📜
๖. ลาภสกฺการสํยุตฺตํ
๑. ปมวคฺโค
๑. ทารุณสุตฺตวณฺณนา
๑๕๗. ลาภสกฺการสํยุตฺตสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม ทารุโณติ ถทฺโธ. ลาภสกฺการสิโลโกติ เอตฺถ ลาโภ นาม จตุปจฺจยลาโภ. สกฺกาโรติ เตสํเยว สุกตานํ สุสงฺขตานํ ลาโภ. สิโลโกติ วณฺณโฆโส. กฏุโกติ ติขิโณ. ผรุโสติ ขโร. อนฺตรายิโกติ อนฺตรายกโร. ปมํ.
๒. พฬิสสุตฺตวณฺณนา
๑๕๘. ทุติเย พาฬิสิโกติ พฬิสํ คเหตฺวา จรมาโน มจฺฉฆาตโก. อามิสคตนฺติ อามิสมกฺขิตํ. อามิสจกฺขูติ อามิเส จกฺขุ ทสฺสนํ อสฺสาติ อามิสจกฺขุ. คิลพฬิโสติ คิลิตพฬิโส. อนยํ อาปนฺโนติ ทุกฺขํ ปตฺโต. พฺยสนํ อาปนฺโนติ วินาสํ ปตฺโต. ยถากามกรณีโยติ ยถากาเมน ยถารุจิยา ยเถว นํ พาฬิสิโก อิจฺฉติ, ตเถวสฺส กตฺตพฺโพติ อตฺโถ. ยถากามกรณีโย ปาปิมโตติ ยถา กิเลสมารสฺส กาโม, เอวํ กตฺตพฺโพ, นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา เปตฺติวิสยํ วา ปาเปตพฺโพ. ทุติยํ.
๓-๔. กุมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๕๙-๑๖๐. ตติเย มหากุมฺมกุลนฺติ มหนฺตํ อฏฺิกจฺฉปกุลํ. อคมาสีติ ‘‘เอตฺถ อทฺธา กิฺจิ ขาทิตพฺพํ อตฺถิ, ตํ มจฺฉรายนฺโต มํ เอส นิวาเรตี’’ติ สฺาย อคมาสิ. ปปตายาติ ¶ ปปตา วุจฺจติ ทีฆรชฺชุกพทฺโธ อยกนฺตโกสเก ทณฺฑกํ ปเวเสตฺวา คหิโต ¶ กณฺณิกสลฺลสณฺาโน, อยกณฺฏโก, ยสฺมึ เวเคน ปติตฺวา กฏาเห ลคฺคมตฺเต ทณฺฑโก นิกฺขมติ, รชฺชุโก เอกาพทฺโธ คจฺฉเตว. โส กุมฺโมติ โส ¶ วิทฺธกุมฺโม. เยน โส กุมฺโมติ อุทกสทฺทํ สุตฺวา สาสงฺกฏฺานํ ภวิสฺสตีติ นิวตฺติตฺวา เยน โส อตฺถกาโม กุมฺโม. น ทานิ ตฺวํ อมฺหากนฺติ อิทานิ ตฺวํ อมิตฺตหตฺถํ คโต, น อมฺหากํ สนฺตโกติ อตฺโถ. เอวํ สลฺลปนฺตานํเยว จ เนสํ นาวาย ิโต ลุทฺโท รชฺชุกํ อากฑฺฒิตฺวา กุมฺมํ คเหตฺวา ยถากามํ อกาสิ. เสสเมตฺถ อิโต อนนฺตรสุตฺเต จ อุตฺตานเมว. ตติยจตุตฺถานิ.
๕. มีฬฺหกสุตฺตวณฺณนา
๑๖๑. ปฺจเม มีฬฺหกาติ คูถปาณกา. คูถาทีติ คูถภกฺขา. คูถปูราติ อนฺโต คูเถน ภริตา. ปุณฺณา คูถสฺสาติ อิทํ ปุริมสฺเสว อตฺถทีปนํ. อติมฺเยฺยาติ ปจฺฉิมปาเท ภูมิยํ เปตฺวา ปุริมปาเท คูถสฺส อุปริ อาโรเปตฺวา ิตา ‘‘อหมฺหิ คูถาที’’ติ ภณนฺตี อติมฺเยฺย. ปิณฺฑปาโต จสฺส ปูโรติ อปโรปิสฺส ปตฺตปูโร ปณีตปิณฺฑปาโต ภเวยฺย. ปฺจมํ.
๖. อสนิสุตฺตวณฺณนา
๑๖๒. ฉฏฺเ กํ, ภิกฺขเว, อสนิวิจกฺกนฺติ, ภิกฺขเว, กํ ปุคฺคลํ มตฺถเก ปติตฺวา มทฺทมานํ สุกฺกาสนิจกฺกํ อาคจฺฉตุ ¶ . อปฺปตฺตมานสนฺติ อนธิคตารหตฺตํ. อิติ ภควา น สตฺตานํ ทุกฺขกามตาย, อาทีนวํ ปน ทสฺเสตุํ เอวมาห. อสนิจกฺกฺหิ มตฺถเก ปติตํ เอกเมว อตฺตภาวํ นาเสติ, ลาภสกฺการสิโลเกน ปริยาทิณฺณจิตฺโต นิรยาทีสุ อนนฺตทุกฺขํ อนุโภติ. ฉฏฺํ.
๗. ทิทฺธสุตฺตวณฺณนา
๑๖๓. สตฺตเม ทิทฺธคเตนาติ คตทิทฺเธน. วิสลฺเลนาติ วิสมกฺขิเตน. สลฺเลนาติ สตฺติยา. สตฺตมํ.
๘. สิงฺคาลสุตฺตวณฺณนา
๑๖๔. อฏฺเม ¶ ¶ สิงฺคาโลติ ชรสิงฺคาโล. ยถา หิ สุวณฺณวณฺโณปิ กาโย ปูติกาโย ตฺเวว, ตํขณํ คฬิตมฺปิ จ มุตฺตํ ปูติมุตฺตนฺตฺเวว วุจฺจติ, เอวํ ตทหุชาโตปิ สิงฺคาโล ชรสิงฺคาโลตฺเวว วุจฺจติ. อุกฺกณฺฏเกน นามาติ เอวํนามเกน โรเคน. โส กิร สีตกาเล อุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ อุปฺปนฺเน สกลสรีรโต โลมานิ ปตนฺติ, สกลสรีรํ นิลฺโลมํ หุตฺวา, สมนฺตโต ผุฏติ, วาตพฺภาหตา วณา รุชฺชนฺติ. ยถา อุมฺมตฺตกสุนเขน ทฏฺโ ปุริโส อนวฏฺิโตว ภมติ, เอวํ ตสฺมึ อุปฺปนฺเน ภมิตพฺโพ โหติ, อสุกฏฺาเน โสตฺถิ ภวิสฺสตีติ น ปฺายติ. อฏฺมํ.
๙. เวรมฺภสุตฺตวณฺณนา
๑๖๕. นวเม เวรมฺภวาตาติ เอวํนามกา มหาวาตา. กีทิเส ปน าเน เต วาตา วายนฺตีติ? ยตฺถ ิตสฺส จตฺตาโร ¶ ทีปา อุปฺปลินิปตฺตมตฺตา หุตฺวา ปฺายนฺติ. โย ปกฺขี คจฺฉตีติ นววุฏฺเ เทเว วิรวนฺโต วาตสกุโณ ตตฺถ คจฺฉติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อรกฺขิเตเนว กาเยนาติอาทีสุ หตฺถปาเท กีฬาเปนฺโต ขนฺธฏฺึ วา นาเมนฺโต กายํ น รกฺขติ นาม, นานาวิธํ ทุฏฺุลฺลกถํ กเถนฺโต วาจํ น รกฺขติ นาม, กามวิตกฺกาทโย วิตกฺเกนฺโต จิตฺตํ น รกฺขติ นาม. อนุปฏฺิตาย สติยาติ กายคตาสตึ อนุปฏฺเปตฺวา. นวมํ.
๑๐. สคาถกสุตฺตวณฺณนา
๑๖๖. ทสเม อสกฺกาเรน จูภยนฺติ อสกฺกาเรน จ อุภเยน. สมาธีติ อรหตฺตผลสมาธิ. โส หิ เตน น วิกมฺปติ. อปฺปมาณวิหาริโนติ อปฺปมาเณน ผลสมาธินา วิหรนฺตสฺส. สาตติกนฺติ สตตการึ. สุขุมํทิฏฺิวิปสฺสกนฺติ อรหตฺตมคฺคทิฏฺิยา สุขุมทิฏฺิผลสมาปตฺติอตฺถาย วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อาคตตฺตา วิปสฺสกํ. อุปาทานกฺขยารามนฺติ อุปาทานกฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน รตํ. อาหุ สปฺปุริโส อิตีติ สปฺปุริโสติ กเถนฺตีติ. ทสมํ.
ปโม วคฺโค.
๒. ทุติยวคฺโค
๑-๒. สุวณฺณปาติสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๖๗-๑๖๘. ทุติยวคฺคสฺส ¶ ¶ ปเม สมฺปชานมุสา ภาสนฺตนฺติ อปฺปมตฺตเกนปิ การเณน สมฺปชานเมว มุสา ภาสนฺตํ. ‘‘สีลํ ปูเรสฺสามี’’ติ สํวิหิตภิกฺขุํ สิเนรุมตฺโตปิ ปจฺจยราสิ จาเลตุํ น สกฺโกติ. ยทา ปน สีลํ ปหาย สกฺการนิสฺสิโต โหติ, ตทา กุณฺฑกมุฏฺิเหตุปิ มุสา ภาสติ, อฺํ วา อกิจฺจํ กโรติ. ทุติยํ อุตฺตานเมวาติ. ปมทุติยานิ.
๓-๑๐. สุวณฺณนิกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๖๙. ตติยาทีสุ ¶ สุวณฺณนิกฺขสฺสาติ เอกสฺส กฺจนนิกฺขสฺส. สิงฺคีนิกฺขสฺสาติ สิงฺคีสุวณฺณนิกฺขสฺส. ปถวิยาติ จกฺกวาฬพฺภนฺตราย มหาปถวิยา. อามิสกิฺจิกฺขเหตูติ กสฺสจิเทว อามิสสฺส เหตุ อนฺตมโส กุณฺฑกมุฏฺิโนปิ. ชีวิตเหตูติ อฏวิยํ โจเรหิ คเหตฺวา ชีวิเต โวโรปิยมาเน ตสฺสปิ เหตุ. ชนปทกลฺยาณิยาติ ชนปเท อุตฺตมิตฺถิยา. ตติยาทีนิ.
ทุติโย วคฺโค.
๓. ตติยวคฺโค
๑-๒. มาตุคามสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๗๐-๑๗๑. ตติยวคฺคสฺส ปเม น ตสฺส, ภิกฺขเว, มาตุคาโมติ น ตสฺส รโห เอกกสฺส นิสินฺนสฺส เตน ธมฺเมน อตฺถิโกปิ มาตุคาโม จิตฺตํ ปริยาทาตุํ สกฺโกติ, ยสฺส ลาภสกฺการสิโลโก ¶ จิตฺตํ ปริยาทาตุํ สกฺโกตีติ, อตฺโถ. ทุติยํ อุตฺตานเมวาติ. ปมทุติยานิ.
๓-๖. เอกปุตฺตกสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๗๒-๑๗๕. ตติเย สทฺธาติ โสตาปนฺนา. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ตถา จตุตฺเถ ปฺจเม ฉฏฺเ จ. ตติยาทีนิ.
๗. ตติยสมณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา
๑๗๖. สตฺตเม ¶ สมุทยนฺติอาทีสุ สห ปุพฺพกมฺเมน อตฺตภาโว โกลปุตฺติยํ วณฺณโปกฺขรตา กลฺยาณวากฺกรณตา ธุตคุณาวีกรณํ จีวรธารณํ ปริวารสมฺปตฺตีติ เอวมาทิ ลาภสกฺการสฺส สมุทโย นาม, ตํ สมุทยสจฺจวเสน นปฺปชานาติ, นิโรโธ จ ปฏิปทา จ นิโรธสจฺจมคฺคสจฺจวเสเนว เวทิตพฺพา. สตฺตมํ.
๘. ฉวิสุตฺตวณฺณนา
๑๗๗. อฏฺเม ¶ ยสฺมา ลาภสกฺการสิโลโก นรกาทีสุ, นิพฺพตฺเตนฺโต สกลมฺปิ อิมํ อตฺตภาวํ นาเสติ, อิธาปิ มรณมฺปิ มรณมตฺตมฺปิ ทุกฺขํ อาวหติ, ตสฺมา ฉวึ ฉินฺทตีติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺมํ.
๙. รชฺชุสุตฺตวณฺณนา
๑๗๘. นวเม วาฬรชฺชุยาติ สุตฺตาทิมยา รชฺชุ มุทุกา โหติ วาฬรชฺชุ ขรา ผรุสา, ตสฺมา อยเมว คหิตา. นวมํ.
๑๐. ภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา
๑๗๙. ทสเม ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราติ ผลสมาปตฺติสุขวิหารา. เตสาหมสฺสาติ เตสํ อหํ อสฺส ¶ . ขีณาสโว หิ ลาภี ปฺุสมฺปนฺโน ยาคุขชฺชกาทีนิ คเหตฺวา อาคตาคตานํ อนุโมทนํ กโรนฺโต ธมฺมํ เทเสนฺโต ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทิตุํ โอกาสํ น ลภติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ. ทสมํ.
ตติโย วคฺโค.
๔. จตุตฺถวคฺโค
๑-๔. ภินฺทิสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๘๐-๑๘๓. จตุตฺถวคฺคสฺส ปมํ อุตฺตานเมว. ทุติยาทีสุ กุสลมูลนฺติ อโลภาทิติวิธกุสลธมฺโม. สุกฺโก ธมฺโมติ ตสฺเสว ปริยายเทสนา ¶ . อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยสฺส กุสลมูลาทิสงฺขาตสฺส อนวชฺชธมฺมสฺส อสมุจฺฉินฺนตฺตา เทวทตฺโต สคฺเค วา นิพฺพตฺเตยฺย, มคฺคผลานิ วา อธิคจฺเฉยฺย, สฺวาสฺส สมุจฺเฉทมคมา สพฺพโส สมุจฺฉินฺโน วินฏฺโ. ปมาทีนิ.
๕. อจิรปกฺกนฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๘๔. ปฺจเม ปราภวายาติ อวฑฺฒิยา วินาสาย. อสฺสตรีติ วฬวาย กุจฺฉิสฺมึ คทฺรภสฺส ชาตา. อตฺตวธาย คพฺภํ คณฺหาตีติ ตํ อสฺเสน สทฺธึ สมฺปโยเชนฺติ, สา ¶ คพฺภํ คณฺหิตฺวา กาเล สมฺปตฺเต วิชายิตุํ น สกฺโกติ, ปาเทหิ ภูมิยํ ปหรนฺตี ติฏฺติ, อถสฺสา จตฺตาโร ปาเท จตูสุ ขาณุเกสุ พนฺธิตฺวา กุจฺฉึ ผาเลตฺวา โปตํ นีหรนฺติ, สา ตตฺเถว มรติ. เตเนตํ วุตฺตํ. ปฺจมํ.
๖. ปฺจรถสตสุตฺตวณฺณนา
๑๘๕. ฉฏฺเ ภตฺตาภิหาโรติ อภิหริตพฺพํ ภตฺตํ. ตสฺส ปน ปมาณํ ทสฺเสตุํ ปฺจ จ ถาลิปากสตานีติ ¶ วุตฺตํ. ตตฺถ เอโก ถาลิปาโก ทสนฺนํ ปุริสานํ ภตฺตํ คณฺหาติ. นาสาย ปิตฺตํ ภินฺเทยฺยุนฺติ อจฺฉปิตฺตํ วา มจฺฉปิตฺตํ วาสฺส นาสปุเฏ ปกฺขิเปยฺยํ. ฉฏฺํ.
๗-๑๓. มาตุสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๘๖-๑๘๗. สตฺตเม มาตุปิ เหตูติ ‘‘สเจ มุสา ภณสิ, มาตรํ เต วิสฺสชฺเชสฺสาม. โน เจ ภณสิ, น วิสฺสชฺเชสฺสามา’’ติ เอวํ โจเรหิ อฏวิยํ ปุจฺฉมาโน ตสฺสา โจรหตฺถคตาย มาตุยาปิ เหตุ สมฺปชานมุสา น ภาเสยฺยาติ อตฺโถ. อิโต ปเรสุปิ เอเสว นโยติ. สตฺตมาทีนิ.
ลาภสกฺการสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.