📜

๕. กสฺสปสํยุตฺตํ

๑. สนฺตุฏฺสุตฺตวณฺณนา

๑๔๔. กสฺสปสํยุตฺตสฺส ปเม สนฺตุฏฺายนฺติ สนฺตุฏฺโ อยํ. อิตรีตเรนาติ น ถูลสุขุมลูขปณีตถิรชิณฺณานํ เยน เกนจิ, อถ โข ยถาลทฺธาทีนํ อิตรีตเรน เยน เกนจิ สนฺตุฏฺโติ อตฺโถ. จีวรสฺมิฺหิ ตโย สนฺโตสา ยถาลาภสนฺโตโส ยถาพลสนฺโตโส ยถาสารุปฺปสนฺโตโสติ. ปิณฺฑปาตาทีสุปิ เอเสว นโย.

เตสํ อยํ ปเภทสํวณฺณนา – อิธ ภิกฺขุ จีวรํ ลภติ สุนฺทรํ วา อสุนฺทรํ วา, โส เตเนว ยาเปติ, อฺํ น ปตฺเถติ, ลภนฺโตปิ น คณฺหาติ. อยมสฺส จีวเร ยถาลาภสนฺโตโส. อถ ปน ปกติทุพฺพโล วา โหติ อาพาธชราภิภูโต วา, ครุจีวรํ ปารุปนฺโต กิลมติ, โส สภาเคน ภิกฺขุนา สทฺธึ ตํ ปริวตฺเตตฺวา ลหุเกน ยาเปนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส จีวเร ยถาพลสนฺโตโส. อปโร ปณีตปจฺจยลาภี โหติ, โส ปฏฺฏจีวราทีนํ อฺตรํ มหคฺฆจีวรํ พหูนิ วา จีวรานิ ลภิตฺวา – ‘‘อิทํ เถรานํ จิรปพฺพชิตานํ, อิทํ พหุสฺสุตานํ อนุรูปํ, อิทํ คิลานานํ, อิทํ อปฺปลาภีนํ โหตู’’ติ ทตฺวา เตสํ ปุราณจีวรํ วา สงฺการกูฏาทิโต วา ปน นนฺตกานิ อุจฺจินิตฺวา เตหิ สงฺฆาฏึ กตฺวา ธาเรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส จีวเร ยถาสารุปฺปสนฺโตโส.

อิธ ปน ภิกฺขุ ปิณฺฑปาตํ ลภติ ลูขํ วา ปณีตํ วา, โส เตเนว ยาเปติ, อฺํ น ปตฺเถติ, ลภนฺโตปิ น คณฺหาติ. อยมสฺส ปิณฺฑปาเต ยถาลาภ สนฺโตโส. โย ปน อตฺตโน ปกติวิรุทฺธํ วา พฺยาธิวิรุทฺธํ วา ปิณฺฑปาตํ ลภติ, เยนสฺส ปริภุตฺเตน อผาสุ โหติ, โส สภาคสฺส ภิกฺขุโน ตํ ทตฺวา ตสฺส หตฺถโต สปฺปายโภชนํ ภุตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส ปิณฺฑปาเต ยถาพลสนฺโตโส. อปโร พหุํ ปณีตํ ปิณฺฑปาตํ ลภติ, โส ตํ จีวรํ วิย จิรปพฺพชิต-พหุสฺสุต-อปฺปลาภคิลานานํ ทตฺวา , เตสํ วา เสสกํ ปิณฺฑาย วา จริตฺวา มิสฺสกาหารํ ภุฺชนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส ปิณฺฑปาเต ยถาสารุปฺปสนฺโตโส.

อิธ ปน ภิกฺขุ เสนาสนํ ลภติ มนาปํ วา อมนาปํ วา, โส เตน เนว โสมนสฺสํ น ปฏิฆํ อุปฺปาเทติ, อนฺตมโส ติณสนฺถารเกนาปิ ยถาลทฺเธเนว ตุสฺสติ. อยมสฺส เสนาสเน ยถาลาภสนฺโตโส. โย ปน อตฺตโน ปกติวิรุทฺธํ วา พฺยาธิวิรุทฺธํ วา เสนาสนํ ลภติ, ยตฺถสฺส วสโต อผาสุ โหติ, โส ตํ สภาคสฺส ภิกฺขุโน ทตฺวา ตสฺส สนฺตเก สปฺปายเสนาสเน วสนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส เสนาสเน ยถาพลสนฺโตโส. อปโร มหาปุฺโ เลณมณฺฑปกูฏาคาราทีนิ พหูนิ ปณีตเสนาสนานิ ลภติ, โส ตานิ จีวราทีนิ วิย จิรปพฺพชิตพหุสฺสุตอปฺปลาภคิลานานํ ทตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ วสนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส เสนาสเน ยถาสารุปฺปสนฺโตโส. โยปิ ‘‘อุตฺตมเสนาสนํ นาม ปมาทฏฺานํ, ตตฺถ นิสินฺนสฺส ถินมิทฺธํ โอกฺกมติ, นิทฺทาภิภูตสฺส ปฏิพุชฺฌโต ปาปวิตกฺกา ปาตุภวนฺตี’’ติ ปฏิสฺจิกฺขิตฺวา ตาทิสํ เสนาสนํ ปตฺตมฺปิ น สมฺปฏิจฺฉติ, โส ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อพฺโภกาสรุกฺขมูลาทีสุ วสนฺโต สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมฺปิ เสนาสเน ยถาสารุปฺปสนฺโตโส.

อิธ ปน ภิกฺขุ เภสชฺชํ ลภติ ลูขํ วา ปณีตํ วา, โส ยํ ลภติ เตเนว ตุสฺสติ, อฺํ น ปตฺเถติ, ลภนฺโตปิ น คณฺหาติ. อยมสฺส คิลานปจฺจเย ยถาลาภสนฺโตโส. โย ปน เตเลนตฺถิโก ผาณิตํ ลภติ, โส ตํ สภาคสฺส ภิกฺขุโน ทตฺวา ตสฺส หตฺถโต เตลํ คเหตฺวา วา อฺเทว วา ปริเยสิตฺวา เภสชฺชํ กโรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส คิลานปจฺจเย ยถาพลสนฺโตโส. อปโร มหาปุฺโ พหุํ เตลมธุผาณิตาทิปณีตเภสชฺชํ ลภติ, โส ตํ จีวรํ วิย จิรปพฺพชิต-พหุสฺสุต-อปฺปลาภคิลานานํ ทตฺวา เตสํ อาภเตน เยน เกนจิ ยาเปนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. โย ปน เอกสฺมึ ภาชเน มุตฺตหรีตกํ เปตฺวา เอกสฺมึ จตุมธุรํ ‘‘คณฺห, ภนฺเต, ยทิจฺฉสี’’ติ วุจฺจมาโน สจสฺส เตสุ อฺตเรนปิ โรโค วูปสมฺมติ, อถ ‘‘มุตฺตหรีตกํ นาม พุทฺธาทีหิ วณฺณิต’’นฺติ จตุมธุรํ ปฏิกฺขิปิตฺวา มุตฺตหรีตเกน เภสชฺชํ กโรนฺโต ปรมสนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส คิลานปจฺจเย ยถาสารุปฺปสนฺโตโส. อิติ อิเม ตโย สนฺโตเส สนฺธาย ‘‘สนฺตุฏฺายํ, ภิกฺขเว, กสฺสโป อิตรีตเรน จีวเรนา’’ติ วุตฺตํ.

วณฺณวาทีติ เอโก สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ น กเถติ. เอโก น สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ. เอโก เนว สนฺตุฏฺโ โหติ, น สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ. เอโก สนฺตุฏฺโ จ โหติ, สนฺโตสสฺส จ วณฺณํ กเถติ. อยํ ตาทิโสติ ทสฺเสตุํ อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาทีติ วุตฺตํ. อเนสนนฺติ ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคปฺปเภทํ นานปฺปการํ อเนสนํ. อลทฺธาติ อลภิตฺวา. ยถา จ เอกจฺโจ ‘‘กถํ นุ โข จีวรํ ลภิสฺสามี’’ติ ปุฺวนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เอกโต หุตฺวา โกหฺํ กโรนฺโต อุตฺตสติ ปริตสฺสติ, อยํ เอวํ อลทฺธา จ จีวรํ น ปริตสฺสติ. ลทฺธา จาติ ธมฺเมน สเมน ลภิตฺวา. อคธิโตติ วิคตโลภเคโธ. อมุจฺฉิโตติ อธิมตฺตตณฺหาย มุจฺฉํ อนาปนฺโน. อนชฺฌาปนฺโนติ ตณฺหาย อโนตฺถโฏ อปริโยนทฺโธ. อาทีนวทสฺสาวีติ อเนสนาปตฺติยฺจ คธิตปริโภเค จ อาทีนวํ ปสฺสมาโน. นิสฺสรณปฺโติ, ‘‘ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติ วุตฺตนิสฺสรณเมว ชานนฺโต ปริภุฺชตีติ อตฺโถ. อิตรีตเรน ปิณฺฑปาเตนาติอาทีสุปิ ยถาลทฺธาทีนํ เยน เกนจิ ปิณฺฑปาเตน, เยน เกนจิ เสนาสเนน, เยน เกนจิ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรนาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

กสฺสเปน วา หิ โว, ภิกฺขเว, โอวทิสฺสามีติ เอตฺถ ยถา มหากสฺสปตฺเถโร จตูสุ ปจฺจเยสุ ตีหิ สนฺโตเสหิ สนฺตุฏฺโ, ตุมฺเหปิ ตถารูปา ภวถาติ โอวทนฺโต กสฺสเปน โอวทติ นาม. โย วา ปนสฺส กสฺสปสทิโสติ เอตฺถาปิ โย วา ปนฺโปิ กสฺสปสทิโส มหากสฺสปตฺเถโร วิย จตูสุ ปจฺจเยสุ ตีหิ สนฺโตเสหิ สนฺตุฏฺโ ภเวยฺย, ตุมฺเหปิ ตถารูปา ภวถาติ โอวทนฺโต กสฺสปสทิเสน โอวทติ นาม. ตถตฺตาย ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อิมาย อิมสฺมึ สนฺตุฏฺิสุตฺเต วุตฺตสลฺเลขาจารปฏิปตฺติยา กถนํ นาม ภาโร, อมฺหากมฺปิ อิมํ ปฏิปตฺตึ ปริปูรํ กตฺวา ปูรณํ ภาโรเยว, อาคโต โข ปน ภาโร คเหตพฺโพ’’ติ จินฺเตตฺวา ยถา มยา กถิตํ, ตถตฺตาย ตถาภาวาย ตุมฺเหหิปิ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ. ปมํ.

๒. อโนตฺตปฺปีสุตฺตวณฺณนา

๑๔๕. ทุติเย อนาตาปีติ ยํ วีริยํ กิเลเส อาตปติ, เตน รหิโต. อโนตฺตปฺปีติ นิพฺภโย กิเลสุปฺปตฺติโต กุสลานุปฺปตฺติโต จ ภยรหิโต. สมฺโพธายาติ สมฺพุชฺฌนตฺถาย. นิพฺพานายาติ นิพฺพานสจฺฉิกิริยาย. อนุตฺตรสฺส โยคกฺเขมสฺสาติ อรหตฺตสฺส ตฺหิ อนุตฺตรฺเจว จตูหิ จ โยเคหิ เขมํ.

อนุปฺปนฺนาติอาทีสุ เย ปุพฺเพ อปฺปฏิลทฺธปุพฺพํ จีวราทึ วา ปจฺจยํ อุปฏฺากสทฺธิวิหาริก-อนฺเตวาสีนํ วา อฺตรโต มนุฺวตฺถุํ ปฏิลภิตฺวา ตํ สุภํ สุขนฺติ อโยนิโส คณฺหนฺตสฺส อฺตรํ วา ปน อนนุภูตปุพฺพํ อารมฺมณํ ยถา ตถา วา อโยนิโส อาวชฺเชนฺตสฺส โลภาทโย ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, เต อนุปฺปนฺนาติ เวทิตพฺพา. อฺถา หิ อนมตคฺเค สํสาเร อนุปฺปนฺนา นาม ปาปกา ธมฺมา นตฺถิ. อนุภูตปุพฺเพปิ จ วตฺถุมฺหิ อารมฺมเณ วา ยสฺส ปกติพุทฺธิยา วา อุทฺเทสปริปุจฺฉาย วา ปริยตฺตินวกมฺมโยนิโสมนสิการานํ วา อฺตรวเสน ปุพฺเพ อนุปฺปชฺชิตฺวา ปจฺฉา ตาทิเสน ปจฺจเยน สหสา อุปฺปชฺชนฺติ, อิเมปิ ‘‘อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุ’’นฺติ เวทิตพฺพา. เตสุเยว ปน วตฺถารมฺมเณสุ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมานา นปฺปหียนฺติ นาม, เต ‘‘อุปฺปนฺนา อปฺปหียมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุ’’นฺติ เวทิตพฺพา. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปน อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนเภโท จ ปหานปฺปหานวิธานฺจ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค าณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทเส กถิตํ.

อนุปฺปนฺนาเม กุสลา ธมฺมาติ อปฺปฏิลทฺธาปิ สีลสมาธิมคฺคผลสงฺขาตา อนวชฺชธมฺมา. อุปฺปนฺนาติ เตเยว ปฏิลทฺธา. นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุนฺติ เต สีลาทิธมฺมา ปริหานิวเสน ปุน อนุปฺปตฺติยา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุนฺติ เวทิตพฺพา. เอตฺถ จ โลกิยา ปริหายนฺติ, โลกุตฺตรานํ ปริหานิ นตฺถีติ. ‘‘อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา’’ติ อิมสฺส ปน สมฺมปฺปธานสฺส วเสนายํ เทสนา กตา. ทุติยมคฺโค วา สีฆํ อนุปฺปชฺชมาโน, ปมมคฺโค นิรุชฺฌมาโน อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยาติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต อิเม จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ปุพฺพภาควิปสฺสนาวเสน กถิตาติ. ทุติยํ.

๓. จนฺทูปมสุตฺตวณฺณนา

๑๔๖. ตติเย จนฺทูปมาติ จนฺทสทิสา หุตฺวา. กึ ปริมณฺฑลตาย? โน, อปิจ โข ยถา จนฺโท คคนตลํ ปกฺขนฺทมาโน น เกนจิ สทฺธึ สนฺถวํ วา สิเนหํ วา อาลยํ วา นิกนฺตึ วา ปตฺถนํ วา ปริยุฏฺานํ วา กโรติ, น จ น โหติ มหาชนสฺส ปิโย มนาโป, ตุมฺเหปิ เอวํ เกนจิ สทฺธึ สนฺถวาทีนํ อกรเณน พหุชนสฺส ปิยา มนาปา จนฺทูปมา หุตฺวา ขตฺติยกุลาทีนิ จตฺตาริ กุลานิ อุปสงฺกมถาติ อตฺโถ. อปิจ ยถา จนฺโท อนฺธการํ วิธมติ, อาโลกํ ผรติ, เอวํ กิเลสนฺธการวิธมเนน าณาโลกผรเณน จาปิ จนฺทูปมา หุตฺวาติ เอวมาทีหิปิ นเยหิ เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

อปกสฺเสว กายํ อปกสฺส จิตฺตนฺติ เตเนว สนฺถวาทีนํ อกรเณน กายฺจ จิตฺตฺจ อปกสฺสิตฺวา, อปเนตฺวาติ อตฺโถ. โย หิ ภิกฺขุ อรฺเปิ น วสติ, กามวิตกฺกาทโยปิ วิตกฺเกติ, อยํ เนว กายํ อปกสฺสติ, น จิตฺตํ. โย หิ อรฺเปิ โข วิหรติ, กามวิตกฺกาทโย ปน วิตกฺเกติ, อยํ กายเมว อปกสฺสติ, น จิตฺตํ. โย คามนฺเต วสติ , กามวิตกฺกาทโยปิ โข น จ วิตกฺเกติ, อยํ จิตฺตเมว อปกสฺสติ, น กายํ. โย ปน อรฺเ เจว วสติ, กามวิตกฺกาทโย จ น วิตกฺเกติ, อยํ อุภยมฺปิ อปกสฺสติ. เอวรูปา หุตฺวา กุลานิ อุปสงฺกมถาติ ทีเปนฺโต ‘‘อปกสฺเสว กายํ อปกสฺส จิตฺต’’นฺติ อาห.

นิจฺจนวกาติ นิจฺจํ นวกาว, อาคนฺตุกสทิสา เอว หุตฺวาติ อตฺโถ. อาคนฺตุโก หิ ปฏิปาฏิยา สมฺปตฺตเคหํ ปวิสิตฺวา สเจ นํ ฆรสามิกา ทิสฺวา, ‘‘อมฺหากํ ปุตฺตภาตโร วิปฺปวาสํ คตา เอวํ วิจรึสู’’ติ อนุกมฺปมานา นิสีทาเปตฺวา โภเชนฺติ, ภุตฺตมตฺโตเยว ‘‘ตุมฺหากํ ภาชนํ คณฺหถา’’ติ อุฏฺาย ปกฺกมติ, น เตหิ สทฺธึ สนฺถวํ วา กโรติ, น กิจฺจกรณียานิ วา สํวิทหติ, เอวํ ตุมฺเหปิ ปฏิปาฏิยา สมฺปตฺตฆรํ ปวิสิตฺวา ยํ อิริยาปเถสุ ปสนฺนา มนุสฺสา เทนฺติ, ตํ คเหตฺวา ฉินฺนสนฺถวา, เตสํ กิจฺจกรณีเย อพฺยาวฏา หุตฺวา นิกฺขมถาติ ทีเปติ.

อิมสฺส ปน นิจฺจนวกภาวสฺส อาวิภาวตฺถํ ทฺเวภาติกวตฺถุ กเถตพฺพํ – วสาฬนครคามโต กิร ทฺเว ภาติกา นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตา, เต จูฬนาคตฺเถโร จ มหานาคตฺเถโร จาติ ปฺายึสุ. เต จิตฺตลปพฺพเต ตึส วสฺสานิ วสิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตา ‘‘มาตรํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ อาคนฺตฺวา วสาฬนครวิหาเร วสิตฺวา ปุนทิวเส มาตุคามํ ปิณฺฑาย ปวิสึสุ. มาตาปิ เตสํ อุฬุงฺเกน ยาคุํ นีหริตฺวา เอกสฺส ปตฺเต อากิริ. ตสฺสา ตํ โอโลกยมานาย ปุตฺตสิเนโห อุปฺปชฺชิ. อถ นํ อาห – ‘‘ตฺวํ, ตาต, มยฺหํ ปุตฺโต มหานาโค’’ติ. เถโร ‘‘ปจฺฉิมํ เถรํ ปุจฺฉ อุปาสิเก’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ. ปจฺฉิมเถรสฺสปิ ยาคุํ ทตฺวา, ‘‘ตาต, ตฺวํ มยฺหํ ปุตฺโต จูฬนาโค’’ติ ปุจฺฉิ? เถโร ‘‘กึ, อุปาสิเก, ปุริมํ เถรํ น ปุจฺฉสี’’ติ? วตฺวา ปกฺกามิ. เอวํ มาตราปิ สทฺธึ ฉินฺนสนฺถโว ภิกฺขุ นิจฺจนวโก นาม โหติ.

อปฺปคพฺภาติ น ปคพฺภา, อฏฺฏฺาเนน กายปาคพฺภิเยน, จตุฏฺาเนน วจีปาคพฺภิเยน, อเนกฏฺาเนน มโนปาคพฺภิเยน จ วิรหิตาติ อตฺโถ. อฏฺฏฺานํ กายปาคพฺภิยํ นาม สงฺฆคณปุคฺคล-โภชนสาลา-ชนฺตาฆรนหานติตฺถ-ภิกฺขาจารมคฺค-อนฺตรฆรปฺปเวสเนสุ กาเยน อปฺปติรูปกรณํ. เสยฺยถิทํ – อิเธกจฺโจ สงฺฆมชฺเฌ ปลฺลตฺถิกาย วา นิสีทติ ปาเท ปาทํ อาธายิตฺวา วาติ เอวมาทิ (มหานิ. ๑๖๕). ตถา คณมชฺเฌ. คณมชฺเฌติ จตุปริสสนฺนิปาเต วา สุตฺตนฺติกคณาทิสนฺนิปาเต วา. ตถา วุฑฺฒตเร ปุคฺคเล. โภชนสาลาย ปน วุฑฺฒานํ อาสนํ น เทติ, นวานํ อาสนํ ปฏิพาหติ. ตถา ชนฺตาฆเร. วุฑฺเฒ เจตฺถ อนาปุจฺฉา อคฺคิชลนาทีนิ กโรติ. นฺหานติตฺเถ จ ยทิทํ ‘‘ทหโร วุฑฺโฒติ ปมาณํ อกตฺวา อาคตปฏิปาฏิยา นฺหายิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตมฺปิ อนาทิยนฺโต ปจฺฉา อาคนฺตฺวา อุทกํ โอตริตฺวา วุฑฺเฒ จ นเว จ พาธติ. ภิกฺขาจารมคฺเค ปน อคฺคาสนอคฺโคทกอคฺคปิณฺฑานํ อตฺถาย ปุรโต คจฺฉติ พาหาย พาหํ ปหรนฺโต. อนฺตรฆรปฺปเวสเน วุฑฺเฒหิ ปมตรํ ปวิสติ, ทหเรหิ สทฺธึ กายกีฬนกํ กโรตีติ เอวมาทิ.

จตุฏฺานํ วจีปาคพฺภิยํ นาม สงฺฆคณปุคฺคลอนฺตรฆเรสุ อปฺปติรูปวาจานิจฺฉารณํ. เสยฺยถิทํ – อิเธกจฺโจ สงฺฆมชฺเฌ อนาปุจฺฉา ธมฺมํ ภาสติ. ตถา ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการสฺส คณสฺส มชฺเฌ ปุคฺคลสฺส จ สนฺติเก, ตตฺเถว มนุสฺเสหิ ปฺหํ ปุฏฺโ วุฑฺฒตรํ อนาปุจฺฉา วิสฺสชฺเชติ. อนฺตรฆเร ปน ‘‘อิตฺถนฺนาเม กึ อตฺถิ? กึ ยาคุ, อุทาหุ ขาทนียํ โภชนียํ? กึ เม ทสฺสสิ? กึ อชฺช ขาทิสฺสาม? กึ ภุฺชิสฺสาม? กึ ปิวิสฺสามา’’ติอาทีนิ ภาสติ.

อเนกฏฺานํ มโนปาคพฺภิยํ นาม เตสุ เตสุ าเนสุ กายวาจาหิ อชฺฌาจารํ อนาปชฺชิตฺวาปิ มนสาว กามวิตกฺกาทีนํ วิตกฺกนํ. อปิจ ทุสฺสีลสฺเสว สโต ‘‘สีลวาติ มํ ชโน ชานาตู’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปาปิจฺฉตาปิ มโนปาคพฺภิยํ. อิติ สพฺเพสมฺปิ อิเมสํ ปาคพฺภิยานํ อภาเวน อปฺปคพฺภา หุตฺวา อุปสงฺกมถาติ วทติ.

ชรุทปานนฺติ ชิณฺณกูปํ. ปพฺพตวิสมนฺติ ปพฺพเต วิสมํ ปปาตฏฺานํ. นทีวิทุคฺคนฺติ นทิยา วิทุคฺคํ ฉินฺนตฏฏฺานํ. อปกสฺเสว กายนฺติ ตาทิสานิ านานิ โย ขิฑฺฑาทิปสุโต กายํ อนปกสฺส เอกโตภาริยํ อกตฺวาว วายุปตฺถมฺภกํ อคฺคาหาเปตฺวา จิตฺตมฺปิ อนปกสฺส ‘‘เอตฺถ ปติโต หตฺถปาทภฺชนาทีนิ ปาปุณาตี’’ติ อนาทีนวทสฺสาวิตาย อนุพฺเพเชตฺวา สมฺปิยายมาโน โอโลเกติ, โส ปติตฺวา หตฺถปาทภฺชนาทิอนตฺถํ ปาปุณาติ. โย ปน อุทกตฺถิโก วา อฺเน วา เกนจิ กิจฺเจน โอโลเกตุกาโม กายํ อปกสฺส เอกโต ภาริยํ กตฺวา วายุปตฺถมฺภกํ คาหาเปตฺวา, จิตฺตมฺปิ อปกสฺส อาทีนวทสฺสเนน สํเวเชตฺวา โอโลเกติ, โส น ปตติ, ยถารุจึ โอโลเกตฺวา สุขี เยนกามํ ปกฺกมติ.

เอวเมวโขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ชรุทปานาทโย วิย หิ จตฺตาริ กุลานิ, โอโลกนปุริโส วิย ภิกฺขุ. ยถา อนปกฏฺกายจิตฺโต ตานิ โอโลเกนฺโต ปุริโส ตตฺถ ปตติ, เอวํ อรกฺขิเตหิ กายาทีหิ กุลานิ อุปสงฺกมนฺโต ภิกฺขุ กุเลสุ พชฺฌติ, ตโต นานปฺปการํ สีลปาทภฺชนาทิอนตฺถํ ปาปุณาติ. ยถา ปน อปกฏฺกายจิตฺโต ปุริโส ตตฺถ น ปตติ, เอวํ รกฺขิเตเนว กาเยน รกฺขิเตหิ จิตฺเตหิ รกฺขิตาย วาจาย สุปฺปฏฺิตาย สติยา อปกฏฺกายจิตฺโต หุตฺวา กุลานิ อุปสงฺกมนฺโต ภิกฺขุ กุเลสุ น พชฺฌติ. อถสฺส ยถา ตตฺถ อปติตสฺส ปุริสสฺส, น ปาทา ภฺชนฺติ, เอวํ สีลปาโท น ภิชฺชติ. ยถา หตฺถา น ภฺชนฺติ, เอวํ สทฺธาหตฺโถ น ภิชฺชติ. ยถา กุจฺฉิ น ภิชฺชติ, เอวํ สมาธิกุจฺฉิ น ภิชฺชติ. ยถา สีสํ น ภิชฺชติ, เอวํ าณสีสํ น ภิชฺชติ, ยถา จ ตํ ขาณุกณฺฏกาทโย น วิชฺฌนฺติ, เอวมิมํ ราคกณฺฏกาทโย น วิชฺฌนฺติ. ยถา โส นิรุปทฺทโว ยถารุจิ โอโลเกตฺวา สุขี เยนกามํ ปกฺกมติ, เอวํ ภิกฺขุ กุลานิ นิสฺสาย จีวราทโย ปจฺจเย ปฏิเสวนฺโต กมฺมฏฺานํ วฑฺเฒตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺโต อรหตฺตํ ปตฺวา โลกุตฺตรสุเขน สุขิโต เยนกามํ อคตปุพฺพํ นิพฺพานทิสํ คจฺฉติ.

อิทานิ โย หีนาธิมุตฺติโก มิจฺฉาปฏิปนฺโน เอวํ วเทยฺย ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ‘ติวิธํ ปาคพฺภิยํ ปหาย นิจฺจนวกตฺเตน จนฺทูปมา กุลานิ อุปสงฺกมถา’ติ วทนฺโต อฏฺาเน เปติ, อสยฺหํ ภารํ อาโรเปติ, ยํ น สกฺกา กาตุํ ตํ กาเรตี’’ติ, ตสฺส วาทปถํ ปจฺฉินฺทิตฺวา, ‘‘สกฺกา เอวํ กาตุํ, อตฺถิ เอวรูโป ภิกฺขู’’ติ ทสฺเสนฺโต กสฺสโป, ภิกฺขเวติอาทิมาห.

อากาเส ปาณึ จาเลสีติ นีเล คคนนฺตเร ยมกวิชฺชุตํ จารยมาโน วิย เหฏฺาภาคํ อุปริภาคํ อุภโตปสฺเสสุ ปาณึ สฺจาเรสิ. อิทฺจ ปน เตปิฏเก พุทฺธวจเน อสมฺภินฺนปทํ นาม. อตฺตมโนติ ตุฏฺจิตฺโต สกมโน, น โทมนสฺเสน ปจฺฉินฺทิตฺวา คหิตมโน. กสฺสปสฺส, ภิกฺขเวติ อิทมฺปิ ปุริมนเยเนว ปรวาทํ ปจฺฉินฺทิตฺวา อตฺถิ เอวรูโป ภิกฺขูติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

ปสนฺนาการํกเรยฺยุนฺติ จีวราทโย ปจฺจเย ทเทยฺยุํ. ตถตฺตาย ปฏิปชฺเชยฺยุนฺติ สีลสฺส อาคตฏฺาเน สีลํ ปูรยมานา, สมาธิวิปสฺสนา มคฺคผลานํ อาคตฏฺาเน ตานิ ตานิ สมฺปาทยมานา ตถาภาวาย ปฏิปชฺเชยฺยุํ. อนุทยนฺติ รกฺขณภาวํ. อนุกมฺปนฺติ มุทุจิตฺตตํ. อุภยฺเจตํ การุฺสฺเสว เววจนํ. กสฺสโป, ภิกฺขเวติ อิทมฺปิ ปุริมนเยเนว ปรวาทํ ปจฺฉินฺทิตฺวา อตฺถิ เอวรูโป ภิกฺขูติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. กสฺสเปน วาติ เอตฺถ จนฺโทปมาทิวเสน โยชนํ กตฺวา ปุริมนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตติยํ.

๔. กุลูปกสุตฺตวณฺณนา

๑๔๗. จตุตฺเถ กุลูปโกติ กุลฆรานํ อุปคนฺตา. เทนฺตุเยว เมติ ททนฺตุเยว มยฺหํ. สนฺทียตีติ อฏฺฏียติ ปีฬิยติ. เสสเมตฺถ วุตฺตนยานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. จตุตฺถํ.

๕. ชิณฺณสุตฺตวณฺณนา

๑๔๘. ปฺจเม ชิณฺโณติ เถโร มหลฺลโก. ครุกานีติ ตํ สตฺถุ สนฺติกา ลทฺธกาลโต ปฏฺาย ฉินฺนภินฺนฏฺาเน สุตฺตสํสิพฺพเนน เจว อคฺคฬทาเนน จ อเนกานิ ปฏลานิ หุตฺวา ครุกานิ ชาตานิ. นิพฺพสนานีติ ปุพฺเพ ภควตา นิวาเสตฺวา อปนีตตาย เอวํลทฺธนามานิ. ตสฺมาติ ยสฺมา ตฺวํ ชิณฺโณ เจว ครุปํสุกูโล จ. คหปตานีติ ปํสุกูลิกงฺคํ วิสฺสชฺเชตฺวา คหปตีหิ ทินฺนจีวรานิ ธาเรหีติ วทติ. นิมนฺตนานีติ ปิณฺฑปาติกงฺคํ วิสฺสชฺเชตฺวา สลากภตฺตาทีนิ นิมนฺตนานิ ภุฺชาหีติ วทติ. มม จ สนฺติเกติ อารฺิกงฺคํ วิสฺสชฺเชตฺวา คามนฺตเสนาสเนเยว วสาหีติ วทติ.

นนุ จ ยถา ราชา เสนาปตึ เสนาปติฏฺาเน เปตฺวา ตสฺส ราชูปฏฺานาทินา อตฺตโน กมฺเมน อาราเธนฺตสฺเสว ตํ านนฺตรํ คเหตฺวา อฺสฺส ททมาโน อยุตฺตํ นาม กโรติ, เอวํ สตฺถา มหากสฺสปตฺเถรสฺส ปจฺจุคฺคมนตฺถาย ติคาวุตํ มคฺคํ คนฺตฺวา ราชคหสฺส จ นาฬนฺทาย จ อนฺตเร พหุปุตฺตกรุกฺขมูเล นิสินฺโน ตีหิ โอวาเทหิ อุปสมฺปาเทตฺวา เตน สทฺธึ อตฺตโน จีวรํ ปริวตฺเตตฺวา เถรํ ชาติอารฺิกงฺคฺเจว ชาติปํสุกูลิกงฺคฺจ อกาสิ, โส ตสฺมึ กตฺตุกมฺยตาฉนฺเทน สตฺถุ จิตฺตํ อาราเธนฺตสฺเสว ปํสุกูลาทีนิ วิสฺสชฺชาเปตฺวา คหปติจีวรปฏิคฺคหณาทีสุ นิโยเชนฺโต อยุตฺตํ นาม กโรตีติ. น กโรติ. กสฺมา? อตฺตชฺฌาสยตฺตา. น หิ สตฺถา ธุตงฺคานิ วิสฺสชฺชาเปตุกาโม, ยถา ปน อฆฏฺฏิตา เภริอาทโย สทฺทํ น วิสฺสชฺเชนฺติ, เอวํ อฆฏฺฏิตา เอวรูปา ปุคฺคลา น สีหนาทํ นทนฺตีติ นทาเปตุกาโม สีหนาทชฺฌาสเยน เอวมาห. เถโรปิ สตฺถุ อชฺฌาสยานุรูเปเนว ‘‘อหํ โข, ภนฺเต, ทีฆรตฺตํ อารฺิโก เจวา’’ติอาทินา นเยน สีหนาทํ นทติ.

ทิฏฺธมฺมสุขวิหารนฺติ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาโร นาม อารฺิกสฺเสว ลพฺภติ, โน คามนฺตวาสิโน. คามนฺตสฺมิฺหิ วสนฺโต ทารกสทฺทํ สุณาติ, อสปฺปายรูปานิ ปสฺสติ, อสปฺปาเย สทฺเท สุณาติ, เตนสฺส อนภิรติ อุปฺปชฺชติ. อารฺิโก ปน คาวุตํ วา อฑฺฒโยชนํ วา อติกฺกมิตฺวา อรฺํ อชฺโฌคาเหตฺวา วสนฺโต ทีปิพฺยคฺฆสีหาทีนํ สทฺเท สุณาติ, เยสํ สวนปจฺจยา อมานุสิกาสวนรติ อุปฺปชฺชติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –

‘‘สุฺาคารํ ปวิฏฺสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;

อมานุสี รตี โหติ, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโต.

‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานตํ. (ธ. ป. ๓๗๓-๓๗๔);

‘‘ปุรโต ปจฺฉโต วาปิ, อปโร เจ น วิชฺชติ;

ตตฺเถว ผาสุ ภวติ, เอกสฺส รมโต วเน’’ติ.

ตถา ปิณฺฑปาติกสฺเสว ลพฺภติ, โน อปิณฺฑปาติกสฺส. อปิณฺฑปาติโก หิ อกาลจารี โหติ, ตุริตจารํ คจฺฉติ, ปริวตฺเตติ, ปลิพุทฺโธว คจฺฉติ, ตตฺถ จ พหุสํสโย โหติ. ปิณฺฑปาติโก ปน น อกาลจารี โหติ, น ตุริตจารํ คจฺฉติ, น ปริวตฺเตติ, อปลิพุทฺโธว คจฺฉติ, ตตฺถ จ น พหุสํสโย โหติ.

กถํ? อปิณฺฑปาติโก หิ คามโต ทูรวิหาเร วสมาโน กาลสฺเสว ‘‘ยาคุํ วา ปาริวาสิกภตฺตํ วา ลจฺฉามิ, อาสนสาลาย วา ปน อุทฺเทสภตฺตาทีสุ กิฺจิเทว มยฺหํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ มกฺกฏกสุตฺตานิ ฉินฺทนฺโต สยิตโครูปานิ อุฏฺาเปนฺโต ปาโตว คจฺฉนฺโต อกาลจารี โหติ. มนุสฺเส เขตฺตกมฺมาทีนํ อตฺถาย เคหา นิกฺขนฺเตเยว สมฺปาปุณิตุํ มิคํ อนุพนฺธนฺโต วิย เวเคน คจฺฉนฺโต ตุริตจารี โหติ. อนฺตรา กิฺจิเทว ทิสฺวา ‘‘อสุกอุปาสโก วา อสุกอุปาสิกา วา เคเห, โน เคเห’’ติ ปุจฺฉติ, ‘‘โน เคเห’’ติ สุตฺวา ‘‘อิทานิ กุโต ลภิสฺสามี’’ติ? อคฺคิทฑฺโฒ วิย ปเวธติ, สยํ ปจฺฉิมทิสํ คนฺตุกาโม ปาจีนทิสาย สลากํ ลภิตฺวา อฺํ ปจฺฉิมทิสาย ลทฺธสลากํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อหํ ปจฺฉิมทิสํ คมิสฺสามิ, มม สลากํ ตุมฺเห คณฺหถ, ตุมฺหากํ สลากํ มยฺหํ เทถา’’ติ สลากํ ปริวตฺเตติ. เอกํ วา ปน สลากภตฺตํ อาหริตฺวา ปริภุฺชนฺโต ‘‘อปรสฺสาปิ สลากภตฺตสฺส ปตฺตํ เทถา’’ติ มนุสฺเสหิ วุตฺเต, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปตฺตํ เทถ, อหํ มยฺหํ ปตฺเต ภตฺตํ ปกฺขิปิตฺวา ตุมฺหากํ ปตฺตํ ทสฺสามี’’ติ อฺสฺส ปตฺตํ ทาเปตฺวา ภตฺเต อาหเฏ อตฺตโน ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา ปตฺตํ ปฏิเทนฺโต ปตฺตํ ปริวตฺเตติ นาม. วิหาเร ราชราชมหามตฺตาทโย มหาทานํ เทนฺติ, อิมินา จ ภิยฺโย ทูรคาเม สลากา ลทฺธา, ตตฺถ อคจฺฉนฺโต ปุน สตฺตาหํ สลากํ น ลภตีติ อลาภภเยน คจฺฉติ, เอวํ คจฺฉนฺโต ปลิพุทฺโธ หุตฺวา คจฺฉติ นาม. ยสฺส เจส สลากภตฺตาทิโน อตฺถาย คจฺฉติ, ‘‘ตํ ทสฺสนฺติ นุ โข เม, อุทาหุ น ทสฺสนฺติ, ปณีตํ นุ โข ทสฺสนฺติ, อุทาหุ ลูขํ, โถกํ นุ โข, อุทาหุ พหุกํ, สีตลํ นุ โข, อุทาหุ อุณฺห’’นฺติ เอวํ ตตฺถ จ พหุสํสโย โหติ.

ปิณฺฑปาติโก ปน กาลสฺเสว วุฏฺาย วตฺตปฏิวตฺตํ กตฺวา สรีรํ ปฏิชคฺคิตฺวา วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกตฺวา กาลํ สลฺลกฺเขตฺวา มหาชนสฺส อุฬุงฺกภิกฺขาทีนิ ทาตุํ ปโหนกกาเล คจฺฉตีติ น อกาลจารี โหติ, เอเกกํ ปทวารํ ฉ โกฏฺาเส กตฺวา วิปสฺสนฺโต คจฺฉตีติ น ตุริตจารี โหติ, อตฺตโน ครุภาเวน ‘‘อสุโก เคเห, น เคเห’’ติ น ปุจฺฉติ, สลากภตฺตาทีนิเยว น คณฺหาติ. อคณฺหนฺโต กึ ปริวตฺเตสฺสติ? น อฺสฺส วเสน ปลิพุทฺโธว โหติ , กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโต ยถารุจิ คจฺฉติ, อิตโร วิย น พหุสํสโย โหติ. เอกสฺมึ คาเม วา วีถิยา วา อลภิตฺวา อฺตฺถ จรติ. ตสฺมิมฺปิ อลภิตฺวา อฺตฺถ จรนฺโต มิสฺสโกทนํ สงฺกฑฺฒิตฺวา อมตํ วิย ปริภุฺชิตฺวา คจฺฉติ.

ปํสุกูลิกสฺเสว ลพฺภติ, โน อปํสุกูลิกสฺส. อปํสุกูลิโก หิ วสฺสาวาสิกํ ปริเยสนฺโต จรติ, น เสนาสนสปฺปายํ ปริเยสติ. ปํสุกูลิโก ปน น วสฺสาวาสิกํ ปริเยสนฺโต จรติ, เสนาสนสปฺปายเมว ปริเยสติ. เตจีวริกสฺเสว ลพฺภติ, น อิตรสฺส. อเตจีวริโก หิ พหุภณฺโฑ พหุปริกฺขาโร โหติ, เตนสฺส ผาสุวิหาโร นตฺถิ. อปฺปิจฺฉาทีนฺเจว ลพฺภติ, น อิตเรสนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อตฺตโน จ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ สมฺปสฺสมาโน’’ติ. ปฺจมํ.

๖. โอวาทสุตฺตวณฺณนา

๑๔๙. ฉฏฺเ อหํ วาติ กสฺมา อาห? เถรํ อตฺตโน าเน ปนตฺถํ. กึ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา นตฺถีติ? อตฺถิ. เอวํ ปนสฺส อโหสิ ‘‘อิเม น จิรํ สฺสนฺติ, กสฺสโป ปน วีสวสฺสสตายุโก, โส มยิ ปรินิพฺพุเต สตฺตปณฺณิคุหายํ นิสีทิตฺวา ธมฺมวินยสงฺคหํ กตฺวา มม สาสนํ ปฺจวสฺสสหสฺสปริมาณกาลปวตฺตนกํ กริสฺสติ, อตฺตโน ตํ าเน เปมิ, เอวํ ภิกฺขู กสฺสปสฺส สุสฺสูสิตพฺพํ มฺิสฺสนฺตี’’ติ. ตสฺมา เอวมาห. ทุพฺพจาติ ทุกฺเขน วตฺตพฺพา. โทวจสฺสกรเณหีติ ทุพฺพจภาวกรเณหิ. อปฺปทกฺขิณคฺคาหิโนติ อนุสาสนึ สุตฺวา ปทกฺขิณํ น คณฺหนฺติ ยถานุสิฏฺํ น ปฏิปชฺชนฺติ, อปฺปฏิปชฺชนฺตา วามคาหิโน นาม ชาตาติ ทสฺเสติ. อจฺจาวทนฺเตติ อติกฺกมฺม วทนฺเต, สุตปริยตฺตึ นิสฺสาย อติวิย วาทํ กโรนฺเตติ อตฺโถ. โก พหุตรํ ภาสิสฺสตีติ ธมฺมํ กเถนฺโต โก พหุํ ภาสิสฺสติ, กึ ตฺวํ, อุทาหุ อหนฺติ? โก สุนฺทรตรนฺติ, เอโก พหุํ ภาสนฺโต อสหิตํ อมธุรํ ภาสติ, เอโก สหิตํ มธุรํ, ตํ สนฺธายาห ‘‘โก สุนฺทรตร’’นฺติ? เอโก ปน พหุฺจ สุนฺทรฺจ กเถนฺโต จิรํ น ภาสติ, ลหุฺเว อุฏฺาติ, เอโก อทฺธานํ ปาเปติ, ตํ สนฺธายาห ‘‘โก จิรตร’’นฺติ? ฉฏฺํ.

๗. ทุติยโอวาทสุตฺตวณฺณนา

๑๕๐. สตฺตเม สทฺธาติ โอกปฺปนสทฺธา. วีริยนฺติ กายิกเจตสิกํ วีริยํ. ปฺาติ กุสลธมฺมชานนปฺา. น สนฺติ ภิกฺขู โอวาทกาติ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส โอวาทกา อนุสาสกา กลฺยาณมิตฺตา นตฺถีติ อิทํ, ภนฺเต, ปริหานนฺติ ทสฺเสติ. สตฺตมํ.

๘. ตติยโอวาทสุตฺตวณฺณนา

๑๕๑. อฏฺเม ตถา หิ ปนาติ ปุพฺเพ โสวจสฺสตาย, เอตรหิ จ โทวจสฺสตาย การณปฏฺปเน นิปาโต. ตตฺราติ เตสุ เถเรสุ. โก นามายํ ภิกฺขูติ โก นาโม อยํ ภิกฺขุ? กึ ติสฺสตฺเถโร กึ นาคตฺเถโรติ? ตตฺราติ ตสฺมึ เอวํ สกฺกาเร กยิรมาเน. ตถตฺตายาติ ตถาภาวาย, อารฺิกาทิภาวายาติ อตฺโถ. สพฺรหฺมจาริกาโมติ ‘‘อิเม มํ ปริวาเรตฺวา จรนฺตู’’ติ เอวํ กาเมติ อิจฺฉติ ปตฺเถตีติ สพฺรหฺมจาริกาโม. ตถตฺตายาติ ลาภสกฺการนิพฺพตฺตนตฺถาย. พฺรหฺมจารุปทฺทเวนาติ โย สพฺรหฺมจารีนํ จตูสุ ปจฺจเยสุ อธิมตฺตจฺฉนฺทราโค อุปทฺทโวติ วุจฺจติ, เตน อุปทฺทุตา. อภิปตฺถนาติ อธิมตฺตปตฺถนา. พฺรหฺมจาริอภิปตฺถเนนาติ พฺรหฺมจารีนํ อธิมตฺตปตฺถนาสงฺขาเตน จตุปจฺจยภาเวน. อฏฺมํ.

๙. ฌานาภิฺสุตฺตวณฺณนา

๑๕๒. นวเม ยาวเทว อากงฺขามีติ ยาวเทว อิจฺฉามิ. ยานิ ปน อิโต ปรํ วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทินา นเยน จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานิ, สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมาติอาทินา นเยน จตสฺโส อรูปสมาปตฺติโย, สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธนฺติ เอวํ นิโรธสมาปตฺติ, อเนกวิหิตํอิทฺธิวิธนฺติอาทินา นเยน ปฺจ โลกิกาภิฺา จ วุตฺตา. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ อนุปทวณฺณนาย เจว ภาวนาวิธาเนน จ สทฺธึ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๖๙) วิตฺถาริตเมว. ฉฬภิฺาย ปน อาสวานํ ขยาติ อาสวานํ ขเยน. อนาสวนฺติ อาสวานํ อปจฺจยภูตํ. เจโตวิมุตฺตินฺติ อรหตฺตผลสมาธึ. ปฺาวิมุตฺตินฺติ อรหตฺตผลปฺํ. นวมํ.

๑๐. อุปสฺสยสุตฺตวณฺณนา

๑๕๓. ทสเม อายาม, ภนฺเตติ กสฺมา ภิกฺขุนีอุปสฺสยคมนํ ยาจติ? น ลาภสกฺการเหตุ, กมฺมฏฺานตฺถิกา ปเนตฺถ ภิกฺขุนิโย อตฺถิ, ตา อุสฺสุกฺกาเปตฺวา กมฺมฏฺานํ กถาเปสฺสามีติ ยาจติ. นนุ จ โส สยมฺปิ เตปิฏโก พหุสฺสุโต, กึ สยํ กเถตุํ น สกฺโกตีติ? โน น สกฺโกติ. พุทฺธปฏิภาคสฺส ปน สาวกสฺส กถํ สทฺธาตพฺพํ มฺิสฺสนฺตีติ ยาจติ. พหุกิจฺโจ ตฺวํ พหุกรณีโยติ กึ เถโร นวกมฺมาทิปสุโต, เยน นํ เอวมาหาติ? โน, สตฺถริ ปน ปรินิพฺพุเต จตสฺโส ปริสา อานนฺทตฺเถรํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อิทานิ กสฺส ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา จรถ, กสฺส ปริเวณํ สมฺมชฺชถ, กสฺส มุโขทกํ เทถา’’ติ โรทนฺติ ปริเทวนฺติ. เถโร ‘‘อนิจฺจา สงฺขารา, วุทฺธสรีเรปิ นิลฺลชฺโชว มจฺจุราชา ปหริ. เอสา สงฺขารานํ ธมฺมตา, มา โสจิตฺถ, มา ปริเทวิตฺถา’’ติ ปริสํ สฺาเปติ. อิทมสฺส พหุกิจฺจํ. ตํ สนฺธาย เถโร เอวมาห. สนฺทสฺเสสีติ ปฏิปตฺติคุณํ ทสฺเสสิ. สมาทเปสีติ คณฺหาเปสิ. สมุตฺเตเชสีติ สมุสฺสาเหสิ. สมฺปหํเสสีติ ปฏิลทฺธคุเณน โมทาเปสิ.

ถุลฺลติสฺสาติ สรีเรน ถูลา, นาเมน ติสฺสา. เวเทหมุนิโนติ ปณฺฑิตมุนิโน. ปณฺฑิโต หิ าณสงฺขาเตน เวเทน อีหติ สพฺพกิจฺจานิ กโรติ, ตสฺมา ‘‘เวเทโห’’ติ วุจฺจติ. เวเทโห จ โส มุนิ จาติ, เวเทหมุนิ. ธมฺมํภาสิตพฺพํ มฺตีติ ติปิฏกธรสฺส ธมฺมภณฺฑาคาริกสฺส สมฺมุเข สยํ อรฺวาสี ปํสุกูลิโก สมาโน ‘‘ธมฺมกถิโก อห’’นฺติ ธมฺมํ ภาสิตพฺพํ มฺติ. อิทํ กึ ปน, กถํ ปนาติ? อวชานมานา ภณติ. อสฺโสสีติ อฺเน อาคนฺตฺวา อาโรจิตวเสน อสฺโสสิ. อาคเมหิ ตฺวํ, อาวุโสติ ติฏฺ ตฺวํ, อาวุโส. มา เต สงฺโฆ อุตฺตริ อุปปริกฺขีติ มา ภิกฺขุสงฺโฆ อติเรกโอกาเส ตํ อุปปริกฺขีติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อานนฺเทน พุทฺธปฏิภาโค สาวโก วาริโต, เอกา ภิกฺขุนี น วาริตา, ตาย สทฺธึ สนฺถโว วา สิเนโห วา ภวิสฺสตี’’ติ มา ตํ สงฺโฆ เอวํ อมฺีติ.

อิทานิ อตฺตโน พุทฺธปฏิภาคภาวํ ทีเปนฺโต ตํ กึ มฺสิ, อาวุโสติอาทิมาห? สตฺตรตนนฺติ สตฺตหตฺถปฺปมาณํ. นาคนฺติ หตฺถึ. อฑฺฒฏฺรตนํ วาติ อฑฺฒรตเนน อูนอฏฺรตนํ, ปุริมปาทโต ปฏฺาย ยาว กุมฺภา วิทตฺถาธิกสตฺตหตฺถุพฺเพธนฺติ อตฺโถ. ตาลปตฺติกายาติ ตรุณตาลปณฺเณน. จวิตฺถาติ จุตา, น มตา วา นฏฺา วา, พุทฺธปฏิภาคสฺส ปน สาวกสฺส อุปวาทํ วตฺวา มหากสฺสปตฺเถเร ฉหิ อภิฺาหิ สีหนาทํ นทนฺเต ตสฺสา กาสาวานิ กณฺฏกสาขา วิย กจฺฉุสาขา วิย จ สรีรํ ขาทิตุํ อารทฺธานิ, ตานิ หาเรตฺวา เสตกานิ นิวตฺถกฺขเณเยวสฺสา จิตฺตสฺสาโท อุทปาทีติ. ทสมํ.

๑๑. จีวรสุตฺตวณฺณนา

๑๕๔. เอกาทสเม ทกฺขิณาคิริสฺมินฺติ ราชคหํ ปริวาเรตฺวา ิตสฺส คิริโน ทกฺขิณภาเค ชนปโท ทกฺขิณาคิริ นาม, ตสฺมึ จาริกํ จรตีติ อตฺโถ. จาริกา จ นาม ทุวิธา โหติ ตุริตจาริกา จ อตุริตจาริกา จ. ตตฺถ ยํ เอกจฺโจ เอกํ กาสาวํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา ปตฺตจีวรํ อํเส ลคฺเคตฺวา ฉตฺตํ อาทาย สรีรโต เสเทหิ ปคฺฆรนฺเตหิ ทิวเสน สตฺตฏฺโยชนานิ คจฺฉติ, ยํ วา ปน พุทฺธา กิฺจิเทว โพธเนยฺยสตฺตํ ทิสฺวา โยชนสตมฺปิ โยชนสหสฺสมฺปิ ขเณน คจฺฉนฺติ, เอสา ตุริตจาริกา นาม. เทวสิกํ ปน คาวุตํ อฑฺฒโยชนํ ติคาวุตํ โยชนนฺติ เอตฺตกํ อทฺธานํ อชฺชตนาย นิมนฺตนํ อธิวาสยโต ชนสงฺคหํ กโรโต คมนํ, เอสา อตุริตจาริกา นาม. อยํ อิธ อธิปฺเปตา.

นนุ จ เถโร ปฺจวีสติ วสฺสานิ ฉายา วิย ทสพลสฺส ปจฺฉโต ปจฺฉโต คจฺฉนฺโตว อโหสิ, ‘‘กหํ อานนฺโท’’ติ วจนสฺส โอกาสเมว น อทาสิ, โส กิสฺมึ กาเล ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ จาริกํ จริตุํ โอกาสํ ลภตีติ? สตฺถุ ปรินิพฺพานสํวจฺฉเร. ปรินิพฺพุเต กิร สตฺถริ มหากสฺสปตฺเถโร สตฺถุ ปรินิพฺพาเน สนฺนิปติตสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ธมฺมวินยสงฺคายนตฺถํ ปฺจสเต ภิกฺขู อุจฺจินิตฺวา, ‘‘อาวุโส, มยํ ราชคเห วสฺสํ วสนฺตา ธมฺมวินยํ สงฺคายิสฺสาม, ตุมฺเห ปุเร วสฺสูปนายิกาย อตฺตโน ปลิโพธํ อุจฺฉินฺทิตฺวา ราชคเห สนฺนิปตถา’’ติ วตฺวา อตฺตนา ราชคหํ คโต. อานนฺทตฺเถโรปิ ภควโต ปตฺตจีวรํ อาทาย มหาชนํ สฺาเปนฺโต สาวตฺถึ คนฺตฺวา ตโต นิกฺขมฺม ราชคหํ คจฺฉนฺโต ทกฺขิณาคิริสฺมึ จาริกํ จริ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

เยภุยฺเยนกุมารภูตาติ เย เต หีนายาวตฺตา นาม, เต เยภุยฺเยน กุมารกา ทหรา ตรุณา เอกวสฺสิกทฺเววสฺสิกา ภิกฺขู เจว อนุปสมฺปนฺนกุมารกา จ. กสฺมา ปเนเต ปพฺพชิตา, กสฺมา หีนายาวตฺตาติ? เตสํ กิร มาตาปิตโร จินฺเตสุํ – ‘‘อานนฺทตฺเถโร สตฺถุ วิสฺสาสิโก อฏฺ วเร ยาจิตฺวา อุปฏฺหติ, อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํ สตฺถารํ คเหตฺวา คนฺตุํ สกฺโกติ, อมฺหากํ ทารเก เอตสฺส สนฺติเก ปพฺพาเชม, โส สตฺถารํ คเหตฺวา อาคมิสฺสติ, ตสฺมึ อาคเต มยํ มหาสกฺการํ กาตุํ ลภิสฺสามา’’ติ. อิมินา ตาว การเณน เนสํ าตกา เต ปพฺพาเชสุํ. สตฺถริ ปน ปรินิพฺพุเต เตสํ สา ปตฺถนา อุปจฺฉินฺนา, อถ เต เอกทิวเสเนว อุปฺปพฺพาเชสุํ.

ยถาภิรนฺตนฺติ ยถารุจิยา ยถาอชฺฌาสเยน. ติกโภชนํ ปฺตฺตนฺติ, อิทํ ‘‘คณโภชเน อฺตฺร สมยา ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๑๑). อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ หิ ติณฺณํ ชนานํ อกปฺปิยนิมนฺตนํ สาทิยิตฺวา เอกโต ปฏิคฺคณฺหนฺตานมฺปิ อนาปตฺติ, ตสฺมา ‘‘ติกโภชน’’นฺติ วุตฺตํ.

ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายาติ ทุสฺสีลปุคฺคลานํ นิคฺคณฺหนตฺถํ. เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหารายาติ ทุมฺมงฺกูนํ นิคฺคเหเนว เปสลานํ อุโปสถปวารณา วตฺตนฺติ, สมคฺควาโส โหติ, อยํ เตสํ ผาสุวิหาโร โหติ, อิมสฺส ผาสุวิหารสฺส อตฺถาย. มา ปาปิจฺฉา ปกฺขํ นิสฺสาย สงฺฆํ ภินฺเทยฺยุนฺติ ยถา เทวทตฺโต สปริโส กุเลสุ วิฺาเปตฺวา ภุฺชนฺโต ปาปิจฺเฉ นิสฺสาย สงฺฆํ ภินฺทิ, เอวํ อฺเปิ ปาปิจฺฉา คณพนฺเธน กุเลสุ วิฺาเปตฺวา ภุฺชมานา คณํ วฑฺเฒตฺวา ตํ ปกฺขํ นิสฺสาย มา สงฺฆํ ภินฺเทยฺยุนฺติ, อิติ อิมินา การเณน ปฺตฺตนฺติ อตฺโถ. กุลานุทฺทยตาย จาติ ภิกฺขุสงฺเฆ อุโปสถปวารณํ กตฺวา สมคฺควาสํ วสนฺเต มนุสฺสา สลากภตฺตาทีนิ ทตฺวา สคฺคปรายณา ภวนฺติ, อิติ อิมาย กุลานุทฺทยตาย จ ปฺตฺตนฺติ อตฺโถ.

สสฺสฆาตํ มฺเ จรสีติ สสฺสํ ฆาเตนฺโต วิย อาหิณฺฑสิ. กุลูปฆาตํ มฺเ จรสีติ กุลานิ อุปฆาเตนฺโต วิย หนนฺโต วิย อาหิณฺฑสิ. โอลุชฺชตีติ วิเสเสน ปลุชฺชติ ภิชฺชติ. ปลุชฺชนฺติ โข เต, อาวุโส, นวปฺปายาติ, อาวุโส, เอเต ตุยฺหํ ปาเยน เยภุยฺเยน นวกา เอกวสฺสิกทุวสฺสิกา ทหรา เจว สามเณรา จ ปลุชฺชนฺติ ภิชฺชนฺติ. น วายํ กุมารโก มตฺตมฺาสีติ อยํ กุมารโก อตฺตโน ปมาณํ น ชานาตีติ เถรํ ตชฺเชนฺโต อาห.

กุมารกวาทาน มุจฺจามาติ กุมารกวาทโต น มุจฺจาม . ตถา หิ ปน ตฺวนฺติ อิทมสฺส เอวํ วตฺตพฺพตาย การณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – ยสฺมา ตฺวํ อิเมหิ นเวหิ ภิกฺขูหิ อินฺทฺริยสํวรรหิเตหิ สทฺธึ วิจรสิ, ตสฺมา กุมารเกหิ สทฺธึ วิจรนฺโต กุมารโกติ วตฺตพฺพตํ อรหสีติ.

อฺติตฺถิยปุพฺโพ สมาโนติ อิทํ ยสฺมา เถรสฺส อิมสฺมึ สาสเน เนว อาจริโย น อุปชฺฌาโย ปฺายติ, สยํ กาสายานิ คเหตฺวา นิกฺขนฺโต, ตสฺมา อนตฺตมนตาย อฺติตฺถิยปุพฺพตํ อาโรปยมานา อาห.

สหสาติ เอตฺถ ราคโมหจาโรปิ สหสาจาโร, อิทํ ปน โทสจารวเสน วุตฺตํ. อปฺปฏิสงฺขาติ อปฺปจฺจเวกฺขิตฺวา, อิทานิ อตฺตโน ปพฺพชฺชํ โสเธนฺโต ยตฺวาหํ, อาวุโสติอาทิมาห. ตตฺถ อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิสิตุนฺติ เปตฺวา ภควนฺตํ อฺํ มยฺหํ สตฺถาติ เอวํ อุทฺทิสิตุํ น ชานามิ. สมฺพาโธ ฆราวาโสติอาทีสุ สเจปิ สฏฺิหตฺเถ ฆเร โยชนสตนฺตเรปิ วา ทฺเว ชายมฺปติกา วสนฺติ, ตถาปิ เตสํ สกิฺจนสปลิโพธฏฺเน ฆราวาโส สมฺพาโธเยว. รชาปโถติ ราครชาทีนํ อุฏฺานฏฺานนฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. ‘‘อาคมนปโถ’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อลคฺคนฏฺเน อพฺโภกาโส วิยาติ อพฺโภกาโส. ปพฺพชิโต หิ กูฏาคารรตนมยปาสาทเทววิมานาทีสุ ปิหิตทฺวารวาตปาเนสุ ปฏิจฺฉนฺเนสุ วสนฺโตปิ เนว ลคฺคติ น สชฺชติ น พชฺฌติ, เตน วุตฺตํ ‘‘อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา’’ติ. อปิจ สมฺพาโธ ฆราวาโส กุสลกิริยาย โอกาสาภาวโต รชาปโถ อสํวุตสงฺการฏฺานํ วิย รชานํ, กิเลสรชานํ สนฺนิปาตฏฺานโต, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา กุสลกิริยาย ยถา สุขํ โอกาสสพฺภาวโต.

นยิทํ สุกรํ…เป… ปพฺพเชยฺยนฺติ เอตฺถ อยํ สงฺเขปกถา – ยเทตํ สิกฺขตฺตยพฺรหฺมจริยํ เอกมฺปิ ทิวสํ อขณฺฑํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริปุณฺณํ จริตพฺพํ, เอกทิวสมฺปิ จ กิเลสมเลน อมลีนํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริสุทฺธํ, สงฺขลิขิตํ ลิขิตสงฺขสทิสํ โธตสงฺขสปฺปฏิภาคํ จริตพฺพํ, อิทํ น สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา อคารมชฺเฌ วสนฺเตน เอกนฺตปริปุณฺณํ…เป… จริตุํ, ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กสายรสปีตตาย กาสายานิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตานํ อนุจฺฉวิกานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา ปริทหิตฺวา อคารสฺมา นิกฺขมิตฺวา อนคาริยํ ปพฺพชฺเชยฺยนฺติ. เอตฺถ จ ยสฺมา อคารสฺส หิตํ กสิวณิชฺชาทิกมฺมํ อคาริยนฺติ วุจฺจติ, ตํ ปพฺพชฺชาย นตฺถิ, ตสฺมา ปพฺพชฺชา อนคาริยาติ าตพฺพา, ตํ อนคาริยํ. ปพฺพเชยฺยนฺติ ปฏิปชฺเชยฺยํ.

ปฏปิโลติกานนฺติ ชิณฺณปิโลติกานํ เตรสหตฺโถปิ หิ นวสาฏโก ทสานํ ฉินฺนกาลโต ปฏฺาย ปิโลติกาติ วุจฺจติ. อิติ มหารหานิ วตฺถานิ ฉินฺทิตฺวา กตํ สงฺฆาฏึ สนฺธาย ‘‘ปฏปิโลติกานํ สงฺฆาฏิ’’นฺติ วุตฺตํ. อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโนติ อฑฺฒโยชนโต ปฏฺาย มคฺโค อทฺธานนฺติ วุจฺจติ, ตํ อทฺธานมคฺคํ ปฏิปนฺโน, ทีฆมคฺคํ ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ.

อิทานิ ยถา เอส ปพฺพชิโต, ยถา จ อทฺธานมคฺคํ ปฏิปนฺโน, อิมสฺสตฺถสฺส อาวิภาวตฺถํ อภินีหารโต ปฏฺาย อนุปุพฺพิกถา กเถตพฺพา – อตีเต กิร กปฺปสตสหสฺสมตฺถเก ปทุมุตฺตโร นาม สตฺถา อุทปาทิ, ตสฺมึ หํสวตีนครํ อุปนิสฺสาย เขเม มิคทาเย วิหรนฺเต เวเทโห นาม กุฏุมฺพิโก อสีติโกฏิธนวิภโว ปาโตว สุโภชนํ ภุฺชิตฺวา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย คนฺธปุปฺผาทีนิ คเหตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถารํ ปูเชตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ สตฺถา มหานิสภตฺเถรํ นาม ตติยสาวกํ ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ธุตวาทานํ ยทิทํ นิสโภ’’ติ เอตทคฺเค เปสิ. อุปาสโก ตํ สุตฺวา ปสนฺโน ธมฺมกถาวสาเน มหาชเน อุฏฺาย คเต สตฺถารํ วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, สฺเว มยฺหํ ภิกฺขํ อธิวาเสถา’’ติ อาห. มหา โข, อุปาสก, ภิกฺขุสงฺโฆติ. กิตฺตโก ภควาติ. อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสนฺติ. ภนฺเต, เอกํ สามเณรมฺปิ วิหาเร อเสเสตฺวา ภิกฺขํ อธิวาเสถาติ. สตฺถา อธิวาเสสิ. อุปาสโก สตฺถุ อธิวาสนํ วิทิตฺวา เคหํ คนฺตฺวา มหาทานํ สชฺเชตฺวา ปุนทิวเส สตฺถุ กาลํ อาโรจาเปสิ. สตฺถา ปตฺตจีวรมาทาย ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อุปาสกสฺส ฆรํ คนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสินฺโน ทกฺขิโณทกาวสาเน ยาคุภตฺตาทีนิ สมฺปฏิจฺฉนฺโต ภตฺตวิสฺสคฺคํ อกาสิ. อุปาสโกปิ สตฺถุ สนฺติเก นิสีทิ.

ตสฺมึ อนฺตเร มหานิสภตฺเถโร ปิณฺฑาย จรนฺโต ตเมว วีถึ ปฏิปชฺชิ. อุปาสโก ทิสฺวา อุฏฺาย คนฺตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ปตฺตํ, ภนฺเต, โน เทถา’’ติ อาห. เถโร ปตฺตํ อทาสิ. ภนฺเต, อิเธว ปวิสถ, สตฺถาปิ เคเห นิสินฺโนติ. น วฏฺฏิสฺสติ อุปาสกาติ. อุปาสโก เถรสฺส ปตฺตํ คเหตฺวา ปิณฺฑปาตสฺส ปูเรตฺวา นีหริตฺวา อทาสิ. ตโต เถรํ อนุคนฺตฺวา นิวตฺโต สตฺถุ สนฺติเก นิสีทิตฺวา เอวมาห – ‘‘ภนฺเต, มหานิสภตฺเถโร ‘สตฺถา เคเห นิสินฺโน’ติ วุตฺเตปิ ปวิสิตุํ น อิจฺฉิ, อตฺถิ นุ โข เอตสฺส ตุมฺหากํ คุเณหิ อติเรโก คุโณ’’ติ. พุทฺธานฺจ วณฺณมจฺเฉรํ นาม นตฺถิ. อถ สตฺถา เอวมาห – ‘‘อุปาสก, มยํ ภิกฺขํ อาคมยมานา เคเห นิสีทาม, โส ภิกฺขุ น เอวํ นิสีทิตฺวา ภิกฺขํ อุทิกฺขติ. มยํ คามนฺตเสนาสเน วสาม, โส อรฺสฺมึเยว วสติ. มยํ ฉนฺเน วสาม, โส อพฺโภกาสมฺหิเยว วสติ. อิติ ตสฺส อยฺจ อยฺจ คุโณ’’ติ มหาสมุทฺทํ ปูรยมาโนว กเถสิ. อุปาสโก ปกติยาปิ ชลมานทีโป เตเลน อาสิตฺโต วิย สุฏฺุตรํ ปสนฺโน หุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘กึ มยฺหํ อฺาย สมฺปตฺติยา, อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส สนฺติเก ธุตวาทานํ อคฺคภาวตฺถาย ปตฺถนํ กริสฺสามี’’ติ?

โส ปุนปิ สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา เตเนว นิยาเมน สตฺต ทิวสานิ ทานํ ทตฺวา สตฺตเม ทิวเส อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสสฺส ติจีวรานิ ทตฺวา สตฺถุ ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา เอวมาห – ‘‘ยํ เม, ภนฺเต, สตฺต ทิวสานิ ทานํ เทนฺตสฺส เมตฺตํ กายกมฺมํ เมตฺตํ วจีกมฺมํ เมตฺตํ มโนกมฺมํ, อิมินาหํ น อฺํ เทวสมฺปตฺตึ วา สกฺกมารพฺรหฺมสมฺปตฺตึ วา ปตฺเถมิ, อิทํ ปน เม กมฺมํ อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส สนฺติเก มหานิสภตฺเถเรน ปตฺตฏฺานนฺตรํ ปาปุณนตฺถาย เตรสธุตงฺคธรานํ อคฺคภาวสฺส ปจฺจโย โหตู’’ติ. สตฺถา ‘‘มหนฺตํ านํ อิมินา ปตฺถิตํ, สมิชฺฌิสฺสติ นุ โข’’ติ โอโลเกนฺโต สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา อาห – ‘‘มนาปํ เต านํ ปตฺถิตํ, อนาคเต สตสหสฺสกปฺปมตฺถเก โคตโม นาม พุทฺโธ อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส ตฺวํ ตติยสาวโก มหากสฺสปตฺเถโร นาม ภวิสฺสสี’’ติ. ตํ สุตฺวา อุปาสโก ‘‘พุทฺธานํ ทฺเว กถา นาม นตฺถี’’ติ ปุนทิวเส ปตฺตพฺพํ วิย ตํ สมฺปตฺตึ อมฺิตฺถ. โส ยาวตายุกํ สีลํ รกฺขิตฺวา ตตฺถ กาลงฺกโต สคฺเค นิพฺพตฺติ.

ตโต ปฏฺาย เทวมนุสฺเสสุ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต อิโต เอกนวุติกปฺเป วิปสฺสิมฺหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธ พนฺธุมตีนครํ นิสฺสาย เขเม มิคทาเย วิหรนฺเต เทวโลกา จวิตฺวา อฺตรสฺมึ ปริชิณฺเณ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติ. ตสฺมิฺจ กาเล ‘‘วิปสฺสี ภควา สตฺตเม สตฺตเม สํวจฺฉเร ธมฺมํ กเถตี’’ติ มหนฺตํ โกลาหลํ โหติ. สกลชมฺพุทีเป เทวตา ‘‘สตฺถา ธมฺมํ กเถสฺสตี’’ติ อาโรเจนฺติ, พฺราหฺมโณ ตํ สาสนํ อสฺโสสิ. ตสฺส จ นิวาสนสาฏโก เอโก โหติ, ตถา พฺราหฺมณิยา, ปารุปนํ ปน ทฺวินฺนมฺปิ เอกเมว. สกลนคเร ‘‘เอกสาฏกพฺราหฺมโณ’’ติ ปฺายติ. พฺราหฺมณานํ เกนจิเทว กิจฺเจน สนฺนิปาเต สติ พฺราหฺมณึ เคเห เปตฺวา สยํ คจฺฉติ , พฺราหฺมณีนํ สนฺนิปาเต สติ สยํ เคเห ติฏฺติ, พฺราหฺมณี ตํ วตฺถํ ปารุปิตฺวา คจฺฉติ. ตสฺมึ ปน ทิวเส พฺราหฺมโณ พฺราหฺมณึ อาห – ‘‘โภติ, กึ รตฺตึ ธมฺมสฺสวนํ สุณิสฺสสิ ทิวา’’ติ? ‘‘มยํ มาตุคามชาติกา นาม รตฺตึ โสตุํ น สกฺโกม, ทิวา โสสฺสามี’’ติ พฺราหฺมณํ เคเห เปตฺวา วตฺถํ ปารุปิตฺวา อุปาสิกาหิ สทฺธึ ทิวา คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺเต นิสินฺนา ธมฺมํ สุตฺวา อุปาสิกาหิเยว สทฺธึ อาคมาสิ. อถ พฺราหฺมโณ พฺราหฺมณึ เคเห เปตฺวา วตฺถํ ปารุปิตฺวา วิหารํ คโต.

ตสฺมึ จ สมเย สตฺถา ปริสมชฺเฌ อลงฺกตธมฺมาสเน สนฺนิสินฺโน จิตฺตพีชนึ อาทาย อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย สิเนรุํ มตฺถํ กตฺวา สาครํ นิมฺมเถนฺโต วิย ธมฺมกถํ กเถติ. พฺราหฺมณสฺส ปริสนฺเต นิสินฺนสฺส ธมฺมํ สุณนฺตสฺส ปมยามสฺมึเยว สกลสรีรํ ปูรยมานา ปฺจวณฺณา ปีติ อุปฺปชฺชิ. โส ปารุตวตฺถํ สงฺฆริตฺวา ‘‘ทสพลสฺส ทสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. อถสฺส อาทีนวสหสฺสํ ทสฺสยมานํ มจฺเฉรํ อุปฺปชฺชิ, โส ‘‘พฺราหฺมณิยา จ มยฺหฺจ เอกเมว วตฺถํ, อฺํ กิฺจิ ปารุปนํ นตฺถิ, อปารุปิตฺวา จ นาม พหิ จริตุํ น สกฺกา’’ติ สพฺพถาปิ อทาตุกาโม อโหสิ. อถสฺส นิกฺขนฺเต ปมยาเม มชฺฌิมยาเมปิ ตเถว ปีติ อุปฺปชฺชิ, โส ตเถว จ จินฺเตตฺวา ตเถว อทาตุกาโม อโหสิ. อถสฺส มชฺฌิมยาเม นิกฺขนฺเต ปจฺฉิมยาเมปิ ตเถว ปีติ อุปฺปชฺชิ, โส ‘‘ตรณํ วา โหตุ มรณํ วา, ปจฺฉาปิ ชานิสฺสามี’’ติ วตฺถํ สงฺฆริตฺวา สตฺถุ ปาทมูเล เปสิ. ตโต วามหตฺถํ อาภุชิตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ติกฺขตฺตุํ อปฺโผเฏตฺวา ‘‘ชิตํ เม ชิตํ เม’’ติ ตโย วาเร นทิ.

ตสฺมิฺจ สมเย พนฺธุมราชา ธมฺมาสนสฺส ปจฺฉโต อนฺโตสาณิยํ นิสินฺโน ธมฺมํ สุณาติ. รฺโ จ นาม ‘‘ชิตํ เม’’ติ สทฺโท อมนาโป โหติ. โส ปุริสํ เปเสสิ ‘‘คจฺฉ เอตํ ปุจฺฉ กึ วเทสี’’ติ? โส เตน คนฺตฺวา ปุจฺฉิโต อาห – ‘‘อวเสสา หตฺถิยานาทีนิ อารุยฺห อสิจมฺมาทีนิ คเหตฺวา ปรเสนํ ชินนฺติ, น ตํ อจฺฉริยํ, อหํ ปน ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตสฺส กูฏโคณสฺส มุคฺคเรน สีสํ ภินฺทิตฺวา ตํ ปลาเปนฺโต วิย มจฺเฉรจิตฺตํ มทฺทิตฺวา ปารุตวตฺถํ ทสพลสฺส อทาสึ, ตํ เม มจฺฉริยํ ชิต’’นฺติ อาห. ปุริโส คนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา อาห – ‘‘อมฺเห ภเณ ทสพลสฺส อนุรูปํ น ชานิมฺหา, พฺราหฺมโณ ปน ชานี’’ติ วตฺถยุคมฺปิ เปเสสิ. ตํ ทิสฺวา พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – ‘‘อยํ มยฺหํ ตุณฺหี นิสินฺนสฺส ปมํ กิฺจิ อทตฺวา สตฺถุ คุเณ กเถนฺตสฺส อทาสิ, สตฺถุ คุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺเนน มยฺหํ โก อตฺโถ’’ติ ตมฺปิ วตฺถยุคํ ทสพลสฺเสว อทาสิ. ราชา ‘‘กึ พฺราหฺมเณน กต’’นฺติ? ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘ตมฺปิ เตน วตฺถยุคํ ตถาคตสฺเสว ทินฺน’’นฺติ สุตฺวา อฺานิ ทฺเว วตฺถยุคานิ เปเสสิ. โส ตานิปิ อทาสิ. ราชา อฺานิปิ จตฺตารีติ เอวํ ยาว ทฺวตฺตึส วตฺถยุคานิ เปเสสิ. อถ พฺราหฺมโณ ‘‘อิทํ วฑฺเฒตฺวา คหณํ วิย โหตี’’ติ อตฺตโน อตฺถาย เอกํ พฺราหฺมณิยา อตฺถาย เอกนฺติ ทฺเว วตฺถยุคานิ คเหตฺวา ตึส ยุคานิ ตถาคตสฺเสว อทาสิ. ตโต ปฏฺาย จ สตฺถุ วิสฺสาสิโก ชาโต.

อถ นํ ราชา เอกทิวสํ สีตสมเย สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตํ ทิสฺวา สตสหสฺสคฺฆนิกํ อตฺตโน ปารุตํ รตฺตกมฺพลํ ทตฺวา อาห – ‘‘อิโต ปฏฺาย อิทํ ปารุปิตฺวา ธมฺมํ สุณาหี’’ติ. โส ‘‘กึ เม อิมินา กมฺพเลน อิมสฺมึ ปูติกาเย อุปนีเตนา’’ติ? จินฺเตตฺวา, อนฺโตคนฺธกุฏิยํ ตถาคตมฺจสฺส อุปริ วิตานํ กตฺวา อคมาสิ. อถ เอกทิวสํ ราชา ปาโตว วิหารํ คนฺตฺวา อนฺโตคนฺธกุฏิยํ สตฺถุ สนฺติเก นิสีทิ. ตสฺมิฺจ สมเย ฉพฺพณฺณา พุทฺธรสฺมิโย กมฺพลํ ปฏิหฺนฺติ, กมฺพโล อติวิย วิโรจติ. ราชา อุทฺธํ โอโลเกนฺโต สฺชานิตฺวา อาห – ‘‘ภนฺเต, อมฺหากํ เอส กมฺพโล, อมฺเหหิ เอกสาฏกพฺราหฺมณสฺส ทินฺโน’’ติ. ตุมฺเหหิ, มหาราช, พฺราหฺมโณ ปูชิโต, พฺราหฺมเณน อหํ ปูชิโตติ. ราชา ‘‘พฺราหฺมโณ ยุตฺตกํ อฺาสิ, น มย’’นฺติ ปสีทิตฺวา ยํ มนุสฺสานํ อุปการภูตํ, ตํ สพฺพํ อฏฺฏฺกํ กตฺวา สพฺพฏฺกํ นาม ทานํ ทตฺวา ปุโรหิตฏฺาเน เปสิ. โสปิ ‘‘อฏฺฏฺกํ นาม จตุสฏฺิ โหตี’’ติ จตุสฏฺิ สลากภตฺตานิ อุปนิพนฺธาเปตฺวา ยาวชีวํ ทานํ ทตฺวา สีลํ รกฺขิตฺวา ตโต จุโต สคฺเค นิพฺพตฺติ.

ปุน ตโต จุโต อิมสฺมึ กปฺเป โกณาคมนสฺส จ ภควโต กสฺสปทสพลสฺส จาติ ทฺวินฺนํ พุทฺธานํ อนฺตเร พาราณสิยํ กุฏุมฺพิยฆเร นิพฺพตฺโต, โส วุทฺธิมนฺวาย ฆราวาสํ วสนฺโต เอกทิวสํ อรฺเ ชงฺฆวิหารํ จรติ. ตสฺมิฺจ สมเย ปจฺเจกพุทฺโธ นทีตีเร จีวรกมฺมํ กโรนฺโต อนุวาเต อปฺปโหนฺเต สงฺฆริตฺวา เปตุํ อารทฺโธ. โส ทิสฺวา, ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, สงฺฆริตฺวา เปถา’’ติ? อาห. อนุวาโต นปฺปโหตีติ. ‘‘อิมินา, ภนฺเต, กโรถา’’ติ สาฏกํ ทตฺวา, ‘‘นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน เม เกนจิ ปริหานิ มา โหตู’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. ฆเรปิสฺส ภคินิยา สทฺธึ ภริยาย กลหํ กโรนฺติยา ปจฺเจกพุทฺโธ ปิณฺฑาย ปาวิสิ.

อถสฺส ภคินี ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา ตสฺส ภริยํ สนฺธาย ‘‘เอวรูปํ พาลํ โยชนสเตน ปริวชฺเชยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. สา เคหทฺวาเร ิตา ตํ สุตฺวา, ‘‘อิมาย ทินฺนํ ภตฺตํ เอส มา ภุฺชตู’’ติ ปตฺตํ คเหตฺวา ปิณฺฑปาตํ ฉฑฺเฑตฺวา กลลสฺส ปูเรตฺวา อทาสิ. อิตรา ทิสฺวา, ‘‘พาเล มํ ตาว อกฺโกส วา ปหร วา. เอวรูปสฺส ปน ทฺเว อสงฺเขยฺยานิ ปูริตปารมิสฺส ปตฺตโต ภตฺตํ ฉฑฺเฑตฺวา กลลํ ทาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ อาห. อถสฺส ภริยาย ปฏิสงฺขานํ อุปฺปชฺชิ. สา ‘‘ติฏฺถ, ภนฺเต’’ติ กลลํ ฉฑฺเฑตฺวา ปตฺตํ โธวิตฺวา คนฺธจุณฺเณน อุพฺพฏฺเฏตฺวา ปวรสฺส จตุมธุรสฺส ปูเรตฺวา อุปริ อาสิตฺเตน ปทุมคพฺภวณฺเณน สปฺปินา วิชฺโชตมานํ ปจฺเจกพุทฺธสฺส หตฺเถ เปตฺวา, ‘‘ยถา อยํ ปิณฺฑปาโต โอภาสชาโต, เอวํ โอภาสชาตํ เม สรีรํ โหตู’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. ปจฺเจกพุทฺโธ อนุโมทิตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทิ. เตปิ ชายมฺปติกา ยาวตายุกํ กุสลํ กตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺติตฺวา ปุน ตโต จวิตฺวา อุปาสโก พาราณสิยํ อสีติโกฏิวิภวสฺส เสฏฺิโน ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, อิตรา ตาทิสสฺเสว ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ.

ตสฺส วุทฺธิปฺปตฺตสฺส ตเมว เสฏฺิธีตรํ อานยึสุ. ตสฺสา ปุพฺเพ อทินฺนวิปากสฺส ตสฺส กมฺมสฺส อานุภาเวน ปติกุลํ ปวิฏฺมตฺตาย อุมฺมารพฺภนฺตเร สกลสรีรํ อุคฺฆาฏิตวจฺจกุฏิ วิย ทุคฺคนฺธํ ชาตํ. เสฏฺิกุมาโร ‘‘กสฺสายํ คนฺโธ’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เสฏฺิกฺายา’’ติ สุตฺวา ‘‘นีหรถ นีหรถา’’ติ อาภตนิยาเมเนว กุลฆรํ เปเสสิ. สา เอเตเนว นีหาเรน สตฺตสุ าเนสุ ปฏินิวตฺติตา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ สตฺตสุ าเนสุ ปฏินิวตฺตา. กึ เม ชีวิเตนา’’ติ? อตฺตโน อาภรณภณฺฑํ ภฺชาเปตฺวา สุวณฺณิฏฺกํ กาเรสิ รตนายตํ วิทตฺถิวิตฺถตํ จตุรงฺคุลุพฺเพธํ. ตโต หริตาลมโนสิลาปิณฺฑํ คเหตฺวา อฏฺ อุปฺปลหตฺถเก อาทาย กสฺสปทสพลสฺส เจติยกรณฏฺานํ คตา. ตสฺมิฺจ ขเณ เอกา อิฏฺกปนฺติ ปริกฺขิปิตฺวา อาคจฺฉมานา ฆฏนิฏฺกาย อูนา โหติ. เสฏฺิธีตา วฑฺฒกึ อาห – ‘‘อิมํ อิฏฺกํ เอตฺถ เปถา’’ติ. อมฺม, ภทฺทเก กาเล อาคตาสิ, สยเมว เปหีติ. สา อารุยฺห เตเลน หริตาลมโนสิลํ โยเชตฺวา เตน พนฺธเนน อิฏฺกํ ปติฏฺเปตฺวา อุปริ อฏฺหิ อุปฺปลหตฺถเกหิ ปูชํ กตฺวา วนฺทิตฺวา, ‘‘นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน เม กายโต จนฺทนคนฺโธ วายตุ, มุขโต อุปฺปลคนฺโธ’’ติ ปตฺถนํ กตฺวา, เจติยํ วนฺทิตฺวา, ปทกฺขิณํ กตฺวา อคมาสิ.

อถ ตสฺมึเยว ขเณ ยสฺส เสฏฺิปุตฺตสฺส ปมํ เคหํ นีตา, ตสฺส ตํ อารพฺภ สติ อุทปาทิ . นคเรปิ นกฺขตฺตํ สํฆุฏฺํ โหติ. โส อุปฏฺาเก อาห – ‘‘ตทา อิธ อานีตา เสฏฺิธีตา อตฺถิ, กหํ สา’’ติ? ‘‘กุลเคเห สามี’’ติ. ‘‘อาเนถ นํ, นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามา’’ติ. เต คนฺตฺวา, ตํ วนฺทิตฺวา ิตา ‘‘กึ, ตาตา, อาคตตฺถา’’ติ? ตาย ปุฏฺา ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขึสุ. ‘‘ตาตา, มยา อาภรณภณฺเฑน เจติยํ ปูชิตํ, อาภรณํ เม นตฺถี’’ติ. เต คนฺตฺวา เสฏฺิปุตฺตสฺส อาโรเจสุํ. ‘‘อาเนถ นํ, ปิฬนฺธนํ ลภิสฺสามา’’ติ. เต อานยึสุ. ตสฺสา สห ฆรปฺปเวเสน สกลเคหํ จนฺทนคนฺธฺเจว นีลุปฺปลคนฺธฺจ วายิ.

เสฏฺิปุตฺโต ตํ ปุจฺฉิ – ‘‘ปมํ ตว สรีรโต ทุคฺคนฺโธ วายิ, อิทานิ ปน เต สรีรโต จนฺทนคนฺโธ, มุขโต อุปฺปลคนฺโธ วายติ. กึ เอต’’นฺติ? สา อาทิโต ปฏฺาย อตฺตโน กตกมฺมํ อาโรเจสิ. เสฏฺิปุตฺโต ‘‘นิยฺยานิกํ วต พุทฺธานํ สาสน’’นฺติ ปสีทิตฺวา โยชนิกํ สุวณฺณเจติยํ กมฺพลกฺจุเกน ปริกฺขิปิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ รถจกฺกปฺปมาเณหิ สุวณฺณปทุเมหิ อลงฺกริ. เตสํ ทฺวาทสหตฺถา โอลมฺพกา โหนฺติ. โส ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จุโต พาราณสิโต โยชนมตฺเต าเน อฺตรสฺมึ อมจฺจกุเล นิพฺพตฺติ. เสฏฺิกฺา เทวโลกโต จวิตฺวา ราชกุเล เชฏฺธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ.

เตสุ วยปฺปตฺเตสุ กุมารสฺส วสนคาเม นกฺขตฺตํ สํฆุฏฺํ, โส มาตรํ อาห – ‘‘สาฏกํ เม อมฺม เทหิ, นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามี’’ติ. สา โธตวตฺถํ นีหริตฺวา อทาสิ. ‘‘อมฺม ถูลํ อิท’’นฺติ. อฺํ นีหริตฺวา อทาสิ, ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิ. อฺํ นีหริตฺวา อทาสิ, ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิ. อถ นํ มาตา อาห – ‘‘ตาต, ยาทิเส เคเห มยํ ชาตา, นตฺถิ โน อิโต สุขุมตรสฺส ปฏิลาภาย ปุฺ’’นฺติ. ‘‘ลภนฏฺานํ คจฺฉามิ อมฺมา’’ติ. ‘‘ปุตฺต อหํ อชฺเชว ตุยฺหํ พาราณสินคเร รชฺชปฏิลาภมฺปิ อิจฺฉามี’’ติ. โส มาตรํ วนฺทิตฺวา อาห – ‘‘คจฺฉามิ อมฺมา’’ติ. ‘‘คจฺฉ, ตาตา’’ติ. เอวํ กิรสฺสา จิตฺตํ อโหสิ – ‘‘กหํ คมิสฺสติ, อิธ วา เอตฺถ วา เคเห นิสีทิสฺสตี’’ติ? โส ปน ปุฺนิยาเมน นิกฺขมิตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา อุยฺยาเน มงฺคลสิลาปฏฺเฏ สสีสํ ปารุปิตฺวา นิปชฺชิ. โส จา พาราณสิรฺโ กาลงฺกตสฺส สตฺตโม ทิวโส โหติ.

อมจฺจา รฺโ สรีรกิจฺจํ กตฺวา ราชงฺคเณ นิสีทิตฺวา มนฺตยึสุ – ‘‘รฺโ เอกา ธีตาว อตฺถิ, ปุตฺโต นตฺถิ. อราชกํ รชฺชํ น ติฏฺติ. โก ราชา โหตี’’ติ มนฺเตตฺวา, ‘‘ตฺวํ โหหิ, ตฺวํ โหหี’’ติ. ปุโรหิโต อาห – ‘‘พหุํ โอโลเกตุํ น วฏฺฏติ, ผุสฺสรถํ วิสฺสชฺเชมา’’ติ. เต กุมุทวณฺเณ จตฺตาโร สินฺธเว โยเชตฺวา, ปฺจวิธํ ราชกกุธภณฺฑํ เสตจฺฉตฺตฺจ รถสฺมึเยว เปตฺวา รถํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปจฺฉโต ตูริยานิ ปคฺคณฺหาเปสุํ. รโถ ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา อุยฺยานาภิมุโข อโหสิ, ‘‘ปริจเยน อุยฺยานาภิมุโข คจฺฉติ, นิวตฺเตมา’’ติ เกจิ อาหํสุ. ปุโรหิโต ‘‘มา นิวตฺตยิตฺถา’’ติ อาห. รโถ กุมารํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อาโรหนสชฺโช หุตฺวา อฏฺาสิ. ปุโรหิโต ปารุปนกณฺณํ อปเนตฺวา ปาทตลานิ โอโลเกนฺโต ‘‘ติฏฺตุ อยํ ทีโป, ทฺวิสหสฺสทีปปริวาเรสุ จตูสุ ทีเปสุ เอส รชฺชํ กาตุํ ยุตฺโต’’ติ วตฺวา, ‘‘ปุนปิ ตูริยานิ ปคฺคณฺหาถ ปุนปิ ปคฺคณฺหาถา’’ติ ติกฺขตฺตุํ ตูริยานิ ปคฺคณฺหาเปสิ.

อถ กุมาโร มุขํ วิวริตฺวา โอโลเกตฺวา, ‘‘เกน กมฺเมน อาคตตฺถา’’ติ? อาห. ‘‘เทว, ตุมฺหากํ รชฺชํ ปาปุณาตี’’ติ. ‘‘ราชา กห’’นฺติ. ‘‘เทวตฺตํ คโต สามี’’ติ. ‘‘กติ ทิวสา อติกฺกนฺตา’’ติ? ‘‘อชฺช สตฺตโม ทิวโส’’ติ. ‘‘ปุตฺโต วา ธีตา วา นตฺถี’’ติ. ‘‘ธีตา อตฺถิ เทว, ปุตฺโต นตฺถี’’ติ. ‘‘เตน หิ กริสฺสามิ รชฺช’’นฺติ. เต ตาวเทว อภิเสกมณฺฑปํ กตฺวา ราชธีตรํ สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา อุยฺยานํ อาเนตฺวา กุมารสฺส อภิเสกํ อกํสุ.

อถสฺส กตาภิเสกสฺส สตสหสฺสคฺฆนิกํ วตฺถํ อุปหรึสุ. โส ‘‘กิมิทํ, ตาตา’’ติ? อาห. ‘‘นิวาสนวตฺถํ เทวา’’ติ. ‘‘นนุ, ตาตา, ถูล’’นฺติ. ‘‘มนุสฺสานํ ปริโภควตฺเถสุ อิโต สุขุมตรํ นตฺถิ เทวา’’ติ. ‘‘ตุมฺหากํ ราชา เอวรูปํ นิวาเสสี’’ติ? ‘‘อาม, เทวา’’ติ. ‘‘น มฺเ ปุฺวา ตุมฺหากํ ราชา, สุวณฺณภิงฺคารํ อาหรถ, ลภิสฺสาม วตฺถ’’นฺติ. สุวณฺณภิงฺคารํ อาหรึสุ. โส อุฏฺาย หตฺเถ โธวิตฺวา, มุขํ วิกฺขาเลตฺวา, หตฺเถน อุทกํ อาทาย, ปุรตฺถิมทิสาย อพฺภุกฺกิริ, ฆนปถวึ ภินฺทิตฺวา อฏฺ กปฺปรุกฺขา อุฏฺหึสุ. ปุน อุทกํ คเหตฺวา ทกฺขิณํ ปจฺฉิมํ อุตฺตรนฺติ เอวํ จตสฺโส ทิสา อพฺภุกฺกิริ, สพฺพทิสาสุ อฏฺ อฏฺ กตฺวา ทฺวตฺตึส กปฺปรุกฺขา อุฏฺหึสุ. โส เอกํ ทิพฺพทุสฺสํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา ‘‘นนฺทรฺโ วิชิเต สุตฺตกนฺติกา อิตฺถิโย มา สุตฺตํ กนฺตึสูติ เอวํ เภรึ จาราเปถา’’ติ วตฺวา, ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา, อลงฺกตปฏิยตฺโต หตฺถิกฺขนฺธวรคโต นครํ ปวิสิตฺวา, ปาสาทํ อารุยฺห มหาสมฺปตฺตึ อนุภวิ.

เอวํ กาเล คจฺฉนฺเต เอกทิวสํ เทวี รฺโ สมฺปตฺตึ ทิสฺวา, ‘‘อโห ตปสฺสี’’ติ การุฺาการํ ทสฺเสสิ. ‘‘กิมิทํ เทวี’’ติ? จ ปุฏฺา, ‘‘อติมหตี, เทว, สมฺปตฺติ, อตีเต พุทฺธานํ สทฺทหิตฺวา กลฺยาณํ อกตฺถ, อิทานิ อนาคตสฺส ปจฺจยํ กุสลํ น กโรถา’’ติ? อาห. ‘‘กสฺส ทสฺสามิ? สีลวนฺโต นตฺถี’’ติ. ‘‘อสุฺโ, เทว, ชมฺพุทีโป อรหนฺเตหิ, ตุมฺเห ทานเมว สชฺเชถ, อหํ อรหนฺเต ลจฺฉามี’’ติ อาห. ราชา ปุนทิวเส ปาจีนทฺวาเร ทานํ สชฺชาเปสิ. เทวี ปาโตว อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย อุปริปาสาเท ปุรตฺถาภิมุขา อุเรน นิปชฺชิตฺวา – ‘‘สเจ เอติสฺสา ทิสาย อรหนฺโต อตฺถิ, อาคจฺฉนฺตุ อมฺหากํ ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ อาห. ตสฺสํ ทิสายํ อรหนฺโต นาเหสุํ. ตํ สกฺการํ กปณทฺธิกยาจกานํ อทํสุ.

ปุนทิวเส ทกฺขิณทฺวาเร ทานํ สชฺเชตฺวา ตเถว อกาสิ, ปุนทิวเส ปจฺฉิมทฺวาเร. อุตฺตรทฺวาเร สชฺชิตทิวเส ปน เทวิยา ตเถว นิมนฺเตนฺติยา หิมวนฺเต วสนฺตานํ ปทุมวติยา ปุตฺตานํ ปฺจสตานํ ปจฺเจกพุทฺธานํ เชฏฺโก มหาปทุมปจฺเจกพุทฺโธ ภาติเก อามนฺเตสิ ‘‘มาริสา, นนฺทราชา ตุมฺเห นิมนฺเตติ, อธิวาเสถ ตสฺสา’’ติ. เต อธิวาเสตฺวา ปุนทิวเส อโนตตฺตทเห มุขํ โธวิตฺวา อากาเสน อาคนฺตฺวา อุตฺตรทฺวาเร โอตรึสุ. มนุสฺสา คนฺตฺวา ‘‘ปฺจสตา, เทว, ปจฺเจกพุทฺธา อาคตา’’ติ รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา สทฺธึ เทวิยา คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา ปจฺเจกพุทฺเธ ปาสาทํ อาโรเปตฺวา เตสํ ทานํ ทตฺวา ภตฺตกิจฺจาวสาเน ราชา สงฺฆเถรสฺส, เทวี สงฺฆนวกสฺส ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา, ‘‘อยฺยา ปจฺจเยหิ น กิลมิสฺสนฺติ, มยํ ปุฺเน น หายิสฺสาม, อมฺหากํ ยาวชีวํ อิธ นิวาสาย ปฏิฺํ เทถา’’ติ ปฏิฺํ กาเรตฺวา อุยฺยาเน ปฺจ ปณฺณสาลาสตานิ ปฺจ จงฺกมนสตานีติ สพฺพากาเรน นิวาสฏฺานํ สมฺปาเทตฺวา ตตฺถ วสาเปสุํ.

เอวํ กาเล คจฺฉนฺเต รฺโ ปจฺจนฺโต กุปิโต. ‘‘อหํ ปจฺจนฺตํ วูปสเมตุํ คจฺฉามิ, ตฺวํ ปจฺเจกพุทฺเธสุ มา ปมชฺชี’’ติ เทวึ โอวทิตฺวา คโต. ตสฺมึ อนาคเตเยว ปจฺเจกพุทฺธานํ อายุสงฺขารา ขีณา. มหาปทุมปจฺเจกพุทฺโธ ติยามรตฺตึ ฌานกีฬํ กีฬิตฺวา อรุณุคฺคมเน อาลมฺพนผลกํ อาลมฺพิตฺวา ิตโกว อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ, เอเตนุปาเยน เสสาปีติ สพฺเพปิ ปรินิพฺพุตา. ปุนทิวเส เทวี ปจฺเจกพุทฺธานํ นิสีทนฏฺานํ หริตูปลิตฺตํ กาเรตฺวา ปุปฺผานิ วิกิริตฺวา ธูปํ ทตฺวา เตสํ อาคมนํ โอโลกยนฺตี นิสินฺนา อาคมนํ อปสฺสนฺตี ปุริสํ เปเสสิ – ‘‘คจฺฉ, ตาต, ชานาหิ, กึ อยฺยานํ กิฺจิ อผาสุก’’นฺติ? โส คนฺตฺวา มหาปทุมสฺส ปณฺณสาลาย ทฺวารํ วิวริตฺวา ตตฺถ อปสฺสนฺโต จงฺกมนํ คนฺตฺวา อาลมฺพนผลกํ นิสฺสาย ิตํ ทิสฺวา วนฺทิตฺวา, ‘‘กาโล, ภนฺเต’’ติ อาห. ปรินิพฺพุตสรีรํ กึ กเถสฺสติ? โส ‘‘นิทฺทายติ มฺเ’’ติ คนฺตฺวา ปิฏฺิปาเท หตฺเถน ปรามสิ. ปาทานํ สีตลตาย เจว ถทฺธตาย จ ปรินิพฺพุตภาวํ ตฺวา ทุติยสฺส สนฺติกํ อคมาสิ, เอวํ ตติยสฺสาติ สพฺเพสํ ปรินิพฺพุตภาวํ ตฺวา ราชกุลํ คโต. ‘‘กหํ, ตาต, ปจฺเจกพุทฺธา’’ติ? ปุฏฺโ ‘‘ปรินิพฺพุตา, เทวี’’ติ อาห. เทวี กนฺทนฺตี โรทนฺตี นิกฺขมิตฺวา นาคเรหิ สทฺธึ ตตฺถ คนฺตฺวา สาธุกีฬิตํ กาเรตฺวา ปจฺเจกพุทฺธานํ สรีรกิจฺจํ กตฺวา ธาตุโย คเหตฺวา เจติยํ ปติฏฺาเปสิ.

ราชา ปจฺจนฺตํ วูปสเมตฺวา อาคโต ปจฺจุคฺคมนํ อาคตํ เทวึ ปุจฺฉิ ‘‘กึ, ภทฺเท, ปจฺเจกพุทฺเธสุ นปฺปมชฺชิ, นิโรคา อยฺยา’’ติ? ‘‘ปรินิพฺพุตา เทวา’’ติ. ราชา จินฺเตสิ – ‘‘เอวรูปานมฺปิ ปณฺฑิตานํ มรณํ อุปฺปชฺชติ, อมฺหากํ กุโต โมกฺโข’’ติ? โส นครํ อคนฺตฺวา อุยฺยานเมว ปวิสิตฺวา เชฏฺปุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ตสฺส รชฺชํ ปฏิยาเทตฺวา สยํ สมณกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิ, เทวีปิ ‘‘อิมสฺมึ ปพฺพชิเต อหํ กึ กริสฺสามี’’ติ? ตตฺเถว อุยฺยาเน ปพฺพชิตา. ทฺเวปิ ฌานํ ภาเวตฺวา ตโต จุตา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตึสุ.

เตสุ ตตฺเถว วสนฺเตสุ อมฺหากํ สตฺถา โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก อนุปุพฺเพน ราชคหํ ปาวิสิ. อยํ ปิปฺปลิมาณโว มคธรฏฺเ มหาติตฺถพฺราหฺมณคาเม กปิลพฺราหฺมณสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺโต, อยํ ภทฺทา กาปิลานี มทฺทรฏฺเ สาคลนคเร โกสิยโคตฺตพฺราหฺมณสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺตา. เตสํ โข อนุกฺกเมน วฑฺฒมานานํ ปิปฺปลิมาณวสฺส วีสติเม วสฺเส ภทฺทาย โสฬสเม วสฺเส สมฺปตฺเต มาตาปิตโร ปุตฺตํ โอโลเกตฺวา, ‘‘ตาต, ตฺวํ วยปฺปตฺโต, กุลวํโส นาม ปติฏฺเปตพฺโพ’’ติ อติวิย นิปฺปีฬยึสุ. มาณโว อาห – ‘‘มยฺหํ โสตปเถ เอวรูปํ กถํ มา กเถถ. อหํ ยาว ตุมฺเห ธรถ, ตาว ปฏิชคฺคิสฺสามิ, ตุมฺหากํ ปจฺฉโต นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. เต กติปาหํ อติกฺกมิตฺวา ปุน กถยึสุ, โสปิ ตเถว ปฏิกฺขิปิ. ปุน กถยึสุ, ปุนปิ ปฏิกฺขิปิ. ตโต ปฏฺาย มาตา นิรนฺตรํ กเถติเยว.

มาณโว ‘‘มม มาตรํ สฺาเปสฺสามี’’ติ รตฺตสุวณฺณสฺส นิกฺขสหสฺสํ ทตฺวา สุวณฺณกาเรหิ เอกํ อิตฺถิรูปํ การาเปตฺวา ตสฺส มชฺชนฆฏฺฏนาทิกมฺมปริโยสาเน ตํ รตฺตวตฺถํ นิวาสาเปตฺวา วณฺณสมฺปนฺเนหิ ปุปฺเผหิ เจว นานาอลงฺกาเรหิ จ อลงฺการาเปตฺวา มาตรํ ปกฺโกสาเปตฺวา อาห – ‘‘อมฺม เอวรูปํ อารมฺมณํ ลภนฺโต เคเห วสามิ, อลภนฺโต น วสามี’’ติ. ปณฺฑิตา พฺราหฺมณี จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ ปุตฺโต ปุฺวา ทินฺนทาโน กตาภินีหาโร, ปุฺํ กโรนฺโต น เอกโกว อกาสิ, อทฺธา เอเตน สห กตปุฺา สุวณฺณรูปกปฏิภาคา ภวิสฺสตี’’ติ อฏฺ พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา สพฺพกาเมหิ สนฺตปฺเปตฺวา สุวณฺณรูปกํ รถํ อาโรเปตฺวา, ‘‘คจฺฉถ, ตาตา, ยตฺถ อมฺหากํ ชาติโคตฺตโภเคหิ สมานกุเล เอวรูปํ ทาริกํ ปสฺสถ, อิมเมว สุวณฺณรูปกํ, ปณฺณาการํ กตฺวา เทถา’’ติ อุยฺโยเชสิ.

เต ‘‘อมฺหากํ นาม เอตํ กมฺม’’นฺติ นิกฺขมิตฺวา, ‘‘กตฺถ คมิสฺสามา’’ติ? จินฺเตตฺวา, ‘‘มทฺทรฏฺํ นาม อิตฺถากโร, มทฺทรฏฺํ คมิสฺสามา’’ติ มทฺทรฏฺเ สาคลนครํ อคมึสุ. ตตฺถ ตํ สุวณฺณรูปกํ นฺหานติตฺเถ เปตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อถ ภทฺทาย ธาตี ภทฺทํ นฺหาเปตฺวา อลงฺกริตฺวา สิริคพฺเภ นิสีทาเปตฺวา นฺหายิตุํ อาคจฺฉนฺตี ตํ รูปกํ ทิสฺวา, ‘‘อยฺยธีตา เม อิธาคตา’’ติ สฺาย ตชฺเชตฺวา ‘‘ทุพฺพินิเต, กึ ตฺวํ อิธาคตา’’ติ? ตลสตฺติกํ อุคฺคิริตฺวา, ‘‘คจฺฉ สีฆ’’นฺติ คณฺฑปสฺเส ปหริ. หตฺโถ ปาสาเณ ปฏิหโต วิย กมฺปิตฺถ. สา ปฏิกฺกมิตฺวา ‘‘เอวํ ถทฺธํ นาม มหาคีวํ ทิสฺวา, ‘อยฺยธีตา เม’ติ สฺํ อุปฺปาเทสึ, อยฺยธีตาย หิ เม อยํ นิวาสนปฏิคฺคาหิกาปิ อยุตฺตา’’ติ อาห. อถ นํ เต มนุสฺสา ปริวาเรตฺวา ‘‘เอวรูปา เต สามิธีตา’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘กึ เอสา, อิมาย สตคุเณน สหสฺสคุเณน มยฺหํ อยฺยา อภิรูปตรา, ทฺวาทสหตฺเถ คพฺเภ นิสินฺนาย ปทีปกิจฺจํ นตฺถิ, สรีโรภาเสเนว ตมํ วิธมตี’’ติ. ‘‘เตน หิ อาคจฺฉา’’ติ ตํ ขุชฺชํ คเหตฺวา สุวณฺณรูปกํ รถํ อาโรเปตฺวา โกสิยโคตฺตสฺส ฆรทฺวาเร ตฺวา อาคมนํ นิเวทยึสุ.

พฺราหฺมโณ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา, ‘‘กุโต อาคตตฺถา’’ติ? ปุจฺฉิ. ‘‘มคธรฏฺเ มหาติตฺถคาเม กปิลพฺราหฺมณสฺส ฆรโต’’ติ. ‘‘กึ การณา อาคตา’’ติ. ‘‘อิมินา นาม การเณนา’’ติ. ‘‘กลฺยาณํ, ตาตา, สมชาติโคตฺตวิภโว อมฺหากํ พฺราหฺมโณ, ทสฺสามิ ทาริก’’นฺติ ปณฺณาการํ คณฺหิ. เต กปิลพฺราหฺมณสฺส สาสนํ ปหิณึสุ – ‘‘ลทฺธา ทาริกา, กตฺตพฺพํ กโรถา’’ติ. ตํ สาสนํ สุตฺวา ปิปฺปลิมาณวสฺส อาโรจยึสุ – ‘‘ลทฺธา กิร ทาริกา’’ติ. มาณโว ‘‘อหํ น ลภิสฺสามีติ จินฺเตสึ, อิเม ลทฺธาติ จ วทนฺติ, อนตฺถิโก หุตฺวา ปณฺณํ เปสิสฺสามี’’ติ รโหคโต ปณฺณํ ลิขิ, ‘‘ภทฺทา อตฺตโน ชาติโคตฺตโภคานุรูปํ ฆราวาสํ ลภตุ, อหํ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺสามิ, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสารินี อโหสี’’ติ. ภทฺทาปิ ‘‘อสุกสฺส กิร มํ ทาตุกามา’’ติ สุตฺวา รโหคตา ปณฺณํ ลิขิ, ‘‘อยฺยปุตฺโต อตฺตโน ชาติโคตฺตโภคานุรูปํ ฆราวาสํ ลภตุ. อหํ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺสามิ, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี อโหสี’’ติ. ทฺเวปิ ปณฺณานิ อนฺตรามคฺเค สมาคจฺฉึสุ. ‘‘อิทํ กสฺส ปณฺณ’’นฺติ? ปิปฺปลิมาณเวน ภทฺทาย ปหิตนฺติ. ‘‘อิทํ กสฺส ปณฺณ’’นฺติ? ภทฺทาย ปิปฺปลิมาณวสฺส ปหิตนฺติ จ วุตฺเต ทฺเวปิ วาเจตฺวา, ‘‘ปสฺสถ ทารกานํ กมฺม’’นฺติ ผาเลตฺวา อรฺเ ฉฑฺเฑตฺวา สมานปณฺณํ ลิขิตฺวา อิโต จ เอตฺโต จ เปเสสุํ. อิติ เตสํ อนิจฺฉมานานํเยว สมาคโม อโหสิ.

ตํทิวสํเยว จ มาณโวปิ เอกํ ปุปฺผทามํ คนฺถาเปสิ, ภทฺทาปิ เอกํ คนฺถาเปสิ. ตานิ อาสนมชฺเฌ เปตฺวา ภุตฺตสายมาสา อุโภปิ ‘‘สยนํ อารุหิสฺสามา’’ติ สมาคนฺตฺวา มาณโว ทกฺขิณปสฺเสน สยนํ อารุหิ. ภทฺทา วามปสฺเสน อารุหิตฺวา อาห – ‘‘ยสฺส ปสฺเส ปุปฺผานิ มิลายนฺติ, ตสฺส ราคจิตฺตํ อุปฺปนฺนนฺติ วิชานิสฺสาม, อิมํ ปุปฺผทามํ น อลฺลียิตพฺพ’’นฺติ. เต ปน อฺมฺสฺส สรีรสมฺผสฺสภเยน ติยามรตฺตึ นิทฺทํ อโนกฺกมนฺตาว วีตินาเมนฺติ, ทิวา ปน หสิตมตฺตมฺปิ น โหติ. เต โลกามิเสน อสํสฏฺา ยาว มาตาปิตโร ธรนฺติ, ตาว กุฏุมฺพํ อวิจาเรตฺวา เตสุ กาลงฺกเตสุ วิจารยึสุ. มหตี มาณวสฺส สมฺปตฺติ, เอกทิวสํ สรีรํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา ฉฑฺเฑตพฺพํ สุวณฺณจุณฺณเมว มคธนาฬิยา ทฺวาทสนาฬิมตฺตํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ. ยนฺตพทฺธานิ สฏฺิ มหาตฬากานิ, กมฺมนฺโต ทฺวาทสโยชนิโก, อนุราธปุรปฺปมาณา จุทฺทส ทาสคามา, จุทฺทส หตฺถานีกา, จุทฺทส อสฺสานีกา, จุทฺทส รถานีกา.

โส เอกทิวสํ อลงฺกตํ อสฺสํ อารุยฺห มหาชนปริวุโต กมฺมนฺตํ คนฺตฺวา เขตฺตโกฏิยํ ิโต นงฺคเลหิ ภินฺนฏฺานโต กากาทโย สกุเณ คณฺฑุปฺปาทกาทิปาเณ อุทฺธริตฺวา ขาทนฺเต ทิสฺวา, ‘‘ตาตา, อิเม กึ ขาทนฺตี’’ติ ปุจฺฉิ? ‘‘คณฺฑุปฺปาทเก อยฺยา’’ติ. ‘‘เอเตหิ กตํ ปาปํ กสฺส โหตี’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ, อยฺยา’’ติ. โส จินฺเตสิ – ‘‘สเจ เอเตหิ กตํ ปาปํ มยฺหํ โหติ, กึ เม กริสฺสติ สตฺตอสีติโกฏิธนํ? กึ ทฺวาทสโยชโน กมฺมนฺโต, กึ ยนฺตพทฺธานิ สฏฺิ มหาตฬากานิ, กึ จุทฺทส คามา? สพฺพเมตํ ภทฺทาย กาปิลานิยา นิยฺยาเตตฺวา นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ภทฺทาปิ กาปิลานี ตสฺมึ ขเณ อพฺภนฺตรวตฺถุมฺหิ ตโย ติลกุมฺเภ ปตฺถราเปตฺวา ธาตีหิ ปริวุตา นิสินฺนา กาเก ติลปาณเก ขาทมาเน ทิสฺวา, ‘‘อมฺมา กึ อิเม ขาทนฺตี’’ติ? ปุจฺฉิ. ‘‘ปาณเก อยฺเย’’ติ. ‘‘อกุสลํ กสฺส โหตี’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ อยฺเย’’ติ. สา จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ จตุหตฺถวตฺถํ นาฬิโกทนมตฺตฺจ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, ยทิ จ ปเนตํ เอตฺตเกน ชเนน กตํ อกุสลํ มยฺหํ โหติ, ภวสหสฺเสนปิ วฏฺฏโต สีสํ อุกฺขิปิตุํ น สกฺกา , อยฺยปุตฺเต อาคตมตฺเตเยว สพฺพํ ตสฺส นิยฺยาเตตฺวา นิกฺขมฺม ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

มาณโว อาคนฺตฺวา นฺหตฺวา ปาสาทํ อารุยฺห มหารเห ปลฺลงฺเก นิสีทิ, อถสฺส จกฺกวตฺติโน อนุจฺฉวิกํ โภชนํ สชฺชยึสุ. ทฺเวปิ ภุฺชิตฺวา ปริชเน นิกฺขนฺเต รโหคตา ผาสุกฏฺาเน นิสีทึสุ. ตโต มาณโว ภทฺทํ อาห – ‘‘ภทฺเท, ตฺวํ อิมํ ฆรํ อาคจฺฉนฺตี กิตฺตกํ ธนํ อาหรี’’ติ? ‘‘ปฺจปณฺณาส สกฏสหสฺสานิ อยฺยา’’ติ. ‘‘เอตํ สพฺพํ, ยา จ อิมสฺมึ ฆเร สตฺตอสีติโกฏิโย, ยนฺตพทฺธา สฏฺิตฬากาทิเภทา สมฺปตฺติ อตฺถิ, สพฺพํ ตุยฺหํเยว นิยฺยาเตมี’’ติ. ‘‘ตุมฺเห ปน อยฺยา’’ติ. ‘‘อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. ‘‘อยฺยา อหมฺปิ ตุมฺหากํเยว อาคมนํ โอโลกยมานา นิสินฺนา, อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. เตสํ อาทิตฺตปณฺณกุฏิ วิย ตโย ภวา อุปฏฺหึสุ. เต ‘‘ปพฺพชิสฺสามา’’ติ วตฺวา อนฺตราปณโต กสายรสปีตานิ วตฺถานิ มตฺติกาปตฺเต จ อาหราเปตฺวา อฺมฺํ เกเส โอหาเรตฺวา, ‘‘เย โลเก อรหนฺโต, เต อุทฺทิสฺส อมฺหากํ ปพฺพชฺชา’’ติ ปพฺพชิตฺวา ถวิกาสุ ปตฺเต โอสาเปตฺวา อํเส ลคฺเคตฺวา ปาสาทโต โอตรึสุ. เคเห ทาเสสุ จ กมฺมกาเรสุ จ น โกจิ สฺชานิ.

อถ เน พฺราหฺมณคามโต นิกฺขมฺม ทาสคามทฺวาเรน คจฺฉนฺเต อากปฺปกุตฺตวเสน ทาสคามวาสิโน สฺชานึสุ. เต รุทนฺตา ปาเทสุ นิปติตฺวา ‘‘กึ อมฺเห อนาเถ กโรถ อยฺยา’’ติ? อาหํสุ. ‘‘มยํ, ภเณ ‘อาทิตฺตปณฺณสาลา วิย ตโย ภวา’ติ ปพฺพชิมฺหา, สเจ ตุมฺเหสุ เอเกกํ ภุชิสฺสํ กโรม, วสฺสสตมฺปิ นปฺปโหติ, ตุมฺเหว ตุมฺหากํ สีสํ โธวิตฺวา ภุชิสฺสา หุตฺวา ชีวถา’’ติ วตฺวา เตสํ โรทนฺตานํเยว ปกฺกมึสุ. เถโร ปุรโต คจฺฉนฺโต นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ภทฺทา กาปิลานี สกลชมฺพุทีปคฺฆนิกา อิตฺถี มยฺหํ ปจฺฉโต อาคจฺฉติ. านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โกจิเทว เอวํ จินฺเตยฺย ‘อิเม ปพฺพชิตฺวาปิ วินา ภวิตุํ น สกฺโกนฺติ, อนนุจฺฉวิกํ กโรนฺตี’’ติ. ‘‘โกจิ วา ปน มนํ ปทูเสตฺวา อปายปูรโก ภเวยฺย. อิมํ ปหาย มยา คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ.

โส ปุรโต คจฺฉนฺโต ทฺเวธาปถํ ทิสฺวา ตสฺส มตฺถเก อฏฺาสิ. ภทฺทาปิ อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. อถ นํ อาห – ‘‘ภทฺเท, ตาทิสึ อิตฺถึ มม ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา, ‘อิเม ปพฺพชิตฺวาปิ วินา ภวิตุํ น สกฺโกนฺตี’ติ จินฺเตตฺวา อมฺเหสุ ปทุฏฺจิตฺโต มหาชโน อปายปูรโก ภเวยฺย. อิมสฺมึ ทฺเวธาปเถ ตฺวํ เอกํ คณฺห, อหํ เอเกน คมิสฺสามี’’ติ. ‘‘อาม, อยฺย, ปพฺพชิตานํ มาตุคาโม นาม มลํ, ‘ปพฺพชิตฺวาปิ วินา น ภวนฺตี’ติ อมฺหากํ โทสํ ปสฺสนฺติ, ตุมฺเห เอกํ มคฺคํ คณฺหถ, วินา ภวิสฺสามา’’ติ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา จตูสุ าเนสุ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชลึ ปคฺคยฺห, ‘‘สตสหสฺสกปฺปปฺปมาเณ อทฺธาเน กโต มิตฺตสนฺถโว อชฺช ภิชฺชตี’’ติ วตฺวา, ‘‘ตุมฺเห ทกฺขิณชาติกา นาม, ตุมฺหากํ ทกฺขิณมคฺโค วฏฺฏติ, มยํ มาตุคามา นาม วามชาติกา, อมฺหากํ วามมคฺโค วฏฺฏตี’’ติ วนฺทิตฺวา มคฺคํ ปฏิปนฺนา. เตสํ ทฺเวธาภูตกาเล อยํ มหาปถวี ‘‘อหํ จกฺกวาฬคิริสิเนรุปพฺพเต ธาเรตุํ สกฺโกนฺตีปิ ตุมฺหากํ คุเณ ธาเรตุํ น สกฺโกมี’’ติ วทนฺตี วิย วิรวมานา อกมฺปิ, อากาเส อสนิสทฺโท วิย ปวตฺติ, จกฺกวาฬปพฺพโต อุนฺนทิ.

สมฺมาสมฺพุทฺโธ เวฬุวนมหาวิหาเร คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโน ปถวีกมฺปนสทฺทํ สุตฺวา, ‘‘กสฺส นุ โข ปถวี กมฺปตี’’ติ? อาวชฺเชนฺโต ‘‘ปิปฺปลิมาณโว จ ภทฺทา จ กาปิลานี มํ อุทฺทิสฺส อปฺปเมยฺยํ สมฺปตฺตึ ปหาย ปพฺพชิตา, เตสํ วิโยคฏฺาเน อุภินฺนมฺปิ คุณพเลน อยํ ปถวีกมฺโป ชาโต, มยาปิ เอเตสํ สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ คนฺธกุฏิโต นิกฺขมฺม สยเมว ปตฺตจีวรํ อาทาย, อสีติมหาเถเรสุ กฺจิ อนามนฺเตตฺวา ติคาวุตํ มคฺคํ ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ราชคหสฺส จ นาฬนฺทาย จ อนฺตเร พหุปุตฺตกนิคฺโรธรุกฺขมูเล ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสีทิ. นิสีทนฺโต ปน อฺตโร ปํสุกูลิโก วิย อนิสีทิตฺวา พุทฺธเวสํ คเหตฺวา อสีติหตฺถา ฆนพุทฺธรสฺมิโย วิสฺสชฺเชนฺโต นิสีทิ. อิติ ตสฺมึ ขเณ ปณฺณฉตฺตสกฏจกฺกกูฏาคาราทิปฺปมาณา พุทฺธรสฺมิโย อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทนฺติโย วิธาวนฺติโย จนฺทิมสหสฺสสูริยสหสฺสอุคฺคมนกาโล วิย กุรุมานา ตํ วนนฺตรํ เอโกภาสํ อกํสุ. ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานํ สิริยา สมุชฺชลิตตาราคณํ วิย คคนํ, สุปุปฺผิตกมลกุวลยํ วิย สลิลํ, วนนฺตรํ วิโรจิตฺถ. นิคฺโรธรุกฺขสฺส นาม ขนฺโธ เสโต โหติ, ปตฺตานิ นีลานิ ปกฺกานิ รตฺตานิ. ตสฺมึ ปน ทิวเส สตสาโข นิคฺโรธรุกฺโข สุวณฺณวณฺโณ อโหสิ.

อิติ ยา สา อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโนติ ปทสฺส อตฺถํ วตฺวา, ‘‘อิทานิ ยถา เอส ปพฺพชิโต, ยถา จ อทฺธานมคฺคํ ปฏิปนฺโน. อิมสฺส อตฺถสฺส อาวิภาวตฺถํ อภินีหารโต ปฏฺาย อยํ อนุปุพฺพิกถา กเถตพฺพา’’ติ วุตฺตา, สา เอวํ เวทิตพฺพา.

อนฺตรา จ ราชคหํ อนฺตรา จ นาฬนฺทนฺติ ราชคหสฺส จ นาฬนฺทาย จ อนฺตเร. สตฺถารฺจ วตาหํ ปสฺเสยฺยํ ภควนฺตเมว ปสฺเสยฺยนฺติ สเจ อหํ สตฺถารํ ปสฺเสยฺยํ, อิมํเยว ภควนฺตํ ปสฺเสยฺยํ. น หิ เม อิโต อฺเน สตฺถารา ภวิตุํ สกฺกาติ. สุคตฺจ วตาหํ ปสฺเสยฺยํ ภควนฺตเมว ปสฺเสยฺยนฺติ สเจ อหํ สมฺมาปฏิปตฺติยา สุฏฺุ คตตฺตา สุคตํ นาม ปสฺเสยฺยํ, อิมํเยว ภควนฺตํ ปสฺเสยฺยํ. น หิ เม อิโต อฺเน สุคเตน ภวิตุํ สกฺกาติ. สมฺมาสมฺพุทฺธฺจ วตาหํ ปสฺเสยฺยํ ภควนฺตเมว ปสฺเสยฺยนฺติ สเจ อหํ สมฺมา สามฺจ สจฺจานิ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺธํ นาม ปสฺเสยฺยํ, อิมํเยว ภควนฺตํ ปสฺเสยฺยํ. น หิ เม อิโต อฺเน สมฺมาสมฺพุทฺเธน ภวิตุํ สกฺกาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. เอวํ ทสฺสเนเนว ‘‘ภควติ ‘อยํ สตฺถา, อยํ สุคโต, อยํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’ติ นิกฺกงฺโข อหํ, อาวุโส, อโหสิ’’นฺติ ทีเปติ. สตฺถา เม, ภนฺเตติ อิทํ กิฺจาปิ ทฺเว วาเร อาคตํ, ติกฺขตฺตุํ ปน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิมินา หิ โส ‘‘เอวํ ติกฺขตฺตุํ สาวกตฺตํ สาเวสึ, อาวุโส’’ติ ทีเปติ.

อชานฺเวาติ อชานมาโนว. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยาติ ยสฺส อฺสฺส ‘‘อชานํเยว ชานามี’’ติ ปฏิฺสฺส พาหิรกสฺส สตฺถุโน เอวํ สพฺพเจตสา สมนฺนาคโต ปสนฺนจิตฺโต สาวโก เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กเรยฺย, ตสฺส วณฺฏฉินฺนตาลปกฺกํ วิย คีวโต มุทฺธาปิ วิปเตยฺย, สตฺตธา ปน ผเลยฺยาติ อตฺโถ. กึ วา เอเตน, สเจ มหากสฺสปตฺเถโร อิมินา จิตฺตปฺปสาเทน อิมํ ปรมนิปจฺจการํ มหาสมุทฺทสฺส กเรยฺย, ตตฺตกปาเล ปกฺขิตฺตอุทกพินฺทุ วิย วิลยํ คจฺเฉยฺย. สเจ จกฺกวาฬสฺส กเรยฺย, ถุสมุฏฺิ วิย วิกิเรยฺย. สเจ สิเนรุปพฺพตสฺส กเรยฺย, กากตุณฺเฑน ปหฏปิฏฺมุฏฺิ วิย วิทฺธํเสยฺย . สเจ มหาปถวิยา กเรยฺย, วาตาหตภสฺมปุฺโช วิย วิกิเรยฺย. เอวรูโปปิ ปน เถรสฺส นิปจฺจากาโร สตฺถุ สุวณฺณวณฺเณ ปาทปิฏฺเ โลมมตฺตมฺปิ วิโกเปตุํ นาสกฺขิ. ติฏฺตุ จ มหากสฺสโป, มหากสฺสปสทิสานํ ภิกฺขูนํ สหสฺสมฺปิ สตสหสฺสมฺปิ นิปจฺจาการทสฺสเนน เนว ทสพลสฺส ปาทปิฏฺเ โลมมตฺตมฺปิ วิโกเปตุํ ปํสุกูลจีวเร วา อํสุมตฺตมฺปิ จาเลตุํ สกฺโกติ. เอวํ มหานุภาโว หิ สตฺถา.

ตสฺมาติห เต กสฺสปาติ ยสฺมา อหํ ชานนฺโต เอว ‘‘ชานามี’’ติ, ปสฺสนฺโต เอว จ ‘‘ปสฺสามี’’ติ วทามิ, ตสฺมา, กสฺสป, ตยา เอวํ สิกฺขิตพฺพํ. ติพฺพนฺติ พหลํ มหนฺตํ. หิโรตฺตปฺปนฺติ หิรี จ โอตฺตปฺปฺจ. ปจฺจุปฏฺิตํ ภวิสฺสตีติ ปมตรเมว อุปฏฺิตํ ภวิสฺสติ. โย หิ เถราทีสุ หิโรตฺตปฺปํ อุปฏฺเปตฺวา อุปสงฺกมติ เถราทโยปิ ตํ สหิริกา สโอตฺตปฺปา จ หุตฺวา อุปสงฺกมนฺตีติ อยเมตฺถ อานิสํโส. กุสลูปสํหิตนฺติ กุสลสนฺนิสฺสิตํ. อฏฺึ กตฺวาติ อตฺตานํ เตน ธมฺเมน อฏฺิกํ กตฺวา, ตํ วา ธมฺมํ ‘‘เอส มยฺหํ อตฺโถ’’ติ อฏฺึ กตฺวา. มนสิ กตฺวาติ จิตฺเต เปตฺวา. สพฺพเจตสา สมนฺนาหริตฺวาติ จิตฺตสฺส โถกมฺปิ พหิ คนฺตุํ อเทนฺโต สพฺเพน สมนฺนาหารจิตฺเตน สมนฺนาหริตฺวา. โอหิตโสโตติ ปิตโสโต, าณโสตฺจ ปสาทโสตฺจ โอทหิตฺวา มยา เทสิตํ ธมฺมํ สกฺกจฺจเมว สุณิสฺสามีติ เอวฺหิ เต สิกฺขิตพฺพํ. สาตสหคตา จ เม กายคตาสตีติ อสุเภสุ เจว อานาปาเน จ ปมชฺฌานวเสน สุขสมฺปยุตฺตา กายคตาสติ. โย จ ปนายํ ติวิโธ โอวาโท, เถรสฺส อยเมว ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ อโหสิ.

สรโณติ สกิเลโส สอิโณ หุตฺวา. รฏฺปิณฺฑํ ภุฺชินฺติ สทฺธาเทยฺยํ ภุฺชึ. จตฺตาโร หิ ปริโภคา เถยฺยปริโภโค อิณปริโภโค ทายชฺชปริโภโค สามิปริโภโคติ. ตตฺถ ทุสฺสีลสฺส สงฺฆมชฺเฌ นิสีทิตฺวา ภุฺชนฺตสฺสาปิ ปริโภโค เถยฺยปริโภโค นาม. กสฺมา? จตูสุ ปจฺจเยสุ อนิสฺสรตาย. สีลวโต อปจฺจเวกฺขิตปริโภโค อิณปริโภโค นาม. สตฺตนฺนํ เสขานํ ปริโภโค ทายชฺชปริโภโค นาม. ขีณาสวสฺส ปริโภโค สามิปริโภโค นาม. อิติ ขีณาสโวว สามี หุตฺวา อนโณ ปริภุฺชติ. เถโร อตฺตนา ปุถุชฺชเนน หุตฺวา ปริภุตฺตปริโภคํ อิณปริโภคํเยว กโรนฺโต เอวมาห. อฏฺมิยา อฺา อุทปาทีติ อฏฺเม ทิวเส อรหตฺตผลํ อุปฺปชฺชิ.

อถ โข, อาวุโส, ภควา มคฺคา โอกฺกมฺมาติ มคฺคโต โอกฺกมนํ ปมตรํ ตํทิวเสเยว อโหสิ, อรหตฺตาธิคโม ปจฺฉา. เทสนาวารสฺส ปน เอวํ อาคตตฺตา อรหตฺตาธิคโม ปมํ ทีปิโต. กสฺมา ปน ภควา มคฺคา โอกฺกนฺโตติ? เอวํ กิรสฺส อโหสิ ‘‘อิมํ ภิกฺขุํ ชาติอารฺิกํ ชาติปํสุกูลิกํ ชาติเอกาสนิกํ กริสฺสามี’’ติ. ตสฺมา โอกฺกมิ.

มุทุกา โข ตฺยายนฺติ มุทุกา โข เต อยํ. อิมฺจ ปน วาจํ ภควา ตํ จีวรํ ปทุมปุปฺผวณฺเณน ปาณินา อนฺตนฺเตน ปรามสนฺโต อาห. กสฺมา เอวมาหาติ? เถเรน สห จีวรํ ปริวตฺเตตุกามตาย. กสฺมา ปริวตฺเตตุกาโม ชาโตติ? เถรํ อตฺตโน าเน เปตุกามตาย. เถโร ปน ยสฺมา จีวรสฺส วา ปตฺตสฺส วา วณฺเณ กถิเต ‘‘อิมํ ตุมฺหากํ คณฺหถา’’ติวจนํ จาริตฺตเมว, ตสฺมา ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ เม, ภนฺเต, ภควา’’ติ อาห. ธาเรสฺสสิ ปน เม ตฺวํ, กสฺสป, สาณานิ ปํสุกูลานิ นิพฺพสนานีติ, กสฺสป, ตฺวํ อิมานิ ปริโภคชิณฺณานิ ปํสุกูลานิ ปารุปิตุํ สกฺขิสฺสสีติ วทติ. ตฺจ โข น กายพลํ สนฺธาย, ปฏิปตฺติปูรณํ ปน สนฺธาย เอวมาห. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – อหํ อิมํ จีวรํ ปุณฺณํ นาม ทาสึ ปารุปิตฺวา อามกสุสาเน ฉฑฺฑิตํ ตํ สุสานํ ปวิสิตฺวา ตุมฺพมตฺเตหิ ปาณเกหิ สมฺปริกิณฺณํ เต ปาณเก วิธุนิตฺวา มหาอริยวํเส ตฺวา อคฺคเหสึ, ตสฺส เม อิมํ จีวรํ คหิตทิวเส ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ มหาปถวี มหาวิรวํ วิรวมานา กมฺปิตฺถ, อากาโส ตฏตฏายิ, จกฺกวาฬเทวตา สาธุการมทํสุ, ‘‘อิมํ จีวรํ คณฺหนฺเตน ภิกฺขุนา ชาติปํสุกูลิเกน ชาติอารฺิเกน ชาติเอกาสนิเกน ชาติสปทานจาริเกน ภวิตุํ วฏฺฏติ, ตฺวํ อิมสฺส จีวรสฺส อนุจฺฉวิกํ กาตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ. เถโรปิ อตฺตนา ปฺจนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธาเรติ, โส ตํ อตกฺกยิตฺวา ‘‘อหเมตํ ปฏิปตฺตึ ปูเรสฺสามี’’ติ อุสฺสาเหน สุคตจีวรสฺส อนุจฺฉวิกํ กาตุกาโม ‘‘ธาเรสฺสามหํ, ภนฺเต’’ติ อาห. ปฏิปชฺชินฺติ ปฏิปนฺโนสฺมิ. เอวํ ปน จีวรปริวตฺตนํ กตฺวา จ เถเรน ปารุตจีวรํ ภควา ปารุปิ, สตฺถุ จีวรํ เถโร. ตสฺมึ สมเย มหาปถวี อุทกปริยนฺตํ กตฺวา อุนฺนทนฺตี กมฺปิตฺถ.

ภควโต ปุตฺโตติอาทีสุ เถโร ภควนฺตํ นิสฺสาย อริยาย ชาติยา ชาโตติ ภควโต ปุตฺโต. อุเรน วสิตฺวา มุขโต นิกฺขนฺตโอวาทวเสน ปพฺพชฺชาย เจว อุปสมฺปทาย จ ปติฏฺิตตฺตา โอรโส มุขโต ชาโต. โอวาทธมฺมโต ชาตตฺตา โอวาทธมฺเมน จ นิมฺมิตตฺตา ธมฺมโช ธมฺมนิมฺมิโต. โอวาทธมฺมทายาทํ นวโลกุตฺตรธมฺมทายาทเมว วา อรหตีติ ธมฺมทายาโท. ปฏิคฺคหิตานิ สาณานิ ปํสุกูลานีติ สตฺถารา ปารุตํ ปํสุกูลจีวรํ ปารุปนตฺถาย ปฏิคฺคหิตํ.

สมฺมา วทมาโน วเทยฺยาติ ยํ ปุคฺคลํ ‘‘ภควโต ปุตฺโต’’ติอาทีหิ คุเณหิ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย, มมํ ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย, อหํ เอวรูโปติ. เอตฺตาวตา เถเรน ปพฺพชฺชา จ ปริโสธิตา โหติ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – อาวุโส, ยสฺส น อุปชฺฌาโย ปฺายติ, น อาจริโย, กึ โส อนุปชฺฌาโย อนาจริโย นฺหาปิตมุณฺฑโก สยํคหิตกาสาโว ‘‘ติตฺถิยปกฺกนฺตโก’’ติ สงฺขํ คโต เอวํ ติคาวุตํ มคฺคํ ปจฺจุคฺคมนํ ลภติ, ตีหิ โอวาเทหิ ปพฺพชฺชํ วา อุปสมฺปทํ วา ลภติ, กาเยน กายํ จีวรปริวตฺตนํ ลภติ? ปสฺส ยาว ทุพฺภาสิตํ วจนํ ถุลฺลนนฺทาย ภิกฺขุนิยาติ. เอวํ ปพฺพชฺชํ โสเธตฺวา อิทานิ ฉหิ อภิฺาหิ สีหนาทํ นทิตุํ อหํ โข, อาวุโสติอาทิมาห. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอกาทสมํ.

๑๒. ปรํมรณสุตฺตวณฺณนา

๑๕๕. ทฺวาทสเม ตถาคโตติ สตฺโต. น เหตํ, อาวุโส, อตฺถสํหิตนฺติ, อาวุโส, เอตํ ทิฏฺิคตํ อตฺถสนฺนิสฺสิตํ น โหติ. นาทิพฺรหฺมจริยกนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทาปิ น โหติ. เอตฺหิ, อาวุโส, อตฺถสํหิตนฺติ, อาวุโส, เอตํ จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ อตฺถสนฺนิสฺสิตํ. เอตํ อาทิพฺรหฺมจริยกนฺติ เอตํ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิ ปุพฺพภาคปฏิปทา. ทฺวาทสมํ.

๑๓. สทฺธมฺมปฺปติรูปกสุตฺตวณฺณนา

๑๕๖. เตรสเม อฺาย สณฺหึสูติ อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ. สทฺธมฺมปฺปติรูปกนฺติ ทฺเว สทฺธมฺมปฺปติรูปกานิ อธิคมสทฺธมฺมปฺปติรูปกฺจ ปริยตฺติสทฺธมฺมปฺปติรูปกฺจ. ตตฺถ –

‘‘โอภาเส เจว าเณ จ, ปีติยา จ วิกมฺปติ;

ปสฺสทฺธิยา สุเข เจว, เยหิ จิตฺตํ ปเวธติ.

‘‘อธิโมกฺเข จ ปคฺคาเห, อุปฏฺาเน จ กมฺปติ;

อุเปกฺขาวชฺชนาย เจว, อุเปกฺขาย จ นิกนฺติยา.

‘‘อิมานิ ทส านานิ, ปฺา ยสฺส ปริจิตา;

ธมฺมุทฺธจฺจกุสโล โหติ, น จ สมฺโมห คจฺฉตี’’ติ. (ปฏิ. ม. ๒.๗); –

อิทํ วิปสฺสนาาณสฺส อุปกฺกิเลสชาตํ อธิคมสทฺธมฺมปฺปติรูปกํ นาม. ติสฺโส ปน สงฺคีติโย อนารุฬฺหํ ธาตุกถา อารมฺมณกถา อสุภกถา าณวตฺถุกถา วิชฺชากรณฺฑโกติ อิเมหิ ปฺจหิ กถาวตฺถูหิ ปริพาหิรํ คุฬฺหวินยํ คุฬฺหเวสฺสนฺตรํ คุฬฺหมโหสธํ วณฺณปิฏกํ องฺคุลิมาลปิฏกํ รฏฺปาลคชฺชิตํ อาฬวกคชฺชิตํ เวทลฺลปิฏกนฺติ อพุทฺธวจนํ ปริยตฺติสทฺธมฺมปฺปติรูปกํ นาม.

ชาตรูปปฺปติรูปกนฺติ สุวณฺณรสวิธานํ อารกูฏมยํ สุวณฺณวณฺณํ อาภรณชาตํ. ฉณกาเลสุ หิ มนุสฺสา ‘‘อาภรณภณฺฑกํ คณฺหิสฺสามา’’ติ อาปณํ คจฺฉนฺติ. อถ เน อาปณิกา เอวํ วทนฺติ, ‘‘สเจ ตุมฺเห อาภรณตฺถิกา, อิมานิ คณฺหถ. อิมานิ หิ ฆนานิ เจว วณฺณวนฺตานิ จ อปฺปคฺฆานิ จา’’ติ. เต เตสํ สุตฺวา, ‘‘การณํ อิเม วทนฺติ, อิมานิ ปิฬนฺธิตฺวา สกฺกา นกฺขตฺตํ กีฬิตุํ, โสภนฺติ เจว อปฺปคฺฆานิ จา’’ติ ตานิ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. สุวณฺณภณฺฑํ อวิกฺกิยมานํ นิทหิตฺวา เปตพฺพํ โหติ. เอวํ ตํ ชาตรูปปฺปติรูปเก อุปฺปนฺเน อนฺตรธายติ นาม.

อถ สทฺธมฺมสฺส อนฺตรธานํ โหตีติ อธิคมสทฺธมฺมสฺส ปฏิปตฺติสทฺธมฺมสฺส ปริยตฺติสทฺธมฺมสฺสาติ ติวิธสฺสาปิ สทฺธมฺมสฺส อนฺตรธานํ โหติ. ปมโพธิยฺหิ ภิกฺขู ปฏิสมฺภิทปฺปตฺตา อเหสุํ. อถ กาเล คจฺฉนฺเต ปฏิสมฺภิทา ปาปุณิตุํ น สกฺขึสุ, ฉฬภิฺา อเหสุํ. ตโต ฉ อภิฺา ปาปุณิตุํ อสกฺโกนฺตา ติสฺโส วิชฺชา ปาปุณึสุ. อิทานิ กาเล คจฺฉนฺเต ติสฺโส วิชฺชา ปาปุณิตุํ อสกฺโกนฺตา อาสวกฺขยมตฺตํ ปาปุณิสฺสนฺติ. ตมฺปิ อสกฺโกนฺตา อนาคามิผลํ, ตมฺปิ อสกฺโกนฺตา สกทาคามิผลํ, ตมฺปิ อสกฺโกนฺตา โสตาปตฺติผลํ. คจฺฉนฺเต กาเล โสตาปตฺติผลมฺปิ ปตฺตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. อถ เนสํ ยทา วิปสฺสนา อิเมหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺา อารทฺธมตฺตาว สฺสติ, ตทา อธิคมสทฺธมฺโม อนฺตรหิโต นาม ภวิสฺสติ.

ปมโพธิยฺหิ ภิกฺขู จตุนฺนํ ปฏิสมฺภิทานํ อนุจฺฉวิกํ ปฏิปตฺตึ ปูรยึสุ. คจฺฉนฺเต กาเล ตํ อสกฺโกนฺตา ฉนฺนํ อภิฺานํ, ตมฺปิ อสกฺโกนฺตา ติสฺสนฺนํ วิชฺชานํ, ตมฺปิ อสกฺโกนฺตา อรหตฺตผลมตฺตสฺส. คจฺฉนฺเต ปน กาเล อรหตฺตสฺส อนุจฺฉวิกํ ปฏิปตฺตึ ปูเรตุํ อสกฺโกนฺตา อนาคามิผลสฺส อนุจฺฉวิกํ ปฏิปตฺตึ ปูเรสฺสนฺติ , ตมฺปิ อสกฺโกนฺตา สกทาคามิผลสฺส, ตมฺปิ อสกฺโกนฺตา โสตาปตฺติผลสฺส. ยทา ปน โสตาปตฺติผลสฺสปิ อนุจฺฉวิกํ ปฏิปทํ ปูเรตุํ อสกฺโกนฺตา สีลปาริสุทฺธิมตฺเตว สฺสนฺติ, ตทา ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม อนฺตรหิโต นาม ภวิสฺสติ.

ยาว ปน เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ วตฺตติ, น ตาว สาสนํ อนฺตรหิตนฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ติฏฺนฺตุ ตีณิ วา, อภิธมฺมปิฏเก อนฺตรหิเต อิตเรสุ ทฺวีสุ ติฏฺนฺเตสุปิ อนฺตรหิตนฺติ น วตฺตพฺพเมว. ทฺวีสุ อนฺตรหิเตสุ วินยปิฏกมตฺเต ิเตปิ, ตตฺราปิ ขนฺธกปริวาเรสุ อนฺตรหิเตสุ อุภโตวิภงฺคมตฺเต, มหาวินเย อนฺตรหิเต ทฺวีสุ ปาติโมกฺเขสุ วตฺตมาเนสุปิ สาสนํ อนนฺตรหิตเมว. ยทา ปน ทฺเว ปาติโมกฺขา อนฺตรธายิสฺสนฺติ, อถ ปริยตฺติสทฺธมฺมสฺส อนฺตรธานํ ภวิสฺสติ. ตสฺมึ อนฺตรหิเต สาสนํ อนฺตรหิตํ นาม โหติ. ปริยตฺติยา หิ อนฺตรหิตาย ปฏิปตฺติ อนฺตรธายติ, ปฏิปตฺติยา อนฺตรหิตาย อธิคโม อนฺตรธายติ. กึ การณา? อยฺหิ ปริยตฺติ ปฏิปตฺติยา ปจฺจโย โหติ, ปฏิปตฺติ อธิคมสฺส. อิติ ปฏิปตฺติโตปิ ปริยตฺติเมว ปมาณํ.

นนุ จ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล กปิโล นาม อนาราธกภิกฺขุ ‘‘ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิสฺสามี’’ติ พีชนึ คเหตฺวา อาสเน นิสินฺโน ‘‘อตฺถิ อิมสฺมึ วตฺตนฺตา’’ติ ปุจฺฉิ, อถ ตสฺส ภเยน เยสมฺปิ ปาติโมกฺโข วตฺตติ, เตปิ ‘‘มยํ วตฺตามา’’ติ อวตฺวา ‘‘น วตฺตามา’’ติ วทึสุ, โส พีชนึ เปตฺวา อุฏฺายาสนา คโต, ตทา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสนํ โอสกฺกิตนฺติ? กิฺจาปิ โอสกฺกิตํ, ปริยตฺติ ปน เอกนฺเตเนว ปมาณํ. ยถา หิ มหโต ตฬากสฺส ปาฬิยา ถิราย อุทกํ น สฺสตีติ น วตฺตพฺพํ, อุทเก สติ ปทุมาทีนิ ปุปฺผานิ น ปุปฺผิสฺสนฺตีติ น วตฺตพฺพํ, เอวเมว มหาตฬากสฺส ถิรปาฬิสทิเส เตปิฏเก พุทฺธวจเน สติ มหาตฬาเก อุทกสทิสา ปฏิปตฺติปูรกา กุลปุตฺตา นตฺถีติ น วตฺตพฺพา, เตสุ สติ มหาตฬาเก ปทุมาทีนิ ปุปฺผานิ วิย โสตาปนฺนาทโย อริยปุคฺคลา นตฺถีติ น วตฺตพฺพาติ เอวํ เอกนฺตโต ปริยตฺติเยว ปมาณํ.

ปถวีธาตูติ ทฺเว สตสหสฺสานิ จตฺตาริ จ นหุตานิ พหลา มหาปถวี. อาโปธาตูติ ปถวิโต ปฏฺาย ยาว สุภกิณฺหพฺรหฺมโลกา อุคฺคตํ กปฺปวินาสกํ อุทกํ. เตโชธาตูติ ปถวิโต ปฏฺาย ยาว อาภสฺสรพฺรหฺมโลกา อุคฺคโต กปฺปวินาสโก อคฺคิ. วาโยธาตูติ ปถวิโต ปฏฺาย ยาว เวหปฺผลพฺรหฺมโลกา อุคฺคโต กปฺปวินาสโก วายุ. เอเตสุ หิ เอกธมฺโมปิ สตฺถุ สาสนํ อนฺตรธาเปตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา เอวมาห. อิเธว เต อุปฺปชฺชนฺตีติ โลหโต โลหขาทกํ มลํ วิย อิมสฺมึ มยฺหํเยว สาสเน เต อุปฺปชฺชนฺติ. โมฆปุริสาติ ตุจฺฉปุริสา.

อาทิเกเนว โอปิลวตีติ เอตฺถ อาทิเกนาติ อาทาเนน คหเณน. โอปิลวตีติ นิมุชฺชติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อุทกจรา นาวา ภณฺฑํ คณฺหนฺตี นิมุชฺชติ, เอวํ ปริยตฺติอาทีนํ ปูรเณน สทฺธมฺมสฺส อนฺตรธานํ น โหติ. ปริยตฺติยา หิ หายมานาย ปฏิปตฺติ หายติ, ปฏิปตฺติยา หายมานาย อธิคโม หายติ. ปริยตฺติยา ปูรยมานาย ปริยตฺติธรา ปุคฺคลา ปฏิปตฺตึ ปูเรนฺติ, ปฏิปตฺติปูรกา อธิคมํ ปูเรนฺติ. อิติ นวจนฺโท วิย ปริยตฺติยาทีสุ วฑฺฒมานาสุ มยฺหํ สาสนํ วฑฺฒติ เยวาติ ทสฺเสติ.

อิทานิ เยหิ ธมฺเมหิ สทฺธมฺมสฺส อนฺตรธานฺเจว ิติ จ โหติ, เต ทสฺเสนฺโต ปฺจ โขติอาทิมาห. ตตฺถ โอกฺกมนียาติ อวกฺกมนียา, เหฏฺาคมนียาติ อตฺโถ. สตฺถริ อคารวาติอาทีสุ อคารวาติ คารวรหิตา. อปฺปติสฺสาติ อปฺปติสฺสยา อนีจวุตฺติกา. ตตฺถ โย เจติยงฺคณํ อาโรหนฺโต ฉตฺตํ ธาเรติ, อุปาหนํ ธาเรติ, อฺโต โอโลเกตฺวา กถํ กเถนฺโต คจฺฉติ, อยํ สตฺถริ อคารโว นาม.

โย ธมฺมสฺสวนสฺส กาเล สงฺฆุฏฺเ ทหรสามเณเรหิ ปริวาริโต นิสีทติ, อฺานิ วา นวกมฺมาทีนิ กโรติ, ธมฺมสฺสวนคฺเค นิสินฺโน นิทฺทายติ, วิกฺขิตฺโต วา อฺํ กเถนฺโต นิสีทติ, อยํ ธมฺเม อคารโว นาม.

โย เถรุปฏฺานํ คนฺตฺวา, อวนฺทิตฺวา นิสีทติ, หตฺถปลฺลตฺถิกํ ทุสฺสปลฺลตฺถิกํ กโรติ, อฺํ วา ปน หตฺถปาทกุกฺกุจฺจํ กโรติ, วุฑฺฒานํ สนฺติเก อนชฺฌิฏฺโ กเถติ, อยํ สงฺเฆ อคารโว นาม.

ติสฺโส ปน สิกฺขา อปูเรนฺโตว สิกฺขาย อคารโว นาม โหติ. อฏฺ สมาปตฺติโย อนิพฺพตฺเตนฺโต ตาสํ วา ปน นิพฺพตฺตนตฺถาย ปโยคํ อกโรนฺโต สมาธิสฺมึ อคารโว นาม. สุกฺกปกฺโข วุตฺตวิปลฺลาเสเนว เวทิตพฺโพติ. เตรสมํ.

กสฺสปสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.