📜

๑๒. สจฺจสํยุตฺตํ

๑. สมาธิวคฺโค

๑. สมาธิสุตฺตวณฺณนา

๑๐๗๑. สจฺจสํยุตฺตสฺส ปเม สมาธึ, ภิกฺขเวติ เต กิร ภิกฺขู จิตฺเตกคฺคตาย ปริหายนฺติ, อถ เนสํ สตฺถา – ‘‘เอวเมเต จิตฺเตกคฺคตํ ลภิตฺวา, กมฺมฏฺานํ วฑฺเฒตฺวา, วิเสสํ ปาปุณิสฺสนฺตี’’ติ อิมํ เทสนํ อารภิ. ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ โยโค กรณีโยติ เอตฺถ ยถาภูตาทิวเสน การณจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – ภิกฺขเว, ยสฺมา สมาหิโต ภิกฺขุ จตฺตาริ สจฺจานิ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตสฺมา ตุมฺเหหิ จ สมาหิเตหิ จตุนฺนํ สจฺจานํ ยถาภูตํ ปชานนตฺถาย ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ โยโค กรณีโย. ตถา ยสฺมา จตฺตาริ สจฺจานิ ตถาคตสฺเสว ปาตุภาวา ปากฏานิ โหนฺติ, ยสฺมา จ ตถาคเตน สุวิภตฺตานิ, ยสฺมา จ เตสุ อปริมาณา วณฺณา อปริมาณานิ ปทพฺยฺชนานิ, ยสฺมา จ เตสํ อปฺปฏิวิทฺธตฺตา วฏฺฏํ วฑฺฒติ, เตสํ ปฏิวิทฺธกาลโต ปฏฺาย น วฑฺฒติ, ตสฺมา ‘‘เอวํ โน วฏฺฏํ น วฑฺฒิสฺสตี’’ติ ตุมฺเหหิ ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ โยโค กรณีโย.

๒. ปฏิสลฺลานสุตฺตวณฺณนา

๑๐๗๒. ทุติยํ กายวิเวกวิกลานํ กายวิเวกปฏิลาภตฺถาย วุตฺตํ.

๓. ปมกุลปุตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๗๓-๗๕. ตติเย อภิสมยายาติ อภิสมยตฺถาย. สมณพฺราหฺมณาติ เจตฺถ สาสนาวจรา อธิปฺเปตา. ตถา จตุตฺถปฺจเมสุ, เตน เตน อภิลาเปน พุชฺฌนกานํ ปน อชฺฌาสเยเนตานิ วุตฺตานิ.

๖. ทุติยสมณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๑๐๗๖. ฉฏฺเ อภิสมฺพุทฺธํ ปกาเสสุนฺติ อภิสมฺพุทฺโธ อหนฺติ เอวํ อตฺตานํ อภิสมฺพุทฺธํ ปกาสยึสุ. อิมสฺมิฺหิ สุตฺเต สพฺพฺุพุทฺธา จ สมณคหเณน คหิตา.

๑๐. ติรจฺฉานกถาสุตฺตวณฺณนา

๑๐๘๐. ทสเม อเนกวิหิตนฺติ อเนกวิธํ. ติรจฺฉานกถนฺติ อนิยฺยานิกตฺตา สคฺคโมกฺขมคฺคานํ ติรจฺฉานภูตํ กถํ. ราชกถนฺติอาทีสุ ราชานํ อารพฺภ ‘‘มหาสมฺมโต มนฺธาตา ธมฺมาโสโก เอวํ มหานุภาโว’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตกถา ราชกถา. เอส นโย โจรกถาทีสุ. เตสุ ‘‘อสุโก ราชา อภิรูโป ทสฺสนีโย’’ติอาทินา นเยน เคหสิตกถาว ติรจฺฉานกถา โหติ. ‘‘โสปิ นาม เอวํ มหานุภาโว ขยํ คโต’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน กมฺมฏฺานภาเว ติฏฺติ. โจเรสุปิ ‘‘มูลเทโว เอวํ มหานุภาโว เมฆมาโล เอวํ มหานุภาโว’’ติ เตสํ กมฺมํ ปฏิจฺจ ‘‘อโห สูรา’’ติ เคหสิตกถาว ติรจฺฉานกถา. ยุทฺเธปิ ภารตยุทฺธาทีสุ ‘‘อสุเกน อสุโก เอวํ มาริโต เอวํ วิทฺโธ’’ติ กามสฺสาทวเสเนว กถา ติรจฺฉานกถา, ‘‘เตปิ นาม ขยํ คตา’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน สพฺพตฺถ กมฺมฏฺานเมว โหติ. อปิจ อนฺนาทีสุ ‘‘เอวํ วณฺณวนฺตํ คนฺธวนฺตํ รสวนฺตํ ผสฺสสมฺปนฺนํ ขาทิมฺห ภุฺชิมฺห ปิวิมฺห ปริภุฺชิมฺหา’’ติ กามสฺสาทวเสน กเถตุํ น วฏฺฏติ. สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘ปุพฺเพ เอวํ วณฺณาทิสมฺปนฺนํ อนฺนํ ปานํ วตฺถํ สยนํ มาลํ คนฺธํ วิเลปนํ สีลวนฺตานํ อทมฺห, เจติเย ปูชํ อกริมฺหา’’ติ กเถตุํ วฏฺฏติ.

าติกถาทีสุปิ ‘‘อมฺหากํ าตกา สูรา สมตฺถา’’ติ วา, ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวํ วิจิตฺเรหิ ยาเนหิ วิจริมฺหา’’ติ วา อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ. สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘เตปิ โน าตกา ขยํ คตา’’ติ วา, ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวรูปา อุปาหนา สงฺฆสฺส อทมฺหา’’ติ วา กเถตพฺพา. คามกถาทีสุปิ สุนิวิฏฺทุนฺนิวิฏฺสุภิกฺขทุพฺภิกฺขาทิวเสน วา ‘‘อสุกคามวาสิโน สูรา สมตฺถา’’ติ วา เอวํ อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘สทฺธา ปสนฺนา’’ติ วา, ‘‘ขยํ คตา’’ติ วา วตฺตุํ วฏฺฏติ. นิคมนครชนปทกถาสุปิ เอเสว นโย.

อิตฺถิกถาปิ วณฺณสณฺานาทีนิ ปฏิจฺจ อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา ขยํ คตา’’ติ เอวเมว วฏฺฏติ. สูรกถาปิ ‘‘นนฺทิมิตฺโต นาม โยโธ สูโร อโหสี’’ติ อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺโธ ปสนฺโน อโหสิ, ขยํ คโต’’ติ เอวเมว วฏฺฏติ. สุรากถาติปิ ปาโ. สาปิ เจสา สุรากถา ‘‘เอวรูปา นาม สุรา ปีตา รติชนนี โหตี’’ติ อสฺสาทวเสเนว น วฏฺฏติ, อาทีนววเสน ปน ‘‘อุมฺมตฺตกสํวตฺตนิกา’’ติอาทินา นเยน วฏฺฏติ. วิสิขากถาปิ ‘‘อสุกวิสิขา สุนิวิฏฺา ทุนฺนิวิฏฺา’’ติ วา, ‘‘อสุกวิสิขาย วาสิโน สูรา สมตฺถา’’ติ วา อสฺสาทวเสเนว วตฺตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา ขยํ คตา’’ติ เอจฺเจวํ วฏฺฏติ. กุมฺภฏฺานกถาติ อุทกติตฺถกถา วุจฺจติ, กุมฺภทาสิกถา วา. สาปิ ‘‘ปาสาทิกา นจฺจิตุํ คายิตุํ เฉกา’’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา’’ติอาทินา นเยเนว วฏฺฏติ.

ปุพฺพเปตกถาติ อตีตาติกถา. ตตฺถ วตฺตมานาติกถาสทิโสว วินิจฺฉโย. นานตฺตกถาติ ปุริมปจฺฉิมกถาหิ วิมุตฺตา อวเสสา นานาสภาวา นิรตฺถกกถา. โลกกฺขายิกาติ ‘‘อยํ โลโก เกน นิมฺมิโต, อสุเกน นาม นิมฺมิโต, กาโก เสโต อฏฺีนํ เสตตฺตา, พลากา รตฺตา โลหิตสฺส รตฺตตฺตา’’ติ เอวมาทิกา โลกายตวิตณฺฑสลฺลาปกถา. สมุทฺทกฺขายิกา นาม ‘‘กสฺมา สมุทฺโท สาคโร, สาครเทเวน ขนิตตฺตา สาคโร, ขโต เมติ หตฺถมุทฺทาย นิเวทิตตฺตา สมุทฺโท’’ติ เอวมาทิกา นิรตฺถกสมุทฺทกฺขายิกกถา. อิติ ภโว อิติ อภโวติ ยํ วา ตํ วา นิรตฺถกการณํ วตฺวา ปวตฺติตกถา อิติภวาภวกถา. เอตฺถ จ ภโวติ สสฺสตํ, อภโวติ อุจฺเฉทํ. ภโวติ วุทฺธิ, อภโวติ หานิ. ภโวติ กามสุขํ, อภโวติ อตฺตกิลมโถ. อิติ อิมาย ฉพฺพิธาย อิติภวาภวกถาย สทฺธึ พาตฺตึส ติรจฺฉานกถา นาม โหนฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ปโม วคฺโค.

๒. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนวคฺโค

๑. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตวณฺณนา

๑๐๘๑. ทุติยสฺส ปเม พาราณสิยนฺติ เอวํนามเก นคเร. อิสิปตเน มิคทาเยติ อิสีนํ ปตนุปฺปตนวเสน เอวํลทฺธนาเม มิคานํ อภยทานวเสน ทินฺนตฺตา มิคทายสงฺขาเต อาราเม. เอตฺถ หิ อุปฺปนฺนุปฺปนฺนา สพฺพฺุอิสโย ปตนฺติ, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนตฺถํ นิสีทนฺตีติ อตฺโถ. นนฺทมูลกปพฺภารโต สตฺตาหจฺจเยน นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺิตา อโนตตฺตทเห กตมุขโธวนาทิกิจฺจา อากาเสน อาคนฺตฺวา ปจฺเจกพุทฺธอิสโยเปตฺถ โอตรณวเสน ปตนฺติ, อุโปสถตฺถฺจ อนุโปสถตฺถฺจ สนฺนิปตนฺติ, คนฺธมาทนํ ปฏิคจฺฉนฺตาปิ ตโตว อุปฺปตนฺตีติ อิมินา อิสีนํ ปตนุปฺปตนวเสน ตํ ‘‘อิสิปตน’’นฺติ วุจฺจติ.

อามนฺเตสีติ ทีปงฺกรปาทมูเล กตาภินีหารโต ปฏฺาย ปารมิโย ปูเรนฺโต อนุปุพฺเพน ปจฺฉิมภเว กตาภินิกฺขมโน อนุปุพฺเพน โพธิมณฺฑํ ปตฺวา ตตฺถ อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน มารพลํ ภินฺทิตฺวา ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริตฺวา มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธตฺวา ปจฺฉิมยามาวสาเน ทสสหสฺสิโลกธาตุํ อุนฺนาเทนฺโต สพฺพฺุตํ ปตฺวา สตฺต สตฺตาหานิ โพธิมณฺเฑ วีตินาเมตฺวา มหาพฺรหฺมุนา อายาจิตธมฺมเทสโน พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกตฺวา โลกานุคฺคเหน พาราณสึ คนฺตฺวา ปฺจวคฺคิเย สฺาเปตฺวา ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตุกาโม อามนฺเตสิ.

ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตาติ ทฺเว อิเม, ภิกฺขเว, โกฏฺาสา. อิมสฺส ปน ปทสฺส สห สมุทาหาเรน สมุทาหารนิคฺโฆโส เหฏฺา อวีจึ อุปริ ภวคฺคํ ปตฺวา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ปตฺถริตฺวา อฏฺาสิ. ตสฺมึเยว สมเย อฏฺารสโกฏิสงฺขา พฺรหฺมาโน สมาคจฺฉึสุ, ปจฺฉิมทิสาย สูริโย อตฺถเมติ, ปาจีนทิสาย อาสาฬฺหนกฺขตฺเตน ยุตฺโต ปุณฺณจนฺโท อุคฺคจฺฉติ. ตสฺมึ สมเย ภควา อิมํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตํ อารภนฺโต ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ปพฺพชิเตนาติ คิหิสํโยชนํ ฉินฺทิตฺวา ปพฺพชฺชุปคเตน. น เสวิตพฺพาติ น วฬฺเชตพฺพา . โย จายํ กาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยโคติ โย จ อยํ วตฺถุกาเมสุ กิเลสกามสุขสฺส อนุโยโค. หีโนติ ลามโก. คมฺโมติ คามวาสีนํ สนฺตโก. โปถุชฺชนิโกติ อนฺธพาลชเนน อาจิณฺโณ. อนริโยติ น อริโย น วิสุทฺโธ น อุตฺตโม น วา อริยานํ สนฺตโก. อนตฺถสํหิโตติ น อตฺถสํหิโต, หิตสุขาวหการณํ อนิสฺสิโตติ อตฺโถ. อตฺตกิลมถานุโยโคติ อตฺตโน กิลมถสฺส อนุโยโค, อตฺตโน ทุกฺขกรณนฺติ อตฺโถ. ทุกฺโขติ กณฺฏกาปสฺสยเสยฺยาทีหิ อตฺตมารเณหิ ทุกฺขาวโห.

ปฺาจกฺขุํ กโรตีติ จกฺขุกรณี. ทุติยปทํ ตสฺเสว เววจนํ. อุปสมายาติ กิเลสูปสมตฺถาย. อภิฺายาติ จตุนฺนํ สจฺจานํ อภิชานนตฺถาย. สมฺโพธายาติ เตสํเยว สมฺพุชฺฌนตฺถาย. นิพฺพานายาติ นิพฺพานสจฺฉิกิริยาย. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ เหฏฺา ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตเมว. สจฺจกถาปิ สพฺพากาเรเนว วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๒๙) วิตฺถาริตา.

ติปริวฏฺฏนฺติ สจฺจาณกิจฺจาณกตาณสงฺขาตานํ ติณฺณํ ปริวฏฺฏานํ วเสน ติปริวฏฺฏํ. เอตฺถ หิ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, อิทํ ทุกฺขสมุทย’’นฺติ เอวํ จตูสุ สจฺเจสุ ยถาภูตํ าณํ สจฺจาณํ นาม. เตสุเยว ‘‘ปริฺเยฺยํ ปหาตพฺพ’’นฺติ เอวํ กตฺตพฺพกิจฺจชานนาณํ กิจฺจาณํ นาม. ‘‘ปริฺาตํ ปหีน’’นฺติ เอวํ ตสฺส ตสฺส กิจฺจสฺส กตภาวชานนาณํ กตาณํ นาม. ทฺวาทสาการนฺติ เตสํเยว เอเกกสฺมึ สจฺเจ ติณฺณํ ติณฺณํ อาการานํ วเสน ทฺวาทสาการํ. าณทสฺสนนฺติ เอเตสํ ติปริวฏฺฏานํ ทฺวาทสนฺนํ อาการานํ วเสน อุปฺปนฺนาณสงฺขาตํ ทสฺสนํ. ธมฺมจกฺขุนฺติ อฺตฺถ ตโย มคฺคา ตีณิ จ ผลานิ ธมฺมจกฺขุ นาม โหนฺติ, อิธ ปมมคฺโคว.

ธมฺมจกฺเกติ ปฏิเวธาเณ เจว เทสนาาเณ จ. โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส หิ จตูสุ สจฺเจสุ อุปฺปนฺนํ ทฺวาทสาการํ ปฏิเวธาณมฺปิ, อิสิปตเน นิสินฺนสฺส ทฺวาทสาการาย สจฺจเทสนาย ปวตฺติตํ เทสนาาณมฺปิ ธมฺมจกฺกํ นาม. อุภยมฺปิ เหตํ ทสพลสฺส อุเร ปวตฺตาณเมว. อิมาย เทสนาย ปกาเสนฺเตน ภควตา ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ นาม. ตํ ปเนตํ ธมฺมจกฺกํ ยาว อฺาสิโกณฺฑฺตฺเถโร อฏฺารสหิ พฺรหฺมโกฏีหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาติ , ตาว นํ ภควา ปวตฺเตติ นาม, ปติฏฺิเต จ ปวตฺติตํ นาม. ตํ สนฺธาย ปวตฺติเต จ ปน ภควตา ธมฺมจกฺเก ภุมฺมา เทวา สทฺทมนุสฺสาเวสุนฺติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ ภุมฺมาติ ภูมฏฺกเทวตา. สทฺทมนุสฺสาเวสุนฺติ เอกปฺปหาเรเนว สาธุการํ ทตฺวา – ‘‘เอตํ ภควตา’’ติอาทีนิ วทนฺตา อนุสาวยึสุ. โอภาโสติ สพฺพฺุตฺาโณภาโส. โส หิ ตทา เทวานํ เทวานุภาวํ อติกฺกมิตฺวา วิโรจิตฺถ. อฺาสิ วต, โภ, โกณฺฑฺโติ อิมสฺสปิ อุทานสฺส อุทาหารนิคฺโฆโส ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อฏฺาสิ.

๙. สงฺกาสนสุตฺตวณฺณนา

๑๐๘๙. นวเม อปริมาณา วณฺณาติ อปฺปมาณานิ อกฺขรานิ. พฺยฺชนาติ เตสํเยว เววจนํ, วณฺณานํ วา เอกเทสา ยทิทํ พฺยฺชนา นาม. สงฺกาสนาติ วิภตฺติโย. เอกเมกสฺมิฺหิ สจฺเจ สพฺพากาเรน วิตฺถาริยมาเน วณฺณาทีนํ อนฺโต นาม นตฺถิ. ตสฺมา เอวมาห.

๑๐. ตถสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๐. ทสเม สภาวาวิชหนฏฺเน ตถํ. ทุกฺขฺหิ ทุกฺขเมว วุตฺตํ. สภาวสฺส อโมฆตาย อวิตถํ. น หิ ทุกฺขํ อทุกฺขํ นาม โหติ. อฺภาวานุปคเมน อนฺถํ. น หิ ทุกฺขํ สมุทยาทิภาวํ อุปคจฺฉติ. สมุทยาทีสุปิ เอเสว นโยติ.

ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนวคฺโค ทุติโย.

๓. โกฏิคามวคฺโค

๑. โกฏิคามสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๑. ตติยสฺส ปเม อนนุโพธาติ อนนุพุชฺฌเนน. อปฺปฏิเวธาติ อปฺปฏิวิชฺฌเนน.

๒. ทุติยโกฏิคามสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๒. ทุติเย เจโตวิมุตฺติ ปฺาวิมุตฺตีติ ผลสมาปตฺติผลปฺานํ นามํ.

๗. ตถสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๗. สตฺตเม ตสฺมา อริยสจฺจานีติ ยสฺมา ตถานิ อวิตถานิ อนฺถานิ, ตสฺมา อริยานํ สจฺจานีติ วุจฺจนฺติ. น หิ วิตถานิ อริยา อริยสจฺจโต ปฏิวิชฺฌนฺติ.

๘. โลกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๘. อฏฺเม ตถาคโต อริโย, ตสฺมา ‘‘อริยสจฺจานี’’ติ ยสฺมา อริเยน ตถาคเตน ปฏิวิทฺธตฺตา เทสิตตฺตา จ ตานิ อริยสนฺตกานิ โหนฺติ, ตสฺมา อริยสฺส สจฺจตฺตา อริยสจฺจานีติ อตฺโถ.

๑๐. ควมฺปติสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๐. ทสเม สหฺจนิเกติ สหฺจนิยนคเร. โย, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ ปสฺสติ, ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสตีติอาทิ เอกปฏิเวธวเสน วุตฺตํ, อิมสฺมิฺหิ สุตฺเต เอกปฏิเวโธว กถิโต.

โกฏิคามวคฺโค ตติโย.

๔. สีสปาวนวคฺโค

๑. สีสปาวนสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๑. จตุตฺถสฺส ปเม ยทิทํ อุปรีติ ยานิ อิมานิ อุปริ. สีสปาวเนติ สีสปารุกฺเข.

๒. ขทิรปตฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๒. ทุติเย อนภิสเมจฺจาติ าเณน อนภิสมาคนฺตฺวา, อปฺปฏิวิชฺฌิตฺวาติ อตฺโถ.

๓. ทณฺฑสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๓. ตติเย อสฺมา โลกา ปรํ โลกนฺติ อิมมฺหา มนุสฺสโลกา ปรํ นิรยมฺปิ, ติรจฺฉานโยนิมฺปิ, เปตฺติวิสยมฺปิ, มนุสฺสโลกมฺปิ, เทวโลกมฺปิ, คจฺฉนฺติ, ปุนปฺปุนํ วฏฺฏสฺมึเยว นิพฺพตฺตนฺตีติ อตฺโถ.

๕. สตฺติสตสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๕. ปฺจเม เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, อสฺสาติ, ภิกฺขเว, เอวํ เจ เอตํ ภเวยฺย, นิรนฺตรํ สตฺติสเตหิ หฺมานสฺส ทุกฺขโทมนสฺเสหิ สเหเวส สจฺจาภิสมโย ภเวยฺย เจติ อตฺโถ.

๙. อินฺทขีลสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๙. นวเม มุขํ โอโลเกนฺตีติ อชฺฌาสยํ โอโลเกนฺติ. อชฺฌาสโย อิธ มุขนฺติ อธิปฺเปโต.

๑๐. วาทตฺถิกสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๐. ทสเม สิลายูโปติ สิลาถมฺโภ. โสฬสกุกฺกุโกติ โสฬสหตฺโถ. โสฬสกุกฺกูติปิ ปาโ. เหฏฺา เนมงฺคมาติ เหฏฺา อาวาฏํ ปวิฏฺา. อฏฺ กุกฺกุ อุปริเนมสฺสาติ อฏฺ หตฺถา อาวาฏสฺส อุปริ อุคฺคนฺตฺวา ิตา ภเวยฺยุํ. ภุสาติ พลวตี. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

สีสปาวนวคฺโค จตุตฺโถ.

๕. ปปาตวคฺโค

๑. โลกจินฺตาสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๑. ปฺจมสฺส ปเม สุมาคธาย โปกฺขรณิยาติ เอวํนามิกาย โปกฺขรณิยา. โลกจินฺตํ จินฺเตนฺโตติ, ‘‘เกน นุ โข จนฺทิมสูริยา กตา, เกน มหาปถวี, เกน มหาสมุทฺโท, เกน สตฺตา อุปฺปาทิตา, เกน ปพฺพตา, เกน อมฺพตาลนาฬิเกราทโย’’ติ เอวรูปํ โลกจินฺตํ จินฺเตนฺโต นิสีทิ.

วิเจโตติ วิคตจิตฺโต วิกฺขิตฺตจิตฺโต วา. ภูตํเยว อทฺทสาติ เต กิร อสุรา สมฺพริมายํ สมฺปริวตฺเตตฺวา ยถา เน โส ปุริโส หตฺถิอสฺสาทีสุ อารุหนฺเต อุกฺขิปิตฺวา, ภิสมุฬาลจฺฉิทฺเทหิ ปวิสนฺเต ปสฺสติ, เอวํ อธิฏฺหึสุ. ตํ สนฺธาย สตฺถา ‘‘ภูตํเยว อทฺทสา’’ติ อาห. เทวานํเยว โมหยมานาติ เทวานํ จิตฺตํ โมหยนฺตา. ตสฺมาติ ยสฺมา โลกจินฺตํ จินฺเตนฺโต อุมฺมตฺตโกปิ โหติ, ตสฺมา.

๒-๓. ปปาตสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๑๒-๑๓. ทุติเย ปฏิภานกูโฏติ เอโก มหนฺโต ปพฺพตสทิโส มริยาทปาสาโณ. ตติเย อนิฏฺรูปนฺติ อนิฏฺสภาวํ.

๔. กูฏาคารสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๔. จตุตฺเถ เหฏฺิมํ ฆรํ อกริตฺวาติ ถมฺภภิตฺติปาทุสฺสาปนาทินา ฆรสฺส เหฏฺิมภาคํ อกตฺวา.

๕. วาลสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๕. ปฺจเม สนฺถาคาเรติ สิปฺปุคฺคณฺหนสาลายํ. อุปาสนํ กโรนฺเตติ กณฺฑขิปนสิปฺปํ กโรนฺเต. อสนํ อติปาเตนฺเตติ กณฺฑํ อติกฺกเมนฺเต. โปงฺขานุโปงฺขนฺติ เอกํ กณฺฑํ ขิปิตฺวา ยถา อสฺส สรสฺส โปงฺขํ วิชฺฌติ, อปรํ อนุโปงฺขํ นาม ทุติยสฺส โปงฺขํ, ปุน อปรํ ตสฺส โปงฺขนฺติ เอวํ อติปาเตนฺเต อทฺทส. ยตฺร หิ นามาติ เย นาม. ทุรภิสมฺภวตรนฺติ ทุกฺกรตรํ. สตฺตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏึ ปฏิวิชฺเฌยฺยาติ เอกํ วาลํ สตฺตธา ภินฺทิตฺวา, ตสฺส เอกํ เภทํ คเหตฺวา, วาติงฺคณมชฺเฌ พนฺธิตฺวา, อปรํ เภทํ กณฺฑสฺส อคฺคโกฏิยํ พนฺธิตฺวา, อุสภมตฺเต ิโต กณฺฑพทฺธาย โกฏิยา ตํ วาติงฺคณพทฺธโกฏึ ปฏิวิชฺเฌยฺยาติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอวํ ทุปฺปฏิวิชฺฌานิ จตฺตาริ สจฺจานิ, ตสฺมา.

๗. ปมฉิคฺคฬยุคสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๗. สตฺตเม อฺมฺขาทิกาติ อฺมฺํ ขาทนํ. ทุพฺพลขาทิกาติ พลวนฺเตหิ มจฺฉาทีหิ ทุพฺพลานํ มจฺฉาทีนํ ขาทนํ.

๘. ทุติยฉิคฺคฬยุคสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๘. อฏฺเม มหาปถวีติ จกฺกวาฬคพฺภนฺตรา มหาปถวี. อธิจฺจมิทํ, ภนฺเตติ อิทํ อธิจฺจุปฺปตฺติกํ สเจ ตํ ยุคํ น ปูติ ภเวยฺย, สมุทฺเท อุทกํ น สุสฺเสยฺย, โส จ กจฺฉโป น มเรยฺย, อปิ นาม ยทิจฺฉาวเสน สิยาติ อตฺโถ.

เอวํ อธิจฺจมิทํ, ภิกฺขเวติ เอตฺถ มหาสีวตฺเถโร จตฺตาริ ยุคานิ ทสฺเสติ – ปุรตฺถิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ ิเตน ปุริเสน ปกฺขิตฺตยุคสฺส หิ ฉิคฺคเฬน ตสฺส อนฺธกจฺฉปสฺส คีวาย ปเวสนํ วิย มนุสฺสปฏิลาโภ อธิจฺจปฏิลาภี. ทกฺขิณจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ ิเตน ปกฺขิตฺตสฺส ปน ปริพฺภมนฺตสฺส ปุริมยุคํ ปตฺวา ฉิคฺคเฬน ฉิคฺคฬุปริ อารุฬฺหสฺส ฉิคฺคเฬน คีวปฺปเวสนํ วิย ตถาคตุปฺปาโท อธิจฺจตรสมฺภโว. ปจฺฉิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ ิเตน ปกฺขิตฺตสฺส ปน ปริพฺภมนฺตสฺส ปุริมยุคทฺวยํ ปตฺวา ฉิคฺคเฬน ฉิคฺคฬุปริ อารุฬฺหสฺส ฉิคฺคเฬน คีวปฺปเวสนํ วิย ตถาคตปฺปเวทิตสฺส ธมฺมวินยสฺส ทีปนํ อธิจฺจตรสมฺภวํ. อุตฺตรจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ ิเตน ปกฺขิตฺตสฺส ปน ปริพฺภมนฺตสฺส ปุริมยุคตฺตยํ ปตฺวา ฉิคฺคเฬน ฉิคฺคฬุปริ อารุฬฺหสฺส ฉิคฺคเฬน คีวปฺปเวสนํ วิย จตุสจฺจปฏิเวโธ อติวิย อธิจฺจตรสมฺภโว เวทิตพฺโพ. นวมาทีนิ อภิสมยสํยุตฺเต วุตฺตนยาเนวาติ.

ปปาตวคฺโค ปฺจโม.

๖. อภิสมยวคฺควณฺณนา

๑๑๒๑. อภิสมยวคฺโค นิทานวคฺเค อภิสมยสํยุตฺเต วิตฺถาริโตว.

๗. ปมอามกธฺเปยฺยาลวคฺโค

๓. ปฺาสุตฺตวณฺณนา

๑๑๓๓. อามกธฺเปยฺยาเล อริเยน ปฺาจกฺขุนาติ วิปสฺสนํ อาทึ กตฺวา โลกิยโลกุตฺตเรน าณจกฺขุนา.

๔. สุราเมรยสุตฺตวณฺณนา

๑๑๓๔. สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานา ปฏิวิรตาติ เอตฺถ สุรา นาม ปิฏฺสุรา, โอทนสุรา, ปูวสุรา, กิณฺณปกฺขิตฺตา, สมฺภารสํยุตฺตาติ ปฺจวิธา. เมรยํ นาม ปุปฺผาสโว, ผลาสโวติ, เอวํ วุตฺโต โย โกจิ อาสโว. มชฺชนฺติ ตเทว อุภยํ, ยํ วา ปนฺมฺปิ สุราสววินิมุตฺตํ มทนียํ. ยาย เจตนาย ตํ ปิวนฺติ, สา ปมาทสฺส การณตฺตา ปมาทฏฺานํ นาม, ตโต ปฏิวิรตาติ อตฺโถ.

๖-๗. มตฺเตยฺยสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๓๖-๓๗. มตฺเตยฺยาติ มาตุหิตา, มาตริ สมฺมาปฏิปนฺนาติ อตฺโถ. เปตฺเตยฺยาทีสุ ปิตุหิตา เปตฺเตยฺยา.

๘-๙. สามฺสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๓๘-๓๙. สมณานํ หิตา สามฺา. พฺราหฺมณานํ หิตา พฺรหฺมฺา. เตสุ เตสุ สมฺมา ปฏิปนฺนานํเยเวตํ อธิวจนํ.

๑๐. ปจายิกสุตฺตวณฺณนา

๑๑๔๐. กุเล เชฏฺาปจายิโนติ กุเล เชฏฺานํ อปจายิโน, นีจวุตฺติโนติ อตฺโถ.

๘. ทุติยอามกธฺเปยฺยาลวคฺโค

๘. พีชคามสุตฺตวณฺณนา

๑๑๔๘. พีชคามภูตคามสมารมฺภาติ มูลพีชํ, ขนฺธพีชํ, ผฬุพีชํ, อคฺคพีชํ, พีชพีชนฺติ ปฺจวิธสฺส พีชคามสฺส เจว ยสฺส กสฺสจิ นีลติณรุกฺขาทิกสฺส ภูตคามสฺส จ สมารมฺภา, เฉทนปจนาทิภาเวน วิโกปนา ปฏิวิรตาติ อตฺโถ.

๙. วิกาลโภชนสุตฺตวณฺณนา

๑๑๔๙. วิกาลโภชนาติ กาลาติกฺกนฺตโภชนา, มชฺฌนฺหิกาติกฺกมโต ปฏฺาย ยาวกาลิกปริโภคาติ อตฺโถ.

๑๐. คนฺธวิเลปนสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๐. มาลาทีสุ มาลาติ ยํ กิฺจิ ปุปฺผํ. คนฺธนฺติ ยํ กิฺจิ คนฺธชาตํ. วิเลปนนฺติ ฉวิราคกรณํ. ตตฺถ ปิฬนฺธนฺตา ธาเรนฺติ นาม, อูนฏฺานํ ปูเรนฺตา มณฺเฑนฺติ นาม, คนฺธวเสน ฉวิราควเสน จ สาทิยนฺตา วิภูเสนฺติ นาม. านํ วุจฺจติ การณํ. ตสฺมา ยาย ทุสฺสีลฺยเจตนาย ตานิ มาลาธารณาทีนิ มหาชโน กโรติ, ตโต ปฏิวิรตาติ อตฺโถ.

๙. ตติยอามกธฺเปยฺยาลวคฺโค

๑. นจฺจคีตสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๑. สาสนสฺส อนนุโลมตฺตา วิสูกํ ปฏาณีภูตํ ทสฺสนนฺติ วิสูกทสฺสนํ. อตฺตนา นจฺจนนจฺจาปนาทิวเสน นจฺจา จ คีตา จ วาทิตา จ อนฺตมโส มยูรนจฺจาทิวเสนาปิ ปวตฺตานํ นจฺจาทีนํ วิสูกภูตา ทสฺสนา จาติ นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา. นจฺจาทีนิ หิ อตฺตนา ปโยเชตุํ วา ปเรหิ ปโยชาเปตุํ วา ปยุตฺตานิ ปสฺสิตุํ วา เนว ภิกฺขูนํ, น ภิกฺขุนีนํ วฏฺฏนฺติ.

๒. อุจฺจาสยนสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๒. อุจฺจาสยนํ วุจฺจติ ปมาณาติกฺกนฺตํ. มหาสยนํ อกปฺปิยตฺถรณํ, ตโต ปฏิวิรตาติ อตฺโถ.

๓. ชาตรูปสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๓. ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. รชตนฺติ กหาปโณ – โลหมาสโก, ชตุมาสโก, ทารุมาสโกติ เย โวหารํ คจฺฉนฺติ, ตสฺส อุภยสฺสาปิ ปฏิคฺคหณา ปฏิวิรตา. เนว นํ อุคฺคณฺหนฺติ น อุคฺคณฺหาเปนฺติ, น อุปนิกฺขิตฺตํ สาทิยนฺตีติ อตฺโถ.

๔. อามกธฺสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๔. อามกธฺปฏิคฺคหณาติ สาลิ-วีหิ-ยว-โคธุม-กงฺคุ-วรก-กุทฺรูสกสงฺขาตสฺส สตฺตวิธสฺสาปิ อามกธฺสฺส ปฏิคฺคหณา. น เกวลฺจ เอเตสํ ปฏิคฺคหณเมว, อามสนมฺปิ ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติเยว.

๕. อามกมํสสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๕. อามกมํสปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ อฺตฺร อุทฺทิสฺส อนุฺาตา อามกมํสมจฺฉานํ ปฏิคฺคหณเมว ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติ, โน อามสนํ.

๖. กุมาริกสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๖. อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ อิตฺถีติ ปุริสนฺตรคตา, อิตรา กุมาริกา นาม. ตาสํ ปฏิคฺคหณมฺปิ อามสนมฺปิ อกปฺปิยเมว.

๗. ทาสิทาสสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๗. ทาสิทาสปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ ทาสิทาสวเสเนว เตสํ ปฏิคฺคหณํ น วฏฺฏติ, ‘‘กปฺปิยการกํ ทมฺมิ, อารามิกํ ทมฺมี’’ติ เอวํ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ.

๑๐. จตุตฺถอามกธฺเปยฺยาลวคฺโค

๑. เขตฺตวตฺถุสุตฺตวณฺณนา

๑๑๖๑. อเชฬกาทีสุ เขตฺตวตฺถุปริโยสาเนสุ กปฺปิยากปฺปิยนโย วินยวเสน อุปปริกฺขิตพฺโพ . ตตฺถ เขตฺตํ นาม ยสฺมึ ปุพฺพณฺณํ รุหติ. วตฺถุ นาม ยสฺมึ อปรณฺณํ รุหติ. ยตฺถ วา อุภยํ รุหติ, ตํ เขตฺตํ. ตทตฺถาย อกตภูมิภาโค วตฺถุ. เขตฺตวตฺถุสีเสน เจตฺถ วาปิตฬากาทีนิปิ สงฺคหิตาเนว.

๒-๓. กยวิกฺกยสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๖๒-๖๓. กยวิกฺกยาติ กยา จ วิกฺกยา จ. ทูเตยฺยํ วุจฺจติ ทูตกมฺมํ, คิหีนํ ปณฺณํ วา สาสนํ วา คเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ คมนํ. ปหิณคมนํ วุจฺจติ ฆรา ฆรํ เปสิตสฺส ขุทฺทกคมนํ. อนุโยโค นาม ตทุภยกรณํ. ตสฺมา ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๔. ตุลากูฏสุตฺตวณฺณนา

๑๑๖๔. ตุลากูฏาทีสุ กูฏนฺติ วฺจนํ. ตตฺถ ตุลากูฏํ ตาว รูปกูฏํ, องฺคกูฏํ, คหณกูฏํ, ปฏิจฺฉนฺนกูฏนฺติ จตุพฺพิธํ โหติ. ตตฺถ รูปกูฏํ นาม ทฺเว ตุลา สมรูปา กตฺวา คณฺหนฺโต มหติยา คณฺหาติ, ททนฺโต ขุทฺทิกาย เทติ. องฺคกูฏํ นาม คณฺหนฺโต ปจฺฉาภาเค หตฺเถน ตุลํ อกฺกมติ, ททนฺโต ปุพฺพภาเค. คหณกูฏํ นาม คณฺหนฺโต มูเล รชฺชุํ คณฺหาติ, ททนฺโต อคฺเค. ปฏิจฺฉนฺนกูฏํ นาม ตุลํ สุสิรํ กตฺวา อนฺโต อยจุณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา คณฺหนฺโต ตํ ปจฺฉาภาเค กโรติ, ททนฺโต อคฺคภาเค.

กํโส วุจฺจติ สุวณฺณปาติ, ตาย วฺจนํ กํสกูฏํ. กถํ? เอกํ สุวณฺณปาตึ กตฺวา อฺา ทฺเว ติสฺโส โลหปาติโย สุวณฺณวณฺณา กโรนฺติ. ตโต ชนปทํ คนฺตฺวา, กิฺจิเทว อฑฺฒกุลํ ปวิสิตฺวา, ‘‘สุวณฺณภาชนานิ กิณถา’’ติ วตฺวา, อคฺเฆ ปุจฺฉิเต สมคฺฆตรํ ทาตุกามา โหนฺติ, ตโต เตหิ ‘‘กถํ อิเมสํ สุวณฺณภาโว ชานิตพฺโพ’’ติ วุตฺเต ‘‘วีมํสิตฺวา คณฺหถา’’ติ สุวณฺณปาตึ ปาสาเณ ฆํสิตฺวา สพฺพปาติโย ทตฺวา คจฺฉนฺติ.

มานกูฏํ หทยเภท-สิขาเภท-รชฺชุเภทวเสน ติวิธํ โหติ. ตตฺถ หทยเภโท สปฺปิเตลาทิมินนกาเล ลพฺภติ . ตานิ หิ คณฺหนฺโต เหฏฺาฉิทฺเทน มาเนน ‘‘สณิกํ อาสิฺจา’’ติ วตฺวา อนฺโตภาชเน พหุํ ปคฺฆราเปตฺวา คณฺหาติ, ททนฺโต ฉิทฺทํ ปิธาย สีฆํ ปูเรตฺวา เทติ. สิขาเภโท ติลตณฺฑุลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต สณิกํ สิขํ อุสฺสาเปตฺวา คณฺหาติ, ททนฺโต เวเคน สิขํ ภินฺทนฺโต เทติ. รชฺชุเภโท เขตฺตวตฺถุมินนกาเล ลพฺภติ. ลฺชํ อลภนฺตา หิ เขตฺตํ อมหนฺตํ มหนฺตํ กตฺวา มินนฺติ.

๕. อุกฺโกฏนสุตฺตวณฺณนา

๑๑๖๕. อุกฺโกฏนาทีสุ อุกฺโกฏนนฺติ สามิเก อสฺสามิเก กาตุํ ลฺชคฺคหณํ. วฺจนนฺติ เตหิ เตหิ อุปาเยหิ ปเรสํ วฺจนํ. ตตฺริทเมกํวตฺถุ – เอโก กิร ลุทฺทโก มิคฺจ มิคโปตกฺจ คเหตฺวา อาคจฺฉติ. ตเมโก ธุตฺโต ‘‘กึ, โภ, มิโค อคฺฆติ, กึ มิคโปตโก’’ติ?, อาห. ‘‘มิโค ทฺเว กหาปเณ, มิคโปตโก เอก’’นฺติ จ วุตฺเต กหาปณํ ทตฺวา, มิคโปตกํ คเหตฺวา โถกํ คนฺตฺวา นิวตฺโต ‘‘น เม, โภ, มิคโปตเกน อตฺโถ, มิคํ เม เทหี’’ติ อาห. เตน หิ ทฺเว กหาปเณ เทหีติ. นนุ, โภ, มยา ปมํ เอโก กหาปโณ ทินฺโนติ. อาม ทินฺโนติ. อิมมฺปิ มิคโปตกํ คณฺห, เอวํ โส จ กหาปโณ, อยฺจ กหาปณคฺฆนโก มิคโปตโกติ ทฺเว กหาปณา ภวิสฺสนฺตีติ. โส ‘‘การณํ วทตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา มิคโปตกํ คเหตฺวา มิคํ อทาสีติ.

นิกตีติ โยควเสน วา มายาวเสน วา อปามงฺคํ ปามงฺคนฺติ อมณึ มณินฺติ, อสุวณฺณํ สุวณฺณนฺติ กตฺวา ปติรูปเกน วฺจนํ. สาจิโยโคติ กุฏิลโยโค. เอเตสํเยว อุกฺโกฏนาทีนเมตํ นามํ. ตสฺมา อุกฺโกฏนสาจิโยคา วฺจนสาจิโยคา นิกติสาจิโยคาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกจิ อฺํ ทสฺเสตฺวา อฺสฺส ปริวตฺตนํ สาจิโยโคติ วทนฺติ. ตํ ปน วฺจเนเนว สงฺคหิตํ.

๖-๑๑. เฉทนสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๖๖-๗๑. เฉทนาทีสุ เฉทนนฺติ หตฺถจฺเฉทนาทิ. วโธติ มรณํ. พนฺโธติ รชฺชุพนฺธนาทีหิ พนฺธนํ. วิปราโมโสติ หิมวิปราโมโส, คุมฺพวิปราโมโสติ ทุวิโธ. ยํ หิมปาตสมเย หิเมน ปฏิจฺฉนฺนา หุตฺวา มคฺคปฏิปนฺนํ ชนํ มุสนฺติ, อยํ หิมวิปราโมโส. ยํ คุมฺพาทิปฏิจฺฉนฺนา มุสนฺติ, อยํ คุมฺพวิปราโมโส.

อาโลโป วุจฺจติ คามนิคมาทีนํ วิโลปกรณํ. สหสากาโรติ สาหสกิริยา, เคหํ ปวิสิตฺวา, มนุสฺสานํ อุเร สตฺถํ เปตฺวา, อิจฺฉิตภณฺฑคฺคหณํ. เอวเมตสฺมา เฉทนวธพนฺธนวิปราโมสอาโลปสหสาการา ปฏิวิรตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อามกธฺเปยฺยาลวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

มหาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนกถา

เอตฺตาวตา หิ –

‘‘พหุการสฺส ยตีนํ วิปสฺสนาจารนิปุณพุทฺธีนํ,

สํยุตฺตวรนิกายสฺส อตฺถสํวณฺณนํ กาตุํ.

‘‘สทฺธมฺมสฺส จิรฏฺิติมาสิสมาเนน ยา มยา;

นิปุณา อฏฺกถา อารทฺธา สารตฺถปกาสินี นาม.

‘‘สา หิ มหาอฏฺกถาย สารมาทาย นิฏฺิตา เอสา;

อฏฺสตฺตติมตฺตาย ปาฬิยา ภาณวาเรหิ.

‘‘เอกูนสฏฺิมตฺโต วิสุทฺธิมคฺโคปิ ภาณวาเรหิ;

อตฺถปฺปกาสนตฺถาย อาคมานํ กโต ยสฺมา.

‘‘ตสฺมา เตน สหายํ อฏฺกถา ภาณวารคณนาย;

โถเกน อปริปูรํ สตฺตตึสสตํ โหติ.

‘‘สตฺตตึสาธิกสต-ปริมาณํ ภาณวารโต เอวํ;

สมยํ ปกาสยนฺตึ มหาวิหาราธิวาสีนํ.

‘‘มูลฏฺกถาย สารมาทาย มยา อิมํ กโรนฺเตน;

ยํ ปุฺมุปจิตํ เตน โหตุ สพฺโพ สุขี โลโก.

‘‘เอติสฺสา กรณตฺถํ เถเรน ภทนฺตโชติปาเลน;

สุจิสีเลน สุภาสิตสฺส ปกาสยนฺตาเณน.

‘‘สาสนวิภูติกาเมน ยาจมาเนน มํ สุภคุเณน;

ยํ สมธิคตํ ปุฺํ เตนาปิ ชโน สุขี ภวตู’’ติ.

ปรมวิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยปฺปฏิมณฺฑิเตน สีลาจารชฺชวมทฺทวาทิคุณสมุทยสมุทิเตน สกสมยสมยนฺตรคหนชฺโฌคาหณสมตฺเถน ปฺาเวยฺยตฺติยสมนฺนาคเตน ติปิฏกปริยตฺติปฺปเภเท สาฏฺกเถ สตฺถุสาสเน อปฺปฏิหตาณปฺปภาเวน มหาเวยฺยากรเณน กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนลาวณฺณยุตฺเตน ยุตฺตมุตฺตวาทินา วาทีวเรน มหากวินา ปภินฺนปฏิสมฺภิทาปริวาเร ฉฬภิฺาทิปฺปเภทคุณปฺปฏิมณฺฑิเต อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม สุปฺปติฏฺิตพุทฺธีนํ เถรวํสปฺปทีปานํ เถรานํ มหาวิหารวาสีนํ วํสาลงฺการภูเตน วิปุลวิสุทฺธพุทฺธินา พุทฺธโฆโสติ ครูหิ คหิตนามเธยฺเยน เถเรน กตา อยํ สารตฺถปฺปกาสินี นาม สํยุตฺตนิกายฏฺกถา.

‘‘ตาว ติฏฺตุ โลกสฺมึ, โลกนิตฺถรเณสินํ;

ทสฺเสนฺตี กุลปุตฺตานํ, นยํ สีลวิสุทฺธิยา.

‘‘ยาว พุทฺโธติ นามมฺปิ, สุทฺธจิตฺตสฺส ตาทิโน;

โลกมฺหิ โลกเชฏฺสฺส, ปวตฺตติ มเหสิโน’’ติ.

สารตฺถปฺปกาสินี นาม

สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถา สพฺพากาเรน นิฏฺิตา.