📜

๙. โอปมฺมสํยุตฺตํ

๑. กูฏสุตฺตวณฺณนา

๒๒๓. กูฏํคจฺฉนฺตีติ กูฏจฺฉิทฺทสฺส อนุปวิสนวเสน กูฏํ คจฺฉนฺติ. ยา จ โคปานสิโย โคปานสนฺตรคตา, ตาปิ กูฏํ อาหจฺจ าเนน กูฏงฺคมา. ทุวิธาปิ กูเฏ สโมสรณา. กูฏสฺส สมุคฺฆาเตน วินาเสน ภิชฺชเนน. อวิชฺชาย สมุคฺฆาเตนาติ อวิชฺชาย อจฺจนฺตเมว อปฺปวตฺติยา. เตน จ โมกฺขธมฺมาธิคเมน ตทนุรูปธมฺมาธิคโม ทสฺสิโต. อปฺปมตฺตาติ ปน อิมินา ตสฺส อุปาโย ทสฺสิโต.

กูฏสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. นขสิขสุตฺตวณฺณนา

๒๒๔. เอวํ อปฺปกา ยถา นขสิขาย อาโรปิตปํสุ, สุคติสํวตฺตนิยสฺส กมฺมสฺส อปฺปกตฺตา เอวํ เทเวสุปีติ หีนูทาหรณวเสน วุตฺตํ. อปฺปตรา หิ สตฺตา เย เทเวสุ ชายนฺติ, ตฺจ โข กามเทเวสุ. อิตเรสุ ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

นขสิขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. กุลสุตฺตวณฺณนา

๒๒๕. วิธํสยนฺติ วิเหยนฺติ. วฑฺฒิตาติ ภาวนาปาริปูริวเสน ปริพฺรูหิตา. ปุนปฺปุนํ กตาติ ภาวนาย พหุลีกรเณน อปราปรํ ปวตฺติตา ยุตฺตยานํ วิย กตาติ ยถา ยุตฺตํ อาชฺรถํ เฉเกน สารถินา อธิฏฺิตํ ยถารุจิ ปวตฺตติ, เอวํ ยถารุจิ ปวตฺติยา คมิตา. ปติฏฺานฏฺเนาติ อธิฏฺานฏฺเน. วตฺถุ วิย กตา สพฺพโส อุปกฺกิเลสวิโสธเนน สุวิโสธิตมริยาทํ วิย กตา. อธิฏฺิตาติ ปฏิปกฺขทูรีภาวโต สุภาวิตภาเวน อวิกมฺปเนยฺยตาย ปิตา . สมนฺตโต จิตาติ สพฺพภาเคน ภาวนูปจยํ คมิตา. เตนาห ‘‘สุวฑฺฒิตา’’ติ . สุฏฺุ สมารทฺธาติ เมตฺตาภาวนาย มตฺถกปฺปตฺติยา สมฺมเทว สมฺปาทิตา.

กุลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. โอกฺขาสุตฺตวณฺณนา

๒๒๖. มหามุขอุกฺขลีนนฺติ มหามุขานํ มหนฺตโกฬุมฺพานํ สตํ. ปณีตโภชนภริตานนฺติ สปฺปิมธุสกฺกราทีหิ อุปนีตปณีตโภชเนหิ ปริปุณฺณานํ. ตสฺสาติ ปาสฺส. โคทุหนมตฺตนฺติ โคโทหนเวลามตฺตํ. ตํ ปน กิตฺตกํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘คาวิยา’’ติอาทิ. สพฺพสตฺเตสุ หิตผรณนฺติ อโนธิโสเมตฺตาภาวนมาห – เมตฺตจิตฺตํ อปฺปนาปฺปตฺตํ ภาเวตุํ สกฺโกตีติ อธิปฺปาโย. ตมฺปิ ตโต ยถาวุตฺตทานโต มหปฺผลตรนฺติ.

โอกฺขาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สตฺติสุตฺตวณฺณนา

๒๒๗. อคฺเค ปหริตฺวาติ ติณฺหผลสตฺติยา อคฺเค หตฺเถน วา มุฏฺินา วา ปหารํ ทตฺวา. กปฺปาสวฏฺฏึ วิยาติ ปหตกปฺปาสปิณฺฑํ วิย. นิยฺยาสวฏฺฏึ วิยาติ ผลสณฺานํ นิยฺยาสปิณฺฑํ วิย. เอกโต กตฺวาติ กลิกาทิภาเวน วีสตึสปิณฺฑานิ เอกชฺฌํ กตฺวา. อลฺลิยาเปนฺโต ปิณฺฑํ กโรนฺโต. ปฏิเลเณตีติ ปฏิลีนยติ นาเมติ. อลฺลิยาเปนฺโต เต ทฺเวปิ ธารา เอกโต สมฺผุสาเปนฺโต. ปฏิโกฏฺเฏตีติ ปฏิปหรติ. ตตฺถ ขณฺฑํ วิย นิยฺยาโส. กปฺปาสวฏฺฏนกรณียนฺติ วิหตสฺส กปฺปาสสฺส ปฏิสํหรณวเสน พนฺธนทณฺฑํ. ปวตฺเตนฺโตติ กปฺปาสสฺส สํเวลฺลนวเสน ปวตฺเตนฺโต.

สตฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ธนุคฺคหสุตฺตวณฺณนา

๒๒๘. ทฬฺหธนุโนติ ถิรตรธนุโน. อิทานิ ตสฺส ถิรตรภาวํ ปริจฺเฉทโต ทสฺเสตุํ ‘‘ทฬฺหธนู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทฺวิสหสฺสถามนฺติ ปลานํ ทฺวิสหสฺสถามํ. วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺสาติ ธนุโน. อาโรปิตสฺสาติ ชิยํ อาโรปิตสฺส. ชิยาพทฺโธติ ชิยาย พทฺโธ. ปถวิโต มุจฺจติ, เอตํ ‘‘ทฺวิสหสฺสถาม’’นฺติ เวทิตพฺพํ . โลหสีสาทีนนฺติ กาฬโลหตมฺพโลหสีสาทีนํ. ภาโรติ ปุริสภาโร, โส ปน มชฺฌิมปุริสสฺส วเสน เอทิสํ ตสฺส พลํ ทฏฺพฺพํ. อุคฺคหิตสิปฺปา ธนุเวทสิกฺขาวเสน. จิณฺณวสีภาวา ลกฺเขสุ อวิรชฺฌนสรกฺเขปวเสน. กตํ ราชกุลาทีสุ อุปคนฺตฺวา อสนํ สรกฺเขโป เอเตหีติ กตูปสนาติ อาห ‘‘ราชกุลาทีสุ ทสฺสิตสิปฺปา’’ติ.

‘‘โพธิสตฺโต จตฺตาริ กณฺฑานิ อาหรี’’ติ วตฺวา ตเมว อตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ตทา กิรา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ชวิสฺสามาติ ธาวิสฺสาม. อคฺคิ อุฏฺหีติ สีฆปตนสนฺตาเปน จ สูริยรสฺมิสนฺตาปสฺส อาสนฺนภาเวน จ อุสุมา อุฏฺหิ. ปกฺขปฺชเรนาติ ปกฺขชาลนฺตเรน.

นิวตฺติตฺวาติ ‘‘นิปฺปโยชนมิทํ ชวน’’นฺติ นิวตฺติตฺวา. ปตฺตกฏาเหน โอตฺถฏปตฺโต วิยาติ ปิหิตปตฺโต วิย อโหสิ, เวคสา ปตเนน นครสฺส อุปริ อากาสสฺส นิริกฺขณํ อโหสิ. สฺจาริตตฺตา อเนกหํสสหสฺสสทิโส ปฺายิ เสยฺยถาปิ โพธิสตฺตสฺส ธนุคฺคหกาเล สรกูฏาทิทสฺสเน.

ทุกฺกรนฺติ ตสฺส อทสฺสนํ สนฺธายาห, น อตฺตโน ปตนํ. สูริยมณฺฑลฺหิ อติสีเฆน ชเวน คจฺฉนฺตมฺปิ ปฺาสโยชนายามวิตฺถตํ อตฺตโน วิปุลตาย ปภสฺสรตาย จ สตฺตานํ จกฺขุสฺส โคจรภาวํ คจฺฉติ, ชวนหํโส ปน ตาทิเสน สูริเยน สทฺธึ ชเวน คจฺฉนฺโต น ปฺาเยยฺย. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘น สกฺกา ตยา ปสฺสิตุ’’นฺติ. จตฺตาโร อกฺขณเวธิโน. คนฺตฺวา คหิเต โสตุํ ฆณฺฑํ ปิฬนฺธาเปตฺวา สยํ ปุรตฺถาภิมุโข นิสินฺโน. ปุรตฺถิมทิสาภิมุขํ คตกณฺฑํ สนฺธายาห ‘‘ปมกณฺเฑเนว สทฺธึ อุปฺปติตฺวา’’ติ. เต จตฺตาริ กณฺฑานิ เอกกฺขเณเยว ขิปึสุ.

อายุํ สงฺขโรติ เอเตนาติ อายุสงฺขาโร. ยถา หิ กมฺมชรูปานํ ปวตฺติ ชีวิตินฺทฺริยปฏิพทฺธา, เอวํ อตฺตภาวสฺส ปวตฺติ ตปฺปฏิพทฺธาติ. พหุวจนนิทฺเทโส ปน ปาฬิยํ เอกสฺมึ ขเณ อเนกสตสงฺขสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปลพฺภนโต. ตํ ชีวิตินฺทฺริยํ. ตโต ยถาวุตฺตเทวตานํ ชวโต สีฆตรํ ขียติ อิตฺตรขณตฺตา. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ชีวิตํ อตฺตภาโว จ, สุขทุกฺขา จ เกวลา;

เอกจิตฺตสมายุตฺตา, ลหุโส วตฺตเต ขโณ’’ติ. (มหานิ. ๑๐);

เภโทติ ภงฺโค. น สกฺกา ปฺาเปตุํ ตโตปิ อติวิย อิตฺตรขณตฺตา.

ธนุคฺคหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อาณิสุตฺตวณฺณนา

๒๒๙. อฺเ ราชาโน จ ภาคํ คณฺหนฺตา อิเม วิย ทสภาคํ คณฺหนฺตีติ เตสมยํ อนุคติ ปฺายติ. มหาชนสฺส อานยนโต อานโกติ อาห ‘‘เอวํลทฺธนาโม’’ติ. อิทานิ ตํ อาทิโต ปฏฺาย อาคมนานุกฺกมํ ทสฺเสตุํ ‘‘หิมวนฺเต กิรา’’ติอาทิมาห. กเรณุนฺติ กเรณุกํ, หตฺถินินฺติ อตฺโถ. สกฺกรึสูติ อนตฺถปริหรณวเสน ปสตฺถูปหารวเสน จ ปูเชสุํ. โอตรีติ กุฬีรทหํ ปาวิสิ. ปฏิกฺกมิตฺวา ปนวเสน อปกฺกมิตฺวา ปติ.

สุวณฺณรชตาทิมยนฺติ กิสฺมิฺจิ ฉิทฺเท สุวณฺณมยํ, กิสฺมิฺจิ รชตมยํ, กิสฺมิฺจิ ผลิกมยํ อาณึ ฆฏยึสุ พนฺธึสุ. ปุพฺเพ ผริตฺวา ติฏฺนฺตสฺส ทฺวาทส โยชนานิ ปมาโณ เอตสฺสาติ ทฺวาทสโยชนปฺปมาโณ, สทฺโท. อถสฺส อเนกสตกาเล คจฺฉนฺเต อนฺโตสาลายมฺปิ ทุกฺเขน สุยฺยิตฺถ อาณิสงฺฆาฏมตฺตตฺตา.

คมฺภีราติ อคาธา ทุกฺโขคาฬฺหา. สลฺลสุตฺตฺหิ ‘‘อนิมิตฺตมนฺาต’’นฺติอาทินา ปาฬิวเสน คมฺภีรํ, น อตฺถคมฺภีรํ. ตถา หิ ตตฺถ ตา ตา คาถา ทุวิฺเยฺยรูปา ติฏฺนฺติ, ทุวิฺเยฺยํ าเณน ทุกฺโขคาหนฺติ กตฺวา ‘‘คมฺภีร’’นฺติ วุจฺจติ. ปุพฺพาปรมฺเปตฺถ กาสฺจิ คาถานํ ทุวิฺเยฺยตาย ทุกฺโขคาหเมว, ตสฺมา ตํ ปาฬิวเสน ‘‘คมฺภีร’’นฺติ วุตฺตํ ‘‘ปาฬิวเสน คมฺภีรา สลฺลสุตฺตสทิสา’’ติ. อิมินา นเยน ‘‘อตฺถวเสน คมฺภีรา’’ติ เอตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. มหาเวทลฺลสุตฺตสฺส อตฺถวเสน คมฺภีรตา ปากฏาเยว. โลกํ อุตฺตรตีติ โลกุตฺตโร, นววิธอปฺปมาณธมฺโม, โส อตฺถภูโต เอเตสํ อตฺถีติ โลกุตฺตรา. เตนาห ‘‘โลกุตฺตรอตฺถทีปกา’’ติ. สตฺตสุฺตธมฺมมตฺตเมวาติ สตฺเตน อตฺตนา สุฺตํ เกวลํ ธมฺมมตฺตเมว. อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพนฺติ จ ลิงฺควจนวิปลฺลาเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อุคฺคเหตพฺเพ จ ปริยาปุณิตพฺเพ จา’’ติ. กวิตาติ กวิโน กมฺมํ กวิกตา. ยสฺส ปน ยํ กมฺมํ, ตํ เตน กตนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘กวิตาติ กวีหิ กตา’’ติ. อิตรํ ‘‘กาเวยฺยา’’ติ ปทํ, กพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘กพฺพ’’นฺติ จ กวินา วุตฺตนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ตสฺเสว เววจน’’นฺติ. จิตฺตกฺขราติ วิจิตฺราการอกฺขรา. สาสนโต พหิภูตาติ น สาสนาวจรา. เตสํ สาวเกหีติ ‘‘พุทฺธานํ สาวกา’’ติ อปฺาตานํ เยสํ เกสฺจิ สาวเกหิ. อนุคฺคยฺหมานาติ น อุคฺคยฺหมานา สวนธารณปริจยอตฺถูปปริกฺขาทิวเสน อนุคฺคยฺหมานา. อนฺตรธายนฺติ อทสฺสนํ คจฺฉนฺติ.

อาณิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. กลิงฺครสุตฺตวณฺณนา

๒๓๐. กลิงฺครํ วุจฺจติ ขุทฺทกทารุขณฺฑํ, ตํ อุปธานํ เอเตสนฺติ กลิงฺครูปธานา. ลิจฺฉวี ปน ขทิรทณฺฑํ อุปธานํ กตฺวา ตทา วิหรึสุ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ขทิรฆฏิกาสู’’ติอาทิ. ปกติวิชฺชุสฺิโต นตฺถิ เอเตสํ ขโณ วิชฺฌเนติ อกฺขณเวธิโน ตโต สีฆตรํ วิชฺฌนโต. ‘‘อกฺขณ’’นฺติ วิชฺชุ วุจฺจติ อิตฺตรขณตฺตา. อกฺขโณภาเสน ลกฺขณเวธกา อกฺขณเวธิโน. อเนกธา ภินฺนสฺส วาลสฺส วิชฺฌเนน วาลเวธิโน. วาเลกเทโส หิ อิธ ‘‘วาโล’’ติ คหิโต.

พหุเทว ทิวสภาคํ ปธานานุโยคโต อุปฺปนฺนทรถปริสฺสมวิโนทนตฺถํ นฺหายิตฺวา. เต สนฺธายาติ เต ตถารูเป ปธานกมฺมิกภิกฺขู สนฺธาย. อิทํ อิทานิ วุจฺจมานํ อตฺถชาตํ วุตฺตํ โปราณฏฺกถายํ. อยมฺปิ ทีโปติ ตมฺพปณฺณิทีปมาห. ปธานานุยุฺชนเวลาย นิเวทนวเสน ตตฺถ ตตฺถ เอกชฺฌํ ปหตฆณฺฑินิคฺโฆเสเนว เอกฆณฺฑินิคฺโฆโส, ตตฺถ ตตฺถ ปณฺณสาลาทีสุ วสนฺตานํ ภิกฺขูนํ วเสน เอกปธานภูโต. นานามุโขติ อนุราธปุรสฺส ปจฺฉิมทิสายํ เอโก วิหาโร, ปิลิจฺฉิโกฬินครสฺส ปุรตฺถิมทิสายํ. อุภยตฺถ ปวตฺตฆณฺฑิสทฺทา อนฺตราปวตฺตฆณฺฑิสทฺเทหิ มิสฺเสตฺวา โอสรนฺติ. กลฺยาณิยํ ปวตฺตฆณฺฑิสทฺโท ตถา นาคทีเป.

กลิงฺครสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. นาคสุตฺตวณฺณนา

๒๓๑. อติกฺกนฺตเวลนฺติ ภตฺตานุโมทนอุปนิสินฺนกถาเวลโต อติกฺกนฺตเวลํ. อสมฺภินฺเนนาติ สรสมฺปตฺติโต อสมฺภินฺเนน, สรสฺส อุจฺจารณสมฺปตฺตึ อปริหาเปตฺวาติ อตฺโถ. อปริสุทฺธาสยตาย เนว คุณวณฺณาย น าณพลาย โหติ. ตนฺติ ตํ ตถา ปจฺจยานํ ปริภุฺชนํ, ตํ ตถา มิจฺฉาปฏิปชฺชนํ.

นาคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. พิฬารสุตฺตวณฺณนา

๒๓๒. ฆรานํสนฺธีติ ฆเรน ฆรสฺส สมฺพนฺธฏฺานํ. สห มเลน วตฺตตีติ สมลํ. เคหโต คามโต จ นิกฺขมนจนฺทนิกฏฺานํ. สงฺการฏฺานนฺติ สงฺการกูฏํ. เกจิ ‘‘สนฺธิสงฺการกูฏฏฺาน’’นฺติ วทนฺติ. วุฏฺานนฺติ อาปนฺนอาปตฺติโต, น กิเลสโต วุฏฺานํ, สุทฺธนฺเต อธิฏฺานํ. ตํ ปน ยถาอาปนฺนาย อาปตฺติยา ‘‘เทสนา’’ตฺเวว วุจฺจตีติ อาห ‘‘เทสนา ปฺายตี’’ติ.

พิฬารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. สิงฺคาลสุตฺตวณฺณนา

๒๓๓. เอตฺตกมฺปีติ อิมินา ชรสิงฺคาเลน ลทฺธพฺพํ จิตฺตสฺสาทมตฺตมฺปิ น ลภิสฺสติ สกลเมว กปฺปํ สพฺพโส อวีจิชาลาหิ นิรนฺตรํ ฌายมานตาย นิจฺจทุกฺขาตุรภาวโต.

สิงฺคาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. ทุติยสิงฺคาลสุตฺตวณฺณนา

๒๓๔. กตชานนนฺติ กตูปการชานนํ. กตเวทิตาติ ตสฺเสว ปเรสํ ปากฏกรณวเสน ชานนเมว. อาจารเมวาติ กตาปราธเมว.

ทุติยสิงฺคาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

โอปมฺมสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.