📜
๗. สาริปุตฺตสํยุตฺตํ
๑. วิเวกชสุตฺตํ
๓๓๒. เอกํ ¶ ¶ ¶ สมยํ อายสฺมา สาริปุตฺโต สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน อนฺธวนํ เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหาราย. อนฺธวนํ อชฺโฌคาเหตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ.
อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน เชตวนํ อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราโม เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘วิปฺปสนฺนานิ โข เต, อาวุโส สาริปุตฺต, อินฺทฺริยานิ; ปริสุทฺโธ มุขวณฺโณ ปริโยทาโต. กตเมนายสฺมา สาริปุตฺโต อชฺช วิหาเรน วิหาสี’’ติ?
‘‘อิธาหํ, อาวุโส, วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อาวุโส, น เอวํ โหติ – ‘อหํ ¶ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’ติ วา ‘อหํ ปมํ ฌานํ สมาปนฺโน’ติ วา ‘อหํ ปมา ฌานา วุฏฺิโต’ติ วา’’ติ. ‘‘ตถา ¶ หิ ปนายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทีฆรตฺตํ อหงฺการมมงฺการมานานุสยา สุสมูหตา. ตสฺมา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส น เอวํ โหติ – ‘อหํ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’ติ วา ‘อหํ ปมํ ฌานํ สมาปนฺโน’ติ วา ‘อหํ ปมา ฌานา วุฏฺิโต’ติ วา’’ติ. ปมํ.
๒. อวิตกฺกสุตฺตํ
๓๓๓. สาวตฺถินิทานํ ¶ . อทฺทสา โข อายสฺมา อานนฺโท…เป… อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘วิปฺปสนฺนานิ โข เต, อาวุโส สาริปุตฺต, อินฺทฺริยานิ; ปริสุทฺโธ มุขวณฺโณ ปริโยทาโต. กตเมนายสฺมา สาริปุตฺโต อชฺช วิหาเรน วิหาสี’’ติ?
‘‘อิธาหํ ¶ , อาวุโส, วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อาวุโส, น เอวํ โหติ – ‘อหํ ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชามี’ติ วา ‘อหํ ทุติยํ ฌานํ สมาปนฺโน’ติ วา ‘อหํ ทุติยา ฌานา วุฏฺิโต’ติ วา’’ติ. ‘‘ตถา หิ ปนายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทีฆรตฺตํ อหงฺการมมงฺการมานานุสยา สุสมูหตา. ตสฺมา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส น เอวํ โหติ – ‘อหํ ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชามี’ติ วา ‘อหํ ทุติยํ ฌานํ สมาปนฺโน’ติ วา ‘อหํ ทุติยา ฌานา วุฏฺิโต’ติ วา’’ติ. ทุติยํ.
๓. ปีติสุตฺตํ
๓๓๔. สาวตฺถินิทานํ. อทฺทสา โข อายสฺมา อานนฺโท…เป… ‘‘วิปฺปสนฺนานิ โข เต, อาวุโส สาริปุตฺต, อินฺทฺริยานิ; ปริสุทฺโธ มุขวณฺโณ ปริโยทาโต. กตเมนายสฺมา สาริปุตฺโต อชฺช วิหาเรน วิหาสี’’ติ?
‘‘อิธาหํ, อาวุโส, ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหาสึ สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทมิ; ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ¶ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อาวุโส, น เอวํ โหติ – ‘อหํ ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชามี’ติ วา ‘อหํ ตติยํ ฌานํ สมาปนฺโน’ติ วา ‘อหํ ตติยา ฌานา วุฏฺิโต’ติ วา’’ติ. ‘‘ตถา หิ ปนายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทีฆรตฺตํ อหงฺการมมงฺการมานานุสยา สุสมูหตา. ตสฺมา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส น เอวํ โหติ – ‘อหํ ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชามี’ติ วา ‘อหํ ตติยํ ฌานํ สมาปนฺโน’ติ วา ‘อหํ ตติยา ฌานา วุฏฺิโต’ติ วา’’ติ. ตติยํ.
๔. อุเปกฺขาสุตฺตํ
๓๓๕. สาวตฺถินิทานํ ¶ . อทฺทสา โข อายสฺมา อานนฺโท…เป… ‘‘วิปฺปสนฺนานิ โข เต, อาวุโส สาริปุตฺต, อินฺทฺริยานิ; ปริสุทฺโธ มุขวณฺโณ ปริโยทาโต. กตเมนายสฺมา สาริปุตฺโต อชฺช วิหาเรน วิหาสี’’ติ?
‘‘อิธาหํ, อาวุโส, สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ¶ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อาวุโส, น เอวํ โหติ – ‘อหํ จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชามี’ติ วา ‘อหํ จตุตฺถํ ฌานํ สมาปนฺโน’ติ วา ‘อหํ จตุตฺถา ฌานา วุฏฺิโต’ติ วา’’ติ. ‘‘ตถา หิ ปนายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทีฆรตฺตํ อหงฺการมมงฺการมานานุสยา สุสมูหตา. ตสฺมา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส น เอวํ โหติ – ‘อหํ จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชามี’ติ วา ‘อหํ จตุตฺถํ ฌานํ สมาปนฺโน’ติ วา ‘อหํ จตุตฺถา ฌานา วุฏฺิโต’ติ วา’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. อากาสานฺจายตนสุตฺตํ
๓๓๖. สาวตฺถินิทานํ ¶ . อทฺทสา โข อายสฺมา อานนฺโท…เป… ‘‘อิธาหํ, อาวุโส, สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา อนนฺโต อากาโสติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ…เป… วุฏฺิโตติ วา’’ติ. ปฺจมํ.
๖. วิฺาณฺจายตนสุตฺตํ
๓๓๗. สาวตฺถินิทานํ. อทฺทสา โข อายสฺมา อานนฺโท…เป… ‘‘อิธาหํ, อาวุโส, สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม อนนฺตํ วิฺาณนฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ…เป… วุฏฺิโตติ วา’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. อากิฺจฺายตนสุตฺตํ
๓๓๘. สาวตฺถินิทานํ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต…เป… ‘‘อิธาหํ, อาวุโส, สพฺพโส ¶ วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม, นตฺถิ กิฺจีติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ…เป… วุฏฺิโตติ วา’’ติ. สตฺตมํ.
๘. เนวสฺานาสฺายตนสุตฺตํ
๓๓๙. สาวตฺถินิทานํ ¶ . อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต…เป… ‘‘อิธาหํ, อาวุโส, อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ…เป… วุฏฺิโตติ วา’’ติ. อฏฺมํ.
๙. นิโรธสมาปตฺติสุตฺตํ
๓๔๐. สาวตฺถินิทานํ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต…เป… ¶ . ‘‘อิธาหํ, อาวุโส, สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อาวุโส, น เอวํ โหติ – ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชามี’ติ วา ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน’ติ วา ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธา วุฏฺิโต’ติ วา’’ติ. ‘‘ตถา หิ ปนายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทีฆรตฺตํ อหงฺการมมงฺการมานานุสยา สุสมูหตา. ตสฺมา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส น เอวํ โหติ – ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชามี’ติ วา ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน’ติ วา ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธา วุฏฺิโต’ติ วา’’ติ. นวมํ.
๑๐. สูจิมุขีสุตฺตํ
๓๔๑. เอกํ สมยํ อายสฺมา สาริปุตฺโต ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคเห ปิณฺฑาย ปาวิสิ. ราชคเห สปทานํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ตํ ปิณฺฑปาตํ อฺตรํ กุฏฺฏมูลํ [กุฑฺฑมูลํ (สี. สฺยา. กํ.), กุฑฺฑํ (ปี.)] นิสฺสาย ปริภฺุชติ. อถ โข สูจิมุขี ปริพฺพาชิกา เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ ¶ –
‘‘กึ ¶ นุ โข, สมณ, อโธมุโข ภฺุชสี’’ติ? ‘‘น ขฺวาหํ, ภคินิ, อโธมุโข ภฺุชามี’’ติ. ‘‘เตน หิ, สมณ, อุพฺภมุโข [อุทฺธํมุโข (สี. อฏฺ.)] ภฺุชสี’’ติ? ‘‘น ขฺวาหํ, ภคินิ, อุพฺภมุโข ภฺุชามี’’ติ. ‘‘เตน ¶ หิ, สมณ, ทิสามุโข ภฺุชสี’’ติ? ‘‘น ขฺวาหํ, ภคินิ, ทิสามุโข ภฺุชามี’’ติ. ‘‘เตน หิ, สมณ, วิทิสามุโข ภฺุชสี’’ติ? ‘‘น ขฺวาหํ, ภคินิ, วิทิสามุโข ภฺุชามี’’ติ.
‘‘‘กึ นุ, สมณ, อโธมุโข ภฺุชสี’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น ขฺวาหํ, ภคินิ, อโธมุโข ภฺุชามี’ติ วเทสิ. ‘เตน หิ, สมณ, อุพฺภมุโข ภฺุชสี’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น ขฺวาหํ, ภคินิ, อุพฺภมุโข ภฺุชามี’ติ วเทสิ. ‘เตน หิ, สมณ, ทิสามุโข ภฺุชสี’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น ขฺวาหํ, ภคินิ, ทิสามุโข ภฺุชามี’ติ วเทสิ. ‘เตน หิ, สมณ, วิทิสามุโข ภฺุชสี’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น ขฺวาหํ, ภคินิ, วิทิสามุโข ภฺุชามี’ติ วเทสิ’’.
‘‘กถฺจรหิ ¶ , สมณ, ภฺุชสี’’ติ? ‘‘เย หิ เกจิ, ภคินิ, สมณพฺราหฺมณา [สมณา วา พฺราหฺมณา วา (สี.) นิคมนวากฺเย ปน สพฺพตฺถาปิ สมาโสเยว ทิสฺสติ] วตฺถุวิชฺชาติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ [ชีวิตํ (ก.)] กปฺเปนฺติ, อิเม วุจฺจนฺติ, ภคินิ, สมณพฺราหฺมณา ‘อโธมุขา ภฺุชนฺตี’ติ. เย หิ เกจิ, ภคินิ, สมณพฺราหฺมณา นกฺขตฺตวิชฺชาติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปนฺติ, อิเม วุจฺจนฺติ, ภคินิ, สมณพฺราหฺมณา ‘อุพฺภมุขา ภฺุชนฺตี’ติ. เย หิ เกจิ, ภคินิ, สมณพฺราหฺมณา ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคาย [… นุโยคา (สี. สฺยา. กํ. ปี.), … นุโยเคน (?)] มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปนฺติ, อิเม วุจฺจนฺติ, ภคินิ, สมณพฺราหฺมณา ‘ทิสามุขา ภฺุชนฺตี’ติ. เย หิ เกจิ, ภคินิ, สมณพฺราหฺมณา องฺควิชฺชาติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ¶ ชีวิกํ กปฺเปนฺติ, อิเม วุจฺจนฺติ, ภคินิ, สมณพฺราหฺมณา ‘วิทิสามุขา ภฺุชนฺตี’’’ติ.
‘‘โส ขฺวาหํ, ภคินิ, น วตฺถุวิชฺชาติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปมิ, น นกฺขตฺตวิชฺชาติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปมิ, น ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปมิ, น องฺควิชฺชาติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปมิ. ธมฺเมน ภิกฺขํ ปริเยสามิ; ธมฺเมน ภิกฺขํ ปริเยสิตฺวา ภฺุชามี’’ติ.
อถ ¶ ¶ โข สูจิมุขี ปริพฺพาชิกา ราชคเห รถิยาย รถิยํ, สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาโรเจสิ – ‘‘ธมฺมิกํ สมณา สกฺยปุตฺติยา อาหารํ อาหาเรนฺติ; อนวชฺชํ [อนวชฺเชน (ก.)] สมณา สกฺยปุตฺติยา อาหารํ อาหาเรนฺติ. เทถ สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ ปิณฺฑ’’นฺติ. ทสมํ.
สาริปุตฺตสํยุตฺตํ สมตฺตํ.
ตสฺสุทฺทานํ –
วิเวกชํ อวิตกฺกํ, ปีติ อุเปกฺขา จตุตฺถกํ;
อากาสฺเจว วิฺาณํ, อากิฺจํ เนวสฺินา;
นิโรโธ นวโม วุตฺโต, ทสมํ สูจิมุขี จาติ.