📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

สํยุตฺตนิกาเย

นิทานวคฺคฏีกา

๑. นิทานสํยุตฺตํ

๑. พุทฺธวคฺโค

๑. ปฏิจฺจสมุปฺปาทสุตฺตวณฺณนา

. ทุติยสุตฺตาทีนิปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทวเสเนว เทสิตานีติ อาห ‘‘ปมํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทสุตฺต’’นฺติ. ตตฺราติ ปทํ เย เทสกาลา อิธ วิหรณกิริยาย วิเสสนภาเวน วุตฺตา, เตสํ ปริทีปนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ สมยํ…เป… ทีเปตี’’ติ อาห. ตํ-สทฺโท หิ วุตฺตสฺส อตฺถสฺส ปฏินิทฺเทโส, ตสฺมา อิธ เทสสฺส กาลสฺส วา ปฏินิทฺเทโส ภวิตุํ อรหติ, น อฺสฺส. อยํ ตาว ตตฺรสทฺทสฺส ปฏินิทฺเทสภาเว อตฺถวิภาวนา. ยสฺมา ปน อีทิเสสุ าเนสุ ตตฺรสทฺโท ธมฺมเทสนาวิสิฏฺํ เทสํ กาลฺจ วิภาเวติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ภาสิตพฺพยุตฺเต วา เทสกาเล’’ติ . เตน ตตฺราติ ยตฺถ ภควา ธมฺมเทสนตฺถํ ภิกฺขู อาลปิ อภาสิ, ตาทิเส เทเส, กาเล วาติ อตฺโถ. น หีติอาทินา ตเมวตฺถํ สมตฺเถติ.

นนุ จ ยตฺถ ิโต ภควา ‘‘อกาโล โข ตาวา’’ติอาทินา พาหิยสฺส ธมฺมเทสนํ ปฏิกฺขิปิ, ตตฺเถว อนฺตรวีถิยํ ิโตว ตสฺส ธมฺมํ เทเสสีติ? สจฺจเมตํ. อเทเสตพฺพกาเล อเทสนาย หิ อิทํ อุทาหรณํ. เตนาห ‘‘อกาโล โข ตาวา’’ติ. ยํ ปน ตตฺถ วุตฺตํ ‘‘อนฺตรฆรํ ปวิฏฺมฺหา’’ติ, ตมฺปิ ตสฺส อกาลภาวสฺเสว ปริยาเยน ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตสฺส หิ ตทา อทฺธานปริสฺสเมน รูปกาเย อกมฺมฺตา อโหสิ, พลวปีติเวเคน นามกาเย. ตทุภยสฺส วูปสมํ อาคเมนฺโต ปปฺจปริหารตฺถํ ภควา ‘‘อกาโล โข’’ติ ปริยาเยน ปฏิกฺขิปิ. อเทเสตพฺพเทเส อเทสนาย ปน อุทาหรณํ ‘‘อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ, วิหารโต นิกฺขมิตฺวา วิหารปจฺฉายายํ ปฺตฺเต อาสเน นิสีที’’ติ เอวมาทิกํ อิธ อาทิสทฺเทน สงฺคหิตํ. ‘‘ส โข โส ภิกฺขเว พาโล อิธ ปาปานิ กมฺมานิ กริตฺวา’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๔๘) ปทปูรณมตฺเต โข-สทฺโท, ‘‘ทุกฺขํ โข อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๒๑) อวธารเณ, ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต สาวกา วิเวกํ นานุสิกฺขนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๑) อาทิกาลตฺเถ, วากฺยารมฺเภติ อตฺโถ. ตตฺถ ปทปูรเณน วจนาลงฺการมตฺตํ กตํ โหติ, อาทิกาลตฺเถน วากฺยสฺส อุปฺาสมตฺตํ, อวธารณตฺเถน ปน นิยมทสฺสนํ. ‘‘ตสฺมา อามนฺเตสิ เอวา’’ติ อามนฺตเน นิยโม ทสฺสิโต โหตีติ.

‘‘ภควาติ โลกครุทีปน’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ปุพฺเพ ‘‘ภควา’’ติ ปทํ วุตฺตนฺติ? ยทิปิ ปุพฺเพ วุตฺตํ, ตํ ปน ยถาวุตฺตฏฺาเน วิหรณกิริยาย กตฺตุวิเสสทสฺสนปรํ, น อามนฺตนกิริยาย, อิธ ปน อามนฺตนกิริยาย, ตสฺมา ตทตฺถํ ปุน ภควาติ ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ. ตสฺสตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภควาติ โลกครุทีปน’’นฺติ อาห. กถาสวนยุตฺตปุคฺคลวจนนฺติ วกฺขมานาย ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนาย สวนโยคฺยปุคฺคลวจนํ. จตูสุปิ ปริสาสุ ภิกฺขู เอว เอทิสานํ เทสนานํ วิเสเสน ภาชนภูตาติ สาติสเยน สาสนสมฺปฏิคฺคาหกภาวทสฺสนตฺถํ อิธ ภิกฺขุคหณนฺติ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สทฺทตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติ อาห. ตตฺถ ภิกฺขโกติ ภิกฺขูติ ภิกฺขนสีลตฺตา ภิกฺขนธมฺมตฺตา ภิกฺขูติ อตฺโถ. ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ พุทฺธาทีหิปิ อชฺฌุปคตํ ภิกฺขาจริยํ อุฺฉาจริยํ อชฺฌุปคตตฺตา อนุฏฺิตตฺตา ภิกฺขุ. โย หิ โกจิ อปฺปํ วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต, โส กสิโครกฺขาทีหิ ชีวิกกปฺปนํ หิตฺวา ลิงฺคสมฺปฏิจฺฉเนเนว ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคตตฺตา ภิกฺขุ. ปรปฏิพทฺธชีวิกตฺตา วา วิหารมชฺเฌ กาชภตฺตํ ภุฺชมาโนปิ ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขุ ปิณฺฑิยาโลปโภชนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชาย อุสฺสาหชาตตฺตา วา ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขูติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

อาทินา นเยนาติ ‘‘ภินฺนปฏธโรติ ภิกฺขุ, ภินฺทติ ปาปเก อกุสเล ธมฺเมติ ภิกฺขุ, ภินฺนตฺตา ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ภิกฺขู’’ติอาทินา วิภงฺเค (วิภ. ๕๐๙) อาคตนเยน. าปเนติ อวโพธเน, ปฏิเวทเนติ อตฺโถ. ภิกฺขนสีลตา, น กสิวาณิชฺชาทีหิ ชีวนสีลตา. ภิกฺขนธมฺมตา ‘‘อุทฺทิสฺส อริยา ติฏฺนฺตี’’ติ (ชา. ๑.๗.๕๙) เอวํ วุตฺตภิกฺขนสภาวตา, น ยาจนาโกหฺสภาวตา. ภิกฺขเน สาธุการิตา ‘‘อุตฺติฏฺเ นปฺปมชฺเชยฺยา’’ติ (ธ. ป. ๑๖๘) วจนํ อนุสฺสริตฺวา ตตฺถ อปฺปมชฺชตา. อถ วา สีลํ นาม ปกติสภาโว. อิธ ปน ตถาธิฏฺานํ. ธมฺโมติ วตํ. อปเร ปน ‘‘สีลํ นาม วตวเสน สมาทานํ. ธมฺโม นาม ปเวณิ-อาคตํ จาริตฺตํ. สาธุการิตา สกฺกจฺจการิตา อาทรกิริยา’’ติ วณฺเณนฺติ.

หีนาธิกชนเสวิตวุตฺตินฺติ เย ภิกฺขุภาเว ิตาปิ ชาติมทาทิวเสน อุทฺธตา อุนฺนฬา, เย จ คิหิภาเว ปเรสุ อตฺถิกภาวมฺปิ อนุปคตตาย ภิกฺขาจริยํ ปรมกาปฺํ มฺนฺติ, เตสํ อุภเยสมฺปิ ยถากฺกมํ ‘‘ภิกฺขโว’’ติ วจเนน หีนชเนหิ ทลิทฺเทหิ ปรมกาปฺตํ ปตฺเตหิ ปรกุเลสุ ภิกฺขาจริยาย ชีวิกํ กปฺเปนฺเตหิ เสวิตํ วุตฺตึ ปกาเสนฺโต อุทฺธตภาวนิคฺคหํ กโรติ, อธิกชเนหิ อุฬารโภคขตฺติยกุลาทิโต ปพฺพชิเตหิ พุทฺธาทีหิ อาชีวโสธนตฺถํ เสวิตํ วุตฺตึ ปกาเสนฺโต ทีนภาวนิคฺคหํ กโรตีติ โยเชตพฺพํ. ยสฺมา ‘‘ภิกฺขโว’’ติ วจนํ อามนฺตนภาวโต อภิมุขีกรณํ, ปกรณโต สามตฺถิยโต จ สุสฺสูสาชนนํ, สกฺกจฺจสวนมนสิการนิโยชนฺจ โหติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภิกฺขโวติ อิมินา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ สาธุกํ มนสิกาเรปีติ สาธุกํ สวเน สาธุกํ มนสิกาเร จ. กถํ ปวตฺติตา สวนาทโย สาธุกํ ปวตฺติตา โหนฺตีติ? ‘‘อทฺธา อิมาย ปฏิปตฺติยา สกลสาสนสมฺปตฺติ หตฺถคตา ภวิสฺสตี’’ติ อาทรคารวโยเคน กถาทีสุ อปริภวาทินา จ. วุตฺตฺหิ ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโต สทฺธมฺมํ ภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ. กตเมหิ ปฺจหิ? น กถํ ปริโภติ, น กถิกํ ปริโภติ, น อตฺตานํ ปริโภติ , อวิกฺขิตฺตจิตฺโต ธมฺมํ สุณาติ เอกคฺคจิตฺโต, โยนิโส จ มนสิ กโรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโต สทฺธมฺมํ ภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺต’’นฺติ (อ. นิ. ๕.๑๕๑). เตนาห ‘‘สาธุกํ มนสิการายตฺตา หิ สาสนสมฺปตฺตี’’ติ. สาสนสมฺปตฺติ นาม สีลาทินิปฺผตฺติ. ปมํ อุปฺปนฺนตฺตา อธิคมวเสน. สตฺถุจริยานุวิธายกตฺตา สีลาทิคุณานุฏฺาเนน. ติณฺณํ ยานานํ วเสน อนุธมฺมปฏิปตฺติสมฺภวโต สกลสาสนปฏิคฺคาหกตฺตา.

สนฺติกตฺตาติ สมีปภาวโต. สนฺติกาวจรตฺตาติ สพฺพกาลํ สํวุตฺติภาวโต. ยถานุสิฏฺนฺติ อนุสาสนิยานุรูปํ, อนุสาสนึ อนวเสสโต ปฏิคฺคเหตฺวาติ อตฺโถ. เอกจฺเจ ภิกฺขูติ เย ปฏิจฺจสมุปฺปาทธมฺเม เทสนาปสุตา, เต. ปุพฺเพ ‘‘สพฺพปริสสาธารณา หิ ภควโต ธมฺมเทสนา’’ติอาทินา ภิกฺขูนํ เอว อามนฺตนการณํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ธมฺมเทสนาย ปโยชนํ ทสฺเสตุํ กิมตฺถํ ปน ภควาติ โจทนํ สมุฏฺาเปติ. ตตฺถ อฺํ จินฺเตนฺตาติ อฺวิหิตา. วิกฺขิตฺตจิตฺตาติ อสมาหิตจิตฺตา. ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขนฺตาติ หิยฺโย ตโต ปรทิวเสสุ วา สุตธมฺมํ ปติ มนสา อเวกฺขนฺตา. ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ธมฺเม เทสิยมาเน อาทิโต ปฏฺาย เทสนํ สลฺลกฺเขตุํ สกฺโกตีติ อิมเมวตฺถํ พฺยติเรกมุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘เต อนามนฺเตตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ภิกฺขโวติ จ สนฺธิวเสน อิ-การโลโป ทฏฺพฺโพ ‘‘ภิกฺขโว อิตี’’ติ, อยฺหิ อิติสทฺโท เหตุปริสมาปนาทิปทตฺถวิปริยายปการาวธารณนิทสฺสนาทิอเนกตฺถปเภโท. ตถา เหส ‘‘รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา ‘รูป’นฺติ วุจฺจตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๗๙) เหตุมฺหิ ทิสฺสติ, ‘‘ตสฺมาติห เม, ภิกฺขเว, ธมฺมทายาทา ภวถ, มา อามิสทายาทา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๙) ปริสมาปเน, ‘‘อิติ วา เอวรูปา วิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๓) อาทิอตฺเถ ‘‘มาคณฺฑิโยติ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร นามํ นามกมฺมํ นามเธยฺยํ นิรุตฺติ พฺยฺชนํ อภิลาโป’’ติอาทีสุ (มหานิ. ๗๓, ๗๕) ปทตฺถวิปริยาเย, ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, สปฺปฏิภโย พาโล, อปฺปฏิภโย ปณฺฑิโต. สอุปทฺทโว พาโล, อนุปทฺทโว ปณฺฑิโต’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๒๔) ปกาเร, ‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ. กึ ปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิติ เจ วเทยฺย, ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิจฺจสฺส วจนีย’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๙๖) อวธารเณ, ‘‘สพฺพมตฺถีติ โข, กจฺจาน, อยเมโก อนฺโต, สพฺพํ นตฺถีติ อยํ ทุติโย อนฺโต’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑๕; ๓.๙๐) นิทสฺสเน . อิธาปิ นิทสฺสเน เอว ทฏฺพฺโพ. ภิกฺขโวติ อามนฺตนากาโร ตเมส อิติ-สทฺโท นิทสฺเสติ ‘‘ภิกฺขโวติ อามนฺเตสี’’ติ. อิมินา นเยน ภทฺทนฺเตติอาทีสุปิ ยถารหํ อิติสทฺทสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ปุพฺเพ ‘‘ภควา อามนฺเตสี’’ติ วุตฺตตฺตา ภควโต ปจฺจสฺโสสุนฺติ อิธ ภควโตติ สามิวจนํ อามนฺตนเมว สมฺพนฺธีอนฺตรํ อเปกฺขตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘ภควโต อามนฺตนํ ปฏิอสฺโสสุ’’นฺติ วุตฺตํ. ภควโตติ อิทํ ปน ปฏิสฺสวสมฺพนฺเธน สมฺปทานวจนํ. เอตฺตาวตา ยํ กาลเทสเทสกปริสาปเทสปฏิมณฺฑิตํ นิทานํ ภาสิตนฺติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถาห – กิมตฺถํ ปน ธมฺมวินยสงฺคเห กริยมาเน นิทานวจนํ, นนุ ภควตา ภาสิตวจนสฺเสว สงฺคโห กาตพฺโพติ? วุจฺจเต – เทสนาย ิติอสมฺโมสสทฺเธยฺยภาวสมฺปาทนตฺถํ. กาลเทสเทสกนิมิตฺตปริสาปเทเสหิ อุปนิพนฺธิตฺวา ปิตา หิ เทสนา จิรฏฺิติกา โหติ อสมฺโมสธมฺมา สทฺเธยฺยา จ, เทสกาลกตฺตุโสตุนิมิตฺเตหิ อุปนิพนฺโธ วิย โวหารวินิจฺฉโย. เตเนว จายสฺมตา มหากสฺสเปน ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาทสุตฺตํ, อาวุโส อานนฺท, กตฺถ ภาสิต’’นฺติอาทินา เทสาทิปุจฺฉาสุ กตาสุ ตาสํ วิสฺสชฺชนํ กโรนฺเตน ธมฺมภณฺฑาคาริเกน ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติ อายสฺมตา อานนฺเทน อิมสฺส สุตฺตสฺส นิทานํ ภาสิตํ.

อปิจ สตฺถุ สมฺปตฺติปกาสนตฺถํ นิทานวจนํ. ตถาคตสฺส หิ ภควโต ปุพฺพรจนานุมานาคมตกฺกาภาวโต สมฺมาสมฺพุทฺธภาวสิทฺธิ. น หิ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปุพฺพรจนาทีหิ อตฺโถ อตฺถิ, สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตาณจารตาย เอกปฺปมาณตฺตา จ เยฺยธมฺเมสุ. ตถา อาจริยมุฏฺิธมฺมมจฺฉริยสตฺถุสาวกานุโรธาภาวโต ขีณาสวตฺตสิทฺธิ. น หิ สพฺพโส ขีณาสวสฺส เต สมฺภวนฺตีติ สุวิสุทฺธา จสฺส ปรานุคฺคหปฺปวตฺติ, เอวํ เทสกสํกิเลสภูตานํ ทิฏฺิสีลสมฺปทาทูสกานํ อวิชฺชาตณฺหานํ อจฺจนฺตาภาวสํสูจเกหิ าณสมฺปทาปหานสมฺปทาภิพฺยฺชนเกหิ จ สํพุทฺธวิสุทฺธภาเวหิ ปุริมเวสารชฺชทฺวยสิทฺธิ, ตโต เอว จ อนฺตรายิกนิยฺยานิกธมฺเมสุ สมฺโมหาภาวสิทฺธิโต ปจฺฉิมเวสารชฺชทฺวยสิทฺธีติ ภควโต จตุเวสารชฺชสมนฺนาคโม อตฺตหิตปรหิตปฏิปตฺติ จ นิทานวจเนน ปกาสิตา โหติ, ตตฺถ ตตฺถ สมฺปตฺตปริสาย อชฺฌาสยานุรูปํ านุปฺปตฺติกปฏิภาเนน ธมฺมเทสนาทีปนโต, อิธ ปน มูลทฺวยวเสน อนฺตทฺวยรหิตสฺส ติสนฺธิกาลพนฺธสฺส จตุพฺพิธนยสงฺเขปคมฺภีรภาวยุตฺตสฺส ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส โพธิยา นิทสฺสนโต จาติ โยเชตพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สตฺถุ สมฺปตฺติปกาสนตฺถํ นิทานวจน’’นฺติ.

ตถา สาสนสมฺปตฺติปกาสนตฺถํ นิทานวจนํ. าณกรุณาปริคฺคหิตสพฺพกิริยสฺส หิ ภควโต นตฺถิ นิรตฺถิกา ปวตฺติ, อตฺตหิตตฺถา วา, ตสฺมา ปเรสํ เอว อตฺถาย ปวตฺตสพฺพกิริยสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สกลมฺปิ กายวจีมโนกมฺมํ ยถาปวตฺตํ วุจฺจมานํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ สตฺตานํ อนุสาสนฏฺเน สาสนํ, น กพฺพรจนา. ตยิทํ สตฺถุจริตํ กาลเทสเทสกปริสาปเทเสหิ สทฺธึ ตตฺถ ตตฺถ นิทานวจเนหิ ยถารหํ ปกาสียติ, อิธ ปน ทฺวาทสปทิกปจฺจยาการวิภาวเนน เตน. เตน วุตฺตํ ‘‘สาสนสมฺปตฺติปกาสนตฺถํ นิทานวจน’’นฺติ.

อปิจ สตฺถุ ปมาณภาวปฺปกาสเนน สาสนสฺส ปมาณภาวทสฺสนตฺถํ นิทานวจนํ, ตฺจสฺส ปมาณภาวทสฺสนํ เหฏฺา วุตฺตนยานุสาเรน ‘‘ภควา’’ติ จ อิมินา ปเทน วิภาวิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ภควา’’ติ จ อิมินา ตถาคตสฺส ราคโทสโมหาทิ-สพฺพสํกิเลสมลทุจฺจริตาทิโทสปฺปหานทีปเนน วจเนน อนฺสาธารณสุปริสุทฺธาณกรุณาทิคุณวิเสสโยคปริทีปเนน ตโต เอว สพฺพสตฺตุตฺตมภาวทีปเนน อยมตฺโถ สพฺพถา ปกาสิโต โหตีติ. อิทเมตฺถ นิทานวจเน ปโยชนนิทสฺสนํ.

นิกฺขิตฺตสฺสาติ เทสิตสฺส. เทสนาปิ หิ เทเสตพฺพสฺส สีลาทิอตฺถสฺส วิเนยฺยสนฺตาเนสุ นิกฺขิปนโต ‘‘นิกฺเขโป’’ติ วุจฺจตีติ ‘‘สุตฺตนิกฺเขปํ ตาว วิจาเรตฺวา วุจฺจมานา ปากฏา โหตี’’ติ สามฺโต ภควโต เทสนาย สมุฏฺานสฺส วิภาคํ ทสฺเสตฺวา ‘‘เอตฺถายํ เทสนา เอวํสมุฏฺานา’’ติ เทสนาย สมุฏฺาเน ทสฺสิเต สุตฺตสฺส สมฺมเทว นิทานปริชานเนน วณฺณนาย สุวิฺเยฺยตฺตา วุตฺตํ. ตโต เหฏฺา ‘‘กสฺมา ภควตา ปฏิจฺจสมุปฺปาทวเสเนว เทสนา อารทฺธา’’ติ เกนจิ โจทนาย กตาย ‘‘ปรชฺฌาสโยยํ สุตฺตนิกฺเขโป’’ติ ปริหาโร สุกถิโต โหติ. ตตฺถ ยถา อเนกสตอเนกสหสฺสเภทานิปิ สุตฺตนฺตานิ สํกิเลสภาคิยาทิปธานนเยน โสฬสวิธตํ นาติวตฺตนฺติ, เอวํ อตฺตชฺฌาสยาทิสุตฺตนิกฺเขปวเสน จตุพฺพิธภาวนฺติ อาห ‘‘จตฺตาโร หิ สุตฺตนิกฺเขปา’’ติ. เอตฺถ จ ยถา อตฺตชฺฌาสยสฺส อฏฺุปฺปตฺติยา จ ปรชฺฌาสยปุจฺฉาหิ สทฺธึ สํสคฺคเภโท สมฺภวติ ‘‘อตฺตชฺฌาสโย จ ปรชฺฌาสโย จ, อตฺตชฺฌาสโย จ ปุจฺฉาวสิโก จ, อตฺตชฺฌาสโย จ ปรชฺฌาสโย จ ปุจฺฉาวสิโก จ, อฏฺุปฺปตฺติโก จ ปรชฺฌาสโย จ, อฏฺุปฺปตฺติโก จ ปุจฺฉาวสิโก จ, อฏฺุปฺปตฺติโก จ ปรชฺฌาสโย จ ปุจฺฉาวสิโก จา’’ติ อชฺฌาสยปุจฺฉานุสนฺธิสมฺภวโต, เอวํ ยทิปิ อฏฺุปฺปตฺติยา อชฺฌาสเยนปิ สํสคฺคเภโท สมฺภวติ, อตฺตชฺฌาสยาทีหิ ปน ปุรโต ิเตหิ อฏฺุปฺปตฺติยา สํสคฺโค นตฺถีติ. นยิธ นิรวเสโส วิตฺถารนโย สมฺภวตีติ ‘‘จตฺตาโร หิ สุตฺตนิกฺเขปา’’ติ วุตฺตํ. ตทนฺโตคธตฺตา วา สมฺภวนฺตานํ เสสนิกฺเขปานํ มูลนิกฺเขปวเสน จตฺตาโรว ทสฺสิตา, ตถาทสฺสนฺเจตฺถ อยํ สํสคฺคเภโท คเหตพฺโพติ.

ตตฺรายํ วจนตฺโถ – นิกฺขิปียตีติ นิกฺเขโป, สุตฺตํ เอว นิกฺเขโป สุตฺตนิกฺเขโป. อถ วา นิกฺขิปนํ นิกฺเขโป, สุตฺตสฺส นิกฺเขโป สุตฺตนิกฺเขโป, สุตฺตเทสนาติ อตฺโถ. อตฺตโน อชฺฌาสโย อตฺตชฺฌาสโย, โส อสฺส อตฺถิ การณภูโตติ อตฺตชฺฌาสโย. อตฺตโน อชฺฌาสโย เอตสฺสาติ วา อตฺตชฺฌาสโย. ปรชฺฌาสเยปิ เอเสว นโย. ปุจฺฉาย วเสน ปวตฺตธมฺโม เอตสฺส อตฺถีติ, ปุจฺฉาวสิโก. สุตฺตเทสนาย วตฺถุภูตสฺส อตฺถสฺส อุปฺปตฺติ อตฺถุปฺปตฺติ, อตฺถุปฺปตฺติเยว อฏฺุปฺปตฺติ, สา เอตสฺส อตฺถีติ อฏฺุปฺปตฺติโก. อถ วา นิกฺขิปียติ สุตฺตํ เอเตนาติ สุตฺตนิกฺเขโป, อตฺตชฺฌาสยาทิ เอว. เอตสฺมึ ปน อตฺถวิกปฺเป อตฺตโน อชฺฌาสโย อตฺตชฺฌาสโย. ปเรสํ อชฺฌาสโย ปรชฺฌาสโย. ปุจฺฉียตีติ ปุจฺฉา, ปุจฺฉิตฺวา าตพฺโพ อตฺโถ. ตสฺส ปุจฺฉาวเสน ปวตฺตํ ธมฺมปฏิคฺคาหกานํ วจนํ ปุจฺฉาวสิกํ, ตเทว นิกฺเขปสทฺทาเปกฺขาย ปุลฺลิงฺควเสน ‘‘ปุจฺฉาวสิโก’’ติ วุตฺตํ. ตถา อฏฺุปฺปตฺติ เอว อฏฺุปฺปตฺติโกติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อปิเจตฺถ ปเรสํ อินฺทฺริยปริปากาทิการณนิรเปกฺขตฺตา อตฺตชฺฌาสยสฺส วิสุํ สุตฺตนิกฺเขปภาโว ยุตฺโต เกวลํ อตฺตโน อชฺฌาสเยเนว ธมฺมตนฺติปนตฺถํ ปวตฺติตเทสนตฺตา. ปรชฺฌาสยปุจฺฉาวสิกานํ ปน ปเรสํ อชฺฌาสยปุจฺฉานํ เทสนาปวตฺติเหตุภูตานํ อุปฺปตฺติยํ ปวตฺติตานํ กถํ อฏฺุปฺปตฺติยํ อนวโรโธ, ปุจฺฉาวสิกอฏฺุปฺปตฺติกานํ วา ปรชฺฌาสยานุโรเธน ปวตฺติตานํ กถํ ปรชฺฌาสเย อนวโรโธติ? น โจเทตพฺพเมตํ. ปเรสฺหิ อภินีหารปริปุจฺฉาทิวินิมุตฺตสฺเสว สุตฺตเทสนาการณุปฺปาทสฺส อฏฺุปฺปตฺติภาเวน คหิตตฺตา ปรชฺฌาสยปุจฺฉาวสิกานํ วิสุํ คหณํ. ตถา หิ พฺรหฺมชาลธมฺมทายาทสุตฺตาทีนํ วณฺณาวณฺณอามิสุปฺปาทาทิเทสนานิมิตฺตํ ‘‘อฏฺุปฺปตฺตี’’ติ วุจฺจติ. ปเรสํ ปุจฺฉํ วินา อชฺฌาสยํ เอว นิมิตฺตํ กตฺวา เทสิโต ปรชฺฌาสโย, ปุจฺฉาวเสน เอว เทสิโต ปุจฺฉาวสิโกติ ปากโฏวายมตฺโถติ. อตฺตโน อชฺฌาสเยเนว กเถติ ธมฺมตนฺติปนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. ทสพลสุตฺตนฺตหารโกติ ทสพลวคฺเค อนุปุพฺเพน นิกฺขิตฺตานํ สุตฺตานํ อาวลิ, ตถา จนฺโทปมหารกาทโย.

วิมุตฺติปริปาจนียา ธมฺมา สทฺธินฺทฺริยาทโย. อชฺฌาสยนฺติ อธิมุตฺตึ. ขนฺตินฺติ ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺตึ. มนนฺติ จิตฺตํ. อภินีหารนฺติ ปณิธานํ. พุชฺฌนภาวนฺติ พุชฺฌนสภาวํ, ปฏิวิชฺฌนาการํ วา.

อุคฺฆฏิตฺูติ อุคฺฆฏนํ นาม าณุคฺฆฏนํ, าเณน อุคฺฆฏิตมตฺเต เอว ธมฺมํ ชานาตีติ อตฺโถ. วิปฺจิตํ วิตฺถาริตเมว อตฺถํ ชานาตีติ วิปฺจิตฺู. อุทฺเทสาทีหิ เนตพฺโพติ เนยฺโย. พฺยฺชนปทํ ปรมํ อสฺสาติ ปทปรโม. สห อุทาหฏเวลายาติ อุทาหารธมฺมสฺส อุทฺเทเส อุทาหฏมตฺเต เอว. ธมฺมาภิสมโยติ จตุสจฺจธมฺมสฺส าเณน สทฺธึ อภิสมาโยโค. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทินา นเยน สํขิตฺเตน มาติกาย ปิยมานาย เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิตุํ สมตฺโถ ปุคฺคโล ‘‘อุคฺฆฏิตฺู’’ติ วุจฺจติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ สํขิตฺเตน มาติกํ เปตฺวา วิตฺถาเรน อตฺเถ วิภชิยมาเน อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ สมตฺโถ ปุคฺคโล ‘‘วิปฺจิตฺู’’ติ วุจฺจติ. อุทฺเทสโตติ อุทฺเทสเหตุ, อุทฺทิสนฺตสฺส อุทฺทิสาเปนฺตสฺส วาติ อตฺโถ, ‘‘อุทฺทิสโต’’ติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. ปริปุจฺฉโตติ ปริปุจฺฉนฺตสฺส. อนุปุพฺเพน ธมฺมาภิสมโย โหตีติ อนุกฺกเมน อรหตฺตปฺปตฺติ โหติ. น ตาย ชาติยา ธมฺมาภิสมโย โหตีติ เตน อตฺตภาเวน มคฺคํ วา ผลํ วา อนฺตมโส ฌานํ วา วิปสฺสนํ วา นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ปุคฺคโล พฺยฺชนปทเมว ปรมํ กตฺวา ิตตฺตา ‘‘ปทปรโม’’ติ วุจฺจติ.

เอกจราติ วิเวกาภิรติยา เอกวิหาริโน. ทฺวิจราติ ทฺเว เอกชฺฌาสยา หุตฺวา าณจริยาทิวเสน วิจรนฺตา. เอส นโย เสเสสุ. สตฺตสุฺตาปกาสเนน สุฺตํ. ตโต เอว สณฺหํ สุขุมํ. ‘‘ปเรสํ อชฺฌาสยวเสน ภควา อิทํ สุตฺตํ อารภี’’ติ วตฺวา เต ปน ‘‘ปเร’’ติ วุตฺตปุคฺคลา อปริกมฺมิกา สุปริโสธิตปุพฺพภาคปฏิปทา จาติ ทุวิธา, ตทุภเยสุ สตฺถุ ปฏิปตฺตึ อุปมามุเขน ปกาเสนฺโต ยถา หีติอาทิมาห. รูปํ น สมุฏฺาเปติ ลิขนวเสน น อุปฺปาเทติ. อกตาภินิเวสนฺติ วิปสฺสนาภาวนาย อกตานุโยคํ. สีล…เป… สมฺปทายาติ อสมาทินฺนสีลํ สีลสมฺปทาย, สุปริสุทฺธสีลํ สมาธิสมฺปทาย, อนุชุกตทิฏฺิชุกมฺมํ ทิฏฺิสมฺปทาย โยเชนฺโตติ โยชนา.

นฺติ ยํ ปุพฺพภาคปฏิปทํ สนฺธาย. สีลนฺติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. ทิฏฺิ จาติ กมฺมสฺสกตาทิฏฺิ เจว กมฺมปถสมฺมาทิฏฺิ จ. ติวิเธนาติ อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา อชฺฌตฺตพหิทฺธาติ เอวํ วิสยภาวโต ติปฺปกาเรน. ยถาวุตฺตทิฏฺิวิสุทฺธิยา วิเสสปจฺจยํ สีลํเยว ภาวนาย อธิฏฺานนฺติ วุตฺตํ ‘‘สีลํ นิสฺสาย สีเล ปติฏฺายา’’ติ.

สุธนฺตสุวณฺณํ อปคตสพฺพกาฬกํ. จตุรสฺสาทิโธโต สุปริมชฺชิตมณิกฺขนฺโธ. ปจฺจยธมฺมานํ อวิชฺชาทีนํ ตสฺส ตสฺส ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส เหตุปจฺจยาทิภาโว ปจฺจยากาโร. โส ปน อตฺถโต อวิชฺชา เอวาติ อาห ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาทนฺติ ปจฺจยาการ’’นฺติ. เตนาห ‘‘ปจฺจยากาโร หี’’ติอาทิ.

กามํ โว-สทฺโท ปทปรฏฺิโต ปฏิโยคีอตฺถวิเสสวาจโก, นามปรภูโต ปน ตํ ตํ กตฺตุกมฺมกรณาทิสาธนวิสิฏฺเมว ปโพเธติ, หิ-นิปาตปรภูโต ปน วจนาลงฺการมตฺตเมวาติ อาห ‘‘โวติ…เป… ทิสฺสตี’’ติ. ตํเทสนนฺติ ตสฺส ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส เทสนํ. สา หิ อิธ ต-สทฺเทน ปจฺจามสียติ. ‘‘สุณาถา’’ติ โสตวิฺเยฺยตาวจนโต น เกวลํ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท.

เอกตฺถเมตํ ปทํ ก-สทฺเทน ปทวฑฺฒนมตฺตสฺส กตตฺตา, ตสฺมา สาธุสทฺทสฺส กโต อตฺถุทฺธาโร สาธุกสทฺทสฺสปิ กโต เอว โหตีติ อธิปฺปาโย. สาธุ ภนฺเตติ ยาจามหํ ภนฺเตติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘อายาจเน’’ติ. ปุน สาธุ ภนฺเตติ เอวํ ภนฺเตติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘สมฺปฏิจฺฉเน’’ติ. สาธุ สาธูติ อโห อโหติ อยเมตฺถ อตฺโถติ วุตฺตํ ‘‘สมฺปหํสเน’’ติ. สาธุ ธมฺมรุจีติ ปุฺกาโม สุนฺทโรติ อตฺโถ. ปฺาณวาติ ปฺวา. อทฺทุพฺโภติ อทูสโก. ทฬฺหีกมฺเมติ ถิรีกรเณ สกฺกจฺจกิริยายํ. อาณตฺติยนฺติ อาณาปเน. ‘‘สุณาถ สาธุกํ มนสิ กโรถา’’ติ หิ วุตฺเต สาธุกสทฺเทน สวนมนสิการานํ สกฺกจฺจกิริยา วิย ตทาณาปนมฺปิ วุตฺตํ โหติ. อายาจนตฺถตา วิย จสฺส อาณาปนตฺถตา เวทิตพฺพา.

อิทาเนตฺถ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. โสตินฺทฺริยวิกฺเขปนิวารณํ สวเน นิโยชนวเสน กิริยนฺตรปฏิเสธนภาวโต, โสตํ โอทหถาติ หิ อตฺโถ. มนินฺทฺริยวิกฺเขปนิวารณํ อฺจินฺตาปฏิเสธนโต. ปุริมนฺติ ‘‘สุณาถา’’ติ ปทํ. เอตฺถาติ ‘‘สุณาถ, มนสิ กโรถา’’ติ ปททฺวเย, เอตสฺมึ วา อธิกาเร. พฺยฺชนวิปลฺลาสคฺคาหนิวารณํ โสตทฺวาเร วิกฺเขปปฏิพาหกตฺตา. น หิ ยาถาวโต สุณนฺตสฺส สทฺทโต วิปลฺลาสคฺคาโห โหติ. อตฺถวิปลฺลาสคฺคาหนิวารณํ มนินฺทฺริยวิกฺเขปปฏิพาหกตฺตา. น หิ สกฺกจฺจํ ธมฺมํ อุปธาเรนฺตสฺส อตฺถวิปลฺลาสคฺคาโห โหติ. ธมฺมสฺสวเน นิโยเชติ ‘‘สุณาถา’’ติ วิทหนโต. ธารณูปปริกฺขาสูติ เอตฺถ อุปปริกฺขคฺคหเณเนว ตุลนตีรณาทิเก ทิฏฺิยา จ สุปฺปฏิเวธํ สงฺคณฺหาติ. สพฺยฺชโนติ เอตฺถ ยถาธิปฺเปตมตฺถํ พฺยฺชยตีติ พฺยฺชนํ, สภาวนิรุตฺติ. สห พฺยฺชเนหีติ สพฺยฺชโน, พฺยฺชนสมฺปนฺโนติ อตฺโถ. อรณียโต อุปคนฺตพฺพโต อตฺโถ, จตุปาริสุทฺธิสีลาทิโก. สห อตฺเถนาติ สาตฺโถ, อตฺถสมฺปนฺโนติ อตฺโถ. ธมฺมคมฺภีโรติอาทีสุ ธมฺโม นาม ตนฺติ. เทสนา นาม ตสฺสา มนสา ววตฺถปิตาย ตนฺติยา เทสนา กถนํ. อตฺโถ นาม ตนฺติยา อตฺโถ. ปฏิเวโธ นาม ตนฺติยา ตนฺติอตฺถสฺส จ ยถาภูตาวโพโธ. ยสฺมา เจเต ธมฺมเทสนาอตฺถปฏิเวธา สสาทีหิ วิย มหาสมุทฺโท มนฺทพุทฺธีหิ ทุกฺโขคาฬฺหา อลพฺภเนยฺยปติฏฺา จ, ตสฺมา คมฺภีรา. เตน วุตฺตํ ‘‘ยสฺมา อยํ ธมฺโม…เป… สาธุกํ มนสิ กโรถา’’ติ.

เอตฺถ จ ปฏิเวธสฺส ทุกฺกรภาวโต ธมฺมตฺถานํ เทสนาาณสฺส ทุกฺกรภาวโต เทสนาย ทุกฺโขคาหตา, ปฏิเวธสฺส ปน อุปฺปาเทตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ตพฺพิสยาณุปฺปตฺติยา จ ทุกฺกรภาวโต ทุกฺโขคาหตา เวทิตพฺพา. เทสนํ นาม อุทฺทิสนํ สงฺเขปทสฺสนสทิสํ. ตถา หิ วิภงฺคสุตฺเต ‘‘เทเสสฺสามี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘ภาสิสฺสามี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺส นิทฺทิสนํ ภาสนนฺติ อิธาธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘วิตฺถารโตปิ นํ ภาสิสฺสามีติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. ปริพฺยตฺตํ กถนํ วา ภาสนํ.

สาฬิกายิว นิคฺโฆโสติ สาฬิกาย อาลาโป วิย มธุโร กณฺณสุโข เปมนีโย. ปฏิภานํ สทฺโท. อุทีรยีติ อุจฺจารียติ, วุจฺจตีติ อตฺโถ. เอวํ วุตฺเต อุสฺสาหชาตาติ เอวํ ‘‘สุณาถ สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ วุตฺเต ‘‘น กิร สตฺถา สงฺเขเปเนว เทเสสฺสติ, วิตฺถาเรนปิ ภาสิสฺสตี’’ติ สฺชาตุสฺสาหา หฏฺตุฏฺา หุตฺวา.

กตโมติ ตสฺส ปทสฺส สามฺโต ปุจฺฉาภาโว ายติ, น วิเสสโตติ ตสฺส ปุจฺฉาวิเสสภาวํ กเถนฺโต ‘‘กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา’’ติ วตฺวา เตเนว ปสงฺเคน มหานิทฺเทเส อาคตา สพฺพาปิ ปุจฺฉา อตฺถุทฺธารนเยน ทสฺเสติ ‘‘ปฺจวิธา หิ ปุจฺฉา’’ติอาทินา. ตตฺถ อทิฏฺํ โชเตติ เอตายาติ อทิฏฺโชตนา. ทิฏฺํ สํสนฺทียติ เอตายาติ ทิฏฺสํสนฺทนา. สํสนฺทนฺเจตฺถ สากจฺฉาวเสน วินิจฺฉยกรณํ. วิมตึ ฉินฺทติ เอตายาติ วิมติจฺเฉทนา. อนุมติยา ปุจฺฉนํ อนุมติปุจฺฉา. ‘‘ตํ กึ มฺถ ภิกฺขเว’’ติอาทิปุจฺฉาย หิ ‘‘กา ตุมฺหากํ อนุมตี’’ติ อนุมติ ปุจฺฉิตา โหติ. กเถตุกมฺยตา กเถตุกมฺยตาย.

ลกฺขณนฺติ าตุํ ปุจฺฉิโต โย โกจิ สภาโว. อฺาตนฺติ เยน เกนจิ าเณน อฺาตภาวมาห. อทิฏฺนฺติ ทสฺสนภูเตน าเณน จกฺขุนา วิย น ทิฏฺตํ. อตุลิตนฺติ ‘‘เอตฺตกํ อิท’’นฺติ ตุลนภูเตน าเณน น ตุลิตตํ. อตีริตนฺติ ตีรณภูเตน าเณน อกตาณกิริยาสมาปนตํ. อวิภูตนฺติ าณสฺส อปากฏภาวํ. อวิภาวิตนฺติ าเณน อปากฏีกตภาวํ.

ปฺจสุ ปุจฺฉาสุ ยา พุทฺธานํ สพฺพโต น สนฺติ, ตา ทสฺเสตฺวา อิธาธิปฺเปตปุจฺฉํ นิคเมตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตํ สุวิฺเยฺยเมว. ยทิ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ปจฺจยากาโร, อถ กสฺมา ภควตา ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนาย สงฺขาราทโย ปจฺจยุปฺปนฺนา กถิตาติ อาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ. ปจฺจยุปฺปนฺนมฺปิ กเถติ ปจฺจยุปฺปนฺนทสฺสเนน ปจฺจยธมฺมานํ ปจฺจยภาวสฺส กถิตภาวโต. อาหารวคฺคสฺสาติอาทิ ‘‘ปจฺจยากาโร ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘สมฺภวนฺตี’’ติ ปาฬิยํ ปรโต วุตฺตํ กิริยาปทํ อาเนตฺวา โยเชติ, อฺถา สงฺขารา กึ กตาติ วา กโรนฺตีติ วา น าเยยฺย. ปวตฺติยา อนุโลมโต ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา’’ติอาทิกา อนุโลมปฏิจฺจสมุปฺปาทกถา.

‘‘อวิชฺชาย ตฺเววา’’ติอาทิกา ปน ตสฺส วิโลมโต ปฏิโลมกถา. อจฺจนฺตเมว สงฺขาเร วิรชฺชติ เอเตนาติ วิราโค, มคฺโค. อเสสนิโรธาติ อเสเสตฺวา นิโรธา สมุจฺฉินฺทนา. เอวํ นิโรธานนฺติ เอวํ อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุทฺธานํ สงฺขารานํ นิโรธา. อิติ อวิชฺชาทีนํ นิโรธวจเนน อรหตฺตํ วทติ. สกลสฺสาติ อนวเสสสฺส. สตฺตวิรหิตสฺสาติ ปรปริกปฺปิตชีวรหิตสฺส. วินิวตฺเตตฺวาติ อนุปฺปาทนิโรธทสฺสนวเสน วิปริวตฺเตตฺวา.

อตฺตมนาติ ปีติโสมนสฺเสน คหิตจิตฺตา. ตถาภูตา จ หฏฺจิตฺตา นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘ตุฏฺจิตฺตา’’ติ. ‘‘ตสฺส วจนํ อภินนฺทิตพฺพ’’นฺติ เอตฺถ อภินนฺทนสทฺโท อนุโมทนตฺโถ. ‘‘อภินนฺทิตฺวา’’ติ เอตฺถ สมฺปฏิจฺฉนตฺโถ. อิธ ปน อุภยตฺโถปิ วฏฺฏตีติ อาห ‘‘อนุโมทึสุ เจว สมฺปฏิจฺฉึสุ จา’’ติ.

ปฏิจฺจสมุปฺปาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิภงฺคสุตฺตวณฺณนา

. ทุติเยปีติ ทุติยสุตฺเตปิ. ปิ-สทฺเทน ตทฺเสุ สุตฺเตสุปีติ อตฺโถ. ‘‘วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตา เอวา’’ติ วตฺวาปิ ตเทกเทสํ อิธ วินิโยคกฺขมํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. นฺติ มูลํ. วิตฺถารเทสนนฺติ ‘‘วิภชิสฺสามี’’ติ ปทสฺส อตฺถสฺส ทสฺสนวเสน ปวตฺตํ วิภงฺคเทสนํ. อุทฺเทสเทสนา ปมสุตฺเต อนุโลมเทสนาสทิสาว. ปุน วฏฺฏวิวฏฺฏํ ทสฺเสนฺโตติ ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว’’ติอาทินา ปวตฺตึ นิวตฺติฺจ ทสฺเสนฺโต. ปมํ อุทฺเทสวเสน วิภชนวเสน วิวฏฺฏํ ทสฺสิตํ, ตโต เอว พฺยติเรกนเยน วิวฏฺฏมฺปิ ทสฺสิตเมว โหตีติ ปุนคฺคหณํ.

เตสํเตสํ สตฺตานนฺติ อิทํ กิฺจิ ปการโต อนามสิตฺวา สพฺเพปิ สตฺเต สามฺโต พฺยาเปตฺวา คหณนฺติ อาห ‘‘สงฺเขปโต…เป… นิทฺเทโส’’ติ. คติชาติวเสนาติ ปฺจคติวเสน, ตตฺถาปิ เอเกกาย คติยา ขตฺติยาทิภุมฺมเทวาทิหตฺถิอาทิชาติวเสน จ. ‘‘จิตฺตํ มโน’’ติอาทีสุ วิย กิจฺจวิเสสํ, ‘‘มานส’’นฺติอาทีสุ วิย สมาเน อตฺเถ สทฺทวิเสสํ, ‘‘ปณฺฑร’’นฺติอาทีสุ วิย คุณวิเสสํ, ‘‘เจตสิกํ หทย’’นฺติอาทีสุ วิย นิสฺสยวิเสสํ, ‘‘จิตฺตสฺส ิตี’’ติอาทีสุ วิย อฺสฺส อวตฺถาภาววิเสสํ, ‘‘อลุพฺภนา’’ติอาทีสุ วิย อฺสฺส กิริยาภาววิเสสํ, ‘‘อลุพฺภิตตฺต’’นฺติอาทีสุ วิย อฺสฺส อภาวตาวิเสสนฺติ เอวมาทิกํ อนเปกฺขิตฺวา ธมฺมมตฺตํ วา ทีปนา สภาวนิทฺเทโส. ชิณฺณสฺส ชีรณวเสน ปวตฺตนากาโร ชีรณตาติ อาห ‘‘อาการนิทฺเทโส’’ติ.

กาลาติกฺกเม กิจฺจนิทฺเทสาติ กลลกาลโต ปภุติ ปุริมรูปานํ ชราปตฺตกฺขเณ อุปฺปชฺชมานานิ ปจฺฉิมรูปานิ ปริปกฺกรูปานุรูปานิ ปริณตปริณตานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ อนุกฺกเมน สุปริณตรูปานํ ปริปากกาเล อุปฺปชฺชมานานิ ขณฺฑิจฺจาทิสภาวานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ ‘‘ขณฺฑิจฺจ’’นฺติอาทโย กาลาติกฺกเม ชราย กิจฺจนิทฺเทสา. ปกตินิทฺเทสาติ ผลวิปจฺจนปกติยา นิทฺเทสา, ชราย วา ปาปุณิตพฺพผลเมว ปกติ, ตสฺสา นิทฺเทสา, น จ ขณฺฑิจฺจาทีเนว ชราติ อุทกาทิคตมคฺเคสุ ติณรุกฺขสํภคฺคตาทโย วิย ปริปากคตมคฺคสงฺขาเตสุ ปริปุณฺณรูเปสุ ลพฺภมานา ขณฺฑิจฺจาทโย ชราย คตมคฺคาอิจฺเจว เวทิตพฺพา, น ชราติ.

ยสฺมา ชรํ ปตฺตสฺส อายุ หายติ, อินฺทฺริยานิ ชชฺชรานิ โหนฺตีติ อายุหานาทโย ปกตินิทฺเทสา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปจฺฉิมา ทฺเว ปกตินิทฺเทสา’’ติ. เตนาห ‘‘อิเมหิ ปนา’’ติอาทิ.

อวิฺายมานนฺตรตฺตา อวีจิชรา มณิอาทีสุ มนฺททสกาทีสุ เอเกกทสเกสุ จ ขเณ ขเณ ชิณฺณวิการาทีนํ ทุวิฺเยฺยตฺตา. ตโต อฺเสูติ มณิอาทิโต อฺเสุ อหิจฺฉตฺตกาทีสุ, ปาณีนํ เอกภวปริยาปนฺเน สกลอายุสฺมึ คหิตตรุณยุวาชรากาเลสุ, เอกทฺวิตฺติทิวสาติกฺกเมสุ ปุปฺผาทีสุ วาติ อตฺโถ. ตตฺถ หิ ชราวิเสสสฺส สุวิฺเยฺยตฺตา สวีจิชรา นาม.

จวนกวเสนาติ จวนกานํ ขนฺธานํ วเสน. เอกจตุปฺจกฺขนฺธาย จุติยา จวนเมว จวนตาติ อาห ‘‘ภาววจเนน ลกฺขณนิทสฺสน’’นฺติ, ปาฬิยํ ‘‘จุตี’’ติ วุตฺตสฺส มรณสฺส สภาวทสฺสนนฺติ อตฺโถ. ภงฺคุปฺปตฺติ ภิชฺชมานตา. เตน ‘‘เภโท’’ติ อิมินา ขนฺธานํ ภิชฺชมานตา เภทสมงฺคิตา วุตฺตาติ ทสฺเสติ. านาภาวปริทีปนนฺติ เกนจิปิ อากาเรน อวฏฺานาภาวทีปนํ. ฆฏสฺเสวาติ หิ วิสทิสูทาหรณํ. ยถา ฆเฏ ภินฺเน กปาลาทิอวยวเสโส ลพฺภติ, น เอวํ จุติกฺขนฺเธสุ ภงฺเคสุ, น โกจิ วิเสโส ติฏฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนฺตรธาน’’นฺติ วุตฺตํ. มจฺจุสงฺขาตํ มรณนฺติ มจฺจุสฺิตํ มรณํ. ‘‘กาลมรณ’’นฺติ วทนฺติ. สนฺตานสฺส อจฺจนฺตสมุจฺเฉทภูตํ ขีณาสวานํ มรณํ สมุจฺเฉทมรณํ. อาทิ-สทฺเทน ขณิกมรณํ สงฺคณฺหาติ. ตสฺส กิริยาติ อนฺตกสฺส กิริยา, ยา โลเก วุจฺจติ ‘‘มจฺจู’’ติ, มรณนฺติ อตฺโถ. จวนกาโล เอว วา อนติกฺกมนียตฺตา วิเสเสน กาโลติ วุตฺโตติ ตสฺส กิริยา อตฺถโต จุติกฺขนฺธานํ เภทปวตฺติเยว. ‘‘มจฺจุ มรณ’’นฺติ วา เอตฺถ สมาสํ อกตฺวา โย ‘‘มจฺจู’’ติ วุจฺจติ เภโท, ตเมว มรณํ ‘‘ปาณจาโค’’ติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

จตุโวการวเสนาติ จตุโวการภววเสน. ตตฺถ หิ รูปกายสฺิโต กเฬวโร นตฺถิ, ยํ นิกฺขิเปยฺย. กิฺจาปิ เอกโวการภเวปิ กเฬวรนิกฺเขโป นตฺถิ, รูปกายสฺส ปน ตตฺถ อตฺถิตามตฺตํ คเหตฺวา ‘‘เอกโวการวเสน กเฬวรสฺส นิกฺเขโป’’ติ วุตฺโต. จตุโวการวเสน จาติ -สทฺเทน ‘‘เสสทฺวยวเสน ขนฺธานํ เภโท’’ติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ สพฺพตฺเถว ขนฺธเภทสพฺภาวโต. เสสทฺวยวเสนาติ เสสภวทฺวยวเสเนว กเฬวรสฺส นิกฺเขโป. ยทิปิ เอกโวการภเว รูปกาโย วิชฺชติ, กเฬวรนิกฺเขโป ปน นตฺถีติ ‘‘กเฬวรสฺส สพฺภาวโต’’อิจฺเจว วุตฺตํ. ยสฺมา มนุสฺสาทีสุ กเฬวรนิกฺเขโป อตฺถิ, ตสฺมา มนุสฺสาทีสุ กเฬวรสฺส นิกฺเขโปติ โยชนา. กเฬวรํ นิกฺขิปียติ เอเตนาติ มรณํ กเฬวรสฺส นิกฺเขโป. เอกโต กตฺวาติ เอกชฺฌํ กตฺวา, เอกชฺฌํ คหณมตฺเตน.

ชายนฏฺเนาติอาทิ อายตนวเสน โยนิวเสน จ ทฺวีหิ ปเทหิ สพฺพสตฺเต ปริยาทิยิตฺวา ปริยาทิยิตฺวา ชาตึ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘กตฺตุภาววเสน ปททฺวยํ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. ‘‘เตสํ เตสํ สตฺตานํ ชาติ สฺชาตี’’ติ ปน กตฺตริ สามินิทฺเทสสฺส กตตฺตา อุภยตฺถาปิ ภาวนิทฺเทโส. สมฺปุณฺณา ชาติ สฺชาติ. ปากฏา นิพฺพตฺติ อภินิพฺพตฺติ. เตสํ เตสํ สตฺตานํ…เป… อภินิพฺพตฺตีติ สตฺตวเสน ปวตฺตตฺตา โวหารเทสนา.

ตตฺร ตตฺราติ เอกจตุโวการภเวสุ ทฺวินฺนํ เสสรูปธาตุยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ อุปฺปชฺชมานานํ ปฺจนฺนํ, กามธาตุยํ วิกลาวิกลินฺทฺริยานํ วเสน สตฺตนฺนํ นวนฺนํ ทสนฺนํ ปุน ทสนฺนํ เอกาทสนฺนฺจ อายตนานํ วเสน สงฺคโห เวทิตพฺโพ. สนฺตติยนฺติ เยน กมฺมุนา ขนฺธานํ ปาตุภาโว, เตน อภิสงฺขตสนฺตติยํ. ตฺจ โข ปฏิสนฺธิกฺขณวเสน เวทิตพฺพํ.

กมฺมํเยว กมฺมภโว ‘‘ภวติ เอตสฺมา อุปปตฺติภโว’’ติ กตฺวา. กมฺเมน นิยฺยาทิตอตฺตภาวุปปตฺติวเสน ภวตีติ ภโว, ตถา ตถา นิพฺพตฺตวิปาโก กฏตฺตารูปฺจ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘ภวตีติ กตฺวา ภโว’’ติ อุปปตฺติภวสฺส วกฺขมานตฺตา ‘‘กมฺมํ ผลโวหาเรน ภโวติ วุตฺต’’นฺติ กถิตํ.

อุปาทิยนฺติ สตฺตา ทฬฺหคฺคาหํ คณฺหนฺติ เอเตน กิเลสกาเมน. น เกวลํ อิธ กรณสาธนเมว, อถ โข กตฺตุสาธนมฺปิ ลพฺภตีติ วุตฺตํ ‘‘สยํ วา’’ติ. นฺติ วตฺถุกามํ. กาโม จ โส กามนฏฺเน, อุปาทานฺจ ภุสมาทานฏฺเนาติ กามุปาทานํ. เอตนฺติ กามุปาทานปทํ. ปุน เอตนฺติ กามุปาทานสงฺขาตํ.

สสฺสโตอตฺตาติ อิทํ ปุริมทิฏฺึ อุปาทิยมานํ อุตฺตรทิฏฺึ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ยถา เอสา ทิฏฺิ ทฬฺหีกรณวเสน ปุริมํ อุตฺตรา อุปาทิยติ, เอวํ ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิกาปีติ. อตฺตคฺคหณํ ปน ‘‘อตฺตวาทุปาทาน’’นฺติ อิทํ น ทิฏฺุปาทานทสฺสนนฺติ ทฏฺพฺพํ. โลโก จาติ อตฺตคฺคหณวินิมุตฺตคฺคหณํ ทิฏฺุปาทานภูตํ อิธ ปุริมทิฏฺิอุตฺตรทิฏฺิวจเนหิ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

เยน มิจฺฉาภินิเวเสน โคสีลโควตาทึ สมาทิยติ เจว อนุติฏฺติ จ, โส โคสีลโควตาทีนีติ อธิปฺเปตานิ. เตนาห ‘‘โคสีล…เป… สยเมว อุปาทานานี’’ติ. อภินิเวสโตติ อภินิเวสนโต.

อตฺตวาทุปาทานนฺติ ‘‘อตฺตา’’ติ วาทสฺส ปฺาปนสฺส คหณสฺส การณภูตา ทิฏฺีติ อตฺโถ. อตฺตวาทมตฺตเมวาติ อตฺตสฺส อภาวา ‘‘อตฺตา’’ติ อิทํ วจนมตฺตเมว. อุปาทิยนฺติ ทฬฺหํ คณฺหนฺติ.

จกฺขุทฺวาราทีสุ ปวตฺตายาติ อิทํ ตณฺหาย รูปตณฺหาทิภาวสฺส การณวจนํ ฉทฺวารารมฺมณิกธมฺมานํ ปฏินิยตารมฺมณตฺตา. ชวนวีถิยา ปวตฺตายาติ อิทํ ตสฺสา ปวตฺติฏฺานทสฺสนํ. สภาเวเนว อุฏฺาตุํ อสกฺโกนฺตสฺส เวฬุ วิย นิสฺสโย อหุตฺวา โอลุมฺภกภาเวน ภาโว อุปาทานสฺส ปจฺจยภาวโต อารมฺมณมฺปิ ตํสทิสํ วุตฺตํ. รูเปติ วิสเย ภุมฺมํ. สา ติวิธา โหตีติ สมฺพนฺโธ. กามตณฺหา กามสฺสาทภาเวน ปวตฺติยา. เอวํ อสฺสาเทนฺตีติ สสฺสตทิฏฺิยา สหชาตนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตาทิปจฺจยภูตาย สํสฏฺตฺตา นิจฺจธุวสสฺสตาภินิเวสมุเขน อสฺสาเทนฺตี. ภวสหคตา ตณฺหา ภวตณฺหา. ภวติ ติฏฺติ สพฺพกาลนฺติ หิ ภวทิฏฺิ ภโว อุตฺตรปทโลเปน, ภวสฺสาทวเสน ปวตฺติยา จ. อิมินา นเยน วิภวตณฺหาติ เอตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. วิภวติ อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสตีติ เอวํ ปวตฺตา ทิฏฺิ วิภโว อุตฺตรปทโลเปน. เอวํ ตานิ อฏฺารสาติ ยา ฉ กามตณฺหา, ฉ ภวตณฺหา, ฉ วิภวตณฺหา วุตฺตา, เอตานิ อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ ตณฺหาปจฺจโย. อชฺฌตฺตนฺติ สกสนฺตติยํ. พหิทฺธาติ ตโต พหิทฺธา. อตีตารมฺมณานิ วา โหนฺตุ อิตรารมฺมณานิ วา, สยํ ปน อตีตานิ ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ‘‘อฏฺสตํ ตณฺหาวิจริตานี’’ติอาทินา สมฺพนฺโธ. อิทานิ อปเรนปิ ปกาเรน อฏฺสตํ ตณฺหาวิจริตานิ ทสฺเสตุํ ‘‘อชฺฌตฺติกสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อชฺฌตฺติกสฺสาติ อชฺฌตฺติกขนฺธปฺจกํ. อุปโยคตฺเถ หิ อิทํ สามิวจนํ. อุปาทายาติ คเหตฺวา. อสฺมีติ โหตีติ ยเทตํ อชฺฌตฺติกํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย ตณฺหามานทิฏฺิวเสน สมุทายคฺคาหโต อสฺมีติ คาโห โหติ, ตสฺมึ สตีติ อตฺโถ. อิธ ปน รูปาทิอารมฺมณวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิตฺถมสฺมีติ โหตีติ ขตฺติยาทีสุ ‘‘อิทํปกาโร อห’’นฺติ เอวํ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน โหตีติ อตฺโถ. อิทํ ตาว อนุปนิธาย คหณํ.

เอวมาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘เอวมสฺมิ, อฺถาสฺมิ, อหํ ภวิสฺสํ, อิตฺถํ ภวิสฺสํ, เอวํ ภวิสฺสํ, อฺถา ภวิสฺสํ, อสสฺมิ, สตสฺมิ, อหํ สิยํ, อิตฺถํ สิยํ, เอวํ สิยํ, อฺถา สิยํ, อปาหํ สิยํ, อปาหํ อิตฺถํ สิยํ, อปาหํ เอวํ สิยํ, อปาหํ อฺถา สิย’’นฺติ เอเตสํ สงฺคโห. อุปนิธาย คหณมฺปิ ทุวิธํ สมโต อสมโต วาติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวมสฺมิ, อฺถาสฺมี’’ติ จ วุตฺตํ. ตตฺถ เอวมสฺมีติ อิทํ สมโต อุปนิธาย คหณํ, ยถา อยํ ขตฺติโย, เอวํ อหมสฺมีติ อตฺโถ. อฺถาสฺมีติ อิทํ ปน อสมโต คหณํ, ยถายํ ขตฺติโย ตโต อฺถา อหํ หีโน วา อธิโก วาติ อตฺโถ. อิมานิ ตาว ปจฺจุปฺปนฺนวเสน จตฺตาริ ตณฺหาวิจริตานิ. ภวิสฺสนฺติอาทีนิ ปน จตฺตาริ อนาคตวเสน วุตฺตานิ, เตสํ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อสสฺมีติ สสฺสโต อสฺมิ, นิจฺจสฺเสตํ อธิวจนํ. สตสฺมีติ อสสฺสโต อสฺมิ, อนิจฺจสฺเสตํ อธิวจนํ. อิติ อิมานิ ทฺเว สสฺสตุจฺเฉทวเสน วุตฺตานิ. อิโต ปรานิ สิยนฺติอาทีนิ จตฺตาริ สํสยปริวิตกฺกวเสน วุตฺตานิ, ตานิ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยน อตฺถโต เวทิตพฺพานิ. อปาหํ สิยนฺติอาทีนิ ปน จตฺตาริ ‘‘อปิ นามาหํ ภเวยฺย’’นฺติ เอวํ ปตฺถนากปฺปนวเสน วุตฺตานิ, ตานิปิ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอวเมเตสุ –

ทฺเว ทิฏฺิสีสา จตฺตาโร, สุทฺธสีสา สีสมูลกา;

ตโย ตโยติ เอตานิ, อฏฺารส วิภาวเย.

เอเต หิ สสฺสตุจฺเฉทวเสน วุตฺตา ทฺเว ทิฏฺิสีสา นาม, ‘‘อสฺมิ, ภวิสฺสํ สิยํ, อปาหํ สิย’’นฺติ เอเต จตฺตาโร สุทฺธสีสา นาม, ‘‘อิตฺถมสฺมี’’ติอาทโย ตโย ตโยติ ทฺวาทส สีสมูลกา นามาติ เวทิตพฺพํ. อิธ ปาฬิยํ รูปารมฺมณาทิวเสน ตณฺหา อาคตาติ อาห ‘‘อชฺฌตฺติกรูปาทินิสฺสิตานี’’ติ. อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. อิมินา อสฺมีติ อิมินา อภิเสกเสนาปจฺจาทินา ‘‘ขตฺติโย อห’’นฺติ มูลภาวโต ‘‘อสฺมี’’ติ โหติ. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สงฺคเหติ ตณฺหาย ยถาวุตฺตวิภาคสฺส สํขิปนวเสน สงฺคณฺหเน กริยมาเน. ‘‘ฉยิเม, ภิกฺขเว, ตณฺหากายา’’ติอาทิ นิทฺเทโส. ‘‘รูเป ตณฺหา รูปตณฺหา’’ติอาทิ นิทฺเทสตฺโถ. ‘‘กามราคภาเวนา’’ติอาทิโก, ‘‘อชฺฌตฺติกสฺสุปาทายา’’ติอาทิโก จ นิทฺเทสวิตฺถาโร. ‘‘รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ ฉเฬวา’’ติอาทิโก สงฺคโห.

ยสฺมา จกฺขุทฺวาราทีสุ เอเกกสฺมึ ทฺวาเร อุปฺปชฺชนกวิฺาณานิ วิย อเนกา เอว เวทนา, ตสฺมา ตา ราสิวเสน เอกชฺฌํ คเหตฺวา ‘‘ฉ เวทนากายา’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เวทนาสมูหา’’ติ. นิสฺสยภาเวน อุปฺปตฺติทฺวารภาเวน นานาปจฺจยา โหนฺติ จกฺขุธาตุอาทโย, ตา กุจฺฉินา ธาเรนฺติโย วิย โปเสนฺติโย วิย จ โหนฺตีติ ตาสํ มาตุสทิสตา วุตฺตา. จกฺขุสมฺผสฺสเหตูติ นิสฺสยาทิจกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา. อยนฺติ อยํ เวทนา ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา’’ติอาทินา สาธารณโต วุตฺตา. เอตฺถาติ เอตสฺมึ เวทนาปเท. สพฺพสงฺคาหิกาติ กุสลากุสลวิปากกิริยานํ วเสน สพฺพสงฺคาหิกา. เอวํ วิภงฺเค อาคตนเยน สาธารณโต วตฺวาปิ อิธาธิปฺเปตเวทนเมว ทสฺเสตุํ ‘‘วิปากวเสน ปนา’’ติอาทิมาห. จกฺขุมฺหิ สมฺผสฺโสติ จกฺขุมฺหิ นิสฺสยภูเต อุปฺปนฺนผสฺโส. เอส นโย เสเสสุ. ยสฺมา จกฺขาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค ขนฺธนิทฺเทเส ลกฺขณาทิวิภาคโต, อายตนนิทฺเทเส วิเสสโต, สามฺโต จ สทฺทตฺถทสฺสนาทิวเสน วิภาวิตานิ, ตสฺมา ‘‘ยํ วตฺตพฺพํ…เป… วุตฺตเมวา’’ติ อาห.

นมนลกฺขณนฺติ อารมฺมณาภิมุขํ หุตฺวา นมนสภาวํ เตน วินา อปฺปวตฺตนโต. รุปฺปนลกฺขณํ เหฏฺา วุตฺตเมว. เวทนากฺขนฺโธ ปน เอกาว เวทนา. สพฺพทุพฺพลจิตฺตานิ นาม ปฺจวิฺาณานิ . นนุ ตตฺถ ชีวิตจิตฺตฏฺิติโย จ สนฺตีติ? สจฺจํ, ตาสํ ปน กิจฺจํ น ตถา ปากฏํ, ยถา เจตนาทีนนฺติ เต เอเวตฺถ ปาฬิยํ อุทฺธฏา. เยน มหนฺตปาตุภาวาทินา การเณน. เอตฺถาติ เอตสฺมึ มหาภูตนิทฺเทเส. อฺโ วินิจฺฉยนโยติ ‘‘วจนตฺถโต กลาปโต’’ติอาทินา ลกฺขณาทินิจฺฉยโต อฺโ วินิจฺฉยนโย. นนุ โส จตุธาตุววตฺถาเน วุตฺโต, น รูปกฺขนฺธนิทฺเทเสติ? ตตฺถ วุตฺเตปิ ‘‘จตุธาตุววตฺถาเน วุตฺตานี’’ติ อติเทสวเสน วุตฺตตฺตา ‘‘รูปกฺขนฺธนิทฺเทเส วุตฺโต’’ติ วุตฺตํ. อุปาทายาติ ปฏิจฺจ. ภูตานิ หิ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชมานํ อุปาทารูปํ ‘‘ตานิ คเหตฺวา’’ติ วุตฺตํ อวิสฺสชฺชนโต. นิสฺสายาติปิ เอเก เตสํ นิสฺสยปจฺจยภาวโต. ปุพฺพกาลกิริยา นาม เอกํสโต อปรกาลกิริยาเปกฺขาติ ปาเสเสน อตฺถํ วทติ. วิภตฺติวิปลฺลาเสน วินา เอว อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมูหตฺเถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมูหสมฺพนฺเธ สามินิทฺเทเสน สมูหตฺโถ ทีปิโตติ ตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สมูหํ อุปาทายา’’ติ. ธมฺมสงฺคณิยํ (ธ. ส. ๕๘๔) อาคตนเยน ‘‘เตวีสติวิธ’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ หิ หทยวตฺถุ น นิทฺทิฏฺํ, ‘‘ยํ รูปํ นิสฺสายา’’ติ วา ปฏฺาเน (ปฏฺาน. ๑.๑.๘) อาคตตฺตา หทยวตฺถุมฺปิ คเหตฺวา ชาติรูปภาเวน อุปจยสนฺตติโย เอกโต กตฺวา ‘‘เตวีสติวิธ’’นฺติ วุตฺตํ.

จกฺขุสฺส วิฺาณนฺติ วา จกฺขุวิฺาณํ. อสาธารณการเณน จายํ นิทฺเทโส. ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ เอตฺถ สพฺพโลกิยวิปากวิฺาณสฺส คเหตพฺพตฺตา ‘‘เตภูมกวิปากจิตฺตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ วุตฺตํ.

อภิสงฺขรณลกฺขโณติ อายูหนสภาโว. โจปนวเสนาติ วิฺตฺติสํโจปนวเสน, กายวิฺตฺติยา สมุฏฺาปนวเสนาติ อตฺโถ. วจนเภทวเสนาติ วจีเภทุปฺปาทวเสน, วจีวิฺตฺติยา สมุฏฺาปนวเสนาติ อตฺโถ. เอวํ โจปนํ น ภเวยฺยาติ ทสฺเสตุํ ‘‘รโห นิสีทิตฺวา จินฺเตนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ. เอกูนตึสาติ เอตฺถ อภิฺาเจตนาวินิมุตฺตา เอว เอกูนตึส เจตนา เวทิตพฺพา ตสฺสา วิปากวิฺาณสฺส ปจฺจยตฺตาภาวโต.

ทุกฺเขติ เอกมฺปิ อิทํ ภุมฺมวจนํ สํสิเลสนนิสฺสยวิสยพฺยาปนวเสน อตฺตานํ ภินฺทิตฺวา วินิโยคํ คจฺฉตีติ ‘‘จตูหิ การเณหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอโกปิ หิ วิภตฺตินิทฺเทโส อเนกธา วินิโยคํ คจฺฉติ ยถา ตทฺธิตตฺเถ อุตฺตรปทสมาหาเรติ. นฺติ อฺาณํ. ทุกฺขสจฺจนฺติ หทยวตฺถุลกฺขณํ ทุกฺขสจฺจํ. อสฺสาติ อฺาณสฺส. นิสฺสยปจฺจยภาเวนาติ ปุเรชาตนิสฺสยภาเวน. สหชาตนิสฺสยปจฺจยภาเวน ปน ตํสหชาตา ผสฺสาทโย วตฺตพฺพา. อารมฺมณปจฺจยภาเวน ทุกฺขสจฺจํ อสฺส อารมฺมณนฺติ โยชนา. ทุกฺขสจฺจนฺติ อุปโยคเอกวจนํ . เอตนฺติ อฺาณํ. ตสฺสาติ ทุกฺขสจฺจสฺส. ‘‘ปฏิจฺฉาเทตี’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ ปฏิจฺฉาทนาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยาถาวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตนปิ เอกเทเสน ยาถาวโต ลกฺขณปฏิเวโธ โหติเยวาติ ‘‘ยาถาวลกฺขณปฏิเวธนิวารเณนา’’ติ วตฺวา ‘‘าณปวตฺติยา เจตฺถ อปฺปทาเนนา’’ติ วุตฺตนฺติ วทนฺติ. ปุริมํ ปน ปฏิเวธาณุปฺปตฺติยา นิเสธกถาทสฺสนํ, ปจฺฉิมํ อนุโพธาณุปฺปตฺติยา. เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถาติ ทุกฺขสจฺเจ.

สหชาตสฺส อฺาณสฺส สมุทยสจฺจํ วตฺถุ โหติ นิสฺสยปจฺจยภาวโตติ วุตฺตํ ‘‘วตฺถุโต’’ติ. อารมฺมณโตติ อารมฺมณปจฺจยภาเวน. ยสฺมา สมุทยสจฺจํ อฺาณสฺส อารมฺมณํ โหติ, ตสฺมา ‘‘ทุกฺขสมุทเย อฺาณ’’นฺติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ปฏิจฺฉาทนํ ทุกฺขสจฺเจ วุตฺตนยเมว เอเกเนว การเณน อิตเรสํ ติณฺณํ อสมฺภวโต, กึ ปน เอตํ เอกํ การณนฺติ อาห ‘‘ปฏิจฺฉาทนโต’’ติ. อิทํ วิตฺถารโต วิภาเวตุํ ‘‘นิโรธปฏิปทานํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตทารพฺภาติ ตํ อารพฺภ ตํ อารมฺมณํ กตฺวา. ปจฺฉิมฺหิ สจฺจทฺวยนฺติ นิโรโธ มคฺโค. ตฺหิ นยคมฺภีรตฺตา. ทุทฺทสนฺติ สณฺหสุขุมธมฺมตฺตา สภาเวเนว คมฺภีรตาย ทุทฺทสํ ทุวิฺเยฺยํ ทุรวคฺคาหํ. ตตฺถาติ ปุริเม สจฺจทฺวเย. อนฺธภูตนฺติ อนฺธการภูตํ. น ปวตฺตติ อารมฺมณํ กาตุํ น วิสหติ. วจนียตฺเตนาติ วาจกภาเวน ตถา อุปฏฺานโต. สภาวลกฺขณสฺส ทุทฺทสตฺตาติ ปีฬนาทิอายูหนาทิวเสน ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, อยํ สมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๔๘๔; ๓.๑๐๔) ยาถาวโต สภาวลกฺขณสฺส ทุทฺทสตฺตา ทุวิฺเยฺยตฺตา ปุริมทฺวยํ คมฺภีรํ. ตตฺถาติ ปุริมสฺมึ สจฺจทฺวเย. วิปลฺลาสคฺคาหวเสน ปวตฺตตีติ สุภาทิวิปรีตคฺคาหานํ ปจฺจยภาววเสน อฺาณํ ปวตฺตติ.

อิทานิ ‘‘ทุกฺเข อฺาณ’’นฺติอาทีสุ ปการนฺตเรนปิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทุกฺเขติ เอตฺตาวตาติ ‘‘อฺาณนฺติ วุจฺจมานาย อวิชฺชาย ทุกฺเข’’ติ เอตฺตเกน. สงฺคหโตติ สโมธานโต. กิจฺจโตติ อสมฺปฏิเวธกิจฺจโต. อฺาณมิวาติ วิสยสภาวํ ยาถาวโต ปฏิวิชฺฌิตุํ อปฺปทานกิจฺจมิว. ‘‘ทุกฺเข’’ติอาทินา ตตฺถ อวิชฺชา ปวตฺตติ, วิเสสโต นิทฺทิฏฺํ โหตีติ กตฺวา สพฺพตฺเถว ตถา อวิสิฏฺสภาวทสฺสนํ อิทนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อวิเสสโต ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ขณิกนิโรธสฺส อิธ อนธิปฺเปตตฺตา อยุชฺชมานตฺตา วิราคคฺคหณโต จ อวิชฺชาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน ปฏิพาหนํ อิธ ‘‘นิโรโธ’’ติ อธิปฺเปโต, โส จ เนสํ สพฺพโส อนุปฺปชฺชนเมวาติ อาห ‘‘นิโรโธ โหตีติ อนุปฺปาโท โหตี’’ติ. ‘‘อวิชฺชา นิรุชฺฌติ เอตฺถาติ อวิชฺชานิโรโธ, สงฺขารา นิรุชฺฌนฺติ เอตฺถาติ สงฺขารนิโรโธ’’ติ เอวํ สพฺเพหิ เอเตหิ นิโรธปเทหิ นิพฺพานสฺส เทสิตตฺตา ทฏฺพฺพา. เตนาห ‘‘นิพฺพานํ หี’’ติอาทิ. วฏฺฏวิวฏฺฏนฺติ วฏฺฏฺจ วิวฏฺฏฺจ. ‘‘ทฺวาทสหี’’ติ อิทํ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ ‘‘อนุโลมโต ทฺวาทสหิ ปเทหิ วฏฺฏํ, ปฏิโลมโต ทฺวาทสหิ วิวฏฺฏํ อิธ ทสฺสิต’’นฺติ.

วิภงฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปฏิปทาสุตฺตวณฺณนา

. มิจฺฉา ปฏิปชฺชติ เอตายาติ มิจฺฉาปฏิปทา, วฏฺฏคามิมคฺโค ทุกฺขาวหตฺตา. ตํ มิจฺฉาปฏิปทํ. เตนาห ‘‘อนิยฺยานิกปฏิปทา’’ติ. โส ปุฺาภิสงฺขาโร กถํ มิจฺฉาปฏิปทา โหตีติ? สมฺปตฺติภเว สุขาวโหว โหตีติ อธิปฺปาโย. วฏฺฏสีสตฺตาติ วฏฺฏปกฺขิยานํ อุตฺตมงฺคภาวโต. อนฺตมโสติ อุกฺกํสปริยนฺตํ สนฺธาย วทติ อวกํสปริยนฺตโต. ‘‘อิทํ เม ปุฺํ นิพฺพานาธิคมาย ปจฺจโย โหตู’’ติ เอวํ นิพฺพานํ ปตฺเถตฺวา ปวตฺติตํ. ปณฺณมุฏฺิทานมตฺตนฺติ สากปณฺณมุฏฺิทานมตฺตํ. อปฺปตฺวาติ อนฺโตคธเหตุ เอส นิทฺเทโส, อปาเปตฺวาติ อตฺโถ. ยทคฺเคน วา ปฏิปชฺชนโต อรหตฺตํ ปตฺโตติ วุจฺจติ, ตทคฺเคน ตทาวหา ปฏิปทาปิ ปตฺตาติ วุจฺจตีติ ‘‘อปฺปตฺวา’’ติ วุตฺตํ. อนุโลมวเสนาติ อนุโลมปฏิจฺจสมุปฺปาทวเสน. ปฏิโลมวเสนาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปฏิปทา ปุจฺฉิตาติ เอเตน ปฏิปทา เทเสตุํ อารทฺธาติ อยมฺปิ อตฺโถ สงฺคหิโต ยถารทฺธสฺส อตฺถสฺส กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาย อิธาคตตฺตา. อนุโลมปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนายมฺเปตฺถ พฺยติเรกมุเขน อวิชฺชาทินิโรธา ปน วิชฺชาย สติ โหติ สงฺขารานํ อสมฺภโวติ วุตฺตํ ‘‘นิพฺพานํ ภาชิต’’นฺติ. สรูเปน ปน ตาย วฏฺฏเมว ปกาสิตํ. วกฺขติ หิ ปริโยสาเน ‘‘วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิต’’นฺติ. นิยฺยาตเนติ นิคมเน. ผเลนาติ ปตฺตพฺพผเลน ปฏิปทาย สมฺปาปกเหตุโน ทสฺสิตตฺตา. ยถา หิ ติวิโธ เหตุ าปโก, นิพฺพตฺตโก, สมฺปาปโกติ, เอวํ ติวิธํ ผลํ าเปตพฺพํ, นิพฺพตฺเตตพฺพํ, สมฺปาเปตพฺพนฺติ. ตสฺมา ปตฺตพฺพผเลน นิพฺพาเนน ตํสมฺปาปกเหตุภูตาย ปฏิปทาย ทสฺสิตตฺตาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ผเลน เหตฺถา’’ติอาทิ. อยํ วุจฺจตีติ เอวํ นิพฺพานผลา อยํ ‘‘สมฺมาปฏิปทา’’ติ วุจฺจติ. อเสสวิราคา อเสสนิโรธาติ สมุจฺเฉทปฺปหานวเสน อวิชฺชาย อเสสวิรชฺชนโต อเสสนิรุชฺฌนโต จ. ปททฺวเยนปิ อนุปฺปาทนิโรธเมว วทติ. ตฺหิ นิพฺพานํ. ทุติยวิกปฺเป อยํ เอตฺถ อธิปฺปาโย – เยน มคฺเคน กรณภูเตน อเสสนิโรโธ โหติ, อวิชฺชาย อเสสนิโรโธ ยํ อาคมฺม โหติ, ตํ มคฺคํ ทสฺเสตุนฺติ. เอวฺหิ สตีติ เอวํ ปทภาชนสฺส นิพฺพานสฺส ปทตฺเถ สติ. สานุภาวา ปฏิปทา วิภตฺตา โหตีติ อวิชฺชาย อเสสนิโรธเหตุปฏิปทา ตตฺถ สาติสยสามตฺถิยสมาโยคโต สานุภาวา วิภตฺตา โหติ. มิจฺฉาปฏิปทาคหเณเนตฺถ วฏฺฏสฺสปิ วิภตฺตตฺตา วุตฺตํ ‘‘วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิต’’นฺติ.

ปฏิปทาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. วิปสฺสีสุตฺตวณฺณนา

. วิปฺผนฺทนฺตีติ นิมิสนวเสน. อนิมิเสหีติ วิคตนิมิเสหิ อุมฺมีลนฺเตเหว. เตน วุตฺตํ มหาปทาเน. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ‘‘วิปสฺสี’’ติ ปเท, เอตสฺมึ วา ‘‘อนิมิเสหี’’ติอาทิเก ยถาคเต สุตฺตนฺเต.

มหาปุริสสฺส อนิมิสโลจนโต ‘‘วิปสฺสี’’ติ สมฺาปฏิลาภสฺส การณํ วุตฺตํ, ตํ อการณํ อฺเสมฺปิ มหาสตฺตานํ จริมภเว อนิมิสโลจนตฺตาติ โจทนํ สนฺธาย ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทึ วตฺวา ตโต ปน อฺเมว การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปลาฬยมานสฺสาติ โตเสนฺตสฺส. อนาทเร เจตํ สามิวจนํ. อฏฺฏสฺสาติ อตฺถสฺส.

ปุฺุสฺสยสงฺขาโต ภโค อสฺส อติสเยน อตฺถีติ ภควาติ ‘‘ภาคฺยสมฺปนฺนสฺสา’’ติ วุตฺตํ. สมฺมาติ สมฺมเทว ยาถาวโต, าเยน การเณนาติ วุตฺตํ โหตีติ อาห ‘‘นเยน เหตุนา’’ติ. สํ-สทฺโท ‘‘สาม’’นฺติ อิมินา สมานตฺโถติ อาห ‘‘สามํ ปจฺจตฺตปุริสกาเรนา’’ติ, สยมฺภุาเณนาติ อตฺโถ. สมฺมา, สามํ พุชฺฌิ เอเตนาติ สมฺโพโธ วุจฺจติ มคฺคาณํ, ‘‘พุชฺฌติ เอเตนา’’ติ กตฺวา อิธ สพฺพฺุตฺาณสฺสปิ สงฺคโห. โพธิมา สตฺโต โพธิสตฺโต, ปุริมปเท อุตฺตรปทโลโป ยถา ‘‘สากปตฺถโว’’ติ. พุชฺฌนกสตฺโตติ เอตฺถ มหาโพธิยานปฏิปทาย พุชฺฌตีติ โพธิ จ โส สตฺตวิเสสโยคโต สตฺโต จาติ โพธิสตฺโต. ปตฺถยมาโน ปวตฺตตีติ ‘‘กุทาสฺสุ นาม มหนฺตํ โพธึ ปาปุณิสฺสามี’’ติ สฺชาตจฺฉนฺโท ปฏิปชฺชติ. ทุกฺขนฺติ ชาติอาทิมูลกํ ทุกฺขํ. กามํ จุตุปปาตาปิ มรณชาติโย, ‘‘ชายติ มียตี’’ติ ปน วตฺวา ‘‘จวติ อุปปชฺชตี’’ติ วจนํ น เอกภวปริยาปนฺนานํ เตสํ คหณํ, อถ โข นานาภวปริยาปนฺนานํ เอกชฺฌํ คหณนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อิทํ…เป… วุตฺต’’นฺติ. ตสฺส นิสฺสรณนฺติ ตสฺส ชรามรณสฺส นิสฺสรณนฺติ วุจฺจติ. ยสฺมา มหาสตฺโต ชิณฺณพฺยาธิมเต ทิสฺวา ปพฺพชิโต, ตสฺมาสฺส ชรามรณเมว อาทิโต อุปฏฺาสิ.

อุปายมนสิกาเรนาติ อุปาเยน วิธินา าเยน มนสิกาเรน ปเถน มนสิการสฺส ปวตฺตนโต. สมาโยโค อโหสีติ ยาถาวโต ปฏิวิชฺฌนวเสน สมาคโม อโหสิ. โยนิโส มนสิการาติ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนนฺติ ตสฺส ‘‘โยนิโส มนสิกาเรนา’’ติ เหตุมฺหิ กรณวจเนน อาห. ชาติยา โข สติ ชรามรณนฺติ ‘‘กิมฺหิ นุ โข สติ ชรามรณํ โหติ, กึ ปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ ชรามรเณ การณํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺส โพธิสตฺตสฺส ‘‘ยสฺมึ สติ ยํ โหติ, อสติ จ น โหติ, ตํ ตสฺส การณ’’นฺติ เอวํ อพฺยภิจารชาติการณปริคฺคณฺหเนน ‘‘ชาติยา โข สติ ชรามรณํ โหติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ ยา ชรามรณสฺส การณปริคฺคาหิกา ปฺา อุปฺปชฺชิ, ตาย อุปฺปชฺชนฺติยา จสฺส อภิสมโย ปฏิเวโธ อโหสีติ อตฺโถ.

อิตีติ วุตฺตปฺปการปรามสนํ. หีติ นิปาตมตฺตํ. อิทนฺติ ยถาวุตฺตสฺส วฏฺฏสฺส ปจฺจกฺขโต คหณํ. เตนาห ‘‘เอวมิท’’นฺติ. อิธ อวิชฺชาย สมุทยสฺส อาคตตฺตา ‘‘เอกาทสสุ าเนสู’’ติ วุตฺตํ. สมุทยํ สมฺปิณฺเฑตฺวาติ สงฺขาราทีนํ สมุทยํ เอกชฺฌํ คเหตฺวา. อเนกวารฺหิ สมุทยทสฺสนวเสน าณสฺส ปวตฺตตฺตา ‘‘สมุทโย สมุทโย’’ติ อาเมฑิตวจนํ. อถ วา ‘‘เอวํ สมุทโย โหตี’’ติ อิทํ น เกวลํ นิพฺพตฺติทสฺสนปรํ, อถ โข ปฏิจฺจสมุปฺปาทสทฺโท วิย ปฏิจฺจสมุปฺปาทมุเขน อิธ สมุทยสทฺโท นิพฺพตฺติมุเขน ปจฺจยตฺตํ วทติ. วิฺาณาทโย จ ยาวนฺโต อิธ ปจฺจยธมฺมา นิทฺทิฏฺา, เต สามฺรูเปน พฺยาปนิจฺฉาวเสน คณฺหนฺโต ‘‘สมุทโย สมุทโย’’ติ อโวจ. เตนาห ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารานํ สมุทโย โหตี’’ติ. ทสฺสนฏฺเน จกฺขูติ สมุทยสฺส ปจฺจกฺขโต ทสฺสนภาโว จกฺขุ. าตฏฺเนาติ าตภาเวน. ปชานนฏฺเนาติ ‘‘อวิชฺชาสงฺขาราทิตํตํปจฺจยธมฺมปวตฺติยา เอตสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย’’ติ ปการโต วา ชานนฏฺเน. ปฏิเวธนฏฺเนาติ ‘‘อยํ อวิชฺชาทิ ปจฺจยธมฺโม อิมสฺส สงฺขาราทิกสฺส ปจฺจยภาวโต สมุทโย’’ติ ปฏิวิชฺฌนฏฺเน. โอภาสนฏฺเนาติ สมุทยภาวปฏิจฺฉาทกสฺส โมหนฺธการสฺส กิเลสนฺธการสฺส วิธมนวเสน อวภาสนวเสน. ตํ ปเนตํ ‘‘จกฺขุ’’นฺติอาทินา วุตฺตํ าณํ. นิโรธวาเรติ ปฏิโลมวาเร. โส หิ ‘‘กิสฺส นิโรธา ชรามรณนิโรโธ’’ติ นิโรธกิตฺตนวเสน อาคโต.

วิปสฺสีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๑๐. สิขีสุตฺตาทิวณฺณนา

๕-๑๐. เอวํ โยเชตฺวาติ ‘‘สิขิสฺสปี’’ติอาทินา สมุจฺจยวเสน เอวํ น โยเชตฺวา. กสฺมาติอาทินา ตตฺถ การณํ วทติ. เอกาสเน อเทสิตตฺตาติ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏํ กาตุํ ‘‘นานาาเนสุ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยทิปิ ตานิ วิสุํ วิสุํ วุตฺตภาเวน เทสิตานิ, อตฺถวณฺณนา ปน เอกสทิสา ตทตฺถสฺส อภินฺนตฺตา. ‘‘พุทฺธา ชาตา’’ติ น อฺโ อาจิกฺขตีติ โยชนา. น หิ มหาโพธิสตฺตานํ ปจฺฉิมภเว ปโรปเทเสน ปโยชนํ อตฺถิ. คตมคฺเคเนวาติ ปฏิปตฺติคมเนน คตมคฺเคเนว ปจฺฉิมมหาโพธิสตฺตา คจฺฉนฺติ, อยเมตฺถ ธมฺมตา. คจฺฉนฺตีติ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ ปติฏฺิตจิตฺตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ยาถาวโต ภาเวตฺวา สมฺมาสมฺโพธิยา อภิสมฺพุชฺฌนวเสน ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. ยถา ปน เตสํ ปมวิปสฺสนาภินิเวโส โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพโพธิสตฺตา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. พุทฺธภาวานํ วิปสฺสนา, พุทฺธตฺถาย วา วิปสฺสนา พุทฺธวิปสฺสนา.

สิขีสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

พุทฺธวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อาหารวคฺโค

๑. อาหารสุตฺตวณฺณนา

๑๑. อาหรนฺตีติ อาเนนฺติ อุปฺปาเทนฺติ, อุปตฺถมฺเภนฺตีติ อตฺโถ. นิพฺพตฺตาติ ปสุตา. ภูตา นาม ยสฺมา ตโต ปฏฺาย โลเก ชาตโวหาโร ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปน ปฏฺาย ยาว มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺโต, ตาว สมฺภเวสิโน, เอส ตาว คพฺภเสยฺยเกสุ ภูตสมฺภเวสิวิภาโค, อิตเรสุ ปน ปมจิตฺตาทิวเสน วุตฺโต. สมฺภว-สทฺโท เจตฺถ คพฺภเสยฺยกานํ วเสน ปสูติปริยาโย, อิตเรสํ วเสน อุปฺปตฺติปริยาโย. ปมจิตฺตปมอิริยาปถกฺขเณสุ หิ เต สมฺภวํ อุปฺปตฺตึ เอสนฺติ อุปคจฺฉนฺติ นาม, น ตาว ภูตา อุปปตฺติยา น สุปฺปติฏฺิตตฺตา, ภูตา เอว สพฺพโส ภเวสนาย สมุจฺฉินฺนตฺตา. น ปุน ภวิสฺสนฺตีติ อวธารเณน นิวตฺติตมตฺถํ ทสฺเสติ. โย จ ‘‘กาลฆโส ภูโต’’ติอาทีสุ ภูต-สทฺทสฺส ขีณาสววาจิตา ทฏฺพฺพา. วา-สทฺโท เจตฺถ สมฺปิณฺฑนตฺโถ ‘‘อคฺคินา วา อุทเกน วา’’ติอาทีสุ วิย.

ยถาสกํ ปจฺจยภาเวน อตฺตภาวสฺส ปปนเมเวตฺถ อาหาเรหิ กาตพฺพอนุคฺคโห โหตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘วจนเภโท…เป… เอโก เยวา’’ติ. สตฺตสฺส อุปฺปนฺนธมฺมานนฺติ สตฺตสฺส สนฺตาเน อุปฺปนฺนธมฺมานํ. ยถา ‘‘วสฺสสตํ ติฏฺตี’’ติ วุตฺเต อนุปฺปพนฺธวเสน ปวตฺตตีติ วุตฺตํ โหติ, เอวํ ิติยาติ อนุปฺปพนฺธวเสน ปวตฺติยาติ อตฺโถ, สา ปน อวิจฺเฉโทติ อาห ‘‘อวิจฺเฉทายา’’ติ. อนุปฺปพนฺธธมฺมุปฺปตฺติยา สตฺตสนฺตาโน อนุคฺคหิโต นาม โหตีติ อาห ‘‘อนุปฺปนฺนานํ อุปฺปาทายา’’ติ. เอตานีติ ิติอนุคฺคหปทานิ. อุภยตฺถ ทฏฺพฺพานิ น ยถาสมฺพนฺธโต.

วตฺถุคตา โอชา วตฺถุ วิย เตน สทฺธึ อชฺโฌหริตพฺพตํ คจฺฉตีติ วุตฺตํ ‘‘อชฺโฌหริตพฺพโก อาหาโร’’ติ, นิพฺพตฺติตโอชํ ปน สนฺธาย ‘‘กพฬีกาโร อาหาโร โอชฏฺมกรูปานิ อาหรตี’’ติ วกฺขติ. โอฬาริกตา อปฺโปชตาย น วตฺถุโน ถูลตาย กถินตาย วา, ตสฺมา ยสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปริตฺตา โอชา โหติ, ตํ โอฬาริกํ. สปฺปาทโย ทุกฺขุปฺปาทกตาย โอฬาริกา เวทิตพฺพา. วิสาณาทีนํ ติวสฺสฉฑฺฑิตานํ ปูติภูตตฺตา มุทุกตาติ วทนฺติ. ตรจฺฉเขฬเตมิตตาย ปน ตถาภูตานํ เตสํ มุทุกตา. ธมฺมสภาโว เหส. สสานํ อาหาโร สุขุโม ตรุณติณสสฺสขาทนโต. สกุณานํ อาหาโร สุขุโม ติณพีชาทิขาทนโต. ปจฺจนฺตวาสีนํ อาหาโร สุขุโม มาสมุคฺคกุราทิโภชนตฺตา. เตสนฺติ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ. สุขุโมตฺเววาติ น กิฺจิ อุปาทาย, อถ โข สุขุโมอิจฺเจว นิฏฺํ ปตฺโต ตโต ปรมสุขุมสฺส อภาวโต.

วตฺถุวเสน ปเนตฺถ อาหารสฺส โอฬาริกสุขุมตา วุตฺตา, สา จสฺส อปฺโปชมโหชตาหิ เวทิตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิมาห. ปริสฺสยนฺติ ขุทาวเสน อุปฺปนฺนํ วิหึสํ สรีรทรถํ. วิโนเทตีติ วตฺถุ ตสฺส วิโนทนมตฺตํ กโรติ. น ปน สกฺโกติ ปาเลตุนฺติ สรีรํ ยาเปตุํ นปฺปโหติ นิโรชตฺตา. น สกฺโกติ ปริสฺสยํ วิโนเทตุํ อามาสยสฺส อปูรณโต.

ฉพฺพิโธปีติ อิมินา กสฺสจิ ผสฺสสฺส อนวเสสิตพฺพตมาห. เทสนกฺกเมเนเวตฺถ ผสฺสาทีนํ ทุติยาทิตา, น อฺเน การเณนาติ อาห ‘‘เทสนานโย เอว เจสา’’ติอาทิ. มนโส สฺเจตนา น สตฺตสฺสาติ ทสฺสนตฺถํ มโนคหณํ ยถา ‘‘จิตฺตสฺส ิติ, เจโตวิมุตฺติ จา’’ติ อาห ‘‘มโนสฺเจตนาติ เจตนาวา’’ติ. จิตฺตนฺติ ยํ กิฺจิ จิตฺตเมว. เอกราสึ กตฺวาติ เอกชฺฌํ คเหตฺวา วิภาคํ อกตฺวา, สามฺเน คหิตาติ อตฺโถ. ตตฺถ ลพฺภมานํ อุปาทิณฺณกาทิวิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘กพฬีกาโร อาหาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. อาหารตฺถํ น สาเธนฺตีติ ตาทิสสฺส อาหารสฺส อนาหรณโต. ตทาปีติ ภิชฺชิตฺวา วิคตกาเลปิ. อุปาทิณฺณกาหาโรติ วุจฺจนฺตีติ เกจิ. อิทํ ปน อาจริยานํ น รุจฺจติ ตทา อุปาทิณฺณกรูปสฺเสว อภาวโต. ปฏิสนฺธิจิตฺเตเนว สหชาตาติ ลกฺขณวจนเมตํ, สพฺพายปิ กมฺมชรูปปริยาปนฺนาย โอชาย อตฺถิภาวสฺส อวิจฺเฉทปฺปวตฺติสมฺภวทสฺสนตฺโถ. สตฺตมาติ อุปฺปนฺนทิวสโต ปฏฺาย ยาว สตฺตมทิวสาปิ. รูปสนฺตตึ ปาเลติ ปเวณิฆฏนวเสน. อยเมวาติ กมฺมชโอชา. กมฺมชโอชํ ปน ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนโอชา อกมฺมชตฺตา อนุปาทิณฺณอาหาโรตฺเวว เวทิตพฺโพ. อนุปาทิณฺณกา ผสฺสาทโย เวทิตพฺพาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. โลกุตฺตรา ผสฺสาทโย กถนฺติ อาห ‘‘โลกุตฺตรา ปน รุฬฺหีวเสน กถิตา’’ติ. ยสฺมา เตสํ กุสลานํ อุเปตปริยาโย นตฺถิ, ตสฺมา วิปากานํ อุปาทิณฺณปริยาโย นตฺเถวาติ อนุปาทิณฺณปริยาโยปิ รุฬฺหีวเสน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

ปุพฺเพ ‘‘อาหาราติ ปจฺจยา’’ติ วุตฺตตฺตา ยทิ ปจฺจยฏฺโ อาหารฏฺโติอาทินา โจเทติ, อถ กสฺมา อิเม เอว จตฺตาโร วุตฺตาติ อถ กสฺมา จตฺตาโรว วุตฺตา. อิเม เอว จ วุตฺตาติ โยชนา. วิเสสปฺปจฺจยตฺตาติ เอเตน ยถา อฺเ ปจฺจยธมฺมา อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ปจฺจยาว โหนฺติ, อิเม ปน ตถา จ โหติ อฺถา จาติ สมาเนปิ ปจฺจยตฺเต อติเรกปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘อาหาราติ วุตฺตา’’ติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. อิทานิ ตํ อติเรกปจฺจยตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิเสสปจฺจโย หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิเสสปฺปจฺจโย รูปกายสฺส กพฬีกาโร อาหาโร อุปถมฺภกภาวโต. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘รูปารูปานํ อุปถมฺภกตฺเตน อุปการกา จตฺตาโร อาหารา อาหารปจฺจโย’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๐๘; ปฏฺา. อฏฺ. ปจฺจยุทฺเทสวณฺณนา). อุปถมฺภกตฺตฺหิ สตีปิ ชนกตฺเต อรูปีนํ อาหารานํ อาหารชรูปสมุฏฺานกรูปาหารสฺส จ โหติ, อสติ ปน อุปถมฺภกตฺเต อาหารานํ ชนกตฺตํ นตฺถีติ อุปถมฺภกตฺตํ ปธานํ. ชนยมาโนปิ หิ อาหาโร อวิจฺเฉทวเสน อุปถมฺภยมาโน เอว ชเนตีติ อุปถมฺภกภาโว เอว อาหารภาโว. เวทนาย ผสฺโส วิเสสปจฺจโย. ‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติ หิ วุตฺตํ. ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ วจนโต วิฺาณสฺส มโนสฺเจตนา. ‘‘เจตนา ติวิธํ ภวํ ชเนตี’’ติ หิ วุตฺตํ. ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ ปน วจนโต นามรูปสฺส วิฺาณํ วิเสสปจฺจโย. น หิ โอกฺกนฺตวิฺาณาภาเว นามรูปสฺส อตฺถิ สมฺภโว. ยถาห ‘‘วิฺาณฺจ หิ, อานนฺท, มาตุกุจฺฉิสฺมึ น โอกฺกมิสฺสถ, อปิ นุ โข นามรูปํ มาตุกุจฺฉิสฺมึ สมุจฺจิสฺสถา’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๑๑๕). วุตฺตเมวตฺถํ สุตฺเตน สาเธตุํ ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

เอวํ ยทิปิ ปจฺจยตฺโถ อาหารตฺโถ, วิเสสปจฺจยตฺตา ปน อิเมว อาหาราติ วุตฺตาติ ตํ เนสํ วิเสสปจฺจยตํ อวิภาคโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘โก ปเนตฺถา’’ติอาทิ อารทฺธํ. มุเข ปิตมตฺโต เอว อสงฺขาทิโต, ตตฺตเกนาปิ อพฺภนฺตรสฺส อาหารสฺส ปจฺจโย โหติ เอว. เตนาห ‘‘อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปตี’’ติ. สุขเวทนาย หิโต สุขเวทนีโย. สพฺพถาปีติ จกฺขุสมฺผสฺสาทิวเสน. ยตฺตกา ผสฺสสฺส ปการเภทา, เตสํ วเสน สพฺพปฺปกาโรปิ ผสฺสาหาโร ยถารหํ ติสฺโส เวทนา อาหรติ, อนาหารโก นตฺถิ.

สพฺพถาปีติ อิธาปิ ผสฺสาหาเร วุตฺตนยานุสาเรน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ติสนฺตติวเสนาติ กายทสกํ ภาวทสกํ วตฺถุทสกนฺติ ติวิธสนฺตติวเสน. สหชาตาทิปจฺจยนเยนาติ สหชาตาทิปจฺจยวิธินา. ปฏิสนฺธิวิฺาณฺหิ อตฺตนา สหชาตนามสฺส สหชาตอฺมฺวิปากินฺทฺริยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ ปจฺจโย โหนฺโตเยว อาหารปจฺจยตาย ตํ อาหาเรติ วุตฺตํ, สหชาตรูเปสุ ปน วตฺถุโน สมฺปยุตฺตปจฺจยํ เปตฺวา วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน, เสสรูปานํ อฺมฺปจฺจยฺจ เปตฺวา อิตเรสํ ปจฺจยานํ วเสน โยชนา กาตพฺพา. ตานีติ นปุํสกนิทฺเทโส อนปุํสกานมฺปิ นปุํสเกหิ สห วจนโต. สาสวกุสลากุสลเจตนาว วุตฺตา วิเสสปจฺจยภาวทสฺสนํ เหตนฺติ, เตนาห ‘‘อวิเสเสน ปนา’’ติอาทิ. ปฏิสนฺธิวิฺาณเมว วุตฺตนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ยถา ตสฺส ตสฺส ผลสฺส วิเสสโต ปจฺจยตาย เอเตสํ อาหารตฺโถ, เอวํ อวิเสสโตปีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อวิเสเสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตํสมฺปยุตฺตตํสมุฏฺานธมฺมานนฺติ เตหิ ผสฺสาทีหิ สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว ตํสมุฏฺานรูปธมฺมานฺจ. ตตฺถ สมฺปยุตฺตคฺคหณํ ยถารหโต ทฏฺพฺพํ, สมุฏฺานคฺคหณํ ปน อวิเสสโต.

อุปตฺถมฺเภนฺโต อาหารกิจฺจํ สาเธตีติ อุปตฺถมฺเภนฺโต เอว รูปํ สมุฏฺาเปติ, โอชฏฺมกสมุฏฺาปเนเนว ปนสฺส อุปถมฺภนกิจฺจสิทฺธิ. ผุสนฺโตเยวาติ ผุสนกิจฺจํ กโรนฺโต เอว. อายูหมานาวาติ เจตยมานา เอว อภิสนฺทหนฺตี เอว. วิชานนฺตเมวาติ อุปปตฺติปริกปฺปนวเสน วิชานนฺตเมว อาหารกิจฺจํ สาเธตีติ โยชนา. สพฺพตฺถ อาหารกิจฺจสาธนฺจ เตสํ เวทนาทิอุปฺปตฺติเหตุตาย อตฺตภาวสฺส ปวตฺตนเมว. กายฏฺปเนนาติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ กมฺมชาทิรูปํ กมฺมาทินาว ปวตฺตตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘กมฺมชนิโตปี’’ติอาทิ.

อุปาทิณฺณรูปสนฺตติยา อุปตฺถมฺภเนเนว อุตุจิตฺตชรูปสนฺตตีนมฺปิ อุปตฺถมฺภนสิทฺธิ โหตีติ ‘‘ทฺวินฺนํ รูปสนฺตตีน’’นฺติ วุตฺตํ. อุปตฺถมฺภนเมว สนฺธาย ‘‘อนุปาลโก หุตฺวา’’ติ จ วุตฺตํ. รูปกายสฺส ิติเหตุตา หิ ยาปนา อนุปาลนา. สุขาทิวตฺถุภูตนฺติ สุขาทีนํ ปวตฺติฏฺานภูตํ. อารมฺมณมฺปิ หิ วสติ เอตฺถ อารมฺมณกรณวเสน ตทารมฺมณา ธมฺมาติ วตฺถูติ วุจฺจติ. ผุสนฺโตเยวาติ อิทํ ผสฺสสฺส ผุสนสภาวตฺตา วุตฺตํ. น หิ ธมฺมานํ สภาเวน วินา ปวตฺติ อตฺถิ, เวทนาปวตฺติยา วินา สตฺตานํ สนฺธาวนตา นตฺถีติ อาห ‘‘สุขาทิ…เป… โหตี’’ติ. น เจตฺถ สฺีภวกถายํ อสฺีภโว ทสฺเสตพฺโพ, ตสฺสาปิ วา การณภูตเวทนาปวตฺติวเสเนว ิติยา เหตุโน อพฺยาปิตตฺตา, ตถา หิ ‘‘มโนสฺเจตนา…เป… ภวมูลนิปฺผาทนโต สตฺตานํ ิติยา โหตี’’ติ วุตฺตา. ตโต เอว วิฺาณํ วิชานนฺตเมวาติ อุปปตฺติปริกปฺปนวเสน วิชานนฺตเมวาติ วุตฺโตวายมตฺโถ.

จตฺตาริ ภยานิ ทฏฺพฺพานิ อาทีนววิภาวนโต. นิกนฺตีติ นิกามนา, รสตณฺหํ สนฺธาย วทติ. สา หิ กพฬีกาเร อาหาเร พลวตี, เตเนเวตฺถ อวธารณํ กตํ. ภายติ เอตสฺมาติ ภยํ, นิกนฺติเยวภยํ มหานตฺถเหตุโต. อุปคมนํ วิสยินฺทฺริยวิฺาเณสุ วิสยวิฺาเณสุ จ สงฺคติวเสน ปวตฺติ, ตํ เวทนาทิอุปฺปตฺติเหตุตาย ‘‘ภย’’นฺติ วุตฺตํ. อวธารเณ ปโยชนํ วุตฺตนยเมว. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. อายูหนํ อภิสนฺทหนํ, สํวิธานนฺติปิ วทนฺติ. ตํ ภวูปปตฺติเหตุตาย ‘‘ภย’’นฺติ วุตฺตํ. อภินิปาโต ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน วิฺาณสฺส นิพฺพตฺติ. โส ภวูปปตฺติเหตุกานํ สพฺเพสํ อนตฺถานํ มูลการณตาย ‘‘ภย’’นฺติ วุตฺตํ. อิทานิ นิกนฺติอาทีนํ สปฺปฏิภยตํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘กึ การณา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ นิกนฺตึ กตฺวาติ อาลยํ ชเนตฺวา, ตณฺหํ อุปฺปาเทตฺวาติ อตฺโถ. สีตาทีนํ ปุรกฺขตาติ สีตาทีนํ ปุรโต ิตา, สีตาทีหิ พาธิยมานาติ อตฺโถ.

ผสฺสํ อุปคจฺฉนฺตาติ จกฺขุสมฺผสฺสาทิเภทํ ผสฺสํ ปวตฺเตนฺตา. ผสฺสสฺสาทิโนติ กายสมฺผสฺสวเสน โผฏฺพฺพสงฺขาตสฺส อสฺสาทนสีลา. กายสมฺผสฺสวเสน หิ สตฺตานํ โผฏฺพฺพตณฺหา ปวตฺตตีติ ทสฺเสตุํ ผสฺสาหาราทีนวทสฺสเน โผฏฺพฺพารมฺมณํ อุทฺธฏํ ‘‘ปเรสํ รกฺขิตโคปิเตสู’’ติอาทินา. ผสฺสสฺสาทิโนติ วา ผสฺสาหารสฺสาทิโนติ อตฺโถ. สติ หิ ผสฺสาหาเร สตฺตานํ ผสฺสารมฺมเณ อสฺสาโท, นาสติ, เตนาห ‘‘ผสฺสสฺสาทมูลก’’นฺติอาทิ.

ชาตินิมิตฺตสฺส ภยสฺส อภินิปาตสภาเวน คหิตตฺตา ‘‘ตมฺมูลก’’นฺติ วุตฺตํ. กมฺมายูหนนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. ภยํ สพฺพนฺติ ปฺจวีสติ, ติวิธมหาภยํ, อฺฺจ สพฺพภยํ อาคตเมว โหติ ภยาธิฏฺานสฺส อตฺตภาวสฺส นิปฺผาทนโต.

อภินิปตตีติ อภินิพฺพตฺตติ. ปมาภินิพฺพตฺติ หิ สตฺตานํ ตตฺถ ตตฺถ องฺคารกาสุสทิเส ภเว อภินิปาตสทิสี. ตมฺมูลกตฺตาติ นามรูปนิพฺพตฺติมูลกตฺตา. สพฺพภยานํ อภินิปาโตเยว ภยํ ภายติ เอตสฺมาติ กตฺวา.

อปฺเปติ วิยาติ ผลสฺส อตฺตลาภเหตุภาวโต การณํ, ตํ นิยฺยาเทติ วิย. นฺติ ผลํ. ตโตติ การณโต. เอเตสนฺติ อาหารานํ . ยถาวุตฺเตนาติ ‘‘ผลํ นิเทตี’’ติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน อตฺเถน. สพฺพปเทสูติ ‘‘เวทนานิโรเธนา’’ติอาทีสุ สพฺเพสุ ปเทสุ.

ปฏิสนฺธึ อาทึ กตฺวาติ ปฏิสนฺธิกฺขณํ อาทึ กตฺวา. อุปาทิณฺณกอาหาเร สนฺธาย ‘‘อตฺตภาวสงฺขาตานํ อาหาราน’’นฺติ วุตฺตํ. เต หิ นิปฺปริยายโต ตณฺหานิทานา. ปริปุณฺณายตนานํ สตฺตานํ สตฺตสนฺตติวเสนาติ ปริปุณฺณายตนานํ สภาวกานํ จกฺขุ โสตํ ฆานํ ชิวฺหา กาโย ภาโว วตฺถูติ อิเมสํ สตฺตนฺนํ สนฺตตีนํ วเสน. เสสานํ อปริปุณฺณายตนานํ อนฺธพธิรอภาวกานํ. อูนอูนสนฺตติวเสนาติ จกฺขุนา, โสเตน, ตทุภเยน, ภาเวน จ อูนอูนสนฺตติวเสน. ปฏิสนฺธิยํ ชาตา ปฏิสนฺธิกา. ปมภวงฺคจิตฺตกฺขณาทีติ อาทิ-สทฺเทน ตทารมฺมณจิตฺตสฺส สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

ตณฺหายปิ นิทานํ ชานาตีติ โยชนา. ตณฺหานิทานนฺติปิ ปาโ. วฏฺฏํ ทสฺเสตฺวาติ สรูปโต นยโต จ สกลเมว วฏฺฏํ ทสฺเสตฺวา. อิทานิ ตมตฺถํ วิตฺถารโต วิภาเวตุํ ‘‘อิมสฺมิฺจ ปน าเน’’ติอาทิมาห. อตีตาภิมุขํ เทสนํ กตฺวาติ ปจฺจุปฺปนฺนภวโต ปฏฺาย อตีตธมฺมาภิมุขํ ตพฺพิสยํ เทสนํ กตฺวา ตถาการเณน. อตีเตน วฏฺฏํ ทสฺเสตีติ อตีตภเวน กมฺมกิเลสวิปากวฏฺฏํ ทสฺเสติ. อตฺตภาโวติ ปจฺจุปฺปนฺโน อตฺตภาโว. ยทิ เอวํ กสฺมา ‘‘อตีเตน วฏฺฏํ ทสฺเสตี’’ติ วุตฺตนฺติ? นายํ โทโส ‘‘อตีเตเนวา’’ติ อนวธารณโต, เอวฺจ กตฺวา อตีตาภิมุขคฺคหณํ ชนกกมฺมํ คหิตํ, ตณฺหาสีเสน นานนฺตริยภาวโต. น หิ กมฺมุนา วินา ตณฺหา ภวเนตฺติ ยุชฺชติ.

ตํ กมฺมนฺติ ตณฺหาสีเสน วุตฺตกมฺมํ. ทสฺเสตุนฺติ ตํ อตีตํ อตฺตภาวํ ทสฺเสตุํ. ตสฺสตฺตภาวสฺส ชนกํ กมฺมนฺติ ตสฺส ยถาวุตฺตสฺส อตฺตภาวสฺส ชนกํ. ตโต ปรมฺปิ อตฺตภาวํ อายูหิตํ กมฺมํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. อวิชฺชา จ นาม ตณฺหา วิย กมฺมตฺตาติ กมฺมสฺเสว คหณํ. ทฺวีสุ าเนสูติ อาหารคฺคหเณน เวทนาทิคฺคหเณนาติ ทฺวีสุ าเนสุ. อตฺตภาโวติ ปจฺจุปฺปนฺนกาลิโก อตีตกาลิโก จ อตฺตภาโว. ปุน ทฺวีสูติ ตณฺหาคฺคหเณ อวิชฺชาสงฺขารคฺคหเณติ ทฺวีสุ าเนสุ. ตสฺส ชนกนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนสฺส เจว อตีตสฺส จ อตฺตภาวสฺส ชนกํ กมฺมํ วุตฺตนฺติ โยชนา . กมฺมคฺคหเณน เจตฺถ ยตฺถ ตํ กมฺมํ อายูหิตํ, สา อตีตา ชาติ อตฺถโต ทสฺสิตา โหติ. เตน สํสารวฏฺฏสฺส อนมตคฺคตํ ทีเปติ. สงฺเขเปนาติ สงฺเขเปน เหตุปฺจกผลปฺจกคฺคหณมฺปิ หิ สงฺเขโป เอว เหตุผลภาเวน สงฺคเหตพฺพธมฺมานํ อเนกวิธตฺตา.

ยทิ อตีเตน วฏฺฏํ ทสฺสิตํ, เอวํ สติ สปฺปเทสา ปฏิจฺจสมุปฺปาทธมฺมเทสนา โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺราย’’นฺติอาทิมาห. เตน หิ ยทิปิ สรูปโต อนาคเตน วฏฺฏํ อิธ น ทสฺสิตํ, นยโต ปน ตสฺสปิ ทสฺสิตตฺตา นิปฺปเทสา เอว ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนาติ ทสฺเสติ. อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุทกปิฏฺเ นิปนฺนนฺติ อุทกํ ปริปฺลววเสน นิปนฺนํ. ปรภาคนฺติ ปรอุตฺตมงฺคภาคํ. โอรโตติ ตโต อปรภาคโต โอโลเกนฺโต. อปริปุณฺโณติ วิกลาวยโว. เอวํสมฺปทนฺติอาทิ อุปมาย สํสนฺทนํ.

ยถา หิ คีวา สรีรสนฺธารกกณฺฑรานํ มูลฏฺานภูตา, เอวํ อตฺตภาวสนฺธารกานํ สงฺขารานํ มูลภูตา ตณฺหาติ วุตฺตํ ‘‘คีวาย ทิฏฺกาโล’’ติ. ยถา เวทนาทิอเนกาวยวสมุทายภูโต อตฺตภาโว, เอวํ ผาสุกปิฏฺิกณฺฑกาทิอเนกาวยวสมุทายภูตา ปิฏฺีติ ‘‘ปิฏฺิยา…เป… ตสฺส ทิฏฺกาโล’’ติ วุตฺตํ. ตณฺหาสงฺขาตนฺติ ตณฺหาย กถิตํ. อิธ เทสนาย ปจฺจยา อวิชฺชาสงฺขารา เวทิตพฺพาติ ‘‘นงฺคุฏฺมูลสฺส ทิฏฺกาโล วิยา’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ ปริโยสาเน ‘‘นงฺคุฏฺมูลํ ปสฺเสยฺยา’’ติ อุปมาทสฺสนํ กตํ. นยโต ปริปุณฺณภาวคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. ปาฬิยํ อนาคตสฺสาปิ ปจฺจยวฏฺฏสฺส เหตุวเสน ผลวเสน วา ปริปุณฺณภาวสฺส มุขมตฺตทสฺสนียตฺตา อาทิโต ผลเหตุสนฺธิ, มชฺเฌ เหตุผลสนฺธิ, อนฺเตปิ ผลเหตุสนฺธีติ เอวํ ติสนฺธิกตฺตา จตุสงฺเขปเมว วฏฺฏํ ทสฺสิตนฺติ.

อาหารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. โมฬิยผคฺคุนสุตฺตวณฺณนา

๑๒. อิมสฺมึเยว าเนติ ‘‘จตฺตาโรเม ภิกฺขุ…เป… อาหารา’’ติ เอวํ จตฺตาโร อาหาเร สรูปโต ทสฺเสตฺวา ‘‘อิเม โข ภิกฺขเว…เป… อนุคฺคหายา’’ติ นิคมนวเสน ทสฺสิเต อิมสฺมึเยว าเน. เทสนํ นิฏฺาเปสิ จตุอาหารวิภาคทีปกํ เทสนํ อุทฺเทสวเสเนว นิฏฺาเปสิ, อุปริ อาวชฺเชตฺวา ตุณฺหี นิสีทิ. ทิฏฺิคติโกติ อตฺตทิฏฺิวเสน ทิฏฺิคติโก. วรคนฺธวาสิตนฺติ สภาวสิทฺเธน จนฺทนคนฺเธน เจว ตทฺนานาคนฺเธน จ ปริภาวิตตฺตา วรคนฺธวาสิตํ . รตนจงฺโกฏวเรนาติ รตนมเยน อุตฺตมจงฺโกฏเกน. เทสนานุสนฺธึ ฆเฏนฺโตติ ยถาเทสิตาย เทสนาย อนุสนฺธึ ฆเฏนฺโต, ยถา อุปริเทสนา วทฺเธยฺย, เอวํ อุสฺสาหํ กโรนฺโต. วิฺาณาหารํ อาหาเรตีติ ตสฺส อาหารณกิริยาย วุตฺตปุจฺฉาย ตํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปาเฏนฺโต ‘‘โย เอตํ…เป… ภุฺชติ วา’’ติ อาห.

วิฺาณาหาเร นาม อิจฺฉิเต ตสฺส อุปภุฺชเกนปิ ภวิตพฺพํ, โส ‘‘โก นุ โข’’ติ อยํ ปุจฺฉาย อธิปฺปาโย. อุตุสมเยติ คพฺภวุฏฺานสมเย. โส หิ อุตุสมยสฺส มตฺตกสมยตฺตา ตถา วุตฺโต. ‘‘อุทเกน อณฺฑานิ มา นสฺสนฺตู’’ติ มหาสมุทฺทโต นิกฺขมิตฺวา. คิชฺฌโปตกา วิย อาหารสฺเจตนาย ตานิ กจฺฉปณฺฑานิ มโนสฺเจตนาหาเรน ยาเปนฺตีติ อยํ ตสฺส เถรสฺส ลทฺธิ. กิฺจาปิ อยํ ลทฺธีติ ผสฺสมโนสฺเจตนาหาเรสุ กิฺจาปิ เถรสฺส ยุตฺตา อยุตฺตา วา อยํ ลทฺธิ. อิมํ ปฺหนฺติ ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, วิฺาณาหารํ อาหาเรตี’’ติ อิมํ ปฺหํ เอตาย ยถาวุตฺตาย ลทฺธิยา น ปน ปุจฺฉติ, อถ โข สตฺตุปลทฺธิยา ปุจฺฉตีติ อธิปฺปาโย. โสติ ทิฏฺิคติโก. น นิคฺคเหตพฺโพ อุมฺมตฺตกสทิสตฺตา อธิปฺปายํ อชานิตฺวา ปุจฺฉาย กตตฺตา. เตนาห ‘‘อาหาเรตีติ นาหํ วทามี’’ติอาทิ.

ตสฺมึ มยา เอวํ วุตฺเตติ ตสฺมึ วจเน มยา ‘‘อาหาเรตี’’ติ เอวํ วุตฺเต สติ. อยํ ปฺโหติ ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, วิฺาณาหารํ อาหาเรตี’’ติ อยํ ปฺโห ยุตฺโต ภเวยฺย. เอวํ ปุจฺฉิเต ปฺเหติ สตฺตุปลทฺธึ อนาทาย ‘‘กตมสฺส ธมฺมสฺส ปจฺจโย’’ติ เอวํ ธมฺมปวตฺตวเสเนว ปฺเห ปุจฺฉิเต. เตเนว วิฺาเณนาติ เตเนว ปฏิสนฺธิวิฺาเณน สห อุปฺปนฺนํ นามฺจ รูปฺจ อตีตภเว ทิฏฺิคติกสฺส วเสน อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺตีติ อิธาธิปฺเปตํ. นามรูเป ชาเต สตีติ นามรูเป นิพฺพตฺเต ตปฺปจฺจยภูตํ ภินฺทิตฺวา สฬายตนํ โหติ.

ตตฺรายํ ปจฺจยวิภาโค – นามนฺติ เวทนาทิขนฺธตฺตยํ อิธาธิปฺเปตํ, รูปํ ปน สตฺตสนฺตติปริยาปนฺนํ, นิยมโต จตฺตาริ ภูตานิ ฉ วตฺถูนิ ชีวิตินฺทฺริยํ อาหาโร จ. ตตฺถ วิปากนามํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ หทยวตฺถุโน สหาโย หุตฺวา ฉฏฺสฺส มนายตนสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตวิปากอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ สตฺตธา ปจฺจโย โหติ. กิฺจิ ปเนตฺถ เหตุปจฺจเยน กิฺจิ อาหารปจฺจเยนาติ เอวํ อุกฺกํสาวกํโส เวทิตพฺโพ. อิตเรสํ ปน ปฺจายตนานํ จตุนฺนํ มหาภูตานํ สหาโย หุตฺวา สหชาตนิสฺสยวิปากวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ฉธา ปจฺจโย โหติ. กิฺจิ ปเนตฺถ เหตุปจฺจเยน กิฺจิ อาหารปจฺจเยนาติ สพฺพํ ปุริมสทิสํ. ปวตฺเต วิปากนามํ วิปากสฺส ฉฏฺายตนสฺส วุตฺตนเยน สตฺตธา ปจฺจโย โหติ, อวิปากํ ปน อวิปากสฺส ฉฏฺสฺส ตโต วิปากปจฺจยํ อปเนตฺวา ปจฺจโย โหติ. จกฺขายตนาทีนํ ปน ปจฺจุปฺปนฺนํ จกฺขุปสาทาทิวตฺถุกมฺปิ อิตรมฺปิ วิปากนามํ ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ จตุธา ปจฺจโย โหติ, ตถา อวิปากมฺปิ เวทิตพฺพํ. รูปโต ปน วตฺถุรูปํ ปฏิสนฺธิยํ ฉฏฺสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ ฉธา ปจฺจโย โหติ. จตฺตาริ ปน ภูตานิ จกฺขายตนาทีนํ ปฺจนฺนํ สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ จตุธา ปจฺจโย โหติ. รูปชีวิตํ อตฺถิอวิคตินฺทฺริยวเสน ติธา ปจฺจโย โหตีติ อยฺเหตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺคโต (วิสุทฺธิ. ๒.๕๙๔) คเหตพฺโพ.

ปฺหสฺส โอกาสํ เทนฺโตติ ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, ผุสตี’’ติ อิมสฺส ทิฏฺิคติกปฺหสฺส โอกาสํ เทนฺโต. ตโต วิเวเจตุกาโมติ อธิปฺปาโย. สพฺพปเทสูติ ทิฏฺิคติเกน ภควตา จ วุตฺตปเทสุ. สตฺโตติ อตฺตา. โส ปน อุจฺเฉทวาทิโนปิ ยาว น อุจฺฉิชฺชติ, ตาว อตฺเถวาติ ลทฺธิ, ปเคว สสฺสตวาทิโน. ภูโตติ วิชฺชมาโน. นิปฺผตฺโตติ นิปฺผนฺโน. น ตสฺส ทานิ นิปฺผาเทตพฺพํ กิฺจิ อตฺถีติ ลทฺธิ. อิทปฺปจฺจยา อิทนฺติ อิมสฺมา วิฺาณาหารปจฺจยา อิทํ นามรูปํ. ปุน อิทปฺปจฺจยา อิทนฺติ อิมสฺมา นามรูปปจฺจยา อิทํ สฬายตนนฺติ เอวํ พหูสุ าเนสุ ภควตา กถิตตฺตา ยถา ปจฺจยโต นิพฺพตฺตํ สงฺขารมตฺตมิทนฺติ สฺตฺตึ อุปคโต. เตนาปีติ สฺตฺตุปคเตนาปิ. เอกาพทฺธํ กตฺวาติ ยถา ปุจฺฉาย อวสโร น โหติ, ตถา เอกาพทฺธํ กตฺวา. เทสนารุฬฺหนฺติ ยโต สฬายตนปทโต ปฏฺาย ‘‘สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติอาทินา เทสนา ปฏิจฺจสมุปฺปาทวีถึ อารุฬฺหเมว. ตเมวาติ สฬายตนปทเมว คเหตฺวา. วิวชฺเชนฺโตติ วิวฏฺเฏนฺโต. เอวมาหาติ ‘‘ฉนฺนํตฺเววา’’ติอาทิอากาเรน เอวํ เทสิเต, ‘‘วิเนยฺยชโน ปฏิวิชฺฌตี’’ติ เอวมาห. วิฺาณาหาโร อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติยาติ เอวํ ปุริมภวโต อายติภวสฺส ปจฺจยวเสน มูลการณวเสน จ เทสิตตฺตา ‘‘วิฺาณนามรูปานํ อนฺตเร เอโก สนฺธี’’ติ วุตฺตํ. ตทมินา วิฺาณคฺคหเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺสาปิ คหณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

โมฬิยผคฺคุนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สมณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๑๓. เย ปจฺจยสมวาเย เตนตฺตภาเวน สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌิตุํ สมตฺถา, เต พาหิรกลิงฺเค ิตาปิ เตเนว ตตฺถ สมตฺถตาโยเคน ภาวินํ สมิตพาหิตปาปตํ อเปกฺขิตฺวา สมณสมฺมตาเยว พฺราหฺมณสมฺมตาเยวาติ เต นิวตฺเตตุํ ‘‘สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌิตุํ อสมตฺถา’’ติ วุตฺตํ. ทุกฺขสจฺจวเสนาติ ทุกฺขอริยสจฺจวเสน. อฺถา กถํ พาหิรกาปิ ชรามรณํ ทุกฺขนฺติ น ชานนฺติ. สจฺจเทสนาภาวโต ‘‘สห ตณฺหายา’’ติ วุตฺตนฺติ เกจิ. ตํ น สุฏฺุ. ยสฺมา ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปมาภินิพฺพตฺติ, อิธ ชาตีติ อธิปฺเปตา, สา จ ตณฺหา เอว สนฺตาเนน, ตณฺเหว สา ชาติ. ชรามรณฺเจตฺถ ปากฏเมว อธิปฺเปตํ, น ขณิกํ, ตสฺมา สตณฺหา เอว ชาติชรามรณสฺส สมุทโยติ ภูตกถนเมตํ ทฏฺพฺพํ. สมุทยสจฺจวเสน น ชานนฺตีติ โยชนา. เอส นโย เสสปเทสุปิ. สพฺพปเทสูติ ยตฺถ ตณฺหา วิเสสนภาเวน วตฺตพฺพา, เตสุ สพฺพปเทสุ. เยน สมนฺนาคตตฺตา ปุคฺคโล ปรมตฺถโต สมโณ พฺราหฺมโณติ วุจฺจติ, ตํ สามฺํ พฺรหฺมฺฺจาติ อาห ‘‘อริย…เป… พฺรหฺมฺฺจา’’ติ. เยน หิ ปวตฺตินิมิตฺเตน สมณ-สทฺโท พฺราหฺมณ-สทฺโท จ สเก อตฺเถ นิรุฬฺโห, ตสฺส วเสน อภินฺโนปิ เวเนยฺยชฺฌาสยโต ทฺวิธา กตฺวา วตฺตุํ อรหตีติ วุตฺตํ ‘‘อุภยตฺถาปี’’ติ. เอกาทสสุ าเนสุ จตฺตาริ สจฺจานิ กเถสิ อวิชฺชาสมุทยสฺส อนุทฺธฏตฺตา.

สมณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ทุติยสมณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๑๔. อิเมธมฺเม กตเม ธมฺเมติ จ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน ‘‘อิเมสํ ธมฺมานํ กตเมสํ ธมฺมาน’’นฺติ อิเมสํ ปทานํ สงฺคโห. เอตานิ หิ ปทานิ ชรามรณาทีนํ สาธารณภาเวน วุตฺตานิ อิมิสฺสา เทสนาย ปปฺจภูตานีติ อาห ‘‘เอตฺตกํ ปปฺจํ กตฺวา กถิตํ, เทสนํ…เป… อชฺฌาสเยนา’’ติ. อิมินา ตาเนว ชรามรณาทีนิ คเหตฺวา ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน อาทิโต ‘‘อิเม ธมฺเม’’ติอาทินา สพฺพปทสาธารณโต เทสนา อารทฺธา. ยถานุโลมสาสนฺหิ สุตฺตนฺตเทสนา, น ยถาธมฺมสาสนนฺติ.

ทุติยสมณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. กจฺจานโคตฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๕. ยสฺมา อิธ ชานนฺตาปิ ‘‘สมฺมาทิฏฺี’’ติ วทนฺติ อชานนฺตาปิ พาหิรกาปิ สาสนิกาปิ อนุสฺสวาทิวเสนปิ อตฺตปจฺจกฺเขนปิ, ตสฺมา ตํ พหูนํ วจนํ อุปาทาย อาเมฑิตวเสน ‘‘สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาทิฏฺีติ, ภนฺเต, วุจฺจตี’’ติ อาห. ตถานิทฺทิฏฺตาทสฺสนตฺถํ หิสฺส อยํ อาเมฑิตปโยโค. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – ‘‘อปเรหิปิ สมฺมาทิฏฺีติ วุจฺจติ, สา ปนายํ เอวํ วุจฺจมานา อตฺถฺจ ลกฺขณฺจ อุปาทาย กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, สมฺมาทิฏฺิ โหตี’’ติ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘สมฺมาทิฏฺี’’ติ วจเน ยสฺมา วิฺู เอว ปมาณํ, น อวิฺู, ตสฺมา ‘‘ยํ ปณฺฑิตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทฺเว อวยวา อสฺสาติ ทฺวยํ, ทุวิธํ ทิฏฺิคาหวตฺถุ, ทฺวยํ ทิฏฺิคาหวเสน นิสฺสิโต อปสฺสิโตติ ทฺวยนิสฺสิโต. เตนาห ‘‘ทฺเว โกฏฺาเส นิสฺสิโต’’ติ. ยาย ทิฏฺิยา ‘‘สพฺโพยํ โลโก อตฺถิ วิชฺชติ สพฺพกาลํ อุปลพฺภตี’’ติ ทิฏฺิคติโก คณฺหาติ, สา ทิฏฺิ อตฺถิตา, สา เอว สทา สพฺพกาลํ โลโก อตฺถีติ ปวตฺตคาหตาย สสฺสโต, ตํ สสฺสตํ. ยาย ทิฏฺิยา ‘‘สพฺโพยํ โลโก นตฺถิ น โหติ อุจฺฉิชฺชตี’’ติ ทิฏฺิคติโก คณฺหาติ, สา ทิฏฺิ นตฺถิตา, สา เอว อุจฺฉิชฺชตีติ อุปฺปนฺนคาหตาย อุจฺเฉโท, ตํ อุจฺเฉทํ. โลโก นาม สงฺขารโลโก ตมฺหิ คเหตพฺพโต. สมฺมปฺปฺายาติ อวิปรีตปฺาย ยถาภูตปฺาย. เตนาห ‘‘สวิปสฺสนา มคฺคปฺา’’ติ. นิพฺพตฺเตสุ ธมฺเมสูติ ยถา ปจฺจยุปฺปนฺเนสุ รูปารูปธมฺเมสุ. ปฺายนฺเต สฺเววาติ สนฺตานนิพนฺธนวเสน ปฺายมาเนสุ เอว. ยา นตฺถีติ ยา อุจฺเฉททิฏฺิ ตตฺถ ตตฺเถว สตฺตานํ อุจฺฉิชฺชนโต วินสฺสนโต โกจิ ิโต นาม สตฺโต ธมฺโม วา นตฺถีติ สงฺขารโลเก อุปฺปชฺเชยฺย. ‘‘นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา’’ติ ปวตฺตมานาปิ มิจฺฉาทิฏฺิ ตถาปวตฺตสงฺขารารมฺมณาว. สา น โหตีติ กมฺมาวิชฺชาตณฺหาทิเภทํ ปจฺจยํ ปฏิจฺจ สงฺขารโลกสฺส สมุทยนิพฺพตฺตึ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต, สา อุจฺเฉททิฏฺิ, น โหติ, นปฺปวตฺตติ อวิจฺเฉเทน สงฺขารานํ นิพฺพตฺติทสฺสนโต. โลกนิโรธนฺติ สงฺขารโลกสฺส ขณิกนิโรธํ. เตนาห ‘‘สงฺขารานํ ภงฺค’’นฺติ. ยา อตฺถีติ เหตุผลสมฺพนฺเธน ปวตฺตมานสฺส สนฺตานานุปจฺเฉทสฺส เอกตฺตคฺคหเณน สงฺขารโลเก ยา สสฺสตทิฏฺิ สพฺพกาลํ โลโก อตฺถีติ อุปฺปชฺเชยฺย. สา น โหตีติ อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ นิโรธสฺส นวนวานฺจ อุปฺปาทสฺส ทสฺสนโต, สา สสฺสตทิฏฺิ น โหติ.

โลโก สมุเทติ เอตสฺมาติ โลกสมุทโยติ อาห ‘‘อนุโลมปจฺจยาการ’’นฺติ. ปจฺจยธมฺมานฺหิ อตฺตโน ผลสฺส ปจฺจยภาโว อนุโลมปจฺจยากาโร. ปฏิโลมํ ปจฺจยาการนฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. ตํตํเหตุนิโรธโต ตํตํผลนิโรโธ หิ ปฏิโลมปจฺจยากาโร. โย หิ อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยธมฺมานํ เหตุอาทิปจฺจยภาโว, โส นิปฺปริยายโต โลกสมุทโย. ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส สงฺขาราทิกสฺส. อนุจฺเฉทํ ปสฺสโตติ อนุจฺเฉททสฺสนสฺส เหตุ. อยมฺปีติ น เกวลํ ขณโต อุทยวยนีหรณนโย, อถ โข ปจฺจยโต อุทยวยนีหรณนโยปิ.

อุปคมนฏฺเน ตณฺหาว อุปโย. ตถา ทิฏฺุปโย. เอเสว นโยติ อิมินา อุปเยหิ อุปาทานาทีนํ อนตฺถนฺตรตํ อติทิสติ. ตถา จ ปน เตสุ ทุวิธตา อุปาทียติ. นนุ จ จตฺตาริ อุปาทานานิ อฺตฺถ วุตฺตานีติ? สจฺจํ วุตฺตานิ, ตานิ จ โข อตฺถโต ทฺเว เอวาติ อิธ เอวํ วุตฺตํ. กามํ ‘‘อหํ มม’’นฺติ อยถานุกฺกเมน วุตฺตํ, ยถานุกฺกมํเยว ปน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อาทิ-สทฺเทน ปโรปรสฺส สุภํ อสุภนฺติอาทีนฺจ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. เต ธมฺเมติ เตภูมกธมฺเม. วินิวิสนฺตีติ วิรูปํ นิวิสนฺติ, อภินิวิสนฺตีติ อตฺโถ. ตาหีติ ตณฺหาทิฏฺีหิ. วินิพทฺโธติ วิรูปํ วิมุจฺจิตุํ วา อปฺปทานวเสน นิยเมตฺวา พทฺโธ.

‘‘อภินิเวโส’’ติ อุปยุปาทานานํ ปวตฺติอาการวิเสโส วุตฺโตติ อาห ‘‘ตฺจายนฺติ ตฺจ อุปยุปาทาน’’นฺติ. จิตฺตสฺสาติ อกุสลจิตฺตสฺส. ปติฏฺานภูตนฺติ อาธารภูตํ. โทสโมหวเสนปิ อกุสลจิตฺตปฺปวตฺติ ตณฺหาทิฏฺาภินิเวสูปนิสฺสยา เอวาติ ตณฺหาทิฏฺิโย อกุสลสฺส จิตฺตสฺส อธิฏฺานนฺติ วุตฺตา. ตสฺมินฺติ อกุสลจิตฺเต. อภินิวิสนฺตีติ ‘‘เอตํ มม, เอโส เม อตฺตา’’ติอาทินา อภินิเวสนํ ปวตฺเตนฺติ. อนุเสนฺตีติ ถามคตา หุตฺวา อปฺปหานภาเวน อนุเสนฺติ. ตทุภยนฺติ ตณฺหาทิฏฺิทฺวยํ. น อุปคจฺฉตีติ ‘‘เอตํ มมา’’ติอาทินา ตณฺหาทิฏฺิคติยา น อุปสงฺกมติ น อลฺลียติ. น อุปาทิยตีติ น ทฬฺหคฺคาหํ คณฺหาติ. น อธิฏฺาตีติ น ตณฺหาทิฏฺิคาเหน อธิฏฺาย ปวตฺตติ. อตฺตนิยคาโห นาม สติ อตฺตคาเห โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อตฺตา เม’’ติ. อิทํ ทุกฺขคฺคหณํ อุปาทานกฺขนฺธาปสฺสยํ ตพฺพินิมุตฺตสฺส ทุกฺขสฺส อภาวาติ วุตฺตํ ‘‘ทุกฺขเมวาติ ปฺจุปาทานกฺขนฺธมตฺตเมวา’’ติ. ‘‘สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๘๗; ม. นิ. ๑.๑๒๐; ๓.๓๗๓; วิภ. ๑๙๐) หิ วุตฺตํ. กงฺขํ น กโรตีติ สํสยํ น อุปฺปาเทติ สพฺพโส วิจิกิจฺฉาย สมุจฺฉินฺทนโต.

น ปรปฺปจฺจเยนาติ ปรสฺส อสทฺทหเนน. มิสฺสกสมฺมาทิฏฺึ อาหาติ นามรูปปริจฺเฉทโต ปฏฺาย สมฺมาทิฏฺิยา วุตฺตตฺตา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกํ สมฺมาทิฏฺึ อโวจ. นิกูฏนฺโตติ นิหีนนฺโต. นิหีนปริยาโย หิ อยํ นิกูฏ-สทฺโท. เตนาห ‘‘ลามกนฺโต’’ติ. ปมกนฺติ จ ครหายํ -สทฺโท. สพฺพํ นตฺถีติ ยถาสงฺขตํ ภงฺคุปฺปตฺติยา นตฺถิ เอว, สพฺพํ นตฺถิ อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสตีติ อธิปฺปาโย. สพฺพมตฺถีติ จ ยถา อสงฺขตํ อตฺถิ วิชฺชติ, สพฺพกาลํ อุปลพฺภตีติ อธิปฺปาโย. สพฺพนฺติ เจตฺถ สกฺกายสพฺพํ เวทิตพฺพํ ‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยาย’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑) วิย. ตฺหิ ปริฺาาณานํ ปจฺจยภูตํ. อิติ-สทฺโท นิทสฺสเน. กึ นิทสฺเสติ? อตฺถิ-สทฺเทน วุตฺตํ. ‘‘อตฺถิต’’นฺติ นิจฺจตํ. สสฺสตคฺคาโห หิ อิธ ปโม อนฺโตติ อธิปฺเปโต. อุจฺเฉทคฺคาโห ทุติโยติ ตทุภยวินิมุตฺตา จ อิทปฺปจฺจยตา. เอตฺถ จ อุปฺปนฺนนิโรธกถนโต สสฺสตตํ, นิรุชฺฌนฺตานํ อสติ นิพฺพานปฺปตฺติยํ ยถาปจฺจยํ ปุนูปคมนกถนโต อุจฺเฉทตฺจ อนุปคมฺม มชฺฌิเมน ภควา ธมฺมํ เทเสติ อิทปฺปจฺจยตานเยน. เตน วุตฺตํ ‘‘เอเต…เป… อนฺเต’’ติอาทิ.

กจฺจานโคตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ธมฺมกถิกสุตฺตวณฺณนา

๑๖. นิพฺพินฺทนตฺถายาติ นิพฺพิทานุปสฺสนาปฏิลาภาย. สา หิ ชรามรณสีเสน วุตฺเตสุ สงฺขตธมฺเมสุ นิพฺพินฺทนากาเรน ปวตฺตติ. วิรชฺชนตฺถายาติ วิราคานุปสฺสนาปฏิลาภาย. สีลโต ปฏฺายาติ วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิตสีลสมาทานโต ปฏฺาย. โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิตสีเล ปติฏฺิโต อุปาสโกปิ ปเคว จตุปาริสุทฺธิสีเล ปติฏฺิโต ภิกฺขุ สมฺมาปฏิปนฺโน นาม. เตนาห ‘‘ยาว อรหตฺตมคฺคา ปฏิปนฺโนติ เวทิตพฺโพ’’ติ. นิพฺพานธมฺมสฺสาติ นิพฺพานาวหสฺส อริยสฺส มคฺคสฺส. อนุรูปสภาวภูตนฺติ นิพฺพานาธิคมสฺส อนุจฺฉวิกสภาวภูตํ. นิพฺพิทาติ อิมินา วุฏฺานคามินิปริโยสานํ วิปสฺสนํ วทติ. วิราคา นิโรธาติ ปททฺวเยน อริยมคฺคํ, อิตเรน ผลํ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สุตฺเต. เอเกน นเยนาติ ปเมน นเยน. ตตฺถ หิ ภควา เตน ภิกฺขุนา ธมฺมกถิกลกฺขณํ ปุจฺฉิโต ตํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา วิสฺสชฺเชสิ. โย หิ วิปสฺสนํ มคฺคํ อนุปาทาวิมุตฺตึ ปาเปตฺวา กเถตุํ สกฺโกติ, โส เอกนฺตธมฺมกถิโก. เตนาห ‘‘ธมฺมกถิกสฺส ปุจฺฉา กถิตา’’ติ. ทฺวีหีติ ทุติยตติยนเยหิ. นฺติ ปุจฺฉํ. วิเสเสตฺวาติ วิสิฏฺํ กตฺวา. ยถาปุจฺฉิตมตฺตเมว อกเถตฺวา อปุจฺฉิตมฺปิ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺตึ อนุปาทาย วิมุตฺติสงฺขาตํ วิเสสํ ปาเปตฺวา. ภควา หิ อปฺปํ ยาจิโต พหุํ เทนฺโต อุฬารปุริโส วิย ธมฺมกถิกลกฺขณํ ปุจฺฉิโต ปฏิจฺจสมุปฺปาทมุเขน ตฺเจว ตโต จ อุตฺตรึ ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺตึ อนุปาทาวิมุตฺตฺจ วิสฺสชฺเชสิ. ตตฺถ ‘‘นิพฺพิทาย…เป… ธมฺมํ เทเสตี’’ติ อิมินา ธมฺมเทสนํ วาสนาภาคิยํ กตฺวา ทสฺเสสิ. ‘‘นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ อิมินา นิพฺเพธภาคิยํ, ‘‘อนุปาทาวิมุตฺโต โหตี’’ติ อิมินา เทสนํ อเสกฺขภาคิยํ กตฺวา ทสฺเสสิ. เตนาห ‘‘เสกฺขาเสกฺขภูมิโย นิทฺทิฏฺา’’ติ.

ธมฺมกถิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อเจลกสฺสปสุตฺตวณฺณนา

๑๗. ลิงฺเคนอเจลโกติ ปพฺพชิตลิงฺเคน อเจลโก. เตน อเจลกจรเณน อเจโล, น นิจฺเจลตามตฺเตนาติ ทสฺเสติ. นาเมนาติ โคตฺตนาเมน กสฺสโปติ. เทเสติ ปเวเทติ สํสยวิคมนํ เอเตนาติ เทโส, นิจฺฉยเหตูติ อาห ‘‘กิฺจิเทว เทส’’นฺติอาทิ. โส หิ สํสยวิคมนํ กโรตีติ การณํ. โอกาสนฺติ อวสํสนฺทนปเทสํ. เตนาห ‘‘ขณํ กาล’’นฺติ. อนฺตรฆรํ อนฺโตนิเวสนํ. อนฺตเร ฆรานิ เอตสฺสาติ อนฺตรฆรํ, อนฺโตคาโม. ยทากงฺขสีติ ยํ อากงฺขสิ. อิติ ภควา สพฺพฺุปวารณาย ปวาเรติ. เตนาห ‘‘ยํ อิจฺฉสี’’ติ. ยทากงฺขสีติ ยํ อากงฺขสิ, กสฺสป, ติกฺขตฺตุํ ปฏิกฺขิปนฺโตปิ ปุจฺฉสิ, ยํ อากงฺขสิ, ตเมว ปุจฺฉาติ อตฺโถ.

‘‘ยาวตติยํ ปฏิกฺขิปี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ตติยมฺปิ โข’’ติอาทินา ปาเน ภวิตพฺพํ. โส ปน นยวเสน สํขิตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. เยน การเณน ภควา อเจลกสฺส ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา จสฺส ปฺหํ กเถสิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘กสฺมา ปนา’’ติอาทิมาห. คารวชนนตฺถํ ยาวตติยํ ปฏิกฺขิปิ ตฺจ ธมฺมสฺส สุสฺสูสาย. ธมฺมครุกา หิ พุทฺธา ภควนฺโต. สตฺตานํ าณปริปากํ อาคมยมาโน ยาวตติยํ ยาจาเปตีติ วิภตฺติวิปริณามวเสน สาธารณโต ปทํ โยเชตฺวา ปุน ‘‘เอตฺตเกน กาเลนา’’ติ กสฺสปสฺส วเสน โยเชตพฺพํ.

มาติ ปฏิเสเธ นิปาโต. ภณีติ ปุนวจนวเสน กิริยาปทํ วทติ. มา เอวํ ภณิ, กเถสีติ อตฺโถ. ‘‘อิติ ภควา อโวจา’’ติ ปน สงฺคีติการวจนํ. สยํกตํ ทุกฺขนฺติ ปุริสสฺส อุปฺปชฺชมานทุกฺขํ, เตน กตํ นาม ตสฺส การณสฺส ปุพฺเพ เตเนว กมฺมสฺส อุปจิตตฺตาติ อยํ นโย อนวชฺโช. ทิฏฺิคติโก ปน ปฺจกฺขนฺธวินิมุตฺตํ นิจฺจํ การกเวทกลกฺขณํ อตฺตานํ ปริกปฺเปตฺวา ตสฺส วเสน ‘‘สยํกตํ ทุกฺข’’นฺติ ปุจฺฉตีติ ภควา ‘‘มา เหว’’นฺติ อโวจ, เตนาห ‘‘สยํกตํ ทุกฺขนฺติ วตฺตุํ น วฏฺฏตี’’ติอาทิ. เอตฺถ จ ยทิ พาหิรเกหิ ปริกปฺปิโต อตฺตา นาม โกจิ อตฺถิ, โส จ นิจฺโจ, ตสฺส นิพฺพิการตาย, ปุริมรูปาวิชหนโต กสฺสจิ วิเสสาธานสฺส กาตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อหิตโต นิวตฺตนตฺถํ, หิเต จ วตฺตนตฺถํ อุปเทโส จ นิปฺปโยชโน สิยา อตฺตวาทิโน. กถํ วา โส อุปเทโส ปวตฺตียติ? วิการาภาวโต. เอวฺจ อตฺตโน อชฏากาสสฺส วิย ทานาทิกิริยา หึสาทิกิริยา จ น สมฺภวติ, ตถา สุขสฺส ทุกฺขสฺส จ อนุภวนพนฺโธ เอว อตฺตวาทิโน น ยุชฺชติ กมฺมพนฺธาภาวโต. ชาติอาทีนฺจ อสมฺภวโต กุโต วิโมกฺโข. อถ ปน ‘‘ธมฺมมตฺตํ ตสฺส อุปฺปชฺชติ เจว วินสฺสติ จ. ยสฺส วเสนายํ กิริยาโวหาโร’’ติ วเทยฺย, เอวมฺปิ ปุริมรูปาวิชหเนน อวฏฺิตสฺส อตฺตโน ธมฺมมตฺตนฺติ น สกฺกา สมฺภาเวตุํ. เต วา ปนสฺส ธมฺมา อวตฺถาภูตา, ตโต อฺเ วา สิยุํ อนฺเ วา. ยทิ อฺเ, น ตาหิ ตสฺส อุปฺปนฺนาหิปิ โกจิ วิเสโส อตฺถิ. โย หิ กโรติ ปฏิสํเวเทติ จวติ อุปปชฺชติ จาติ อิจฺฉิตํ, ตสฺมา ตทตฺโถ เอว ยถาวุตฺตโทโส. กิฺจ ธมฺมกปฺปนาปิ นิรตฺถิกา สิยา. อถ อนฺเ, อุปฺปาทวินาสวนฺตีหิ อวตฺถาหิ อนฺสฺส อตฺตโน ตาสํ วิย อุปฺปาทวินาสสมฺภวโต กุโต นิจฺจตาวกาโส. ตาสมฺปิ วา อตฺตโน วิย นิจฺจตาปตฺตีติ พนฺธวิโมกฺขานํ อสมฺภโว เอวาติ น ยุชฺชเตวายํ อตฺตวาโท. เตนาห ‘‘อตฺตา นาม โกจิ ทุกฺขสฺส การโก นตฺถีติ ทีเปตี’’ติ. ปรโตติ ‘‘ปรํกตํ ทุกฺข’’นฺติอาทิเก ปรสฺมึ ติวิเธปิ นเย. อธิจฺจสมุปฺปนฺนนฺติ อธิจฺจ ยทิจฺฉาย กิฺจิ การณํ กสฺสจิ วา ปุพฺพํ วินา สมุปฺปนฺนํ. เตนาห ‘‘อการเณน ยทิจฺฉาย อุปฺปนฺน’’นฺติ. กสฺมา เอวมาหาติ เอวํ วกฺขมาโนติ อธิปฺปาโย. อสฺสาติ อเจลสฺส. อยนฺติ ภควนฺตํ สนฺธาย วทติ. โสเธนฺโตติ สยํ วิสุทฺธํ กตฺวา ปุจฺฉิตมตฺถํ เอว อตฺตโน ปุจฺฉาย สุทฺธึ ทสฺเสนฺโต. ลทฺธิยา ‘‘สยํกตํ ทุกฺข’’นฺติ มิจฺฉาคหณสฺส ปฏิเสธนตฺถาย.

โส กโรตีติ โส กมฺมํ กโรติ. โส ปฏิสํเวทยตีติ การกเวทกานํ อนฺตฺตทสฺสนปรํ เอตํ, น ปน กมฺมกิริยาผลานํ ปฏิสํเวทนานํ สมานกาลตาทสฺสนปรํ. อิตีติ นิทสฺสนตฺเถ นิปาโต. โขติ อวธารเณ. ‘‘โส เอวา’’ติ ทสฺสิโต. อนิยตาเทสา หิ เอเต นิปาตา. อาทิโตติ ภุมฺมตฺเถ นิสฺสกฺกวจนนฺติ อาห ‘‘อาทิมฺหิเยวา’’ติ. ‘‘สยํกตํ ทุกฺข’’นฺติ ลทฺธิยา ปเคว ‘‘โส กโรติ, โส ปฏิสํเวทยตี’’ติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสา ภวนฺติ. สฺาวิปลฺลาสโต หิ จิตฺตวิปลฺลาโส, จิตฺตวิปลฺลาสโต ทิฏฺิวิปลฺลาโส, เตนาห ‘‘เอวํ สติ ปจฺฉา สยํกตํ ทุกฺขนฺติ อยํ ลทฺธิ โหตี’’ติ. เอวํ สติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสานํ พฺรูหิโต มิจฺฉาภินิเวโส, ยทิทํ ‘‘สยํกตํ ทุกฺข’’นฺติ ลทฺธิ. ตสฺมา ปฏินิสฺสชฺเชตุํ ปาปกํ ทิฏฺิคตนฺติ ทสฺเสติ. เตนาห ภควา ‘‘สยํกตํ…เป… เอตํ ปเรตี’’ติ. วฏฺฏทุกฺขํ อธิปฺเปตํ อวิเสสโต อตฺถีติ จ วุตฺตตฺตา. สสฺสตํ สสฺสตคาหํ ทีเปติ ปเรสํ ปกาเสติ, ตถาภูโต จ สสฺสตํ ทฬฺหคฺคาหํ คณฺหาตีติ. ตสฺสาติ ทิฏฺิคติกสฺส. ตํ ‘‘สยํกตํ ทุกฺข’’นฺติ เอวํ ปวตฺตํ วิปรีตทสฺสนํ. เอตํ สสฺสตคฺคหณํ. ปเรติ อุเปติ. เตนาห ‘‘การกฺจ…เป… อตฺโถ’’ติ. เอกเมว คณฺหนฺตนฺติ สติปิ วตฺถุเภเท อโยนิโส อุปฺปชฺชเนน เอกเมว กตฺวา คณฺหนฺตํ.

อิธ ‘‘อาทิมฺหิเยวา’’ติ ปเท. ‘‘ปรํกตํ ทุกฺข’’นฺติ ลทฺธิยา ปเควาติอาทินา เหตฺถ วุตฺตนยานุสาเรน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยฺเหตฺถ โยชนา – ‘‘ปรํกตํ ทุกฺข’’นฺติ ลทฺธิยา ปเคว อฺโ กโรติ, อฺโ ปฏิสํเวทยตีติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสา ภวนฺตีติ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. เอวํ สตีติ เอวํ มุทุเก อุจฺเฉทวิปลฺลาเส ปมุปฺปนฺเน สติ ปจฺฉา ‘‘ปรํกตํ ทุกฺข’’นฺติ อยํ ลทฺธิ โหตีติ สมฺพนฺโธ. การโกติ กมฺมสฺส การโก. เตน กตนฺติ กมฺมการเกน กตํ. กมฺมุนา หิ ผลสฺส โวหาโร อเภโทปจารกตฺตา. เอวนฺติ ทิฏฺิสหคตา เวทนา สาตสภาวา กิเลสปริฬาหาทินา สปริสฺสยา สอุปายาสา, เอวํ. ‘‘ปเคว อิตเร’’ติ วุตฺตเวทนาย อภิตุนฺนสฺส วิทฺธสฺส. ‘‘วุตฺตนเยน โยเชตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ตํ โยชนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺราย’’นฺติอาทิมาห. อุจฺเฉทนฺติ สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ, วิภวนฺติ อตฺโถ. อสโต หิ วินาสาสมฺภวโต อตฺถิภาวนิพนฺธโน อุจฺเฉโท. ยถา เหตุผลภาเวน ปวตฺตมานานํ สภาวธมฺมานํ สติปิ เอกสนฺตานปริยาปนฺนานํ ภินฺนสนฺตติปติเตหิ วิเสเส เหตุผลานํ ปรมตฺถโต อวินาภาวตฺตา ภินฺนสนฺตานปติตานํ วิย อจฺจนฺตเภทสนฺนิฏฺาเนน นานตฺตนยสฺส มิจฺฉาคหณํ อุจฺเฉทาภินิเวสสฺส การณํ. เอวํ เหตุผลภูตานํ ธมฺมานํ วิชฺชมาเนปิ สภาวเภเท เอกสนฺตติปริยาปนฺนตาย เอกตฺตนเยน อจฺจนฺตาเภทคหณมฺปิ การณเมวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สตฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ ปาฬิยํ. สนฺตานวเสน หิ วตฺตมาเนสุ ขนฺเธสุ ฆนวินิพฺโภคาภาเวน เอกตฺตคหณนิพนฺธโน สตฺตคฺคาโห, สตฺตสฺส จ อตฺถิภาวคฺคาหนิพนฺธโน อุจฺเฉทคฺคาโห, ยาวายํ อตฺตา น อุจฺฉิชฺชติ, ตาวายํ วิชฺชติเยวาติ คหณโต นิรุทยวินาโส อิธ อุจฺเฉโทติ อธิปฺเปโตติ ‘‘อุจฺเฉท’’นฺติ วุตฺตํ. วิเสเสน นาโส วินาโส, อภาโว. โส ปน มํสจกฺขุปฺาจกฺขูนํ ทสฺสนปถาติกฺกโมเยว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อทสฺสน’’นฺติ. อทสฺสเน หิ นาสสทฺโท โลเก นิรุฬฺโหติ. สภาววิคโม สภาวาปคโม วิภโว. โย หิ นิรุทยวินาเสน อุจฺฉิชฺชติ, น โส อตฺตโน สภาเวน ติฏฺติ.

เอเต เตติ วา เย อิเม ตยา ‘‘สยํกตํ ทุกฺข’’นฺติ จ ปุฏฺเน มยา ‘‘โส กโรติ, โส ปฏิสํเวทยตี’’ติอาทินา, ‘‘อฺโ กโรติ, อฺโ ปฏิสํเวทยตี’’ติอาทินา จ ปฏิกฺขิตฺตา สสฺสตุจฺเฉทสงฺขาตา อนฺตา, เต อุโภ อนฺเตติ โยชนา. อถ วา เอเต เตติ ยตฺถ ปุถู อฺติตฺถิยา อนุปจิตาณสมฺภารตาย ปรมคมฺภีรํ สณฺหํ สุขุมํ สุฺตํ อปฺปชานนฺตา สสฺสตุจฺเฉเท นิมุคฺคา สีสํ อุกฺขิปิตุํ น วิสหนฺติ, เอเต เต อุโภ อนฺเต อนุปคมฺมาติ โยชนา. เทเสตีติ ปมํ ตาว อนฺสาธารเณ ปฏิปตฺติธมฺเม าณานุภาเวน มชฺฌิมาย ปฏิปทาย ิโต, กรุณานุภาเวน เทสนาธมฺเม มชฺฌิมาย ปฏิปทาย ิโต ธมฺมํ เทเสติ. เอตฺถ หีติ หิ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. ยสฺมา การณโต…เป… นิทฺทิฏฺโ, ตสฺมา มชฺฌิมาย ปฏิปทาย ิโต ธมฺมํ เทเสตีติ โยชนา. การณโต ผลํ ทีปิตนฺติ โยชนา, อภิเธยฺยานุรูปฺหิ ลิงฺควจนานิ โหนฺติ. อสฺสาติ ผลสฺส. น โกจิ การโก วา เวทโก วา นิทฺทิฏฺโ, อฺทตฺถุ ปฏิกฺขิตฺโต เหตุผลมตฺตตาทสฺสนโต เกวลํ ทุกฺขกฺขนฺธคหณโตติ. เอตฺตาวตาติ ‘‘เอเต เต, กสฺสป…เป… ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี’’ติ เอตฺตเกน ตาว ปเทน. เสสปฺหาติ ‘‘สยํกตฺจ ปรํกตฺจ ทุกฺข’’นฺติอาทิกา เสสา จตฺตาโร ปฺหา. อฏฺกถายํ ปน ‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, นตฺถิ ทุกฺข’’นฺติ ปฺโห ปาฬิยํ สรูเปเนว ปฏิกฺขิตฺโตติ น อุทฺธโต. ปฏิเสธิตา โหนฺตีติ ตติยปฺโห, ตาว ปมทุติยปฺหปฏิกฺเขเปเนว ปฏิกฺขิตฺโต, โส หิ ปฺโห วิสุํ วิสุํ ปฏิกฺเขเปน เอกชฺฌํ ปฏิกฺเขเปน จ. เตนาห ‘‘อุโภ…เป… ปฏิกฺขิตฺโต’’ติ. เอตฺถ จ ยสฺส อตฺตา การโก เวทโก วา อิจฺฉิโต, เตน วิปริณามธมฺโม อตฺตา อนุฺาโต โหติ. ตถา จ สติ อนุปุพฺพธมฺมปฺปวตฺติยา รูปาทิธมฺมานํ วิย , สุขาทิธมฺมานํ วิย จสฺส ปจฺจยายตฺตวุตฺติตาย อุปฺปาทวนฺตตา อาปชฺชติ. อุปฺปาเท จ สติ อวสฺสํภาวี นิโรโธติ อนวกาสา นิจฺจตาติ. ตสฺส ‘‘สยํกต’’นฺติ ปมปฺหปฏิกฺเขโป ปจฺฉา เจ อตฺตโน นิรุฬฺหสฺส สมุทโย โหตีติ ปุพฺเพ วิย อเนน ภวิตพฺพํ, ปุพฺเพ วิย วา ปจฺฉาปิ. เสสปฺหาติ ตติยปฺหาทโย. ตติยปฺโห ปฏิกฺขิตฺโตติ เอวฺจ ตติยปฺโห ปฏิกฺขิตฺโต เวทิตพฺโพ – ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา สตตํ สมิตํ ปจฺจยายตฺตสฺส ทีปเนน ทุกฺขสฺส อธิจฺจสมุปฺปนฺนตา ปฏิกฺขิตฺตา, ตโต เอว ตสฺส อชานนฺจ ปฏิกฺขิตฺตํ. เตนาห ภควา ‘‘เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๓๙-๔๐; มหาว. ๑; อุทา. ๑).

ยํ ปริวาสํ สมาทิยิตฺวา ปริวสตีติ โยชนา. วจนสิลิฏฺตาวเสนาติ ‘‘ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ ยาจนฺเตน เตน วุตฺตวจนสิลิฏฺตาวเสน. คามปฺปเวสนาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน นาติทิวาปฏิกฺกมนํ, นเวสิยาทิโคจรตา, สพฺรหฺมจารีนํ กิจฺเจสุ ทกฺขตาทิ, อุทฺเทสาทีสุ ติพฺพจฺฉนฺทตา, ติตฺถิยานํ อวณฺณภณเน อตฺตมนตา, พุทฺธาทีนํ อวณฺณภณเน อนตฺตมนตา, ติตฺถิยานํ วณฺณภณเน อนตฺตมนตา, พุทฺธาทีนํ วณฺณภณเน อตฺตมนตาติ (มหาว. ๘๗) อิเมสํ สงฺคโห. อฏฺ วตฺตานีติ อิมานิ อฏฺ ติตฺถิยวตฺตานิ ปูเรนฺเตน. เอตฺถ จ นาติกาเลน คามปฺปเวสนา ตตฺถ วิสุทฺธกายวจีสมาจาเรน ปิณฺฑาย จริตฺวา นาติทิวาปฏิกฺกมนนฺติ อิทเมกํ วตฺตํ.

อยเมตฺถ ปาโติ เอตสฺมึ กสฺสปสุตฺเต อยํ ปาโ. อฺตฺถาติ สีหนาทสุตฺตาทีสุ (ที. นิ. ๑.๔๐๒-๔๐๓). ฆํสิตฺวา โกฏฺเฏตฺวาติ ยถา สุวณฺณํ นิฆํสิตฺวา อธิกรณิยา โกฏฺเฏตฺวา นิทฺโทสเมว คยฺหติ, เอวํ ปริวาสวตฺตจรเณน ฆํสิตฺวา สุทฺธภาววีมํสเนน โกฏฺเฏตฺวา สุทฺโธ เอว อฺติตฺถิยปุพฺโพ อิธ คยฺหติ. ติพฺพจฺฉนฺทตนฺติ สาสนํ อนุปวิสิตฺวา พฺรหฺมจริยวาเส ติพฺพจฺฉนฺทตํ ทฬฺหตราภิรุจิตํ. อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสีติ นามโคตฺเตน อปากฏํ เอกํ ภิกฺขุํ อาณาเปสิ เอหิภิกฺขุอุปสมฺปทาย อุปนิสฺสยาภาวโต. คเณ นิสีทิตฺวาติ ภิกฺขู อตฺตโน สนฺติเก ปตฺตาสนวเสน คเณ นิสีทิตฺวา.

อเจลกสฺสปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ติมฺพรุกสุตฺตวณฺณนา

๑๘. ยสฺมา ติมฺพรุโก ‘‘เวทนา อตฺตา. อตฺตาว เวทยตี’’ติ เอวํลทฺธิโก, ตสฺมา ตาย ลทฺธิยา ‘‘สยํกตํ สุขทุกฺข’’นฺติ วทติ, ตํ ปฏิสํหริตุํ ภควา ‘‘สา เวทนา’’ติอาทึ อโวจ. เตนาห ‘‘สา เวทนาติอาทิ สยํกตํ สุขทุกฺขนฺติ ลทฺธิยา นิเสธนตฺถํ วุตฺต’’นฺติ. เอตฺถาปีติ อิมสฺมิมฺปิ สุตฺเต. ตตฺราติ ยํ วุตฺตํ ‘‘สา เวทนา…เป… สุขทุกฺข’’นฺติ, ตสฺมึ ปาเ. อาทิมฺหิเยวาติ เอตฺถ ภุมฺมวจเนน ‘‘อาทิโต’’ติ โต-สทฺโท น นิสฺสกฺกวจเน. เอว-กาเรน โข-สทฺโท อวธารเณติ ทสฺเสติ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ อนนฺตรสุตฺเต วุตฺตเมว. ตตฺถ ปน ‘‘เวทนาโต อฺโ อตฺตา, เวทนาย การโก’’ติ ลทฺธิกสฺส ทิฏฺิคติกสฺส วาโท ปฏิกฺขิตฺโต, อิธ ‘‘เวทนา อตฺตา’’ติ เอวํลทฺธิกสฺสาติ อยเมว วิเสโส. เตนาห ‘‘เอวฺหิ สติ เวทนาย เอว เวทนา กตา โหตี’’ติอาทิ. อิมิสฺสาติ ยาย เวทนาย สุขทุกฺขํ กตํ, อิมิสฺสา. ปุพฺเพปีติ สสฺสตาการโต ปุพฺเพปิ. ปุริมฺหิ อตฺถนฺติ อนนฺตรสุตฺเต วุตฺตํ อตฺถํ. อฏฺกถายนฺติ โปราณฏฺกถายํ. นฺติ ปุริมสุตฺเต วุตฺตมตฺถํ. อสฺสาติ อิมสฺส สุตฺตสฺส. ยสฺมา ติมฺพรุโก ‘‘เวทนาว อตฺตา’’ติ คณฺหาติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อหํ สา เวทนา…เป… น วทามี’’ติ.

อฺา เวทนาติอาทีสุปิ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ อนนฺตรสุตฺเต วุตฺตนยเมว. การกเวทนาติ กตฺตุภูตเวทนา. เวทนาสุขทุกฺขนฺติ เวทนาภูตสุขทุกฺขํ กถิตํ, น วฏฺฏสุขทุกฺขํ. ‘‘วิปากสุขทุกฺขเมว วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ ‘‘สยํกตํ สุขํ ทุกฺข’’นฺติอาทิวจนโต.

ติมฺพรุกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. พาลปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา

๑๙. อวิชฺชา นีวรณา ภวาทิ-อาทีนวสฺส นิวาริตปฏิจฺฉาทิกา เอตสฺสาติ อวิชฺชานีวรโณ, อวิชฺชาย นิวุโตติ อาห ‘‘อวิชฺชาย นิวาริตสฺสา’’ติ. อยํ กาโยติ พาลสฺส อปฺปหีนกิเลสสฺส ปจฺจุปฺปนฺนํ อตฺตภาวํ รกฺขํ กตฺวา อวิชฺชาย ปฏิจฺฉาทิตาทีนเว อยาถาวทสฺสนวเสน ตณฺหาย ปฏิลทฺธจิตฺตสฺส ตํตํภวูปคา สงฺขารา สงฺขรียนฺติ. เตหิ จ อตฺตภาวสฺส อภินิพฺพตฺติ, ตสฺมา อยฺจ อวิชฺชาย กาโย นิพฺพตฺโตติ. อสฺสาติ พาลสฺส. อยํ อตฺโถติ ‘‘อยํ กาโย นามรูปนฺติ จ วุตฺโต’’ติ อตฺโถ ทีเปตพฺโพ อุปาทานกฺขนฺธสฬายตนสงฺคหโต เตสํ ธมฺมานํ. เอวเมตํ ทฺวยนฺติ เอวํ อวิชฺชาย นิวาริตตฺตา, ตณฺหาย จ สํยุตฺตตฺตา เอวํ สปรสนฺตานคตสวิฺาณกกายสงฺขาตํ ทฺวยํ โหติ. อฺตฺถาติ สุตฺตนฺตเรสุ. ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๐๔, ๔๐๐; ๓.๔๒๑, ๔๒๕-๔๒๖; สํ. นิ. ๒.๔๓-๔๕; ๔.๖๐-๖๑; กถา. ๔๖๕, ๔๖๗) อชฺฌตฺติกพาหิรายตนานิ ภินฺทิตฺวา จกฺขุรูปาทิทฺวยานิ ปฏิจฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทโย วุตฺตา, อิธ ปน อภินฺทิตฺวา ฉ อชฺฌตฺติกพาหิรายตนานิ ปฏิจฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทโย วุตฺตา ‘‘ทฺวยํ ปฏิจฺจ ผสฺโส’’ติ, ตสฺมา มหาทฺวยํ นาม กิเรตํ อนวเสสโต อชฺฌตฺติกพาหิรายตนานํ คหิตตฺตา. อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานีติ เอตฺถาปิ หิ สฬายตนานิ สงฺคหิตาเนว. ผสฺสการณานีติ ผสฺสปวตฺติยา ปจฺจยานิ. เยหีติ เหตุทสฺสนมตฺตนฺติ อาห ‘‘เยหิ การณภูเตหี’’ติ. ผสฺโส เอว ผุสนกิจฺโจ, น ผสฺสายตนานีติ วุตฺตํ ‘‘ผสฺเสน ผุฏฺโ’’ติ. ปริปุณฺณวเสนาติ อเวกลฺลวเสน. อปริปุณฺณายตนานํ หีนานิ ผสฺสสฺส การณานิ โหนฺติ, เตสํ วิยาติ ‘‘เอเตสํ วา อฺตเรนา’’ติ วุตฺตํ. กายนิพฺพตฺตนาทิมฺหีติ สวิฺาณกสฺส กายสฺส นิพฺพตฺตนํ กายนิพฺพตฺตนํ, กาโย วา นิพฺพตฺตติ เอเตนาติ กายนิพฺพตฺตนํ, กิเลสาภิสงฺขารา. อาทิสทฺเทน ผสฺสสฬายตนาทิสงฺคโห. อธิกํ ปยสติ ปยุฺชติ เอเตนาติ อธิปฺปยาโส, วิเสสการณนฺติ อาห ‘‘อธิกปโยโค’’ติ.

ภควา อมฺหากํ อุปฺปาทกภาเวน มูลภาเวน ภควํมูลกา. อิเม ธมฺมาติ อิเม การณธมฺมา. เยหิ มยํ พาลปณฺฑิตานํ สมาเนปิ กายนิพฺพตฺตนาทิมฺหิ วิเสสํ ชาเนยฺยาม, เตนาห ‘‘ปุพฺเพ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺเธน อุปฺปาทิตา’’ติอาทิ. อาชานามาติ อภิมุขํ ปจฺจกฺขโต ชานาม. ปฏิวิชฺฌามาติ ตสฺเสว เววจนํ, อธิคจฺฉามาติ อตฺโถ. เนตาติ อมฺหากํ สนฺตาเน ปาเปตา. วิเนตาติ ยถา อลมริยาณทสฺสนวิเสโส โหติ, เอวํ วิเสสโต เนตา, ตทงฺควินยาทิวเสน วา วิเนตา. อนุเนตาติ อนุรูปํ เนตา. อนฺตรนฺตรา ยถาธมฺมปฺตฺติยา ปฺาปิตานํ ธมฺมานํ อนุรูปโต ทสฺสนํ โหตีติ อาห ‘‘ยถาสภาวโต…เป… ทสฺเสตา’’ติ. อาปาถํ อุปคจฺฉนฺตานํ ภควา ปฏิสรณํ สโมสรณฏฺานนฺติ ภควํปฏิสรณา ธมฺมา. เตนาห ‘‘จตุภูมกธมฺมา’’ติอาทิ. ปฏิสรติ ปฏิวิชฺฌตีติ ปฏิสรณํ, ตสฺมา ปฏิวิชฺฌนวเสน ภควา ปฏิสรณํ เอเตสนฺติ ภควํปฏิสรณา. เตนาห ‘‘อปิ จา’’ติอาทิ. ผสฺโส อาคจฺฉตีติ ปฏิวิชฺฌนกวเสน ผสฺโส าณสฺส อาปาถํ อาคจฺฉติ, อาปาถํ อาคจฺฉนฺโตเยว โส อตฺถโต ‘‘อหํ กินฺนาโม’’ติ นามํ ปุจฺฉนฺโต วิย, ภควา จสฺส นามํ กโรนฺโต วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อหํ ภควา’’ติอาทิ. อุปฏฺาตูติ าณสฺส ปจฺจุปฏฺาตุ. ภควนฺตํเยว ปฏิภาตูติ ภควโต เอว ภาโค โหตุ, ภควาว นํ อตฺตโน ภาคํ กตฺวา วิสฺสชฺเชตูติ อตฺโถ, ภควโต ภาโค ยทิทํ ธมฺมสฺส อกฺขานํ, อมฺหากํ ปน สวนํ ภาโคติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. เอวฺหิ สทฺทลกฺขเณน สเมติ. เกจิ ปน ปฏิภาตูติ อตฺถํ วทนฺติ าเณน ทิสฺสตุ เทสียตูติ วา อตฺโถ. เตนาห ‘‘ตุมฺเหเยว โน กเถตฺวา เทถาติ อตฺโถ’’ติ.

พาลสฺส ปณฺฑิตสฺส จ กายสฺส นิพฺพตฺติยา ปจฺจยภูตา อวิชฺชา จ ตณฺหา จ. เตนาห ‘‘กมฺมํ…เป… นิรุทฺธา’’ติ. ชวาเปตฺวาติ คหิตชวนํ กตฺวา, ยถา ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒิตุํ สมตฺถํ โหติ, เอวํ กตฺวา. ยทิ นิรุทฺธา, กถํ อปฺปหีนาติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิ. ภวติ หิ ตํสทิเสปิ ตพฺโพหาโร ยถา ‘‘สา เอว ติตฺติรี, ตาเนว โอสธานิ, ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสนา’’ติ จ. ทุกฺขกฺขยายาติ ตทตฺถวิเสสนตฺถนฺติ อาห ‘‘ขยตฺถายา’’ติ. ปฏิสนฺธิกายนฺติ ปฏิสนฺธิคหณปุพฺพกํ กายํ. ปาฬิยํ ‘‘พาเลนา’’ติ กรณวจนํ นิสฺสกฺเกติ อาห ‘‘พาลโต’’ติ. ภาวินา สห ปฏิสนฺธินา สปฺปฏิสนฺธิโก. โย ปน เอกนฺตโต เตนตฺตภาเวน อรหตฺตํ ปตฺตุํ ภพฺโพ, โส ภาวินา ปฏิสนฺธินา ‘‘อปฺปฏิสนฺธิโก’’ติ, ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘สปฺปฏิสนฺธิโก’’ติ วุตฺตํ. กิฺจาปิ วุตฺตํ, โส จ ยาว อริยภูมึ น โอกฺกมติ, ตาว พาลธมฺมสมงฺคี เอวาติ กตฺวา ‘‘สพฺโพปิ ปุถุชฺชโน พาโล’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ ‘‘อปฺปฏิสนฺธิโก ขีณาสโว ปณฺฑิโต’’ติ ขีณาสว-สทฺเทน อปฺปฏิสนฺธิโก วิเสสิโต. ยทิ เอวํ เสกฺขา กถนฺติ อาห ‘‘โสตาปนฺนา’’ติอาทิ. เต หิ สิขาปตฺตปณฺฑิจฺจภาวลกฺขณาภาวโต ปณฺฑิตาติ น วตฺตพฺพา ขีณาสวา วิย, พลวตรานํ ปน พาลธมฺมานํ ปหีนตฺตา พาลาติปิ น วตฺตพฺพา ปุถุชฺชนา วิย. ภชิยมานา ปน จตุสจฺจสมฺปฏิเวธํ อุปาทาย ปณฺฑิตปกฺขํ ภชนฺติ, น พาลปกฺขํ วุตฺตการเณนาติ.

พาลปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปจฺจยสุตฺตวณฺณนา

๒๐. สพฺพมฺปิ สงฺขตํ อปฺปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ นาม นตฺถีติ ปจฺจยธมฺโมปิ อตฺตโน ปจฺจยธมฺมํ อุปาทาย ปจฺจยุปฺปนฺโน, ตถา ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺโมปิ อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนํ อุปาทาย ปจฺจยธมฺโมติ ยถารหํ ธมฺมานํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตา. เยสํ วิเนยฺยานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนาเยว สุโพธโต อุปฏฺาติ, เตสํ วเสน สุฏฺุ วิภาคํ กตฺวา ปฏิจฺจสมุปฺปาโท เทสิโต. เยสํ ปน วิเนยฺยานํ ตทุภยสฺมึ วิภชฺช สุเต เอว ธมฺมาภิสมโย โหติ, เต สนฺธาย ภควา ตทุภยํ วิภชฺช ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาทฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺเน จ ธมฺเม’’ติ อิมํ เทสนํ อารภีติ อิมมตฺถํ วิภาเวนฺโต ‘‘สตฺถา อิมสฺมึ สุตฺเต’’ติอาทิมาห. ปจฺจยสฺส ภาโว ปจฺจยตฺตํ, ปจฺจยนิพฺพตฺตตา. อสภาวธมฺเม น ลพฺภตีติ ‘‘สภาวธมฺเม’’ติ วุตฺตํ. นนุ จ ชาติ ชรา มรณฺจ สภาวธมฺโม น โหติ, เยสํ ปน ขนฺธานํ ชาติ ชรา มรณฺจ, เต เอว สภาวธมฺมา, อถ กสฺมา เทสนาย เต คหิตาติ? นายํ โทโส, ชาติ ชรา มรณฺหิ ปจฺจยนิพฺพตฺตานํ สภาวธมฺมานํ วิการมตฺตํ, นฺเสํ, ตสฺมา เต คหิตาติ. อุปฺปาทา วา ตถาคตานนฺติ น วิเนยฺยปุคฺคลานํ มคฺคผลุปฺปตฺติ วิย ชาติปจฺจยา ชรามรณุปฺปตฺติ ตถาคตุปฺปาทายตฺตา, อถ โข สา ตถาคตานํ อุปฺปาเทปิ อนุปฺปาเทปิ โหติเยว. ตสฺมา สา กามํ อสงฺขตา วิย ธาตุ น นิจฺจา, ตถาปิ ‘‘สพฺพกาลิกา’’ติ เอเตน ชาติปจฺจยโต ชรามรณุปฺปตฺตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ชาติเยว ชรามรณสฺส ปจฺจโย’’ติ. ชาติปจฺจยาติ จ ชาติสงฺขาตปจฺจยา. เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนํ. ิตาว สา ธาตุ, ยายํ อิทปฺปจฺจยตา ชาติยา ชรามรณสฺส ปจฺจยตา ตสฺส พฺยภิจาราภาวโต. อิทานิ น กทาจิ ชาติ ชรามรณสฺส ปจฺจโย น โหติ โหติเยวาติ ชรามรณสฺส ปจฺจยภาเว นิยเมติ. อุภเยนปิ ยถาวุตฺตสฺส ปจฺจยภาโว ยตฺถ โหติ, ตตฺถ อวสฺสํภาวิตํ ทสฺเสติ. เตนาห ภควา ‘‘ิตาว สา ธาตู’’ติ. ทฺวีหิ ปเทหิ. ติฏฺนฺตีติ ยสฺส วเสน ธมฺมานํ ิติ, สา อิทปฺปจฺจยตา ธมฺมฏฺิตตา. ธมฺเมติ ปจฺจยุปฺปนฺเน ธมฺเม. นิยเมติ วิเสเสติ. เหตุคตวิเสสสมาโยโค หิ เหตุผลสฺส เอวํ ธมฺมตานิยาโม เอวาติ.

อปโร นโย – ิตาว สา ธาตูติ ยายํ ชรามรณสฺส อิทปฺปจฺจยตา ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ, เอสา ธาตุ เอส สภาโว. ตถาคตานํ อุปฺปาทโต ปุพฺเพ อุทฺธฺจ อปฺปฏิวิชฺฌิยมาโน, มชฺเฌ จ ปฏิวิชฺฌิยมาโน น ตถาคเตหิ อุปฺปาทิโต, อถ โข สมฺภวนฺตสฺส ชรามรณสฺส สพฺพกาลํ ชาติปจฺจยโต สมฺภโวติ ิตาว สา ธาตุ, เกวลํ ปน สยมฺภุาเณน อภิสมฺพุชฺฌนโต ‘‘อยํ ธมฺโม ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ’’ติ ปเวทนโต จ ตถาคโต ‘‘ธมฺมสามี’’ติ วุจฺจติ, น อปุพฺพสฺส อุปฺปาทนโต. เตน วุตฺตํ ‘‘ิตาว สา ธาตู’’ติ. สา เอว ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ เอตฺถ วิปลฺลาสาภาวโต เอวํ อวพุชฺฌมานสฺส เอตสฺส สภาวสฺส, เหตุโน วา ตเถว ภาวโต ิตตาติ ธมฺมฏฺิตตา, ชาติ วา ชรามรณสฺส อุปฺปาทฏฺิติ ปวตฺตอายูหน-สํโยค-ปลิโพธ-สมุทย-เหตุปจฺจยฏฺิตีติ ตทุปฺปาทาทิภาเวนสฺสา ิตตา ‘‘ธมฺมฏฺิตตา’’ติ ผลํ ปติ สามตฺถิยโต เหตุเมว วทติ. ธารียติ ปจฺจเยหีติ วา ธมฺโม, ติฏฺติ ตตฺถ ตทายตฺตวุตฺติตาย ผลนฺติ ิติ, ธมฺมสฺส ิติ ธมฺมฏฺิติ. ธมฺโมติ วา การณํ ปจฺจยภาเวน ผลสฺส ธารณโต, ตสฺส ิติ สภาโว, ธมฺมโต จ อฺโ สภาโว นตฺถีติ ธมฺมฏฺิติ, ปจฺจโย. เตนาห ‘‘ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. มาติกา ๔). ธมฺมฏฺิติ เอว ธมฺมฏฺิตตา. สา เอว ธาตุ ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ อิมสฺส สภาวสฺส, เหตุโน วา อฺถตฺตาภาวโต, ‘‘น ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ วิฺายมานสฺส จ ตพฺภาวาภาวโต นิยามตา ววตฺถิตภาโวติ ธมฺมนิยามตา. ผลสฺส วา ชรามรณสฺส ชาติยา สติ สมฺภโว ธมฺเม เหตุมฺหิ ิตตาติ ธมฺมฏฺิตตา, อสติ อสมฺภโว ธมฺมนิยามตาติ เอวํ ผเลน เหตุํ วิภาเวติ, ตํ ‘‘ิตาว สา ธาตู’’ติอาทินา วุตฺตํ. อิเมสํ ชรามรณาทีนํ ปจฺจยตาสงฺขาตํ อิทปฺปจฺจยตํ อภิสมฺพุชฺฌติ ปจฺจกฺขกรเณน อภิมุขํ พุชฺฌติ ยาถาวโต ปฏิวิชฺฌติ, ตโต เอว อภิสเมติ อภิมุขํ สมาคจฺฉติ, อาทิโต กเถนฺโต อาจิกฺขติ, อุทฺทิสตีติ อตฺโถ. ตเมว อุทฺเทสํ ปริโยสาเปนฺโต เทเสติ. ยถาอุทฺทิฏฺมตฺตํ นิทฺทิสนวเสน ปกาเรหิ าเปนฺโต ปฺาเปติ. ปกาเรหิ เอว ปติฏฺเปนฺโต ปฏฺเปติ. ยถานิทฺทิฏฺํ ปฏินิทฺเทสวเสน วิวรติ วิภชติ. วิวฏฺหิ วิภตฺตฺจ อตฺถํ เหตูทาหรณทสฺสเนหิ ปากฏํ กโรนฺโต อุตฺตานีกโรติ. อุตฺตานีกโรนฺโต ตถา ปจฺจกฺขภูตํ กตฺวา นิคมนวเสน ปสฺสถาติ จาห.

ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติอาทีสูติ ชาติอาทีนํ ชรามรณปจฺจยภาเวสุ. เตหิ เตหิ ปจฺจเยหีติ ยาวตเกหิ ปจฺจเยหิ ยํ ผลํ อุปฺปชฺชมานารหํ, อวิกเลหิ เตเหว ตสฺส อุปฺปตฺติ, น อูนาธิเกหีติ. เตนาห ‘‘อนูนาธิเกเหวา’’ติ. ยถา ตํ จกฺขุรูปาโลกมนสิกาเรหิ จกฺขุวิฺาณสฺส สมฺภโวติ. เตน ตํตํผลนิปฺผาทเน ตสฺสา ปจฺจยสามคฺคิยา ตปฺปการตา ตถตาติ วุตฺตาติ ทสฺเสติ. สามคฺคินฺติ สโมธานํ, สมวายนฺติ อตฺโถ. อสมฺภวาภาวโตติ อนุปฺปชฺชนสฺส อภาวโต. ตถาวิธปจฺจยสามคฺคิยฺหิ สติปิ ผลสฺส อนุปฺปชฺชเน ตสฺสาวิตถตา สิยา. อฺธมฺมปจฺจเยหีติ อฺสฺส ผลธมฺมสฺส ปจฺจเยหิ. อฺธมฺมานุปฺปตฺติโตติ ตโต อฺสฺส ผลธมฺมสฺส อนุปฺปชฺชนโต. น หิ กทาจิ จกฺขุรูปาโลกมนสิกาเรหิ โสตวิฺาณสฺส สมฺภโว อตฺถิ. ยทิ สิยา, ตสฺสา สามคฺคิยา อฺถตา นาม สิยา, น เจตํ อตฺถีติ ‘‘อนฺถตา’’ติ วุตฺตํ. ปจฺจยโตติ ปจฺจยภาวโต. ปจฺจยสมูหโตติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อิทปฺปจฺจยา เอว อิทปฺปจฺจยตาติ ตา-สทฺเทน ปทํ วฑฺฒิตํ ยถา ‘‘เทโวเยว เทวตา’’ติ, อิทปฺปจฺจยานํ สมูโห อิทปฺปจฺจยตาติ สมูหตฺโถ ตาสทฺโท ยถา ‘‘ชนานํ สมูโห ชนตา’’ติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘ลกฺขณํ ปเนตฺถ สทฺทสตฺถโต เวทิตพฺพ’’นฺติ.

นิจฺจํ สสฺสตนฺติ อนิจฺจํ. ชรามรณํ น อนิจฺจํ สงฺขารานํ วิการภาวโต อนิปฺผนฺนตฺตา, ตถาปิ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ ปริยาเยน วุตฺตํ. เอส นโย สงฺขตาทีสุปิ. สมาคนฺตฺวา กตํ สหิเตเหว ปจฺจเยหิ นิพฺพตฺเตตพฺพโต ยถาสภาวํ สเมจฺจ สมฺภุยฺย ปจฺจเยหิ กตนฺติ สงฺขตํ. ปจฺจยารหํ ปจฺจยํ ปฏิจฺจ น วินา เตน สหิตสเมตเมว อุปฺปนฺนนฺติ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ. เตนาห ‘‘ปจฺจเย นิสฺสาย อุปฺปนฺน’’นฺติ. ขยสภาวนฺติ ภิชฺชนสภาวํ. วิคจฺฉนกสภาวนฺติ สกภาวโต อปคจฺฉนกสภาวํ. วิรชฺชนกสภาวนฺติ ปลุชฺชนกสภาวํ. นิรุชฺฌนกสภาวนฺติ ขณภงฺควเสน ปภงฺคุสภาวํ. วุตฺตนเยนาติ ชราย วุตฺตนเยน. ชนกปฺปจฺจยานํ กมฺมาทีนํ. กิจฺจานุภาวกฺขเณติ เอตฺถ กิจฺจานุภาโว นาม ยถา ปวตฺตมาเน ปจฺจเย ตสฺส ผลํ อุปฺปชฺชติ, ตถา ปวตฺติ, เอวํ สนฺตสฺส ปวตฺตนกฺขเณ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมึ ขเณ ปจฺจโย อตฺตโน ผลุปฺปาทนํ ปติ พฺยาวโฏ นาม โหติ, อิมสฺมึ ขเณ เย ธมฺมา รูปาทโย อุปลพฺภนฺติ ตโต ปุพฺเพ, ปจฺฉา จ อนุปลพฺภมานา, เตสํ ตโต อุปฺปตฺติ นิทฺธารียติ, เอวํ ชาติยาปิ สา นิทฺธาเรตพฺพา ตํขณูปลทฺธโตติ. ยทิ เอวํ นิปฺปริยายโตว ชาติยา กุโตจิ อุปฺปตฺติ สิทฺธิ, อถ กสฺมา ‘‘เอเกน ปริยาเยนา’’ติ วุตฺตนฺติ? ชายมานธมฺมานํ วิการภาเวน อุปลทฺธพฺพตฺตา. ยทิ นิปฺผนฺนธมฺมา วิย ชาติ อุปลพฺเภยฺย, นิปฺปริยายโตว ตสฺสา กุโตจิ อุปฺปตฺติ สิยา, น เจวํ อุปลพฺภติ, อถ โข อนิปฺผนฺนตฺตา วิการภาเวน อุปลพฺภติ. ตสฺมา ‘‘เอเกน ปริยาเยเนตฺถ อนิจฺจาติอาทีนิ ยุชฺชนฺตี’’ติ วุตฺตํ. น ปน ชรามรเณ, ชนกปฺปจฺจยานํ กิจฺจานุภาวกฺขเณ ตสฺส อลพฺภนโต. เตเนว ‘‘เอตฺถ จ อนิจฺจนฺติ…เป… อนิจฺจํ นาม ชาต’’นฺติ วุตฺตํ.

สวิปสฺสนายาติ เอตฺถ สห-สทฺโท อปฺปธานภาวทีปโน ‘‘สมกฺขิกํ, สมกส’’นฺติอาทีสุ วิย. อปฺปธานภูตา หิ วิปสฺสนา, ยถาภูตทสฺสนมคฺคปฺา ปชานาติ. ‘‘ปุริมํ อนฺต’’นฺติ วุจฺจมาเน ปจฺจุปฺปนฺนภาวสฺสปิ คหณํ สิยาติ ‘‘ปุริมํ อนฺตํ อตีต’’นฺติ วุตฺตํ. วิชฺชมานตฺจ อวิชฺชมานตฺจาติ สสฺสตาสงฺกํ นิสฺสาย ‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธาน’’นฺติ อตีเต อตฺตโน วิชฺชมานตํ, อธิจฺจสมุปฺปตฺติอาสงฺกํ นิสฺสาย ‘‘ยโต ปภุติ อหํ, ตโต ปุพฺเพ น นุ โข อโหสิ’’นฺติ อตีเต อตฺตโน อวิชฺชมานตฺจ กงฺขติ. กสฺมา? วิจิกิจฺฉาย อาการทฺวยาวลมฺพนโต. ตสฺสา ปน อตีตวตฺถุตาย คหิตตฺตา สสฺสตาธิจฺจสมุปฺปตฺติอาการนิสฺสิตตา ทสฺสิตา เอว. อาสปฺปนปริสปฺปนปวตฺติกํ กตฺถจิปิ อปฺปฏิวตฺติเหตุภูตํ วิจิกิจฺฉํ กสฺมา อุปฺปาเทตีติ น วิจาเรตพฺพเมตนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘กึการณนฺติ น วตฺตพฺพ’’นฺติ . การณํ วา วิจิกิจฺฉาย อโยนิโสมนสิกาโร, ตสฺส อนฺธพาลปุถุชฺชนภาโว, อริยานํ อทสฺสาวิตา จาติ ทฏฺพฺพํ. ชาติลิงฺคุปปตฺติโยติ ขตฺติยพฺราหฺมณาทิชาตึ, คหฏฺปพฺพชิตาทิลิงฺคํ, เทวมนุสฺสาทิอุปปตฺติฺจ. นิสฺสายาติ อุปาทาย. ตสฺมึ กาเล ยํ สนฺตานํ มชฺฌิมํ ปมาณํ, เตน ยุตฺโต ปมาณิโก, ตทภาวโต อธิกภาวโต วา ‘‘อปฺปมาณิโก’’ติ เวทิตพฺโพ. เกจีติ สารสมาสาจริยา. เต หิ ‘‘กถํ นุ โข’’ติ อิสฺสเรน วา พฺรหฺมุนา วา ปุพฺพกเตน วา อเหตุโต วา นิพฺพตฺโตติ จินฺเตตีติ วทนฺติ. อเหตุโต นิพฺพตฺติกงฺขาปิ หิ เหตุปรามสนเมวาติ. ปรมฺปรนฺติ ปุพฺพาปรปฺปวตฺตึ. อทฺธานนฺติ กาลาธิวจนํ, ตฺจ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ ทฏฺพฺพํ. วิชฺชมานตฺจ อวิชฺชมานตฺจาติ สสฺสตาสงฺกํ นิสฺสาย ‘‘ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธาน’’นฺติ อนาคเต อตฺตโน วิชฺชมานตํ, อุจฺเฉทาสงฺกํ นิสฺสาย ‘‘ยสฺมิฺจ อตฺตภาเว อุจฺเฉทนกงฺขา, ตโต ปรํ นุ โข ภวิสฺสามี’’ติ อนาคเต อตฺตโน อวิชฺชมานตฺจ กงฺขตีติ เหฏฺา วุตฺตนเยน โยเชตพฺพํ.

ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานนฺติ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนสฺส อิธาธิปฺเปตตฺตา ‘‘ปฏิสนฺธิมาทึ กตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อิทํ กถํ, อิทํ กถ’’นฺติ ปวตฺตนโต กถํกถา, วิจิกิจฺฉา, สา อสฺส อตฺถีติ กถํกถี. เตนาห ‘‘วิจิกิจฺฉี’’ติ. กา เอตฺถ จินฺตา? อุมฺมตฺตโก วิย พาลปุถุชฺชโนติ ปฏิกจฺเจว วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ตํ มหามาตาย ปุตฺตํ. มุณฺเฑสุนฺติ มุณฺเฑน อนิจฺฉนฺตํ ชาครณกาเล น สกฺกาติ สุตฺตํ มุณฺเฑสุํ กุลธมฺมวเสน ยถา เอกจฺเจ กุลตาปสา. ราชภเยนาติ จ วทนฺติ. สีติภูตนฺติ อิทํ มธุรกภาวปฺปตฺติยา การณวจนํ. ‘‘เสตภูต’’นฺติปิ ปาโ, อุทเก จิรฏฺาเนน เสตภาวํ ปตฺตนฺติ อตฺโถ.

อตฺตโน ขตฺติยภาวํ กงฺขติ กณฺโณ วิย สูตปุตฺตสฺี, สูตปุตฺตสฺีติ สูริยเทวปุตฺตสฺส ปุตฺตสฺี. ชาติยา วิภาวิยมานาย ‘‘อห’’นฺติ ตสฺส อตฺตโน ปรามสนํ สนฺธายาห ‘‘เอวมฺปิ สิยา กงฺขา’’ติ. มนุสฺสาปิ จ ราชาโน วิยาติ มนุสฺสาปิ จ เกจิ เอกจฺเจ ราชาโน วิยาติ อธิปฺปาโย. วุตฺตนยเมว ‘‘สณฺานาการํ นิสฺสายา’’ติอาทินา. เอตฺถาติ ‘‘กถํ นุ โขสฺมี’’ติ ปเท. อพฺภนฺตเร ชีโวติ ปรปริกปฺปิตํ อนฺตรตฺตานํ วทติ. โสฬสํสาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน สรีรปริมาณองฺคุฏฺ-ยวปรมาณุปริมาณตาทิเก สงฺคณฺหาติ. สตฺตปฺตฺติ ชีววิสยาติ ทิฏฺิคติกานํ มติมตฺตํ, ปรมตฺถโต ปน สา อตฺตภาววิสยาวาติ อาห ‘‘อตฺตภาวสฺส อาคติคติฏฺาน’’นฺติ. ยตายํ อาคโต, ยตฺถ จ คมิสฺสติ, ตํ านนฺติ อตฺโถ. โสตาปนฺโน อธิปฺเปโต วิจิกิจฺฉาปหานสฺส ทิฏฺตฺตา. อิตเรปิ ตโยติ สกทาคามีอาทโย อวาริตา เอว. ‘‘อยฺจ…เป… สุทิฏฺา’’ติ นิปฺปเทสโต สจฺจสํปฏิเวธสฺส โชติตตฺตา.

ปจฺจยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

อาหารวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ทสพลวคฺโค

๑. ทสพลสุตฺตวณฺณนา

๒๑. ปมํทุติยสฺเสว สงฺเขโป ปมสุตฺเต สงฺเขปวุตฺตสฺส อตฺถสฺส วิตฺถารวเสน ทุติยสุตฺตสฺส เทสิตตฺตา, ตฺจ ปน ภควา ปมสุตฺตํ สงฺเขปโต เทเสสิ, ทุติยํ ตโต วิตฺถารโต. ปมํ วา สํขิตฺตรุจีนํ ปุคฺคลานํ อชฺฌาสเยน สงฺเขปโต เทเสสิ, ทุติยํ ปน อตฺตโน รุจิยา ตโต วิตฺถารโต. สีหสมานวุตฺติกา หิ พุทฺธา ภควนฺโต, เต อตฺตโน รุจิยา กเถนฺตา อตฺตโน ถามํ ทสฺเสนฺตาว กเถนฺติ, ตสฺมา ทุติยสุตฺตวเสน เจตฺถ อตฺถวณฺณนํ กริสฺสาม, ตสฺมึ สํวณฺณิเต ปมํ สํวณฺณิตเมว โหตีติ อธิปฺปาโย.

ทสพลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยทสพลสุตฺตวณฺณนา

๒๒. ตตฺถาติ ทุติยสุตฺเต. ทสหิ พเลหีติ ทสหิ อนฺสาธารเณหิ าณพเลหิ, ตานิ ตถาคตสฺเสว พลานีติ ตถาคตพลานีติ วุจฺจนฺติ. กามฺจ ตานิ เอกจฺจานํ สาวกานมฺปิ อุปฺปชฺชนฺติ, ยาทิสานิ ปน พุทฺธานํ านาฏฺานาณาทีนิ อุปฺปชฺชนฺติ, น ตาทิสานิ ตทฺเสํ กทาจิปิ อุปฺปชฺชนฺตีติ. หตฺถิกุลานุสาเรนาติ วกฺขมานหตฺถิกุลานุสาเรน. กาฬาวกนฺติ กุลสทฺทาเปกฺขาย นปุํสกนิทฺเทโส. เอส นโย เสเสสุปิ. ปกติหตฺถิกุลนฺติ คิริจรนทิจรวนจราทิปฺปเภทา โคจริยกาฬาวกนามา สพฺพาปิ พเลน ปากติกา หตฺถิชาติ. ทสนฺนํ ปุริสานนฺติ ถามมชฺฌิมานํ ทสนฺนํ ปุริสานํ. เอกสฺส ตถาคตสฺส กายพลนฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. เอกสฺสาติ จ ตถา เหฏฺากถายํ อาคตตฺตา เทสนาโสเตน วุตฺตํ. นารายนสงฺฆาตพลนฺติ เอตฺถ นารา วุจฺจนฺติ รสฺมิโย, ตา พหู นานาวิธา อิโต อุปฺปชฺชนฺตีติ นารายนํ, วชิรํ, ตสฺมา นารายนสงฺฆาตพลนฺติ วชิรสงฺฆาตพลนฺติ อตฺโถ. ตถาคตสฺส กายพลนฺติ ตถาคตสฺส ปากติกกายพลํ. สงฺคหํ น คจฺฉติ อตฺตโน พลาภาวโต, ตโต เอวสฺส พาหิรกตา ลามกตา จ. ตทุภยํ ปนสฺส การเณน ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺหิ นิสฺสายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฺนฺติ กายพลโต อฺํ ตโต วิสุํเยว. ทสสุ าเนสุ ทสสุ าตพฺพฏฺาเนสุ. ยาถาวปฏิเวธโต สยฺจ อกมฺปยํ, ปุคฺคลฺจ ตํสมงฺคึ เนยฺเยสุ อธิพลํ กโรตีติ อาห ‘‘อกมฺปนฏฺเน อุปตฺถมฺภนฏฺเน จา’’ติ.

านฺจานโตติ การณฺจ การณโต. การณฺหิ ยสฺมา ผลํ ติฏฺติ ตทายตฺตวุตฺติตาย อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จ, ตสฺมา ‘‘าน’’นฺติ วุจฺจติ. วิปริยาเยน อฏฺานนฺติ อการณํ เวทิตพฺพํ. ตทุภยํ ภควา เยน าเณน เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ เหตู ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ านํ, เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ น เหตู น ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ อฏฺานนฺติ ปชานาติ. ตํ สนฺธายาห ‘‘านฺจ…เป… ชานนํ เอก’’นฺติ. กมฺมสมาทานานนฺติ กมฺมํ สมาทิยิตฺวา กตานํ กุสลากุสลกมฺมานํ, กมฺมฺเว วา กมฺมสมาทานํ. านโส เหตุโสติ ปจฺจยโต จ เหตุโต จ. ตตฺถ คติอุปธิกาลปโยคา วิปากสฺส านํ, กมฺมํ เหตุ. สพฺพตฺถคามินีปฏิปทาชานนนฺติ สพฺพคติคามินิยา อคติคามินิยา จ ปฏิปทาย มคฺคสฺส ชานนํ, พหูสุปิ มนุสฺเสสุ เอกเมว ปาณํ หนนฺเตสุ ‘‘อิมสฺส เจตนา นิรยคามินี ภวิสฺสติ, อิมสฺส ติรจฺฉานโยนิคามินี’’ติ อิมินา นเยน เอกวตฺถุสฺมิมฺปิ กุสลากุสลเจตนาสงฺขาตานํ ปฏิปตฺตีนํ อวิปรีตโต สภาวชานนํ . อเนกธาตุนานาธาตุโลกชานนนฺติ จกฺขุธาตุอาทีหิ กามธาตุอาทีหิ วา พหุธาตุโน, ตาสํเยว ธาตูนํ วิปรีตตาย นานปฺปการธาตุโน ขนฺธายตนธาตุโลกสฺส ชานนํ. ปรสตฺตานนฺติ ปเรสํ สตฺตานํ. นานาธิมุตฺติกตาชานนนฺติ หีนาทีหิ อธิมุตฺตีหิ นานาธิมุตฺติกภาวสฺส ชานนํ. เตสํเยวาติ ปรสตฺตานํเยว. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตชานนนฺติ สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ ปรภาวสฺส อปรภาวสฺส วุทฺธิยา เจว หานิยา จ ชานนํ. ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนนฺติ ปมาทีนํ จตุนฺนํ ฌานานํ, ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีนํ อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานํ, สวิตกฺกสวิจาราทีนํ ติณฺณํ สมาธีนํ, ปมชฺฌานสมาปตฺติอาทีนฺจ นวนฺนํ อนุปุพฺพสมาปตฺตีนํ. สํกิเลสโวทานวุฏฺานชานนนฺติ หานภาคิยสฺส, วิเสสภาคิยสฺส ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺานํ, ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ (วิภ. ๘๒๘) เอวํ วุตฺตปคุณชฺฌานสฺส เจว ภวงฺคผลสมาปตฺตีนฺจ ชานนํ. เหฏฺิมํ เหฏฺิมฺหิ ปคุณชฺฌานํ อุปริมสฺส อุปริมสฺส ปทฏฺานํ โหติ, ตสฺมา โวทานมฺปิ ‘‘วุฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ. ภวงฺเคน ปน สพฺพฌาเนหิ วุฏฺานํ โหติ. ผลสมาปตฺติยา นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺานเมว สนฺธาย ‘‘ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. ปุพฺเพนิวาสชานนนฺติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน นิวุฏฺกฺขนฺธานํ ชานนํ. จุตูปปาตชานนนฺติ สตฺตานํ จุติยา อุปปตฺติยา จ ยาถาวโต ชานนํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อาสวกฺขยชานนํ อาสวกฺขยาณํ, มคฺคาณนฺติ อตฺโถ. ยตฺถ ปเนตานิ วิตฺถารโต อาคตานิ สํวณฺณิตานิ, ตานิ ทสฺเสนฺโต ‘‘อภิธมฺเม ปนา’’ติอาทิมาห.

พฺยาโมหภยวเสน สรณปริเยสนํ สารชฺชนํ สารโท, พฺยาโมหภยํ. วิคโต สารโท เอตสฺสาติ วิสารโท, ตสฺส ภาโว เวสารชฺชํ. ตํ ปน าณสมฺปทํ ปหานสมฺปทํ เทสนาวิเสสสมฺปทํ เขมํ นิสฺสาย ปวตฺตํ จตุพฺพิธํ ปจฺจเวกฺขณาาณํ. เตนาห ‘‘จตูสุ าเนสู’’ติอาทิ. จตูสูติ ปรปริกปฺปิเตสุ วตฺถูสุ. ปรปริกปฺปิเตสุ วา วตฺถุมตฺเตสุ โจทนาการเณสุ. สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโตติ ‘‘อหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ เอวํ ปฏิชานนฺเตน ตยา. อิเม ธมฺมาติ ‘‘อิทํ ปฺจมํ อริยสจฺจํ, อยํ ฉฏฺโ อุปาทานกฺขนฺโธ, อิทํ เตรสมํ อายตน’’นฺติ เวทิตพฺพา อิเม ธมฺมา. อนภิสมฺพุทฺธา อปฺปฏิวิทฺธตฺตาติ.

ตตฺราติ ตสฺมึ อนภิสมฺพุทฺธธมฺมสงฺขาเต โจทนาวตฺถุสฺมึ. โกจีติ สมณาทีหิ อฺโ วา โย โกจิ. สห ธมฺเมนาติ สห เหตุนา. ‘‘ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติอาทีสุ วิย เหตุปริยาโย อิธ ธมฺม-สทฺโท. เหตูติ จ อุปฺปตฺติสาธนเหตุ เวทิตพฺโพ, น การโก สมฺปาปโก วา. นิมิตฺตนฺติ การณํ, ตํ ปเนตฺถ โจทนาวตฺถุเมว. น สมนุปสฺสามิ สมฺมาสมฺพุทฺธภาวโต. เขมปฺปตฺโตติ อเขมปฺปตฺตรูปาย โจทนาย อนุปทฺทวํ ปตฺโต นิจฺจลภาวปฺปตฺโต. เวสารชฺชปฺปตฺโตติ วิสารทภาวปฺปตฺโต. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – อิเม อาสวาติ กามาสวาทีสุ อิเม นาม อาสวา น ปริกฺขีณาติ อาสวกฺขยวจเนเนตฺถ สพฺพกิเลสปฺปหานํ วุตฺตํ. น หิ โส กิเลโส อตฺถิ, โย สพฺพโส อาสเวสุ ขีเณสุ นปฺปหีเยยฺย. อนฺตรายิกาติ อนฺตรายกรา, สคฺควิโมกฺขาธิคมสฺส อนฺตรายกราติ อตฺโถ. ธมฺโม หิ โย สํกิเลสโต นิยฺยาติ, โส ‘‘นิยฺยานิโก’’ติ วุตฺโต. ธมฺเม นิยฺยนฺเต ตํสมงฺคีปุคฺคโล นิยฺยานิโกติ โวหริโต โหตีติ ตสฺส ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘โส น นิยฺยาตี’’ติ อาห. กถํ ปน เทสนาธมฺโม นิยฺยาตีติ วุจฺจติ? นิยฺยานตฺถสมาธานโต, โส อเภโทปจาเรน ‘‘นิยฺยาตี’’ติ วุตฺโต. อถ วา ‘‘ธมฺโม เทสิโต’’ติ อริยธมฺมสฺส อธิปฺเปตตฺตา น โกจิ วิโรโธ.

อุสภสฺส อิทนฺติ อาสภํ, อสนฺตสนฏฺเน อาสภํ วิยาติ อาสภํ, เสฏฺฏฺานํ สพฺพฺุตํ. อาสภฏฺานฏฺายิตาย อาสภา นาม ปุพฺพพุทฺธา. สพฺพฺุตปฏิชานนวเสน อภิมุขํ คจฺฉนฺติ, จตสฺโส วา ปริสา อุปสงฺกมนฺตีติ อาสภา. จตสฺโสปิ หิ ปริสา พุทฺธาภิมุขา เอวํ ติฏฺนฺติ, น ติฏฺนฺติ ปรมฺมุขา. อิทมฺปีติ ‘‘อุสโภ’’ติ อิทมฺปิ ปทํ. ตสฺสาติ นิสภสฺส. เยสํ พลุปฺปาทาวฏฺานานํ วเสน อุสภสฺส อาสภณฺานํ อิจฺฉิตํ, ตโต สาติสยานํ เอว เตสํ วเสน อาสภณฺานํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ยํ กิฺจิ โลเก อุปมํ นาม พุทฺธคุณานํ นิทสฺสนภาเวน วุจฺจติ, สพฺพํ ตํ นิหีนเมว. ติฏฺมาโน จาติ อติฏฺนฺโตปิ ติฏฺมาโน เอว ปฏิชานาติ นาม. อุปคจฺฉตีติ อนุชานาติ.

อฏฺโข อิมาติ อิทํ เวสารชฺชาณสฺส พลทสฺสนํ. ยถา หิ พฺยตฺตํ ปริสํ อชฺโฌคาเหตฺวา วิฺูนํ จิตฺตํ อาราธนสมตฺถาย กถาย ธมฺมกถิกสฺส เฉกภาโว ปฺายติ, เอวํ อิมา อฏฺ ปริสา ปตฺวา สตฺถุ เวสารชฺชาณสฺส พลํ ปากฏํ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปริสาสู’’ติ. ขตฺติยปริสาติ ขตฺติยานํ สนฺนิปติตานํ สมูโห. เอส นโย สพฺพตฺถ. มารปริสาติ มารกายิกานํ สนฺนิปติตานํ สมูโห. มารสทิสานํ มารานํ ปริสาติ มารปริสา. สพฺพา เจตา ปริสา อุคฺคฏฺานทสฺสนวเสน คหิตา. มนุสฺสา หิ ‘‘เอตฺถ ราชา นิสินฺโน’’ติ วุตฺเต ปกติวจนมฺปิ วตฺตุํ น สกฺโกนฺติ, กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ, เอวํ อุคฺคา ขตฺติยปริสา, พฺราหฺมณา ตีสุ เวเทสุ กุสลา โหนฺติ, คหปตโย นานาโวหาเรสุ จ อกฺขรจินฺตาย จ กุสลา, สมณา สกวาทปรวาเทสุ กุสลา, เตสํ มชฺเฌ ธมฺมกถากถนํ นาม อติวิย ภาริยํ. เทวานํ อุคฺคภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. อมนุสฺโสติ หิ วุตฺตมตฺเต มนุสฺสานํ สกลสรีรํ กมฺปติ, เตสํ รูปํ ทิสฺวาปิ สทฺทํ สุตฺวาปิ สตฺตา วิสฺิตาปิ โหนฺติ. เอวํ อมนุสฺสปริสา อุคฺคา. อิติ เจตา ปริสา อุคฺคฏฺานทสฺสนวเสน วุตฺตา. กสฺมา ปเนตฺถ ยามาทิปริสา น คหิตาติ? ภุสํ กามาภิคิทฺธตาย โยนิโสมนสิการวิรหโต. ยามาทโย หิ อุฬารุฬาเร กาเม ปฏิเสวนฺตา ตตฺถาภิคิทฺธตาย ธมฺมสฺสวนาย สภาเวน จิตฺตมฺปิ น อุปฺปาเทนฺติ, มหาโพธิสตฺตานํ ปน พุทฺธานฺจ อานุภาเวน อากฑฺฒิยมานา กทาจิ เนสํ ปยิรุปาสนาทีนิ กโรนฺติ ตาทิเส มหาสมเย. เตเนว หิ วิมานวตฺถุเทสนาปิ ตํนิมิตฺตา พหุลา นาโหสิ. เสฏฺนาทนฺติ เกนจิ อปฺปฏิหตภาเวน อุตฺตมนาทํ. อภีตนาทนฺติ เวสารชฺชโยคโต กุโตจิ นิพฺภยนาทํ. สีหนาทสุตฺเตนาติ ขนฺธิยวคฺเค อาคเตน สีหนาทสุตฺเตน. สหนโตติ ขมนโต. หนนโตติ วิธมนโต วิทฺธํสนโต. ยถา วาติอาทิ ‘‘สีหนาทสทิสํ วา นาทํ นทตี’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตสฺส อตฺถสฺส วิฺาปนํ.

เอตนฺติ ‘‘พฺรหฺมจกฺก’’นฺติ เอตํ ปทํ. ปฺาปภาวิตนฺติ จิรกาลปริภาวิตาย ปารมิตาปฺาย วิปสฺสนาปฺาย จ อุปฺปาทิตํ. กรุณาปภาวิตนฺติ ‘‘กิจฺฉํ วตายํ โลโก อาปนฺโน’’ติอาทินยปฺปวตฺตาย มหากรุณาย อุปฺปาทิตํ. ยถา อภินิกฺขมนโต ปภุติ มหาโพธิสตฺตานํ อริยมคฺคาธิคมนวิโรธินี ปฏิปตฺติ นตฺถิ, เอวํ ตุสิตภวนโต นิยตภาวาปตฺติโต จ ปฏฺายาติ ทุติยตติยนยา จ คหิตา. ผลกฺขเณติ อคฺคผลกฺขเณ. ปฏิเวธนิฏฺตฺตา อรหตฺตมคฺคาณํ วชิรูปมตาเยว สาติสโย ปฏิเวโธติ ‘‘ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นามา’’ติ วุตฺตํ. เตน ปฏิลทฺธสฺสปิ เทสนาาณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติ ปรสฺส พุชฺฌนมตฺเตน โหตีติ ‘‘อฺาสิโกณฺฑฺสฺส โสตาปตฺติ…เป… ผลกฺขเณ ปวตฺตนํ นามา’’ติ วุตฺตํ. ตโต ปรํ ปน ยาว ปรินิพฺพานา เทสนาาณปฺปวตฺติ, ตสฺเสว ปวตฺติตสฺส ธมฺมจกฺกสฺส านนฺติ เวทิตพฺพํ ปวตฺติตจกฺกสฺส จกฺกวตฺติโน จกฺกรตนสฺส านํ วิย. อุภยมฺปีติ ปิ-สทฺเทน โลกิยเทสนาาณสฺส อิตเรน อนฺสาธารณตาวเสน สมานตํ สมฺปิณฺเฑติ. อุรสิ ชาตตาย อุรโส สมฺภูตนฺติ โอรสํ าณํ.

อิติ รูปนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อนวเสสโต รูปสฺส สรูปนิทสฺสนตฺโถติ ตสฺส ‘‘อิทํ รูป’’นฺติ เอเตน สาธารณโต จ สรูปนิทสฺสนมาห. เอตฺตกํ รูปนฺติ เอเตน อนวเสสโต ‘‘อิโต อุทฺธํ รูปํ นตฺถี’’ติ นิมิตฺตสฺส อฺสฺส อภาวํ. อิทานิ ตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘รุปฺปนสภาวฺเจวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ รุปฺปนํ สีตาทิวิโรธิปจฺจยสมวาเย วิสทิสุปฺปตฺติ. อาทิ-สทฺเทน อชฺฌตฺติกพาหิราทิเภทํ สงฺคณฺหาติ. ลกฺขณ…เป… วเสนาติ กกฺขฬตฺตาทิลกฺขณวเสน สนฺธารณาทิรสวเสน สมฺปฏิจฺฉนาทิปจฺจุปฏฺานวเสน ภูตตฺตยาทิปทฏฺานวเสน จ. เอวํ ปริคฺคหิตสฺสาติ เอวํ สาธารณโต จ ลกฺขณาทิโต จ ปริคฺคหิตสฺส. อวิชฺชาสมุทยาติ อวิชฺชาย อุปฺปาทา, อตฺถิภาวาติ อตฺโถ. นิโรธวิโรธี หิ อตฺถิภาโว โหติ, ตสฺมา นิโรเธ อสติ อตฺถิภาโว โหติ, ตสฺมา ปุริมภเว สิทฺธาย อวิชฺชาย สติ อิมสฺมึ ภเว รูปสฺส สมุทโย รูปสฺส อุปฺปาโท โหตีติ อตฺโถ. ตณฺหาสมุทยา กมฺมสมุทยาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อวิชฺชาทีหิ จ ตีหิ อตีตกาลิกตฺตา เตสํ สหการีการณภูตํ อุปาทานมฺปิ คหิตเมวาติ เวทิตพฺพํ. ปวตฺติปจฺจเยสุ กพฬีการอาหารสฺส พลวตาย, โส เอว คหิโต, ‘‘อาหารสมุทยา’’ติ ปน คหิเตน ปวตฺติปจฺจยตามตฺเตน อุตุจิตฺตานิปิ คหิตาเนว โหนฺตีติ ทฺวาทสสมุฏฺานิกํ รูปสฺส ปจฺจยโต ทสฺสนมฺปิ ภวิตพฺพเมวาติ ทฏฺพฺพํ. นิพฺพตฺติลกฺขณนฺติอาทินา กาลวเสน อุทยทสฺสนมาห. ตตฺถ ภูตวเสน มคฺเค อุทยํ ปสฺสิตฺวา ิโต อิธ สนฺตติวเสน อนุกฺกเมน ขณวเสน ปสฺสติ. อวิชฺชานิโรธา รูปนิโรโธติ อคฺคมคฺคาเณน อวิชฺชาย อนุปฺปาทนิโรธโต อนาคตสฺส อนุปฺปาทนิโรโธ โหติ ปจฺจยาภาเว อภาวโต. ปจฺจยนิโรเธนาติ อวิชฺชาสงฺขาตสฺส ปจฺจยสฺส นิโรธภาเวน. ตณฺหานิโรธาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อาหารนิโรธาติ ปวตฺติปจฺจยสฺส กพฬีการาหารสฺส อภาวา. รูปนิโรธาติ ตํสมุฏฺานรูปสฺส อภาโว โหติ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพํ. วิปริณามลกฺขณนฺติ ภวกาลวเสน เหตุทฺวยทสฺสนํ. ตสฺมา ตํ ปทฏฺานวเสน ปเคว ปสฺสิตฺวา ิโต อิธ สนฺตติวเสน ทิสฺวา อนุกฺกเมน ขณวเสน ปสฺสติ.

อิติ เวทนาติอาทีสุปิ วุตฺตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สุขาทิเภทนฺติ สุขทุกฺขอทุกฺขมสุขาทิวิภาคํ. รูปสฺาทิเภทนฺติ รูปสฺา, สทฺท… คนฺธ… รส… โผฏฺพฺพ … ธมฺมสฺาทิวิภาคํ. ผสฺสาทิเภทนฺติ ผสฺสเจตนามนสิการาทิวิภาคํ. ลกฺขณ…เป… วเสนาติ อิฏฺานุภวนลกฺขณาทิลกฺขณวเสน อิฏฺาการสมฺโภครสาทิรสวเสน กายิกอสฺสาทาทิปจฺจุปฏฺานวเสน อิฏฺารมฺมณาทิปทฏฺานวเสน. ‘‘ผุฏฺโ เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาติ, ผุฏฺโ เจเตตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๓) วจนโต ตีสุ เวทนาทีสุ ขนฺเธสุ ผสฺสสมุทยาติ วตฺตพฺพํ. วิฺาณปฺปจฺจยา นามรูป’’นฺติ วจนโต วิฺาณกฺขนฺเธ นามรูปสมุทยาติ วตฺตพฺพํ. เตสํเยว วเสนาติ ‘‘อวิชฺชานิโรโธ เวทนานิโรโธ’’ติอาทินา เตสํเยว อวิชฺชาทีนํ วเสน โยเชตพฺพํ.

อุปาทานกฺขนฺธานํ สมุทยตฺถงฺคมวเสน ติตฺถิยานํ อวิสโยปิ สปฺปเทโส สีหนาโท ทสฺสิโต. อิทานิ นิปฺปเทโส อนุโลมปฏิโลมวเสน สงฺเขปโต วิตฺถารโต ปจฺจยาการวิสโย อนฺสาธารโณ ทสฺสียตีติ อาห, ‘‘อยมฺปิ อปโร สีหนาโท’’ติ. ตสฺสาติ ‘‘อิมสฺมึ สตี’’ติอาทินา สงฺเขปโต วุตฺตปฏิจฺจสมุปฺปาทปาฬิยา. เอตฺถ จ ‘‘อิมสฺมึ สติ อิทํ โหติ, อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุฌฺตี’’ติ อวิชฺชาทีนํ ภาเว สงฺขาราทีนํ ภาวสฺส, อวิชฺชาทีนํ นิโรเธ สงฺขาราทีนํ นิโรธสฺส กถเนน ปุริมสฺมึ ปจฺจยลกฺขเณ นิยโม ทสฺสิโต ‘‘อิมสฺมึ สติ เอว, นาสติ, อิมสฺส อุปฺปาทา เอว, นานุปฺปาทา, นิโรธา เอว, นานิโรธา’’ติ. เตเนทํ ลกฺขณํ อนฺโตคธนิยมํ อิธ ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. นิโรโธติ จ อวิชฺชาทีนํ วิราคา วิคเมน อายตึ อนุปฺปาโท อปฺปวตฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา’’ติอาทิ. นิโรธวิโรธี จ อุปฺปาโท, เยน โส อุปฺปาทนิโรธวิภาเคน วุตฺโต ‘‘อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌตี’’ติ. เตเนตํ ทสฺเสติ ‘‘อสติ นิโรเธ อุปฺปาโท นาม, โส เจตฺถ อตฺถิภาโวติ วุจฺจตี’’ติ. ‘‘อิมสฺมึ สติ อิทํ โหตี’’ติ อิทเมว หิ ลกฺขณํ. ปริยายนฺตเรน ‘‘อิมสฺส อุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วทนฺเตน ปเรน ปุริมํ วิเสสิตํ โหติ. ตสฺมา น วตฺตมานํเยว สนฺธาย ‘‘อิมสฺมึ สตี’’ติ วุตฺตํ, อถ โข มคฺเคน อนิรุชฺฌนสภาวฺจาติ วิฺายติ. ยสฺมา จ ‘‘อิมสฺมึ อสติ อิทํ น โหติ, อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌตี’’ติ ทฺวิธาปิ อุทฺทิฏฺสฺส ลกฺขณสฺส นิทฺเทสํ วทนฺเตน ภควตา ‘‘อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ’’ติอาทินา นิโรโธว วุตฺโต, ตสฺมา นตฺถิภาโวปิ นิโรโธ เอวาติ นตฺถิภาววิรุทฺโธ อตฺถิภาโว อนิโรโธติ ทสฺสิตํ โหติ. เตน อนิโรธสงฺขาเตน อตฺถิภาเวน อุปฺปาทํ วิเสเสติ. ตโต อิธ น เกวลํ อตฺถิภาวมตฺตํ อุปฺปาโทติ อตฺโถ อธิปฺเปโต, อถ โข อนิโรธสงฺขาโต อตฺถิภาโว จาติ อยมตฺโถ วิภาวิโต โหติ. เอวเมตํ ลกฺขณทฺวยวจนํ อฺมฺํ วิเสสนวิเสสิตพฺพภาเวน สาตฺถกนฺติ เวทิตพฺพํ. โก ปนายํ อนิโรโธ นาม, โย ‘‘อตฺถิภาโว, อุปฺปาโท’’ติ จ วุตฺโตติ? อปฺปหีนภาโว จ อนิพฺพตฺติตผลภาเวน ผลุปฺปาทนารหตา จาติ อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน ปรมตฺถทีปนิยํ อุทานฏฺกถายํ (อุทา. อฏฺ. ๑). วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.

ปฺจกฺขนฺธวิภชนาทิวเสนาติ ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ ทฺวาทสปทิกสฺส ปจฺจยาการสฺส วิภชนวเสน. อิมสฺมิฺหิ ทสพลสุตฺเต ธมฺมสฺส เทสิตากาโร ปฺจกฺขนฺธปจฺจยาการมตฺโต. เตนาห ‘‘ปฺจกฺขนฺธปจฺจยาการธมฺโม’’ติ. อาจริยมุฏฺิยา อกรเณน วิภูโต, โส ปน อตฺถโต จ สทฺทโต จ ปิหิโต เหฏฺามุขชาโต วา น โหตีติ อาห ‘‘อนิกุชฺชิโต’’ติ. วิวโฏติ วิภาวิโต. เตนาห ‘‘วิวริตฺวา ปิโต’’ติ . ปกาสิโตติ าโณภาเสน โอภาสิโต อาทีปิโตติ อาห ‘‘ทีปิโต โชติโต’’ติ. ตตฺถ ตตฺถ ฉินฺนภินฺนฏฺาเน. สิพฺพิตคณฺิตนฺติ วากํ คเหตฺวา สิพฺพิตํ, สิพฺพิตุํ อสกฺกุเณยฺยฏฺาเน วาเกน คณฺิตฺจ. ฉินฺนปิโลติกาภาเวน วิคตปิโลติโก ธมฺโม, ตสฺส ฉินฺนปิโลติกสฺส ปฏิโลมตา ฉินฺนภินฺนตาภาเวนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น เหตฺถา’’ติอาทิมาห. นิวาสนปารุปนํ ปริคฺคหณํ. สยํ ปฏิภานํ กปฺเปตฺวา. วฑฺเฒนฺตา อตฺตโน สมยํ. สมณกจวรนฺติ สมณเวสธารณวเสน สมณปฏิรูปตาย สมณานํ กจวรภูตํ. อตฺตโน รูปปวตฺติยา กรณฺฑํ กุจฺฉิตํ ธุตฺตํ วาติ ปวตฺเตตีติ การณฺฑโว, ทุสฺสีโล. ตํ การณฺฑวํ. นิทฺธมถาติ นีหรถ. กสมฺพุนฺติ สมณกสฏํ. อปกสฺสถาติ อปกฑฺฒถ นนฺติ อตฺโถ. ปลาเปติ ปลาปสทิเส. ตถา หิ ตณฺฑุลสารรหิโต ธฺปฏิรูปโก ถุสมตฺตโก ปลาโปติ วุจฺจติ, เอวํ สีลาทิสารรหิโต สมณปฏิรูปโก ปลาโป วิยาติ ปลาโป, ทุสฺสีโล. เต ปลาเป. วาเหถาติ อปเนถ. ปติสฺสตาติ พาฬฺหสติตาย ปติสฺสตา โหถาติ.

สทฺธาย ปพฺพชิเตนาติ ราชูปทฺทวาทีหิ อนุปทฺทุเตน ‘‘เอวฺหิ ตํ โอติณฺณํ ชาติอาทิสํสารภยํ วิชินิสฺสามี’’ติ วฏฺฏนิสฺสรณตฺถํ อาคตาย สทฺธาย วเสน ปพฺพชิเตน. อาจารกุลปุตฺโตติ อาจาเรน อภิชาโต. เตนาห ‘‘ยโต กุโตจี’’ติอาทิ. ชาติกุลปุตฺโตติ ชาติสมฺปตฺติยา อภิชาโต. วิฺุปฺปสตฺถานิ องฺคานิ สมฺมาปธานิยงฺคภาเวน, กาเย จ ชีวิเต จ นิรเปกฺขภาเวน วีริยํ อารภนฺตสฺส ตถาปวตฺตวีริยวเสน ‘‘ตโจ เอกํ องฺค’’นฺติ วุตฺตํ. เอส นโย เสเสสุปิ. นวสุ าเนสุ สมาธาตพฺพนฺติ ‘‘กาลวเสน ปฺจสุ, อิริยาปถวเสน จตูสู’’ติ เอวํ นวสุ าเนสุ วีริยํ สมาธาตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพํ.

โส ทุกฺขํ วิหรตีติ กุสีตปุคฺคโล นิยฺยานิกสาสเน วีริยารมฺภสฺส อกรเณน สามฺตฺถสฺส อนุปฺปตฺติยา ทุกฺขํ วิหรติ. สกํ วา อตฺถํ สทตฺถํ ก-การสฺส ท-การํ กตฺวา . กุสีตสฺส อตฺถปริหายนํ มูลโต ปฏฺาย ทสฺเสตุํ ‘‘ฉ ทฺวารานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. นิสชฺชาวเสน ปีมทฺทนโต ปีมทฺทโน, นิรสฺสนวจนํ ตสฺส, กสฺสจิปตฺถสฺส อธารณโต เกวลํ ปีภารภูโตติ อธิปฺปาโย. อฺตฺถ ปน ‘‘มขมทฺทโน’’ติ วุจฺจติ, ตตฺถ ทานมิจฺฉาย ปเรสํ มขํ ปสฺสนฺโตติ อตฺโถ. ลณฺฑปูรโกติ กุจฺฉิปูรํ ภุฺชิตฺวา วจฺจกุฏิปูรโก.

‘‘อารทฺธวีริโย’’ติอาทีสุ ‘‘กุสีโต ปุคฺคโล’’ติ เอตฺถ วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ, อาสีสาย วเสน โถมิโต. อารทฺธวีริเยติ ปคฺคหิตวีริเย. ปหิตตฺเตติ นิพฺพานํ ปติเปสิตจิตฺเต. เอเตน สาวกานํ สมฺมาปฏิปตฺตึ สตฺถุวนฺทนานิสํสฺจ ทสฺเสสิ.

หีเนนาติ วฏฺฏนิสฺสิเตน ธมฺเมน. เตนาห ‘‘หีนาย สทฺธายา’’ติอาทิ. อคฺเคนาติ เสฏฺเน วิวฏฺฏนิสฺสิเตน ธมฺเมน, อีสกมฺปิ กตกาลุสิยวิคตฏฺเน มณฺฑฏฺเน จ ปสนฺนมฺปิ สุราทิ น ปาตพฺพํ. สาสนนฺติ ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธลกฺขณํ สาสนํ. ปสนฺนํ วิคตโทสมลตฺตา ปสาทนิยตฺตา จ. ปาตพฺพฺจ ปตฺเตน วิย สุเขน ปริภุฺชิตพฺพโต ทุจฺจริตสพฺพกิเลสกสาวมลปงฺกโทสรหิตตฺตา จ.

มณฺฑภูตา โพธิปกฺขิยธมฺมเทสนาปิ เทสนามณฺโฑ. ตสฺส เอกสฺเสว ปน เทสนามณฺฑสฺส ปฏิคฺคาหกา สุปฺปฏิปนฺนา โทสรหิตา จตสฺโส ปริสา ปฏิคฺคหมณฺโฑ. มคฺคพฺรหฺมจริยํ ตคฺคติกตฺตา สกโลปิ โพธิปกฺขิยธมฺมราสิ พฺรหฺมจริยมณฺโฑ. เตนาห ‘‘กตโม เทสนามณฺโฑ’’ติอาทิ. ตตฺถ วิฺาตาโรติ สจฺจานํ อภิสเมตาวิโน. ตถา หิ อาทิโต ‘‘จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ อาจิกฺขณา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุพฺพภาเค ‘‘อตฺถิ อยํ โลโก’’ติอาทินา อิธโลกปรโลกคตสมฺโมสวิคเมน ปวตฺโต อธิโมกฺโขว อธิโมกฺขมณฺโฑ. ฉฑฺเฑตฺวา สมุจฺเฉทวเสน วิชหิตฺวา. จตุภูมกสฺส สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิโมกฺขมณฺเฑน มณฺฑภูตํ อธิโมกฺขํ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปคฺคหมณฺโฑ วีริยินฺทฺริยํ โกสชฺชกสฏ’’นฺติอาทึ ปาฬิเสสํ สงฺคณฺหาติ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สาสเน, ‘‘มณฺฑสฺมิ’’นฺติ วา วจเน. การณวจนํ, เตน ‘‘สตฺถา สมฺมุขีภูโต’’ติ สมฺมุขภาวนาโยโค นิราสงฺกผลาวโหติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘อสมฺมุขา’’ติอาทิ. ปมาณนฺติ อนุรูปํ เภสชฺชสฺส ปมาณํ. อุคฺคมนนฺติ เภสชฺชสฺส วมนํ วิเรจนํ, ตสฺส วา วเสน โทสธาตูนํ วมนํ วิเรจนํ. เอวเมวาติ ยถา เภสชฺชมณฺฑํ เวชฺชสมฺมุขา นิราสงฺกา ปิวนฺติ, เอวเมว ‘‘สตฺถา สมฺมุขีภูโต’’ติ นิราสงฺกา วีริยํ กตฺวา, มณฺฑเปยฺย สาสนํ ปิวถาติ โยชนา. อภิฺาสมาปตฺติปฏิลาเภน สานิสํสา. มคฺคผลาธิคมเนน สวฑฺฒิ. ปรตฺถนฺติ อตฺตโน ทิฏฺานุคติอาปตฺติยา, ตถา สมฺมาปฏิปชฺชนฺตานํ ปเรสํ อตฺถนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

ทุติยทสพลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อุปนิสสุตฺตวณฺณนา

๒๓. ชานโต ปสฺสโตติ เอตฺถ ทสฺสนํ ปฺาจกฺขุนาว ทสฺสนํ อธิปฺเปตํ, น มํสจกฺขุนาติ อาห ‘‘ทฺเวปิ ปทานิ เอกตฺถานี’’ติ. เอวํ สนฺเตปีติ ปททฺวยสฺส เอกตฺถตฺเตปิ าณลกฺขณาณปฺปภาววิสยสฺสฺส ตถาทสฺสนภาวาวิโรธนาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ชานนลกฺขณฺหิ าณ’’นฺติอาทิ. าณปฺปภาวนฺติ าณานุภาเวน าณกิจฺจวิสโยภาสนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘าเณน วิวฏฺเฏ ธมฺเม ปสฺสตี’’ติ. ชานโต ปสฺสโตติ จ ชานนทสฺสนมุเขน ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา ปวตฺตาติ อาห – ‘‘าณลกฺขณํ อุปาทายา’’ติอาทิ. ชานโตติ วา ปุพฺพภาคาเณน ชานโต, อปรภาเคน าเณน ปสฺสโต. ชานโตติ วา วตฺวา น ชานนํ อนุสฺสวาการปริวิตกฺกมตฺตวเสน อิธาธิปฺเปตํ, อถ โข รูปานิ วิย จกฺขุวิฺาเณน รูปาทีนิ เตสฺจ สมุทยาทิเก ปจฺจกฺเข กตฺวา ทสฺสนนฺติ วิภาเวตุํ ‘‘ปสฺสโต’’ติ วุตฺตนฺติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ.

อาสวานํ ขยนฺติ อาสวานํ อจฺจนฺตปฺปหานํ. โส ปน เตสํ อนุปฺปาทนิโรโธ สพฺเพน สพฺพํ อภาโว เอวาติ อาห ‘‘อสมุปฺปาโท ขีณากาโร นตฺถิภาโว’’ติ. อาสวกฺขยสทฺทสฺส ขีณาการาทีสุ อาคตฏฺานํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาสวานํ ขยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุชุมคฺคานุสาริโนติ กิเลสวงฺกกายวงฺกาทีนํ ปหาเนน อุชุภูเต สวิปสฺสนาเหฏฺิมมคฺคธมฺเม อนุสฺสรนฺตสฺส. ยเทว หิสฺส ปริกฺขีณํ. ขยสฺมึ ปมํ าณํ ‘‘ตโต อฺา อนนฺตรา’’ติ ขยสงฺขาเต อคฺคมคฺเค ตปฺปริยาปนฺนเมว าณํ ปมํ อุปฺปชฺชติ, ตทนนฺตรํ ปน อฺา อรหตฺตนฺติ. ยทิปิ คาถาย ‘‘ขยสฺมึ’’อิจฺเจว วุตฺตํ, สมุจฺเฉทวเสน ปน ‘‘อาสเว ขีเณ มคฺโค ขโย’’ติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘มคฺโค อาสวกฺขโยติ วุตฺโต’’ติ. สมโณติ สมิตปาโป อธิปฺเปโต, โส ปน ขีณาสโว โหตีติ. ‘‘อาสวานํ ขยา’’ติ อิธ ผลํ, ปริยาเยน ปน อาสวกฺขโย มคฺโค, เตน ปตฺตพฺพโต ผลํ. เอเตเนว นิพฺพานสฺสปิ อาสวกฺขยภาโว วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

ชานโต เอว ปสฺสโต เอวาติ เอวเมตฺถ นิยโม อิจฺฉิโต, น อฺถา วิเสสาภาวโต อนิฏฺาปนฺโนวาติ ตสฺส นิยมสฺส ผลํ ทสฺเสตุํ ‘‘โน อชานโต โน อปสฺสโต’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘โย ปน น ชานาติ, น ปสฺสติ, ตสฺส โน วทามีติ อตฺโถ’’ติ. อิมินา ขนฺธานํ ปริฺา อาสวกฺขยสฺส เอกนฺติกการณนฺติ ทสฺเสติ. เอเตนาติ ‘‘โน อชานโต, โน อปสฺสโต’’ติ เอเตน วจเนน. เต ปฏิกฺขิตฺตาติ เก ปน เตติ? ‘‘พาเล จ ปณฺฑิเต จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ (ที. นิ. ๑.๑๖๘; ม. นิ. ๒.๒๒๘) อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา วิสุชฺฌนฺตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๘; ม. นิ. ๒.๑๐๑, ๒๒๗) เอวมาทิวาทา. เตสุ เกจิ อภิชาติสงฺกนฺติมตฺเตน สํสารสุทฺธึ ปฏิชานนฺติ, อฺเ อิสฺสรปชาปติการณาทิวเสน. ตยิทํ สพฺพํ สํสาราทีหีติ เอตฺเถว สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปุริเมน ปททฺวเยนาติ ‘‘ชานโต ปสฺสโต’’ติ อิมินา ปททฺวเยน. อุปาโย วุตฺโต ‘‘อาสวกฺขยา’’ติ อธิการโต. อิมินาติ ‘‘โน อชานโต, โน อปสฺสโต’’ติ อิมินา ปททฺวเยน. อนุปาโย โหติ เอส อาสวานํ ขยสฺส, ยทิทํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อปริฺาติ ‘‘ชานโต ปสฺสโต’’ติ อิมินาว อนิยมวจเนน อนุปายปฏิเสโธปิ อตฺถโต โพธิโต โหตีติ. ตเมว หิ อตฺถโต โพธิตภาวํ วิภาเวตุํ เอวํ สํวณฺณนา กตาติ ทฏฺพฺพํ.

ทพฺพชาติโกติ ทพฺพรูโป. โส หิ ‘‘ทฺรพฺโย’’ติ วุจฺจติ ‘‘ทฺรพฺยํ วินสฺสติ นาทฺรพฺย’’นฺติอาทีสุ. ทพฺพชาติโก วา สารสภาโว, สารุปฺปสีลาจาโรติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘น โข ทพฺพ ทพฺพา เอวํ นิพฺเพเนฺตี’’ติ (ปารา. ๓๘๔). วตฺตสีเส ตฺวาติ วตฺตํ อุตฺตมํ ธุรํ กตฺวา. โย หิ ปริสุทฺธาชีโว กาตุํ อชานนฺตานํ สพฺรหฺมจารีนํ อตฺตโน วา วสฺสวาตาทิปฏิพาหนตฺถํ ฉตฺตาทีนิ กโรติ, โส วตฺตสีเส ตฺวา กโรติ นาม. ปทฏฺานํ น โหตีติ น วตฺตพฺพํ นาถกรณธมฺมภาเวน มคฺคผลาธิคมสฺส อุปนิสฺสยภาวโต. วุตฺตฺหิ ‘‘ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กิจฺจกรณียานิ, ตตฺถ ทกฺโข โหตี’’ติอาทิ (ที. นิ. ๓.๓๔๕). เอวํ ชานโตติ เอวํ เวชฺชกมฺมาทีนํ ชานนเหตุ มิจฺฉาชีวปจฺจยา กามาสวาทโย อาสวา วฑฺฒนฺติเยว, น ปหียนฺติ. ‘‘เอวํ โข…เป… อาสวานํ ขโย โหตี’’ติ อิมาย ปาฬิยา อรหตฺตสฺเสว คหณํ ยุตฺตํ ผลคฺคหเณน เหตุโน อวุตฺตสิทฺธตฺตา. เตนาห ‘‘อาสวานํ ขยนฺเต ชาตตฺตา’’ติ.

อาคมนํ อาคโม, ตํ อาวหตีติ อาคมนียา, ปุพฺพภาคปฏิปทา. ขยสฺมินฺติ ภาเวนภาวลกฺขเณ ภุมฺมํ, ขเยติ ปน วิสเย. เตนาห ‘‘อาสวกฺขยสงฺขาเต’’ติ. อุปนิสีทติ ผลํ เอตฺถาติ การณํ อุปนิสา. อรหตฺตผลวิมุตฺติ อุกฺกฏฺนิทฺเทสโต. สาติ วิมุตฺติ. อสฺสาติ ปจฺจเวกฺขณาณสฺส. มนสฺมึ วิวฏฺฏนิสฺสิเต ปน อนนฺตรูปนิสฺสยาปิ ปจฺจยา สมฺภวนฺตีติ ‘‘ลพฺภมานวเสน ปจฺจยภาโว เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ.

วิรชฺชติ อเสสสงฺขารโต เอเตนาติ วิราโค, มคฺโค. นิพฺพินฺทติ เอตายาติ นิพฺพิทา, พลววิปสฺสนา. เตนาห ‘‘เอเตนา’’ติอาทิ. ปฏิสงฺขานุปสฺสนาปิ มุจฺจิตุกมฺยตาปกฺขิกา เอวาติ อธิปฺปาเยน ‘‘จตุนฺนํ าณานํ อธิวจน’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ยาว มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิ, ตาว ตรุณวิปสฺสนา’’ติ หิ วจนโต อุปกฺกิเลสวิมุตฺตอุทยพฺพยาณโต ปรํ พลววิปสฺสนา. รูปารูปธมฺมานํ วิเสสภูโต สามฺภูโต จ โย โย สภาโว ยถาสภาโว, ตสฺส ชานนํ ยถาสภาวชานนํ. ตเทว ทสฺสนํ. ปจฺจกฺขกรณตฺเถน าตปริฺา ตีรณปริฺา จ คหิตา โหติ. เตนาห ‘‘ตรุณวิปสฺสน’’นฺติอาทิ. สงฺขารปริจฺเฉเทาณนฺติ นามรูปปริคฺคหาณํ วทติ. กงฺขาวิตรณํ ปจฺจยปริคฺคโห ธมฺมฏฺิติาณนฺติปิ วุจฺจติ. นยวิปสฺสนาทิกํ อนุปสฺสนาาณํ สมฺมสนํ. มคฺคามคฺเคาณนฺติ มคฺคามคฺคํ ววตฺถเปตฺวา ิตํ าณํ. โส หิ ปาทกชฺฌานสมาธิ ตรุณวิปสฺสนาย ปจฺจโย โหติ. ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕.; ๔.๙๙; ๕.๑๐๗๑) หิ วุตฺตํ.

ปุพฺพภาคสุขนฺติ อุปจารชฺฌานสหิตสุขํ. ทรถ ปฏิปฺปสฺสทฺธีติ กามจฺฉนฺทาทิกิเลสทรถสฺส ปฏิปสฺสมฺภนํ. ‘‘สุขํปาหํ, ภิกฺขเว, สอุปนิสํ วทามี’’ติ เอตฺถ อธิปฺเปตสุขํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปฺปนาปุพฺพภาคสฺส สุขสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๖๖;๓.๓๕๙; อ.นิ. ๑.๓.๙๖) วุตฺตอปฺปนาสุขสฺส ปสฺสทฺธิยา ปจฺจยตฺเต วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. สุขนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. พลวปีตีติ ผรณลกฺขณปฺปตฺตา ปีติ. ตาทิสา หิ วิตกฺกวิจารสุขสมาธีหิ ลทฺธปฺปจฺจยา นีวรณํ วิกฺขมฺภนฺตี ตํนิมิตฺตํ ทรถํ ปริฬาหํ ปฏิปสฺสมฺเภติ. เตนาห ‘‘สา หิ ทรถปฺปสฺสทฺธิยา ปจฺจโย โหตี’’ติ. ทุพฺพลปีตีติ ตรุณปีติ. เตนาห ‘‘สา หิ พลวปีติยา ปจฺจโย โหตี’’ติ. สทฺธาติ รตนตฺตยคุณานํ กมฺมผลสฺส จ สทฺทหนวเสน ปวตฺโต อธิโมกฺโข, สา ปน ยสฺมา อตฺตโน วิสเย ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชติ, น เอกวารเมว, ตสฺมา อาห ‘‘อปราปรํ อุปฺปชฺชนสทฺธา’’ติ. ยสฺมา สทฺทหนฺโต สทฺเธยฺยวตฺถุสฺมึ ปมุทิโต โหติ, ตสฺมา อาห ‘‘สา หิ ทุพฺพลปีติยา ปจฺจโย โหตี’’ติ. ทุกฺขทุกฺขาทิเภทสฺส สพฺพสฺสปิ ทุกฺขสฺส วฏฺฏทุกฺขนฺโตคธตฺตา ตสฺส จ อิธาธิปฺเปตตฺตา วุตฺตํ ‘‘ทุกฺขนฺติ วฏฺฏทุกฺข’’นฺติ. ชรามรณทุกฺขนฺติ เกจิ, โสกาทโย จาติ อปเร. ตทุภยสฺสปิ สงฺคณฺหนโต ปโม เอวตฺโถ ยุตฺโต. ยสฺมา ทุกฺขปฺปตฺโต กมฺมสฺส ผลานิ สทฺทหติ, รตนตฺตเย จ ปสาทํ อุปฺปาเทติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตฺหิ อปราปรสทฺธาย ปจฺจโย โหตี’’ติ. ยสฺมา ‘‘อาจริยานํ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปวตฺติทุกฺข’’นฺติ จินฺตยโต ‘‘เอกนฺตโต อยํ ธมฺโม อิมสฺส ทุกฺขสฺส สมติกฺกมาย โหตี’’ติ สทฺธา อุปฺปชฺชติ. เตนาห ‘‘ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภตี’’ติอาทิ (ที. นิ. ๑.๑๙๑). สวิการาติ อุปฺปาทวิกาเรน สวิการา ขนฺธชาติ ชายนฏฺเน. ชาติยา ปน อสติ ตตฺถ ตตฺถ ภเว นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ อาห ‘‘สา หิ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปจฺจโย’’ติ. กมฺมภโวติ กมฺมภวาทิโก ติวิโธปิ กมฺมภโว. โส หิ อุปปตฺติภวสฺส ปจฺจโย. เอวมาทึ สนฺธายาห ‘‘เอเตนุปาเยนา’’ติ. เสสปทานีติ อุปาทานาทิปทานิ. อนุโลมาณํ สงฺขารุเปกฺขาปกฺขิกตฺตา นิพฺพานคฺคหเณน คหิตํ, โคตฺรภุาณํ ปมมคฺคสฺส อาวชฺชนํ. โส หิ เตน วิปสฺสนาย กิฺจิ กิฺจิ วิเสสฏฺานํ กยิรตีติ ตํ อนามสิตฺวา นิพฺพิทูปนิโส วิราโคติ ‘‘วิราโค’’อิจฺเจว วุตฺตํ.

เกน อุทเกน วิทารยิตฺวา คตปเทโสติ กตฺวา กนฺทโร. นิตมฺโพติปิ อุทกสฺส. ยถา นินฺนํ อุทกํ ปวตฺตติ, ตถา นิวตฺตนภาเวน นทีกุฺโฉติปิ วุจฺจติ. เหมนฺตคิมฺหอุตุวเสน อฏฺ มาเส ปวตฺโต ปถวีวิวโรติ กตฺวา ปทโร. ขุทฺทิกา อุทกวาหินิโย สาขา วิยาติ สาขา, ขุทฺทกา โสพฺภา กุสุพฺภา โอ-การสฺส อุ-การํ กตฺวา. เอวเมว โขติอาทิ ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว’’ติอาทินา อุปนีตาย อุปมาย อุปเมยฺเยน สํสนฺทนนฺติ, ตํ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อวิชฺชา ปพฺพโตติ ทฏฺพฺพา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อวิชฺชา จ สนฺตานวเสน จิรํตนกาลปฺปวตฺตนโต ปจุรชเนหิ ทุปฺปชหนโต ‘‘ปพฺพโต’’ติ วุตฺตา. โลกตฺตยาภิพฺยาปนโต อภิสนฺทนโต จ อภิสงฺขารา เมฆสทิสา. อภิสงฺขารา เมโฆติ ทฏฺพฺพาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. ตถา เสสปททฺวเยปิ. วิฺาณาทิวฏฺฏํ อนุปวตฺติโต ปรมฺปรปจฺจยโต จ กนฺทราทิสทิสา. วิมุตฺติ เอกรสตฺตา, หานิวุทฺธิอภาวโต จ สาครสทิสาติ อุปมาสํสนฺทนํ.

ตตฺถ ยสฺมา ปุริมสิทฺธาย อวิชฺชาย สติ อภิสงฺขารา, นาสติ, ตสฺมา เต อุปริปพฺพเต ปวตฺตา วิย โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘อวิชฺชา…เป… วสฺสนํ เวทิตพฺพ’’นฺติ. อสฺสุตวา หีติอาทิ วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส สมตฺถนํ. ตณฺหาย อภิลาสํ กตฺวาติ เอเตน สพฺพสฺสปิ อภิสงฺขารวุฏฺิเตมนตฺถํ ทีเปติ. ตณฺหา หิ ‘‘สฺเนโห’’ติ วุตฺตา. อนฺติมภวิกสฺส อนฺตภวนิพฺพตฺตโก อภิสงฺขาโร นิพฺพานํ น ปตฺโต, ตทนฺตสฺส ภาคสฺส นิพฺพานํ อาหจฺจ ิโต วิย โหตีติ ‘‘มหาสมุทฺทํ อาหจฺจ ิตกาโล วิยา’’ติ อุปมานิทสฺสนํ กตํ. วิฺาณาทิวฏฺฏํ ปูเรตฺวาปิ อิมินาปิ หิ อนฺติมภวิกสฺเสว วิฺาณปฺปวตฺติ ทสฺสิตา. สา หิ ปูริตาติ วตฺตพฺพา ตโต ปรํ วิฺาณาทิวฏฺฏสฺเสว อภาวโต. ชาตสฺส ปุคฺคลสฺส ชาติปจฺจยวฏฺฏทุกฺขเวทนาย ธมฺมสฺสวนํ อิจฺฉิตพฺพํ, ตํ ปน ยทิปิ อิมสฺมึ สุตฺเต น อาคตํ, สุตฺตนฺตเรสุ ปน อาคตเมวาติ ตโต อาหริตฺวา ตํ วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘พุทฺธวจนํ ปนา’’ติอาทิมาห. ตยิทํ สาวกโพธิสตฺตานํ วเสนายํ เทสนาติ กตฺวา วุตฺตํ. อิตเรสํ ปน วเสน วุจฺจมานํ สุตฺตนฺตรคฺคหณตฺถํ ปโยชนํ นตฺถีติ ‘‘ยา หี’’ติอาทิมาห. ปาฬิยา วเสน คหิตเมวาติ สงฺเขปโต วุตฺตอตฺถสฺส วิตฺถารโต ทสฺสนํ. นิพฺพตฺตีติ นิพฺพตฺตมานา ขนฺธา คหิตาติ อาห ‘‘สวิการา’’ติ. อนิจฺจตาลกฺขณาทิทีปนโต ลกฺขณาหฏํ. กมฺมากมฺมนฺติ วินิจฺฉยํ. นิชฺชฏนฺติ นิคฺคุมฺพํ, สุทฺธนฺติ อตฺโถ. ปถวีกสิณาทีสุ กมฺมํ อารภตีติอาทิ ปาฬิยํ สมถปุพฺพงฺคมา วิปสฺสนา ทสฺสิตาติ กตฺวา วุตฺตํ . เอวฺหิ ปาโมชฺชาทิทสฺสนํ สมฺภวตีติ. เทวสฺสาติ เมฆสฺส. กสฺมา ปเนตฺถ ‘‘ขีณาสวสฺส…เป… ิตกาโล เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, นนุ ปุพฺเพ เทวฏฺานิโย อภิสงฺขาโร วุตฺโต, น อภิสงฺขาโร ขีณาสโวติ? นายํ โทโส, การณูปจาเรน ผลสฺส วุตฺตตฺตา. อภิสงฺขารมูลโก หิ ขนฺธสนฺตาโน ขนฺธสนฺตาเน จ อุจฺฉินฺนสํโยเค ขีณาสวสมฺาติ.

อุปนิสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อฺติตฺถิยสุตฺตวณฺณนา

๒๔. โสติ สาริปุตฺตตฺเถโร. ยทิ น ตาว ปวิฏฺโ, กสฺมา ‘‘ปาวิสี’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ปวิสิสฺสามี’’ติอาทิ. เตน อวสฺสมฺภาวินิ ภูเต วิย อุปจาโร โหตีติ ทสฺเสติ. อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวนฺโต ‘‘ยถา กิ’’นฺติอาทิมาห. อติปฺปโคเยว นิกฺขนฺตทิวโสติ ปกติยา ภิกฺขาจรณเวลาย อติวิย ปาโต เอว วิหารโต นิกฺขนฺตทิวสภาโค. เอตทโหสีติ เอตํ ‘‘อติปฺปโค โข’’ติอาทิกํ จินฺตนํ อโหสิ. ทกฺขิณทฺวารสฺสาติ ราชคหนคเร ทกฺขิณทฺวารสฺส เวฬุวนสฺส จ อนฺตรา อโหสิ, ตสฺมา ‘‘เตนุปสงฺกมิสฺส’’นฺติ จินฺตนา อโหสีติ อธิปฺปาโย. กึ วาทีติ จตูสุ วาเทสุ กตรํ วาทํ วทสิ. กิมกฺขายีติ ตสฺเสว เววจนํ. กึ วทตีติ ปน จตฺตาโร วาเท สามฺโต คเหตฺวา นปุํสกลิงฺเคน วทติ ยถา กึ เต ชาตลิงฺคํ. สพฺพนามฺเหตํ, ยทิทํ นปุํสกลิงฺคํ. วทติ เอเตนาติ วาโท, ทสฺสนํ. ตํ สนฺธายาห ‘‘กึ เอตฺถ…เป… ทสฺสนนฺติ ปุจฺฉนฺตี’’ติ. ‘‘ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติอาทีสุ วิย ธมฺม-สทฺโท เหตุอตฺโถติ อาห ‘‘ยํ วุตฺตํ การณํ, ตสฺส อนุการณ’’นฺติ. วาทสฺส วจนสฺส อนุปฺปตฺติ วาทปฺปวตฺติ.

อิทํ วจนนฺติ ‘‘เอกมิทาห’’นฺติอาทิวจนํ. สาติ ‘‘เอเก สมณพฺราหฺมณา กมฺมวาทา’’ติ เอวํ ปวตฺตกถา. อจฺฉรํ องฺคุลิโผฏนํ อรหตีติ อจฺฉริยํ. อพฺภุตนฺติ นิรุตฺตินเยน ปทสิทฺธิ ทฏฺพฺพา. สพฺพวาทานนฺติ สพฺเพสํ จตุพฺพิธวาทานํ. ปโม เหตฺถ สสฺสตวาโท, ทุติโย อุจฺเฉทวาโท, ตติโย เอกจฺจสสฺสตวาโท, จตุตฺโถ อธิจฺจสมุปฺปนฺนวาโท, เตสํ สพฺเพสํ ปฏิกฺเขปโต ปฏิกฺเขปการณํ วุตฺตํ. ปฏิจฺจสมุปฺปาทกิตฺตนํ วา ปจุรชนาณสฺส อลพฺภเนยฺยปติฏฺตาย คมฺภีรฺเจว, ตถา อวภาสนโต เจตสิ อุปฏฺานโต คมฺภีราวภาสฺจ กโรนฺโต. ตเทว ปทนฺติ ผสฺสปทํเยว อาทิภูตํ คเหตฺวา.

อฺติตฺถิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ภูมิชสุตฺตวณฺณนา

๒๕. ปุริมสุตฺเตติ อนนฺตเร ปุริเม สุตฺเต. วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ ปทตฺเถ ตโต วิสิฏฺํ อนิทฺทิสิตฺวา อิตรํ อตฺถโต วิภาเวตุํ ‘‘อยํ ปน วิเสโส’’ติอาทิมาห. น เกวลํ ผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ, อถ โข ผสฺสสฺส สหการีการณภูตอฺปจฺจยา จ อุปฺปชฺชตีติ. กาเยนาติ โจปนกาเยน, กายวิฺตฺติยาติ อตฺโถ. สา หิ กามํ ปฏฺาเน อาคเตสุ จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ เกนจิ ปจฺจเยน เจตนาย ปจฺจโย น โหติ. ยสฺมา ปน กาเย สติ เอว กายกมฺมํ นาม โหติ, นาสติ, ตสฺมา สา ตสฺสา สามคฺคิยภาเวน อิจฺฉิตพฺพาติ วุตฺตํ ‘‘กาเยนปิ กริยมานํ กรียตี’’ติ. เตนาห ภควา ‘‘กาเย วา, หานนฺท, สติ กายสฺเจตนาเหตุ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขํ ทุกฺข’’นฺติ. วาจายปีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. มนสาติ ปาตุภูเตน มนสา, น มนมตฺเตนาติ. อตฺตนา ปเรหิ อนุสฺสาหิเตน. ปเรนาติ ปเรน อนุสฺสาเหน. สมฺปชาเนนาติ าณสมฺปยุตฺตจิตฺตวเสน ปชานนฺเตน. อสมฺปชาเนนาติ ตถา น สมฺปชานนฺเตน. ตสฺสาติ สุขทุกฺขสฺส. กายสฺเจตนาเหตูติ กายกมฺมนิมิตฺตํ, กายิกสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตาติ อตฺโถ. เอส นโย เสสสฺเจตนาสุปิ. อุทฺธจฺจสหคตเจตนา ปวตฺติยํ วิปากํ เทติเยวาติ ‘‘วีสติ เจตนา ลพฺภนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตถา วจีทฺวาเรติ เอตฺถ ‘‘กามาวจรกุสลากุสลวเสน วีสติ เจตนา ลพฺภนฺตี’’ติ อิทํ ตถา-สทฺเทน อุปสํหรติ. รูปารูปเจตนาหีติ รูปาวจรารูปาวจรกุสลเจตนาหิ. ตปฺปจฺจยํ ยถารหนฺติ อธิปฺปาโย. ตาปิ เจตนาติ ยถาวุตฺตา เอกูนวีสติ เจตนา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺติ กุสลานมฺปิ ปเคว อิตราธิฏฺหิตาวิชฺชสฺเสว อุปฺปชฺชนโต, อฺถา อนุปฺปชฺชนโต. ยถาวุตฺตเจตนาเภทนฺติ ยถาวุตฺตํ กายเจตนาทิวิภาคํ. ปเรหิ อนุสฺสาหิโต สรเสเนว ปวตฺตมาโน. ปเรหิ การิยมาโนติ ปเรหิ อุสฺสาหิโต หุตฺวา กยิรมาโน. ชานนฺโตปีติ อนุสฺสวาทิวเสน ชานนฺโตปิ. กมฺมเมว ชานนฺโตติ ตทา อตฺตนา กริยมานกมฺมเมว ชานนฺโต.

จตูสูติ ‘‘สามํ วา ปเร วา สมฺปชาโน วา อสมฺปชาโน วา’’ติ เอวํ วุตฺเตสุ จตูสุ าเนสุ. ยถาวุตฺเต เอกูนวีสติเจตนาธมฺเม อสงฺขาริกสสงฺขาริกภาเวน สมฺปชานกตาสมฺปชานกตภาเวน จตุคุเณ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ฉสตฺตติ ทฺเวสตา เจตนาธมฺมา’’ติ. เยสํ สหชาตโกฏิ ลพฺภติ, เตสมฺปิ อุปนิสฺสยโกฏิ ลพฺภเตวาติ ‘‘อุปนิสฺสยโกฏิยา อนุปติตา’’ติอิจฺเจว วุตฺตา. เตติ ยถาวุตฺตา สพฺเพปิ ธมฺมา. โส กาโย น โหตีติ เอตฺถ ปสาทกาโยปิ คเหตพฺโพ. เตนาห ‘‘ยสฺมึ กาเย สตี’’ติอาทิ. โส กาโย น โหตีติ โส กาโย ปจฺจยนิโรเธน น โหติ. วาจาติ สทฺทวาจา. มโนติ ยํ กิฺจิ วิฺาณํ. อิทานิ กมฺมวเสเนว โยเชตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอเสว นโย ‘‘วาจาปิ ทฺวารภูตา มโนปิ ทฺวารภูโต’’ติ. ขีณาสวสฺส กถํ กาโย น โหติ, น ตสฺส กายกมฺมาธิฏฺานนฺติ อธิปฺปาโย. อวิปากตฺตาติ อวิปากธมฺมตฺตาติ อตฺโถ. กาโย น โหตีติ วุตฺตํ อกมฺมกรณภาวโต.

นฺติ กมฺมํ. เขตฺตํ น โหตีติ ตสฺส ทุกฺขสฺส อวิรุหนฏฺานตฺตา. วิรุหนฏฺานาทโย พฺยติเรกวเสน วุตฺตา. เตนาห ‘‘น โหตี’’ติ. การณฏฺเนาติ อาธารภูตการณภาเวน. สฺเจตนามูลกนฺติ สฺเจตนานิมิตฺตํ. วิรุหนาทีนํ อตฺถานนฺติ ‘‘วิรุหนฏฺเนา’’ติอาทินา วุตฺตานํ อตฺถานํ. อิมินา วิรุหนาทิภาเวน เวทนา ‘‘สุขทุกฺขเวทนา’’ติ กถิตา, นยิธ เชฏฺลกฺขณํ สุขทุกฺขํ นิปฺปโยชกสฺส สุขสฺส ทุกฺขสฺส จ อธิปฺเปตตฺตา. อุเปกฺขาเวทนาเปตฺถ สุขสณฺหสภาววิปากภูตา เวทนาว.

ภูมิชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อุปวาณสุตฺตวณฺณนา

๒๖. วฏฺฏทุกฺขเมวกถิตํ อิตรทุกฺขสฺสปิ วิปากสฺส สงฺคณฺหนโต.

อุปวาณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ปจฺจยสุตฺตวณฺณนา

๒๗. ปฏิปาฏิยาติ ปฏิปาฏิยา ปเนน. จตุสจฺจโยชนํ ทสฺเสตุํ ปริโยสาน…เป… อาทิ วุตฺตํ. ทุกฺขสจฺจวเสนาติ ปริฺเยฺยภาววเสน. ชรามรณาปเทเสน หิ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา วุตฺตา, เต จสฺส อตฺตโน ผลสฺส ปจฺจยา น โหนฺติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปจฺจยํ ชานาตี’’ติ. วิเนยฺยชฺฌาสยวเสน เหตฺถ เทสนา ปวตฺตา. สมฺปนฺโนติ สมนฺนาคโต. อาคโตติ อุปคโต, อธิคโตติ อตฺโถ. ปสฺสตีติ ปจฺจเวกฺขณาเณน ปจฺจกฺขโต ปสฺสติ, มคฺคปฺาย เอวํ อสมฺโมหปฏิเวธวเสน ปสฺสติ. มคฺคาเณเนว, น ผลาเณน. ธมฺมโสตํ สมาปนฺโนติ อริยธมฺมโสตํ สมฺมเทว อาปนฺโน ปตฺโต. อนเย นอิริยนโต, อเย จ อิริยนโต, สเทวเกน จ โลเกน ‘‘สรณ’’นฺติ อกรณียโต อริยปกฺขํ ภชนฺโต ปุถุชฺชนภูมึ อติกฺกนฺโต. นิพฺเพธิกปฺายาติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ นิพฺพิชฺฌนกปฺาย. อาหจฺจ ติฏฺติ มคฺคกฺขเณ, ผลกฺขเณ ปน อาหจฺจ ิโต นาม.

ปจฺจยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา

๒๘. อุตฺตานเมว สพฺพโสว สตฺตเม อาคตนยตฺตา, วิเนยฺยชฺฌาสยวเสน หิ อิทํ สุตฺตํ สตฺถารา อฺสฺมึ อาสเน เทสิตํ, ปริสาย วิวฏฺเฏน สาตฺถิกาติ สตฺถุ เทสนา อาคตาติ อยํ ปฏิคฺคาหกาธีนา โหตีติ ธมฺมคารเวน สงฺคหํ อาโรเปนฺติเยว.

ภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. สมณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๒๙. อกฺขรภาณกานนฺติ อกฺขรรุจีนํ. อุปสคฺเคน ปทวฑฺฒนมฺปิ รุจฺจนฺติ. เตนาห ‘‘เต หี’’ติอาทิ.

สมณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทุติยสมณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๓๐. ทฺวีสุ สุตฺเตสูติ นวมทสมสุตฺเตสุ.

ทุติยสมณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทสพลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. กฬารขตฺติยวคฺโค

๑. ภูตสุตฺตวณฺณนา

๓๑. อชิตมาณเวนาติ โสฬสสุ พาวริยพฺราหฺมณปริจารเกสุ ‘‘อชิโต’’ติ ลทฺธนาเมน มาณเวน. สงฺขา วุจฺจติ ปฺา, สงฺขาตา ปริฺาตา ธมฺมา เยสํ เต สงฺขาตธมฺมา, ปฏิวิทฺธสจฺจา ขีณาสวา. เสกฺขา ปน วิปากสฺส อปริฺาตตฺตา ‘‘สงฺขาตธมฺมา’’ติ น วุจฺจนฺติ. เสกฺขธมฺมสมนฺนาคเมน เต เสกฺขา. เต ปน กามํ ปุคฺคลปฏิลาภวเสน อเนกสหสฺสาว โหนฺติ, จตุมคฺคเหฏฺิมผลตฺตยสฺส ปน วเสน ตํสมงฺคิตาสามฺเน น สตฺตชนโต อุทฺธนฺติ อาห ‘‘สตฺต ชเน’’ติ นิยเมตฺวา วิเสเสติ. สํกิเลสวชฺชํ, ตโต วา อตฺตานํ วิย วิเนยฺยโลกํ นิปาติ รกฺขตีติ นิปโก, ตสฺส ภาโว เนปกฺกํ, าณนฺติ อาห ‘‘เนปกฺกํ วุจฺจติ ปฺา, ตาย สมนฺนาคตตฺตา นิปโก’’ติ.

‘‘โก นุ โข อิมสฺส ปฺหสฺส อตฺโถ’’ติ จินฺเตนฺโต ปฺหาย กงฺขติ นาม. ‘‘กถํ พฺยากรมาโน นุ โข สตฺถุ อชฺฌาสยํ น วิโรเธมี’’ติ จินฺเตนฺโต อชฺฌาสยํ กงฺขติ นาม. สุชานนียตฺถปริจฺเฉทํ กตฺวา จินฺตนา เหตฺถ ‘‘กงฺขา’’ติ อธิปฺเปตา, น วิจิกิจฺฉาติ. ปหีนวิจิกิจฺโฉ หิ มหาเถโร อายสฺมโต อสฺสชิมหาเถรสฺส สนฺติเกเยว, วิจินนภูตํ กุกฺกุจฺจสทิสํ ปเนตํ วีมํสนมตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปตฺตํ อาทาย จรนฺโตติ ปพฺพชิตภาวลกฺขณํ. ธมฺมเสนาปติภาเวน วา มม ปตฺตธมฺมเทสนาวารํ อาทาย จรนฺโตติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

ชาตนฺติ ยถารหํ ปจฺจยโต อุปฺปนฺนํ, สงฺขตนฺติ อตฺโถ. ปฺหพฺยากรณํ อุปฏฺาสีติ ปฺหสฺส พฺยากรณตา ปฏิภาสิ. ‘‘สมฺมปฺปฺาย ปสฺสตี’’ติ ปาโ, อฏฺกถายํ ปน ‘‘สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต’’ติ ปทํ อุทฺธริตฺวา ‘‘ปสฺสนฺตสฺสา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. ตํ ‘‘ภูตนฺติ…เป… ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ อิมาย ปาฬิยา น สเมติ, ตสฺมา ยถาทสฺสิตปาโ เอว ยุตฺโต. ยาว อรหตฺตมคฺคา นิพฺพิทาทีนํ อตฺถายาติ สมิตาเปกฺขธมฺมวสา ปทํ วทนฺติ. อาหารสมฺภวนฺติ ปจฺจยเหตุกํ. เสกฺขปฏิปทา กถิตา ‘‘นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ วจนโต. เอส นโย นิโรธวาเรปิ. นิพฺพิทาติ กรเณ ปจฺจตฺตวจนํ, วิราคา นิโรธาติ กรเณ นิสฺสกฺกวจนนฺติ อาห ‘‘สพฺพานิ การณวจนานี’’ติ. อนุปาทาติ อนุปาทาย. ภูตมิทนฺติอาทิมาห สพฺพสุตฺตํ อาหจฺจภาสิตํ ชินวจนเมว กโรนฺโต.

ภูตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. กฬารสุตฺตวณฺณนา

๓๒. ตสฺส เถรสฺส นามํ ชาติสมุทาคตํ. นิวตฺโตติ ปุพฺเพ วฏฺฏโสตสฺส ปฏิโสตํ คนฺตุํ อารทฺโธ, ตํ อวิสหนฺโต อนุโสตเมว คจฺฉนฺโต, ตโต นิวตฺโต ปริกฺเลสวิธเม อสํสฏฺโ วิยุตฺโต โหติ. เอตฺถ เจตนาติ วา อสฺสาโส. หีนายาวตฺตนํ นาม กาเมสุ สาเปกฺขตาย, ตตฺถ จ นิรเปกฺขตา ตติยมคฺคาธิคเมนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตโย มคฺเค’’ติอาทิมาห. สาวกปารมีาณํ เถรสฺส อรหตฺตาธิคเมน นิปฺผนฺนํ, ตสฺมา ตสฺส ตํ อุปริมโกฏิยา อสฺสาโส วุตฺโต. อุคฺฆาฏิตาติ วิวฏา, วูปสมิตาติ อตฺโถ. ตตฺถาติ อรหตฺตปฺปตฺติยํ. วิจิกิจฺฉาภาวนฺติ นิพฺเพมติกตํ.

เอวํ พฺยากตาติ ‘‘ขีณา ชาตี’’ติอาทิกา เอวํ อุตฺตานกํ น พฺยากตา, ปริยาเยน ปน พฺยากตา. เกนจีติ เกนจิปิ การเณน. เอวํ อุตฺตานกํ พฺยากริสฺสติ.

ตสฺส ปจฺจยสฺส ขยาติ ตสฺส กมฺมภวสงฺขาตสฺส ปจฺจยสฺส อวิชฺชาย สหการิตายํ สงฺคหิตสฺส ขยา อนุปฺปาทา นิโรธา. ขีณสฺมินฺติ ขีเณ. อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุทฺเธ ชาติยา ยถาวุตฺเต ปจฺจเย. ชาติสงฺขาตํ ผลํ ขีณํ อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาทิตนฺติ. วิทิตํ าตํ. อาชานาติ จตุสจฺจํ เหฏฺิมมคฺเคหิ าตํ อนติกฺกมิตฺวาว ปฏิวิชฺฌตีติ อฺา อคฺคมคฺโค. ตทุปจาเรน อคฺคผลํ อิธ ‘‘อฺา’’ นาม. ปจฺจโยติ ภวูปปตฺติยา ปจฺจโย ปฏิจฺจสมุปฺปาโท.

เมติ มยา. อฺาสิ อาการคฺคหเณน จิตฺตาจารํ ชานาติ. เตนาติ ภควตา. พฺยากรณํ อนุโมทิตํ ปฺหพฺยากรณสฺส วิสยกตภาวโต.

อยมสฺส วิสโยติ อยํ เวทนา อสฺส สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สวิสโย ตตฺถ วิสยภาเวน ปวตฺตตฺตา. กิฺจาปีติ กิฺจาปิ สุขา เวทนา ิติสุขา ทุกฺขา เวทนา วิปริณามสุขา, อทุกฺขมสุขา เวทนา าณสุขา. วิปริณามโกฏิยาติ อนิจฺจภาเวน สพฺพาว เวทนา ทุกฺขา นาม. สุขปฏิกฺเขปโตปิ หิ สุขปีติยา ผรณตาย สุขาติ ติกฺขมตฺเตน วิปริณามทุกฺขาติ วิปริณามโต อภาวาธิคเมน สุขนิโรธกฺขณมตฺเตน. ตถา หิ วุตฺตํ ปปฺจสูทนิยํ ‘‘สุขาย เวทนาย อตฺถิภาโว สุข’’นฺติ. สุขกาโม ทุกฺขํ ติติกฺขติ. อปริฺาตวตฺถุกานฺหิ สุขเวทนุปรโม ทุกฺขโต อุปฏฺาติ, ตสฺมายมตฺโถ วิโยเคน ทีเปตพฺโพ. ‘‘ทุกฺขา วิปริณามสุขา’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตถาจาห ปปฺจสูทนิยํ ‘‘ทุกฺขาย เวทนาย นตฺถิภาโว สุข’’นฺติ. ทุกฺขเวทนุปรโม หิ วุตฺตานํ สุขโต อุปฏฺาติ เอวาติ วทนฺติ. ตสฺส โยคสฺส วูปสเมน ‘‘อโห สุขํ ชาต’’นฺติ มชฺฌตฺตเวทนาย ชานนภาโว ยาถาวโต อวพุชฺฌนํ สุขํ. อทุกฺขมสุขาปิ เวทนา วิชานนฺตสฺส สุขํ โหติ ตสฺส สุขุมตาย วิฺเยฺยภาวโต. ยถา รูปารูปธมฺมานํ สลกฺขณโต สามฺลกฺขณโต จ สมฺมเทว อวโพโธ ปรมํ สุขํ. เตนาห –

‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานต’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๗๔);

อฺาณทุกฺขาติ อชานนภาโว อทุกฺขมสุขาเวทนาย ทุกฺขํ. สมฺมา วิภาคชานนสภาโว าณสฺส สมฺภโว. าณสมฺปยุตฺตา หิ าณูปนิสฺสยา อทุกฺขมสุขา เวทนา ปสตฺถาการา, ยโต สา อิฏฺา เจว อิฏฺผลา จาติ. อชานนภาโวติ เอตฺถ วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘ทุกฺขนฺติ วิทิโต’’ติ ปาฬิ, อฏฺกถายํ ปน วิทิตนฺติ ปทุทฺธาโร กโต, ตํ อตฺถทสฺสนมตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

เวทนาปริจฺเฉทชานเนติ ‘‘ติสฺโส อิมา เวทนา’’ติ เอวํ ปริจฺเฉทโต ชานเน. อฺาสีติ กทา อฺาสิ? อิมสฺมึ เทสนากาเลติ วทนฺติ, ปฏิเวธกาเลติ ปน ยุตฺตํ. ยถาปฏิวิทฺธา หิ เวทนา อิธ เถเรน เทสิตาติ. อิมินา การเณนาติ ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ เวทนานํ อนิจฺจตาย ทุกฺขภาวชานนสงฺขาเตน การเณน. ตํนิมิตฺตํ หิสฺส เวทนาสุ ตณฺหา น อุปฺปชฺชติ. อติปฺปปฺโจติ อติวิตฺถาโร. ทุกฺขสฺมึ อนฺโตคธํ ทุกฺขปริยาปนฺนตฺตา. ทุกฺขนฺติ สพฺพํ เวทยิตํ ทุกฺขํ สงฺขารทุกฺขภาวโต. าตมตฺเตติ ยาถาวโต อวพุชฺฌนมตฺเต. ตณฺหา น ติฏฺตีติ น สนฺติฏฺติ นปฺปวตฺตติ.

กถํ วิโมกฺขาติ อชฺฌตฺตพหิทฺธาเภเทสุ วิมุตฺตา. เหตุมฺหิ เจตํ นิสฺสกฺกวจนนฺติ เหตุอตฺเถน กรณวจเนน อตฺถมาห ‘‘กตเรน วิโมกฺเขนา’’ติ. กรณตฺเถปิ วา เอตํ นิสฺสกฺกวจนนฺติ ตถา วุตฺตํ. อภินิเวโสติ วิปสฺสนารมฺโภ. พหิทฺธาธมฺมาปิ ทฏฺพฺพาเยว สพฺพสฺสปิ ปริฺเยฺยสฺส ปริชานิตพฺพโต. าณํ ปวตฺเตตฺวา. เตติ อชฺฌตฺตสงฺขาเร. ววตฺถเปตฺวาติ สลกฺขณโต ปริจฺฉินฺทิตฺวา. พหิทฺธา โอตาเรตีติ พหิทฺธาสงฺขาเรสุ าณํ โอตาเรติ. อชฺฌตฺตํ โอตาเรตีติ อชฺฌตฺตสงฺขาเร สมฺมสติ. ตตฺร ตสฺมึ จตุกฺเก. เตสํ ววตฺถานกาเลติ เตสํ อชฺฌตฺตสงฺขารานํ วิปสฺสนากาเล.

สพฺพุปาทานกฺขยาติ สพฺพโส อุปาทานานํ ขยา. กามํ ทิฏฺิสีลพฺพตอตฺตวาทุปาทานานิ ปมมคฺเคเนว ขียนฺติ, กามุปาทานํ ปน อคฺคมคฺเคนาติ ตสฺส วเสน ‘‘สพฺพุปาทานกฺขยา’’ติ วทนฺโต เถโร อตฺตโน อรหตฺตปตฺตึ พฺยากโรติ. เตนาห ‘‘อาสวา นานุสฺสวนฺตี’’ติ. สโตติ อิมินา สติเวปุลฺลปฺปตฺตึ ทสฺเสติ. จกฺขุโต รูเป สวนฺตีติ จกฺขุวิฺาณวีถิยํ ตทนุคตมโนวิฺาณวีถิยฺจ รูปารมฺมณา อาสวา ปวตฺตนฺตีติ. กิฺจาปิ ตตฺถ กุสลาทีนมฺปิ ปวตฺติ อตฺถิ, กามาสวาทโย เอว วณโต ยูสํ วิย ปคฺฆรณกอสุจิภาเวน สนฺทนฺติ, ตถา เสสวาเรสุ. เตนาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ, ตสฺมา เต เอว ‘‘อาสวา’’ติ วุจฺจนฺติ. ตตฺถ หิ ปคฺฆรณกอสุจิมฺหิ นิรุฬฺโห อาสวสทฺโท. ‘‘อตฺตานํ นาวชานามี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘โอมานปหานํ กถิต’’นฺติ อาห. เตน อาสเวสุ สมุทายุปลกฺขณํ กถิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. น หิ เสยฺยมานาทิปฺปหาเนน วินา หีนมานํเยว ปชหติ. ปชานนาติ ‘‘นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ วุตฺตปชานนสมฺปนฺโน โหตีติ.

สรูปเภทโตปีติ ‘‘จตฺตาโร’’ติ เอวํ ปริมาณปริจฺเฉทโตปิ. อิทํ ภควา ทสฺเสนฺโต อาหาติ สมฺพนฺโธ. อิทนฺติ จ ‘‘อยมฺปิ โข’’ติอาทิวจนํ สนฺธายาห.

อสมฺภินฺนาย เอวาติ ยถานิสินฺนาย เอว, อวุฏฺิตาย เอวาติ อตฺโถ. ปุคฺคลโถมนตฺถนฺติ เทสนากุสลานํ อานนฺทตฺเถราทีนํ ปุคฺคลานํ ปสํสนตฺถํ อุกฺกํสนตฺถํ. ธมฺมโถมนตฺถนฺติ ปฏิปตฺติธมฺมสฺส ปสํสนตฺถํ. เตปีติ อานนฺทตฺเถราทโย ภิกฺขูปิ. ธมฺมปฏิคฺคาหกา ภิกฺขู. อตฺเถติ สีลาทิอตฺเถ. ธมฺเมติ ปาฬิธมฺเม.

อสฺสาติ ภควโต. อานุภาวํ กริสฺสติ ‘‘ทิวสฺเจปิ ภควา’’ติอาทินา. นฺติ สาริปุตฺตตฺเถรํ. อหมฺปิ ตเถว โถเมสฺสามิ ‘‘สา หิ ภิกฺขู’’ติอาทินา. เอวํ จินฺเตสีติ เอวํ วกฺขมาเนน ธมฺมทายาทเทสนาย จินฺติตากาเรน จินฺเตสิ. เตนาห ‘‘ยถา’’ติอาทิ. เอกชฺฌาสยายาติ สมานาธิปฺปายาย. มติยาติ ปฺาย. อยํ เทสนา อคฺคาติ ภควา ธมฺมเสนาปตึ คุณโต เอวํ ปคฺคณฺหาตีติ กตฺวา วุตฺตํ.

ปกาเสตฺวาติ คุณโต ปากฏํ ปฺาตํ กตฺวา สพฺพสาวเกหิ เสฏฺภาเว เปตุกาโม. จิตฺตคติยา จิตฺตวเสน กายสฺส ปริณามเนน ‘‘อยํ กาโย อิทํ จิตฺตํ วิย โหตู’’ติ กายสมานคติกตฺตาธิฏฺาเนน. กถํ ปน กาโย ทนฺธปฺปวตฺติโก ลหุปริวตฺเตน จิตฺเตน สมานคติโก โหตีติ? น สพฺพถา สมานคติโก. ยเถว หิ กายวเสน จิตฺตวิปริณามเน จิตฺตํ สพฺพถา กาเยน สมานคติกํ โหติ. น หิ ตทา จิตฺตํ สภาวสิทฺเธน อตฺตโน ขเณน อวตฺติตฺวา ทนฺธวุตฺติกสฺส รูปธมฺมสฺส ขเณน วตฺติตุํ สกฺโกติ, ‘‘อิทํ จิตฺตํ อยํ กาโย วิย โหตู’’ติ ปนาธิฏฺาเนน ทนฺธคติกสฺส กายสฺส อนุวตฺตนโต ยาว อิจฺฉิตฏฺานปฺปตฺติ โหติ, ตาว กายคติอนุโลเมเนว หุตฺวา สนฺตานวเสน ปวตฺตมานํ จิตฺตํ กายคติยา ปริณามิตํ นาม โหติ, เอวํ ‘‘อยํ กาโย อิทํ จิตฺตํ วิย โหตู’’ติ อธิฏฺาเนน ปเคว สุขลหุสฺาย สมฺปาทิตตฺตา อภาวิติทฺธิปาทานํ วิย ทนฺธํ อวตฺติตฺวา ยถา ลหุกติปยจิตฺตวาเรเหว อิจฺฉิตฏฺานปฺปติ โหติ, เอวํ ปวตฺตรูปตา วิฺายตีติ.

อธิปฺปายานุรูปเมว ตสฺส ภควโต โถมนาย กตตฺตา. อิทํ นาม อตฺถชาตํ ภควา ปุจฺฉิสฺสตีติ ปุพฺเพ มยา อวิทิตํ อปสฺสํ. อาสยชานนตฺถนฺติ ‘‘เอวํ พฺยากโรนฺเตน สตฺถุ อชฺฌาสโย คหิโต โหตี’’ติ เอวํ สตฺถุ อชฺฌาสยชานนตฺถํ. ทุติยํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต ภควา ปมํ ปฺหํ อนุโมทิ ทุติยํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺเตเนว ปมปฺหวิสฺสชฺชนสฺส สมฺปฏิจฺฉิตภาวโต.

เอตํ อโหสีติ เอตํ ปริวิตกฺกนํ อโหสิ. อสฺสาติ กฬารขตฺติยสฺส ภิกฺขุโน. ธมฺเม ทหตีติ ธมฺมธาตุ, สาวกปารมีาณํ, สาวกวิสเย ธมฺเม ทหติ ยาถาวโต อชิเต กตฺวา เปตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ธมฺมธาตู’’ติอาทิ. สพฺพฺุตฺาณคติกเมว วิสเย. โคจรธมฺเมติ โคจรภูเต เยฺยธมฺเม.

กฬารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. าณวตฺถุสุตฺตวณฺณนา

๓๓. าณเมว าณวตฺถุ สมฺปตฺตีนํ การณภาวโต. จตูสูติ จตุสจฺจสฺส โพธนวเสน วุตฺเตสุ จตูสุ าเณสุ. ปมนฺติ ‘‘ชรามรเณ าณ’’นฺติ เอวํ วุตฺตํ าณํ, เยน ธารณปริจยมนสิการวเสน ปวตฺตํ สพฺพํ คณฺหิ. สนฺนิจยาณมยํ สวนมยํ นามตฺเวว เวทิตพฺพํ. สภาวโต ปจฺจยโต จสฺส ปริคฺคณฺหนาณํ สมฺมสนาณํตฺเวว เวทิตพฺพํ. ชรามรณสีเสน เจตฺถ ชรามรณวนฺโตว ธมฺมา คหิตา. ปฏิเวธาณนฺติ อสมฺโมหโต ปฏิวิชฺฌนาณํ. อิมินา ธมฺเมนาติ เหตุมฺหิ กรณวจนํ. อิมสฺส หิ ธมฺมสฺส อธิคมเหตุ อยํ อริโย อตีตานาคเต นเยนปิ จตุสจฺจธมฺเม อภิสมฺพุชฺฌติ. มคฺคาณเมว ปน อตีตานาคเต นยนสทิสํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘มคฺคาณธมฺเมน วา’’ติ ทุติยวิกปฺโป วุตฺโต. เอวฺหิ ‘‘อกาลิก’’นฺติ สมตฺถิตํ โหติ.

าณจกฺขุนา ทิฏฺเนาติ ธมฺมจกฺขุภูเตน าณจกฺขุนา อสมฺโมหปฏิเวธวเสน ปจฺจกฺขโต ทิฏฺเน. ปฺาย วิทิเตนาติ มคฺคปฺาย ตเถว วิทิเตน. ยสฺมา ตถา ทิฏฺํ วิทิตํ สพฺพโส ปตฺตํ มหาอุปาโย โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปริโยคาฬฺเหนา’’ติ. ทิฏฺเนาติ วา ทสฺสเนน, ธมฺมํ ปสฺสิตฺวา ิเตนาติ อตฺโถ. วิทิเตนาติ จตฺตาริ สจฺจานิ วิทิตฺวา ปากฏานิ กตฺวา ิเตน. อกาลิเกนาติ น กาลนฺตรวิปากทายินา. ปตฺเตนาติ จตฺตาริ สจฺจานิ ปตฺวา ิตตฺตา ธมฺมํ ปตฺเตน. ปริโยคาฬฺเหนาติ จตุสจฺจธมฺเม ปริโยคาหิตฺวา ิเตน. อตีตานาคเต นยํ เนตีติ อตีเต จ อนาคเต จ นยํ เนติ หรติ เปเสติ. อิทํ ปน ปจฺจเวกฺขณาณสฺส กิจฺจํ, สตฺถารา ปน มคฺคาณํ อตีตานาคเต นยนสทิสํ กตํ ตํมูลกตฺตา. อตีตมคฺคสฺส หิ ปจฺจเวกฺขณํ นาม โหติ, ตสฺมา มคฺคาณํ นยนสทิสํ กตํ นาม โหติ, ปจฺจเวกฺขณาเณน ปน นยํ เนติ. เตนาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ. ยถา ปน เตน นยํ เนติ. ตํ อาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘เย โข เกจี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ จ นยนุปฺปาทนํ นยาณสฺเสว ปวตฺติวิเสโส. เตน วุตฺตํ ‘‘ปจฺจเวกฺขณาณสฺส กิจฺจ’’นฺติ. กิฺจาปิ ‘‘อิมินาติ มคฺคาณธมฺเมน วา’’ติ วุตฺตํ, ทุวิธํ ปน มคฺคผลาณํ สมฺมสนาณปจฺจเวกฺขณาย มูลการณํ, น นยนสฺสาติ ทุวิเธน าณธมฺเมนาติ น น ยุชฺชติ. ตถา จตุสจฺจธมฺมสฺส าตตฺตา มคฺคผลสงฺขาตสฺส วา ธมฺมสฺส สจฺจปฏิเวธสมฺปโยคํ คตตฺตา ‘‘นยนํ โหตู’’ติ เตน ‘‘อิมินา ธมฺเมนา’’ติ าณสฺส วิสยภาเวน าณสมฺปโยเคน ตทาเตนาติ จ อตฺโถ น น ยุชฺชติ. อนุอเยติ ธมฺมาณสฺส อนุรูปวเสน อเย พุชฺฌนาเณ ทิฏฺานํ อทิฏฺานยนโต อทิฏฺสฺส ทิฏฺตาย าปนโต จ. เตนาห ‘‘ธมฺมาณสฺส อนุคมเน าณ’’นฺติ. ขีณาสวสฺส เสกฺขภูมิ นาม อคฺคมคฺคกฺขโณ . กสฺมา ปเนตํ เอวํ วุตฺตนฺติ เจ? ‘‘เอวํ ชรามรณํ ปชานาตี’’ติอาทินา วตฺตมานวเสน เทสนาย ปวตฺตตฺตา.

าณวตฺถุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ทุติยาณวตฺถุสุตฺตวณฺณนา

๓๔. สตฺตรีติ ต-การสฺส ร-การาเทสํ วุตฺตํ. สตฺตติสทฺเทน วา สมานตฺโถ สตฺตริสทฺโท. พฺยฺชนรุจิวเสน พฺยฺชนํ ภณนฺตีติ พฺยฺชนภาณกา. เตนาห ‘‘พหุพฺยฺชนํ กตฺวา’’ติอาทิ. ติฏฺติ ตตฺถ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ ิติ, ปจฺจุปฺปนฺนลกฺขณสฺส ธมฺมสฺส ิติ ธมฺมฏฺิติ. อถ วา ธมฺโมติ การณํ, ปจฺจโยติ อตฺโถ. ธมฺมสฺส โย ิติสภาโว, โสว ธมฺมโต อฺโ นตฺถีติ ธมฺมฏฺิติ, ปจฺจโย. ตตฺถ าณํ ธมฺมฏฺิติาณํ. เตนาห อายสฺมา ธมฺมเสนาปติ – ‘‘ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. มาติกา ๔). ตถา จาห ‘‘ปจฺจยากาเร าณ’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ธมฺมานนฺติ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานํ. ปวตฺติฏฺิติการณตฺตาติ ปวตฺติสงฺขาตาย ิติยา การณตฺตา. ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติอาทินา อทฺธตฺตเย อนฺวยพฺยติเรกวเสน ปวตฺติยา ฉพฺพิธสฺส าณสฺส. ขโย นาม วินาโส, โสว เภโทติ. วิรชฺชนํ ปลุชฺชนํ. นิรุชฺฌนํ อนฺตรธานํ. เอเกกสฺมินฺติ ชรามรณาทีสุ เอเกกสฺมึ. ปุพฺเพ ‘‘ยถาภูตาณ’’นฺติ ตรุณวิปสฺสนํ อาห. ตสฺมา อิธาปิ ธมฺมฏฺิติาณํ วิปสฺสนาติ คเหตฺวา ‘‘วิปสฺสนาปฏิวิปสฺสนา กถิตา’’ติ วุตฺตํ.

ทุติยาณวตฺถุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อวิชฺชาปจฺจยสุตฺตวณฺณนา

๓๕. เทสนํ โอสาเปสีติ ยถารทฺธกถํ เปสิ. ตตฺถ นิสินฺนสฺส ทิฏฺิคติกสฺส ลทฺธิยา ภินฺทนวเสน อุปริ กเถตุกาโม. พุทฺธานฺหิ เทสนาวารํ ปจฺฉินฺทาเปตฺวา ปุจฺฉิตุํ สมตฺโถ นาม โกจิ นตฺถิ. เตนาห ‘‘ทิฏฺิคติกสฺส โอกาสทานตฺถ’’นฺติ. ทุปฺปฺโห เอโส สตฺตูปลทฺธิยา ปุจฺฉิตตฺตา . สตฺตูปลทฺธิวาทปเทนาติ ‘‘สตฺโต ชีโว อุปลพฺภตี’’ติ เอวํ ปวตฺตทิฏฺิทีปกปทวเสน. วทนฺติ เอเตนาติ วาโท. ทิฏฺิ-สทฺโท ปน ทฺวยสงฺคหิโต, พฺรหฺมจริยวาโส ปน ปรมตฺถโต อริยมคฺคภาวนาติ อาห ‘‘อริยมคฺควาโส’’ติ. อยํ ทิฏฺีติ อนฺเ สรีรชีวาติ ทิฏฺิ. ‘‘ชีโว’’ติ จ ชีวิตเมว วทนฺติ. วฏฺฏนฺติ ทุวิธํ วฏฺฏํ. นิโรเธนฺโตติ อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาเทนฺโต. สมุจฺฉินฺทนฺโตติ อปฺปวตฺติยํ ปาปเนน อุปจฺฉินฺทนฺโต. ตเทตํ มคฺเคน นิโรเธตพฺพํ วฏฺฏํ นิรุชฺฌตีติ โยชนา. ‘‘อยํ สตฺโต วินาสํ อภาวํ ปตฺวา สพฺพโส อุจฺฉิชฺชตี’’ติ เอวํ อุจฺเฉททิฏฺิยา คหิตาการสฺส สมฺภเว สจฺจภาเว สติ. น โหตีติ สาตฺถโก น โหติ.

คจฺฉตีติ สรีรโต นิกฺขมิตฺวา คจฺฉติ. วิวฏฺเฏนฺโตติ อปฺปวตฺตึ กโรนฺโตติ อตฺโถ. วิวฏฺเฏตุํ น สกฺโกติ นิจฺจสฺส อปฺปวตฺตึ ปาเปตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. มิจฺฉาทิฏฺิ สมฺมาทิฏฺึ วิชฺฌติ อสมาหิตปุคฺคลเสวนวเสน ตถา ปวตฺติตุํ อปฺปทานวเสน จ ปชหิตพฺพาปชหนวเสน สมฺมาทิฏฺึ วิชฺฌติ. วิสูกมิวาติ กณฺฑโก วิย. น เกวลํ อนนุวตฺตโกว, อถ โข วิโรโธปิ ‘‘นิจฺจ’’นฺติอาทินา ปวตฺตนธมฺมตาย วิฺาปนโต. วิรูปํ พีภจฺฉํ ผนฺทิตํ วิปฺผนฺทิตํ. ปณฺณปุปฺผผลปลฺลวานํ อวตฺถุภูโต ตาโล เอว ตาลาวตฺถุ ‘‘อสิเว สิวา’’ติ โวหาโร วิย. เกจิ ปน ‘‘ตาลวตฺถุกตานี’’ติ ปนฺติ, อวตฺถุภูตตาย ตาโล วิย กตานีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิยา’’ติ. อนุอภาวนฺติ วินาสํ.

อวิชฺชาปจฺจยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ทุติยอวิชฺชาปจฺจยสุตฺตวณฺณนา

๓๖. อิติ วาติ เอวํ วา. ชรามรณสฺส เจว ชรามรณสามิกสฺส จ ขณวเสน โย วเทยฺย. อวิสารทธาตุโก ปุจฺฉิตุํ อจฺเฉกตาย มงฺกุภาเวน ชาโต. เตนาห ‘‘ปุจฺฉิตุํ น สกฺโกตี’’ติ.

ทุติยอวิชฺชาปจฺจยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. นตุมฺหสุตฺตวณฺณนา

๓๗. ตุมฺหากนฺติ กายสฺส อนตฺตนิยภาวทสฺสนเมว ปเนตนฺติ ยา ตสฺส อนตฺตนิยตา, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺตนิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยทิ น อตฺตนิยํ, ปรกิยํ นาม สิยาติ, ตมฺปิ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นาปิ อฺเส’’นฺติ อาห. นยิทํ ปุราณกมฺมเมวาติ ‘‘อิทํ กาโย’’ติ วุตฺตสรีรํ ปุราณกมฺมเมว น โหติ. น หิ กาโย เวทนาสภาโว. ปจฺจยโวหาเรนาติ การโณปจาเรน. อภิสงฺขตนฺติอาทิ นปุํสกลิงฺควจนํ. ปุริมลิงฺคสภาคตายาติ ‘‘ปุราณมิทํ กมฺม’’นฺติ เอวํ วุตฺตปุริมนปุํสกลิงฺคสภาคตาย. อฺมฺาภิมุเขหิ สเมจฺจ ปจฺจเยหิ กโต อภิสงฺขโตติ อาห ‘‘ปจฺจเยหิ กโตติ ทฏฺพฺโพ’’ติ. อภิสฺเจตยิตนฺติ ตถา อภิสงฺขตตฺตสงฺขาเตน อภิมุขภาเวน เจตยิตํ ปกปฺปิตํ, ปวตฺติตนฺติ อตฺโถ. เจตนาวตฺถุโกติ เจตนาเหตุโก. เวทนิยนฺติ เวทนาย หิตํ วตฺถารมฺมณภาเวน เวทนาย ปจฺจยภาวโต. เตนาห ‘‘เวทนิยวตฺถู’’ติ.

นตุมฺหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. เจตนาสุตฺตวณฺณนา

๓๘. ยฺจาติ เอตฺถ -สทฺโท อฏฺาเน. เตน เจตนาย วิย ปกปฺปานานุสยานมฺปิ วิฺาณสฺส ิติยา วกฺขมานํเยว อวิสิฏฺํ อารมฺมณภาวํ โชเตติ. กามํ ตีสุปิ ปเทสุ ‘‘ปวตฺเตติ’’อิจฺเจว อตฺโถ วุตฺโต, วตฺตนตฺโถ ปน เจตนาทีนํ ยถากฺกมํ เจตยนปกปฺปนานุสยนรูโป วิสิฏฺฏฺโ ทฏฺพฺโพ. เตภูมกกุสลากุสลเจตนา คหิตา กมฺมวิฺาณสฺส ปจฺจยนิทฺธารณเมตนฺติ. ตณฺหาทิฏฺิกปฺปา คหิตา ยถารหนฺติ อธิปฺปาโย. อฏฺสุปิ หิ โลภสหคตจิตฺเตสุ ตณฺหากปฺโป, ตตฺถ จตูสฺเวว ทิฏฺิกปฺโปติ. กามํ อนุสยา โลกิยกุสลเจตนาสุปิ อนุเสนฺติเยว, อกุสเลสุ ปน ปวตฺติ ปากฏาติ ‘‘ทฺวาทสนฺนํ เจตนาน’’นฺติ วุตฺตํ. สหชาตโกฏิยาติ อิทํ ปจฺจุปฺปนฺนาปิ กามราคาทโย อนุสยาว วุจฺจนฺติ ตํสทิสตายาติ วุตฺตํ. น หิ กาลเภเทน ลกฺขณปฺปเภโท อตฺถีติ. อนาคตา เอว หิ กามราคาทโย นิปฺปริยายโต ‘‘อนุสยา’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ. ปจฺจยุปฺปนฺโน วฏฺฏตีติ อาห ‘‘อารมฺมณํ ปจฺจโย’’ติ. กมฺมวิฺาณสฺส ิตตฺถนฺติ กมฺมวิฺาณสฺเสว ปวตฺติยา. ตสฺมึ ปจฺจเย สตีติ ตสฺมึ เจตนาปกปฺปนานุสยสฺิเต ปจฺจเย สติ ปติฏฺา วิฺาณสฺส โหติ. สนฺตาเน ผลทานสมตฺถตาเยว โหตีติ ‘‘ปติฏฺา โหติ, ตสฺมึ ปติฏฺิเต’’ติ วุตฺตํ. สนฺนิฏฺาปกเจตนาวเสน วิรุฬฺเหติ. ปติฏฺิเตติ หิ อิมินา กมฺมสฺส กตภาโว วุตฺโต, ‘‘วิรุฬฺเห’’ติ อิมินา อุปจิตภาโว. เตนาห ‘‘กมฺมํ ชวาเปตฺวา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปุเรตรํ อุปฺปนฺนาหิ กมฺมเจตนาหิ ลทฺธปจฺจยตฺตา พลปฺปตฺตาย สนฺนิฏฺาปกเจตนาย กมฺมวิฺาณํ ลทฺธปติฏฺํ วิรุฬฺหมูลฺจ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘นิพฺพตฺตมูเล ชาเต’’ติ. ตถา หิ สนฺนิฏฺาปกเจตนา วิปากํ เทนฺตํ อนนฺตเร ชาติวเสน เทติ อุปปชฺชเวทนียกมฺมนฺติ.

เตภูมกเจตนายาติ เตภูมกกุสลากุสลเจตนาย. อปฺปวตฺตนกฺขโณติ อิธ ปวตฺตนกฺขโณ ชายมานกฺขโณ. น ชายมานกฺขโณ อปฺปวตฺตนกฺขโณ น เกวลํ ภงฺคกฺขโณ อปฺปหีนานุสยสฺส อธิปฺเปตตฺตา. อปฺปหีนโกฏิยาติ อสมุจฺฉินฺนภาเวน. ตทิทํ เตภูมกกุสลากุสลเจตนาสุ อปฺปวตฺตมานาสุ อนุสยานํ สหชาตโกฏิอาทินา ปวตฺติ นาม นตฺถิ, วิปากาทีสุ อปฺปหีนโกฏิยา ปวตฺตติ กโรนฺตสฺส อภาวโตติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. อวาริตตฺตาติ ปฏิปกฺเขติ อวาริตพฺพตฺตา. ปจฺจโยว โหติ วิฺาณสฺส ิติยา.

ปมทุติยวาเรหิ วฏฺฏํ ทสฺเสตฺวา ตติยวาเร ‘‘โน เจ’’ติอาทินา วิวฏฺฏํ ทสฺสิตนฺติ ‘‘ปมปเท เตภูมกกุสลากุสลเจตนา นิวตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นิวตฺตาติ อกรณโต อปฺปวตฺติยา อปคตา. ตณฺหาทิฏฺิโย นิวตฺตาติ โยชนา. วุตฺตปฺปกาเรสูติ ‘‘เตภูมกวิปาเกสู’’ติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรสุ.

เอตฺถาติ อิมสฺมึ สุตฺเต. เอตฺถ เจตนาปกปฺปนานํ ปวตฺตนวเสน ธมฺมปริจฺเฉโท ทสฺสิโตติ ‘‘เจเตตีติ เตภูมกกุสลากุสลเจตนา คหิตา’’ติอาทินโย อิเธว โหตีติ ทสฺสิโต. จตสฺโสติ ปฏิฆทฺวยโมหมูลสมาคตา จตสฺโส อกุสลเจตนา. จตูสุ อกุสลเจตนาสูติ ยถาวุตฺตาสุ เอว จตูสุ อกุสลเจตนาสุ, อิตรา ปน ‘‘น ปกปฺเปตี’’ติ อิมินา ปฏิกฺเขเปน นิวตฺตาติ. สุตฺเต อาคตํ วาเรตฺวาติ ‘‘โน จ ปกปฺเปตี’’ติ เอวํ ปฏิกฺเขปวเสน สุตฺเต อาคตํ วชฺเชตฺวา. ‘‘น ปกปฺเปตี’’ติ หิ อิมินา อฏฺสุ โลภสหคตจิตฺเตสุ สหชาตโกฏิยา ปวตฺตอนุสโย นิวตฺติโต เตสํ จิตฺตานํ อปฺปวตฺตนโต, ตสฺมา ตํ านํ เปตฺวาติ อตฺโถ. ปุริมสทิโสว ปุริมนเยสุ วุตฺตนเยน คเหตพฺโพ ธมฺมปริจฺเฉทตฺตา.

ตทปฺปติฏฺิเตติ สมาสภาวโต วิภตฺติโลโป, สนฺธิวเสน ท-การาคโม, ตสฺส อปฺปติฏฺิตํ ตทปฺปติฏฺิตํ, ตสฺมึ ตทปฺปติฏฺิเตติ เอวเมตฺถ สมาสปทสิทฺธิ ทฏฺพฺพา. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ตติยวาเร อรหตฺตมคฺคสฺส กิจฺจํ กถิตํ สพฺพโส อนุสยนิพฺพตฺติเภทนโต. ขีณาสวสฺส กิจฺจกรณนฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ สพฺพโส เวทนาทีนํ ปฏิกฺเขปภาวโต. นว โลกุตฺตรธมฺมาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ มคฺคปฏิปาฏิยา อนุสยสมุคฺฆาฏนโต มคฺคานนฺตรานิ ผลานิ, ตทุภยารมฺมณฺจ นิพฺพานนฺติ. วิฺาณสฺสาติ กมฺมวิฺาณสฺส. ปุนพฺภวสีเสน อนนฺตรภวสงฺคหิตํ นามรูปํ ปฏิสนฺธิวิฺาณเมว วา คหิตนฺติ อาห ‘‘ปุนพฺภวสฺส จ อนฺตเร เอโก สนฺธี’’ติ. ภวชาตีนนฺติ เอตฺถ ‘‘ทุติยภวสฺส ตติยภเว ชาติยา’’ติ เอวํ ปรมฺปรวเสน คเหตพฺพํ. อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติคหเณน ปน นานนฺตริยโต กมฺมภโว คหิโต, ชาติเหตุผลสิทฺธิเปตฺถ วุตฺตา เอวาติ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จ ‘‘โน เจ, ภิกฺขเว, เจเตติ โน จ ปกปฺเปติ, อถ โข อนุเสตี’’ติ เอวํ ภควตา ทุติยนเย ปุพฺพภาเค ภวนิพฺพตฺตกกุสลากุสลายูหนํ, ปกปฺปนฺจ วินาปิ ภเวสุ ทิฏฺาทีนวสฺส โยคิโน อนุสยปจฺจยา วิปสฺสนาเจตนาปิ ปฏิสนฺธิชนกา โหตีติ ทสฺสนตฺถํ กุสลากุสลสฺส อปฺปวตฺติ เจปิ, ตทา วิชฺชมานเตภูมกวิปากาทิธมฺเมสุ อปฺปหีนโกฏิยา อนุสยิตกิเลสปฺปจฺจยา ภววชฺชสฺส กมฺมวิฺาณสฺส ปติฏฺิตตา โหตีติ ทสฺสนตฺถฺจ วุตฺโต. ‘‘น เจเตติ ปกปฺเปติ อนุเสตี’’ติ อยํ นโย น คหิโต เจตนํ วินา ปกปฺปนสฺส อภาวโต.

เจตนาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ทุติยเจตนาสุตฺตวณฺณนา

๓๙. วิฺาณนามรูปานํอนฺตเร เอโก สนฺธีติ เหตุผลสนฺธิ วิฺาณคฺคหเณน กมฺมวิฺาณสฺส คหิตตฺตา. นามรูปํ ปน วิปากนามรูปเมวาติ ปากฏเมว. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

ทุติยเจตนาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ตติยเจตนาสุตฺตวณฺณนา

๔๐. รูปาทีสุ ฉสุ อารมฺมเณสุ. เตน เจตฺถ ภวตฺตยํ สงฺคณฺหาติ ฉฬารมฺมณปริยาปนฺนตฺตา. ตสฺเสว ภวตฺตยสฺส ปตฺถนา ปณิธานาทิวเสน นติ นาม. อาคติมฺหิ คตีติ ปจฺจุปฏฺานวเสน อภิมุขํ คติ ปวตฺติ เอตสฺมาติ อาคติ, กมฺมาทินิมิตฺตํ. ตสฺมึ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส คติ ปวตฺติ นิพฺพตฺติ โหติ. เตนาห ‘‘อาคเต’’ติอาทิ. จุตูปปาโตติ จวนํ จุติ, มรณํ. อุปปชฺชนํ นิพฺพตฺติ, อุปปาโต. จุติโต อุปปาโต ปุนรุปฺปาโท. เตนาห ‘‘เอวํ วิฺาณสฺสา’’ติอาทิ. อิโตติ นิพฺพตฺตภวโต. ตตฺถาติ ปุนพฺภวสงฺขาเต อายติภเว. เอโกว สนฺธีติ เอโก เหตุผลสนฺธิ เอว กถิโต.

ตติยเจตนาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

กฬารขตฺติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. คหปติวคฺโค

๑. ปฺจเวรภยสุตฺตวณฺณนา

๔๑. ยโตติ ยสฺมึ กาเล. อยฺหิ โต-สทฺโท ทา-สทฺโท วิย อิธ กาลวิสโย. เตนาห ‘‘ยทา’’ติ. ภยเวรเจตนาโยติ ภายิตพฺพฏฺเน ภยํ, เวรปสวนฏฺเน เวรนฺติ จ ลทฺธนามา เจตนาโย. ปาณาติปาตาทโย หิ ยสฺส ปวตฺตนฺติ, ยฺจ อุทฺทิสฺส ปวตฺติยนฺติ, อุภเย สภยเภรวาติ เต เอว ภายิตพฺพภยเวรชนกาวาติ. โสตสฺส อริยมคฺคสฺส อาทิโต ปฏฺาย ปฏิปตฺติอธิคโม โสตาปตฺติ , ตทตฺถาย ตตฺถ ปติฏฺิตสฺส จ องฺคานิ โสตาปตฺติยงฺคานิ, ตทุภยํ สนฺธายาห ‘‘ทุวิธํ โสตาปตฺติยา องฺค’’นฺติ, โสตาปตฺติอตฺถํ องฺคนฺติ อตฺโถ. ยํ ปุพฺพภาเคติ ยํ สยํ โสตาปตฺติมคฺคผลปฏิลาภโต ปุพฺพภาเค ตทตฺถาย สํวตฺตติ. กึ ปน ตนฺติ อาห ‘‘สปฺปุริสสํเสโว’’ติอาทิ. สปฺปุริสานํ พุทฺธาทีนํ อริยาณสฺาณชาตา ปยิรุปาสนา, สทฺธมฺมสฺสวนํ จตุสจฺจธมฺมสฺสวนํ, โยนิโส อุปาเยน อนิจฺจาทิโต มนสิ กรณํ โยนิโส มนสิกาโร, อุสฺสุกฺกาเปนฺเตน ธมฺมสฺส นิพฺพานสฺส อนุธมฺมปฏิปชฺชนํ ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺตีติ เอตานิ โสตาปตฺติยา องฺคานิ. อฏฺกถายํ ปน โสตาปตฺติองฺคนฺติ ปทํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘เอวํ อาคต’’นฺติ วุตฺตํ. ิตสฺส ปุคฺคลสฺส องฺคํ. โสตาปนฺโน องฺคียติ ายติ เอเตนาติ โสตาปนฺนสฺส องฺคนฺติปิ วุจฺจติ. อิทํ ปจฺฉา วุตฺตํ องฺคํ. โทเสหิ อารกาติ อริโยติ อาห ‘‘นิทฺโทโส’’ติ. กถํ อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโยติอาทินา เกนจิปิ อนุปารมฺภิยตฺตา นิรุปารมฺโภ. าณํ สนฺธาย ‘‘นิทฺโทโส’’ติ วุตฺตํ, ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ สนฺธาย ‘‘นิรุปารมฺโภ’’ติ วทนฺติ. อุภยมฺปิ ปน สนฺธาย อุภยํ วุตฺตนฺติ อปเร. ปฏิจฺจสมุปฺปาโท เอตฺถ อธิปฺเปโต. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘อปราปรํ อุปฺปนฺนาย วิปสฺสนาปฺายา’’ติ. น หิ มคฺคาณํ วิปสฺสนาปฺาติ. สมฺมา อุปายตฺตา ตสฺส ปฏิจฺจสมุปฺปนฺเน ยาถาวโต ายตีติ าโย, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท. าณํ ปน ายติ โส เอเตนาติ าโย.

ตตฺถาติ นิรเย. มคฺคโสตนฺติ มคฺคสฺส โสตํ. อาปนฺโนติ อธิคโต. อปาเยสุ อุปฺปชฺชนสงฺขาโต วินิปาตธมฺโม เอตสฺสาติ วินิปาตธมฺโม, น วินิปาตธมฺโม อวินิปาตธมฺโม. ปรํ อยนนฺติ อติวิย สวิสเย อยิตพฺพํ พุชฺฌิตพฺพํ. เยสฺหิ ธาตูนํ คติอตฺโถ, พุทฺธิปิ เตสํ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อวสฺสํ อภิสมฺพุชฺฌนโก’’ติ.

ปาณาติปาตกมฺมการณาติ ปาณาติปาตสงฺขาตสฺส ปาปกมฺมสฺส กรณเหตุ. เวรํ วุจฺจติ วิโรโธ, ตเทว ภายิตพฺพโต ภยนฺติ อาห ‘‘ภยํ เวรนฺติ อตฺถโต เอก’’นฺติ. อิทํ พาหิรํ เวรํ นาม ตสฺส เวรสฺส มูลภูตโต เวรการปุคฺคลโต พหิภาวตฺตา. เตเนว หิ ตสฺส เวรการปุคฺคลสฺส อุปฺปนฺนํ เวรํ สนฺธาย ‘‘อิทํ อชฺฌตฺติกเวรํ นามา’’ติ วุตฺตํ, ตนฺนิสฺสิตสฺส เวรสฺส มูลภูตา เวรการปุคฺคลเจตนา อุปฺปชฺชติ ปหริตุํ อสมตฺถสฺสปีติ อธิปฺปาโย. น หิ เนรยิกา นิรยปาเลสุ ปฏิปหริตุํ สกฺโกนฺติ. นิรยปาลสฺส เจตนา อุปฺปชฺชตีติ เอเตน ‘‘อตฺถิ นิรเย นิรยปาลา’’ติ ทสฺเสติ. ยํ ปเนตํ พาหิรเวรนฺติ ยมิทํ ทิฏฺธมฺมิกํ สมฺปรายิกฺจ พาหิรํ เวรํ. ปุคฺคลเวรนฺติ วุตฺตํ อตฺตกิจฺจํ สาเธตุํ อสกฺโกนฺโต เกวลํ ปรปุคฺคเล อุปฺปนฺนมตฺตํ เวรนฺติ กตฺวา. อตฺถโต เอกเมว ‘‘เจตสิก’’นฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา. เสสปเทสูติ ‘‘อทินฺนาทานปจฺจยา’’ติอาทินา อาคเตสุ เสสโกฏฺาเสสุ. อตฺโถ ภคฺโคติ อตฺโถ ธํสิโต . อธิคเตนาติ มคฺเคน อธิคเตน. ‘‘อภิคเตนา’’ติปิ ปาโ, อธิวุตฺเตนาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อจลปฺปสาเทนา’’ติ.

ปฺจเวรภยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยปฺจเวรภยสุตฺตวณฺณนา

๔๒. ภิกฺขูนํ กถิตภาวมตฺตเมว วิเสโสติ เอเตน ยา สตฺถารา เอกจฺจานํ เทสิตเทสนา, ปุน ตทฺเสํ เวเนยฺยทมกุสเลน กาลนฺตเร เตเนว เทสิตา, สา ธมฺมสํคาหเกหิ ‘‘มา โน สตฺถุเทสนา สมฺปฏิคฺคหํ วินา นสฺสตู’’ติ วิสุํ สงฺคหํ อาโรปิตาติ ทสฺเสติ.

ทุติยปฺจเวรภยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ทุกฺขสุตฺตวณฺณนา

๔๓. สมุทยนํ สมุทโย, สมุเทติ เอตมฺหาติ สมุทโย, เอวํ อุภินฺนํ สมุทยานมตฺถโตปิ เภโท เวทิตพฺโพ. ปจฺจยาว ปจฺจยสมุทโย. อารทฺธวิปสฺสโก ‘‘อิมฺจ อิมฺจ ปจฺจยสามคฺคึ ปฏิจฺจ อิเม ธมฺมา ขเณ ขเณ อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ ปสฺสนฺโต ‘‘ปจฺจยสมุทยํ ปสฺสนฺโตปิ ภิกฺขุ ขณิกสมุทยํ ปสฺสตี’’ติ วุตฺโต ปจฺจยทสฺสนมุเขน นิพฺพตฺติกฺขณสฺส ทสฺสนโต. โส ปน ขเณ ขเณ สงฺขารานํ นิพฺพตฺตึ ปสฺสิตุํ อารทฺโธ ‘‘อิเมหิ นาม ปจฺจเยหิ นิพฺพตฺตตี’’ติ ปสฺสติ. ‘‘โส ขณิกสมุทยํ ปสฺสนฺโต ปจฺจยํ ปสฺสตี’’ติ วทนฺติ. ยสฺมา ปน ปจฺจยโต สงฺขารานํ อุทยํ ปสฺสนฺโต ขณโต เตสํ อุทยทสฺสนํ โหติ, ขณโต เอเตสํ อุทยํ ปสฺสโต ปเคว ปจฺจยานํ สุคฺคหิตตฺตา ปจฺจยโต ทสฺสนํ สุเขน อิชฺฌติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปจฺจยสมุทยํ ปสฺสนฺโตปี’’ติอาทิ. อตฺถงฺคมทสฺสเนปิ เอเสว นโย. อจฺจนฺตตฺถงฺคโมติ อปฺปวตฺติ นิโรโธ นิพฺพานนฺติ. เภทตฺถงฺคโมติ ขณิกนิโรโธ. ตทุภยํ ปุพฺพภาเค อุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสน ปสฺสนฺโต อฺตรสฺส ทสฺสเน อิตรทสฺสนมฺปิ สิทฺธเมว โหติ, ปุพฺพภาเค จ อารมฺมณวเสน ขยโต วยสมฺมสนาทิกาเล เภทตฺถงฺคมํ ปสฺสนฺโต อติเรกวเสน อนุสฺสวาทิโต อจฺจนฺตํ อตฺถงฺคมํ ปสฺสติ. มคฺคกฺขเณ ปนารมฺมณโต อจฺจนฺตอตฺถงฺคมํ ปสฺสติ, อสมฺโมหโต อิตรมฺปิ ปสฺสติ. ตํ สนฺธายาห ‘‘อจฺจนฺตตฺถงฺคมํ ปสฺสนฺโตปี’’ติอาทิ. สมุทยตฺถงฺคมํ นิพฺพตฺติเภทนฺติ สมุทยสงฺขาตํ นิพฺพตฺตึ อตฺถงฺคมสงฺขาตํ เภทฺจ. นิสฺสยวเสนาติ จกฺขุสฺส สนฺนิสฺสยวเสน ปจฺจยํ กตฺวา. อารมฺมณวเสนาติ รูเป อารมฺมณํ กตฺวา. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ มธุปิณฺฑิกสุตฺตฏีกายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโสติ ‘‘จกฺขุ รูปานิ วิฺาณ’’นฺติ อิเมสํ ติณฺณํ สงฺคติ สมาคเม นิพฺพตฺติ ผสฺโสติ วุตฺโตติ อาห ‘‘ติณฺณํ สงฺคติยา ผสฺโส’’ติ. ติณฺณนฺติ จ ปากฏปจฺจยวเสน วุตฺตํ, ตทฺเปิ ปน มนสิการาทโย ผสฺสปจฺจยา โหนฺติเยว. เอวนฺติ ตณฺหาทีนํ อเสสวิราคนิโรธกฺกเมน. ภินฺนํ โหตีติ อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุทฺธํ โหติ. เตนาห ‘‘อปฺปฏิสนฺธิย’’นฺติ.

ทุกฺขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. โลกสุตฺตวณฺณนา

๔๔. อยเมตฺถ วิเสโสติ ‘‘อยํ โลกสฺสา’’ติ สมุทยตฺถงฺคมานํ วิเสสทสฺสนํ. เอตฺถ จตุตฺถสุตฺเต ตติยสุตฺตโต วิเสโส.

โลกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. าติกสุตฺตวณฺณนา

๔๕. อฺมฺํ ทฺวินฺนํ าตีนํ คาโม าติโกติ วุตฺโตติ อาห ‘‘ทฺวินฺนํ าตกานํ คาเม’’ติ. คิฺชกา วุจฺจนฺติ อิฏฺกา, คิฺชกาหิ เอว กโต อาวสโถ คิฺชกาวสโถ. โส กิร อาวาโส ยถา สุธาปริกมฺเมน ปโยชนํ นตฺถิ, เอวํ อิฏฺกาหิ เอว จินิตฺวา ฉาเทตฺวา กโต. ตาทิสฺหิ ฉทนํ สนฺธาย ภควตา อิฏฺกาฉทนํ อนุฺาตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิฏฺกาหิ กเต มหาปาสาเท’’ติ. ตตฺถ ทฺวารพนฺธกวาฏผลกาทีนิ ปน ทารุมยานิเยว. ปริยายติ อตฺตโน ผลํ ปริคฺคเหตฺวา วตฺตตีติ ปริยาโย, การณนฺติ อาห ‘‘ธมฺมปริยายนฺติ ธมฺมการณ’’นฺติ, ปริยตฺติธมฺมภูตํ วิเสสาธิคมสฺส เหตุนฺติ อตฺโถ. อุเปจฺจ สุยฺยติ เอตฺถาติ อุปสฺสุตีติ วุตฺตํ ‘‘อุปสฺสุตีติ อุปสฺสุติฏฺาน’’นฺติ. อตฺตโน กมฺมนฺติ ยทตฺถํ ตตฺถ คโต, ตํ ปริเวณสมชฺชนกิริยํ. ปหายาติ อกตฺวา. เอวํ มหตฺถฺหิ วิมุตฺตายตนสีเส ตฺวา สุณนฺตสฺส มหโต อตฺถาย สํวตฺตติ. เอกงฺคณํ อโหสีติ สพฺพํ วิวฏํ อโหสิ. ตีสุ หิ ภเวสุ สงฺขารคตํ ปจฺจยุปฺปนฺนวเสน มนสิกโรโต ภควโต กิฺจิ อเสเสตฺวา สพฺพมฺปิ ตํ าณมุเข อาปาถํ อุปคจฺฉิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยาวภวคฺคา เอกงฺคณํ อโหสี’’ติ. ตนฺติวเสน ตมตฺถํ วาจาย นิจฺฉาเรนฺโต ‘‘วจสา สชฺฌายํ กโรนฺโต’’ติ วุตฺโต. ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนวเสน จ อตฺถํ อาหริตฺวา เตสํ นิโรเธน วิวฏฺฏสฺส อาหตตฺตา ‘‘ยถานุสนฺธินา’’ติ วุตฺตํ. อทฺทส าณจกฺขุนา.

มนสา สชฺฌายํ กโรนฺโต ‘‘ตุณฺหีภูโตว ปคุณํ กโรนฺโต’’ติ วุตฺโต. ปทานุปทนฺติ ปทฺจ อนุปทฺจ. ปุริมฺหิ ปทํ นาม, ตทนนฺตรํ อนุปทํ. ฆเฏตฺวา สมฺพนฺธํ กตฺวา อวิจฺฉินฺทิตฺวา. ปริยาปุณาตีติ อชฺฌยติ. อาธารปฺปตฺตนฺติ อาธารํ จิตฺตสนฺตานปฺปตฺตํ อปฺปมุฏฺํ คตตฺตา อาธารปฺปตฺตํ นาม. การณนิสฺสิโตติ โลกุตฺตรธมฺมสฺส การณสนฺนิสฺสิโต. อาทิพฺรหฺมจริยโกติ อาทิพฺรหฺมจริยํ, ตเทว อาทิพฺรหฺมจริยกํ. ธมฺมปริยายาเปกฺขาย ปุลฺลิงฺคนิทฺเทโส. ตีสุปิ อิเมสูติ ตติยจตุตฺถปฺจเมสุ ตีสุ สุตฺเตสุ.

าติกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อฺตรพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๔๖. นามวเสนาติ โคตฺตนามวเสน จ กิตฺติวเสน จ อปากโฏ, ตสฺมา ‘‘ชาติวเสน พฺราหฺมโณ’’ติ วุตฺตํ.

อฺตรพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ชาณุสฺโสณิสุตฺตวณฺณนา

๔๗. เอวํลทฺธนาโมติ ‘‘ชาณุสฺโสณี’’ติ เอวํลทฺธนาโม รฺโ สนฺติกา อธิคตนาโม.

ชาณุสฺโสณิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. โลกายติกสุตฺตวณฺณนา

๔๘. อายตึ หิตํ เตน โลโก น ยตติ น อีหตีติ โลกายตํ. น หิ ตํ ลทฺธึ นิสฺสาย สตฺตา ปุฺกิริยาย จิตฺตมฺปิ อุปฺปาเทนฺติ, กุโต ปโยโค, ตํ เอตสฺส อตฺถิ, ตตฺถ วา นิยุตฺโตติ โลกายติโก. ปมสทฺโท อาทิอตฺถวาจกตฺตา เชฏฺเววจโนติ อาห ‘‘ปมํ โลกายต’’นฺติ. สาธารณวจโนปิ โลกสทฺโท วิสิฏฺวิสโย อิธาธิปฺเปโตติ อาห ‘‘พาลปุถุชฺชนโลกสฺสา’’ติ. อิตฺตรภาเวน ลกุณฺฑกภาเวน ตสฺส วิปุลาทิภาเวน พาลานํ อุปฏฺานมตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อายตํ มหนฺต’’นฺติอาทิมาห. ปริตฺตนฺติ ขุทฺทกํ. เอกสภาวนฺติ เอกํ สภาวํ. อวิปริณามธมฺมตายาติ อาห ‘‘นิจฺจสภาวเมวาติ ปุจฺฉตี’’ติ. ปุริมสภาเวน นานาสภาวนฺติ ปุริมสภาวโต ภินฺนสภาวํ. ปจฺฉา น โหตีติ ปจฺฉา กิฺจิ น โหติ สพฺพโส สมุจฺฉิชฺชนโต. เตนาห ‘‘อุจฺเฉทํ สนฺธาย ปุจฺฉตี’’ติ. เอกตฺตนฺติ สพฺพกาลํ อตฺตสมฺภวํ. ตถา เจว คหเณน ทฺเวปิ วาทา สสฺสตทิฏฺิโย โหนฺติ. นตฺถิ น โหติ. ปุถุตฺตํ นานาสภาวํ, เอกรูปํ น โหตีติ วา คหเณน ทฺเวปิ วาทา อุจฺเฉททิฏฺิโยติ.

โลกายติกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อริยสาวกสุตฺตวณฺณนา

๔๙. สํสยุปฺปตฺติอาการทสฺสนนฺติ ‘‘กสฺมึ สติ กึ โหตี’’ติ การณสฺส ผลสฺส จ ปจฺจามสเนน วินา เกวลํ อิทปฺปจฺจยตาย สํสยสฺส อุปฺปชฺชนาการทสฺสนํ. สมุทยติ สมุเทตีติ อตฺโถติ อาห ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ.

อริยสาวกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทุติยอริยสาวกสุตฺตวณฺณนา

๕๐. ทฺเวปิ นยา เอกโต วุตฺตาติ อิทํ ‘‘วิฺาเณ สติ นามรูปํ โหตี’’ติอาทินา นวเม วุตฺตสฺส นยสฺส ‘‘อวิชฺชาย สติ สงฺขารา โหนฺตี’’ติอาทินา ทสเม วุตฺตนเย อนฺโตคธตฺตา. นานตฺตนฺติ ปุริมโต นวมโต ทสมสฺส นานตฺตํ.

ทุติยอริยสาวกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

คหปติวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ทุกฺขวคฺโค

๑. ปริวีมํสนสุตฺตวณฺณนา

๕๑. อุปปริกฺขมาโนติ ปวตฺติปวตฺติเหตุํ, นิวตฺตินิวตฺติเหตุฺจ ปริตุเลนฺโต. กุโต ปเนตนฺติ? ‘‘สมฺมา ทุกฺขกฺขยา’’ติ วจนโต. น หิ สพฺพทุกฺขปริวีมํสํ วินา สมฺมา ทุกฺขกฺขโย สมฺภวติ. กสฺมาติอาทินา ชรามรณสฺเสว คหเณ การณํ ปุจฺฉติ. ชาติอาทีนมฺปิ ปวตฺติ ทุกฺขภาวินีติ อธิปฺปาโย. ยสฺมา ชรามรเณ คหิเต สติ ชาติปิ คหิตา โหติ, ตสฺสา อภาเว ชรามรณสฺเสว อภาวโต. เอส นโย ภวาทีสุปิ. เอวํ ยาว ชาติธมฺโม ชรามรเณ คหิเต คหิโตว โหติ, ชรามรณปเทเสน ตพฺพิการวนฺโต สพฺเพ เตภูมกา สงฺขารา คหิตาติ เอวมฺปิ ชรามรณคฺคหเณน สพฺพมฺปิ วฏฺฏทุกฺขํ คหิตเมว โหติ. เตนาห ‘‘ตสฺมึ คหิเต สพฺพทุกฺขสฺส คหิตตฺตา’’ติ. อเนกวิธนฺติ พหุวิธํ พหุโกฏฺาสํ. ‘‘อเนก’’นฺติ วา ปาโ . อเนกนฺติ พหุลวจนํ. วิธนฺติ ขณฺฑิจฺจปาลิจฺจาทิวเสน วิปรีตโกฏฺาสํ. นานปฺปการกนฺติ ตโต เอว นานปฺปการํ. นฺหตฺวา ิตํ ปุริสํ วิยาติ พาลานํ อตฺตภาวสฺส สุภากาเรน อุปฏฺานํ สนฺธายาห.

‘‘สารุปฺปภาเวนา’’ติ วุตฺตํ, กึ สพฺพถา สารุปฺปภาเวนาติ อาห ‘‘นิกฺกิเลสตาย ปริสุทฺธตายา’’ติ. น หิ ตสฺเสสา อสงฺขตตาทิภาเวน สทิสา. ปฏิปนฺโนติ ปฏิมุโข อภิสงฺขารมุโข หุตฺวา ปนฺโน อธิคโต. อนุคตนฺติ อนุจฺฉวิกภาเวน คตํ, ยถา จ นิพฺพานสฺส อธิคโม โหติ, เอวํ ตทนุรูปภาเวน คตํ. เอตฺถ จ ปาฬิยํ ‘‘ปชานาตี’’ติ ปุพฺพภาควเสน ปชานนา วุตฺตา, ‘‘ตถา ปฏิปนฺโน จ โหตี’’ติ นิยตวเสน. ‘‘อปรภาควเสนา’’ติ อปเร. เกจิ ปน ‘‘ยถา ปฏิปนฺนสฺส ชรามรณํ นิรุชฺฌติ, ตถา ปฏิปนฺโน’’ติ วทนฺติ. ปทวีมํสนา ปุพฺพภาควเสน เวทิตพฺพา, น มคฺคกฺขณวเสน. สงฺขารนิโรธายาติ เอตฺถ นยิทํ อวิชฺชาปจฺจยสงฺขารคฺคหณํ, อถ โข สงฺขตสงฺขารคฺคหณนฺติ อาห ‘‘สงฺขารทุกฺขสฺส นิโรธตฺถายา’’ติ. เตนาห ‘‘เอตฺตาวตา ยาว อรหตฺตา เทสนา กถิตา’’ติ.

‘‘ปจฺจตฺตํเยว ปรินิพฺพายตี’’ติอาทินา อรหตฺตผลปจฺจเวกฺขณํ, ‘‘โส สุขฺจ เวทนํ เวทยตี’’ติอาทินา สตตวิหารฺจ ทสฺเสตฺวา เทสนา สพฺพถาว วฏฺฏเทสนาโต นิวตฺเตตพฺพา สิยา. อวิชฺชาคโตติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, เตน เอวมาทิกํ อิทํ วฏฺฏวิวฏฺฏกถนํ ปุน คณฺหาติ. ปุคฺคลสทฺโท อิตราสํ ทฺวินฺนํ ปกตีนํ วาจโกติ ตโต วิเสเสตฺวา คหเณ ปมปกติเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘ปุริสปุคฺคโล’’ติ อโวจาติ อาห ‘‘ปุริโสเยว ปุคฺคโล’’ติ. อุภเยนาติ ปุริสปุคฺคลคฺคหเณน. สมฺมุติยา อวิชฺชมานาย กถา เทสนา สมฺมุติกถา. ปรมตฺถสฺส กถา เทสนา ปรมตฺถกถา. ตตฺถาติ สมฺมุติปรมตฺถกถาสุ, น สมฺมุติปรมตฺเถสุ. เตนาห ‘‘เอวํ ปวตฺตา สมฺมุติกถา นามา’’ติอาทิ. ตตฺริทํ สมฺมุติปรมตฺถานํ ลกฺขณํ – ยสฺมึ ภินฺเน พุทฺธิยา วา อวยววินิพฺโภเค กเต น ตํสมฺา, สา ฆฏปฏาทิปฺปเภทา สมฺมุติ, ตพฺพิปริยายโต ปรมตฺโถ. น หิ กกฺขฬผุสนาทิสภาเว อยํ นโย ลพฺภติ. ตตฺถ รูปาทิธมฺมํ สมูหสนฺตานวเสน ปวตฺตมานํ อุปาทาย ‘‘สตฺโต’’ติอาทิ โวหาโรติ อาห ‘‘สตฺโต นโร…เป… สมฺมุติกถา นามา’’ติ . ยสฺมา รูปาทโย ปรมตฺถธมฺมา ‘‘ขนฺธา ธาตุโย’’ติอาทินา วุจฺจนฺติ, น โวหารมตฺตํ, ตสฺมา ‘‘ขนฺธา…เป… ปรมตฺถกถา นามา’’ติ วุตฺตํ. นนุ ขนฺธกถาปิ สมฺมุติกถาว, สมฺมุติ หิ สงฺเกโต ขนฺธฏฺโ ราสฏฺโ วา โกฏฺาสฏฺโ วาติ? สจฺจเมตํ, อยํ ปน ขนฺธสมฺา ผสฺสาทีสุ ตชฺชาปฺตฺติ วิย ปรมตฺถสนฺนิสฺสยา ตสฺส อาสนฺนตรา ปุคฺคลสมฺาทโย วิย น ทูเรติ ปรมตฺถสงฺคหตา วุตฺตา. ขนฺธสีเสน วา ตทุปาทานา สภาวธมฺมา เอว คหิตา. นนุ จ สพฺเพปิ สภาวธมฺมา สมฺมุติมุเขเนว เทสนํ อาโรหนฺติ, น สมฺมุเขนาติ สพฺพาปิ เทสนา สมฺมุติเทสนาว สิยาติ? นยิทเมวํ เทเสตพฺพธมฺมวิภาเคน เทสนาวิภาคสฺส อธิปฺเปตตฺตา, น จ สทฺโท เกนจิ ปวตฺตินิมิตฺเตน วินา อตฺถํ ปกาเสตีติ. เตนาห ‘‘ปรมตฺถํ กเถนฺตาปิ สมฺมุตึ อมุฺจิตฺวาว กเถนฺตี’’ติ. สจฺจเมว อวิปรีตเมว กเถนฺติ.

สมฺมุตีติ สมฺา. ปรโม อุตฺตโม อตฺโถติ ปรมตฺโถ, ธมฺมานํ ยถาภูตสภาโว. ตํ ปรมตฺถํ, สมฺมุติ ปน โลกสฺส สงฺเกตมตฺตสิทฺธา. ยทิ เอวํ กถํ สมฺมุติกถาย สจฺจตาติ อาห ‘‘โลกสมฺมุติการณ’’นฺติ โลกสมฺํ นิสฺสาย ปวตฺตนโต. โลกสมฺาย หิ อภินิเวสนํ วินา ปฺาปนา เอกจฺจสฺส สุตสฺส สาวนา วิย, น มุสา อนติกฺกมิตพฺพโต ตสฺสา. เตนาห ภควา ‘‘ชนปทนิรุตฺตึ นาภินิเวเสยฺย, สมฺํ นาติธาเวยฺยา’’ติ. ธมฺมานํ สภาวธมฺมานํ. ภูตลกฺขณํ ภาวสฺส ลกฺขณํ ทีเปนฺตีติ กตฺวา.

เตรสเจตนาเภทนฺติ อฏฺกามาวจรกุสลเจตนาปฺจรูปาวจรกุสลเจตนาเภทํ. อตฺตโน สนฺตานสฺส ปุนนโต ปุชฺชภวผลสฺส อภิสงฺขรณโต ปุฺาภิสงฺขารํ. กมฺมปุฺเนาติ กมฺมภูเตน. วิปากปุฺเนาติ วิปากสงฺขาเตน. ปุฺผลมฺปิ หิ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘ปุฺ’’นฺติ วุจฺจติ ‘‘เอวมิทํ ปุฺํ ปวฑฺฒตี’’ติอาทีสุ วิย. ‘‘อปุฺูปคํ โหติ วิฺาณ’’นฺติ อิทํ ‘‘ปุฺูปคํ โหติ วิฺาณ’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตนยเมวาติ น อุทฺธตํ. อปุฺผลํ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘อปุฺ’’นฺติ วุจฺจติ. สงฺขารนฺติ สงฺขารสฺส คหิตตฺตา ‘‘อวิชฺชาคโตย’’นฺติ อิมินา สงฺขารสฺส ปจฺจโย คหิโต, ‘‘ปุฺูปคํ โหติ วิฺาณ’’นฺติอาทินา ปจฺจยุปฺปนฺนํ วิฺาณํ. ตสฺมิฺจ คหิเต นามรูปาทิ สพฺพํ คหิตเมว โหติ. เตนาห ‘‘ทฺวาทสปทิโก ปจฺจยากาโร คหิโตว โหตี’’ติ.

วิชฺชาติ อรหตฺตมคฺคาณํ อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน. ตสฺสา หิ อุปฺปาทา สพฺพโส อวิชฺชา ปหีนา โหติ. ปมเมวาติ อิทํ อวิชฺชาปหานวิชฺชุปฺปาทานํ สมานกาลตาทสฺสนํ. เตนาห ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิ. ปทีปุชฺชเลนาติ ปทีปุชฺชลนเหตุนา สเหว. วิชฺชุปฺปาทาติ วิชฺชุปฺปาทเหตุ, เอวํ สตีปิ สมกาลตฺเตติ อธิปฺปาโย. น คณฺหาตีติ ‘‘เอตํ มมา’’ติอาทินา น คณฺหาติ. น ตณฺหายติ น ภายติ ตณฺหาวุตฺติโน อภาวา, ตโต เอว ภยวตฺถุโน จ อภาวา.

คิลิตฺวา ปรินิฏฺาเปตฺวาติ คิลิตฺวา วิย อฺสฺส อวิสยํ วิย กรเณน ปรินิฏฺาเปตฺวา. สามิสสุขสฺส อเนกทุกฺขานุพนฺธภาวโต, สุขาภินนฺทสฺส ทุกฺขเหตุภาวโต จ สุขํ อภินนฺทนฺโตเยว ทุกฺขํ อภินนฺทติ นาม อคฺคิสนฺตาปสุขํ อิจฺฉนฺโต ธูมทุกฺขานุฺาโต วิย. ทุกฺขํ ปตฺวา สุขํ ปตฺถนโตติ เอตฺถ ทุพฺพลคหณิกาทโย นิทสฺสนภาเวน เวทิตพฺพา. เต หิ ยาว สายนฺหสมยาปิ อภุตฺวา สายมาสาทีนิ กโรนฺโต ชิฆจฺฉาทึ อุปฺปาเทตฺวา ภุฺชนาทีนิ กโรนฺติ. สุขสฺส วิปริณามทุกฺขโต สุขํ อภินนฺทนฺโต ทุกฺขํ อภินนฺทติ นามาติ โยชนา. เกจิ ปน ทุกฺขสฺส อภาวโต วิปริณามสุขโต ตํ สุขํ อภินนฺทนฺโต ทุกฺขํ อภินนฺทตีติ วทนฺติ. ตํ น, น หิ ตาทิสํ สุขนิมิตฺตํ โกจิ ทุกฺขํ อภินนฺทนฺโต ทิฏฺโ, ทุกฺขเหตุํ ปน สามิสํ สุขํ อภินนฺทนฺโต ทิฏฺโ. ทุกฺขเหตุํ สามิสํ สุขํ อภินนฺทนฺโต อตฺถโต ทุกฺขํ อภินนฺทติ นามาติ วุตฺโตวายมตฺโถ. กาโยติ ปฺจทฺวารกาโย, โส ปริยนฺโต อวสานํ เอตสฺสาติ กายปริยนฺติกํ. เตนาห ‘‘ยาว ปฺจทฺวารกาโย ปวตฺตติ, ตาว ปวตฺต’’นฺติ. ชีวิตปริยนฺติกนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

ปจฺฉา อุปฺปชฺชิตฺวา ปมํ นิรุชฺฌตีติ เอกสฺมึ อตฺตภาเว มโนทฺวาริกเวทนาโต ปจฺฉา อุปฺปชฺชิตฺวา ตโต ปมํ นิรุชฺฌติ, ตโต เอว สิทฺธมตฺถํ สรูเปเนว ทสฺเสตุํ ‘‘มโนทฺวาริกเวทนา ปมํ อุปฺปชฺชิตฺวา ปจฺฉา นิรุชฺฌตี’’ติ วุตฺตํ. อิทานิ ตเมว สงฺเขเปน วุตฺตํ วิวริตุํ ‘‘สา หี’’ติอาทิมาห. ยาว เตตฺตึสวสฺสาปิ ปมวโย. ปณฺณาสวสฺสกาเลติ ปมวยโต ยาว ปฺาสวสฺสกาลา, ตาว ิตา โหตีติ วุฑฺฒิหานิโย อนุปคนฺตฺวา สรูเปเนว ิตา โหติ. มนฺทาติ มุทุกา อติขิณา. ตทาติ อสีตินวุติวสฺสกาเล. ตถา จิรปริวิตกฺเกปิ. ภคฺคา นิตฺเตชา ภคฺควิภคฺคา ทุพฺพลา. หทยโกฏึเยวาติ จกฺขาทิวตฺถูสุ อวตฺเตตฺวา เตสํ ขีณตฺตา โกฏิภูตํ หทยวตฺถุํเยว. ยาว เอสา เวทนา วตฺตติ.

วาปิยาติ มหาตฬาเกน. ปฺจอุทกมคฺคสมฺปนฺนนฺติ ปฺจหิ อุทกสฺส ปวิสนนิกฺขมนมคฺเคหิ ยุตฺตํ. ตโต ตโต วิสฺสนฺทมานํ สพฺพโส ปุณฺณตฺตา.

ปมํเทเว วสฺสนฺเตติอาทิ อุปมาสํสนฺทนํ. อิมํ เวทนํ สนฺธายาติ อิมํ ยถาวุตฺตํ ปริโยสานปฺปตฺตํ มโนทฺวาริกเวทนํ สนฺธาย.

กายสฺส เภทาติ อตฺตภาวสฺส วินาสโต. ‘‘อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา’’ติ ปาฬิ, อฏฺกถายํ ปน ชีวิตปริยาทานา อุทฺธนฺติ ปทุทฺธาโร กโต. ปรโลกวเสน อคนฺตฺวา. เวทนานํ สีติภาโว นาม สงฺขารทรถปริฬาหภาโว, โส ปนายํ อปฺปวตฺติวเสนาติ อาห ‘‘ปวตฺติ…เป… ภวิสฺสนฺตี’’ติ. ธาตุสรีรานีติ อฏฺิกงฺกลสงฺขาตธาตุสรีรานิ. สรีเรกเทเส หิ สรีรสมฺา.

กุมฺภการปากาติ กุมฺภการปากโต. เอตฺถ ปจฺจตีติ ปาโก, ปจนฏฺานํ. ตเทว ปาจนวเสน อาวสนฺติ เอตฺถาติ อาวาโส, ตสฺมา กุมฺภการาวาสโต. อวิคตวูปสมํ สงฺขริตํ กุมฺภํ อุทฺธริตฺวา เปนฺโต ฉาริกาย สติ ปิธานวเสน เปติ. ตถา ปนํ ปน สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปฏิสิสฺเสยฺยา’’ติ. กุมฺภสฺส ปเทสภูตตาย อาพทฺธา อวยวา ‘‘กุมฺภกปาลานี’’ติ อธิปฺเปตานิ, น ฉินฺนภินฺนานิ. อวยวมุเขน หิ สมุทาโย วุตฺโต. ตตฺถ กปาลสมุทาโย หิ ฆโฏ. เตนาห ‘‘มุขวฏฺฏิยา เอกพทฺธานี’’ติ. อวสิสฺเสยฺยุนฺติ วณฺณวิเสสอุณฺหภาวาปคตา ฆฏการาเนว ติฏฺเยฺยุนฺติ. อาทิตฺต…เป… ตโย ภวา ทฏฺพฺพา เอกาทสหิ อคฺคีหิ อาทิตฺตภาวโต. ยถา กุมฺภกาโร กุมฺภการาวาสํ อาทิตฺตํ ปจฺจเวกฺขติ, เอวํ อารทฺธวิปสฺสโกเปส ภวตฺตยํ ราคาทีหิ อาทิตฺตนฺติ อาห ‘‘กุมฺภกาโร วิย โยคาวจโร’’ติ. นีหรณทณฺฑโกวิย อรหตฺตมคฺคาณํ ภวตฺตยปากโต นีหรณโต. สโม ภูมิภาโค วิย นิพฺพานตลํ สพฺพวิสมา นิวตฺตนโต.

‘‘อาทานนิกฺเขปนโต, วโยวุทฺธตฺถงฺคมโต, อาหารมยโต, อุตุมยโต, จิตฺตสมุฏฺานโต, กมฺมชโต, ธมฺมตารูปโต’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๐๖) อิเมหิ สตฺตหิ อากาเรหิ สมฺมสนฺโต รูปสตฺตกํ วิปสฺสติ นาม. ‘‘กลาปโต, ยมกโต, ขณิกโต, ปฏิปาฏิโต, ทิฏฺิอุคฺฆาฏนโต, มานสมุคฺฆาฏโต, นิกนฺติปริยาทานโต’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๑๗) อิเมหิ สตฺตหิ อากาเรหิ สมฺมสนฺโต อรูปสตฺตกํ วิปสฺสติ นาม, ตสฺมา ยถาวุตฺตํ อิมํ รูปสตฺตกํ อรูปสตฺตกฺจ นีหริตฺวา วิปสฺสนฺตสฺส. ยทิปิ อรหโต อตฺตภาโว สพฺพภเวหิปิ อุทฺธโฏ, ยาว ปน อนุปาทิเสสปรินิพฺพานํ น ปาปุณาติ, ตาว ตสฺมิมฺปิ สุคติภเว ิโตเยวาติ วตฺตพฺพตํ ลพฺภตีติ ‘‘จตูหิ อปาเยหิ อตฺตภาวํ อุทฺธริตฺวา’’อิจฺเจว วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ขีณาสโว ปนา’’ติอาทิ. ตถา จ วกฺขติ ‘‘อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุตสฺส วฏฺฏวูปสโม เวทิตพฺโพ’’ติ. น ปรินิพฺพาติ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยาติ อธิปฺปาโย, สอุปาทิเสสาย ปน นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพานํ อรหตฺตปฺปตฺติเยว. อภิสงฺขารเหตุโต เหตฺถ ปริฬาหวูปสมสฺส อุปสมภาเวน อธิปฺเปตตฺตา อุณฺหกุมฺภนิพฺพานนิทสฺสนมฺปิ น วิรุชฺฌติ. อนุปาทินฺนกสรีรานีติ อุตุสมุฏฺานิกรูปกลาเป วทนฺติ. ภิกฺขเวติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. อิทํ ปน วจนํ. อนุโยคาโรปนตฺถนฺติ กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยมาโน ขีณาสโว อปิ นุ ปุฺาภิสงฺขาราทิกมฺมํ กเรยฺยาติ ปฺหํ กาตุํ. อถ วา อนุโยคาโรปนตฺถนฺติ ‘‘อปิ นุ โข ขีณาสโว ภิกฺขุ ปุฺาภิสงฺขารํ วา อภิสงฺขเรยฺยา’’ติอาทินา อนุโยคํ อาโรเปตุํ วุตฺตํ, น ตาว ยถารทฺธเทสนํ นิฏฺาเปตุนฺติ อตฺโถ.

ปฏิสนฺธิวิฺาเณ สิทฺเธ ตสฺมึ ภเว อุปฺปชฺชนารหานํ วิฺาณานํ สิยา สมฺภโว, นาสตีติ วุตฺตํ ‘‘วิฺาณํ ปฺาเยถาติ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ ปฺาเยถา’’ติ. สพฺพโส สงฺขาเรสุ อสนฺเตสุ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ อปิ นุ โข ปฺาเยยฺย. ตสฺมิฺหิ อปฺายมาเน สพฺพํ วิฺาณํ น ปฺาเยยฺย. เถรานนฺติ ‘‘ภิกฺขเว’’ติ อาลปิตตฺเถรานํ . ปฺหพฺยากรณํ สมฺปหํสติ ตสฺส สพฺพฺุตฺาเณน สํสนฺทนโต. อปฺปฺาณนฺติ อปฺปฺายนํ. อาทิ-สทฺเทน วิฺาเณ อสติ นามรูปสฺส อปฺปฺาณนฺติ เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ. สนฺนิฏฺานสงฺขาตนฺติ สทฺทหนากาเรน ปวตฺตสนฺนิฏฺานสงฺขาตํ. อธิโมกฺขนฺติ นิจฺฉยาการวิโมกฺขํ สทฺธาวิโมกฺขฺจ. เตนาห ปาฬิยํ ‘‘สทฺทหถ เมตํ, ภิกฺขเว’’ติ. สทฺธาสหิตฺหิ นิจฺฉยาการวิโมกฺขํ สนฺธายาห ‘‘สนฺนิฏฺานสงฺขาตํ อธิโมกฺข’’นฺติ. อนฺโตติ ปริยนฺโต. ปริโต ฉิชฺชติ เอตฺถาติ ปริจฺเฉโท.

ปริวีมํสนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อุปาทานสุตฺตวณฺณนา

๕๒. อารมฺมณาทิภาเวน สํวตฺตนโต อุปาทานานํ หิตานิ อุปาทานิยานิ, เตสุ อุปาทานิเยสุ. เตนาห ‘‘จตุนฺนํ อุปาทานานํ ปจฺจเยสู’’ติ. อสฺสาทํ อนุปสฺสนฺตสฺสาติ อสาเทตพฺพํ มิจฺฉาาเณน อนุปสฺสโต. ตทาหาโรติ โสฬส วา วีสํ ตึสํ จตฺตาลีสํ ปฺาสํ วา อาหาโร ปจฺจโย เอตสฺสาติ ตทาหาโร. อคฺคิกฺขนฺโธ วิย ตโย ภวา เอกาทสหิ อคฺคีหิ อาทิตฺตภาวโต เอตเทว ภวตฺตยํ. อคฺคิ…เป… ปุถุชฺชโน อคฺคิกฺขนฺธสทิสสฺส ภวตฺตยสฺส ปริพนฺธนโต.

กมฺมฏฺานสฺสาติ วิปสฺสนากมฺมฏฺานสฺส. เตนาห ‘‘เตภูมกธมฺเมสู’’ติ. ธมฺมปาสาทนฺติ โลกุตฺตรธมฺมปาสาทํ. โส หิ อจฺจุคฺคตฏฺเน ‘‘ปาสาโท’’ติ วุจฺจติ. สติปฏฺานมหาวีถิยํ ผลกฺขเณ ปวตฺตายาติ.

อุปาทานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓-๔. สํโยชนสุตฺตทฺวยวณฺณนา

๕๓-๕๔. มหนฺตวฏฺฏปฺปพนฺธโอปมฺมภาเวน เตลปทีปสฺส อาหตตฺตา ‘‘มหนฺตฺจ วฏฺฏิกปาลํ คเหตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ปุริมนเยเนวาติ ปุริมสฺมึ อุปาทานิยสุตฺเต วุตฺตนเยเนว. ตถา วิเนตพฺพานํ ปุคฺคลานํ อชฺฌาสยวเสน หิ อิเมสํ สุตฺตานํ เอวํ วจนํ เอวํ เทสนา. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ.

สํโยชนสุตฺตทฺวยวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๖. มหารุกฺขสุตฺตทฺวยวณฺณนา

๕๕-๕๖. โอชํ อภิหรนฺตีติ รสหรณิโย วิย ปุริสสฺส สรีเร รุกฺขมูลานิ รุกฺขสฺส ปถวีอาโปรเส อุปริ อาโรเปนฺติ. เตสํ ตถา อาโรปนํ ‘‘โอชายา’’ติอาทินา วิภาเวติ. หตฺถสตุพฺเพธมสฺสาติ หตฺถสตุพฺเพโธ, หตฺถสตํ อุพฺพิทฺธสฺสปิ. เอตฺถาติ เอติสฺสํ วฏฺฏกถายํ. กมฺมาโรหนนฺติ กมฺมปจฺจโย.

ปุน เอตฺถาติ เอติสฺสํ วิวฏฺฏกถายํ. วฏฺฏทุกฺขํ นาเสตุกามสฺส ทฬฺหํ อุปฺปนฺนสํเวคาณํ สนฺธาย ‘‘กุทฺทาโล วิยา’’ติ อาห. ตโต นิพฺพตฺติตาณํ สมาธิปจฺฉิยา ิตํ นิสฺสาย ปวตฺเตตพฺพวิปสฺสนารมฺภาณํ. รุกฺขจฺเฉทนผรสุ วิยาติ เอวํภูตสฺส วิปสฺสนา เอกนฺตโต วฏฺฏจฺเฉทาย โหติเยวาติ อาห ‘‘รุกฺขสฺส…เป… มนสิกโรนฺตสฺส ปฺา’’ติ. ตตฺถ กมฺมฏฺานนฺติ วิปสฺสนากมฺมฏฺานํ. ตํ จตุพฺพิธววตฺถานวเสน วีสติ ปถวีโกฏฺาสา, ทฺวาทส อาโปโกฏฺาสา, จตฺตาโร เตโชโกฏฺาสา, ฉ วาโยโกฏฺาสาติ ทฺเวจตฺตาลีสาย โกฏฺาเสสุ. วิฺาณสฺส จาติ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ ปการตฺโถ จ. เตน ภูตรูปานิ วิฺาณสมฺปยุตฺตธมฺเม จ สงฺคณฺหาติ. สตฺตสุ สปฺปาเยสุ ยสฺส อลภนฺตสฺส กมฺมฏฺานํ วิภูตํ หุตฺวา น อุปฏฺาติ, ตํ สนฺธายาห ‘‘อฺตรํ สปฺปาย’’นฺติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

มหารุกฺขสุตฺตทฺวยวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ตรุณรุกฺขสุตฺตวณฺณนา

๕๗-๕๙. ปลิมชฺเชยฺยาติ อลฺลกรณวเสน ปริโต ปาฬึ พนฺเธยฺย. ตถา กโรนฺโต ยสฺมา จ ตตฺถ ติณคจฺฉาทีนํ มูลสนฺตานคฺคหเณน ตํ านํ โสเธติ นาม, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘โสเธยฺยา’’ติ. ปํสุนฺติ อสฺส ปวฑฺฒการกํ, อาคนฺตุกํ ปํสุนฺติ อตฺโถ. ทเทยฺยาติ ปกฺขิเปยฺย. เตนาห ‘‘ถทฺธ’’นฺติอาทิ. วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘รุกฺขํ นาเสตุกาโม ปุริโส วิยา’’ติอาทินา ปฺจมสุตฺเต วุตฺตนเยน. อฏฺมนวมานิ อุตฺตานตฺถาเนว วุตฺตนยตฺตา.

ตรุณรุกฺขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. นิทานสุตฺตวณฺณนา

๖๐. พหุวจนวเสนาติ กุรู นาม ชานปทิโน ราชกุมารา, เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหีวเสน ‘‘กุรู’’ติ เอวํ พหุวจนวเสน. ยตฺถ ภควโต วสโนกาสภูโต โกจิ วิหาโร น โหติ, ตตฺถ เกวลํ โคจรคามกิตฺตนํ นิทานกถาย ปกติ ยถา ‘‘สกฺเกสุ วิหรติ เทวทหํ นาม สกฺยานํ นิคโม’’ติ. ‘‘อายสฺมา’’ติ วา ‘‘เทวานํ ปิโย’’ติ วา ภวนฺติ วา ปิยสมุทาหาโร เอโสติ อาห ‘‘อายสฺมาติ ปิยวจนเมต’’นฺติ. ตยิทํ ปิยวจนํ คารววเสน วุจฺจตีติ อาห ‘‘ครุวจนเมต’’นฺติ. อติทูรํ อจฺจาสนฺนํ อติสมฺมุขา อติปจฺฉโต อุปริวาโต อุนฺนตปฺปเทโสติ อิเม ฉ นิสชฺชโทสา. นีลปีตโลหิโตทาตมฺชิฏฺปภสฺสรวเสน ฉพฺพณฺณานํ.

กุลสงฺคหตฺถายาติ กุลานุทฺทยตาวเสน กุลานุคฺคณฺหนตฺถาย. สหสฺสภณฺฑิกํ นิกฺขิปนฺโต วิย ภิกฺขาปฏิคฺคณฺหเนน เตสํ อภิวาทนาทิสมฺปฏิจฺฉเนน จ ปุฺาภิสนฺทสฺส ชนเนน. ปฏิสมฺมชฺชิตฺวาติ อนฺเตวาสิเกหิ สมฺมฏฺฏฺานํ สกฺกจฺจการิตาย ปุน สมฺมชฺชิตฺวา. อุภยนฺตโต ปฏฺาย มชฺฌนฺติ อาทิโต ปฏฺาย เวทนํ, ชรามรณโต ปฏฺาย จ เวทนํ ปาเปตฺวา สมฺมสนมาห. ติกฺขตฺตุนฺติ ‘‘อาทิโต ปฏฺาย อนฺต’’นฺติอาทินา วุตฺตจตุราการุปสํหิเต ตโย วาเร. เตน ทฺวาทสกฺขตฺตุํ สมฺมสนมาห. อมฺหากํ ภควตา คมฺภีรภาเวเนว กถิตตฺตา เสสพุทฺเธหิปิ เอวเมว กถิโตติ ธมฺมนฺวเย ตฺวา วุตฺตํ ‘‘สพฺพพุทฺเธหิ…เป… กถิโต’’ติ.

ปมาณาติกฺกเมติ อปริมาณตฺเถ ‘‘ยาวฺจิทํ เตน ภควตา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๓) วิย. อติเรกภาวโชตโน หิ ยํ ยาว-สทฺโท. เตนาห ‘‘อติคมฺภีโรติ อตฺโถ’’ติ. อวภาสติ ขายติ อุปฏฺาติ าณสฺส. ตถา อุปฏฺานฺหิ สนฺธาย ‘‘ทิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. นนุ เอส ปฏิจฺจสมุปฺปาโท เอกนฺตคมฺภีโรว, อถ กสฺมา คมฺภีราวภาสตา โชติตาติ? สจฺจเมตํ, เอกนฺตคมฺภีรตาทสฺสนตฺถเมว ปนสฺส คมฺภีราวภาสคฺคหณํ, ตสฺมา อฺตฺถ ลพฺภมานํ จาตุโกฏิกํ พฺยติเรกมุเขน นิทสฺเสตฺวา ตเมวสฺส เอกนฺตคมฺภีรตํ วิภาเวตุํ ‘‘เอกํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตํ นตฺถีติ อคมฺภีโร อคมฺภีราวภาโส จาติ เอตํ ทฺวยํ นตฺถิ. เตน ยถาทสฺสิเต จาตุโกฏิเก ปจฺฉิมา เอกโกฏิ ลพฺภตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘อยํ หี’’ติอาทิ.

เยหิ คมฺภีรภาเวหิ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ‘‘คมฺภีโร’’ติ วุจฺจติ, เต จตูหิ อุปมาหิ อุลฺลิงฺเคนฺโต ‘‘ภวคฺคคฺคหณายา’’ติอาทิมาห. ยถา ภวคฺคคฺคหณตฺถํ หตฺถํ ปสาเรตฺวา คเหตุํ น สกฺกา ทูรภาวโต, เอวํ สงฺขาราทีนํ อวิชฺชาทิปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตตฺโถ ปกติาเณน คเหตุํ น สกฺกา. ยถา สิเนรุํ ภินฺทิตฺวา มิฺชํ ปพฺพตรสํ ปากติกปุริเสน นีหริตุํ น สกฺกา, เอวํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทคเต ธมฺมตฺถาทิเก ปกติาเณน ภินฺทิตฺวา วิภชฺช ปฏิวิชฺฌนวเสน ชานิตุํ น สกฺกา. ยถา มหาสมุทฺทํ ปกติปุริสสฺส พาหุทฺวยวเสน ปารํ ตริตุํ น สกฺกา. เอวํ เวปุลฺลฏฺเน มหาสมุทฺทสทิสํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปกติาเณน เทสนาวเสน ปริหริตุํ น สกฺกา. ยถา ปถวึ ปริวตฺเตตฺวา ปากติกปุริสสฺส ปถโวชํ คเหตุํ น สกฺกา, เอวํ อิตฺถํ อวิชฺชาทโย สงฺขาราทีนํ ปจฺจยา โหนฺตีติ เตสํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทสภาโว ปากติกาเณน นีหริตฺวา คเหตุํ น สกฺโกติ, เอวํ จตุพฺพิธคมฺภีรตาวเสน จตสฺโส อุปมา โยเชตพฺพา. ปากติกาณวเสน จายมตฺถโยชนา กตา ทิฏฺสจฺจานํ ตตฺถ ปฏิเวธสพฺภาวโต, ตถาปิ ยสฺมา สาวกานํ ปจฺเจกพุทฺธานฺจ ตตฺถ สปฺปเทสเมว าณํ, พุทฺธานํเยว นิปฺปเทสํ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘พุทฺธวิสยํ ปฺห’’นฺติ.

มาติ ปฏิเสเธ นิปาโต. สฺวายํ ‘‘อุตฺตานกุตฺตานโก วิย ขายตี’’ติ วจนํ สนฺธาย วุตฺโตติ อาห ‘‘มา ภณีติ อตฺโถ’’ติ. อุสฺสาเทนฺโตติ ปฺาวเสน อุกฺกํสนฺโตติ อตฺโถ. อปสาเทนฺโตติ นิพฺภจฺฉนฺโต, นิคฺคณฺหนฺโตติ อตฺโถ. เตนาติ มหาปฺภาเวน.

ตตฺถาติ เถรสฺส สติปิ อุตฺตานภาเว ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส อฺเสํ คมฺภีรภาเว. สุโภชนรสปุฏฺสฺสาติ สุนฺทเรน โภชนรเสน โปสิตสฺส. กตโยคสฺสาติ นิพฺพุทฺธปโยเค กตปริจยสฺส. มลฺลปาสาณนฺติ มลฺเลหิ มหาพเลเหว ขิปิตพฺพปาสาณํ. กุหึ อิมสฺส ภาริยฏฺานนฺติ กสฺมึ ปสฺเส อิมสฺส ปาสาณสฺส ครุตรปเทโสติ ตสฺส สลฺลหุกภาวํ ทีเปนฺโต วทติ.

ติมิรปิงฺคเลเนวทีเปนฺติ ตสฺส มหาวิปฺผารภาวโต. เตนาห ‘‘ตสฺส กิรา’’ติอาทิ. ปกฺกุถตีติ ปกฺกุถนฺตํ วิย ปริวตฺตติ ปริโต วตฺตติ. ลกฺขณวจนฺเหตํ. ปิฏฺิยํ สกลิกอฏฺิกา ปิฏฺิปตฺตํ. กายูปปนฺนสฺสาติ มหตา กาเยน อุเปตสฺส, มหากายสฺสาติ อตฺโถ. ปิฺฉ วฏฺฏีติ ปิฺฉ กลาโป. สุปณฺณวาตนฺติ นาคคฺคหณาทีสุ ปกฺขปปฺโผฏนวเสน อุปฺปชฺชนกวาตํ.

‘‘ปุพฺพูปนิสฺสยสมฺปตฺติยา’’ติอาทินา อุทฺทิฏฺการณานิ วิตฺถารโต วิวริตุํ ‘‘อิโต กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิโตติ อิโต ภทฺทกปฺปโต. สตสหสฺสิเมติ สตสหสฺสเม. หํสวตี นาม นครํ อโหสิ ชาตนครํ. ธุรปตฺตานีติ พาหิรปตฺตานิ, ยานิ ทีฆตมานิ.

กนิฏฺภาตาติ เวมาติกภาตา กนิฏฺโ ยถา อมฺหากํ ภควโต นนฺทตฺเถโร. พุทฺธานฺหิ สโหทรา ภาตโร นาม น โหนฺติ. ตตฺถ เชฏฺา ตาว นุปฺปชฺชนฺติ, กนิฏฺานํ ปน อสมฺภโว เอว. โภคนฺติ วิภวํ. อุปสนฺโตติ โจรชนิตสงฺโขภวูปสเมน อุปสนฺโต ชนปโท.

ทฺเวสาฏเก นิวาเสตฺวาติ สาฏกทฺวยเมว อตฺตโน กายปริหาริยํ กตฺวา, อิตรํ สพฺพสมฺภารํ อตฺตนา โมเจตฺวา.

ปตฺตคฺคหณตฺถนฺติ อนฺโตปกฺขิตฺตอุณฺหโภชนตฺตา ปตฺตสฺส อปราปรํ หตฺเถ ปริวตฺเตนฺตสฺส สุเขน ปตฺตคฺคหณตฺถํ. อุตฺตริสาฏกนฺติ อตฺตโน อุตฺตริยํ สาฏกํ. เอตานิ ปากฏฏฺานานีติ เอตานิ ยถาวุตฺตานิ ภควโต เทสนาย ปากฏานิ พุทฺเธ พุทฺธสาวเก จ อุทฺทิสฺส เถรสฺส ปุฺกรณฏฺานานิ, ปจฺเจกพุทฺธํ ปน โพธิสตฺตฺจ อุทฺทิสฺส เถรสฺส ปุฺกรณฏฺานานิ พหูนิเยว.

ปฏิสนฺธึ คเหตฺวาติ อมฺหากํ โพธิสตฺตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหณทิวเสเยว ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา.

อุคฺคหนํ ปาฬิยา อุคฺคณฺหนํ, สวนํ อตฺถสวนํ, ปริปุจฺฉนํ คณฺิฏฺาเนสุ อตฺถปริปุจฺฉนํ, ธารณํ ปาฬิยา ปาฬิอตฺถสฺส จ จิตฺเต ปนํ. สพฺพฺเจตํ อิธ ปฏิจฺจสมุปฺปาทวเสน เวทิตพฺพํ, สพฺพสฺสปิ พุทฺธวจนสฺส วเสนาติปิ วฏฺฏติ. โสตาปนฺนานฺจ…เป… อุปฏฺาติ ตตฺถ สมฺโมหวิคเมน ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ อตฺตปจฺจกฺขวเสน อุปฏฺานโต . นามรูปปริจฺเฉโทติ สห ปจฺจเยน นามรูปสฺส ปริจฺฉิชฺช อวโพโธ. จตูหีติ ธมฺมคมฺภีราทีหิ จตูหิ คมฺภีรตาหิ สพฺพาปิ คมฺภีรตา.

สาวเกหิ เทสิตา เทสนาปิ ปน สตฺถุ เอว เทสนาติ อาห ‘‘มยา ทินฺนนเย ตฺวา’’ติ. ‘‘เสกฺเขน นาม นิพฺพานํ สพฺพากาเรน ปฏิวิทฺธํ น โหตี’’ติ น ตสฺส คมฺภีรตาติ ตสฺส คมฺภีรสฺส อุปาทานสฺส คมฺภีรตา วิย สุฏฺุ ทิฏฺา นาม โหติ. ตสฺมา อาห ‘‘อิทํ นิพฺพานเมว คมฺภีรํ, ปจฺจยากาโร ปน อุตฺตานโก ชาโต’’ติ. นิพฺพานฺหิ สพฺเพปิ อเสกฺขา สพฺพโส ปฏิวิชฺฌนฺติ นิปฺปเทสตฺตา, ปจฺจยาการํ ปน สมฺมาสมฺพุทฺธาเยว อนวเสสโต ปฏิวิชฺฌนฺติ, น อิตเร. ตสฺมา ปจฺจยวเสน ‘‘อิทํ อปรทฺธ’’นฺติ วุตฺตํ เถรํ อปสาเทนฺเตน. ตเมว หิสฺส อนวเสสโต ปฏิเวธาภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘อถ กสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อสติปิ ธมฺมโต เภเท สํโยชนตฺถอนุสยตฺถวเสน ปน เตสํ ลพฺภมานเภทํ คเหตฺวา ‘‘อิเม จตฺตาโร กิเลเส’’ติ วุตฺตํ. อฺโ หิ เตสํ พนฺธนตฺโถ, อฺโ ถามคมนฏฺโติ. เอส นโย เสเสสุปิ. อิติ อิเมสํ กิเลสานํ อปฺปหีนตฺตา ตถารูปํ อุปนิสฺสยสมฺปทํ อภาวยโตว อนุตฺตานเมว ธมฺมํ อุตฺตานนฺติ น วตฺตพฺพเมวาติ อธิปฺปาโย. จตฺตาริ อฏฺ โสฬส วา อสงฺขฺเยยฺยานีติ อิทํ มหาโพธิสตฺตานํ สนฺตาเน โพธิปริปาจกธมฺมานํ ติกฺขมชฺฌิมมุทุภาวสิทฺธกาลวิเสสทสฺสนํ, ตฺจ โข มหาภินีหารโต ปฏฺายาติ วทนฺติ. เอเตหีติ ยถาวุตฺตพุทฺธสาวกอคฺคสาวกปจฺเจกพุทฺธสมฺมาสมฺพุทฺธานํ วิเสสาธิคเมหิ. ปจฺจนีกนฺติ ปฏิกฺกูลํ วิรุทฺธํ. สพฺพถา ปจฺจยาการปฏิเวโธ นาม สมฺมาสมฺโพธิยาธิคโม เอวาติ วุตฺตํ ‘‘ปจฺจยาการํ ปฏิวิชฺฌิตุํ วายมนฺตสฺเสวา’’ติ. นวหิ อากาเรหีติ อุปฺปาทาทีหิ นวหิ ปจฺจยากาเรหิ. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๔๕) –

‘‘อวิชฺชาสงฺขารานํ อุปฺปาทฏฺิติ จ ปวตฺตฏฺิติ จ นิมิตฺตฏฺิติ จ อายูหนฏฺิติ จ สํโยคฏฺิติ จ ปลิโพธฏฺิติ จ สมุทยฏฺิติ จ เหตุฏฺิติ จ ปจฺจยฏฺิติ จ, อิเมหิ นวหากาเรหิ อวิชฺชา ปจฺจโย, สงฺขารา ปจฺจยสมุปฺปนฺนา’’ติอาทิ.

ตตฺถ นวหากาเรหีติ นวหิ ปจฺจยภาวูปคมเนหิ อากาเรหิ. อุปฺปชฺชติ เอตสฺมา ผลนฺติ อุปฺปาโท, ผลุปฺปตฺติยา การณภาโว. สติ จ อวิชฺชาย สงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ, นาสติ, ตสฺมา อวิชฺชา สงฺขารานํ อุปฺปาโท โหติ. ตถา อวิชฺชาย สติ สงฺขารา ปวตฺตนฺติ จ นิมิยนฺติ จ. ยถา จ ภวาทีสุ ขิปนฺติ, เอวํ เตสํ อวิชฺชา ปจฺจโย โหติ, ตถา อายูหนฺติ ผลุปฺปตฺติยา ฆเฏนฺติ สํยุชฺชนฺติ อตฺตโน ผเลน. ยสฺมึ สนฺตาเน สยํ อุปฺปนฺนา, ตํ ปลิพุนฺธนฺติ ปจฺจยนฺตรสมวาเย อุทยนฺติ อุปฺปชฺชนฺติ, หิโนติ จ สงฺขารานํ การณภาวํ อุปคจฺฉติ. ปฏิจฺจ อวิชฺชํ สงฺขารา อยนฺติ ปวตฺตนฺตีติ เอวํ อวิชฺชาย สงฺขารานํ การณภาวูปคมนวิเสสา อุปฺปาทาทโย เวทิตพฺพาติ. อุปฺปาทฏฺิตีติ จ ติฏฺติ เอเตนาติ ิติ, การณํ. อุปฺปาโท เอว ิติ อุปฺปาทิติ. เอส นโย เสเสสุปิ. อิทฺจ ปจฺจยาการทสฺสนํ ยถา ปุริเมหิ มหาโพธิมูเล ปวตฺติตํ, ตถา อมฺหากํ ภควตาปิ ปวตฺติตนฺติ อจฺฉริยเวคาภิหตา ทสสหสฺสิโลกธาตุ สงฺกมฺปิ สมฺปกมฺปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทิฏฺมตฺเต’’ติอาทิมาห.

เอตสฺส ธมฺมสฺสาติ เอตสฺส ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺิตสฺส ธมฺมสฺส. โส ปน ยสฺมา อตฺถโต เหตุปฺปภวานํ เหตุ. เตนาห ‘‘เอตสฺส ปจฺจยธมฺมสฺสา’’ติ . ชาติอาทีนํ ชรามรณปจฺจยตายาติ อตฺโถ. นามรูปปริจฺเฉโท ตสฺส จ ปจฺจยปริคฺคโห น ปมาภินิเวสมตฺเตน โหติ, อถ โข ตตฺถ อปราปรํ าณุปฺปตฺติสฺิเตน อนุ อนุ พุชฺฌเนน. ตทุภยภาวํ ปน ทสฺเสนฺโต ‘‘าตปริฺาวเสน อนนุพุชฺฌนา’’ติ อาห. นิจฺจสฺาทีนํ ปชหนวเสน ปวตฺตมานา วิปสฺสนาธมฺเม ปฏิวิชฺฌติ เอว นาม โหติ ปฏิปกฺขวิกฺขมฺภเนน ติกฺขวิสทภาวาปตฺติโต, ตทธิฏฺานภูตา จ ตีรณปริฺา อริยมคฺโค จ ปริฺาปหานาภิสมยวเสน ปวตฺติยา ตีรณปฺปหานปริฺาสงฺคโห จาติ ตทุภยปฏิเวธาภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตีรณปฺปหานปริฺาวเสน อปฺปฏิวิชฺฌนา’’ติ อาห. ตนฺตํ วุจฺจติ ปฏวีนนตฺถํ ตนฺตวาเยติ ตนฺตํ อาวฺฉิตฺวา ปสาริตสุตฺตวฏฺฏิตํ นียตีติ กตฺวา, ตํ ปน ตนฺตากุลตาย นิทสฺสนภาเวน อากุลเมว คหิตนฺติ อาห ‘‘ตนฺตํ วิย อากุลชาตา’’ติ. สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมาเนตุนฺติ ปุพฺเพนาปรํ สมํ กตฺวา อาเนตุํ, อวิสมํ อุชุํ กาตุนฺติ อตฺโถ. ตนฺตเมว วา อากุลํ ตนฺตากุลํ, ตนฺตากุลํ วิย ชาตา ภูตา ตนฺตากุลกชาตา. มชฺฌิมํ ปฏิปทํ อนุปคนฺตฺวา อนฺตทฺวยปกฺขนฺเทน ปจฺจยากาเร ขลิตฺวา อากุลพฺยากุลา โหนฺติ, เตเนว อนฺตทฺวยปกฺขนฺเทน ตํตํทิฏฺิคฺคาหวเสน ปริพฺภมนฺตา อุชุกํ ธมฺมฏฺิติตนฺตํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น ชานนฺติ. เตนาห ‘‘น สกฺโกนฺติ ปจฺจยาการํ อุชุํ กาตุ’’นฺติ. ทฺเว โพธิสตฺเตติ ปจฺเจกโพธิสตฺตมหาโพธิสตฺเต. อตฺตโน ธมฺมตายาติ อตฺตโน สภาเวน, ปโรปเทเสน วินาติ อตฺโถ. ตตฺถ ตตฺถ คุฬกชาตนฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน ชาตคุฬกํ ปิณฺฑิสุตฺตํ. ตโต เอว คณฺิพทฺธนฺติ วุตฺตํ. ปจฺจเยสุ ปกฺขลิตฺวาติ อนิจฺจทุกฺขานตฺตาทิสภาเวสุ ปจฺจยธมฺเมสุ นิจฺจาทิภาววเสน ปกฺขลิตฺวา. ปจฺจเย อุชุํ กาตุํ อสกฺโกนฺโตติ ตสฺเสว นิจฺจาทิคาหสฺส อวิสฺสชฺชนโต ปจฺจยธมฺมนิมิตฺตํ อตฺตโน ทสฺสนํ อุชุํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต อิทํสจฺจาภินิเวสกายคนฺถวเสน คณฺิกชาตา โหนฺตีติ อาห ‘‘ทฺวาสฏฺิ…เป… คณฺิพทฺธา’’ติ.

เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา สสฺสตทิฏฺิอาทิ ทิฏฺิโย นิสฺสิตา อลฺลีนา, วินนโต กุลาติ อิตฺถิลิงฺควเสน ลทฺธนามสฺส ตนฺตวายสฺส คณฺิกํ นาม อากุลภาเวน อคฺคโต วา มูลโต วา ทุวิฺเยฺยาวยวํ ขลิตพนฺธสุตฺตนฺติ อาห ‘‘กุลาคณฺิกํ วุจฺจติ เปสการกฺชิยสุตฺต’’นฺติ. สกุณิกาติ วฏฺฏจาฏกสกุณิกา. สา หิ รุกฺขสาขาสุ โอลมฺพนกุลาวกา โหติ. ตฺหิ สา กุลาวกํ ตโต ตโต ติณหีราทิเก อาเนตฺวา ตถา ตถา วินนฺธติ, ยถา เตสํ เปสการกฺชิยสุตฺตํ วิย อคฺเคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ วิเวเจตุํ วา น สกฺกา. เตนาห ‘‘ยถา’’ติอาทิ. ตทุภยมฺปีติ กุลาคณฺิกนฺติ วุตฺตํ กฺชิยสุตฺตํ กุลาวกฺจ. ปุริมนเยเนวาติ ‘‘เอวเมว สตฺตา’’ติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว.

กามํ มุฺชปพฺพชติณานิ ยถาชาตานิปิ ทีฆภาเวน ปติตฺวา อรฺฏฺาเน อฺมฺํ วินนฺธิตฺวา อากุลานิ หุตฺวา ติฏฺนฺติ, ตานิ ปน ตถา ทุพฺพิเวจิยานิ ยถา รชฺชุภูตานีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

อปาโยติ อเยน สุเขน, สุขเหตุนา วา วิรหิโต. ทุกฺขสฺส คติภาวโตติ อปายิกสฺส ทุกฺขสฺส ปวตฺติฏฺานภาวโต. สุขสมุสฺสยโตติ ‘‘อพฺภุทยโต วินิปติตตฺตา’’ติ วิรูปํ นิปติตตฺตา ยถา เตนตฺตภาเวน สุขสมุสฺสโย น โหติ, เอวํ นิปติตตฺตา. อิตโรติ สํสาโร นนุ ‘‘อปาย’’นฺติอาทินา วุตฺโตปิ สํสาโร เอวาติ? สจฺจเมตํ, นิรยาทีนํ ปน อธิมตฺตทุกฺขภาวทสฺสนตฺถํ อปายาทิคฺคหณํ โคพลิพทฺทาเยน อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏีติ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ เหตุผลภาเวน อปราปรุปฺปตฺติ. อพฺโภจฺฉินฺนํ วตฺตมานาติ อวิจฺเฉเทน ปวตฺตมานา.

ตํ สพฺพมฺปีติ ตํ ‘‘อปาย’’นฺติอาทินา วุตฺตํ สพฺพํ อปายทุกฺขฺเจว วฏฺฏทุกฺขฺจ. มหาสมุทฺเท วาตกฺขิตฺตา นาวา วิยาติ อิทํ ปริพฺภมนฏฺานสฺส มหนฺตภาวทสฺสนตฺถฺเจว ปริพฺภมนสฺส อนวตฺติตทสฺสนตฺถฺจ เวทิตพฺพํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

นิทานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุกฺขวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. มหาวคฺโค

๑. อสฺสุตวาสุตฺตวณฺณนา

๖๑. ‘‘อสฺสุตวา’’ติ โสตทฺวารานุสาเรน อุปธาริตํ, อุปธารณํ วา สุตํ อสฺส อตฺถีติ สุตวา, ตปฺปฏิกฺเขเปน น สุตวาติ อสฺสุตวา. วา-สทฺโท จายํ ปสํสายํ, อติสยสฺส วา โพธนโก, ตสฺมา ยสฺส ปสํสิตํ, อติสเยน วา สุตํ อตฺถิ, โส ‘‘สุตวา’’ติ สํกิเลสวิทฺธํสนสมตฺโถ ปริยตฺติธมฺมปริจโย ‘‘ตํ สุตฺวา ตถตฺตาย ปฏิปตฺติ จ สุตวา’’ติ อิมินา ปเทน ปกาสิโต. อถ วา โสตพฺพยุตฺตํ สุตฺวา กตฺตพฺพนิปฺผตฺตึ สุณีติ สุตวา. ตปฺปฏิกฺเขเปน น สุตวาติ อสฺสุตวา. เตนาหุ โปราณา ‘‘อาคมาธิคมาภาวา, เยฺโย อสฺสุตวา อิตี’’ติ. ตถา จาห ‘‘ขนฺธธาตุ…เป… วินิจฺฉยรหิโต’’ติ. ตตฺถ วาจุคฺคตกรณํ อุคฺคโห, ตตฺถ ปริปุจฺฉนํ ปริปุจฺฉา, กุสเลหิ สห โจทนาปริหรณวเสน วินิจฺฉยสฺส การณํ วินิจฺฉโย. ปุถูนนฺติ พหูนํ. กิเลสาทีนํ กิเลสาภิสงฺขารานํ วิตฺถาเรตพฺพํ ปฏิสมฺภิทามคฺคนิทฺเทเสสุ (มหานิ. ๕๑, ๙๔) อาคตนเยน. อนฺธปุถุชฺชโน คหิโต ‘‘นาลํ นิพฺพินฺทิตุ’’นฺติอาทิวจนโต. อาสนฺนปจฺจกฺขวาจี อิทํ-สทฺโทติ อาห ‘‘อิมสฺมินฺติ ปจฺจุปฺปนฺนปจฺจกฺขกายํ ทสฺเสตี’’ติ. จตูสุ มหาภูเตสุ นิยุตฺโตติ จาตุมหาภูติโก. ยถา ปน มหามตฺติกาย นิพฺพตฺตํ มตฺติกามยํ, เอวมยํ จตูหิ มหาภูเตหิ นิพฺพตฺโต ‘‘จตุมหาภูตมโย’’ติ วุตฺตํ. นิพฺพินฺเทยฺยาติ นิพฺพินฺทนมฺปิ อาปชฺเชยฺย. นิพฺพินฺทนา นาม อุกฺกณฺนา อนภิรติภาวโตติ วุตฺตํ ‘‘อุกฺกณฺเยฺยา’’ติ. วิรชฺเชยฺยาติ วีตราโค ภเวยฺย. เตนาห ‘‘น รชฺเชยฺยา’’ติ. วิมุจฺเจยฺยาติ อิธ ปน อจฺจนฺตาย วิมุจฺจนํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘มุจฺจิตุกาโม ภเวยฺยา’’ติ. จตูหิ จ รูปชนกปจฺจเยหิ อาคโต จโยติ, อาจโย, วุทฺธิ. จยโต อปกฺกโมติ อปจโย, ปริหานิ. อาทานนฺติ คหณํ, ปฏิสนฺธิยา นิพฺพตฺติ. เภโทติ ขนฺธานํ เภโท. โส หิ กเฬวรสฺส นิกฺเขโปติ วุตฺโตติ อาห ‘‘นิกฺเขปนนฺติ เภโท’’ติ.

ปฺายนฺตีติ ปการโต ายนฺติ. รูปํ ปริคฺคเหตุํ ปริคฺคณฺหนวเสนปิ รูปํ อาลมฺพิตุํ. อยุตฺตรูปํ กตฺวา ตณฺหาทีหิ ปริคฺคเหตุํ อรูปํ ปริคฺคณฺหิตุํ ยุตฺตรูปํ กโรติ เตสํ ภิกฺขูนํ สปฺปายภาวโต. เตนาห ‘‘กสฺมา’’ติอาทิ. นิกฺกฑฺฒนฺโตติ ตโต คาหโต นีหรนฺโต.

มนายตนสฺเสวนามํ, น สมาธิปฺตฺตีนํ ‘‘จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวยํ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒; เปฏโก. ๒๒; มิ. ป. ๑.๙.๙), จิตฺโต คหปตี’’ติอาทีสุ (ธ. ป. อฏฺ. ๗๔) วิย. จิตฺตีกาตพฺพภูตํ วตฺถุ เอตสฺสาติ จิตฺตวตฺถุ, ตสฺส ภาโว จิตฺตวตฺถุตา, เตน การเณน จิตฺตภาวมาห. จิตฺตโคจรตายาติ จิตฺตวิจิตฺตวิสยตาย. สมฺปยุตฺตธมฺมจิตฺตตายาติ ราคาทิสทฺธาทิสมฺปยุตฺตธมฺมวเสน จิตฺตสภาวตฺตา. เตน จิตฺตตาย จิตฺตตฺตมาห. วิชานนฏฺเนาติ พุชฺฌนฏฺเน. อชฺโฌสิตนฺติ อชฺโฌสาภูตาย ตณฺหาย คหิตํ. เตนาห ‘‘ตณฺหายา’’ติอาทิ. ปรามสิตฺวาติ ธมฺมสภาวํ อนิจฺจตาทึ อติกฺกมิตฺวา ปรโต นิจฺจาทิโต อามสิตฺวา. อฏฺสตนฺติ อฏฺาธิกํ สตํ. นว มานาติ เสยฺยสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินา อาคตา นววิธมานา. พฺรหฺมชาเล อาคตา สสฺสตวาทาทโย ทฺวาสฏฺิทิฏฺิโย. เอวนฺติ วุตฺตากาเรน. ยสฺมา ตณฺหามานทิฏฺิคฺคาหวเสน ปุถุชฺชเนน ทฬฺหคฺคาหํ คหิตํ, ตสฺมา โส ตตฺถ นิพฺพินฺทิตุํ นิพฺพิทาาณํ อุปฺปาเทตุํ น สมตฺโถ.

ภิกฺขเวติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, เตน ‘‘วร’’นฺติ เอวมาทิกํ สงฺคณฺหาติ. อิทํ อนุสนฺธิวจนํ ‘‘กสฺมา อาหา’’ติ กเถตุกามตาย การณํ ปุจฺฉติ. เตนาห ‘‘ปมํ หี’’ติอาทิ. อสฺสุตวตา ปุถุชฺชเนน. เตนาติ ภควตา. อยุตฺตรูปํ กตํ ‘‘นิพฺพินฺเทยฺยา’’ติอาทินา อาทีนวสฺส วิภาวิตตฺตา. อรูเป ปน ตถา อาทีนวสฺส อวิภาวิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อรูปํ ปริคฺคเหตุํ ยุตฺตรูป’’นฺติ, ยุตฺตรูปํ วิย กตนฺติ อธิปฺปาโย. คาโหติ ตณฺหามานทิฏฺิคฺคาโห. ‘‘นิกฺขมิตฺวา อรูปํ คโต’’ติ อิทํ ภควตา อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา รูเป คาโห ปฏิกฺขิตฺโต, น อรูเป, ตสฺมา ‘‘กาตพฺโพ นุ โข โส ตตฺถา’’ติ มิจฺฉาคณฺหนฺตานํ โส ตโต รูปโต นิกฺขมิตฺวา อรูปํ คโต วิย โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. ติฏฺมานนฺติ ติฏฺนฺตํ. ‘‘อาปชฺชิตฺวา วิย โหตี’’ติ สภาเวน ปวตฺตมานํ ‘‘ปมวเย’’ติอาทินา รูปสฺส เภทํ วยาทีหิ วิภชิตฺวา ทสฺเสติ.

ปาทสฺส อุทฺธรเณติ ยถา ปิตสฺส ปาทสฺส อุกฺขิปเน. อติหรณนฺติ ยถาอุทฺธตํ ยถาฏฺิตฏฺานํ อติกฺกมิตฺวา หรณํ. วีติหรณนฺติ อุทฺธโต ปาโท ยถาฏฺิตํ ปาทํ ยถา น ฆฏฺเฏติ, เอวํ โถกํ ปสฺสโต ปริณาเมตฺวา หรณํ. โวสฺสชฺชนนฺติ ตถา ปรปาทํ วีติสาเรตฺวา ภูมิยํ นิกฺขิปนตฺถํ อโวสฺสชฺชนํ. สนฺนิกฺเขปนนฺติ โวสฺสชฺเชตฺวา ภูมิยํ สมํ นิกฺขิปนํ ปนํ. สนฺนิรุชฺฌนนฺติ นิกฺขิตฺตสฺส สพฺพโส นิรุชฺฌนํ อุปฺปีฬนํ. ตตฺถ ตตฺเถวาติ ตสฺมึ ตสฺมึ ปมวยาทิเก เอว. อวธารเณน เตสํ โกฏฺาสนฺตรสงฺกมนาภาวมาห. โอธีติ ภาโว, ปพฺพนฺติ สนฺธิ. ปมวยาทโย เอว เหตฺถ โอธิ ปพฺพนฺติ จ อธิปฺเปตา. ปฏปฏายนฺตาติ ‘‘ปฏปฏา’’อิติ กโรนฺตา วิย, เตน เนสํ ปวตฺติกฺขณสฺส อิตฺตรตํ ทสฺเสติ. เอตนฺติ เอตํ รูปธมฺมานํ ยถาวุตฺตํ ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนํ เอวํ วุตฺตปฺปการเมว. วฏฺฏิปฺปเทสนฺติ วฏฺฏิยา ปุลกํ พรหํ. ตฺหิ วฏฺฏิยา ปุลกํ อนติกฺกมิตฺวาว สา ทีปชาลา ภิชฺชติ. ปเวณิสมฺพนฺธวเสนาติ สนฺตติวเสน.

รตฺตินฺติ รตฺติยํ. ภุมฺมตฺเถ เหตํ อุปโยควจนํ. เอวํ ปน อตฺโถ น คเหตพฺโพ อนุปฺปนฺนสฺส นิโรธาภาวโต. ปุริมปเวณิโตติ รูเป วุตฺตปเวณิโต. อเนกานิ จิตฺตโกฏิสตสหสฺสานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ วุตฺตมตฺถํ เถรวาเทน ทีเปตุํ ‘‘วุตฺตมฺปิ เจต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อฑฺฒจูฬนฺติ โถเกน อูนํ อุปฑฺฒํ, ตสฺส ปน อุปฑฺฒํ อธิการโต วาหสตสฺสาติ วิฺายติ. ‘‘อฑฺฒจุทฺทส’’นฺติ เกจิ, ‘‘อฑฺฒจตุตฺถ’’นฺติ อปเร. ‘‘สาธิกํ ทิยฑฺฒสตํ วาหา’’ติ ทฬฺหํ กตฺวา วทนฺตีติ วีมํสิตพฺพํ. จตุนาฬิโก ตุมฺโพ. มหารฺตาย ปวทฺธํ วนํ ปวนนฺติ อาห ‘‘ปวเนติ มหาวเน’’ติ. นฺติ ปมํ คหิตสาขํ. อยมตฺโถติ อยํ ภูมึ อโนตริตฺวา ิตสาขาย เอว คหณสงฺขาโต อตฺโถ. เอตทตฺถเมว หิ ภควา ‘‘อรฺเ’’ติ วตฺวาปิ ‘‘ปวเน’’ติ อาห.

อรฺมหาวนํ วิยาติ อรฺฏฺาเน พฺรหารฺเ วิย. อารมฺมโณลมฺพนนฺติ อารมฺมณสฺส อวลมฺพนํ. น วตฺตพฺพํ อารมฺมณปจฺจเยน วินา อนุปฺปชฺชนโต. เอกชาติยนฺติ รูปาทินีลาทิเอกสภาวํ. ‘‘ทิสฺสติ, ภิกฺขเว, อิมสฺส จาตุมหาภูติกสฺส กายสฺส อาจโยปิ อปจโยปี’’ติ วทนฺเตน รูปโต นีหริตฺวา อรูเป คาโห ปติฏฺาปิโต นาม, ‘‘วรํ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติอาทึ วทนฺเตน อรูปโต นีหริตฺวา รูเป คาโห ปติฏฺาปิโต นาม.

นฺติ คาหํ. อุภยโตติ รูปโต จ อรูปโต จ. หริสฺสามีติ นีหริสฺสามิ. ปริวตฺเตตฺวาติ มนฺตํ ชปฺปิตฺวา. กณฺเณ ธุเมตฺวาติ กณฺเณ ธเมตฺวา. อสฺสาติ วิสสฺส. นิมฺมเถตฺวาติ นิมฺมทฺทิตฺวา, นีหริตฺวาติ อธิปฺปาโย.

มคฺโคติ โลกุตฺตรมคฺโค. ‘‘นิพฺพินฺท’’นฺติ อิมินา พลววิปสฺสนา กถิตา.

อสฺสุตวาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยอสฺสุตวาสุตฺตวณฺณนา

๖๒. ปจฺจยภาเวน สุขเวทนาย หิตนฺติ สุขเวทนิยํ. เตนาห ‘‘สุขเวทนาย ปจฺจย’’นฺติ. ปจฺจยภาโว จ อุปนิสฺสยโกฏิยา, น สหชาตโกฏิยา. เตนาห ‘‘นนุ จา’’ติอาทิ. ชวนเวทนายาติ ชวนจิตฺตสหคตาย เวทนาย. ตํ สนฺธายาติ ตํ อุปนิสฺสยปจฺจยตํ สนฺธาย. เอตนฺติ เอตํ ‘‘สุขเวทนาย ปจฺจย’’นฺติ วจนํ วุตฺตํ. เอเสว นโยติ อิมินา ‘‘นนุ จ โสตสมฺผสฺโส สุขเวทนาย ปจฺจโย น โหตี’’ติ เอวมาทึ อติทิสติ. โส สมฺผสฺโส ชาติ อุปฺปตฺติฏฺานํ เอตสฺสาติ ตชฺชาติกํ, เวทยิตํ. ตํ ปน ยสฺมา ตสฺส ผสฺสสฺส อนุจฺฉวิกเมว โหติ, ตสฺมา ตสฺสารุปฺปํ ตสฺส ผสฺสสฺส อนุรูปนฺติ จ อตฺโถ วุตฺโต. วุตฺตนเยนาติ ‘‘สุขเวทนาย ปจฺจโย’’ติอาทินา วุตฺตวิธิอนุสาเรน. อธรารณิยํ อุตฺตรารณิยา มนฺตนวเสน ฆฏฺฏนํ อิว สงฺฆฏฺฏนํ ผสฺเสน ยุคคฺคาโห, ตสฺส ปน ฆฏฺฏนสฺส นิรนฺตรปฺปวตฺติยา ปิณฺฑิตภาโว อิธ สโมธานํ, น เกสฺจิ ทฺวินฺนํ ติณฺณํ วา สหาวฏฺานนฺติ วุตฺตํ ‘‘สงฺฆฏฺฏนสมฺปิณฺฑเนนาติ อตฺโถ’’ติ. อคฺคิจุณฺโณติ วิปฺผุลิงฺคํ. วตฺถูติ จกฺขาทิวตฺถุ วิสยสงฺฆฏฺฏนโต. ลพฺภมาโนว ธมฺโม สงฺฆฏฺฏนํ วิย คยฺหตีติ วุตฺตํ ‘‘สงฺฆฏฺฏนํ วิย ผสฺโส’’ติ. อุสฺมาธาตุ วิย เวทนา ทุกฺขสภาวตฺตา.

ทุติยอสฺสุตวาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปุตฺตมํสูปมสุตฺตวณฺณนา

๖๓. วุตฺตนยเมวาติ เหฏฺา อาหารวคฺคสฺส ปมสุตฺเต วุตฺตนยเมว. ลาภสกฺกาเรนาติ ลาภสกฺการสงฺขาตาย อฏฺุปฺปตฺติยาติ เกจิ. ลาภสกฺกาเร วา อฏฺุปฺปตฺติยาติ อปเร. โย หิ ลาภสกฺการนิมิตฺตํ ปจฺจเยสุ เคเธน ภิกฺขูนํ อปจฺจเวกฺขิตปริโภโค ชาโต, ตํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา ภควา อิมํ เทสนํ นิกฺขิปิ. ยมกมหาเมโฆติ เหฏฺา โอลมฺพนอุปริอุคฺคมนวเสน สตปฏลสหสฺสปฏโล ยุคฬมหาเมโฆ.

ติฏฺนฺติ เจว ภควติ กตฺถจิ นิพทฺธวาสํ วสนฺเต, จาริกมฺปิ คจฺฉนฺเต อนุพนฺธนฺติ จ. ภิกฺขูนมฺปิ เยภุยฺเยน กปฺปสตสหสฺสํ ตโต ภิยฺโยปิ ปูริตทานปารมิสฺจยตฺตา ตทา มหาลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตํ ‘‘เอวํ ภิกฺขุสงฺฆสฺสปี’’ติ. สกฺกโตติ สกฺการปฺปตฺโต. ครุกโตติ ครุการปฺปตฺโต. มานิโตติ พหุมโต มนสา ปิยายิโต จ. ปูชิโตติ มาลาทิปูชาย เจว จตุปจฺจยาภิปูชาย จ ปูชิโต. อปจิโตติ อปจายนปฺปตฺโต. ยสฺส หิ จตฺตาโร ปจฺจเย สกฺกตฺวา สุอภิสงฺขเต ปณีตปณีเต อุปเนนฺติ, โส สกฺกโต. ยสฺมึ ครุภาวํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา เทนฺติ, โส ครุกโต. ยํ มนสา ปิยายนฺติ พหุมฺนฺติ, โส พหุมโต. ยสฺส สพฺพเมตํ ปูชาวเสน กโรนฺติ, โส ปูชิโต. ยสฺส อภิวาทนปจฺจุฏฺานฺชลิกมฺมาทิวเสน ปรมนิปจฺจการํ กโรนฺติ, โส อปจิโต. ภควติ ภิกฺขุสงฺเฆ จ โลโก เอวํ ปฏิปนฺโน. เตน วุตฺตํ ‘‘เตน โข ปน สมเยน…เป… ปริกฺขาราน’’นฺติ (อุทา. ๑๔; สํ. นิ. ๒.๗๐). ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตนฺติ ลาภสฺส จ ยสสฺส จ อคฺคํ อุกฺกํสํ ปตฺตํ.

ปมาหารวณฺณนา

อสฺสาติ ภควโต. ธมฺมสภาวจินฺตาวเสน ปวตฺตํ สโหตฺตปฺปาณํ ธมฺมสํเวโค. ธุวปฏิเสวนฏฺานฺเหตํ สตฺตานํ, ยทิทํ อาหารปริโภโค, ตสฺมา น ตตฺถ อปจฺจเวกฺขณมตฺเตน ปาราชิกํ ปฺเปตุํ สกฺกาติ อธิปฺปาโย. อาหาราติ ‘‘ปจฺจยา’’ติอาทินา ปุพฺเพ อาหาเรสุ วุตฺตวิธึ สนฺธาย อาห ‘‘อาหารา’’ติอาทิ. อิทานิ ตตฺถ กตฺตพฺพํ อตฺถวณฺณนํ สนฺธาย ‘‘เหฏฺา วุตฺตตฺถเมวา’’ติ วุตฺตํ.

อาทีนวนฺติ โทสํ. ชายาติ ภริยา. ปตีติ ภตฺตา. อเปกฺขาสทฺทา เจเต ปิตาปุตฺตสทฺทา วิย, ปาฬิยํ ปน อา-การสฺส รสฺสตฺตํ สานุนาสิกฺจ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ชายมฺปติกา’’ติ. สมฺมา ผลํ วหตีติ สมฺพลํ, สุขาวหนฺติ อตฺโถ. ตถา หิ ตํ ‘‘ปเถ หิตนฺติ ปาเถยฺย’’นฺติ วุจฺจติ. มคฺคสฺส กนฺตารปริยาปนฺนตฺตา วุตฺตํ ‘‘กนฺตารภูตํ มคฺค’’นฺติ. ทุลฺลภตาย ตํ อุทกํ ตตฺถ ตาเรตีติ กนฺตารํ, นิรุทกํ มหาวนํ. รุฬฺหีวเสน อิตรมฺปิ มหาวนํ ตถา วุจฺจตีติ อาห ‘‘โจรกนฺตาร’’นฺติอาทิ. ปรราชูนํ เวริอาทีนฺจ วเสน สปฺปฏิภยมฺปิ อรฺํ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉตีติ วุตฺตํ ‘‘ปฺจวิธ’’นฺติ.

ฆนฆนฏฺานโตติ มํสสฺส พหลพหลํ ถูลถูลํ หุตฺวา ิตฏฺานโต. ‘‘ตาทิสฺหิ มํสํ คเหตฺวา สุกฺขาปิตํ วลฺลูรํ. สูเล อาวุนิตฺวา ปกฺกมํสํ สูลมํสํ. วิรฬจฺฉายายํ นิสีทึสุ คนฺตุํ อสมตฺโถ หุตฺวา. โควตกุกฺกุรวตเทวตายาจนาทีหีติ โควตกุกฺกุรวตาทิวตจรเณหิ เจว เทวตายาจนาทีหิ ปณิธิกมฺเมหิ จ มหนฺตํ ทุกฺขํ อนุภูตํ.

ยสฺมา ปน สาสเน สมฺมาปฏิปชฺชนฺตสฺส ภิกฺขุโน อาหารปริโภคสฺส โอปมฺมภาเวน เตสํ ชายมฺปติกานํ ปุตฺตมํสปริโภโค อิธ ภควตา อานีโต, ตสฺมาสฺส นานากาเรหิ โอปมฺมตฺตํ วิภาเวตุํ ‘‘เตสํ โส ปุตฺตมํสาหาโร’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ สชาติมํสตายาติ สมานชาติกมํสภาเวน, มนุสฺสมํสภาเวนาติ อตฺโถ. มสุสฺสมํสฺหิ กุลปฺปสุตมนุสฺสานํ อมนุฺํ โหติ อปริจิตภาวโต คารยฺหภาวโต จ, ตโต เอว าติอาทิมํสตายาติอาทิ วุตฺตํ. ตรุณมํสตายาติอาทิ ปน สภาวโต อนภิสงฺขารโต จ อมนุฺาติ กตฺวา วุตฺตํ. อธูปิตตายาติ อธูปิตภาวโต. มชฺฌตฺตภาเวเยว ิตา. ตโต เอว นิจฺฉนฺทราคปริโภเค ิตาติ วุตฺตํ กนฺตารโต นิตฺถรณชฺฌาสยตาย. อิทานิ เย จ เต อนปนีตาหาโร, น ยาวทตฺถปริโภโค วิคตมจฺเฉรมลตา สมฺโมหาภาโว อายตึ ตตฺถ ปตฺถนาภาโว สนฺนิธิการาภาโว อปริจฺจชนมทตฺถาภาโว อหีฬนา อวิวาทปริโภโค จาติ อุปมายํ ลพฺภมานา ปการวิเสสา, เต ตถา นีหริตฺวา อุปเมยฺเย โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘นอฏฺินฺหารุจมฺมนิสฺสิตฏฺานานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตํ การณนฺติ ตํ เตสํ ชายมฺปตีนํ ยาวเทว กนฺตารนิตฺถรณตฺถาย ปุตฺตมํสปริโภคสงฺขาตํ การณํ.

นิสฺสนฺทปาฏิกุลฺยตํ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ กพฬีการาหารํ ปริวีมํสติ. ยถา เต ชายมฺปติกาติอาทิปิ โอปมฺมสํสนฺทนํ. ‘‘ปริภุฺชิตพฺโพ อาหาโร’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ. อปฏิกฺขิปิตฺวาติ อนปเนตฺวา. วฏฺฏเกน วิย กุกฺกุเฏน วิย จาติ วิสทิสูทาหรณํ. โอธึ อทสฺเสตฺวาติ มหนฺตคฺคหณวเสน โอธึ อกตฺวา. สีเหน วิยาติ สทิสูทาหรณํ. โส กิร สปทานเมว ขาทติ.

อคธิตอมุจฺฉิตาทิภาเวน ปริภุฺชิตพฺพโต ‘‘อมจฺฉรายิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม อตฺถีติ ทิฏฺิ อตฺตูปลทฺธิ, ตํสหคเตน สมฺโมเหน อตฺตา อาหารํ ปริภุฺชตีติ. สติสมฺปชฺวเสนปีติ ‘‘อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหตี’’ติ เอตฺถ วุตฺตสติสมฺปชฺวเสนปิ.

‘‘อโห วต มยํ…เป… ลเภยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ วา, ‘‘หิยฺโย วิย…เป… น ลทฺธ’’นฺติ อนุโสจนํ วา อกตฺวาติ โยชนา.

‘‘สนฺนิธึ น อกํสุ, ภูมิยํ วา นิขณึสุ, อคฺคินา วา ฌาปยึสู’’ติ น-การํ อาเนตฺวา โยชนา. เอวํ สพฺพตฺถ.

ปิณฺฑปาตํ วา อหีเฬนฺเตน ทายกํ วา อหีเฬนฺเตน ปริภุฺชิตพฺโพติ โยชนา. ส ปตฺตปาณีติ โส ปตฺตหตฺโถ. นาวชานิยาติ น อวชานิยา. อติมฺตีติ อติกฺกมิตฺวา มฺติ, อวชานาตีติ อตฺโถ.

‘‘ตีหิ ปริฺาหิ ปริฺาเต’’ติ วตฺวา ตาหิ กพฬีการาหารสฺส ปริชานนวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘กถ’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ สวตฺถุกวเสนาติ สสมฺภารวเสน, สภาวโต ปน รูปาหรณํ โอชมตฺตํ โหติ. อิทฺหิ กพฬีการาหารสฺส ลกฺขณํ. กามํ รสารมฺมณํ ชิวฺหาปสาเท ปฏิหฺติ, เตน ปน อวินาภาวโต สมฺปตฺตวิสยคาหิตาย จ ชิวฺหาปสาทสฺส ‘‘โอชฏฺมกรูปํ กตฺถ ปฏิหฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺสาติ ชิวฺหาปสาทสฺส . อิเม ธมฺมาติ อิเม ยถาวุตฺตภูตุปาทายธมฺมา. นฺติ รูปขนฺธํ. ปริคฺคณฺหโตติ ปริคฺคณฺหนฺตสฺส. อุปฺปนฺนา ผสฺสปฺจมกา ธมฺมาติ สพฺเพปิ เย ยถานิทฺธาริตา, เตหิ สหปฺปวตฺตาว สพฺเพปิ อิเม. สรสลกฺขณโตติ อตฺตโน กิจฺจโต ลกฺขณโต จ. เตสํ นามรูปภาเวน ววตฺถปิตานํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ปจฺจโย วิฺาณํ. ‘‘ตสฺส สงฺขารา เตสํ อวิชฺชา’’ติ เอวํ อุทฺธํ อาโรหนวเสน ปจฺจยํ. อโธโอโรหนวเสน ปน สฬายตนาทิเก ปริเยสนฺโต อนุโลมปฏิโลมํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปสฺสติ. สฬายตนาทโยปิ หิ รูปารูปธมฺมานํ ยถารหํ ปจฺจยภาเวน ววตฺถเปตพฺพาติ. ยาถาวโต ทิฏฺตฺตาติ ‘‘อิทํ รูปํ, เอตฺตกํ รูปํ, น อิโต ภิยฺโย, อิทํ นามํ, เอตฺตกํ นามํ, น อิโต ภิยฺโย’’ติ จ ยถาภูตํ ทิฏฺตฺตา. อนิจฺจานุปสฺสนา, ทุกฺขานุปสฺสนา, อนตฺตานุปสฺสนา, นิพฺพิทานุปสฺสนา, วิราคานุปสฺสนา, นิโรธานุปสฺสนา, ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาติ อิมาสํ สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนานํ วเสน. โสติ กพฬีการาหาโร. ติลกฺขณ…เป… สงฺขาตายาติ อนิจฺจตาทีนํ ติณฺณํ ลกฺขณานํ ปฏิวิชฺฌนวเสน ลกฺขณวนฺตสมฺมสนวเสน จ ปวตฺตาณสงฺขาตาย. ปริฺาโต โหติ อนวเสสโต นามรูปสฺส าตตฺตา ตปฺปริยาปนฺนตฺตา จ อาหารสฺส. เตนาห ‘‘ตสฺมึ เยวา’’ติอาทิ. ฉนฺทราคาวกฑฺฒเนนาติ ฉนฺทราคสฺส ปชหเนน.

ปฺจ กามคุณา การณภูตา เอตสฺส อตฺถีติ ปฺจกามคุณิโก. เตนาห ‘‘ปฺจกามคุณสมฺภโว’’ติ. เอกิสฺสา ตณฺหาย ปริฺา เอกปริฺา. สพฺพสฺส ปฺจกามคุณิกสฺส ราคสฺส ปริฺา, สพฺพปริฺา. ตทุภยสฺสปิ มูลภูตสฺส อาหารสฺส ปริฺา มูลปริฺา. อิทานิ อิมา ติสฺโสปิ ปริฺาโย วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘โย ภิกฺขู’’ติอาทิ อารทฺธํ. ชิวฺหาทฺวาเร เอกรสตณฺหํ ปริชานาตีติ ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘‘โย ยเมตฺถ รโส, โส วตฺถุกามวเสน โอชฏฺมกรูปํ โหติ ชิวฺหายตนํ ปสาโท. โส กึ นิสฺสิโต? จตุมหาภูตนิสฺสิโต. ตํสหชาโต วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา ชีวิตินฺทฺริยนฺติ อิเม ธมฺมา รูปกฺขนฺโธ นาม. โย ตสฺมึ รเส อสฺสาโท, อยํ รสตณฺหา. ตํสหคตา ผสฺสาทโย ธมฺมา จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา’’ติอาทิวเสน. สพฺพํ อฏฺกถายํ อาคตวเสน เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘เตน ปฺจกามคุณิโก ราโค ปริฺาโตว โหตี’’ติ. ตตฺถ เตนาติ โย ภิกฺขุ ชิวฺหาทฺวาเร รสตณฺหํ ปริชานาติ, เตน. กถํ ปน เอกสฺมึ ทฺวาเร ตณฺหํ ปริชานโต ปฺจสุ ทฺวาเรสุ ราโค ปริฺาโต โหตีติ อาห ‘‘กสฺมา’’ติอาทิ. ตสฺสาเยวาติ ตณฺหาย เอว ตณฺหาสามฺโต เอกตฺตนยวเสน วุตฺตํ. ตตฺถาติ ปฺจสุ ทฺวาเรสุ. อุปฺปชฺชนโตติ รูปราคาทิภาเวน อุปฺปชฺชนโต. โลโภ เอว หิ ตณฺหายนฏฺเน ‘‘ตณฺหา’’ติปิ, รชฺชนฏฺเน ‘‘ราโค’’ติปิ วุจฺจติ. เตนาห ‘‘สาเยว หี’’ติอาทิ. อิทานิ วุตฺตเมวตฺถํ ‘‘ยถา’’ติอาทินา อุปมาย สมฺปิณฺเฑติ. ปฺจมคฺเค หนโตติ ปฺจสุ มคฺเคสุ สฺจริตฺตํ กโรนฺเตน มคฺคคามิโน หนนฺโต ‘‘มคฺเค หนโต’’ติ วุตฺโต.

สพฺยฺชเน ปิณฺฑปาตสฺิเต ภตฺตสมูเห มนุฺเ รูเป รูปสทฺทาทโย ลพฺภนฺติ, ตตฺถ ปฺจกามคุณราคสฺส สมฺภวํ ทสฺเสตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. สติสมฺปชฺเน ปริคฺคเหตฺวาติ สพฺพภาคิเยน กมฺมฏฺานปริปาลเกน ปริคฺคเหตฺวา. นิจฺฉนฺทราคปริโภเคนาติ มคฺคาธิคมสิทฺเธน นิจฺฉนฺทราคปริโภเคน ปริภุตฺเต. โสติ กามคุณิโก ราโค.

ตสฺมึ สตีติ กพฬีการาหาเร สติ. ตสฺสาติ ปฺจกามคุณิกราคสฺส. อุปฺปตฺติโตติ อุปฺปชฺชนโต. น หิ อาหาราลาเภน ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยปเรตสฺส กามปริโภคิจฺฉา สมฺภวติ. อุปนิชฺฌานจิตฺตนฺติ ราควเสน อฺมฺํ โอโลกนจิตฺตํ.

นตฺถิ ตํ สํโยชนนฺติ ปฺจวิธมฺปิ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘เตน ราเคน…เป… นตฺถี’’ติ. เตนาติ กามราเคน. เอตฺตเกนาติ ยถาวุตฺตาย เทสนาย. กเถตุํ วฏฺฏตีติ อิมํ ปมาหารกถํ กเถนฺเตน ธมฺมกถิเกน.

ปมาหารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุติยาหารวณฺณนา

ทุติเยติ ทุติเย อาหาเร. อุทฺทาลิตจมฺมาติ อุปฺปาฏิตจมฺมา, สพฺพโส อปนีตจมฺมาติ อตฺโถ. น สกฺโกติ ทุพฺพลภาวโต, ตถา หิ อิตฺถี ‘‘อพลา’’ติ วุจฺจติ. สิลากุฏฺฏาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน อิฏฺกกุฏฺฏมตฺติกากุฏฺฏาทีนํ สงฺคโห. อุณฺณนาภีติ มกฺกฏกํ. สรพูติ ฆรโคฬิกา . อุจฺจาลิงฺคปาณกา นาม โลมสา ปาณกา. อากาสนิสฺสิตาติ อากาสจาริโน. ลุฺจิตฺวาติ อุปฺปาเฏตฺวา.

ติสฺโส ปริฺาติ เหฏฺา วุตฺตา าตปริฺาทโย ติสฺโส ปริฺา. ตมฺมูลกตฺตาติ ผสฺสมูลกตฺตา. เทสนา ยาว อรหตฺตา กถิตา สพฺพโส เวทนาสุ ปริฺาตาสุ กิเลสานํ เลสสฺสปิ อภาวโต.

ทุติยาหารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตติยาหารวณฺณนา

องฺคารกาสุนฺติ องฺคารราสึ. ผุณนฺตีติ อตฺตโน อุปริ สยเมว อากิรนฺตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘นรา รุทนฺตา ปริทฑฺฒคตฺตา’’ติ. นราติ ปุริสาติ อตฺโถ, น มนุสฺสา. ภยฺหิ มํ วินฺทตีติ ภยสฺส วเสน กโรนฺโต ภยํ ลภติ นาม. สนฺตรมาโนวาติ สุฏฺุ ตรมาโน เอว หุตฺวา. โปริสํ วุจฺจติ ปุริสปฺปมาณํ, ตสฺมา อติเรกโปริสา ปุริสปฺปมาณโต อธิกา. เตนาห ‘‘ปฺจรตนปฺปมาณา’’ติ. อสฺสาติ กาสุยา. ตทภาเวติ เตสํ ชาลาธูมานํ อภาเว. อารกาวสฺสาติ อารกา เอว อสฺส.

องฺคารกาสุ วิย เตภูมกวฏฺฏํ เอกาทสนฺนํ อคฺคีนํ วเสน มหาปริฬาหโต. ชิวิ…เป… ปุถุชฺชโน เตหิ อคฺคีหิ ทหิตพฺพโต. ทฺเว พล…เป… กมฺมํ อนิจฺฉนฺตสฺเสว ตสฺส วฏฺฏทุกฺเข ปาตนโต. อายูหนูปกฑฺฒนานํ กาลเภโท น จินฺเตตพฺโพ เอกนฺตภาวิโน ผลสฺส นิปฺผาทิตตฺตาติ อาห ‘‘กมฺมํ หี’’ติอาทิ.

ผสฺเส วุตฺตนเยเนวาติ ตตฺถ ‘‘ผสฺโส สงฺขารกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตํ, อิธ ‘‘มโนสฺเจตนา สงฺขารกฺขนฺโธ’’ติ วตฺตพฺพํ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ. ‘‘ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ วจนโต มโนสฺเจตนาย ตณฺหา มูลการณนฺติ อาห ‘‘ตณฺหามูลกตฺตา มโนสฺเจตนายา’’ติ. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. เกจิ ปน ยสฺมา มโนสฺเจตนาย ผลภูตํ เวทนํ ปฏิจฺจ ตณฺหา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตนฺติ วทนฺติ.

ตติยาหารวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุตฺถาหารวณฺณนา

อนิฏฺปาปนวเสน ตํสมงฺคีปุคฺคลํ อาคจฺฉตีติ อาคุ, ปาปํ, ตํ จรติ สีเลนาติ อาคุจารี. เตนาห ‘‘ปาปจาริ’’นฺติ.

ราชา วิย กมฺมํ ปรมิสฺสรภาวโต. อาคุจารี ปุริโส วิย…เป… ปุถุชฺชโน ทุกฺขวตฺถุภาวโต. อาทินฺนปฺปหารวณานิ ตีณิ สตฺติสตานิ วิย ปุถุชฺชนสฺส อาตุรมานมหาทุกฺขปติฏฺํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ. เตนาห สตฺติ…เป… ทุกฺขนฺติ.

ตมฺมูลกตฺตาติ ปฏิสนฺธิวิฺาณมูลกตฺตา อิโต ปรํ ปวตฺตนามรูปสฺส.

จตุตฺถาหารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปุตฺตมํสูปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อตฺถิราคสุตฺตวณฺณนา

๖๔. จตุตฺเถ โสติ โลโภ. รฺชนวเสนาติ รงฺคชาตํ วิย ตสฺส จิตฺตสฺส อนุรฺชนวเสน. นนฺทนวเสนาติ สปฺปีติกตาย อารมฺมณสฺส อภินนฺทนวเสน. ตณฺหายนวเสนาติ วิสยกตฺตุกามตาย วเสน. เอโก เอว หิ โลโภ ปวตฺติอาการวเสน ตถา วุตฺโต. ปติฏฺิตนฺติ ลทฺธสภาวํ. ตตฺถาติ วฏฺเฏ. อาหาเรติ เกจิ. วิฺาณนฺติ อภิสงฺขารวิฺาณํ. วิรุฬฺหนฺติ ผลนิพฺพตฺติยา วิรุฬฺหิปฺปตฺตํ. เตนาห ‘‘กมฺมํ ชวาเปตฺวา’’ติอาทิ. ตตฺถ ชวาเปตฺวาติ ผลํ คาหาเปตฺวา. อภิสงฺขารวิฺาณฺหิ อตฺตนา สหชาตานํ สหชาตาทิปจฺจเยหิ เจว อาหารปจฺจเยน จ ปจฺจโย หุตฺวา ตสฺส อตฺตโน ผลุปฺปาทเน สามตฺถิยตฺตา วิรุฬฺหิปฺปตฺตํ. เตนาห ‘‘กมฺมํ สนฺตาเน ลทฺธภาวํ วิรุฬฺหิปฺปตฺตฺจสฺส โหตี’’ติ. วฏฺฏกถา เอสาติ กตฺวา ‘‘ยตฺถาติ เตภูมกวฏฺเฏ ภุมฺม’’นฺติ วุตฺตํ. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ. ปุริมปเท เอตํ ภุมฺมนฺติ ‘‘ยตฺถ ตตฺถา’’ติ อาคตํ เอตํ ภุมฺมวจนํ ปุริมสฺมึ ปุริมสฺมึ ปเท วิสยภูเต. ตฺหิ อารพฺภ เอตํ ‘‘ยตฺถ ตตฺถา’’ติ ภุมฺมวจนํ วุตฺตํ. อิมสฺมึ วิปากวฏฺเฏติ ปจฺจุปฺปนฺเน วิปากวฏฺเฏ. อายตึ วฏฺฏเหตุเก สงฺขาเร สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ยตฺถ อตฺถิ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺตี’’ติ วจนโต . ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺตีติ จ ปฏิสนฺธิ อธิปฺเปตาติ วุตฺตํ ‘‘ยตฺถ อตฺถิ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ, อตฺถิ ตตฺถ อายตึ ชาติชรามรณ’’นฺติ. ชาตีติ เจตฺถ มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมนํ อธิปฺเปตํ. ยสฺมึ าเนติ ยสฺมึ การเณ สติ.

การณฺเจตฺถ สงฺขารา เวทิตพฺพา. เต หิ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติยา เหตู, ตณฺหาอวิชฺชาโย, กาลคติอาทโย จ กมฺมสฺส สมฺภารา. เกจิ ปน กิเลสวฏฺฏกมฺมคติกาลา จาติ อธิปฺปาเยน ‘‘กาลคติอาทโย จ กมฺมสฺส สมฺภารา’’ติ วทนฺติ. ตํตํภวปตฺถนาย ตถา ตถา คโต ติวิโธ ภโวว เตภูมกวฏฺฏํ. เตนาห ‘‘ยตฺถาติ เตภูมกวฏฺเฏ’’ติ. ตถา จาห ‘‘สสมฺภารกกมฺมํ ภเวสุ รูปํ สมุฏฺาเปตี’’ติ. รูปนฺติ อตฺตภาวํ.

สงฺขิปิตฺวาติ ตีสุ อกตฺวา วิฺาเณน เอกสงฺเขปํ กตฺวาติ อตฺโถ. เอโก สนฺธีติ เอโก เหตุผลสนฺธิ. วิปากวิธินฺติ สฬายตนาทิกํ เวทนาวสานํ วิปากวิธึ. ‘‘นามรูเปน สทฺธิ’’นฺติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. นามรูเปนาติ วา สหโยเค กรณวจนํ. อิธ เอโก สนฺธีติ เอโก เหตุผลสนฺธิ. อายติภวสฺสาติ อายตึ อุปปตฺติภวสฺส. เตน เจตฺถ เอโก สนฺธิ เหตุผลสนฺธิ เวทิตพฺโพ.

ขีณาสวสฺส อคฺคมคฺคาธิคมนโตว ปวตฺตกมฺมสฺส มคฺเคน สหายเวกลฺลสฺส กตตฺตา อวิชฺชมานํ. สูริยรสฺมิสมนฺติ ตโต เอว วุตฺตนเยเนว อปฺปติฏฺิตสูริยรสฺมิสมํ. สาติ รสฺมิ. กายาทโยติ กายทฺวาราทโย. กตกมฺมนฺติ ปจฺจเยหิ กตภาวํ อุปาทาย วุตฺตํ, น กมฺมลกฺขณปตฺตโต. เตนาห ‘‘กุสลากุสลํ นาม น โหตี’’ติ. กิริยมตฺเตติ อวิปากธมฺมตฺตา กายิกาทิปโยคมตฺเต ตฺวา. อวิปากํ โหติ เตสํ อวิปากธมฺมตฺตา.

อตฺถิราคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. นครสุตฺตวณฺณนา

๖๕. ปฺจมสุตฺเต ‘‘ปุพฺเพว เม, ภิกฺขเว, สมฺโพธา’’ติอาทิ เหฏฺา สํวณฺณิตเมวาติ อวุตฺตเมว สํวณฺเณตุํ ‘‘นามรูเป โข สตี’’ติ อารทฺโธ . ตตฺถ ทฺวาทสปทิเก ปฏิจฺจสมุปฺปาเท อิมสฺมึ สุตฺเต ยานิ ทฺเว ปทานิ อคฺคหิตานิ, เนสํ อคฺคหเณ การณํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺเชตุกาโม เตสํ คเหตพฺพการณํ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘เอตฺถา’’ติอาทิมาห. ปจฺจกฺขภูตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ ภวํ ปมํ คเหตฺวา ตทนนฺตรํ อนาคตสฺส ‘‘ทุติย’’นฺติ คหเณ อตีโต ตติโย โหตีติ อาห ‘‘อวิชฺชาสงฺขารา หิ ตติโย ภโว’’ติ. นนุ เจตฺถ อนาคตสฺส ภวสฺส คหณํ น สมฺภวติ ปจฺจุปฺปนฺนภววเสน อภินิเวสสฺส โชติตตฺตาติ? สจฺจเมตํ, การเณ ปน คหิเต ผลํ คหิตเมว โหตีติ ตถา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อปิเจตฺถ อนาคโต อทฺธา อตฺถโต สงฺคหิโต เอว ยโต ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติอาทินา อนาคตทฺธสํคาหิตา เทสนา ปวตฺตา, จตุโวการวเสน วิฺาณปจฺจยา นามนฺติ วิเสโส อตฺถิ. ตสฺมา ‘‘ปฺจโวการวเสนา’’ติ วุตฺตํ. เตหีติ อวิชฺชาสงฺขาเรหิ อารมฺมณภูเตหิ. อยํ วิปสฺสนาติ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนวเสน อุทยพฺพยํ ปสฺสนฺตสฺส ปวตฺตวิปสฺสนา. น ฆฏียตีติ น สมิชฺฌติ. มหา…เป… อภินิวิฏฺโติ น ฆฏเน การณมาห, เหฏฺา คหิตตฺตา ปาฏิเยกฺกํ สมฺมสนียํ น โหตีติ อธิปฺปาโย.

อทิฏฺเสูติ อนวพุทฺเธสุ. จตุสจฺจสฺส อนุโพเธน น ภวิตพฺพนฺติ อาห ‘‘น สกฺกา พุทฺเธน ภวิตุ’’นฺติ. อิมินาติ มหาสตฺเตน. เตติ อวิชฺชาสงฺขารา. ภวอุปาทานตณฺหาวเสนาติ ภวอุปาทานตณฺหาทสฺสนวเสน. ทิฏฺาว ‘‘ตํสหคตา’’ติ สมานโยคกฺขมตฺตา. น ปรภาคํ ขเนยฺย อตฺตนา อิจฺฉิตสฺส คหิตตฺตา ปรภาเค อฺสฺส อภาวโต จ. เตนาห ‘‘กสฺสจิ นตฺถิตายา’’ติ. ปฏินิวตฺเตสีติ ปฏิสํหริ. ปฏินิวตฺตเน ปน การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตเทต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อภินฺนฏฺานนฺติ อขณิตฏฺานํ.

ปจฺจยโตติ เหตุโต, สงฺขารโตติ อตฺโถ. ‘‘กิมฺหิ นุ โข สติ ชรามรณํ โหตี’’ติอาทินา เหตุปรมฺปรวเสน ผลปรมฺปราย กิตฺตมานาย, กิมฺหิ นุ โข สติ วิฺาณํ โหตีติ จ วิจารณาย สงฺขาเร โข สติ วิฺาณสฺส วิเสสโต การณภูโต สงฺขาโร อคฺคหิโต, ตโต วิฺาณํ ปฏินิวตฺตติ นาม, น สพฺพปจฺจยโต. เตเนวาห ‘‘นามรูเป โข สติ วิฺาณํ โหตี’’ติ. กึ นาม เหตฺถ สหชาตาทิวเสเนว ปจฺจยภูตํ อธิปฺเปตํ, น กมฺมูปนิสฺสยวเสน ปจฺจุปฺปนฺนวเสน อภินิเวสสฺส โชติตตฺตา. อารมฺมณโตติ อวิชฺชาสงฺขารสงฺขาตอารมฺมณโต, อตีตภวสงฺขาตอารมฺมณโต. อตีตทฺธปริยาปนฺนา หิ อวิชฺชาสงฺขารา. ตโต ปฏินิวตฺตมานํ วิฺาณํ อตีตภโวปิ ปฏินิวตฺตติ นาม. อุภยมฺปีติ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ วิปสฺสนาวิฺาณมฺปิ. นามรูปํ น อติกฺกมตีติ ปจฺจยภูตํ อารมฺมณภูตฺจ นามรูปํ น อติกฺกมติ เตน วินา อวตฺตนโต. เตนาห ‘‘นามรูปโต ปรํ น คจฺฉตี’’ติ. วิฺาเณ นามรูปสฺส ปจฺจเย โหนฺเตติ ปฏิสนฺธิวิฺาเณ นามรูปสฺส ปจฺจเย โหนฺเต. นามรูเป วิฺาณสฺส ปจฺจเย โหนฺเตติ นามรูเป ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส ปจฺจเย โหนฺเต. จตุโวการปฺจโวการภววเสน ยถารหํ โยชนา เวทิตพฺพา. ทฺวีสุปิ อฺมฺํ ปจฺจเยสุ โหนฺเตสูติ ปน ปฺจโวการภววเสน. เอตฺตเกนาติ เอวํ วิฺาณนามรูปานํ อฺมฺํ อุปตฺถมฺภวเสน ปวตฺติยา. ชาเยถ วา อุปปชฺเชถ วาติ ‘‘สตฺโต ชายติ อุปปชฺชตี’’ติ สมฺา โหติ วิฺาณนามรูปวินิมุตฺตสฺส สตฺตปฺตฺติยา อุปาทานภูตสฺส ธมฺมสฺส อภาวโต. เตนาห ‘‘อิโต หี’’ติอาทิ. เอตเทวาติ ‘‘วิฺาณํ นามรูป’’นฺติ เอตํ ทฺวยเมว.

อปราปรจุติปฏิสนฺธีหีติ อปราปรจุติปฏิสนฺธิทีปเกหิ ‘‘จวติ, อุปปชฺชตี’’ติ ทฺวีหิ ปเทหิ. ปฺจ ปทานีติ ‘‘ชาเยถ วา’’ติอาทีนิ ปฺจ ปทานิ. นนุ ตตฺถ ปมตติเยหิ จตุตฺถปฺจมานิ อตฺถโต อภินฺนานีติ? สจฺจํ, วิฺาณนามรูปานํ อปราปรุปฺปตฺติทสฺสนตฺถํ เอวํ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อปราปรจุติปฏิสนฺธีหี’’ติ. เอตฺตาวตาติ วุตฺตเมวตฺถนฺติ โย ‘‘เอตฺตาวตา’’ติ ปเทน ปุพฺเพ วุตฺโต, ตเมว ยถาวุตฺตมตฺถํ ‘‘ยทิท’’นฺติอาทินา นิยฺยาเตนฺโต ปุน วตฺวา. อนุโลมปจฺจยาการวเสนาติ ปจฺจยธมฺมทสฺสนปุพฺพกปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมทสฺสนวเสน. ปจฺจยธมฺมานฺหิ อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ปจฺจยภาโว อิทปฺปจฺจยตา ปจฺจยากาโร, โส จ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา วุตฺโต สงฺขารุปฺปตฺติยา อนุโลมนโต อนุโลมปจฺจยากาโร, ตสฺส วเสน.

อาปโตติ ปริขาคตอุทกโต. ทฺวารสมฺปตฺติยา ตตฺถ วสนฺตานํ ปเวสนนิคฺคมนผาสุตาย อุปโภคปริโภควตฺถุสมฺปตฺติยา สรีรจิตฺตสุขตาย นครสฺส มนุฺตาติ วุตฺตํ ‘‘สมนฺตา …เป… รมณีย’’นฺติ. ปุพฺเพ สุฺภาเวน อรฺสทิสํ หุตฺวา ิตํ ชนวาสํ กโรนฺเต นครสฺส ลกฺขณปฺปตฺตํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ตํ อปเรน สมเยน อิทฺธฺเจว อสฺส ผีตฺจา’’ติ.

‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว จ สุปริสุทฺโธ’’ติ วจนโต ตีหิ วิรตีหิ สทฺธึ ปุพฺพภาคมคฺโคปิ อฏฺงฺคิกโวหารํ ลทฺธุํ อรหตีติ วุตฺตํ ‘‘อฏฺงฺคิกสฺส วิปสฺสนามคฺคสฺสา’’ติ. วิปสฺสนาย จิณฺณนฺเตติ วิปสฺสนาย สฺจริตตาย ตตฺถ ตตฺถ ตาย วิปสฺสนาย ตีริเต ปริเยสิเต. โลกุตฺตรมคฺคทสฺสนนฺติ อนุมานาทิวเสน โลกุตฺตรมคฺคสฺส ทสฺสนํ. ตถา หิ นิพฺพานนครสฺส ทสฺสนํ ทฏฺพฺพํ. ทิฏฺกาโลติ อธิคมวเสน ทิฏฺกาโล. มคฺคผลวเสน อุปฺปนฺนา ปโรปณฺณาส อนวชฺชธมฺมา, ปจฺจเวกฺขณาณํ ปน เตสํ ววตฺถาปกํ. ยาเปตฺวาติ จราเปตฺวา.

อวตฺตมานกฏฺเนาติ พุทฺธสุฺเ โลเก กสฺสจิ สนฺตาเน อปฺปวตฺตนโตว อุปฺปาทาทิวเสน วตฺตมานวเสน. ตถา หิ ภควา ‘‘อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสฺชาตสฺส สฺชเนตา’’ติอาทิเกหิ โถมิโต. ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ ปฏิปนฺโน หิ อริยมคฺโค อิตเรหิ อนฺตรา เกหิจิ อวฬฺชิโตติ วุตฺตํ ‘‘อวฬฺชนฏฺเน ปุราณมคฺโค’’ติ. ฌานสฺสาเทนาติ ฌานสุเขน ฌานปีติยา. สุภิกฺขํ ปณีตธมฺมามตตาย ติตฺติอาวหํ. ปุปฺผิตํ อุปโสภิตํ. ยาว ทสสหสฺสจกฺกวาเฬติ วุตฺตํ ‘‘เอกิสฺสา โลกธาตุยา’’ติ ปริจฺฉินฺนพุทฺธเขตฺตตฺตา. ตสฺส อตฺถิตาย หิ ปริจฺเฉโท อตฺถิ. เอตสฺมึ อนฺตเรติ เอตสฺมึ โอกาเส.

นครสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สมฺมสสุตฺตวณฺณนา

๖๖. ฉฏฺเ อสฺสาติ ภควโต. สณฺหสุขุมธมฺมปริทีปนโต สุขุมา. ตีหิ ลกฺขเณหิ องฺกิยตฺตา ติลกฺขณาหตา, อนิจฺจาทิลกฺขณปริทีปินีติ อตฺโถ. อริยธมฺมาธิคมสฺส อุปนิสฺสยภูเตน เหตุนา สเหตุกา. ติเหตุกปฏิสนฺธิปฺาย ปาฏิหาริยปฺาย จ อตฺถิตาย ปฺวนฺโต น เกวลํ อชฺฌตฺติกองฺคสมฺปตฺติเยว, พาหิรงฺคสมฺปตฺติปิ เนสมตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สินิทฺธานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อพฺภนฺตรนฺติ อชฺฌตฺตํ. ปจฺจยสมฺมสนนฺติ ปจฺจยุปฺปนฺนานํ ปจฺจยวีมํสํ.

อารมฺภานุรูปา อนุสนฺธิ ยถานุสนฺธิ. น คตาติ น สมฺปตฺตา. อสมฺภินฺนปทนฺติ อโวมิสฺสกปทํ, อฺตฺถ เอวํ อนาคตํ วากฺยนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อฺตฺถ หิ เอวํ วุตฺตํ นาม นตฺถี’’ติ. เอวนฺติ ‘‘เตนหานนฺทา’’ติ เอกวจนํ, ‘‘สุณาถ มนสิ กโรถา’’ติ พหุวจนํ กตฺวา วุตฺตํ นาม นตฺถีติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘เตนหานนฺทา’’ติ อิธาปิ พหุวจนเมว กตฺวา ปนฺติ ‘‘สาธุ อนุรุทฺธา’’ติอาทีสุ วิย. อุปธีติ อธิปฺเปตํ อุปธียติ เอตฺถ ทุกฺขนฺติ. อุปฺปชฺชติ อุปฺปาทกฺขณํ อุทยํ ปฏิลภติ ‘‘ปากฏภาโว ิติโก, อตฺตลาโภ อุทโย’’ติ. นิวิสติ นิเวสํ โอกาสํ ปฏิลภติ. เอกวารเมว หิ อุปฺปนฺนมตฺตสฺส ธมฺมสฺส ทุพฺพลตฺเตน โอกาเส วิย ปติฏฺหนํ นตฺถิ, ปุนปฺปุนํ อารมฺมเณ ปวตฺตมานํ นิวิฏฺํ ปติฏฺิตํ นาม โหติ. เตนาห ‘‘นิวิสตีติ ปุนปฺปุนํ ปวตฺติวเสน ปติฏฺหตี’’ติ.

ปิยสภาวนฺติ ปิยายิตพฺพชาติกํ. มธุรสภาวนฺติ อิฏฺชาติกํ. อภินิวิฏฺาติ ตณฺหาภินิเวเสน โอติณฺณา. สมฺปตฺติยนฺติ ภวสมฺปตฺติยํ. นิมิตฺตคฺคหณานุสาเรนาติ ปฏิพิมฺพคฺคหณานุสาเรน. กณฺณสฺส ฉิทฺทปเทสํ รชตนาฬิกํ วิย, กณฺณพทฺธํ ปน ปามงฺคสุตฺตํ วิย. ตุงฺคา อุจฺจา ทีฆา นาสิกา ตุงฺคนาสา. เอวํ ลทฺธโวหารํ อตฺตโน ฆานํ. ‘‘ลทฺธโวหารา’’ติ วา ปาโ. ตสฺมึ สติ ตุงฺคา นาสา เยสํ เต ตุงฺคนาสา. เอวํ ลทฺธโวหารา สตฺตา อตฺตโน ฆานนฺติ โยชนา วณฺณสณฺานโต รตฺตกมฺพลปฏลํ วิย. สมฺผสฺสโต มุทุสินิทฺธํ กิจฺจโต สินิทฺธมธุรรสทํ. สาลลฏฺินฺติ สาลกฺขนฺธํ.

อทฺทสํสูติ ปสฺสึสุ. เอวํ วุตฺตนฺติ ‘‘กํเส’’ติ เอวํ วุตฺตํ อธิฏฺานโวหาเรน.

สมฺปตฺตินฺติ วณฺณาทิคุณํ. อาทีนวนฺติ มรณคฺคตโต.

สตฺตุปานีเยนาติ สตฺตุํ ปกฺขิปิตฺวา อาโลลิตปานีเยน. จตฺตาริ ปานานิ วิย จตฺตาโร มคฺคา ตณฺหาปิปาสาวูปสมนโต.

สมฺมสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. นฬกลาปีสุตฺตวณฺณนา

๖๗. สตฺตเม กสฺมา ปุจฺฉตีติ มหาโกฏฺิกตฺเถโร สยํ ตตฺถ นิกฺกงฺโข สมาโน กสฺมา ปุจฺฉตีติ อธิปฺปาโย. อชฺฌาสยชานนตฺถนฺติ อิทมฺปิ ตสฺส มหาสาวกสฺส ปรจิตฺตชานเนน อปฺปาฏิหีรํ สิยา, เตน ตํ อปริตุสฺสนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ทฺเว อคฺคสาวกาติ สีลาทิคุเณหิ อุตฺตมสาวกาติ อตฺโถ, น หิ มหาโกฏฺิกตฺเถโร อคฺคสาวกลกฺขณปฺปตฺโต, อถ โข มหาสาวกลกฺขณปฺปตฺโต. อิทาเนว โข มยนฺติอาทิ เหฏฺา ปจฺจยุปฺปนฺนํ อนาโลเฬนฺเตน ทสฺเสตฺวา เทสนา อาหฏา, น อฺมฺปจฺจยตาวเสน, อิธ ปน เยนาธิปฺปาเยน ตํ อาโลเฬตฺวา นิวตฺเตตฺวา กถิตํ มหาเถเรน, ตเมวสฺส อธิปฺปายํ เตเนว ปกาเสตุกาโม มหาโกฏฺิกตฺเถโร อาห ‘‘อิทาเนว โข มย’’นฺติอาทิ. เตนาห ‘‘อิทํ เถโร’’ติอาทิ.

เอตฺตเก าเนติ ‘‘กึ นุ โข อาวุโส’’ติอาทินา ปมารมฺภโต ปฏฺาย ยาว ‘‘นิโรโธ โหตี’’ติ ปทํ, เอตฺตเก าเน. อวิชฺชาสงฺขาเร อคฺคเหตฺวา ‘‘นามรูปปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ เทสนาย ปวตฺตตฺตา ‘‘ปจฺจยุปฺปนฺนปฺจโวการภววเสน เทสนา กถิตา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ผเล คหิเต การณํ คหิตเมวา’’ติ วิฺาเณ คหิเต สงฺขารา, เตสฺจ การณภูตา อวิชฺชา คหิตา เอว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘เหฏฺา วิสฺสชฺชิเตสุ ทฺวาทสสุ ปเทสู’’ติ. เอเกกสฺมินฺติ เอเกกสฺมึ ปเท. ติณฺณํ ติณฺณํ วเสนาติ ‘‘นิโรธาย ธมฺมํ เทเสสิ, นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ, นิโรธา อนุปาทาวินิมุตฺโต โหตี’’ติ เอวมาคตานํ ติณฺณํ ติณฺณํ วารานํ วเสน. ‘‘อฏฺารสหิ วตฺถูหี’’ติอาทีสุ (มหาว. ๔๖๘) วิย อิธ วตฺถุสทฺโท การณปริยาโยติ อาห ‘‘ฉตฺตึสาย การเณหี’’ติ. ปโม อนุโมทนาวิธิ. ธมฺมกถิกคุโณติ วิปสฺสนาวิสโย อเภโทปจาเรน วุตฺโต. เสสทฺวเยสุปิ เอเสว นโย. ทุติโย อนุโมทนา, ตติยํ อนุโมทนนฺติ อภิเธยฺยานุรูปํ วตฺตพฺพํ. เทสนาสมฺปตฺติ กถิตา ‘‘นิพฺพิทาย…เป… ธมฺมํ เทเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา. เสกฺขภูมิ กถิตา ‘‘นิพฺพิทาย…เป… ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา. อเสกฺขภูมิ กถิตา ‘‘นิพฺพิทา …เป… อนุปาทาวิมุตฺโต โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา.

นฬกลาปีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. โกสมฺพิสุตฺตวณฺณนา

๖๘. อฏฺเม ปรสฺส สทฺทหิตฺวาติ ปรสฺส วจนํ สทฺทหิตฺวา. เตนาห ‘‘ยํ เอส ภณติ, ตํ ภูตนฺติ คณฺหาตี’’ติ. ปรปตฺติโย หิ เอโส ปรเนยฺยพุทฺธิโก. ยํ การณนฺติ ยํ อตฺตนา จินฺติตวตฺถุ. รุจฺจตีติ ‘‘เอวเมตํ ภวิสฺสติ, น อฺถา’’ติ อตฺตโน มติยา จินฺเตนฺตสฺส รุจฺจติ. รุจิยา คณฺหาตีติ ปรปตฺติโย อหุตฺวา สยเมว ตถา โรเจนฺโต คณฺหาติ. อนุสฺสโวติ ‘‘อนุ อนุ สุต’’นฺติ เอวํ จิรกาลคตาย อนุสฺสุติยา ลพฺภมานํ ‘‘กถมิทํ สิยา, กสฺมา ภูตเมต’’นฺติ อนุสฺสเวน คณฺหาติ. วิตกฺกยโตติ ‘‘เอวเมตํ สิยา’’ติ ปริกปฺเปนฺตสฺส. เอกํ การณํ อุปฏฺาตีติ ยถาปริกปฺปิตวตฺถุ จิตฺตสฺส อุปฏฺาติ. อาการปริวิตกฺเกนาติ อตฺตนา กปฺปิตากาเรนา ตํ คณฺหาติ. เอกา ทิฏฺิ อุปฺปชฺชตีติ ‘‘ยถาปริกปฺปิตํ กิฺจิ อตฺถํ เอวเมตํ, นาฺถา’’ติ อภินิวิสนฺตสฺส เอโก อภินิเวโส อุปฺปชฺชติ. ยายสฺสาติ ยาย ทิฏฺิยา อสฺส ปุคฺคลสฺส. นิชฺฌายนฺตสฺสาติ ปจฺจกฺขํ วิย นิรูเปตฺวา จินฺเตนฺตสฺส. ขมตีติ ตถา คหณกฺขโม โหติ. เตนาห ‘‘โส…เป… คณฺหาตี’’ติ. เอตานีติ สทฺธาทีนิ. ตานิ หิ สทฺเธยฺยานํ วตฺถูนํ คหณเหตุภาวโต ‘‘การณานี’’ติ วุตฺตานิ. ภวนิโรโธ นิพฺพานนฺติ นววิโธปิ ภโว นิรุชฺฌติ เอตฺถ เอตสฺมึ อธิคเตติ ภวนิโรโธ, นิพฺพานํ. สฺวายํ ภโว ปฺจกฺขนฺธสงฺคโห ตพฺพินิมุตฺโต นตฺถีติ อาห ‘‘ปฺจกฺขนฺธนิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ. ภวนิโรโธ นิพฺพานํ นามาติ ‘‘นิพฺพานํ นาม ภวนิโรโธ’’ติ เอส ปฺโห เสกฺเขหิปิ ชานิตพฺโพ, น อเสกฺเขเหว. อิมํ านนฺติ อิมํ ยาถาวการณํ.

สุฏฺุ ทิฏฺนฺติ ‘‘ภวนิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ มยา สุฏฺุ ยาถาวโต ทิฏฺํ, ภวสฺส ปีฬนสงฺขตสนฺตาปวิปริณามฏฺานํ, ภวนิโรธสฺส จ นิสฺสรณวิเวกาสงฺขตามตฏฺานํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิฏฺตฺตา. อนาคามิผเล ิโต หิ อนาคามิมคฺเค ิโต เอว นาม อุปริมคฺคสฺส อนธิคตตฺตาติ วุตฺตํ ‘‘อนาคามิมคฺเค ิตตฺตา’’ติ. นิพฺพานํ อารพฺภ ปวตฺตมฺปิ เถรสฺเสตํ าณํ ‘‘นิพฺพานํ ปจฺจเวกฺขตี’’ติ วุตฺตาณํ วิย น โหตีติ วุตฺตํ ‘‘เอกูนวีสติยา…เป… ปจฺจเวกฺขณาณ’’นฺติ. เอเตน เอตํ นิพฺพานปจฺจเวกฺขณา วิย น โหติ สปฺปเทสภาวโตติ ทสฺเสติ. เอวฺจ กตฺวา อิธ อุทปานนิทสฺสนมฺปิ สมตฺถิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปจฺจเวกฺขณาเณนาติ อวเสสกิเลสานํ, นิพฺพานสฺเสว วา ปจฺจเวกฺขณาเณน. อุปริ อรหตฺตผลสมโยติ อุปริ สิชฺฌนโต อรหตฺตปฏิลาโภ ตถา อตฺถิ. ‘‘เยนาหํ ตํ ปริเยสโต นิพฺพานํ สจฺฉิกริสฺสามี’’ติ ชานาติ.

โกสมฺพิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อุปยนฺติสุตฺตวณฺณนา

๖๙. นวเม อุทกวฑฺฒนสมเยติ สพฺพทิวเสสุ มหาสมุทฺทสฺส อนฺโต มหนฺตจนฺทกนฺตมณิปพฺพตานํ ชุณฺหสมฺผสฺเสน ปหตตฺตา ชลาภิสนฺทนวเสน อุทกสฺส วฑฺฒนสมเย. อุปริ คจฺฉนฺโตติ ปกติยา อุทกสฺส ติฏฺฏฺานสฺส ตโต อุปริ คจฺฉนฺโตติ อตฺโถ. อุปริ ยาเปตีติ อุทกํ ตตฺถ อุปรูปริ วฑฺเฒติ. ตถาภูโต จ ตํ พฺรูเหนฺโต ปูเรนฺโตติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘วฑฺเฒติ ปูเรตีติ อตฺโถ’’ติ. ยสฺมา ปจฺจยธมฺมา อตฺตโน ผลสมวายปจฺจเย โหนฺเต ตสฺส อุปริ ิโต วิย โหติ ตสฺส อตฺตโน วเส วตฺตาปนโต, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อวิชฺชา อุปริ คจฺฉนฺตี’’ติ. ปจฺจยภาเวน หิ สา ตถา วุจฺจติ. เตนาห ‘‘สงฺขารานํ ปจฺจโย ภวิตุํ สกฺกุณนฺตี’’ติ. อปคจฺฉนฺโต ยายนฺโต. เตนาห ‘‘โอสรนฺโต’’ติ, อวฑฺฒนฺโต ปริหียมาโนติ อตฺโถ.

อุปยนฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สุสิมสุตฺตวณฺณนา

๗๐. ทสเม ครุกโตติ ครุภาวเหตูนํ อุตฺตมคุณานํ มตฺถกปฺปตฺติยา อนฺสาธารเณน ครุกาเรน ครุกโต. มานิโตติ สมฺมาปฏิปตฺติยา มานิโต. ตาย หิ วิฺูนํ มนาปตาติ อาห ‘‘มเนน ปิยายิโต’’ติ. จตุปจฺจยปูชาย จ ปูชิโตติ อิทํ อตฺถวจนํ. ยทตฺถํ สํคีติกาเรหิ ‘‘เตน โข ปน สมเยน ภควา สกฺกโต โหตี’’ติอาทินา อิมสฺส สุตฺตสฺส นิทานํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺส อตฺถสฺส อุลฺลิงฺควเสน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอส นโย เสสปเทสุปิ. อํสกูฏโตติ อุตฺตราสงฺเคน อุโภ อํสกูเฏ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ิตา ทกฺขิณอํสกูฏโต, อุภยโต วา อปเนนฺติ. ปริจิตคนฺถวเสน ปณฺฑิตปริพฺพาชโก, ยโต ปจฺฉา วิเสสภาคี ชาโต. วิจิตฺตนยาย ธมฺมกถาย กถนโต ‘‘กวิเสฏฺโ’’ติ อาหํสุ.

เตชุสฺสโทติ มหาเตโช. ปุเรภตฺตกิจฺจาทีนํ นิยตภาเวน นิยมมนุยุตฺโต. วิปสฺสนาลกฺขณมฺหีติ าณํ ตตฺถ กถิตํ. ธมฺมนฺติ ตสฺสํ ตสฺสํ ปริสายํ เถรสฺส อสมฺมุขา เทสิตํ ธมฺมํ. อาหริตฺวา กเถติ ตถา วรสฺส ทินฺนตฺตา.

กิฺจาปิ สุสิโม ปูรณาทโย วิย สตฺถุปฏิฺโ น โหติ, ติตฺถิเยหิ ปน ‘‘อยํ พฺราหฺมณปพฺพชิโต ปฺวา เวทงฺคกุสโล’’ติ คณาจริยฏฺาเน ปิโต, ตถา จสฺส สมฺภาวิโต. เตน วุตฺตํ ‘‘อหํ สตฺถาติ ปฏิชานนฺโต’’ติ, น สสฺสตทิฏฺิกตฺตา. ตถา เหส ภควโต สมฺมุขา อุปคนฺตุํ อสกฺขิ.

อฺาติ อรหตฺตสฺส นามํ อฺินฺทฺริยสฺส จิณฺณนฺเต ปวตฺตตฺตา. ตํ ปวตฺตินฺติ ยํ อฺพฺยากรณํ วุตฺตํ, ตํ สุตฺวา. อสฺส สุสิมสฺส, ปรมปฺปมาณนฺติ อุตฺตมโกฏิ. อาจริยมุฏฺีติ อาจริยสฺส มุฏฺิกตธมฺโม.

องฺคสนฺตตายาติ นีวรณาทีนํ ปจฺจนีกธมฺมานํ วิทูรภาเวน ฌานงฺคานํ วูปสนฺตตาย. นิพฺพุตสพฺพทรถปริฬาหตาย หิ เตสํ ฌานานํ ปณีตตรภาโว. อารมฺมณสนฺตตายาติ รูปปติภาควิคเมน สณฺหสุขุมาทิภาวปฺปตฺตสฺส อารมฺมณสฺส สนฺตภาเวน. ยทคฺเคน หิ เตสํ ภาวนาติสยสมฺภาวิตสณฺหสุขุมปฺปการานิ อารมฺมณานิ สนฺตานิ, ตทคฺเคน ฌานงฺคานํ สนฺตตา เวทิตพฺพา. อารมฺมณสนฺตตาย วา ตทารมฺมณธมฺมานํ สนฺตตา โลกุตฺตรธมฺมารมฺมณาหิ ปจฺจเวกฺขณาหิ ทีเปตพฺพา. อารุปฺปวิโมกฺขาติ อรูปชฺฌานสฺาวิโมกฺขา. ปฺามตฺเตเนว วิมุตฺตา, น อุภโตภาควิมุตฺตา. ธมฺมานํ ิตตา ตํสภาวตา ธมฺมฏฺิติ, อนิจฺจทุกฺขานตฺตตา, ตตฺถ าณํ ธมฺมฏฺิติาณนฺติ อาห ‘‘วิปสฺสนาาณ’’นฺติ. เอวมาหาติ ‘‘ปุพฺเพ โข, สุสิม, ธมฺมฏฺิติาณํ, ปจฺฉา นิพฺพาเน าณ’’นฺติ เอวมาทิ.

วินาปิสมาธินฺติ สมถลกฺขณปฺปตฺตํ ปุริมสิทฺธํ วินาปิ สมาธินฺติ วิปสฺสนายานิกํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอวนฺติ วุตฺตากาเรน. น สมาธินิสฺสนฺโท อนุปุพฺพวิหารา วิย. น สมาธิอานิสํโส โลกิยาภิฺา วิย. น สมาธิสฺส นิปฺผตฺติ สพฺพภวคฺคํ วิย. วิปสฺสนาย นิปฺผตฺติ มคฺโค วา ผลํ วาติ โยชนา.

รูปาทีสุ เจเตสุ ติณฺณํ ลกฺขณานํ ปริวตฺตนวเสน เทสนา เตปริวฏฺฏเทสนา. อนุโยคํ อาโรเปนฺโตติ นนุ วุตฺตํ, สุสิม, อิทานิ อรหตฺตาธิคเมน สพฺพโส ปจฺจยาการํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ตตฺถ วิคตสมฺโมโหติ อนุโยคํ กโรนฺโต. ปากฏกรณตฺถนฺติ ยถา ตฺวํ, สุสิม, นิชฺฌานโก สุกฺขวิปสฺสโก จ หุตฺวา อาสวานํ ขยสมฺมสเน สุปฺปติฏฺิโต, เอวเมเตปิ ภิกฺขู, ตสฺมา ‘‘อปิ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต’’ติอาทินา น เต ตยา อนุยุฺชิตพฺพาติ.

สุสิมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

มหาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สมณพฺราหฺมณวคฺโค

๑. ชรามรณสุตฺตาทิวณฺณนา

๗๑-๗๒. เอเกกํ สุตฺตํ กตฺวา เอกาทส สุตฺตานิ วุตฺตานิ อวิชฺชาย วเสน เทสนาย อนาคตตฺตา, ตถานาคมนฺจสฺสา จตุสจฺจวเสน เอเกกสฺส ปทสฺส อุทฺธฏตฺตา. กามฺจ ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ อตฺเถว อฺตฺถ สุตฺตปทํ, อิธ ปน เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน ตถา น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

ชรามรณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมณพฺราหฺมณวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อนฺตรเปยฺยาลวคฺโค

๑. สตฺถุสุตฺตาทิวณฺณนา

๗๓. อยํสตฺถา นามาติ อยํ อริยมคฺคสฺส อตฺถาย สาสติ วิมุตฺติธมฺมํ อนุสาสตีติ สตฺถา นาม. อธิสีลาทิวเสน ติวิธาปิ สิกฺขา. โยโคติ ภาวนานุโยโค. ฉนฺโทติ นิยฺยาเนตา กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺโท. สพฺพํ ภาวนาย ปริสฺสยํ สหติ, สพฺพํ วาสฺส อุปการาวหํ สหติ วาเหตีติ สพฺพสหํ. อปฺปฏิวานีติ น ปฏินิวตฺตตีติ อปฺปฏิวานี. อนฺตราย สหนํ โมหนาสนวีริยํ อาตปฺปติ กิเลเสติ อาตปฺปํ. วิธินา อีเรตพฺพตฺตา ปวตฺเตตพฺพตฺตา วีริยํ. สตตํ ปวตฺติยมานภาวนานุโยคกมฺมํ สาตจฺจนฺติ อาห ‘‘สตตกิริย’’นฺติ. ตาทิสเมวาติ ยาทิสี สติ วุตฺตา, ตาทิสเมว าณํ, ชรามรณาทิวเสน จตุสจฺจปริคฺคาหกํ าณนฺติ อตฺโถ.

อนฺตรเปยฺยาลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

นิทานสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.