📜

๙. สุปณฺณสํยุตฺตํ

๑. สุทฺธิกสุตฺตํ

๓๙๒. สาวตฺถินิทานํ . ‘‘จตสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, สุปณฺณโยนิโย. กตมา จตสฺโส? อณฺฑชา สุปณฺณา, ชลาพุชา สุปณฺณา, สํเสทชา สุปณฺณา, โอปปาติกา สุปณฺณา – อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส สุปณฺณโยนิโย’’ติ. ปมํ.

๒. หรนฺติสุตฺตํ

๓๙๓. สาวตฺถินิทานํ . ‘‘จตสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, สุปณฺณโยนิโย. กตมา จตสฺโส? อณฺฑชา…เป… อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส สุปณฺณโยนิโย. ตตฺร, ภิกฺขเว, อณฺฑชา สุปณฺณา อณฺฑเชว นาเค หรนฺติ, น ชลาพุเช, น สํเสทเช, น โอปปาติเก. ตตฺร, ภิกฺขเว, ชลาพุชา สุปณฺณา อณฺฑเช จ ชลาพุเช จ นาเค หรนฺติ, น สํเสทเช, น โอปปาติเก. ตตฺร, ภิกฺขเว, สํเสทชา สุปณฺณา อณฺฑเช จ ชลาพุเช จ สํเสทเช จ นาเค หรนฺติ, น โอปปาติเก. ตตฺร, ภิกฺขเว, โอปปาติกา สุปณฺณา อณฺฑเช จ ชลาพุเช จ สํเสทเช จ โอปปาติเก จ นาเค หรนฺติ. อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส สุปณฺณโยนิโย’’ติ. ทุติยํ.

๓. ทฺวยการีสุตฺตํ

๓๙๔. สาวตฺถินิทานํ. อฺตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการี. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘อณฺฑชา สุปณฺณา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย , เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ. ตติยํ.

๔-๖. ทุติยาทิทฺวยการีสุตฺตตฺติกํ

๓๙๕-๓๙๗. สาวตฺถินิทานํ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ชลาพุชานํ สุปณฺณานํ…เป… สํเสทชานํ สุปณฺณานํ…เป… โอปปาติกานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการี. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘โอปปาติกา สุปณฺณา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ. ฉฏฺํ.

๗-๑๖. อณฺฑชทานูปการสุตฺตทสกํ

๓๙๘-๔๐๗. สาวตฺถินิทานํ . เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการี. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘อณฺฑชา สุปณฺณา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส อนฺนํ เทติ…เป… ปานํ เทติ… วตฺถํ เทติ… ยานํ เทติ… มาลํ เทติ… คนฺธํ เทติ… วิเลปนํ เทติ… เสยฺยํ เทติ… อาวสถํ เทติ… ปทีเปยฺยํ เทติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ. โสฬสมํ.

๑๗-๔๖. ชลาพุชาทิทานูปการสุตฺตตึสกํ

๔๐๘-๔๓๗. สาวตฺถินิทานํ . เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ชลาพุชานํ สุปณฺณานํ…เป… สํเสทชานํ สุปณฺณานํ…เป… โอปปาติกานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการี. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘โอปปาติกา สุปณฺณา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส อนฺนํ เทติ…เป… ปานํ เทติ…เป… ปทีเปยฺยํ เทติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ. ฉจตฺตาลีสมํ.

(เอวํ ปิณฺฑเกน ฉจตฺตาลีสํ สุตฺตนฺตา โหนฺติ.)

สุปณฺณสํยุตฺตํ สมตฺตํ.

ตสฺสุทฺทานํ –

สุทฺธิกํ หรนฺติ เจว, ทฺวยการี จ จตุโร;

ทานูปการา ตาลีสํ, สุปณฺเณ สุปฺปกาสิตาติ.