📜

๑๐. ภิกฺขุสํยุตฺตํ

๑. โกลิตสุตฺตํ

๒๓๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ปจฺจสฺโสสุํ.

อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอตทโวจ – ‘‘อิธ มยฺหํ, อาวุโส, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘อริโย ตุณฺหีภาโว, อริโย ตุณฺหีภาโวติ วุจฺจติ. กตโม นุ โข อริโย ตุณฺหีภาโว’ติ? ตสฺส มยฺหํ อาวุโส, เอตทโหสิ – ‘อิธ ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ อริโย ตุณฺหีภาโว’ติ. โส ขฺวาหํ, อาวุโส, วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรึ. ตสฺส มยฺหํ, อาวุโส, อิมินา วิหาเรน วิหรโต วิตกฺกสหคตา สฺา มนสิการา สมุทาจรนฺติ’’.

‘‘อถ โข มํ, อาวุโส, ภควา อิทฺธิยา อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจ – ‘โมคฺคลฺลาน, โมคฺคลฺลาน, มา, พฺราหฺมณ, อริยํ ตุณฺหีภาวํ ปมาโท, อริเย ตุณฺหีภาเว จิตฺตํ สณฺเปหิ, อริเย ตุณฺหีภาเว จิตฺตํ เอโกทิภาวํ กโรหิ, อริเย ตุณฺหีภาเว จิตฺตํ สมาทหา’ติ. โส ขฺวาหํ, อาวุโส, อปเรน สมเยน วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ยฺหิ ตํ, อาวุโส , สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘สตฺถารา อนุคฺคหิโต สาวโก มหาภิฺตํ ปตฺโต’ติ, มมํ ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘สตฺถารา อนุคฺคหิโต สาวโก มหาภิฺตํ ปตฺโต’’’ติ. ปมํ.

๒. อุปติสฺสสุตฺตํ

๒๓๖. สาวตฺถิยํ วิหรติ. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –

‘‘อิธ มยฺหํ, อาวุโส, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘อตฺถิ นุ โข ตํ กิฺจิ โลกสฺมึ ยสฺส เม วิปริณามฺถาภาวา อุปฺปชฺเชยฺยุํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา’ติ? ตสฺส มยฺหํ, อาวุโส, เอตทโหสิ – ‘นตฺถิ โข ตํ กิฺจิ โลกสฺมึ ยสฺส เม วิปริณามฺถาภาวา อุปฺปชฺเชยฺยุํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา’’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถุปิ โข เต, อาวุโส สาริปุตฺต, วิปริณามฺถาภาวา นุปฺปชฺเชยฺยุํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา’’ติ? ‘‘สตฺถุปิ โข เม, อาวุโส, วิปริณามฺถาภาวา นุปฺปชฺเชยฺยุํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา, อปิ จ เม เอวมสฺส – ‘มเหสกฺโข วต, โภ, สตฺถา อนฺตรหิโต มหิทฺธิโก มหานุภาโว. สเจ หิ ภควา จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺเยฺย ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. ตถา หิ ปนายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทีฆรตฺตํ อหงฺการมมงฺการมานานุสยา สุสมูหตา. ตสฺมา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สตฺถุปิ วิปริณามฺถาภาวา นุปฺปชฺเชยฺยุํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา’’ติ. ทุติยํ.

๓. ฆฏสุตฺตํ

๒๓๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ สาริปุตฺโต อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน ราชคเห วิหรนฺติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป เอกวิหาเร. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหาโมคฺคลฺลาเนน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ –

‘‘วิปฺปสนฺนานิ โข เต, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, อินฺทฺริยานิ; ปริสุทฺโธ มุขวณฺโณ ปริโยทาโต สนฺเตน นูนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน อชฺช วิหาเรน วิหาสี’’ติ. ‘‘โอฬาริเกน ขฺวาหํ, อาวุโส, อชฺช วิหาเรน วิหาสึ. อปิ จ, เม อโหสิ ธมฺมี กถา’’ติ. ‘‘เกน สทฺธึ ปนายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส อโหสิ ธมฺมี กถา’’ติ? ‘‘ภควตา โข เม, อาวุโส, สทฺธึ อโหสิ ธมฺมี กถา’’ติ. ‘‘ทูเร โข, อาวุโส, ภควา เอตรหิ สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. กึ นุ โข, อายสฺมา, มหาโมคฺคลฺลาโน ภควนฺตํ อิทฺธิยา อุปสงฺกมิ; อุทาหุ ภควา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อิทฺธิยา อุปสงฺกมี’’ติ? ‘‘น ขฺวาหํ, อาวุโส, ภควนฺตํ อิทฺธิยา อุปสงฺกมึ; นปิ มํ ภควา อิทฺธิยา อุปสงฺกมิ. อปิ จ, เม ยาวตา ภควา เอตฺตาวตา ทิพฺพจกฺขุ วิสุชฺฌิ ทิพฺพา จ โสตธาตุ. ภควโตปิ ยาวตาหํ เอตฺตาวตา ทิพฺพจกฺขุ วิสุชฺฌิ ทิพฺพา จ โสตธาตู’’ติ. ‘‘ยถากถํ ปนายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ภควตา สทฺธึ อโหสิ ธมฺมี กถา’’ติ?

‘‘อิธาหํ, อาวุโส, ภควนฺตํ เอตทโวจํ – ‘อารทฺธวีริโย อารทฺธวีริโยติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, อารทฺธวีริโย โหตี’ติ? เอวํ วุตฺเต, มํ, อาวุโส, ภควา เอตทโวจ – ‘อิธ, โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ – กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺี จ อวสิสฺสตุ, สรีเร อุปสุสฺสตุ มํสโลหิตํ, ยํ ตํ ปุริสถาเมน ปุริสวีริเยน ปุริสปรกฺกเมน ปตฺตพฺพํ น ตํ อปาปุณิตฺวา วีริยสฺส สณฺานํ ภวิสฺสตีติ. เอวํ โข, โมคฺคลฺลาน, อารทฺธวีริโย โหตี’ติ. เอวํ โข เม, อาวุโส, ภควตา สทฺธึ อโหสิ ธมฺมี กถา’’ติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, หิมวโต ปพฺพตราชสฺส ปริตฺตา ปาสาณสกฺขรา ยาวเทว อุปนิกฺเขปนมตฺตาย ; เอวเมว โข มยํ อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ยาวเทว อุปนิกฺเขปนมตฺตาย. อายสฺมา หิ มหาโมคฺคลฺลาโน มหิทฺธิโก มหานุภาโว อากงฺขมาโน กปฺปํ ติฏฺเยฺยา’’ติ.

‘‘เสยฺยถาปิ , อาวุโส, มหติยา โลณฆฏาย ปริตฺตา โลณสกฺขราย ยาวเทว อุปนิกฺเขปนมตฺตาย; เอวเมว โข มยํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ยาวเทว อุปนิกฺเขปนมตฺตาย. อายสฺมา หิ สาริปุตฺโต ภควตา อเนกปริยาเยน โถมิโต วณฺณิโต ปสตฺโถ –

‘‘สาริปุตฺโตว ปฺาย, สีเลน อุปสเมน จ;

โยปิ ปารงฺคโต ภิกฺขุ, เอตาวปรโม สิยา’’ติ.

อิติห เต อุโภ มหานาคา อฺมฺสฺส สุภาสิตํ สุลปิตํ สมนุโมทึสูติ. ตติยํ.

๔. นวสุตฺตํ

๒๓๘. สาวตฺถิยํ วิหรติ. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร นโว ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต วิหารํ ปวิสิตฺวา อปฺโปสฺสุกฺโก ตุณฺหีภูโต สงฺกสายติ, น ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจํ กโรติ จีวรการสมเย. อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ , ภนฺเต, อฺตโร นโว ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต วิหารํ ปวิสิตฺวา อปฺโปสฺสุกฺโก ตุณฺหีภูโต สงฺกสายติ, น ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจํ กโรติ จีวรการสมเย’’ติ.

อถ โข ภควา อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน ตํ ภิกฺขุํ อามนฺเตหิ ‘สตฺถา ตํ, อาวุโส, อามนฺเตตี’’’ติ. ‘‘เอวํ ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส, อามนฺเตตี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข โส ภิกฺขุ ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ . เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ตํ ภิกฺขุํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต วิหารํ ปวิสิตฺวา อปฺโปสฺสุกฺโก ตุณฺหีภูโต สงฺกสายสิ, น ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจํ กโรสิ จีวรการสมเย’’ติ? ‘‘อหมฺปิ โข, ภนฺเต, สกํ กิจฺจํ กโรมี’’ติ.

อถ โข ภควา ตสฺส ภิกฺขุโน เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘มา โข ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอตสฺส ภิกฺขุโน อุชฺฌายิตฺถ. เอโส โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, ยสฺส จตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘นยิทํ สิถิลมารพฺภ, นยิทํ อปฺเปน ถามสา;

นิพฺพานํ อธิคนฺตพฺพํ, สพฺพทุกฺขปฺปโมจนํ.

‘‘อยฺจ ทหโร ภิกฺขุ, อยมุตฺตมปุริโส;

ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหินิ’’นฺติ. จตุตฺถํ;

๕. สุชาตสุตฺตํ

๒๓๙. สาวตฺถิยํ วิหรติ. อถ โข อายสฺมา สุชาโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ สุชาตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อุภเยเนวายํ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต โสภติ – ยฺจ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, ยสฺส จตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชนฺติ ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ. อิทมโวจ ภควา…เป… สตฺถา –

‘‘โสภติ วตายํ ภิกฺขุ, อุชุภูเตน เจตสา;

วิปฺปยุตฺโต วิสํยุตฺโต, อนุปาทาย นิพฺพุโต;

ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหินิ’’นฺติ. ปฺจมํ;

๖. ลกุณฺฑกภทฺทิยสุตฺตํ

๒๔๐. สาวตฺถิยํ วิหรติ. อถ โข อายสฺมา ลกุณฺฑกภทฺทิโย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ ลกุณฺฑกภทฺทิยํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอตํ ภิกฺขุํ อาคจฺฉนฺตํ ทุพฺพณฺณํ ทุทฺทสิกํ โอโกฏิมกํ ภิกฺขูนํ ปริภูตรูป’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอโส โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มหิทฺธิโก มหานุภาโว, น จ สา สมาปตฺติ สุลภรูปา ยา เตน ภิกฺขุนา อสมาปนฺนปุพฺพา. ยสฺส จตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ. อิทมโวจ ภควา…เป… สตฺถา –

‘‘หํสา โกฺจา มยูรา จ, หตฺถโย ปสทา มิคา;

สพฺเพ สีหสฺส ภายนฺติ, นตฺถิ กายสฺมึ ตุลฺยตา.

‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, ทหโร เจปิ ปฺวา;

โส หิ ตตฺถ มหา โหติ, เนว พาโล สรีรวา’’ติ. ฉฏฺํ;

๗. วิสาขสุตฺตํ

๒๔๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา วิสาโข ปฺจาลปุตฺโต อุปฏฺานสาลายํ ภิกฺขู ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ, โปริยา วาจาย วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา ปริยาปนฺนาย อนิสฺสิตาย.

อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน อุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘โก นุ โข, ภิกฺขเว, อุปฏฺานสาลายํ ภิกฺขู ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ โปริยา วาจาย วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา ปริยาปนฺนาย อนิสฺสิตายา’’ติ? ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, วิสาโข ปฺจาลปุตฺโต อุปฏฺานสาลายํ ภิกฺขู ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ, โปริยา วาจาย วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา ปริยาปนฺนาย อนิสฺสิตายา’’ติ.

อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ วิสาขํ ปฺจาลปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘สาธุ สาธุ, วิสาข, สาธุ โข ตฺวํ, วิสาข, ภิกฺขู ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ…เป… อตฺถสฺส วิฺาปนิยา ปริยาปนฺนาย อนิสฺสิตายา’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘นาภาสมานํ ชานนฺติ, มิสฺสํ พาเลหิ ปณฺฑิตํ;

ภาสมานฺจ ชานนฺติ, เทเสนฺตํ อมตํ ปทํ.

‘‘ภาสเย โชตเย ธมฺมํ, ปคฺคณฺเห อิสินํ ธชํ;

สุภาสิตธชา อิสโย, ธมฺโม หิ อิสินํ ธโช’’ติ. สตฺตมํ;

๘. นนฺทสุตฺตํ

๒๔๒. สาวตฺถิยํ วิหรติ. อถ โข อายสฺมา นนฺโท ภควโต มาตุจฺฉาปุตฺโต อาโกฏิตปจฺจาโกฏิตานิ จีวรานิ ปารุปิตฺวา อกฺขีนิ อฺเชตฺวา อจฺฉํ ปตฺตํ คเหตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ นนฺทํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘น โข เต ตํ, นนฺท, ปติรูปํ กุลปุตฺตสฺส สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตสฺส, ยํ ตฺวํ อาโกฏิตปจฺจาโกฏิตานิ จีวรานิ ปารุเปยฺยาสิ, อกฺขีนิ จ อฺเชยฺยาสิ, อจฺฉฺจ ปตฺตํ ธาเรยฺยาสิ. เอตํ โข เต, นนฺท, ปติรูปํ กุลปุตฺตสฺส สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตสฺส, ยํ ตฺวํ อารฺิโก จ อสฺสสิ, ปิณฺฑปาติโก จ ปํสุกุลิโก จ กาเมสุ จ อนเปกฺโข วิหเรยฺยาสี’’ติ. อิทมโวจ ภควา…เป… สตฺถา –

‘‘กทาหํ นนฺทํ ปสฺเสยฺยํ, อารฺํ ปํสุกูลิกํ;

อฺาตุฺเฉน ยาเปนฺตํ, กาเมสุ อนเปกฺขิน’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา นนฺโท อปเรน สมเยน อารฺิโก จ ปิณฺฑปาติโก จ ปํสุกูลิโก จ กาเมสุ จ อนเปกฺโข วิหาสีติ. อฏฺมํ.

๙. ติสฺสสุตฺตํ

๒๔๓. สาวตฺถิยํ วิหรติ. อถ โข อายสฺมา ติสฺโส ภควโต ปิตุจฺฉาปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ ทุกฺขี ทุมฺมโน อสฺสูนิ ปวตฺตยมาโน. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ ติสฺสํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข ตฺวํ, ติสฺส, เอกมนฺตํ นิสินฺโน ทุกฺขี ทุมฺมโน อสฺสูนิ ปวตฺตยมาโน’’ติ? ‘‘ตถา หิ ปน มํ, ภนฺเต, ภิกฺขู สมนฺตา วาจาสนฺนิโตทเกน [วาจาย สนฺนิโตทเกน (ก.)] สฺชมฺภริมกํสู’’ติ [สฺชพฺภริมกํสูติ (?)]. ‘‘ตถาหิ ปน ตฺวํ, ติสฺส, วตฺตา โน จ วจนกฺขโม; น โข เต ตํ, ติสฺส, ปติรูปํ กุลปุตฺตสฺส สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตสฺส, ยํ ตฺวํ วตฺตา โน จ วจนกฺขโม. เอตํ โข เต, ติสฺส, ปติรูปํ กุลปุตฺตสฺส สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตสฺส – ‘ยํ ตฺวํ วตฺตา จ อสฺส วจนกฺขโม จา’’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘กึ นุ กุชฺฌสิ มา กุชฺฌิ, อกฺโกโธ ติสฺส เต วรํ;

โกธมานมกฺขวินยตฺถฺหิ, ติสฺส พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ. นวมํ;

๑๐. เถรนามกสุตฺตํ

๒๔๔. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ เถรนามโก เอกวิหารี เจว โหติ เอกวิหารสฺส จ วณฺณวาที. โส เอโก คามํ ปิณฺฑาย ปวิสติ เอโก ปฏิกฺกมติ เอโก รโห นิสีทติ เอโก จงฺกมํ อธิฏฺาติ. อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, อฺตโร ภิกฺขุ เถรนามโก เอกวิหารี เอกวิหารสฺส จ วณฺณวาที’’ติ.

อถ โข ภควา อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน เถรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา ตํ, อาวุโส เถร, อามนฺเตตี’’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา เถโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ เถรํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส เถร, อามนฺเตตี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา เถโร ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ เถรํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, เถร, เอกวิหารี เอกวิหารสฺส จ วณฺณวาที’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, เถร, เอกวิหารี เอกวิหารสฺส จ วณฺณวาที’’ติ? ‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, เอโก คามํ ปิณฺฑาย ปวิสามิ เอโก ปฏิกฺกมามิ เอโก รโห นิสีทามิ เอโก จงฺกมํ อธิฏฺามิ. เอวํ ขฺวาหํ, ภนฺเต, เอกวิหารี เอกวิหารสฺส จ วณฺณวาที’’ติ.

‘‘อตฺเถโส, เถร, เอกวิหาโร เนโส นตฺถีติ วทามิ. อปิ จ, เถร, ยถา เอกวิหาโร วิตฺถาเรน ปริปุณฺโณ โหติ ตํ สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข…เป…. ‘‘กถฺจ , เถร, เอกวิหาโร วิตฺถาเรน ปริปุณฺโณ โหติ. อิธ, เถร, ยํ อตีตํ ตํ ปหีนํ, ยํ อนาคตํ ตํ ปฏินิสฺสฏฺํ, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ จ อตฺตภาวปฏิลาเภสุ ฉนฺทราโค สุปฺปฏิวินีโต. เอวํ โข, เถร, เอกวิหาโร วิตฺถาเรน ปริปุณฺโณ โหตี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘สพฺพาภิภุํ สพฺพวิทุํ สุเมธํ,

สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อนูปลิตฺตํ;

สพฺพฺชหํ ตณฺหากฺขเย วิมุตฺตํ,

ตมหํ นรํ เอกวิหารีติ พฺรูมี’’ติ. ทสมํ;

๑๑. มหากปฺปินสุตฺตํ

๒๔๕. สาวตฺถิยํ วิหรติ. อถ โข อายสฺมา มหากปฺปิโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ มหากปฺปินํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห ภิกฺขเว, เอตํ ภิกฺขุํ อาคจฺฉนฺตํ โอทาตกํ ตนุกํ ตุงฺคนาสิก’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอโส โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มหิทฺธิโก มหานุภาโว. น จ สา สมาปตฺติ สุลภรูปา ยา เตน ภิกฺขุนา อสมาปนฺนปุพฺพา. ยสฺส จตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘ขตฺติโย เสฏฺโ ชเนตสฺมึ, เย โคตฺตปฏิสาริโน;

วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน, โส เสฏฺโ เทวมานุเส.

‘‘ทิวา ตปติ อาทิจฺโจ, รตฺติมาภาติ จนฺทิมา;

สนฺนทฺโธ ขตฺติโย ตปติ, ฌายี ตปติ พฺราหฺมโณ;

อถ สพฺพมโหรตฺตึ [อถ สพฺพมโหรตฺตํ (สี. สฺยา. กํ.)], พุทฺโธ ตปติ เตชสา’’ติ. เอกาทสมํ;

๑๒. สหายกสุตฺตํ

๒๔๖. สาวตฺถิยํ วิหรติ. อถ โข ทฺเว ภิกฺขู สหายกา อายสฺมโต มหากปฺปินสฺส สทฺธิวิหาริโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ. อทฺทสา โข ภควา เต ภิกฺขู ทูรโตว อาคจฺฉนฺเต. ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอเต ภิกฺขู สหายเก อาคจฺฉนฺเต กปฺปินสฺส สทฺธิวิหาริโน’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอเต โข เต ภิกฺขู มหิทฺธิกา มหานุภาวา. น จ สา สมาปตฺติ สุลภรูปา, ยา เตหิ ภิกฺขูหิ อสมาปนฺนปุพฺพา. ยสฺส จตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘สหายา วติเม ภิกฺขู, จิรรตฺตํ สเมติกา;

สเมติ เนสํ สทฺธมฺโม, ธมฺเม พุทฺธปฺปเวทิเต.

‘‘สุวินีตา กปฺปิเนน, ธมฺเม อริยปฺปเวทิเต;

ธาเรนฺติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหินิ’’นฺติ. ทฺวาทสมํ;

ภิกฺขุสํยุตฺตํ สมตฺตํ.

ตสฺสุทฺทานํ –

โกลิโต อุปติสฺโส จ, ฆโฏ จาปิ ปวุจฺจติ;

นโว สุชาโต ภทฺทิ จ, วิสาโข นนฺโท ติสฺโส จ;

เถรนาโม จ กปฺปิโน, สหาเยน จ ทฺวาทสาติ.

นิทานวคฺโค ทุติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

นิทานาภิสมยธาตุ, อนมตคฺเคน กสฺสปํ;

สกฺการราหุลลกฺขโณ, โอปมฺม-ภิกฺขุนา วคฺโค.

ทุติโย เตน ปวุจฺจตีติ.

นิทานวคฺคสํยุตฺตปาฬิ นิฏฺิตา.