📜
๗. อิทฺธิปาทสํยุตฺตํ
๑. จาปาลวคฺโค
๑. อปารสุตฺตวณฺณนา
๘๑๓. อิทฺธิปาทสํยุตฺตสฺส ¶ ¶ ปเม ฉนฺทํ นิสฺสาย ปวตฺโต สมาธิ ฉนฺทสมาธิ. ปธานภูตา สงฺขารา ปธานสงฺขารา. สมนฺนาคตนฺติ เตหิ ธมฺเมหิ อุเปตํ. อิทฺธิยา ปาทํ, อิทฺธิภูตํ วา ปาทนฺติ อิทฺธิปาทํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน อิทฺธิปาทวิภงฺเค (วิภ. ๔๓๑ อาทโย) อาคโตว. วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๓.๖๙ อาทโย) ปนสฺส อตฺโถ ทีปิโต. ตถา มคฺคโพชฺฌงฺคสติปฏฺานสํยุตฺเตสุ เจว อิธ จ เอกปริจฺเฉโทว.
๕. อิทฺธิปเทสสุตฺตวณฺณนา
๘๑๗. ปฺจเม ¶ อิทฺธิปเทสนฺติ ตโย จ มคฺเค ตีณิ จ ผลานิ.
๖. สมตฺตสุตฺตวณฺณนา
๘๑๘. ฉฏฺเ สมตฺตํ อิทฺธินฺติ อรหตฺตผลเมว. อาทิโต ปฏฺาย ปน นวสุปิ สุตฺเตสุ วิวฏฺฏปาทกา เอว อิทฺธิปาทา กถิตา.
๑๐. เจติยสุตฺตวณฺณนา
๘๒๒. ทสเม นิสีทนนฺติ จมฺมขณฺฑํ อธิปฺเปตํ. อุเทนํ เจติยนฺติ อุเทนยกฺขสฺส เจติยฏฺาเน ¶ กตวิหาโร วุจฺจติ. โคตมกาทีสุปิ เอเสว นโย. ภาวิตาติ วฑฺฒิตา. พหุลีกตาติ ปุนปฺปุนํ กตา. ยานีกตาติ ยุตฺตยานํ วิย กตา. วตฺถุกตาติ ปติฏฺานฏฺเน วตฺถุ วิย กตา. อนุฏฺิตาติ อธิฏฺิตา. ปริจิตาติ สมนฺตโต จิตา สุวฑฺฒิตา. สุสมารทฺธาติ สุฏฺุ สมารทฺธา.
อิติ อนิยเมน กเถตฺวา ปุน นิยเมตฺวา ทสฺเสนฺโต ตถาคตสฺส โขติอาทิมาห. เอตฺถ จ กปฺปนฺติ อายุกปฺปํ, ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล ยํ มนุสฺสานํ ¶ อายุปฺปมาณํ, ตํ ปริปุณฺณํ กโรนฺโต ติฏฺเยฺย. กปฺปาวเสสํ วาติ ‘‘อปฺปํ วา ภิยฺโย’’ติ วุตฺตวสฺสสตโต อติเรกํ วา. มหาสีวตฺเถโร ปนาห ‘‘พุทฺธานํ อฏฺาเน คชฺชิตํ นาม นตฺถิ. ยเถว หิ เวฬุวคามเก อุปฺปนฺนํ มารณนฺติกเวทนํ ทส มาเส วิกฺขมฺเภสิ, เอวํ ปุนปฺปุนํ ตํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ทส ทส มาเสปิ วิกฺขมฺเภนฺโต อิมํ ภทฺทกปฺปเมว ติฏฺเยฺยา’’ติ.
กสฺมา ปน น ิโตติ? อุปาทิณฺณกสรีรํ นาม ขณฺฑิจฺจาทีหิ อภิภุยฺยติ, พุทฺธา นาม ขณฺฑิจฺจาทิภาวํ อปตฺวาว ปฺจเม อายุโกฏฺาเส พหุชนสฺส ปิยมนาปกาเลเยว ปรินิพฺพายนฺติ. พุทฺธานุพุทฺเธสุ จ มหาสาวเกสุ ปรินิพฺพุเตสุ เอกเกน ขาณุเกน วิย าตพฺพํ โหติ, ทหรสามเณรปริวาริเตน ¶ วา, ตโต – ‘‘อโห พุทฺธานํ ปริสา’’ติ หีเฬตพฺพตํ อาปชฺเชยฺย, ตสฺมา น ิโตติ. เอวํ วุตฺเตปิ โส ปน น รุจฺจติ, ‘‘อายุกปฺโป’’ติ อิทเมว อฏฺกถายํ นิยมิตํ.
ยถา ตํ มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโตติ เอตฺถ ตนฺติ นิปาตมตฺตํ. ยถา มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโต อชฺโฌตฺถฏจิตฺโต อฺโปิ โกจิ ปุถุชฺชโน ปฏิวิชฺฌิตุํ น สกฺกุเณยฺย, เอวเมว นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุนฺติ อตฺโถ. มาโร หิ ยสฺส สพฺเพน สพฺพํ ทฺวาทส วิปลฺลาสา อปฺปหีนา, ตสฺส จิตฺตํ ปริยุฏฺาติ. เถรสฺส จ จตฺตาโร วิปลฺลาสา อปฺปหีนา, เตนสฺส มาโร จิตฺตํ ปริยุฏฺาสิ. โส ปน จิตฺตปริยุฏฺานํ กโรนฺโต กึ กโรตีติ? เภรวํ รูปารมฺมณํ วา ทสฺเสติ, สทฺทารมฺมณํ วา สาเวติ, ตโต สตฺตา ตํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา สตึ วิสฺสชฺเชตฺวา วิวฏมุขา โหนฺติ, เตสํ มุเขน หตฺถํ ปเวเสตฺวา หทยํ มทฺทติ, เต วิสฺี หุตฺวา ติฏฺนฺติ. เถรสฺส ปเนส มุเข หตฺถํ ปเวเสตุํ กึ สกฺขิสฺสติ? เภรวารมฺมณํ ปน ทสฺเสติ, ตํ ทิสฺวา เถโร นิมิตฺโตภาสํ น ปฏิวิชฺฌิ. ชานนฺโตเยว ภควา กิมตฺถํ ยาวตติยกํ อามนฺเตสีติ. ปรโต ¶ ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา’’ติ ยาจิเต ‘‘ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธ’’นฺติ โทสาโรปเนน โสกตนุกรณตฺถํ.
มาโร ปาปิมาติ เอตฺถ สตฺเต อนตฺเถ นิโยเชนฺโต มาเรตีติ มาโร. ปาปิมาติ ตสฺเสว เววจนํ. โส หิ ปาปธมฺมสมนฺนาคตตฺตา ‘‘ปาปิมา’’ติ ¶ วุจฺจติ. กณฺโห, อนฺตโก, นมุจิ, ปมตฺตพนฺธูติปิ ตสฺเสว นามานิ. ภาสิตา โข ปเนสาติ อยฺหิ ภควโต สมฺโพธิปตฺติยา อฏฺเม สตฺตาเห โพธิมณฺฑํเยว อาคนฺตฺวา – ‘‘ภควา ยทตฺถํ ตุมฺเหหิ ปารมิโย ปูริตา, โส โว อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, ปฏิวิทฺธํ สพฺพฺุตฺาณํ, กึ โว โลกวิจรเณนา’’ติ วตฺวา ยถา อชฺช, เอวเมว – ‘‘ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ, สุคโต,’’ติ ยาจิ. ภควา จสฺส ‘‘น ตาวาห’’นฺติอาทีนิ วตฺวา ปฏิกฺขิปิ. ตํ สนฺธาย ‘‘ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต,’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ วิยตฺตาติ มคฺควเสน พฺยตฺตา. ตเถว วินีตา. ตถา วิสารทา. พหุสฺสุตาติ เตปิฏกวเสน พหุ สุตเมเตสนฺติ ¶ พหุสฺสุตา. ตเทว ธมฺมํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมธรา. อถ วา ปริยตฺติพหุสฺสุตา เจว ปฏิเวธพหุสฺสุตา จ, ปริยตฺติปฏิเวธธมฺมานํเยว ธารณโต ธมฺมธราติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนาติ อริยธมฺมสฺส อนุธมฺมภูตํ วิปสฺสนาธมฺมํ ปฏิปนฺนา. สามีจิปฺปฏิปนฺนาติ อนุจฺฉวิกปฏิปทํ ปฏิปนฺนา. อนุธมฺมจาริโนติ อนุธมฺมจรณสีลา. สกํ อาจริยกนฺติ อตฺตโน อาจริยวาทํ. อาจิกฺขิสฺสนฺตีติอาทีนิ สพฺพานิ อฺมฺสฺเสว เววจนานิ. สหธมฺเมนาติ สเหตุเกน สการเณน วจเนน. สปฺปาฏิหาริยนฺติ ยาว นิยฺยานิกํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสสฺสนฺติ.
พฺรหฺมจริยนฺติ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สกลํ สาสนพฺรหฺมจริยํ. อิทฺธนฺติ สมิทฺธํ ฌานสฺสาทวเสน. ผีตนฺติ วุฑฺฒิปตฺตํ สพฺพปาลิผุลฺลํ วิย อภิฺาสมฺปตฺติวเสน. วิตฺถาริกนฺติ วิตฺถตํ ตสฺมึ ตสฺมึ ทิสาภาเค ปติฏฺิตวเสน. พาหุชฺนฺติ พหูหิ าตํ ปฏิวิทฺธํ มหาชนาภิสมยวเสน. ปุถุภูตนฺติ สพฺพากาเรน ปุถุลภาวปตฺตํ. กถํ? ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ, ยตฺตกา วิฺุชาติกา เทวา เจว มนุสฺสา จ อตฺถิ, สพฺเพหิ สุฏฺุ ปกาสิตนฺติ อตฺโถ.
อปฺโปสฺสุกฺโกติ ¶ นิราลโย. ตฺวฺหิ ปาปิม อฏฺมสตฺตาหโต ปฏฺาย ‘‘ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต’’ติ วิรวนฺโต อาหิณฺฑิตฺถ, อชฺช ทานิ ปฏฺาย วิคตุสฺสาโห โหหิ, มา มยฺหํ ปรินิพฺพานตฺถํ วายามํ กโรหีติ วทติ.
สโต ¶ สมฺปชาโน อายุสงฺขารํ โอสฺสชีติ สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อายุสงฺขารํ วิสฺสชิ ปชหิ. ตตฺถ น ภควา หตฺเถน เลฑฺฑุํ วิย อายุสงฺขารํ โอสฺสชิ, เตมาสมตฺตเมว ปน ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ตโต ปรํ น สมาปชฺชิสฺสามีติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โอสฺสชี’’ติ. อุสฺสชีติปิ ปาโ. มหาภูมิจาโลติ มหนฺโต ปถวิกมฺโป. ตทา กิร ทสสหสฺสิโลกธาตุ อกมฺปิตฺถ. ภึสนโกติ ภยชนโก ¶ . เทวทุนฺทุภิโย จ ผลึสูติ เทวเภริโย ผลึสุ, เทโว สุกฺขคชฺชิตํ คชฺชิ, อกาลวิชฺชุลตา นิจฺฉรึสุ, ขณิกวสฺสํ วสฺสีติ วุตฺตํ โหติ.
อุทานํ อุทาเนสีติ กสฺมา อุทาเนสิ? โกจิ นาม วเทยฺย ‘‘ภควา ปจฺฉโต ปจฺฉโต อนุพนฺธิตฺวา – ‘ปรินิพฺพายถ, ภนฺเต, ปรินิพฺพายถ, ภนฺเต’ติ อุปทฺทุโต ภเยน อายุสงฺขารํ วิสฺสชฺเชสี’’ติ. ตสฺโสกาโส มา โหตูติ. ภีตสฺส หิ อุทานํ นาม นตฺถีติ ปีติเวควิสฺสฏฺํ อุทาเนสิ.
ตตฺถ สพฺเพสํ โสณสิงฺคาลาทีนมฺปิ ปจฺจกฺขภาวโต ตุลิตํ ปริจฺฉินฺนนฺติ ตุลํ. กึ ตํ? กามาวจรกมฺมํ. น ตุลํ, น วา ตุลํ สทิสมสฺส อฺํ โลกิยกมฺมํ อตฺถีติ อตุลํ. กึ ตํ? มหคฺคตกมฺมํ. อถ วา กามาวจรํ รูปาวจรฺจ ตุลํ, อรูปาวจรํ อตุลํ. อปฺปวิปากํ ตุลํ, พหุวิปากํ อตุลํ. สมฺภวนฺติ สมฺภวเหตุภูตํ, ปิณฺฑการกํ ราสิการกนฺติ อตฺโถ. ภวสงฺขารนฺติ ปุนพฺภวสฺส สงฺขารํ. อวสฺสชีติ วิสฺสชฺเชสิ. มุนีติ พุทฺธมุนิ. อชฺฌตฺตรโตติ นิยกชฺฌตฺตรโต. สมาหิโตติ อุปจารปฺปนาสมาธิวเสน สมาหิโต. อภินฺทิ กวจมิวาติ กวจํ วิย อภินฺทิ. อตฺตสมฺภวนฺติ อตฺตนิ ชาตกิเลสํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สวิปากฏฺเน สมฺภวํ ภวาภิสงฺขณฏฺเน ภวสงฺขารนฺติ จ ลทฺธนามํ ตุลาตุลสงฺขาตํ โลกิยกมฺมฺจ โอสฺสชิ, สงฺคามสีเส มหาโยโธ กวจํ วิย อตฺตสมฺภวํ กิเลสฺจ อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต หุตฺวา อภินฺทีติ.
อถ ¶ วา ตุลนฺติ ตุเลนฺโต ตีเรนฺโต. อตุลฺจ สมฺภวนฺติ นิพฺพานฺเจว ภวฺจ. ภวสงฺขารนฺติ ภวคามิกมฺมํ. อวสฺสชิ มุนีติ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา อนิจฺจา, ปฺจนฺนํ ¶ ขนฺธานํ นิโรโธ นิพฺพานํ นิจฺจ’’นฺติอาทินา นเยน ตุลยนฺโต พุทฺธมุนิ ภเว อาทีนวํ นิพฺพาเน จานิสํสํ ทิสฺวา ตํ ขนฺธานํ มูลภูตํ ภวสงฺขารํ ‘‘กมฺมกฺขยาย สํวตฺตตี’’ติ เอวํ วุตฺเตน ¶ กมฺมกฺขยกเรน อริยมคฺเคน อวสฺสชิ. กถํ? อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต อภินฺทิ กวจมิวตฺตสมฺภวํ. โส หิ วิปสฺสนาวเสน อชฺฌตฺตรโต, สมถวเสน สมาหิโตติ เอวํ ปุพฺพภาคโต ปฏฺาย สมถวิปสฺสนาพเลน กวจมิว อตฺตภาวํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิตํ, อตฺตนิ สมฺภวตฺตา อตฺตสมฺภวนฺติ ลทฺธนามํ สพฺพํ กิเลสชาตํ อภินฺทิ. กิเลสาภาเวน จ กมฺมํ อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา อวสฺสฏฺํ นาม โหตีติ เอวํ กิเลสปฺปหาเนน กมฺมํ ชหิ. ปหีนกิเลสสฺส ภยํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา อภีโตว อายุสงฺขารํ โอสฺสชิ. อภีตภาวาปนตฺถฺจ อุทานํ อุทาเนสีติ เวทิตพฺโพ.
จาปาลวคฺโค ปโม.
๒. ปาสาทกมฺปนวคฺโค
๑-๒. ปุพฺพสุตฺตาทิวณฺณนา
๘๒๓-๘๒๔. ทุติยวคฺคสฺส ปเม น จ อติลีโนติอาทีนิ ปรโต อาวิ ภวิสฺสนฺติ. อิมสฺมึ สุตฺเต ฉอภิฺาปาทกา อิทฺธิปาทา กถิตา, ตถา ทุติเย จ.
๓. ฉนฺทสมาธิสุตฺตวณฺณนา
๘๒๕. ตติเย ฉนฺทนฺติ กตฺตุกมฺยตาฉนฺทํ. นิสฺสายาติ นิสฺสยํ กตฺวา, อธิปตึ กตฺวาติ อตฺโถ. ปธานสงฺขาราติ ปธานภูตา สงฺขารา, จตุกิจฺจสาธกสมฺมปฺปธานวีริยสฺเสตํ อธิวจนํ. อิติ อยฺจ ฉนฺโทติอาทีสุ ฉนฺโท ฉนฺทสมาธินา เจว ปธานสงฺขาเรหิ จ, ฉนฺทสมาธิ ฉนฺเทน เจว ปธานสงฺขาเรหิ จ, ปธานสงฺขาราปิ ฉนฺเทน เจว ฉนฺทสมาธินา จ สมนฺนาคตา ¶ . ตสฺมา สพฺเพ เต ธมฺเม เอกโต กตฺวา อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ฉนฺทสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคโต อิทฺธิปาโทติ วุตฺตํ. อิทฺธิปาทวิภงฺเค (วิภ. ๔๓๗) ปน ‘‘โย ตถาภูตสฺส เวทนากฺขนฺโธ ติอาทินา นเยน ¶ อิเมหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา เสสอรูปิโน ธมฺมา อิทฺธิปาทาติ วุตฺตา.
อปิจ อิเมปิ ตโย ธมฺมา อิทฺธีปิ โหนฺติ อิทฺธิปาทาปิ. กถํ? ฉนฺทฺหิ ภาวยโต ฉนฺโท อิทฺธิ นาม โหติ, สมาธิปฺปธานสงฺขารา ฉนฺทิทฺธิปาโท นาม. สมาธึ ภาเวนฺตสฺส สมาธิ อิทฺธิ นาม โหติ, ฉนฺทปฺปธานสงฺขารา ¶ สมาธิทฺธิยา ปาโท นาม. ปธานสงฺขาเร ภาเวนฺตสฺส ปธานสงฺขารา อิทฺธิ นาม โหติ, ฉนฺทสมาธิ ปธานสงฺขาริทฺธิยา ปาโท นาม, สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ หิ เอกสฺมึ อิชฺฌมาเน เสสาปิ อิชฺฌนฺติเยว.
อปิจ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ปุพฺพภาควเสนาปิ เอเตสํ อิทฺธิปาทตา เวทิตพฺพา. ปมชฺฌานฺหิ อิทฺธิ นาม, ปมชฺฌานสฺส ปุพฺพภาคปริกมฺมสมฺปยุตฺตา ฉนฺทาทโย อิทฺธิปาโท นาม. เอเตนุปาเยน ยาว เนวสฺานาสฺายตนา, อิทฺธิวิธํ อาทึ กตฺวา ยาว ทิพฺพจกฺขุอภิฺา, โสตาปตฺติมคฺคํ อาทึ กตฺวา ยาว อรหตฺตมคฺคา นโย เนตพฺโพ. เสสิทฺธิปาเทสุปิ เอเสว นโย.
เกจิ ปน ‘‘อนิพฺพตฺโต ฉนฺโท อิทฺธิปาโท’’ติ วทนฺติ. อิธ เตสํ วาทมทฺทนตฺถาย อภิธมฺเม อุตฺตรจูฬวาโร นาม อาคโต –
‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา – ฉนฺทิทฺธิปาโท, วีริยิทฺธิปาโท, จิตฺติทฺธิปาโท, วีมํสิทฺธิปาโท. ตตฺถ กตโม ฉนฺทิทฺธิปาโท? อิธ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวติ นิยฺยานิกํ อปจยคามึ ทิฏฺิคตานํ ปหานาย ปมาย ภูมิยา ปตฺติยา วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขาปฏิปทํ ทนฺธาภิฺํ, โย ตสฺมึ สมเย ฉนฺโท ฉนฺทิกตา กตฺตุกมฺยตา กุสโล ธมฺมจฺฉนฺโท, อยํ วุจฺจติ ฉนฺทิทฺธิปาโท. อวเสสา ธมฺมา ฉนฺทิทฺธิปาทสมฺปยุตฺตา’’ติ (วิภ. ๔๕๗-๔๕๘).
อิเม ¶ ปน โลกุตฺตรวเสเนว อาคตา.
ตตฺถ รฏฺปาลตฺเถโร ฉนฺทํ ธุรํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตสิ. โสณตฺเถโร วีริยํ ธุรํ กตฺวา; สมฺภุตตฺเถโร จิตฺตํ ธุรํ กตฺวา, อายสฺมา โมฆราชา วีมํสํ ธุรํ กตฺวาติ. ตตฺถ ยถา จตูสุ อมจฺจปุตฺเตสุ ¶ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา ราชานํ อุปนิสฺสาย วิหรนฺเตสุ เอโก อุปฏฺาเน ฉนฺทชาโต รฺโ อชฺฌาสยฺจ รุจิฺจ ตฺวา ทิวา จ รตฺโต จ อุปฏฺหนฺโต ราชานํ อาราเธตฺวา านนฺตรํ ปาปุณิ. เอวํ ฉนฺทธุเรน โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตโก เวทิตพฺโพ.
เอโก ปน – ‘‘ทิวเส ทิวเส อุปฏฺาตุํ น สกฺโกมิ, อุปฺปนฺเน กิจฺเจ ปรกฺกเมน อาราเธสฺสามี’’ติ กุปิเต ปจฺจนฺเต รฺา ¶ ปหิโต ปรกฺกเมน สตฺตุมทฺทนํ กตฺวา ปาปุณิ. ยถา โส, เอวํ วีริยธุเรน โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตโก เวทิตพฺโพ. เอโก ‘‘ทิวเส ทิวเส อุปฏฺานมฺปิ อุเรน สตฺติสรสมฺปฏิจฺฉนมฺปิ ภาโรเยว, มนฺตพเลน อาราเธสฺสามี’’ติ ขตฺตวิชฺชาย กตปริจยตฺตา มนฺตสํวิธาเนน ราชานํ อาราเธตฺวา ปาปุณิ. ยถา โส, เอวํ จิตฺตธุเรน โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตโก เวทิตพฺโพ.
อปโร – ‘‘กึ อิเมหิ อุปฏฺานาทีหิ, ราชาโน นาม ชาติสมฺปนฺนสฺส านนฺตรํ เทนฺติ, ตาทิสสฺส เทนฺโต มยฺหํ ทสฺสตี’’ติ ชาติสมฺปตฺติเมว นิสฺสาย านนฺตรํ ปาปุณิ. ยถา โส, เอวํ สุปริสุทฺธํ วีมํสํ นิสฺสาย วีมํสธุเรน โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตโก เวทิตพฺโพติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วิวฏฺฏปาทกอิทฺธิ กถิตา.
๔. โมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา
๘๒๖. จตุตฺเถ อุทฺธตาติ อุทฺธจฺจปกติกา วิปฺผนฺทมานจิตฺตา. อุทฺธจฺเจน หิ เอการมฺมเณ จิตฺตํ วิปฺผนฺทติ ธชยฏฺิยํ วาเตน ปหตธโช วิย. อุนฺนฬาติ อุคฺคตนฬา, อุฏฺิตตุจฺฉมานาติ วุตฺตํ โหติ. จปลาติ ปตฺตจีวรมณฺฑนาทิจาปลฺเลน ยุตฺตา. มุขราติ มุขขรา, ขรวจนาติ วุตฺตํ โหติ. วิกิณฺณวาจาติ อสํยตวจนา ทิวสมฺปิ นิรตฺถกวจนปฺปลาปิโน. มุฏฺสฺสตีติ นฏฺสฺสติโน. อสมฺปชานาติ ปฺารหิตา. อสมาหิตาติ อุปจารปฺปนาสมาธิวิรหิตา. ภนฺตจิตฺตาติ อุพฺภนฺตจิตฺตา สมาธิวิรเหน ลทฺโธกาเสน อุทฺธจฺเจน ¶ . ปากตินฺทฺริยาติ อสํวุตินฺทฺริยา. อิทฺธาภิสงฺขารนฺติ อาโปกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ปาสาทปติฏฺิตํ ปถวิภาคํ ‘‘อุทก’’นฺติ อธิฏฺาย, อุทกปิฏฺเ ิตปาสาทํ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา องฺคุฏฺเกน ปหริ. คมฺภีรเนโมติ ¶ คมฺภีรอาวาโฏ, คมฺภีรภูมิภาคํ อนุปวิฏฺโติ อตฺโถ ¶ . สุนิขาโตติ สุฏฺุ นิขาโต, โกฏฺเฏตฺวา สุฏฺุ ปิโต. อิธ อภิฺาปาทกิทฺธิ กถิตา.
๕. อุณฺณาภพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา
๘๒๗. ปฺจเม ฉนฺทปฺปหานตฺถนฺติ ตณฺหาฉนฺทสฺส ปหานตฺถํ. อิธาปิ วิวฏฺฏปาทกิทฺธิ กถิตา.
๙. อิทฺธาทิเทสนาสุตฺตวณฺณนา
๘๓๑. นวเม โย โส ภิกฺขเว มคฺโคติ อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ อธิปฺเปตํ.
๑๐. วิภงฺคสุตฺตวณฺณนา
๘๓๒. ทสเม โกสชฺชสหคโตติ อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโต นิสีทติ. อถสฺส จิตฺเต ลีนากาโร โอกฺกมติ, โส ‘‘ลีนากาโร เม โอกฺกนฺโต’’ติ ตฺวา อปายภเยน จิตฺตํ ตชฺเชตฺวา ปุน ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรติ. อถสฺส ปุน ลีนากาโร โอกฺกมติ. โส ปุน อปายภเยน จิตฺตํ ตชฺเชตฺวา ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรตีติ เอวมสฺส โกสชฺเชน โวกิณฺณตฺตา ฉนฺโท โกสชฺชสหคโต นาม โหติ. โกสชฺชสมฺปยุตฺโตติ ตสฺเสว เววจนํ.
อุทฺธจฺจสหคโตติ อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโต นิสีทติ. อถสฺส จิตฺตํ อุทฺธจฺเจ ปตติ. โส พุทฺธธมฺมสงฺฆคุเณ อาวชฺเชตฺวา จิตฺตํ หาเสตฺวา โตเสตฺวา กมฺมนิยํ กตฺวา ปุน ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรติ. อถสฺส ปุน จิตฺตํ อุทฺธจฺเจ ปตติ. โส ปุน พุทฺธธมฺมสงฺฆคุเณ อาวชฺเชตฺวา จิตฺตํ หาเสตฺวา โตเสตฺวา กมฺมนิยํ กตฺวา ฉนฺทํ ¶ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรตีติ เอวมสฺส อุทฺธจฺเจน โวกิณฺณตฺตา ฉนฺโท อุทฺธจฺจสหคโต นาม โหติ.
ถินมิทฺธสหคโตติ อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโต นิสีทติ. อถสฺส ถินมิทฺธํ อุปฺปชฺชติ. โส ‘‘อุปฺปนฺนํ เม ถินมิทฺธ’’นฺติ ตฺวา อุทเกน มุขํ ปฺุฉิตฺวา, กณฺเณ อากฑฺฒิตฺวา ปคุณํ ¶ ธมฺมํ สชฺฌายิตฺวา ทิวา คหิตํ วา อาโลกสฺํ มนสิกริตฺวา ถินมิทฺธํ วิโนเทตฺวา ¶ ปุน ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรติ. อถสฺส ปุน ถินมิทฺธํ อุปฺปชฺชติ. โส วุตฺตนเยเนว ปุน ถินมิทฺธํ วิโนเทตฺวา ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรตีติ เอวมสฺส ถินมิทฺเธน โวกิณฺณตฺตา ฉนฺโท ถินมิทฺธสหคโต นาม โหติ.
อนุวิกฺขิตฺโตติ อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโต นิสีทติ. อถสฺส กามคุณารมฺมเณ จิตฺตํ วิกฺขิปติ. โส ‘‘พหิทฺธา วิกฺขิตฺตํ เม จิตฺต’’นฺติ ตฺวา อนมตคฺค (สํ. นิ. ๒.๑๒๔-๑๒๕) เทวทูต- (ม. นิ. ๓.๒๖๑) เจโลปม (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๔) อนาคตภยสุตฺตาทีนิ (อ. นิ. ๕.๗๗) อาวชฺเชนฺโต สุตฺตทณฺเฑน จิตฺตํ ตชฺเชตฺวา กมฺมนิยํ กตฺวา ปุน ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรติ. อถสฺส ปุน จิตฺตํ วิกฺขิปติ. โส ปุน สุตฺตทณฺเฑน จิตฺตํ กมฺมนิยํ กตฺวา ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรตีติ เอวมสฺส กามวิตกฺกโวกิณฺณตฺตา ฉนฺโท พหิทฺธา ปฺจ กามคุเณ อารพฺภ อนุวิกฺขิตฺโต อนุวิสโฏ โหติ.
ยถา ปุเร ตถา ปจฺฉาติ กมฺมฏฺานวเสนปิ เทสนาวเสนปิ ปุริมปจฺฉิมตา เวทิตพฺพา. กถํ? กมฺมฏฺาเน ตาว กมฺมฏฺานสฺส อภินิเวโส ปุเร นาม, อรหตฺตํ ปจฺฉา นาม. ตตฺถ โย ภิกฺขุ มูลกมฺมฏฺาเน อภินิวิสิตฺวา อติลีนาทีสุ จตูสุ าเนสุ จิตฺตสฺส โอกฺกมนํ ปฏิเสเธตฺวา, ทุฏฺโคเณ โยเชตฺวา สาเรนฺโต วิย จตุรสฺสฆฏิกํ โอตาเรนฺโต วิย จตุนฺนํ านานํ เอกฏฺาเนปิ อสชฺชนฺโต สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อยมฺปิ ยถา ปุเร ตถา ปจฺฉา วิหรติ นาม. อยํ กมฺมฏฺานวเสน ปุริมปจฺฉิมตา. เทสนาวเสน ปน เกสา ปุเร นาม, มตฺถลุงฺคํ ปจฺฉา นาม. ตตฺถ โย ภิกฺขุ เกเสสุ อภินิวิสิตฺวา วณฺณสณฺานาทิวเสน เกสาทโย ปริคฺคณฺหนฺโต จตูสุ าเนสุ อสชฺชนฺโต ยาว มตฺถลุงฺคา ภาวนํ ปาเปติ, อยมฺปิ ยถา ¶ ปุเร ตถา ¶ ปจฺฉา วิหรติ นาม. เอวํ เทสนาวเสน ปุริมปจฺฉิมตา เวทิตพฺพา. ยถา ปจฺฉา ตถา ปุเรติ อิทํ ปุริมสฺเสว เววจนํ.
ยถา อโธ ตถา อุทฺธนฺติ อิทํ สรีรวเสน เวทิตพฺพํ. เตเนวาห ‘‘อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา’’ติ. ตตฺถ โย ภิกฺขุ ปาทตลโต ปฏฺาย ยาว เกสมตฺถกา ทฺวตฺตึสาการวเสน วา ปาทงฺคุลิอคฺคปพฺพฏฺิโต ยาว สีสกฏาหํ, สีสกฏาหโต ยาว ปาทงฺคุลีนํ อคฺคปพฺพฏฺีนิ ¶ , ตาว อฏฺิวเสน วา ภาวนํ ปาเปติ จตูสุ าเนสุ เอกฏฺาเนปิ อสชฺชนฺโต. อยํ ยถา อุทฺธํ ตถา อโธ, ยถา อโธ ตถา อุทฺธํ วิหรติ นาม.
เยหิ อากาเรหีติ เยหิ โกฏฺาเสหิ. เยหิ ลิงฺเคหีติ เยหิ สณฺาเนหิ. เยหิ นิมิตฺเตหีติ เยหิ อุปฏฺาเนหิ. อาโลกสฺา สุคฺคหิตา โหตีติ โย ภิกฺขุ องฺคเณ นิสีทิตฺวา อาโลกสฺํ มนสิ กโรติ, กาเลน นิมีเลติ, กาเลน อุมฺมีเลติ. อถสฺส ยทา นิมีเลนฺตสฺสาปิ อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกนฺตสฺส วิย เอกสทิสเมว อุปฏฺาติ, ตทา อาโลกสฺา ชาตา นาม โหติ. ‘‘ทิวาสฺา’’ติปิ ตสฺเสว นามํ. สา จ ปน รตฺตึ อุปฺปชฺชมานา สุคฺคหิตา นาม โหติ. สฺวาธิฏฺิตาติปิ ตสฺเสว เววจนํ. สุฏฺุ อธิฏฺิตา สุฏฺุ ปิตา สฺวาธิฏฺิตา นาม วุจฺจติ. สา อตฺถโต สุคฺคหิตาเยว. โย วา อาโลเกน ถินมิทฺธํ วิโนเทตฺวา ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรติ, ตสฺส ทิวาปิ อาโลกสฺา สุคฺคหิตา สฺวาธิฏฺิตา นาม. รตฺติ วา โหตุ ทิวา วา เยน อาโลเกน ถินมิทฺธํ วิโนเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรติ, ตสฺมึ ถินมิทฺธวิโนทเน อาโลเก อุปฺปนฺนา สฺา สุคฺคหิตาเยว นาม. วีริยาทีสุปิ เอเสว นโย. อิมสฺมึ สุตฺเต ฉนฺนํ อภิฺานํ ปาทกิทฺธิ กถิตา.
ปาสาทกมฺปนวคฺโค ทุติโย.
๓. อโยคุฬวคฺโค
๒. อโยคุฬสุตฺตวณฺณนา
๘๓๔. ตติยวคฺคสฺส ¶ ทุติเย อิมินา จาตุมหาภูติเกนาติ อิมินา จตุมหาภูตมเยน เอวํ ภาริเกน ครุเกน สมาเนนาปิ. โอมาตีติ ปโหติ สกฺโกติ, อิทํ เตปิฏเก พุทฺธวจเน อสมฺภินฺนปทํ. กายมฺปิ ¶ จิตฺเต สโมทหตีติ กายํ คเหตฺวา จิตฺเต อาโรเปติ, จิตฺตสนฺนิสฺสิตํ กโรติ, จิตฺตคติยา เปเสติ. จิตฺตํ นาม มหคฺคตจิตฺตํ, จิตฺตคติคมนํ ลหุกํ โหติ. จิตฺตมฺปิ กาเย สโมทหตีติ จิตฺตํ คเหตฺวา ¶ กาเย อาโรเปติ, กายสนฺนิสฺสิตํ กโรติ, กายคติยา เปเสติ, กาโย นาม กรชกาโย, กายคติคมนํ ทนฺธํ โหติ. สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจาติ อภิฺาจิตฺตสหชาตสฺา. สา หิ สนฺตสุขสมนฺนาคตตฺตา สุขสฺา นาม โหติ, กิเลสทนฺธายิตตฺตสฺส จ อภาวา ลหุสฺา นาม.
อโยคุโฬ ทิวสํ สนฺตตฺโต ลหุตโร เจว โหตีติ โส หิ ทฺวีหิ ตีหิ ชเนหิ อุกฺขิปิตฺวา กมฺมารุทฺธเน ปกฺขิตฺโตปิ ทิวสํ ปจฺจมาโน วิวรานุปวิฏฺเน เตเชน เจว วาเยน จ วาโยสหคโต จ อุสฺมาสหคโต จ เตโชสหคโต จ หุตฺวา เอวํ ลหุโก โหติ, ยถา นํ กมฺมาโร มหาสณฺฑาเสน คเหตฺวา เอกโต ปริวตฺเตติ อุกฺขิปติ พหิ นีหรติ. เอวํ ปน มุทุ จ โหติ กมฺมนิโย จ. ยถา นํ โส ขณฺฑํ ขณฺฑํ วิจฺฉินฺทติ, กูเฏน หนนฺโต ทีฆจตุรสฺสาทิเภทํ กโรติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วิกุพฺพนิทฺธิ กถิตา.
๓-๑๐. ภิกฺขุสุตฺตาทิวณฺณนา
๘๓๕-๘๔๒. ตติเย วิวฏฺฏปาทกิทฺธิ กถิตา, ตถา จตุตฺเถ. อปิจ ทฺเว ผลานิ อาทึ กตฺวา เหฏฺา มิสฺสกิทฺธิปาทา กถิตา, สตฺตสุ ผเลสุ ปุพฺพภาคา. สตฺตมาทีนิ จตฺตาริ เหฏฺา กถิตนยาเนว.
๑๑-๑๒. โมคฺคลฺลานสุตฺตาทิวณฺณนา
๘๔๓-๘๔๔. เอกาทสมทฺวาทสเมสุ ¶ ฉ อภิฺา กถิตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อิทฺธิปาทสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.