📜

๓. ธาตุสํยุตฺตํ

๑. นานตฺตวคฺโค

๑.ธาตุนานตฺตสุตฺตวณฺณนา

๘๕. ธาตุสํยุตฺตสฺส ปเม นิสฺสตฺตฏฺสุฺตฏฺสงฺขาเตน สภาวฏฺเน ธาตูติ ลทฺธนามานํ ธมฺมานํ นานาสภาโว ธาตุนานตฺตํ. จกฺขุธาตูติอาทีสุ จกฺขุปสาโท จกฺขุธาตุ, รูปารมฺมณํ รูปธาตุ, จกฺขุปสาทวตฺถุกํ จิตฺตํ จกฺขุวิฺาณธาตุ. โสตปสาโท โสตธาตุ, สทฺทารมฺมณํ สทฺทธาตุ, โสตปสาทวตฺถุกํ จิตฺตํ โสตวิฺาณธาตุ. ฆานปสาโท ฆานธาตุ, คนฺธารมฺมณํ คนฺธธาตุ, ฆานปสาทวตฺถุกํ จิตฺตํ ฆานวิฺาณธาตุ. ชิวฺหาปสาโท ชิวฺหาธาตุ, รสารมฺมณํ รสธาตุ, ชิวฺหาปสาทวตฺถุกํ จิตฺตํ ชิวฺหาวิฺาณธาตุ. กายปสาโท กายธาตุ, โผฏฺพฺพารมฺมณํ โผฏฺพฺพธาตุ, กายปสาทวตฺถุกํ จิตฺตํ กายวิฺาณธาตุ. ติสฺโส มโนธาตุโย มโนธาตุ, เวทนาทโย ตโย ขนฺธา สุขุมรูปานิ นิพฺพานฺจ ธมฺมธาตุ, สพฺพมฺปิ มโนวิฺาณํ มโนวิฺาณธาตูติ. เอตฺถ จ โสฬส ธาตุโย กามาวจรา, อวสาเน ทฺเว จตุภูมิกาติ. ปมํ.

๒. ผสฺสนานตฺตสุตฺตวณฺณนา

๘๖. ทุติเย อุปฺปชฺชติ ผสฺสนานตฺตนฺติ นานาสภาโว ผสฺโส อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ จกฺขุสมฺผสฺสาทโย จกฺขุวิฺาณาทิสมฺปยุตฺตา, มโนสมฺผสฺโส มโนทฺวาเร ปมชวนสมฺปยุตฺโต, ตสฺมา. มโนธาตุํ ปฏิจฺจาติ มโนทฺวาราวชฺชนํ กิริยามโนวิฺาณธาตุํ ปฏิจฺจ ปมชวนสมฺผสฺโส อุปฺปชฺชตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ทุติยํ.

๓. โนผสฺสนานตฺตสุตฺตวณฺณนา

๘๗. ตติเย โน มโนสมฺผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ มโนธาตูติ มโนทฺวาเร ปมชวนสมฺปยุตฺตํ ผสฺสํ ปฏิจฺจ อาวชฺชนกิริยามโนวิฺาณธาตุ โน อุปฺปชฺชตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตติยํ.

๔. เวทนานานตฺตสุตฺตวณฺณนา

๘๘. จตุตฺเถ จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนาติ สมฺปฏิจฺฉนมโนธาตุโต ปฏฺาย สพฺพาปิ ตสฺมึ ทฺวาเร เวทนา วตฺเตยฺยุํ, นิพฺพตฺติผาสุกตฺถํ ปน อนนฺตรํ สมฺปฏิจฺฉนเวทนเมว คเหตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. มโนสมฺผสฺสํ ปฏิจฺจาติ มโนทฺวาเร อาวชฺชนสมฺผสฺสํ ปฏิจฺจ ปมชวนเวทนา, ปมชวนสมฺผสฺสํ ปฏิจฺจ ทุติยชวนเวทนาติ อยมธิปฺปาโย. จตุตฺถํ.

๕. ทุติยเวทนานานตฺตสุตฺตวณฺณนา

๘๙. ปฺจเม ตติยจตุตฺเถสุ วุตฺตนยาว เอกโต กตฺวา เทสิตาติ. อิติ ทุติยาทีสุ จตูสุ สุตฺเตสุ มโนธาตุํ มโนธาตูติ อคเหตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนํ มโนธาตูติ คหิตํ. สพฺพานิ เจตานิ ตถา ตถา กถิเต พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสเยน เทสิตานิ. อิโต ปเรสุปิ เอเสว นโย. ปฺจมํ.

๖. พาหิรธาตุนานตฺตสุตฺตวณฺณนา

๙๐. ฉฏฺเ ปน ปฺจ ธาตุโย กามาวจรา, ธมฺมธาตุ จตุภูมิกาติ. ฉฏฺํ.

๗. สฺานานตฺตสุตฺตวณฺณนา

๙๑. สตฺตเม รูปธาตูติ อาปาเถ ปติตํ อตฺตโน วา ปรสฺส วา สาฏกเวนาทิวตฺถุกํ รูปารมฺมณํ. รูปสฺาติ จกฺขุวิฺาณสมฺปยุตฺตา สฺา. รูปสงฺกปฺโปติ สมฺปฏิจฺฉนาทีหิ ตีหิ จิตฺเตหิ สมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป. รูปจฺฉนฺโทติ รูเป ฉนฺทิกตฏฺเน ฉนฺโท. รูปปริฬาโหติ รูเป อนุฑหนฏฺเน ปริฬาโห. รูปปริเยสนาติ ปริฬาเห อุปฺปนฺเน สนฺทิฏฺสมฺภตฺเต คเหตฺวา ตสฺส รูปสฺส ปฏิลาภตฺถาย ปริเยสนา. เอตฺถ จ สฺาสงฺกปฺปฉนฺทา เอกชวนวาเรปิ นานาชวนวาเรปิ ลพฺภนฺติ, ปริฬาหปริเยสนา ปน นานาชวนวาเรเยว ลพฺภนฺตีติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ธาตุนานตฺตนฺติ เอตฺถ จ เอวํ รูปาทินานาสภาวํ ธาตุํ ปฏิจฺจ รูปสฺาทินานาสภาวสฺา อุปฺปชฺชตีติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สตฺตมํ.

๘. โนปริเยสนานานตฺตสุตฺตวณฺณนา

๙๒. อฏฺเม โน ธมฺมปริเยสนํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ธมฺมปริฬาโหติ เอวํ อาคตํ ปฏิเสธมตฺตเมว นานํ. อฏฺมํ.

๙. พาหิรผสฺสนานตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา

๙๓-๙๔. นวเม อุปฺปชฺชติ รูปสฺาติ วุตฺตปฺปกาเร อารมฺมเณ อุปฺปชฺชติ สฺา. รูปสงฺกปฺโปติ ตสฺมึเยว อารมฺมเณ ตีหิ จิตฺเตหิ สมฺปยุตฺตสงฺกปฺโป. รูปสมฺผสฺโสติ ตเทวารมฺมณํ ผุสมาโน ผสฺโส. เวทนาติ ตเทว อารมฺมณํ อนุภวมานา เวทนา. ฉนฺทาทโย วุตฺตนยาว. รูปลาโภติ ปริเยสิตฺวา ลทฺธํ สห ตณฺหาย อารมฺมณํ ‘‘รูปลาโภ’’ติ วุตฺตํ. อยํ ตาว สพฺพสงฺคาหิกนโย เอกสฺมึ เยวารมฺมเณ สพฺพธมฺมานํ อุปฺปตฺติวเสน วุตฺโต. อปโร อาคนฺตุการมฺมณมิสฺสโก โหติ – รูปสฺา รูปสงฺกปฺโป ผสฺโส เวทนาติ อิเม ตาว จตฺตาโร ธมฺมา ธุวปริโภเค นิพทฺธารมฺมเณ โหนฺติ. นิพทฺธารมฺมณฺหิ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ ปิยํ ยํกิฺจิ วิย อุปฏฺาติ, อาคนฺตุการมฺมณํ ปน ยํกิฺจิ สมานมฺปิ โขเภตฺวา ติฏฺติ.

ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร อมจฺจปุตฺโต คามิเยหิ ปริวาริโต คามมชฺเฌ ตฺวา กมฺมํ กโรติ. ตสฺมิฺจสฺส สมเย อุปาสิกา นทึ คนฺตฺวา นฺหตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺตา ธาติคณปริวุตา เคหํ คจฺฉติ. โส ทูรโต ทิสฺวา ‘‘อาคนฺตุกมาตุคาโม ภวิสฺสตี’’ติ สฺํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘คจฺฉ, ภเณ ชานาหิ, กา เอสา’’ติ ปุริสํ เปเสสิ. โส คนฺตฺวา ตํ ทิสฺวา ปจฺจาคโต, ‘‘กา เอสา’’ติ ปุฏฺโ ยถาสภาวํ อาโรเจสิ. เอวํ อาคนฺตุการมฺมณํ โขเภติ . ตสฺมึ อุปฺปนฺโน ฉนฺโท รูปฉนฺโท นาม, ตเทว อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺโน ปริฬาโห รูปปริฬาโห นาม, สหาเย คณฺหิตฺวา ตสฺส ปริเยสนํ รูปปริเยสนา นาม, ปริเยสิตฺวา ลทฺธํ สห ตณฺหาย อารมฺมณํ รูปลาโภ นาม.

อุรุวลฺลิยวาสี จูฬติสฺสตฺเถโร ปนาห – ‘‘กิฺจาปิ ภควตา ผสฺสเวทนา ปาฬิยา มชฺเฌ คหิตา, ปาฬึ ปน ปริวฏฺเฏตฺวา วุตฺตปฺปกาเร อารมฺมเณ อุปฺปนฺนา สฺา รูปสฺา, ตสฺมึเยว สงฺกปฺโป รูปสงฺกปฺโป ตสฺมึ ฉนฺโท รูปจฺฉนฺโท, ตสฺมึ ปริฬาโห รูปปริฬาโห, ตสฺมึ ปริเยสนา รูปปริเยสนา, ปริเยสิตฺวา ลทฺธํ สห ตณฺหาย อารมฺมณํ รูปลาโภ. เอวํ ลทฺธารมฺมเณ ปน ผุสนํ ผสฺโส, อนุภวนํ เวทนา. รูปสมฺผสฺโส รูปสมฺผสฺสชา เวทนาติ อิทํ ทฺวยํ ลพฺภตี’’ติ. อปรมฺปิ อวิภูตวารํ นาม คณฺหนฺติ. อารมฺมณฺหิ สาณิปากาเรหิ วา ปริกฺขิตฺตํ ติณปณฺณาทีหิ วา ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, ตํ ‘‘อุปฑฺฒํ ทิฏฺํ เม อารมฺมณํ, สุฏฺุ นํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ โอโลกยโต ตสฺมึ อารมฺมเณ อุปฺปนฺนา สฺา รูปสฺา นาม. ตสฺมึเยว อุปฺปนฺนา สงฺกปฺปาทโย รูปสงฺกปฺปาทโย นามาติ เวทิตพฺพา. เอตฺถาปิ จ สฺาสงฺกปฺปผสฺสเวทนาฉนฺทา เอกชวนวาเรปิ นานาชวนวาเรปิ ลพฺภนฺติ, ปริฬาหปริเยสนาลาภา นานาชวนวาเรเยวาติ. ทสมํ อุตฺตานเมวาติ. นวมทสมานิ.

นานตฺตวคฺโค ปโม.

๒. ทุติยวคฺโค

๑. สตฺตธาตุสุตฺตวณฺณนา

๙๕. ทุติยวคฺคสฺส ปเม อาภาธาตูติ อาโลกธาตุ. อาโลกสฺสปิ อาโลกกสิเณ ปริกมฺมํ กตฺวา อุปฺปนฺนชฺฌานสฺสาปีติ สหารมฺมณสฺส ฌานสฺส เอตํ นามํ. สุภธาตูติ สุภกสิเณ อุปฺปนฺนชฺฌานวเสน สหารมฺมณชฺฌานเมว . อากาสานฺจายตนเมว อากาสานฺจายตนธาตุ. สฺาเวทยิตนิโรโธว สฺาเวทยิตนิโรธธาตุ. อิติ ภควา อนุสนฺธิกุสลสฺส ภิกฺขุโน ตตฺถ นิสีทิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิตุกามสฺส โอกาสํ เทนฺโต เทสนํ นิฏฺาเปสิ.

อนฺธการํปฏิจฺจาติ อนฺธกาโร หิ อาโลเกน ปริจฺฉินฺโน, อาโลโกปิ อนฺธกาเรน. อนฺธกาเรน หิ โส ปากโฏ โหติ. ตสฺมา ‘‘อนฺธการํ ปฏิจฺจ ปฺายตี’’ติ อาห. อสุภํ ปฏิจฺจาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อสุภฺหิ สุเภน, สุภฺจ อสุเภน ปริจฺฉินฺนํ, อสุเภ สติ สุภํ ปฺายติ, ตสฺมา เอวมาห. รูปํ ปฏิจฺจาติ รูปาวจรสมาปตฺตึ ปฏิจฺจ. รูปาวจรสมาปตฺติยา หิ สติ อากาสานฺจายตนสมาปตฺติ นาม โหติ รูปสมติกฺกโม วา, ตสฺมา เอวมาห. วิฺาณฺจายตนธาตุอาทีสุปิ เอเสว นโย. นิโรธํ ปฏิจฺจาติ จตุนฺนํ ขนฺธานํ ปฏิสงฺขาอปฺปวตฺตึ ปฏิจฺจ. ขนฺธนิโรธฺหิ ปฏิจฺจ นิโรธสมาปตฺติ นาม ปฺายติ, น ขนฺธปวตฺตึ, ตสฺมา เอวมาห. เอตฺถ จ จตุนฺนํ ขนฺธานํ นิโรโธว นิโรธสมาปตฺตีติ เวทิตพฺโพ.

กถํ สมาปตฺติ ปตฺตพฺพาติ กถํ สมาปตฺติโย กีทิสา สมาปตฺติโย นาม หุตฺวา ปตฺตพฺพาติ? สฺาสมาปตฺติ ปตฺตพฺพาติ สฺาย อตฺถิภาเวน สฺาสมาปตฺติโย สฺาสมาปตฺติโย นาม หุตฺวา ปตฺตพฺพา. สงฺขาราวเสสสมาปตฺติ ปตฺตพฺพาติ สุขุมสงฺขารานํ อวสิฏฺตาย สงฺขาราวเสสสมาปตฺติ นาม หุตฺวา ปตฺตพฺพา. นิโรธสมาปตฺติ ปตฺตพฺพาติ นิโรโธว นิโรธสมาปตฺติ นิโรธสมาปตฺติ นาม หุตฺวา ปตฺตพฺพาติ อตฺโถ. ปมํ.

๒. สนิทานสุตฺตวณฺณนา

๙๖. ทุติเย สนิทานนฺติ ภาวนปุํสกเมตํ, สนิทาโน สปจฺจโย หุตฺวา อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. กามธาตุํ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจาติ เอตฺถ กามวิตกฺโกปิ กามธาตุ กามาวจรธมฺมาปิ, วิเสสโต สพฺพากุสลมฺปิ. ยถาห –

‘‘ตตฺถ กตมา กามธาตุ? กามปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก สงฺกปฺโป อปฺปนา พฺยปฺปนา เจตโส อภินิโรปนา มิจฺฉาสงฺกปฺโป, อยํ วุจฺจติ กามธาตุ. เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทเว อนฺโตกริตฺวา ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา ขนฺธธาตุอายตนา รูปา เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณํ, อยํ วุจฺจติ กามธาตุ. สพฺเพปิ อกุสลา ธมฺมา กามธาตู’’ติ (วิภ. ๑๘๒).

เอตฺถ สพฺพสงฺคาหิกา อสมฺภินฺนาติ ทฺเว กถา โหนฺติ. กถํ? กามธาตุคฺคหเณน หิ พฺยาปาทธาตุวิหึสาธาตุโย คหิตา โหนฺตีติ อยํ สพฺพสงฺคาหิกา. ตาสํ ปน ทฺวินฺนํ ธาตูนํ วิสุํ อาคตตฺตา เสสธมฺมา กามธาตูติ อยํ อสมฺภินฺนกถา. อยมิธ คเหตพฺพา อิมํ กามธาตุํ อารมฺมณวเสน วา สมฺปโยควเสน วา ปฏิจฺจ กามสฺา นาม อุปฺปชฺชติ. กามสฺํปฏิจฺจาติ กามสฺํ ปน สมฺปโยควเสน วา อุปนิสฺสยวเสน วา ปฏิจฺจ กามสงฺกปฺโป นาม อุปฺปชฺชติ. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตีหิ าเนหีติ ตีหิ การเณหิ. มิจฺฉา ปฏิปชฺชตีติ อยาถาวปฏิปทํ อนิยฺยานิกปฏิปทํ ปฏิปชฺชติ.

พฺยาปาทธาตุํ, ภิกฺขเวติ เอตฺถ พฺยาปาทวิตกฺโกปิ พฺยาปาทธาตุ พฺยาปาโทปิ. ยถาห –

‘‘ตตฺถ กตมา พฺยาปาทธาตุ? พฺยาปาทปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก…เป… อยํ วุจฺจติ พฺยาปาทธาตุ. ทสสุ อาฆาตวตฺถูสุ จิตฺตสฺส อาฆาโต ปฏิวิโรโธ โกโป ปโกโป…เป… อนตฺตมนตา จิตฺตสฺส, อยํ วุจฺจติ พฺยาปาทธาตู’’ติ (วิภ. ๑๘๒).

อิมํ พฺยาปาทธาตุํ สหชาตปจฺจยาทิวเสน ปฏิจฺจ พฺยาปาทสฺา นาม อุปฺปชฺชติ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.

วิหึสาธาตุํ, ภิกฺขเวติ เอตฺถ วิหึสาวิตกฺโกปิ วิหึสาธาตุ วิหึสาปิ. ยถาห –

‘‘ตตฺถ กตมา วิหึสาธาตุ? วิหึสาปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก…เป… อยํ วุจฺจติ วิหึสาธาตุ. อิเธกจฺโจ ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา รชฺชุยา วา อฺตรฺตเรน วา สตฺเต วิเหเติ. ยา เอวรูปา เหนา วิเหนา หึสนา วิหึสนา โรสนา ปรูปฆาโต, อยํ วุจฺจติ วิหึสาธาตู’’ติ (วิภ. ๑๘๒).

อิมํ วิหึสาธาตุํ สหชาตปจฺจยาทิวเสน ปฏิจฺจ วิหึสาสฺา นาม อุปฺปชฺชติ. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.

ติณทาเยติ ติณคหเน อรฺเ. อนยพฺยสนนฺติ อวุฑฺฒึ วินาสํ. เอวเมว โขติ เอตฺถ สุกฺขติณทาโย วิย อารมฺมณํ ทฏฺพฺพํ, ติณุกฺกา วิย อกุสลสฺา, ติณกฏฺนิสฺสิตา ปาณา วิย อิเม สตฺตา. ยถา สุกฺขติณทาเย ปิตํ ติณุกฺกํ ขิปฺปํ วายมิตฺวา อนิพฺพาเปนฺตสฺส เต ปาณา อนยพฺยสนํ ปาปุณนฺติ. เอวเมว เย สมณา วา พฺราหฺมณา วา อุปฺปนฺนํ อกุสลสฺํ วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฺปหาเนหิ นปฺปชหนฺติ, เต ทุกฺขํ วิหรนฺติ.

วิสมคตนฺติ ราควิสมาทีนิ อนุคตํ อกุสลสฺํ. น ขิปฺปเมว ปชหตีติ วิกฺขมฺภนาทิวเสน สีฆํ นปฺปชหติ. น วิโนเทตีติ น นีหรติ. น พฺยนฺตีกโรตีติ ภงฺคมตฺตมฺปิ อนวเสเสนฺโต น วิคตนฺตํ กโรติ. น อนภาวํ คเมตีติ น อนุอภาวํ คเมติ. เอวํ สพฺพปเทสุ น – กาโร อาหริตพฺโพ. ปาฏิกงฺขาติ ปาฏิกงฺขิตพฺพา อิจฺฉิตพฺพา.

เนกฺขมฺมธาตุํ, ภิกฺขเวติ เอตฺถ เนกฺขมฺมวิตกฺโกปิ เนกฺขมฺมธาตุ สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา. ยถาห –

‘‘ตตฺถ กตมา เนกฺขมฺมธาตุ? เนกฺขมฺมปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก…เป… สมฺมาสงฺกปฺโป, อยํ วุจฺจติ เนกฺขมฺมธาตู’’ติ (วิภ. ๑๘๒).

อิธาปิ ทุวิธา กถา. เนกฺขมฺมธาตุคฺคหเณน หิ อิตราปิ ทฺเว ธาตุโย คหณํ คจฺฉนฺติ กุสลธมฺมปริยาปนฺนตฺตา, อยํ สพฺพสงฺคาหิกา. ตา ปน ธาตุโย วิสุํ ทีเปตพฺพาติ ตา เปตฺวา เสสา สพฺพกุสลา เนกฺขมฺมธาตูติ อยํ อสมฺภินฺนา. อิมํ เนกฺขมฺมธาตุํ สหชาตาทิปจฺจยวเสน ปฏิจฺจ เนกฺขมฺมสฺา นาม อุปฺปชฺชติ. สฺาทีนิ ปฏิจฺจ วิตกฺกาทโย ยถานุรูปํ.

อพฺยาปาทธาตุํ, ภิกฺขเวติ เอตฺถ อพฺยาปาทวิตกฺโกปิ อพฺยาปาทธาตุ อพฺยาปาโทปิ. ยถาห –

‘‘ตตฺถ กตมา อพฺยาปาทธาตุ ? อพฺยาปาทปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก…เป… อยํ วุจฺจติ อพฺยาปาทธาตุ. ยา สตฺเตสุ เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ, อยํ วุจฺจติ อพฺยาปาทธาตู’’ติ (วิภ. ๑๘๒).

อิมํ อพฺยาปาทธาตุํ ปฏิจฺจ วุตฺตนเยเนว อพฺยาปาทสฺา นาม อุปฺปชฺชติ.

อวิหึสาธาตุํ, ภิกฺขเวติ เอตฺถาปิ อวิหึสาวิตกฺโกปิ อวิหึสาธาตุ กรุณาปิ. ยถาห –

‘‘ตตฺถ กตมา อวิหึสาธาตุ? อวิหึสาปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก…เป… อยํ วุจฺจติ อวิหึสาธาตุ. ยา สตฺเตสุ กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ, อยํ วุจฺจติ อวิหึสาธาตู’’ติ (วิภ. ๑๘๒).

อิมํ อวิหึสาธาตุํ ปฏิจฺจ วุตฺตนเยเนว อวิหึสาสฺา นาม อุปฺปชฺชติ. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. ทุติยํ.

๓. คิฺชกาวสถสุตฺตวณฺณนา

๙๗. ตติเย ธาตุํ, ภิกฺขเวติ อิโต ปฏฺาย อชฺฌาสยํ ธาตูติ ทีเปติ. อุปฺปชฺชติ สฺาติ อชฺฌาสยํ ปฏิจฺจ สฺา อุปฺปชฺชติ, ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ, วิตกฺโก อุปฺปชฺชตีติ. อิธาปิ ‘‘กจฺจาโน ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสตี’’ติ ตสฺส โอกาสทานตฺถํ เอตฺตาวตาว เทสนํ นิฏฺาเปสิ. อสมฺมาสมฺพุทฺเธสูติ ฉสุ สตฺถาเรสุ. สมฺมาสมฺพุทฺธาติ มยมสฺม สมฺมาสมฺพุทฺธาติ. กึ ปฏิจฺจ ปฺายตีติ กิสฺมึ สติ โหตีติ? สตฺถารานํ อุปฺปนฺนํ ทิฏฺึ ปุจฺฉติ. อสมฺมาสมฺพุทฺเธสุ เตสุ สมฺมาสมฺพุทฺธา เอเตติ เอวํ อุปฺปนฺนํ ติตฺถิยสาวกานมฺปิ ทิฏฺึ ปุจฺฉติเยว.

อิทานิ ยสฺมา เตสํ อวิชฺชาธาตุํ ปฏิจฺจ สา ทิฏฺิ โหติ, อวิชฺชาธาตุ จ นาม มหตี ธาตุ, ตสฺมา มหตึ ธาตุํ ปฏิจฺจ ตสฺสา อุปฺปตฺตึ ทีเปนฺโต มหตี โข เอสาติอาทิมาห. หีนํ, กจฺจาน, ธาตุํ ปฏิจฺจาติ หีนํ อชฺฌาสยํ ปฏิจฺจ. ปณิธีติ จิตฺตฏฺปนํ. สา ปเนสา อิตฺถิภาวํ วา มกฺกฏาทิติรจฺฉานภาวํ วา ปตฺเถนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. หีโนปุคฺคโลติ ยสฺเสเต หีนา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, สพฺโพ โส ปุคฺคโลปิ หีโน นาม. หีนา วาจาติ ยา ตสฺส วาจา, สาปิ หีนา. หีนํ อาจิกฺขตีติ โส อาจิกฺขนฺโตปิ หีนเมว อาจิกฺขติ, เทเสนฺโตปิ หีนเมว เทเสตีติ สพฺพปทานิ โยเชตพฺพานิ. อุปปตฺตีติ ทฺเว อุปปตฺติโย ปฏิลาโภ จ นิพฺพตฺติ จ. นิพฺพตฺติ หีนกุลาทิวเสน เวทิตพฺพา, ปฏิลาโภ จิตฺตุปฺปาทกฺขเณ หีนตฺติกวเสน. กถํ? ตสฺส หิ ปฺจสุ นีจกุเลสุ อุปฺปชฺชนโต หีนา นิพฺพตฺติ, เวสฺสสุทฺทกุเลสุ อุปฺปชฺชนโต มชฺฌิมา, ขตฺติยพฺราหฺมณกุเลสุ อุปฺปชฺชนโต ปณีตา. ทฺวาทสากุสลจิตฺตุปฺปาทานํ ปน ปฏิลาภโต หีโน ปฏิลาโภ, เตภูมกธมฺมานํ ปฏิลาภโต มชฺฌิโม, นวโลกุตฺตรธมฺมานํ ปฏิลาภโต ปณีโต. อิมสฺมึ ปน าเน นิพฺพตฺติเยว อธิปฺเปตาติ. ตติยํ.

๔. หีนาธิมุตฺติกสุตฺตวณฺณนา

๙๘. จตุตฺเถ สํสนฺทนฺตีติ เอกโต โหนฺติ. สเมนฺตีติ สมาคจฺฉนฺติ, นิรนฺตรา โหนฺติ. หีนาธิมุตฺติกาติ หีนชฺฌาสยา. กลฺยาณาธิมุตฺติกาติ กลฺยาณชฺฌาสยา. จตุตฺถํ.

๕. จงฺกมสุตฺตวณฺณนา

๙๙. ปฺจเม ปสฺสถ โนติ ปสฺสถ นุ. สพฺเพ โข เอเตติ สาริปุตฺตตฺเถโร ภควตา ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ มหาปฺานํ ยทิทํ สาริปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๙) มหาปฺเสุ เอตทคฺเค ปิโต. อิติ นํ ‘‘ขนฺธนฺตรํ ธาตฺวนฺตรํ อายตนนฺตรํ สติปฏฺานโพธิปกฺขิยธมฺมนฺตรํ ติลกฺขณาหตํ คมฺภีรํ ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามา’’ติ มหาปฺาว ปริวาเรนฺติ. โสปิ เตสํ ปถวึ ปตฺถเรนฺโต วิย สิเนรุปาทโต วาลิกํ อุทฺธรนฺโต วิย จกฺกวาฬปพฺพตํ ภินฺทนฺโต วิย สิเนรุํ อุกฺขิปนฺโต วิย อากาสํ วิตฺถาเรนฺโต วิย จนฺทิมสูริเย อุฏฺาเปนฺโต วิย จ ปุจฺฉิตปุจฺฉิตํ กเถติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺเพ โข เอเต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู มหาปฺา’’ติ.

มหาโมคฺคลฺลาโนปิ ภควตา ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ อิทฺธิมนฺตานํ ยทิทํ มหาโมคฺคลฺลาโน’’ติ อิทฺธิมนฺเตสุ เอตทคฺเค ปิโต. อิติ นํ ‘‘ปริกมฺมํ อานิสํสํ อธิฏฺานํ วิกุพฺพนํ ปุจฺฉิสฺสามา’’ติ อิทฺธิมนฺโตว ปริวาเรนฺติ. โสปิ เตสํ วุตฺตนเยเนว ปุจฺฉิตปุจฺฉิตํ กเถติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺเพ โข เอเต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู มหิทฺธิกา’’ติ.

มหากสฺสโปปิ ภควตา ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ธุตวาทานํ ยทิทํ มหากสฺสโป’’ติ ธุตวาเทสุ เอตทคฺเค ปิโต. อิติ นํ ‘‘ธุตงฺคปริหารํ อานิสํสํ สโมธานํ อธิฏฺานํ เภทํ ปุจฺฉิสฺสามา’’ติ ธุตวาทาว ปริวาเรนฺติ. โสปิ เตสํ ตเถว ปุจฺฉิตปุจฺฉิตํ พฺยากโรติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺเพ โข เอเต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ธุตวาทา’’ติ.

อนุรุทฺธตฺเถโรปิ ภควตา ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ทิพฺพจกฺขุกานํ ยทิทํ อนุรุทฺโธ’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๙๒) ทิพฺพจกฺขุเกสุ เอตทคฺเค ปิโต. อิติ นํ ‘‘ทิพฺพจกฺขุสฺส ปริกมฺมํ อานิสํสํ อุปกฺกิเลสํ ปุจฺฉิสฺสามา’’ติ ทิพฺพจกฺขุกาว ปริวาเรนฺติ. โสปิ เตสํ ตเถว ปุจฺฉิตปุจฺฉิตํ กเถติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺเพ โข เอเต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ทิพฺพจกฺขุกา’’ติ.

ปุณฺณตฺเถโรปิ ภควตา ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ธมฺมกถิกานํ ยทิทํ ปุณฺโณ มนฺตาณิปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๙๖) ธมฺมกถิเกสุ เอตทคฺเค ปิโต. อิติ นํ ‘‘ธมฺมกถาย สงฺเขปวิตฺถารคมฺภีรุตฺตานวิจิตฺรกถาทีสุ ตํ ตํ อาการํ ปุจฺฉิสฺสามา’’ติ ธมฺมกถิกาว ปริวาเรนฺติ. โสปิ เตสํ ‘‘อาวุโส, ธมฺมกถิเกน นาม อาทิโต ปริสํ วณฺเณตุํ วฏฺฏติ, มชฺเฌ สุฺตํ ปกาเสตุํ, อนฺเต จตุสจฺจวเสน กูฏํ คณฺหิตุ’’นฺติ เอวํ ตํ ตํ ธมฺมกถานยํ อาจิกฺขติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺเพ โข เอเต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ธมฺมกถิกา’’ติ.

อุปาลิตฺเถโรปิ ภควตา ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ วินยธรานํ ยทิทํ อุปาลี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๒๘) วินยธเรสุ เอตทคฺเค ปิโต. อิติ นํ ‘‘ครุกลหุกํ สเตกิจฺฉอเตกิจฺฉํ อาปตฺตานาปตฺตึ ปุจฺฉิสฺสามา’’ติ วินยธราว ปริวาเรนฺติ. โสปิ เตสํ ปุจฺฉิตปุจฺฉิตํ ตเถว กเถติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺเพ โข เอเต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู วินยธรา’’ติ.

อานนฺทตฺเถโรปิ ภควตา ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ พหุสฺสุตานํ ยทิทํ อานนฺโท’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๒๓) พหุสฺสุเตสุ เอตทคฺเค ปิโต. อิติ นํ ‘‘ทสวิธํ พฺยฺชนพุทฺธึ อฏฺุปฺปตฺตึ อนุสนฺธึ ปุพฺพาปรํ ปุจฺฉิสฺสามา’’ติ พหุสฺสุตาว ปริวาเรนฺติ. โสปิ เตสํ ‘‘อิทํ เอวํ วตฺตพฺพํ, อิทํ เอวํ คเหตพฺพ’’นฺติ สพฺพํ กเถติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺเพ โข เอเต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู พหุสฺสุตา’’ติ.

เทวทตฺโต ปน ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต, เตน นํ ‘‘กุลสงฺคณฺหนปริหารํ นานปฺปการกํ โกหฺตํ ปุจฺฉิสฺสามา’’ติ ปาปิจฺฉาว ปริวาเรนฺติ. โสปิ เตสํ ตํ ตํ นิยามํ อาจิกฺขติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺเพ โข เอเต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ปาปิจฺฉา’’ติ.

กสฺมา ปเนเต อวิทูเร จงฺกมึสูติ. ‘‘เทวทตฺโต สตฺถริ ปทุฏฺจิตฺโต อนตฺถมฺปิ กาตุํ อุปกฺกเมยฺยา’’ติ อารกฺขคฺคหณตฺถํ. อถ เทวทตฺโต กสฺมา จงฺกมีติ? ‘‘อการโก อยํ, ยทิ การโก ภเวยฺย, น อิธ อาคจฺเฉยฺยา’’ติ อตฺตโน กตโทสปฏิจฺฉาทนตฺถํ. กึ ปน เทวทตฺโต ภควโต อนตฺถํ กาตุํ สมตฺโถ, ภควโต วา อารกฺขกิจฺจํ อตฺถีติ? นตฺถิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อฏฺานเมตํ, อานนฺท, อนวกาโส, ยํ ตถาคโต ปรูปกฺกเมน ปรินิพฺพาเยยฺยา’’ติ (จูฬว. ๓๔๑). ภิกฺขู ปน สตฺถริ คารเวน อาคตา. เตเนว ภควา เอวํ วตฺวา ‘‘วิสฺสชฺเชหิ, อานนฺท, ภิกฺขุสงฺฆ’’นฺติ วิสฺสชฺชาเปสิ. ปฺจมํ.

๖. สคาถาสุตฺตวณฺณนา

๑๐๐. ฉฏฺเ คูโถ คูเถน สํสนฺทติ สเมตีติ สมุทฺทนฺตเร ชนปทนฺตเร จกฺกวาฬนฺตเร ิโตปิ วณฺเณนปิ คนฺเธนปิ รเสนปิ นานตฺตํ อนุปคจฺฉนฺโต สํสนฺทติ สเมติ, เอกสทิโสว โหติ นิรนฺตโร. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน อนิฏฺอุปมา หีนชฺฌาสยานํ หีนอชฺฌาสยสฺส สริกฺขภาวทสฺสนตฺถํ อาหฏา, ขีราทิวิสิฏฺโปมา กลฺยาณชฺฌาสยานํ อชฺฌาสยสฺส สริกฺขภาวทสฺสนตฺถํ.

สํสคฺคาติ ทสฺสนสวนสํสคฺคาทิวตฺถุเกน ตณฺหาสฺเนเหน. วนโถ ชาโตติ กิเลสวนํ ชาตํ . อสํสคฺเคน ฉิชฺชตีติ เอกโต านนิสชฺชาทีนิ อกโรนฺตสฺส อสํสคฺเคน อทสฺสเนน ฉิชฺชติ. สาธุชีวีติ ปริสุทฺธชีวิตํ ชีวมาโน. สหาวเสติ สหวาสํ วเสยฺย. ฉฏฺํ.

๗. อสฺสทฺธสํสนฺทนสุตฺตวณฺณนา

๑๐๑. สตฺตเม อสฺสทฺธา อสฺสทฺเธหีติอาทีสุ พุทฺเธ วา ธมฺเม วา สงฺเฆ วา สทฺธาวิรหิตา นิโรชา นิรสา ปุคฺคลา สมุทฺทสฺส โอริมตีเร ิตา ปาริมตีเรปิ ิเตหิ อสฺสทฺเธหิ สทฺธึ ตาย อสฺสทฺธตาย เอกสทิสา นิรนฺตรา โหนฺติ. ตถา อหิริกา ภินฺนมริยาทา อลชฺชิปุคฺคลา อหิริเกหิ, อโนตฺตปฺปิโน ปาปกิริยาย อภายมานา อโนตฺตปฺปีหิ, อปฺปสฺสุตา สุตวิรหิตา อปฺปสฺสุเตหิ, กุสีตา อาลสิยปุคฺคลา กุสีเตหิ, มุฏฺสฺสติโน ภตฺตนิกฺขิตฺตกากมํสนิกฺขิตฺตสิงฺคาลสทิสา มุฏฺสฺสตีหิ, ทุปฺปฺา ขนฺธาทิปริจฺเฉทิกาย ปฺาย อภาเวน นิปฺปฺา ตาทิเสเหว ทุปฺปฺเหิ, สทฺธาสมฺปนฺนา เจติยวนฺทนาทิกิจฺจปสุตา สทฺเธหิ, หิริมนา ลชฺชิปุคฺคลา หิริมเนหิ, โอตฺตปฺปิโน ปาปภีรุกา โอตฺตปฺปีหิ, พหุสฺสุตา สุตธรา อาคมธรา ตนฺติปาลกา วํสานุรกฺขกา พหุสฺสุเตหิ, อารทฺธวีริยา ปริปุณฺณปรกฺกมา อารทฺธวีริเยหิ, อุปฏฺิตสฺสตี สพฺพกิจฺจปริคฺคาหิกาย สติยา สมนฺนาคตา อุปฏฺิตสฺสตีหิ, ปฺวนฺโต มหาปฺเหิ วชิรูปมาเณหิ ปฺวนฺเตหิ สทฺธึ ทูเร ิตาปิ ตาย ปฺาสมฺปตฺติยา สํสนฺทนฺติ สเมนฺติ. สตฺตมํ.

๘-๑๒. อสฺสทฺธมูลกสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๒-๑๐๖. อฏฺมาทีนิ เตเยว อสฺสทฺธาทิธมฺเม ติกวเสน กตฺวา เทสิตานิ. ตตฺถ อฏฺเม อสฺสทฺธาทิมูลกา กณฺหปกฺขสุกฺกปกฺขวเสน ปฺจ ติกา วุตฺตา, นวเม อหิริกมูลกา จตฺตาโร. ทสเม อโนตฺตปฺปมูลกา ตโย, เอกาทสเม อปฺปสฺสุตมูลกา ทฺเว, ทฺวาทสเม กุสีตมูลโก เอโก ติโก วุตฺโตติ สพฺเพปิ ปฺจสุ สุตฺตนฺเตสุ ปนฺนรส ติกา โหนฺติ. ปนฺนรส เจเต สุตฺตนฺตาติปิ วทนฺติ. อยํ ติกเปยฺยาโล นาม. อฏฺมาทีนิ.

ทุติโย วคฺโค.

๓. กมฺมปถวคฺโค

๑-๒. อสมาหิตสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๗-๑๐๘. อิโต ปเรสุ ปมํ อสฺสทฺธาทิปฺจกวเสน วุตฺตํ, ตถา ทุติยํ. ปเม ปน อสมาหิตปทํ จตุตฺถํ, ทุติเย ทุสฺสีลปทํ. เอวํ วุจฺจมาเน พุชฺฌนกปุคฺคลานํ อชฺฌาสเยน หิ เอตานิ วุตฺตานิ. เอตฺถ อสมาหิตาติ อุปจารปฺปนาสมาธิรหิตา. ทุสฺสีลาติ นิสฺสีลา. ปมทุติยานิ.

๓-๕. ปฺจสิกฺขาปทสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๙-๑๑๑. ตติยํ ปฺจกมฺมปถวเสน พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสยวเสน วุตฺตํ, จตุตฺถํ สตฺตกมฺมปถวเสน, ปฺจมํ ทสกมฺมปถวเสน. ตตฺถ ตติเย สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺายิโนติ สุราเมรยสงฺขาตํ มชฺชํ ยาย ปมาทเจตนาย ปิวนฺติ, สา ‘‘สุราเมรยมชฺชปฺปมาโท’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมึ ติฏฺนฺตีติ สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺายิโน. อยํ ตาเวตฺถ อสาธารณปทสฺส อตฺโถ.

ปฺจเม ปาณํ อติปาเตนฺตีติ ปาณาติปาติโน, ปาณฆาติกาติ อตฺโถ. อทินฺนํ อาทิยนฺตีติ อทินฺนาทายิโน, ปรสฺสหาริโนติ อตฺโถ. วตฺถุกาเมสุ กิเลสกาเมน มิจฺฉา จรนฺตีติ กาเมสุมิจฺฉาจาริโน. มุสา วทนฺตีติ มุสาวาทิโน, ปเรสํ อตฺถภฺชกํ ตุจฺฉํ อลิกํ วาจํ ภาสิตาโรติ อตฺโถ. ปิสุณา วาจา เอเตสนฺติ ปิสุณวาจา. มมฺมจฺเฉทิกา ผรุสา วาจา เอเตสนฺติ ผรุสวาจา. สมฺผํ นิรตฺถกํ วจนํ ปลปนฺตีติ สมฺผปฺปลาปิโน. อภิชฺฌายนฺตีติ อภิชฺฌาลุโน, ปรภณฺเฑ ลุพฺภนสีลาติ อตฺโถ. พฺยาปนฺนํ ปูติภูตํ จิตฺตเมเตสนฺติ พฺยาปนฺนจิตฺตา. มิจฺฉา ปาปิกา วิฺุครหิตา เอเตสํ ทิฏฺีติ มิจฺฉาทิฏฺิกา, กมฺมปถปริยาปนฺนาย ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิวตฺถุกาย มิจฺฉตฺตปริยาปนฺนาย อนิยฺยานิกทิฏฺิยา สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. สมฺมา โสภนา วิฺุปสตฺถา เอเตสํ ทิฏฺีติ สมฺมาทิฏฺิกา, กมฺมปถปริยาปนฺนาย ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิกาย กมฺมสฺสกตทิฏฺิยา สมฺมตฺตปริยาปนฺนาย มคฺคทิฏฺิยา จ สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. อิทํ ตาเวตฺถ อนุตฺตานานํ ปทานํ ปทวณฺณนามตฺตํ.

โย ปน เตสํ ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ กาเมสุมิจฺฉาจาโร มุสาวาโท ปิสุณวาจา ผรุสวาจา สมฺผปฺปลาโป อภิชฺฌา พฺยาปาโท มิจฺฉาทิฏฺีติ กณฺหปกฺเข ทสวิโธ อตฺโถ โหติ. ตตฺถ ปาณสฺส อติปาโต ปาณาติปาโต, ปาณวโธ ปาณฆาโตติ วุตฺตํ โหติ. ปาโณติ เจตฺถ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ตสฺมึ ปน ปาเณ ปาณสฺิโน ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา กายวจีทฺวารานํ อฺตรทฺวารปฺปวตฺตา วธกเจตนา ปาณาติปาโต. โส คุณวิรหิเตสุ ติรจฺฉานคตาทีสุ ปาเณสุ ขุทฺทเก ปาเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาสรีเร มหาสาวชฺโช. กสฺมา? ปโยคมหนฺตตาย , ปโยคสมตฺเตปิ วตฺถุมหนฺตตาย. คุณวนฺเตสุ มนุสฺสาทีสุ อปฺปคุเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาคุเณ มหาสาวชฺโช. สรีรคุณานํ ปน สมภาเว สติ กิเลสานํ อุปกฺกมานฺจ มุทุตาย อปฺปสาวชฺโช, ติพฺพตาย มหาสาวชฺโชติ เวทิตพฺโพ.

ตสฺส ปฺจ สมฺภารา โหนฺติ – ปาโณ, ปาณสฺิตา, วธกจิตฺตํ, อุปกฺกโม, เตน มรณนฺติ. ฉ ปโยคา สาหตฺถิโก, อาณตฺติโก, นิสฺสคฺคิโย, ถาวโร, วิชฺชามโย, อิทฺธิมโยติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ วิตฺถาริยมาเน อติปฺปปฺโจ โหติ, ตสฺมา ตํ น วิตฺถารยาม, อฺฺจ เอวรูปํ. อตฺถิเกหิ ปน สมนฺตปาสาทิกํ วินยฏฺกถํ (ปารา. อฏฺ. ๑๗๒) โอโลเกตฺวา คเหตพฺโพ.

อทินฺนสฺส อาทานํ อทินฺนาทานํ, ปรสฺสหรณํ เถยฺยํ โจริกาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ อทินฺนนฺติ ปรปริคฺคหิตํ, ยตฺถ ปโร ยถากามการิตํ อาปชฺชนฺโต อทณฺฑารโห อนุปวชฺโช โหติ. ตสฺมึ ปน ปรปริคฺคหิเต ปรปริคฺคหิตสฺิโน ตทาทายกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา เถยฺยเจตนา อทินฺนาทานํ. ตํ หีเน ปรสนฺตเก อปฺปสาวชฺชํ, ปณีเต มหาสาวชฺชํ. กสฺมา? วตฺถุปณีตตาย. วตฺถุสมตฺเต สติ คุณาธิกานํ สนฺตเก วตฺถุสฺมึ มหาสาวชฺชํ, ตํ ตํ คุณาธิกํ อุปาทาย ตโต ตโต หีนคุณสฺส สนฺตเก วตฺถุสฺมึ อปฺปสาวชฺชํ.

ตสฺส ปฺจ สมฺภารา โหนฺติ – ปรปริคฺคหิตํ, ปรปริคฺคหิตสฺิตา, เถยฺยจิตฺตํ, อุปกฺกโม, เตน หรณนฺติ. ฉ ปโยคา สาหตฺถิกาทโยว. เต จ โข ยถานุรูปํ เถยฺยาวหาโร, ปสยฺหาวหาโร, ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร, ปริกปฺปาวหาโร, กุสาวหาโรติ อิเมสํ อวหารานํ วเสน ปวตฺตาติ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ (ปารา. อฏฺ. ๙๒) วุตฺโต.

กาเมสุมิจฺฉาจาโรติ เอตฺถ ปน กาเมสูติ เมถุนสมาจาเรสุ. มิจฺฉาจาโรติ เอกนฺตนินฺทิโต ลามกาจาโร. ลกฺขณโต ปน อสทฺธมฺมาธิปฺปาเยน กายทฺวารปฺปวตฺตา อคมนียฏฺานวีติกฺกมเจตนา กาเมสุมิจฺฉาจาโร. ตตฺถ อคมนียฏฺานํ นาม ปุริสานํ ตาว มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สารกฺขา สปริทณฺฑาติ มาตุรกฺขิตาทโย ทส, ธนกฺกีตา ฉนฺทวาสินี โภควาสินี ปฏวาสินี โอทปตฺตกินี โอภตจุมฺพฏา ทาสี จ ภริยา จ กมฺมการี จ ภริยา จ ธชาหฏา มุหุตฺติกาติ เอตา ธนกฺกีตาทโย ทสาติ วีสติ อิตฺถิโย. อิตฺถีสุ ปน ทฺวินฺนํ สารกฺขสปริทณฺฑานํ, ทสนฺนฺจ ธนกฺกีตาทีนนฺติ ทฺวาทสนฺนํ อิตฺถีนํ อฺเ ปุริสา. อิทํ อคมนียฏฺานํ นาม. โส ปเนส มิจฺฉาจาโร สีลาทิคุณรหิเต อคมนียฏฺาเน อปฺปสาวชฺโช, สีลาทิคุณสมฺปนฺเน มหาสาวชฺโช. ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา – อคมนียวตฺถุ, ตสฺมึ เสวนจิตฺตํ, เสวนปฺปโยโค, มคฺเคนมคฺคปฏิปตฺติอธิวาสนนฺติ. เอโก ปโยโค สาหตฺถิโก เอว.

มุสาติ วิสํวาทนปุเรกฺขารสฺส อตฺถภฺชนโก วจีปโยโค กายปฺปโยโค วา, วิสํวาทนาธิปฺปาเยน ปนสฺส ปรวิสํวาทนกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา, มุสาวาโท. อปโร นโย – มุสาติ อภูตํ อตจฺฉํ วตฺถุ. วาโทติ ตสฺส ภูตโต ตจฺฉโต วิฺาปนํ. ลกฺขณโต ปน อตถํ วตฺถุํ ตถโต ปรํ วิฺาเปตุกามสฺส ตถาวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. โส ยมตฺถํ ภฺชติ, ตสฺส อปฺปตาย อปฺปสาวชฺโช, มหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. อปิ จ คหฏฺานํ อตฺตโน สนฺตกํ อทาตุกามตาย นตฺถีติอาทินยปฺปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, สกฺขินา หุตฺวา อตฺถภฺชนตฺถํ วุตฺโต มหาสาวชฺโช. ปพฺพชิตานํ อปฺปกมฺปิ เตลํ วา สปฺปึ วา ลภิตฺวา หสาธิปฺปาเยน ‘‘อชฺช คาเม เตลํ นที มฺเ สนฺทตี’’ติ ปูรณกถานเยน ปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, อทิฏฺํเยว ปน ‘‘ทิฏฺ’’นฺติอาทินา นเยน วทนฺตานํ มหาสาวชฺโช. ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา โหนฺติ – อตถํ วตฺถุ, วิสํวาทนจิตฺตํ, ตชฺโช วายาโม, ปรสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ. เอโก ปโยโค สาหตฺถิโกว. โส กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา วาจาย วา ปรวิสํวาทกกิริยากรเณ ทฏฺพฺโพ. ตาย เจ กิริยาย ปโร ตมตฺถํ ชานาติ, อยํ กิริยาสมุฏฺาปิกเจตนากฺขเณเยว มุสาวาทกมฺมุนา พชฺฌติ.

ปิสุณวาจาติอาทีสุ ยาย วาจาย, ยสฺส ตํ วาจํ ภาสติ, ตสฺส หทเย อตฺตโน ปิยภาวํ, ปรสฺส จ สุฺภาวํ กโรติ, สา ปิสุณวาจา. ยาย ปน อตฺตานมฺปิ ปรมฺปิ ผรุสํ กโรติ, ยา วาจา สยมฺปิ ผรุสา, เนว กณฺณสุขา น หทยงฺคมา, อยํ ผรุสวาจา. เยน ปน สมฺผํ ปลปติ นิรตฺถกํ, โส สมฺผปฺปลาโป. เตสํ มูลภูตา เจตนาปิ ปิสุณวาจาทินามเมว ลภติ. สา เอว จ อิธ อธิปฺเปตาติ.

ตตฺถ สํกิลิฏฺจิตฺตสฺส ปเรสํ วา เภทาย, อตฺตโน ปิยกมฺยตาย วา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา ปิสุณวาจา. สา ยสฺส เภทํ กโรติ, ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา. ตสฺสา จตฺตาโร สมฺภารา – ภินฺทิตพฺโพ ปโร, อิติ อิเม นานา ภวิสฺสนฺติ, วินา ภวิสฺสนฺตีติ เภทปุเรกฺขารตา, อิติ อหํ ปิโย ภวิสฺสามิ วิสฺสาสิโกติ ปิยกมฺยตา วา, ตชฺโช วายาโม, ตสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ.

ปรสฺส มมฺมจฺเฉทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เอกนฺตผรุสเจตนา ผรุสวาจา. ตสฺสา อาวิภาวตฺถมิทํ วตฺถุ – เอโก กิร ทารโก มาตุ วจนํ อนาทิยิตฺวา อรฺํ คจฺฉติ. มาตา ตํ นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตี, ‘‘จณฺฑา ตํ มหึสี อนุพนฺธตู’’ติ อกฺโกสิ. อถสฺส ตเถว อรฺเ มหึสี อุฏฺาสิ. ทารโก, ‘‘ยํ มม มาตา มุเขน กเถสิ, ตํ มา โหตุ, ยํ จิตฺเตน จินฺเตสิ, ตํ โหตู’’ติ สจฺจกิริยํ อกาสิ. มหึสี ตตฺเถว พทฺธา วิย อฏฺาสิ. เอวํ มมฺมจฺเฉทโกปิ ปโยโค จิตฺตสณฺหตาย ผรุสวาจา น โหติ. มาตาปิตโร หิ กทาจิ ปุตฺตเก เอวํ วทนฺติ – ‘‘โจรา โว ขณฺฑาขณฺฑิกํ กโรนฺตู’’ติ, อุปฺปลปตฺตมฺปิ จ เนสํ อุปริ ปตนฺตํ น อิจฺฉนฺติ. อาจริยุปชฺฌายา จ กทาจิ นิสฺสิตเก เอวํ วทนฺติ – ‘‘กึ อิเม อหิริกา อโนตฺตปฺปิโน จรนฺติ, นิทฺธมถ เน’’ติ. อถ จ เนสํ อาคมาธิคมสมฺปตฺตึ อิจฺฉนฺติ. ยถา จ จิตฺตสณฺหตาย ผรุสวาจา น โหติ, เอวํ วจนสณฺหตาย อผรุสวาจาปิ น โหติ. น หิ มาราเปตุกามสฺส ‘‘อิมํ สุขํ สยาเปถา’’ติ วจนํ อผรุสวาจา โหติ. จิตฺตผรุสตาย ปเนสา ผรุสวาจาว. สา ยํ สนฺธาย ปวตฺติตา, ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา. ตสฺสา ตโย สมฺภารา – อกฺโกสิตพฺโพ ปโร, กุปิตจิตฺตํ, อกฺโกสนาติ.

อนตฺถวิฺาปิกา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา อกุสลเจตนา สมฺผปฺปลาโป. โส อาเสวนมนฺทตาย อปฺปสาวชฺโช, อาเสวนมหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา – ภารตยุทฺธ-สีตาหรณาทิ-นิรตฺถกกถา-ปุเรกฺขารตา, ตถารูปีกถากถนฺจาติ.

อภิชฺฌายตีติ อภิชฺฌา. ปรภณฺฑาภิมุขี หุตฺวา ตนฺนินฺนตาย ปวตฺตตีติ อตฺโถ. สา ‘‘อโห วติทํ มมสฺสา’’ติ เอวํ ปรภณฺฑาภิชฺฌายนลกฺขณา อทินฺนาทานํ วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ. ตสฺสา ทฺเว สมฺภารา ปรภณฺฑํ อตฺตโน ปริณามนฺจ. ปรภณฺฑวตฺถุเก หิ โลเภ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท โหติ, ยาว น ‘‘อโห วติทํ มมสฺสา’’ติ อตฺตโน ปริณาเมตีติ.

หิตสุขํ พฺยาปาทยตีติ, พฺยาปาโท. โส ปรวินาสาย มโนปโทสลกฺขโณ. ผรุสวาจา วิย อปฺปสาวชฺโช มหาสาวชฺโช จ. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา ปรสตฺโต จ, ตสฺส จ วินาสจินฺตา. ปรสตฺตวตฺถุเก หิ โกเธ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท โหติ, ยาว น ‘‘อโห วตายํ อุจฺฉิชฺเชยฺย วินสฺเสยฺยา’’ติ ตสฺส วินาสํ จินฺเตติ.

ยถาภุจฺจคหณาภาเวน มิจฺฉา ปสฺสตีติ มิจฺฉาทิฏฺิ. สา ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินา นเยน วิปรีตทสฺสนลกฺขณา สมฺผปฺปลาโป วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ. อปิ จ อนิยตา อปฺปสาวชฺชา, นิยตา มหาสาวชฺชา. ตสฺสา ทฺเว สมฺภารา – วตฺถุโน จ คหิตาการวิปรีตตา ยถา จ นํ คณฺหาติ, ตถาภาเวน ตสฺสา อุปฏฺานนฺติ.

อิเมสํ ปน ทสนฺนํ อกุสลกมฺมปถานํ ธมฺมโต โกฏฺาสโต อารมฺมณโต เวทนาโต มูลโตติ ปฺจหากาเรหิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ธมฺมโตติ เอเตสุ หิ ปฏิปาฏิยา สตฺต เจตนาธมฺมาว โหนฺติ, อภิชฺฌาทโย ติสฺโส เจตนาสมฺปยุตฺตา. โกฏฺาสโตติ ปฏิปาฏิยา สตฺต, มิจฺฉาทิฏฺิ จาติ อิเม อฏฺ กมฺมปถา เอว โหนฺติ, โน มูลานิ, อภิชฺฌาพฺยาปาทา กมฺมปถา เจว มูลานิ จ. อภิชฺฌา หิ มูลํ ปตฺวา โลโภ อกุสลมูลํ โหติ, พฺยาปาโท โทโส อกุสลมูลํ.

อารมฺมณโตติ ปาณาติปาโต ชีวิตินฺทฺริยารมฺมณโต สงฺขารารมฺมโณ โหติ, อทินฺนาทานํ สตฺตารมฺมณํ วา สงฺขารารมฺมณํ วา, มิจฺฉาจาโร โผฏฺพฺพวเสน สงฺขารารมฺมโณว, สตฺตารมฺมโณติปิ เอเก. มุสาวาโท สตฺตารมฺมโณ วา สงฺขารารมฺมโณ วา, ตถา ปิสุณวาจา. ผรุสวาจา สตฺตารมฺมณาว. สมฺผปฺปลาโป ทิฏฺสุตมุตวิฺาตวเสน สตฺตารมฺมโณ วา สงฺขารารมฺมโณ วา, ตถา อภิชฺฌา. พฺยาปาโท สตฺตารมฺมโณว. มิจฺฉาทิฏฺิ เตภูมกธมฺมวเสน สงฺขารารมฺมณา.

เวทนาโตติ ปาณาติปาโต ทุกฺขเวทโน โหติ. กิฺจาปิ หิ ราชาโน โจรํ ทิสฺวา หสมานาปิ ‘‘คจฺฉถ นํ ฆาเตถา’’ติ วทนฺติ, สนฺนิฏฺาปกเจตนา ปน เนสํ ทุกฺขสมฺปยุตฺตาว โหติ. อทินฺนาทานํ ติเวทนํ, มิจฺฉาจาโร สุขมชฺฌตฺตวเสน ทฺวิเวทโน, สนฺนิฏฺาปกจิตฺเต ปน มชฺฌตฺตเวทโน น โหติ. มุสาวาโท ติเวทโน, ตถา ปิสุณวาจา ผรุสวาจา ทุกฺขเวทนา, สมฺผปฺปลาโป ติเวทโน, อภิชฺฌา สุขมชฺฌตฺตวเสน ทฺวิเวทนา, ตถา มิจฺฉาทิฏฺิ. พฺยาปาโท ทุกฺขเวทโน.

มูลโตติ ปาณาติปาโต โทสโมหวเสน ทฺวิมูลโก โหติ, อทินฺนาทานํ โทสโมหวเสน วา โลภโมหวเสน วา, มิจฺฉาจาโร โลภโมหวเสน. มุสาวาโท โทสโมหวเสน วา โลภโมหวเสน วา, ตถา ปิสุณวาจา สมฺผปฺปลาโป จ. ผรุสวาจา โทสโมหวเสน, อภิชฺฌา โมหวเสน เอกมูลา, ตถา พฺยาปาโท. มิจฺฉาทิฏฺิ โลภโมหวเสน ทฺวิมูลาติ.

ปาณาติปาตา ปฏิวิรตาติอาทีสุ ปาณาติปาตาทโย วุตฺตตฺถา เอว. ยาย ปน วิรติยา เอเต ปฏิวิรตา นาม โหนฺติ, สา เภทโต ติวิธา โหติ สมฺปตฺตวิรติ สมาทานวิรติ สมุจฺเฉทวิรตีติ. ตตฺถ อสมาทินฺนสิกฺขาปทานํ อตฺตโน ชาติวยพาหุสจฺจาทีนิ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ‘‘อยุตฺตํ อมฺหากํ เอวรูปํ กาตุ’’นฺติ สมฺปตฺตํ วตฺถุํ อวีติกฺกมนฺตานํ อุปฺปชฺชมานา วิรติ สมฺปตฺตวิรตีติ เวทิตพฺพา สีหฬทีเป จกฺกนอุปาสกสฺส วิย. ตสฺส กิร ทหรกาเลเยว มาตุ โรโค อุปฺปชฺชิ. เวชฺเชน จ ‘‘อลฺลสสกมํสํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ตโต จกฺกนสฺส ภาตา ‘‘คจฺฉ ตาต เขตฺตํ อาหิณฺฑาหี’’ติ จกฺกนํ เปเสสิ. โส ตตฺถ คโต. ตสฺมิฺจ สมเย เอโก สโส ตรุณสสฺสํ ขาทิตุํ อาคโต โหติ. โส ตํ ทิสฺวา เวเคน ธาวนฺโต วลฺลิยา พทฺโธ ‘‘กิริ กิรี’’ติ สทฺทมกาสิ . จกฺกโน เตน สทฺเทน คนฺตฺวา ตํ คเหตฺวา จินฺเตสิ ‘‘มาตุ เภสชฺชํ กโรมี’’ติ. ปุน จินฺเตสิ – ‘‘น เมตํ ปติรูปํ, ยฺวาหํ มาตุ ชีวิตการณา ปรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย’’นฺติ. อถ นํ ‘‘คจฺฉ อรฺเ สเสหิ สทฺธึ ติโณทกํ ปริภุฺชา’’ติ มุฺจิ. ภาตรา จ ‘‘กึ ตาต สโส ลทฺโธ’’ติ? ปุจฺฉิโต ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิ. ตโต นํ ภาตา ปริภาสิ. โส มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘ยโตหํ ชาโต , นาภิชานามิ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตา’’ติ สจฺจํ วตฺวา อฏฺาสิ, ตาวเทว จสฺส มาตา อโรคา อโหสิ.

สมาทินฺนสิกฺขาปทานํ ปน สิกฺขาปทสมาทาเน จ ตตุตฺตริ จ อตฺตโน ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา วตฺถุํ อวีติกฺกมนฺตานํ อุปฺปชฺชมานา วิรติ สมาทานวิรตีติ เวทิตพฺพา, อุตฺตรวฑฺฒมานปพฺพตวาสีอุปาสกสฺส วิย. โส กิร อมฺพริยวิหารวาสีปิงฺคลพุทฺธรกฺขิตตฺเถรสฺส สนฺติเก สิกฺขาปทานิ คเหตฺวา เขตฺตํ กสติ. อถสฺส โคโณ นฏฺโ, โส ตํ คเวสนฺโต อุตฺตรวฑฺฒมานปพฺพตํ อารุหิ, ตตฺร นํ มหาสปฺโป อคฺคเหสิ. โส จินฺเตสิ – ‘‘อิมาย ติขิณาย วาสิยา สีสํ ฉินฺทามี’’ติ. ปุน จินฺเตสิ – ‘‘น เมตํ ปติรูปํ, ยฺวาหํ ภาวนียสฺส ครุโน สนฺติเก สิกฺขาปทํ คเหตฺวา ภินฺเทยฺย’’นฺติ. เอวํ ยาวตติยํ จินฺเตตฺวา – ‘‘ชีวิตํ ปริจฺจชามิ, น สิกฺขาปท’’นฺติ อํเส ปิตํ ติขิณทณฺฑวาสึ อรฺเ ฉฑฺเฑสิ. ตาวเทว มหาวาโฬ นํ มุฺจิตฺวา อคมาสีติ.

อริยมคฺคสมฺปยุตฺตา ปน วิรติ สมุจฺเฉทวิรตีติ เวทิตพฺพา, ยสฺสา อุปฺปตฺติโต ปภุติ ปาณํ ฆาเตสฺสามีติ อริยปุคฺคลานํ จิตฺตมฺปิ น อุปฺปชฺชตีติ.

ยถา จ อกุสลานํ, เอวํ อิเมสมฺปิ กุสลกมฺมปถานํ ธมฺมโต โกฏฺาสโต อารมฺมณโต เวทนาโต มูลโตติ ปฺจหากาเรหิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ธมฺมโตติ เอเตสุ หิ ปฏิปาฏิยา สตฺต เจตนาปิ วฏฺฏนฺติ วิรติโยปิ, อนฺเต ตโย เจตนาสมฺปยุตฺตาว.

โกฏฺาสโตติ ปฏิปาฏิยา สตฺต กมฺมปถา เอว, น มูลานิ, อนฺเต ตโย กมฺมปถา เจว มูลานิ จ. อนภิชฺฌา หิ มูลํ ปตฺวา อโลโภ กุสลมูลํ โหติ, อพฺยาปาโท อโทโส กุสลมูลํ, สมฺมาทิฏฺิ อโมโห กุสลมูลํ.

อารมฺมณโตติ ปาณาติปาตาทีนํ. อารมฺมณาเนว เอเตสํ อารมฺมณานิ. วีติกฺกมิตพฺพวตฺถุโตเยว หิ วิรติ นาม โหติ. ยถา ปน นิพฺพานารมฺมโณ อริยมคฺโค กิเลเส ปชหติ, เอวํ ชีวิตินฺทฺริยาทิอารมฺมณาเปเต กมฺมปถา ปาณาติปาตาทีนิ ทุสฺสีลฺยานิ ปชหนฺตีติ เวทิตพฺพา.

เวทนาโตติ สพฺเพ สุขเวทนา วา โหนฺติ มชฺฌตฺตเวทนา วา. กุสลํ ปตฺวา หิ ทุกฺขเวทนา นาม นตฺถิ.

มูลโตติ ปฏิปาฏิยา สตฺต าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส อโลภอโทสอโมหวเสน ติมูลา โหนฺติ, าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส ทฺวิมูลา. อนภิชฺฌา าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส ทฺวิมูลา โหติ, าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน เอกมูลา. อโลโภ ปน อตฺตนาว อตฺตโน มูลํ น โหติ. อพฺยาปาเทปิ เอเสว นโย. สมฺมาทิฏฺิ อโลภอโทสวเสน ทฺวิมูลาวาติ. ตติยาทีนิ.

๖. อฏฺงฺคิกสุตฺตวณฺณนา

๑๑๒. ฉฏฺํ อฏฺมคฺคงฺควเสน พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสยวเสน วุตฺตํ. ฉฏฺํ.

๗. ทสงฺคสุตฺตวณฺณนา

๑๑๓. สตฺตมํ ทสมิจฺฉตฺตสมฺมตฺตวเสน. ตตฺถ มิจฺฉาาณิโนติ มิจฺฉาปจฺจเวกฺขเณน สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. มิจฺฉาวิมุตฺติโนติ อนิยฺยานิกวิมุตฺติโน กุสลวิมุตฺตีติ คเหตฺวา ิตา. สมฺมาาณิโนติ สมฺมาปจฺจเวกฺขณา. สมฺมาวิมุตฺติโนติ นิยฺยานิกาย ผลวิมุตฺติยา สมนฺนาคตาติ. สตฺตมํ.

กมฺมปถวคฺโค ตติโย.

๔. จตุตฺถวคฺโค

๑. จตุธาตุสุตฺตวณฺณนา

๑๑๔. จตุตฺถวคฺคสฺส ปเม ปถวีธาตูติ ปติฏฺาธาตุ. อาโปธาตูติ อาพนฺธนธาตุ. เตโชธาตูติ ปริปาจนธาตุ. วาโยธาตูติ วิตฺถมฺภนธาตุ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปน วีสติโกฏฺาสาทิวเสน เอตา กเถตพฺพา. ปมํ.

๒. ปุพฺเพสมฺโพธสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕. ทุติเย อยํ ปถวีธาตุยา อสฺสาโทติ อยํ ปถวีธาตุนิสฺสโย อสฺสาโท. สฺวายํ กายํ อพฺภุนฺนาเมตฺวา อุทรํ ปสาเรตฺวา, ‘‘อิธ เม องฺคุลํ ปเวสิตุํ วายมถา’’ติ วา หตฺถํ ปสาเรตฺวา, ‘‘อิมํ นาเมตุํ วายมถา’’ติ วา วทติ, เอวํ ปวตฺตานํ วเสน เวทิตพฺโพ. อนิจฺจาติอาทีสุ หุตฺวา อภาวากาเรน อนิจฺจา, ปฏิปีฬนากาเรน ทุกฺขา, สภาววิคมากาเรน วิปริณามธมฺมา. อยํ ปถวีธาตุยา อาทีนโวติ เยน อากาเรน สา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา, อยมากาโร ปถวีธาตุยา อาทีนโวติ อตฺโถ. ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานนฺติ นิพฺพานํ อาคมฺม ปถวีธาตุยา ฉนฺทราโค วินียติ เจว ปหียติ จ, ตสฺมา นิพฺพานมสฺสา นิสฺสรณํ.

อยํ อาโปธาตุยา อสฺสาโทติ อยํ อาโปธาตุนิสฺสโย อสฺสาโท. สฺวายํ อฺํ อาโปธาตุยา อุปทฺทุตํ ทิสฺวา, ‘‘กึ อยํ นิปนฺนกาลโต ปฏฺาย ปสฺสาวฏฺานาภิมุโข นิกฺขมติ เจว ปวิสติ จ, อปฺปมตฺตกมฺปิสฺส กมฺมํ กโรนฺตสฺส เสทตินฺตํ วตฺถํ ปีเฬตพฺพตาการํ ปาปุณาติ, อนุโมทนมตฺตมฺปิ กเถนฺตสฺส ตาลวณฺฏํ คณฺหิตพฺพํ โหติ, มยํ ปน สายํ นิปนฺนา ปาโตว อุฏฺหาม, มาสปุณฺณฆโฏ วิย โน สรีรํ, มหากมฺมํ กโรนฺตานํ เสทมตฺตมฺปิ โน น อุปฺปชฺชติ, อสนิสทฺเทน วิย ธมฺมํ กเถนฺตานํ สรีเร อุสุมาการมตฺตมฺปิ โน นตฺถี’’ติ เอวํ ปวตฺตานํ วเสน เวทิตพฺโพ.

อยํเตโชธาตุยา อสฺสาโทติ อยํ เตโชธาตุนิสฺสโย อสฺสาโท. สฺวายํ สีตคหณิเก ทิสฺวา, ‘‘กึ อิเม กิฺจิเทว ยาคุภตฺตขชฺชมตฺตํ อชฺโฌหริตฺวา ถทฺธกุจฺฉิโน นิสีทิตฺวา สพฺพรตฺตึ องฺคารกฏาหํ ปริเยสนฺติ, ผุสิตมตฺเตสุปิ สรีเร ปติเตสุ องฺคารกฏาหํ โอตฺถริตฺวา ปารุปิตฺวาว นิปชฺชนฺติ? มยํ ปน อติถทฺธมฺปิ มํสํ วา ปูวํ วา ขาทาม, กุจฺฉิปูรํ ภตฺตํ ภุฺชาม, ตาวเทว โน สพฺพํ เผณปิณฺโฑ วิย วิลียติ, สตฺตาหวทฺทลิกาย วตฺตมานาย สรีเร สีตานุทหนมตฺตมฺปิ โน นตฺถี’’ติ เอวํ ปวตฺตานํ วเสน เวทิตพฺโพ.

อยํวาโยธาตุยา อสฺสาโทติ อยํ วาโยธาตุนิสฺสโย อสฺสาโท. สฺวายํ อฺเ วาตภีรุเก ทิสฺวา, ‘‘อิเมสํ อปฺปมตฺตกมฺปิ กมฺมํ กโรนฺตานํ อนุโมทนมตฺตมฺปิ กเถนฺตานํ สรีรํ วาโต วิชฺฌติ, คาวุตมตฺตมฺปิ อทฺธานํ คตานํ หตฺถปาทา สีทนฺติ, ปิฏฺิ รุชฺชติ, กุจฺฉิวาตสีสวาตกณฺณวาตาทีหิ นิจฺจุปทฺทุตา เตลผาณิตาทีนิ วาตเภสชฺชาเนว กโรนฺตา อตินาเมนฺติ, อมฺหากํ ปน มหากมฺมํ กโรนฺตานมฺปิ ติยามรตฺตึ ธมฺมํ กเถนฺตานมฺปิ เอกทิวเสเนว ทส โยชนานิ คจฺฉนฺตานมฺปิ หตฺถปาทสํสีทนมตฺตํ วา ปิฏฺิรุชฺชนมตฺตํ วา น โหตี’’ติ, เอวํ ปวตฺตานํ วเสน เวทิตพฺโพ. เอวํ ปวตฺตา หิ เอตา ธาตุโย อสฺสาเทนฺติ นาม.

อพฺภฺาสินฺติ อภิวิสิฏฺเน าเณน อฺาสึ. อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธินฺติ อุตฺตรวิรหิตํ สพฺพเสฏฺํ สมฺมา สามฺจ โพธึ, อถ วา ปสตฺถํ สุนฺทรฺจ โพธึ. โพธีติ รุกฺโขปิ มคฺโคปิ สพฺพฺุตฺาณมฺปิ นิพฺพานมฺปิ. ‘‘โพธิรุกฺขมูเล ปมาภิสมฺพุทฺโธ’’ติ (มหาว. ๑; อุทา. ๑) จ ‘‘อนฺตรา จ โพธึ อนฺตรา จ คย’’นฺติ (มหาว. ๑๑; ม.นิ. ๑.๒๘๕) จ อาคตฏฺาเนสุ หิ รุกฺโข โพธีติ วุจฺจติ. ‘‘โพธิ วุจฺจติ จตูสุ มคฺเคสุ าณ’’นฺติ (จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๒๑) อาคตฏฺาเน มคฺโค. ‘‘ปปฺโปติ โพธึ วรภูริเมธโส’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๑๗) อาคตฏฺาเน สพฺพฺุตฺาณํ. ‘‘ปตฺวาน โพธึ อมตํ อสงฺขต’’นฺติ อาคตฏฺาเน นิพฺพานํ. อิธ ปน ภควโต อรหตฺตมคฺโค อธิปฺเปโต.

สาวกานํ อรหตฺตมคฺโค อนุตฺตรา โพธิ โหติ, น โหตีติ? น โหติ. กสฺมา? อสพฺพคุณทายกตฺตา. เตสฺหิ กสฺสจิ อรหตฺตมคฺโค อรหตฺตผลเมว เทติ, กสฺสจิ ติสฺโส วิชฺชา, กสฺสจิ ฉ อภิฺา, กสฺสจิ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา, กสฺสจิ สาวกปารมีาณํ. ปจฺเจกพุทฺธานมฺปิ ปจฺเจกโพธิาณเมว เทติ. พุทฺธานํ ปน สพฺพคุณสมฺปตฺตึ เทติ อภิเสโก วิย รฺโ สพฺพโลกิสฺสริยภาวํ. ตสฺมา อฺสฺส กสฺสจิปิ อนุตฺตรา โพธิ น โหติ.

อภิสมฺพุทฺโธติ ปจฺจฺาสินฺติ ‘‘อภิสมฺพุทฺโธ อหํ ปตฺโต ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต’’ติ เอวํ ปฏิชานึ. าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทีติ อธิคตคุณทสฺสนสมตฺถํ ปจฺจเวกฺขณาณฺจ เม อุทปาทิ. อกุปฺปา เม วิมุตฺตีติ ‘‘อยํ มยฺหํ อรหตฺตผลวิมุตฺติ อกุปฺปา’’ติ เอวํ าณํ อุทปาทิ. ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ อกุปฺปตา เวทิตพฺพา การณโต จ อารมฺมณโต จ. สา หิ จตูหิ มคฺเคหิ สมุจฺฉินฺนกิเลสานํ ปุน อนิวตฺตนตาย การณโตปิ อกุปฺปา, อกุปฺปธมฺมํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตตาย อารมฺมณโตปิ อกุปฺปา. อนฺติมาติ ปจฺฉิมา. นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโวติ อิทานิ ปุน อฺโ ภโว นาม นตฺถีติ.

อิมสฺมึ สุตฺเต จตฺตาริ สจฺจานิ กถิตานิ. กถํ? จตูสุ หิ ธาตูสุ อสฺสาโท สมุทยสจฺจํ, อาทีนโว ทุกฺขสจฺจํ, นิสฺสรณํ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปฺปชานโน มคฺโค มคฺคสจฺจํ. วิตฺถารวเสนปิ กเถตุํ วฏฺฏติเยว. เอตฺถ หิ ยํ ปถวีธาตุํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ ปถวีธาตุยา อสฺสาโทติ ปหานปฏิเวโธ สมุทยสจฺจํ. ยา ปถวีธาตุ อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา, อยํ ปถวีธาตุยา, อาทีนโวติ ปริฺาปฏิเวโธ ทุกฺขสจฺจํ. โย ปถวีธาตุยา ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ, อิทํ ปถวีธาตุยา นิสฺสรณนฺติ สจฺฉิกิริยาปฏิเวโธ นิโรธสจฺจํ. ยา อิเมสุ ตีสุ าเนสุ ทิฏฺิ สงฺกปฺโป วาจา กมฺมนฺโต อาชีโว วายาโม สติ สมาธิ, อยํ ภาวนาปฏิเวโธ มคฺคสจฺจนฺติ. ทุติยํ.

๓. อจรึสุตฺตวณฺณนา

๑๑๖. ตติเย อจรินฺติ าณจาเรน อจรึ, อนุภวนจาเรนาติ อตฺโถ. ยาวตาติ ยตฺตโก. ตติยํ.

๔. โนเจทํสุตฺตวณฺณนา

๑๑๗. จตุตฺเถ นิสฺสฏาติอาทีนิ อาทิโต วุตฺตปฏิเสเธน โยเชตฺวา ‘‘น นิสฺสฏา, น วิสํยุตฺตา, น วิปฺปมุตฺตา, น วิมริยาทิกเตน เจตสา วิหรึสู’’ติ เอวํ เวทิตพฺพานิ. ทุติยนเย วิมริยาทิกเตนาติ นิมฺมริยาทิกเตน. ตตฺถ ทุวิธา มริยาทา กิเลสมริยาทา วฏฺฏมริยาทาติ. ตตฺถ จ ยสฺส อุปฑฺฒา กิเลสา ปหีนา, อุปฑฺฒา อปฺปหีนา, วฏฺฏํ วา ปน อุปฑฺฒํ ปหีนํ, อุปฑฺฒํ อปฺปหีนํ, ตสฺส จิตฺตํ ปหีนกิเลเส วา วฏฺฏํ วา สนฺธาย วิมริยาทิกตํ, อปฺปหีนกิเลเส วา วฏฺฏํ วา สนฺธาย น วิมริยาทิกตํ. อิธ ปน อุภยสฺสาปิ ปหีนตฺตา ‘‘วิมริยาทิกเตน เจตสา’’ติ วุตฺตํ, มริยาทํ อกตฺวา ิเตน อติกฺกนฺตมริยาเทน เจตสาติ อตฺโถ. อิติ ตีสุปิ อิเมสุ สุตฺเตสุ จตุสจฺจเมว กถิตํ. จตุตฺถํ.

๕. เอกนฺตทุกฺขสุตฺตวณฺณนา

๑๑๘. ปฺจเม เอกนฺตทุกฺขาติ อติกฺกมิตฺวา ิตสฺส ตตฺตกาโร วิย เอกนฺเตเนว ทุกฺขา. ทุกฺขานุปติตาติ ทุกฺเขน อนุปติตา. ทุกฺขาวกฺกนฺตาติ ทุกฺเขน โอกฺกนฺตา โอติณฺณา. สุขาติ สุขเวทนาย ปจฺจยภูตา. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ สุตฺเต ทุกฺขลกฺขณํ กถิตํ. ปฺจมํ.

๖-๑๐. อภินนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๙-๑๒๓. ฉฏฺสตฺตเมสุ วิวฏฺฏํ, อวสาเน ตีสุ จตุสจฺจเมวาติ. ฉฏฺาทีนิ.

จตุตฺโถ วคฺโค.

ธาตุสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.