📜

๑๐. ภิกฺขุสํยุตฺตํ

๑. โกลิตสุตฺตวณฺณนา

๒๓๕. สาวกานํอาลาโปติ สาวกานํ สพฺรหฺมจารึ อุทฺทิสฺส อาลาโป. พุทฺเธหิ สทิสา มา โหมาติ พุทฺธาจิณฺณํ สมุทาจารํ อกเถนฺเตหิ สาวเกหิ, ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ อาลปิตา ภิกฺขู, ‘‘อาวุโส’’ติ ปฏิวจนํ เทนฺติ, น, ‘‘ภนฺเต’’ติ. ทุติยชฺฌาเน วิตกฺกวิจารา นิรุชฺฌนฺติ เตสํ นิโรเธเนว ตสฺส ฌานสฺส อุปฺปาเทตพฺพโต. เยสํ นิโรธาติ เยสํ วจีสงฺคารานํ วิตกฺกวิจารานํ นิรุชฺฌเนน สุวิกฺขมฺภิตภาเวน สทฺทายตนํ อปฺปวตฺตึ คจฺฉติ การณสฺส ทูรโต ปสฺสมฺภิตตฺตา. อริโยติ นิทฺโทโส. ปริสุทฺโธ ตุณฺหีภาโว, น ติตฺถิยานํ มูคพฺพตคฺคหณํ วิย อปริสุทฺโธติ อธิปฺปาโย. ปมชฺฌานาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน ตติยชฺฌานาทีนิ สงฺคณฺหาติ.

อารมฺมณภูเตน วิตกฺเกน สห คตา ปวตฺตาติ วิตกฺกสหคตาติ อาห ‘‘วิตกฺการมฺมณา’’ติ. วิตกฺการมฺมณตา จ สฺามนสิการานํ สุขุมอารมฺมณคฺคหณวเสน ทฏฺพฺพา. เตนาห ‘‘น สนฺตโต อุปฏฺหึสู’’ติ. น ปคุณํ สมฺมเทว วสีภาวสฺส อนาปาทิตตฺตา. สฺามนสิการาปีติ ตติยชฺฌานาธิคมาย ปวตฺติยมานา สฺามนสิการาปิ หานภาคิยาว อเหสุํ, น วิเสสภาคิยา. สมฺมา เปหีติ พหิทฺธา วิกฺเขปํ ปหาย สมฺมา อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ เปหิ. เอกคฺคํ กโรหีติ เตเนว วิกฺเขปปฏิพาหเนน อวิหตมานสตาย จิตฺตสมาธานวเสน เอกคฺคํ กโรหิ. อาโรเปหีติ อีสกมฺปิ พหุมฺปิ อปติตํ กตฺวา กมฺมฏฺานารมฺมเณ อาโรเปหิ. ทุติยอคฺคสาวกภูมิยา ปาริปูริยา อายสฺมา มหาภิฺโ, น ยถา ตถาติ อาห ‘‘มหาภิฺตนฺติ ฉฬภิฺต’’นฺติ. อิมินา อุปาเยนาติ อิมินา ‘‘อถ โข มํ, อาวุโส’’ติอาทินา วุตฺเตน อุปาเยน. วฑฺเฒตฺวาติ อุตฺตริ อุตฺตริ วิเสสภาคิยภาวาปาทเนน สมาธึ ปฺฺจ พฺรูเหตฺวา พฺรูเหตฺวา.

โกลิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อุปติสฺสสุตฺตวณฺณนา

๒๓๖. อติอุฬารมฺปิสตฺตํ วา สงฺขารํ วา สนฺธาย วุตฺตํ สพฺพตฺถเมว สพฺพโส ฉนฺทราคสฺส สุปฺปหีนตฺตา. ชานนตฺถํ ปุจฺฉติ สตฺถุคุณานํ อติวิย อุฬารตมภาวโต.

อุปติสฺสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ฆฏสุตฺตวณฺณนา

๒๓๗. ปริเวณคฺเคนาติ ปริเวณภาเคน. เกจิ ‘‘เอกวิหาเรติ เอกจฺฉนฺเน เอกสฺมึ อาวาเส’’ติ วทนฺติ. เตติ เต ทฺเวปิ เถรา. ปาฏิเยกฺเกสุ าเนสูติ วิสุํ วิสุํ าเนสุ. นิสีทนฺตีติ ทิวาวิหารํ นิสีทนฺติ. โอฬาริโก นาม ชาโต ปริตฺตธมฺมารมฺมณตฺตา ตสฺส. เตติ เถโร ภควา จ.

ปริปุณฺณวีริโยติ จตุกิจฺจสาธนวเสน สมฺปุณฺณวีริโย. ปคฺคหิตวีริโยติ อีสกมฺปิ สงฺโกจํ อนาปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวีริโย. อุปนิกฺเขปนมตฺตสฺเสวาติ สมีเป ปนมตฺตสฺเสว.

จตุภูมกธมฺเมสุ ลพฺภมานตฺตา ปฺาย ‘‘จตุภูมกธมฺเม อนุปวิสิตฺวา ิตฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ. ลกฺขิตพฺพฏฺเน สมาธิ เอว สมาธิลกฺขณํ. เอวํ วิปสฺสนาลกฺขณํ เวทิตพฺพํ. อฺมฺสฺสาติ อฺสฺส อฺสฺส นานาลกฺขณาติ เวทิตพฺพํ. อฺสฺสาติ อิตรสฺส. ธุรนฺติ วหิตพฺพภารํ. ทฺวีสุปิ เอเตสูติ สมาธิลกฺขณวิปสฺสนาลกฺขเณสุ สมฺมาสมฺพุทฺโธ นิปฺผตฺตึ คโต.

ฆฏสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. นวสุตฺตวณฺณนา

๒๓๘. อภิเจตสิ นิสฺสิตา อาภิเจตสิกา. ปฏิปกฺขวิธมเนน อภิวิสิฏฺํ จิตฺตํ อภิจิตฺตํ. ยสฺมา ฌานานํ ตํสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ นิสฺสาย ปจฺจโย โหติเยว, ตสฺมา ‘‘นิสฺสิตาน’’นฺติ วุตฺตํ. นิกามลาภีติ ยถิจฺฉิตลาภี . ยถาปริจฺเฉเทนาติ ยถากเตน กาลปริจฺเฉเทน. วิปุลลาภีติ อปฺปมาณลาภี. ‘‘กสิร’’นฺติ หิ ปริตฺตํ วุจฺจติ, ตปฺปฏิปกฺเขน อกสิรํ อปฺปมาณํ. เตนาห ‘‘ปคุณชฺฌาโนติ อตฺโถ’’ติ. สิถิลมารพฺภาติ สิถิลํ วีริยารมฺภํ กตฺวาติ อตฺโถติ อาห ‘‘สิถิลํ วีริยํ ปวตฺเตตฺวา’’ติ.

นวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สุชาตสุตฺตวณฺณนา

๒๓๙. อฺานิ รูปานีติ ปเรสํ รูปานิ. อติกฺกนฺตรูโปติ อตฺตโน รูปสมฺปตฺติยา รูปโสภาย อติกฺกมิตฺวา ิตรูโป, สุจิรมฺปิ เวลํ โอโลเกนฺตสฺส ตุฏฺิอาวโห. ทสฺสนสฺส จกฺขุสฺส หิโตติ ทสฺสนีโย. ปสาทํ อาวหตีติ ปาสาทิโก. ฉวิวณฺณสุนฺทรตายาติ ฉวิวณฺณสฺส เจว สรีรสณฺานสฺส จ โสภนภาเวน.

สุชาตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ลกุณฺฑกภทฺทิยสุตฺตวณฺณนา

๒๔๐. วิรูปสรีรวณฺณนฺติ อสุนฺทรฉวิวณฺณฺเจว อสุนฺทรสณฺานฺจ. ปมาณวเสนาติ สรีรปฺปมาณวเสน. อิจฺฉิติจฺฉิตนฺติ อตฺตนา อิจฺฉิติจฺฉิตํ. มหาสารชฺชนฺติ มหนฺโต มงฺกุภาโว.

คุเณ อาวชฺเชตฺวาติ อตฺตนา ชานนกนิยาเมน สตฺถุโน กายคุเณ จ จาริตฺตคุเณ จ อาวชฺเชตฺวา มนสิ กตฺวา.

โยชนาวฏฺฏนฺติ โยชนปริกฺเขปํ.

‘‘กายสฺมี’’ติ คาถาสุขตฺถํ นิรนุนาสิกํ กตฺวา นิทฺเทโสติ วุตฺตํ ‘‘กายสฺมิ’’นฺติ. อการณํ กายปฺปมาณนฺติ สรีรปฺปมาณํ นาม อปฺปมาณํ, สีลาทิคุณาว ปมาณนฺติ อธิปฺปาโย.

ลกุณฺฑกภทฺทิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. วิสาขสุตฺตวณฺณนา

๒๔๑. ปุรสฺส เอสาติ โปรี, จาตุริยยุตฺตตา. เตนาห ‘‘ปุรวาสีน’’นฺติอาทิ. สา ปน ทุตวิลมฺพิตขลิตวเสน อปฺปสนฺนลูขตาทิโทสรหิตา โหตีติ อาห ‘‘ปุร…เป… วาจายา’’ติ. อสนฺทิทฺธายาติ มุตฺตวาจาย. เตนาห ‘‘อปลิพุทฺธายา’’ติอาทิ. น เอลํ โทสํ คเลตีติ อเนลคลา, อวิรุชฺฌนวาจา. เตนาห ‘‘นิทฺโทสายา’’ติ. จตุสจฺจสฺส ปกาสกา, น กทาจิ สจฺจวิมุตฺตาติ อาห ‘‘จตุสจฺจปริยาปนฺนายา’’ติ. ตา หิ จตฺตาริ สจฺจานิ ปริจฺฉิชฺช อาปาเทนฺติ ปฏิปาเทนฺติ ปวตฺเตนฺติ. เตนาห ‘‘จตฺตาริ สจฺจานิ อมุฺจิตฺวา ปวตฺตายา’’ติ. ธโช นาม สพฺพธมฺเมหิ สมุสฺสิตฏฺเน.

วิสาขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. นนฺทสุตฺตวณฺณฺณนา

๒๔๒. อารฺิโกติอาทีสุ อรฺกถาสีเสน เสนาสนปฏิสํยุตฺตานํ ธุตงฺคานํ, ปิณฺฑปาตกถาสีเสน ปิณฺฑปาตปฏิสํยุตฺตานํ, ปํสุกูลิกสีเสน จีวรปฏิสํยุตฺตานํ, ตคฺคหเณเนว วีริยนิสฺสิตธุตงฺคสฺส จ สมาทาย วตฺตนํ ทีปิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อาคเตน ภควตา อปรภาเค กถิตํ.

นนฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ติสฺสสุตฺตวณฺณนา

๒๔๓. ภณฺฑกนฺติ ปตฺตจีวรํ. นิสีทิเยว วตฺตสฺส อสิกฺขิตตฺตา. ตุชฺชนตฺเถน วาจา เอว สตฺติโยติ อาห ‘‘วาจาสตฺตีหี’’ติ.

วาจาย สนฺนิโตทเกนาติ วจนสงฺขาเตน สมนฺตโต นิจฺจํ กตฺวา อุปตุทนโต สนฺนิตุทเกน. วิภตฺติอโลเปน โส นิทฺเทโส. เตนาห ‘‘วจนปโตเทนา’’ติ.

อุจฺจกุเล ชาติ เอตสฺสาติ ชาติมา, พฺรหฺมชาติโก อิสิ. มาตงฺโคติ จณฺฑาโล. ตตฺถาติ กุมฺภการสาลายํ. โอกาสํ ยาจิ กุมฺภการํ. มหนฺตํ ทิสฺวา อาห – ‘‘ปมตรํ ปวิฏฺโ ปพฺพชิโต’’ติ. ตตฺเถวาติ ตสฺสาเยว สาลาย ทฺวารํ นิสฺสาย ทฺวารสมีเป. เมติ มยา. ขม มยฺหนฺติ มยฺหํ อปราธํ ขมสฺสุ. เตติ ตยา. ปุน เตติ ตว. คณฺหิ อุคฺคนฺตุํ อปฺปทานวเสน. เตนาห ‘‘นาสฺส อุคฺคนฺตุํ อทาสี’’ติ. ปพุชฺฌึสูติ นิทฺทาย ปพุชฺฌึสุ ปกติยา ปพุชฺฌนเวลาย อุปคตตฺตา.

ฉโวติ นิหีโน. อนนฺตมาโยติ วิวิธมาโย มายาวี.

โสติ มตฺติกาปิณฺโฑ. ‘‘สตฺตธา ภิชฺชี’’ติ เอตฺถายมธิปฺปาโย – ยํ เตน ตาปเสน ปารมิตาปริภาวนสมิทฺธาหิ นานาวิหารสมาปตฺติปริปูริตาหิ สีลทิฏฺิสมฺปทาทีหิ สุสงฺขตสนฺตาเน มหากรุณาธิวาเส มหาสตฺเต โพธิสตฺเต อริยูปวาทกมฺมํ อภิสปสงฺขาตํ ผรุสวจนํ ปวตฺติตํ, ตํ มหาสตฺตสฺส เขตฺตวิเสสภาวโต ตสฺส จ อชฺฌาสยผรุสตาย ทิฏฺธมฺมเวทนียํ หุตฺวา สเจ โส มหาสตฺตํ น ขมาเปติ, ตํ กกฺขฬํ หุตฺวา วิปจฺจนสภาวํ ชาตํ, ขมาปิเต ปน มหาสตฺเต ปโยคสมฺปตฺติปฏิพาหิตตฺตา อวิปากธมฺมตํ อาปชฺชติ อโหสิกมฺมภาวโต. อยฺหิ อริยูปวาทปาปสฺส ทิฏฺธมฺมเวทนียสฺส จ ธมฺมตา. ยํ ตํ โพธิสตฺเตน สูริยุคฺคมนนิวารณํ กตํ, อยํ โพธิสตฺเตน ทิฏฺโ อุปาโย. เตน หิ อุพฺพาฬฺหา มนุสฺสา โพธิสตฺตสฺส สนฺติเก ตาปสํ อาเนตฺวา ขมาเปสุํ. โสปิ จ มหาสตฺตสฺส คุเณ ชานิตฺวา ตสฺมึ จิตฺตํ ปสาเทสิ. ยํ ปนสฺส มตฺถเก มตฺติกาปิณฺฑสฺส ปนํ ตสฺส สตฺตธา ผาลนํ กตํ, ตํ มนุสฺสานํ จิตฺตานุรกฺขณตฺถํ. อฺถา หิ อิเม ปพฺพชิตา สมานา จิตฺตสฺส วสํ วตฺตนฺติ, น ปน จิตฺตมตฺตโน วเส วตฺตาเปนฺตีติ มหาสตฺตมฺปิ เตน สทิสํ กตฺวา คณฺเหยฺยุํ, ตทสฺส เนสํ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายาติ. ปติรูปนฺติ ยุตฺตํ.

ติสฺสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. เถรนามกสุตฺตวณฺณนา

๒๔๔. อตีเต ขนฺธปฺจเกติ อตีเต อตฺตภาเว. ฉนฺทราคปฺปหาเนนาติ ฉนฺทราคสฺส อจฺจนฺตเมว ชหเนน. ปหีนํ นาม โหติ อนเปกฺขปริจฺจาคโต. ปฏินิสฺสฏฺํ นาม โหติ สพฺพโส ฉฑฺฑิตตฺตา. ตโยภเวติ อิมินา อุปาทิณฺณกธมฺมานํเยว คหณํ. สพฺพา ขนฺธายตนธาตุโย จาติ อิมินา อุปาทิณฺณานมฺปิ อนุปาทิณฺณานมฺปิ ทฺวิธา ปวตฺตโลกิยธมฺมานํ คหณํ อวิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา. วิทิตํ ปากฏํ กตฺวา ิตํ ปริฺาภิสมยวเสน. เตสฺเววาติ เตภูมกธมฺเมสุ เอว. อนุปลิตฺตํ อมถิตํ อสํกิลิฏฺํ ตณฺหาทิฏฺิสํกิเลสาภาวโต. ตเทว สพฺพนฺติ เหฏฺา ตีสุปิ ปเทสุ อิธ สพฺพคฺคหเณน คหิตํ เตภูมกวฏฺฏํ. ชหิตฺวาติ ปหานาภิสมยวเสน. ตณฺหา ขียติ เอตฺถาติ ตณฺหกฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน วิมุตฺตํ. ตมหนฺติ ตํ อุตฺตมปุคฺคลํ เอกวิหารึ พฺรูมิ ตณฺหาทุติยสฺส อภาวโต. เอตฺถ จ ปริฺาปหานาภิสมยกถเนน อิตรมฺปิ อภิสมยํ อตฺถโต กถิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ.

เถรนามกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. มหากปฺปินสุตฺตวณฺณนา

๒๔๕. มหากปฺปิโนติ ปูชาวจนเมตํ ยถา ‘‘มหาโมคฺคลฺลาโน’’ติ. ตถารูปนฺติ ‘‘พุทฺโธ ธมฺโม’’ติอาทิกํ คุณวิเสสวนฺตปฏิพทฺธํ. สาสนนฺติ เทสนฺตรโต อาคตวจนํ. ชงฺฆวาณิชาติ ชงฺฆจาริโน วาณิชา. กิฺจิ สาสนนฺติ อปุพฺพปวตฺติทีปกํ กิฺจิ วจนนฺติ ปุจฺฉิ. ปีติ อุปฺปชฺชิ ยถา ตํ สุจิรํ กตาภินีหารตาย ปริปกฺกาณสฺส. อปริมาณํ คุณสฺส อปริมาณโต สพฺพฺุคุณปริทีปนโต, เสสรตนทฺวเย นิยฺยานิกภาวทีปนโต ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหตภาวทีปนโตติ วตฺตพฺพํ. ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน อปายทุกฺขโต สํสารทุกฺขโต จ อปตนฺเต ธาเรตีติ ธมฺโม. สุปริสุทฺธทิฏฺิสีลสามฺเน สํหโตติ สงฺโฆติ. รตนตฺโถ ปน ติณฺณมฺปิ สทิโส เอวาติ.

นวสตสหสฺสานิ อทาสิ เทวี. ตุมฺเหติ ราชินึ คารเวน พหุวจเนน วทติ. ราโคติ อนุคจฺฉนฺตราโค.

ชนิเตติ กมฺมกิเลเสหิ นิพฺพตฺติเต. กมฺมกิเลเสหิ ปชาตตฺตา ปชาติ ปชาสทฺโท ชนิตสทฺเทน สมานตฺโถติ อาห – ‘‘ชนิเต, ปชายาติ อตฺโถ’’ติ. อฏฺหิ วิชฺชาหีติ อมฺพฏฺสุตฺเต (ที. นิ. ๑.๒๗๘) อาคตนเยน. ตตฺถ หิ วิปสฺสนาาณมโนมยิทฺธีหิ สห ฉ อภิฺา ‘‘อฏฺ วิชฺชา’’ติ อาคตา . ตปติ ปฏิปกฺขวิธมเนน วิชฺโชตติ, ตํ สูริยสฺส วิโรจนนฺติ อาห – ‘‘ตปตีติ วิโรจตี’’ติ. ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา สมาหิเตน จิตฺเตน วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺโนติ อาห – ‘‘ทุวิเธน ฌาเนน ฌายมาโน’’ติ. สพฺพมงฺคลคาถาติ สพฺพมงฺคลาวิโรธี คาถาติ วทนฺติ. ตถา หิ วทนฺติ –

‘‘มงฺคลํ ภควา พุทฺโธ, ธมฺโม สงฺโฆ จ มงฺคลํ;

สพฺเพสมฺปิ จ สตฺตานํ, ส ปุฺวิตมงฺคล’’นฺติ.

ปูชํ กาเรตฺวา เอกํ อคาริกธมฺมกถิกํ อุปาสกํ อาห. เอตฺถ จ ‘‘ฌายี ตปตี’’ติ อิมินา อารมฺมณูปนิชฺฌานานํ คหิตตฺตา ธมฺมรตนํ คหิตเมว. ‘‘พฺราหฺมโณ’’ติ อิมินา สงฺฆรตนํ คหิตเมว. พุทฺธรตนํ ปน สรูเปเนว คหิตนฺติ.

มหากปฺปินสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. สหายกสุตฺตวณฺณนา

๒๔๖. สมฺมา สํสนฺทนวเสน เอติ ปวตฺตตีติ สเมติ, สมฺมาทิฏฺิอาทิ. สมฺมา จิรรตฺตํ จิรกาลํ สเมติ เอเตสํ อตฺถีติ จิรรตฺตํสเมติกา. เตนาห ‘‘ทีฆรตฺต’’นฺติอาทิ. อิทานิ อิเมสนฺติ เอตรหิ เอเตสํ. อยํ สาสนธมฺโม อชฺฌาสยโต ปโยคโต จ สมฺมา สํสนฺทติ สเมติ, ตสฺมา มชฺเฌ ภินฺนํ วิย สมเมว น วิสทิสํ. กิฺจ ตโต เอว พุทฺเธน ภควตา ปเวทิตธมฺมวินเย เอเตสํ ปฏิปตฺติสาสนธมฺโม โสภติ วิโรจตีติ อตฺโถ. อริยปฺปเวทิเตติ อริเยน สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺมเทว ปกาสิเต อริยธมฺเม. สมฺมเทว สมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธิวินยานํ วเสน สุฏฺุ วินีตา สพฺพกิเลสทรถปริฬาหานํ วูปสเมน.

สหายกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

ภิกฺขุสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

นิฏฺิตา จ สารตฺถปฺปกาสินิยา

สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย นิทานวคฺควณฺณนา.