📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
สํยุตฺตนิกาเย
มหาวคฺค-อฏฺกถา
๑. มคฺคสํยุตฺตํ
๑. อวิชฺชาวคฺโค
๑-๒. อวิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา
๑-๒. มหาวคฺคสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม ปุพฺพงฺคมาติ สหชาตวเสน จ อุปนิสฺสยวเสน จาติ ทฺวีหากาเรหิ ปุพฺพงฺคมา. สมาปตฺติยาติ สมาปชฺชนาย สภาวปฏิลาภาย, อุปฺปตฺติยาติ อตฺโถ. อนฺวเทว อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ สา ปเนสา ยเทตํ อลชฺชนาการสณฺิกํ อหิริกํ, อภายนาการสณฺิตฺจ อโนตฺตปฺปํ, เอตํ อนุเทว สเหว เอกโตว, น วินา เตน อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. อวิชฺชาคตสฺสาติ อวิชฺชาย อุปคตสฺส สมนฺนาคตสฺส. มิจฺฉาทิฏฺีติ อยาถาวทิฏฺิ อนิยฺยานิกทิฏฺิ. ปโหตีติ โหติ อุปฺปชฺชติ. มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีสุปิ อยาถาวอนิยฺยานิกวเสเนว ¶ มิจฺฉาภาโว เวทิตพฺโพ. อิติ อิมานิ อฏฺปิ อกุสลธมฺมสมาปตฺติยา มิจฺฉตฺตองฺคานิ นาม โหนฺติ. ตานิ ปน น เอกกฺขเณ สพฺพานิ ลพฺภนฺติ, นานกฺขเณ ลพฺภนฺติ.
กถํ? ยทา หิ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตจิตฺตํ กายวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปนฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตทา มิจฺฉาทิฏฺิ มิจฺฉาสงฺกปฺโป มิจฺฉาวายาโม มิจฺฉาสติ มิจฺฉาสมาธิ ¶ มิจฺฉากมฺมนฺโตติ ฉ องฺคานิ โหนฺติ. ยทา ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตํ, ตทา มิจฺฉาทิฏฺิวชฺชานิ ปฺจ. ยทา ตาเนว ทฺเว วจีวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปนฺติ, ตทา มิจฺฉากมฺมนฺตฏฺาเน มิจฺฉาวาจาย สทฺธึ ตาเนว ฉ วา ปฺจ วา. อยํ อาชีโว นาม กุปฺปมาโน กายวจีทฺวาเรสุเยว อฺตรสฺมึ กุปฺปติ, น มโนทฺวาเร. ตสฺมา ยทา อาชีวสีเสน ตาเนว จิตฺตานิ กายวจีวิฺตฺติโย สมุฏฺาเปนฺติ, ตทา กายกมฺมํ มิจฺฉาชีโว นาม โหติ, ตถา วจีกมฺมนฺติ มิจฺฉาชีวสฺส วเสน ตาเนว ฉ วา ปฺจ วา. ยทา ปน วิฺตฺตึ อสมุฏฺาเปตฺวา ตานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ ¶ , ตทา มิจฺฉาทิฏฺิมิจฺฉาสงฺกปฺปมิจฺฉาวายามมิจฺฉาสติมิจฺฉาสมาธิวเสน ปฺจ วา, มิจฺฉาสงฺกปฺปาทิวเสน จตฺตาริ วา โหนฺตีติ เอวํ น เอกกฺขเณ สพฺพานิ ลพฺภนฺติ, นานกฺขเณ ลพฺภนฺตีติ.
สุกฺกปกฺเข วิชฺชาติ กมฺมสฺสกตาณํ. อิหาปิ สหชาตวเสน จ อุปนิสฺสยวเสน จาติ ทฺวีหากาเรหิ ปุพฺพงฺคมตา เวทิตพฺพา. หิโรตฺตปฺปนฺติ หิรี จ โอตฺตปฺปฺจ. ตตฺถ ลชฺชนาการสณฺิตา หิรี, ภายนาการสณฺิตํ โอตฺตปฺปํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺโตว. วิชฺชาคตสฺสาติ วิชฺชาย อุปคตสฺส สมนฺนาคตสฺส. วิทฺทสุโนติ วิทุโน ปณฺฑิตสฺส. สมฺมาทิฏฺีติ ยาถาวทิฏฺิ นิยฺยานิกทิฏฺิ. สมฺมากมฺมนฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ กุสลธมฺมสมาปตฺติยา อิมานิ อฏฺงฺคานิ โหนฺติ, ตานิ โลกิยมคฺคกฺขเณ น เอกโต สพฺพานิ ลพฺภนฺติ, โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน ลพฺภนฺติ. ตานิ จ โข ปมชฺฌานิกมคฺเค, ทุติยชฺฌานิกาทีสุ ปน สมฺมาสงฺกปฺปวชฺชานิ สตฺเตว โหนฺติ.
ตตฺถ โย เอวํ วเทยฺย ‘‘ยสฺมา มชฺฌิมนิกายมฺหิ มหาสฬายตนิกสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๔๓๑) ‘ยา ตถาภูตสฺส ทิฏฺิ, สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺิ. โย ตถาภูตสฺส, สงฺกปฺโป, สฺวาสฺส โหติ สมฺมาสงฺกปฺโป. โย ตถาภูตสฺส วายาโม, สฺวาสฺส โหติ สมฺมาวายาโม. ยา ตถาภูตสฺส สติ, สฺวาสฺส โหติ ¶ สมฺมาสติ. โย ตถาภูตสฺส สมาธิ, สฺวาสฺส โหติ สมฺมาสมาธิ. ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว จ สุปริสุทฺโธ’ติ วุตฺตํ ตสฺมา ปฺจงฺคิโกปิ โลกุตฺตรมคฺโค โหตี’’ติ โส วตฺตพฺโพ – ตสฺมึเยว สุตฺเต ‘‘เอวมสฺสายํ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉตี’’ติ อิทํ กสฺมา น ปสฺสสิ ¶ ? ยํ ปเนตํ ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺสา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย ปริสุทฺธภาวทสฺสนตฺถํ. ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย หิ ปริสุทฺธานิ กายกมฺมาทีนิ โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อติปริสุทฺธานิ โหนฺตีติ อยมตฺโถ ทีปิโต.
ยมฺปิ อภิธมฺเม วุตฺตํ ‘‘ตสฺมึ โข ปน สมเย ปฺจงฺคิโก มคฺโค โหตี’’ติ (วิภ. ๒๑๒), ตํ เอกํ กิจฺจนฺตรํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ยสฺมิฺหิ กาเล มิจฺฉากมฺมนฺตํ ปหาย สมฺมากมฺมนฺตํ ปูเรติ, ตสฺมึ กาเล มิจฺฉาวาจา วา มิจฺฉาชีโว วา น โหติ, ทิฏฺิ สงฺกปฺโป วายาโม ¶ สติ สมาธีติ อิเมสุเยว ปฺจสุ การกงฺเคสุ สมฺมากมฺมนฺโต ปูรติ. วิรติวเสน หิ สมฺมากมฺมนฺโต ปูรติ นาม. สมฺมาวาจาสมฺมาอาชีเวสุปิ เอเสว นโย. อิติ อิมํ กิจฺจนฺตรํ ทสฺเสตุํ เอวํ วุตฺตํ. โลกิยมคฺคกฺขเณ จ ปฺเจว โหนฺติ, วิรติ ปน อนิยตา. ตสฺมา ‘‘ฉองฺคิโก’’ติ อวตฺวา ‘‘ปฺจงฺคิโก’’ตฺเวว วุตฺตํ. ‘‘ยา จ, ภิกฺขเว, อริยจิตฺตสฺส อนาสวจิตฺตสฺส อริยมคฺคสมงฺคิโน อริยมคฺคํ ภาวยโต ตีหิ กายทุจฺจริเตหิ อารติ วิรติ ปฏิวิรติ เวรมณี อกิริยา อกรณํ, อยํ ภิกฺขเว สมฺมากมฺมนฺโต อริโย อนาสโว โลกุตฺตรมคฺโค’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๓๙). เอวํ ปน มหาจตฺตาลีสกสุตฺตาทีสุ อเนเกสุ สุตฺเตสุ สมฺมากมฺมนฺตาทีนฺจ โลกุตฺตรมคฺคสฺส องฺคภาวสิทฺธิโต อฏฺงฺคิโกว โลกุตฺตรมคฺโค โหตีติ เวทิตพฺโพติ. อิมสฺมึ สุตฺเต อยํ อฏฺงฺคิโก มคฺโค โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสโกว กถิโต. ทุติยํ โกสลสํยุตฺเต วุตฺตเมว.
๓. สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๓. ตติเย สกลมิทํ ภนฺเตติ อานนฺทตฺเถโร สาวกปารมีาณสฺส มตฺถกํ อปฺปตฺตตาย สกลมฺปิ มคฺคพฺรหฺมจริยํ กลฺยาณมิตฺตสนฺนิสฺสเยน ลพฺภตีติ น อฺาสิ, ธมฺมเสนาปติ ปน สาวกปารมีาณสฺส มตฺถเก ิตตฺตา อฺาสิ, ตสฺมา เอวมาห. เตเนวสฺส ภควา สาธุ สาธูติ สาธุการมทาสิ.
๔. ชาณุสฺโสณิพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา
๔. จตุตฺเถ ¶ ¶ สพฺพเสเตน วฬวาภิรเถนาติ สกลเสเตน จตูหิ วฬวาหิ ยุตฺตรเถน. โส กิร สพฺโพ สจกฺกปฺชรกุพฺพโร รชตปริกฺขิตฺโต โหติ. รโถ จ นาเมส ทุวิโธ โหติ – โยธรโถ, อลงฺการรโถติ. ตตฺถ โยธรโถ จตุรสฺสสณฺาโน โหติ นาติมหา ทฺวินฺนํ ติณฺณํ วา ชนานํ ¶ คหณสมตฺโถ. อลงฺการรโถ มหา โหติ ทีฆโต ทีโฆ ปุถุลโต ปุถุโล จ, ตตฺถ ฉตฺตคฺคาหโก วาลพีชนิคฺคาหโก ตาลวณฺฏคฺคาหโกติ เอวํ อฏฺ วา ทส วา สุเขเนว าตุํ วา นิสีทิตุํ วา นิปชฺชิตุํ วา สกฺโกนฺติ. อยมฺปิ อลงฺการรโถเยว.
เสตา สุทํ อสฺสาติ ตา วฬวา ปกติยา เสตวณฺณาว. เสตาลงฺการาติ ปสาธนํ ตาสํ รชตมยํ อโหสิ. เสโต รโถติ รโถปิ วุตฺตนเยเนว รชตปริกฺขิตฺตตฺตา ตตฺถ ตตฺถ ทนฺตกมฺมขจิตตฺตา จ เสโตว. เสตปริวาโรติ ยถา อฺเ รถา สีหจมฺมปริวาราปิ โหนฺติ, พฺยคฺฆจมฺมปริวาราปิ ปณฺฑุกมฺพลปริวาราปิ โหนฺติ, น เอวํ เอส. เอส ปน ฆนทุกูเลน ปริวาริโต อโหสิ. เสตา รสฺมิโยติ รสฺมิโยปิ รชตปนาฬิสุปริกฺขิตฺตา. เสตา ปโตทลฏฺีติ ปโตทลฏฺิปิ รชตปริกฺขิตฺตา.
เสตํ ฉตฺตนฺติ รถมชฺเฌ อุสฺสาปิตฉตฺตมฺปิ เสตเมว อโหสิ. เสตํ อุณฺหีสนฺติ อฏฺงฺคุลวิตฺถาโร รชตมโย อุณฺหีสปฏฺโฏ เสโต. เสตานิ วตฺถานีติ วตฺถานิปิ เสตานิ เผณปฺุชวณฺณานิ. เตสุ นิวาสนํ ปฺจสตคฺฆนกํ, อุตฺตราสงฺโค สหสฺสคฺฆนโก. เสตา อุปาหนาติ อุปาหนา นาม มคฺคารุฬฺหสฺส วา โหนฺติ อฏวึ วา ปวิสนฺตสฺส. อยํ ปน รถํ อภิรุฬฺโห, เตนสฺส ตทนุจฺฉวิโก รชตปฏิเสวิโต ปาทาลงฺกาโร นาม เอส เอวํ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. เสตาย สุทํ วาลพีชนิยาติ ผลิกมยทณฺฑาย เสตจมรวาลพีชนิยา. น เกวลฺจ เอตฺตกเมวสฺส เสตํ อโหสิ, โส ปน พฺราหฺมโณ เสตวิเลปนํ วิลิมฺปิ, เสตมาลํ ปิฬนฺธิ, ทสสุ องฺคุลีสุ องฺคุลิมุทฺทิกา กณฺเณสุ กุณฺฑลานีติ เอวมาทิ อลงฺกาโรปิสฺส รชตมโยว อโหสิ ¶ . ปริวารพฺราหฺมณาปิสฺส ทสสหสฺสมตฺตา ตเถว เสตวตฺถวิเลปนมาลาลงฺการา อเหสุํ.
ยํ ปเนตํ สาวตฺถิยา นิยฺยายนฺตนฺติ วุตฺตํ, ตตฺรายํ นิยฺยายนวิภาวนา – โส กิร ฉนฺนํ ฉนฺนํ ¶ มาสานํ เอกวารํ นครํ ปทกฺขิณํ กโรติ – ‘‘อิโต เอตฺตเกหิ ทิวเสหิ นครํ ปทกฺขิณํ กริสฺสตี’’ติ ปุเรตรเมว โฆสนา กยิรติ. ตํ สุตฺวา เย นครโต น ปกฺกนฺตา, เต น ปกฺกมนฺติ. เยปิ ปกฺกนฺตา, เตปิ ‘‘ปฺุวโต สิริสมฺปตฺตึ ปสฺสิสฺสามา’’ติ อาคจฺฉนฺติ. ยํ ทิวสํ พฺราหฺมโณ นครํ อนุวิจรติ, ตทา ¶ ปาโตว นครวีถิโย สมฺมชฺชิตฺวา วาลิกํ โอกิริตฺวา ลาชปฺจเมหิ ปุปฺเผหิ วิปฺปกิริตฺวา ปุณฺณฆเฏ เปตฺวา กทลิโย จ ธเช จ อุสฺสาเปตฺวา สกลนครํ ธูปิตวาสิตํ กโรนฺติ.
พฺราหฺมโณ ปาโตว สีสํ นฺหายิตฺวา ปุเรภตฺตํ ภฺุชิตฺวา วุตฺตนเยเนว เสตวตฺถาทีหิ อตฺตานํ อลงฺกริตฺวา ปาสาทา โอรุยฺห รถํ อภิรุหติ. อถ นํ เต พฺราหฺมณา สพฺพเสตวตฺถวิเลปนมาลาลงฺการา เสตจฺฉตฺตานิ คเหตฺวา ปริวาเรนฺติ. ตโต มหาชนสฺส สนฺนิปาตตฺถํ ปมํเยว ตรุณทารกานํ ผลาผลานิ วิกิรนฺติ, ตทนนฺตรํ มาสกรูปาทีนิ, ตทนนฺตรํ กหาปเณ วิกิรนฺติ. มหาชโน สนฺนิปตติ, อุกฺกุฏฺิโย เจว เจลุกฺเขปา จ วตฺตนฺติ. อถ พฺราหฺมโณ มงฺคลิกโสวตฺถิกาทีสุ มงฺคลานิ เจว สุวตฺถิโย จ กโรนฺเตสุ มหาสมฺปตฺติยา นครํ อนุวิจรติ. ปฺุวนฺตา มนุสฺสา เอกภูมิกาทิปาสาเท อารุยฺห สุกปตฺตสทิสานิ วาตปานกวาฏานิ วิวริตฺวา โอโลเกนฺติ. พฺราหฺมโณปิ อตฺตโน ยสสิริสมฺปตฺติยา นครํ อชฺโฌตฺถรนฺโต วิย ทกฺขิณทฺวาราภิมุโข โหติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
ตเมนํ ชโน ทิสฺวาติ มหาชโน ตํ รถํ ทิสฺวา. พฺรหฺมนฺติ เสฏฺาธิวจนเมตํ. พฺรหฺมํ วต โภ ยานนฺติ เสฏฺยานสทิสํ วต โภ ยานนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อิมสฺเสว โข เอตนฺติ, อานนฺท, มนุสฺสา นาม วณฺณภาณกานํ ธนํ ทตฺวา อตฺตโน ทาริกานํ วณฺณคีตํ คายาเปนฺติ ‘‘อภิรูโป โหติ ทสฺสนีโย มหทฺธโน มหาโภโค’’ติ, น จ เตน วณฺณภณนมตฺเตน อภิรูปา วา โหนฺติ มหทฺธนา วา, เอวเมว มหาชโน ¶ พฺราหฺมณสฺส รถํ ทิสฺวา – ‘‘พฺรหฺมํ วต โภ ยาน’’นฺติ กิฺจาปิ เอวํ วณฺณํ ภณติ, น ปเนตํ ยานํ วณฺณภณนมตฺเตเนว พฺรหฺมยานํ นาม โหติ. ลามกฺหิ เอตํ ฉวํ. ปรมตฺเถน ปน อิมสฺเสว โข เอตํ, อานนฺท, อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส ¶ อธิวจนํ. อยฺหิ สพฺพโทสวิคเมน เสฏฺโ, อิมินา จ อริยา นิพฺพานํ ยนฺตีติ พฺรหฺมยานํ อิติปิ, ธมฺมภูตตฺตา ยานตฺตา จ ธมฺมยานํ อิติปิ, อนุตฺตรตฺตา กิเลสสงฺคามสฺส จ วิชิตตฺตา อนุตฺตโร สงฺคามวิชโย อิติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
อิทานิสฺส ¶ นิทฺโทสภาวฺเจว สงฺคามวิชยภาวฺจ ทสฺเสนฺโต ราควินยปริโยสานาติอาทิมาห. ตตฺถ ราคํ วินยมานา ปริโยสาเปติ ปริโยสานํ คจฺฉติ นิปฺผชฺชตีติ ราควินยปริโยสานา. เอส นโย สพฺพตฺถ.
ยสฺส สทฺธา จ ปฺา จาติ ยสฺส อริยมคฺคยานสฺส สทฺธานุสาริวเสน สทฺธา, ธมฺมานุสาริวเสน ปฺาติ อิเม ทฺเว ธมฺมา สทา ธุรํ ยุตฺตา, ตตฺรมชฺฌตฺตตายุเค ยุตฺตาติ อตฺโถ. หิรี อีสาติ อตฺตนา สทฺธึ อธิวิฏฺเน พหิทฺธาสมุฏฺาเนน โอตฺตปฺเปน สทฺธึ อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี ยสฺส มคฺครถสฺส อีสา. มโน โยตฺตนฺติ วิปสฺสนาจิตฺตฺจ มคฺคจิตฺตฺจ โยตฺตํ. ยถา หิ รถสฺส วากาทิมยํ โยตฺตํ โคเณ เอกาพทฺเธ กโรติ เอกสงฺคหิเต, เอวํ มคฺครถสฺส โลกิยวิปสฺสนาจิตฺตํ อติเรกปฺาส, โลกุตฺตรวิปสฺสนาจิตฺตํ อติเรกสฏฺิ กุสลธมฺเม เอกาพทฺเธ เอกสงฺคเห กโรติ. เตน วุตฺตํ ‘‘มโน โยตฺต’’นฺติ. สติ อารกฺขสารถีติ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ อารกฺขสารถิ. ยถา หิ รถสฺส อารกฺโข สารถิ นาม โยคฺคิโย. ธุรํ วาเหติ โยเชติ อกฺขํ อพฺภฺชติ รถํ เปเสติ รถยุตฺตเก นิพฺพิเสวเน กโรติ, เอวํ มคฺครถสฺส สติ. อยฺหิ อารกฺขปจฺจุปฏฺานา เจว กุสลากุสลานฺจ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสตีติ วุตฺตา.
รโถติ อริยอฏฺงฺคิกมคฺครโถ. สีลปริกฺขาโรติ จตุปาริสุทฺธิสีลาลงฺกาโร. ฌานกฺโขติ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตานํ ปฺจนฺนํ ฌานงฺคานํ วเสน ฌานมยอกฺโข. จกฺกวีริโยติ วีริยจกฺโก, กายิกเจตสิกสงฺขาตานิ ¶ ทฺเว วีริยานิ อสฺส จกฺกานีติ อตฺโถ. อุเปกฺขา ธุรสมาธีติ ¶ ธุรสฺส สมาธิ, อุนฺนโตนตาการสฺส อภาเวน ทฺวินฺนมฺปิ ยุคปเทสานํ สมตาติ อตฺโถ. อยฺหิ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จิตฺตุปฺปาทสฺส ลีนุทฺธจฺจภาวํ หริตฺวา ปโยคมชฺฌตฺเต จิตฺตํ เปติ, ตสฺมา อิมสฺส มคฺครถสฺส ‘‘ธุรสมาธี’’ติ วุตฺตา. อนิจฺฉา ปริวารณนฺติ พาหิรกรถสฺส สีหจมฺมาทีนิ วิย อิมสฺสาปิ อริยมคฺครถสฺส อโลภสงฺขาตา อนิจฺฉา ปริวารณํ นาม.
อพฺยาปาโทติ เมตฺตา จ เมตฺตาปุพฺพภาโค จ. อวิหึสาติ กรุณา จ กรุณาปุพฺพภาโค จ. วิเวโกติ กายวิเวกาทิ ติวิธวิเวโก. ยสฺส อาวุธนฺติ ยสฺส อริยมคฺครเถ ิตสฺส กุลปุตฺตสฺส เอตํ ปฺจวิธํ อาวุธํ. ยถา หิ รเถ ิโต ปฺจหิ อาวุเธหิ สปตฺเต วิชฺฌติ, เอวํ โยคาวจโรปิ อิมสฺมึ โลกิยโลกุตฺตรมคฺครเถ ิโต เมตฺตาย โทสํ วิชฺฌติ, กรุณาย วิหึสํ ¶ , กายวิเวเกน คณสงฺคณิกํ, จิตฺตวิเวเกน กิเลสสงฺคณิกํ, อุปธิวิเวเกน สพฺพากุสลํ วิชฺฌติ. เตนสฺเสตํ ปฺจวิธํ ‘‘อาวุธ’’นฺติ วุตฺตํ. ติติกฺขาติ ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ อธิวาสนกฺขนฺติ. จมฺมสนฺนาโหติ สนฺนทฺธจมฺโม. ยถา หิ รเถ ิโต รถิโก ปฏิมุกฺกจมฺโม อาคตาคเต สเร ขมติ, น นํ เต วิชฺฌนฺติ, เอวํ อธิวาสนกฺขนฺติสมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาคตาคเต วจนปเถ ขมติ, น นํ เต วิชฺฌนฺติ. ตสฺมา ‘‘ติติกฺขา จมฺมสนฺนาโห’’ติ วุตฺโต. โยคกฺเขมาย วตฺตตีติ จตูหิ โยเคหิ เขมาย นิพฺพานาย วตฺตติ, นิพฺพานาภิมุโข คจฺฉติเยว, น ติฏฺติ น ภิชฺชตีติ อตฺโถ.
เอตทตฺตนิ สมฺภูตนฺติ เอตํ มคฺคยานํ อตฺตโน ปุริสการํ นิสฺสาย ลทฺธตฺตา อตฺตนิ สมฺภูตํ นาม โหติ. พฺรหฺมยานํ อนุตฺตรนฺติ อสทิสํ เสฏฺยานํ. นิยฺยนฺติ ธีรา โลกมฺหาติ เยสํ เอตํ ยานํ อตฺถิ, เต ธีรา ปณฺฑิตปุริสา โลกมฺหา นิยฺยนฺติ คจฺฉนฺติ. อฺทตฺถูติ เอกํเสน. ชยํ ชยนฺติ ราคาทโย สปตฺเต ชินนฺตา ชินนฺตา.
๕-๖. กิมตฺถิยสุตฺตาทิวณฺณนา
๕-๖. ปฺจเม ¶ อยเมวาติ เอวสทฺโท นิยมตฺโถ. เตน อฺํ มคฺคํ ปฏิกฺขิปติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏทุกฺขฺเจว มิสฺสกมคฺโค จ กถิโต. ฉฏฺํ อุตฺตานเมว.
๗. ทุติยอฺตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา
๗. สตฺตเม ¶ นิพฺพานธาตุยา โข เอตํ ภิกฺขุ อธิวจนนฺติ อสงฺขตาย อมตาย นิพฺพานธาตุยา เอตํ อธิวจนํ. อาสวานํ ขโย เตน วุจฺจตีติ อปิจ เตน ราคาทิวินเยน อาสวานํ ขโยติปิ วุจฺจติ. อาสวกฺขโย นาม อรหตฺตํ, อรหตฺตสฺสาปิ เอตํ ราควินโยติอาทิ นามเมวาติ ทีเปติ. เอตทโวจาติ ‘‘สตฺถารา นิพฺพานธาตูติ วทนฺเตน อมตํ นิพฺพานํ กถิตํ, มคฺโค ปนสฺส น กถิโต. ตํ กถาเปสฺสามี’’ติ อนุสนฺธิกุสลตาย ปุจฺฉนฺโต เอตํ อโวจ.
๘. วิภงฺคสุตฺตวณฺณนา
๘. อฏฺเม ¶ กตมา จ ภิกฺขเว สมฺมาทิฏฺีติ เอเกน ปริยาเยน อฏฺงฺคิกมคฺคํ วิภชิตฺวา ปุน อปเรน ปริยาเยน วิภชิตุกาโม อิทํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ ทุกฺเข าณนฺติ สวนสมฺมสนปฏิเวธปจฺจเวกฺขณวเสน จตูหากาเรหิ อุปฺปนฺนํ าณํ. สมุทเยปิ เอเสว นโย. เสเสสุ ปน ทฺวีสุ สมฺมสนสฺส อภาวา ติวิธเมว วฏฺฏติ. เอวเมตํ ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทินา จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ ทสฺสิตํ.
ตตฺถ ปุริมานิ ทฺเว สจฺจานิ วฏฺฏํ, ปจฺฉิมานิ วิวฏฺฏํ. เตสุ ภิกฺขุโน วฏฺเฏ กมฺมฏฺานาภินิเวโส โหติ, วิวฏฺเฏ นตฺถิ อภินิเวโส. ปุริมานิ หิ ทฺเว สจฺจานิ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขํ, ตณฺหา สมุทโย’’ติ เอวํ สงฺเขเปน จ, ‘‘กตเม ปฺจกฺขนฺธา รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทินา นเยน วิตฺถาเรน จ อาจริยสนฺติเก อุคฺคณฺหิตฺวา วาจาย ปุนปฺปุนํ ปริวตฺเตนฺโต โยคาวจโร กมฺมํ กโรติ. อิตเรสุ ปน ทฺวีสุ สจฺเจสุ – ‘‘นิโรธสจฺจํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ, มคฺคสจฺจํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาป’’นฺติ เอวํ สวเนเนว กมฺมํ กโรติ. โส เอวํ กโรนฺโต จตฺตาริ สจฺจานิ เอกปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, เอกาภิสมเยน อภิสเมติ ¶ . ทุกฺขํ ปริฺาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, สมุทยํ ปหานปฏิเวเธน, นิโรธํ สจฺฉิกิริยปฏิเวเธน, มคฺคํ ภาวนาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ. ทุกฺขํ ปริฺาภิสมเยน…เป… มคฺคํ ภาวนาภิสมเยน อภิสเมติ.
เอวมสฺส ปุพฺพภาเค ทฺวีสุ สจฺเจสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาสวนธารณสมฺมสนปฏิเวโธ โหติ, ทฺวีสุ สวนปฏิเวโธเยว. อปรภาเค ตีสุ ¶ กิจฺจโต ปฏิเวโธ โหติ, นิโรเธ อารมฺมณปฏิเวโธ. ปจฺจเวกฺขณา ปน ปตฺตสจฺจสฺส โหติ. อิมสฺส ภิกฺขุโน ปุพฺเพ ปริคฺคหโต – ‘‘ทุกฺขํ ปริชานามิ, สมุทยํ ปชหามิ, นิโรธํ สจฺฉิกโรมิ, มคฺคํ ภาเวมี’’ติ อาโภคสมนฺนาหารมนสิการปจฺจเวกฺขณา นตฺถิ, ปริคฺคหโต ปฏฺาย โหติ. อปรภาเค ปน ทุกฺขํ ปริฺาตเมว โหติ…เป… มคฺโค ภาวิโตว โหติ.
ตตฺถ ทฺเว สจฺจานิ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานิ, ทฺเว คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสานิ. ทุกฺขสจฺจฺหิ อุปฺปตฺติโต ปากฏํ, ขาณุกณฺฏกปหาราทีสุ ‘‘อโห ทุกฺข’’นฺติ วตฺตพฺพตมฺปิ อาปชฺชติ. สมุทยมฺปิ ¶ ขาทิตุกามตาภฺุชิตุกามตาทิวเสน อุปฺปตฺติโต ปากฏํ. ลกฺขณปฏิเวธโต ปน อุภยมฺปิ คมฺภีรํ. อิติ ตานิ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานิ. อิตเรสํ ทฺวินฺนํ ทสฺสนตฺถาย ปโยโค ภวคฺคคฺคหณตฺถํ หตฺถปสารณํ วิย อวีจิผุสนตฺถํ ปาทปสารณํ วิย สตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาทนํ วิย จ โหติ. อิติ ตานิ คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสานิ. เอวํ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีเรสุ คมฺภีรตฺตา จ ทุทฺทเสสุ จตูสุ สจฺเจสุ อุคฺคหาทิวเสน อิทํ ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปฏิเวธกฺขเณ ปน เอกเมว ตํ าณํ โหติ.
เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทีสุ กามปจฺจนีกฏฺเน กามโต นิสฺสฏภาเวน วา, กามํ สมฺมสนฺตสฺส อุปฺปนฺโนติ วา, กามปทฆาตํ กามวูปสมํ กโรนฺโต อุปฺปนฺโนติ วา ¶ , กามวิวิตฺตนฺเต อุปฺปนฺโนติ วา เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. สพฺเพปิ จ เต เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโย กามพฺยาปาทวิหึสาวิรมณสฺานํ นานตฺตา ปุพฺพภาเค นานา, มคฺคกฺขเณ ปน อิเมสุ ตีสุ าเนสุ อุปฺปนฺนสฺส อกุสลสงฺกปฺปสฺส ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมาโน เอโกว กุสลสงฺกปฺโป อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาสงฺกปฺโป นาม.
มุสาวาทา เวรมณีอาทโยปิ มุสาวาทาทีหิ วิรมณสฺานํ นานตฺตา ปุพฺพภาเค นานา, มคฺคกฺขเณ ปน อิเมสุ จตูสุ าเนสุ อุปฺปนฺนาย ¶ อกุสลทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว กุสลเวรมณี อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาวาจา นาม.
ปาณาติปาตา เวรมณี อาทโยปิ ปาณาติปาตาทีหิ วิรมณสฺานํ นานตฺตา ปุพฺพภาเค นานา, มคฺคกฺขเณ ปน อิเมสุ ตีสุ าเนสุ อุปฺปนฺนาย อกุสลทุสฺสีลฺยเจตนาย อกิริยโต ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว กุสลเวรมณี อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมากมฺมนฺโต นาม.
มิจฺฉาอาชีวนฺติ ขาทนียโภชนียาทีนํ อตฺถาย ปวตฺติตํ กายวจีทุจฺจริตํ. ปหายาติ วชฺเชตฺวา. สมฺมาอาชีเวนาติ พุทฺธปสตฺเถน อาชีเวน. ชีวิกํ กปฺเปตีติ ชีวิตวุตฺตึ ปวตฺเตติ. สมฺมาชีโวปิ กุหนาทีหิ วิรมณสฺานํ นานตฺตา ปุพฺพภาเค นานา. มคฺคกฺขเณ ปน อิเมสุเยว สตฺตสุ าเนสุ อุปฺปนฺนาย มิจฺฉาชีวทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน ¶ มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว กุสลเวรมณี อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาอาชีโว นาม.
อนุปฺปนฺนานนฺติ เอกสฺมึ ภเว ตถารูเป วา อารมฺมเณ อตฺตโน น อุปฺปนฺนานํ, ปรสฺส ปน อุปฺปชฺชมาเน ทิสฺวา – ‘‘อโห วต เม เอวรูปา ปาปกา ธมฺมา น อุปฺปชฺเชยฺยุ’’นฺติ เอวํ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย. ฉนฺทนฺติ เตสํ อกุสลานํ อนุปฺปาทกปฏิปตฺติสาธกํ วีริยจฺฉนฺทํ ชเนติ. วายมตีติ วายามํ กโรติ. วีริยํ อารภตีติ วีริยํ ปวตฺเตติ. จิตฺตํ ปคฺคณฺหาตีติ วีริเยน จิตฺตํ ปคฺคหิตํ กโรติ. ปทหตีติ ‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตู’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๘๔) ปธานํ ปวตฺเตติ ¶ . อุปฺปนฺนานนฺติ สมุทาจารวเสน อตฺตโน อุปฺปนฺนปุพฺพานํ. อิทานิ ตาทิเส น อุปฺปาเทสฺสามีติ เตสํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ.
อนุปฺปนฺนานํ กุสลานนฺติ อปฏิลทฺธานํ ปมชฺฌานาทีนํ. อุปฺปนฺนานนฺติ เตสํเยว ปฏิลทฺธานํ. ิติยาติ ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติปพนฺธวเสน ิตตฺถํ. อสมฺโมสายาติ อวินาสตฺถํ. ภิยฺโยภาวายาติ อุปริภาวาย. เวปุลฺลายาติ วิปุลภาวาย. ปาริปูริยาติ ภาวนาย ปริปูรณตฺถํ. อยมฺปิ สมฺมาวายาโม ¶ อนุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ อนุปฺปาทนาทิจิตฺตนานตฺตา ปุพฺพภาเค นานา. มคฺคกฺขเณ ปน อิเมสุเยว จตูสุ าเนสุ กิจฺจสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานํ เอกเมว กุสลวีริยํ อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาวายาโม นาม.
สมฺมาสติปิ กายาทิปริคฺคาหกจิตฺตานํ นานตฺตา ปุพฺพภาเค นานา, มคฺคกฺขเณ ปน อิเมสุ จตูสุ าเนสุ กิจฺจสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกา สติ อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาสติ นาม.
ฌานาทีนิ ปุพฺพภาเคปิ มคฺคกฺขเณปิ นานา, ปุพฺพภาเค สมาปตฺติวเสน นานา, มคฺคกฺขเณ นานามคฺควเสน. เอกสฺส หิ ปมมคฺโค ปมชฺฌานิโก โหติ, ทุติยมคฺคาทโยปิ ปมชฺฌานิกา วา ทุติยาทีสุ อฺตรชฺฌานิกา วา. เอกสฺส ปมมคฺโค ทุติยาทีนํ อฺตรชฺฌานิโก โหติ, ทุติยาทโยปิ ทุติยาทีนํ อฺตรชฺฌานิกา วา ปมชฺฌานิกา ¶ วา. เอวํ จตฺตาโรปิ มคฺคา ฌานวเสน สทิสา วา อสทิสา วา เอกจฺจสทิสา วา โหนฺติ.
อยํ ปนสฺส วิเสโส ปาทกชฺฌานนิยเมน โหติ. ปาทกชฺฌานนิยเมน หิ ปมชฺฌานลาภิโน ปมชฺฌานา วุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺนมคฺโค ปมชฺฌานิโก โหติ, มคฺคงฺคโพชฺฌงฺคานิ ปเนตฺถ ปริปุณฺณาเนว โหนฺติ. ทุติยชฺฌานโต วุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺโน ทุติยชฺฌานิโก โหติ, มคฺคงฺคานิ ปเนตฺถ สตฺต โหนฺติ. ตติยชฺฌานโต วุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺโน ตติยชฺฌานิโก, มคฺคงฺคานิ ปเนตฺถ สตฺต, โพชฺฌงฺคานิ ฉ โหนฺติ. เอส นโย จตุตฺถชฺฌานโต ปฏฺาย ยาว เนวสฺานาสฺายตนา ¶ .
อารุปฺเป จตุกฺกปฺจกชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ, ตฺจ โลกุตฺตรํ, โน โลกิยนฺติ วุตฺตํ. เอตฺถ กถนฺติ? เอตฺถาปิ ปมชฺฌานาทีสุ ยโต วุฏฺาย โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลภิตฺวา อรูปสมาปตฺตึ ภาเวตฺวา โส อารุปฺเป อุปฺปนฺโน, ตํฌานิกาวสฺส ตตฺถ ตโย มคฺคา อุปฺปชฺชนฺติ. เอวํ ปาทกชฺฌานเมว นิยเมติ. เกจิ ปน เถรา – ‘‘วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยเมนฺตี’’ติ วทนฺติ ¶ . เกจิ ‘‘ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมตี’’ติ วทนฺติ. เกจิ ‘‘วุฏฺานคามินีวิปสฺสนา นิยเมตี’’ติ วทนฺติ. เตสํ วาทวินิจฺฉโย วิสุทฺธิมคฺเค วุฏฺานคามินีวิปสฺสนาธิกาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาสมาธีติ อยํ ปุพฺพภาเค โลกิโย, อปรภาเค โลกุตฺตโร สมฺมาสมาธีติ วุจฺจติ.
๙. สูกสุตฺตวณฺณนา
๙. นวเม มิจฺฉาปณิหิตนฺติ สูกํ นาม อุทฺธคฺคํ กตฺวา ปิตํ หตฺถํ วา ปาทํ วา ภินฺทติ, ตถา อฏฺปิตํ ปน มิจฺฉาปณิหิตํ นาม. มิจฺฉาปณิหิตาย ทิฏฺิยาติ มิจฺฉาปิตาย กมฺมสฺสกตปฺาย. อวิชฺชํ ภินฺทิสฺสตีติ จตุสจฺจปฏิจฺฉาทกํ อวิชฺชํ ภินฺทิสฺสติ. วิชฺชํ อุปฺปาเทสฺสตีติ อรหตฺตมคฺควิชฺชํ อุปฺปาเทสฺสติ. มิจฺฉาปณิหิตตฺตา, ภิกฺขเว, ทิฏฺิยาติ กมฺมสฺสกตปฺาย เจว มคฺคภาวนาย จ มิจฺฉา ปิตตฺตา, อปฺปวตฺติตตฺตาติ อตฺโถ. อิมสฺมึ สุตฺเต กมฺมสฺสกตาณํ มคฺคนิสฺสิตํ กตฺวา มิสฺสกมคฺโค กถิโต.
๑๐. นนฺทิยสุตฺตวณฺณนา
๑๐. ทสเม ¶ ปริพฺพาชโกติ ฉนฺนปริพฺพาชโก. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
อวิชฺชาวคฺโค ปโม.
๒. วิหารวคฺโค
๑. ปมวิหารสุตฺตวณฺณนา
๑๑. ทุติยวคฺคสฺส ¶ ปเม อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว, อฑฺฒมาสํ ปฏิสลฺลียิตุนฺติ อหํ, ภิกฺขเว, เอกํ อฑฺฒมาสํ ปฏิสลฺลียิตุํ นิลียิตุํ เอโกว หุตฺวา วิหริตุํ อิจฺฉามีติ อตฺโถ. นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ปิณฺฑปาตนีหารเกนาติ โย อตฺตนา ปยุตฺตวาจํ อกตฺวา มมตฺถาย ¶ สทฺเธสุ กุเลสุ ปฏิยตฺตํ ปิณฺฑปาตํ นีหริตฺวา มยฺหํ อุปนาเมยฺย, ตํ ปิณฺฑปาตนีหารกํ เอกํ ภิกฺขุํ เปตฺวา นมฺหิ อฺเน เกนจิ ภิกฺขุนา วา คหฏฺเน วา อุปสงฺกมิตพฺโพติ.
กสฺมา ปน เอวมาหาติ? ตสฺมึ กิร อฑฺฒมาเส วิเนตพฺโพ สตฺโต นาโหสิ. อถ สตฺถา – ‘‘อิมํ อฑฺฒมาสํ ผลสมาปตฺติสุเขเนว วีตินาเมสฺสามิ, อิติ มยฺหฺเจว สุขวิหาโร ภวิสฺสติ, อนาคเต จ ปจฺฉิมา ชนตา ‘สตฺถาปิ คณํ วิหาย เอกโก วิหาสิ, กิมงฺคํ ปน มย’นฺติ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชิสฺสติ, ตทสฺสา ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ อิมินา การเณน เอวมาห. ภิกฺขุสงฺโฆปิ สตฺถุ วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เอกํ ภิกฺขุํ อทาสิ. โส ปาโตว คนฺธกุฏิปริเวณสมฺมชฺชนมุโขทกทนฺตกฏฺทานาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ ตสฺมึ ขเณ กตฺวา อปคจฺฉติ.
เยน สฺวาหนฺติ เยน โส อหํ. ปมาภิสมฺพุทฺโธติ อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา ปมํเยว เอกูนปฺาสทิวสพฺภนฺตเร. วิหรามีติ อิทํ อตีตตฺเถ วตฺตมานวจนํ. ตสฺส ปเทเสน วิหาสินฺติ ตสฺส ¶ ปมาภิสมฺพุทฺธวิหารสฺส ปเทเสน. ตตฺถ ปเทโส นาม ขนฺธปเทโส อายตนธาตุสจฺจอินฺทฺริยปจฺจยาการสติปฏฺานฌานนามรูปปเทโส ธมฺมปเทโสติ นานาวิโธ. ตํ สพฺพมฺปิ สนฺธาย – ‘‘ตสฺส ปเทเสน วิหาสิ’’นฺติ อาห. ภควา หิ ปมโพธิยํ เอกูนปฺาสทิวสพฺภนฺตเร ยถา นาม ปตฺตรชฺโช ราชา อตฺตโน วิภวสารทสฺสนตฺถํ ตํ ตํ คพฺภํ วิวราเปตฺวา สุวณฺณรชตมุตฺตามณิอาทีนิ รตนานิ ปจฺจเวกฺขนฺโต วิหเรยฺย, เอวเมว ปฺจกฺขนฺเธ นิปฺปเทเส กตฺวา สมฺมสนฺโต ปจฺจเวกฺขนฺโต วิหาสิ ¶ . อิมสฺมึ ปน อฑฺฒมาเส เตสํ ขนฺธานํ ปเทสํ เวทนากฺขนฺธเมว ปจฺจเวกฺขนฺโต วิหาสิ. ตสฺส ‘‘อิเม สตฺตา เอวรูปํ นาม สุขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, เอวรูปํ ทุกฺข’’นฺติ โอโลกยโต ยาว ภวคฺคา ปวตฺตา สุขเวทนา, ยาว อวีจิโต ปวตฺตา ทุกฺขเวทนา, สพฺพา สพฺพากาเรน อุปฏฺาสิ. อถ นํ ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยาปิ เวทยิต’’นฺติอาทินา นเยน ปริคฺคณฺหนฺโต วิหาสิ.
ตถา ปมโพธิยํ ทฺวาทสายตนานิ นิปฺปเทสาเนว กตฺวา วิหาสิ, อิมสฺมึ ปน อฑฺฒมาเส เตสํ อายตนานํ ปเทสํ เวทนาวเสน ธมฺมายตเนกเทสํ, ธาตูนํ ปเทสํ เวทนาวเสน ธมฺมธาตุเอกเทสํ, สจฺจานํ ปเทสํ เวทนากฺขนฺธวเสเนว ทุกฺขสจฺเจกเทสํ, ปจฺจยานํ ปเทสํ ผสฺสปจฺจยา ¶ เวทนาวเสน ปจฺจเยกเทสํ ฌานานํ ปเทสํ เวทนาวเสเนว ฌานงฺเคกเทสํ, นามรูปานํ ปเทสํ เวทนาวเสเนว นาเมกเทสํ ปจฺจเวกฺขนฺโต วิหาสิ. ปมโพธิยฺหิ เอกูนปฺาสทิวสพฺภนฺตเร กุสลาทิธมฺเม นิปฺปเทเส กตฺวา อนนฺตนยานิ สตฺต ปกรณานิ ปจฺจเวกฺขนฺโต วิหาสิ. อิมสฺมึ ปน อฑฺฒมาเส สพฺพธมฺมานํ ปเทสํ เวทนาตฺติกเมว ปจฺจเวกฺขนฺโต วิหาสิ. ตสฺมึ ตสฺมึ าเน สา สา จ วิหารสมาปตฺติ เวทนานุภาเวน ชาตา.
อิทานิ เยนากาเรน วิหาสิ, ตํ ทสฺเสนฺโต มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยาปีติอาทิมาห. ตตฺถ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยาปีติ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตา เวทนาปิ วฏฺฏติ. ทิฏฺึ อุปนิสฺสยํ กตฺวา อุปฺปนฺนา กุสลากุสลเวทนาปิ วฏฺฏติ วิปากเวทนาปิ. ตตฺถ มิจฺฉาทิฏฺิสมฺปยุตฺตา อกุสลาว โหติ, ทิฏฺึ ปน อุปนิสฺสาย กุสลาปิ อุปฺปชฺชนฺติ อกุสลาปิ. มิจฺฉาทิฏฺิกา หิ ทิฏฺึ อุปนิสฺสาย ปกฺขทิวเสสุ ยาคุภตฺตาทีนิ เทนฺติ, อทฺธิกาทีนํ วฏฺฏํ ปฏฺเปนฺติ, จตุมหาปเถ สาลํ กโรนฺติ, โปกฺขรณิฺจ ขณาเปนฺติ, เทวกุลาทีสุ มาลาคจฺฉํ โรเปนฺติ, นทีวิทุคฺคาทีสุ เสตุํ อตฺถรนฺติ, วิสมํ สมํ กโรนฺติ, อิติ เนสํ กุสลเวทนา อุปฺปชฺชติ. มิจฺฉาทิฏฺึ ปน นิสฺสาย สมฺมาทิฏฺิเก อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ, วธพนฺธนาทีนิ กโรนฺติ, ปาณํ วธิตฺวา เทวตานํ ¶ อุปหารํ อุปหรนฺติ ¶ , อิติ เนสํ อกุสลเวทนา อุปฺปชฺชติ. วิปากเวทนา ปน ภวนฺตรคตานํเยว โหติ.
สมฺมาทิฏฺิปจฺจยาติ เอตฺถาปิ สมฺมาทิฏฺิสมฺปยุตฺตา เวทนาปิ วฏฺฏติ, สมฺมาทิฏฺึ อุปนิสฺสยํ กตฺวา อุปฺปนฺนา กุสลากุสลเวทนาปิ วิปากเวทนาปิ. ตตฺถ สมฺมาทิฏฺิสมฺปยุตฺตา กุสลาว โหติ, สมฺมาทิฏฺึ ปน อุปนิสฺสาย พุทฺธปูชํ ทีปมาลํ มหาธมฺมสฺสวนํ อปฺปติฏฺิเต ทิสาภาเค เจติยปติฏฺาปนนฺติ เอวมาทีนิ ปฺุานิ กโรนฺติ, อิติ เนสํ กุสลา เวทนา อุปฺปชฺชติ. สมฺมาทิฏฺึเยว นิสฺสาย มิจฺฉาทิฏฺิเก อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ, อตฺตานํ อุกฺกํเสนฺติ, ปรํ วมฺเภนฺติ, อิติ เนสํ อกุสลเวทนา อุปฺปชฺชติ. วิปากเวทนา ปน ภวนฺตรคตานํเยว โหติ. มิจฺฉาสงฺกปฺปปจฺจยาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ฉนฺทปจฺจยาติอาทีสุ ปน ฉนฺทปจฺจยา อฏฺโลภสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตา เวทนา เวทิตพฺพา, วิตกฺกปจฺจยา ¶ ปมชฺฌานเวทนาว. สฺา ปจฺจยา เปตฺวา ปมชฺฌานํ เสสา ฉ สฺาสมาปตฺติเวทนา.
ฉนฺโท จ อวูปสนฺโตติอาทีสุ ติณฺณํ อวูปสเม อฏฺโลภสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตา เวทนา โหติ, ฉนฺทมตฺตสฺส วูปสเม ปมชฺฌานเวทนาว. ฉนฺทวิตกฺกานํ วูปสเม ทุติยชฺฌานาทิเวทนา อธิปฺเปตา, ติณฺณมฺปิ วูปสเม เนวสฺานาสฺายตนเวทนา. อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยาติ อรหตฺตผลสฺส ปตฺตตฺถาย. อตฺถิ อายามนฺติ อตฺถิ วีริยํ. ตสฺมิมฺปิ าเน อนุปฺปตฺเตติ ตสฺส วีริยารมฺภสฺส วเสน ตสฺส อรหตฺตผลสฺส การเณ อนุปฺปตฺเต. ตปฺปจฺจยาปิ เวทยิตนฺติ อรหตฺตสฺส านปจฺจยา เวทยิตํ. เอเตน จตุมคฺคสหชาตา นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรเวทนาว คหิตา.
๒. ทุติยวิหารสุตฺตวณฺณนา
๑๒. ทุติเย ปฏิสลฺลานการณํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. มิจฺฉาทิฏฺิวูปสมปจฺจยาติ มิจฺฉาทิฏฺิวูปสโม นาม สมฺมาทิฏฺิ. ตสฺมา ยํ สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา เวทยิตํ วุตฺตํ, ตเทว มิจฺฉาทิฏฺิวูปสมปจฺจยา ¶ เวทิตพฺพํ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต วิปากเวทนํ อติทูเรติ มฺมานา น คณฺหนฺตีติ วุตฺตํ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยสฺส ยสฺส หิ วูปสมปจฺจยาติ วุจฺจติ, ตสฺส ตสฺส ปฏิปกฺขธมฺมปจฺจยาว ตํ ตํ เวทยิตํ อธิปฺเปตํ. ฉนฺทวูปสมปจฺจยาติอาทีสุ ¶ ปน ฉนฺทวูปสมปจฺจยา ตาว ปมชฺฌานเวทนา เวทิตพฺพา. วิตกฺกวูปสมปจฺจยา ทุติยชฺฌานเวทนา. สฺาปจฺจยา ฉสมาปตฺติเวทนา. สฺาวูปสมปจฺจยา เนวสฺานาสฺายตนเวทนา. ฉนฺโท จ วูปสนฺโตติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว.
๓-๗. เสกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๓-๑๗. ตติเย เสกฺโขติ สิกฺขนสีโล. กึ สิกฺขตีติ? ติสฺโส สิกฺขา. เสกฺขายาติ ตีหิ ผเลหิ จตูหิ จ มคฺเคหิ สทฺธึ อุปฺปนฺนาย. สาปิ หิ อนิฏฺิตกิจฺจตฺตา อตฺตโน กิจฺจํ สิกฺขเตวาติ เสกฺขา. จตุตฺถปฺจมฉฏฺสตฺตมานิ อุตฺตานตฺถาเนวาติ.
๘-๑๐. ปมกุกฺกุฏารามสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๘-๒๐. อฏฺเม ¶ อุมฺมงฺโคติ ปฺาอุมฺมงฺโค, ปฺาวีมํสนํ, ปฺาคเวสนนฺติ อตฺโถ. เอวฺหิ ตฺวํ อาวุโสติ อิทํ ตสฺส ปุจฺฉาปติฏฺาปนตฺถาย อาห. นวมทสมานิ อุตฺตานตฺถาเมวาติ.
วิหารวคฺโค ทุติโย.
๓. มิจฺฉตฺตวคฺควณฺณนา
๒๑-๓๐. ตติยวคฺคสฺส ปเม มิจฺฉตฺตนฺติ มิจฺฉาสภาวํ. สมฺมตฺตนฺติ สมฺมาสภาวํ. มิจฺฉาปฏิปตฺตาธิกรณเหตูติ มิจฺฉาปฏิปตฺติกรณเหตุ. ยสฺมา มิจฺฉาปฏิปตฺตึ กโรติ, ตสฺมาติ อตฺโถ. นาราธโกติ ¶ น สมฺปาทโก. ายํ ธมฺมนฺติ อริยมคฺคธมฺมํ. มิจฺฉาาณีติ มิจฺฉาวิฺาโณ มิจฺฉาปจฺจเวกฺขโณ. มิจฺฉาวิมุตฺตีติ อยาถาววิมุตฺติ, อนิยฺยานิกวิมุตฺติ. อิเมสุ ตติยาทีสุ จตูสุ สุตฺเตสุ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ, ปจฺฉิเมสุ ปเนตฺถ ทฺวีสุ ปุคฺคโล ปุจฺฉิโต ธมฺโม วิภตฺโต, เอวํ ธมฺเมน ปุคฺคโล ทสฺสิโตติ. สุปฺปวตฺติโยติ สุปฺปวตฺตนิโย. ยถา อิจฺฉิติจฺฉิตํ ¶ ทิสํ ปวตฺเตนฺโต ธาวติ, เอวํ ปวตฺเตตุํ สกฺกา โหตีติ อตฺโถ. สอุปนิสํ สปริกฺขารนฺติ สปฺปจฺจยํ สปริวารํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
มิจฺฉตฺตวคฺโค ตติโย.
๔. ปฏิปตฺติวคฺควณฺณนา
๓๑-๔๐. จตุตฺเถ มิจฺฉาปฏิปตฺตินฺติ อยาถาวปฏิปตฺตึ. มิจฺฉาปฏิปนฺนนฺติ อยาถาวปฏิปนฺนํ. อิติ เอกํ สุตฺตํ ธมฺมวเสน กถิตํ, เอกํ ปุคฺคลวเสน. อปารา ปารนฺติ วฏฺฏโต นิพฺพานํ. ปารคามิโนติ เอตฺถ เยปิ ปารงฺคตา, เยปิ คจฺฉนฺติ, เยปิ คมิสฺสนฺติ, สพฺเพ ปารคามิโนตฺเวว เวทิตพฺพา.
ตีรเมวานุธาวตีติ วฏฺฏเมว อนุธาวติ, วฏฺเฏ วิจรติ. กณฺหนฺติ อกุสลธมฺมํ. สุกฺกนฺติ กุสลธมฺมํ. โอกา อโนกนฺติ วฏฺฏโต นิพฺพานํ. อาคมฺมาติ ¶ อารพฺภ สนฺธาย ปฏิจฺจ. ปริโยทเปยฺยาติ ปริสุทฺธํ กเรยฺย. จิตฺตกฺเลเสหีติ จิตฺตํ กิลิสฺสาเปนฺเตหิ นีวรเณหิ. สมฺโพธิยงฺเคสูติ สตฺตสุ โพชฺฌงฺเคสุ.
สามฺตฺถนฺติ นิพฺพานํ. ตฺหิ สามฺเน อุปคนฺตพฺพโต สามฺตฺโถติ วุจฺจติ. พฺรหฺมฺนฺติ เสฏฺภาวํ. พฺรหฺมฺตฺถนฺติ นิพฺพานํ พฺรหฺมฺเน อุปคนฺตพฺพโต. ยตฺถ ยตฺถ ปน เหฏฺา จ อิเมสุ จ ตีสุ สุตฺเตสุ ‘‘ราคกฺขโย’’ติ อาคตํ, ตตฺถ ตตฺถ อรหตฺตมฺปิ วฏฺฏติเยวาติ วทนฺติ.
ปฏิปตฺติวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. อฺติตฺถิยเปยฺยาลวคฺควณฺณนา
๔๑-๔๘. อฺติตฺถิยเปยฺยาเล ¶ อทฺธานปริฺตฺถนฺติ สํสารทฺธานํ นิพฺพานํ ปตฺวา ปริฺาตํ ¶ นาม โหติ. ตสฺมา นิพฺพานํ ‘‘อทฺธานปริฺา’’ติ วุจฺจติ, ตทตฺถนฺติ อตฺโถ. อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถนฺติ อปจฺจยปรินิพฺพานตฺถํ. อิติ อิมสฺมึ เปยฺยาเล วิชฺชาวิมุตฺติผเลน อรหตฺตํ กถิตํ. าณทสฺสเนน ปจฺจเวกฺขณา, เสเสหิ นิพฺพานนฺติ.
อฺติตฺถิยเปยฺยาลวคฺโค.
๖. สูริยเปยฺยาลวคฺควณฺณนา
๔๙-๖๒. สูริยเปยฺยาเล อรุณุคฺคํ วิย กลฺยาณมิตฺตตฺตา, กลฺยาณมิตฺตตาย ตฺวา นิพฺพตฺติโต สวิปสฺสนอริยมคฺโค สูริยปาตุภาโว วิยาติ เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สีลสมฺปทาติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. ฉนฺทสมฺปทาติ กุสลกตฺตุกมฺยตาฉนฺโท. อตฺตสมฺปทาติ สมฺปนฺนจิตฺตตา. ทิฏฺิสมฺปทาติ าณสมฺปตฺติ. อปฺปมาทสมฺปทาติ การาปกอปฺปมาทสมฺปตฺติ. โยนิโสมนสิการสมฺปทาติ อุปายมนสิการสมฺปตฺติ. ปุน กลฺยาณมิตฺตตาติอาทีนิ สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ อฺเนปิ อากาเรน ¶ ภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ. สพฺพาเนว เจตานิ สุตฺตานิ ปาฏิเยกฺกํ ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน วุตฺตานีติ.
สูริยเปยฺยาลวคฺโค.
๗. เอกธมฺมเปยฺยาลวคฺคาทิวณฺณนา
๖๓-๑๓๘. เอกธมฺมเปยฺยาโลปิ คงฺคาเปยฺยาโลปิ ปาฏิเยกฺกํ ปุคฺคลชฺฌาสยวเสเนว ตถา ตถา วุตฺเต พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสยวเสน กถิโต.
๘. อปฺปมาทเปยฺยาลวคฺโค
๑. ตถาคตสุตฺตวณฺณนา
๑๓๙. อปฺปมาทเปยฺยาเล เอวเมว โขติ เอตฺถ ยถา สพฺพสตฺตานํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อคฺโค, เอวํ ¶ สพฺเพสํ กุสลธมฺมานํ การาปกอปฺปมาโท อคฺโคติ ทฏฺพฺโพ. นนุ เจส โลกิโยว, กุสลธมฺมา ปน โลกุตฺตราปิ. อยฺจ กามาวจโรว, กุสลธมฺมา ปน จตุภูมกา. กถเมส เตสํ อคฺโคติ? ปฏิลาภกฏฺเน. อปฺปมาเทน หิ เต ปฏิลพฺภนฺติ, ตสฺมา โส เตสํ อคฺโค. เตเนตํ วุตฺตํ สพฺเพ เต อปฺปมาทมูลกาติอาทิ.
๒. ปทสุตฺตวณฺณนา
๑๔๐. ชงฺคลานนฺติ ปถวีตลวาสีนํ. ปาณานนฺติ สปาทกปาณานํ ¶ . ปทชาตานีติ ปทานิ. สโมธานํ คจฺฉนฺตีติ โอธานํ อุปกฺเขปํ คจฺฉนฺติ. อคฺคมกฺขายตีติ เสฏฺํ อกฺขายติ. ยทิทํ มหนฺตตฺเตนาติ มหนฺตภาเวน อคฺคมกฺขายติ, น คุณวเสนาติ อตฺโถ.
๓-๑๐. กูฏสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๔๑-๑๔๘. วสฺสิกนฺติ สุมนปุปฺผํ. อิมํ กิร สุตฺตํ สุตฺวา ภาติยมหาราชา วีมํสิตุกามตาย เอกสฺมึ คพฺเภ จตุชาติคนฺเธหิ ปริภณฺฑํ กาเรตฺวา ¶ สุคนฺธานิ ปุปฺผานิ อาหราเปตฺวา เอกสฺส สมุคฺคสฺส มชฺเฌ สุมนปุปฺผมุฏฺึ เปตฺวา เสสานิ ตสฺส สมนฺตโต มุฏฺิมุฏฺึ กตฺวา เปตฺวา ทฺวารํ ปิธาย พหิ นิกฺขนฺโต. อถสฺส มุหุตฺตํ วีตินาเมตฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา ปวิสนฺตสฺส สพฺพปมํ สุมนปุปฺผคนฺโธ ฆานํ ปหริ. โส มหาตลสฺมึเยว มหาเจติยาภิมุโข นิปชฺชิตฺวา – ‘‘วสฺสิกํ เตสํ อคฺคนฺติ กเถนฺเตน สุกถิตํ สมฺมาสมฺพุทฺเธนา’’ติ เจติยํ วนฺทิ. กุฏฺฏราชาโนติ ขุทฺทกราชาโน. ‘‘ขุทฺทราชาโน’’ติปิ ปาโ. ตนฺตาวุตานนฺติ ตนฺเต อาวุตานํ, ตนฺตํ อาโรเปตฺวา วายิตานนฺติ อตฺโถ. อิทฺจ ปจฺจตฺเต สามิวจนํ. ยานิ กานิจิ ตนฺตาวุตานิ วตฺถานีติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. อถ วา ตนฺตาวุตานํ วตฺถานํ ยานิ กานิจิ วตฺถานีติ เอวํ สาวเสสปานเยนเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
อปฺปมาทวคฺโค อฏฺโม.
๙. พลกรณียวคฺโค
๑. พลสุตฺตวณฺณนา
๑๔๙. พลกรณียวคฺเค ¶ พลกรณียาติ อูรุพลพาหุพเลน กตฺตพฺพา ธาวนลงฺฆนตาปนวหนาทโย กมฺมนฺตา. สีเล ปติฏฺายาติ จตุปาริสุทฺธิสีเล ตฺวา. อฏฺงฺคิกํ มคฺคนฺติ สหวิปสฺสนํ อริยมคฺคํ.
๒. พีชสุตฺตวณฺณนา
๑๕๐. พีชคามภูตคามาติ เอตฺถ ปฺจวิธมฺปิ พีชํ พีชคาโม นาม, ตเทว ปณฺณสมฺปนฺนํ นีลภาวโต ปฏฺาย ภูตคาโมติ เวทิตพฺพํ.
๓. นาคสุตฺตวณฺณนา
๑๕๑. พลํ ¶ คาเหนฺตีติ พลํ คณฺหนฺติ, คหิตพลา ถิรสรีรา โหนฺติ. กุโสพฺเภ โอตรนฺตีติอาทีสุ อยมนุปุพฺพิกถา – นาคินิโย กิร อุตุสมเย ¶ ปติฏฺิตคพฺภา จินฺเตนฺติ – ‘‘สเจ มยํ อิธ วิชายิสฺสาม, เอวํ โน ทารกา อูมิเวคฺจ สุปณฺณสฺส จ ปกฺขนฺทิตฺวา อาคตสฺส เวคํ สหิตุํ น สกฺขิสฺสนฺตี’’ติ ตา มหาสมุทฺเท นิมุชฺชิตฺวา สมฺภชฺชมุขทฺวารํ ปตฺวา ปฺจ มหานทิโย ปวิสิตฺวา หิมวนฺตํ คจฺฉนฺติ. ตตฺถ สุปณฺเณหิ อปกฺขนฺทนียาสุ สุวณฺณรชตมณิคุหาสุ วสมานา วิชายิตฺวา นาคโปตเก โคปฺผกาทิปมาเณสุ อุทเกสุ โอตาเรตฺวา อุทกตรณํ สิกฺขาเปนฺติ.
อถ ยทา อนุกฺกเมน เต นาคา คงฺคาทีนํ นทีนํ โอริมตีรโต ปรตีรํ, ปรตีรโต โอริมตีรนฺติ ตรณปฏิตรณํ กาตุํ สกฺโกนฺติ, ตทา ‘‘อิทานิ โน ทารกา อูมิเวคฺจ ครุฬเวคฺจ สหิตุํ สกฺขิสฺสนฺตี’’ติ ตฺวา อตฺตโน อานุภาเวน มหาเมฆํ สมุฏฺาเปตฺวา สกลหิมวนฺตํ เอโกทกํ วิย กุรุมานา เทวํ วสฺสาเปตฺวา สุวณฺณรชตาทิมยา นาวา มาเปตฺวา อุปริ ¶ สุวณฺณตารกวิจิตฺตํ สโมสริตคนฺธปุปฺผทามํ เจลวิตานํ พนฺธิตฺวา สุรภิจนฺทนคนฺธปุปฺผาทีนิ อาทาย ตาหิ นาวาหิ ปฺจ มหานทิโย โอคาหิตฺวา อนุกฺกเมน มหาสมุทฺทํ ปาปุณนฺติ. ตตฺถ จ วสนฺตา ทสพฺยาม-สตพฺยาม-สหสฺสพฺยาม-สตสหสฺสพฺยาม-ปมาณตํ อาปชฺชนฺตา มหนฺตตฺตํ เวปุลฺลตฺตํ อาปชฺชนฺติ นาม.
เอวเมว โขติ เอตฺถ หิมวนฺตปพฺพโต วิย จตุปาริสุทฺธิสีลํ ทฏฺพฺพํ, นาคโปตกา วิย โยคาวจรา, กุโสพฺภาทโย วิย อริยมคฺโค, มหาสมุทฺโท วิย นิพฺพานํ. ยถา นาคโปตกา หิมวนฺเต ปติฏฺาย กุโสพฺภาทีหิ มหาสมุทฺทํ ปตฺวา กายมหนฺตตฺตํ อาปชฺชนฺติ, เอวํ โยคิโน สีลํ นิสฺสาย สีเล ปติฏฺาย อริยมคฺเคน นิพฺพานํ ปตฺวา อรหตฺตมคฺเคเนว อาคเตสุ ฉสุ อภิฺาธมฺเมสุ คุณสรีรมหนฺตตฺตํ ปาปุณนฺตีติ.
๕. กุมฺภสุตฺตวณฺณนา
๑๕๓. กุมฺโภติ อุทกฆโฏ. โน ปจฺจาวมตีติ น ปติอาวมติ, น อนฺโต ปเวเสตีติ อตฺโถ.
๗. อากาสสุตฺตวณฺณนา
๑๕๕. ปุรตฺถิมาติ ¶ ปุรตฺถิมทิสโต อาคตวาตา. ปจฺฉิมทิสาทีสุปิ เอเสว นโย. จตฺตาโรปิ สติปฏฺานาติ ยเถว หิ เอเตสํ ¶ ปุรตฺถิมาทิเภทานํ วาตานํ สนฺนิปาโต อากาเส อิชฺฌติ, เอวํ อิธาปิ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตา โพธิปกฺขิยธมฺมา สหวิปสฺสนสฺส อริยมคฺคสฺส ภาวนาย อิชฺฌนฺติ, เตเนตํ วุตฺตํ.
๘-๙. ปมเมฆสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๕๖-๑๕๗. คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเสติ อาสาฬฺหมาเส. อูหตนฺติ ทฺวิปทจตุปฺปทานํ ปาทปฺปหาเรน ปถวีตเล อุฏฺหิตฺวา อุทฺธํ คตํ วฏฺฏิวฏฺฏิ หุตฺวา อากาเส ปกฺขนฺตํ. รโชชลฺลนฺติ ปํสุรโชชลฺลํ.
๑๐. นาวาสุตฺตวณฺณนา
๑๕๘. สามุทฺทิกาย ¶ นาวายาติอาทิ เหฏฺา วาณิชโกปเม วิตฺถาริตเมว.
๑๑-๑๒. อาคนฺตุกสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๕๙-๑๖๐. อาคนฺตุกาคารนฺติ ปฺุตฺถิเกหิ นครมชฺเฌ กตํ อาคนฺตุกฆรํ, ยตฺถ ราชราชมหามตฺเตหิปิ สกฺกา โหติ นิวาสํ อุปคนฺตุํ. อภิฺา ปริฺเยฺยาติ ยเถว หิ เตสํ ปุรตฺถิมทิสาทีหิ อาคตานํ ขตฺติยาทีนํ วาโส อาคนฺตุกาคาเร อิชฺฌติ, เอวํ อิเมสํ อภิฺาปริฺเยฺยาติอาทีนํ ธมฺมานํ อภิฺาปริชานนาทีหิ สหวิปสฺสนสฺส อริยมคฺคสฺส ภาวนาย อิชฺฌนฺติ, เตเนตํ วุตฺตํ. นทีสุตฺตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมวาติ.
พลกรณียวคฺโค นวโม.
๑๐. เอสนาวคฺโค
๑. เอสนาสุตฺตวณฺณนา
๑๖๑. เอสนาวคฺเค ¶ กาเมสนาติ กามานํ เอสนา คเวสนา มคฺคนา ปตฺถนา. ภเวสนาติ ภวานํ เอสนา. พฺรหฺมจริเยสนาติ มิจฺฉาทิฏฺิสงฺขาตสฺส พฺรหฺมจริยสฺส เอสนา.
๒-๑๑. วิธาสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๖๒-๑๗๑. วิธาติ มานโกฏฺาสา มานปนา วา. เสยฺโยหมสฺมีติ วิธาติ อหมสฺมิ เสยฺโยติ เอวํ มานโกฏฺาโส มานปนา วา. นีฆาติ ทุกฺขา. วจนตฺโถ ปเนตฺถ ยสฺส อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ ปุริสํ นีหนนฺตีติ นีฆา. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
เอสนาวคฺโค ทสโม.
๑๑. โอฆวคฺโค
๑-๒. โอฆสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๗๒-๑๗๓. โอฆวคฺเค ¶ ¶ กาโมโฆติ ปฺจสุ กามคุเณสุ ฉนฺทราโค. ภโวโฆติ รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค. ทิฏฺโโฆติ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย. อวิชฺโชโฆติ จตูสุ สจฺเจสุ อฺาณํ. กามโยคาทีสุปิ เอเสว นโย.
๓-๔. อุปาทานสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๗๔-๑๗๕. กามุปาทานนฺติ กามคฺคหณํ. ทิฏฺุปาทานาทีสุปิ เอเสว นโย. คนฺถาติ คนฺถนา ฆฏนา. กายคนฺโถติ นามกายสฺส คนฺโถ คนฺถนฆฏนกิเลโส. อิทํสจฺจาภินิเวโสติ อนฺตคฺคาหิกทิฏฺิวเสน อุปฺปนฺโน ‘‘อิทเมว สจฺจ’’นฺติ เอวํ อภินิเวโส.
๕-๑๐. อนุสยสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๗๖-๑๘๑. กามราคานุสโยติ ¶ ถามคตฏฺเน กามราโคว อนุสโย กามราคานุสโย. เสเสสุปิ เอเสว นโย. โอรมฺภาคิยานีติ เหฏฺาโกฏฺาสิยานิ. สํโยชนานีติ พนฺธนานิ. อุทฺธมฺภาคิยานีติ อุปริโกฏฺาสิยานิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
โอฆวคฺโค เอกาทสโม.
มคฺคสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.