสภูตเทวานํ.

ปฏิคนฺตุนฺติ อเปกฺขาวเสน ตโต อปคนฺตุํ อเปกฺขํ วิสฺสชฺเชตุํ. ทุสฺสนฺตนฺติ ทสนฺตํ, ‘‘วตฺถ’’นฺติ เกจิ. สูจึ โยเชตฺวาติ สิพฺพนสุตฺเตน สูจึ โยเชตฺวา ปาเส จ ปเวเสตฺวา. มนาปกาเย เทวนิกาเย ชาตา มนาปกายิกา. เตสํ ปภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘มนสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมชฺชนฺติ สํหิตํ. คมนภาวนฺติ คมนชฺฌาสยํ. วิกฺขีโณติ วิจฺฉินฺทนวเสน ขีโณ. เทวตานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจเน โทโส นตฺถีติ ตาสํ ปุน อนาคมนตฺถํ อรหตฺตํ พฺยากาสิ.

อนุรุทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. นาคทตฺตสุตฺตวณฺณนา

๒๒๗. อติกาเลนาติ อติวิย ปุพฺพณฺหกาเลน, กาลสฺเสวาติ อตฺโถ. โกฏิสมฺมุฺชนิยาติ สมฺมุฺชนิโกฏิยา, สมฺมุฺชนิยา เอกเทเสเนวาติ อตฺโถ. อิมินา สมฺมชฺชเน อมนาปการิตํ ทสฺเสติ. มชฺฌนฺหิเก วีติวตฺเตติ คิหิสํสคฺควเสน กาลํ วีตินาเมนฺโต มชฺฌนฺเห พหุวีติวตฺเต. อฺเหิ ภิกฺขูหีติ นาติกาลํ ปวิฏฺเหิ. นิสฺสกฺกวจนฺเจตํ. ภายามิ นาคทตฺตนฺติ ตสฺส ปฏิปตฺตึ ภายิตพฺพํ กตฺวา เทวตา วทนฺตี ปฏิปตฺติยํ นิโยเชติ. สุปฺปคพฺภนฺติ กายปาคพฺพิยาทีหิ อติวิย สมนฺนาคตํ.

นาคทตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. กุลฆรณีสุตฺตวณฺณนา

๒๒๘. โอคาหปฺปตฺโตติ วิสฺสาสวเสน อนุปฺปเวสํ ปตฺโต. อฺตรํ กุลนฺติ ตสฺมึ กุเล ชายมฺปตึ สนฺธาย วทติ. ‘‘พหูปการํ เม เอตํ กุลํ จิรํ สปฺปายาหารทานาทินา; ตสฺมา อิธาหํ อคฺคทกฺขิเณยฺโย ชาโต; อิเมสํเยว เทยฺยธมฺมปฏิคฺคณฺหเนน ปุฺํ วฑฺเฒสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. เตนาห ‘‘อฺตฺถ คนฺตฺวา กึ กริสฺสามี’’ติอาทิ. สาติ เทวตา. อุโภเปเตติ ตํ ภิกฺขุฺจ ฆรณิฺจ สนฺธาย วทติ. ปฏิคาธปฺปตฺตาติ ปฏิคาธํ ปตฺตา อฺมฺสฺมึ ปติฏฺิตวิสฺสาเสน.

วิสฺสมปฺปตฺติวเสน สนฺติฏฺนฺติ เอตฺถาติ สณฺานํ, วิสฺสมนฏฺานํ. สมาคนฺตฺวาติ สนฺนิปติตฺวา. ปฏิฺูทาหรเณหิ มนฺตยตีติ มนฺตนํ, าปกํ การณํ. ปฏิโลมสทฺทาติ ปฏิโลมภาเวน ปติตตฺตา อสจฺจวิภาวนา ปฏิกูลสทฺทา. เตน การเณนาติ เตน การณปฏิรูปเกน มิจฺฉาวจเนน. น มงฺกุโหตพฺพํ อการกภาวโต. สทฺเทน ปริตสฺสตีติ ปเรหิ อตฺตนิ ปยุตฺตมิจฺฉาสทฺทมตฺเตน ปริตสฺสนสีโล. วตํ น สมฺปชฺชตีติ ยถาสมาทินฺนวตํ ลหุจิตฺตตาย น ปาริปูรึ คจฺฉติ. สมฺปนฺนวโตติ ปริปุณฺณสีลาทิวตคุโณ

กุลฆรณีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. วชฺชิปุตฺตสุตฺตวณฺณนา

๒๒๙. วชฺชิรฏฺเ ราชปุตฺโตติ วชฺชิรฏฺเ ชาตสํวทฺโธ วชฺชิราชปุตฺโต. สพฺพรตฺติจาโรติ ฉณสมฺปตฺติยา อิโต จิโต จรนฺเตหิ อนุภวิตพฺพนกฺขตฺตมโห. เตนาห ‘‘กตฺติกนกฺขตฺตํ โฆเสตฺวา’’ ติอาทิ. เอกาพทฺธํ โหตีติ ยสฺมา จาตุมหาราชิกเทวา ตสฺมึ ทิวเส นกฺขตฺตํ โฆเสตฺวา อตฺตโน ปุฺานุภาวสิทฺธาย ทิพฺพสมฺปตฺติยา มหนฺตํ นกฺขตฺตกีฬาสุขํ อนุภวนฺติ, ตสฺมา ตํ เตหิ เอกาพทฺธํ วิย โหติ. เภริอาทิตูริยานนฺติ เภริมุทิงฺคสงฺขปณววีณาทิตูริยานํ. ตาฬิตานนฺติ อารทฺธลยานุรูปํ ปหฏานํ. วีณาทีนนฺติ วีณาเวณุโคมุขีอาทีนํ. วาทิตานนฺติ ยถารทฺธมุจฺฉนานุรูปํ สงฺฆฏฺฏิตานํ. อภาสีติ เตน สทฺเทน อากฑฺฒิยมานหทโย อโยนิโส อุมฺมุชฺชิตฺวา ‘‘มหตี วต เม ชานี’’ติ อนุตฺถุนนฺโต อภาสิ. ฉฑฺฑิตทารุกํ วิยาติ วเน ฉฑฺฑิตนิรตฺถกกฬิงฺครํ วิย. ลามกตโรติ นิหีนตโร. เทวตา ปมปฺปิตํ อาณึ ปฏาณิยา นีหรนฺตี วิย เตน ภิกฺขุนา วุตฺตมตฺถํ อปเนนฺตี ‘‘ตสฺส เต พหุกา ปิหยนฺตี’’ติ อโวจาติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เถโร’’ติอาทิมาห. สคฺคํ คจฺฉนฺตานํ ยถา เนรยิกา ปิหยนฺติ, เอวํ สมฺมาปฏิปนฺนสฺส ตุยฺหํ พหู ปิหยนฺติ, ตสฺมา ตฺวํ ‘‘ปาปิโย’’ติ อตฺตานํ มา มฺิตฺถาติ อธิปฺปาโย.

วชฺชิปุตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สชฺฌายสุตฺตวณฺณนา

๒๓๐. นิสฺสรณปริยตฺติวเสนาติ อทฺธา อิมํ ปริยตฺตึ นิสฺสาย วฏฺฏทุกฺขโต นิสฺสริตุํ ลพฺภาติ เอวํ นิสฺสรณปริยตฺติวเสน. สชฺฌายนโตติ วิมุตฺตายตนสีเส ตฺวา สชฺฌายนโต. อิทานิ ตสฺส นิสฺสรณปริยตฺติวเสน สชฺฌายนกรณํ, ปฏิปตฺติวเสน วตฺตปฏิวตฺตกรณํ, วิปสฺสนาภาวนฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘โส กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อรหตฺตํ ปตฺตทิวเส ปฏิปตฺติกิตฺตนาย ปุริมทิวเสสุปิ ตถา ปฏิปชฺชิ, วิปสฺสนํ ปน อุสฺสุกฺกาเปตุํ นาสกฺขีติ ทสฺเสติ. กาลํ อติวตฺเตตีติ อิทํ ‘‘สงฺกสายตี’’ติ ปทสฺส อตฺถวจนํ. เถรสฺสาติ สชฺฌายกตฺเถรสฺส.

ธมฺมปทานีติ สีลาทิธมฺมกฺขนฺธทีปกานิ ปทานิ. เตนาห ‘‘สพฺพมฺปิ พุทฺธวจนํ อธิปฺเปต’’นฺติ. น คณฺหาสิ อุทฺเทสนฺติ อธิปฺปาโย. ปาฬิยํ ‘‘ภิกฺขูหิ สํวสนฺโต’’ติ อิมินา เตสํ ธมฺมสฺสวนตฺถายปิ ธมฺโม ปริยาปุณิตพฺโพติ ทสฺเสติ. วิรชฺชติ เอเตนาติ วิราโค, อริยมคฺโค. ชานิตฺวาติ ปริฺาภิสมยวเสน ทิฏฺสุตาทึ ยาถาวโต ชานิตฺวา ปฏิวิชฺฌิตฺวา. วิสฺสชฺชนนฺติ ปหานํ. น พุทฺธวจนสฺส วิสฺสชฺชนํ. ภณฺฑาคาริกปริยตฺติยาปิ อนุฺาตตฺตา ปเคว นิสฺสรณตฺถาย, ตตฺถ ปน มตฺตา ชานิตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอตฺตาวตา’’ติอาทิมาห.

สชฺฌายสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. อกุสลวิตกฺกสุตฺตวณฺณนา

๒๓๑. อกุสเลวิตกฺเกติ อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเน อกุสเล มิจฺฉาวิตกฺเก. โยนิ วุจฺจติ อุปาโย, ตสฺมา อสุภาทิเก สุภาทิวเสน มนสิกาโร อโยนิโสมนสิกาโรติ อาห ‘‘อนุปายมนสิกาเรนา’’ติ. ปาสาทิกกมฺมฏฺานนฺติ ปสาทาวหํ พุทฺธานุสฺสติอาทิกมฺมฏฺานํ. พลวปีติฺจ สุขฺจาติ นีวรณวิกฺขมฺภนโต พลวนฺตํ อุปจารชฺฌานสหคตํ ปีติฺจ สุขฺจ.

อกุสลวิตกฺกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. มชฺฌนฺหิกสุตฺตวณฺณนา

๒๓๒. นนฺทนวคฺเคติ นนฺทนวคฺควณฺณนายํ ตตฺถ อิธาปิ คาถาย วิเสสาภาวโต. ยทิ เอวํ กสฺมา ตตฺถ สงฺคีตํ อิธ คหิตนฺติ? เทวตาปฏิสํยุตฺตตํ อุปาทาย เทวตาสํยุตฺเต สงฺคหิตมฺปิ อฏฺุปฺปตฺติยา ปฏิสํยุตฺตตฺตา อิธ คหิตํ.

มชฺฌนฺหิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. ปากตินฺทฺริยสุตฺตวณฺณนา

๒๓๓. เตรสเม ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วิตฺถาริตเมวาติ โยชนา. ชนฺตุเทวปุตฺตสุตฺเตติ ชนฺตุเทวปุตฺตสุตฺตสํวณฺณนาย. ‘‘ตตฺถ สงฺคีตํ อิธาปี’’ติอาทิ อนนฺตรสุตฺตวณฺณนายํ วุตฺตนยเมว.

ปากตินฺทฺริยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔. คนฺธตฺเถนสุตฺตวณฺณนา

๒๓๔. คนฺธารมฺมณํอุปนิชฺฌายตีติ คนฺธสงฺขาตํ อารมฺมณํ อุเปจฺจ นิชฺฌายติ, รูปารมฺมเณน วิย วิฺาเณน รูปํ, คนฺธารมฺมเณน ตํ อุเปจฺจ นิชฺฌายติ ปจฺจกฺขโต, ยาถาวโต สภาวโต ปฏิวิชฺฌตีติ อตฺโถ. อุปสิงฺฆิสฺสตีติ ตณฺหาวเสน อุปคนฺตฺวา สิงฺฆิสฺสติ.

เอกงฺคเมตํเถยฺยานนฺติ อารมฺมณวเสน เถยฺยวตฺถูสุ วิภชิยมาเนสุ เอกมงฺคเมตํ คนฺธารมฺมณนฺติ อาห ‘‘เถนิตพฺพาน’’นฺติอาทิ. โอชาเปกฺขาย เถยฺยาย ปวตฺตมานาย ธมฺมารมฺมณตาปิ ตสฺสา สิยา, สา ปน น มธุรา เถยฺยกตา จาติ ‘‘ปฺจโกฏฺาสาน’’นฺติ วุตฺตํ. กามฺจ ตํ คนฺธารมฺมณํ เกนจิ ปริคฺคหิตํ น โหตีติ อาทิยิตุํ สกฺกา, สตฺถารา ปน อนนุฺาตตฺตา น ยุตฺโต ตสฺส ปริโภโค. ยํ ปน เตน ภิกฺขุนา วุตฺตํ ‘‘น หรามิ น ภฺชามี’’ติ, ตสฺสปิ อยเมว ปริหาโร. วณฺณียติ ผลํ เอเตนาติ วณฺณํ, การณนฺติ วุตฺตํ ‘‘วณฺเณนาติ การเณนา’’ติ.

ตสฺมินฺติ ตสฺมึ ภิกฺขุสฺมึ. อากิณฺณกมฺมนฺโตติ ตณฺหาทิฏฺิอาทิวเสน อกุสลกมฺมนฺโต ทิฏฺิโมหตณฺหาทิวเสน อาทิโต ปฏฺาย กุสลกมฺมานํ ปฏิกฺเขปนโต. ทิฏฺิวเสน จ กถินกกฺขฬขริคตตฺตา ‘‘อขีณกมฺมนฺโต กกฺขฬกมฺมนฺโต’’ติ วุตฺตํ.

อากิณฺณลุทฺโทติ อากิณฺโณ หุตฺวา กกฺขโฬ. เตนาห ‘‘พหุปาโป’’ติอาทิ. มกฺขิโตติ ลิตฺโต. นฺติ เทวตาโจทนํ. ตสฺมาติ อติกฺกมฺม ิตตฺตา‘‘ตฺวฺจารหามิ วตฺตเว’’ติ เอวมาห.

คเวสนฺตสฺส อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปาทนวเสน ปริเยสนฺตสฺส. อเนกโยชนายามวิตฺถารํ คคนตลํ พฺยาเปตฺวา อุปฺปนฺนวลาหกกูฏปฺปมาณํ วิย. สุทฺโธติ สีเลน ปริสุทฺโธ อยนฺติ ชานาสิ. สุคตินฺติ สุนฺทรนิพฺพตฺตึ. เตน นิพฺพานสฺสปิ สงฺคโห สิทฺโธ.

คนฺธตฺเถนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

วนสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.