📜
๓. ทิฏฺิสํยุตฺตํ
๑. โสตาปตฺติวคฺโค
๑. วาตสุตฺตวณฺณนา
๒๐๖. น ¶ ¶ เอเต วาตาติ เย อิเม รุกฺขสาขาทิภฺชนกรา, เอเต สตฺตกายตฺตา วาตา นาม น โหนฺติ. เต หิ นิจฺจา ธุวา สสฺสตา. เตนาห ‘‘วาโต ปนา’’ติอาทิ. เตน สตฺตสุ กาเยสุ จตุตฺถํ กายมาห. รุกฺขสาขาทิภฺชนโก เอโส วาตเลโส นาม, วาตสทิโสติ อตฺโถ. เอสิกตฺถมฺโภ วิยาติ อิมินา นิจฺจลภาวเมว ทสฺเสติ, ปพฺพตกูฏํ วิยาติ อิมินา ปน สสฺสติสมํวาปิ. อยฺหิ วายุ กายสฺส นิจฺจตํ อภินิวิสฺส ิโต ‘‘มา จ อนิจฺจตา ปโร โหตู’’ติ น วาตา วายนฺตีติ พาธติ. เอส นโย นทิโย สนฺทนฺตีติอาทีสุ. อุทกํ ปนาติ ทุติยํ กายํ สนฺธายาห. คพฺโภ ปน น นิกฺขมติ กูฏฏฺาทิภาเวเนว ตสฺส ลพฺภนโต. เนว เต อุเทนฺติ ยถา วาตา, เอวํ ติฏฺนโต โลกสฺส ปน ตถา มติมตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
วาตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒-๔. เอตํมมสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๐๗-๒๐๙. ทิฏฺํ รูปายตนํ จกฺขุนา ทฏฺพฺพโต. สุตํ สทฺทายตนํ โสเตน โสตพฺพโต. มุตํ คนฺธายตนาทิ ติวิธํ สมฺปตฺตคาหีหิ ฆานาทีหิ ปตฺวา คเหตพฺพโต. อวเสสานิ จกฺขาทีนิ สตฺตายตนานิ วิฺาตํ นาม เกวลํ มโนวิฺาเณน วิชานิตพฺพโต. ปตฺตนฺติ อนุปฺปตฺตํ, ยํ กิฺจิ ปาปุณิตพฺพํ ปริเยสิตฺวา คเวสิตฺวา สมฺปตฺตนฺติ อนุปฺปตฺตํ. ปริเยสิตนฺติ ปริยิฏฺํ. จิตฺเตน อนุสฺจริตนฺติ มนสา จินฺติตํ. ‘‘ปตฺตํ ปริเยสิต’’นฺติ เอตสฺมึ ปททฺวเย จตุกฺกํ สมฺภวตีติ ตํ ทสฺเสตฺวา ตสฺส วเสน ปตฺตปริเยสิตปทานิ, ตโต มนสา อนุวิจริตฺจ นีหริตฺวา ทสฺเสตุํ ¶ ‘‘โลกสฺมึ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปริเยสิตฺวา ปตฺตํ นาม ปริเยสนาย ¶ ปริคฺคาหภาวโต. ปริเยสิตํ นาม เกวลํ ปริเยสิตเมวาติ กตฺวา ปริเยสิตฺวา ปตฺตสฺส มนุสฺสานุวิจริตสฺส วุตฺตตฺตา. ปมวิกปฺเป สงฺกโร อตฺถีติ อสงฺกรโต จ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สพฺพนฺติ วิฺาตาทิ. ตฺหิ มโนวิฺาเณน คหิตตฺตา มนสา อนุวิจริตํ นาม น ทิฏฺํ สุตํ มุตํ.
เอตํมมสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. นตฺถิทินฺนสุตฺตวณฺณนา
๒๑๐. ทินฺนนฺติ เทยฺยธมฺมสีเสน ทานํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ทินฺนสฺส ผลาภาวํ สนฺธายา’’ติ, ทินฺนํ ปน อนฺนาทิวตฺถุํ กถํ ปฏิกฺขิปนฺติ. เอส นโย ‘‘ยิฏฺํ หุต’’นฺติ เอตฺถาปิ. มหายาโคติ สพฺพสาธารณํ มหาทานํ. ปเหณกสกฺกาโรติ ปาหุนกานํ กาตพฺพสกฺกาโร. ผลนฺติ อานิสํสผลํ นิสฺสนฺทผลฺจ. วิปาโกติ สทิสผลํ. ปรโลเก ิตสฺส อยํ โลโก นตฺถีติ ปรโลเก ิตสฺส กมฺมุนา ลทฺธพฺโพ อยํ โลโก น โหติ. อิธโลเก ิตสฺสปิ ปรโลโก นตฺถีติ อิธโลเก ิตสฺส กมฺมุนา ลทฺธพฺโพ ปรโลโก น โหติ. ตตฺถ การณมาห – ‘‘สพฺเพ ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนฺตี’’ติ. อิเม สตฺตา ยตฺถ ยตฺถ ภเว โยนิอาทีสุ จ ิตา, ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนฺติ นิรุทยวินาสวเสน นสฺสนฺติ. ผลาภาววเสนาติ มาตาปิตูสุ สมฺมาปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺตีนํ ผลสฺส อภาววเสน ‘‘นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา’’ติ วทนฺติ, น มาตาปิตูนํ, นาปิ เตสุ อิทานิ กริยมานสกฺการาสกฺการานํ อภาววเสน เตสํ โลกปจฺจกฺขตฺตา. ปุพฺพุฬกสฺส วิย อิเมสํ สตฺตานํ อุปฺปาโท นาม เกวโล, น ภวโต จวิตฺวา อาคมนปุพฺพโกติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา’’ติ วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘จวิตฺวา อุปฺปชฺชนกสตฺตา นาม นตฺถี’’ติ. สมเณน นาม ยาถาวโต ชานนฺเตน กสฺสจิ อกเถตฺวา สฺเตน ภวิตพฺพํ, อฺถา อาโหปุริสิกา นาม สิยา. กิฺหิ ปโร ปรสฺส กริสฺสติ, ตถา จ อตฺตโน สมฺปาทนสฺส กสฺสจิ อวสฺสโย เอว น สิยา ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนโตติ อาห ‘‘เย อิมฺจ…เป… ปเวเทนฺตี’’ติ.
จตูสุ ¶ มหาภูเตสุ นิยุตฺโตติ จาตุมหาภูติโก. ยถา ปน มตฺติกาย นิพฺพตฺตํ ภาชนํ มตฺติกามยํ, เอวมยํ จตูหิ มหาภูเตหิ นิพฺพตฺโตติ อาห ‘‘จตุมหาภูตมโย’’ติ. อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตูติ สตฺตสนฺตานคตา ปถวีธาตุ. พาหิรํ ปถวีธาตุนฺติ พหิทฺธา มหาปถวึ. อนุยาตีติ ตสฺส อนุรูปภาเวน ยาติ อุเปติ. อุปคจฺฉตีติ ปุพฺเพ พาหิรปถวีกายโต ตเทกเทสภูตา ปถวี อาคนฺตฺวา อชฺฌตฺติกภาวปฺปตฺติยา สตฺตภาเวน สณฺิตา อิทานิ ฆฏาทิปถวี ¶ วิย ตเมว พาหิรปถวีกายํ อุเปติ อุปคจฺฉติ, สพฺพโส เตน นิพฺพิเสสตํ เอกีภาวเมว คจฺฉตีติ อตฺโถ. อาปาทีสุปิ เอเสว นโยติ เอตฺถ ปชฺชุนฺเนน มหาสมุทฺทโต คหิตอาโป วิย วสฺโสทกภาเวน ปุนปิ มหาสมุทฺทํ, สูริยรํสิโต คหิตอินฺทคฺคิสงฺขาตเตโช วิย ปุนปิ สูริยรํสึ, มหาวายุขนฺธโต นิคฺคตมหาวาโย วิย ตเมว วายุขนฺธํ อุเปติ อุปคจฺฉตีติ ทิฏฺิคติโก สยเมว อตฺตโน วาทํ ภินฺทติ. อุมฺมตฺตกปจฺฉิสทิสฺหิ ทิฏฺิคติกทสฺสนํ. มนจฺฉฏฺานิ อินฺทฺริยานิ อากาสํ ปกฺขนฺทนฺติ เตสํ วิสยภาวา วิสยาปีติ วทติ. วิสยิคฺคหเณน หิ วิสยา คหิตา เอว โหนฺตีติ. คุณาคุณปทานีติ คุณโทสโกฏฺาสา. สรีรเมว ปทานีติ อธิปฺเปตํ สรีเรน ตํตํกิริยาย ปชฺชิตพฺพโต. ทพฺพนฺติ มุยฺหนฺตีติ ทตฺตู, มูฬฺหปุคฺคลา. เตหิ ทตฺตูหิ พาลมนุสฺเสหิ ปฺตฺตํ.
นตฺถิทินฺนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. กโรโตสุตฺตวณฺณนา
๒๑๑. สหตฺถา กโรนฺตสฺสาติ สหตฺเถน กโรนฺตสฺส. นิสฺสคฺคิยถาวราทโยปิ อิธ สหตฺถกรเณเนว สงฺคหิตา. หตฺถาทีนีติ หตฺถปาทกณฺณนาสาทีนิ. ปจนํ ทหนํ วิพาธนนฺติ อาห ‘‘ทณฺเฑน ปีเฬนฺตสฺสา’’ติ. ปปฺจสูทนิยํ ‘‘ตชฺเชนฺตสฺส จา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต, อิธ ปน สุมงฺคลวิลาสินิยํ วิย ตชฺชนํ ปริภาสนํ ทณฺเฑเนว สงฺคเหตฺวา ‘‘ทณฺเฑน ปีเฬนฺตสฺส’’อิจฺเจว วุตฺตํ. โสกํ สยํ กโรนฺตสฺสาติ ปรสฺส โสกการณํ สยํ กโรนฺตสฺส, โสกํ วา อุปฺปาเทนฺตสฺส. ปเรหิ อตฺตโน วจนกเรหิ. สยมฺปิ ผนฺทโตติ ปรสฺส วิพาธนปฺปโยเคน ¶ สยมฺปิ ผนฺทโต. อติปาตยโตติ ปทํ สุทฺธกตฺตุอตฺเถ เหตุกตฺตุอตฺเถ จ วตฺตตีติ อาห – ‘‘หนนฺตสฺสปิ หนาเปนฺตสฺสปี’’ติ. การณวเสนาติ การาปนวเสน.
ฆรสฺส ภิตฺติ อนฺโต จ พหิ จ สนฺธิตา หุตฺวา ิตาว ฆรสนฺธิ. กิฺจิปิ อเสเสตฺวา นิรวเสโส โลโป นิลฺโลโป. เอกาคาเร นิยุตฺโต วิโลโป เอกาคาริโก. ปริโต สพฺพโส ปนฺเถ หนนํ ปริปนฺโถ. ปาปํ น กรียติ ปุพฺเพ อสโต อุปฺปาเทตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา, ตสฺมา นตฺถิ ปาปํ. ยทิ เอวํ กถํ สตฺตา ปาเป ปวตฺตนฺตีติ อาห ‘‘สตฺตา ปน กโรมาติ เอวํสฺิโน โหนฺตี’’ติ เอวํ กิรสฺส โหติ อิเมสฺหิ สตฺตานํ หึสาทิกิริยา น อตฺตานํ ผุสติ ตสฺส นิจฺจตาย นิพฺพิการตฺตา, สรีรํ ปน อเจตนํ กฏฺกลิงฺครูปมํ, ตสฺมึ วิโกปิเตปิ น กิฺจิ ปาปนฺติ. ขุรเนมินาติ นิสิตขุรมยเนมินา, ขุรสทิสเนมินาติ อตฺโถ.
คงฺคาย ¶ ทกฺขิณา ทิสา อปฺปติรูปเทโส, อุตฺตรทิสา ปติรูปเทโสติ อธิปฺปาเยน ‘‘ทกฺขิณฺเจปี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ทกฺขิณตีเร มนุสฺสา กกฺขฬา’’ติอาทิ. มหายาคนฺติ มหาวิชิตยฺสทิสํ มหายาคํ. อุโปสถกมฺเมนาติ อุโปสถกมฺเมน จ. จ-สทฺโท เหตฺถ ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ทมสทฺโท หิ อินฺทฺริยสํวรสฺส อุโปสถสีลสฺส จ วาจโก อิธาธิปฺเปโต. เกจิ ปน ‘‘อุโปสถกมฺเมนา’’ติ อิทํ อินฺทฺริยทมนสฺส วิเสสนํ, ตสฺมา ‘‘อุโปสถกมฺมภูเตน อินฺทฺริยทเมนา’’ติ อตฺถํ วทนฺติ. สีลสํยเมนาติ สีลสํวเรน. สจฺจวจเนนาติ สจฺจวาจาย. ตสฺสา วิสุํ วจนํ โลเก ครุตรปฺุสมฺมตภาวโต. ยถา หิ ปาปธมฺเมสุ มุสาวาโท ครุ, เอวํ ปฺุธมฺเมสุ สจฺจวาจา. เตนาห ภควา – ‘‘เอกํ ธมฺมํ อตีตสฺสา’’ติอาทิ (อิติวุ. ๒๕). ปวตฺตีติ โย กโรตีติ วุจฺจติ, ตสฺส สนฺตาเน ผลสฺส นิพฺพตฺติยา ปจฺจยภาเวน ปวตฺติ. สพฺพถาติ ‘‘กโรโต’’ติอาทินา วุตฺเตน สพฺพปฺปกาเรน กิริยเมว ปฏิกฺขิปนฺติ.
กโรโตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. เหตุสุตฺตวณฺณนา
๒๑๒. อุภเยนาติ ¶ เหตุปจฺจยปฏิเสธวจเนน. สํกิเลสปจฺจยนฺติ สํกิลิสนสฺส มลีนภาวสฺส การณํ. วิสุทฺธิปจฺจยนฺติ สํกิเลสโต วิสุทฺธิยา โวทานสฺส การณํ. นตฺถิ พลนฺติ สตฺตานํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกนิพฺพานสมฺปตฺติอาวหํ พลํ นาม กิฺจิ นตฺถิ. เตนาห ‘‘ยมฺหี’’ติอาทิ. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ, สํกิเลสิกมฺปิ จายํ ปฏิกฺขิปเตว. อฺมฺเววจนานีติ ตสฺสา ตสฺสา กิริยาย อุสฺสนฺนฏฺเน พลํ, สูรวีรภาวาวหฏฺเน วีริยํ, ตเมว ทฬฺหคฺคาหภาวโต โปริสํ ธุรํ วหนฺเตน ปวตฺเตตพฺพโต ปุริสถาโม, ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนปฺปวตฺติยา ปุริสปรกฺกโมติ วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ.
สตฺวโยคโต, รูปาทีสุ วา สตฺตตาย สตฺตา, ปาณนโต อสฺสาสนปสฺสาสนวเสน ปวตฺติยา ปาณา, เต ปน โส เอกินฺทฺริยาทิวเสน วิภชิตฺวา วทตีติ อาห ‘‘เอกินฺทฺริโย’’ติอาทิ. อณฺฑโกสาทีสุ ภวนโต ภูตาติ วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘อณฺฑ…เป… วทนฺตี’’ติ. ชีวนโต ปาณํ ธาเรนฺตา วิย วฑฺฒนโต ชีวาติ สาลิยวาทิเก วทนฺติ. นตฺถิ เอเตสํ สํกิเลสวิสุทฺธีสุ วโสติ อวสา. นตฺถิ เตสํ พลํ วีริยนฺติ อพลา อวีริยา. นิยตตาติ อจฺเฉชฺชสุตฺตาวุตาเภชฺชมณิโน วิย นิยตปฺปวตฺติตาย คติชาติพนฺธาปวคฺควเสน นิยโม. ตตฺถ ตตฺถ คมนนฺติ ฉนฺนํ อภิชาตีนํ วเสน ตาสุ ตาสุ คตีสุ อุปคมนํ. สมวาเยน สมาคโม สงฺคติ. สภาโวเยวาติ ยถา กณฺฏกสฺส ติกฺขตา, กปิตฺถผลานํ ปริมณฺฑลตา ¶ , มิคปกฺขีนํ วิจิตฺตาการตา, เอวํ สพฺพสฺสปิ โลกสฺส เหตุปจฺจเยหิ วินา ตถา ตถา ปริณาโม, อยํ สภาโว เอว อกิตฺติโม เอว. เตนาห ‘‘เยน หี’’ติอาทิ. ฉฬภิชาติโย ปรโต วิตฺถารียนฺติ. สุขฺจ ทุกฺขฺจ ปฏิสํเวเทนฺตีติ วทนฺตา อทุกฺขมสุขภูภึ สพฺเพน สพฺพํ น ชานนฺตีติ อุลฺลิงฺเคนฺโต ‘‘อฺา สุขทุกฺขภูมิ นตฺถีติ ทสฺเสนฺตี’’ติ อาห.
เหตุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘-๑๐. มหาทิฏฺิสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๑๓-๒๑๕. อกตาติ ¶ สเมน วา วิสเมน วา เกนจิ เหตุนา น กตา เอว. เกนจิ กตํ กรณํ วิธานํ นตฺถิ เอเตสนฺติ อกตวิธานา. ปททฺวเยนปิ โลเก เกนจิ เหตุปจฺจเยน เนสํ อภินิพฺพตฺติตาภาวํ ทสฺเสติ. อิทฺธิยาปิ น นิมฺมิตาติ กสฺสจิ อิทฺธิมโต เทวสฺส พฺรหฺมุโน วา อิทฺธิยาปิ น นิมฺมิตา. อนิมฺมิตาติ วา กสฺสจิ อนิมฺมาปกา. อชนกาติ เอเตน ปถวีกายาทีนํ รูปาทิชนกภาวํ ปฏิกฺขิปติ. รูปสทฺทาทโย หิ ปถวีกายาทีหิ อปฺปฏิพทฺธวุตฺติกาติ ตสฺส ลทฺธิ. ยถา ปพฺพตกูฏํ เกนจิ อนิพฺพตฺติตํ กสฺสจิ จ อนิพฺพตฺตกํ, เอวเมเตปีติ อาห ‘‘กูฏฏฺา’’ติ. ยมิทํ ‘‘พีชาทิโต องฺกุราทิ ชายตี’’ติ วุจฺจติ, ตฺจ วิชฺชมานเมว ตโต นิกฺขมติ, นาวิชฺชมานํ, อฺถา ยโต กุโตจิ ยสฺส กสฺสจิ อุปฺปตฺติ สิยาติ อธิปฺปาโย. ิตาติ นิพฺพิการภาเวน ิตา. น จลนฺตีติ น วิการํ อาปชฺชนฺติ. วิการาภาเวน หิ เตสํ สตฺตนฺนํ กายานํ เอสิกฏฺายิฏฺิตตา. อนิฺชนฺจ อตฺตโน ปกติยา อวฏฺานเมว. เตนาห ‘‘น วิปริณมนฺตี’’ติ. อวิปริณามธมฺมตฺตา เอว จ เน อฺมฺํ น พฺยาพาเธนฺติ. สติ หิ วิการํ อาปาเทตพฺพตาย พฺยาพาธกตาปิ สิยา, ตถา อนุคฺคเหตพฺพตาย อนุคฺคาหกตาติ ตทภาวํ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘นาล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปถวี เอว กาเยกเทสตฺตา ปถวิกาโย. ชีวสตฺตมานํ กายานํ นิจฺจตาย นิพฺพิการาภาวโต น หนฺตพฺพตา, น ฆาเฏตพฺพตา จาติ เนว โกจิ หนฺตา ฆาเตตา วา. เตนาห ‘‘สตฺตนฺนนฺตฺเววา’’ติอาทิ. ยทิ โกจิ หนฺตา นตฺถิ, กถํ สตฺถปฺปหาโรติ อาห ‘‘ยถา มุคฺคราสิอาทีสู’’ติอาทิ. เกวลํ สฺามตฺตเมว โหติ, น ฆาตนาทิ, ปรมตฺถโต สตฺตนฺนนฺตฺเวว กายานํ อวิโกปนียภาวโตติ อธิปฺปาโย.
ปมุขโยนีนนฺติ มนุสฺสติรจฺฉานาทีสุ ขตฺติยพฺราหฺมณาทิสีหพฺยคฺฆาทิวเสน ปธานโยนีนํ. สฏฺิสตานิ ฉสหสฺสานิ. ‘‘ปฺจ จ กมฺมุโน สตานี’’ติ ปทสฺส อตฺถทสฺสนํ ‘‘ปฺจ กมฺมสตานิ จา’’ติ ¶ . เอเสว นโยติ อิมินา ‘‘เกวลํ ตกฺกมตฺเตน นิรตฺถกทิฏฺึ ทีเปตี’’ติ อิมเมว อตฺถํ อติทิสติ. เอตฺถ จ ตกฺกมตฺตเกนาติ อิมินา ยสฺมา ตกฺกิกา นิรงฺกุสตาย ปริกปฺปนสฺส ยํ กิฺจิ อตฺตโน ปริกปฺปิตํ สารโต ¶ มฺมานา ตเถว อภินิวิสฺส ตกฺกทิฏฺิคาหํ คณฺหนฺติ, ตสฺมา น เตสํ ทิฏฺิวตฺถูสุ วิฺูหิ วิจารณา กาตพฺพาติ ทสฺเสติ. เกจีติ อุตฺตรวิหารวาสิโน. เต หิ ‘‘ปฺจ กมฺมานีติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายา, อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ ‘ปฺจ กมฺมานีติ ปฺาเปนฺตี’’ติ วทนฺติ. กมฺมนฺติ ลทฺธีติ โอฬาริกภาวโต ปริปุณฺณกมฺมนฺติ ลทฺธิ. มโนกมฺมํ อโนฬาริกตฺตา อุปฑฺฒกมฺมนฺติ ลทฺธีติ โยชนา. ‘‘ทฺวาสฏฺิปฏิปทา’’ติ วตฺตพฺเพ สภาวนิรุตฺตึ อชานนฺตา ‘‘ทฺวฏฺิปฏิปทา’’ติ วทนฺติ. เอกสฺมึ กปฺเปติ เอกสฺมึ มหากปฺเป. ตตฺถาปิ จ วิวฏฺฏฏฺายิสฺิเต เอกสฺมึ อสงฺขฺเยยฺยกปฺเป.
อุรพฺเภ หนนฺตีติ โอรพฺภิกา. เอวํ สูกริกาทโย เวทิตพฺพา. ลุทฺทาติ อฺเปิ เย เกจิ มาควิกเนสาทาทโย, เต ปาปกมฺมปสุตตาย กณฺหาภิชาตีติ วทนฺติ. ภิกฺขูติ พุทฺธสาสเน ภิกฺขู. เต กิร ‘‘สจฺฉนฺทราคา ปริภฺุชนฺตี’’ติ อธิปฺปาเยน จตูสุ ปจฺจเยสุ กณฺฏเก ปกฺขิปิตฺวา ขาทนฺตีติ วทนฺติ. กสฺมาติ เจ? ยสฺมา เต ปณีตปณีเต ปจฺจเย ปฏิเสวนฺตีติ ตสฺส มิจฺฉาคาโห. ายลทฺเธปิ ปจฺจเย ปริภฺุชมานา อาชีวกสมยสฺส วิโลมคาหิตาย ปจฺจเยสุ กณฺฏเก ปกฺขิปิตฺวา ขาทนฺติ นามาติ วทนฺตีติ อปเร. เอเก ปพฺพชิตา, เย วิเสสโต อตฺตกิลมถานุโยคมนุยุตฺตา. ตถา หิ เต กณฺฏเก วตฺตนฺตา วิย โหนฺตีติ กณฺฏกวุตฺติกาติ วุตฺตา. ตฺวา ภฺุชนนหานปฏิกฺเขปาทิวตสมาโยเคน ปณฺฑรตรา. อเจลกสาวกาติ อาชีวกสาวเก วทติ. เต กิร อาชีวกสมเย อาชีวกลทฺธิยา ทฬฺหคาหิตาย นิคณฺเหิปิ ปณฺฑรตรา. นนฺทาทโย กิร ตถารูปํ อาชีวกปฏิปตฺตึ อุกฺกํสํ ปาเปตฺวา ิตา, ตสฺมา นิคณฺเหิ อาชีวกสาวเกหิ จ ปณฺฑรตรา วุตฺตา. ปรมสุกฺกาภิชาตีติ อยํ เตสํ ลทฺธิ.
ปุริสภูมิโยติ ปธานปุคฺคเลน นิทฺเทโส. อิตฺถีนมฺเปตา ภูมิโย อิจฺฉนฺเตว. ภิกฺขุ จ ปนฺนโกติอาทิ เตสํ ปาฬิ เอว. ตตฺถ ปนฺนโกติ ภิกฺขาย วิจรณโก, เตสํ วา ปฏิปตฺติยา ปฏิปนฺนโก. ชิโนติ ชิณฺโณ ชราวเสน หีนธาตุโก, อตฺตโน วา ปฏิปตฺติยา ปฏิปกฺเข ชินิตฺวา ิโต. โส กิร ตถาภูโต ธมฺมมฺปิ กสฺสจิ น กเถติ. เตนาห ‘‘น กิฺจิ อาหา’’ติ. นิฏฺุหนาทิวิปฺปกาเร เกนจิ กเตปิ ขมนวเสน ¶ น กิฺจิ วทตีติ วทนฺติ. อลาภินฺติ ‘‘โส น กุมฺภิมุขา ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๓๙๔) นเยน วุตฺตอลาภเหตุสมาโยเคน อลาภึ. ตโต เอว ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยปเรตตาย สยนปรายณํ สมณํ ปนฺนภูมีติ วทนฺติ.
อาชีววุตฺติสตานีติ ¶ สตฺตานํ อาชีวภูตานิ ชีวิกาวุตฺติสตานิ. ปสุคฺคหเณน เอฬกชาติ คหิตา, มิคคฺคหเณน รุรุควยาทิสพฺพมิคชาติ. พหู เทวาติ จาตุมหาราชิกาทิพฺรหฺมกายิกาทิวเสน เตสํ อนฺตรเภทวเสน พหู เทวา. ตตฺถ จาตุมหาราชิกานํ เอกจฺเจ อนฺตรเภทา มหาสมยสุตฺตวเสน (ที. นิ. ๒.๓๓๑ อาทโย) ทีเปตพฺพา. มนุสฺสาปิ อนนฺตาติ ทีปเทสกุลวํสาชีวาทิวิภาเคน มนุสฺสาปิ อนนฺตเภทา. ปิสาจา เอว เปสาจา, เต มหนฺตมหนฺตา อชครเปตาทโย. ฉทฺทนฺตทหมนฺทากินิโย กุฬีรมุจลินฺทนาเมน วทนฺติ.
ปวุฏาติ สพฺพคณฺิกา. ปณฺฑิโตปิ…เป… อุทฺธํ น คจฺฉติ. กสฺมา? สตฺตานํ สํสรณกาลสฺส นิยตภาวโต.
อปริปกฺกํ สํสรณนิมิตฺตํ สีลาทินา ปริปาเจติ นาม สีฆํเยว วิสุทฺธิปฺปตฺติยา. ปริปกฺกํ กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส ปตฺวา ปตฺวา กาเล ปริปกฺกภาวาปาทเนน พฺยนฺตี กโรติ นาม. สุตฺตคุเฬติ สุตฺตวฏฺฏิยํ. นิพฺเพิยมานเมว ปเลตีติ อุปมาย สตฺตานํ สํสาโร อนุกฺกเมน ขียเตว, น ตสฺส วฑฺฒีติ ทสฺเสติ ปริจฺฉินฺนรูปตฺตา. นิพฺเพิยมานเมว สุตฺตคุฬํ คจฺฉตีติ วุจฺจติ. ตฺจ โข สุตฺตปมาเณน, สุตฺเต ปน อสติ กุโต คจฺฉติ สุตฺตคุฬํ. เตนาห – ‘‘สุตฺเต ขีเณ น คจฺฉตี’’ติ. ตตฺเถว ติฏฺติ สุตฺตปริยนฺตนฺติ อธิปฺปาโย. กาลวเสนาติ อตฺตนิ เวเตฺวา ิตํ สุขทุกฺขํ ยถาวุตฺตสฺส กาลสฺส วเสน นิพฺเพิยมาโน พาโล จ ปณฺฑิโต จ ปเลติ คจฺฉติ, นาติกฺกมติ สํสารํ.
มหาทิฏฺิสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑-๑๘. อนฺตวาสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๑๖-๒๒๓. เอกโต ¶ วฑฺฒิตนิมิตฺตนฺติ เอกปสฺเสน วฑฺฒิตํ กสิณนิมิตฺตํ. คาเหนาติ ลาภี ฌานจกฺขุนา ปสฺสิตฺวา คหเณน. ตกฺเกนาติ น ลาภี ตกฺกมตฺเตน. อุปฺปนฺนทิฏฺีติ ‘‘โลโก’’ติ อุปฺปนฺนทิฏฺิ. สพฺพโต วฑฺฒิตนฺติ สมนฺตโต อปฺปมาณกสิณนิมิตฺตํ. เอกเมวาติ ‘‘เอกเมว วตฺถู’’ติ อุปฺปนฺนทิฏฺิ. อฏฺารส เวยฺยากรณานีติ เวยฺยากรณลกฺขณปฺปตฺตานิ อฏฺารส สุตฺตานิ. เอกํ คมนนฺติ เอกํ เวยฺยากรณคมนํ.
อนฺตวาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยคมนาทิวคฺควณฺณนา
๒๒๔-๓๐๑. ทุกฺขวเสน ¶ วุตฺตนฺติ ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, ทุกฺเข สติ ทุกฺขํ อุปาทายา’’ติอาทิทุกฺขวเสน วุตฺตํ. ตาทิสเมว ทุติยํ เวยฺยากรณคมนํ. เตนาห ‘‘ตตฺราปิ อฏฺารเสว เวยฺยากรณานี’’ติ. เตหีติ ‘‘รูปี อตฺตา โหตี’’ติอาทินยปวตฺเตหิ เวยฺยากรเณหิ สทฺธึ. ตนฺติ ทุติยํ คมนํ.
อารมฺมณเมวาติ กสิณสงฺขาตํ อารมฺมณเมว. ตกฺกิสทฺเทน สุทฺธตกฺกิกานํ คหณํ ทฏฺพฺพํ.
อนิจฺจทุกฺขวเสนาติ ‘‘ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺขํ, ตสฺมึ สติ ตทุปาทาย เอวํ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตอนิจฺจทุกฺขวเสนาติ. เตหิเยวาติ ทุติเย เปยฺยาเล วุตฺตปฺปกาเรหิเยว. ติปริวฏฺฏวเสนาติ เตหิเยว ฉพฺพีสติยา สุตฺเตหิ จตุตฺถเปยฺยาเล ติปริวฏฺฏวเสน วุตฺโตติ โยชนา.
ทุติยคมนาทิวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย
ทิฏฺิสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.