📜
๓. ธาตุสํยุตฺตํ
๑. นานตฺตวคฺโค
๑. ธาตุนานตฺตสุตฺตวณฺณนา
๘๕. ปมนฺติ ¶ ¶ อิมสฺมึ นิทานวคฺเค สํยุตฺตานํ ปมํ สํคีตตฺตา. นิสฺสตฺตฏฺสฺุตฏฺสงฺขาเตนาติ ธมฺมมตฺตตาย นิสฺสตฺตตาสงฺขาเตน นิจฺจสุภสุขอตฺตสฺุตตฺถสงฺขาเตน. สภาวฏฺเนาติ ยถาภูตสภาวฏฺเน. ตโต เอว สภาวสฺส ธารณฏฺเน ธาตูติ ลทฺธนามานํ. นานาสภาโว อฺมฺวิสทิสตา ธาตุนานตฺตํ. จกฺขุสงฺขาโต ปสาโท จกฺขุปสาโท. โส เอว จกฺขนฏฺเน จกฺขุ, นิสฺสตฺตสฺุตฏฺเน ธาตุ จาติ จกฺขุธาตุ. จกฺขุปสาทวตฺถุํ อธิฏฺานํ กตฺวา ปวตฺตํ จกฺขุปสาทวตฺถุกํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ทฺเว สมฺปฏิจฺฉนมโนธาตุโย, เอกา กิริยา มโนธาตูติ ติสฺโส มโนธาตุโย มโนธาตุ ‘‘มนนมตฺตา ธาตู’’ติ กตฺวา. เวทนาทโย…เป… นิพฺพานฺจ ธมฺมธาตุ วิเสสสฺาปริหาเรน สามฺสฺาย ปวตฺตนโต. ตถา เหเต ธมฺมา อายตนเทสนาย ‘‘ธมฺมายตน’’นฺเตว เทสิตา. น หิ เนสํ รูปายตนาทีนํ วิย วิฺาเณหิ อฺวิฺาเณน คเหตพฺพตากาโร อตฺถิ. สพฺพมฺปีติ ฉสตฺตติวิธํ มโนวิฺาณํ. กามาวจรา กามธาตุปริยาปนฺนตฺตา. อวสาเน ทฺเวติ ธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตุโย. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค ตํสํวณฺณนาสุ ทฏฺพฺโพ.
ธาตุนานตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ผสฺสนานตฺตสุตฺตวณฺณนา
๘๖. ชาติปสุติอารมฺมณาทิเภเทน นานาภาโว ผสฺโส. ชาติปจฺจยเภเทน หิ ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส เภโท โหติเยว. ธมฺมปริจฺเฉทวเสน ธาตุเทสนายํ ติสฺโส มนนมตฺตา ธาตุโยว มโนธาตุโย. กิริยามยสฺส จิตฺตุปฺปตฺติวิภาเคน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส วเสน ธาตุเทสนายํ ¶ มนนฏฺเน ธาตุตาย ¶ สามฺโต มโนทฺวาราวชฺชนํ ‘‘มโนธาตู’’ติ อธิปฺเปตนฺติ วุตฺตํ ‘‘มโนสมฺผสฺโส มโนทฺวาเร ปมชวนสมฺปยุตฺโต’’ติอาทิ. ตสฺมาติ ยสฺมา กามํ สมฺปฏิจฺฉนมโนธาตุอนนฺตรํ อุปฺปชฺชมาโน สนฺตีรณวิฺาณธาตุยา สมฺปยุตฺโต ผสฺโสปิ มโนสมฺผสฺโส เอว นาม, ทุพฺพลตฺตา ปน โส สพฺพภเวสุ อสมฺภวโต จ คหิโต อนวเสสโต คหณํ น โหตีติ มโนทฺวาเร ชวนสมฺผสฺโส โหติ, ตสฺมา. อยเมตฺถ อตฺโถติ อยํ อิธ อธิปฺปายานุคโต อตฺโถ.
ผสฺสนานตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. โนผสฺสนานตฺตสุตฺตวณฺณนา
๘๗. มโนสมฺผสฺสํ ปฏิจฺจาติ มโนทฺวาเร ปมชวนสมฺปยุตฺโต ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส, ตํ มโนสมฺผสฺสํ ปฏิจฺจ. มโนธาตูติ อาวชฺชนกิริยมโนธาตุ. มโนวิฺาณธาตุ มโนธาตูติ เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน วุตฺตํ. เตนาห ‘‘มโนทฺวาเร…เป… เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘สพฺพานิ เจตานี’’ติอาทิ.
โนผสฺสนานตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. เวทนานานตฺตสุตฺตวณฺณนา
๘๘. สพฺพาปิ ตสฺมึ ทฺวาเร เวทนา วตฺเตยฺยุํ จกฺขุสมฺผสฺสเวทนา อุปนิสฺสยปจฺจยภาวิตา. นิพฺพตฺติผาสุกตฺถนฺติ นิพฺพตฺติยา อุปนิสฺสยภาเวน ปวตฺติยา ทสฺสนสุขตฺถํ. สมฺปฏิจฺฉนเวทนเมว คเหตุํ วฏฺฏติ, ตาย คหิตาย อิตราสํ คหณํ ายาคตเมวาติ. วุตฺตํ โปราณฏฺกถายํ. อาวชฺชนสมฺผสฺสนฺติ อาวชฺชนมโนสมฺผสฺสํ. อนนฺตรูปนิสฺสยภูตํ ปฏิจฺจ ปมชวนวเสน อุปฺปชฺชตีติ โยชนา. อยมธิปฺปาโย อุปนิสฺสยสฺส อธิปฺเปตตฺตา.
เวทนานานตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ทุติยเวทนานานตฺตสุตฺตวณฺณนา
๘๙. ตติยจตุตฺเถสุ ¶ วุตฺตนยาวาติ ‘‘โน จกฺขุสมฺผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ จกฺขุธาตู’’ติ เอวํ วุตฺตนโย, จตุตฺเถ ‘‘จกฺขุธาตุํ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ จกฺขุสมฺผสฺโส’’ติอาทินา วุตฺตนโย จ. เอกโต กตฺวาติ เอกชฺฌํ กตฺวา เทสิตา. กสฺมา ปน เตสุ สุตฺเตสุ เอวํ เทสนา ปวตฺตาติ อาห ‘‘สพฺพานิ เจตานี’’ติอาทิ. ปฏิเสโธ ปน เตสํ เวทนานานตฺตาทีนํ ¶ ผสฺสนานตฺตาทิกสฺส ปจฺจยภาวโต ตถาอุปฺปตฺติยา อสมฺภวโต. อิโต ปเรสูติ ‘‘โน ปริเยสนานานตฺตํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ปริฬาหนานตฺต’’นฺติอาทีสุ.
ทุติยเวทนานานตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. พาหิรธาตุนานตฺตสุตฺตวณฺณนา
๙๐. ปฺจ ธาตุโย กามาวจรา รูปสภาวตฺตา.
พาหิรธาตุนานตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สฺานานตฺตสุตฺตวณฺณนา
๙๑. อาปาเถ ปติตนฺติ จกฺขุสฺส อาปาถคตํ สาฏกเวนาทิสฺิตํ ภูตสงฺฆาตํ สมฺมา นิสฺสิตํ. จกฺขุทฺวาเร สมฺปฏิจฺฉนาทิสมฺปยุตฺตสฺานํ สงฺกปฺปคติกตฺตา, จกฺขุวิฺาณสมฺปยุตฺตสฺาคหเณเนว วา คเหตพฺพโต ‘‘รูปสฺาติ จกฺขุวิฺาณสมฺปยุตฺตา สฺา’’ติ วุตฺตํ ตตฺถ สฺาย เอว ลพฺภนโต. เอเตเนว หิ ตํสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโปติ อิทมฺปิ สํวณฺณิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘สฺาสงฺกปฺปฉนฺทา เอกชวนวาเรปิ นานาชวนวาเรปิ ลพฺภนฺตี’’ติ. ชวนสมฺปยุตฺตสฺส วิตกฺกสฺส ฉนฺทคติกตฺตา วุตฺตํ ‘‘ตีหิ จิตฺเตหิ สมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป’’ติ. ฉนฺทิกตฏฺเนาติ ฉนฺทกรณฏฺเน, อิจฺฉิตฏฺเนาติ อตฺโถ. อนุฑหนฏฺเนาติ ปริฑหนฏฺเน. สนฺนิสฺสยฑาหรสา หิ ราคคฺคิอาทโย ‘‘รูเป’’ติ ปน ตสฺส อารมฺมณทสฺสนเมตํ. ปริฬาโหติ ปริฬาหสีเสน อเปกฺขํ วทติ. เตนาห ‘‘ปริฬาเห อุปฺปนฺเน’’ติอาทิ. ‘‘ปริฬาโห’’ติ ทฬฺหชฺโฌสานา ¶ พลวาการปฺปตฺตา วุตฺตาติ อาห ‘‘ปริฬาหปริเยสนา ปน นานาชวนวาเรเยว ลพฺภนฺตี’’ติ. ตาสํ ลทฺธูปนิสฺสยภาวโตติ ทสฺเสติ. อิมินา นเยนาติ ‘‘อุปฺปชฺชติ สฺานานตฺต’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘รูปสฺาทินานาสภาวํ สฺํ ปฏิจฺจ กามสงฺกปฺปาทินานาสภาโว สงฺกปฺโป อุปฺปชฺชตี’’ติอาทินา นเยน เวทิตพฺโพ.
สฺานานตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. โนปริเยสนานานตฺตสุตฺตวณฺณนา
๙๒. ปฏิเสธมตฺตเมว นานํ, เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมวาติ อธิปฺปาโย.
โนปริเยสนานานตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. พาหิรผสฺสนานตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา
๙๓. วุตฺตปฺปกาเร ¶ อารมฺมเณติ ‘‘อาปาเถ ปติต’’นฺติอาทินา เหฏฺา วุตฺตปฺปกาเร รูปารมฺมเณ. สฺาติ รูปสฺาว. อรูปธมฺโมปิ สมาโน ยสฺมึ อารมฺมเณ ปวตฺตติ, ตํ ผุสนฺโต วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อารมฺมณํ ผุสมาโน’’ติ. ตณฺหาย วตฺถุภูตํเยว รูปารมฺมณํ ลพฺภตีติ กตฺวา ‘‘รูปลาโภ’’ติ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘สห ตณฺหาย อารมฺมณํ รูปลาโภ’’ติ. สพฺพสงฺคาหิกนโยติ เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ สพฺเพสํ สฺาทีนํ ธมฺมานํ อุปฺปตฺติยา สพฺพสงฺคณฺหนวเสน ทสฺสิตนโย. เตนาห ‘‘เอกสฺมึเยวา’’ติอาทิ. สพฺพสงฺคาหิกนโยติ วา ธุวปริโภควเสน นิพทฺธารมฺมณนฺติ วา อาคนฺตุการมฺมณนฺติ วา วิภาคํ อกตฺวา สพฺพสงฺคาหิกนโย. อปโร นโย. มิสฺสโกติ อาคนฺตุการมฺมเณ นิพทฺธารมฺมเณ จ วิสยโต นิพทฺธารมฺมเณน มิสฺสโก. นิพทฺธารมฺมเณ สตฺตานํ กิเลโส มนฺโท โหติ. ตถา หิ สฺาสงฺกปฺปผสฺสเวทนาว ทสฺสิตา. ยํ กิฺจิ วิยาติ ยํ กิฺจิ อฺมฺํ วิย. โขเภตฺวาติ กุตูหลุปฺปาทนวเสน จิตฺตํ โขเภตฺวา.
อุปาสิกาติ ¶ ตสฺส อมจฺจปุตฺตสฺส ภริยํ สนฺธายาห. ตสฺมินฺติ อาคนฺตุการมฺมเณ. ลาโภ นาม ‘‘ลพฺภตี’’ติ กตฺวา.
อุรุวลฺลิยวาสีติ อุรุวลฺลิยเลณวาสี, อุรุวลฺลิยวิหารวาสีติ วทนฺติ. ปาฬิยาติ ‘‘ธาตุนานตฺตํ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทินยปวตฺตาย อิมิสฺสา สุตฺตปาฬิยา. ปริวฏฺเฏตฺวาติ มชฺเฌ คหิตผสฺสเวทนาปริโยสาเน ปนวเสน ปาฬึ ปริวฏฺเฏตฺวา. วุตฺตปฺปกาเรติอาทิ ปริวตฺเตตพฺพาการทสฺสนํ. ตตฺถ วุตฺตปฺปกาเรติ อาปาถคตรูปารมฺมเณ. อวิภูตวารนฺติ อวิภูตารมฺมณวารํ. อยเมว วา ปาโ. คณฺหนฺติ กเถนฺติ. เอกชวนวาเรปิ ลพฺภนฺติ จิรตรนิเวสาภาวา. นานาชวนวาเรเยว ทฬฺหตรนิเวสตาย.
๙๔. ทสมํ อุตฺตานเมว นวเม วุตฺตนยตฺตา. ปฏิเสธมตฺตเมว เหตฺถ นานตฺตนฺติ.
พาหิรผสฺสนานตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
นานตฺตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยวคฺโค
๑. สตฺตธาตุสุตฺตวณฺณนา
๙๕. อาภาตีติ ¶ อาภา, อาโลกภาเวน นิปฺผชฺชติ, อุปฏฺาตีติ วา อตฺโถ. โส เอว นิชฺชีวฏฺเน ธาตูติ อาภาธาตุ. อาโลกสฺสาติ อาโลกกสิณสฺส. สุฏฺุ, โสภนํ วา ภาตีติ สุภํ. กสิณสหจรณโต ฌานํ สุภํ. เสสํ วุตฺตนยเมว. สุปริสุทฺธวณฺณํ กสิณํ. อากาสานฺจาทโยปิ สุภารมฺมณํ เอวาติ เกจิ. เทสนํ นิฏฺาเปสีติ เทสนํ อุทฺเทสมตฺเต เอว เปสิ. ปาฬิยํ ‘‘อนฺธการํ ปฏิจฺจ ปฺายตี’’ติ เอตฺถาปิ อารมฺมณเมว คหิตํ, ตถา ‘‘อยํ ธาตุ อสุภํ ปฏิจฺจ ปฺายตี’’ติ เอตฺถาปิ. ยถา หิ อิธ สุวณฺณํ กสิณํ สุภนฺติ อธิปฺเปตํ, เอวํ ทุพฺพณฺณํ อสุภนฺติ.
อนฺธการํ ปฏิจฺจาติ อนฺธการํ ปฏิจฺฉาทกปจฺจยํ ปฏิจฺจ. ปฺายตีติ ปากโฏ โหติ. เตนาห ‘‘อนฺธกาโร หี’’ติอาทิ. อาโลโกปิ, อนฺธกาเรน ¶ ปริจฺฉินฺโน โหตีติ โยชนา. อนฺธกาโร ตาว อาโลเกน ปริจฺฉินฺโน โหตุ ‘‘ยตฺถ อาโลโก นตฺถิ, ตตฺถ อนฺธกาโร’’ติ อาโลโก กถํ อนฺธกาเรน ปริจฺฉินฺโน โหตีติ อาห ‘‘อนฺธกาเรน หิ โส ปากโฏ โหตี’’ติ. ปริจฺเฉทเลขาย วิย จิตฺตรูปํ อนฺธกาเรน หิ ปริโต ปริจฺฉินฺโน หุตฺวา ปฺายติ, ยถา ตํ ฉายาย อาตโป. เอเสว นโยติ อสุภสุภานํ อฺมฺปริจฺฉินฺนตํ อติทิสิตฺวา ตตฺถ อธิปฺเปตเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘อสุเภ สติ สุภํ ปฺายตี’’ติ อาห. เอวมาหาติ ‘‘อสุภํ ปฏิจฺจ สุภํ ปฺายตี’’ติ อโวจ. ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ วิย อุตฺตรปทโลเปนายํ นิทฺเทโสติ อาห ‘‘รูปํ ปฏิจฺจาติ รูปาวจรสมาปตฺตึ ปฏิจฺจา’’ติ. ตาย หิ สติ อธิคตาย. รูปสมติกฺกมา วา โหตีติ สภาวารมฺมณานํ รูปชฺฌานานํ สมติกฺกมา อากาสานฺจายตนสมาปตฺติ นาม โหตีติ อตฺโถ. เอเสว นโยติ อิมินา ‘‘อากาสานฺจายตนสมติกฺกมา วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติ นาม โหตี’’ติอาทินา ทฺเวปิ ปกาเร อติทิสติ. ปฏิสงฺขาติ ปฏิสงฺขาาเณน. อปฺปวตฺตินฺติ ยถาปริจฺฉินฺนกาลํ อปฺปวตฺตนํ. เอเตน ขณนิโรธาทึ ปฏิกฺขิปติ.
กถํ สมาปตฺติ ปตฺตพฺพาติ อิมาสุ สตฺตสุ ธาตูสุ กา ปการา สฺาสมาปตฺติ นานา หุตฺวา สมาปชฺชิตพฺพา. เตนาห ‘‘กีทิสา สมาปตฺติโย’’ติอาทิ. สฺาย อตฺถิภาเวนาติ ปฏุกิจฺจาย ¶ สฺาย อตฺถิภาเวน. สุขุมสงฺขารานํ ตตฺถ สมาปตฺติยํ อวสิสฺสตาย. นิโรโธวาติ สงฺขารานํ นิโรโธ เอว.
สตฺตธาตุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สนิทานสุตฺตวณฺณนา
๙๖. ภาวนปุํสกเมตํ ‘‘วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๗๐) วิย. สนิทานนฺติ อตฺตโน ผลํ นิททาตีติ นิทานํ, การณนฺติ อาห ‘‘สนิทาโน ¶ สปฺปจฺจโย’’ติ. กามปฏิสํยุตฺโตติ กามราคสงฺขาเตน กาเมน ปฏิสํยุตฺโต วา กามปฏิพทฺโธ วา. ตกฺเกตีติ ตกฺโก. อภูตการํ สมาโรเปตฺวา กปฺเปตีติ สงฺกปฺโป. อารมฺมเณ จิตฺตํ อปฺเปตีติ อปฺปนา. วิเสเสน อปฺเปตีติ พฺยปฺปนา. อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปนฺตํ วิย ปวตฺตตีติ เจตโส อภินิโรปนา. มิจฺฉา วิปรีโต ปาปโก สงฺกปฺโปติ มิจฺฉาสงฺกปฺโป. อฺเสุ จ กามปฏิสํยุตฺเตสุ วิชฺชมาเนสุ วิตกฺโก เอว กามธาตุสทฺเทน นิรุฬฺโห ทฏฺพฺโพ วิตกฺกสฺส กามปสงฺคปฺปตฺติสาติสยตฺตา. เอส นโย พฺยาปาทธาตุอาทีสุปิ. สพฺเพปิ อกุสลา ธมฺมา กามธาตุ หีนชฺฌาสเยหิ กาเมตพฺพธาตุภาวโต.
กิเลสกามสฺส อารมฺมณภาวตฺตา สพฺพากุสลสํคาหิกาย กามธาตุยา อิตรา ทฺเว สงฺคเหตฺวา กถนํ สพฺพสงฺคาหิกา. ติสฺสนฺนํ ธาตูนํ อฺมฺํ อสงฺกรโต กถา อสมฺภินฺนา. อิมํ กามาวจรสฺิตํ กามวิตกฺกสฺิตฺจ กามธาตุํ. ปฏิจฺจาติ ปจฺจยภูตํ ลภิตฺวา. ตีหิ การเณหีติ ตีหิ สารภูเตหิ การเณหิ.
พฺยาปาทวิตกฺโก พฺยาปาโท อุตฺตรปทโลเปน, โส เอว นิชฺชีวฏฺเน สภาวธารณฏฺเน ธาตูติ พฺยาปาทธาตุ. พฺยาปชฺชติ จิตฺตํ เอเตนาติ พฺยาปาโท, โทโส. พฺยาปาโทปิ ธาตูติ โยชนา. สหชาตปจฺจยาทิวเสนาติ สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจยวเสน. วิเสเสน หิ ปรสฺส อตฺตโน จ ทุกฺขาปนํ วิหึสา, สา เอว ธาตุ, อตฺถโต โรสนา ปรูปฆาโต, ตถา ปวตฺโต วา โทสสหคตจิตฺตุปฺปาโท.
ติณคหเน อรฺเติ ติเณหิ คหนภูเต อรฺเ. อนยพฺยสนนฺติ อปายพฺยสนํ, ปริหรณูปายรหิตํ วิปตฺตินฺติ วา อตฺโถ. อวฑฺฒึ วินาสนฺติ อวฑฺฒิฺเจว วินาสฺจาติ วทนฺติ สพฺพโส วฑฺฒิรหิตํ. สุกฺขติณทาโย วิย อารมฺมณํ กิเลสคฺคิสํวทฺธนฏฺเน. ติณุกฺกา วิย ¶ อกุสลสฺา อนุทหนฏฺเน. ติณกฏฺ…เป… สตฺตา อนยพฺยสนาปตฺติโต. ‘‘อิเม สตฺตา’’ติ หิ อโยนิโส ปฏิปชฺชมานา อธิปฺเปตา. เตนาห ‘‘ยถา สุกฺขติณทาเย’’ติอาทิ.
สมตาภาวโต ¶ สมตาวิโรธโต วิสมตาเหตุโต จ วิสมา ราคาทโยติ อาห ‘‘ราควิสมาทีนิ อนุคต’’นฺติ. อิจฺฉิตพฺพา อวสฺสํภาวินิภาเวน.
สํกิเลสโต นิกฺขมนฏฺเน เนกฺขมฺโม, โส เอว นิชฺชีวฏฺเน ธาตูติ เนกฺขมฺมธาตุ. สฺวายํ เนกฺขมฺมสทฺโท ปพฺพชฺชาทีสุ กุสลวิตกฺเก จ นิรุฬฺโหติ อาห ‘‘เนกฺขมฺมวิตกฺโกปิ เนกฺขมฺมธาตู’’ติ. อิตราปิ ทฺเว ธาตุโยติ อพฺยาปาทอวิหึสาธาตุโย วทติ. วิสุํ ทีเปตพฺพา สรูเปน อาคตตฺตา. วิตกฺกาทโยติ เนกฺขมฺมสงฺกปฺปจฺฉนฺทปริฬาหปริเยสนา. ยถานุรูปํ อตฺตโน อตฺตโน ปจฺจยานุรูปํ. กถํ ปเนตฺถ กุสลธมฺเมสุ ปริฬาโห วุตฺโตติ? สงฺขารปริฬาหมตฺตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ, โสฬสสุ อากาเรสุ ทุกฺขสจฺเจ สนฺตาปฏฺโ วิย วุตฺโต, ยสฺส วิคเมน อรหโต สีติภาวปฺปตฺติ วุจฺจติ.
สยํ น พฺยาปชฺชติ, เตน วา ตํสมงฺคีปุคฺคโล น กิฺจิ พฺยาปาเทตีติ อพฺยาปาโท, วิหึสาย วุตฺตวิปริยาเยหิ สา เวทิตพฺพา. หิเตสิภาเวน มิชฺชติ สินิยฺหตีติ มิตฺโต, มิตฺตสฺส เอสาติ เมตฺติ, อพฺยาปาโท. เมตฺตายนาติ เมตฺตาการณํ, เมตฺตาย วา อยนา ปวตฺตนา. เมตฺตายิตตฺตนฺติ เมตฺตายิตสฺส เมตฺตาย ปวตฺตสฺส ภาโว. เมตฺตาเจโตวิมุตฺตีติ เมตฺตายนวเสน ปวตฺโต จิตฺตสมาธิ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
สนิทานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. คิฺชกาวสถสุตฺตวณฺณนา
๙๗. อิโต ปฏฺายาติ ‘‘ธาตุํ, ภิกฺขเว’’ติ อิมสฺมา ตติยสุตฺตโต ปฏฺาย. ยาว กมฺมวคฺโค, ตาว เนตฺวา อุปคนฺตฺวา เสติ เอตฺถาติ อาสโย, หีนาทิภาเวน อธีโน อาสโย อชฺฌาสโย, ตํ อชฺฌาสยํ, อธิมุตฺตนฺติ อตฺโถ. สฺา อุปฺปชฺชตีติอาทีสุ หีนาทิเภทํ อชฺฌาสยํ ปฏิจฺจ หีนาทิเภทา สฺา, ตนฺนิสฺสยทิฏฺิวิกปฺปนา, วิตกฺโก จ อุปฺปชฺชติ สหชาตโกฏิยา อุปนิสฺสยโกฏิยา จ. สตฺถาเรสูติ เตสํ สตฺถุปฏิฺตาย วุตฺตํ, น สตฺถุลกฺขณสพฺภาวโต. อสมฺมาสมฺพุทฺเธสูติ อาธาเร วิสเย จ ภุมฺมํ เอกโต กตฺวา ¶ วุตฺตนฺติ ปมํ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘มยํ สมฺมาสมฺพุทฺธา’’ติอาทึ วตฺวา อิตรํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เตสุ สมฺมาสมฺพุทฺธา ¶ เอเต’’ติอาทิมาห. เตสํ ‘‘มยํ สมฺมาสมฺพุทฺธา’’ติ อุปฺปนฺนทิฏฺิ อิธ มูลภาเวน ปุจฺฉิตา, อิตรา อนุสงฺกิตาติ ปุจฺฉติเยวาติ สาสงฺกํ วทติ.
‘‘มหตี’’ติ เอตฺถ มหาสทฺโท ‘‘มหาชโน’’ติอาทีสุ วิย พหุอตฺถวาจโกติ ทฏฺพฺโพ. อวิชฺชาปิ หีนหีนตรหีนตมาทิเภเทน พหุปการา. ตสฺสาติ ทิฏฺิยา. กสฺมา ปเนตฺถ ‘‘ยทิทํ อวิชฺชา ธาตู’’ติ อวิชฺชํ อุทฺธริตฺวา ‘‘หีนํ ธาตุํ ปฏิจฺจา’’ติ อชฺฌาสยธาตุ นิทฺทิฏฺาติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ, ‘‘อฺํ อุทฺธริตฺวา อฺํ นิทฺทิฏฺา’’ติ, ยโต อวิชฺชาสีเสน อชฺฌาสยธาตุ เอว คหิตา. อวิชฺชาคหิโต หิ ปุริสปุคฺคโล ทิฏฺชฺฌาสโย หีนาทิเภทํ อวิชฺชาธาตุํ นิสฺสาย ตโต สฺาทิฏฺิอาทิเก สงฺกปฺเปติ. ปณิธิ ปตฺถนา, สา ปน ตถา ตถา จิตฺตสฺส ปนวเสน โหตีติ อาห ‘‘จิตฺตฏฺปน’’นฺติ. เตนาห ‘‘สา ปเนสา’’ติอาทิ. เอเตติ หีนปจฺจยา สฺาทิฏฺิวิตกฺกเจตนา ปตฺถนา ปณิธิสงฺขาตา หีนา ธมฺมา. หีโน นาม หีนธมฺมสมาโยคโต. สพฺพปทานีติ ‘‘ปฺเปตี’’ติอาทีนิ ปทานิ โยเชตพฺพานิ หีนสทฺเทน มชฺฌิมุตฺตมฏฺานนฺตรสฺส อสมฺภวโต. อุปปชฺชนํ ‘‘อุปปตฺตี’’ติ อาห ‘‘ทฺเว อุปปตฺติโย ปฏิลาโภ จ นิพฺพตฺติ จา’’ติ. ตตฺถ หีนกุลาทีติ อาทิ-สทฺเทน หีนรูปโภคปริสาทีนํ สงฺคโห. หีนตฺติกวเสนาติ หีนตฺติเก วุตฺตตฺติกปทวเสนาติ อธิปฺปาโย. จิตฺตุปฺปาทกฺขเณติ อิทํ หีนตฺติกปริยาปนฺนานํ จิตฺตุปฺปาทานํ วเสน ตตฺถ ตตฺถ ลทฺธตฺตา วุตฺตํ. ปฺจสุ นีจกุเลสูติ จณฺฑาลเวนเนสาทรถการปุกฺกุสกุเลสุ. ทฺวาทสอกุสลจิตฺตุปฺปาทานํ ปน โย โกจิ ปฏิลาโภ หีโนติ โยชนา. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. อิมสฺมึ าเนติ ‘‘ยายํ, ภนฺเต, ทิฏฺี’’ติอาทินา อาคเต อิมสฺมึ าเน. ‘‘ธาตุํ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทินา อาคตตฺตา นิพฺพตฺติเยว อธิปฺเปตา, น ปฏิลาโภ.
คิฺชกาวสถสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. หีนาธิมุตฺติกสุตฺตวณฺณนา
๙๘. เอกโต ¶ โหนฺตีติ สมานจฺฉนฺทตาย อชฺฌาสยโต เอกโต โหนฺติ. นิรนฺตรา โหนฺตีติ ตาย เอว สมานจฺฉนฺทตาย จิตฺเตน นิพฺพิเสสา โหนฺติ. อิธ อธิมุตฺติ นาม อชฺฌาสยธาตูติ อาห ‘‘หีนาธิมุตฺติกาติ หีนชฺฌาสยา’’ติ.
หีนาธิมุตฺติกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จงฺกมสุตฺตวณฺณนา
๙๙. มหาปฺเสูติ ¶ วิปุลปฺเสุ. นนฺติ สาริปุตฺตตฺเถรํ. ขนฺธนฺตรนฺติ ขนฺธวิภาคํ, ขนฺธานํ วา อนฺตรํ วิเสโส อตฺถีติ ขนฺธนฺตโร. เอส นโย เสเสสุปิ. ปริกมฺมนฺติ อิทฺธิวิธาธิคมสฺส ปุพฺพภาคปริกมฺมฺเจว อุตฺตรปริกมฺมฺจ. อานิสํสนฺติ อิทฺธานิสํสฺเจว อานิสํสฺจ. อธิฏฺานํ วิกุพฺพนนฺติ อธิฏฺานวิธานฺเจว วิกุพฺพนวิธานฺจ. วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘ปถวึ ปตฺถรนฺโต วิยา’’ติอาทินา.
ธุตงฺคปริหารนฺติ ธุตงฺคานํ ปริหรณวิธึ. ปริหรณคฺคหเณเนว สมาทานํ สิทฺธํ โหตีติ ตํ น คหิตํ. อานิสํสนฺติ ตํตํธุตงฺคปริหรเณ ทฏฺพฺพํ อานิสํสเมว. สโมธานนฺติ ‘‘เอตฺตกา ปิณฺฑปาตปฏิสํยุตฺตา, เอตฺตกา เสนาสนปฏิสํยุตฺตา’’ติ ปจฺจยวเสน อฺมฺฺจ อนฺโตคธตฺตา. อธิฏฺานนฺติ อธิฏฺานวิธึ. เภทนฺติ อุกฺกฏฺาทิเภทฺเจว ภินฺนาการฺจ.
ปริกมฺมนฺติ ‘‘ทิพฺพจกฺขุ เอวํ อุปฺปาเทตพฺพํ, เอวํ วิโสเธตพฺพ’’นฺติอาทินา ปริกมฺมวิธานํ. อานิสํสนฺติ ปเรสํ อชฺฌาสยานุรูปายตนาทิอานิสํสปเภทํ. อุปกฺกิเลสนฺติ สาธารณํ อสาธารณํ ทุวิธํ อุปกฺกิเลสํ. วิปสฺสนาภาวนุปกฺกิเลสา หิ ทิพฺพจกฺขุสฺส อุปกฺกิเลสาติ เวทิตพฺพา.
สงฺเขปวิตฺถารคมฺภีรุตฺตานวิจิตฺรกถาทีสูติ สงฺเขโป วิตฺถาโร คมฺภีรตา อุตฺตานตา วิจิตฺรภาโว เนยฺยตฺถตา นีตตฺถตาติ เอวมาทีสุ ธมฺมสฺส กเถตพฺพปฺปกาเรสุ ตํ ตํ กเถตพฺพาการํ.
อิติ-สทฺโท ¶ อาทิอตฺโถ, ปการตฺโถ วา. เตน –
‘‘อาทิมฺหิ สีลํ เทเสยฺย, (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๙๐; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๙๑)
มชฺเฌ จิตฺตํ วินิทฺทิเส;
อนฺเต ปฺา กเถตพฺพา,
เอโส ธมฺมกถาวิโธ’’ติ. –
เอวํ กเถตพฺพาการํ สงฺคณฺหาติ.
‘‘สิถิลํ ¶ ธนิตฺจ ทีฆรสฺสํ, ครุกํ ลหุกฺจ นิคฺคหีตํ;
สมฺพนฺธํ ววตฺถิตํ วิมุตฺตํ, ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโท’’ติ. (ที. นิ. ๑.๑๙๐; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๙๑; ปริ. ๔๘๕) –
เอวํ วุตฺตํ ทสวิธํ พฺยฺชนพุทฺธึ. อฏฺุปฺปตฺตินฺติ ตสฺส ตสฺส สุตฺตสฺส ชาตกสฺส จ อฏฺุปฺปตฺตึ. อนุสนฺธินฺติ ปจฺฉานุสนฺธิอาทิอนุสนฺธึ. ปุพฺพาปรนฺติ สมฺพนฺธํ. อิทํ ปทํ เอวํ วตฺตพฺพํ, อิทํ ปุพฺพาปรํ เอวํ คเหตพฺพนฺติ.
กุลสงฺคณฺหนปริหารนฺติ ลาภุปฺปาทนตฺถํ กุลานํ สงฺคณฺหนวิธิโน ปริหรณํ ตนฺนิยมิตํ เอกนฺติกํ กุลสงฺคหณวิธึ.
จงฺกมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สคาถาสุตฺตวณฺณนา
๑๐๐. ‘‘ธาตุโส สํสนฺทนฺตี’’ติ อิทํ อชฺฌาสยโต สริกฺขตาทสฺสนํ, น กาเยน มิสฺสีภาวทสฺสนนฺติ อาห ‘‘สมุทฺทนฺตเร’’ติอาทิ. นิรนฺตโรติ นิพฺพิเสโส. สํสคฺคาติ ปฺจวิธสํสคฺคเหตุ. สํสคฺคคหเณน เจตฺถ สํสคฺควตฺถุกา ตณฺหา คหิตา. เตนาห ‘‘ทสฺสน…เป… สฺเนเหนา’’ติ.
วนติ ภชติ สชฺชติ เตนาติ วนํ, วนโถติ จ กิเลโส วุจฺจตีติ อาห ‘‘วนโถ ชาโตติ กิเลสวนํ ชาต’’นฺติ. อิตเร สํสคฺคมูลกาติ ตเมว ปฏิกฺขิปนฺโต อาห ‘‘อทสฺสเนนา’’ติ. สาธุชีวีติ สาธุ สุฏฺุ ชีวี, ตํชีวนสีโล. เตนาห ‘‘ปริสุทฺธชีวิตํ ชีวมาโน’’ติ.
สคาถาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อสฺสทฺธสํสนฺทนสุตฺตวณฺณนา
๑๐๑. นิโรชาติ ¶ สทฺธาสฺเนหาภาเวน นิสฺเนหา. ตโต เอว อรสภาเวน นิรสา. เอกสทิสาติ สมสมา นิพฺพิเสสา. เตนาห ‘‘นิรนฺตรา’’ติ. อลชฺชิตาย เอกสีมกตา ภินฺนมริยาทา. สทฺธา เตสํ อตฺถีติ สทฺธา. ตนฺติปาลกาติ สทฺธมฺมตนฺติยา ปาลกา. วํสานุรกฺขกาติ ¶ อริยวํสสฺส อนุรกฺขกา. อารทฺธวีริยาติ ปคฺคหิตวีริยา. ยสฺมา ตาทิสานํ วีริยํ ปริปุณฺณํ นาม โหติ กิจฺจสิทฺธิยา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปริปุณฺณปรกฺกมา’’ติ. สพฺพกิจฺจปริคฺคาหิกายาติ จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ ภาวนากิจฺจปริคฺคาหิกาย.
อสฺสทฺธสํสนฺทนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘-๑๒. อสฺสทฺธมูลกสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๒-๑๐๖. อฏฺมาทีนีติ อฏฺมํ นวมํ ทสมํ เอกาทสมํ ทฺวาทสมนฺติ อิมานิ ปฺจ สุตฺตานีติ เอเก. อปเร ปน นว สุตฺตานีติ อิจฺฉนฺติ. สฺวายมตฺโถ อฏฺกถายํ วุตฺโตเยว. ปาฬิยฺจ เกสุจิ โปตฺถเกสุ ลิขียติ.
อสฺสทฺธมูลกสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. กมฺมปถวคฺโค
๑-๒. อสมาหิตสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๗-๑๐๘. อิโต ปเรสูติ อิโต ทุติยวคฺคโต ปเรสุ สุตฺเตสุ. ปมนฺติ ปมวคฺเค ปมํ. กสฺมา ปเนตฺถ เอวํ เทสนา ปวตฺตาติ อาห ‘‘เอวํ วุจฺจมาเน’’ติอาทิ.
อสมาหิตสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓-๕. ปฺจสิกฺขาปทสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๙-๑๑๑. สุราเมรยสงฺขาตนฺติ ¶ ปิฏฺสุราทิสุราสงฺขาตํ ปุปฺผาสวาทิเมรยสงฺขาตฺจ. มชฺชนฏฺเน มชฺชํ. สุราเมรยมชฺชปฺปมาโทติ วุจฺจติ ‘‘มชฺชติ เตนา’’ติ กตฺวา. ตสฺมึ ติฏฺนฺตีติ ตสฺมึ ปมาเท ปมชฺชนวเสน ติฏฺนฺตีติ อตฺโถ. เสสํ ตติยจตุตฺเถสุ สุวิฺเยฺยเมวาติ.
ปฺจเม ¶ ตานิ ปทานิ สํวณฺเณตุํ ‘‘ปฺจเม’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปาโณ นาม โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ, ตํ ปาณํ อติปาเตนฺติ อติจฺจ อนฺตเรเยว, อติกฺกมฺม วา สตฺถาทีหิ อภิภวิตฺวา ปาเตนฺติ สณิกํ ปติตุํ อทตฺวา สีฆํ ปาเตนฺตีติ อตฺโถ. กาเยน วาจาย วา อทินฺนํ ปรสนฺตกํ. อาทิยนฺตีติ คณฺหนฺติ. มิจฺฉาติ น สมฺมา, คารยฺหวเสน. มุสาติ อตถํ วตฺถุ. วทนฺตีติ วิสํวาทนวเสน วทนฺติ. ปิยสฺุกรณโต ปิสุณา, ปิสติ วา ปเร สตฺเต, หึสตีติ อตฺโถ. มมฺมจฺเฉทิกาติ เอเตน ปรสฺส มมฺมจฺเฉทวเสน เอกนฺตผรุสสฺเจตนา ผรุสวาจา นามาติ ทสฺเสติ. อภิชฺฌาสทฺโท ลุพฺภเน นิรุฬฺโหติ อาห ‘‘ปรภณฺเฑ ลุพฺภนสีลาติ อตฺโถ’’ติ. พฺยาปนฺนนฺติ โทสวเสน วิปนฺนํ. ปกติวิชหเนน ปูติภูตํ. สาธูหิ ครหิตพฺพตํ ปตฺตา ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา นตฺถิกาเหตุกอกิริยทิฏฺิ กมฺมปถปริยาปนฺนา นาม. มิจฺฉตฺตปริยาปนฺนา สพฺพาปิ โลกุตฺตรมคฺคปฏิปกฺขา วิปรีตทิฏฺิ.
เตสนฺติ กมฺมปถานํ. โวหารโตติ อินฺทฺริยพทฺธํ อุปาทาย ปฺตฺติมตฺตโต. ติรจฺฉานคตาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน เปตานํ สงฺคโห. ปโยควตฺถุมหนฺตตาทีหิ มหาสาวชฺชตา เตหิ ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชมานาย เจตนาย พลวภาวโต. ยถาวุตฺตปจฺจยวิปริยาเยปิ ตํตํปจฺจเยหิ เจตนาย พลวภาววเสน อปฺปสาวชฺชมหาสาวชฺชตา วา เวทิตพฺพา. อิทฺธิมโยติ กมฺมวิปากิทฺธิมโย ทาาโกฏนาทีนํ วิย.
เมถุนสมาจาเรสูติ สทารปรทารคมนวเสน ทุวิเธสุ เมถุนสมาจาเรสุ. เตปิ หีนาธิมุตฺติเกหิ กตฺตพฺพโต กามา นาม. มิจฺฉาจาโรติ คารยฺหาจาโร. คารยฺหตา จสฺส เอกนฺตนิหีนตายาติ อาห ¶ ‘‘เอกนฺตนินฺทิโต ลามกาจาโร’’ติ อสทฺธมฺมาธิปฺปาเยนาติ อสทฺธมฺมเสวนาธิปฺปาเยน. โคตฺตรกฺขิตาติ สโคตฺเตหิ รกฺขิตา. ธมฺมรกฺขิตาติ สหธมฺเมหิ รกฺขิตา. สสฺสามิกา นาม สารกฺขา. ยสฺสา คมเน ทณฺโฑ ปิโต, สา สปริทณฺฑา. ภริยภาวาย ธเนน กีตา ธนกฺกีตา. ฉนฺเทน วสตีติ ฉนฺทวาสินี. โภคตฺถํ วสตีติ โภควาสินี. ปฏตฺถํ วสตีติ ปฏวาสินี. อุทกปตฺตํ อามสิตฺวา คหิตา โอทปตฺตกินี. จุมฺพฏํ อปเนตฺวา คหิตา โอภฏจุมฺพฏา. กรมรานีตา ธชาหฏา. ตงฺขณิกํ คหิตา มุหุตฺติกา. อภิภวิตฺวา วีติกฺกโม มิจฺฉาจาโร มหาสาวชฺโช, น ตถา ทฺวินฺนํ สมานจฺฉนฺทตาย. อภิภวิตฺวา วีติกฺกมเน สติปิ มคฺเคนมคฺคปฏิปตฺติอธิวาสเน ปุริมุปฺปนฺนเสวนาภิสนฺธิปโยคาภาวโต มิจฺฉาจาโร น โหติ อภิภุยฺยมานสฺสาติ วทนฺติ. เสวนาจิตฺเต สติ ปโยคาภาโว อปฺปมาณํ เยภุยฺเยน อิตฺถิยา เสวนาปโยคสฺส อภาวโต. ตถา สติ ปุเรตรํ เสวนาจิตฺตสฺส อุปฏฺาเนปิ ¶ ตสฺสา มิจฺฉาจาโร น สิยา, ตถา ปุริสสฺสปิ เสวนาปโยคาภาเว. ตสฺมา อตฺตโน รุจิยา ปวตฺติตสฺส วเสน ตโย, พลกฺกาเรน ปวตฺติตสฺส วเสน ตโยติ สพฺเพปิ อคฺคหิตคฺคหเณน ‘‘จตฺตาโร สมฺภารา’’ติ วุตฺตํ.
อาเสวนมนฺทตายาติ ยาย อกุสลเจตนาย สมฺผํ ปลปติ, ตสฺสา อิตฺตรกาลตาย ปวตฺติยา อนาเสวนาติ ปริทุพฺพลา โหติ เจตนา.
อุปสคฺควเสน อตฺถวิเสสวาจิโน ธาตุสทฺทาติ อภิชฺฌายตีติ ปทสฺส ปรภณฺฑาภิมุขีติอาทิอตฺโถ วุตฺโต. ตนฺนินฺนตายาติ ตสฺมึ ปรภณฺเฑ ลุพฺภนวเสน นินฺนตาย. อภิปุพฺโพ เฌ-สทฺโท ลุพฺภเน นิรุฬฺโหติ ทฏฺพฺโพ. ยสฺส ภณฺฑํ อภิชฺฌายติ, ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชาติอาทินา นเยน ตตฺถ อปฺปสาวชฺชมหาสาวชฺชวิภาโค เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘อทินฺนาทานํ วิยา’’ติอาทิ. อตฺตโน ปริณามนํ จิตฺเตเนวาติ ทฏฺพฺพํ.
หิตสุขํ พฺยาปาทยตีติ โย นํ อุปฺปาเทติ, ยสฺส อุปฺปาเทติ, ตสฺส สติ สมวาเย หิตสุขํ วินาเสติ. อโห วตาติ อิมินา ยถา อภิชฺฌาเน วตฺถุโน เอกนฺตโต อตฺตโน ปริณามนํ ทสฺสิตํ ¶ , เอวมิธาปิ วตฺถุโน ‘‘อโห วตา’’ติ อิมินา ปรสฺส วินาสจินฺตาย เอกนฺตโต นิยมิตภาวํ ทสฺเสติ. เอวฺหิ เนสํ ทารุณปฺปวตฺติยา กมฺมปถปฺปวตฺติ.
ยถาภุจฺจคหณาภาเวนาติ ยถาตจฺฉคหณสฺส อภาเวน อนิจฺจาทิสภาวสฺส นิจฺจาทิโต คหเณน. มิจฺฉา ปสฺสตีติ วิตถํ ปสฺสติ. สมฺผปฺปลาโป วิยาติ อิมินา อาเสวนสฺส อปฺปมหนฺตตาหิ มิจฺฉาทิฏฺิยา อปฺปสาวชฺชมหาสาวชฺชตา. วตฺถุโนติ คหิตวตฺถุโน. คหิตาการวิปรีตตาติ มิจฺฉาทิฏฺิยา คหิตาการสฺส วิปรีตตา. ตถาภาเวนาติ อตฺตโน คหิตากาเรเนว ตสฺสา ทิฏฺิยา, คหิตสฺส วา วตฺถุโน อุปฏฺานํ ‘‘เอวเมตํ, น อิโต อฺถา’’ติ.
ธมฺมโตติ สภาวโต. โกฏฺาสโตติ จิตฺตงฺคโกฏฺาสโต, ยํโกฏฺาสา โหนฺติ, ตโตติ อตฺโถ. เจตนาธมฺมาวาติ เจตนาสภาวา เอว. ปฏิปาฏิยา สตฺตาติ เอตฺถ นนุ เจตนา อภิธมฺเม กมฺมปเถสุ น วุตฺตาติ ปฏิปาฏิยา สตฺตนฺนํ กมฺมปถภาโว น ยุตฺโตติ? น, อวจนสฺส อฺเหตุกตฺตา. น หิ ตตฺถ เจตนาย อกมฺมปถตฺตา กมฺมปถราสิมฺหิ อวจนํ, กทาจิ ปน กมฺมปโถ ¶ โหติ, น สพฺพทาติ กมฺมปถภาวสฺส อนิยตตฺตา อวจนํ. ยทา, ปนสฺส กมฺมปถภาโว โหติ, ตทา กมฺมปถราสิสงฺคโห น นิวาริโต. เอตฺถาห – ยทิ เจตนาย สพฺพทา กมฺมปถภาวาภาวโต อนิยโต กมฺมปถภาโวติ กมฺมปถราสิมฺหิ อวจนํ, นนุ อภิชฺฌาทีนมฺปิ กมฺมปถภาวํ อปฺปตฺตานํ อตฺถิตาย อนิยโต กมฺมปถภาโวติ เตสมฺปิ กมฺมปถราสิมฺหิ อวจนํ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, กมฺมปถตาตํสภาคตาหิ เตสํ ตตฺถ วุตฺตตฺตา. ยทิ เอวํ เจตนาปิ ตตฺถ วตฺตพฺพา สิยา? สจฺจเมตํ. สา ปน ปาณาติปาตาทิกาติ ปากโฏ ตสฺสา กมฺมปถภาโวติ น วุตฺตา สิยา. เจตนาย หิ ‘‘เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามิ (อ. นิ. ๖.๖๓; กถา. ๕๓๙) ติวิธา, ภิกฺขเว, กายสฺเจตนา อกุสลํ กายกมฺม’’นฺติอาทิวจนโต (กถา. ๕๓๙) กมฺมภาโว ปากโฏ. กมฺมํเยว จ สุคติทุคฺคตีนํ ตตฺถุปฺปชฺชนกสุขทุกฺขานฺจ ปถภาเวน ปวตฺตํ กมฺมปโถติ วุจฺจตีติ ปากโฏ, ตสฺสา กมฺมปถภาโว. อภิชฺฌาทีนํ ปน เจตนาสมีหนภาเวน สุจริตทุจฺจริตภาโว, เจตนาชนิตปิฏฺิวฏฺฏกภาเวน สุคติทุคฺคติตทุปฺปชฺชนกสุขทุกฺขานํ ¶ ปถภาโว จาติ, น ตถา ปากโฏ กมฺมปถภาโวติ, เต เอว เตน สภาเวน ทสฺเสตุํ อภิธมฺเม กมฺมปถราสิภาเวน วุตฺตา. อตถาชาติยกตฺตา วา เจตนา เตหิ สทฺธึ น วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. มูลํ ปตฺวาติ มูลเทสนํ ปตฺวา, มูลสภาเวสุ ธมฺเมสุ เทสิยมาเนสูติ อตฺโถ.
อทินฺนาทานํ สตฺตารมฺมณนฺติ อิทํ ‘‘ปฺจ สิกฺขาปทา ปริตฺตารมฺมณา เอวา’’ติ อิมาย ปาฬิยา วิรุชฺฌติ. ยฺหิ ปาณาติปาตาทิทุสฺสีลฺยสฺส อารมฺมณํ, ตเทว ตํ เวรมณิยา อารมฺมณํ. วีติกฺกมิตพฺพวตฺถุโต เอว หิ วิรตีติ. ‘‘สตฺตารมฺมณ’’นฺติ วา สตฺตสงฺขาตํ สงฺขารารมฺมณเมว อุปาทาย วุตฺตตฺตา น โกจิ วิโรโธ. ตถา หิ วุตฺตํ สมฺโมหวิโนทนิยํ (วิภ. อฏฺ. ๗๑๔) ‘‘ยานิ สิกฺขาปทานิ เอตฺถ ‘สตฺตารมฺมณานี’ติ วุตฺตานิ, ตานิ ยสฺมา ‘สตฺโตติ’ติ สงฺขํ คเต สงฺขาเรเยว อารมฺมณํ กโรนฺตี’’ติ. อิโต ปเรสุปิ เอเสว นโย. วิสภาควตฺถุโน ‘‘อิตฺถิปุริสา’’ติ คเหตพฺพโต สตฺตารมฺมโณติปิ เอเก. ‘‘เอโก ทิฏฺโ, ทฺเว สุตา’’ติอาทินา สมฺผปฺปลปเน ทิฏฺสุตมุตวิฺาตวเสน. ตถา อภิชฺฌาติ เอตฺถ ตถา-สทฺโท ‘‘ทิฏฺสุตมุตวิฺาตวเสนา’’ติ อิทมฺปิ อุปสํหรติ, น สตฺตสงฺขารารมฺมณตํ เอว ทสฺสนาทิวเสน อภิชฺฌายนโต. ‘‘นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา’’ติ ปวตฺตมานาปิ มิจฺฉาทิฏฺิ เตภูมกธมฺมารมฺมณา เอวาติ อธิปฺปาเยน ตสฺสา สงฺขารารมฺมณตา วุตฺตา. กถํ ปน มิจฺฉาทิฏฺิยา มหคฺคตปฺปตฺตา ธมฺมา อารมฺมณํ โหนฺตีติ? สาธารณโต. นตฺถิ สุกฏทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโกติ หิ ปวตฺตมานาย อตฺถโต รูปารูปาวจรธมฺมาปิ คหิตาว โหนฺตีติ.
สุขพหุลตาย ¶ ราชาโน หสมานาปิ ‘‘โจรํ ฆาเตถา’’ติ วทนฺติ, หาโส ปน เตสํ อฺวิสโยติ อาห ‘‘สนฺนิฏฺาปกเจตนา ปน เนสํ ทุกฺขสมฺปยุตฺตาว โหตี’’ติ. มชฺฌตฺตเวทโน น โหติ, สุขเวทโนว. ตตฺถ ‘‘กามานํ สมุทยา’’ติอาทินา เวทนาเภโท เวทิตพฺโพ. โลภสมุฏฺาโน มุสาวาโท สุขเวทโน วา สิยา มชฺฌตฺตเวทโน วา, โทสสมุฏฺาโน ทุกฺขเวทโน วาติ มุสาวาโท ติเวทโน สิยา. อิมินา นเยน เสเสสุปิ ยถารหํ เวทนานํ ¶ ‘‘โลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยายา’’ติอาทินา เภโท เวทิตพฺโพ.
ปาณาติปาโต โทสโมหวเสน ทฺวิมูลโกติ สมฺปยุตฺตมูลเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ตสฺส หิ มูลฏฺเน อุปการภาโว โทสวิเสโส, นิทานมูเล ปน คยฺหมาเน โลภโมหวเสนปิ วฏฺฏติ. สมฺมูฬฺโห อามิสกิฺชกฺขกาโมปิ หิ ปาณํ หนติ. เตเนวาห ‘‘โลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยายา’’ติอาทิ (อ. นิ. ๓.๓๔). เสเสสุปิ เอเสว นโย.
อสมาทินฺนสีลสฺส สมฺปตฺตโต ยถาอุปฏฺิตวีติกฺกมิตพฺพวตฺถุโต วิรติ สมฺปตฺตวิรติ. สมาทาเนน อุปฺปนฺนา วิรติ สมาทานวิรติ. กิเลสานํ สมุจฺฉินฺทนวเสน ปวตฺตา มคฺคสมฺปยุตฺตา วิรติ สมุจฺเฉทวิรติ. กามฺเจตฺถ ปาฬิยํ วิรติโยว อาคตา, สิกฺขาปทวิภงฺเค ปน เจตนาปิ อาหริตฺวา ทสฺสิตาติ ตทุภยมฺปิ คณฺหนฺโต ‘‘เจตนาปิ วฏฺฏนฺติ วิรติโยปี’’ติ อาห.
อทุสฺสีลฺยารมฺมณา ชีวิตินฺทฺริยาทิอารมฺมณา กถํ ทุสฺสีลฺยานิ ปชหนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปาณาติปาตาทีหิ วิรมณวเสน ปวตฺตนโต ตทารมฺมณภาเวเนว ตานิ ปชหนฺติ. น หิ ตเทว อารพฺภ ตํ ปชหิตุํ สกฺกา ตโต อนิสฺสฏภาวโต.
อนภิชฺฌา…เป… วิรมนฺตสฺสาติ อภิชฺฌํ ปชหนฺตสฺสาติ อตฺโถ. น หิ มโนทุจฺจริตโต วิรติ อตฺถิ อนภิชฺฌาทีเหว ตปฺปหานสิทฺธิโต.
ปฺจสิกฺขาปทสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ทสงฺคสุตฺตวณฺณนา
๑๑๓. มิจฺฉตฺตสมฺมตฺตวเสนาติ เอตฺถ มิจฺฉาภาโว มิจฺฉตฺตํ, ตถา สมฺมาภาโว สมฺมตฺตํ. ตถา ตถา ปวตฺตา อกุสลกฺขนฺธาว มิจฺฉาสติ, เอวํ มิจฺฉาาณมฺปิ ทฏฺพฺพํ. น หิ าณสฺส ¶ มิจฺฉาภาโว นาม อตฺถิ. ตสฺมา มิจฺฉาาณิโนติ มิจฺฉาสฺาณาติ อตฺโถ, อโยนิโส ปวตฺตจิตฺตุปฺปาทาติ ¶ อธิปฺปาโย. มิจฺฉาปจฺจเวกฺขเณนาติ มิจฺฉาทิฏฺิอาทีนํ มิจฺฉา อโยนิโส ปจฺจเวกฺขเณน. กุสลวิมุตฺตีติ ปกติปุริสสนฺตรชานนํ, คุณวิยุตฺตสฺส อตฺตโน สกตฺตนิ อวฏฺานนฺติ เอวมาทึ อกุสลปวตฺตึ ‘‘กุสลวิมุตฺตี’’ติ คเหตฺวา ิตา มิจฺฉาวิมุตฺติกา. สมฺมาปจฺจเวกฺขณาติ ฌานวิโมกฺขาทีสุ สมฺมา อวิปรีตํ ปวตฺตา ปจฺจเวกฺขณา.
ทสงฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. จตุตฺถวคฺโค
๑. จตุธาตุสุตฺตวณฺณนา
๑๑๔. ปติฏฺาธาตูติ สหชาตานํ ธมฺมานํ ปติฏฺาภูตา ธาตุ. อาพนฺธนธาตูติ นหานิยจุณฺณสฺส อุทกํ วิย สหชาตธมฺมานํ อาพนฺธนภูตา ธาตุ. ปริปาจนธาตูติ สูริโย ผลาทีนํ วิย สหชาตธมฺมานํ ปริปาจนภูตา ธาตุ. วิตฺถมฺภนธาตูติ ทุติโย วิย สหชาตธมฺมานํ วิตฺถมฺภนภูตา ธาตุ. เกสาทโย วีสติ โกฏฺาสา. อาทิ-สทฺเทน ปิตฺตาทโย สนฺตปฺปนาทโย อุทฺธงฺคมา วาตาทโย คหิตา. เอตาติ ธาตุโย.
จตุธาตุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปุพฺเพสมฺโพธสุตฺตวณฺณนา
๑๑๕. อยํ ปถวีธาตุํ นิสฺสาย ตํ อารพฺภ ปวตฺโต อสฺสาโท. เอวํ ปวตฺตานนฺติ เอวํ กาเย ปภาวสฺส ปเวทนวเสเนว ปวตฺตานํ. หุตฺวา อภาวากาเรนาติ ปุพฺเพ อวิชฺชมานา ปจฺจยสามคฺคิยา หุตฺวา อุปฺปชฺชิตฺวา ปุน ภงฺคุปคมนโต อุทฺธํ อภาวากาเรน. น นิจฺจาติ อนิจฺจา อทฺธุวตฺตา, ธุวํ นิจฺจํ. ปฏิปีฬนากาเรนาติ อุทยพฺพยวเสน อภิณฺหํ ปีฬนากาเรน ¶ ทุกฺขฏฺเน. สภาววิคมากาเรนาติ อตฺตโน สภาวสฺส วิคจฺฉนากาเรน. สภาวธมฺมา หิ อปฺปมตฺตํ ขณํ ปตฺวา นิรุชฺฌนฺติ. ตสฺมา เต ‘‘ชราย มรเณน จา’’ติ ทฺเวธา วิปริณมนฺติ. เตนาห ¶ ‘‘วิปริณามธมฺมา’’ติ. อาทีนํ วาติ ปวตฺเตตีติ อาทีนโว, ปรมกาปฺตา. วินียตีติ วูปสมียติ. อจฺจนฺตปฺปหานวเสน นิสฺสรติ เอเตนาติ นิสฺสรณํ.
สายํ นิปนฺนา สพฺพรตฺตึ เขเปตฺวา ปาโต อุฏฺหาม, มาสปุณฺณฆโฏ วิย โน สรีรํ นิสฺสนฺทาภาวโต.
ผุสิตมตฺเตสุปีติ อุทกสฺส ผุสิตมตฺเตสุปิ.
อตินาเมนฺติ กาลํ. เอวํ วุตฺตนเยน ปวตฺตา ปุคฺคลา เอตา ปถวีธาตุอาทโย อสฺสาเทนฺติ นาม อภิรติวเสน ตตฺถ อากงฺขุปฺปาทนโต.
อภิวิสิฏฺเน าเณนาติ อคฺคมคฺคาเณน. รุกฺโข โพธิ ‘‘พุชฺฌติ เอตฺถา’’ติ กตฺวา. มคฺโค โพธิ ‘‘พุชฺฌติ เอเตนา’’ติ กตฺวา. สพฺพฺุตฺาณํ โพธิ สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุชฺฌนโต. นิพฺพานํ โพธิ พุชฺฌิตพฺพโต. เตสนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ. สาวกปารมีาณนฺติ สาวกปารมีาณํ ยาถาวโต ทสฺสนวตฺถุ.
อกุปฺปาติ ปฏิปกฺเขหิ อโกเปตพฺโพ. การณโตติ อริยมคฺคโต. ตโต หิสฺส อกุปฺปตา. เตนาห ‘‘สา หี’’ติอาที. อารมฺมณโตติ นิพฺพานารมฺมณโต นิพฺพานารมฺมณานํ โลกิยสมาปตฺตีนํ อภาวโต.
วิตฺถารวเสนาติ เอเกกธาตุวเสนาติ วทนฺติ, เอเกกิสฺสา ปน ธาตุยา ลกฺขณวิภตฺติทสฺสนวเสน. ยนฺติ เหตุอตฺเถ นิปาโต, ยํ นิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. อสฺสาเทติ เอเตนาติ อสฺสาโท, ตณฺหา. อยํ ปถวีธาตุยา อสฺสาโทติ เอตฺถ อยํ-สทฺโท ‘‘ปหานปฏิเวโธ’’ติ เอตฺถาปิ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺโพ ‘‘อยํ ปหานปฏิเวโธ ปฏิวิชฺฌิตพฺพฏฺเน สมุทยสจฺจ’’นฺติ. เอส นโย เสสสจฺเจสุปิ. ยาติ ยถาวุตฺเตสุ อสฺสาโท อาทีนโว นิสฺสรณนฺติ อิเมสุ ตีสุ าเนสุ ปวตฺตา ¶ ยา ทิฏฺิ…เป… โย สมาธิ, อยํ ภาวนาปฏิเวโธ มคฺคสจฺจนฺติ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ.
ปุพฺเพสมฺโพธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อจรึสุตฺตวณฺณนา
๑๑๖. ยถา ¶ ยาวตา นิสฺสรณปริเยสนฏฺาเน อาทีนวปริเยสนา, เอวํ ยาวตา อาทีนวปริเยสนฏฺาเน อสฺสาทปริเยสนา สมฺมาปฏิปนฺนสฺสาติ วุตฺตํ ‘‘อจรินฺติ าณจาเรน อจรึ, อนุภวนจาเรนา’’ติ.
อจรึสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. โนเจทํสุตฺตวณฺณนา
๑๑๗. นิสฺสฏาติอาทีนิ ปทานิ, อาทิโต วุตฺตปฏิเสเธนาติ ‘‘เนวา’’ติ เอตฺถ วุตฺเตน นกาเรน. เตนาห ‘‘น นิสฺสฏา’’ติอาทิ. วิมริยาทิกเตนาติอาทิ จ เอตฺถ วิหรณเปกฺขเณ กรณวจนํ. ทุติยนเยติ ‘‘ยโต จ โข, ภิกฺขเว’’ติอาทินา วุตฺตนเย. กิเลสวฏฺฏมริยาทาย สพฺพโส อภาวโต นิมฺมริยาทิกเตน จิตฺเตน. เตนาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. ตีสูติ ทุติยาทีสุ ตีสุ.
โนเจทํสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. เอกนฺตทุกฺขสุตฺตวณฺณนา
๑๑๘. เอกนฺเตเนว ทุกฺขาติ อวีจิมหานิรโย วิย เอกนฺตโต ทุกฺขา เอว สุเขน อโวมิสฺสา. ทุกฺเขน อนุปติตาติ ทุกฺเขเนว สพฺพโส อุปคตา. ทุกฺเขน โอกฺกนฺตาติ พหิทฺธา วิย อนฺโตปิ ทุกฺเขน อวกฺกนฺตา อนุปวิฏฺา. สุขเวทนาปจฺจยตาย อิมาสํ ธาตูนํ สุขตา วิย ทุกฺขเวทนาปจฺจยตาปิ เวทิตพฺพา, สงฺขารทุกฺขตา ปน สพฺพตฺถ จริตา เอว ¶ . สพฺพตฺถาติ สพฺพาสุ ธาตูสุ, สพฺพฏฺาเนสุ วา. ปมํ สุขํ ทสฺเสตฺวาปิ ปจฺฉา ทุกฺขสฺส กถิตตฺตา ‘‘ทุกฺขลกฺขณํ กถิต’’นฺติ วุตฺตํ.
เอกนฺตทุกฺขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖-๑๐. อภินนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๑๙-๑๒๓. ฉฏฺสตฺตเมสุ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘วิวฏฺฏํ กถิต’’นฺติ วุตฺตํ ¶ . ตีสุ สุตฺเตสุ. จตุสจฺจเมวาติ จตฺตาริ สจฺจานิ สมาหฏานิ จตุสจฺจนฺติ เตสํ เอกชฺฌํ คหณํ, นิยโม ปน ตพฺพินิมุตฺตสฺส ปรมตฺถสฺส อภาวโต.
อภินนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุตฺถวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย
ธาตุสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.