📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

สํยุตฺตนิกาเย

ขนฺธวคฺคฏีกา

๑. ขนฺธสํยุตฺตํ

๑. นกุลปิตุวคฺโค

๑. นกุลปิตุสุตฺตวณฺณนา

. ภคฺคา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา. เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหีวเสน ‘‘ภคฺคา’’ตฺเวว วุจฺจตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘เอวํนามเก ชนปเท’’ติ, เอวํ พหุวจนวเสน ลทฺธนาเม’’ติ อตฺโถ. ตสฺมึ วนสณฺเฑติ โย ปน วนสณฺโฑ ปุพฺเพ มิคานํ อภยตฺถาย ทินฺโน, ตสฺมึ วนสณฺเฑ. ยสฺมา โส คหปติ ตสฺมึ นคเร ‘‘นกุลปิตา’’ติ ปุตฺตสฺส วเสน ปฺายิตฺถ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘นกุลปิตา’’ติ นกุลสฺส นาม ทารกสฺส ปิตาติ อตฺโถ. ภริยาปิสฺส ‘‘นกุลมาตา’’ติ ปฺายิตฺถ.

ชราชิณฺโณติ ชราวเสน ชิณฺโณ, น พฺยาธิอาทีนํ วเสน ชิณฺโณ. วโยวุฑฺโฒติ ชิณฺณตฺตา เอว วโยวุฑฺฒิปฺปตฺติยา วุฑฺโฒ, น สีลาทิวุฑฺฒิยา. ชาติยา มหนฺตตาย จิรรตฺตตาย ชาติมหลฺลโก. ติยทฺธคโตติ ปโม มชฺฌิโม ปจฺฉิโมติ ตโย อทฺเธ คโต. ตตฺถ ปมํ ทุติยฺจ อติกฺกนฺตตฺตา ปจฺฉิมํ อุปคตตฺตา วโยอนุปฺปตฺโต. อาตุรกาโยติ ทุกฺขเวทนาปวิสตาย อนสฺสาทกาโย. เคลฺํ ปน ทุกฺขคติกนฺติ ‘‘คิลานกาโย’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ สจฺจวิภงฺเค (วิภ. ๑๙๐ อาทโย) ทุกฺขสจฺจนิทฺเทเส ทุกฺขคฺคหเณเนว คหิตตฺตา พฺยาธิ น นิทฺทิฏฺโ. นิจฺจปคฺฆรณฏฺเนาติ สพฺพทา อสุจิปคฺฆรณภาเวน. โส ปนสฺส อาตุรภาเวนาติ อาห – ‘‘อาตุรํเยว นามา’’ติ. วิเสเสนาติ อธิกภาเวน. อาตุรตีติ อาตุโร. สงฺคามปฺปตฺโต สนฺตตฺตกาโย. ชราย อาตุรตา ชราตุรตา. กุสลปกฺขวฑฺฒเนน มโน ภาเวนฺตีติ มโนภาวนียา. มนสา วา ภาวนียา สมฺภาวนียาติ มโนภาวนียา. อนุสาสตูติ อนุ อนุ สาสตูติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห – ‘‘ปุนปฺปุนํ สาสตู’’ติ. อปราปรํ ปวตฺติตํ หิตวจนํ. อโนติณฺเณ วตฺถุสฺมึ โย เอวํ กโรติ, ตสฺส อยํ คุโณ โทโสติ วจนํ. ตนฺติวเสนาติ ตนฺติสนฺนิสฺสเยน อยํ อนุสาสนี นาม. ปเวณีติ ตนฺติยา เอว เววจนํ.

อณฺฑํ วิย ภูโตติ อธิโกปมา กายสฺส อณฺฑโกสโต อพลทุพฺพลภาวโต. เตนาห ‘‘อณฺฑํ หี’’ติอาทิ. พาโลเยว ตาทิสตฺตภาวสมงฺคี มุหุตฺตมฺปิ อาโรคฺยํ ปฏิชานนฺโต.

วิปฺปสนฺนานีติ ปกติมาการํ อติกฺกมิตฺวา วิเสเสน ปสนฺนานิ. เตนาห – ‘‘สุอุ ปสนฺนานี’’ติ. ปสนฺนจิตฺตสมุฏฺิตรูปสมฺปทาหิ ตาหิ ตสฺส มุขวณฺณสฺส ปาริสุทฺธีติ อาห – ‘‘ปริสุทฺโธติ นิทฺโทโส’’ติ. เตเนวาห ‘‘นิรุปกฺกิเลสตายา’’ติอาทิ. เอเตเนวสฺสินฺทฺริยวิปฺปสนฺนตาการณมฺปิ สํวณฺณิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอส มุขวณฺโณ. นยคฺคาหปฺา กิเรสาติ อิทํ อนาวชฺชนวเสเนว วุตฺตภาวํ สนฺธายาห.

ยํ เนว ปุตฺตสฺสาติอาทิ ‘‘โอวทตุ โน, ภนฺเต, ภควา ยถา มยํ ปรโลเกปิ อฺมฺํ สมาคจฺเฉยฺยามา’’ติ วุตฺตวจนํ สนฺธาย วุตฺตเมว. มธุรธมฺมเทสนาเยว สตฺถุ สมฺมุขา ปฏิลทฺธา, ตสฺส อตฺตโน เปมคารวคหิตตฺตา ‘‘อมตาภิเสโก’’ติ เวทิตพฺโพ.

อิทํ ปททฺวยํ. อารกตฺตา กิเลเสหิ มคฺเคน สมุจฺฉินฺนตฺตา. อนเยติ อวฑฺฒิยํ, อนตฺเถติ อตฺโถ. อนเย วา อนุปาเย. น อิริยนโต อวตฺตนโต. อเยติ วฑฺฒิยํ อตฺเถ อุปาเย จ. อรณียโตติ ปยิรุปาสิตพฺพโต. นิรุตฺตินเยน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา ปุริเมสุ อตฺถวิกปฺเปสุ , ปจฺฉิเม ปน สทฺทสตฺถวเสนปิ. ยทิปิ อริยสทฺโท ‘‘เย หิ โว อริยา ปริสุทฺธกายกมฺมนฺตา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๕) วิสุทฺธาสยปโยเคสุ ปุถุชฺชเนสุปิ วฏฺฏติ, อิธ ปน อริยมคฺคาธิคเมน สพฺพโลกุตฺตรภาเวน จ อริยภาโว อธิปฺเปโตติ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘พุทฺธา จา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปจฺเจกพุทฺธา ตถาคตสาวกา จ สปฺปุริสาติ อิทํ ‘‘อริยา สปฺปุริสา’’ติ อิธ วุตฺตปทานํ อตฺถํ อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน นิปฺปริยายโต อริยสปฺปุริสภาวา อภินฺนสภาวา, ตสฺมา ‘‘สพฺเพว วา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

เอตฺตาวตา หิ พุทฺธสาวโก วุตฺโต, ตสฺส หิ เอกนฺเตน กลฺยาณมิตฺโต อิจฺฉิตพฺโพ ปรโต โฆสมนฺตเรน ปมมคฺคสฺส อนุปฺปชฺชนโต. วิเสสโต จสฺส ภควาว ‘‘กลฺยาณมิตฺโต’’ติ อธิปฺเปโต. วุตฺตฺเหตํ ‘‘มมฺหิ, อานนฺท, กลฺยาณมิตฺตํ อาคมฺม ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๑.๑๒๙; ๕.๒). โส เอว จ อเวจฺจปสาทาธิคเมน ทฬฺหภตฺติ นาม. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ยํ มยา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺตี’’ติ (อุทา. ๔๕; จูฬว. ๓๘๕). กตฺุตาทีหิ ปจฺเจกพุทฺธพุทฺธาติ เอตฺถ กตํ ชานาตีติ กตฺู. กตํ วิทิตํ ปากฏํ กโรตีติ กตเวที. ปจฺเจกพุทฺธา หิ อเนเกสุปิ กปฺปสตสหสฺเสสุ กตํ อุปการํ ชานนฺติ, กตฺจ ปากฏํ กโรนฺติ สติชนนอามิสปฏิคฺคหณาทินา. ตถา สํสารทุกฺขทุกฺขิตสฺส สกฺกจฺจํ กโรนฺติ กิจฺจํ, ยํ อตฺตนา กาตุํ สกฺกา. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน กปฺปานํ อสงฺขฺเยยฺยสหสฺเสสุปิ กตํ อุปการํ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสยฺจ ชานนฺติ, ปากฏฺจ กโรนฺติ. สีโห วิย จ เอวํ สพฺพตฺถ สกฺกจฺจเมว ธมฺมเทสนํ กโรนฺเตน พุทฺธกิจฺจํ กโรนฺติ. ยาย ปฏิปตฺติยา อริยา ทิฏฺา นาม โหนฺติ, ตสฺสา อปฺปฏิปชฺชนํ, ตตฺถ จ อาทราภาโว อริยานํ อทสฺสนสีลตา, น จ ทสฺสเน สาธุการิตาติ เวทิตพฺพา. จกฺขุนา อทสฺสาวีติ เอตฺถ จกฺขุ นาม น มํสจกฺขุ เอว, อถ โข ทิพฺพจกฺขุปีติ อาห ‘‘ทิพฺพจกฺขุนา วา’’ติ. อริยภาโวติ เยหิ โยคโต ‘‘อริยา’’ติ วุจฺจนฺติ, เต มคฺคผลธมฺมา ทฏฺพฺพา.

ตตฺราติ าณทสฺสนสฺเสว ทสฺสนภาเว. วตฺถูติ อธิปฺเปตตฺถาปนการณํ. เอวํ วุตฺเตปีติ เอวํ อฺาปเทเสน อตฺตุปนายิกํ กตฺวา วุตฺเตปิ. ธมฺมนฺติ โลกุตฺตรธมฺมํ, จตุสจฺจธมฺมํ วา. อริยกรธมฺมา อนิจฺจานุปสฺสนาทโย, วิปสฺสิยมานา วา อนิจฺจาทโย, จตฺตาริ วา อริยสจฺจานิ.

อวินีโตติ น วินีโต อธิสีลสิกฺขาทีนํ วเสน น สิกฺขิโต. เยสํ สํวรวินยาทีนํ อภาเวน อยํ ‘‘อวินีโต’’ติ วุจฺจติ, เต ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘ทุวิโธ วินโย นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สีลสํวโรติ ปาติโมกฺขสํวโร เวทิตพฺโพ, โส จ อตฺถโต กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม. สติสํวโรติ อินฺทฺริยารกฺขา, สา จ ตถาปวตฺตา สติเยว. าณสํวโรติ ‘‘โสตานํ สํวรํ พฺรูมี’’ติ (สุ. นิ. ๑๐๔๑) วตฺวา ‘‘ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ (สุ. นิ. ๑๐๔๑) วจนโต โสตสงฺขาตานํ ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตอวิชฺชาอวสิฏฺกิเลสานํ สํวโร ปิทหนํ สมุจฺเฉทาณนฺติ เวทิตพฺพํ. ขนฺติสํวโรติ อธิวาสนา, สา จ ตถาปวตฺตา ขนฺธา, อโทโส วา, ‘‘ปฺา’’ติ เกจิ วทนฺติ. วีริยสํวโร กามวิตกฺกาทีนํ วิโนทนวเสน ปวตฺตํ วีริยเมว. เตน เตน องฺเคน ตสฺส ตสฺส องฺคสฺส ปหานํ ตทงฺคปฺปหานํ. วิกฺขมฺภนวเสน ปหานํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ. เสสปทตฺตเยปิ เอเสว นโย.

อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรนาติอาทิ สีลสํวราทีนํ วิวรณํ. ตตฺถ สมุเปโตติ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน ‘‘อุปคโต’’ติอาทินา วิภงฺเค (วิภ. ๕๑๑) อาคตํ สํวรวิภงฺคํ ทสฺเสติ. กายทุจฺจริตาทีนนฺติ ทุสฺสีลฺยสงฺขาตานํ กายวจีทุจฺจริตาทีนํ มุฏฺสจฺจสงฺขาตสฺส ปมาทสฺส, อภิชฺฌาทีนํ วา อกฺขนฺติอฺาณโกสชฺชานฺจ. สํวรณโตติ ปิทหนโต, วินยนโตติ กายวาจาจิตฺตานํ วิรูปปวตฺติยา วินยนโต, กายทุจฺจริตาทีนํ วา อปนยนโต, กายาทีนํ วา ชิมฺหปวตฺตึ วิจฺฉินฺทิตฺวา อุชุกนยนโตติ อตฺโถ. ปจฺจยสมวาเย อุปฺปชฺชนารหานํ กายทุจฺจริตาทีนํ ตถา ตถา อนุปฺปาทนเมว สํวรณํ วินยนฺจ เวทิตพฺพํ.

ยํ ปหานนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘นามรูปปริจฺเฉทาทีสุ วิปสฺสนาาเณสู’’ติ กสฺมา วุตฺตํ? นนุ นามรูปปริจฺเฉทปจฺจยปริคฺคหกงฺขาวิตรณานิ น วิปสฺสนาาณานิ สมฺมสนากาเรน อปฺปวตฺตนโต? สจฺจเมตํ, วิปสฺสนาาณสฺส ปน อธิฏฺานภาวโต เอวํ วุตฺตํ. นามรูปมตฺตมิทํ, ‘‘นตฺถิ เอตฺถ อตฺตา วา อตฺตนิยํ วา’’ติ เอวํ ปวตฺตาณํ นามรูปววตฺถานํ. สติ วิชฺชมาเน ขนฺธปฺจกสงฺขาเต กาเย, สยํ วา สตี ตสฺมึ กาเย ทิฏฺิ สกฺกายทิฏฺิ, สา จ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ เอวํ ปวตฺตา อตฺตทิฏฺิ. ตสฺส นามรูปสฺส กมฺมาวิชฺชาทิปจฺจยปริคฺคณฺหนาณํ ปจฺจยปริคฺคโห. ‘‘นตฺถิ เหตุ, นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสายา’’ติอาทินยปฺปวตฺตา อเหตุทิฏฺิ. ‘‘อิสฺสรปุริสปชาปติปกติอณุกาลาทีหิ โลโก ปวตฺตติ นิวตฺตติ จา’’ติ ตถา ตถา ปวตฺตา ทิฏฺิ วิสมเหตุทิฏฺิ. ตสฺเสวาติ ปจฺจยปริคฺคหสฺเสว. กงฺขาวิตรเณนาติ ยถา เอตรหิ นามรูปสฺส กมฺมาทิปจฺจยโต อุปฺปตฺติ, เอวํ อตีเต อนาคเตปีติ ตีสุ กาเลสุ วิจิกิจฺฉาปนยนาเณน. กถํกถีภาวสฺสาติ ‘‘อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธาน’’นฺติอาทินยปวตฺตาย (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) สํสยปฺปวตฺติยา. กลาปสมฺมสเนนาติ ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๔๘-๔๙) ขนฺธปฺจกํ เอกาทสสุ โอกาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา สมฺมสนวเสน ปวตฺเตน วิปสฺสนาาเณน. อหํ มมาติ คาหสฺสาติ ‘‘อตฺตา อตฺตนิย’’นฺติ คหณสฺส. มคฺคามคฺคววตฺถาเนนาติ มคฺคามคฺคาณวิสุทฺธิยา. อมคฺเค มคฺคสฺายาติ อมคฺเค โอภาสาทิเก ‘‘มคฺโค’’ติ อุปฺปนฺนสฺาย. ยสฺมา สมฺมเทว สงฺขารานํ อุทยํ ปสฺสนฺโต ‘‘เอวเมเต สงฺขารา อนุรูปการณโต อุปฺปชฺชนฺติ, น ปน อุจฺฉิชฺชนฺตี’’ติ คณฺหาติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อุทยทสฺสเนน อุจฺเฉททิฏฺิยา’’ติ. ยสฺมา ปน สงฺขารานํ วยํ ‘‘ยทิปิเม สงฺขารา อวิจฺฉินฺนา วตฺตนฺติ, อุปฺปนฺนุปฺปนฺนา ปน อปฺปฏิสนฺธิกา นิรุชฺฌนฺเตวา’’ติ ปสฺสโต กุโต สสฺสตคฺคาโห. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘วยทสฺสเนน สสฺสตทิฏฺิยา’’ติ. ภยทสฺสเนนาติ ภยตูปฏฺานาเณน. สภเยติ สพฺพภยานํ อากรภาวโต สกลทุกฺขวูปสมสงฺขาตสฺส ปรมสฺสาสสฺส ปฏิปกฺขภาวโต จ สภเย ขนฺธปฺจเก. อภยสฺายาติ ‘‘อภยํ เขม’’นฺติ อุปฺปนฺนสฺาย. อสฺสาทสฺา นาม ปฺจุปาทานกฺขนฺเธสุ อสฺสาทนวเสน ปวตฺตสฺา, โย ‘‘อาลยาภินิเวโส’’ติปิ วุจฺจติ. อภิรติสฺา ตตฺเถว อภิรมณวเสน ปวตฺตสฺา, ยา ‘‘นนฺที’’ติปิ วุจฺจติ. อมุจฺจิตุกามตา อาทานํ. อนุเปกฺขา สงฺขาเรหิ อนิพฺพินฺทนํ, สาลยตาติ อตฺโถ. ธมฺมฏฺิติยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาเท. ปฏิโลมภาโว สสฺสตุจฺเฉทคฺคาโห, ปจฺจยาการปฏิจฺฉาทกโมโห วา. นิพฺพาเนจ ปฏิโลมภาโว สงฺขาเรสุ นติ, นิพฺพานปฏิจฺฉาทกโมโห วา. สงฺขารนิมิตฺตคฺคาโหติ ยาทิสสฺส กิเลสสฺส อปฺปหีนตา วิปสฺสนา สงฺขารนิมิตฺตํ น มุฺจติ, โส กิเลโส, โย ‘‘สํโยคาภินิเวโส’’ติปิ วุจฺจติ, สงฺขารนิมิตฺตคฺคาหสฺส, อติกฺกมนเมว วา ปหานํ.

ปวตฺติ เอว ปวตฺติภาโว, ปริยุฏฺานนฺติ อตฺโถ. นีวรณาทิธมฺมานนฺติ อาทิ-สทฺเทน นีวรณปกฺขิยา กิเลสา วิตกฺกวิจาราทโย จ คยฺหนฺติ. จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ภาวิตตฺตา อจฺจนฺตํ อปฺปวตฺติภาเวน ยํ ปหานนฺติ สมฺพนฺโธ. เกน ปน ปหานนฺติ? ‘‘อริยมคฺเคเหวา’’ติ วิฺายมาโนยมตฺโถ เตสํ ภาวิตตฺตา อปฺปวตฺติวจนโต. ‘‘สมุทยปกฺขิกสฺสา’’ติ เอตฺถ จตฺตาโรปิ มคฺคา จตุสจฺจาภิสมยาติ กตฺวา เตหิ ปหาตพฺเพน เตน เตน สมุทยสงฺขาเตน โลเภน สห ปหาตพฺพตฺตา สมุทยสภาวตฺตา จ. สจฺจวิภงฺเค จ สพฺพกิเลสานํ สมุทยภาวสฺส วุตฺตตฺตา ‘‘สมุทยปกฺขิกา’’ติ ทิฏฺิอาทโย วุจฺจนฺติ. ปฏิปสฺสทฺธตฺตํ วูปสนฺตตา.

สงฺขตนิสฺสฏตา สงฺขารสภาวาภาโว. ปหีนสพฺพสงฺขตนฺติ วิรหิตสพฺพสงฺขตํ, วิสงฺขารนฺติ อตฺโถ. ปหานฺจ ตํ วินโย จาติ ปหานวินโย ปุริเมน อตฺเถน. ทุติเยน ปน ปหียตีติ ปหานํ, ตสฺส วินโยติ โยเชตพฺโพ.

ภินฺนสํวรตฺตาติ นฏฺสํวรตฺตา, สํวราภาวโตติ อตฺโถ. เตน อสมาทินฺนสํวโรปิ สงฺคหิโตว โหติ. สมาทาเนน หิ สมฺปาเทตพฺโพ สํวโร, ตทภาเว น โหตีติ. อริเยติ อริโย. ปจฺจตฺตวจนฺเหตํ. เอเสเสติ เอโส เอโส, อตฺถโต อนฺโติ อตฺโถ. ตชฺชาเตติ อตฺถโต ตํสภาโว, สปฺปุริโส อริยสภาโว, อริโย จ สปฺปุริสภาโวติ อตฺโถ.

โส อหนฺติ อตฺตนา ปริกปฺปิตํ อตฺตานํ ทิฏฺิคติโก วทติ. ‘‘อหํพุทฺธินิพนฺธโน อตฺตา’’ติ หิ อตฺตวาทิโน ลทฺธิ. อทฺวยนฺติ ทฺวยตารหิตํ. อภินฺนํ วณฺณเมว ‘‘อจฺจี’’ติ คเหตฺวา ‘‘อจฺจีติ วณฺโณ เอวา’’ติ เตสํ เอกตฺตํ ปสฺสนฺโต วิย ยถาปริกปฺปิตํ อตฺตานํ ‘‘รูป’’นฺติ, ยถาทิฏฺํ วา รูปํ, ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา เตสํ เอกตฺตํ ปสฺสนฺโต ทฏฺพฺโพ. เอตฺถ จ ‘‘รูปํ อตฺตา’’ติ อิมิสฺสา ปวตฺติยา อภาเวปิ รูเป อตฺตคฺคหณํ ปวตฺตมานํ อจฺจิยํ วณฺณคฺคหณํ วิย ‘‘อทฺวยทสฺสน’’นฺติ วุตฺตํ. อุปมาโย จ อนฺตฺตาทิคหณนิทสฺสนวเสเนว วุตฺตา, น วณฺณาทีนํ วิย อตฺตโน วิชฺชมานทสฺสนตฺถํ. น หิ อตฺตนิ สามิภาเวน รูปฺจ สกิฺจนภาเวน สมนุปสฺสติ. อตฺตนิ วา รูปนฺติ อตฺตานํ รูปสฺส สภาวโต อาธารณภาเวน. รูปสฺมึ วา อตฺตานนฺติ รูปสฺส อตฺตโน อาธารณภาเวน ทิฏฺิปสฺสนาย ปสฺสติ. ปริยุฏฺฏฺายีติ ปริยุฏฺานปฺปตฺตาหิ ทิฏฺิตณฺหาหิ ‘‘รูปํ อตฺตา, รูปวา อตฺตา’’ติอาทินา ขนฺธปฺจกํ มิจฺฉา คเหตฺวา ติฏฺนโต. เตนาห ‘‘ปริยุฏฺานากาเรนา’’ติอาทิ. เอเสว นโยติ โย ‘‘อิเธกจฺโจ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา รูปกฺขนฺเธ วุตฺโต สํวณฺณนานโย, เวทนากฺขนฺธาทีสุปิ เอโส เอว นโย เวทิตพฺโพ.

สุทฺธรูปเมวาติ อรูเปน อมิสฺสิตํ เกวลํ รูปเมว. อรูปนฺติ สุทฺธอรูปํ รูปสฺส อคฺคหิตตฺตา. จตูสุ ขนฺเธสุ ติณฺณํ ติณฺณํ วเสนาติ จตูสุ ขนฺเธสุ ติณฺณํ ติณฺณํ คหณวเสน รูปารูปมิสฺสโก อตฺตา กถิโต ตสฺมึ ตสฺมึ คหเณ เวทนาทิวินิมุตฺตอรูปธมฺเม กสิณรูเปน สทฺธึ สพฺพรูปธมฺเม จ เอกชฺฌํ คหณสิทฺธิโต. ปฺจสุ าเนสุ อุจฺเฉททิฏฺิ กถิตา, เต เต เอว ธมฺเม ‘‘อตฺตา’’ติ คหณโต เตสฺจ อุจฺเฉทภาวโต. อวเสเสสุ ปน ปนฺนรสสุ าเนสุ รูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวาปิ ทิฏฺิคติโก ตตฺถ นิจฺจสฺํ น วิสฺสชฺเชติ กสิณรูเปน ตํ มิสฺเสตฺวา ตสฺส จ อุปฺปาทาทีนํ อทสฺสนโต, ตสฺมาสฺส ตตฺถปิ โหติเยว สสฺสตทิฏฺิ เอกจฺจสสฺสตคาหวเสนปิ. มคฺคาวรณา วิปรีตทสฺสนโต. น สคฺคาวรณา อกมฺมปถปฺปตฺตตาย. อกิริยาเหตุกนตฺถิกทิฏฺิโย เอว หิ กมฺมปถทิฏฺิโย.

กาโยติ รูปกาโย. โส อาตุโรเยว อสวสภาวโต. ราคโทสโมหานุคตนฺติ อปฺปหีนราคโทสโมหสนฺตาเน ปวตฺตํ. อิธาติ อิมสฺมึ สุตฺเต. ทสฺสิตํ อาตุรภาเวน. นิกฺกิเลสตายาติ สยํ ปหีนกิเลสสนฺตานคตตาย. เสขา เนว อาตุรจิตฺตา ปหีนกิเลเส อุปาทาย, อปฺปหีเน ปน อุปาทาย อาตุรจิตฺตา. อนาตุรจิตฺตตํเยว ภชนฺติ วฏฺฏานุสาริมหาชนสฺส วิย เตสํ จิตฺตสฺส กิเลสวเสน อาตุรตฺตาภาวโต.

นกุลปิตุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. เทวทหสุตฺตวณฺณนา

. เทวาวุจฺจนฺติ ราชาโน ‘‘ทิพฺพนฺติ กามคุเณหิ กีฬนฺติ ลฬนฺติ, อตฺตโน วา ปุฺานุภาเวน โชตนฺตี’’ติ กตฺวา. เตสํ ทโหติ เทวทโห. สยํชาโต วา โส โหติ, ตสฺมาปิ ‘‘เทวทโห’’ติ วุตฺโต. ตสฺส อวิทูเร นิคโม ‘‘เทวทห’’นฺตฺเวว สงฺขํ คโต ยถา ‘‘วรณานครํ, โคธาคาโม’’ติ. ปจฺฉาภูมิยํ อปรทิสายํ นิวิฏฺชนปโท ปจฺฉาภูมํ, ตํ คนฺตุกามา ปจฺฉาภูมคมิกา. เต สภาเรติ เต ภิกฺขู เถรสฺส วเสน สภาเร กาตุกามตาย. ยทิ เถโร เตสํ ภาโร, เถรสฺสปิ เต ภารา เอวาติ ‘‘เต สภาเร กาตุกามตายา’’ติ วุตฺตํ. เอวฺหิ เถโร เต โอวทิตพฺเพ อนุสาสิตพฺเพ มฺตีติ. อิทานิ ตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘โย หี’’ติอาทิมาห. อยํ นิพฺภาโร นาม กฺจิ ปุคฺคลํ อตฺตโน ภารํ กตฺวา อวตฺตนโต.

จตุพฺพิเธนาติ ธาตุโกสลฺลํ อายตนโกสลฺลํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทโกสลฺลํ านาฏฺานโกสลฺลนฺติ เอวํ จตุพฺพิเธน.

เต มหลฺลกาพาธิกาติทหรปุคฺคเล คณฺหิตฺวาว คจฺฉติ. เต หิ ทิวสทฺวเยน วูปสนฺตปริสฺสมา เอว. หตฺถิวานรติตฺติรปฏิพทฺธํ วตฺถุํ กเถตฺวา. ‘‘เอฬกาฬคุมฺเพติ กาฬติณคจฺฉมณฺฑเป’’ติปิ วทนฺติ.

วิวิธํ นานาภูตํ รชฺชํ วิรชฺชํ, วิรชฺชเมว เวรชฺชํ, ตตฺถ คตํ, ปรเทสคตนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เอกสฺสา’’ติอาทิ. จิตฺตสุทตฺตาทโยติ จิตฺตคหปติอนาถปิณฺฑิกาทโย. วีมํสกาติ ธมฺมวิจารกา. กินฺติ กีทิสํ. ทสฺสนนฺติ สิทฺธนฺตํ. อาจิกฺขติ กีทิสนฺติ อธิปฺปาโย. ธมฺมสฺสาติ ภควตา วุตฺตธมฺมสฺส. อนุธมฺมนฺติ อนุกูลํ อวิรุชฺฌนธมฺมํ. โส ปน เวเนยฺยชฺฌาสยานุรูปเทสนาวิตฺถาโรติ อาห – ‘‘วุตฺตพฺยากรณสฺส อนุพฺยากรณ’’นฺติ. ธาเรติ อตฺตโน ผลนฺติ ธมฺโม, การณนฺติ อาห – ‘‘สหธมฺมิโกติ สการโณ’’ติ. อิมินาปิ ปานฺตเรน วาโท เอว ทีปิโต, น เตน ปกาสิตา กิริยา.

ตณฺหาวเสเนว ฉนฺนมฺปิ ปทานํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ราคาทโย ตณฺหาย เอว อวตฺถาวิเสสาติ. เตนาห ‘‘ตณฺหา หี’’ติอาทิ. วิหนนฺติ กายํ จิตฺตฺจาติ วิฆาโต, ทุกฺขนฺติ อาห – ‘‘อวิฆาโตตินิทุกฺโข’’ติ. อุปายาเสติ อุปตาเปตีติ อุปายาโส, อุปตาโป. ตปฺปฏิปกฺโข ปน อนุปายาโส นิรูปตาโป ทฏฺพฺโพ. สพฺพตฺถาติ สพฺพวาเรสุ.

เทวทหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. หาลิทฺทิกานิสุตฺตวณฺณนา

. ‘‘อวนฺติทกฺขิณาปเถ’’ติ อฺเสุ สุตฺตปเทสุ อาคตตฺตา อาห ‘‘อวนฺติทกฺขิณาปถสงฺขาเต’’ติ. มชฺฌิมเทสโต หิ ทกฺขิณทิสาย อวนฺติรฏฺํ. ปวตฺตยิตฺถ เอตฺถ ลทฺธีติ ปวตฺตํ, ปวตฺติตพฺพฏฺานนฺติ อาห ‘‘ลทฺธิปวตฺตฏฺาเน’’ติ. รุปฺปนสภาโว ธมฺโมติ กตฺวา รูปธาตูติ รูปกฺขนฺโธ วุตฺโต. รูปธาตุมฺหิ อารมฺมณปจฺจยภูเตน ราเคน สหชาเตนปิ อสหชาเตนปิ อุปนิสฺสยภูเตน อปฺปหีนภาเวเนว วินิพทฺธํ ปฏิพทฺธํ กมฺมวิฺาณํ. โอกสารีติ วุจฺจติ – ‘‘ตสฺมึ รูปธาตุสฺิเต โอเก สรติ ปวตฺตตี’’ติ กตฺวา. อวติ เอตฺถ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ โอกํ, ปวตฺติฏฺานํ. เตนาห – ‘‘เคหสารี อาลยสารี’’ติ.

อุคจฺฉติ วา เอตฺถ เวทนาทีหิ สทฺธึ สมเวตีติ โอโก, จกฺขุรูปาทิ. ปจฺจโยติ อารมฺมณาทิวเสน ปจฺจโย. ปจฺจโย โหตีติ อนนฺตรสมนนฺตราทินา เจว กมฺมูปนิสฺสยอารมฺมณาทินา จ. ‘‘วิฺาณธาตุ โข, คหปตี’’ติ เอวํ วุตฺเต ‘‘กมฺมวิฺาณวิปากวิฺาเณสุ กตรํ นุ โข’’ติ สมฺโมโห ภเวยฺย. ตสฺส สมฺโมหสฺส วิฆาตตฺถํ อปคมนตฺถํ. อสมฺภินฺนาวาติ อสํกิณฺณาว เทสนา กตา. อารมฺมณวเสน จตสฺโส อภิสงฺขารวิฺาณฏฺิติโย วุตฺตา – ‘‘รูปุปยํ วา, ภิกฺขเว, วิฺาณํ ติฏฺมานํ ติฏฺเยฺย, รูปารมฺมณ’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๕๓). ตา วิฺาณฏฺิติโย ทสฺเสตุมฺปิ.

ทฬฺหํ อภินิเวสวเสน อารมฺมณํ อุเปนฺตีติ อุปยา, ตณฺหาทิฏฺิโย. อธิฏฺานภูตาติ ปติฏฺานภูตา. อภินิเวสภูตาติ ตํ ตํ อารมฺมณํ อภินิวิสฺส อชฺโฌสาย ปวตฺติยา การณภูตา. อนุสยภูตาติ ราคานุสยทิฏฺานุสยภูตา. อุปริมโกฏิยาติ ปหานสฺส อุปริมโกฏิยา . พุทฺธานฺเว หิ เต สวาสนา ปหีนา. ปุพฺเพ อคฺคหิตํ วิฺาณํ อคฺคหิตเมวาติ กตฺวา กสฺมา อิธ เทสนา กตาติ โจเทติ – ‘‘อิธวิฺาณํ กสฺมา คหิต’’นฺติ. ปุพฺเพ ‘‘วิฺาณธาตุราควินิพนฺธฺจ วิฺาณ’’นฺติ วุจฺจมาเน ยถา ยถา สมฺโมโห สิยา ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนวิภาคสฺส ทุกฺกรตฺตา, อิธ ปน สมฺโมหสฺส โอกาโสว นตฺถิ อวิเสเสน ปฺจสุ ขนฺเธสุ กิเลสปฺปหานวเสนาติ. เตนาห ‘‘กิเลสปฺปหานทสฺสนตฺถ’’นฺติอาทิ. กมฺมวิฺาเณน โอกํ อสรนฺเตนา’’ติ อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํ. อสรนฺเตนาติ อนุปคจฺฉนฺเตน.

ปจฺจยฏฺเนาติ อารมฺมณาทิปจฺจยภาเวน. นิมิตฺตํ อุปฺปตฺติกํ. อารมฺมณ…เป… นิเกตนฺติ อารมฺมณกรณสงฺขาเตน นิวาสฏฺานภูเตน รูปเมว นิเกตนฺติ รูปนิมิตฺตนิเกตํ.

ฉนฺทราคสฺส พลวทุพฺพลตายาติ อชฺฌตฺตขนฺธปฺจเก ฉนฺทราคสฺส พลวภาเวน ตํ ‘‘โอโก’’ติ, พหิทฺธา ฉสุ อารมฺมเณสุ ตสฺส ทุพฺพลตาย ตานิ ‘‘นิเกต’’นฺติ วุตฺตานิ. อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สมาเนปิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โอโกติ วุจฺจติ เคหเมว รตฺติฏฺานภาวโต. นิเกตนฺติ วุจฺจติ อุยฺยานาทิ ทิวาฏฺานภาวโต. ตโต ทุพฺพลตโร โหติ ฉนฺทราโค.

เคหสฺสิตสุเขนาติ เคหนิสฺสิเตน จิตฺตสฺส สุเขน สุขิโต สุขปฺปตฺโต โหติ. กิจฺจกรณีเยสูติ ขุทฺทเกสุ เจว มหนฺเตสุ จ กตฺตพฺพตฺเถสุ. สยนฺติ อตฺตนา. อนฺโตติ จิตฺตชฺฌาสเย.

เอวํรูโปติ อีทิสรูโป. วณฺณสทฺโท วิย รูปสทฺโท รูปายตนสฺส วิย สณฺานสฺสปิ วาจโกติ อธิปฺปาเยน ‘‘ทีฆรสฺส กาโฬทาตาทีสุ รูเปสู’’ติ วุตฺตํ. สุขาทีสูติ โสมนสฺสาทีสุ. ตตฺถ หิ ‘‘อภิณฺหํ โสมนสฺสิโต ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนา สิยา. เอวํสฺโ นามาติ วิสยวเสน สฺาวิเสสปตฺถนมาห. เอวํวิฺาโณติ ปน อิธ วิสยมุเขน วิฺาณวิเสสปตฺถนํ วทติ – ‘‘เอวํนิปุณรูปทสฺสนสมตฺถํ, เอวํปฺจปสาทปฏิมณฺฑิตนิสฺสยฺจ เม วิฺาณํ ภเวยฺยา’’ติ.

วฏฺฏํ ปุรโต อกุรูมาโนติ โลเก จิตฺตํ อปตฺเถนฺโต. อสิลิฏฺํ ปุพฺเพนาปรํ อสมฺพทฺธํ. วทนฺติ เอเตนาติ วาโท, โทโสติ อาห – ‘‘ตุยฺหํ โทโส’’ติอาทิ. อิเธว อิมสฺมึเยว สมาคเม. นิพฺเพเหิ โทสโต อตฺตานํ โมเจหิ.

หาลิทฺทิกานิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ทุติยหาลิทฺทิกานิสุตฺตวณฺณนา

. จูฬฉกฺกปฺเหติ มูลปณฺณาเส จูฬตณฺหาสงฺขยสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๓๙๐ อาทโย). มหาสกฺกปฺเหปีติ มหาตณฺหาสงฺขยสุตฺเตปิ (ม. นิ. ๑.๓๙๖ อาทโย). เอตนฺติ ‘‘เย เต สมณพฺราหฺมณา’’ติอาทิสุตฺตปทํ. ตณฺหา สมฺมเทว ขียติ เอตฺถาติ ตณฺหาสงฺขโย, อสงฺขตา ธาตูติ อาห ‘‘ตณฺหาสงฺขเย นิพฺพาเน’’ติ. อนฺตํ อติกฺกนฺตนิฏฺาติ อนฺตรหิตนิฏฺา. เตนาห ‘‘สตตนิฏฺา’’ติ. เสสปเทสูติ ‘‘อจฺจนฺตโยคกฺเขมิโน’’ติอาทีสุ.

ทุติยหาลิทฺทิกานิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สมาธิสุตฺตวณฺณนา

. สมาธีติ อปฺปนาสมาธิ, อุปจารสมาธิ วา. กมฺมฏฺานนฺติ สมาธิปาทกํ วิปสฺสนากมฺมฏฺานํ. ‘‘ผาตึ คมิสฺสตี’’ติ ปาโ. ปตฺเถตีติ ‘‘อโห วต เม อีทิสํ รูปํ ภเวยฺยา’’ติ. อภิวทตีติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน อภินิเวสํ วทติ. เตนาห ‘‘ตาย อภินนฺทนายา’’ติอาทิ. ‘‘อโห ปิยํ อิฏฺ’’นฺติ วจีเภเท อสติปิ ตถา โลภุปฺปาเท สติ อภิวทติเยว นาม. เตนาห ‘‘วาจํ อภินฺทนฺโต’’ติ. ‘‘มม อิท’’นฺติ อตฺตโน ปริณาเมตฺวา อนฺโคจรํ วิย กตฺวา คณฺหนฺโต อชฺโฌสาย ติฏฺติ นามาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘คิลิตฺวาติ ปรินิฏฺเปตฺวา คณฺหาตี’’ติ. ‘‘อภินนฺทตี’’ติอาทโย ปุพฺพภาควเสน วุตฺตา, ‘‘อุปฺปชฺชติ นนฺที’’ติ ทฺวารปฺปตฺตวเสน. ปเมหิ ปเทหิ อนุสโย, ปจฺฉิเมน ปริยุฏฺานนฺติ เกจิ ‘‘คหณฏฺเน อุปาทาน’’นฺติ กตฺวา. นาภินนฺทติ นาภิวทตีติ เอตฺถ เหฏฺา วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. น ‘‘อิฏฺํ กนฺต’’นฺติ วทตีติ ‘‘อิฏฺ’’นฺติ น วทติ, ‘‘กนฺต’’นฺติ น วทติ. นาภิวทติเยว ตณฺหาย อนุปาทิยตฺตา.

สมาธิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ปฏิสลฺลาณสุตฺตวณฺณนา

. ตฺวาอาหาติ ‘‘สติ กายวิเวเก จิตฺตวิเวโก, ตสฺมึ สติ อุปธิวิเวโก จ อิเมสํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ ตฺวา อาห.

ปฏิสลฺลาณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อุปาทาปริตสฺสนาสุตฺตวณฺณนา

. คหเณนอุปฺปนฺนํ ปริตสฺสนนฺติ ขนฺธปฺจเก ‘‘อหํ มมา’’ติ คหเณน อุปฺปนฺนํ ตณฺหาปริตสฺสนํ ทิฏฺิปริตสฺสนฺจ. อปริตสฺสนนฺติ ปริตสฺสนาภาวํ, ปริตสฺสนปฏิปกฺขํ วา. อหุ วต เมตํ พลโยพฺพนาทิ. กมฺมวิฺาณนฺติ วิปริณามารมฺมณํ ตณฺหาทิฏฺิสหคตํ วิฺาณํ ตทนุวตฺติ จ. อนุปริวตฺติ นาม ตํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺติ. เตนาห ‘‘วิปริณามารมฺมณจิตฺตโต’’ติ. อกุสลธมฺมสมุปฺปาทาติ ตณฺหาย อฺากุสลธมฺมสมุปฺปาทา. ปริยาทิยิตฺวาติ เขเปตฺวา, ตสฺส ปวตฺติตุํ โอกาสํ อทตฺวา. สอุตฺตาโสติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน สอุตฺตาโส. คณฺหิตฺวาติ ตณฺหาทิฏฺิคฺคาเหหิ คเหตฺวา เตสฺเจว วเสน ปริตสฺสโก. รูปเภทานุปริวตฺติ จิตฺตํ น โหติ. วฏฺฏตีติ สพฺพากาเรน วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ อตฺโถ.

อุปาทาปริตสฺสนาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ทุติยอุปาทาปริตสฺสนาสุตฺตวณฺณนา

. ตณฺหามานทิฏฺิวเสน เทสนา กตา ‘‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ เทสนาย อาคตตฺตา. จตูสุ สุตฺเตสูติ ปฺจมาทีสุ จตูสุ สุตฺเตสุ. จตุตฺเถ ปน วิวฏฺฏเมว กถิตํ.

ทุติยอุปาทาปริตสฺสนาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. กาลตฺตยอนิจฺจสุตฺตวณฺณนา

. ยทิ อตีตานาคตํ เอตรหิ นตฺถิภาวโต อนิจฺจํ, ปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ ตทา นตฺถีติ โก ปน วาโท ตสฺส อนิจฺจตาย, ปจฺจุปฺปนฺนมฺหิ กถาว กา อุทยพฺพยปริจฺฉินฺนตฺตา ตสฺส. วุตฺตฺเหตํ ‘‘นิพฺพตฺตา เย จ ติฏฺนฺติ, อารคฺเค สาสปูปมา’’ติ (มหานิ. ๑๐).

กาลตฺตยอนิจฺจสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐-๑๑. กาลตฺตยทุกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐-๑๑. ตถารูเปเนวาติ ยถารูเปเนว ปุคฺคลชฺฌาสเยน นวมํ สุตฺตํ กถิตํ, ตถารูเปเนวาติ. เต กิร ภิกฺขู อตีตานาคตํ ‘‘ทุกฺข’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา, ตถา ‘‘อนตฺตา’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ปจฺจุปฺปนฺเน กิลมึสุ. ‘‘อถ เนส’’นฺติอาทิ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยน วตฺตพฺพํ.

กาลตฺตยทุกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

นกุลปิตุวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อนิจฺจวคฺโค

๑-๑๐. อนิจฺจาทิสุตฺตวณฺณนา

๑๒-๒๑. ปุจฺฉาวสิกํ อานนฺทตฺเถรสฺส ปุจฺฉาวเสน เทสิตตฺตา.

อนิจฺจาทิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

อนิจฺจวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ภารวคฺโค

๑. ภารสุตฺตวณฺณนา

๒๒. อุปาทานานํ อารมฺมณภูตา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา. ปริหารภาริยฏฺเนาติ ปริหารสฺส ภาริยภาเวน ครุตรภาเวน. วุตฺตเมว อตฺถํ ปากฏํ กาตุํ ‘‘เอเตสฺหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา เอตานิ านคมนาทีนิ รูปารูปธมฺมานํ ปงฺคุลชจฺจนฺธานํ วิย อฺมฺูปสฺสยวเสน อิชฺฌนฺติ, น ปจฺเจกํ, ตสฺมา ‘‘เอเตส’’นฺติ อวิเสสวจนํ กตํ. ปุคฺคลนฺติ ขนฺธสนฺตานํ วทติ. ขนฺธสนฺตาโน หิ อวิจฺเฉเทน ปวตฺตมาโน ยาว ปรินิพฺพานา ขนฺธภารํ วหนฺโต วิย โลเก ขายติ ตพฺพินิมุตฺตสฺส สตฺตสฺส อภาวโต. เตนาห ‘‘ปุคฺคโล’’ติอาทิ. ภารหาโรติ ชาโตติ ภารหาโร นาม ชาโต.

ปุนพฺภวกรณํ ปุนพฺภโว, ตํ ผลํ อรหติ, ตตฺถ นิยุตฺตาติ วา โปโนภวิกา. ตพฺภาวสหคตํ ยถา ‘‘สนิทสฺสนา ธมฺมา’’ติ, น สํสฏฺสหคตํ, นาปิ อารมฺมณสหคตํ. ‘‘ตตฺร ตตฺรา’’ติ ยํ ยํ อุปฺปตฺติฏฺานํ, รูปาทิอารมฺมณํ วา ปตฺวา ตตฺรตตฺราภินนฺทินี. เตนาห ‘‘อุปปตฺติฏฺาเน วา’’ติอาทิ. ปฺจกามคุณิโกติ ปฺจกามคุณารมฺมโณ. รูปารูปูปปตฺติภเว ราโค รูปารูปภวราโค. ฌานนิกนฺติ ฌานสงฺขาเต กมฺมภเว ราโค. สสฺสตาทิฏฺีติ ภวทิฏฺิ, ตํสหคโต ราโค. อยนฺติ ราโค ภวตณฺหา นาม. อุจฺเฉททิฏฺิ วิภวทิฏฺิ นาม, ตํสหคโต ฉนฺทราโค วิภวตณฺหา นาม. เอส ปุคฺคโล ขนฺธภารํ อาทิยติ ตณฺหาวเสน ปฏิสนฺธิคฺคหณโต. ‘‘อเสสเมตฺถ ตณฺหา วิรชฺชติ ปลุชฺชติ นิรุชฺฌติ ปหียตี’’ติอาทินา สพฺพปทานิ นิพฺพานวเสเนว เวทิตพฺพานีติ อาห ‘‘สพฺพํ นิพฺพานสฺเสว เววจน’’นฺติ.

ภารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปริฺสุตฺตวณฺณนา

๒๓. ปริชานิตพฺเพติ ปหานปริฺาย ปริชานิตพฺเพ. ตถา ปริชานนฺจ ตตฺถ ฉนฺทราคปฺปหานํ, เตสํ อติกฺกโมติ อาห ‘‘สมติกฺกมิตพฺเพติ อตฺโถ’’ติ. อจฺจนฺตปริฺนฺติ นิพฺพานํ วทติ. เตนาห ‘‘สมติกฺกมนฺติ อตฺโถ’’ติ.

ปริฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อภิชานสุตฺตวณฺณนา

๒๔. าตปริฺากถิตา ‘‘อภิวิสิฏฺาย ปฺาย ชานน’’นฺติ กตฺวา. ทุติยปเทนาติ ‘‘ปริชาน’’นฺติ ปเทน. ตติยจตุตฺเถหีติ ‘‘วิราชยํ ปชห’’นฺติ ปเทหิ.

อภิชานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔-๙. ฉนฺทราคสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๕-๓๐. ธาตุสํยุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ, เกวลฺหิ เอตฺถ ขนฺธวเสน เทสนา อาคตา, ตตฺถ ธาตุวเสนาติ อยเมว วิเสโส. จตฺตาริ สจฺจานิ กถิตานิ อสฺสาทาทีนวนิสฺสรณวเสน เทสนาย ปวตฺตตฺตา.

ฉนฺทราคสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อฆมูลสุตฺตวณฺณนา

๓๑. อฆํ วุจฺจติ ปาปํ, อฆนิมิตฺตตาย อฆํ ทุกฺขํ. อิทฺหิ ทุกฺขํ นาม วิเสสโต ปาปเหตุกํ กมฺมผลสฺิตํ. ตถา วฏฺฏทุกฺขํ อวิชฺชาตณฺหามูลกตฺตา. อฆสฺส นิมิตฺตตาย อฆํ ทุกฺขํ. วฏฺฏานุสารี มหาชโน หิ ทุกฺขาภิภูโต ตสฺส ปติการํ มฺมาโน ตํ ตํ กโรตีติ.

อฆมูลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. ปภงฺคุสุตฺตวณฺณนา

๓๒. ปภิชฺชนสภาวนฺติ ขเณ ขเณ ปภงฺคุสภาวํ.

ปภงฺคุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภารวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. นตุมฺหากํวคฺโค

๑. นตุมฺหากํสุตฺตวณฺณนา

๓๓. ฉนฺทราคปฺปหาเนนาติ ตปฺปฏิพทฺธสฺส ฉนฺทราคสฺส ปชหเนน. ทพฺพาทิ ปากติกติณํ ปากฏเมวาติ อปากฏํ ทสฺเสตุํ ตาลนาฬิเกราทิ ทสฺสิตํ, ติณกฏฺานํ วา เภททสฺสนตฺถํ. ปิยาโล ผารุสกํ.

นตุมฺหากํสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อฺตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา

๓๕. ยทิ รูปํ อนุเสตีติ รูปธมฺเม อารพฺภ ยทิ ราคาทโย อนุสยนวเสน ปวตฺตนฺติ. เตน สงฺขํ คจฺฉตีติ เตน ราคาทินา ตํสมงฺคีปุคฺคโล สงฺขาตพฺพตํ ‘‘รตฺโต ทุฏฺโ’’ติอาทินา โวหริตพฺพตํ อุปคจฺฉตีติ. เตนาห ‘‘กามราคาทีสู’’ติอาทิ. อภูเตนาติ อชาเตน อนุสยวเสน อปฺปวตฺเตน. อนุสยสีเสน เหตฺถ อภิภวํ วทติ. ยโต ‘‘รตฺโต ทุฏฺโ มูฬฺโหติ สงฺขํ น คจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ. นิปฺปริยายโต หิ มคฺควชฺฌกิเลสา อนุสโย.

อฺตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ทุติยอฺตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา

๓๖. ตํ อนุสยิตํ รูปนฺติ ตํ ราคาทินา อนุสยิตํ รูปํ มรนฺเตน อนุสเยน อนุมรติ. เตน วุตฺตํ ‘‘น หี’’ติอาทิ. เยน อนุสเยน มรนฺเตน ตํ อนุมรติ. เตน สงฺขํ คจฺฉตีติ ตถาภูตโต เตน ‘‘รตฺโต’’ติอาทิโวหารํ ลภติ. เยน อนุสเยน การณภูเตน อนุมียติ, เตน.

ทุติยอฺตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๖. อานนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา

๓๗-๓๘. ิติยา ิติกฺขเณน สหิตํ ิตํ. ิตสฺส อฺถตฺตนฺติ อุปฺปาทกฺขณโต อฺถาภาโว. ปฺายตีติ อุปลพฺภติ. ปจฺจยวเสน ธรมานตฺตา เอว ชีวมานสฺส ชีวิตินฺทฺริยวเสน ชรา ปฺายติ อุปฺปาทกฺขณโต อฺถตฺตปฺปตฺติยา. วุตฺตเมว อตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ิตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ชีวิ…เป… นามํ. ตถา หิ อภิธมฺเม (ธ. ส. ๑๙) ‘‘อายุ ิตี’’ติ นิทฺทิฏฺํ. อฺถตฺตนฺติ ชราย นามนฺติ สมฺพนฺโธ.

ตีณิ ลกฺขณานิ โหนฺติ สงฺขตสภาวลกฺขณโต. โย โกจิ รูปธมฺโม วา อรูปธมฺโม วา โลกิโย วา โลกุตฺตโร วา สงฺขาโร. สงฺขาโร, น ลกฺขณํ อุปฺปาทาทิสภาวตฺตา. ลกฺขณํ, น สงฺขาโร อุปฺปาทาทิรหิตตฺตา. น จ…เป… สกฺกา สงฺขารธมฺมตฺตา ลกฺขณสฺส. นาปิ ลกฺขณํ วินา สงฺขาโร ปฺาเปตุํ สกฺกา สงฺขารภาเวน. เตนาห ‘‘ลกฺขเณนา’’ติอาทิ. อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ลกฺขณนฺติ กาฬรตฺตสพลาทิภาวลกฺขณํ ปากฏํ โหติ ‘‘อยํ อสุกสฺส คาวี’’ติ.

เอวํ สงฺขาโรปิ ปฺายติ สภาวโต อุปธาเรนฺตสฺส อุปฺปาทลกฺขณมฺปิ อุปฺปาทาวตฺถาติ กตฺวา. กาลสงฺขาโตติ อุปฺปชฺชมานกาลสงฺขาโต. ตสฺส สงฺขารสฺส. ขโณปีติ อุปฺปาทกฺขโณปิ ปฺายติ. อุปฺปาโทปีติ อุปฺปาทลกฺขโณปิ. ชราลกฺขณนฺติ อุปฺปนฺนชีรณลกฺขณํ, ตํ ‘‘ิตสฺส อฺถตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ภงฺคกฺขเณ สงฺขาโรปิ ตํลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปฺายตี’’ติ ปาโ. เกจิ ปน ‘‘ชราปี’’ติ ปทมฺเปตฺถ ปกฺขิปนฺติ. เอวฺจ วทนฺติ ‘‘น หิ ตสฺมึ ขเณ ตรุโณ หุตฺวา สงฺขาโร ภิชฺชติ, อถ โข ชิยฺยมาโน มหลฺลโก วิย ชิณฺโณ เอว หุตฺวา ภิชฺชตี’’ติ, ภงฺเคเนว ปน ชรา อภิภุยฺยติ ขณสฺส อติอิตฺตรภาวโต น สกฺกา ปฺาเปตุํ ิติยาติ เตสํ อธิปฺปาโย. ตานีติ อรูปธมฺมานํ ตีณิ ลกฺขณานิ. อตฺถิกฺขณนฺติ อรูปธมฺมวิชฺชมานกฺขณํ, อุปฺปาทกฺขณนฺติ อธิปฺปาโย. สพฺพธมฺมานนฺติ สพฺเพสํ รูปารูปธมฺมานํ ิติยา น ภวิตพฺพํ. ตสฺเสวาติ ตสฺสา เอว ิติยา. ตมตฺถนฺติ ชราลกฺขณสฺส ปฺาเปตุํ อสกฺกุเณยฺยภาวํ. อฺเ ปน ‘‘สนฺตติวเสน านํ ิตี’’ติ วทนฺติ, ตยิทํ อการณํ อฏฺานํ. ยสฺมา สุตฺเต ‘‘ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายตี’’ติ อุปฺปาทวเยหิ นิพฺพิเสเสน ิติยา โชติตตฺตา. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. อปิจ ยถา ธมฺมสฺส อุปฺปาทาวตฺถาย ภินฺนา ภงฺคาวตฺถา อิจฺฉิตา, อฺถา อุปฺปชฺชมานเมว ภิชฺชตีติ อาปชฺชติ, เอวํ ภงฺคาวตฺถายปิ ภินฺนา ภงฺคาภิมุขาวตฺถา อิจฺฉิตพฺพา. น หิ อภงฺคาภิมุโข ภิชฺชติ. น เจตฺถ สกฺกา อุปฺปาทาภิมุขาวตฺถํ ปริกปฺเปตุํ ตทา ตสฺส อลทฺธตฺตลาภตฺตา. อยํ วิเสโสติ ิติกฺขโณ นาม รูปธมฺมานํเยว, น อรูปธมฺมานนฺติ อยํ อีทิโส วิเสโส. อาจริยมติ นาม ตสฺเสว อาจริยสฺส มติ, สา สพฺพทุพฺพลาติ อาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ.

อานนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗-๑๐. อนุธมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา

๓๙-๔๒. อปายทุกฺเข สกลสํสารทุกฺเข จ ปติตุํ อทตฺวา ธารณฏฺเน ธมฺโม, มคฺคผลนิพฺพานานิ. ตทนุโลมิกา จสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทาติ อาห ‘‘ธมฺมานุธมฺมปฏิปนฺนสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘นิพฺพิทาพหุโล’’ติ อฏฺกถายํ ปทุทฺธาโร กโต, ปาฬิยํ ปน ‘‘นิพฺพิทาพหุลํ วิหเรยฺยา’’ติ อาคตํ. อุกฺกณฺนพหุโลติ สพฺพภเวสุ อุกฺกณฺนพหุโล. ตีหิ ปริฺาหีติ าตตีรณปฺปหานปริฺาหิ. ปริชานาตีติ เตภูมกธมฺเม ปริจฺฉิชฺช ชานาติ, วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปติ. ปริมุจฺจติ สพฺพสํกิเลสโต ‘‘มคฺโค ปวตฺติโต ปริมุจฺจตี’’ติ วุตฺตตฺตา. ตถาติ อิมินา อิโต ปเรสุ ตีสุ มคฺโค โหตีติ ทสฺเสติ. อิธาติ อิมสฺมึ สุตฺเต. อนิยมิตาติ อคฺคหิตา. เตสุ นิยมิตา ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี’’ติอาทิวจนโต. สาติ อนุปสฺสนา. ตตฺถ นิยมิตวเสเนวาติ อิทํ ลกฺขณวจนํ ยถา ‘‘ยทิ เม พฺยาธโย ภเวยฺยุํ , ทาตพฺพมิทโมสธ’’นฺติ. น หิ สกฺกา เอติสฺสา เอว อนุปสฺสนาย วเสน สมฺมสนาจารํ มตฺถกํ ปาเปตุนฺติ.

อนุธมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

นตุมฺหากํวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อตฺตทีปวคฺโค

๑. อตฺตทีปสุตฺตวณฺณนา

๔๓. ทฺวีหิ ภาเคหิ อาโป เอตฺถ คตาติ ทีโป, ทีโป วิยาติ ทีโป โอเฆหิ อนชฺโฌตฺถรนียตาย. โย ปโร น โหติ, โส อตฺตา, อิธ ปน ธมฺโม อธิปฺเปโต. อตฺตา ทีโป เอเตสนฺติ อตฺตทีปา. ปฏิสรณตฺโถ ทีปฏฺโติ อาห – ‘‘อตฺตสรณาติ อิทํ ตสฺเสว เววจน’’นฺติ. โลกิยโลกุตฺตโร ธมฺโม อตฺตา นาม เอกนฺตนาถภาวโต. ปเมน ปเทน วุตฺโต เอว อตฺโถ ทุติยปเทน วุจฺจตีติ วุตฺตํ ‘‘เตเนวาหา’’ติอาทิ. ยวติ เอตสฺมา ผลํ ปสวตีติ โยนิ, การณํ. กึ ปภุติ อุปฺปตฺติฏฺานํ เอเตสนฺติ กึ ปภุติกา. ปหานทสฺสนตฺถํ อารทฺธํ. เตเนวาห ‘‘ปุพฺเพ เจว…เป… เต ปหียนฺตี’’ติ. น ปริตสฺสติ ตณฺหาปริตฺตาสสฺส อภาวโต. วิปสฺสนงฺเคนาติ วิปสฺสนาสงฺขาเตน การเณน.

อตฺตทีปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปฏิปทาสุตฺตวณฺณนา

๔๔. สภาวโตสนฺโต วิชฺชมาโน กาโย รูปาทิธมฺมสมูโหติ สกฺกาโยติ อาห – ‘‘สกฺกาโย ทุกฺข’’นฺติ. ทิฏฺิ เอว สมนุปสฺสนา, ทิฏฺิสหิตา วา สมนุปสฺสนา ทิฏฺิสมนุปสฺสนา, ทิฏฺิมฺนาย สทฺธึ อิตรมฺนา. สห วิปสฺสนาย จตุมคฺคาณํ สมนุปสฺสนา ‘‘จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ สมฺมเทว อนุรูปโต ปสฺสนา’’ติ กตฺวา.

ปฏิปทาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อนิจฺจสุตฺตวณฺณนา

๔๕. วิราโค นาม มคฺโค, วิมุตฺติผลนฺติ อาห – ‘‘มคฺคกฺขเณ วิรชฺชติ, ผลกฺขเณ วิมุจฺจตี’’ติ. อคฺคเหตฺวาติ เอวํ นิรุชฺฌมาเนหิ อาสเวหิ ‘‘อหํ มมา’’ติ กฺจิ ธมฺมํ อนาทิยิตฺวา. ‘‘จิตฺตํ วิรตฺตํ, วิมุตฺตํ โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา ผลํ คยฺหติ, ‘‘ขีณา ชาตี’’ติอาทินา ปจฺจเวกฺขณาติ อาห ‘‘สห ผเลน ปจฺจเวกฺขณทสฺสนตฺถ’’นฺติ. อุปริ กตฺตพฺพกิจฺจาภาเวน ิตํ. เตนาห ‘‘วิมุตฺตตฺตา ิต’’นฺติ. ยํ ปตฺตพฺพํ, ตํ อคฺคผลสฺส ปตฺตภาเวน อธิคตตฺตา สนฺตุฏฺํ ปริตุฏฺํ.

อนิจฺจสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ทุติยอนิจฺจสุตฺตวณฺณนา

๔๖. ปุพฺพนฺตํ อตีตขนฺธโกฏฺาสํ. อนุคตาติ สสฺสตาทีนิ กปฺเปตฺวา คหณวเสน อนุคตา. อฏฺารส ทิฏฺิโยติ จตสฺโส สสฺสตทิฏฺิโย, จตสฺโส เอกจฺจสสฺสตทิฏฺิโย, จตสฺโส อนฺตานนฺติกทิฏฺิโย, จตสฺโส อมราวิกฺเขปทิฏฺิโย, ทฺเว อธิจฺจสมุปฺปนฺนทิฏฺิโยติ เอวํ อฏฺารส ทิฏฺิโย น โหนฺติ ปจฺจยฆาเตน. อปรนฺตนฺติ อนาคตํ ขนฺธโกฏฺาสํ สสฺสตาทิภาวํ กปฺเปตฺวา คหณวเสน อนุคตา. โสฬส สฺีวาทา, อฏฺ อสฺีวาทา, อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา, สตฺต อุจฺเฉทวาทา, ปฺจ ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ เอวํ จตุจตฺตาลีส ทิฏฺิโย น โหนฺติ ปจฺจยฆาเตน. สสฺสตทิฏฺิถามโส เจว สีลพฺพตทิฏฺิปรามาโส จ น โหติ ปจฺจยฆาเตน. เตนาห ‘‘เอตฺตาวตา ปมมคฺโค ทสฺสิโต’’ติ อนวเสสทิฏฺิปหานกิตฺตนโต. ปหีนา วิกฺขมฺภิตา. อิทํ ปนาติ ‘‘รูปสฺมิ’’นฺติอาทิ.

ทุติยอนิจฺจสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สมนุปสฺสนาสุตฺตวณฺณนา

๔๗. ปริปุณฺณคาหวเสนาติ ปฺจกฺขนฺเธ อเสเสตฺวา เอกชฺฌํ ‘‘อตฺตา’’ติ คหณวเสน. เอเตสํ ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อฺตรํ ‘‘อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสนฺติ. อิตีติ เอวํ. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ อตฺตทิฏฺิสงฺขาตา สมนุปสฺสนา อตฺถิ ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา สํวิชฺชติ. ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานนฺติ จกฺขาทีนํ อินฺทฺริยานํ.

อารมฺมณนฺติ กมฺมวิฺาณสฺส อารมฺมณํ. มานวเสน จ ทิฏฺิวเสน จ ‘‘อสฺมี’’ติ คาเห สิชฺฌนฺเต ตํสหคตา ตณฺหาปิ ตคฺคหิตาว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ตณฺหามานทิฏฺิวเสน อสฺมีติ เอวมฺปิสฺส โหตี’’ติ. คเหตฺวาติ อหํการวตฺถุวเสน คเหตฺวา. อยํ อหมสฺมีติ อยํ จกฺขาทิโก, สุขาทิโก วา อหมสฺมิ. ‘‘รูปี อตฺตา อโรโค ปรํ มรณา’’ติ เอวมาทิคหณวเสน ปวตฺตนโต วุตฺตํ ‘‘รูปี ภวิสฺสนฺติอาทีนิ สพฺพานิ สสฺสตเมว ภชนฺตี’’ติ. วิปสฺสนาภินิเวสโต ปุพฺเพ ยเถวาการานิ ปฺจินฺทฺริยานิ, อถ วิปสฺสนาภินิเวสโต ปรํ เตเนวากาเรน ิเตสุ จกฺขาทีสุ อินฺทฺริเยสุ อวิชฺชา ปหียติ วิปสฺสนํ วฑฺฒเอตฺวา มคฺคสฺส อุปฺปาทเนน, อถ มคฺคปรมฺปราย อรหตฺตมคฺควิชฺชา อุปฺปชฺชติ. ตณฺหามานทิฏฺิโย กมฺมสมฺภารภาวโต. กมฺมสฺส…เป… เอโก สนฺธีติ เหตุผลสนฺธิ. ปุน เอโก สนฺธีติ ผลเหตุสนฺธิมาห. ตโย ปปฺจา อตีโต อทฺธา อตีตภวอทฺธานํ เตสํ อธิปฺเปตตฺตา. อนาคตสฺส ปจฺจโย ทสฺสิโต อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส วเสน. สุตวโต ปน อริยสาวกสฺส วเสน วฏฺฏสฺส วูปสโม ทสฺสิโตติ.

สมนุปสฺสนาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ขนฺธสุตฺตวณฺณนา

๔๘. ตเถวาติ อารมฺมณภาเวเนว. อารมฺมณกรณวเสน อุปาทาเนหิ อุปาทาตพฺพนฺติ อุปาทานิยํ. อิธาปีติ อุปาทานกฺขนฺเธสุปิ. วิภาคตฺเถ คยฺหมาเน อนิฏฺปฺปสงฺโคปิ สิยา, อภิธมฺเม จ ราสฏฺโ เอว อาคโต, ‘‘ตเทกชฺฌํ อภิสํยุหิตฺวา’’ติ วจนโต ‘‘ราสฏฺเน’’อิจฺเจว วุตฺตํ.

ขนฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗-๘. โสณสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๙-๕๐. วิสิฏฺโติ ปธาโน. อุตฺตโมติ อุกฺกฏฺโ. อฺํ กึ ภเวยฺยาติ อฺํ กึ การณํ ภเวยฺย ตถา สมนุปสฺสนาย อฺเสํ อวิชฺชมานตาย วจนปริฏฺิติปภินฺนโต. วชิรเภทเทสนํ นาม อตฺถโต เตปริวฏฺฏเทสนา.

โสณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙-๑๐. นนฺทิกฺขยสุตฺตาทิวณฺณนา

๕๑-๕๒. นวมทสเมสูติ สุตฺตทฺวยํ สเหว อุทฺธฏํ, ทฺวีสุปิ อตฺถวณฺณนาย สริกฺขภาวโต. นนฺทนฏฺเน นนฺที, รฺชนฏฺเน ราโค. สติปิ สทฺทตฺถโต เภเท ‘‘อิเมสํ อตฺถโต นินฺนานากรณตายา’’ติ วตฺวาปิ ปหายกธมฺมเภเทน ปน ลพฺภเตว เภทมตฺตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘นิพฺพิทานุปสฺสนาย วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิรชฺชนฺโต ราคํ ปชหตีติ สมฺพนฺโธ. เอตฺตาวตาติ ‘‘นนฺทิกฺขยา ราคกฺขโย’’ติ เอตฺตาวตา. วิปสฺสนํ นิฏฺเปตฺวา วิปสฺสนากิจฺจสฺส ปริโยสาเนน. ราคกฺขยาติ วุฏฺานคามินิปริโยสานาย วิปสฺสนาย ราคสฺส เขปิตตฺตา. อนนฺตรํ อุปฺปนฺเนน อริยมคฺเคน สมุจฺเฉทวเสน นนฺทิกฺขโยติ. เตนาห ‘‘อิธ มคฺคํ ทสฺเสตฺวา’’ติ. อนนฺตรํ ปน อุปฺปนฺเนน อริยผเลน ปฏิปสฺสทฺธิวเสน นนฺทิราคกฺขยา สพฺพํ สํกิเลสโต จิตฺตํ วิมุจฺจตีติ. เตนาห ‘‘ผลํ ทสฺสิต’’นฺติ.

นนฺทิกฺขยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

อตฺตทีปวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

มูลปณฺณาสโก สมตฺโต.

๖. อุปยวคฺโค

๑. อุปยสุตฺตวณฺณนา

๕๓. อุเปตีติ อุปโย. กถมุเปติ? ตณฺหามานาทิวเสนาติ อาห ‘‘ตณฺหามานทิฏฺิวเสนา’’ติ. กถมิทํ ลพฺภตีติ? ‘‘อวิมุตฺโต’’ติ วจนโต. ตณฺหาทิฏฺิวเสน หิ พทฺโธ, กึ อุเปตีติ อาห ‘‘ปฺจกฺขนฺเธ’’ติ ตพฺพินิมุตฺตสฺส ตถา อุเปตสฺส อภาวโต. โก ปนุเปตีติ? ตํสมงฺคีปุคฺคโล. ตณฺหาทิฏฺิวเสน อุปคมสฺส วุตฺตตฺตา วิฺาณนฺติ อกุสลกมฺมวิฺาณเมวาติ วทนฺติ. ชวาเปตฺวาติ คหิตชวํ กตฺวา. ยถา ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒิตุํ สมตฺถํ, เอวํ กตฺวา. เตนาห ‘‘ปฏิสนฺธี’’ติอาทิ. อคฺคหเณ การณํ วุตฺตเมว ‘‘โอกํ ปหาย อนิเกตสารี’’ติ คาถาย วิสฺสชฺชเน. กมฺมนิมิตฺตาทิวเสน ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยภูตํ อารมฺมณํ ปฏิสนฺธิชนกสฺส กมฺมสฺส วเสน โวจฺฉิชฺชติ. ปติฏฺา น โหติ สราคกาเล วิย อนุปฏฺานโต . อปฺปติฏฺิตํ วิฺาณํ วุตฺตปฺปกาเรน. อนภิสงฺขริตฺวาติ อนุปฺปาเทตฺวา ปจฺจยฆาเตน.

อุปยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. พีชสุตฺตวณฺณนา

๕๔. พีชชาตานีติ ชาต-สทฺโท ปทปูรณมตฺตนฺติ อาห ‘‘พีชานี’’ติ. วจนฺติ เสตวจํ. อชฺชุกนฺติ ตจฺฉกํ. ผณิชฺชกํ ตุลสิ. อภินฺนานีติ เอกเทเสนปิ อขณฺฑิตานิ. พีชตฺถายาติ พีชกิจฺจาย. น อุปกปฺปตีติ ปจฺจโย น โหตีติ ทสฺเสติ. น ปาปิตานีติ ปูติตํ น อุปคตานิ. ตณฺฑุลสารสฺส อาทานโต สาราทานิ. อารมฺมณคฺคหณวเสน วิฺาณํ ติฏฺติ เอตฺถาติ วิฺาณฏฺิติโย. อารมฺมณวเสนาติ อารมฺมณภาววเสน. สิเนหนฏฺเนาติ ตณฺหายนวเสน สินิทฺธตาปาทเนน, ยโต ‘‘นนฺทูปเสจน’’นฺติ วุตฺตํ. ตถา หิ วิโรปิตํ ตํ กมฺมวิฺาณํ ปฏิสนฺธิองฺกุรุปฺปาทนสมตฺถํ โหติ. สปฺปจฺจยนฺติ อวิชฺชาอโยนิโสนมนสิการาทิปจฺจเยหิ สปฺปจฺจยํ. วิรุหติ วิปากสนฺตานุปฺปาทนสมตฺโถ หุตฺวา.

พีชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อุทานสุตฺตวณฺณนา

๕๕. อุทานํ อุทาหรีติ อตฺตมนวาจํ นิจฺฉาเรสิ. เอส วุตฺตปฺปกาโร อุทาหาโร. ภุโส นิสฺสโย อุปนิสฺสโย, ทานเมว อุปนิสฺสโย ทานูปนิสฺสโย. เอส นโย เสเสสุปิ. ตตฺถ ทานูปนิสฺสโย อนฺนาทิวตฺถูสุ พลวาติ พลวภาเวน โหติ, ตสฺมา อุปนิสฺสยพหุโล กามราคปฺปหาเนเนว กตปริจยตฺตา วิปสฺสนมนุยุฺชนฺโต น จิรสฺเสว อนาคามิผลํ ปาปุณาติ, ตถา สุวิสุทฺธสีลูปนิสฺสโย กามโทสชิคุจฺฉเนน. ยทิ เอวํ กสฺมา อิเม ทฺเว อุปนิสฺสยา ทุพฺพลาติ วุตฺตา ? วิชฺชูปมฺาณสฺเสว ปจฺจยภาวโต. โสปิ ภาวนูปนิสฺสยสหายลาเภเนว, น เกวลํ. ภาวนา ปน ปฏิเวธสฺส วิเสสเหตุภาวโต พลวา อุปนิสฺสโย. ตถา หิ สา วชิรูปมาณสฺส วิเสสปจฺจโย. เตนาห ‘‘ภาวนูปนิสฺสโย อรหตฺตํ ปาเปตี’’ติ.

โสติ มิลกตฺเถโร. วิหารนฺติ วสนฏฺานํ. วิหารปจฺจนฺเต หิ ปณฺณสาลาย เถโร วิหรติ. อุปฏฺาติ เอกลกฺขเณน. กูฏโคโณ วิย คมนวีถึ. ตตฺถาติ อลฺลกฏฺราสิมฺหิ. อุทกมณิกานนฺติ อุทกเถวานํ.

อตฺตนิเยวอุปเนสิ อุทานกถาย วุตฺตธมฺมานํ ปริปุณฺณานํ อตฺตนิ สํวิชฺชมานตฺตา. เตนาห ‘‘อุฏฺานวตา’’ติอาทิ. อยฺหิ มิลกตฺเถโร สิกฺขาย คารโว สปฺปติสฺโส วตฺตปฏิวตฺตํ ปูเรนฺโต วิสุทฺธสีโล หุตฺวา ิโต, ตสฺมา ‘‘ทุพฺพลูปนิสฺสเย’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ภควา อุทาเนนฺโต ‘‘โน จสฺสํ…เป… สฺโชนานี’’ติ.

สเจ อหํ น ภเวยฺยนฺติ ยทิ อหํ นาม โกจิ น ภเวยฺยํ ตาทิสสฺส อหํสทฺทวจนียสฺส กสฺสจิ อตฺถสฺส อภาวโต. ตโต เอว มม ปริกฺขาโรปิ น ภเวยฺยตสฺส จ ปภงฺคุภาเวน อนวฏฺิตภาวโต. เอวํ อตฺตุทฺเทสิกภาเวน ปททฺวยสฺส อตฺถํ วตฺวา อิทานิ กมฺมผลวเสน วตฺตุํ ‘‘สเจ วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตีตปจฺจุปฺปนฺนวเสน สุฺตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปจฺจุปฺปนฺนานาคตวเสน ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทานิ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ อธิมุจฺจนฺโตติ เอทิสํ อธิมุตฺตึ ปวตฺเตนฺโต. วิภวิสฺสตีติ วินสฺสิสฺสติ. วิภโว หิ วินาโส. เตนาห ‘‘ภิชฺชิสฺสตี’’ติ. วิภวทสฺสนํ วิภโวติ อุตฺตรปทโลเปน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘วิภวทสฺสเนนา’’ติ. วิภวทสฺสนํ นาม อจฺจนฺตาย วินาสสฺส ทสฺสนํ. นฺติ อริยมคฺคํ. สามฺโชตนา เหสา วิเสสนิฏฺา โหตีติ ตติยมคฺควเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อุปริ มคฺคผลนฺติ อคฺคมคฺคผลํ. นตฺถิ เอติสฺสา ชาติยา อนฺตรนฺติ อนนฺตรา, อนนฺตรา วิปสฺสนา มคฺคสฺส. โคตฺรภู ปน อนุโลมวีถิปริยาปนฺนตฺตา วิปสฺสนาคติกํ วา สิยา, นิพฺพานารมฺมณตฺตา มคฺคคติกํ วาติ น เตน มคฺโค อนฺตริโก นาม โหติ. เตนาห ‘‘วิปสฺสนา มคฺคสฺส อาสนฺนานนฺตรํ นามา’’ติ . ผลํ ปน นิพฺพานารมฺมณตฺตา กิเลสานํ ปชหนวเสน ปวตฺตนโต โลกุตฺตรภาวโต จ กมฺมมคฺคคติกเมว, กุสลวิปากภาเวน ปน เนสํ อตฺโถ ปเภโทติ วิปสฺสนาย ผลสฺส สิยา อนนฺตรตาติ วุตฺตํ ‘‘ผลสฺส ทูรานนฺตรํ นามา’’ติ. ‘‘อาสวานํ ขโย’’ติ ปน อคฺคมคฺเค วุจฺจมาเน วิปสฺสนานํ อาสนฺนตาย วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. อตสิตาเยติ น ตสิตพฺเพ ตาสํ อนาปชฺชิตพฺเพ. ตาโสติ ตาสเหตุ ‘‘ตสติ เอตสฺมา’’ติ กตฺวา. โสติ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน. ติลกฺขณาหตนฺติ อนิจฺจตาทิลกฺขณตฺตยลกฺขิตํ. มนมฺหิ นฏฺโติ อีสกํ นฏฺโมฺหิ, ตโต ปรมฺปิ ตตฺเถว ตฺวา กิฺจิ อปูริตตฺตา เอว มุตฺโตติ อธิปฺปาโย. ‘‘น ตาโส นาม โหตี’’ติ วตฺวา ตสฺส อตาสภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘น หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. กลฺยาณปุถุชฺชโน หิ ภยตุปฏฺานาเณน ‘‘สภยา สงฺขารา’’ติ วิปสฺสนฺโต น อุตฺตสติ.

อุทานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อุปาทานปริปวตฺตสุตฺตวณฺณนา

๕๖. จตุนฺนํปริวฏฺฏนวเสนาติ ปจฺเจกกฺขนฺเธสุ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปริวฏฺฏนวเสน. รูปํ อพฺภฺาสินฺติ สกลภูตุปาทารูปํ กุจฺฉิตภาวโต ตตฺถ จ ตุจฺฉวิปลฺลาสตาย ‘‘ทุกฺขสจฺจ’’นฺติ อภิวิสิฏฺเน าเณน อฺาสึ ปฏิวิชฺฌึ. อาหารวเสน รูปกายสฺส หานิวุทฺธาทีนํ ปากฏภาวโต วิเสสปจฺจยโต จ ตสฺส ‘‘อาหารสมุทยา’’ติ วุตฺตํ. ทุกฺขสมุทยกถา นาม วฏฺฏกถาติ ‘‘สจฺฉนฺทราโค’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. ฉนฺทราคคฺคหเณน จ อุปาทานกมฺมาวิชฺชาปิ คหิตา เอว. ปฏิปนฺนา โหนฺตีติ อตฺโถ. วตฺตมานกาลปฺปโยโค เหส ยถา ‘‘กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ. ปติฏฺหนฺตีติ ปติฏฺํ ลภนฺติ. เกวลิโนติ อิธ วิมุตฺติคุเณน ปาริปูรีติ อาห ‘‘สกลิโน กตสพฺพกิจฺจา’’ติ. เยน เตติ เยน อวสิฏฺเน เต อเสกฺเข ปฺาเปนฺตา ปฺาเปยฺยุํ, ตํ เนสํ วฏฺฏํ เสกฺขานํ วิย นตฺถิ ปฺาปนาย. วฏฺฏนฺติ การณํ วฏฺฏนฏฺเน ผลสฺส ปวตฺตนฏฺเน. อเสกฺขภูมิวาโรติ อเสกฺขภูมิปฺปวตฺติ.

อุปาทานปริปวตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สตฺตฏฺานสุตฺตวณฺณนา

๕๗. สตฺตสุโอกาเสสูติ รูปปชานนาทีสุ สตฺตสุ โอกาเสสุ. วุสิตวาโสติ วุสิตอริยวาโส. เอตฺถาติ อิมสฺมึ อุทฺเทเส. เสสํ นาม อิธ วุตฺตาวเสสํ. วุตฺตนเยนาติ เหฏฺา วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. อุสฺสทนนฺทิยนฺติ อุสฺสนฺนคุณวโต โตสนํ สมฺโมทาปนํ. คุณกิตฺตเนน ปโลภนียํ เสกฺขกลฺยาณปุถุชฺชนานํ ปสาทุปฺปาทเนน. อิทานิ วุตฺตเมว อตฺถํ ปากฏํ กาตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

เอตฺตาวตาติ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ วเสน สตฺตสุ าเนสุ โกสลฺลทีปเนน เอตฺตเกน เทสนากฺกเมน. นฺติ อารมฺมณํ. ธาตุอาทิมตฺตเมวาติ ธาตายตนปฏิจฺจสมุปฺปาทมตฺตเมว. อิเมสุ ธมฺเมสูติ อิเมสุ ชาตาทีสุ. กมฺมํ กตฺวาติ สมฺมสนกมฺมํ นิฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ. เอวเมตฺถ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ วเสน สตฺตฏฺานโกสลฺลปวตฺติยา ปเภเทน วิภชิตฺวา ‘‘ติวิธูปปริกฺขี’’ติ ทสฺเสติ ธมฺมราชา.

สตฺตฏฺานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สมฺมาสมฺพุทฺธสุตฺตวณฺณนา

๕๘. อธิกํ สวิเสสํ ปยสติ ปยุฺชติ เอเตนาติ อธิปฺปยาโส, วิสิฏฺปโยโค. เตนาห ‘‘อธิกปโยโค’’ติ. อิมฺหิ มคฺคนฺติ อฏฺงฺคิกํ อริยมคฺคมาห. อิธาติ อิมสฺมึ สุตฺเต. อวตฺตมานฏฺเนาติ พุทฺธุปฺปาทโต ปุพฺเพ น วตฺตมานภาเวน. มคฺคํ ชานาตีติ สมุทาคมโต ปฏฺาย สปุพฺพภาคํ สสมฺภารวิสยํ สผลํ สอุทฺรยํ อริยํ มคฺคํ ชานาติ อวพุชฺฌตีติ มคฺคฺู. วิทิตนฺติ อฺเสมฺปิ าตํ ปฏิลทฺธํ หตฺถตเล อามลกํ วิย ปากฏํ อกาสิ, ตถา กตฺวา เทเสสิ. อมคฺเค ปริวชฺชเนน มคฺเค ปฏิปตฺตีติ ตสฺส มคฺคกุสลตา วิย อมคฺคกุสลตาปิ อิจฺฉิตพฺพาติ อาห ‘‘มคฺเค จ อมคฺเค จ โกวิโท’’ติ. อหํ ปมํ คโตติ อหํ ปมมคฺเคน สมนฺนาคโต.

สมฺมาสมฺพุทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อนตฺตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา

๕๙. ปุราณุปฏฺาเกติ ปุพฺเพ ปธานปทหนกาเล อุปฏฺากภูเต. ‘‘อวสวตฺตนฏฺเน อสฺสามิกฏฺเน สุฺตฏฺเน อตฺตปฏิกฺเขปฏฺเนา’’ติ เอวํ ปุพฺเพ วุตฺเตหิ. เอตฺตเกน าเนนาติ ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, อนตฺตา’’ติ อารภิตฺวา ยาว ‘‘เอวํ เม วิฺาณํ มา อโหสี’’ติ เอตฺตเกน สุตฺตปเทเสน. อกถิตสฺเสว กถนํ อุตฺตรํ, น กถิตสฺสาติ วุตฺตํ ‘‘ตานิ ทสฺเสตฺวา’’ติ. สโมธาเนตฺวาติ สมฺปิณฺฑิตฺวา. วิตฺถารกถาติ วิตฺถารโต อฏฺกถา. อนตฺตลกฺขณเมวาติ ตพฺพหุลตาย ตปฺปธานตาย จ วุตฺตํ. อนิจฺจตาทีนมฺปิ หิ ตตฺถ ตํทีปนตฺถเมว วุตฺตตฺตา ตเทว เชฏฺํ ปธานํ ตถา เวเนยฺยชฺฌาสยโต.

อนตฺตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. มหาลิสุตฺตวณฺณนา

๖๐. เอกนฺตทุกฺขนฺติอาทีนิ ปทานิ วุตฺตนยาเนว, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ ยถา สราโค เหตุ ปจฺจโย สํกิเลสาย, เอวํ สวิปสฺสโน มคฺโค เหตุ ปจฺจโย จ วิสุทฺธิยาติ ทฏฺพฺพํ.

มหาลิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อาทิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๖๑. เอกาทสหีติ ราคาทีหิ อุปายาสปริโยสาเนหิ เอกาทสหิ สนฺตาปนฏฺเน อคฺคีหิ. ทฺวีสูติ อฏฺมนวเมสุ. ทุกฺขลกฺขณเมวาติ ตพฺพหุลตาย ตปฺปธานตาย จ วุตฺตํ.

อาทิตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. นิรุตฺติปถสุตฺตวณฺณนา

๖๒. นิรุตฺติโยว นิรุตฺติปถาติ ปถ-สทฺเทน ปทวฑฺฒนมาห ยถา ‘‘พีชานิเยว พีชชาตานี’’ติ. นิรุตฺติวเสนาติ นิพฺพจนวเสน. ปถา จ อตฺถานุรูปภาวโต . ตีณิปีติ นิรุตฺติอธิวจนปฺตฺติปถปทานิ. ตถา หิ ‘‘ผุสตีติ ผสฺโส’’ติอาทินา นีหริตฺวา วจนํ นิรุตฺติ, ‘‘สิรีวฑฺฒโก ธนวฑฺฒโก’’ติอาทินา วจนมตฺตเมว อธิการํ กตฺวา ปวตฺตํ อธิวจนํ, ‘‘ตกฺโก วิตกฺโก’’ติอาทินา ตํตํปกาเรน าปนโต ปฺตฺติ. อถ วา ตํตํอตฺถปฺปกาสเนน นิจฺฉิตํ, นิยตํ วา วจนํ นิรุตฺติ. อธิ-สทฺโท อุปริภาเค, อุปริ วจนํ อธิวจนํ. กสฺส อุปริ? ปกาเสตพฺพสฺส อตฺถสฺสาติ ปากโฏยมตฺโถ. อธีนํ วจนํ อธิวจนํ. เกน อธีนํ? อตฺเถน. อตฺถสฺส ปฺาปนตฺเถน ปฺตฺตีติ เอวํ นิรุตฺติอาทิปทานํ สพฺพวจเนสุ ปวตฺติ เวทิตพฺพา. อฺถา ‘‘ผุสตีติ ผสฺโส’’ติอาทิปฺปกาเรน นิทฺธารณวจนานํเยว นิรุตฺติตา, สิริวฑฺฒกธนวฑฺฒกปการานเมว อภิลาปนํ อธิวจนตา. ‘‘ตกฺโก วิตกฺโก’’ติ เอวํปการานเมว เอกเมว อตฺถํ เตน เตน ปกาเรน าเปนฺตานํ วจนานํ ปฺตฺติตา จ อาปชฺเชยฺย. อสํกิณฺณาติ น สํกิณฺณา. เตนาห ‘‘อวิชหิตา…เป… อฉฑฺฑิตา’’ติ. น สํกียนฺตีติ น สํกิรียนฺติ, น สํกียิสฺสนฺติ น สํกิรียิสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อปฺปฏิกุฏฺาติ น ปฏิกฺขิตฺตา. ยสฺมา ภงฺคํ อติกฺกนฺตํ อุปฺปาทาทิ อติกฺกนฺตเมว โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ภงฺคเมวา’’ติ. ยสฺมา เทสนฺตรํ สงฺกนฺโตปิ อติกฺกนฺตนฺติ วุจฺจติ, ตสฺมา ตทาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘เทสนฺตรํ อสงฺกมิตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ยตฺถ ยตฺถ หิ สงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนฺติ นิรุชฺฌนฺติ วิปริณมนฺติ วินาสํ อาปชฺชนฺติ. เตนาห ‘‘วิปริณตนฺติ…เป… นฏฺ’’นฺติ. อปากฏีภูตํ อชาตตฺตา เอว.

วสภณโคตฺตตาย วสฺสภฺา. มูลทิฏฺิคติกาติ มูลภูตา ทิฏฺิคติกา, อิมสฺมึ กปฺเป สพฺพปมํ ตาทิสทิฏฺิสมุปฺปาทกา. ปุนปฺปุนํ อาวชฺเชนฺตสฺสาติ อเหตุวาทปฏิสํยุตฺตคนฺถํ อุคฺคเหตฺวา ปริยาปุณิตฺวา ตทตฺถํ วีมํสนฺตสฺส ‘‘นตฺถิ เหตุ, นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสายา’’ติอาทินยปฺปวตฺตาย ลทฺธิยา อารมฺมเณ มิจฺฉาสติ สนฺติฏฺติ, ‘‘นตฺถิ เหตู’’ติอาทิวเสน อนุสฺสวูปลทฺเธ อตฺเถ ตทาการปริวิตกฺกเนหิ สวิคฺคเห วิย สรูปโต จิตฺตสฺส ปจฺจุปฏฺิเต จิรกาลปริจเยน ‘‘เอวเมต’’นฺติ นิชฺฌานกฺขมภาวูปคมเนน นิชฺฌานกฺขนฺติยา ตถาคหิเต ปุนปฺปุนํ ตเถว อาเสวนฺตสฺส พหุลีกโรนฺตสฺส มิจฺฉาวิตกฺเกน สมาทิยมานา มิจฺฉาวายามูปตฺถมฺภิตา อตํสภาวํ ‘‘ตํสภาว’’นฺติ คณฺหนฺตี มิจฺฉาสตีติ ลทฺธนามา ตํลทฺธิสหคตา ตณฺหา สนฺติฏฺติ. ยถาสกํ วิตกฺกาทิปจฺจยลาเภน ตสฺมึ อารมฺมเณ อธิฏฺิตตาย อเนกคฺคตํ ปหาย จิตฺตํ เอกคฺคตํ อปฺปิตํ วิย โหติ มิจฺฉาสมาธินา. โสปิ หิ ปจฺจยวิเสเสหิ ลทฺธภาวนาพโล อีทิเส าเน สมาธานปติรูปกิจฺจกโร โหติเยว วาลวิชฺฌนาทีสุ วิยาติ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิ อเนกกฺขตฺตุํ เตนากาเรน ปุพฺพภาคิเยสุ ชวนวาเรสุ ปวตฺเตสุ สพฺพปจฺฉิเม ชวนวาเร สตฺต ชวนานิ ชวนฺติ. ตตฺถ ปเม สเตกิจฺโฉ โหติ, ตถา ทุติยาทีสุ. สตฺตเม ปน ชวเน สมฺปตฺเต อเตกิจฺโฉ โหติ. เตนาห ‘‘อสฺสาเทนฺตสฺสา’’ติอาทิ. อิเมสุปีติ ทฺวีสุปิ าเนสุ.

ปจฺจุปฺปนฺนํ วาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน ‘‘ยเทตํ อนาคตํ นาม, นยิทํ อนาคต’’นฺติอาทิกํ สงฺคณฺหาติ. เตปีติ เต วสฺสภฺาปิ น มฺึสุ โลกสมฺาย อนติกฺกมนียโต. เตนาห ‘‘อตีตํ ปนา’’ติอาทิ. ขนฺธานํ อุปริ นิรุฬฺหา ปณฺณตฺติ.

นิรุตฺติปถสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุปยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อรหนฺตวคฺโค

๑. อุปาทิยมานสุตฺตวณฺณนา

๖๓. คณฺหมาโนติ ‘‘เอตํ มมา’’ติอาทินา คณฺหมาโน. ปาเสนาติ ราคปาเสน. ตฺหิ มาโร มารปาโสติ มฺติ. เตนาห ‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส, ยฺวายํ จรติ มานโส’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๕๑; มหาว. ๓๓). มุตฺโต นาม โหติ อนุปาทิยโต สพฺพโส ขนฺธสฺส อภาวโต.

อุปาทิยมานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒-๖. มฺมานสุตฺตาทิวณฺณนา

๖๔-๖๘. ‘‘เอตํ มมา’’ติอาทินา. มฺนา อภินนฺทนา จ. ตณฺหาฉนฺโทติ ตณฺหา เอว ฉนฺโท. สา หิ ตณฺหายนฏฺเน ตณฺหา, ฉนฺทิกตฏฺเน ฉนฺโท. จตุตฺถํ อนิจฺจลกฺขณมุเขน วุตฺตํ, ปฺจมํ ทุกฺขลกฺขณมุเขน, ฉฏฺํ อนตฺตลกฺขณมุเขน. เสสํ ตีสุปิ สทิสเมวาติ วุตฺตํ ‘‘เอเสว นโย’’ติ.

มฺมานสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อนตฺตนิยสุตฺตวณฺณนา

๖๙. อนตฺตนิยนฺติ น อตฺตนิยํ. เตนาห ‘‘น อตฺตโน สนฺตก’’นฺติ.

อนตฺตนิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘-๑๐. รชนียสณฺิตสุตฺตาทิวณฺณนา

๗๐-๗๒. รชนีเยนาติ รชนีเยน ราคุปฺปาทเกน. เตนาห ‘‘ราคสฺส ปจฺจยภาเวนา’’ติ. ราหุลสํยุตฺเต ราหุลตฺเถรสฺส ปุจฺฉาวเสน อาคตา. อิธ ราธตฺเถรสฺส สุราธตฺเถรสฺส จ ปุจฺฉาวเสน, ปาฬิ ปน สพฺพตฺถ สทิสา. เตนาห ‘‘วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานี’’ติ.

รชนียสณฺิตสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

อรหนฺตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ขชฺชนียวคฺโค

๑-๓. อสฺสาทสุตฺตาทิวณฺณนา

๗๓-๗๕. จตุสจฺจเมว กถิตํ อสฺสาทาทีนฺเจว สมุทยาทีนฺจ วเสน เทสนาย ปวตฺตตฺตา. ยสฺมา อสฺสาโท สมุทยสจฺจํ, อาทีนโว ทุกฺขสจฺจํ, นิสฺสรณํ มคฺคสจฺจํ นิโรธสจฺจฺจาติ วุตฺโตวายมตฺโถ; ทุติเย สมุทยสฺสาโท สมุทยสจฺจํ, อาทีนโว ทุกฺขสจฺจํ, อตฺถงฺคโม นิโรธสจฺจํ, นิสฺสรณํ มคฺคสจฺจนฺติ วุตฺโตวายมตฺโถ; ตติยํ อริยสาวกสฺเสว วเสน วุตฺตํ.

อสฺสาทสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อรหนฺตสุตฺตวณฺณนา

๗๖. ยตฺตกา สตฺตาวาสาติ ตสฺมึ ตสฺมึ สตฺตนิกาเย อาวสนฏฺเน สตฺตา เอว สตฺตาวาสา. เตน ยตฺตกา สตฺตาวาสา, เตหิ สพฺเพหิปิ เอเต อคฺคา เอเต เสฏฺา, เย อิเม อรหนฺตาติ ทสฺเสติ. ปุริมนเยเนวาติ ปุริมสฺมึ สตฺตฏฺานโกสลฺลสุตฺเต วุตฺตนเยน.

ตทตฺถปริทีปนาหีติ ‘‘ปฺจกฺขนฺเธ ปริฺาย. ตณฺหา เตสํ น วิชฺชติ. อสฺมิมาโน สมุจฺฉินฺโน’’ติอาทินา ตสฺส ยถานิทฺทิฏฺสฺส สุตฺตสฺส อตฺถทีปนาหิ เจว ‘‘อเนชํ เต อนุปฺปตฺตา, จิตฺตํ เตสํ อนาวิล’’นฺติอาทินา วิเสสตฺถปริทีปนาหิ จ. ฌานมคฺคผลปริยาปนฺนํ อติสยิตสุขํ เอเตสมตฺถีติ สุขิโนติ อาห ‘‘ฌาน…เป… สุขิตา’’ติ. ตณฺหา เตสํ น วิชฺชตีติ เอตฺถ เตสํ อปายทุกฺขชนิกา ตณฺหา น วิชฺชตีติ วุตฺตํ. วฏฺฏมูลิกาย ตณฺหาย อภาวา ‘‘นนฺที เตสํ น วิชฺชตี’’ติ เอตฺถ วุจฺจตีติ. อิมสฺสปีติ ปิ-สทฺเทน ทุกฺขสฺสาภาเวนปีติ ทุกฺขาภาโว วิย วฏฺฏมูลิกตณฺหาภาโว สมฺปิณฺฑียตีติ ทฏฺพฺพํ. เตน หิ เต อนุปาทิเสสนิพฺพานปฺปตฺติยา อจฺจนฺตสุขิตา เอวาติ วุจฺจนฺตีติ. ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินยปฺปวตฺติยา นววิโธ. าเณนาติ อคฺคมคฺคฺาเณน.

อรหตฺตํ อนุปฺปตฺตา. อลิตฺตาติ อมกฺขิตา. พฺรหฺมภูตาติ พฺรหฺมภาวํ ปตฺตา, พฺรหฺมโต วา อริยมคฺคาณโต ภูตา อริยาย ชาติยา ชาตา. สตฺต สทฺธมฺมา โคจโร ปวตฺติฏฺานํ เอเตสนฺติ สตฺตสทฺธมฺมโคจรา.

นิราสงฺกจาโร นาม คหิโต กุโตจิปิ เตสํ อาสงฺกาย อภาวโต. สมฺมาทิฏฺิอาทีหิ ทสหิ องฺเคหิ สมฺมาวิมุตฺติ-สมฺมาาณปริโยสาเนหิ. ‘‘อาคุํ น กโรตี’’ติอาทีหิ จตูหิ การเณหิ. ตณฺหา เตสํ น วิชฺชตีติ อิทมฺปิ ตณฺหาปหานสฺส พหูปการตาทสฺสนํ. เตนาห ‘‘ทาสการิกา ตณฺหาปิ เตสํ นตฺถี’’ติ.

วิกมฺปนฺติ ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินา.

อุทฺธํติริยํ อปาจีนนฺติ เอตฺถ ‘‘อุทฺธํ วุจฺจตี’’ติอาทินา รูปมุเขน อตฺตภาวํ คเหตฺวา ปวตฺโต ปมนโย. กาลตฺตยวเสน ธมฺมปฺปวตฺตึ คเหตฺวา ปวตฺโต ทุติยนโย. านวเสน สกลโลกธาตุํ คเหตฺวา ปวตฺโต ตติยนโย. พุทฺธาติ จตฺตาริ สจฺจานิ พุทฺธวนฺโต.

สีหนาทสโมธานนฺติ สีหนาทานํ สํกลนํ. โลเก อตฺตโน อุตฺตริตรสฺสาภาวา อนุตฺตรา. อุตฺตโร ตาว ติฏฺตุ ปุริโส, สทิโสปิ ตาว นตฺถีติ อสทิสา. สกลมฺปิ ภวํ อุตฺตริตฺวา ภวปิฏฺเ ตฺวา วิมุตฺติสุเขน สุขิตตฺตาทิวเสน เอกวีสติยากาเรหิ สีหนาทํ นทนฺติ.

อรหนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ทุติยอรหนฺตสุตฺตวณฺณนา

๗๗. สุทฺธิกเมวาติ สุทฺธสํขิตฺตพนฺธเมว กตฺวา.

ทุติยอรหนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สีหสุตฺตวณฺณนา

๗๘. สีโหติ ปริสฺสยสหนโต ปฏิปกฺขหนนโต จ ‘‘สีโห’ติ ลทฺธนาโม มิคาธิปติ. จตฺตาโรติ จ สมาเนปิ สีหชาติกภาเว วณฺณวิเสสาทิสิทฺเธน วิเสเสน จตฺตาโร สีหา. เต อิทานิ นามโต วณฺณโต อาหารโต ทสฺเสตฺวา อิธาธิปฺเปตสีหํ นานปฺปการโต วิภาเวตุํ ‘‘ติณสีโห’’ติอาทิ อารทฺธํ. ติณภกฺโข สีโห ติณสีโห ปุริมปเท อุตฺตรปทโลเปน ยถา ‘‘สากปตฺถิโว’’ติ. กาฬวณฺณตาย กาฬสีโห. ตถา ปณฺฑุสีโห. เตนาห ‘‘กาฬสีโห กาฬคาวิสทิโส, ปณฺฑุสีโห ปณฺฑุปลาสวณฺณคาวิสทิโส’’ติ. รตฺตกมฺพลสฺส วิย เกสโร เกสรกลาโป เอตสฺส อตฺถีติ เกสรี. ลาขารสปริกมฺมกเตหิ วิย ปาทปริยนฺเตหีติ โยชนา.

กมฺมานุภาวสิทฺธอาธิปจฺจมเหสกฺขตาหิ สพฺพมิคคณสฺส ราชา สุวณฺณคุหโต วาติอาทิ ‘‘สีหสฺส วิหาโร กิริยา เอวํ โหตี’’ติ กตฺวา วุตฺตํ.

สมํ ปติฏฺาเปตฺวาติ สพฺพภาเคหิ สมเมว ภูมิยํ ปติฏฺาเปตฺวา. อากฑฺฒิตฺวาติ ปุรโต อากฑฺฒิตฺวา . อภิหริตฺวาติ อภิมุขํ หริตฺวา. สงฺฆาตนฺติ วินาสํ. วีสติยฏฺิกํ านํ อุสภํ.

สมสีโหติ สมชาติโก สมภาโค จ สีโห. สมาโนสฺมีติ เทสนามตฺตํ, สมปฺปภาวตายปิ น ภายติ. สกฺกายทิฏฺิพลวตายาติ ‘‘เก อฺเ อมฺเหหิ อุตฺตริตรา, อถ โข มยเมว มหาพลา’’ติ เอวํ พลาติมานนิมิตฺตาย อหงฺการเหตุภูตาย สกฺกายทิฏฺิยา พลภาเวน. สกฺกายทิฏฺิปหีนตฺตาติ สกฺกายทิฏฺิยา ปหีนตฺตา นิรหงฺการตฺตา อตฺตสิเนหสฺส สุฏฺุ สมุคฺฆาฏิตตฺตา น ภายติ.

ตถา ตถาติ สีหสทิสตาทินา เตน เตน ปกาเรน อตฺตานํ กเถสีติ วตฺวา ตมตฺถํ วิวริตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สีโหติ โข’’ติอาทิ วุตฺตํ.

กตาภินีหารสฺส โลกนาถสฺส โพธิยา นิยตภาวปฺปตฺติยา เอกนฺตภาวีพุทฺธภาโวติ กตฺวา ‘‘ตีสุ ปาสาเทสุ นิวาสกาโล, มคธรฺโ ปฏิฺาทานกาโล, ปายาสสฺส ปริภุตฺตกาโล’’ติอาทินา อภิสมฺโพธิโต ปุริมาวตฺถาปิ สีหสทิสํ กตฺวา ทสฺสิตา. ภาวินิ, ภูโตปจาโรปิ หิ โลกโวหาโร. วิชฺชาภาวสามฺโต ภูตวิชฺชา อิตรวิชฺชาปิ เอกชฺฌํ คเหตฺวา ปฏิจฺจสมุปฺปาทสมฺมสนโต ตํ ปุเรตรํ สิทฺธํ วิปากํ วิย กตฺวา อาห ‘‘ติสฺโส วิชฺชา วิโสเธตฺวา’’ติ. อนุโลมปฏิโลมโต ปวตฺตาณวเสน ‘‘ยมกาณมนฺถเนนา’’ติ วุตฺตํ.

ตตฺถ วิหรนฺตสฺสาติ อชปาลนิคฺโรธมูเล วิหรนฺตสฺส. เอกาทสเม ทิวเสติ สตฺตสตฺตาหโต ปรํ เอกาทสเม ทิวเส. อจลปลฺลงฺเกติ อิสิปตเน ธมฺมจกฺกปวตฺตนตฺถํ นิสินฺนปลฺลงฺเก. ตมฺปิ หิ เกนจิ อปฺปฏิวตฺติยธมฺมจกฺกปวตฺตนตฺถํ นิสชฺชาติ กตฺวา วชิราสนํ วิย อจลปลฺลงฺกํ วุจฺจติ. อิมสฺมิฺจ ปน ปเทติ ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตา’’ติอาทินยปฺปวตฺเต อิมสฺมึ สทฺธมฺมโกฏฺาเส. ธมฺมโฆโส…เป… ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ปฏิจฺฉาเทสิ ‘‘สพฺพตฺถ ิตา สุณนฺตู’’ติ อธิฏฺาเนน. โสฬสหากาเรหีติ ‘‘ทุกฺขปริฺา, สมุทยปฺปหานํ, นิโรธสจฺฉิกิริยา, มคฺคภาวนา’’ติ เอวํ เอเกกสฺมึ มคฺเค จตฺตาริ จตฺตาริ กตฺวา โสฬสหิ อากาเรหิ.

วุตฺโตเยว, น อิธ วตฺตพฺโพ, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ อธิปฺปาโย. ยสฺมา จ อปเรหิปิ อฏฺหิ การเณหิ ภควา ตถาคโตติ อารภิตฺวา อุทานฏฺกถาทีสุปิ (อุทา. อฏฺ. ๑๘; อิติวุ. ๓๘) ตถาคตปทสฺส อตฺโถ วุตฺโต เอว, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ . ยทิปิ ภควา น โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺนมตฺโตว อภิสมฺพุทฺโธ ชาโต, ตถาปิ ตาย นิสชฺชาย นิสินฺโนว ปนุชฺช สพฺพปริสฺสยํ อภิสมฺพุทฺโธ ชาโต. ตถา หิ ตํ ‘‘อปราชิตปลฺลงฺก’’นฺติ วุจฺจติ. ตสฺมา ‘‘ยาว โพธิปลฺลงฺกา วา’’ติ วตฺวา เตน อปริตุสฺสนฺโต ‘‘ยาว อรหตฺตมคฺคาณา วา’’ติ อาห.

อิติ รูปนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท นิทสฺสนตฺโถ. เตน รูปํ สรูปโต ปริมาณโต ปริจฺเฉทโต ทสฺสิตนฺติ อาห ‘‘อิทํ รุป’’นฺติอาทิ. ‘‘อิทํ รูป’’นฺติ หิ อิมินา ภูตุปาทายเภทรูปํ สรูปโต ทสฺสิตํ. เอตฺตกํ รูปนฺติ อิมินา ตํ ปริมาณโต ทสฺสิตํ. ตสฺส จ ปริมาณสฺส เอกนฺตภาวทสฺสเนน ‘‘น อิโต ภิยฺโย รูปํ อตฺถี’’ติ วุตฺตํ. สภาวโตติ สลกฺขณโต. สรสโตติ สกิจฺจโต. ปริยนฺตโตติ ปริมาณปริยนฺตโต. ปริจฺเฉทโตติ ยตฺตเก าเน ตสฺส ปวตฺติ, ตสฺส ปริจฺเฉทนโต. ปริจฺฉินฺทนโตติ ปริโยสานปฺปตฺติโต. ตํ สพฺพํ ทสฺสิตํ โหติ ยถาวุตฺเตน วิภาเคน. อยํ รูปสฺส สมุทโย นามาติ อยํ อาหาราทิ รูปสฺส สมุทโย นาม. เตนาห ‘‘เอตฺตาวตา’’ติอาทิ. อตฺถงฺคโมติ นิโรโธ. ‘‘อาหารสมุทยา อาหารนิโรธา’’ติ จ อสาธารณเมว คเหตฺวา เสเส อาทิ-สทฺเทน สงฺคณฺหาติ.

ปณฺณาสลกฺขณปฏิมณฺฑิตนฺติ ปณฺณาสอุทยพฺพยลกฺขณวิภูสิตํ สมุทยตฺถงฺคมคหณโต. ขีณาสวตฺตาติ อนวเสสํ สาวเสสฺจ อาสวานํ ปริกฺขีณตฺตา. อนาคามีนมฺปิ หิ ภยํ จิตฺตุตฺราโส จ น โหตีติ. าณสํเวโค ภยตูปฏฺานาณํ. อิตเรสํ ปน เทวานนฺติ อขีณาสเว เทเว สนฺธาย วทติ. โภติ ธมฺมาลปนมตฺตนฺติ วาจสิกํ ตถาลปนมตฺตํ.

จกฺกนฺติ สตฺถุ อาณาจกฺกํ, ตํ ปน ธมฺมโต อาคตนฺติ ธมฺมจกฺกํ. ตตฺถ อริยสาวกานํ ปฏิเวธธมฺมโต อาคตนฺติ ธมฺมจกฺกํ. อิตเรสํ เทสนาธมฺมโต อาคตนฺติ ธมฺมจกฺกํ. ทุวิเธปิ าณํ ปธานนฺติ าณสีเสน วุตฺตํ ‘‘ปฏิเวธาณมฺปิ เทสนาาณมฺปี’’ติ. อิทานิ ตํ าณทฺวยํ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิเวธาณํ นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมา จสฺส าณสฺส สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ภควา ตานิ สฏฺิ นยสหสฺสานิ เวเนยฺยานํ ทสฺเสตุํ สมตฺโถ อโหสิ, ตสฺมา ตานิ สฏฺิ นยสหสฺสานิ เตน าเณน สทฺธึเยว สิทฺธานีติ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘สฏฺิยา จ นยสหสฺเสหิ ปฏิวิชฺฌี’’ติ อาห. ติปริวฏฺฏนฺติ อิทํ ทุกฺขนฺติ จ, ปริฺเยฺยนฺติ จ, ปริฺาตนฺติ จ เอวํ ติปริวฏฺฏํ, ตํเยว ทฺวาทสาการํ. ตนฺติ เทสนาาณํ ปวตฺเตติ เอส ภควา. อปฺปฏิปุคฺคโลติ ปตินิธิภูตปุคฺคลรหิโต. เอกสทิสสฺสาติ นิพฺพิการสฺส.

สีหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ขชฺชนียสุตฺตวณฺณนา

๗๙. วิปสฺสนาวเสนาติ เอตรหิ รูปเวทนาทโย อนุสฺสริตฺวา ‘‘ปุพฺเพปาหํ เอวํเวทโน อโหสิ’’นฺติ อตีตานํ รูปเวทนาทีนํ ปจฺจุปฺปนฺเนหิ วิเสสาภาวทสฺสนา วิปสฺสนา, ตสฺสา วิปสฺสนาย วเสน. ยฺวายํ ‘‘น อิทํ อภิฺาวเสนา’’ติ ปฏิกฺเขโป กโต, ตสฺส การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อภิฺาวเสน หี’’ติอาทิมาห. ขนฺธปฏิพทฺธา นาม โคตฺตวณฺณหาราทโย. เอวํ อนุสฺสรนฺโตติ ยถาวุตฺตวิปสฺสนาวเสน อนุสฺสรนฺโต. สภาวธมฺมานํ เอว อนุสฺสรณสฺส วุตฺตตฺตา ‘‘สุฺตาปพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.

ยสฺมา เต เอว รูปาทโย เนว อตฺตา, น อตฺตนิยา อสารา อนิสฺสรา, ตสฺมา ตโต สุฺา, เตสํ ภาโว สุฺตา, ตสฺสา ลกฺขณํ รุปฺปนาทิกํ ทสฺเสตุํ.

กิฺจาติ เหตุอตฺถโชตเก การเณ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘กิฺจาติ การณปุจฺฉา, เกน การเณน รูปํ วเทถา’’ติ. เอตนฺติ เอตํ ภูตุปาทายเภทํ ธมฺมชาตํ. เกน การเณน รูปํ นามาติ กึ การณํ นิสฺสาย รูปนฺติ วุจฺจตีติ อตฺโถ. การณุทฺเทโสติ การณสฺส อุทฺทิสนํ. รุปฺปตีติ เอตฺถ รูปํ นาม สีตาทิวิโรธิปจฺจยสนฺนิปาเตน วิสทิสุปฺปตฺติ. เตนาห ‘‘สีเตนปี’’ติอาทิ. ปพฺพตปาเทติ จกฺกวาฬปพฺพตปาเท, โส ปน ตตฺถ อจฺจุคฺคโต ปากาโร วิย ิโต. ตถา หิ ตตฺถ สตฺตา โอลมฺพนฺตา ติฏฺนฺติ. หตฺถปาสาคตาติ หตฺถปาสํ อาคตา อุปาคตา. ตตฺถาติ ตสฺมึ หตฺถปาสาคเต สตฺเต. ฉิชฺชิตฺวาติ มุจฺฉาปตฺติยา มุจฺจิตฺวา, องฺคปจฺจงฺคอุจฺเฉทวเสน วา ปริจฺฉิชฺชิตฺวา. อจฺจนฺตขาเร อุทเกติ อาตปสนฺตาปาภาเวน อติสีตภาวเมว สนฺธาย อจฺจนฺตขารตา วุตฺตา สิยา. น หิ ตํ กปฺปสณฺานอุทกํ สมฺปตฺติกรมหาเมฆวุฏฺํ ปถวีสนฺธารกํ กปฺปวินาสอุทกํ วิย ขารํ ภวิตุํ อรหติ, ตถา สติ ปถวีปิ วิลีเยยฺยาติ. มหึสกรฏฺํ นาม หิมวนฺตปเทเส เอกํ รฏฺํ.

อวีจิมหานิรเยติ สอุสฺสทํ อวีจินิรยํ วุตฺตํ. คงฺคาปิฏฺเติ คงฺคาตีเร.

สรนฺตา คจฺฉนฺตีติ สรีสปปทสฺส อตฺถํ วทติ. เอตนฺติ รุปฺปนํ. ยถา กินตา ปถวิยา ปจฺจตฺตลกฺขณํ, เอวํ รุปฺปนํ รูปกฺขนฺธสฺส ปจฺจตฺตลกฺขณํ, สภาวภูตลกฺขณนฺติ อตฺโถ.

ปุริมสทิสนฺติ ปุริเม รูปกฺขนฺเธ วุตฺเตน สทิสํ. ตํ ‘‘กินฺติ การณปุจฺฉา’’ติอาทินา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สุขํ อิฏฺารมฺมณํ. สุขาทีนํ เวทนานํ. ปจฺจยโตติ อารมฺมณปจฺจยโต. อยมตฺโถติ ‘‘สุขารมฺมณํ สุขนฺติ วุจฺจตี’’ติ อยมตฺโถ. อุตฺตรปทโลเปน เหส นิทฺเทโส. เวทยตีติ อนุภวติ. เวทยิตลกฺขณาติ อนุภวนลกฺขณา.

นีลปุปฺเผติ นีลวณฺณปุปฺเผ. วตฺเถ วาติ นีลวตฺเถ. วา-สทฺเทน วณฺณธาตุอาทึ สงฺคณฺหาติ. อปฺปนํ วา ฌานํ วาเปนฺโต. อุปฺปชฺชนสฺาปีติ ยํ กิฺจิ นีลํ รูปายตนํ อารพฺภ อุปฺปชฺชนสฺาปิ, ยา ปกิณฺณกสฺาติ วุจฺจติ.

รูปตฺตายาติ รูปภาวาย. ยาคุเมวาติ ยาคุภาวินเมว วตฺถุํ. ยาคุตฺตาย ยาคุภาวาย. ปจติ นาม ปุคฺคโล. เอวนฺติ ยถา ยาคุอาทิวตฺถุํ ปุริโส ยาคุอาทิอตฺถาย ปจติ นิปฺผาเทติ, อยํ เอวํ รุปฺปนาทิสภาเว ธมฺมสมูเห ยถาสกํ ปจฺจเยหิ อภิสงฺขริยมาเน เจตนาปธาโน ธมฺมสมูโห ปวตฺตนตฺถํ วิเสสปจฺจโย หุตฺวา เต อภิสงฺขโรติ นิโรเปติ นิพฺพตฺเตติ. เตนาห ‘‘ปจฺจเยหี’’ติอาทิ. รูปเมวาติ รูปสภาวเมว, น อฺํ สภาวํ. อภิสงฺขโรตีติ อิตเรหิ ปจฺจยธมฺเมหิ อธิกํ สุฏฺุ ปจฺจยตํ กโรติ. ‘‘อุปคจฺฉติ ยาเปติ อายูหตี’’ติ ตสฺเสว เววจนานิ. อภิสงฺขรณเมว หิ อายูหนาทีนิ. นิพฺพตฺเตตีติ เตสํ ธมฺมานํ รุปฺปนาทิภาเวน นิพฺพตฺติยา ปจฺจโย โหตีติ อตฺโถ. เจตยิตลกฺขณสฺส สงฺขารสฺสาติ อิทํ สงฺขารกฺขนฺธธมฺมานํ เจตนาปธานตฺตา วุตฺตํ. ตถา หิ ภควา สุตฺตนฺตภาชนีเย สงฺขารกฺขนฺธํ วิภชนฺเตน เจตนาว วิภตฺตา.

วาติงฺคณํ พฺรหติผลํ. จตุรสฺสวลฺลีติ ติวุตาลตา. อขาริกนฺติ ขารรสรหิตํ, ตํ ปน ปณฺณผลาทิ. ยตฺถ โลณรโส อธิโก, ตํ โลณิกนฺติ อาห ‘‘โลณยาคู’’ติอาทิ. อมฺพิลาทิเภทํ รสํ.

อาการสณฺานคหณวเสนาติ นีลปีตาทิอาการคหณวเสน เจว วฏฺฏจตุรสฺสาทิสณฺานคหณวเสน จ. วินาปิ อาการสณฺานาติ อาการสณฺาเนหิ วินา, เต เปตฺวาปิ. ปจฺจตฺตเภทคหณวเสนาติ ตสฺส ตสฺส อารมฺมณสฺส ปเภทคหณวเสน. อสมฺโมหโตติ ยาถาวโต. วิเสโส วิเสสตฺถทีปนโต, อวิเสโส อยํ ธมฺโม อวิเสสทีปนโต. เตนาห ‘‘วิเสโส เวทิตพฺโพ’’ติ. ชานนฺหิ อวิสิฏฺํ, ตํ สมาสปทโต อุปสคฺคา วิเสเสนฺติ. ตถา หิ สฺชานนปทํ ปจฺจภิฺาณนิมิตฺตํ อาการคหณมตฺตํ โพเธติ, วิชานนปทํ ตโต วิสิฏฺวิสยคหณํ . ปชานนปทํ ปน ตโตปิ วิสิฏฺตรํ ปการโต อวโพธํ โพเธติ. เตนาห ‘‘ตสฺสาปี’’ติอาทิ. อารมฺมณสฺชานนมตฺตเมวาติ นีลาทิเภทสฺส อารมฺมณสฺส สลฺลกฺขณมตฺตเมว. อวธารเณน ลกฺขณปฏิเวธตฺตํ นิวตฺเตติ. เตนาห ‘‘อนิจฺจ’’นฺติอาทิ. าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตหิ วิปสฺสนฺตสฺส วิปสฺสนาย ปคุณภาเว สติ าณวิปฺปยุตฺเตน จิตฺเตนปิ วิปสฺสนา โหติเยวาติ อาห ‘‘อนิจฺจาทิวเสน ลกฺขณปฏิเวธฺจ ปาเปตี’’ติ. ปฏิเวธนฺติ จ อุปลทฺธิเมว วทติ, น ปฏิวิชฺฌนํ. เตนาห ‘‘อุสฺสกฺกิตฺวา ปนา’’ติอาทิ. อุสฺสกฺกิตฺวาติ อุสฺสกฺกาเปตฺวา มคฺคปาตุภาวมฺปิ ปาเปติ อสมฺโมหสภาวตฺตา. ยถา ลกฺขณปฏิเวธกาเล สฺชานนลกฺขณวเสน สฺาณอนุรูปวเสเนว ปวตฺตํ, เอวํ วิฺาณวิชานนวเสน วายํ อนุรูปวเสเนว ปวตฺตตีติ ทฏฺพฺพํ.

อิทานิ ตมตฺถํ เหรฺิกาทิอุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. หิรฺํ วุจฺจติ กหาปณํ, หิรฺชานเน นิยุตฺโต เหรฺิโก. โลกโวหาเร อชาตา อสฺชาตา พุทฺธิ เอตสฺสาติ อชาตพุทฺธิ, พาลทารโก. โวหารกุสโล คามวาสี ปุริโส คามิกปุริโส. อุปโภคปริโภคารหตฺตา อุปโภคปริโภคํ. ตมฺพกํสมยตฺตา กูโฏ. มหาสารตฺตา เฉโก. อฑฺฒสารตฺตา กรโฏ. นิหีนสารตฺตา สณฺโห. เอตฺถ จ ยถา เหรฺิโก กหาปณํ จิตฺตาทิภาวโต อุทฺธํ กูฏาทิภาวํ รูปทสฺสนาทิวเสน อุปฺปตฺติฏฺานโตปิ ชานนฺโต อเนกาการโต ชานาติ, เอวํ ปฺา อารมฺมณํ นานปฺปการโต ชานาติ ปฏิวิชฺฌติ, ตาย สทฺธึ ปวตฺตมานวิฺาณมฺปิ ยถาวิสยํ อารมฺมณํ ชานาติ.

เอวํ สฺวายํ เนสํ ชานเน วิเสโส อฺเสํ อวิสโย, พุทฺธานํ เอว วิสโยติ อิทํ วิเสสํ มิลินฺทปฺเหน วิภาเวตุํ ‘‘เตนาหา’’ติอาทิมาห, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

อตฺตสุฺานํ สภาวธมฺมานํ ธมฺมมตฺตตาย กถิตตฺตา ‘‘อนตฺตลกฺขณํ กเถตฺวา’’ติ วุตฺตํ. เหฏฺิมมคฺคา จ ยทิ อธิคตา, อรหตฺตสฺส อนธิคตตฺตา ‘‘เอกเทสมตฺเตนา’’ติ วุตฺตํ, ตํ อนิจฺจลกฺขณํ ทสฺเสตุํ อิทํ ปพฺพมารทฺธํ, อิตรานิ ทฺเว ลกฺขณานิ ตสฺส ปริหารภาเวนาติ อธิปฺปาโย.

ยสฺมา ปเนตฺถ ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว’’ติอาทิเทสนาย ตีสุ ลกฺขเณสุ อิทเมว ปธานภาเวน ทสฺสิตํ, อิทํ อปฺปธานภาเวนาติ น สกฺกา วตฺตุํ, ตสฺมา ‘‘ตีณิ ลกฺขณานิ สโมธาเนตฺวา ทสฺเสตุมฺปี’’ติ วุตฺตํ. อปจินาตีติ อปจยคามิธมฺเม นิวตฺเตติ เอกํสโต อปจยคามิปฏิปทาย ปริปูรณโต. เตนาห ‘‘โน อาจินาตี’’ติอาทิ. วฏฺฏํ วินาเสตีติ วิธมติ อทสฺสนํ คเมติ. เนว จินาตีติ น วฑฺเฒติ. ตเทวาติ ตํ วฏฺฏํ เอว. วิสฺสชฺเชตีติ ฉฑฺเฑติ. วิกิรตีติ วิทฺธํเสติ. วิธูเปตีติ วฏฺฏตฺตยสงฺขาตํ อคฺคิกฺขนฺธํ วิคตธูมํ วิคตสนฺตาปํ กโรตีติ อตฺโถติ อาห ‘‘นิพฺพาเปตี’’ติ.

เอวํ ปสฺสนฺติอาทิ อนาคามิผเล ิตสฺส อริยสาวกสฺส อคฺคมคฺคผลาธิคมาย เทสนาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘วฏฺฏํ วินาเสตฺวา ิตํ มหาขีณาสวํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ. ขีณาสวสฺส อนาคตภาวทสฺสนํเยว, สพฺพา จายํ เหฏฺิมา เทสนา สุทฺธวิปสฺสนากถา, สหปมมคฺคา วา สหวิชฺชูปมธมฺมา วา วิปสฺสนากถาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอตฺตเกน าเนนา’’ติอาทิมาห.

นมสฺสนฺติเยว มหตา คารวพหุมาเนน. เตนาห ‘‘นโม เต ปุริสาชฺา’’ติอาทิ. ตตฺถ นิทสฺสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อายสฺมนฺตํ นีตตฺเถรํ วิยา’’ติ วตฺวา ตมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘เถโร’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ขุรคฺเคเยวาติ เกโสโรปนตฺถํ ขุรธาราย อคฺเค สีเส ปิเต ตจปฺจกกมฺมฏฺานมุเขน ภาวนํ อนุยุฺชนฺโต อรหตฺตํ ปตฺวา. พฺรหฺมวิมานาติ พฺรหฺมานํ นิวาสภูตา วิมานา.

ขชฺชนียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ปิณฺโฑลฺยสุตฺตวณฺณนา

๘๐. อปกรียติ เอเตนาติ อปกรณํ, ปทํ. อปกรณํ ปกรณํ การณนฺติ อตฺถโต เอกํ. เตนาห ‘‘กิสฺมิฺจิเทว การเณ’’ติ. นีหริตฺวาติ อตฺตโน สมีปจารภาวโต อปเนตฺวา. ตถากรณฺจ เอวเมเต เอตฺตกมฺปิ อปฺปฏิรูปํ อกตฺวา อายตึ สมฺมา ปฏิปชฺชิสฺสนฺตีติ. ลทฺธพลาติ ลทฺธาณพลา.

เอกทฺวีหิกายาติ เอเกกสฺส เจว ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนฺจ อีหิกา คติ อุปสงฺกมนา เอกทฺวีหิกา. เตนาห ‘‘เอเกโก เจว ทฺเว ทฺเว จ หุตฺวา’’ติ. ปุถุชฺชนานํ สมุทิตานํ นาม กิริยา ตาทิสีปิ สิยาติ วุตฺตํ ‘‘เกฬิมฺปิ กเรยฺยุ’’นฺติ. ปริกปฺปนวเสน สมฺมาสมฺพุทฺธํ อุทฺทิสฺส เปสลา ภิกฺขูปิ เอวํ กโรนฺตีติ.

ยุคนฺธรปพฺพตาทีนํ อนฺตเร สีทนฺตรํ สมุทฺทํ นาม. ตตฺถ กิร วาโต น วายติ, ปติตํ ยํ กิฺจิปิ สีทนฺตรนทิยํ วิลียนฺตา สีทนฺเตว, ตสฺมา ตํ ปริวาเรตฺวา ิตา ยุคนฺธราทโยปิ สีทปพฺพตา นาม. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สีทนฺตเร สนฺนิสินฺนํ มหาสมุทฺทํ วิยา’’ติ. อาหารเหตูติ อามิสเหตุ สปฺปิเตลาทินิมิตฺตํ, เตสํ ปณามนา.

ปจฺฉิมนฺติ นิหีนํ. เตนาห ‘‘ลามก’’นฺติ, ลามกนฺโต อิธาธิปฺเปโต –

‘‘มิคานํ โกฏฺุโก อนฺโต, ปกฺขีนํ ปน วายโส;

เอรณฺโฑ อนฺโต รุกฺขานํ, ตโย อนฺตา สมาคตา’’ติ. –

อาทีสุ (ชา. ๑.๓.๑๓๕) วิย. อุลตีติ อภิจรติ. อภิสปนฺติ เอเตนาติ อภิสาโป. อภิสาปวตฺถุ ปิณฺโฑลฺยํ. อตฺโถ ผลํ วโส เอตสฺสาติ อตฺถวสํ, การณํ, ตมฺปิ เตสุ อตฺถิ, ตตฺถ นิยุตฺตาติ อตฺถวสิกา.

อนฺโต หทยสฺส อพฺภนฺตเร อนุปวิฏฺา โสกวตฺถูหิ.

อภิชฺฌายิตาติ อภิชฺฌายนสีโล. อภิณฺหปฺปวตฺติยา เจว พหุลภาเวน จ พหุลราโค. ปูติภาเวนาติ กุถิตภาเวน. พฺยาปาโท หิ อุปฺปชฺชมาโน จิตฺตํ อปคนฺธํ กโรติ, น สุจิมนุฺภาวํ. ภตฺตนิกฺขิตฺตกาโก วิยาติ อิทํ ภตฺตฏฺานสฺส อสรเณน กากสฺส นฏฺสติตา ปฺายตีติ กตฺวา วุตฺตํ, น ภตฺตนิกฺขิตฺตตาย. อสณฺิโตติ อสณฺิตจิตฺโต. กฏฺตฺถนฺติ กฏฺเน กตฺตพฺพกิจฺจํ.

ปาปวิตกฺเกหิ กโต, ตสฺมา เต อนวเสสโต ปหาตพฺพาติ ทสฺสนตฺถํ. ทฺวินฺนํ วุตฺตตฺตา เอโก ปุพฺพภาโค, อิตโร มิสฺสโกติ วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ ตํ ภาเวนฺตสฺส นิรุชฺฌนฺติ เอวาติ เอเกกมิสฺสกตาวเสน คเหตพฺพนฺติ โปราณา. อุปริ ติปริวฏฺฏเทสนาย อนิมิตฺตสมาธิเยว ทีปิโต. เตนาห ‘‘ยาวฺจิท’’นฺติ. นิทฺโทโสติ วีตราคาทินา นิทฺโทโส.

ปิณฺโฑลฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปาลิเลยฺยสุตฺตวณฺณนา

๘๑. ปริยาทิณฺณรูปจิตฺตาติ ราคาทีหิ ปริยาทิยิตฺวา เขเปตฺวา คหิตจิตฺตา.

ภควโต จาโร วิทิโต ปริจยวเสน. สตฺถา ปริโภคํ กโรติ อนุคฺคณฺหนฺโต ‘‘เอวํ หิสฺส ทุคฺคติโมกฺโข ภวิสฺสตี’’ติ. อฺตฺราติ วินา.

นาเคนาติ พุทฺธนาเคน องฺกุสรหิเตน. ตโต เอว อุชุภูเตน จิตฺเตน. อีสาทนฺตสฺส นงฺคลสทิสทนฺตสฺส หตฺถิโน เอวํ จิตฺตํ สเมติ. ตตฺถ การณมาห ‘‘ยเทโก รมตี วเน’’ติ. เอเตน กายวิเวเกน รติสามฺํ วทติ.

อตฺตโน ธมฺมตายาติ ปกติยา สยเมว.

อาสวานํ ขโยติ อิธ อรหตฺตํ อธิปฺเปตํ, ตํ ปน อคฺคมคฺคานนฺตรเมวาติ อาห ‘‘มคฺคานนฺตรํ อรหตฺตผล’’นฺติ. วิจโย เทสนาปฺา อธิปฺเปตา, สา จ อเนกธา ปวตฺตา เอวาติ วุตฺตํ ‘‘วิจยโส’’ติ, อเนกกฺขตฺตุํ ปวตฺตมานาปิ วิจโย เอวาติ กตฺวา ‘‘วิจเยนา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. สาสนธมฺโมติ สีลกฺขนฺธาทิปริทีปโน ปริยตฺติธมฺโม. ปริวิตกฺโก อุทปาทิ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทินา, เอวํ โกฏฺาสโต ปริจฺฉิชฺช เทสิเต มยา ธมฺเม กตมสฺส ชานนสฺส อนฺตรา อาสวานํ ขโย โหตีติ เอกจฺจสฺส กงฺขา โหติเยวาติ อธิปฺปาโย. ทิฏฺิ เอว สมนุปสฺสนา ทิฏฺิสมนุปสฺสนา. ทิฏฺิสงฺขาโรติ ทิฏฺิปจฺจโย สงฺขาโร. ตโต เอว ตณฺหาปจฺจโย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ตโตโช โส สงฺขาโร’’ติ. ตโต ตณฺหาโต โส สงฺขาโร ชาโตติ จตูสุ เอส ทิฏฺิสงฺขาโร ทิฏฺูปนิสฺสโย สงฺขาโร ชายติ. อวิชฺชาสมฺผสฺโสติ อวิชฺชาสมฺปยุตฺตสมฺผสฺโส. เอวเมตฺถ ภควา สฬายตนนามรูปวิฺาณานิ สงฺขารปกฺขิกาเนว กตฺวา ทสฺเสติ.

เอตฺตเก าเนติ ‘‘อิธ ภิกฺขเว อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติอาทึ กตฺวา ยาว ‘‘น เม ภวิสฺสตี’’ติ เอตฺตเก าเน. คหิตคหิตทิฏฺินฺติ สกฺกายทิฏฺิยา ‘‘โส อตฺตา, โส โลโก’’ติอาทินา ปวตฺตํ สสฺสตทิฏฺึ, โน จสฺสํ, โน จ เม สิยา’’ติอาทินา ปวตฺตํ อุจฺเฉททิฏฺินฺติ ตถา ตถา คหิตทิฏฺึ. ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, โสปิ สงฺขาโร อนิจฺโจ’’ติอาทิเทสนาย วิสฺสชฺชาเปนฺโต อาคโต. ตตฺถ ตตฺเถวาสฺส อุปฺปนฺนทิฏฺิวิเวจนโต อิมิสฺสา เทสนาย ปุคฺคลชฺฌาสเยน ปวตฺติตตา เวทิตพฺพา, เตวีสติยา าเนสุ อรหตฺตปาปเนน เทสนาวิลาโส. ตโตโช โส สงฺขาโรติ ตโต วิจิกิจฺฉาย ปจฺจยภูตตณฺหาโต ชาโต วิจิกิจฺฉาย สมฺปยุตฺโต สงฺขาโร. ยทิ สหชาตาทิปจฺจยวเสน ตโต ตณฺหาโต ชาโตติ ตโตโช สงฺขาโรติ วุจฺเจยฺย, อิทมยุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตณฺหาสมฺปยุตฺต…เป… ชายตี’’ติ โจเทติ. อิตโร อุปนิสฺสยโกฏิ อิธาธิปฺเปตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปฺปหีนตฺตา’’ติ วตฺวา ‘‘ยสฺส หี’’ติอาทินา ตมตฺถํ วิวรติ. น หิ ตณฺหาย วิจิกิจฺฉา สมฺภวติ. ยทิ อสติ สหชาตโกฏิยา อุปนิสฺสยโกฏิยา ตณฺหาปจฺจยา วิจิกิจฺฉาย สมฺภโว เอว. ทิฏฺิยาปีติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิยาปิ. เตนาห ‘‘จตูสุ หี’’ติอาทิ. วีสติ สกฺกายทิฏฺิโย สสฺสตทิฏฺึ อุจฺเฉททิฏฺึ วิจิกิจฺฉฺจ ปกฺขิปิตฺวา ปจฺเจกํ อนิจฺจตามุเขน วิปสฺสนํ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตํ ปาเปตฺวา เทสนา นิฏฺาปิตาติ อาห ‘‘เตวีสติยา าเนสู’’ติอาทิ.

ปาลิเลยฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา

๘๒. ทิสฺสติ อปทิสฺสตีติ เทโส, การณํ, ตฺจ โข าปกํ ทฏฺพฺพํ. ยฺหิ โส ชานิตุกาโม รุปฺปนาทิสภาวํ, ปมํ ปน สรูปํ ปุจฺฉิตฺวา ปุน ตสฺส วิเสโส ปุจฺฉิตพฺโพติ ปมํ ‘‘อิเม นุ โข’’ติอาทินา ปุจฺฉํ กโรติ, อิธาปิ จ โส วิเสโส เอว ตสฺส ภิกฺขุโน อนฺตนฺติ ทสฺเสติ. อชานนฺโต วิย ปุจฺฉติ เตสํ เหตุนฺติ อธิปฺปาโย.

ตณฺหาฉนฺทมูลกา ปภวตฺตา. ปฺจุปาทานกฺขนฺธาติ เอตฺถ วิเสสโต ตณฺหุปาทานสฺส คหณํ อิตรสฺส ตคฺคหเณเนว คหิตํ ตทวินาภาวโตติ ฉนฺทราโค เอว อุทฺธโฏ. อิทนฺติ ตปฺปฺหปฏิกฺขิปนํ. ยทิปิ ขนฺธา อุปาทาเนหิ อสหชาตาปิ โหนฺติ อุปาทานสฺส อนารมฺมณภูตาปิ, อุปาทานํ ปน เตหิ สหชาตเมว, ตทารมฺมณฺจ โหติเยวาติ ทสฺเสติ. น หิ อสหชาตํ อนารมฺมณฺจ อุปาทานํ อตฺถีติ. อิทานิ ตมตฺถํ วิวริตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตณฺหาสมฺปยุตฺตสฺมิ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว. อารมฺมณโตติ อารมฺมณกรณโต. ‘‘เอวํรูโป สิย’’นฺติ เอวํปวตฺตสฺส ฉนฺทราคสฺส ‘‘เอวํเวทโน สิย’’นฺติ เอวํปวตฺติยา อภาวโต ตตฺถ ตตฺเถว นตสงฺขารา ภิชฺชนฺติ, ตสฺมา รูปเวทนารมฺมณานํ ฉนฺทราคาทีนํ อภาวโต อตฺเถว ฉนฺทราคเวมตฺตตา. ฉนฺทราคสฺส ปหานาทิวเสน ฉนฺทราคปฏิสํยุตฺตสฺส อปุจฺฉิตตฺตา, ‘‘อนุสนฺธิ น ฆฏิยตี’’ติ วุตฺตํ. กิฺจาปิ น ฆฏิยตีติ อฺสฺเสว ปุจฺฉิตตฺตา, ตถาปิ สานุสนฺธิกาว ปุจฺฉา, ตโต เอว สานุสนฺธิกํ วิสฺสชฺชนํ. ตตฺถ การณมาห ‘‘เตสํ เตส’’นฺติอาทินา. เตน อชฺฌาสยานุสนฺธิวเสน สานุสนฺธิกาเนว ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานีติ ทสฺเสติ.

ปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ขชฺชนียวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. เถรวคฺโค

๑. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา

๘๓. ปฏิจฺจาติ นิสฺสยํ กตฺวา. ‘‘เอโสหมสฺมี’’ติ ทิฏฺิคฺคาโห, ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มานคฺคาโห จ ตณฺหาวเสเนว โหนฺตีติ ตณฺหาปิ ตถาปวตฺติยา ปจฺจยภูตา ตถาปวตฺติ เอวาติ วุตฺตํ ‘‘อสฺมีติ เอวํ ปวตฺตํ ตณฺหามานทิฏฺิปปฺจตฺตยํ โหตี’’ติ. ทหรสทฺโท พาลทารเกปิ ปวตฺตตีติ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘ยุวา’’ติ วุตฺตํ. ยุวาปิ เอโก อมณฺฑนสีโลติ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘มณฺฑนกชาติโก’’ติ วุตฺตํ. เตน มุขนิมิตฺตปจฺจเวกฺขณสฺส สพฺภาวํ ทสฺเสติ. นฺติ อาทาสมณฺฑลํ โอโลกยโต. ปรมฺมุขํ หุตฺวา ปฺาเยยฺยาติ ยทิ ปุรตฺถิมทิสาภิมุขํ หุตฺวา ิตํ, มุขนิมิตฺตมฺปิ ปุรตฺถิมทิสาภิมุขเมว หุตฺวา ปฺาเยยฺยาติ อตฺโถ. ยทิปิ ปรสฺส สทิสสฺส มุขํ ภเวยฺย, ตถาปิ กาจิ อสทิสตา ภเวยฺยาติ วุตฺตํ ‘‘วณฺณาทีหิ อสทิสํ หุตฺวา ปฺาเยยฺยา’’ติ. นิภาสรูปนฺติ ปฏิภาสรูปํ. นิภาสรูปํ ตาว กํสาทิมเย ปภสฺสเร มณฺฑเล ปฺายตุ, อุทเก ปน กถนฺติ ‘‘เกน การเณนา’’ติ ปุจฺฉติ. อิตโร ‘‘มหาภูตานํ วิสุทฺธตายา’’ติ วทนฺโต ตตฺถาปิ ยถาลทฺธปภสฺสรภาเวเนวาติ ทสฺเสติ. เอตฺถ จ มณฺฑนชาติโก ปุริโส วิย ปุถุชฺชโน, อาทาสตลาทโย วิย ปฺจกฺขนฺธา, มุขนิมิตฺตํ วิย ‘‘อสฺมี’’ติ คหณํ, มุขนิมิตฺตํ อุปาทาย ทิสฺสมานรูปาทิ วิย ‘‘อสฺมี’’ติ สติ ‘‘อหมสฺมี’’ติ ‘‘ปโรสฺมี’’ติอาทโย คาหวิเสสา. อภิสเมโตติ อภิสมิโต, อยเมว วา ปาโ.

อานนฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ติสฺสสุตฺตวณฺณนา

๘๔. มธุรกํ วุจฺจติ กาเย วิภารนฺติ อาห – ‘‘มธุรกชาโต วิยาติ สฺชาตครุภาโว วิยา’’ติ. ครุภาเว สติ ลหุตา อโนกาสาว, ตถา มุทุตา กมฺมฺตา จาติ วุตฺตํ ‘‘อกมฺมฺโ’’ติ. ‘‘กาเย’’ติ อาเนตฺวา วตฺตพฺพํ. น ปกฺขายนฺตีติ ปกาสา หุตฺวา น ขายนฺติ. เตนาห ‘‘น ปากฏา โหนฺตี’’ติ. อุปฏฺหนฺตีติ อุปติฏฺนฺติ. น ทิสฺสตีติ คหณํ น คจฺฉติ. มหาวิจิกิจฺฉาติ อฏฺวตฺถุกา โสฬสวตฺถุกา จ วิมติ. น หิ อุปฺปชฺชติ ปริปกฺกกุสลมูลตฺตา.

กามานเมตํ อธิวจนนฺติ ปทํ อุทฺธริตฺวา เยน อธิปฺปาเยน ภควตา นินฺนํ ปลฺลลํ กามานํ นิทสฺสนภาเวน อาภตํ, ตํ อธิปฺปายํ วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ติสฺสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ยมกสุตฺตวณฺณนา

๘๕. ทิฏฺิ เอว ทิฏฺิคตํ ‘‘คูถคตํ มุตฺตคต’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๑๑๙; อ. นิ. ๙.๑๑) ยถา. ทิฏฺิคตํ นาม ชาตํ ขนฺธวินิมุตฺตสฺส สตฺตสฺส คหิตตฺตา.

กุปิเตติ ทิฏฺิสงฺขาตโรเคน กุปิเต. ปคฺคยฺหาติ เตสํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก วิย เถรสฺส สาริปุตฺตสฺส สมฺมุขา อตฺตโน ลทฺธึ ปคฺคยฺห ‘‘เอวํ ขฺวาห’’นฺติ เอวํ นิจฺฉเยน วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต.

อนุโยควตฺตํ นาม เยน ยุตฺโต, ตสฺส อตฺตโน คาหํ นิชฺฌานกฺขนฺติยาว ยาถาวโต ปเวทนํ. เถรสฺส อนุโยเค ภุมฺมนฺติ ‘‘ตํ กึ มฺสิ, อาวุโส ยมกา’’ติอาทินา เถเรน กถิตปุจฺฉาย ภุมฺมนิทฺเทโส. สเจ ตํ อาวุโสติ อิทนฺติ ‘‘สเจ ตํ, อาวุโส’’ติ เอวมาทิกํ อิทํ วจนํ. เอตนฺติ ยมกตฺเถรํ. อฺนฺติ อรหตฺตํ. วตฺตพฺพากาเรน วทนฺโต อตฺถโต อรหตฺตํ พฺยากโรนฺโต นาม โหตีติ อธิปฺปาเยน วทติ.

เอตสฺส ปมมคฺคสฺสาติ เอตสฺส อิทานิเยว ติปริวฏฺฏเทสนาวสาเน ตยา อธิคตสฺส ปมมคฺคสฺส . จตูหิ โยเคหีติ อตฺตโต ปิยโต อุทาสินโต เวริโตติ จตูหิปิ อุปฺปชฺชนอนตฺถโยเคหิ.

อุเปตีติ ตณฺหุปยทิฏฺุปเยหิ อุปาทิยติ ตณฺหาทิฏฺิวตฺถุํ ปปฺโปติ. อุปาทิยตีติ ทฬฺหคฺคาหํ คณฺหาติ. อธิติฏฺตีติ อภินิวิสฺส ติฏฺติ. กินฺติ? ‘‘อตฺตา เม’’ติ. ปจฺจตฺถิกา เม เอเตติ เอเต รูปเวทนาทโย ปฺจุปาทานกฺขนฺธา มยฺหํ ปจฺจตฺถิกา อนตฺถาวหตฺตาติ วิปสฺสนาาเณน ตฺวา. วิปสฺสนาย โยเชตฺวาติ วิปสฺสนาย ขนฺเธ โยเชตฺวา.

ยมกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อนุราธสุตฺตวณฺณนา

๘๖. ตสฺเสว วิหารสฺสาติ มหาวเน ยสฺมึ วิหาเร ภควา วิหรติ, ตสฺเสว วิหารสฺส. อิเมติ อฺติตฺถิยา. ยสฺมา อยํ เถโร ปนียํ ปฺหํ ปนียภาเวน น เปสิ, ตสฺมา. อฺติตฺถิยา…เป… เอตทโวจุํ. เตนาห ‘‘เอกเทเสน สาสนสมยํ ชานนฺตา’’ติ.

คหิตเมว โหติ ตโต ปเคว สิทฺธตฺตา. เตนาห ‘‘ตสฺส มูลตฺตา’’ติ. เอวนฺติ ‘‘ทุกฺขฺเจว ปฺเปมิ, ทุกฺขสฺส จ นิโรธ’’นฺติ เอวํ. วฏฺฏวิวฏฺฏเมวาติ ปฺจนฺนํ ปน ขนฺธานํ สมนุปสฺสนาย วเสน วฏฺฏํ, ‘‘เอวํ ปสฺส’’นฺติอาทินา วิวฏฺฏํ กถิตเมว.

อนุราธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. วกฺกลิสุตฺตวณฺณนา

๘๗. นครมชฺเฌ มหาอาพาโธ อุปฺปชฺชีติ นครมชฺเฌน อาคจฺฉนฺโต กมฺมสมุฏฺาโน มหนฺโต อาพาโธ อุปฺปชฺชติ. สมนฺตโต อโธสีติ สพฺพภาเคน ปริปฺผนฺทิ. อิริยาปถํ ยาเปตุนฺติ สยนนิสชฺชาทิเภทํ อิริยาปถํ ปวตฺเตตุํ. นิวตฺตนฺตีติ โอสกฺกนฺติ, ปริหายนฺตีติ อตฺโถ. อธิคจฺฉนฺตีติ วฑฺฒนฺติ. สตฺถุ คุณสรีรํ นาม นววิธโลกุตฺตรธมฺมาธิคมมูลนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘นววิโธ หิ…เป… กาโย นามา’’ติ, ยถา สตฺตานํ กาโย ปฏิสนฺธิมูลโก.

กาฬสิลายํ กตวิหาโร กาฬสิลาวิหาโร. มคฺควิโมกฺขตฺถายาติ อคฺคมคฺควิโมกฺขาธิคมาย. เทวตาติ สุทฺธาวาสเทวตา. อลามกํ นาม ปุถุชฺชนกาลกิริยาย อภาวโต. เตนาห ‘‘เถโร กิรา’’ติอาทิ . เอกํ ทฺเว าณานีติ เอกํ ทฺเว ปจฺจเวกฺขณาณานิ สภาวโต อวสฺสํ อุปฺปชฺชนฺติ, อยํ ธมฺมตา. มคฺคผลนิพฺพานปจฺจเวกฺขณานิ ตํตํมคฺควุฏฺาเน อุปฺปชฺชนฺติ เอว. เอกํ ทฺเวติ วจนํ อุปฺปนฺนภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

ธูมายนภาโว ธูมาการตา, ตถา ติมิรายนภาโว.

วกฺกลิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อสฺสชิสุตฺตวณฺณนา

๘๘. ปสฺสมฺภิตฺวาติ นิโรเธตฺวา. โน จ สฺวาหนฺติ โน จ สุ อหํ. ปริหายิ กุปฺปธมฺมตฺตา. เอตนฺติ สมาธิมตฺตสารํ, สีลมตฺเต ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. กถํ โหตีติ กถํ อภินนฺทนา โหติ. ทุกฺขํ ปตฺวาติ ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุ สุขํ ปตฺเถติ ‘‘เอวํ เม ทุกฺขปริฬาโห น ภวิสฺสตี’’ติ. ยทคฺเคนาติ เยน ภาเคน. ‘‘ทุกฺขํ ปตฺเถติเยวา’’ติ วตฺวา ตตฺถ การณมาห ‘‘สุขวิปริณาเมน หี’’ติอาทิ. สุขวิปริวตฺเต สุขวิปริณามทุกฺขํ, ตสฺมา สุขํ อภินนฺทนฺโต อตฺถโต ทุกฺขํ อภินนฺทติ นาม.

อสฺสชิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. เขมกสุตฺตวณฺณนา

๘๙. อตฺตนิยนฺติ ทิฏฺิคติกปริกปฺปิตสฺส อตฺตโน สนฺตกํ. เตนาห ‘‘อตฺตโน ปริกฺขารชาต’’นฺติ. ตณฺหามาโน อธิคโต อรหตฺตสฺส อนธิคตตฺตา, โน ทิฏฺิมาโน อธิคโต, ตถา กามราคพฺยาปาทาปิ. อนาคามี กิร เขมกตฺเถโร, ‘‘สกทาคามี’’ติ เกจิ วทนฺติ. สนฺธาวนิกายาติ สฺจรเณน. เตนาห ‘‘ปุนปฺปุนํ คมนาคมเนนา’’ติ. จตุกฺขตฺตุํ คมนาคมเนนาติ จตุกฺขตฺตุํ คมเนน จ อาคมเนน จ. เตนาห – ‘‘ตํ ทิวสํ ทฺวิโยชนํ อทฺธานํ อาหิณฺฑี’’ติ. ตฺวาติ อชฺฌาสยํ ตฺวา. เถโรติ เขมกตฺเถโร.

รูปเมว อสฺมีติ วทตีติ รูปกฺขนฺธเมว ‘‘อสฺมี’’ติ คาหสฺส วตฺถุํ กตฺวา วทติ. อธิคโต ตณฺหามาโน.

อณุสหคโตติ อณุภาวํ คโต. เตนาห ‘‘สุขุโม’’ติ. ตโย ขารา วิย ติสฺโส อนุปสฺสนา จิตฺตสํกิเลสสฺส วิโสธนโต. สีลคนฺธาทีหิ คุณคนฺเธหิ.

กเถตุนฺติ อุทฺเทสวเสน กเถตุํ. ปกาเสตุนฺติ นิทฺเทสวเสน ตมตฺถํ ปกาเสตุํ. ชานาเปตุนฺติ การณวเสน ชานาเปตุํ. ปติฏฺาเปตุนฺติ กถาเปตุํ. วิวฏํ กาตุนฺติ อุทาหรณํ วณฺเณตฺวา ปากฏํ กาตุํ . สุวิภตฺตํ กาตุนฺติ อนฺวยโต พฺยติเรกโต สุฏฺุ, วิภตฺตํ กาตุํ. อุตฺตานกํ กาตุนฺติ อุปนยนิคเมหิ ตมตฺถํ วิภูตํ กาตุํ. อฺเน นีหาเรนาติ วิปสฺสนาวิมุตฺเตน จิตฺตาภินีหาเรน.

เขมกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ฉนฺนสุตฺตวณฺณนา

๙๐. มกฺขีติ คุณมกฺขนลกฺขเณน มกฺเขน สมนฺนาคโต. ปฬาสีติ ยุคคฺคาหลกฺขเณน ปฬาเสน สมนฺนาคโต. เอตํ อโวจาติ ‘‘โอวทนฺตุ มํ…เป… ปสฺเสยฺย’’นฺติ เอตํ อโวจ.

เถรนฺติ ฉนฺนตฺเถรํ. อตฺตโน ทุคฺคหเณน กฺจิ อุปารมฺภมฺปิ กเรยฺย. เตน วุตฺตํ ‘‘เอวํ กิร เนสํ อโหสี’’ติอาทิ. นิทฺโทสเมวสฺส กตฺวาติ อาทิโต อนุรูปตฺตเมว กตฺวา สทฺธมฺมํ กเถสฺสามาติ.

ปริตสฺสนา อุปาทานนฺติ ภยปริตสฺสนา ทิฏฺุปาทานํ. อนตฺตนิ สติ อนตฺตกตานิ กมฺมานิ กมตฺตานํ ผุสิสฺสนฺตีติ ภยปริตสฺสนา เจว ทิฏฺุปาทานฺจ อุปฺปชฺชติ. ปฏินิวตฺตตีติ ยถารทฺธวิปสฺสนาโต ปฏินิวตฺตติ, นาสกฺขีติ อตฺโถ. กสฺมา ปเนตสฺส วิปสฺสนมนุยุฺชนฺตสฺส เอวํ อโหสีติ ตตฺถ การณํ วทติ ‘‘อยํ กิรา’’ติอาทินา. เอวนฺติ ‘‘โก นุ โข เม อตฺตา’’ติ เอวํ น โหติ. ตาวติกา วิสฺสตฺถีติ ‘‘มยฺหํ ธมฺมํ เทเสตู’’ติ วุตฺตวิสฺสาโส อตฺถีติ อตฺโถ. อิทํ กจฺจานสตฺถํ อทฺทสาติ โยชนา. ‘‘ทฺวยนิสฺสิโต, กจฺจาน, โลโก’’ติอาทิ ทิฏฺิวินิเวนา. ‘‘เอเต เต, กจฺจาน, อุโภ อนฺเต อนุปคมฺมา’’ติอาทิ พุทฺธพลทีปนา.

ฉนฺนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙-๑๐. ราหุลสุตฺตาทิวณฺณนา

๙๑-๙๒. เอตานิ สุตฺตานิ. อิธาคตานีติ อิมสฺมึ วคฺเค อานีตานิ สงฺคีติกาเรหีติ.

ราหุลสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

เถรวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปุปฺผวคฺโค

๑. นทีสุตฺตวณฺณนา

๙๓. ปพฺพเตยฺยาติ ปพฺพตโต อาคตา. ตโต เอว โอหารินี. เตนสฺสา จณฺฑโสตตํ ทสฺเสติ. ทูรํ คจฺฉตีติ ทูรงฺคมา. เตนสฺสา มโหฆตํ ทสฺเสติ.

โสเตติ วฏฺฏโสเต. จตูหิ คาเหหีติ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินยปฺปวตฺเตหิ จตูหิ คาเหหิ. ปลุชฺชนตฺตาติ ฉินฺนตฺตา. โสกาทิพฺยสนปฺปตฺตีติ โสกาทิอนตฺถุปฺปตฺติ.

นทีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปุปฺผสุตฺตวณฺณนา

๙๔. วิวทตีติ วิวาทํ กโรติ. วทนฺโตติ อยถาสภาเวน วทนฺโต. วิวทติ ธมฺมตาย วิรุทฺธํ กตฺวา วทติ. โลกธมฺโมติ ลุชฺชนสภาวธมฺโม. โก ปน โสติ อาห ‘‘ขนฺธปฺจก’’นฺติ. เตนาห ‘‘ตํ หี’’ติอาทิ. กถํ กโรมีติ เกน ปกาเรนาหํ พาลํ อชานนฺตํ กโรมิ. เตนาห ‘‘มยฺหํ หี’’ติอาทิ. ตถา จาห ‘‘อกฺขาโต โว มยา มคฺโค’’ติอาทิ (ธ. ป. ๒๗๕). ‘‘ตโย โลกา กถิตา’’ติ วตฺวา ตํ วิวริตุํ ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห.

ปุปฺผสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เผณปิณฺฑูปมสุตฺตวณฺณนา

๙๕. เกนจิ การเณน ยุชฺฌิตฺวา คเหตุํ น สกฺกาติ อยุชฺฌา นาม. นิวตฺตนฏฺาเนติ อุทกปฺปวาหสฺส นิวตฺติตฏฺาเน.

อนุโสตาคมเนติ อนุโสตํ อาคมนเหตุ, ‘‘อนุโสตาคมเนนา’’ติ วา ปาโ. อนุปุพฺเพน ปวฑฺฒิตฺวาติ ตตฺถ ตตฺถ อุฏฺิตานํ ขุทฺทกมหนฺตานํ เผณปิณฺฑานํ สํสคฺเคน ปการโต วุทฺธึ ปตฺวา. อาวเหยฺยาติ อาเนตฺวา วเหยฺย. การเณน อุปปริกฺเขยฺยาติ าเณน วีมํเสยฺย. ‘‘สาโร นาม กึ ภเวยฺยา’’ติ วตฺวา สพฺพโส ตทภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิลียิตฺวา วิทฺธํเสยฺเยวา’’ติ อาห. เตน รูปมฺปิ นิสฺสารตาย ภิชฺชเตวาติ ทสฺเสติ. ยถา หิ อนิจฺจตาย อสารตาสิทฺธิ, เอวํ อสารตายปิ อนิจฺจตาสิทฺธีติ อนิจฺจตาย เอว นิจฺจสารํ ถิรภาวสารํ ธุวสารํ สามีนิวาสีการกภูตสฺส อตฺตโน วเส ปวตฺตนมฺเปตฺถ นตฺถีติ อาห ‘‘รูปมฺปิ…เป… นิสฺสารเมวา’’ติ. โสติ เผณปิณฺโฑ. คหิโตปิ อุปาเยน ตมตฺถํ น สาเธติ อนรหตฺตา. อเนกสนฺธิฆฏิโต ตถา ตถา ฆฏิโต หุตฺวา.

พฺยามมตฺตมฺปิ เอตรหิ มนุสฺสานํ วเสน. อวสฺสเมว ภิชฺชติ ตรงฺคพฺภาหตํ หุตฺวา.

ตสฺมึ ตสฺมึ อุทกพินฺทุมฺหิ ปติเต. อุทกตลนฺติ อุทกปิฏฺึ. อฺโต ปตนฺตํ อุทกพินฺทุํ. อุทกชลฺลนฺติ สนฺตานกํ หุตฺวา ิตํ อุทกมลํ. ตฺหิ สํกฑฺฒิตฺวา ตโต อุทกํ ปุฏํ กโรติ, ตสฺมึ ปุเฏ ปุพฺพุฬสมฺา. วตฺถุนฺติ จกฺขาทิวตฺถุํ. อารมฺมณนฺติ รูปาทิอารมฺมณํ. กิเลสชลฺลนฺติ ปุริมสิทฺธํ, ปฏิลพฺภมานํ วา กิเลสมลํ. ผสฺสสงฺฆฏฺฏนนฺติ ผสฺสสโมธานํ. ปุพฺพุฬสทิสา มุหุตฺตรมณียตาย. ยสฺมา ฆมฺมกาเล สูริยาตปสนฺตาปาภินิพฺพตฺตรสฺมิชาลนิปาเต ตาทิเส ภูมิปเทเส อิโต จิโต สมุคฺคตวาตเวคสมุทฺธฏวิรุฬฺหสงฺขาเตสุ ปริพฺภมนฺเตสุ อณุปรมาณุตชฺชาริปฺปกาเรสุ ภูตสงฺฆาเตสุ มรีจิสมฺา, ตสฺมา สพฺพโส สารวิรหิตาติ วุตฺตํ ‘‘สฺาปิ อสารกฏฺเน มรีจิสทิสา’’ติ. ยสฺมา จ ปสฺสนฺตานํ เยภุยฺเยน อุทกากาเรน ขายติ, ตสฺมา ‘‘คเหตฺวา ปิวิตุํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นีลาทิอนุภวนตฺถายาติ นีลาทิอารมฺมณสฺส อนุภวนตฺถาย. ผนฺทตีติ ผนฺทนาการปฺปตฺตา วิย โหติ อปฺปหีนตณฺหสฺส ปุคฺคลสฺส. วิปฺปลมฺเภติ อปฺปหีนวิปลฺลาสํ ปุคฺคลํ. เตนาห ‘‘อิทํ นีลก’’นฺติอาทิ. สฺาวิปลฺลาสโต หิ จิตฺตวิปลฺลาโส, ตโต ทิฏฺิวิปลฺลาโสติ. วิปฺปลมฺภเนนาติ วิปฺปการวเสเนว อารมฺมณสฺส ลมฺภเนน. วิปฺปการวเสน หิ เอตํ ลมฺภนํ, ยทิทํ อนุทกเมว อุทกํ กตฺวา ทสฺสนํ อนครเมว นครํ กตฺวา คนฺธพฺพนาฏกาทิทสฺสนํ.

กุกฺกุกํ วุจฺจติ กทลิกฺขนฺธสฺส สพฺพปตฺตวฏฺฏีนํ อพฺภนฺตเร ทณฺฑกนฺติ อาห ‘‘อกุกฺกุกชาตนฺติ อนฺโต อสฺชาตฆนทณฺฑก’’นฺติ. น ตถา โหตีติ ยทตฺถาย อุปนีตํ, ตทตฺถาย น โหติ. นานาลกฺขโณติ นานาสภาโว. สงฺขารกฺขนฺโธวาติ เอโก สงฺขารกฺขนฺโธตฺเวว วุจฺจติ.

อสฺสาติ ปุริสสฺส. อปคตปฏลปิฬกนฺติ อปคตปฏลโทสฺเจว อปคตปิฬกโทสฺจ. อสารภาวทสฺสนสมตฺถนฺติ อสารสฺส อสารภาวทสฺสนสมตฺถํ. อิตฺตราติ ปริตฺตกาลา, น จิรฏฺิติกา. เตนาห ‘‘ลหุปจฺจุปฏฺานา’’ติ. อฺเทว จ อาคมนกาเล จิตฺตนฺติ อิทฺจ โอฬาริกวเสเนว วุตฺตํ. ตถา หิ เอกจฺฉรกฺขเณ อเนกโกฏิสตสหสฺสสงฺขานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ. มายาย ทสฺสิตํ รูปํ มายาติ วุตฺตํ. ยํกิฺจิเทว กปาลิฏฺกปาสาณวาลิกาทึ. วฺเจตีติ อสุวณฺณเมว สุวณฺณนฺติ, อมุตฺตเมว มุตฺตาติอาทินา วฺเจติ. นนุ จ สฺาปิ มรีจิ วิย วิปฺปลมฺเภติ วฺเจติ, อิทมฺปิ วิฺาณํ มายา วิย วฺเจตีติ โก อิเมสํ วิเสโสติ? วจนตฺโถ เนสํ สาธารโณ. ตถาปิ สฺา อนุทกํเยว อุทกํ กตฺวา คาหาเปนฺตี, อปุริสฺเว ปุริสํ กตฺวา คาหาเปนฺตี วิปฺปลมฺภนวเสน อปฺปวิสยา, วิฺาณํ ปน ยํ กิฺจิ อตํสภาวํ ตํ กตฺวา ทสฺเสนฺตี มายา วิย มหาวิสยา. เตนาห ‘‘ยํกิฺจิเทวา’’ติอาทิ. เอวมฺปีติ อติวิย ลหุปริวตฺติภาเวนปิ มายาสทิสนฺติ.

เทสิตาติ เอวํ เทสิตา เผณปิณฺฑาทิอุปมาหิ.

ภูริ วุจฺจติ ปถวี, สณฺหฏฺเน วิปุลฏฺเน จ ภูริสทิสปฺตาย ภูริปฺโ. เตนาห ‘‘สณฺหปฺเน เจวา’’ติอาทิ. กิมิคณาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน อเนกคิชฺฌาทิเก สงฺคณฺหาติ. ปเวณีติ ธมฺมปพนฺโธ. พาลลาปินี ‘‘อหํ มมา’’ติอาทินา. เสสธาตุโย คเหตฺวาว ภิชฺชติ เอกุปฺปาเทกนิโรธตฺตา, วตฺถุรูปนิสฺสยปจฺจยตฺตา ‘‘อย’’นฺติ น วิสุํ คหิตํ. วธภาวโตติ วธสฺส มรณสฺส อตฺถิภาวโต. สรณนฺติ ปฏิสรณํ.

เผณปิณฺฑูปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔-๖. โคมยปิณฺฑสุตฺตาทิวณฺณนา

๙๖-๙๘. สสฺสตํ สพฺพกาลํ ยาว กปฺปวุฏฺานา โหนฺตีติ สสฺสติโย, สิเนรุอาทโย. ตาหิ สมํ สมกาลํ. อเนนาติ ภควตา. นยิทนฺติ เอตฺถ -กาโร ปทสนฺธิกโร, อิทนฺติ นิปาตปทํ. ตํ ปน เยน เยน สมฺพนฺธียติ, ตํ ติลิงฺโคว โหตีติ ‘‘อยํ มคฺคพฺรหฺมจริยวาโส’’ติ วุตฺตํ. ‘‘น ปฺาเยยฺยา’’ติ วตฺวา ตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘มคฺโค หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิวฏฺเฏนฺโตติ วินิวฏฺเฏนฺโต อปฺปวตฺตึ กโรนฺโต.

ราชธานีติ รฺโ นิวาสนครํ. สุตฺตมยนฺติ จิตฺตวณฺณวฏฺฏิกามยํ.

โคมยปิณฺฑสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. คทฺทุลพทฺธสุตฺตวณฺณนา

๙๙. ยํ มหาสมุทฺโทติ เอตฺถ นฺติ สมยสฺส ปจฺจามสนํ. ภุมฺมตฺเถ เจตํ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘ยสฺมึ สมเย’’ติ. โส จ สมโย อยนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺจเม สูริเย อุฏฺิเต’’ติ อาห. ปริจฺเฉทํ น วทามิ ปริจฺเฉทการิกาย อคฺคมคฺควิชฺชาย อนธิคตตฺตา. สุนโข วิย วฏฺฏนิสฺสิโต พาโล อสวสภาวโต. คทฺทุโล วิย ทิฏฺิพนฺโธ. สกฺกาโย ตสฺส อสวสภาวโต. ปุถุชฺชนสฺส สกฺกายานุปริวตฺตนนฺติ ‘‘สนฺตาเน สตฺตโวหาโร’’ติ ตํ ตโต อฺํ กตฺวา เภเทน นิทฺเทโส.

คทฺทุลพทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ทุติยคทฺทุลพทฺธสุตฺตวณฺณนา

๑๐๐. ทิฏฺิคทฺทุลนิสฺสิตายาติ สหชาตาทิปจฺจยวเสน ทิฏฺิคทฺทุลนิสฺสิตาย นิสฺสาเยว ปวตฺตติ ตโต อตฺตานํ วิเวเจตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. จิตฺตสํกิเลเสเนวาติ ทสวิธกิเลสวตฺถุวเสน จิตฺตสฺส สํกิลิฏฺภาเวน. อริยมคฺคาธิคมเนน จิตฺตสฺส โวทานตฺตา โวทายนฺติ วิสุชฺฌนฺติ.

วิจรณจิตฺตนฺติ คเหตฺวา วิจรณวเสน วิจรณจิตฺตํ. สงฺขานามาติ เอวํนามกา. พฺราหฺมณปาสณฺฑิกาติ ชาติยา พฺราหฺมณา, ฉนฺนวุติยา ปาสณฺเฑสุ ตํ สงฺขาสฺิตํ ปาสณฺฑํ ปคฺคยฺห วิจรณกา. ปฏโกฏฺกนฺติ ทุสฺสาปณกํ. ทสฺเสนฺตาติ ยถาคติกมฺมวิปากจิตฺตตํ ทสฺเสนฺตา . ตํ จิตฺตนฺติ ตํ ปฏโกฏฺกจิตฺตํ คเหตฺวา วิจรนฺติ. จินฺเตตฺวา กตตฺตาติ ‘‘อิมสฺส รูปสฺส เอวํ หตฺถปาทา, เอวํ มุขํ ลิขิตพฺพํ, เอวํ อาการวตฺถคฺคหณานิ, เอวํ กิริยาวิเสสา, เอวํ กิริยาวิภาคํ, สตฺตวิเสสานํ วิภาคํ กาตพฺพ’’นฺติ ตสฺส อุพฺพตฺตนขิปนปวตฺตนาทิปโยชนฺจาติ สพฺพเมตํ ตถา จินฺเตตฺวา กตตฺตา จิตฺเตน มนสา จินฺติตํ นาม. อุปายปริเยสนจิตฺตนฺติ ‘‘หตฺถปาทา เอวํ ลิขิตพฺพา’’ติอาทินา ยถาวุตฺตอุปายสฺส เจว ปุพฺเพ ปวตฺตสฺส ภูมิปริกมฺมวณฺณธาตุสมฺมาโยชนุปายสฺส จ วเสน ปวตฺตํ จิตฺตํ. ตโตปิ จิตฺตตรนฺติ ตโต จิตฺตกมฺมโตปิ จิตฺตตรํ จิตฺตกาเรน จินฺติตปฺปการานํ สพฺเพสํเยว จิตฺตกมฺเม อนิปฺผชฺชนโต. กมฺมจิตฺเตนาติ กมฺมวิฺาเณน. กมฺมจิตฺเตนาติ วา กมฺมสฺส จิตฺตภาเวน. โส กมฺมสฺส วิจิตฺตภาโว ตณฺหาวเสน ชายตีติ เวทิตพฺโพ. สฺวายมตฺโถ อฏฺสาลินีฏีกายํ วิภาวิโต. เอวํ จิตฺตาติ เอวํ จิตฺตรูปวิเสสา. โยนึ อุปเนตีติ ตํ ตํ อณฺฑชาทิเภทํ โยนิวิเสสํ ปาเปติ วณฺณวิเสโส วิย ผลิกมณิกํ. น หิ วิเสสา หิตวิจิตฺตสามตฺถิยกมฺมํ โยนึ อุปเนติ, ตสฺส ตสฺส วิปากุปฺปตฺติยา ปจฺจโย โหติ. โยนิมูลโก เตสํ จิตฺตภาโวติ ยํ ยํ โยนึ กมฺมํ สตฺเต อุปเนติ, ตํตํโยนิมูลโก เตสํ สตฺตานํ จิตฺตวิจิตฺตภาโว. เตนาห ‘‘โยนิอุปคตา’’ติอาทิ. สทิสจิตฺตาว สทิสจิตฺตภาวา เอว. อิตีติอาทิ วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส อุปฺปฏิปาฏิยา นิคมนํ.

ติรจฺฉานคตจิตฺตภาวโต จิตฺตสฺเสว สวิเสสํ จิตฺตภาวกรณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ จิตฺตํ นาเมตํ จิตฺตตรเมว เวทิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. สหชาตธมฺมจิตฺตตายาติ ราคาทิสทฺธาทิธมฺมวิจิตฺตภาเวน. ภูมิจิตฺตตายาติ อธิฏฺานจิตฺตตาย. กมฺมนานตฺตํ มูลํ การณํ เอเตสนฺติ กมฺมนานตฺตมูลกา, เตสํ. ลิงฺคนานตฺตํ อิตฺถิลิงฺคาทินานตฺตวเสน เจว ตํตํสณฺานนานตฺตวเสน จ เวทิตพฺพํ. สฺานานตฺตํ อิตฺถิปุริสเทวมนุสฺสาทิสฺานานตฺตวเสน . โวหารนานตฺตํ ติสฺโสติอาทิโวหารนานตฺตวเสน. จิตฺตานํ วิจิตฺตานํ. ตํตํโวหารนานตฺตมฺปิ จิตฺเตเนว ปฺปียติ. รงฺคชาตรูปสมุฏฺาปนาทินา วตฺถํ รฺชยตีติ รชโก, วณฺณกาโร. ปุถุชฺชนสฺส อตฺตภาวสฺิตรูปสมุฏฺาปนตา นิยตา เอกนฺติกาติ ปุถุชฺชนคฺคหณํ. ‘‘อภิรูปํ รูปํ สมุฏฺาเปตี’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ.

ทุติยคทฺทุลพทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. วาสิชฏสุตฺตวณฺณนา

๑๐๑. อตฺถสฺสาติ หิตสฺส. อสาธิกา ‘‘ภาวนานุโยคํ อนนุยุตฺตสฺสา’’ติ อนนุยุตฺตสฺส วุตฺตตฺตา. อิตราติ สุกฺกปกฺขอุปมา. สาธิกา ภาวนาโยคสฺส อนุยุตฺตตฺตา. ตฺหิ ตสฺส สาธิกา เวทิตพฺพา. สมฺภาวนตฺเถติ ปรมตฺถสมฺภาวเน. เอวฺหิ กณฺหปกฺเขปิ อปิสทฺทคฺคหณํ สมตฺถิตํ โหติ. สมฺภาวนตฺเถติ วา ปริกปฺปนตฺเถติ อตฺโถ. สงฺขาตพฺเพ อตฺเถ อนิยมโต วุจฺจมาเน สงฺขาโต อนิยมตฺโถ วาสทฺโท วตฺตพฺโพติ ‘‘อฏฺ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อูนาธิกานีติ อูนานิปิ อธิกานิปิ กิฺจาปิ โหนฺติ, เอกํโส ปน คเหตพฺโพติ ‘‘อฏฺ วา ทส วา ทฺวาทส วา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ วจนํ สนฺธาย ‘‘วจนสิลิฏฺตายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปาทนขสิขาหิ อโกปนวเสน สมฺมา อธิสยิตานิ. อุตุนฺติ อุณฺหอุตุํ กายุสฺมาวเสน. เตนาห ‘‘อุสฺมีกตานี’’ติ. ภาวิตานีติ กุกฺกุฏวาสนาย วาสิตานิ. สมฺมาอธิสยนาทิติวิธกิริยากรเณน อิมํ อปฺปมาทํ กตฺวา. โสตฺถินา อภินิพฺภิชฺชิตุนฺติ อนนฺตราเยน ตโต นิกฺขมิตุํ. อิทานิ ตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘เต หี’’ติอาทิมาห. สยมฺปีติ อณฺฑานิ. ปริณามนฺติ ปริปกฺกํ พหินิกฺขมนโยคฺคตํ.

นฺติ โอปมฺมสมฺปฏิปาทนํ. เอวนฺติ อิทานิ วุจฺจมานากาเรน. อตฺเถนาติ อุปเมยฺยตฺเถน. สํสนฺทิตฺวา สมฺมา โยเชตฺวา. สมฺปยุตฺตธมฺมวเสน าณสฺส ติกฺขาทิภาโว เวทิตพฺโพ. าณสฺส หิ สภาวโต สติเนปกฺกโต จ ติกฺขภาโว, สมาธิวเสน สูรภาโว, สทฺธาวเสน วิปฺปสนฺนภาโว , วีริยวเสน ปริณามภาโว. ปริณามกาโลติ พลววิปสฺสนากาโล. วฑฺฒิตกาโลติ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนากาโล. อนุโลมฏฺานสฺส หิ วิปสฺสนา คหิตคพฺภา นาม ตทา มคฺคคพฺภสฺส คหิตตฺตา. ตชฺชาติกนฺติ ตสฺส วิปสฺสนานุโยคสฺส อนุรูปํ. สตฺถาปิ คาถาย อวิชฺชณฺฑโกสํ ปหรติ ภินฺทาเปติ.

โอลมฺพกสงฺขาตนฺติ โอลมฺพกสุตฺตสงฺขาตํ. ปลนฺติ ตสฺส สุตฺตสฺส นามํ. ธาเรตฺวาติ ทารูนํ เหยฺยาทิชานนตฺถํ อุปเนตฺวา. ทารูนํ คณฺฑํ หรตีติ ปลคณฺโฑติ เอเตน ปเลน คณฺฑหาโร ‘‘ปลคณฺโฑ’’ติ ปจฺฉิมปเท อุตฺตรปทโลเปน นิทฺเทโสติ ทสฺเสติ. คหณฏฺาเนติ หตฺเถน คเหตพฺพฏฺาเน. สมฺมเทว เขปียนฺติ เอเตน กายทุจฺจริตาทีนีติ สงฺเขโป, เตน. วิปสฺสนํ อนุยุฺชนฺตสฺส ปุคฺคลสฺเสว ทิวเส ทิวเส อาสวานํ ปริกฺขโย อิธ ‘‘วิปสฺสนายานิสํโส’’ติ อธิปฺเปโต. เหมนฺติเกน กรณภูเตน. ภุมฺมตฺเถ วา เอตํ กรณวจนํ, เหมนฺติเกติ อตฺโถ. ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ ปฏิปฺปสฺสทฺธผลานิ โหนฺติ. เตนาห ‘‘ปูติกานิ ภวนฺตี’’ติ.

มหาสมุทฺโท วิย สาสนํ สภาวคมฺภีรภาวโต. นาวา วิย โยคาวจโร มโหฆุตฺตรณโต. ปริยาทานํ วิยาติ ปริโต อปริปูรณํ วิย. ขชฺชมานานนฺติ สงฺขาทนฺเตน วิย อุทเกน เขปิยมานานํ พนฺธนานํ. ตนุภาโวติ ปริยุฏฺานุปฺปตฺติยา อสมตฺถตาย ทุพฺพลภาโว. วิปสฺสนาาณปีติปาโมชฺเชหีติ วิปสฺสนาาณสมุฏฺิเตหิ ปีติปาโมชฺเชหิ. โอกฺขายมาเน ปกฺขายมาเนติ วิวิธปฏิปตฺติยา อุกฺขายมาเน ปฏิสงฺขานุปสฺสนาย ปกฺขายมาเน. ทุพฺพลตา ทีปิตา ‘‘อปฺปกสิเรเนว สํโยชนานิ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, ปูติกานิ ภวนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา.

วาสิชฏสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อนิจฺจสฺาสุตฺตวณฺณนา

๑๐๒. ภาเวนฺตสฺสาติ วิปสฺสนาย มคฺคํ ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนสฺา. เตนาห – ‘‘สพฺพํ กามราคํ ปริยาทิยตี’’ติอาทิ. สนฺตาเนตฺวาติ กสนฏฺานํ สพฺพโส วิตเนตฺวา ปตฺถริตฺวา. กิเลสาติ อุปกฺกิเลสปฺปเภทา กิเลสา. อนิจฺจสฺาาเณนาติ อนิจฺจสฺาสหคเตน าเณน.

ลายนนฺติ ลายนํ วิย นยนํ วิย นิจฺโฉฏนํ วิย จ อนิจฺจสฺาาณํ. อิมินา อตฺเถนาติ อิมินา ยถาวุตฺเตน ปาฬิยา อตฺเถน, อุปมา สํสนฺเทตพฺพาติ เอตฺถ ปพฺพชลายโก วิย โยคาวจโร. ลายนาทินา ตสฺส ตตฺถ กตกิจฺจตาย ปริตุฏฺิ วิย อิมสฺส กิเลเส สพฺพโส ฉินฺทิตฺวา ผลสมาปตฺติสุเขน กาลสฺส วีตินามนา.

กูฏํ คจฺฉนฺตีติ ปาริมนฺเตน กูฏํ คจฺฉนฺติ. กูฏํ ปวิสนภาเวนาติ กูฏจฺฉิทฺทํ อคฺเคน ปวิสนวเสน. สโมสริตฺวาติ ฉิทฺเท อนุปวิสนวเสน จ อาหจฺจ อวฏฺาเนน จ สโมสริตฺวา ิตา. กูฏํ วิย อนิจฺจสฺา อนิจฺจานุปสฺสนาวเสน อวฏฺานสฺส มูลภาวโต. โคปานสิโย วิย จตุภูมกกุสลา ธมฺมา อนิจฺจสฺามูลกตฺตา. กูฏํ อคฺคํ สพฺพโคปานสีนํ ตถาอธิฏฺานสฺส ปธานการณตฺตา. อนิจฺจสฺา อคฺคาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อนิจฺจสฺา โลกิยาติ อิทํ อนิจฺจสฺานุปสฺสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนิจฺจานุปสฺสนามุเขน อธิคตอริยมคฺเค อุปฺปนฺนสฺา อนิจฺจสฺาติ วตฺตพฺพตํ ลภตีติ ‘‘อนิจฺจสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา สพฺพํ กามราคํ ปริยาทิยตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตถา หิ ธมฺมสงฺคเห (ธ. ส. ๓๕๗, ๓๖๐) ‘‘ยสฺมึ สมเย โลกุตฺตรํ สฺํ ภาเวตี’’ติอาทินา สฺาปิ อุทฺธฏา. สพฺพาสุ อุปมาสูติ มูลสนฺตานอุปมาทีสุ ปฺจสุ อุปมาสุ. ปุริมาหีติ กสฺสกปพฺพชลายนอมฺพปิณฺฑิอุปมาหิ อนิจฺจสฺาย กิจฺจํ วุตฺตํ มูลสนฺตานกปทาลนปพฺพชลายนวณฺฏจฺเฉทนปเทเสน อนิจฺจสฺาย ปฏิปกฺขปจฺเฉทนสฺส ทสฺสิตตฺตา. ปจฺฉิมาหิ พลํ ทสฺสิตํ ปฏิปกฺขาติภาวสฺส โชติตตฺตา.

อนิจฺจสฺาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปุปฺผวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

มชฺฌิมปณฺณาสโก สมตฺโต.

๑๑. อนฺตวคฺโค

๑. อนฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓. อฺมฺํ อสํสฏฺภาเวน เอติ คจฺฉตีติ อนฺโต, ภาโคติ อาห ‘‘อนฺตาติ โกฏฺาสา’’ติ. ‘‘สกฺกายนิโรธนฺโต’’ติ นิโรธปจฺจยสฺส คหิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘จตุสจฺจวเสน ปฺจกฺขนฺเธ โยเชตฺวา’’ติ. อนฺโตติ…เป… อชฺฌาสยวเสน วุตฺตํ ยถานุโลมเทสนตฺตา สุตฺตนฺตเทสนาย.

อนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒-๓. ทุกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๔-๑๐๕. ทุติยมฺปีติ อปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. เตน น เกวลํ ปมสุตฺตเมว, อถ โข ทุติยมฺปีติ.

ตติยมฺปิ ตเถวาติ อิมินา ‘‘ปฺจกฺขนฺเธ จตุสจฺจวเสน โยเชตฺวา’’ติ อิทํ อุปสํหรติ.

ทุกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปริฺเยฺยสุตฺตวณฺณนา

๑๐๖. ปริฺเยฺเยติ เอตฺถ ติสฺโส ปริฺา าตปริฺา, ตีรณปริฺา, ปหานปริฺาติ. ตาสุ าตปริฺา ยาวเทว ตีรณปริฺตฺถา. ตีรณปริฺา จ ยาวเทว ปหานปริฺตฺถาติ . ตตฺถ อุกฺกฏฺาย ปริฺาย กิจฺจทสฺสนวเสน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปริฺเยฺเยติ ปริชานิตพฺเพ สมติกฺกมิตพฺเพ’’ติ, ปหาตพฺเพติ อตฺโถ. เตนาห ภควา – ‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ปริฺา? ราคกฺขโย, โทสกฺขโย, โมหกฺขโย’’ติ, ตสฺมา สมติกฺกมนฺติ, สมติกฺกนฺตํ ปหานสฺส อุปายํ. สมติกฺกมิตฺวา ิตนฺติ ปชหิตฺวา ิตนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

ปริฺเยฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๑๐. สมณสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๗-๑๑๒. จตฺตาริสจฺจานิ กถิตานิ อสฺสาทาทีนํ สมุทยาทีนฺจ เทสิตตฺตา.

กิเลสปฺปหานํ กถิตํ ราคปฺปหานสฺส โชติตตฺตา.

สมณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

อนฺตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. ธมฺมกถิกวคฺโค

๑-๒. อวิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๓-๑๑๔. ยาวตาติ ยสฺมา. อิมาย…เป… สมนฺนาคโตติ ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตาย จตูสุ อริยสจฺเจสุ อฺาณสภาวาย อวิชฺชาย สมฺโมเหน สมนฺนาคโต. เอตฺตาวตาติ เอตฺตเกน การเณน อวิชฺชาคโต สมงฺคีภูเตน อุปคโต, อวิชฺชาย วา อุเปโต นาม โหติ.

ทุติเยปีติ วิชฺชาสุตฺเต. ‘‘วิชฺชาวเสน เทสนา’’ติ อยเมว วิเสโสติ อาห ‘‘เอเสว นโย’’ติ.

อวิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ธมฺมกถิกสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕. ปเมนธมฺมกถิโก กถิโต ‘‘ธมฺมํ เทเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา. ทุติเยน เสขภูมิ กถิตา ‘‘ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา, ตติเยน อเสขภูมิ กถิตา ‘‘อนุปาทาวิมุตฺโต โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา. ธมฺมกถิกํ ปุจฺฉิเตน ภควตา. วิเสเสตฺวาติ ธมฺมกถิกภาวโต วิเสเสตฺวา อุกฺกํเสตฺวา. ทฺเว ภูมิโยติ เสกฺขาเสกฺขภูมิโย.

ธมฺมกถิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ทุติยธมฺมกถิกสุตฺตวณฺณนา

๑๑๖. ตีณิวิสฺสชฺชนานีติ ยถาปุจฺฉํ ตีณิ วิสฺสชฺชนานิ.

ทุติยธมฺมกถิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๙. พนฺธนสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๗-๑๒๑. ตีรํ วุจฺจติ วฏฺฏํ โอริมตีรนฺติ กตฺวา. เตนาห ‘‘อถายํ อิตรา ปชา, ตีรเมวานุธาวตี’’ติ (ธ. ป. ๘๕). ปารํ วุจฺจติ นิพฺพานํ สํสารสฺส ปาริมนฺติ กตฺวา. พทฺโธติ อนุสยปฺปหานสฺส อกตตฺตา กิเลสพนฺธเนน พทฺโธ, สุกฺกปกฺเขปิ ทิฏฺิสมนุปสฺสนาย รูปาทิพนฺธนสฺส ปฏิกฺเขปมตฺตเมว วุตฺตํ, น วิโมกฺขนฺติ อธิปฺปาโย. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏทุกฺขํ กถิตนฺติ ‘‘ตีรทสฺสี ปารทสฺสี, ปริมุตฺโต โส ทุกฺขสฺมาติ วทามี’’ติ อาคตตฺตา วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิกนฺติ วตฺตุํ สกฺกา.

ฉฏฺาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา.

พนฺธนสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สีลวนฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๒๒. อาพาธฏฺเนาติ อาทิโต อุปฺปตฺติโต ปฏฺาย พาธนฏฺเน รุชนฏฺเน. อนฺโตโทสฏฺเนาติ อพฺภนฺตเร เอว ทุสฺสนฏฺเน กุปฺปนฏฺเน. ขณนฏฺเนาติ สสนฏฺเน. ทุกฺขฏฺเนาติ ทุกฺขมตฺตา ทุกฺขภาเวน. ทุกฺขฺหิ โลเก ‘‘อฆ’’นฺติ วุจฺจติ อติวิย หนนโต. วิสภาคํ …เป… ปจฺจยฏฺเนาติ ยถาปวตฺตมานานํ ธาตาทีนํ วิสภาคภูตมหาภูตสมุฏฺานสฺส อาพาธสฺส ปจฺจยภาเวน. อสกฏฺเนาติ อนตฺตนิยโต. ปลุชฺชนฏฺเนาติ ปการโต ภิชฺชนฏฺเน. สตฺตสุฺตฏฺเนาติ สตฺตสงฺขาตอตฺตสุฺตฏฺเน. อตฺตาภาเวนาติ ทิฏฺิคติกปริกปฺปิตสฺส อตฺตโน อภาเวน. สุฺโต อนตฺตโตติ เอตฺถ ‘‘ปรโต’’ติ ปทสฺส สงฺคโห กาตพฺโพ, ตสฺมา ‘‘ทฺวีหิ อนตฺตมนสิกาโร’’ติ วตฺตพฺพํ.

สีลวนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. สุตวนฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๒๓. ตถาเอกาทสเมติ เอตฺถ ตถา-สทฺเทน ‘‘อุตฺตานเมวา’’ติ อิทํ อากฑฺฒติ. อิธาติ เอกาทสเม. กมฺมฏฺานสฺส อุคฺคหธารณปริจยมนสิการวเสน ปวตฺตาณํ กมฺมฏฺานสุตวเสน นิปฺผชฺชนโต ‘‘สุต’’นฺติ วุตฺตํ.

สุตวนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒-๑๓. กปฺปสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๒๔-๑๒๕. ราหุโลวาทสทิสานีติ ราหุโลวาทสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๑๑๓ อาทโย) อาคตสุตฺตสทิสานิ.

กปฺปสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

ธมฺมกถิกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. อวิชฺชาวคฺโค

๑-๑๐. สมุทยธมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๒๖-๑๓๕. อิมสฺมินฺติ อวิชฺชาวคฺเค. จตุสจฺจเมว กถิตํ, ตสฺมา เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมวาติ อธิปฺปาโย.

สมุทยธมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

อวิชฺชาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔. กุกฺกุฬวคฺโค

๑-๑๔. กุกฺกุฬสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๓๖-๑๔๙. อนฺโต อคฺคิ มหนฺโต ฉาริกราสิ, ตตฺถ อุกฺกุฬวิกุลโต อกฺกมนฺตํ ยาว เกสคฺคํ อนุทหตาย กุจฺฉิตํ กุฬนฺติ กุกฺกุฬํ , รูปเวทนาทิ ปน ตโตปิ กฺจิ กาลํ อนุทหนโต มหาปริฬาหนฏฺเน จ กุกฺกุฬํ วิยาติ กุกฺกุฬํ. อนิจฺจลกฺขณาทีนีติ อนิจฺจทุกฺขานตฺตลกฺขณานิ.

กุกฺกุฬสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

กุกฺกุฬวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๕. ทิฏฺิวคฺโค

๑-๙. อชฺฌตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๕๐-๑๕๘. ปจฺจยํ กตฺวาติ อภินิเวสปจฺจยํ กตฺวา. อาทิสทฺเทน มิจฺฉาทิฏฺิสกฺกายทิฏฺิอตฺตานุทิฏฺิ สฺโชนาภินิเวส-วินิพนฺธอชฺโฌสานานิ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ อภินิเวสา ตณฺหามานทิฏฺิโย. วินิพนฺธา ‘‘กาเย อวีตราโค โหตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๒๐; ม. นิ. ๑.๑๘๖) อาคตเจตโสวินิพนฺธา . อชฺโฌสานาติ ตณฺหาทิฏฺิชฺโฌสานานิ. เสสานิ สุวิฺเยฺยาเนว.

อชฺฌตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐.อานนฺทสุตฺตวณฺณนา

๑๕๙. ธรมานกาเลติ ชีวมานกาเล. ปหานํ อปสฺสนฺโตติ เถรสฺส กิร ภควติ เปมํ อธิมตฺตํ. จิตฺตํ คณฺหิสฺสามีติ จิตฺตํ อาราเธสฺสามิ. คนฺตพฺพํ โหติ, ตสฺมา สปลิโพโธ. จิตฺตํ สมฺปหํสมาโนติ จิตฺตสฺส วิโพธโน. วิมุตฺติ…เป… ชาโต อายตึ ปฏิเวธปจฺจยตฺตา, น ปน ตทา วิเสสาวหภาวา นิพฺเพธภาคิโย.

อานนฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทิฏฺิวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

อุปริปณฺณาสโก สมตฺโต.

สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

ขนฺธสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.