📜

๘. นาคสํยุตฺตํ

๑. สุทฺธิกสุตฺตํ

๓๔๒. สาวตฺถินิทานํ . ‘‘จตสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, นาคโยนิโย. กตมา จตสฺโส? อณฺฑชา นาคา, ชลาพุชา นาคา, สํเสทชา นาคา, โอปปาติกา นาคา – อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส นาคโยนิโย’’ติ. ปมํ.

๒. ปณีตตรสุตฺตํ

๓๔๓. สาวตฺถินิทานํ. ‘‘จตสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, นาคโยนิโย. กตมา จตสฺโส? อณฺฑชา นาคา, ชลาพุชา นาคา, สํเสทชา นาคา, โอปปาติกา นาคา. ตตฺร , ภิกฺขเว, อณฺฑเชหิ นาเคหิ ชลาพุชา จ สํเสทชา จ โอปปาติกา จ นาคา ปณีตตรา. ตตฺร, ภิกฺขเว, อณฺฑเชหิ จ ชลาพุเชหิ จ นาเคหิ สํเสทชา จ โอปปาติกา จ นาคา ปณีตตรา. ตตฺร, ภิกฺขเว, อณฺฑเชหิ จ ชลาพุเชหิ จ สํเสทเชหิ จ นาเคหิ โอปปาติกา นาคา ปณีตตรา. อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส นาคโยนิโย’’ติ. ทุติยํ.

๓. อุโปสถสุตฺตํ

๓๔๔. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ อณฺฑชา นาคา อุโปสถํ อุปวสนฺติ โวสฺสฏฺกายา จ ภวนฺตี’’ติ?

‘‘อิธ , ภิกฺขุ, เอกจฺจานํ อณฺฑชานํ นาคานํ เอวํ โหติ – ‘มยํ โข ปุพฺเพ กาเยน ทฺวยการิโน อหุมฺห, วาจาย ทฺวยการิโน, มนสา ทฺวยการิโน. เต มยํ กาเยน ทฺวยการิโน, วาจาย ทฺวยการิโน, มนสา ทฺวยการิโน, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปนฺนา. สจชฺช มยํ กาเยน สุจริตํ จเรยฺยาม, วาจาย สุจริตํ จเรยฺยาม, มนสา สุจริตํ จเรยฺยาม, เอวํ มยํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยาม. หนฺท, มยํ เอตรหิ กาเยน สุจริตํ จราม, วาจาย สุจริตํ จราม, มนสา สุจริตํ จรามา’ติ. อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ อณฺฑชา นาคา อุโปสถํ อุปวสนฺติ โวสฺสฏฺกายา จ ภวนฺตี’’ติ. ตติยํ.

๔. ทุติยอุโปสถสุตฺตํ

๓๔๕. สาวตฺถินิทานํ . อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ เยน ภควา…เป… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ ชลาพุชา นาคา อุโปสถํ อุปวสนฺติ โวสฺสฏฺกายา จ ภวนฺตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภิกฺขุ…เป… อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ ชลาพุชา นาคา อุโปสถํ อุปวสนฺติ โวสฺสฏฺกายา จ ภวนฺตี’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ตติยอุโปสถสุตฺตํ

๓๔๖. สาวตฺถินิทานํ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สํเสทชา นาคา อุโปสถํ อุปวสนฺติ โวสฺสฏฺกายา จ ภวนฺตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภิกฺขุ…เป… อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สํเสทชา นาคา อุโปสถํ อุปวสนฺติ โวสฺสฏฺกายา จ ภวนฺตี’’ติ. ปฺจมํ.

๖. จตุตฺถอุโปสถสุตฺตํ

๓๔๗. สาวตฺถินิทานํ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ โอปปาติกา นาคา อุโปสถํ อุปวสนฺติ โวสฺสฏฺกายา จ ภวนฺตี’’ติ?

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺจานํ โอปปาติกานํ นาคานํ เอวํ โหติ – ‘มยํ โข ปุพฺเพ กาเยน ทฺวยการิโน อหุมฺห, วาจาย ทฺวยการิโน, มนสา ทฺวยการิโน. เต มยํ กาเยน ทฺวยการิโน, วาจาย ทฺวยการิโน, มนสา ทฺวยการิโน, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปนฺนา. สจชฺช มยํ กาเยน สุจริตํ จเรยฺยาม , วาจาย… มนสา สุจริตํ จเรยฺยาม, เอวํ มยํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยาม. หนฺท, มยํ เอตรหิ กาเยน สุจริตํ จราม, วาจาย… มนสา สุจริตํ จรามา’ติ. อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ โอปปาติกา นาคา อุโปสถํ อุปวสนฺติ โวสฺสฏฺกายา จ ภวนฺตี’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. สุตสุตฺตํ

๓๔๘. สาวตฺถินิทานํ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ ?

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี โหติ, มนสา ทฺวยการี โหติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘อณฺฑชา นาคา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยสุตสุตฺตํ

๓๔๙. สาวตฺถินิทานํ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ชลาพุชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ?…เป… อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ชลาพุชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตีติ. อฏฺมํ.

๙. ตติยสุตสุตฺตํ

๓๕๐. สาวตฺถินิทานํ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สํเสทชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ?…เป… อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สํเสทชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตีติ. นวมํ.

๑๐. จตุตฺถสุตสุตฺตํ

๓๕๑. สาวตฺถินิทานํ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ?

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการี. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘โอปปาติกา นาคา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ. ทสมํ.

๑๑-๒๐. อณฺฑชทานูปการสุตฺตทสกํ

๓๕๒-๓๖๑. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ?

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการี. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘อณฺฑชา นาคา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส อนฺนํ เทติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ…เป… อุปปชฺชตีติ…เป… โส ปานํ เทติ…เป… วตฺถํ เทติ…เป… ยานํ เทติ…เป… มาลํ เทติ…เป… คนฺธํ เทติ…เป… วิเลปนํ เทติ…เป… เสยฺยํ เทติ…เป… อาวสถํ เทติ…เป… ปทีเปยฺยํ เทติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ. วีสติมํ.

๒๑-๕๐. ชลาพุชาทิทานูปการสุตฺตตฺตึสกํ

๓๖๒-๓๙๑. สาวตฺถินิทานํ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ชลาพุชานํ นาคานํ…เป… สํเสทชานํ นาคานํ…เป… โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ?

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการี. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘โอปปาติกา นาคา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส อนฺนํ เทติ…เป… ปานํ เทติ…เป… ปทีเปยฺยํ เทติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ.

(อิมินา เปยฺยาเลน ทส ทส สุตฺตนฺตา กาตพฺพา. เอวํ จตูสุ โยนีสุ จตฺตาลีสํ เวยฺยากรณา โหนฺติ. ปุริเมหิ ปน ทสหิ สุตฺตนฺเตหิ สห โหนฺติ ปณฺณาสสุตฺตนฺตาติ.)

นาคสํยุตฺตํ สมตฺตํ.

ตสฺสุทฺทานํ –

สุทฺธิกํ ปณีตตรํ, จตุโร จ อุโปสถา;

ตสฺส สุตํ จตุโร จ, ทานูปการา จ ตาลีสํ;

ปณฺณาส ปิณฺฑโต สุตฺตา, นาคมฺหิ สุปฺปกาสิตาติ.