📜

๑๑. วลาหกสํยุตฺตวณฺณนา

๕๕๐-๖๐๖. วลาหกสํยุตฺเต วลาหกกายิกาติ วลาหกนามเก เทวกาเย อุปฺปนฺนา อากาสจาริกเทวา. สีตวลาหกาติ สีตกรณวลาหกา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เจโตปณิธิมนฺวายาติ จิตฺตฏฺปนํ อาคมฺม. สีตํ โหตีติ ยํ วสฺสาเน วา เหมนฺเต วา สีตํ โหติ, ตํ อุตุสมุฏฺานเมว. ยํ ปน สีเตปิ อติสีตํ, คิมฺเห จ อุปฺปนฺนํ สีตํ, ตํ เทวตานุภาเวน นิพฺพตฺตํ สีตํ นาม. อุณฺหํ โหตีติ ยํ คิมฺหาเน อุณฺหํ, ตํ อุตุสมุฏฺานิกํ ปากติกเมว. ยํ ปน อุณฺเหปิ อติอุณฺหํ, สีตกาเล จ อุปฺปนฺนํ อุณฺหํ, ตํ เทวตานุภาเวน นิพฺพตฺตํ อุณฺหํ นาม. อพฺภํ โหตีติ อพฺภมณฺฑโป โหติ. อิธาปิ ยํ วสฺสาเน จ สิสิเร จ อพฺภํ อุปฺปชฺชติ, ตํ อุตุสมุฏฺานิกํ ปากติกเมว. ยํ ปน อพฺเภเยว อติอพฺภํ, สตฺตสตฺตาหมฺปิ จนฺทสูริเย ฉาเทตฺวา เอกนฺธการํ กโรติ, ยฺจ จิตฺตเวสาขมาเสสุ อพฺภํ, ตํ เทวตานุภาเวน อุปฺปนฺนํ อพฺภํ นาม. วาโต โหตีติ โย ตสฺมึ ตสฺมึ อุตุมฺหิ อุตฺตรทกฺขิณาทิปกติวาโต โหติ, อยํ อุตุสมุฏฺาโนว. โยปิ ปน รุกฺขกฺขนฺธาทิปทาลโน อติวาโต นาม อตฺถิ, อยฺเจว, โย จ อฺโปิ อกาลวาโต, อยํ เทวตานุภาวนิพฺพตฺโต นาม. เทโว วสฺสตีติ ยํ วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส วสฺสํ, ตํ อุตุสมุฏฺานเมว. ยํ ปน วสฺเสเยว อติวสฺสํ, ยฺจ จิตฺตเวสาขมาเสสุ วสฺสํ, ตํ เทวตานุภาวนิพฺพตฺตํ นาม.

ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร วสฺสวลาหกเทวปุตฺโต ตลกูฏกวาสิ ขีณาสวตฺเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. เถโร ‘‘โกสิ ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘อหํ, ภนฺเต, วสฺสวลาหกเทวปุตฺโต’’ติ. ‘‘ตุมฺหากํ กิร จิตฺเตน เทโว วสฺสตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ปสฺสิตุกามา มย’’นฺติ . ‘‘เตมิสฺสถ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เมฆสีสํ วา คชฺชิตํ วา น ปฺายติ, กถํ เตมิสฺสามา’’ติ? ‘‘ภนฺเต, อมฺหากํจิตฺเตน เทโว วสฺสติ, ตุมฺเห ปณฺณสาลํ ปวิสถา’’ติ . ‘‘สาธุ เทวปุตฺตา’’ติ โส ปาเท โธวิตฺวา ปณฺณสาลํ ปาวิสิ. เทวปุตฺโต ตสฺมึ ปวิสนฺเตเยว เอกํ คีตํ คายิตฺวา หตฺถํ อุกฺขิปิ. สมนฺตา ติโยชนฏฺานํ เอกเมฆํ อโหสิ. เถโร อทฺธตินฺโต ปณฺณสาลํ ปวิฏฺโติ. อปิจ เทโว นาเมส อฏฺหิ การเณหิ วสฺสติ นาคานุภาเวน สุปณฺณานุภาเวน เทวตานุภาเวน สจฺจกิริยาย อุตุสมุฏฺาเนน มาราวฏฺฏเนน อิทฺธิพเลน วินาสเมเฆนาติ.

วลาหกสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.