📜
๑๑. โสตาปตฺติสํยุตฺตํ
๑. เวฬุทฺวารวคฺโค
๑. จกฺกวตฺติราชสุตฺตวณฺณนา
๙๙๗. โสตาปตฺติสํยุตฺตสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม กิฺจาปีติ อนุคฺคหครหเณสุ นิปาโต. จตุนฺนฺหิ มหาทีปานํ อิสฺสริยาธิปจฺจํ รชฺชํ อนุคฺคณฺหนฺโต จตุนฺนฺจ อปายานํ อปฺปหีนภาวํ ครหนฺโต สตฺถา ‘‘กิฺจาปิ, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จตุนฺนํ ทีปานนฺติ ทฺวิสหสฺสทีปปริวารานํ จตุนฺนํ มหาทีปานํ. อิสฺสริยาธิปจฺจนฺติ อิสฺสรภาโว อิสฺสริยํ, อธิปติภาโว อาธิปจฺจํ, อิสฺสริยํ อาธิปจฺจํ เอตสฺมึ รชฺเช, น เฉทนเภทนนฺติ อิสฺสริยาธิปจฺจํ. กาเรตฺวาติ เอวรูปํ รชฺชํ ปวตฺตาเปตฺวา. กิฺจาปิ, ภิกฺขเว, อริยสาวโกติ เอตฺถ อนุคฺคหปสํสาสุ นิปาโต. ปิณฺฑิยาโลเปน หิ ยาปนํ อนุคฺคหนฺโต จตุนฺนฺจ อปายานํ ปหีนภาวํ ปสํสนฺโต สตฺถา ‘‘กิฺจาปิ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นนฺตกานีติ อนนฺตกานิ. เตรสหตฺโถปิ หิ วตฺถสาฏโก ทสจฺเฉทนโต ปฏฺาย นนฺตกนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ.
อเวจฺจปฺปสาเทนาติ อจลปฺปสาเทน. โส ปนายํ ปสาโท กึ เอโก, อเนโกติ? เอโกว, โส มคฺเคน อาคตปฺปสาโท. เยสุ ปน วตฺถูสุ อปุพฺพํ อจริมํ รุหติ, เตสํ วเสน ‘‘พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทนา’’ติอาทินา นเยน ติธา วุตฺโต. ยสฺมา จ เอโก, ตสฺมาว นินฺนานากรโณ โหติ. อริยสาวกสฺส หิ พุทฺเธเยว ปสาโท จ เปมฺจ คารวฺจ มหนฺตํ, น ธมฺเม วา สงฺเฆ วา, ธมฺเมเยว วา มหนฺตํ ¶ , น พุทฺเธ วา สงฺเฆ วา, สงฺเฆเยว วา มหนฺตํ, น พุทฺเธ วา ธมฺเม วาติ เอตํ นตฺถิ. อิติปิ โส ภควาติอาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตาเนว.
อริยกนฺเตหีติ ¶ อริยานํ กนฺเตหิ ปิเยหิ มนาเปหิ. ปฺจ หิ สีลานิ ภวนฺตรคตาปิ อริยา น โกเปนฺติ, เอวํ เตสํ ปิยานิ. ตานิ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อขณฺเฑหีติอาทิ สทิสวเสน วุตฺตํ. มุขวฏฺฏิยฺหิ ฉินฺเนกเทสา ปาติ ขณฺฑาติ วุจฺจติ, มชฺเฌ ภินฺนา ฉิทฺทาติ, เอกสฺมึ ปเทเส วิสภาควณฺณา คาวี สพลาติ, นานาพินฺทุจิตฺตา กมฺมาสาติ, เอวเมว ปฏิปาฏิยา ¶ อาทิมฺหิ วา อนฺเต วา ภินฺนํ สีลํ ขณฺฑํ นาม, มชฺเฌ ภินฺนํ ฉิทฺทํ, ยตฺถ กตฺถจิ ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วา ปฏิปาฏิยา ภินฺนตฺตา สพลํ, เอกนฺตรํ ภินฺนํ กมฺมาสํ. เตสํ โทสานํ อภาเวน อขณฺฑาทิตา เวทิตพฺพา. ภุชิสฺเสหีติ ภุชิสฺสภาวกเรหิ. วิฺุปฺปสตฺเถหีติ พุทฺธาทีหิ วิฺูหิ ปสํสิเตหิ. อปรามฏฺเหีติ ‘‘อิทํ นาม ตยา กตํ, อิทํ วีติกฺกนฺต’’นฺติ เอวํ ปรามสิตุํ อสกฺกุเณยฺเยหิ. สมาธิสํวตฺตนิเกหีติ อปฺปนาสมาธึ อุปจารสมาธึ วา สํวตฺเตตุํ สมตฺเถหิ.
๒. พฺรหฺมจริโยคธสุตฺตวณฺณนา
๙๙๘. ทุติเย เยสํ สทฺธาติ ปเทน พุทฺเธ ปสาโท คหิโต. สีลนฺติ ปเทน อริยกนฺตานิ สีลานิ คหิตานิ. ปสาโทติ ปเทน สงฺเฆ ปสาโท คหิโต. ธมฺมทสฺสนนฺติ ปเทน ธมฺเม ปสาโท คหิโตติ เอวํ จตฺตาริ โสตาปตฺติยงฺคานิ วุตฺตานิ. กาเลน ปจฺเจนฺตีติ กาเลน ปาปุณนฺติ. พฺรหฺมจริโยคธํ สุขนฺติ พฺรหฺมจริยํ โอคาหิตฺวา ิตํ อุปริมคฺคตฺตยสมฺปยุตฺตํ สุขํ. โย ปเนส คาถาย อาคโต ปสาโท, โส กตรปสาโท โหตีติ. ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร ตาว ‘‘มคฺคปสาโท’’ติ อาห, ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ‘‘อาคตมคฺคสฺส ปจฺจเวกฺขณปฺปสาโท’’ติ. อุโภปิ เถรา ปณฺฑิตา พหุสฺสุตา, อุภินฺนํ สุภาสิตํ. มิสฺสกปฺปสาโท เอโสติ.
๓. ทีฆาวุอุปาสกสุตฺตวณฺณนา
๙๙๙. ตติเย ¶ ตสฺมาติ ยสฺมา จตูสุ โสตาปตฺติยงฺเคสุ สนฺทิสฺสสิ, ตสฺมา. วิชฺชาภาคิเยติ วิชฺชาโกฏฺาสิเก. สพฺพสงฺขาเรสูติ สพฺเพสุ เตภูมกสงฺขาเรสุ. เอวมสฺส อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา กถิตา. วิฆาตนฺติ ทุกฺขํ.
๔-๕. ปมสาริปุตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๐๐-๑๐๐๑. จตุตฺถ ¶ อุตฺตานเมว. ปฺจเม โสตาปตฺติยงฺคนฺติ โสตาปตฺติยา ปุพฺพภาคปฏิลาภงฺคํ. พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาทาทโย ปน ปฏิลทฺธคุณา ¶ โสตาปนฺนสฺส องฺคา นาม, เตปิ ปน โสตาปตฺติยงฺคนฺติ อาคตา. ตตฺรายํ ทฺวินฺนมฺปิ วจนตฺโถ – สปฺปุริเส เสวนฺโต ภชนฺโต ปยิรุปาสนฺโต ธมฺมํ สุณนฺโต โยนิโส มนสิกโรนฺโต ธมฺมานุธมฺมํ ปุพฺพภาคปฏิปทํ ปฏิปชฺชนฺโต โสตาปตฺตึ ปฏิลภตีติ สปฺปุริสสํเสวาทโย โสตาปตฺติอตฺถาย องฺคนฺติ โสตาปตฺติยงฺคํ นาม, อิตเร ปมมคฺคสงฺขาตาย โสตาปตฺติยา องฺคนฺติปิ โสตาปตฺติยงฺคํ, ปฏิวิทฺธโสตาปตฺติมคฺคสฺส โสตาปตฺติมคฺโค องฺคนฺติปิ โสตาปตฺติยงฺคํ.
๖. ถปติสุตฺตวณฺณนา
๑๐๐๒. ฉฏฺเ สาธุเก ปฏิวสนฺตีติ สาธุกนามเก อตฺตโน โภคคามเก วสนฺติ. เตสุ อิสิทตฺโต สกทาคามี, ปุราโณ โสตาปนฺโน สทารสนฺตุฏฺโ. มคฺเค ปุริสํ เปสุนฺติ เตสํ กิร คามทฺวาเรน ภควโต คมนมคฺโค. ตสฺมา ‘‘ภควา กาเล วา อกาเล วา อมฺหากํ สุตฺตานํ วา ปมตฺตานํ วา คจฺเฉยฺย, อถ ปสฺสิตุํ น ลเภยฺยามา’’ติ มคฺคมชฺเฌ ปุริสํ เปสุํ.
อนุพนฺธึสูติ น ทูรโตว ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธึสุ, ภควา ปน สกฏมคฺคสฺส มชฺเฌ ชงฺฆมคฺเคน อคมาสิ, อิตเร อุโภสุ ปสฺเสสุ อนุคจฺฉนฺตา อคมํสุ. มคฺคา โอกฺกมฺมาติ พุทฺธานฺหิ เกนจิ สทฺธึ คจฺฉนฺตานํเยว ปฏิสนฺถารํ กาตุํ วฏฺฏติ เกนจิ สทฺธึ ิตกานํ ¶ , เกนจิ สทฺธึ ทิวสภาคํ นิสินฺนานํ. ตสฺมา ภควา จินฺเตสิ – ‘‘อิเมหิ เม สทฺธึ คจฺฉนฺตสฺส ปฏิสนฺถารํ กาตุํ อยุตฺตํ, ิตเกนปิ กาตุํ น ยุตฺตํ, อิเม หิ มยฺหํ สาสเน สามิโน อาคตผลา. อิเมหิ สทฺธึ นิสีทิตฺวาว ทิวสภาคํ ปฏิสนฺถารํ กริสฺสามี’’ติ มคฺคา โอกฺกมฺม เยน อฺตรํ รุกฺขมูลํ เตนุปสงฺกมิ.
ปฺตฺเต อาสเน นิสีทีติ เต กิร ฉตฺตุปาหนํ กตฺตรทณฺฑํ ปาทพฺภฺชนเตลาทีนิ เจว อฏฺวิธฺจ ปานกํ สรภปาทปลฺลงฺกฺจ คาหาเปตฺวา อคมํสุ, อาภตํ ปลฺลงฺกมฺปิ ปฺาเปตฺวา อทํสุ ¶ , สตฺถา ตสฺมึ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสีทึสูติ เสสานิ ฉตฺตุปาหนาทีนิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส เทถาติ วตฺวา สยมฺปิ ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.
สาวตฺถิยา ¶ โกสเลสุ จาริกํ ปกฺกมิสฺสตีติอาทิ สพฺพํ มชฺฌิมปเทสวเสนว วุตฺตํ. กสฺมา? นิยตตฺตา. ภควโต หิ จาริกาจรณมฺปิ อรุณุฏฺาปนมฺปิ นิยตํ, มชฺฌิมปเทเสเยว จาริกํ จรติ, มชฺฌิมเทเส อรุณํ อุฏฺเปตีติ นิยตตฺตา มชฺฌิมเทสวเสน วุตฺตํ. อาสนฺเน โน ภควา ภวิสฺสตีติ เอตฺถ น เกวลํ อาสนฺนตฺตาเยว เตสํ โสมนสฺสํ โหติ, อถ โข ‘‘อิทานิ ทานํ ทาตุํ คนฺธมาลาทีหิ ปูชํ กาตุํ ธมฺมํ โสตุํ ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ ลภิสฺสามา’’ติ เตสํ โสมนสฺสํ โหติ.
ตสฺมาติห ถปตโย สมฺพาโธ ฆราวาโสติ ถปตโย ยสฺมา ตุมฺหากํ มยิ ทูรีภูเต อนปฺปกํ โทมนสฺสํ, อาสนฺเน อนปฺปกํ โสมนสฺสํ โหติ, ตสฺมาปิ เวทิตพฺพเมตํ ‘‘สมฺพาโธ ฆราวาโส’’ติ. ฆราวาสสฺส หิ โทเสน ตุมฺหากํ เอวํ โหติ. สเจ ปน ฆราวาสํ ปหาย ปพฺพชิตา, อถ เอวํ โว มยา สทฺธึเยว คจฺฉนฺตานฺจ อาคจฺฉนฺตานฺจ ตํ น ภเวยฺยาติ อิมมตฺถํ ทีเปนฺโต เอวมาห. ตตฺถ สกิฺจนสปลิโพธฏฺเน สมฺพาธตา เวทิตพฺพา. มหาวาเส วสนฺตสฺสปิ หิ สกิฺจนสปลิโพธฏฺเน ฆราวาโส สมฺพาโธว. รชาปโถติ ราคโทสโมหรชานํ อาปโถ, อาคมนฏฺานนฺติ อตฺโถ. อพฺโภกาโส ¶ ปพฺพชฺชาติ ปพฺพชฺชา ปน อกิฺจนอปลิโพธฏฺเน อพฺโภกาโส. จตุรตนิเกปิ หิ คพฺเภ ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ ปลฺลงฺเกน ปลฺลงฺกํ ฆเฏตฺวา นิสินฺนานมฺปิ อกิฺจนอปลิโพธฏฺเน ปพฺพชฺชา อพฺโภกาโส นาม โหติ. อลฺจ ปน โว ถปตโย อปฺปมาทายาติ เอวํ สมฺพาเธ ฆราวาเส วสนฺตานํ ตุมฺหากํ อปฺปมาทเมว กาตุํ ยุตฺตนฺติ อตฺโถ.
เอกํ ปุรโต เอกํ ปจฺฉโต นิสีทาเปมาติ เต กิร ทฺเวปิ ชนา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิเตสุ ทฺวีสุ นาเคสุ ตา อิตฺถิโย เอวํ นิสีทาเปตฺวา รฺโ นาคํ มชฺเฌ กตฺวา อุโภสุ ปสฺเสสุ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา เอวมาหํสุ. นาโคปิ รกฺขิตพฺโพติ ยถา กิฺจิ วิเสวิตํ น กโรติ, เอวํ รกฺขิตพฺโพ โหติ. ตาปิ ภคินิโยติ ยถา ปมาทํ นาปชฺชนฺติ, เอวํ รกฺขิตพฺพา โหนฺติ. อตฺตาปีติ สิตหสิตกถิตวิเปกฺขิตาทีนิ อกโรนฺเตหิ ¶ อตฺตาปิ รกฺขิตพฺโพ โหติ. (เตหิ ตถา กโรนฺเตหิ น อตฺตาปิ รกฺขิตพฺโพ โหติ). ตถา กโรนฺโต หิ ‘‘สามิทุพฺโภ เอโส’’ติ นิคฺคเหตพฺโพ โหติ. ตสฺมาติห ถปตโยติ ยสฺมา ตุมฺเห ราชา นิจฺจํ ราชภณฺฑํ ปฏิจฺฉาเปติ, ตสฺมาปิ ¶ สมฺพาโธ ฆราวาโส รชาปโถ. ยสฺมา ปน ปํสุกูลิกภิกฺขุํ เอวํ ปฏิจฺฉาเปนฺโต นตฺถิ, ตสฺมา อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา. เอวํ สพฺพตฺถาปิ อลฺจ ปน โว ถปตโย อปฺปมาทาย อปฺปมาทเมว กโรถาติ ทสฺเสติ.
มุตฺตจาโคติ วิสฺสฏฺจาโค. ปยตปาณีติ อาคตาคตานํ ทานตฺถาย โธตหตฺโถ. โวสฺสคฺครโตติ โวสฺสคฺคสงฺขาเต จาเค รโต. ยาจโยโคติ ยาจิตพฺพกยุตฺโต. ทานสํวิภาครโตติ ทาเนน เจว อปฺปมตฺตกมฺปิ กิฺจิ ลทฺธา ตโตปิ สํวิภาเค รโต. อปฺปฏิวิภตฺตนฺติ ‘‘อิทํ อมฺหากํ ภวิสฺสติ, อิทํ ภิกฺขูน’’นฺติ เอวํ อกตวิภาคํ, สพฺพํ ทาตพฺพเมว หุตฺวา ิตนฺติ อตฺโถ.
๗. เวฬุทฺวาเรยฺยสุตฺตวณฺณนา
๑๐๐๓. สตฺตเม เวฬุทฺวารนฺติ คามทฺวาเร ปเวณิอาคตสฺส เวฬุคจฺฉสฺส อตฺถิตาย เอวํลทฺธนาโม คาโม. อตฺตุปนายิกนฺติ ¶ อตฺตนิ อุปเนตพฺพํ. สมฺผภาเสนาติ อมนฺตภาเสน. สมฺผปฺปลาปภาเสนาติ สมฺผปฺปลาปสมฺภาเสน นิรตฺถเกน อฺาณวจเนนาติ อตฺโถ.
๘-๙. ปมคิฺชกาวสถสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๐๔-๕. อฏฺเม าติเกติ เอกํ ตฬากํ นิสฺสาย ทฺวินฺนํ จูฬปิติมหาปิติปุตฺตานํ ทฺเว คามา, เตสุ เอกสฺมึ คามเก. คิฺชกาวสเถติ อิฏฺกามเย อาวสเถ. โอรมฺภาคิยานนฺติ เหฏฺาภาคิยานํ, กามภเวเยว ปฏิสนฺธิคฺคาหาปกานนฺติ อตฺโถ. โอรนฺติ ลทฺธนาเมหิ วา ตีหิ มคฺเคหิ ปหาตพฺพานีติปิ โอรมฺภาคิยานิ. ตตฺถ กามจฺฉนฺโท พฺยาปาโทติ อิมานิ ทฺเว สมาปตฺติยา วา อวิกฺขมฺภิตานิ มคฺเคน วา อสมุจฺฉินฺนานิ นิพฺพตฺติวเสน อุทฺธํ ภาคํ รูปภวํ อรูปภวํ วา คนฺตุํ น เทนฺติ. สกฺกายทิฏฺิอาทีนิ ¶ ตีณิ ตตฺถ นิพฺพตฺตมฺปิ อาเนตฺวา ปุน อิเธว นิพฺพตฺตาเปนฺตีติ สพฺพานิปิ โอรมฺภาคิยาเนว. อนาวตฺติธมฺโมติ ปฏิสนฺธิวเสน อนาคมนสภาโว.
ราคโทสโมหานํ ¶ ตนุตฺตาติ เอตฺถ กทาจิ อุปฺปตฺติยา จ ปริยุฏฺานมนฺทตาย จาติ ทฺเวธาปิ ตนุภาโว เวทิตพฺโพ. สกทาคามิสฺส หิ ปุถุชฺชนานํ วิย อภิณฺหํ ราคาทโย น อุปฺปชฺชนฺติ, กทาจิ กรหจิ อุปฺปชฺชนฺติ. อุปฺปชฺชมานา จ น ปุถุชฺชนานํ วิย พหลพหลา อุปฺปชฺชนฺติ, มกฺขิปตฺตํ วิย ตนุกา อุปฺปชฺชนฺติ. ทีฆภาณกติปิฏกมหาสีวตฺเถโร ปนาห – ‘‘ยสฺมา สกทาคามิสฺส ปุตฺตธีตโร โหนฺติ, โอโรธา จ โหนฺติ, ตสฺมา พหลา กิเลสา. อิทํ ปน ภวตนุกวเสน กถิต’’นฺติ. ตํ อฏฺกถายํ ‘‘โสตาปนฺนสฺส สตฺต ภเว เปตฺวา อฏฺเม ภเว ภวตนุกํ นตฺถิ, สกทาคามิสฺส ทฺเว ภเว เปตฺวา ปฺจสุ ภเวสุ ภวตนุกํ นตฺถิ, อนาคามิสฺส รูปารูปภวํ เปตฺวา กามภเว ภวตนุกํ นตฺถิ, ขีณาสวสฺส กิสฺมิฺจิ ภเว ภวตนุกํ นตฺถี’’ติ วุตฺตตฺตา ปฏิกฺขิตฺตํ โหติ.
อิมํ ¶ โลกนฺติ อิมํ กามาวจรโลกํ สนฺธาย วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สเจ หิ มนุสฺเสสุ สกทาคามิผลํ ปตฺโต เทเวสุ นิพฺพตฺติตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉิกโรติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. อสกฺโกนฺโต ปน อวสฺสํ มนุสฺสโลกํ อาคนฺตฺวา สจฺฉิกโรติ. เทเวสุ สกทาคามิผลํ ปตฺโตปิ สเจ มนุสฺเสสุ นิพฺพตฺติตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉิกโรติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. อสกฺโกนฺโต ปน อวสฺสํ เทวโลกํ คนฺตฺวา สจฺฉิกโรตีติ.
วินิปตนํ วินิปาโต, นาสฺส วินิปาโต ธมฺโมติ อวินิปาตธมฺโม, จตูสุ อปาเยสุ อวินิปาตนสภาโวติ อตฺโถ. นิยโตติ ธมฺมนิยาเมน นิยโต. สมฺโพธิปรายโณติ อุปริมคฺคตฺตยสงฺขาตา สมฺโพธิ ปรํ อยนํ อสฺส คติ ปฏิสรณํ อวสฺสํ ปตฺตพฺพาติ สมฺโพธิปรายโณ. วิเหสาเวสาติ เตสํ เตสํ าณคตึ าณูปปตฺตึ าณาภิสมฺปรายํ โอโลเกนฺตสฺส กายกิลมโถว เอส, อานนฺท, ตถาคตสฺสาติ ทีเปติ. จิตฺตวิเหสา ปน พุทฺธานํ นตฺถิ.
ธมฺมาทาสนฺติ ¶ ธมฺมมยํ อาทาสํ. เยนาติ เยน ธมฺมาทาเสน สมนฺนาคโต. ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโตติ อิทํ นิรยาทีนํเยว เววจนวเสเนว วุตฺตํ. นิรยาทโย หิ วฑฺฒิสงฺขาตโต อยโต อเปตตฺตา อปาโย, ทุกฺขสฺส คติ ปฏิสรณนฺติ. ทุคฺคติ, ทุกฺกฏการิโน เอตฺถ วิวสา นิปตนฺตีติ วินิปาโต. นวมํ อุตฺตานเมว.
๑๐. ตติยคิฺชกาวสถสุตฺตวณฺณนา
๑๐๐๖. ทสเม ¶ ปโรปฺาสาติ อติเรกปฺาส. สาธิกนวุตีติ อติเรกนวุติ. ฉาติเรกานีติ ฉหิ อธิกานิ. โส กิร คาโม กิฺจาปิ นาติมหา อโหสิ, อริยสาวกา ปเนตฺถ พหู. ตตฺถ ตตฺถ อหิวาตโรเคน เอกปฺปหาเรเนว จตุวีสติ ปาณสตสหสฺสานิ กาลมกํสุ, เตสุ อริยสาวกา เอตฺตกา นาม อเหสุํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
เวฬุทฺวารวคฺโค ปโม.
๒. ราชการามวคฺโค
๑. สหสฺสภิกฺขุนิสงฺฆสุตฺตวณฺณนา
๑๐๐๗. ทุติยสฺส ¶ ปเม ราชการาเมติ รฺา การิตตฺตา เอวํ ลทฺธนาเม อาราเม, ตํ รฺา ปเสนทิโกสเลน กตํ. ปมโพธิยํ กิร ลาภคฺคยสคฺคปตฺตํ สตฺถารํ ทิสฺวา ติตฺถิยา จินฺตยึสุ – ‘‘สมโณ โคตโม ลาภคฺคยสคฺคปตฺโต, น โข ปเนส อฺํ กิฺจิ สีลํ วา สมาธึ วา นิสฺสาย เอวํ ลาภคฺคยสคฺคปตฺโต. ภูมิสีสํ ปน เตน คหิตํ, สเจ มยมฺปิ เชตวนสมีเป อารามํ การาเปตุํ สกฺกุเณยฺยาม, ลาภคฺคยสคฺคปตฺตา ภเวยฺยามา’’ติ. เต อตฺตโน อตฺตโน อุปฏฺาเก สมาทเปตฺวา สตสหสฺสมตฺเต กหาปเณ ลภิตฺวา เต อาทาย รฺโ สนฺติกํ อคมํสุ. ราชา ‘‘กึ เอต’’นฺติ? ปุจฺฉิ. มยํ เชตวนสมีเป ติตฺถิยารามํ กโรม, สเจ สมโณ โคตโม วา สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา วา อาคนฺตฺวา วาเรสฺสนฺติ, วาเรตุํ มา อทตฺถาติ ลฺชํ อทํสุ. ราชา ลฺชํ คเหตฺวา ‘‘คจฺฉถ กาเรถา’’ติ อาห.
เต ¶ คนฺตฺวา, อตฺตโน อุปฏฺาเกหิ ทพฺพสมฺภาเร อาหราเปตฺวา, ถมฺภุสฺสาปนาทีนิ กโรนฺตา, อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา เอกโกลาหลํ อกํสุ. สตฺถา คนฺธกุฏิโต นิกฺขมฺม ปมุเข ตฺวา ‘‘เก ปน เต, อานนฺท, อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา เกวฏฺฏา มฺเ มจฺฉวิโลเป’’ติ?, ปุจฺฉิ. ติตฺถิยา, ภนฺเต ¶ , เชตวนสมีเป ติตฺถิยารามํ กโรนฺตีติ. อานนฺท, อิเม สาสเนน ปฏิวิรุทฺธา ภิกฺขุสงฺฆสฺส อผาสุวิหารํ กริสฺสนฺติ, รฺโ อาโรเจตฺวา วาราเปหีติ.
เถโร ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ คนฺตฺวา ราชทฺวาเร อฏฺาสิ. รฺโ ‘‘เถรา, เทว, อาคตา’’ติ นิเวทยึสุ. ราชา ลฺชสฺส คหิตตฺตา น นิกฺขมิ. เถรา คนฺตฺวา สตฺถุ อาโรจยึสุ. สตฺถา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน เปเสสิ. ราชา เตสมฺปิ ทสฺสนํ น อทาสิ. เต อาคนฺตฺวา สตฺถุ อาโรจยึสุ ‘‘น, ภนฺเต, ราชา นิกฺขนฺโต’’ติ. สตฺถา ตงฺขณํเยว พฺยากาสิ – ‘‘อตฺตโน รชฺเช ตฺวา กาลํ กาตุํ น ลภิสฺสตี’’ติ.
ทุติยทิวเส จ สามํเยว ภิกฺขุสงฺฆปริวาโร คนฺตฺวา ¶ ราชทฺวาเร อฏฺาสิ. ราชา ‘‘สตฺถา อาคโต’’ติ สุตฺวา นิกฺขมิตฺวา, นิเวสนํ ปเวเสตฺวา, สารปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา, ยาคุขชฺชกํ อทาสิ. สตฺถา ปริภุตฺตยาคุขาทนีโย ‘‘ยาว ภตฺตํ นิฏฺาติ, ตาว สตฺถุ สนฺติเก นิสีทิสฺสามี’’ติ อาคนฺตฺวา นิสินฺนํ ราชานํ ‘‘ตยา, มหาราช, อิทํ นาม กต’’นฺติ อวตฺวา, ‘‘การเณเนว นํ สฺาเปสฺสามี’’ติ อิทํ อตีตการณํ อาหริ – มหาราช, ปพฺพชิเต นาม อฺมฺํ ยุชฺฌาเปตุํ น วฏฺฏติ. อตีเตปิ อิสโย อฺมฺํ ยุชฺฌาเปตฺวา สห รฏฺเน ราชา สมุทฺทํ ปวิฏฺโติ. กทา ภควาติ?
อตีเต, มหาราช, ภรุรฏฺเ ภรุราชา นาม รชฺชํ กาเรติ. ปฺจสตา ปฺจสตา ทฺเว อิสิคณา ปพฺพตปาทโต โลณมฺพิลเสวนตฺถาย ภรุนครํ คนฺตฺวา นครสฺส อวิทูเร ทฺเว รุกฺขา อตฺถิ, ปมํ อาคโต อิสิคโณ เอกสฺส รุกฺขสฺส มูเล นิสีทิ, ปจฺฉาคโตปิ เอกสฺสาติ. เต ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา ปพฺพตปาทํ เอว อคมํสุ. เต ปุน อาคจฺฉนฺตาปิ อตฺตโน รุกฺขมูเลเยว นิสีทนฺติ. อทฺธาเน คจฺฉนฺเต เอโก รุกฺโข สุกฺขิ, ตสฺมึ สุกฺเข อาคตา ตาปสา ‘‘อยํ รุกฺโข มหา, อมฺหากมฺปิ เตสมฺปิ ¶ ปโหสฺสตี’’ติ อิตเรสํ รุกฺขมูลสฺส เอกปเทเส นิสีทึสุ. เต ปจฺฉา อาคจฺฉนฺตา รุกฺขมูลํ อปวิสิตฺวา พหิ ิตาว ‘‘กสฺมา ตุมฺเห เอตฺถ นิสีทถา’’ติ อาหํสุ. อาจริยา อมฺหากํ รุกฺโข สุกฺโข, อยํ รุกฺโข มหา, ตุมฺเหปิ ปวิสถ, ตุมฺหากมฺปิ อมฺหากมฺปิ ปโหสฺสตีติ. เต ‘‘น มยํ ปวิสาม, นิกฺขมถ ตุมฺเห’’ติ กถํ วฑฺเฒตฺวา ‘‘น ตุมฺเห อตฺตโนว มเนน นิกฺขมิสฺสถา’’ติ หตฺถาทีสุ คเหตฺวา นิกฺกฑฺฒึสุ. เต ‘‘โหตุ สิกฺขาเปสฺสาม เน’’ติ อิทฺธิยา โสวณฺณมยานิ ทฺเว จกฺกานิ รชตมยฺจ ¶ อกฺขํ มาเปตฺวา ปวฏฺเฏนฺตา ราชทฺวารํ อคมึสุ. รฺโ ‘‘เอวรูปํ, เทว, ตาปสา ปณฺณาการํ คเหตฺวา ิตา’’ติ นิเวทยึสุ. ราชา ตุฏฺโ ‘‘ปกฺโกสถา’’ติ เต ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘มหากมฺมํ ตุมฺเหหิ กตํ, อตฺถิ โว กิฺจิ มยา กตฺตพฺพ’’นฺติ อาห. อาม, มหาราช, อมฺหากํ นิสินฺนฏฺานํ เอกรุกฺขมูลํ อตฺถิ, ตํ อฺเหิ อิสีหิ คหิตํ, ตํ โน ทาเปหีติ. ราชา ¶ ปุริเส เปเสตฺวา ตาปเส นิกฺกฑฺฒาเปสิ.
เต พหิ ิตา ‘‘กึ นุ โข ทตฺวา ลภึสู’’ติ โอโลกยมานา ‘‘อิทํ นามา’’ติ ทิสฺวา ‘‘มยมฺปิ ลฺชํ ทตฺวา ปุน คณฺหิสฺสามา’’ติ อิทฺธิยา โสวณฺณมยํ รถปฺชรํ มาเปตฺวา อาทาย อคมํสุ. ราชา ทิสฺวา ตุฏฺโ – ‘‘กึ, ภนฺเต, กาตพฺพ’’นฺติ?, อาห. มหาราช อมฺหากํ รุกฺขมูเล อฺโ อิสิคโณ นิสินฺโน, ตํ โน รุกฺขมูลํ ทาเปหีติ. ราชา ปุริเส เปเสตฺวา เต นิกฺกฑฺฒาเปสิ. ตาปสา อฺมฺํ กลหํ กตฺวา, ‘‘อนนุจฺฉวิกํ อมฺเหหิ กต’’นฺติ วิปฺปฏิสาริโน หุตฺวา ปพฺพตปาทเมว อคมํสุ. ตโต เทวตา ‘‘อยํ ราชา ทฺวินฺนํ อิสิคณานํ หตฺถโต ลฺชํ คเหตฺวา อฺมฺํ กลหํ การาเปสี’’ติ กุชฺฌิตฺวา มหาสมุทฺทํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา ตสฺส รฺโ วิชิตํ โยชนสหสฺสมตฺตฏฺานํ สมุทฺทเมว อกํสูติ.
‘‘อิสีนมนฺตรํ กตฺวา, ภรุราชาติ เม สุตํ;
อุจฺฉินฺโน สห รฏฺเหิ, ส ราชา วิภวงฺคโต’’ติ. (ชา. ๑.๒.๑๒๕) –
เอวํ ภควตา อิมสฺมึ อตีเต ทสฺสิเต ยสฺมา พุทฺธานํ นาม กถา โอกปฺปนิยา โหติ, ‘‘ตสฺมา ราชา อตฺตโน กิริยํ สลฺลกฺเขตฺวา อนุปธาเรตฺวา ¶ มยา อกตฺตพฺพํ กมฺมํ กต’’นฺติ ‘‘คจฺฉถ, ภเณ, ติตฺถิเย นิกฺกฑฺฒถา’’ติ นิกฺกฑฺฒาเปตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘มยา การิโต วิหาโร นาม นตฺถิ, ตสฺมึเยว าเน วิหารํ กาเรสฺสามี’’ติ เตสํ ทพฺพสมฺภาเรปิ อทตฺวา วิหารํ กาเรสิ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
๒-๓. พฺราหฺมณสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๐๘-๙. ทุติเย อุทยคามินินฺติ อตฺตโน สมเย วฑฺฒิคามินึ. มรณํ อาคเมยฺยาสีติ มรณํ อิจฺเฉยฺยาสิ, ปตฺเถยฺยาสิ วา. ตติยํ อุตฺตานเมว.
๔. ทุคฺคติภยสุตฺตวณฺณนา
๑๐๑๐. จตุตฺเถ ¶ สพฺพทุคฺคติภยํ สมติกฺกนฺโตติ มนุสฺสโทภคฺคํ ปฏิกฺขิตฺตํ.
๕. ทุคฺคติวินิปาตภยสุตฺตวณฺณนา
๑๐๑๑. ปฺจเม ¶ สพฺพทุคฺคติวินิปาตภยํ สมติกฺกนฺโตติ มนุสฺสโทภคฺเคน สทฺธึ จตฺตาโร อปายา ปฏิกฺขิตฺตา.
๖. ปมมิตฺตามจฺจสุตฺตวณฺณนา
๑๐๑๒. ฉฏฺเ มิตฺตาติ อฺมฺสฺส เคเห อามิสปริโภควเสน โวหารมิตฺตา. อมจฺจาติ อามนฺตนปฏิมนฺตนอิริยาปถาทีสุ เอกโต ปวตฺตกิจฺจา. าตีติ สสฺสุสสุรปกฺขิกา. สาโลหิตาติ สมานโลหิตา ภาติภคินิมาตุลาทโย.
๗. ทุติยมิตฺตามจฺจสุตฺตวณฺณนา
๑๐๑๓. สตฺตเม อฺถตฺตํ นาม ปสาทฺถตฺตํ ภาวฺถตฺตํ คติอฺถตฺตํ ลกฺขณฺถตฺตํ วิปริณามฺถตฺตนฺติ อเนกวิธํ. ตตฺถ มหาภูเตสุ ภาวฺถตฺตํ อธิปฺเปตํ. สุวณฺณาทิภาเวน หิ ฆนสณฺิตาย ปถวิธาตุยา วิลียิตฺวา อุทกภาวํ อาปชฺชมานาย ปุริมภาโว วิคจฺฉติ, ภาวฺถตฺตํ ปฺายติ. ลกฺขณํ ปน น วิคจฺฉติ, กกฺขฬลกฺขณาว โหติ. อุจฺฉุรสาทิภาเวน จ ยูสาการสณฺิตาย อาโปธาตุยา ¶ สุสฺสิตฺวา ฆนปถวิภาวํ อาปชฺชมานาย ปุริมภาโว วิคจฺฉติ, ภาวฺถตฺตํ ปฺายติ. ลกฺขณํ ปน น วิคจฺฉติ, อาพนฺธนลกฺขณาว โหติ. ตตฺริทํ อฺถตฺตนฺติ เอตฺถ ปน คติอฺถตฺตํ อธิปฺเปตํ, ตฺหิ อริยสาวกสฺส นตฺถิ. ปสาทฺถตฺตมฺปิ นตฺถิเยว, อิธ ปน ปสาทผลํ ปกาเสตุํ คติอฺถตฺตเมว ทสฺสิตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ราชการามวคฺโค ทุติโย.
๓. สรณานิวคฺโค
๑-๒. ปมมหานามสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๑๗-๑๘. ตติยสฺส ¶ ¶ ปเม อิทฺธนฺติ เตลมธุผาณิตาทีหิ สมิทฺธํ. ผีตนฺติ หตฺถูปคสีสูปคคีวูปคาทิอลงฺการวเสน สุปุปฺผิตํ. อากิณฺณมนุสฺสนฺติ นิรนฺตรมนุสฺสํ. สมฺพาธพฺยูหนฺติ พฺยูหา วุจฺจนฺติ อวินิพฺพิทฺธรจฺฉาโย, ยา ปวิฏฺมคฺเคเนว นิคฺคจฺฉนฺติ, ตา สมฺพาธา พฺยูหา พหุกา เอตฺถาติ สมฺพาธพฺยูหํ. อิมินาปิ นครสฺส ฆนวาสเมว ทีเปติ. ภนฺเตนาติ อิโต จิโต จ ปริพฺภมนฺเตน อุทฺธตจารินา. ทุติยํ อุตฺตานเมว.
๓. โคธสกฺกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๑๙. ตติเย ภควาว เอตํ ชาเนยฺย เอเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ วา อสมนฺนาคตํ วาติ อิทํ โส สกฺโก ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปนฺนภาวํ, จตูหิ วา ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส โสตาปนฺนภาวํ ภควาว ชานาตีติ อธิปฺปาเยน อาห.
โกจิเทว ธมฺมสมุปฺปาโท อุปฺปชฺเชยฺยาติ กิฺจิเทว การณํ อุปฺปชฺเชยฺย. เอกโต อสฺส ภควา, เอกโต ภิกฺขุสงฺโฆติ ยสฺมึ การเณ อุปฺปนฺเน ภควา ภิกฺขุสงฺเฆน นานาลทฺธิโก หุตฺวา เอกํ วาทํ วทนฺโต เอกโต อสฺส, ภิกฺขุสงฺโฆปิ เอกํ วทนฺโต เอกโตติ ¶ อตฺโถ. เตเนวาหนฺติ ยํ วาทํ ตุมฺเห วเทถ, ตเมวาหํ คณฺเหยฺยนฺติ. นนุ จ อริยสาวกสฺส รตนตฺตเย ปสาทนานตฺตํ นตฺถิ, อถ กสฺมา เอส เอวมาหาติ? ภควโต สพฺพฺุตาย. เอวฺหิสฺส โหติ ‘‘ภิกฺขุสงฺโฆ อตฺตโน อสพฺพฺุตาย อชานิตฺวาปิ กเถยฺย, สตฺถุ ปน อฺาณํ นาม นตฺถี’’ติ. ตสฺมา เอวมาห. อฺตฺร กลฺยาณา อฺตฺร กุสลาติ กลฺยาณเมว กุสลเมว วทามิ, น กลฺยาณกุสลวิมุตฺตนฺติ. อปิจสฺส อนวชฺชนโทโส เอโสติ.
๔. ปมสรณานิสกฺกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๒๐. จตุตฺเถ ¶ ¶ อิธ มหานาม เอกจฺโจ ปุคฺคโลติ อิทํ น เกวลํ สรณานิ เอว อปายโต มุตฺโต, อิเมปิ ปุคฺคลา มุตฺตาติ ทสฺเสตุํ อารทฺธํ. มตฺตโส นิชฺฌานํ ขมนฺตีติ ปมาเณน จ โอโลกนํ ขมนฺติ. อิมินา ธมฺมานุสาริมคฺคฏฺปุคฺคลํ ทสฺเสติ. อคนฺตา นิรยนฺติ มคฺคฏฺปุคฺคโล หิ อปายโต ปริมุตฺโตติ วา ปริมุจฺจิสฺสตีติ วา วตฺตุํ น วฏฺฏติ, ปริมุจฺจตีติ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติ. ยสฺมา จ ปริมุจฺจติ, ตสฺมา คนฺตา นาม น โหตีติ, ‘‘อคนฺตา’’ติ วุตฺโต, น คจฺฉตีติ อตฺโถ. สทฺธามตฺตํ เปมมตฺตนฺติ อิมินา สทฺธานุสาริมคฺคฏฺปุคฺคลํ ทสฺเสติ. มหาสาลาติ สมีเป ิเตว จตฺตาโร มหาสารรุกฺเข ทสฺเสนฺโต อาห. มรณกาเล สิกฺขํ สมาทิยีติ มรณสมเย ตีสุ สิกฺขาสุ ปริปูรการี อโหสีติ ทสฺเสติ.
๕. ทุติยสรณานิสกฺกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๒๑. ปฺจเม ทุกฺเขตฺตนฺติ วิสมเขตฺตํ. ทุพฺภูมนฺติ อูสรภูมึ โลณูปหตํ. ขณฺฑานีติ ปริภินฺนานิ. ปูตีนีติ อุทเกน เตเมตฺวา ปูติภาวํ อาปนฺนานิ. วาตาตปหตานีติ วาตาตเปน หตตฺตา นิโรชภาวํ คตานิ. อสาราทานีติ อนาทินฺนสารานิ อคหิตสารานิ. อสุขสยิตานีติ น โกฏฺาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา สุฏฺุ ปิตานิ. สุขสยิตานีติ ปิตฏฺานโต จตฺตาโร มาเส อจลิตานิ.
๖. ปมอนาถปิณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๒๒. ฉฏฺเ ¶ านโส เวทนา ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺยาติ ขเณน เวทนา ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺย. มิจฺฉาาเณนาติ ¶ มิจฺฉาปจฺจเวกฺขเณน มิจฺฉาวิมุตฺติยาติ อนิยฺยานิกวิมุตฺติยา. ตสฺมา สทฺธฺจ สีลฺจาติ คาถา วุตฺตตฺถา เอว. ยตฺร หิ นามาติ โย นาม.
๗. ทุติยอนาถปิณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๒๓. สตฺตเม ¶ สมฺปรายิกํ มรณภยนฺติ สมฺปรายเหตุกํ มรณภยํ คิหิสามีจิกานีติ คิหีนํ อนุจฺฉวิกานิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
สรณานิวคฺโค ตติโย.
๔. ปฺุาภิสนฺทวคฺโค
๑. ปมปฺุาภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา
๑๐๒๗. จตุตฺถสฺส ปเม ปฺุาภิสนฺทา กุสลาภิสนฺทาติ ปฺุนทิโย กุสลนทิโย. สุขสฺสาหาราติ สุขสฺส ปจฺจยา.
๔. ปมเทวปทสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓๐. จตุตฺเถ เทวปทานีติ เทวานํ าเณน, เทวสฺส วา าเณน อกฺกนฺตปทานิ. วิสุทฺธิยาติ วิสุชฺฌนตฺถาย. ปริโยทปนายาติ ปุริโยทปนตฺถาย โชตนตฺถาย. อิมสฺมึ สุตฺเต จตฺตาโรปิ ผลฏฺปุคฺคลา วิสุทฺธฏฺเน เทวา นาม ชาตา.
๘. วสฺสสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓๔. อฏฺเม ปารํคนฺตฺวาติ ปารํ วุจฺจติ นิพฺพานํ, ตํ ปตฺวาติ อตฺโถ. อาสวานํ ขยาย สํวตฺตนฺตีติ น ปมํ นิพฺพานํ คนฺตฺวา ปจฺฉา สํวตฺตนฺติ, คจฺฉมานา เอว สํวตฺตนฺติ. เทสนา ปน เอวํ กตา.
๑๐. นนฺทิยสกฺกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓๖. ทสเม ¶ ทิวา ปวิเวกาย รตฺตึ ปฏิสลฺลานายาติ ทิวา ปวิเวกตฺถาย รตฺตึ ปฏิสลฺลานตฺถาย ¶ . ธมฺมา น ปาตุภวนฺตีติ สมถวิปสฺสนา ธมฺมา น อุปฺปชฺชนฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปฺุาภิสนฺทวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. สคาถกปฺุาภิสนฺทวคฺโค
๑. ปมอภิอสนฺทสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓๗. ปฺจมสฺส ¶ ปเม อสงฺขฺเยยฺโยติ อาฬฺหกคณนาย อสงฺขฺเยยฺโย, โยชนวเสน ปนสฺส สงฺขฺยา อตฺถิ. พหุเภรวนฺติ สวิฺาณกอวิฺาณกานํ เภรวารมฺมณานํ วเสน พหุเภรวํ. ปุถูติ พหุ. สวนฺตีติ สนฺทมานา. อุปยนฺตีติ อุปคจฺฉนฺติ.
๒. ทุติยอภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓๘. ทุติเย ยตฺถิมา มหานทิโย สํสนฺทนฺติ สเมนฺตีติ ยสฺมึ สํภชฺเช เอตา มหานทิโย เอกีภวนฺติ, นิรนฺตรา ภวนฺตีติ อตฺโถ.
๓. ตติยอภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓๙. ตติเย ปฺุกาโมติ ปฺุตฺถิโก. กุสเล ปติฏฺิโตติ มคฺคกุสเล ปติฏฺิโต. ภาเวติ มคฺคํ อมตสฺส ปตฺติยาติ นิพฺพานสฺส ปาปุณนตฺถํ อรหตฺตมคฺคํ ภาเวติ. ธมฺมสาราธิคโมติ ธมฺมสาโร วุจฺจติ อริยผลํ ธมฺมสาโร, อธิคโม อสฺสาติ ธมฺมสาราธิคโม, อธิคตผโลติ อตฺโถ. ขเย รโตติ กิเลสกฺขเย รโต.
๔. ปมมหทฺธนสุตฺตวณฺณนา
๑๐๔๐. จตุตฺเถ ¶ ¶ อฑฺโฒ มหทฺธโนติ สตฺตวิเธน อริยธเนน อฑฺโฒ เจว มหทฺธโน จ. เตเนว โภเคน มหาโภโค. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
สคาถกปฺุาภิสนฺทวคฺโค ปฺจโม.
๖. สปฺปฺวคฺโค
๒. วสฺสํวุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๐๔๘. ฉฏฺสฺส ทุติเย อยมธิปฺปาโย – โสตาปนฺโน ภิกฺขุ เอตฺตเกน โวสานํ อนาปชฺชิตฺวา ตาเนว อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคานิ สโมธาเนตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สกทาคามิมคฺคํ ปาปุณิสฺสติ, สกทาคามี อนาคามิมคฺคํ, อนาคามี อรหตฺตมคฺคนฺติ อิมมตฺถํ สนฺธาย ภควตา อิมสฺมึ สุตฺเต สาสเน ตนฺติ ปเวณี กถิตาติ.
๓. ธมฺมทินฺนสุตฺตวณฺณนา
๑๐๔๙. ตติเย ¶ ธมฺมทินฺโนติ สตฺตสุ ชเนสุ เอโก. พุทฺธกาลสฺมิฺหิ ธมฺมทินฺโน อุปาสโก, วิสาโข อุปาสโก, อุคฺโค คหปติ, จิตฺโต คหปติ, หตฺถโก อาฬวโก, จูฬอนาถปิณฺฑิโก, มหาอนาถปิณฺฑิโกติ อิเม สตฺต ชนา ปฺจสตอุปาสกปริวารา อเหสุํ. เอเตสุ เอส อฺตโร.
คมฺภีราติ ธมฺมคมฺภีรา สลฺลสุตฺตาทโย. คมฺภีรตฺถาติ อตฺถคมฺภีรา เจตนาสุตฺตนฺตาทโย. โลกุตฺตราติ โลกุตฺตรตฺถทีปกา อสงฺขตสํยุตฺตาทโย. สฺุตปฺปฏิสํยุตฺตาติ สตฺตสฺุตาทีปกา ขชฺชนิกสุตฺตนฺตาทโย. อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามาติ ปฏิลภิตฺวา วิหริสฺสาม. เอวฺหิ โว, ธมฺมทินฺน, สิกฺขิตพฺพนฺติ เอวํ ตุมฺเหหิ จนฺโทปมปฏิปทํ รถวินีตปฏิปทํ โมเนยฺยปฏิปทํ มหาอริยวํสปฏิปทํ ¶ ปูเรนฺเตหิ สิกฺขิตพฺพํ. อิติ สตฺถา อิเมสํ อุปาสกานํ อสยฺหภารํ อาโรเปสิ. กสฺมา ¶ ? เอเต กิร น อตฺตโน ภูมิยํ ตฺวา โอวาทํ ยาจึสุ, อวิเสเสน ปน สพฺพภารํ อุกฺขิปิตุํ สมตฺถา วิย ‘‘โอวทตุ โน, ภนฺเต, ภควา’’ติ ยาจึสุ. เตน เตสํ สตฺถา อสยฺหภารํ อาโรเปนฺโต เอวมาห. น โข เนตนฺติ น โข เอตํ. นกาโร ปเนตฺถ พฺยฺชนสนฺธิมตฺตเมวาติ เวทิตพฺโพ. ตสฺมาติ ยสฺมา อิทานิ อตฺตโน ภูมิยํ ตฺวา โอวาทํ ยาจถ, ตสฺมา.
๔. คิลานสุตฺตวณฺณนา
๑๐๕๐. จตุตฺเถ น โข ปเนตนฺติ น โข อมฺเหหิ เอตํ. สปฺปฺโ อุปาสโกติ โสตาปนฺโน อธิปฺเปโต. อสฺสาสนีเยหิ ธมฺเมหีติ อสฺสาสกเรหิ ธมฺเมหิ. อสฺสาสตายสฺมาติ อสฺสาสตุ อายสฺมา. มาริโสติ มรณปฏิพทฺโธ. มรณธมฺโมติ มรณสภาโว. อธิโมเจหีติ เปหิ. อธิโมจิตนฺติ ปิตํ. เอวํ ¶ วิมุตฺตจิตฺตสฺสาติ เอวํ อรหตฺตผลวิมุตฺติยา วิมุตฺตจิตฺตสฺส. ยทิทํ วิมุตฺติยา วิมุตฺตนฺติ ยํ อิทํ วิมุตฺตึ อารพฺภ วิมุตฺติยา นานากรณํ วตฺตพฺพํ สิยา, น ตํ วทามิ. ภิกฺขุสงฺฆสฺส หิ เจติยงฺคณโพธิยงฺคณวตฺเตสุ เจว อสีติกฺขนฺธกวตฺเตสุ จาติ อาคมนียคุเณสุ ปมาณํ นาม นตฺถิ, ปฏิวิทฺเธ ปน มคฺเค วา ผเล วา อุปาสกานฺจ ภิกฺขูนฺจ นานากรณํ นตฺถิ.
๙. ปฺาปฏิลาภสุตฺตวณฺณนา
๑๐๕๕. นวเม ปฺาปฏิลาภาย สํวตฺตนฺตีติ เอตฺถ สตฺต เสกฺขา ปฺํ ปฏิลภนฺติ นาม, ขีณาสโว ปฏิลทฺธปฺโ นามาติ เวทิตพฺโพ. ปรโต ปฺาพุทฺธิยาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
สปฺปฺวคฺโค ฉฏฺโ.
๗. มหาปฺวคฺโค
๑. มหาปฺาสุตฺตวณฺณนา
๑๐๕๘. สตฺตเม ¶ ¶ มหาปฺตาย สํวตฺตนฺตีติอาทีสุ ‘‘มหนฺเต อตฺเถ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา’’ติอาทินา ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๒.๔) วุตฺตนเยเนว สพฺพตฺถ สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
โสตาปตฺติสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.