📜

๗. จิตฺตสํยุตฺตํ

๑. สํโยชนสุตฺตํ

๓๔๓. เอกํ สมยํ สมฺพหุลา เถรา ภิกฺขู มจฺฉิกาสณฺเฑ วิหรนฺติ อมฺพาฏกวเน. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลานํ เถรานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส, ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา นานาพฺยฺชนา อุทาหุ เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ? ตตฺเรกจฺเจหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ เอวํ พฺยากตํ โหติ – ‘‘‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส, ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จา’’ติ. เอกจฺเจหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ เอวํ พฺยากตํ โหติ – ‘‘‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส, ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ.

เตน โข ปน สมเยน จิตฺโต คหปติ มิคปถกํ อนุปฺปตฺโต โหติ เกนจิเทว กรณีเยน. อสฺโสสิ โข จิตฺโต คหปติ สมฺพหุลานํ กิร เถรานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส, ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา นานาพฺยฺชนา อุทาหุ เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ? ตตฺเรกจฺเจหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ เอวํ พฺยากตํ – ‘‘‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส , ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จา’’ติ. เอกจฺเจหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ เอวํ พฺยากตํ ‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นานนฺติ. อถ โข จิตฺโต คหปติ เยน เถรา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เถเร ภิกฺขู อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข จิตฺโต คหปติ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต, สมฺพหุลานํ กิร เถรานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส, ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา นานาพฺยฺชนา อุทาหุ เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ? เอกจฺเจหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ เอวํ พฺยากตํ – ‘‘‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส, ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จา’’ติ. เอกจฺเจหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ เอวํ พฺยากตํ ‘‘‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส, ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ. ‘‘เอวํ, คหปตี’’ติ.

‘‘‘สํโยชน’นฺติ วา, ภนฺเต, ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จ. เตน หิ, ภนฺเต, อุปมํ โว กริสฺสามิ. อุปมายปิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, กาโฬ จ พลีพทฺโท โอทาโต จ พลีพทฺโท เอเกน ทาเมน วา โยตฺเตน วา สํยุตฺตา อสฺสุ. โย นุ โข เอวํ วเทยฺย – ‘กาโฬ พลีพทฺโท โอทาตสฺส พลีพทฺทสฺส สํโยชนํ , โอทาโต พลีพทฺโท กาฬสฺส พลีพทฺทสฺส สํโยชน’นฺติ, สมฺมา นุ โข โส วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, คหปติ! น โข, คหปติ, กาโฬ พลีพทฺโท โอทาตสฺส พลีพทฺทสฺส สํโยชนํ, นปิ โอทาโต พลีพทฺโท กาฬสฺส พฬีพทฺทสฺส สํโยชนํ; เยน โข เต เอเกน ทาเมน วา โยตฺเตน วา สํยุตฺตา ตํ ตตฺถ สํโยชน’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, ภนฺเต, น จกฺขุ รูปานํ สํโยชนํ, น รูปา จกฺขุสฺส สํโยชนํ; ยฺจ ตตฺถ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ฉนฺทราโค ตํ ตตฺถ สํโยชนํ. น โสตํ สทฺทานํ… น ฆานํ คนฺธานํ… น ชิวฺหา รสานํ… น กาโย โผฏฺพฺพานํ สํโยชนํ, น โผฏฺพฺพา กายสฺส สํโยชนํ; ยฺจ ตตฺถ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ฉนฺทราโค ตํ ตตฺถ สํโยชนํ. น มโน ธมฺมานํ สํโยชนํ, น ธมฺมา มนสฺส สํโยชนํ; ยฺจ ตตฺถ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ฉนฺทราโค ตํ ตตฺถ สํโยชน’’นฺติ. ‘‘ลาภา เต, คหปติ, สุลทฺธํ เต, คหปติ, ยสฺส เต คมฺภีเร พุทฺธวจเน ปฺาจกฺขุ กมตี’’ติ. ปมํ.

๒. ปมอิสิทตฺตสุตฺตํ

๓๔๔. เอกํ สมยํ สมฺพหุลา เถรา ภิกฺขู มจฺฉิกาสณฺเฑ วิหรนฺติ อมฺพาฏกวเน. อถ โข จิตฺโต คหปติ เยน เถรา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เถเร ภิกฺขู อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข จิตฺโต คหปติ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสนฺตุ เม, ภนฺเต, เถรา สฺวาตนาย ภตฺต’’นฺติ. อธิวาเสสุํ โข เถรา ภิกฺขู ตุณฺหีภาเวน . อถ โข จิตฺโต คหปติ เถรานํ ภิกฺขูนํ อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา เถเร ภิกฺขู อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข เถรา ภิกฺขู ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน จิตฺตสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทึสุ.

อถ โข จิตฺโต คหปติ เยน เถรา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เถเร ภิกฺขู อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข จิตฺโต คหปติ อายสฺมนฺตํ เถรํ เอตทโวจ – ‘‘‘ธาตุนานตฺตํ, ธาตุนานตฺต’นฺติ, ภนฺเต เถร, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ธาตุนานตฺตํ วุตฺตํ ภควตา’’ติ? เอวํ วุตฺเต อายสฺมา เถโร ตุณฺหี อโหสิ. ทุติยมฺปิ โข จิตฺโต คหปติ อายสฺมนฺตํ เถรํ เอตทโวจ – ‘‘‘ธาตุนานตฺตํ, ธาตุนานตฺต’นฺติ, ภนฺเต เถร, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ธาตุนานตฺตํ วุตฺตํ ภควตา’’ติ? ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา เถโร ตุณฺหี อโหสิ. ตติยมฺปิ โข จิตฺโต คหปติ อายสฺมนฺตํ เถรํ เอตทโวจ – ‘‘‘ธาตุนานตฺตํ, ธาตุนานตฺต’นฺติ, ภนฺเต เถร, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ธาตุนานตฺตํ วุตฺตํ ภควตา’’ติ? ตติยมฺปิ โข อายสฺมา เถโร ตุณฺหี อโหสิ.

เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อิสิทตฺโต ตสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ สพฺพนวโก โหติ. อถ โข อายสฺมา อิสิทตฺโต อายสฺมนฺตํ เถรํ เอตทโวจ – ‘‘พฺยากโรมหํ, ภนฺเต เถร, จิตฺตสฺส คหปติโน เอตํ ปฺห’’นฺติ? ‘‘พฺยากโรหิ ตฺวํ, อาวุโส อิสิทตฺต, จิตฺตสฺส คหปติโน เอตํ ปฺห’’นฺติ. ‘‘เอวฺหิ ตฺวํ, คหปติ, ปุจฺฉสิ – ‘ธาตุนานตฺตํ, ธาตุนานตฺตนฺติ, ภนฺเต เถร, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ธาตุนานตฺตํ, วุตฺตํ ภควตา’’’ติ? ‘‘เอวํ , ภนฺเต’’. ‘‘อิทํ โข, คหปติ, ธาตุนานตฺตํ วุตฺตํ ภควตา – จกฺขุธาตุ, รูปธาตุ, จกฺขุวิฺาณธาตุ…เป… มโนธาตุ, ธมฺมธาตุ, มโนวิฺาณธาตุ. เอตฺตาวตา โข, คหปติ, ธาตุนานตฺตํ วุตฺตํ ภควตา’’ติ.

อถ โข จิตฺโต คหปติ อายสฺมโต อิสิทตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา เถเร ภิกฺขู ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ. อถ โข เถรา ภิกฺขู ภุตฺตาวิโน โอนีตปตฺตปาณิโน อุฏฺายาสนา ปกฺกมึสุ. อถ โข อายสฺมา เถโร อายสฺมนฺตํ อิสิทตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ โข ตํ, อาวุโส อิสิทตฺต , เอโส ปฺโห ปฏิภาสิ, เนโส ปฺโห มํ ปฏิภาสิ. เตนหาวุโส อิสิทตฺต, ยทา อฺถาปิ [ยทา อฺทาปิ (สี. ปี.) อฺทาปิ (?)] เอวรูโป ปฺโห อาคจฺเฉยฺย, ตฺเเวตฺถ ปฏิภาเสยฺยา’’ติ. ทุติยํ.

๓. ทุติยอิสิทตฺตสุตฺตํ

๓๔๕. เอกํ สมยํ สมฺพหุลา เถรา ภิกฺขู มจฺฉิกาสณฺเฑ วิหรนฺติ อมฺพาฏกวเน. อถ โข จิตฺโต คหปติ เยน เถรา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เถเร ภิกฺขู อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข จิตฺโต คหปติ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสนฺตุ เม, ภนฺเต เถรา, สฺวาตนาย ภตฺต’’นฺติ. อธิวาเสสุํ โข เถรา ภิกฺขู ตุณฺหีภาเวน. อถ โข จิตฺโต คหปติ เถรานํ ภิกฺขูนํ อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา เถเร ภิกฺขู อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข เถรา ภิกฺขู ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน จิตฺตสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทึสุ.

อถ โข จิตฺโต คหปติ เยน เถรา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เถเร ภิกฺขู อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข จิตฺโต คหปติ อายสฺมนฺตํ เถรํ เอตทโวจ – ‘‘ยา อิมา, ภนฺเต เถร, อเนกวิหิตา ทิฏฺิโย โลเก อุปฺปชฺชนฺติ – ‘สสฺสโต โลโกติ วา, อสสฺสโต โลโกติ วา, อนฺตวา โลโกติ วา, อนนฺตวา โลโกติ วา, ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ วา, อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรนฺติ วา, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา. ยานิ จิมานิ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ พฺรหฺมชาเล ภณิตานิ; อิมา นุ โข, ภนฺเต, ทิฏฺิโย กิสฺมึ สติ โหนฺติ, กิสฺมึ อสติ น โหนฺตี’’ติ?

เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา เถโร ตุณฺหี อโหสิ. ทุติยมฺปิ โข จิตฺโต คหปติ…เป… ตติยมฺปิ โข จิตฺโต คหปติ อายสฺมนฺตํ เถรํ เอตทโวจ – ‘‘ยา อิมา, ภนฺเต เถร, อเนกวิหิตา ทิฏฺิโย โลเก อุปฺปชฺชนฺติ – สสฺสโต โลโกติ วา, อสสฺสโต โลโกติ วา, อนฺตวา โลโกติ วา, อนนฺตวา โลโกติ วา, ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ วา, อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรนฺติ วา, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา. ยานิ จิมานิ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ พฺรหฺมชาเล ภณิตานิ; อิมา นุ โข, ภนฺเต, ทิฏฺิโย กิสฺมึ สติ โหนฺติ, กิสฺมึ อสติ น โหนฺตี’’ติ? ตติยมฺปิ โข อายสฺมา เถโร ตุณฺหี อโหสิ.

เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อิสิทตฺโต ตสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ สพฺพนวโก โหติ. อถ โข อายสฺมา อิสิทตฺโต อายสฺมนฺตํ เถรํ เอตทโวจ – ‘‘พฺยากโรมหํ, ภนฺเต เถร, จิตฺตสฺส คหปติโน เอตํ ปฺห’’นฺติ? ‘‘พฺยากโรหิ ตฺวํ, อาวุโส อิสิทตฺต, จิตฺตสฺส คหปติโน เอตํ ปฺห’’นฺติ. ‘‘เอวฺหิ ตฺวํ, คหปติ, ปุจฺฉสิ – ‘ยา อิมา, ภนฺเต เถร, อเนกวิหิตา ทิฏฺิโย โลเก อุปฺปชฺชนฺติ – สสฺสโต โลโกติ วา…เป…; อิมา นุ โข, ภนฺเต, ทิฏฺิโย กิสฺมึ สติ โหนฺติ, กิสฺมึ อสติ น โหนฺตี’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยา อิมา, คหปติ, อเนกวิหิตา ทิฏฺิโย โลเก อุปฺปชฺชนฺติ – ‘สสฺสโต โลโกติ วา, อสสฺสโต โลโกติ วา, อนฺตวา โลโกติ วา อนนฺตวา โลโกติ วา, ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ วา, อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรนฺติ วา, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา. ยานิ จิมานิ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ พฺรหฺมชาเล ภณิตานิ; อิมา โข, คหปติ, ทิฏฺิโย สกฺกายทิฏฺิยา สติ โหนฺติ, สกฺกายทิฏฺิยา อสติ น โหนฺตี’’’ติ.

‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, สกฺกายทิฏฺิ โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, คหปติ, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อริยานํ อทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส อโกวิโท อริยธมฺเม อวินีโต, สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ; เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ…เป… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา วิฺาณํ, วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ. เอวํ โข, คหปติ, สกฺกายทิฏฺิ โหตี’’ติ.

‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, สกฺกายทิฏฺิ น โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, คหปติ, สุตวา อริยสาวโก อริยานํ ทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส โกวิโท อริยธมฺเม สุวินีโต สปฺปุริสานํ ทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส โกวิโท สปฺปุริสธมฺเม สุวินีโต น รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา รูปํ, น รูปสฺมึ วา อตฺตานํ; น เวทนํ… น สฺํ… น สงฺขาเร… น วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา วิฺาณํ, น วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ. เอวํ โข, คหปติ, สกฺกายทิฏฺิ น โหตี’’ติ.

‘‘กุโต , ภนฺเต, อยฺโย อิสิทตฺโต อาคจฺฉตี’’ติ? ‘‘อวนฺติยา โข, คหปติ, อาคจฺฉามี’’ติ. ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, อวนฺติยา อิสิทตฺโต นาม กุลปุตฺโต อมฺหากํ อทิฏฺสหาโย ปพฺพชิโต? ทิฏฺโ โส อายสฺมตา’’ติ? ‘‘เอวํ, คหปตี’’ติ. ‘‘กหํ นุ โข โส, ภนฺเต, อายสฺมา เอตรหิ วิหรตี’’ติ? เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อิสิทตฺโต ตุณฺหี อโหสิ. ‘‘อยฺโย โน, ภนฺเต, อิสิทตฺโต’’ติ? ‘‘เอวํ, คหปตี’’ติ. ‘‘อภิรมตุ, ภนฺเต, อยฺโย อิสิทตฺโต มจฺฉิกาสณฺเฑ. รมณียํ อมฺพาฏกวนํ. อหํ อยฺยสฺส อิสิทตฺตสฺส อุสฺสุกฺกํ กริสฺสามิ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติ. ‘‘กลฺยาณํ วุจฺจติ, คหปตี’’ติ.

อถ โข จิตฺโต คหปติ อายสฺมโต อิสิทตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา เถเร ภิกฺขู ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ. อถ โข เถรา ภิกฺขู ภุตฺตาวิโน โอนีตปตฺตปาณิโน อุฏฺายาสนา ปกฺกมึสุ. อถ โข อายสฺมา เถโร อายสฺมนฺตํ อิสิทตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ โข ตํ, อาวุโส อิสิทตฺต, เอโส ปฺโห ปฏิภาสิ. เนโส ปฺโห มํ ปฏิภาสิ. เตนหาวุโส อิสิทตฺต, ยทา อฺถาปิ เอวรูโป ปฺโห อาคจฺเฉยฺย, ตฺเเวตฺถ ปฏิภาเสยฺยา’’ติ. อถ โข อายสฺมา อิสิทตฺโต เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย มจฺฉิกาสณฺฑมฺหา ปกฺกามิ. ยํ มจฺฉิกาสณฺฑมฺหา ปกฺกามิ, ตถา ปกฺกนฺโตว อโหสิ, น ปุน ปจฺจาคจฺฉีติ. ตติยํ.

๔. มหกปาฏิหาริยสุตฺตํ

๓๔๖. เอกํ สมยํ สมฺพหุลา เถรา ภิกฺขู มจฺฉิกาสณฺเฑ วิหรนฺติ อมฺพาฏกวเน. อถ โข จิตฺโต คหปติ เยน เถรา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เถเร ภิกฺขู อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข จิตฺโต คหปติ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสนฺตุ เม, ภนฺเต เถรา, สฺวาตนาย โคกุเล ภตฺต’’นฺติ. อธิวาเสสุํ โข เถรา ภิกฺขู ตุณฺหีภาเวน. อถ โข จิตฺโต คหปติ เถรานํ ภิกฺขูนํ อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา เถเร ภิกฺขู อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข เถรา ภิกฺขู ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน จิตฺตสฺส คหปติโน โคกุลํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทึสุ.

อถ โข จิตฺโต คหปติ เถเร ภิกฺขู ปณีเตน สปฺปิปายาเสน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ. อถ โข เถรา ภิกฺขู ภุตฺตาวิโน โอนีตปตฺตปาณิโน อุฏฺายาสนา ปกฺกมึสุ. จิตฺโตปิ โข คหปติ ‘เสสกํ วิสฺสชฺเชถา’ติ วตฺวา เถเร ภิกฺขู ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธิ. เตน โข ปน สมเยน อุณฺหํ โหติ กุถิตํ [กุฏฺิตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]; เต จ เถรา ภิกฺขู ปเวลิยมาเนน มฺเ กาเยน คจฺฉนฺติ, ยถา ตํ โภชนํ ภุตฺตาวิโน.

เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหโก ตสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ สพฺพนวโก โหติ. อถ โข อายสฺมา มหโก อายสฺมนฺตํ เถรํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ ขฺวสฺส, ภนฺเต เถร, สีตโก จ วาโต วาเยยฺย, อพฺภสมฺปิลาโป [อพฺภสํพิลาโป (สี.), อพฺภสํวิลาโป (ปี.)] จ อสฺส, เทโว จ เอกเมกํ ผุสาเยยฺยา’’ติ.

‘‘สาธุ ขฺวสฺส, อาวุโส มหก, ยํ สีตโก จ วาโต วาเยยฺย, อพฺภสมฺปิลาโป จ อสฺส, เทโว จ เอกเมกํ ผุสาเยยฺยา’’ติ. อถ โข อายสฺมา มหโก ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขริ [อภิสงฺขาสิ (สี.)] ยถา สีตโก จ วาโต วายิ, อพฺภสมฺปิลาโป จ อสฺส [อาสิ (?)], เทโว จ เอกเมกํ ผุสิ. อถ โข จิตฺตสฺส คหปติโน เอตทโหสิ – ‘‘โย โข อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ สพฺพนวโก ภิกฺขุ ตสฺสายํ เอวรูโป อิทฺธานุภาโว’’ติ . อถ โข อายสฺมา มหโก อารามํ สมฺปาปุณิตฺวา อายสฺมนฺตํ เถรํ เอตทโวจ – ‘‘อลเมตฺตาวตา, ภนฺเต เถรา’’ติ? ‘‘อลเมตฺตาวตา, อาวุโส มหก! กตเมตฺตาวตา, อาวุโส มหก! ปูชิตเมตฺตาวตา, อาวุโส มหกา’’ติ . อถ โข เถรา ภิกฺขู ยถาวิหารํ อคมํสุ. อายสฺมาปิ มหโก สกํ วิหารํ อคมาสิ.

อถ โข จิตฺโต คหปติ เยนายสฺมา มหโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหกํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข จิตฺโต คหปติ อายสฺมนฺตํ มหกํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ เม, ภนฺเต, อยฺโย มหโก อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสตู’’ติ. ‘‘เตน หิ ตฺวํ, คหปติ, อาลินฺเท อุตฺตราสงฺคํ ปฺเปตฺวา ติณกลาปํ โอกาเสหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข จิตฺโต คหปติ อายสฺมโต มหกสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อาลินฺเท อุตฺตราสงฺคํ ปฺเปตฺวา ติณกลาปํ โอกาเสสิ. อถ โข อายสฺมา มหโก วิหารํ ปวิสิตฺวา สูจิฆฏิกํ ทตฺวา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขริ ยถา ตาลจฺฉิคฺคเฬน จ อคฺคฬนฺตริกาย จ อจฺจิ นิกฺขมิตฺวา ติณานิ ฌาเปสิ, อุตฺตราสงฺคํ น ฌาเปสิ. อถ โข จิตฺโต คหปติ อุตฺตราสงฺคํ ปปฺโผเฏตฺวา สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถ โข อายสฺมา มหโก วิหารา นิกฺขมิตฺวา จิตฺตํ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘อลเมตฺตาวตา, คหปตี’’ติ?

‘‘อลเมตฺตาวตา , ภนฺเต มหก! กตเมตฺตาวตา, ภนฺเต, มหก! ปูชิตเมตฺตาวตา, ภนฺเต มหก! อภิรมตุ, ภนฺเต, อยฺโย มหโก มจฺฉิกาสณฺเฑ. รมณียํ อมฺพาฏกวนํ. อหํ อยฺยสฺส มหกสฺส อุสฺสุกฺกํ กริสฺสามิ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติ. ‘‘กลฺยาณํ วุจฺจติ, คหปตี’’ติ. อถ โข อายสฺมา มหโก เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย มจฺฉิกาสณฺฑมฺหา ปกฺกามิ. ยํ มจฺฉิกาสณฺฑมฺหา ปกฺกามิ, ตถา ปกฺกนฺโตว อโหสิ; น ปุน ปจฺจาคจฺฉีติ. จตุตฺถํ.

๕. ปมกามภูสุตฺตํ

๓๔๗. เอกํ สมยํ อายสฺมา กามภู มจฺฉิกาสณฺเฑ วิหรติ อมฺพาฏกวเน. อถ โข จิตฺโต คหปติ เยนายสฺมา กามภู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ กามภุํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ . เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข จิตฺตํ คหปตึ อายสฺมา กามภู เอตทโวจ –

‘‘วุตฺตมิทํ , คหปติ –

‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท, เอกาโร วตฺตตี รโถ;

อนีฆํ ปสฺส อายนฺตํ [อปฺปตฺตํ (สฺยา. กํ. ก.)], ฉินฺนโสตํ อพนฺธน’’นฺติ.

‘‘อิมสฺส นุ โข, คหปติ, สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส กถํ วิตฺถาเรน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ? ‘‘กึ นุ โข เอตํ, ภนฺเต, ภควตา ภาสิต’’นฺติ? ‘‘เอวํ, คหปตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, มุหุตฺตํ อาคเมหิ ยาวสฺส อตฺถํ เปกฺขามี’’ติ. อถ โข จิตฺโต คหปติ มุหุตฺตํ ตุณฺหี หุตฺวา อายสฺมนฺตํ กามภุํ เอตทโวจ –

‘‘‘เนลงฺค’นฺติ โข, ภนฺเต, สีลานเมตํ อธิวจนํ. ‘เสตปจฺฉาโท’ติ โข, ภนฺเต, วิมุตฺติยา เอตํ อธิวจนํ. ‘เอกาโร’ติ โข, ภนฺเต, สติยา เอตํ อธิวจนํ. ‘วตฺตตี’ติ โข, ภนฺเต, อภิกฺกมปฏิกฺกมสฺเสตํ อธิวจนํ. ‘รโถ’ติ โข, ภนฺเต, อิมสฺเสตํ จาตุมหาภูติกสฺส กายสฺส อธิวจนํ มาตาเปตฺติกสมฺภวสฺส โอทนกุมฺมาสูปจยสฺส อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธมฺมสฺส. ราโค โข, ภนฺเต, นีโฆ, โทโส นีโฆ, โมโห นีโฆ. เต ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวงฺกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. ตสฺมา ขีณาสโว ภิกฺขุ ‘อนีโฆ’ติ วุจฺจติ. ‘อายนฺต’นฺติ โข, ภนฺเต, อรหโต เอตํ อธิวจนํ. ‘โสโต’ติ โข, ภนฺเต, ตณฺหาเยตํ อธิวจนํ. สา ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวงฺกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. ตสฺมา ขีณาสโว ภิกฺขุ ‘ฉินฺนโสโต’ติ วุจฺจติ. ราโค โข, ภนฺเต, พนฺธนํ, โทโส พนฺธนํ, โมโห พนฺธนํ. เต ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวงฺกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. ตสฺมา ขีณาสโว ภิกฺขุ ‘อพนฺธโน’ติ วุจฺจติ. อิติ โข, ภนฺเต, ยํ ตํ ภควตา วุตฺตํ –

‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท, เอกาโร วตฺตตี รโถ;

อนีฆํ ปสฺส อายนฺตํ, ฉินฺนโสตํ อพนฺธน’’นฺติ.

‘‘อิมสฺส โข, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามี’’ติ . ‘‘ลาภา เต, คหปติ, สุลทฺธํ เต, คหปติ! ยสฺส เต คมฺภีเร พุทฺธวจเน ปฺาจกฺขุ กมตี’’ติ. ปฺจมํ.

๖. ทุติยกามภูสุตฺตํ

๓๔๘. เอกํ สมยํ อายสฺมา กามภู มจฺฉิกาสณฺเฑ วิหรติ อมฺพาฏกวเน. อถ โข จิตฺโต คหปติ เยนายสฺมา กามภู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข จิตฺโต คหปติ อายสฺมนฺตํ กามภุํ เอตทโวจ – ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต, สงฺขารา’’ติ? ‘‘ตโย โข, คหปติ, สงฺขารา – กายสงฺขาโร, วจีสงฺขาโร, จิตฺตสงฺขาโร’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ โข จิตฺโต คหปติ อายสฺมโต กามภุสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อายสฺมนฺตํ กามภุํ อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘กตโม ปน, ภนฺเต, กายสงฺขาโร, กตโม วจีสงฺขาโร, กตโม จิตฺตสงฺขาโร’’ติ? ‘‘อสฺสาสปสฺสาสา โข, คหปติ, กายสงฺขาโร, วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขาโร, สฺา จ เวทนา จ จิตฺตสงฺขาโร’’ติ.

‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ โข จิตฺโต คหปติ…เป… อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘กสฺมา ปน, ภนฺเต, อสฺสาสปสฺสาสา กายสงฺขาโร, กสฺมา วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขาโร, กสฺมา สฺา จ เวทนา จ จิตฺตสงฺขาโร’’ติ? ‘‘อสฺสาสปสฺสาสา โข, คหปติ, กายิกา. เอเต ธมฺมา กายปฺปฏิพทฺธา, ตสฺมา อสฺสาสปสฺสาสา กายสงฺขาโร. ปุพฺเพ โข, คหปติ, วิตกฺเกตฺวา วิจาเรตฺวา ปจฺฉา วาจํ ภินฺทติ, ตสฺมา วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขาโร. สฺา จ เวทนา จ เจตสิกา. เอเต ธมฺมา จิตฺตปฺปฏิพทฺธา, ตสฺมา สฺา จ เวทนา จ จิตฺตสงฺขาโร’’ติ.

สาธุ…เป… อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติ โหตี’’ติ? ‘‘น โข, คหปติ, สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชนฺตสฺส ภิกฺขุโน เอวํ โหติ – ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชิสฺส’นฺติ วา ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชามี’ติ วา ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน’ติ วา . อถ ขฺวสฺส ปุพฺเพว ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ โหติ ยํ ตํ ตถตฺตาย อุปเนตี’’ติ.

สาธุ …เป… อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชนฺตสฺส ปน, ภนฺเต , ภิกฺขุโน กตเม ธมฺมา ปมํ นิรุชฺฌนฺติ, ยทิ วา กายสงฺขาโร, ยทิ วา วจีสงฺขาโร, ยทิ วา จิตฺตสงฺขาโร’’ติ? ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชนฺตสฺส โข, คหปติ, ภิกฺขุโน วจีสงฺขาโร ปมํ นิรุชฺฌติ, ตโต กายสงฺขาโร, ตโต จิตฺตสงฺขาโร’’ติ.

สาธุ…เป… อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘ยฺวายํ, ภนฺเต, มโต กาลงฺกโต, โย จายํ ภิกฺขุ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน, อิเมสํ กึ นานากรณ’’นฺติ? ‘‘ยฺวายํ คหปติ, มโต กาลงฺกโต ตสฺส กายสงฺขาโร นิรุทฺโธ ปฏิปฺปสฺสทฺโธ, วจีสงฺขาโร นิรุทฺโธ ปฏิปฺปสฺสทฺโธ, จิตฺตสงฺขาโร นิรุทฺโธ ปฏิปฺปสฺสทฺโธ, อายุ ปริกฺขีโณ, อุสฺมา วูปสนฺตา, อินฺทฺริยานิ วิปริภินฺนานิ. โย จ ขฺวายํ, คหปติ, ภิกฺขุ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน, ตสฺสปิ กายสงฺขาโร นิรุทฺโธ ปฏิปฺปสฺสทฺโธ, วจีสงฺขาโร นิรุทฺโธ ปฏิปฺปสฺสทฺโธ, จิตฺตสงฺขาโร นิรุทฺโธ ปฏิปฺปสฺสทฺโธ, อายุ อปริกฺขีโณ, อุสฺมา อวูปสนฺตา, อินฺทฺริยานิ วิปฺปสนฺนานิ. ยฺวายํ, คหปติ, มโต กาลงฺกโต, โย จายํ ภิกฺขุ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน, อิทํ เนสํ นานากรณ’’นฺติ.

สาธุ…เป… อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺานํ โหตี’’ติ? ‘‘น โข, คหปติ, สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺหนฺตสฺส ภิกฺขุโน เอวํ โหติ – ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺหิสฺส’นฺติ วา ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺหามี’ติ วา ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺิโต’ติ วา. อถ ขฺวสฺส ปุพฺเพว ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ โหติ, ยํ ตํ ตถตฺตาย อุปเนตี’’ติ.

สาธุ , ภนฺเต…เป… อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺหนฺตสฺส ปน, ภนฺเต, ภิกฺขุโน กตเม ธมฺมา ปมํ อุปฺปชฺชนฺติ, ยทิ วา กายสงฺขาโร, ยทิ วา วจีสงฺขาโร, ยทิ วา จิตฺตสงฺขาโร’’ติ? ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺหนฺตสฺส, คหปติ, ภิกฺขุโน จิตฺตสงฺขาโร ปมํ อุปฺปชฺชติ, ตโต กายสงฺขาโร, ตโต วจีสงฺขาโร’’ติ.

สาธุ…เป… อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺิตํ ปน, ภนฺเต , ภิกฺขุํ กติ ผสฺสา ผุสนฺติ’’? ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺิตํ โข, คหปติ, ภิกฺขุํ ตโย ผสฺสา ผุสนฺติ – สุฺโต ผสฺโส, อนิมิตฺโต ผสฺโส, อปฺปณิหิโต ผสฺโส’’ติ.

สาธุ…เป… อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺิตสฺส ปน, ภนฺเต, ภิกฺขุโน กึนินฺนํ จิตฺตํ โหติ, กึโปณํ, กึปพฺภาร’’นฺติ? ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺิตสฺส โข, คหปติ, ภิกฺขุโน วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหติ วิเวกโปณํ วิเวกปพฺภาร’’นฺติ.

‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ โข จิตฺโต คหปติ อายสฺมโต กามภุสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อายสฺมนฺตํ กามภุํ อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา ปน, ภนฺเต, กติ ธมฺมา พหูปการา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข ตฺวํ, คหปติ, ยํ ปมํ ปุจฺฉิตพฺพํ ตํ ปุจฺฉสิ. อปิ จ ตฺยาหํ พฺยากริสฺสามิ. สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา โข, คหปติ, ทฺเว ธมฺมา พหูปการา – สมโถ จ วิปสฺสนา จา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. โคทตฺตสุตฺตํ

๓๔๙. เอกํ สมยํ อายสฺมา โคทตฺโต มจฺฉิกาสณฺเฑ วิหรติ อมฺพาฏกวเน. อถ โข จิตฺโต คหปติ เยนายสฺมา โคทตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ โคทตฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข จิตฺตํ คหปตึ อายสฺมา โคทตฺโต เอตทโวจ – ‘‘ยา จายํ, คหปติ, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ, ยา จ อากิฺจฺา เจโตวิมุตฺติ, ยา จ สุฺตา เจโตวิมุตฺติ, ยา จ อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติ, อิเม ธมฺมา นานตฺถา นานาพฺยฺชนา อุทาหุ เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จ. อตฺถิ ปน, ภนฺเต, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ.

‘‘กตโม จ, ภนฺเต, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จ? อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ [จตุตฺถึ (?)]. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน [อพฺยาปชฺเฌน (สี. สฺยา. กํ. ปี.), อพฺยาพชฺเฌน (?)] ผริตฺวา วิหรติ. กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, ภนฺเต, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ.

‘‘กตมา จ, ภนฺเต, อากิฺจฺา เจโตวิมุตฺติ? อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม, ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, ภนฺเต, อากิฺจฺา เจโตวิมุตฺติ.

‘‘กตมา จ, ภนฺเต, สุฺตา เจโตวิมุตฺติ? อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘สุฺมิทํ อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา’ติ. อยํ วุจฺจติ, ภนฺเต, สุฺตา เจโตวิมุตฺติ.

‘‘กตมา จ, ภนฺเต, อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติ? อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา อนิมิตฺตํ เจโตสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, ภนฺเต, อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติ. อยํ โข, ภนฺเต, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จ.

‘‘กตโม จ, ภนฺเต, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นานํ? ราโค, ภนฺเต, ปมาณกรโณ, โทโส ปมาณกรโณ, โมโห ปมาณกรโณ. เต ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวงฺกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. ยาวตา โข, ภนฺเต, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติโย, อกุปฺปา ตาสํ เจโตวิมุตฺติ อคฺคมกฺขายติ. สา โข ปน อกุปฺปา เจโตวิมุตฺติ สุฺา ราเคน, สุฺา โทเสน, สุฺา โมเหน. ราโค โข, ภนฺเต, กิฺจนํ, โทโส กิฺจนํ, โมโห กิฺจนํ. เต ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวงฺกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. ยาวตา โข , ภนฺเต, อากิฺจฺา เจโตวิมุตฺติโย, อกุปฺปา ตาสํ เจโตวิมุตฺติ อคฺคมกฺขายติ. สา โข ปน อกุปฺปา เจโตวิมุตฺติ สุฺา ราเคน, สุฺา โทเสน, สุฺา โมเหน. ราโค โข, ภนฺเต, นิมิตฺตกรโณ, โทโส นิมิตฺตกรโณ, โมโห นิมิตฺตกรโณ. เต ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวงฺกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. ยาวตา โข, ภนฺเต, อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติโย, อกุปฺปา ตาสํ เจโตวิมุตฺติ อคฺคมกฺขายติ. สา โข ปน อกุปฺปา เจโตวิมุตฺติ สุฺา ราเคน, สุฺา โทเสน, สุฺา โมเหน. อยํ โข, ภนฺเต, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ. ‘‘ลาภา เต, คหปติ, สุลทฺธํ เต, คหปติ! ยสฺส เต คมฺภีเร พุทฺธวจเน ปฺาจกฺขุ กมตี’’ติ. สตฺตมํ.

๘. นิคณฺนาฏปุตฺตสุตฺตํ

๓๕๐. เตน โข ปน สมเยน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต [นาตปุตฺโต (สี.)] มจฺฉิกาสณฺฑํ อนุปฺปตฺโต โหติ มหติยา นิคณฺปริสาย สทฺธึ. อสฺโสสิ โข จิตฺโต คหปติ – ‘‘นิคณฺโ กิร นาฏปุตฺโต มจฺฉิกาสณฺฑํ อนุปฺปตฺโต มหติยา นิคณฺปริสาย สทฺธิ’’นฺติ. อถ โข จิตฺโต คหปติ สมฺพหุเลหิ อุปาสเกหิ สทฺธึ เยน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา นิคณฺเน นาฏปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข จิตฺตํ คหปตึ นิคณฺโ นาฏปุตฺโต เอตทโวจ – ‘‘สทฺทหสิ ตฺวํ, คหปติ, สมณสฺส โคตมสฺส – อตฺถิ อวิตกฺโก อวิจาโร สมาธิ, อตฺถิ วิตกฺกวิจารานํ นิโรโธ’’ติ?

‘‘น ขฺวาหํ เอตฺถ, ภนฺเต, ภควโต สทฺธาย คจฺฉามิ. อตฺถิ อวิตกฺโก อวิจาโร สมาธิ, อตฺถิ วิตกฺกวิจารานํ นิโรโธ’’ติ. เอวํ วุตฺเต, นิคณฺโ นาฏปุตฺโต อุลฺโลเกตฺวา [สกํ ปริสํ อปโลเกตฺวา (สี. สฺยา. กํ.), โอโลเกตฺวา (สี. อฏฺ. สฺยา. อฏฺ.)] เอตทโวจ – ‘‘อิทํ ภวนฺโต ปสฺสนฺตุ, ยาว อุชุโก จายํ จิตฺโต คหปติ, ยาว อสโ จายํ จิตฺโต คหปติ, ยาว อมายาวี จายํ จิตฺโต คหปติ, วาตํ วา โส ชาเลน พาเธตพฺพํ มฺเยฺย, โย วิตกฺกวิจาเร นิโรเธตพฺพํ มฺเยฺย , สกมุฏฺินา วา โส คงฺคาย โสตํ อาวาเรตพฺพํ มฺเยฺย, โย วิตกฺกวิจาเร นิโรเธตพฺพํ มฺเยฺยา’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, ภนฺเต, กตมํ นุ โข ปณีตตรํ – าณํ วา สทฺธา วา’’ติ? ‘‘สทฺธาย โข, คหปติ, าณํเยว ปณีตตร’’นฺติ. ‘‘อหํ โข, ภนฺเต, ยาวเทว อากงฺขามิ, วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ . อหํ โข, ภนฺเต, ยาวเทว อากงฺขามิ, วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. อหํ โข, ภนฺเต, ยาวเทว อากงฺขามิ, ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. อหํ โข, ภนฺเต, ยาวเทว อากงฺขามิ, สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. น โส ขฺวาหํ, ภนฺเต, เอวํ ชานนฺโต เอวํ ปสฺสนฺโต กสฺส อฺสฺส สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา สทฺธาย คมิสฺสามิ? อตฺถิ อวิตกฺโก อวิจาโร สมาธิ, อตฺถิ วิตกฺกวิจารานํ นิโรโธ’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, นิคณฺโ นาฏปุตฺโต สกํ ปริสํ อปโลเกตฺวา เอตทโวจ – ‘‘อิทํ ภวนฺโต ปสฺสนฺตุ, ยาว อนุชุโก จายํ จิตฺโต คหปติ, ยาว สโ จายํ จิตฺโต คหปติ, ยาว มายาวี จายํ จิตฺโต คหปตี’’ติ.

‘‘อิทาเนว โข เต [อิทาเนว จ ปน (สฺยา. กํ. ก.)] มยํ, ภนฺเต, ภาสิตํ – ‘เอวํ อาชานาม อิทํ ภวนฺโต ปสฺสนฺตุ, ยาว อุชุโก จายํ จิตฺโต คหปติ, ยาว อสโ จายํ จิตฺโต คหปติ, ยาว อมายาวี จายํ จิตฺโต คหปตี’ติ. อิทาเนว จ ปน มยํ, ภนฺเต, ภาสิตํ – ‘เอวํ อาชานาม อิทํ ภวนฺโต ปสฺสนฺตุ, ยาว อนุชุโก จายํ จิตฺโต คหปติ, ยาว สโ จายํ จิตฺโต คหปติ, ยาว มายาวี จายํ จิตฺโต คหปตี’ติ. สเจ เต, ภนฺเต, ปุริมํ สจฺจํ, ปจฺฉิมํ เต มิจฺฉา. สเจ ปน เต, ภนฺเต, ปุริมํ มิจฺฉา, ปจฺฉิมํ เต สจฺจํ. อิเม โข ปน, ภนฺเต, ทส สหธมฺมิกา ปฺหา อาคจฺฉนฺติ. ยทา เนสํ อตฺถํ อาชาเนยฺยาสิ, อถ มํ ปฏิหเรยฺยาสิ สทฺธึ นิคณฺปริสาย. เอโก ปฺโห, เอโก อุทฺเทโส, เอกํ เวยฺยากรณํ. ทฺเว ปฺหา, ทฺเว อุทฺเทสา, ทฺเว เวยฺยากรณานิ. ตโย ปฺหา, ตโย อุทฺเทสา, ตีณิ เวยฺยากรณานิ. จตฺตาโร ปฺหา, จตฺตาโร อุทฺเทสา, จตฺตาริ เวยฺยากรณานิ. ปฺจ ปฺหา, ปฺจ อุทฺเทสา, ปฺจ เวยฺยากรณานิ. ฉ ปฺหา, ฉ อุทฺเทสา, ฉ เวยฺยากรณานิ. สตฺต ปฺหา, สตฺต อุทฺเทสา, สตฺต เวยฺยากรณานิ . อฏฺ ปฺหา, อฏฺ อุทฺเทสา, อฏฺ เวยฺยากรณานิ. นว ปฺหา, นว อุทฺเทสา, นว เวยฺยากรณานิ. ทส ปฺหา, ทส อุทฺเทสา, ทส เวยฺยากรณานี’’ติ. อถ โข จิตฺโต คหปติ นิคณฺํ นาฏปุตฺตํ อิเม ทส สหธมฺมิเก ปฺเห อาปุจฺฉิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามีติ. อฏฺมํ.

๙. อเจลกสฺสปสุตฺตํ

๓๕๑. เตน โข ปน สมเยน อเจโล กสฺสโป มจฺฉิกาสณฺฑํ อนุปฺปตฺโต โหติ จิตฺตสฺส คหปติโน ปุราณคิหิสหาโย. อสฺโสสิ โข จิตฺโต คหปติ – ‘‘อเจโล กิร กสฺสโป มจฺฉิกาสณฺฑํ อนุปฺปตฺโต อมฺหากํ ปุราณคิหิสหาโย’’ติ. อถ โข จิตฺโต คหปติ เยน อเจโล กสฺสโป เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อเจเลน กสฺสเปน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข จิตฺโต คหปติ อเจลํ กสฺสปํ เอตทโวจ – ‘‘กีวจิรํ ปพฺพชิตสฺส, ภนฺเต, กสฺสปา’’ติ? ‘‘ตึสมตฺตานิ โข เม, คหปติ, วสฺสานิ ปพฺพชิตสฺสา’’ติ. ‘‘อิเมหิ ปน เต, ภนฺเต, ตึสมตฺเตหิ วสฺเสหิ อตฺถิ โกจิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา [อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม (สฺยา. กํ.)] อลมริยาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติ? ‘‘อิเมหิ โข เม, คหปติ, ตึสมตฺเตหิ วสฺเสหิ ปพฺพชิตสฺส นตฺถิ โกจิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร, อฺตฺร นคฺเคยฺยา จ มุณฺเฑยฺยา จ ปาวฬนิปฺโผฏนาย จา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, จิตฺโต คหปติ อเจลํ กสฺสปํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! ธมฺมสฺส สฺวากฺขาตตา [สพฺพตฺถปิ เอวเมว ทิสฺสติ] ยตฺร หิ นาม ตึสมตฺเตหิ วสฺเสหิ น โกจิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต อภวิสฺส ผาสุวิหาโร, อฺตฺร นคฺเคยฺยา จ มุณฺเฑยฺยา จ ปาวฬนิปฺโผฏนาย จา’’ติ!

‘‘ตุยฺหํ ปน, คหปติ, กีวจิรํ อุปาสกตฺตํ อุปคตสฺสา’’ติ? ‘‘มยฺหมฺปิ โข ปน, ภนฺเต, ตึสมตฺตานิ วสฺสานิ อุปาสกตฺตํ อุปคตสฺสา’’ติ. ‘‘อิเมหิ ปน เต, คหปติ, ตึสมตฺเตหิ วสฺเสหิ อตฺถิ โกจิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติ? ‘‘คิหิโนปิ สิยา, ภนฺเต. อหฺหิ, ภนฺเต, ยาวเทว อากงฺขามิ, วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. อหฺหิ, ภนฺเต, ยาวเทว อากงฺขามิ, วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา …เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. อหฺหิ, ภนฺเต, ยาวเทว อากงฺขามิ, ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. อหฺหิ, ภนฺเต, ยาวเทว อากงฺขามิ, สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. สเจ โข ปนาหํ, ภนฺเต, ภควโต [ภควตา (สฺยา. กํ.)] ปมตรํ กาลํ กเรยฺยํ, อนจฺฉริยํ โข ปเนตํ ยํ มํ ภควา เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘นตฺถิ ตํ สํโยชนํ เยน สํโยชเนน สํยุตฺโต จิตฺโต คหปติ ปุน อิมํ โลกํ อาคจฺเฉยฺยา’’’ติ. เอวํ วุตฺเต, อเจโล กสฺสโป จิตฺตํ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ! ธมฺมสฺส สฺวากฺขาตตา, ยตฺร หิ นาม คิหี โอทาตวสโน [คิหี โอทาตวสนา (สี. ปี.)] เอวรูปํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยาณทสฺสนวิเสสํ อธิคมิสฺสติ [อธิคมิสฺสนฺติ (สี. ปี.)] ผาสุวิหารํ. ลเภยฺยาหํ, คหปติ , อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ.

อถ โข จิตฺโต คหปติ อเจลํ กสฺสปํ อาทาย เยน เถรา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, อเจโล กสฺสโป อมฺหากํ ปุราณคิหิสหาโย. อิมํ เถรา ปพฺพาเชนฺตุ อุปสมฺปาเทนฺตุ. อหมสฺส อุสฺสุกฺกํ กริสฺสามิ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติ. อลตฺถ โข อเจโล กสฺสโป อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํ. อจิรูปสมฺปนฺโน จ ปนายสฺมา กสฺสโป เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ อพฺภฺาสิ. อฺตโร จ ปนายสฺมา กสฺสโป อรหตํ อโหสีติ. นวมํ.

๑๐. คิลานทสฺสนสุตฺตํ

๓๕๒. เตน โข ปน สมเยน จิตฺโต คหปติ อาพาธิโก โหติ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน. อถ โข สมฺพหุลา อารามเทวตา วนเทวตา รุกฺขเทวตา โอสธิติณวนปฺปตีสุ อธิวตฺถา เทวตา สงฺคมฺม สมาคมฺม จิตฺตํ คหปตึ เอตทโวจุํ – ‘‘ปณิเธหิ, คหปติ, อนาคตมทฺธานํ ราชา อสฺสํ จกฺกวตฺตี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, จิตฺโต คหปติ ตา อารามเทวตา วนเทวตา รุกฺขเทวตา โอสธิติณวนปฺปตีสุ อธิวตฺถา เทวตา เอตทโวจ – ‘‘ตมฺปิ อนิจฺจํ, ตมฺปิ อทฺธุวํ, ตมฺปิ ปหาย คมนีย’’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, จิตฺตสฺส คหปติโน มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา จิตฺตํ คหปตึ เอตทโวจุํ – ‘‘สตึ, อยฺยปุตฺต, อุปฏฺเปหิ, มา วิปฺปลปี’’ติ. ‘‘กึ ตาหํ วทามิ ยํ มํ ตุมฺเห เอวํ วเทถ – ‘สตึ, อยฺยปุตฺต, อุปฏฺเปหิ, มา วิปฺปลปี’’’ติ? ‘‘เอวํ โข ตฺวํ, อยฺยปุตฺต, วเทสิ – ‘ตมฺปิ อนิจฺจํ, ตมฺปิ อทฺธุวํ, ตมฺปิ ปหาย คมนีย’’’นฺติ. ‘‘ตถา หิ ปน มํ อารามเทวตา วนเทวตา รุกฺขเทวตา โอสธิติณวนปฺปตีสุ อธิวตฺถา เทวตา เอวมาหํสุ – ‘ปณิเธหิ, คหปติ, อนาคตมทฺธานํ ราชา อสฺสํ จกฺกวตฺตี’ติ. ตาหํ เอวํ วทามิ – ‘ตมฺปิ อนิจฺจํ…เป… ตมฺปิ ปหาย คมนีย’’’นฺติ. ‘‘กึ ปน ตา, อยฺยปุตฺต, อารามเทวตา วนเทวตา รุกฺขเทวตา โอสธิติณวนปฺปตีสุ อธิวตฺถา เทวตา อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา เอวมาหํสุ – ‘ปณิเธหิ, คหปติ, อนาคตมทฺธานํ ราชา อสฺสํ จกฺกวตฺตี’’’ติ? ‘‘ตาสํ โข อารามเทวตานํ วนเทวตานํ รุกฺขเทวตานํ โอสธิติณวนปฺปตีสุ อธิวตฺถานํ เทวตานํ เอวํ โหติ – ‘อยํ โข จิตฺโต คหปติ, สีลวา [สีลวนฺโต (ก.)] กลฺยาณธมฺโม. สเจ ปณิทหิสฺสติ – อนาคตมทฺธานํ ราชา อสฺสํ จกฺกวตฺตี’ติ, ‘ตสฺส โข อยํ อิชฺฌิสฺสติ, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา ธมฺมิโก ธมฺมิกํ ผลํ อนุปสฺสตี’ติ. อิมํ โข ตา อารามเทวตา วนเทวตา รุกฺขเทวตา โอสธิติณวนปฺปตีสุ อธิวตฺถา เทวตา อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา เอวมาหํสุ – ‘ปณิเธหิ, คหปติ, อนาคตมทฺธานํ ราชา อสฺสํ จกฺกวตฺตี’ติ. ตาหํ เอวํ วทามิ – ‘ตมฺปิ อนิจฺจํ, ตมฺปิ อทฺธุวํ, ตมฺปิ ปหาย คมนีย’’’นฺติ.

‘‘เตน หิ, อยฺยปุตฺต, อมฺเหปิ โอวทาหี’’ติ. ‘‘ตสฺมา หิ โว เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา ภวิสฺสาม – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา ภวิสฺสาม – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ. สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา ภวิสฺสาม – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, สามีจิปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ. ยํ โข ปน กิฺจิ กุเล เทยฺยธมฺมํ สพฺพํ ตํ อปฺปฏิวิภตฺตํ ภวิสฺสติ สีลวนฺเตหิ กลฺยาณธมฺเมหีติ เอวฺหิ โว สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. อถ โข จิตฺโต คหปติ มิตฺตามจฺเจ าติสาโลหิเต พุทฺเธ จ ธมฺเม จ สงฺเฆ จ จาเค จ สมาทเปตฺวา กาลมกาสีติ. ทสมํ.

จิตฺตสํยุตฺตํ สมตฺตํ.

ตสฺสุทฺทานํ –

สํโยชนํ ทฺเว อิสิทตฺตา, มหโก กามภูปิ จ;

โคทตฺโต จ นิคณฺโ จ, อเจเลน คิลานทสฺสนนฺติ.