📜

๑๐. อพฺยากตสํยุตฺตํ

๑. เขมาสุตฺตวณฺณนา

๔๑๐. พิมฺพิสารสฺสอุปาสิกาติ พิมฺพิสารสฺส โอโรธภูตา อุปาสิกา. ปณฺฑิจฺจํ สิกฺขิตภาเวน. เวยฺยตฺติยํ วิสารทภาเวน. วิสารทา นาม ติเหตุกปฏิสนฺธิสิทฺธสาภาวิกปฺา, ตาย สมนฺนาคตา.

อจฺฉิทฺทกคณนาย กุสโลติ นวนฺตคณนาย กุสโล. องฺคุลิมุทฺทาย คณนาย กุสโลติ องฺคุลิกาย เอว คณนาย กุสโล เสยฺยถาปิ ปาทสิกา. ปิณฺฑคณนายาติ สงฺกลนปฏุปฺปนฺนการิโน ปิณฺฑวเสน คณนา. ตถาคโตติ ขีณาสโว, ตถาคตํ สนฺธาย ปุจฺฉตีติ ขีณาสโวติ จสฺส อรหตฺตผลวสิภาวิตขนฺเธ อุปาทาย อยํ ปฺตฺติ โหติ. เตสุ ขนฺเธสุ สติ ขีณาสวา สตฺตสงฺขาตา โหนฺตีติ โวหาเรน ปฺเปตุํ สกฺกา ภเวยฺย, อสนฺเตสุ น สกฺกา, ตสฺมา ปรํ มรณาติ วุตฺตตฺตา เตสํ อภาวา ‘‘อพฺยากตเมต’’นฺติ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ เตสํ อภาวโต ‘‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ ปุฏฺาย ‘‘อามา’’ติ ปฏิชานิตพฺพา สิยา, ตํ ปน สตฺตสงฺขาตสฺส ปุจฺฉิตตฺตา น ปฏิฺาตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เยน รูเปนาติ สตฺตตถาคเต วุตฺตรูปํ สพฺพฺุตถาคเต ปฏิกฺขิปิตุํ ‘‘ตํ รูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ยํ อุปาทายาติ ยํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย. ตทภาเวนาติ ตสฺส ขนฺธปฺจกสฺส อภาเวน. ตสฺสา ปฺตฺติยาติ สตฺตปฺตฺติยา อภาวํ. นิรุทฺธํ น นิทสฺเสติ.

เขมาย เถริยา วุตฺตํ ปมํ สุตฺตํ ภควโต เสฏฺตฺถทีปนโต อคฺคปทาวจรํว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อคฺคปทสฺมิ’’นฺติ.

เขมาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อนุราธสุตฺตวณฺณนา

๔๑๑. อิธ สฬายตนวคฺเค สงฺคายนวเสน สงฺคีติกาเรหิ วุตฺตํ.

๓-๘. ปมสาริปุตฺตโกฏฺิกสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๑๒-๔๑๗. รูปมตฺตนฺติ เอตฺถ มตฺต-สทฺโท วิเสสนิวตฺติอตฺโถ. โก ปน โส วิเสโสติ? โย พาหิรปริกปฺปิโต อิธ ตถาคโตติ วุจฺจมาโน อตฺตา. อนุปลพฺภิยสภาโวติ อนุปลพฺภิยตฺตา.

ปมสาริปุตฺตโกฏฺิกสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. กุตูหลสาลาสุตฺตวณฺณนา

๔๑๘. นานาวิธนฺติ ตํตํทิฏฺิวาทปฏิสํยุตฺตํ อฺมฺปิ วา นานาวิธํ ติรจฺฉานกถํ. พหูนํ กุตูหลุปฺปตฺติฏฺานโตติ โยชนา. ยาว อาภสฺสรพฺรหฺมโลกา คจฺฉตีติ อคฺคินา กปฺปวุฏฺานกาเล คจฺฉติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิมฺจ กายนฺติ อิมํ รูปกายํ. จุติจิตฺเตน นิกฺขิปตีติ จุติจิตฺเตน ภิชฺชมาเนน นิกฺขิปติ. จุติจิตฺตสฺส หิ โอรํ สตฺตรสมสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนํ กมฺมชรูปํ จุติจิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌติ, ตโต ปรํ กมฺมชรูปํ น อุปฺปชฺชติ. ยทิ อุปฺปชฺเชยฺย, มรณํ น สิยา, จุติจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปติ, อาหารชสฺส จ อสมฺภโว เอว, อุตุชํ ปน วตฺตเตว. ยสฺมา ปฏิสนฺธิกฺขเณ สตฺโต อฺตรณาย อุปปชฺชติ นาม, จุติกฺขเณ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อลทฺธํ อฺตรณาย, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘จุติกฺขเณ…เป… โหตี’’ติ.

กุตูหลสาลาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา

๔๑๙. เตสํ ลทฺธิยาติ เตสํ สสฺสตวาทานํ ลทฺธิยา สทฺธึ เอตํ ‘‘อตฺถตฺตา’’ติ วจนํ เอกํ อภวิสฺส. ตโต เอว อนุโลมํ ตํ นาภวิสฺส าณสฺสาติ อสารํ เอตนฺติ อธิปฺปาโย. อปิ นุ เมตสฺสาติ เม เอตสฺส อนตฺตาติ วิปสฺสนาาณสฺส อนุโลมํ อปิ นุ อภวิสฺส, วิโลมกเมว ตสฺส สิยาติ อตฺโถ.

อานนฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. สภิยกจฺจานสุตฺตวณฺณนา

๔๒๐. ยสฺสป’สฺสาติ ปาสฺส อยํ ปิณฺฑตฺโถ ‘‘อาวุโส’’ติอาทิ. ตตฺถายํ สมฺพนฺโธ – อาวุโส, ยสฺสปิ ปุคฺคลสฺส ตีณิ วสฺสานิ วุฏฺโ, เอตฺตเกน กาเลน ‘‘เหตุมฺหิ สติ รูปีติอาทิปฺาปนา โหติ, อสติ น โหตี’’ติ เอตฺตกํ พฺยากรณํ ภเวยฺย, ตสฺส ปุคฺคลสฺส เอตฺตกเมว พหุ, โก ปน วาโท อติกฺกนฺเต! อิโต อติกฺกนฺเต ธมฺมเทสนานเย วาโทเยว วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ เถรสฺส ปฺหพฺยากรณํ สุตฺวา ปริพฺพาชโก ปีติโสมนสฺสํ ปเวเทสิ.

สภิยกจฺจานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

อพฺยากตสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

สฬายตนวคฺควณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.