📜

๒. โพชฺฌงฺคสํยุตฺตํ

๑. ปพฺพตวคฺโค

๑. หิมวนฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๘๒. โพชฺฌงฺคสํยุตฺตสฺส ปเม นาคาติ อิเมปิ มหาสมุทฺทปิฏฺเ อูมิอนฺตรวาสิโนว, น วิมานฏฺกนาคา. เตสํ หิมวนฺตํ นิสฺสาย กายวฑฺฒนาทิสพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. โพชฺฌงฺเคติ เอตฺถ โพธิยา, โพธิสฺส วา องฺคาติ โพชฺฌงฺคา. กึ วุตฺตํ โหติ? ยา หิ อยํ ธมฺมสามคฺคี, ยาย โลกิยโลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อุปฺปชฺชมานาย ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหน กามสุขตฺตกิลมถานุโยคอุจฺเฉทสสฺสตาภินิเวสาทีนํ อเนเกสํ อุปทฺทวานํ ปฏิปกฺขภูตาย สติธมฺมวิจยวีริยปีติปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสงฺขาตาย ธมฺมสามคฺคิยา อริยสาวโก พุชฺฌตีติ กตฺวา โพธีติ วุจฺจติ. พุชฺฌตีติ กิเลสสนฺตานนิทฺทาย อุฏฺหติ, จตฺตาริ วา อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, นิพฺพานเมว วา สจฺฉิกโรตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘สตฺต โพชฺฌงฺเค ภาเวตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๗๘; ที. นิ. ๓.๑๔๓). ตสฺสา ธมฺมสามคฺคิสงฺขาตาย โพธิยา องฺคาติ โพชฺฌงฺคา ฌานงฺคมคฺคงฺคาทโย วิย. โยเปส ยถาวุตฺตปฺปการาย เอตาย ธมฺมสามคฺคิยา พุชฺฌตีติ กตฺวา อริยสาวโก โพธีติ วุจฺจติ, ตสฺส โพธิสฺส องฺคาติปิ โพชฺฌงฺคา เสนงฺครถงฺคาทโย วิย. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา – ‘‘พุชฺฌนกสฺส ปุคฺคลสฺส องฺคาติ วา โพชฺฌงฺคา’’ติ.

อปิจ ‘‘โพชฺฌงฺคาติ เกนฏฺเน โพชฺฌงฺคา? โพธาย สํวตฺตนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, พุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, อนุพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, ปฏิพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, สมฺพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา’’อิจฺจาทินา (ปฏิ. ม. ๒.๑๗) ปฏิสมฺภิทานเยนาปิ โพชฺฌงฺคตฺโถ เวทิตพฺโพ.

สติสมฺโพชฺฌงฺคนฺติอาทีสุ ปน ปสตฺโถ สุนฺทโร จ โพชฺฌงฺโคติ สมฺโพชฺฌงฺโค. สติเยว สมฺโพชฺฌงฺโคติ สติสมฺโพชฺฌงฺโค, ตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคนฺติ เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ, อตฺตโน จิตฺตสนฺตาเน ปุนปฺปุนํ ชเนติ, อภินิพฺพตฺเตตีติ อตฺโถ. วิเวกนิสฺสิตนฺติอาทีนิ โกสลสํยุตฺเต ‘‘สมฺมาทิฏฺึ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิต’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.

อยํ ปน วิเสโส – ตตฺถ ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ, สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ, นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตนฺติ, วิเวกตฺตยเมว วุตฺตํ, โพชฺฌงฺคภาวนํ ปตฺวา ปน ปฺจวิธวิเวกนิสฺสิตมฺปิ เอเก วณฺณยนฺติ. เต หิ น เกวลํ พลววิปสฺสนามคฺคผลกฺขเณสุ เอว โพชฺฌงฺเค อุทฺธรนฺติ วิปสฺสนาปาทก-กสิณชฺฌาน-อานาปานาสุภ-พฺรหฺมวิหารชฺฌาเนสุปิ อุทฺธรนฺติ, น จ ปฏิสิทฺธา อฏฺกถาจริเยหิ. ตสฺมา เตสํ มเตน เอเตสํ ฌานานํ ปวตฺติกฺขเณ กิจฺจโต เอว วิกฺขมฺภนวิเวกนิสฺสิตํ. ยถา จ วิปสฺสนากฺขเณ ‘‘อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิต’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ ปฏิปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตมฺปิ ภาเวตีติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

๒. กายสุตฺตวณฺณนา

๑๘๓. ทุติเย อาหารฏฺิติโกติ ปจฺจยฏฺิติโก. อาหารํ ปฏิจฺจาติ ปจฺจยํ ปฏิจฺจ. สุภนิมิตฺตนฺติ สุภมฺปิ สุภนิมิตฺตํ, สุภสฺส อารมฺมณมฺปิ สุภนิมิตฺตํ. อโยนิโสมนสิกาโรติ อนุปายมนสิกาโร อุปฺปถมนสิกาโร อนิจฺเจ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ วา, ทุกฺเข ‘‘สุข’’นฺติ, อนตฺตนิ ‘‘อตฺตา’’ติ วา, อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติ วา, มนสิกาโร. ตํ ตสฺมึ สุภารมฺมเณ พหุลํ ปวตฺตยโต กามจฺฉนฺโท อุปฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, สุภนิมิตฺต’’นฺติอาทิ. เอวํ สพฺพนีวรเณสุ โยชนา เวทิตพฺพา.

ปฏิฆนิมิตฺตนฺติอาทีสุ ปน ปฏิโฆปิ ปฏิฆนิมิตฺตํ ปฏิฆารมฺมณมฺปิ. อรตีติ อุกฺกณฺิตา. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ตตฺถ กตมา อรติ? ปนฺเตสุ วา เสนาสเนสุ อฺตรฺตเรสุ วา อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ อรติ อรติตา อนภิรติ อนภิรมนา อุกฺกณฺิตา ปริตสฺสิตา, อยํ วุจฺจติ อรตี’’ติ (วิภ. ๘๕๖).

ตนฺทีติ อติสีตาทิปจฺจยา อุปฺปนฺนํ อาคนฺตุกกายาลสิยํ. ยสฺมึ อุปฺปนฺเน ‘‘อติสีตํ อติอุณฺหํ อติจฺฉาโตสฺมิ อติธาโตสฺมิ อติทูรมคฺคํ คโตสฺมี’’ติ วทติ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ตตฺถ กตมา ตนฺทิ , ยา ตนฺที ตนฺทิยนา ตนฺทิมนกตา อาลสฺยํ อาลสฺยายนา อาลสฺยายิตตฺตํ, อยํ วุจฺจติ ตนฺที’’ติ (วิภ. ๘๕๗).

วิชมฺภิตาติ กิเลสวเสน กายวินมนา. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ตตฺถ กตมา วิชมฺภิตา? ยา กายสฺส ชมฺภนา วิชมฺภนา อานมนา วินมนา สนฺนมนา ปณมนา พฺยาธิยกํ, อยํ วุจฺจติ วิชมฺภิตา’’ติ (วิภ. ๘๕๘).

ภตฺตสมฺมโทติ ภตฺตปริฬาโห. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ตตฺถ กตโม ภตฺตสมฺมโท? ยา ภุตฺตาวิสฺส ภตฺตมุจฺฉา ภตฺตกิลมโถ ภตฺตปริฬาโห กายทุฏฺุลฺลํ, อยํ วุจฺจติ ภตฺตสมฺมโท’’ติ (วิภ. ๘๕๙).

เจตโส จ ลีนตฺตนฺติ จิตฺตสฺส ลียนากาโร, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ตตฺถ กตมํ เจตโส ลีนตฺตํ? ยา จิตฺตสฺส อกลฺยตา อกมฺมฺตา โอลียนา สลฺลียนา ลีนํ ลียนา ลียิตตฺตํ ถินํ ถิยนา ถิยิตตฺตํ จิตฺตสฺส, อิทํ วุจฺจติ เจตโส ลีนตฺต’’นฺติ (วิภ. ๘๖๐).

เจตโส อวูปสโมติ ยถา นาม วีตจฺจิโกปิ องฺคาโร เนว ตาว สนฺนิสีทติ ปตาปํ กโรติเยว, ยถา จ ปตฺตปจนฏฺาเน เนว ตาว สนฺนิสีทติ ปตาปํ กโรติเยว, เอวํ จิตฺตสฺส อวูปสนฺตากาโร, อตฺถโต ปเนตํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจเมว โหติ.

วิจิกิจฺฉฏฺานียา ธมฺมาติ วิจิกิจฺฉาย อารมฺมณธมฺมา. อโยนิโสมนสิกาโร สพฺพตฺถ วุตฺตนโยว. เอวเมตฺถ กามจฺฉนฺโท วิจิกิจฺฉาติ อิเม ทฺเว ธมฺมา อารมฺมเณน กถิตา, พฺยาปาโท อารมฺมเณน จ อุปนิสฺสเยน จ, เสสา สหชาเตน จ อุปนิสฺสเยน จาติ.

สติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมาติ สติยา อารมฺมณธมฺมา สตฺตตึส โพธิปกฺขิยา จ นว โลกุตฺตรธมฺมา จ. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโรติ ตตฺถ อุปายมนสิการสฺส ปุนปฺปุนํ กรณํ.

กุสลากุสลา ธมฺมาติอาทีสุ กุสลาติ โกสลฺลสมฺภูตา อนวชฺชสุขวิปากา. อกุสลาติ อโกสลฺลสมฺภูตา สาวชฺชทุกฺขวิปากา. สาวชฺชาติ อกุสลา. อนวชฺชาติ กุสลา. หีนปณีตกณฺหสุกฺเกสุปิ เอเสว นโย. สปฺปฏิภาคาติ กณฺหสุกฺกาเยว. กณฺหา หิ กณฺหวิปากทานโต , สุกฺกา จ สุกฺกวิปากทานโต สปฺปฏิภาคา นาม, สทิสวิปากโกฏฺาสาติ อตฺโถ. ปฏิปกฺขภูตสฺส วา ภาคสฺส อตฺถิตาย สปฺปฏิภาคา. กณฺหานฺหิ สุกฺกา ปฏิปกฺขภาคา, สุกฺกานฺจ กณฺหา ปฏิปกฺขภาคาติ เอวมฺปิ สปฺปฏิภาคา. สปฺปฏิพาหิตฏฺเน วา สปฺปฏิภาคา. อกุสลฺหิ กุสลํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากํ เทติ, กุสลฺจ อกุสลํ ปฏิพาหิตฺวาติ เอวมฺปิ กณฺหสุกฺกา สปฺปฏิภาคา.

อารมฺภธาตูติ ปมารมฺภวีริยํ. นิกฺกมธาตูติ โกสชฺชโต นิกฺขนฺตตฺตา ตโต พลวตรํ. ปรกฺกมธาตูติ ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนตาย ตโตปิ พลวตรนฺติ ตีหิปิ ปเทหิ วีริยเมว กถิตํ.

ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียาติ ปีติยา อารมฺมณธมฺมา. กายปสฺสทฺธีติ ติณฺณํ ขนฺธานํ ทรถปสฺสทฺธิ. จิตฺตปสฺสทฺธีติ วิฺาณกฺขนฺธสฺส ทรถปสฺสทฺธิ. สมถนิมิตฺตนฺติ สมโถปิ สมถนิมิตฺตํ, อารมฺมณมฺปิ. อพฺยคฺคนิมิตฺตนฺติ ตสฺเสว เววจนํ.

อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียาติ อุเปกฺขาย อารมฺมณธมฺมา, อตฺถโต ปน มชฺฌตฺตากาโร อุเปกฺขาฏฺานียา ธมฺโมติ เวทิตพฺโพ. เอวเมตฺถ สติธมฺมวิจยอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคา อารมฺมเณน กถิตา, เสสา อารมฺมเณนปิ อุปนิสฺสเยนปิ.

๓. สีลสุตฺตวณฺณนา

๑๘๔. ตติเย สีลสมฺปนฺนาติ เอตฺถ ขีณาสวสฺส โลกิยโลกุตฺตรสีลํ กถิตํ, เตน สมฺปนฺนาติ อตฺโถ. สมาธิปฺาสุปิ เอเสว นโย. วิมุตฺติ ปน ผลวิมุตฺติเยว. วิมุตฺติาณทสฺสนํ ปจฺจเวกฺขณาณํ. เอวเมตฺถ สีลาทโย ตโย โลกิยโลกุตฺตรา, วิมุตฺติ โลกุตฺตราว, วิมุตฺติาณทสฺสนํ โลกิยเมว.

ทสฺสนมฺปาหนฺติ ทสฺสนมฺปิ อหํ. ตํ ปเนตํ ทสฺสนํ – จกฺขุทสฺสนํ, าณทสฺสนนฺติ ทุวิธํ. ตตฺถ ปสนฺเนหิ จกฺขูหิ อริยานํ ทสฺสนํ โอโลกนํ จกฺขุทสฺสนํ นาม. อริเยหิ ปน ทิฏฺสฺส ลกฺขณสฺส ทสฺสนํ, ปฏิวิทฺธสฺส จ ปฏิวิชฺฌนํ ฌาเนน วา วิปสฺสนาย วา มคฺคผเลหิ วา าณทสฺสนํ นาม. อิมสฺมึ ปเนตฺถ จกฺขุทสฺสนํ อธิปฺเปตํ. อริยานฺหิ ปสนฺเนหิ จกฺขูหิ โอโลกนมฺปิ พหุการเมว. สวนนฺติ ‘‘อสุโก นาม ขีณาสโว อสุกสฺมึ นาม รฏฺเ วา ชนปเท วา คาเม วา นิคเม วา วิหาเร วา เลเณ วา วสตี’’ติ กเถนฺตานํ โสเตน สวนํ, เอตมฺปิ พหุการเมว. อุปสงฺกมนนฺติ ‘‘ทานํ วา ทสฺสามิ, ปฺหํ วา ปุจฺฉิสฺสามิ, ธมฺมํ วา โสสฺสามิ, สกฺการํ วา กริสฺสามี’’ติ เอวรูเปน จิตฺเตน อริยานํ อุปสงฺกมนํ. ปยิรุปาสนนฺติ ปฺหาปยิรุปาสนํ. อริยานํ คุเณ สุตฺวา เต อุปสงฺกมิตฺวา นิมนฺเตตฺวา ทานํ ทตฺวา ‘‘กึ, ภนฺเต, กุสล’’นฺติอาทินา นเยน ปฺหปุจฺฉนนฺติ อตฺโถ.

อนุสฺสตินฺติ รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ นิสินฺนสฺส ‘‘อิทานิ อริยา เลณคุหมณฺฑปาทีสุ ฌานวิปสฺสนามคฺคผลสุเขหิ วีตินาเมนฺตี’’ติ อนุสฺสรณํ. โย วา เตสํ สนฺติเก โอวาโท ลทฺโธ โหติ, ตํ อาวชฺชิตฺวา ‘‘อิมสฺมึ าเน สีลํ กถิตํ, อิมสฺมึ สมาธิ, อิมสฺมึ วิปสฺสนา, อิมสฺมึ มคฺโค, อิมสฺมึ ผล’’นฺติ เอวํ อนุสฺสรณํ. อนุปพฺพชฺชนฺติ อริเยสุ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา ฆรา นิกฺขมฺม เตสํ สนฺติเก ปพฺพชฺชํ. อริยานฺหิ สนฺติเก จิตฺตํ ปสาเทตฺวา เตสํเยว สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา เตสํเยว โอวาทานุสาสนึ ปจฺจาสีสมานสฺส จรโตปิ ปพฺพชฺชา อนุปพฺพชฺชา นาม. อริเยสุ ปสาเทน อฺตฺถ ปพฺพชิตฺวา อริยานํ สนฺติเก โอวาทานุสาสนึ ปจฺจาสีสมานสฺส จรโต ปพฺพชฺชาปิ อนุปพฺพชฺชา นาม. อฺเสุ ปน ปสาเทน อฺเสํเยว สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อฺเสํเยว โอวาทานุสาสนึ ปจฺจาสีสมานสฺส จรโต ปพฺพชฺชา อนุปพฺพชฺชา นาม น โหติ.

เอวํ ปพฺพชิเตสุ ปน มหากสฺสปตฺเถรสฺส ตาว อนุปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตา สตสหสฺสมตฺตา อเหสุํ, ตถา เถรสฺเสว สทฺธิวิหาริกสฺส จ จนฺทคุตฺตตฺเถรสฺส, ตสฺสาปิ สทฺธิวิหาริกสฺส สูริยคุตฺตตฺเถรสฺส, ตสฺสาปิ สทฺธิวิหาริกสฺส อสฺสคุตฺตตฺเถรสฺส, ตสฺสาปิ สทฺธิวิหาริกสฺส โยนกธมฺมรกฺขิตตฺเถรสฺส , ตสฺส ปน สทฺธิวิหาริโก อโสกรฺโ กนิฏฺภาตา ติสฺสตฺเถโร นาม อโหสิ, ตสฺส อนุปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตา อฑฺฒเตยฺยโกฏิสงฺขา อเหสุํ. มหินฺทตฺเถรสฺส อนุปพฺพชิตานํ คณนปริจฺเฉโท นตฺถิ. ยาวชฺชทิวสา ลงฺกาทีเป สตฺถริ ปสาเทน ปพฺพชนฺตา มหินฺทตฺเถรสฺเสว ปพฺพชฺชํ อนุปพฺพชนฺติ นาม.

ตํธมฺมนฺติ ตํ เตสํ โอวาทานุสาสนีธมฺมํ. อนุสฺสรตีติ สรติ. อนุวิตกฺเกตีติ วิตกฺกาหตํ กโรติ. อารทฺโธ โหตีติ ปริปุณฺโณ โหติ. ปวิจินตีติอาทิ สพฺพํ ตตฺถ าณจารวเสเนว วุตฺตํ. อถ วา ปวิจินตีติ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ลกฺขณํ วิจินติ. ปวิจรตีติ ตตฺถ าณํ จราเปติ. ปริวีมํสมาปชฺชตีติ วีมํสนํ โอโลกนํ คเวสนํ อาปชฺชติ.

สตฺต ผลา สตฺตานิสํสาติ อุภยมฺเปตํ อตฺถโต เอกํ. ทิฏฺเว ธมฺเม ปฏิกจฺจ อฺํ อาราเธตีติ อรหตฺตํ อาราเธนฺโต อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว อาราเธติ, ตฺจ โข ปฏิกจฺจ, อสมฺปตฺเตเยว มรณกาเลติ อตฺโถ. อถ มรณกาเลติ อถ มรณสฺส อาสนฺนกาเล.

อนฺตราปรินิพฺพายีติ โย อายุเวมชฺฌํ อนติกฺกมิตฺวา ปรินิพฺพายติ, โส ติวิโธ โหติ. กปฺปสหสฺสายุเกสุ ตาว อวิเหสุ นิพฺพตฺติตฺวา เอโก นิพฺพตฺตทิวเสเยว อรหตฺตํ ปาปุณาติ. โน เจ นิพฺพตฺตทิวเส ปาปุณาติ, ปมสฺส ปน กปฺปสตสฺส มตฺถเก ปาปุณาติ. อยเมโก อนฺตราปรินิพฺพายี. อปโร เอวํ อสกฺโกนฺโต ทฺวินฺนํ กปฺปสตานํ มตฺถเก ปาปุณาติ, อยํ ทุติโย. อปโร เอวมฺปิ อสกฺโกนฺโต จตุนฺนํ กปฺปสตานํ มตฺถเก ปาปุณาติ, อยํ ตติโย อนฺตราปรินิพฺพายี.

ปฺจมํ ปน กปฺปสตํ อติกฺกมิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต อุปหจฺจปรินิพฺพายี นาม โหติ. อตปฺปาทีสุปิ เอเสว นโย. ยตฺถ กตฺถจิ อุปฺปนฺโน ปน สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน อรหตฺตํ ปตฺโต สสงฺขารปรินิพฺพายี นาม, อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน ปตฺโต อสงฺขารปรินิพฺพายี นาม. อวิหาทีสุปิ นิพฺพตฺโต ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา อุปรูปริ นิพฺพตฺติตฺวา อกนิฏฺํ ปตฺโต อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี นาม.

อิมสฺมึ ปน าเน อฏฺจตฺตารีส อนาคามิโน กเถตพฺพา. อวิเหสุ หิ ตโย อนฺตราปรินิพฺพายี, เอโก อุปหจฺจปรินิพฺพายี, เอโก อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามีติ ปฺจ โหนฺติ. เต อสงฺขารปรินิพฺพายิโน ปฺจ, สสงฺขารปรินิพฺพายิโน ปฺจาติ ทส โหนฺติ, ตถา อตปฺปาทีสุ. อกนิฏฺเสุ ปน อุทฺธํโสโต นตฺถิ, ตสฺมา ตตฺถ จตฺตาโร สสงฺขารปรินิพฺพายี, จตฺตาโร อสงฺขารปรินิพฺพายีติ อฏฺาติ เอวํ อฏฺจตฺตาลีส โหนฺติ. เตสํ อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี สพฺพเชฏฺโ เจว โหติ สพฺพกนิฏฺโ จ. กถํ? โส หิ โสฬสกปฺปสหสฺสายุกตฺตา อายุนา สพฺเพสํ เชฏฺโ, สพฺพปจฺฉา อรหตฺตํ ปาปุณีติ สพฺเพสํ กนิฏฺโ. อิมสฺมึ สุตฺเต อปุพฺพํ อจริมํ เอกจิตฺตกฺขณิกา นานาลกฺขณา อรหตฺตมคฺคสฺส ปุพฺพภาควิปสฺสนา โพชฺฌงฺคา กถิตา.

๔. วตฺถสุตฺตวณฺณนา

๑๘๕. จตุตฺเถ สติสมฺโพชฺฌงฺโค อิติ เจ เม โหตีติ สติสมฺโพชฺฌงฺโคติ เอวํ เจ มยฺหํ โหติ. อปฺปมาโณติ เม โหตีติ อปฺปมาโณติ เอวํ เม โหติ. สุสมารทฺโธติ สุปริปุณฺโณ. ติฏฺตีติ เอตฺถ อฏฺหากาเรหิ สติสมฺโพชฺฌงฺโค ติฏฺติ – อุปฺปาทํ อนาวชฺชิตตฺตา อนุปฺปาทํ อาวชฺชิตตฺตา สติสมฺโพชฺฌงฺโค ติฏฺติ, ปวตฺตํ, อปฺปวตฺตํ, นิมิตฺตํ, อนิมิตฺตํ สงฺขาเร อนาวชฺชิตตฺตา, วิสงฺขารํ อาวชฺชิตตฺตา สติสมฺโพชฺฌงฺโค ติฏฺตีติ. อิเมหิ อฏฺหากาเรหิ ติฏฺตีติ เถโร ชานาติ, วุตฺตาการวิปรีเตเหว อฏฺหากาเรหิ จวนฺตํ จวตีติ ปชานาติ. เสสโพชฺฌงฺเคสุปิ เอเสว นโย.

อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต เถรสฺส ผลโพชฺฌงฺคา กถิตา. ยทา หิ เถโร สติสมฺโพชฺฌงฺคํ สีสํ กตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, ตทา อิตเร ฉ ตทนฺวยา โหนฺติ. ยทา ธมฺมวิจยาทีสุ อฺตรํ, ตทาปิ เสสา ตทนฺวยา โหนฺตีติ เอวํ ผลสมาปตฺติยํ อตฺตโน จิณฺณวสิตํ ทสฺเสนฺโต เถโร อิมํ สุตฺตํ กเถสีติ.

๕. ภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา

๑๘๖. ปฺจเม โพธาย สํวตฺตนฺตีติ พุชฺฌนตฺถาย สํวตฺตนฺติ. กึ พุชฺฌนตฺถาย? มคฺเคน อสงฺขตํ นิพฺพานํ, ปจฺจเวกฺขณาย กตกิจฺจตํ, มคฺเคน วา กิเลสนิทฺทาโต ปพุชฺฌนตฺถาย, ผเลน ปพุชฺฌนภาวตฺถายาติปิ วุตฺตํ โหติ. เตเนเวตฺถ นิพฺพานสจฺฉิกิริยา กิเลสปหานปจฺจเวกฺขณาติ สพฺพํ ทสฺสิตํ.

๖-๗. กุณฺฑลิยสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๘๗-๑๘๘. ฉฏฺเ อารามนิสฺสยีติ อารามํ นิสฺสาย วสนภาเวน อารามนิสฺสยี. ปริสาวจโรติ ปริสาย อวจโร. ปริสํ นาม พาลาปิ, ปณฺฑิตาปิ โอสรนฺติ, โย ปน ปรปฺปวาทํ มทฺทิตฺวา อตฺตโน วาทํ ทีเปตุํ สกฺโกติ, อยํ ปริสาวจโร นาม. อาราเมน อารามนฺติ อาราเมเนว อารามํ อนุจงฺกมามิ, น พาหิเรนาติ อตฺโถ. อุยฺยาเนน อุยฺยานนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อฺเน วา อาราเมน ปวิสิตฺวา อฺํ อารามํ, อฺเน อุยฺยาเนน อฺํ อุยฺยานนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสนฺติ ‘‘เอวํ ปุจฺฉา โหติ, เอวํ วิสฺสชฺชนํ, เอวํ คหณํ, เอวํ นิพฺเพน’’นฺติ อิมินา นเยน อิติวาโท โหติ อิติวาทปฺปโมกฺโขติ เอตํ อานิสํสํ. อุปารมฺภานิสํสนฺติ ‘‘อยํ ปุจฺฉาย โทโส, อยํ วิสฺสชฺชเน’’ติ เอวํ วาทโทสานิสํสํ.

กถํ ภาวิโต จ, กุณฺฑลิย, อินฺทฺริยสํวโรติ สตฺถา ‘‘เอตฺตกํ านํ ปริพฺพาชเกน ปุจฺฉิตํ, อิทานิ ปุจฺฉิตุํ น สกฺโกตี’’ติ ตฺวา ‘‘น ตาว อยํ เทสนา ยถานุสนฺธึ คตา. อิทานิ นํ ยถานุสนฺธึ ปาเปสฺสามี’’ติ สยเมว ปุจฺฉนฺโต อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ มนาปํ นาภิชฺฌตีติ อิฏฺารมฺมณํ นาภิชฺฌายติ. นาภิหํสตีติ น สามิสาย ตุฏฺิยา อภิหํสติ. ตสฺส ิโต จ กาโย โหติ, ิตํ จิตฺตํ อชฺฌตฺตนฺติ ตสฺส นามกาโย จ จิตฺตฺจ โคจรชฺฌตฺเต ิตํ โหติ. สุสณฺิตนฺติ กมฺมฏฺานวเสน สุฏฺุ สณฺิตํ. สุวิมุตฺตนฺติ กมฺมฏฺานวิมุตฺติยา สุวิมุตฺตํ. อมนาปนฺติ อนิฏฺารมฺมณํ. น มงฺกุ โหตีติ ตสฺมึ น มงฺกุ โหติ. อปฺปติฏฺิตจิตฺโตติ กิเลสวเสน อฏฺิตจิตฺโต. อทีนมานโสติ โทมนสฺสวเสน อทีนจิตฺโต. อพฺยาปนฺนเจตโสติ โทสวเสน อปูติจิตฺโต.

เอวํ ภาวิโต โข, กุณฺฑลิย, อินฺทฺริยสํวโร เอวํ พหุลีกโต ตีณิ สุจริตานิ ปริปูเรตีติ เอตฺถ เอวํ สุจริตปูรณํ เวทิตพฺพํ – อิเมสุ ตาว ฉสุ ทฺวาเรสุ อฏฺารส ทุจฺจริตานิ โหนฺติ. กถํ? จกฺขุทฺวาเร ตาว อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา ตสฺมึ อารมฺมเณ โลภํ อุปฺปาเทนฺตสฺส มโนทุจฺจริตํ โหติ. โลภสหคเตน จิตฺเตน ‘‘อโห วติทํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาป’’นฺติ ภณนฺตสฺส วจีทุจฺจริตํ, ตเทว หตฺเถน ปรามสนฺตสฺส กายทุจฺจริตํ. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย.

อยํ ปน วิเสโส – โสตทฺวารสฺมิฺหิ สทฺทารมฺมณสฺส วตฺถุภูตํ สงฺขปณวาทิตูริยภณฺฑํ อนามาสํ อามสนฺตสฺส, ฆานทฺวาเร คนฺธารมฺมณสฺส วตฺถุภูตํ คนฺธมาลาทึ, ชิวฺหาทฺวาเร รสารมฺมณสฺส วตฺถุภูตํ มจฺฉมํสาทึ, กายทฺวาเร โผฏฺพฺพารมฺมณสฺส วตฺถุภูตํ วตฺถตูลกปาวาราทึ, มโนทฺวาเร ปฺตฺติวเสน ธมฺมารมฺมณภูตํ สปฺปิเตลมธุผาณิตาทึ อามสนฺตสฺส กายทุจฺจริตํ เวทิตพฺพํ. สงฺเขปโต ปเนตฺถ ฉสุ ทฺวาเรสุ กายวีติกฺกโม กายทุจฺจริตํ, วจีวีติกฺกโม วจีทุจฺจริตํ, มโนวีติกฺกโม มโนทุจฺจริตนฺติ ตีเณว ทุจฺจริตานิ โหนฺติ.

อยํ ปน ภิกฺขุ อตฺตโน ภาวนาปฏิสงฺขาเน ิโต อิมานิ ทุจฺจริตานิ สุจริตํ กตฺวา วิปริณาเมติ. กถํ? จกฺขุทฺวาเร ตาว อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต กายงฺควาจงฺคานิ อจาเลตฺวา รูปารมฺมณํ วิปสฺสนํ ปฏฺาปยโต มโนสุจริตํ โหติ, วิปสฺสนาสหคเตน จิตฺเตน ขยธมฺมํ วยธมฺมนฺติ ภณนฺตสฺส วจีสุจริตํ, ‘‘อนามาสภณฺฑํ เอต’’นฺติ อนามสนฺตสฺส กายสุจริตํ. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. เอวํ อิมานิ วิตฺถารโต อฏฺารส สุจริตานิ โหนฺติ. สงฺเขปโต ปเนตฺถาปิ ฉสุ ทฺวาเรสุ กายสํวโร กายสุจริตํ, วจีสํวโร วจีสุจริตํ, มโนสํวโร มโนสุจริตนฺติ ตีเณว สุจริตานิ โหนฺติ. เอวํ อินฺทฺริยสํวโร ตีณิ สุจริตานิ ปริปูเรตีติ เวทิตพฺโพ. เอตฺตาวตา สีลานุรกฺขิตํ อินฺทฺริยสํวรสีลํ กถิตํ.

กายทุจฺจริตํ ปหายาติอาทีสุ ติวิธํ กายทุจฺจริตํ, จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ, ติวิธํ มโนทุจฺจริตํ. ตสฺส ปฏิปกฺขวเสน กายสุจริตาทีนิ เวทิตพฺพานิ. เอตฺตาวตา กายสํวรวจีสํวเรหิ ปาติโมกฺขสีลํ, มโนสํวเรน ตีณิ สีลานีติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ กถิตํ โหติ. สกเล ปน อิมสฺมึ สุตฺเต สุจริตมูลกา สติปฏฺานา โลกุตฺตรมิสฺสกา, สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ มูลภูตา สติปฏฺานา ปุพฺพภาคา, เตปิ สติปฏฺานมูลกา โพชฺฌงฺคา ปุพฺพภาคาว. วิชฺชาวิมุตฺติมูลกา ปน โลกุตฺตราว กถิตาติ เวทิตพฺพา. สตฺตมํ อุตฺตานเมว.

๘. อุปวานสุตฺตวณฺณนา

๑๘๙. อฏฺเม ปจฺจตฺตนฺติ อตฺตนาว. โยนิโสมนสิการาติ โยนิโส มนสิกาเรน. อารพฺภมาโนวาติ กุรุมาโนเยว. สุวิมุตฺตนฺติ กมฺมฏฺานวิมุตฺติยา สุฏฺุ วิมุตฺตํ. อฏฺึกตฺวาติ อตฺถํ กริตฺวา, อตฺถิโก หุตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

๙. ปมอุปฺปนฺนสุตฺตวณฺณนา

๑๙๐. นวเม นาฺตฺร ตถาคตสฺส ปาตุภาวาติ ตถาคตสฺส ปาตุภาวํ วินา น อฺสฺมึ กาเล อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ.

๑๐. ทุติยอุปฺปนฺนสุตฺตวณฺณนา

๑๙๑. ทสเม นาฺตฺร สุคตวินยาติ สุคโตวาทํ วินา น อุปฺปชฺชนฺตีติ.

ปพฺพตวคฺโค.

๒. คิลานวคฺโค

๑-๓. ปาณสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๙๒-๑๙๔. ทุติยวคฺคสฺส ปเม จตฺตาโร อิริยาปเถ กปฺเปนฺตีติ เยสํ จตฺตาโร อิริยาปถา อตฺถิ, เตสํเยว วเสเนตํ วุตฺตํ. สีลํ นิสฺสายาติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ นิสฺสยํ กตฺวา. สตฺต โพชฺฌงฺเคติ สหวิปสฺสนเก มคฺคโพชฺฌงฺเค. ทุติยตติยานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๔-๑๐. ปมคิลานสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๙๕-๒๐๑. จตุตฺเถ ตถา ปหีโน จายสฺมโต มหากสฺสปสฺส โส อาพาโธ อโหสีติ เถรสฺส กิร อิมํ โพชฺฌงฺคภาวนํ สาธุกํ สุณนฺตสฺส เอตทโหสิ ‘‘มยฺหํ ปพฺพชิตทิวสโต สตฺตเม ทิวเส สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺตสฺส อิเม โพชฺฌงฺคา ปาตุภูตา’’ติ. อถสฺส ‘‘นิยฺยานิกํ วต สตฺถุสาสน’’นฺติ จินฺตยโต โลหิตํ ปสีทิ, อุปาทารูปํ วิสุทฺธํ อโหสิ, โปกฺขรปตฺเต ปติตอุทกพินฺทุ วิย สรีรโต โรโค วินิวตฺติตฺวา คโต. เตน วุตฺตํ ‘‘ตถา ปหีโน จายสฺมโต มหากสฺสปสฺส โส อาพาโธ อโหสี’’ติ. ปฺจมฉฏฺเสุปิ เอเสว นโย. อิเมสํ ปน ติณฺณมฺปิ ชนานํ ปพฺพตปาเท ปุปฺผิตวิสรุกฺขวาตสมฺผสฺเสน อุปฺปนฺโน มนฺทสีตชโร อาพาโธติ เวทิตพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

คิลานวคฺโค.

๓. อุทายิวคฺโค

๑-๒. โพธายสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๐๒-๒๐๓. ตติยวคฺคสฺส ปเม กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, โพชฺฌงฺคาติ วุจฺจนฺตีติ ภนฺเต, กิตฺตเกน นุ โข พุชฺฌนกองฺคา นาม วุจฺจนฺตีติ ปุจฺฉติ. โพธาย สํวตฺตนฺตีติ พุชฺฌนตฺถาย สํวตฺตนฺติ. อิมสฺมึ สุตฺเต มิสฺสกโพชฺฌงฺคา กถิตา. ทุติเย ธมฺมปริจฺเฉโท กถิโต.

๓-๕. านิยสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๐๔-๒๐๖. ตติเย กามราคฏฺานิยานนฺติ กามราคสฺส การณภูตานํ อารมฺมณธมฺมานํ. พฺยาปาทฏฺานิยาทีสุปิ เอเสว นโย. สกลฺหิ อิทํ สุตฺตํ อารมฺมเณเนว กถิตํ. ปมวคฺคสฺส ทุติยสุตฺเต วุตฺตปริจฺเฉโทเปตฺถ ลพฺภเตว. จตุตฺเถ มิสฺสกโพชฺฌงฺคา กถิตา. ปฺจเม อปริหานิเย ธมฺเมติ อปริหานิกเร สภาวธมฺเม.

๖-๗. ตณฺหกฺขยสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๐๗-๒๐๘. ฉฏฺเ เอตทโวจาติ ‘‘อิมิสฺสํ ปริสติ นิสินฺโน อุทายิตฺเถโร นาม อนุสนฺธิกุสโล ภิกฺขุ อตฺถิ, โส มํ ปุจฺฉิสฺสตีติ ภควตา โอสาปิตเทสนํ ตฺวา เทสนานุสนฺธึ ฆเฏสฺสามี’’ติ ปุจฺฉนฺโต เอตํ อโวจ. วิปุลนฺติอาทิ สพฺพํ สุภาวิตตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สุภาวิโต หิ สติสมฺโพชฺฌงฺโค วิปุโล จ มหคฺคโต จ อปฺปมาโณ จ อพฺยาปชฺโช จ นาม โหติ. โส หิ ปตฺถฏตฺตา วิปุโล, มหนฺตภาวํ คตตฺตา มหคฺคโต, วฑฺฒิปมาณตฺตา อปฺปมาโณ, นีวรณานํ ทูรีภาเวน พฺยาปาทรหิตตฺตา อพฺยาปชฺโฌ นาม โหติ. ตณฺหาย ปหานา กมฺมํ ปหียตีติ ยํ ตณฺหามูลกํ กมฺมํ อุปฺปชฺเชยฺย, ตํ ตณฺหาปหาเนน ปหียติ. กมฺมสฺส ปหานา ทุกฺขนฺติ ยมฺปิ กมฺมมูลกํ วฏฺฏทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย, ตํ กมฺมปหาเนน ปหียติ. ตณฺหกฺขยาทโย ตณฺหาทีนํเยว ขยา, อตฺถโต ปเนเตหิ นิพฺพานํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ. สตฺตมํ อุตฺตานเมว.

๘. นิพฺเพธภาคิยสุตฺตวณฺณนา

๒๐๙. อฏฺเม นิพฺเพธภาคิยนฺติ นิพฺพิชฺฌนโกฏฺาสิยํ. สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาวิเตนาติ สติสมฺโพชฺฌงฺเคน ภาวิเตน, สติสมฺโพชฺฌงฺคํ วา ภาเวตฺวา ิเตน, เอวเมตฺถ มคฺคโพชฺฌงฺคา มิสฺสกา. เตหิ ภาวิตํ, เต วา ภาเวตฺวา ิตํ จิตฺตํ นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรเมว. ตมฺปิ ปน มคฺคนิสฺสิตํ กตฺวา มิสฺสกเมว กเถตุํ วฏฺฏติ.

๙. เอกธมฺมสุตฺตวณฺณนา

๒๑๐. นวเม สํโยชนวินิพนฺธาติ สํโยชนสงฺขาตา วินิพนฺธา. อชฺโฌสานาติ ปรินิฏฺเปตฺวา คหณา.

๑๐. อุทายิสุตฺตวณฺณนา

๒๑๑. ทสเม อพหุกโตติ อกตพหุมาโน. อุกฺกุชฺชาวกุชฺชนฺติ เอตฺถ อุกฺกุชฺชํ วุจฺจติ อุทโย, อวกุชฺชํ วโยติ อุทยพฺพยวเสน ปริวตฺเตนฺโต สมฺมสนฺโตติ ทีเปติ. ธมฺโม จ เม, ภนฺเต, อภิสมิโตติ วิปสฺสนาธมฺโม อภิสมาคโต. มคฺโคติ วิปสฺสนามคฺโคว. สเจ หิ เถโร ตสฺมึ สมเย โสตาปนฺโน, อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ อตฺถาย, สเจ อนาคามี, อรหตฺตมคฺคสฺส อตฺถาย อยํ วิปสฺสนา เวทิตพฺพา. ตถา ตถา วิหรนฺตนฺติ เตน เตนากาเรน วิหรนฺตํ. ตถตฺตายาติ ตถาภาวาย. ขีณา ชาตีติอาทีหิ ตถตฺตายาติ อธิปฺเปตํ ตถาภาวํ ทสฺเสติ. ปจฺจเวกฺขณตฺถาย อุปนียตีติ หิ เอตฺถ อธิปฺปาโย, ตํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

อุทายิวคฺโค.

๔. นีวรณวคฺโค

๓-๔. อุปกฺกิเลสสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๑๔-๒๑๕. จตุตฺถวคฺคสฺส ตติเย น จ ปภสฺสรนฺติ น จ ปภาวนฺตํ. ปภงฺคุ จาติ ปภิชฺชนสภาวํ. อโยติ กาฬโลหํ. เปตฺวา อิธ วุตฺตานิ จตฺตาริ อวเสสํ โลหํ นาม. สชฺฌูติ รชตํ. จิตฺตสฺสาติ จตุภูมกจิตฺตสฺส. โลกิยสฺส ตาว อุปกฺกิเลโส โหตุ , โลกุตฺตรสฺส กถํ โหตีติ? อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนน. ยทคฺเคน หิ อุปฺปชฺชิตุํ น เทนฺติ, ตทคฺเคเนว เต โลกิยสฺสาปิ โลกุตฺตรสฺสาปิ อุปกฺกิเลสา นาม โหนฺติ. ปภงฺคุ จาติ อารมฺมเณ จุณฺณวิจุณฺณภาวูปคมเนน ภิชฺชนสภาวํ. อนาวรณา อนีวรณาติ กุสลธมฺเม น อาวรนฺตีติ อนาวรณา, น นีวรนฺติ น ปฏิจฺฉาเทนฺตีติ อนีวรณา. เจตโส อนุปกฺกิเลสาติ จตุภูมกจิตฺตสฺส อนุปกฺกิเลสา.

๘. อาวรณนีวรณสุตฺตวณฺณนา

๒๑๙. อฏฺเม ปฺาย ทุพฺพลีกรณาติ ปฺาย มนฺทภาวกรา. นีวรณานฺหิ อภิณฺหุปฺปาเท สติ อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺชมานา ปฺา ทุพฺพลา โหติ มนฺทา อวิสทา.

ปฺจ นีวรณา ตสฺมึ สมเย น โหนฺติ. สตฺตโพชฺฌงฺคา ตสฺมึ สมเย ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺตีติ อริยสาวกสฺส หิ สปฺปายธมฺมสฺสวนํ สุณนฺตสฺส ปฺจ นีวรณา ทูเร โหนฺติ. โส สเจ ตสฺมึเยว าเน วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ สกฺโกติ, เอวมสฺส สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. โน เจ สกฺโกติ, ตโต วุฏฺาย รตฺติฏฺานทิวาฏฺานํ คโต ตเมว ปีตึ อวิชหนฺโต ปฺจ นีวรเณ วิกฺขมฺเภตฺวา วิเสสํ นิพฺพตฺเตสฺสติ. ตตฺถ อสกฺโกนฺโตปิ ยาว สตฺตทิวสพฺภนฺตรา ตเมว ปีตึ อวิชหนฺโต นีวรเณ วิกฺขมฺเภตฺวา วิเสสํ นิพฺพตฺเตสฺสตีติ อิทํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ธมฺมสฺสวนวเสน สกึ ปีติปาโมชฺชปกฺขิยา ปฏิลทฺธโพชฺฌงฺคา หิ กมฺมารามตาทีนิ อาคมฺม นสฺสนฺติ, ตถารูปํ ปน อุตุสปฺปายาทึ ลภิตฺวา ปุน อุปฺปชฺชนฺตาปิ ตสฺมึ สมเย ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ อิจฺเจว วุจฺจติ.

๙. รุกฺขสุตฺตวณฺณนา

๒๒๐. นวเม อชฺฌารุหาติ อภิรุหนกา. กจฺฉโกติ อฏฺิกจฺฉโก. กปิตฺถโนติ มกฺกฏถนสทิสผโล วิชาตปิลกฺโข.

๑๐. นีวรณสุตฺตวณฺณนา

๒๒๑. ทสเม อนฺธกรณาติ อนฺธภาวกรณา. อจกฺขุกรณาติ ปฺาจกฺขุสฺส อกรณา. ปฺานิโรธิกาติ ปฺาย นิโรธนา. วิฆาตปกฺขิยาติ ทุกฺขปกฺขิกา. อนิพฺพานสํวตฺตนิกาติ นิพฺพานตฺถาย อสํวตฺตนิกา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. สกเลปิ อิมสฺมึ วคฺเค มิสฺสกโพชฺฌงฺคาว กถิตาติ.

นีวรณวคฺโค.

๕. จกฺกวตฺติวคฺโค

๑. วิธาสุตฺตวณฺณนา

๒๒๒. ปฺจมวคฺคสฺส ปเม ติสฺโส วิธาติ ตโย มานโกฏฺาสา, มาโนเยว วา. ตถา ตถา วิทหนโต หิ มาโนว วิธาติ วุจฺจติ.

๒. จกฺกวตฺติสุตฺตวณฺณนา

๒๒๓. ทุติเย รฺโ, ภิกฺขเว, จกฺกวตฺติสฺสาติ เอตฺถ อตฺตโน สิริสมฺปตฺติยา ราชติ, จตูหิ วา สงฺคหวตฺถูหิ โลกํ รฺเชตีติ ราชา, ตสฺส รฺโ. ‘‘ปวตฺตตุ ภวํ จกฺกรตน’’นฺติ ปุฺานุภาเวน อพฺภุคฺคตาย วาจาย โจเทนฺโต จกฺกํ วตฺเตตีติ จกฺกวตฺตี, ตสฺส จกฺกวตฺติสฺส. ปาตุภาวาติ ปาตุภาเวน. สตฺตนฺนนฺติ คณนปริจฺเฉโท. รตนานนฺติ ปริจฺฉินฺนอตฺถทสฺสนํ. วจนตฺโถ ปเนตฺถ รติชนนฏฺเน รตนํ. อปิจ –

‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;

อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติ.

จกฺกรตนสฺส จ นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย อฺํ เทวฏฺานํ นาม น โหติ, สพฺเพว คนฺธปุปฺผาทีหิ ตสฺเสว ปูชฺจ อภิวาทนาทีนิ จ กโรนฺตีติ จิตฺตีกตฏฺเน รตนํ. จกฺกรตนสฺส จ ‘‘เอตฺตกํ นาม ธนํ อคฺฆตี’’ติ อคฺโฆ นตฺถิ, อิติ มหคฺฆฏฺเนาปิ รตนํ. จกฺกรตนฺจ อฺเหิ โลเก วิชฺชมานรตเนหิ อสทิสนฺติ อตุลฏฺเน รตนํ. ยสฺมา ปน ยสฺมึ กปฺเป พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺติ , ตสฺมึเยว จกฺกวตฺติโน, พุทฺธา จ กทาจิ กรหจิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา ทุลฺลภทสฺสนฏฺเน รตนํ. ตเทตํ ชาติรูปกุลอิสฺสริยาทีหิ อโนมสฺส อุฬารสตฺตสฺเสว อุปฺปชฺชติ, น อฺสฺสาติ อโนมสตฺตปริโภคฏฺเนาปิ รตนํ. ยถา จ จกฺกรตนํ, เอวํ เสสานิปีติ. เตน วุตฺตํ –

‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;

อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติ.

ปาตุภาโว โหตีติ นิพฺพตฺติ โหติ. ตตฺรายํ โยชนา – จกฺกวตฺติสฺส ปาตุภาวา สตฺตนฺนํ รตนานํ ปาตุภาโวติ อยุตฺตํ. อุปฺปนฺนฺหิ จกฺกํ วตฺเตตฺวา โส จกฺกวตฺตี นาม โหตีติ นายุตฺตํ. กสฺมา? จกฺกวตฺตนนิยมาเปกฺขตาย. โย หิ นิยเมน จกฺกํ วตฺเตสฺสติ, โส ปฏิสนฺธิโต ปภุติ ‘‘จกฺกวตฺติ ปาตุภูโต’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. ลทฺธนามสฺส จ ปุริสสฺส มูลุปฺปตฺติวจนโตปิ ยุตฺตเมเวตํ. โย หิ เอส จกฺกวตฺตีติ ลทฺธนาโม สตฺตวิเสโส, ตสฺส ปฏิสนฺธิสงฺขาโต ปาตุภาโวติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ตสฺส หิ ปาตุภาวา รตนานิ ปาตุภวนฺติ. ปาตุภูเตหิ ปน เตหิ สทฺธึ ปริปกฺเก ปุฺสมฺภาเร โส สํยุชฺชติ, ตทา โลกสฺส เตสุ ปาตุภาวจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. พหุลวจนโต จาปิ ยุตฺตเมเวตํ. ยทา หิ โลกสฺส เตสุ ปาตุภาวสฺา อุปฺปชฺชติ, ตทา เอกเมว ปมํ, ปจฺฉา อิตรานิ ฉ ปาตุภวนฺตีติ พหุลวจนโต จาปิ เอตํ ยุตฺตํ. ปาตุภาวสฺส จ อตฺถเภทโตปิ ยุตฺตเมเวตํ. น เกวลฺหิ ปาตุภูตเมว ปาตุภาโว, ปาตุภาวยตีติ ปาตุภาโว. อยํ ปาตุภาวสฺส อตฺถเภโท. ยสฺมา โย โส ปุฺสมฺภาโร ราชานํ จกฺกวตฺตึ ปฏิสนฺธิวเสน ปาตุภาวยติ, ตสฺมา รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปาตุภาวา. น เกวลฺหิ จกฺกวตฺติเยว, อิมานิ ปน สตฺต รตนานิปิ ปาตุภวนฺตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ยเถว หิ โส ปุฺสมฺภาโร รฺโ ชนกเหตุ, เอวํ รตนานมฺปิ ปริยาเยน อุปนิสฺสยเหตูติ ยุตฺตเมเวตํ ‘‘รฺโ, ภิกฺขเว, จกฺกวตฺติสฺส ปาตุภาวา สตฺตนฺนํ รตนานํ ปาตุภาโว โหตี’’ติ.

อิทานิ เตสํ รตนานํ สรูปวเสน ทสฺสนตฺถํ กตเมสํ สตฺตนฺนํ จกฺกรตนสฺสาติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺกรตนสฺสาติอาทีสุ อยํ สงฺเขปาธิปฺปาโย – ทฺวิสหสฺสทีปปริวารานํ จตุนฺนํ มหาทีปานํ สิริวิภวํ คเหตฺวา ทาตุํ สมตฺถสฺส จกฺกรตนสฺส ปาตุภาโว โหติ, ตถา ปุเรภตฺตเมว สาครปริยนฺตํ ปถวึ อนุปริยายนสมตฺถสฺส เวหาสงฺคมสฺส หตฺถิรตนสฺส, ตาทิสสฺเสว อสฺสรตนสฺส, จตุรงฺคสมนฺนาคเตปิ อนฺธกาเร โยชนปฺปมาณํ อนฺธการํ วิธมิตฺวา อาโลกทสฺสนสมตฺถสฺส มณิรตนสฺส, ฉพฺพิธํ โทสํ วิวชฺเชตฺวา มนาปจาริโน อิตฺถิรตนสฺส, โยชนปฺปมาเณ ปเทเส อนฺโตปถวิคตานํ นิธีนํ ทสฺสนสมตฺถสฺส คหปติรตนสฺส, อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติตฺวา สกลรชฺชานุสาสนสมตฺถสฺส เชฏฺปุตฺตสงฺขาตสฺส ปริณายกรตนสฺส จ ปาตุภาโว โหตีติ . อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน เตสํ จกฺกรตนาทีนํ ปาตุภาววิธานํ มหาสุทสฺสนาทีสุ สุตฺเตสุ อาคตเมว. อตฺโถปิสฺส เตสํ วณฺณนาย สํวณฺณิโตเยว.

สติสมฺโพชฺฌงฺครตนสฺสาติอาทีสุ สริกฺขกตา เอวํ เวทิตพฺพา – ยเถว หิ จกฺกวตฺติโน จกฺกรตนํ สพฺพรตนานํ ปุเรจรํ, เอวํ สติสมฺโพชฺฌงฺครตนํ สพฺเพสํ จตุภูมกธมฺมานํ ปุเรจรนฺติ, ปุเรจรณฏฺเน จกฺกวตฺติรฺโ จกฺกรตนสทิสํ โหติ. จกฺกวตฺติโน จ รตเนสุ มหากายูปปนฺนํ อจฺจุคฺคตํ วิปุลํ มหนฺตํ หตฺถิรตนํ, อิทมฺปิ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺครตนํ มหนฺตํ ธมฺมกายูปปนฺนํ อจฺจุคฺคตํ วิปุลํ มหนฺตนฺติ หตฺถิรตนสทิสํ โหติ. จกฺกวตฺติโน อสฺสรตนํ สีฆํ ลหุ ชวํ, อิทมฺปิ วีริยสมฺโพชฺฌงฺครตนํ สีฆํ ลหุ ชวนฺติ อิมาย สีฆลหุชวตาย อสฺสรตนสทิสํ โหติ. จกฺกวตฺติโน มณิรตนํ อนฺธการํ วิธมติ, อาโลกํ ทสฺเสติ, อิทมฺปิ ปีติสมฺโพชฺฌงฺครตนํ ตาย เอกนฺตกุสลตฺตา กิเลสนฺธการํ วิธมติ, สหชาตปจฺจยาทิวเสน าณาโลกํ ทสฺเสตีติ อิมินา อนฺธการวิธมนอาโลกทสฺสนภาเวน มณิรตนสทิสํ โหติ.

จกฺกวตฺติโน อิตฺถิรตนํ กายจิตฺตทรถํ ปฏิปสฺสมฺเภติ, ปริฬาหํ วูปสเมติ. อิทมฺปิ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺครตนํ กายจิตฺตทรถํ ปฏิปสฺสมฺเภติ, ปริฬาหํ วูปสเมตีติ อิตฺถิรตนสทิสํ โหติ. จกฺกวตฺติโน คหปติรตนํ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ธนทาเนน วิกฺเขปํ ปจฺฉินฺทิตฺวา จิตฺตํ เอกคฺคํ กโรติ, อิทมฺปิ สมาธิสมฺโพชฺฌงฺครตนํ ยถิจฺฉิตาทิวเสน อปฺปนํ สมฺปาเทติ, วิกฺเขปํ ปจฺฉินฺทิตฺวา จิตฺตํ เอกคฺคํ กโรตีติ คหปติรตนสทิสํ โหติ. จกฺกวตฺติโน จ ปริณายกรตนํ สพฺพตฺถกิจฺจสมฺปาทเนน อปฺโปสฺสุกฺกตํ กโรติ. อิทมฺปิ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺครตนํ จิตฺตุปฺปาทํ ลีนุทฺธจฺจโต โมเจตฺวา ปโยคมชฺฌตฺเต ปยมานํ อปฺโปสฺสุกฺกตํ กโรตีติ ปริณายกรตนสทิสํ โหติ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต จตุภูมโก สพฺพสงฺคาหิกธมฺมปริจฺเฉโท กถิโตติ เวทิตพฺโพ.

๔-๑๐. ทุปฺปฺสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๒๕-๒๓๑. จตุตฺเถ เอฬมูโคติ มุเขน วาจํ นิจฺฉาเรตุํ สกฺโกนฺโตปิ โทเสหิ มูโค อสมฺปนฺนวจโน. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

จกฺกวตฺติวคฺโค.

๖. สากจฺฉวคฺโค

๑. อาหารสุตฺตวณฺณนา

๒๓๒. ฉฏฺวคฺคสฺส ปเม อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทายาติอาทีสุ อยํ ปุริมนยโต วิเสโส. น เกวลฺหิ สติสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ เอเต วุตฺตปฺปการาว อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนานํ วา ภาวนาย ปาริปูริยา ปจฺจยา โหนฺติ, อฺเปิ ปน เอวํ เวทิตพฺพา. อปเรปิ หิ จตฺตาโร ธมฺมา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ สติสมฺปชฺํ มุฏฺสฺสติปุคฺคลปริวชฺชนตา อุปฏฺิตสฺสติปุคฺคลเสวนตา ตทธิมุตฺตตาติ. อภิกฺกนฺตาทีสุ หิ สตฺตสุ าเนสุ สติสมฺปชฺเน, ภตฺตนิกฺขิตฺตกากสทิเส มุฏฺสฺสติปุคฺคเล ปริวชฺชเนน, ติสฺสทตฺตตฺเถรอภยตฺเถราทิสทิเส อุปฏฺิตสฺสติปุคฺคเล เสวเนน, านนิสชฺชาทีสุ สติสมุฏฺาปนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตาย จ สติสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ. เอวํ จตูหิ การเณหิ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ.

สตฺต ธมฺมา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – ปริปุจฺฉกตา วตฺถุวิสทกิริยา อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณา ตทธิมุตฺตตาติ. ตตฺถ ปริปุจฺฉกตาติ ขนฺธธาตุอายตนอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคฌานงฺคสมถวิปสฺสนานํ อตฺถสนฺนิสฺสิตปริปุจฺฉาพหุลตา.

วตฺถุวิสทกิริยาติ อชฺฌตฺติกพาหิรานํ วตฺถูนํ วิสทภาวกรณํ. ยทา หิสฺส เกสนขโลมานิ ทีฆานิ โหนฺติ, สรีรํ วา อุสฺสนฺนโทสฺเจว เสทมลมกฺขิตฺจ, ตทา อชฺฌตฺติกวตฺถุ อวิสทํ โหติ อปริสุทฺธํ. ยทา ปน จีวรํ ชิณฺณํ กิลิฏฺํ ทุคฺคนฺธํ โหติ, เสนาสนํ วา อุกฺลาปํ, ตทา พาหิรวตฺถุ อวิสทํ โหติ อปริสุทฺธํ. ตสฺมา เกสาทิเฉทเนน อุทฺธํวิเรจนอโธวิเรจนาทีหิ สรีรสลฺลหุกภาวกรเณน อุจฺฉาทนนหาปเนน จ อชฺฌตฺติกวตฺถุ วิสทํ กาตพฺพํ. สูจิกมฺมโธวนรชนปริภณฺฑกรณาทีหิ พาหิรวตฺถุ วิสทํ กาตพฺพํ. เอตสฺมิฺหิ อชฺฌตฺติกพาหิเร วตฺถุมฺหิ อวิสเท อุปฺปนฺเนสุ จิตฺตเจตสิเกสุ าณมฺปิ อวิสทํ อปริสุทฺธํ โหติ อปริสุทฺธานิ ทีปกปลฺลกวฏฺฏิเตลานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนทีปสิขาย โอภาโส วิย. วิสเท ปน อชฺฌตฺติกพาหิเร วตฺถุมฺหิ อุปฺปนฺเนสุ จิตฺตเจตสิเกสุ าณมฺปิ วิสทํ โหติ ปริสุทฺธานิ ทีปกปลฺลกวฏฺฏิเตลานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนทีปสิขาย โอภาโส วิย. เตน วุตฺตํ – ‘‘วตฺถุวิสทกิริยา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตตี’’ติ.

อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา นาม สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ สมภาวกรณํ. สเจ หิสฺส สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ โหติ, อิตรานิ มนฺทานิ, ตโต วีริยินฺทฺริยํ ปคฺคหกิจฺจํ, สตินฺทฺริยํ อุปฏฺานกิจฺจํ, สมาธินฺทฺริยํ อวิกฺเขปกิจฺจํ, ปฺินฺทฺริยํ ทสฺสนกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ . ตสฺมา ตํ ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน วา, ยถา วา มนสิกโรโต พลวํ ชาตํ, ตถา อมนสิกรเณน หาเปตพฺพํ. วกฺกลิตฺเถรวตฺถุ เจตฺถ นิทสฺสนํ. สเจ ปน วีริยินฺทฺริยํ พลวํ โหติ, อถ เนว สทฺธินฺทฺริยํ อธิโมกฺขกิจฺจํ กาตุํ สกฺโกติ, น อิตรานิ อิตรกิจฺจเภทํ. ตสฺมา ตํ ปสฺสทฺธาทิภาวนาย หาเปตพฺพํ. ตตฺถาปิ โสณตฺเถรสฺส วตฺถุ ทสฺเสตพฺพํ. เอวํ เสเสสุปิ เอกสฺส พลวภาเว สติ อิตเรสํ อตฺตโน กิจฺเจสุ อสมตฺถตา เวทิตพฺพา.

วิเสสโต ปเนตฺถ สทฺธาปฺานํ สมาธิวีริยานฺจ สมตํ ปสํสนฺติ. พลวสทฺโธ หิ มนฺทปฺโ มุธปฺปสนฺโน โหติ, อวตฺถุสฺมึ ปสีทติ. พลวปฺโ ปน มนฺทสทฺโธ เกราฏิกปกฺขํ ภชติ, เภสชฺชสมุฏฺิโต วิย โรโค อเตกิจฺโฉ โหติ. จิตฺตุปฺปาทมตฺเตเนว กุสลํ โหตีติ อติธาวิตฺวา ทานาทีนิ อกโรนฺโต นิรเย อุปฺปชฺชติ. อุภินฺนํ สมตาย วตฺถุสฺมึเยว ปสีทติ. พลวสมาธึ ปน มนฺทวีริยํ สมาธิสฺส โกสชฺชปกฺขตฺตา โกสชฺชํ อภิภวติ. พลววีริยํ มนฺทสมาธึ วีริยสฺส อุทฺธจฺจปกฺขตฺตา อุทฺธจฺจํ อภิภวติ. สมาธิ ปน วีริเยน สํโยชิโต โกสชฺเช ปติตุํ น ลภติ, วีริยํ สมาธินา สํโยชิตํ อุทฺธจฺเจ ปติตุํ น ลภติ. ตสฺมา ตทุภยํ สมํ กาตพฺพํ. อุภยสมตาย หิ อปฺปนา โหติ.

อปิ จ สมาธิกมฺมิกสฺส พลวตีปิ สทฺธา วฏฺฏติ. เอวํ สทฺทหนฺโต โอกปฺเปนฺโต อปฺปนํ ปาปุณิสฺสติ. สมาธิปฺาสุ ปน สมาธิกมฺมิกสฺส เอกคฺคตา พลวตี วฏฺฏติ. เอวฺหิ โส อปฺปนํ ปาปุณาติ. วิปสฺสนากมฺมิกสฺส ปฺา พลวตี วฏฺฏติ. เอวฺหิ โส ลกฺขณปฏิเวธํ ปาปุณาติ. อุภินฺนํ ปน สมตายปิ อปฺปนา โหติเยว. สติ ปน สพฺพตฺถ พลวตี วฏฺฏติ. สติ หิ จิตฺตํ อุทฺธจฺจปกฺขิกานํ สทฺธาวีริยปฺานํ วเสน อุทฺธจฺจปาตโต , โกสชฺชปกฺขิเกน จ สมาธินา โกสชฺชปาตโต รกฺขติ. ตสฺมา สา โลณธูปนํ วิย สพฺพพฺยฺชเนสุ, สพฺพกมฺมิกอมจฺโจ วิย จ สพฺพราชกิจฺเจสุ สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพา. เตนาห ‘‘สติ จ ปน สพฺพตฺถิกา วุตฺตา ภควตา. กึ การณา? จิตฺตฺหิ สติปฏิสรณํ, อารกฺขปจฺจุปฏฺานา จ สติ, น วินา สติยา จิตฺตสฺส ปคฺคหนิคฺคโห โหตี’’ติ.

ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา นาม ขนฺธาทิเภเท อโนคาฬฺหปฺานํ ทุมฺเมธปุคฺคลานํ อารกา ปริวชฺชนํ. ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา นาม สมปฺาสลกฺขณปริคฺคาหิกาย อุทยพฺพยปฺาย สมนฺนาคตปุคฺคลเสวนา. คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณา นาม คมฺภีเรสุ ขนฺธาทีสุ ปวตฺตาย คมฺภีรปฺาย ปเภทปจฺจเวกฺขณา. ตทธิมุตฺตตา นาม านนิสชฺชาทีสุ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตา. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ.

เอกาทส ธมฺมา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – อปายภยปจฺจเวกฺขณตา, อานิสํสทสฺสาวิตา, คมนวีถิปจฺจเวกฺขณตา, ปิณฺฑปาตาปจายนตา, ทายชฺชมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, สตฺถุมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, สพฺรหฺมจาริมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, กุสีตปุคฺคลปริวชฺชนตา, อารทฺธวีริยปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ.

ตตฺถ ‘‘นิรเยสุ ปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณโต ปฏฺาย มหาทุกฺขํ อนุภวนกาเลปิ, ติรจฺฉานโยนิยํ ชาลขิปนกุมีนาทีหิ คหิตกาเลปิ, ปาชนกณฺฏกาทิปฺปหารตุนฺนสฺส ปน สกฏวหนาทิกาเลปิ, เปตฺติวิสเย อเนกานิปิ วสฺสสหสฺสานิ เอกํ พุทฺธนฺตรมฺปิ ขุปฺปิปาสาหิ อาตุรีภูตกาเลปิ, กาลกฺจิกอสุเรสุ สฏฺิหตฺถอสีติหตฺถปฺปมาเณน อฏฺิจมฺมมตฺเตเนว อตฺตภาเวน วาตาตปาทิทุกฺขานุภวนกาเลปิ น สกฺกา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ อุปฺปาเทตุํ. อยเมว เต ภิกฺขุ กาโล’’ติ เอวํ อปายภยํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ.

‘‘น สกฺกา กุสีเตน นวโลกุตฺตรธมฺมํ ลทฺธุํ, อารทฺธวีริเยเนว สกฺกา อยมานิสํโส วีริยสฺสา’’ติ เอวํ อานิสํสทสฺสาวิโนปิ อุปฺปชฺชติ. ‘‘สพฺพพุทฺธ-ปจฺเจกพุทฺธ-มหาสาวเกเหว คตมคฺโค เต คนฺตพฺโพ. โส จ น สกฺกา กุสีเตน คนฺตุ’’นฺติ เอวํ คมนวีถึ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ.

‘‘เย ตํ ปิณฺฑปาตาทีหิ อุปฏฺหนฺติ, อิเม เต มนุสฺสา เนว าตกา, น ทาสกมฺมกรา, นาปิ ‘ตํ นิสฺสาย ชีวิสฺสามา’ติ เต ปณีตานิ ปิณฺฑปาตาทีนิ เทนฺติ. อถ โข อตฺตโน การานํ มหปฺผลตํ ปจฺจาสีสมานา เทนฺติ. สตฺถาราปิ ‘‘อยํ อิเม ปจฺจเย ปริภุฺชิตฺวา กายทฬฺหิพหุโล สุขํ วิหริสฺสตี’’ติ น เอวํ สมฺปสฺสตา ตุยฺหํ ปจฺจยา อนุฺาตา, อถ โข ‘‘อยํ อิเม ปริภุฺชมาโนว สมณธมฺมํ กตฺวา วฏฺฏทุกฺขโต มุจฺจิสฺสตี’ติ เต ปจฺจยา อนุฺาตา, โส ทานิ ตฺวํ กุสีโต วิหรนฺโต น ตํ ปิณฺฑํ อปจายิสฺสสิ, อารทฺธวีริยสฺเสว หิ ปิณฺฑปาตาปจายนํ นาม โหตี’’ติ เอวํ ปิณฺฑปาตาปจายนํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ มหามิตฺตตฺเถรสฺส วิย.

เถโร กิร กสฺสกเลเณ นาม ปฏิวสติ. ตสฺเสว โคจรคาเม เอกา มหาอุปาสิกา เถรํ ปุตฺตํ กตฺวา ปฏิชคฺคติ. สา เอกทิวสํ อรฺํ คจฺฉนฺตี ธีตรํ อาห – ‘‘อมฺม, อสุกสฺมึ าเน ปุราณตณฺฑุลา, อสุกสฺมึ ขีรํ, อสุกสฺมึ สปฺปิ, อสุกสฺมึ ผาณิตํ, ตว ภาติกสฺส อยฺยมิตฺตสฺส อาคตกาเล ภตฺตํ ปจิตฺวา ขีรสปฺปิผาณิเตหิ สทฺธึ เทหิ, ตฺวฺจ ภุฺเชยฺยาสิ, อหํ ปน หิยฺโย ปกฺกํ ปาริวาสิกภตฺตํ กฺชิเยน ภุตฺตามฺหี’’ติ. ‘‘ทิวา กึ ภุฺชิสฺสสิ, อมฺมา’’ติ? ‘‘สากปณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา กณตณฺฑุเลหิ อมฺพิลยาคุํ ปจิตฺวา เปหิ, อมฺมา’’ติ.

เถโร จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตํ นีหรนฺโตว ตํ สทฺทํ สุตฺวา อตฺตานํ โอวทิ ‘‘มหาอุปาสิกา กิร กฺชิเยน ปาริวาสิกภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ทิวาปิ กณปณฺณมฺพิลยาคุํ ภุฺชิสฺสติ, ตุยฺหํ อตฺถาย ปน ปุราณตณฺฑุลาทีนิ อาจิกฺขติ, ตํ นิสฺสาย โข ปเนสา เนว เขตฺตํ น วตฺถุํ น ภตฺตํ น วตฺถํ ปจฺจาสีสติ, ติสฺโส ปน สมฺปตฺติโย ปตฺถยมานา เทติ, ตฺวํ เอติสฺสา ตา สมฺปตฺติโย ทาตุํ สกฺขิสฺสสิ , น สกฺขิสฺสสีติ, อยํ โข ปน ปิณฺฑปาโต ตยา สราเคน สโทเสน สโมเหน น สกฺกา คณฺหิตุ’’นฺติ ปตฺตํ ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา คณฺิกํ มุฺจิตฺวา นิวตฺติตฺวา กสฺสกเลณเมว คนฺตฺวา ปตฺตํ เหฏฺามฺเจ, จีวรํ จีวรวํเส เปตฺวา ‘‘อรหตฺตํ อปาปุณิตฺวา น นิกฺขมิสฺสามี’’ติ วีริยํ อธิฏฺหิตฺวา นิสีทิ . ทีฆรตฺตํ อปฺปมตฺโต หุตฺวา นิวุตฺถภิกฺขุ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปุเรภตฺตเมว อรหตฺตํ ปตฺวา วิกสมานมิว ปทุมํ มหาขีณาสโว สิตํ กโรนฺโตว นิกฺขมิ. เลณทฺวาเร รุกฺขมฺหิ อธิวตฺถา เทวตา –

‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;

ยสฺส เต อาสวา ขีณา, ทกฺขิเณยฺโยสิ มาริสา’’ติ. –

อุทานํ อุทาเนตฺวา ‘‘ภนฺเต, ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ ตุมฺหาทิสานํ อรหนฺตานํ ภิกฺขํ ทตฺวา มหลฺลกิตฺถิโย ทุกฺขา มุจฺจิสฺสนฺตี’’ติ อาห. เถโร อุฏฺหิตฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา กาลํ โอโลเกนฺโต ‘‘ปาโตเยวา’’ติ ตฺวา ปตฺตจีวรํ อาทาย คามํ ปาวิสิ.

ทาริกาปิ ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา ‘‘อิทานิ เม ภาตา อาคมิสฺสติ, อิทานิ อาคมิสฺสตี’’ติ ทฺวารํ โอโลกยมานา นิสีทิ. สา เถเร ฆรทฺวารํ สมฺปตฺเต ปตฺตํ คเหตฺวา สปฺปิผาณิตโยชิตสฺส ขีรปิณฺฑปาตสฺส ปูเรตฺวา หตฺเถ เปสิ. เถโร ‘‘สุขํ โหตู’’ติ อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. สาปิ ตํ โอโลกยมานาว อฏฺาสิ. เถรสฺส หิ ตทา อติวิย ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ อโหสิ, วิปฺปสนฺนานิ อินฺทฺริยานิ, มุขํ พนฺธนา มุตฺตตาลปกฺกํ วิย อติวิย วิโรจิตฺถ.

มหาอุปาสิกา อรฺโต อาคนฺตฺวา ‘‘กึ, อมฺม, ภาติโก เต อาคโต’’ติ ปุจฺฉิ. สา สพฺพํ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. อุปาสิกา ‘‘อชฺช เม ปุตฺตสฺส ปพฺพชิตกิจฺจํ มตฺถกํ ปตฺต’’นฺติ ตฺวา ‘‘อภิรมติ เต, อมฺม, ภาตา พุทฺธสาสเน, น อุกฺกณฺตี’’ติ อาห.

‘‘มหนฺตํ โข ปเนตํ สตฺถุทายชฺชํ, ยทิทํ สตฺต อริยธนานิ นาม, ตํ น สกฺกา กุสีเตน คเหตุํ. ยถา หิ วิปฺปฏิปนฺนํ ปุตฺตํ มาตาปิตโร ‘อยํ อมฺหากํ อปุตฺโต’ติ ปริพาหิรํ กโรนฺติ, โส เตสํ อจฺจเยน ทายชฺชํ น ลภติ, เอวํ กุสีโตปิ อิทํ อริยธนทายชฺชํ น ลภติ , อารทฺธวีริโยว ลภตี’’ติ ทายชฺชมหตฺตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ อุปฺปชฺชติ.

‘‘มหา โข ปน เต สตฺถา, สตฺถุโน หิ เต มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธิคฺคหณกาเลปิ อภินิกฺขมเนปิ อภิสมฺโพธิยมฺปิ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตน-ยมกปาฏิหาริย-เทโวโรหน-อายุสงฺขารโวสฺสชฺชเนสุปิ ปรินิพฺพานกาเลปิ ทสสหสฺสิโลกธาตุ อกมฺปิตฺถ. ยุตฺตํ นุ โข เต เอวรูปสฺส สตฺถุ สาสเน ปพฺพชิตฺวา กุสีเตน ภวิตุ’’นฺติ เอวํ สตฺถุมหตฺตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ อุปฺปชฺชติ.

‘‘ชาติยาปิ ตฺวํ อิทานิ น ลามกชาติโก, อสมฺภินฺนาย มหาสมฺมตปเวณิยา อาคตอุกฺกากราชวํเส ชาโตสิ, สุทฺโธทนมหาราชสฺส จ มหามายาเทวิยา จ นตฺตา, ราหุลภทฺทสฺส กนิฏฺโ, ตยา นาม เอวรูเปน ชินปุตฺเตน หุตฺวา น ยุตฺตํ กุสีเตน วิหริตุ’’นฺติ เอวํ ชาติมหตฺตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ อุปฺปชฺชติ.

‘‘สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา เจว อสีติ มหาสาวกา จ วีริเยเนว โลกุตฺตรธมฺมํ ปฏิวิชฺฌึสุ. ตฺวํ ปน เอเตสํ สพฺรหฺมจารีนํ มคฺคํ ปฏิปชฺชสิ, น ปฏิปชฺชสี’’ติ เอวํ สพฺรหฺมจาริมหตฺตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ อุปฺปชฺชติ.

กุจฺฉึ ปูเรตฺวา ิตอชครสทิเส วิสฺสฏฺกายิกเจตสิกวีริเย กุสีตปุคฺคเล ปริวชฺเชนฺตสฺสาปิ, อารทฺธวีริเย ปหิตตฺเต ปุคฺคเล เสวนฺตสฺสาปิ านนิสชฺชาทีสุ วีริยุปฺปาทนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ.

เอกาทส ธมฺมา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – พุทฺธานุสฺสติ ธมฺโม, สงฺโฆ, สีลํ, จาโค, เทวตานุสฺสติ, อุปสมานุสฺสติ, ลูขปุคฺคลปริวชฺชนตา, สินิทฺธปุคฺคลเสวนตา, ปสาทนียสุตฺตนฺตปจฺจเวกฺขณตา, ตทธิมุตฺตตาติ.

พุทฺธคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺสาปิ หิ ยาว อุปจารา สกลสรีรํ ผรมาโน ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ, ธมฺมสงฺฆคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺสาปิ, ทีฆรตฺตํ อขณฺฑํ กตฺวา รกฺขิตํ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, คิหิโน ทสสีลปฺจสีลานิ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, ทุพฺภิกฺขภยาทีสุ ปณีตํ โภชนํ สพฺรหฺมจารีนํ ทตฺวา ‘‘เอวํ นาม อทมฺหา’’ติ จาคํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, คิหิโนปิ เอวรูเป กาเล สีลวนฺตานํ ทินฺนทานํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, เยหิ คุเณหิ สมนฺนาคตา เทวตฺตํ ปตฺตา, ตถารูปานํ อตฺตนิ อตฺถิตํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, สมาปตฺติยา วิกฺขมฺภิตา กิเลสา สฏฺิปิ สตฺตติปิ วสฺสานิ น สมุทาจรนฺตีติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, เจติยทสฺสนโพธิทสฺสนเถรทสฺสเนสุ อสกฺกจฺจกิริยาย สํสูจิตลูขภาเว พุทฺธาทีสุ ปสาทสิเนหาภาเวน คทฺรภปิฏฺรชสทิเส ลูขปุคฺคเล ปริวชฺเชนฺตสฺสาปิ, พุทฺธาทีสุ ปสาทพหุเล มุทุจิตฺเต สินิทฺธปุคฺคเล เสวนฺตสฺสาปิ, รตนตฺตยคุณปริทีปเก ปสาทนีเย สุตฺตนฺเต ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, านนิสชฺชาทีสุ ปีติอุปฺปาทนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ.

สตฺต ธมฺมา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – ปณีตโภชนเสวนตา, อุตุสุขเสวนตา, อิริยาปถสุขเสวนตา, มชฺฌตฺตปโยคตา, สารทฺธกายปุคฺคลปริวชฺชนตา, ปสฺสทฺธกาย-ปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ.

ปณีตฺหิ สินิทฺธํ โภชนํ ภุฺชนฺตสฺสาปิ, สีตุณฺเหสุ อุตูสุ านาทีสุ จ อิริยาปเถสุ สปฺปายํ อุตุฺจ อิริยาปถฺจ เสวนฺตสฺสาปิ ปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชติ. โย ปน มหาปุริสชาติโก สพฺพอุตุอิริยาปถกฺขโมว โหติ, น ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยสฺส สภาควิสภาคตา อตฺถิ, ตสฺเสว วิสภาเค อุตุอิริยาปเถ วชฺเชตฺวา สภาเค เสวนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. มชฺฌตฺตปโยโค วุจฺจติ อตฺตโน จ ปรสฺส จ กมฺมสฺสกตปจฺจเวกฺขณา. อิมินา มชฺฌตฺตปโยเคน อุปฺปชฺชติ. โย เลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ ปรํ วิเหยมาโนว วิจรติ, เอวรูปํ สารทฺธกายปุคฺคลํ ปริวชฺเชนฺตสฺสาปิ, สํยตปาทปาณึ ปสฺสทฺธกายํ ปุคฺคลํ เสวนฺตสฺสาปิ, านนิสชฺชาทีสุ ปสฺสทฺธิอุปฺปาทนตฺถาย นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ.

ทส ธมฺมา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – วตฺถุวิสทกิริยตา, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา, นิมิตฺตกุสลตา, สมเย จิตฺตสฺส ปคฺคณฺหนตา, สมเย จิตฺตสฺส นิคฺคณฺหนตา, สมเย สมฺปหํสนตา, สมเย อชฺฌุเปกฺขนตา, อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนตา, สมาหิตปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ. ตตฺถ วตฺถุวิสทกิริยตาอินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา จ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.

นิมิตฺตกุสลตา นาม กสิณนิมิตฺตสฺส อุคฺคหณกุสลตา. สมเย จิตฺตสฺส ปคฺคณฺหนตาติ ยสฺมึ สมเย อติสิถิลวีริยตาทีหิ ลีนํ จิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ สมเย ธมฺมวิจยวีริยปีติสมฺโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปเนน ตสฺส ปคฺคณฺหนํ. สมเย จิตฺตสฺส นิคฺคณฺหนตาติ ยสฺมึ สมเย อจฺจารทฺธวีริยตาทีหิ อุทฺธตํ จิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปเนน ตสฺส นิคฺคณฺหนํ. สมเย สมฺปหํสนตาติ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปฺาปโยคมนฺทตาย วา อุปสมสุขานํ วิคเมน วา นิรสฺสาทํ โหติ, ตสฺมึ สมเย อฏฺสํเวควตฺถุปจฺจเวกฺขเณน สํเวเชติ. อฏฺ สํเวควตฺถูนิ นาม ชาติชราพฺยาธิมรณานิ จตฺตาริ, อปายทุกฺขํ ปฺจมํ, อตีเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, อนาคเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, ปจฺจุปฺปนฺเน อาหารปริเยฏฺิมูลกํ ทุกฺขนฺติ. รตนตฺตยคุณานุสฺสรเณน จ ปสาทํ ชเนติ, อยํ วุจฺจติ ‘‘สมเย สมฺปหํสนตา’’ติ.

สมเย อชฺฌุเปกฺขนตา นาม ยสฺมึ สมเย สมฺมาปฏิปตฺตึ อาคมฺม อลีนํ อนุทฺธตํ อนิรสฺสาทํ อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ สมถวีถิปฏิปนฺนํ จิตฺตํ โหติ, ตทาสฺส ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ น พฺยาปารํ อาปชฺชติ สารถิ วิย สมปฺปวตฺเตสุ อสฺเสสุ. อยํ วุจฺจติ ‘‘สมเย อชฺฌุเปกฺขนตา’’ติ. อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนตา นาม อุปจารํ วา อปฺปนํ วา อปฺปตฺตานํ วิกฺขิตฺตจิตฺตานํ ปุคฺคลานํ อารกา ปริวชฺชนํ. สมาหิตปุคฺคลเสวนตา นาม อุปจาเรน วา อปฺปนาย วา สมาหิตจิตฺตานํ เสวนา ภชนา ปยิรุปาสนา. ตทธิมุตฺตตา นาม านนิสชฺชาทีสุ สมาธิอุปฺปาทนตฺถเมว นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตา. เอวฺหิ ปฏิปชฺชโต เอส อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ.

ปฺจ ธมฺมา อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – สตฺตมชฺฌตฺตตา, สงฺขารมชฺฌตฺตตา, สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลปริวชฺชนตา, สตฺตสงฺขารมชฺฌตฺตปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ. ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ สตฺตมชฺฌตฺตตํ สมุฏฺาเปติ – ‘‘ตฺวํ อตฺตโนว กมฺเมน อาคนฺตฺวา อตฺตโนว กมฺเมน คมิสฺสสิ, เอโสปิ อตฺตโน กมฺเมน อาคนฺตฺวา อตฺตโนว กมฺเมน คมิสฺสติ, ตฺวํ กํ เกลายสี’’ติ เอวํ กมฺมสฺสกตปจฺจเวกฺขเณน จ – ‘‘ปรมตฺถโต สตฺโตเยว นตฺถิ, โส ตฺวํ กํ เกลายสี’’ติ เอวํ นิสฺสตฺตปจฺจเวกฺขเณน จ. ทฺวีเหวากาเรหิ สงฺขารมชฺฌตฺตตํ สมุฏฺาเปติ – ‘‘อิทํ จีวรํ อนุปุพฺเพน วณฺณวิการตฺเจว ชิณฺณภาวฺจ อุปคนฺตฺวา ปาทปุฺฉนโจฬกํ หุตฺวา ยฏฺิโกฏิยา ฉฑฺฑนียํ ภวิสฺสติ, สเจ ปนสฺส สามิโก ภเวยฺย , นายํ เอวํ วินสฺสิตุํ ทเทยฺยา’’ติ เอวํ อสฺสามิกภาวปจฺจเวกฺขเณน จ, ‘‘อนทฺธนิยํ อิทํ ตาวกาลิก’’นฺติ เอวํ ตาวกาลิกภาวปจฺจเวกฺขเณน จ. ยถา จ จีวเร, เอวํ ปตฺตาทีสุปิ โยชนา กาตพฺพา.

สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลปริวชฺชนตาติ เอตฺถ โย ปุคฺคโล คิหิ วา อตฺตโน ปุตฺตธีตาทิเก, ปพฺพชิโต วา อตฺตโน อนฺเตวาสิกสมานุปชฺฌายกาทิเก มมายติ, สหตฺถาว เนสํ เกสจฺเฉทน-สูจิกมฺม-จีวรโธวน-รชน-ปตฺตปจนาทีนิ กโรติ, มุหุตฺตมฺปิ อปสฺสนฺโต ‘‘อสุโก สามเณโร กุหึ, อสุโก ทหโร กุหิ’’นฺติ ภนฺตมิโค วิย อิโต จิโต จ อาโลเกติ, อฺเน เกสจฺเฉทนาทีนํ อตฺถาย ‘‘มุหุตฺตํ ตาว อสุกํ เปเสถา’’ติ ยาจิยมาโนปิ ‘‘อมฺเหปิ ตํ อตฺตโน กมฺมํ น กาเรม, ตุมฺเห นํ คเหตฺวา กิลเมสฺสถา’’ติ น เทติ, อยํ สตฺตเกลายโน นาม. โย ปน จีวรปตฺตถาลกกตฺตรยฏฺิอาทีนิ มมายติ, อฺสฺส หตฺเถน ปรามสิตุมฺปิ น เทติ, ตาวกาลิกํ ยาจิโตปิ ‘‘มยมฺปิ อิมํ ธนายนฺตา น ปริภุฺชาม, ตุมฺหากํ กึ ทสฺสามา’’ติ วทติ, อยํ สงฺขารเกลายโน นาม. โย ปน เตสุ ทฺวีสุปิ วตฺถูสุ มชฺฌตฺโต อุทาสิโน, อยํ สตฺตสงฺขารมชฺฌตฺโต นาม. อิติ อยํ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค เอวรูปํ สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลํ อารกา ปริวชฺเชนฺตสฺสาปิ, สตฺตสงฺขารมชฺฌตฺตปุคฺคลํ เสวนฺตสฺสาปิ, านนิสชฺชาทีสุ ตทุปฺปาทนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ.

อสุภนิมิตฺตนฺติ อุทฺธุมาตกาทิเภทา ทส อสุภารมฺมณา ธมฺมา. โยนิโสมนสิการพหุลีกาโรติ เอตฺถ ปน โยนิโสมนสิกาโร นาม อุปายมนสิกาโร, ปถมนสิกาโร, อุปฺปาทกมนสิกาโร. อปิจ ฉ ธมฺมา กามจฺฉนฺทสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ – อสุภนิมิตฺตสฺส อุคฺคโห, อสุภภาวนานุโยโค, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา, โภชเน มตฺตฺุตา, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ.

ทสวิธฺหิ อสุภนิมิตฺตํ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ กามจฺฉนฺโท ปหียติ, ภาเวนฺตสฺสาปิ, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารสฺสาปิ, จตุนฺนํ ปฺจนฺนํ อาโลปานํ โอกาเส สติ อุทกํ ปิวิตฺวา ยาปนสีลตาย โภชเน มตฺตฺุโนปิ. เตเนตํ วุตฺตํ –

‘‘จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว;

อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ. (เถรคา. ๙๘๓);

อสุภกมฺมิกติสฺสตฺเถรสทิเส อสุภภาวนารเต กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ กามจฺฉนฺโท ปหียติ, านนิสชฺชาทีสุ ทสอสุภนิมิตฺตาย-สปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา กามจฺฉนฺทสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ . อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส อรหตฺตมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหติ.

เมตฺตา เจโตวิมุตฺตีติ เอตฺถ เมตฺตาติ วุตฺเต อปฺปนาปิ อุปจาโรปิ วฏฺฏติ, เจโตวิมุตฺตีติ อปฺปนาเยว. โยนิโสมนสิกาโร วุตฺตลกฺขโณว. อปิจ ฉ ธมฺมา พฺยาปาทสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ – เมตฺตานิมิตฺตสฺส อุคฺคโห, เมตฺตาภาวนานุโยโค, กมฺมสฺสกตาปจฺจเวกฺขณตา, ปฏิสงฺขานพหุลตา, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ.

โอทิสฺสกอโนทิสฺสกทิสาผรณานฺหิ อฺตรวเสน เมตฺตํ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ พฺยาปาโท ปหียติ, ตถา โอธิโสอโนธิโสทิสาผรณวเสน เมตฺตํ ภาเวนฺตสฺสาปิ. ‘‘ตฺวํ เอตสฺส กุทฺโธ กึ กริสฺสสิ? กิมสฺส สีลาทีนิ นาเสตุํ สกฺขิสฺสสิ? นนุ ตฺวํ อตฺตโน กมฺเมน อาคนฺตฺวา อตฺตโน กมฺเมเนว คมิสฺสสิ? ปรสฺส กุชฺฌนํ นาม วีตจฺจิกงฺคารตตฺตอยสลากคูถาทีนิ คเหตฺวา ปรํ ปหริตุกามตาสทิสํ โหติ. เอโสปิ ตว กุทฺโธ กึ กริสฺสติ? กึ เต สีลาทีนิ วินาเสตุํ สกฺขิสฺสติ? เอส อตฺตโน กมฺเมน อาคนฺตฺวา อตฺตโน กมฺเมเนว คมิสฺสติ? อปฺปฏิจฺฉิตปเหณกํ วิย ปฏิวาตํ ขิตฺตรโชมุฏฺิ วิย จ เอตสฺเสเวส โกโธ มตฺถเก ปติสฺสตี’’ติ เอวํ อตฺตโน จ ปรสฺส จ กมฺมสฺสกตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ, อุภยกมฺมสฺสกตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปฏิสงฺขาเน ิตสฺสาปิ, อสฺสคุตฺตตฺเถรสทิเส เมตฺตาภาวนารเต กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ พฺยาปาโท ปหียติ, านนิสชฺชาทีสุ เมตฺตานิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา พฺยาปาทสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ . อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนสฺส พฺยาปาทสฺส อนาคามิมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหติ.

อตฺถิ ภิกฺขเว อรตีติอาทิ วุตฺตตฺถเมว. อปิ จ ฉ ธมฺมา ถินมิทฺธสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ – อติโภชเน นิมิตฺตคฺคาโห, อิริยาปถสมฺปริวตฺตนตา, อาโลกสฺามนสิกาโร, อพฺโภกาสวาโส, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ.

อาหรหตฺถกํ, ภุตฺตวมิตกํ, ตตฺรวฏฺฏกํ, อลํสาฏกํ, กากมาสกโภชนํ ภุฺชิตฺวา รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเน นิสินฺนสฺส หิ สมณธมฺมํ กโรโต ถินมิทฺธํ มหาหตฺถี วิย โอตฺถรนฺตํ อาคจฺฉติ, จตุปฺจอาโลปโอกาสํ ปน เปตฺวา ปานียํ ปิวิตฺวา ยาปนสีลสฺส ภิกฺขุโน ตํ น โหตีติ เอวํ อติโภชเน นิมิตฺตํ คณฺหนฺตสฺสปิ ถินมิทฺธํ ปหียติ. ยสฺมึ อิริยาปเถ ถินมิทฺธํ โอกฺกมติ, ตโต อฺํ ปริวตฺเตนฺตสฺสาปิ, รตฺตึ จนฺทาโลกทีปาโลกอุกฺกาโลเก ทิวา สูริยาโลกํ มนสิกโรนฺตสฺสาปิ, อพฺโภกาเส วสนฺตสฺสาปิ, มหากสฺสปตฺเถรสทิเส ปหีนถินมิทฺเธ กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ ถินมิทฺธํ ปหียติ, านนิสชฺชาทีสุ ธุตงฺคนิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา ถินมิทฺธสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนสฺส ถินมิทฺธสฺส อรหตฺตมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหติ.

อตฺถิ ภิกฺขเว เจตโส วูปสโมติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. อปิจ ฉ ธมฺมา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ – พหุสฺสุตตา, ปริปุจฺฉกตา, วินเย ปกตฺุตา, วุทฺธเสวิตตา, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ.

พาหุสจฺเจนปิ หิ เอกํ วา ทฺเว วา ตโย วา จตฺตาโร วา ปฺจ วา นิกาเย ปาฬิวเสน จ อตฺถวเสน จ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียติ, กปฺปิยากปฺปิยปริปุจฺฉาพหุลสฺสาปิ, วินยปฺตฺติยํ จิณฺณวสีภาวตาย ปกตฺุโนปิ, วุทฺเธ มหลฺลกตฺเถเร อุปสงฺกมนฺตสฺสาปิ, อุปาลิตฺเถรสทิเส วินยธเร กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียติ, านนิสชฺชาทีสุ กปฺปิยากปฺปิยนิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีเน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺเจ อุทฺธจฺจสฺส อรหตฺตมคฺเคน, กุกฺกุจฺจสฺส อนาคามิมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหตีติ.

กุสลากุสลา ธมฺมาติอาทีนิปิ วุตฺตตฺถาเนว. อปิจ ฉ ธมฺมา วิจิกิจฺฉาย ปหานาย สํวตฺตนฺติ – พหุสฺสุตตา, ปริปุจฺฉกตา, วินเย ปกตฺุตา, อธิโมกฺขพหุลตา, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ.

พาหุสจฺเจนปิ หิ เอกํ วา…เป… ปฺจ วา นิกาเย ปาฬิวเสน จ อตฺถวเสน จ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ วิจิกิจฺฉา ปหียติ, ตีณิ รตนานิ อารพฺภ ปริปุจฺฉาพหุลสฺสาปิ , วินเย จิณฺณวสีภาวสฺสาปิ, ตีสุ รตเนสุ โอกปฺปนิยสทฺธาสงฺขาตอธิโมกฺขพหุลสฺสาปิ, สทฺธาธิมุตฺเต วกฺกลิตฺเถรสทิเส กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ วิจิกิจฺฉา ปหียติ, านนิสชฺชาทีสุ ติณฺณํ รตนานํ คุณนิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา วิจิกิจฺฉาย ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนาย วิจิกิจฺฉาย โสตาปตฺติมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหติ. อิติ ภควา อิมสฺมึ สุตฺเต เทสนํ ตีหิ ภเวหิ นิวตฺเตตฺวา อรหตฺเตน กูฏํ คณฺหิ. เทสนาปริโยสาเน ปฺจสตา ภิกฺขู อรหตฺตํ ปาปุณึสุ.

๒. ปริยายสุตฺตวณฺณนา

๒๓๓. ทุติเย สมฺพหุลาติ วินยปริยาเยน ตโย ชนา สมฺพหุลาติ วุจฺจนฺติ, ตโต ปรํ สงฺโฆ. สุตฺตนฺตปริยาเยน ตโย ตโย เอว, ตโต อุทฺธํ สมฺพหุลา. อิธ สุตฺตนฺตปริยาเยน สมฺพหุลาติ เวทิตพฺพา. ปิณฺฑาย ปวิสึสูติ ปิณฺฑาย ปวิฏฺา. เต ปน น ตาว ปวิฏฺา, ‘‘ปวิสิสฺสามา’’ติ นิกฺขนฺตตฺตา ปน ปวิสึสูติ วุตฺตา. ยถา กึ? ยถา ‘‘คามํ คมิสฺสามี’’ติ นิกฺขนฺตปุริโส ตํ คามํ อปตฺโตปิ ‘‘กหํ อิตฺถนฺนาโม’’ติ วุตฺเต ‘‘คามํ คโต’’ติ วุจฺจติ, เอวํ. ปริพฺพาชกานํ อาราโมติ เชตวนสฺส อวิทูเร อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม อตฺถิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. สมโณ อาวุโสติ อาวุโส ตุมฺหากํ สตฺถา สมโณ โคตโม.

มยมฺปิ โข อาวุโส สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสมาติ ติตฺถิยานํ สมเย ‘‘ปฺจ นีวรณา ปหาตพฺพา, สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาเวตพฺพา’’ติ เอตํ นตฺถิ . เต ปน อารามํ คนฺตฺวา ปริสปริยนฺเต ตฺวา อฺํ โอโลเกนฺโต วิย อฺวิหิตกา วิย หุตฺวา ภควโต ธมฺมเทสนํ สุณนฺติ. ตโต ‘‘สมโณ โคตโม ‘อิทํ ปชหถ อิทํ ภาเวถา’ติ วทตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา อตฺตโน อารามํ คนฺตฺวา อารามมชฺเฌ อาสนํ ปฺาเปตฺวา อุปฏฺายกอุปฏฺายิกาหิ ปริวุตา สีสํ อุกฺขิปิตฺวา กายํ อุนฺนาเมตฺวา อตฺตโน สยมฺภูาเณน ปฏิวิทฺธาการํ ทสฺเสนฺตา – ‘‘ปฺจ นีวรณา นาม ปหาตพฺพา, สตฺต โพชฺฌงฺคา นาม ภาเวตพฺพา’’ติ กเถนฺติ.

อิธ โน อาวุโสติ เอตฺถ อิธาติ อิมสฺมึ ปฺาปเน. โก วิเสโสติ กึ อธิกํ? โก อธิปฺปยาโสติ โก อธิกปฺปโยโค? กึ นานากรณนฺติ กึ นานตฺตํ? ธมฺมเทสนาย วา ธมฺมเทสนนฺติ ยทิทํ สมณสฺส วา โคตมสฺส ธมฺมเทสนาย สทฺธึ อมฺหากํ ธมฺมเทสนํ, อมฺหากํ วา ธมฺมเทสนาย สทฺธึ สมณสฺส โคตมสฺส ธมฺมเทสนํ อารพฺภ นานากรณํ วุจฺเจยฺย, ตํ กินฺนามาติ วทนฺติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย.

เนว อภินนฺทึสูติ ‘‘เอวเมว’’นฺติ น สมฺปฏิจฺฉึสุ. นปฺปฏิกฺโกสึสูติ ‘‘นยิทํ เอว’’นฺติ น ปฏิเสธึสุ. กึ ปน เต ปโหนฺตา เอวํ อกํสุ, อุทาหุ อปฺปโหนฺตาติ? ปโหนฺตา. น หิ เต เอตฺตกํ กถํ กเถตุํ น สกฺโกนฺติ ‘‘อาวุโส ตุมฺหากํ สมเย ปฺจ นีวรณา ปหาตพฺพา นาม นตฺถิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาเวตพฺพา นาม นตฺถี’’ติ. เอวํ ปน เตสํ อโหสิ – ‘‘อตฺถิ โน เอตํ กถาปาภตํ, มยํ เอตํ สตฺถุ อาโรเจสฺสาม, อถ โน สตฺถา มธุรธมฺมเทสนํ เทเสสฺสตี’’ติ.

ปริยาโยติ การณํ. น เจว สมฺปายิสฺสนฺตีติ สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. อุตฺตริฺจ วิฆาตนฺติ อสมฺปายนโต อุตฺตริมฺปิ ทุกฺขํ อาปชฺชิสฺสนฺติ. สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ อสกฺโกนฺตานฺหิ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ยถา ตํ, ภิกฺขเว, อวิสยสฺมินฺติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ, ยถาติ การณวจนํ, ยสฺมา อวิสเย ปฺโห ปุจฺฉิโตติ อตฺโถ. สเทวเกติ สห เทเวหิ สเทวเก. สมารกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ ตีณิ านานิ โลเก ปกฺขิปิตฺวา ทฺเว ปชายาติ, ปฺจหิปิ สตฺตโลกเมว ปริยาทิยิตฺวา เอตสฺมึ สเทวกาทิเภเท โลเก เทวํ วา มนุสฺสํ วา น สมนุปสฺสามีติ ทีเปติ. อิโต วา ปน สุตฺวาติ อิโต วา ปน มม สาสนโต สุตฺวา. อิโต สุตฺวา หิ ตถาคโต ตถาคตสาวโกปิ อาราเธยฺย, ปริโตเสยฺย, อฺถา อาราธนา นาม นตฺถีติ ทสฺเสติ.

อิทานิ อตฺตโน เตสํ ปฺหานํ เวยฺยากรเณน จิตฺตาราธนํ ทสฺเสนฺโต กตโม จ ภิกฺขเว ปริยาโยติอาทิมาห. ตตฺถ อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺโทติ อตฺตโน ปฺจกฺขนฺเธ อารพฺภ อุปฺปนฺนฉนฺทราโค . พหิทฺธา กามจฺฉนฺโทติ ปเรสํ ปฺจกฺขนฺเธ อารพฺภ อุปฺปนฺนฉนฺทราโค. อุทฺเทสํ คจฺฉตีติ คณนํ คจฺฉติ. อชฺฌตฺตํ พฺยาปาโทติ อตฺตโน หตฺถปาทาทีสุ อุปฺปนฺนปฏิโฆ. พหิทฺธา พฺยาปาโทติ ปเรสํ เตสุ อุปฺปนฺนปฏิโฆ. อชฺฌตฺตํ ธมฺเมสุ วิจิกิจฺฉาติ อตฺตโน ขนฺเธสุ วิมติ. พหิทฺธา ธมฺเมสุ วิจิกิจฺฉาติ พหิทฺธา อฏฺสุ าเนสุ มหาวิจิกิจฺฉา. อชฺฌตฺตํ ธมฺเมสุ สตีติ อชฺฌตฺติเก สงฺขาเร ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส อุปฺปนฺนา สติ. พหิทฺธา ธมฺเมสุ สตีติ พหิทฺธา สงฺขาเร ปริคฺคณฺหนฺตสฺส อุปฺปนฺนา สติ. ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺเคปิ เอเสว นโย.

กายิกนฺติ จงฺกมํ อธิฏฺหนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ. เจตสิกนฺติ – ‘‘น ตาวาหํ อิมํ ปลฺลงฺกํ ภินฺทิสฺสามิ, ยาว เม อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิสฺสตี’’ติ เอวํ กายปโยคํ วินา อุปฺปนฺนวีริยํ. กายปฺปสฺสทฺธีติ ติณฺณํ ขนฺธานํ ทรถปสฺสทฺธิ. จิตฺตปฺปสฺสทฺธีติ วิฺาณกฺขนฺธสฺส ทรถปสฺสทฺธิ. อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺเค สติสมฺโพชฺฌงฺคสทิโสว วินิจฺฉโย.

อิมสฺมึ สุตฺเต มิสฺสกสมฺโพชฺฌงฺคา กถิตา. เอเตสุ หิ อชฺฌตฺตธมฺเมสุ สติ, ปวิจโย, อุเปกฺขาติ อิเม อตฺตโน ขนฺธารมฺมณตฺตา โลกิยาว โหนฺติ, ตถา มคฺคํ อปตฺตํ กายิกวีริยํ. อวิตกฺกอวิจารา ปน ปีติสมาธี กิฺจาปิ รูปาวจรา โหนฺติ, รูปาวจเร ปน โพชฺฌงฺคา น ลพฺภนฺตีติ โลกุตฺตราว โหนฺติ. เย จ เถรา พฺรหฺมวิหารวิปสฺสนาปาทกชฺฌานาทีสุ โพชฺฌงฺเค อุทฺธรนฺติ, เตสํ มเตน รูปาวจราปิ อรูปาวจราปิ โหนฺติ. โพชฺฌงฺเคสุ หิ อรูปาวจเร ปีติเยว เอกนฺเตน น ลพฺภติ, เสสา ฉ มิสฺสกาว โหนฺตีติ. เทสนาปริโยสาเน เกจิ ภิกฺขู โสตาปนฺนา ชาตา, เกจิ สกทาคามี, เกจิ อนาคามี, เกจิ อรหนฺโตติ.

๓. อคฺคิสุตฺตวณฺณนา

๒๓๔. ตติเย สติฺจ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพตฺถิกํ วทามีติ โลณธูปนํ วิย สพฺพกมฺมิกามจฺจํ วิย จ สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพํ วทามีติ อตฺโถ. ยถา หิ โลณธูปนํ สพฺพพฺยฺชเนสุปิ นิวิสติ, ยถา จ สพฺพกมฺมิโก อมจฺโจ โยธกมฺมมฺปิ กโรติ มนฺตกมฺมมฺปิ ปฏิหารกมฺมมฺปีติ สพฺพกิจฺจานิ สาเธติ, เอวํ อุทฺธตสฺส จิตฺตสฺส นิคฺคณฺหนํ, ลีนสฺส ปคฺคณฺหนนฺติ สพฺพเมตํ สติยา อิชฺฌติ, น สกฺกา วินา สติยา เอตํ สมฺปาเทตุํ, ตสฺมา เอวมาห. อิมสฺมึ สุตฺเต ปุพฺพภาควิปสฺสนา โพชฺฌงฺคาว กถิตา.

๔. เมตฺตาสหคตสุตฺตวณฺณนา

๒๓๕. จตุตฺเถ เมตฺตาสหคเตน เจตสาติอาทิ สพฺพํ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔๐-๒๔๑) วิตฺถาริตเมว. มยมฺปิ โข, อาวุโส, สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสมาติ อิทมฺปิ เต ปุริมนเยเนว สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา วทนฺติ. ติตฺถิยานฺหิ สมเย ปฺจนีวรณปฺปหานํ วา เมตฺตาทิพฺรหฺมวิหารภาวนา วา นตฺถิ. กึ คติกา โหตีติ กึ นิปฺผตฺติ โหติ. กึ ปรมาติ กึ อุตฺตมา. กึ ผลาติ กึ อานิสํสา. กึ ปริโยสานาติ กึ นิฏฺา. เมตฺตาสหคตนฺติ เมตฺตาย สหคตํ สํสฏฺํ สมฺปยุตฺตํ. เอเสว นโย สพฺพตฺถ. วิเวกนิสฺสิตาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว.

อปฺปฏิกูลนฺติ ทุวิธํ อปฺปฏิกูลํ – สตฺตอปฺปฏิกูลฺจ, สงฺขารอปฺปฏิกูลฺจ. ตสฺมึ อปฺปฏิกูเล อิฏฺเ วตฺถุสฺมินฺติ อตฺโถ. ปฏิกูลสฺีติ อนิฏฺสฺี. กถํ ปเนตฺถ เอวํ วิหรติ? อสุภผรณํ วา อนิจฺจนฺติ มนสิการํ วา กโรนฺโต. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ ‘‘กถํ อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสฺี วิหรติ. อิฏฺสฺมึ วตฺถุสฺมึ อสุภาย วา ผรติ, อนิจฺจโต วา อุปสํหรตี’’ติ. ปฏิกูเล ปน อนิฏฺเ วตฺถุสฺมึ เมตฺตาผรณํ วา ธาตุมนสิการํ วา กโรนฺโต อปฺปฏิกูลสฺี วิหรติ นาม. ยถาห ‘‘กถํ ปฏิกูเล อปฺปฏิกูลสฺี วิหรติ. อนิฏฺสฺมึ วตฺถุสฺมึ เมตฺตาย วา ผรติ, ธาตุโต วา อุปสํหรตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๑๗). อุภยมิสฺสกปเทสุปิ เอเสว นโย. อปฺปฏิกูลปฺปฏิกูเลสุ หิ ตเทว อสุภผรณํ วา อนิจฺจนฺติ มนสิการํ วา กโรนฺโต ปฏิกูลสฺี วิหรติ นาม. ปฏิกูลาปฏิกูเลสุ จ ตเทว เมตฺตาผรณํ วา ธาตุมนสิการํ วา กโรนฺโต อปฺปฏิกูลสฺี วิหรติ นาม. ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๒.๑๗) นเยน วุตฺตํ ปน ฉฬงฺคุเปกฺขํ ปวตฺตยมาโน ‘‘อปฺปฏิกูเล จ ปฏิกูเล จ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติ เวทิตพฺโพ.

เอตฺตาวตา จ อิมสฺส ภิกฺขุโน เมตฺตาย ติกจตุกฺกชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตเทว ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตสฺส สห วิปสฺสนาย มคฺคสมฺโพชฺฌงฺคานํ อริยิทฺธิยา จ ทสฺสิตตฺตา เทสนา วินิวฏฺเฏตพฺพา สิยา. อิทํ ปน เมตฺตาฌานํ ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺโตปิ โย อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ น สกฺโกติ, ยสฺมา ตสฺส อรหตฺตปรมา เมตฺตา น โหติ. ยํปรมา ปน โหติ, ตํ ทสฺเสตพฺพํ. ตสฺมา ตสฺส ทสฺสนตฺถํ อยํ เทสนา อารทฺธา. ปรโต สพฺพโส วา ปน รูปสฺานํ สมติกฺกมาติอาทีสุปิ อิมินา นเยน ปุน เทสนารมฺภปโยชนํ เวทิตพฺพํ.

สุภปรมนฺติ สุภนิฏฺํ, สุภโกฏิกํ, สุภนิปฺผตฺตึ. อิธปฺสฺสาติ อิเธว ปฺา อสฺส, นยิมํ โลกํ อติกฺกมตีติ อิธปฺโ, ตสฺส อิธปฺสฺส, โลกิยปฺสฺสาติ อตฺโถ. อุตฺตริวิมุตฺตึ อปฺปฏิวิชฺฌโตติ โลกุตฺตรธมฺมํ อปฺปฏิวิชฺฌนฺตสฺส. โย ปน ปฏิวิชฺฌิตุํ สกฺโกติ, ตสฺส อรหตฺตปรมาว เมตฺตา โหตีติ อตฺโถ. กรุณาทีสุปิ เอเสว นโย.

กสฺมา ปเนตาสํ เมตฺตาทีนํ สุภปรมาทิตา วุตฺตา ภควตาติ? สภาควเสน ตสฺส ตสฺส อุปนิสฺสยตฺตา. เมตฺตาวิหาริสฺส หิ สตฺตา อปฺปฏิกูลา โหนฺติ, อถสฺส อปฺปฏิกูลปริจยา อปฺปฏิกูเลสุ ปริสุทฺธวณฺเณสุ นีลาทีสุ จิตฺตํ อุปสํหรโต อปฺปกสิเรเนว ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. อิติ เมตฺตา สุภวิโมกฺขสฺส อุปนิสฺสโย โหติ, น ตโต ปรํ, ตสฺมา สุภปรมาติ วุตฺตา.

กรุณาวิหาริสฺส อุณฺหาภิฆาตาทิรูปนิมิตฺตํ สตฺตทุกฺขํ สมนุปสฺสนฺตสฺส กรุณาย ปวตฺติสมฺภวโต รูเป อาทีนโว ปริวิทิโต โหติ , อถสฺส ปริวิทิตรูปาทีนวตฺตา ปถวีกสิณาทีสุ อฺตรํ อุคฺฆาเฏตฺวา รูปนิสฺสรเณ อากาเส จิตฺตํ อุปสํหรโต อปฺปกสิเรเนว ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. อิติ กรุณา อากาสานฺจายตนสฺส อุปนิสฺสโย โหติ, น ตโต ปรํ, ตสฺมา อากาสานฺจายตนปรมาติ วุตฺตา.

มุทิตาวิหาริสฺส ปน เตน เตน ปาโมชฺชการเณน อุปฺปนฺนปาโมชฺชสตฺตานํ วิฺาณํ สมนุปสฺสนฺตสฺส มุทิตาย ปวตฺติสมฺภวโต วิฺาณคฺคหณปริจิตํ โหติ, อถสฺส อนุกฺกมาธิคตํ อากาสานฺจายตนํ อติกฺกมฺม อากาสนิมิตฺตโคจเร วิฺาเณ จิตฺตํ อุปสํหรโต อปฺปกสิเรเนว ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. อิติ มุทิตา วิฺาณฺจายตนสฺส อุปนิสฺสโย โหติ, น ตโต ปรํ, ตสฺมา วิฺาณฺจายตนปรมาติ วุตฺตา.

อุเปกฺขาวิหาริสฺส ปน ‘‘สตฺตา สุขิตา วา โหนฺตุ, ทุกฺขโต วา วิมุจฺจนฺตุ, สมฺปตฺตสุขโต วา มา วิคจฺฉนฺตู’’ติ อาโภคาภาวโต สุขทุกฺขาทิปรมตฺถคาหวิมุขสมฺภวโต อวิชฺชมานคฺคหณทุกฺขจิตฺตํ โหติ. อถสฺส ปรมตฺถคาหโต วิมุขภาวปริจิตจิตฺตสฺส ปรมตฺถโต อวิชฺชมานคฺคหณทุกฺขจิตฺตสฺส จ อนุกฺกมาธิคตํ วิฺาณาฺจายตนํ สมติกฺกมฺมสมฺภวโต อวิชฺชมาเน ปรมตฺถภูตสฺส วิฺาณสฺส อภาเว จิตฺตํ อุปสํหรโต อปฺปกสิเรเนว ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. อิติ อุเปกฺขา อากิฺจฺายตนสฺส อุปนิสฺสโย โหติ, น ตโต ปรํ, ตสฺมา อากิฺจฺายตนปรมาติ วุตฺตา. เทสนาปริโยสาเน ปฺจสตา ภิกฺขู อรหตฺตํ ปตฺตาติ.

๕. สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา

๒๓๖. ปฺจเม ปเควาติ ปมฺเว. กามราคปริยุฏฺิเตนาติ กามราคคหิเตน. กามราคปเรเตนาติ กามราคานุคเตน. นิสฺสรณนฺติ ติวิธํ กามราคสฺส นิสฺสรณํ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ ตทงฺคนิสฺสรณํ สมุจฺเฉทนิสฺสรณนฺติ . ตตฺถ อสุเภ ปมชฺฌานํ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ นาม, วิปสฺสนา ตทงฺคนิสฺสรณํ นาม, อรหตฺตมคฺโค สมุจฺเฉทนิสฺสรณํ นาม. ตํ ติวิธมฺปิ นปฺปชานาตีติ อตฺโถ. อตฺตตฺถมฺปีติอาทีสุ อรหตฺตสงฺขาโต อตฺตโน อตฺโถ อตฺตตฺโถ นาม, ปจฺจยทายกานํ อตฺโถ ปรตฺโถ นาม, สฺเวว ทุวิโธปิ อุภยตฺโถ นาม. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อยํ ปน วิเสโส – พฺยาปาทสฺส นิสฺสรณนฺติอาทีสุ หิ ทฺเวว นิสฺสรณานิ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณฺจ สมุจฺเฉทนิสฺสรณฺจ. ตตฺถ พฺยาปาทสฺส ตาว เมตฺตาย ปมชฺฌานํ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ, อนาคามิมคฺโค สมุจฺเฉทนิสฺสรณํ. ถินมิทฺธสฺส อาโลกสฺา วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ, อรหตฺตมคฺโค สมุจฺเฉทนิสฺสรณํ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส โย โกจิ สมโถ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ, อุทฺธจฺจสฺส ปเนตฺถ อรหตฺตมคฺโค, กุกฺกุจฺจสฺส อนาคามิมคฺโค สมุจฺเฉทนิสฺสรณํ. วิจิกิจฺฉาย ธมฺมววตฺถานํ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ, ปมมคฺโค สมุจฺเฉทนิสฺสรณํ.

ยา ปเนตฺถ เสยฺยถาปิ พฺราหฺมณ อุทปตฺโต สํสฏฺโ ลาขาย วาติอาทิกา อุปมา วุตฺตา, ตาสุ อุทปตฺโตติ อุทกภริตา ปาติ. สํสฏฺโติ วณฺณเภทกรณวเสน สํสฏฺโ. ปกฺกุถิโตติ กุถิโต. อุสฺมุทกชาโตติ อุสุมชาโต. เสวาลปณกปริโยนทฺโธติ ติลพีชกาทิเภเทน เสวาเลน วา นีลมณฺฑูกปิฏฺิวณฺเณน วา อุทกปิฏฺึ ฉาเทตฺวา นิพฺพตฺตปณเกน ปริโยนทฺโธ. วาเตริโตติ วาเตน เอริโต กมฺปิโต. อาวิโลติ อปฺปสนฺโน. ลุฬิโตติ อสนฺนิสินฺโน. กลลีภูโตติ กทฺทมีภูโต. อนฺธกาเร นิกฺขิตฺโตติ โกฏฺนฺตราทิเภเท อนาโลกฏฺาเน ปิโต. อิมสฺมึ สุตฺเต ภควา ตีหิ ภเวหิ เทสนํ นิวตฺเตตฺวา อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ, พฺราหฺมโณ ปน สรณมตฺเต ปติฏฺิโต.

๖. อภยสุตฺตวณฺณนา

๒๓๗. ฉฏฺเ อฺาณาย อทสฺสนายาติ อฺาณตฺถาย อทสฺสนตฺถาย. ตคฺฆ ภควา นีวรณาติ เอกํเสน ภควา นีวรณา. กายกิลมโถติ กายทรโถ. จิตฺตกิลมโถติ จิตฺตทรโถ. โสปิ เม ปฏิปฺปสฺสทฺโธติ ตสฺส กิร สตฺถุ สนฺติเก สีตลํ อุตุสปฺปายฏฺานํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนสฺส กายทรโถ ปฏิปสฺสมฺภิ, ตสฺมึ ปฏิปสฺสทฺเธ ตทนฺวเยเนว จิตฺตทรโถปิ. อปิจ มคฺเคเนวสฺส เอตํ อุภยมฺปิ ปสฺสทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ.

๗. อานาปานวคฺโค

๑. อฏฺิกมหปฺผลสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๓๘. สตฺตมาทีสุ อฏฺิกสฺาติ อฏฺิกํ อฏฺิกนฺติ ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนสฺา. ตํ ปเนตํ ภาวยโต ยาว นิมิตฺตํ น อุปฺปชฺชติ, ตาว ฉวิปิ จมฺมมฺปิ อุปฏฺาติ. นิมิตฺเต ปน อุปฺปนฺเน ฉวิจมฺมานิ เนว อุปฏฺหนฺติ, สงฺขวณฺโณ สุทฺธอฏฺิกสงฺฆาโฏว อุปฏฺาติ หตฺถิกฺขนฺธคตํ ธมฺมิกติสฺสราชานํ โอโลเกนฺตสฺส สามเณรสฺส วิย, ปฏิมคฺเค หสมานํ อิตฺถึ โอโลเกนฺตสฺส เจติยปพฺพตวาสิโน ติสฺสตฺเถรสฺส วิย จาติ. วตฺถูนิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๕) วิตฺถาริตานิ. สติ วา อุปาทิเสเสติ คหณเสเส อุปาทานเสเส วิชฺชมานมฺหิ.

๒-๑๐. ปุฬวกสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๓๙-๒๔๗. ปุฬวกสฺาติ ปุฬวํ ปุฬวนฺติ ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนสฺา. วินีลกสฺาทีสุปิ เอเสว นโย. วินิจฺฉยกถา ปเนตฺถ สทฺธึ ภาวนานเยน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๐๒) วุตฺตา. เมตฺตาทโย ติกจตุกฺกชฺฌานวเสน เวทิตพฺพา, อุเปกฺขา จตุตฺถชฺฌานวเสเนว.

๘. นิโรธวคฺโค

๑-๑๐. อสุภสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๔๘-๒๕๗. อสุภสฺาติ อสุเภ ปมชฺฌานสฺา. มรณสฺาติ ‘‘อวสฺสํ มริตพฺพํ, มรณปฏิพทฺธํ เม ชีวิต’’นฺติ อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนสฺา . อาหาเร ปฏิกูลสฺาติ โอทนกุมฺมาสาทิมฺหิ อชฺโฌหรณีเย ปฏิกูลสฺา. สพฺพโลเก อนภิรติสฺาติ สกลโลกสฺมึ อนภิรตึ อุปฺปาเทนฺตสฺส อุปฺปนฺนสฺา. ปหานสฺาวิราคสฺาติ ทฺเว ปุพฺพภาคา. นิโรธสฺา มิสฺสกา. เอวเมตานิ อฏฺิกสฺาทีนิ วีสติ กมฺมฏฺานานิ นิทฺทิฏฺานิ. เตสํ นวสุ อปฺปนา โหนฺติ, เอกาทส อุปจารชฺฌานิกา. เสสา ปเนตฺถ วินิจฺฉยกถา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๙๔) อาคตาว. คงฺคาเปยฺยาลาทโย มคฺคสํยุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.

โพชฺฌงฺคสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.