📜
๘. คามณิสํยุตฺตํ
๑. จณฺฑสุตฺตวณฺณนา
๓๕๓. ‘‘เยน ¶ ¶ มิเธกจฺโจ จณฺโฑ จณฺโฑตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ เอวํ ปฺหปุจฺฉเนน ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ จณฺโฑติ คหิตนาโม. ปากฏํ กโรตีติ ทสฺเสติ อตฺตโน จณฺฑภาวํ.
จณฺฑสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ตาลปุฏสุตฺตวณฺณนา
๓๕๔. วาโลติ วุจฺจติ ตาโล, ตสฺส ตาลปุฏํ นาม. ยถา อามลกีผลสมานกํ, โส ปน ตาลสทิสมุขวณฺณตฺตา ตาลปุโฏติ เอวํนามโก. เตนาห ‘‘ตสฺส กิรา’’ติอาทิ. อภินีหารสมฺปนฺโน อเนเกสุ กปฺเปสุ สมฺภตสาวกโพธิสมฺภาโร. ตถา เหส อสีติยา มหาสาวเกสุ อพฺภนฺตโร ชาโต. สหสฺสํ เทนฺติ นจฺจํ ปสฺสิตุกามา. สมชฺชเวสนฺติ เนปจฺจเวสํ. กีฬํ กตฺวาติ นจฺจกีฬิตํ กีฬิตฺวา, นจฺจิตฺวาติ อตฺโถ.
ปุพฺเพ ตถาปวตฺตวุตฺตนฺตทสฺสเน สจฺเจน, ตพฺพิปริยาเย อลิเกน. ราคปจฺจยาติ ราคุปฺปตฺติยา การณภูตา. มุขโต…เป… ทสฺสนาทโยติ อาทิ-สทฺเทน มุขโต อคฺคิชาลนิกฺขมทสฺสนาทิเก สงฺคณฺหาติ. อฺเ จ…เป… อภินยาติ กามสฺสาทสํยุตฺตานํ สิงฺคารหสฺสอพฺภุตรสานฺเจว ‘‘อฺเ จา’’ติ วุตฺตสนฺตพีภจฺฉรสานฺจ ทสฺสนกา อภินยา. โทสปจฺจยาติ โทสุปฺปตฺติยา การณภูตา. หตฺถปาทจฺเฉทาทีติ อาทิ-สทฺเทน สงฺคหิตานํ รุทฺทวีรภยานกรสานํ ทสฺสนกา อภินยา. โมหปจฺจยาติ โมหุปฺปตฺติยา การณภูตา. เอวมาทโยติ อาทิ-สทฺเทน สงฺคหิตานํ กรุณาสนฺตภยานกรสานํ ทสฺสนกา อภินยา. เต หิ รเส สนฺธาย ปาฬิยํ ‘‘เย ธมฺมา รชนียา, เย ธมฺมา โทสนียา, เย ธมฺมา โมหนียา’’ติ จ วุตฺตํ.
นฏเวสํ ¶ คเหตฺวาว ปจฺจนฺติ กมฺมสริกฺขวิปากวเสน. ตํ สนฺธายาติ ตํ ยถาวุตฺตํ นิรเย ปจฺจนํ สนฺธาย. เอตํ ‘‘ปหาโส นาม นิรโย, ตตฺถ อุปปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. ยถา โลเก อตฺถวิเสสวเสน สกมฺมกานิปิ ปทานิ อกมฺมกานิ ภวนฺติ ‘‘วิมุจฺจติ ปุริโส’’ติ, เอวํ อิธ อตฺถวิเสสวเสน อกมฺมกํ สกมฺมกํ กตฺวา วุตฺตํ – ‘‘นาหํ, ภนฺเต, เอตํ โรทามี’’ติ. โก ¶ ปน โส อตฺถวิเสโส? อสหนํ อกฺขมนํ, ตสฺมา น โรทามิ น สหามิ, น อกฺขมามีติ อตฺโถ. โรทนการณฺหิ อสหนฺโต เตน อภิภูโต โรทติ. ตเมวสฺส สกมฺมกภาวสฺส การณภูตํ อตฺถวิเสสํ ‘‘น อสฺสุวิโมจนมตฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. มตํ วา, อมฺม, โรทนฺตีติ เอตฺถาปิ มตํ โรทนฺติ, ตสฺส มรณํ น สหนฺติ, นกฺขมนฺตีติ ปากโฏยมตฺโถติ.
ตาลปุฏสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓-๕. โยธาชีวสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๕๕-๓๕๗. ยุชฺฌนํ โยโธ, โส อาชีโว เอตสฺสาติ โยธาชีโว. เตนาห – ‘‘ยุทฺเธน ชีวิกํ กปฺปนโก’’ติ, อุสฺสาหํ วายามํ กโรตีติ ยุชฺฌนวเสน อุสฺสาหํ วายามํ กโรติ. ปริยาปาเทนฺตีติ มรณปริยนฺติกํ อาปทํ ปาเปนฺติ. เตนาห ‘‘มรณํ ปฏิปชฺชาเปนฺตี’’ติ. ทุฏฺุ ปิตนฺติ ทุฏฺากาเรน อตฺตโน ปเรสฺจ อตฺถาวหภาวํ น คตํ ปฏิปนฺนํ. ปเรหิ สงฺคาเม ชิตา หตา เอตฺถ ชายนฺตีติ ปรชิโต นาม นิรโย. อสิธนุคทายสงฺกุจกฺกานิ ปฺจาวุธานิ. ตํ สนฺธายาติ ตํ โยธาชีวํ ปุคฺคลํ สนฺธาย. เอตํ ‘‘โย โส’’ติอาทิ วุตฺตํ. จตุตฺถปฺจเมสูติ หตฺถาโรหอสฺสาโรหสุตฺเตสุ. เอเสว นโยติ เอโส ตติเย วุตฺโต เอว อตฺถโต วิเสสาภาวโต.
โยธาชีวสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อสิพนฺธกปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๓๕๘. ปจฺฉาภูมิวาสิโนติ ¶ อปรเทสวาสิโน. อุทกสุทฺธิกภาวชานนตฺถายาติ อตฺตโน อุทกสุทฺธิกภาวํ ชานนตฺถฺเจว โลกสฺส จ อุทเกน สุทฺธิ โหตีติ อิมสฺส อตฺถสฺส ชานนตฺถฺจ. อุปริ ยาเปนฺตีติ อุปริ พฺรหฺมโลกํ ยาเปนฺติ. สมฺมา าเปนฺตีติ สมฺมา อุชุกํเยว สคฺคํ โลกํ คเมนฺติ. เตนาห – ‘‘สคฺคํ นาม โอกฺกาเมนฺตี’’ติ, อวกฺกาเมนฺติ โอคาหาเปนฺตีติ อตฺโถ. อนุปริคจฺเฉยฺยาติ อนุปริโต คจฺเฉยฺย.
อสิพนฺธกปุตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. เขตฺตูปมสุตฺตวณฺณนา
๓๕๙. ถทฺธนฺติ กถินํ ลูขํ. อูสรนฺติ อูสชาตํ. จตูหิปิ โอเฆหิ อนภิภวนียตาย ¶ อหํ ทีโป. สพฺพปริสฺสเยหิ อนภิภวนียตาย อหํ เลโณ. สพฺพทุกฺขปริตฺตาสนโต ตายนฏฺเน อหํ ตาณํ. สพฺพภยหึสนโต อหํ สรณนฺติ โยเชตพฺพํ.
อุทกมณิโกติ มหนฺตํ อุทกภาชนํ. พหิ วิสฺสนฺทนวเสน อุทกํ น หรตีติ อหารี, ปริโต น ปคฺฆรตีติ อปริหารี. สกฺกจฺจเมว เทเสนฺติ สทฺธมฺมคารวสฺส สพฺพสตฺเตสุ มหากรุณาย จ พุทฺธานํ สมานรสตฺตา. จตสฺโส ปน ปริสา สตฺถุคารเวน อตฺตโน จ สทฺธาสมฺปนฺนตาย สทฺทหิตฺวา โอกปฺเปตฺวา สุณนฺติ, ตสฺมา ตา เทสนาผเลน ยุชฺชนฺติ. กิจฺจสิทฺธิยา สตฺถุ เทสนา ตตฺถ สกฺกจฺจเทสนา นาม ชาตา.
เขตฺตูปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สงฺขธมสุตฺตวณฺณนา
๓๖๐. ‘‘โย โกจิ ปุริโส ปาณาติปาตี มุสาวาที, สพฺโพ โส อาปายิโก’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘ยํพหุลํ ยํพหุลํ กโรติ, เตน ¶ ทุคฺคตึ คจฺฉตี’’ติ วทนฺโต อตฺตนาว อตฺตโน วาทํ ภินฺทติ. เอวํ สนฺเตติ ยทิ พหุโส กเตน ปาปกมฺเมน อาปายิโก, ‘‘โย โกจิ ปาณมติปาเตตี’’ติอาทิวจนํ มิจฺฉาติ. จตฺตาริ ปทานีติ ‘‘โย โกจิ ปาณมติปาเตตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตา จตฺตาโร อตฺถโกฏฺาสา. ทิฏฺิยา ปจฺจยา โหนฺติ ‘‘อตฺถิ โข ปน มยา’’ติอาทินา อโยนิโส อุมฺมุชฺชนฺตสฺส. พลสมฺปนฺโนติ สมตฺโถ. สงฺขธมโกติ สงฺขสฺส ธมนกิจฺเจ เฉโก. อทุกฺเขนาติ สุเขน. อุปจาโรปิ อปฺปนาปิ วฏฺฏติ อุภินฺนํ สามฺวจนภาวโต. อปฺปมาณกตภาโว ลพฺภเตว. ตถา หิ ตํ กิเลสานํ วิกฺขมฺภนสมตฺถตาย ทีฆสนฺตานตาย วิปุลผลตาย จ ‘‘มหคฺคต’’นฺติ วุจฺจติ.
น โอหียตีติ ยสฺมึ สนฺตาเน กามาวจรกมฺมํ, มหคฺคตกมฺมฺจ กตูปจิตํ วิปากทาเน ลทฺธาวสรํ หุตฺวา ิตํ, เตสุ กามาวจรกมฺมํ อิตรํ นีหริตฺวา สยํ ตตฺถ โอหียิตฺวา อตฺตโน วิปากํ ทาตุํ น สกฺโกติ, มหคฺคตกมฺมเมว ปน อิตรํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากํ ทาตุํ สกฺโกติ ครุภาวโต. เตนาห ‘‘ตํ กามาวจรกมฺม’’นฺติอาทิ. กิเลสวเสนาติ ปาปกมฺมสฺส มูลภูตกิเลสวเสน. ปาณาติปาตาทโย หิ โทสโมหโลภาทิมูลกิเลสสมุฏฺานา. กิเลสวเสนาติ วา กมฺมกิเลสวเสน. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปาณาติปาโต โข, คหปติปุตฺต, กมฺมกิเลโส’’ติอาทิ (ที. นิ. ๓.๒๔๕). ยถานุสนฺธินาว คตนฺติ ยถานุสนฺธิสงฺขาตอนุสนฺธินา ¶ โอสานํ คตํ สํกิเลสสมฺมุเขน อุฏฺิตาย โวทานธมฺมวเสน นิฏฺาปิตตฺตา.
สงฺขธมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. กุลสุตฺตวณฺณนา
๓๖๑. เอวํ ปวตฺตอีหิติกาติ เอวํ ทฺวิธา ปวตฺตอีหิติกา. ทฺวีหิติกา ทุกฺกรชีวิกปโยคา. สลากมตฺตํ วุตฺตํ เอตฺถาติ สลากา วุตฺตา, ปุริมปเท อุตฺตรปทโลโป. อุภโตโกฏิกนฺติ ยทิ ‘‘กุลานุทยํ น วณฺเณมี’’ติ วทติ, ‘‘ภูตา นิกฺกรุณา สมณ ตุมฺเห’’ติ วาทํ อาโรเปหิ. อถ ¶ สพฺพทาปิ ‘‘กุลานุทยํ วณฺเณมี’’ติ วทติ. เอวํ สนฺเต ‘‘กสฺมา เอวํ ทุพฺภิกฺเข กาเล มหติยา ปริสาย ปริวุโต ชนปทจาริกํ จรนฺตา กุลูปจฺเฉทาย ปฏิปชฺชถา’’ติ เอวํ อุภโตโกฏิกํ วาทํ อาโรเปหีติ คามณึ อุยฺโยเชสิ.
ทฺเว อนฺเตติ อุโภ โกฏิโย. พหิ นีหริตุนฺติ น วณฺเณมิ วณฺเณมีติ ทฺเว อนฺเต โมเจนฺโต ตํ ปุจฺฉิตมตฺถํ พหิ นีหรติ นาม. ตตฺถ โทสํ ทตฺวา โจเทนฺโต ตํ อปุจฺฉํ กโรนฺโต คิลิตฺวา วิย อนฺโต ปเวเสติ นาม.
อิโต โส คามณีติอาทิ อตฺตโน ภิกฺขูนํ อฺเสฺจ อตฺถกามานํ ภิกฺขปฺปทาเนน อนิฏฺปฺปตฺติอภาวทสฺสนตฺถํ อารทฺธํ. ทาเนน สมฺภูตานีติ ทานมเยน ปฺุกิริยวตฺถุนา สมฺมเทว ภูตึ วฑฺฒึ ปตฺตานิ. สจฺเจน อริยโวหาเรน สมฺมเทว ภูตานิ อุปฺปนฺนานิ สจฺจสมฺภูตานีติ อาห ‘‘สจฺจํ นาม สจฺจวาทิตา’’ติ. เสสสีลนฺติ อฏฺวิธอริยโวหารโต อฺสีลํ. นิหิตนฺติ ตสฺมึ กุเล ปุพฺพปุริเสหิ นิธานภาเวน นิหิตํ. ทุปฺปยุตฺตาติ กสิวาณิชฺชาทิวเสน ทุฏฺุ ปยุตฺตา กมฺมนฺตา. วิปชฺชนฺตีติ นสฺสนฺติ. กุลงฺคาโรติ กุลสฺส องฺคารสทิโส วินาสกปุคฺคโล. อนิจฺจตาติ มรณํ. ตสฺมึ กุเล ปธานปุริสานํ โภคานํ วา สพฺพโส วินาโส. เตนาห ‘‘หุตฺวา อภาโว’’ติอาทิ.
กุลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. มณิจูฬกสุตฺตวณฺณนา
๓๖๒. ตํ ¶ ปริสนฺติ ตํ ราชนฺเตปุเร นิสินฺนํ ราชปริสํ. นยคฺคาเหติ กุโตจิปิ อสุตฺวา เกวลํ อตฺตโน เอว มติยา นยคฺคหเณ ตฺวา.
กาเรตุํ วฏฺฏติ สติ สมฺภเว ปฏิสงฺขารสฺส, เสนาสนวินาโส น อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพติ อธิปฺปาโย. อตฺตโน เอตฺถ กิจฺจาวสาเน ยํ คิหีนํเยว สนฺตกํ ตาวกาลิกํ, ตํ คิหิวิกตนฺติ อาห ‘‘คิหิวิกตํ กตฺวา’’ติ. น วทามิ ปพฺพชฺชิตาสารุปฺปโต.
มณิจูฬกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ภทฺรกสุตฺตวณฺณนา
๓๖๓. เอวํนามเกติ ¶ มลฺลา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา, เนสํ นิวาสตาย ‘‘มลฺลา’’อิจฺเจว พหุวจนวเสน ลทฺธนามตฺตา เอวํนามเก ชนปเท. นตฺถิ เอตสฺส ปตฺติยา กาลนฺตรสฺิโต กาโลติ อกาโล, โส เอว อกาลิโก. เตนาห – ‘‘กาลํ อนติกฺกมิตฺวา ปตฺเตนา’’ติ. โส ปน ‘‘ยํกิฺจิ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชมานํ อุปฺปชฺชติ, สพฺพํ ตํ ฉนฺทมูลก’’นฺติ เอวํ วุตฺโต ทุกฺขสฺส ฉนฺทมูลภาโว, เอวํ ฉนฺทมูลกสฺส ทุกฺขสฺส กถิตตฺตา ‘‘อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏทุกฺขํ กถิต’’นฺติ วุตฺตํ.
ภทฺรกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ราสิยสุตฺตวณฺณนา
๓๖๔. ราสึ กตฺวา มารปาสวเสน, ตตฺราปิ อนฺตรเภเทน วิภชิตฺวา ปุจฺฉิตพฺพปฺเห เอกโต ราสึ กตฺวา. ตปนํ อตฺตปริตาปนํ ตโป, โส เอตสฺส อตฺถีติ ตปสฺสี, ตํ ตปสฺสึ. โส ปน ตํ ตปํ นิสฺสาย ิโต นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ตปนิสฺสิตก’’นฺติ. โส ปน อเนกาการเภเทน ลูขํ ผรุสํ ชีวนสีลตฺตา ลูขชีวี นาม. เตนาห ‘‘ลูขชีวิก’’นฺติ. มชฺฌิมาย ปฏิปตฺติยา อุปฺปถภาเวน อวนิยา คนฺธพฺพาติ อนฺตา, ตโต เอว ลามกตฺตา อนฺตา. ลามกมฺปิ ‘‘อนฺโต’’ติ วุจฺจติ ‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกานํ (อิติวุ. ๙๑; สํ. นิ. ๓.๘๐), เอโก อนฺโต’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑๕; ๓.๙๐). อฏฺกถายํ ปน อฺมฺอาธารภาวํ อุรีกตฺวา ‘‘โกฏฺาสา’’ติ วุตฺตํ. หีโน คาโมติ ปาฬิ. คาม-สทฺโท ¶ หีนปริยาโยติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘คามฺโม’’ติ. คาเม ภโวติ คามฺโม. คาม-สทฺโท เจตฺถ คามวาสิวิสโย ‘‘คาโม อาคโต’’ติอาทีสุ วิย. อฏฺกถายํ ปน ‘‘คามวาสีนํ ธมฺโม’’ติ วุตฺตํ, เตสํ จาริตฺตนฺติ อตฺโถ. อตฺต-สทฺโท อิธ สรีรปริยาโย ‘‘อตฺตนฺตโป’’ติอาทีสุ วิยาติ อาห ‘‘สรีรทุกฺขกรณนฺติ อตฺโถ’’ติ.
เอตฺถาติ ¶ เอตสฺมึ ตปนิสฺสิตครหิตพฺพปเท กสฺมา อนฺตทฺวยมชฺฌิมปฏิปทาคหณํ? อตฺตกิลมถานุโยโค ตาว คยฺหตุ อิทมตฺถิตายาติ อธิปฺปาโย. กามโภคีตปนิสฺสิตกนิชฺชรวตฺถูนํ ทสฺสเน ยถาธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส วิภชิตฺวา กถนํ สมฺภวตีติ เต ทสฺเสตฺวา อธิปฺเปตตฺโถ กถิโต.
ตมตฺถนฺติ โย ‘‘กามโภคีตปนิสฺสิตเกสุ ครหิตพฺเพเยว ครหติ, ปสํสิตพฺเพเยว จ ปสํสตี’’ติ วุตฺโต อตฺโถ, ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต. สาหสิกกมฺเมนาติ อยุตฺเตน กมฺเมน. ธมฺเมน จ อธมฺเมน จาติ ธมฺมิเกน อธมฺมิเกน จ. อโยนิโส ปวตฺตํ พาหิรกํ สนฺธาย โจทโก ‘‘กถ’’นฺติอาทิมาห. อิตโร นยิทํ ตาทิสํ อตฺตปริตาปนํ อธิปฺเปตํ, อถ โข โยนิโส ปวตฺตํ สาสนิกเมวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘จตุรงฺควีริยวเสน จา’’ติ อาห. ตตฺถ ‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตู’’ติอาทินา (ม. นิ. ๒.๑๘๔; สํ. นิ. ๒.๒๒.๒๓๗; อ. นิ. ๒.๕) นเยน วุตฺตา สรีเรนิรเปกฺขวิปสฺสนาย อุสฺสุกฺกาปนวเสน ปวตฺตา วีริยภาวนา ‘‘จตุรงฺควีริยวเสนา’’ติ วุตฺตา. ตถา อพฺโภกาสิกเนสชฺชิกตปาทินิสฺสิตาว กิเลสนิมฺมถนโยคฺยา วีริยภาวนา ‘‘ธุตงฺควเสน จา’’ติ วุตฺตาติ. อริยมคฺเคน นิสฺเสสกิเลสานํ ปชหนา นิชฺชรา. สา จ อตฺตปจฺจกฺขตาย สนฺทิฏฺิกา ติณฺณํ มูลกิเลสานํ ปชหเนน ‘‘ติสฺโส’’ติ จ วุตฺตา. เตนาห ‘‘เอโกปี’’ติอาทิ.
ราสิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. ปาฏลิยสุตฺตวณฺณนา
๓๖๕. ‘‘มายฺจาหํ ปชานามี’’ติ วจนํ กามํ เตสํ มายาวีภาวทสฺสนปรํ, ภควโต ปน มายาสาเยฺยาทิกสฺส สพฺพสฺส ปาปธมฺมสฺส โพธิมูเล เอว เสตุฆาโต, ตสฺมา สพฺพโส ปหีนมาโย, สพฺพฺุตาย มายํ อฺเ จ เยฺเย สพฺพโส ชานาติ. เตน วุตฺตํ ‘‘มายฺจาหํ, คามณิ, ปชานามี’’ติอาทิ. มายฺจ ปชานามีติ น เกวลมหํ มายํ เอว ชานามิ, อถ โข อฺมฺปิ อิทฺจิทฺจ ชานามีติ.
อิตฺถิกาเมหีติ ¶ ¶ อิตฺถีหิ เจว ตทฺกาเมหิ จ. เอกสฺมึ าเนติ เอกสฺมึ ปเทเส. เอเกกสฺเสว อาคนฺตุกสฺส คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา. สตฺติอนุรูเปนาติ วิภวสตฺติอนุรูเปน. พลานุรูเปนาติ ปริวารพลานุรูเปน. สตฺติอนุรูเปนาติ วา สทฺธาสตฺติอนุรูเปน. พลานุรูเปนาติ วิภวพลานุรูเปน. ธมฺเมสุ สมาธิ ทสกุสลธมฺเมสุ สมาธานํ. อคฺคหิตจิตฺตตา ปริยุฏฺการิตา. เตน โลกิยสีลวิสุทฺธิ ทิฏฺิวิสุทฺธิ จ วุตฺตา. ตถา จาห – ‘‘โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ, สีลฺจ สุวิสุทฺธํ ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙). ตตฺถ ปติฏฺิตสฺส อุปริ กตฺตพฺพํ ทสฺเสตุํ ‘‘ธมฺมสมาธิสฺมึ ิโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. อยํ ปฏิปทาติ ตสฺส กมฺมผลวาทิโน สตฺถุ วจนํ สพฺเพสฺจ อยํ มยฺหํ สีลสํวรพฺรหฺมวิหารภาวนาสงฺขาตาปฏิปทา อนปราธกตาย เอว สํวตฺตติ. ชยคฺคาโหติ อุภยถาปิ มยฺหํ กาจิ ชานิ นตฺถิ.
ปฺจ ธมฺมา ธมฺมสมาธิ นาม, วิปสฺสนามคฺคผลธมฺมมตฺตํ วา. ตติยวิกปฺเป สีลาทิวิสุทฺธิยา สทฺธึ พฺรหฺมวิหารา ยถาวุตฺตติวิธธมฺมาวหตฺตา เอว ธมฺมสมาธิ นาม. ปูเรนฺตสฺส อุปฺปนฺนา จิตฺเตกคฺคตาติ วุตฺตขณิกจิตฺเตกคฺคตา. สาปิ จิตฺตสฺส สมาธานโต ‘‘จิตฺตสมาธี’’ติ วุตฺตา, ตสฺส ปฏิปกฺขํ วิกฺขมฺภนฺตี สมุจฺฉินฺทนฺตี จ หุตฺวา ปวตฺตา ยถาวุตฺตสมาธิ เอว วิเสเสน จิตฺตสมาธิ นาม.
ปาฏลิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
คามณิสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.