📜

๑๐. อานาปานสํยุตฺตํ

๑. เอกธมฺมวคฺโค

๑. เอกธมฺมสุตฺตวณฺณนา

๙๗๗. อานาปานสํยุตฺตสฺส ปเม เอกธมฺโมติ เอโก ธมฺโม. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๕) อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานนิทฺเทเส วุตฺตเมว.

๖. อริฏฺสุตฺตวณฺณนา

๙๘๒. ฉฏฺเ ภาเวถ โนติ ภาเวถ นุ. กามจฺฉนฺโทติ ปฺจกามคุณิกราโค. อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ ธมฺเมสูติ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ ทฺวาทสสุ อายตนธมฺเมสุ . ปฏิฆสฺา สุปฺปฏิวินีตาติ ปฏิฆสมฺปยุตฺตสฺา สุฏฺุ ปฏิวินีตา, สมุจฺฉินฺนาติ อตฺโถ. อิมินา อตฺตโน อนาคามิมคฺคํ กเถติ. อิทานิ อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนํ ทสฺเสนฺโต โส สโตว อสฺสสิสฺสามีติอาทิมาห.

๗. มหากปฺปินสุตฺตวณฺณนา

๙๘๓. สตฺตเม อิฺชิตตฺตํ วา ผนฺทิตตฺตํ วาติ อุภเยนปิ จลนเมว กถิตํ.

๘. ปทีโปปมสุตฺตวณฺณนา

๙๘๔. อฏฺเม เนว กาโยปิ กิลมติ น จกฺขูนีติ อฺเสุ หิ กมฺมฏฺาเนสุ กมฺมํ กโรนฺตสฺส กาโยปิ กิลมติ, จกฺขูนิปิ วิหฺนฺติ. ธาตุกมฺมฏฺานสฺมิฺหิ กมฺมํ กโรนฺตสฺส กาโย กิลมติ, ยนฺเต ปกฺขิปิตฺวา ปีฬนาการปฺปตฺโต วิย โหติ. กสิณกมฺมฏฺาเน กมฺมํ กโรนฺตสฺส จกฺขูนิ ผนฺทนฺติ กิลมนฺติ, นิกฺขมิตฺวา ปตนาการปฺปตฺตานิ วิย โหนฺติ. อิมสฺมึ ปน กมฺมฏฺาเน กมฺมํ กโรนฺตสฺส เนว กาโย กิลมติ, น อกฺขีนิ วิหฺนฺติ. ตสฺมา เอวมาห.

สพฺพโสรูปสฺานนฺติอาทิ กสฺมา วุตฺตํ, กึ อานาปาเน กสิณุคฺฆาฏนํ ลพฺภตีติ? ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร ปนาห – ‘‘ยสฺมา อานาปานนิมิตฺตํ ตารกรูปมุตฺตาวลิกาทิสทิสํ หุตฺวา ปฺายติ, ตสฺมา ตตฺถ กสิณุคฺฆาฏนํ ลพฺภตี’’ติ. ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ‘‘น ลพฺภเตวา’’ติ อาห. อลพฺภนฺเต อยํ อริยิทฺธิอาทิโก ปเภโท กสฺมา คหิโตติ? อานิสํสทสฺสนตฺถํ. อริยํ วา หิ อิทฺธึ จตฺตาริ วา รูปาวจรชฺฌานานิ จตสฺโส วา อรูปสมาปตฺติโย นิโรธสมาปตฺตึ วา ปตฺถยมาเนน ภิกฺขุนา อยํ อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิกาตพฺโพ. ยถา หิ นคเร ลทฺเธ ยํ จตูสุ ทิสาสุ อุฏฺานกภณฺฑํ, ตํ จตูหิ ทฺวาเรหิ นครเมว ปวิสตีติ, ชนปโท ลทฺโธ จ โหติ. นครสฺเสว เหโส อานิสํโส. เอวํ อานาปานสฺสติสมาธิภาวนาย อานิสํโส เอส อริยิทฺธิอาทิโก ปเภโท, สพฺพากาเรน ภาวิเต อานาปานสฺสติสมาธิสฺมึ สพฺพเมตํ โยคิโน นิปฺผชฺชตีติ อานิสํสทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สุขฺเจติ เอตฺถ โสติ กสฺมา น วุตฺตํ? ยสฺมา ภิกฺขูติ อิมสฺมึ วาเร นาคตํ.

๙. เวสาลีสุตฺตวณฺณนา

๙๘๕. นวเม เวสาลิยนฺติ เอวํนามเก อิตฺถิลิงฺควเสน ปวตฺตโวหาเร นคเร. ตฺหิ นครํ ติกฺขตฺตุํ ปาการปริกฺเขปวฑฺฒเนน วิสาลีภูตตฺตา เวสาลีติ วุจฺจติ. อิทมฺปิ จ นครํ สพฺพฺุตํ ปตฺเตเยว สมฺมาสมฺพุทฺเธ สพฺพาการเวปุลฺลตํ ปตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ โคจรคามํ ทสฺเสตฺวา นิวาสฏฺานมาห มหาวเน กูฏาคารสาลายนฺติ. ตตฺถ มหาวนํ นาม สยํชาตํ อโรปิมํ สปริจฺเฉทํ มหนฺตํ วนํ. กปิลวตฺถุสามนฺตา ปน มหาวนํ หิมวนฺเตน สห เอกาพทฺธํ อปริจฺเฉทํ หุตฺวา มหาสมุทฺทํ อาหจฺจ ิตํ. อิทํ ตาทิสํ น โหติ, สปริจฺเฉทํ มหนฺตํ วนนฺติ มหาวนํ. กูฏาคารสาลา ปน มหาวนํ นิสฺสาย กเต อาราเม กูฏาคารํ อนฺโตกตฺวา หํสวฏฺฏกจฺฉนฺเนน กตา สพฺพาการสมฺปนฺนา พุทฺธสฺส ภควโต คนฺธกุฏีติ เวทิตพฺพา.

อเนกปริยาเยน อสุภกถํ กเถตีติ อเนเกหิ การเณหิ อสุภาการสนฺทสฺสนปฺปวตฺตํ กายวิจฺฉนฺทนียกถํ กเถติ. เสยฺยถิทํ – อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา…เป… มุตฺตนฺติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ภิกฺขเว, อิมสฺมึ พฺยามมตฺเต กเฬวเร สพฺพากาเรนปิ วิจินนฺโต น โกจิ กิฺจิ มุตฺตํ วา มณึ วา เวฬุริยํ วา อครุํ วา จนฺทนํ วา กุงฺกุมํ วา กปฺปุรํ วา วาสจุณฺณาทึ วา อณุมตฺตมฺปิ สุจิภาวํ ปสฺสติ, อถ โข ปรมทุคฺคนฺธํ เชคุจฺฉอสฺสิริกทสฺสนํ เกสโลมาทินานปฺปการํ อสุจิเมว ปสฺสติ, ตสฺมา น เอตฺถ ฉนฺโท วา ราโค วา กรณีโย. เยปิ อุตฺตมงฺเค สิรสิ ชาตา เกสา นาม, เตปิ อสุภา เจว อสุจิโน จ ปฏิกูลา จ. โส จ เนสํ อสุภาสุจิปฏิกูลภาโว วณฺณโตปิ สณฺานโตปิ คนฺธโตปิ อาสยโตปิ โอกาสโตปีติ ปฺจหากาเรหิ เวทิตพฺโพ. เอวํ โลมาทีนมฺปีติ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๐๗) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อิติ ภควา เอกเมกสฺมึ โกฏฺาเส ปฺจปฺจปฺปเภเทน อเนกปริยาเยน อสุภกถํ กเถติ.

อสุภาย วณฺณํ ภาสตีติ อุทฺธุมาตกาทิวเสน อสุภมาติกํ นิกฺขิปิตฺวา ปทภาชนีเยน ตํ วิภชนฺโต วณฺเณนฺโต อสุภาย วณฺณํ ภาสติ. อสุภภาวนาย วณฺณํ ภาสตีติ ยา อยํ เกสาทีสุ วา อุทฺธุมาตกาทีสุ วา อชฺฌตฺตพหิทฺธาวตฺถูสุ อสุภาการํ คเหตฺวา ปวตฺตสฺส จิตฺตสฺส ภาวนา วฑฺฒนา ผาติกมฺมํ, ตสฺสา อสุภภาวนาย อานิสํสํ ทสฺเสนฺโต วณฺณํ ภาสติ, คุณํ ปริกิตฺเตติ. เสยฺยถิทํ – ‘‘อสุภภาวนาภิยุตฺโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เกสาทีสุ วา วตฺถูสุ อุทฺธุมาตกาทีสุ วา ปฺจงฺควิปฺปหีนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ ติวิธกลฺยาณํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ ปมชฺฌานํ ปฏิลภติ. โส ตํ ปมชฺฌานสงฺขาตํ จิตฺตมฺชูสํ นิสฺสาย วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อุตฺตมตฺถํ อรหตฺตํ ปาปุณาตี’’ติ.

อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว, อฑฺฒมาสํ ปฏิสลฺลียิตุนฺติ อหํ, ภิกฺขเว, เอกํ อฑฺฒมาสํ ปฏิสลฺลียิตุํ นิลียิตุํ เอกโกว หุตฺวา วิหริตุํ อิจฺฉามีติ อตฺโถ. นามฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ปิณฺฑปาตนีหารเกนาติ โย อตฺตนา ปยุตฺตวาจํ อกตฺวา มมตฺถาย สทฺเธสุ กุเลสุ ปฏิยตฺตปิณฺฑปาตํ นีหริตฺวา มยฺหํ อุปนาเมติ, ตํ ปิณฺฑปาตนีหารกํ เอกํ ภิกฺขุํ เปตฺวา นามฺหิ อฺเน เกนจิ ภิกฺขุนา วา คหฏฺเน วา อุปสงฺกมิตพฺโพติ.

กสฺมา ปน เอวมาหาติ? อตีเต กิร ปฺจสตา มิคลุทฺทกา มหตีหิ ทณฺฑวาคุราทีหิ อรฺํ ปริกฺขิปิตฺวา หฏฺตุฏฺา เอกโตเยว ยาวชีวํ มิคปกฺขิฆาตกมฺเมน ชีวิกํ กปฺเปตฺวา นิรเย อุปฺปนฺนา. เต ตตฺถ ปจฺจิตฺวา ปุพฺเพ กเตน เกนจิเทว กุสลกมฺเมน มนุสฺเสสุ อุปฺปนฺนา กลฺยาณูปนิสฺสยวเสน สพฺเพปิ ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ลภึสุ. เตสํ ตโต มูลากุสลกมฺมโต อวิปกฺกวิปากา อปราปรเจตนา ตสฺมึ อฑฺฒมาสพฺภนฺตเร อตฺตูปกฺกเมน จ ปรูปกฺกเมน จ ชีวิตูปจฺเฉทาย โอกาสมกาสิ. ตํ ภควา อทฺทส. กมฺมวิปาโก จ นาม น สกฺกา เกนจิ ปฏิพาหิตุํ. เตสุ จ ภิกฺขูสุ ปุถุชฺชนาปิ อตฺถิ, โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิขีณาสวาปิ. ตตฺถ ขีณาสวา อปฺปฏิสนฺธิกา, อิตเร อริยสาวกา นิยตคติกา สุคติปรายณา, ปุถุชฺชนานํ คติ อนิยตา.

อถ ภควา จินฺเตสิ – ‘‘อิเม อตฺตภาเว ฉนฺทราเคน มรณภยภีตา น สกฺขิสฺสนฺติ คตึ วิโสเธตุํ, หนฺท เนสํ ฉนฺทราคปฺปหานาย อสุภกถํ กเถมิ. ตํ สุตฺวา อตฺตภาเว วิคตจฺฉนฺทราคตาย คติวิโสธนํ กตฺวา สคฺเค ปฏิสนฺธึ คณฺหิสฺสนฺติ, เอวํ เตสํ มม สนฺติเก ปพฺพชฺชา สาตฺถิกา ภวิสฺสตี’’ติ. ตโต เตสํ อนุคฺคหาย อสุภกถํ กเถสิ กมฺมฏฺานสีเสน, โน มรณวณฺณสํวณฺณนาธิปฺปาเยน. กเถตฺวา จ ปนสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สเจ อิมํ อฑฺฒมาสํ มํ ภิกฺขู ปสฺสิสฺสนฺติ, ‘อชฺช เอโก ภิกฺขุ มโต, อชฺช ทฺเว…เป… อชฺช ทสา’ติ อาคนฺตฺวา อาโรเจสฺสนฺติ, อยฺจ กมฺมวิปาโก น สกฺกา มยา วา อฺเน วา ปฏิพาหิตุํ, สฺวาหํ ตํ สุตฺวาปิ กึ กริสฺสามิ, กึ เม อนตฺถเกน อนยพฺยสเนน สุเตน, หนฺทาหํ ภิกฺขูนํ อทสฺสนํ อุปคจฺฉามี’’ติ. ตสฺมา เอวมาห – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว, อฑฺฒมาสํ ปฏิสลฺลียิตุํ, นามฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ปิณฺฑปาตนีหารเกนา’’ติ.

อปเร ปนาหุ – ‘‘ปรูปวาทวิวชฺชนตฺถํ เอวํ วตฺวา ปฏิสลฺลีโน’’ติ. ปเร กิร ภควนฺตํ อุปวทิสฺสนฺติ – ‘‘อยํ ‘สพฺพฺู อหํ สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺตี’ติ ปฏิชานมาโน อตฺตโนปิ สาวเก อฺมฺํ ฆาเตนฺเต นิวาเรตุํ น สกฺโกติ, กึ อฺํ สกฺขิสฺสตี’’ติ? ตตฺร ปณฺฑิตา วกฺขนฺติ – ‘‘ภควา ปฏิสลฺลานมนุยุตฺโต น อิมํ ปวตฺตึ ชานาติ, โกจิสฺส อาโรจยิตาปิ นตฺถิ , สเจ ชาเนยฺย อทฺธา นิวาเรยฺยา’’ติ. อิทํ ปน อิจฺฉามตฺตํ, ปมเมเวตฺถ การณํ. นาสฺสุธาติ เอตฺถ อสฺสุธาติ ปทปูรณมตฺเต อวธารณตฺเถ วา นิปาโต, เนว โกจิ ภควนฺตํ อุปสงฺกมีติ อตฺโถ.

อเนเกหิ วณฺณสณฺานาทีหิ การเณหิ โวกาโร อสฺสาติ อเนกาการโวกาโร. อเนกาการโวกิณฺโณ อเนกากาเรน สมฺมิสฺโสติ วุตฺตํ โหติ. โก โส? อสุภภาวนานุโยโค, ตํ อเนกาการโวการํ. อสุภภาวนานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺตีติ ยุตฺตปฺปยุตฺตา วิหรนฺติ. อฏฺฏียมานาติ เตน กาเยน อฏฺฏา ทุกฺขิตา โหนฺติ. หรายมานาติ ลชฺชมานา. ชิคุจฺฉมานาติ ชิคุจฺฉํ อุปฺปาทยมานา. สตฺถหารกํ ปริเยสนฺตีติ ชีวิตหรณกสตฺถํ ปริเยสนฺติ. น เกวลฺจ เต สตฺถํ ปริเยสิตฺวา อตฺตนา วา อตฺตานํ ชีวิตา โวโรเปนฺติ, มิคลณฺฑิกมฺปิ ปน สมณกุตฺตกํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘สาธุ โน, อาวุโส, ชีวิตา โวโรเปหี’’ติ วทนฺติ. เอตฺถ จ อริยา เนว ปาณาติปาตํ กรึสุ, น สมาทเปสุํ, น สมนุฺา อเหสุํ. ปุถุชฺชนา ปน สพฺพมกํสุ.

ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ เตสํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ ชีวิตกฺขยปฺปตฺตภาวํ ตฺวา ตโต เอกีภาวโต วุฏฺิโต ชานนฺโตปิ อชานนฺโต วิย กถาสมุฏฺาปนตฺถํ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ. กึ นุ โข, อานนฺท, ตนุภูโต วิย ภิกฺขุสงฺโฆติ อิโต, อานนฺท, ปุพฺเพ พหู ภิกฺขู เอกโต อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ, อุทฺเทสํ ปริปุจฺฉํ คณฺหนฺติ, สชฺฌายนฺติ, เอกปชฺโชโต วิย อาราโม ทิสฺสติ. อิทานิ ปน อฑฺฒมาสมตฺตสฺส อจฺจเยน ตนุภูโต วิย ตนุโก มนฺโท อปฺปโก วิรโฬ วิย ชาโต ภิกฺขุสงฺโฆ. กึ นุ โข การณํ? กึ ทิสาสุ ปกฺกนฺตา ภิกฺขูติ?

อถายสฺมา อานนฺโท กมฺมวิปาเกน เตสํ ชีวิตกฺขยปฺปตฺตึ อสลฺลกฺเขนฺโต อสุภกมฺมฏฺานานุโยคปจฺจยา ปน สลฺลกฺเขนฺโต ตถา หิ ปน, ภนฺเต ภควาติอาทึ วตฺวา ภิกฺขูนํ อรหตฺตปฺปตฺติยา อฺํ กมฺมฏฺานํ ยาจนฺโต, สาธุ, ภนฺเต, ภควาติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – สาธุ, ภนฺเต, ภควา อฺํ การณํ อาจิกฺขตุ, เยน ภิกฺขุสงฺโฆ อรหตฺเต ปติฏฺเหยฺย . มหาสมุทฺทํ โอโรหณติตฺถานิ วิย อฺานิปิ ทสานุสฺสติ, ทสกสิณ, จตุธาตุววตฺถาน, พฺรหฺมวิหาร, อานาปานสฺสติปเภทานิ พหูนิ นิพฺพาโนโรหณกมฺมฏฺานานิ สนฺติ, เตสุ ภควา ภิกฺขู สมสฺสาเสตฺวา อฺตรํ กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขตูติ อธิปฺปาโย.

อถ ภควา ตถา กาตุกาโม เถรํ อุยฺโยเชนฺโต เตนหานนฺทาติอาทิมาห. ตตฺถ เวสาลึ อุปนิสฺสายาติ เวสาลิยํ อุปนิสฺสาย สมนฺตา คาวุเตปิ อฑฺฒโยชเนปิ ยาวติกา วิหรนฺติ, เต สพฺเพ สนฺนิปาเตหีติ อตฺโถ. สพฺเพ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิปาเตตฺวาติ อตฺตนา คนฺตุํ ยุตฺตฏฺานํ สยํ คนฺตฺวา อฺตฺถ ทหรภิกฺขู ปหิณิตฺวา มุหุตฺเตเนว อนวเสเส ภิกฺขู อุปฏฺานสาลายํ สมูหํ กตฺวา. ยสฺสทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตีติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – ภควา ภิกฺขุสงฺโฆ สนฺนิปติโต, เอส กาโล ภิกฺขูนํ ธมฺมกถํ กาตุํ, อนุสาสนึ ทาตุํ, อิทานิ ยสฺส ตุมฺเห กาลํ ชานาถ, ตํ กาตพฺพนฺติ.

อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ, อยมฺปิ โข, ภิกฺขเวติ. อามนฺเตตฺวา จ ปน ภิกฺขูนํ อรหตฺตปฺปตฺติยา ปุพฺเพ อาจิกฺขิตอสุภกมฺมฏฺานโต อฺํ ปริยายํ อาจิกฺขนฺโต อานาปานสฺสติสมาธีติอาทิมาห. ตตฺถ อานาปานสฺสติสมาธีติ อานาปานปริคฺคาหิกาย สติยา สทฺธึ สมฺปยุตฺโต สมาธิ, อานาปานสฺสติยํ วา สมาธิ, อานาปานสฺสติสมาธิ. ภาวิโตติ อุปฺปาทิโต วฑฺฒิโต วา. พหุลีกโตติ ปุนปฺปุนํ กโต. สนฺโต เจว ปณีโต จาติ สนฺโต เจว ปณีโต เจว. อุภยตฺถ เอวสทฺเทน นิยโม เวทิตพฺโพ. กึ วุตฺตํ โหติ? อยฺหิ ยถา อสุภกมฺมฏฺานํ เกวลํ ปฏิเวธวเสน สนฺตฺจ ปณีตฺจ, โอฬาริการมฺมณตฺตา ปน ปฏิกูลารมฺมณตฺตา จ อารมฺมณวเสน เนว สนฺตํ น ปณีตํ, น เอวํ เกนจิ ปริยาเยน อสนฺโต วา อปฺปณีโต วา, อปิจ โข อารมฺมณสนฺตตายปิ สนฺโต วูปสนฺโต นิพฺพุโต, ปฏิเวธสงฺขาตาย องฺคสนฺตตายปิ, อารมฺมณปณีตตาย ปณีโต อติตฺติกโร, องฺคปณีตตายปีติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สนฺโต เจว ปณีโต จา’’ติ.

อเสจนโกจ สุโข จ วิหาโรติ เอตฺถ ปน นาสฺส เสจนนฺติ อเสจนโก, อนาสิตฺตโก อพฺโพกิณฺโณ ปาฏิเยกฺโก อาเวณิโก, นตฺถิ เอตฺถ ปริกมฺเมน วา อุปจาเรน วา สนฺตตา, อาทิสมนฺนาหารโต ปภุติ อตฺตโน สภาเวเนว สนฺโต จ ปณีโต จาติ อตฺโถ. เกจิ ‘‘อเสจนโก’’ติ อนาสิตฺตโก โอชวนฺโต, สภาเวเนว มธุโร’’ติ วทนฺติ. เอวมยํ อเสจนโก จ อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ กายิกเจตสิกสุขปฺปฏิลาภาย สํวตฺตนโต สุโข จ วิหาโรติ เวทิตพฺโพ.

อุปฺปนฺนุปฺปนฺเนติ อวิกฺขมฺภิเต. ปาปเกติ ลามเก. อกุสเล ธมฺเมติ อโกสลฺลสมฺภูเต ธมฺเม. านโส อนฺตรธาเปตีติ ขเณเนว อนฺตรธาเปติ วิกฺขมฺเภติ. วูปสเมตีติ สุฏฺุ อุปสเมติ, นิพฺเพธภาคิยตฺตา อนุปุพฺเพน อริยมคฺควุทฺธิปฺปตฺโต สมุจฺฉินฺทติ, ปฏิปฺปสฺสมฺเภตีติ วุตฺตํ โหติ. คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเสติ อาสาฬฺหมาเส. อูหตํ รโชชลฺลนฺติ อฏฺ มาเส วาตาตปสุกฺขาย โคมหึสาทิปาทปฺปหารสมฺภินฺนาย ปถวิยา อุทฺธํ หตํ อูหตํ อากาเส สมุฏฺิตํ รชฺจ เรณุฺจ. มหา อกาลเมโฆติ สพฺพํ นภํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อุฏฺิโต อาสาฬฺหชุณฺหปกฺเข สกลํ อฑฺฒมาสํ วสฺสนกเมโฆ. โส หิ อสมฺปตฺเต วสฺสกาเล อุปฺปนฺนตฺตา อกาลเมโฆติ อิธ อธิปฺเปโต. านโส อนฺตราธาเปติ วูปสเมตีติ ขเณเนว อทสฺสนํ เนติ ปถวิยํ สนฺนิสีทาเปติ. เอวเมว โขติ โอปมฺมนิทสฺสนเมตํ. ตโต ปรํ วุตฺตนยเมว.

๑๐. กิมิลสุตฺตวณฺณนา

๙๘๖. ทสเม กิมิลายนฺติ เอวํนามเก นคเร. เอตทโวจาติ เถโร กิร จินฺเตสิ – ‘‘อยํ เทสนา น ยถานุสนฺธิกา กตา, ยถานุสนฺธึ คเมสฺสามี’’ติ เทสนานุสนฺธึ ฆเฏนฺโต เอตํ อโวจ. กายฺตรนฺติ ปถวีอาทีสุ กาเยสุ อฺตรํ วทามิ วาโยกายํ วทามีติ อตฺโถ. อถ วา จกฺขายตนํ…เป… กพฬีกาโร อาหาโรติ ปฺจวีสติ รูปโกฏฺาสา รูปกาโย นาม, เตสุ อานาปานํ โผฏฺพฺพายตเน สงฺคหิตตฺตา กายฺตรํ โหติ, ตสฺมาปิ เอวมาห. ตสฺมาติหาติ ยสฺมา จตูสุ กาเยสุ อฺตรํ วาโยกายํ, ปฺจวีสติ โกฏฺาเส วา รูปกาเย อฺตรํ อานาปานํ อนุปสฺสติ, ตสฺมา กาเย กายานุปสฺสีติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เวทนาฺตรนฺติ ตีสุ เวทนาสุ อฺตรํ, สุขเวทนํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

สาธุกํ มนสิการนฺติ ปีติปฏิสํเวทิตาทิวเสน อุปฺปนฺนํ สุนฺทรํ มนสิการํ. กึ ปน มนสิกาโร สุขา เวทนา โหตีติ? น โหติ, เทสนาสีสํ ปเนตํ. ยเถว หิ ‘‘อนิจฺจสฺาภาวนานุโยคมนุยุตฺตา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๔๗) เอตฺถ สฺานาเมน ปฺา วุตฺตา, เอวมิธาปิ มนสิการนาเมน ฌานเวทนา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอตสฺมิฺหิ จตุกฺเก ปมปเท ปีติสีเสน เวทนา วุตฺตา, ทุติยปเท สุขนฺติ สรูเปเนว วุตฺตา. จิตฺตสงฺขารปททฺวเย ‘‘สฺา จ เวทนา จ เจตสิกา เอเต ธมฺมา จิตฺตปฺปฏิพทฺธา จิตฺตสงฺขารา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๔) วจนโต ‘‘วิตกฺกวิจาเร เปตฺวา สพฺเพปิ จิตฺตสมฺปยุตฺตกา ธมฺมา จิตฺตสงฺขาเร สงฺคหิตา’’ติ วจนโต จิตฺตสงฺขารนาเมน เวทนา วุตฺตา. ตํ สพฺพํ มนสิการนาเมน สงฺคเหตฺวา อิธ ‘‘สาธุกํ มนสิการ’’นฺติ อาห.

เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา เอสา เวทนา อารมฺมณํ น โหติ, ตสฺมา เวทนานุปสฺสนา น ยุชฺชตีติ. โน น ยุชฺชติ, มหาสติปฏฺานาทีสุปิ หิ ตํ ตํ สุขาทีนํ วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา เวทนา เวทยติ, ตํ ปน เวทนาปวตฺตึ อุปาทาย ‘‘อหํ เวทยามี’’ติ โวหารมตฺตํ โหติ, ตํ สนฺธาย ‘‘สุขํ เวทนํ เวทยมาโน สุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อปิจ ‘‘ปีติปฺปฏิสํเวที’’ติอาทีนํ อตฺถวณฺณนายเมตสฺส ปริหาโร วุตฺโตเยว. วุตฺตฺเหตํ วิสุทฺธิมคฺเค –

‘‘ทฺวีหากาเรหิ ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ – อารมฺมณโต จ อสมฺโมหโต จ. กถํ อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชติ, ตสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ฌานปฏิลาเภน อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณสฺส ปฏิสํวิทิตตฺตา. กถํ อสมฺโมหโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตปีตึ ขยโต วยโต สมฺมสติ, ตสฺส วิปสฺสนากฺขเณ ลกฺขณปฺปฏิเวเธน อสมฺโมหโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๒) ‘‘‘ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ, ตาย สติยา เตน าเณน สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตี’ติ. เอเตเนว นเยน อวเสสปทานิปิ อตฺถโต เวทิตพฺพานี’’ติ.

อิติ ยเถว ฌานปฏิลาเภน อารมฺมณโต ปีติสุขจิตฺตสงฺขารา ปฏิสํวิทิตา โหนฺติ, เอวํ อิมินาปิ ฌานสมฺปยุตฺเตน เวทนาสงฺขาตมนสิการปฏิลาเภน อารมฺมณโต เวทนา ปฏิสํวิทิตา โหติ. ตสฺมา สุวุตฺตเมตํ ‘‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี ภิกฺขุ ตสฺมึ สมเย วิหรตี’’ติ.

นาหํ, อานนฺท, มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺสาติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – ยสฺมา ‘‘จิตฺตปฏิสํเวที อสฺสาสิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ปวตฺโต ภิกฺขุ กิฺจาปิ อสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตมารมฺมณํ กโรติ, ตสฺส ปน จิตฺตสฺส อารมฺมเณ สติฺจ สมฺปชฺฺจ อุปฏฺาเปตฺวา ปวตฺตนโต จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสีเยว นาเมส โหติ. น หิ มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส อานาปานสฺสติสมาธิภาวนา อตฺถิ, ตสฺมา อารมฺมณโต จิตฺตปฏิสํวิทิตวเสน ‘‘จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี ภิกฺขุ ตสฺมึ สมเย วิหรตี’’ติ.

โส ยํ ตํ โหติ อภิชฺฌาโทมนสฺสานํ ปหานํ, ตํ ปฺาย ทิสฺวา สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขิตา โหตีติ เอตฺถ อภิชฺฌา กามจฺฉนฺทนีวรณเมว, โทมนสฺสวเสน พฺยาปาทนีวรณํ ทสฺสิตํ. อิทฺหิ จตุกฺกํ วิปสฺสนาวเสเนว วุตฺตํ, ธมฺมานุปสฺสนา จ นีวรณปพฺพาทิวเสน ปฺจวิธา โหติ, ตสฺสา นีวรณปพฺพํ อาทิ, ตสฺสาปิ อิทํ นีวรณทฺวยํ อาทิ. อิติ ธมฺมานุปสฺสนาย อาทึ ทสฺเสตุํ อภิชฺฌาโทมนสฺสานนฺติ อาห. ปหานนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺํ ปชหตีติ เอวํ ปหานกราณํ อธิปฺเปตํ. ตํ ปฺาย ทิสฺวาติ ตํ อนิจฺจวิราคนิโรธปฏินิสฺสคฺคาณสงฺขาตํ ปหานาณํ อปราย วิปสฺสนาปฺาย, ตมฺปิ อปรายาติ เอวํ วิปสฺสนาปรมฺปรํ ทสฺเสติ . อชฺฌุเปกฺขิตา โหตีติ ยฺจสฺส ปถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ เอกโต อุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขตีติ ทฺวิธา อชฺฌุเปกฺขติ นาม. ตตฺถ สหชาตานมฺปิอชฺฌุเปกฺขนา โหติ อารมฺมณสฺสาปิ อชฺฌุเปกฺขนา. อิธ อารมฺมณ อชฺฌุเปกฺขนา อธิปฺเปตา. ตสฺมาติหานนฺทาติ ยสฺมา ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสาสิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ปวตฺโต น เกวลํ นีวรณาทิธมฺเม, อภิชฺฌาโทมนสฺสสีเสน ปน วุตฺตานํ ธมฺมานํ ปหานกราณมฺปิ ปฺาย ทิสฺวา อชฺฌุเปกฺขิตา โหติ, ตสฺมา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี ภิกฺขุ ตสฺมึ สมเย วิหรตีติ เวทิตพฺโพ.

เอวเมว โขติ เอตฺถ จตุมหาปโถ วิย ฉ อายตนานิ ทฏฺพฺพานิ. ตสฺมึ ปํสุปุฺโช วิย ฉสุ อายตเนสุ กิเลสา. จตูหิ ทิสาหิ อาคจฺฉนฺตา สกฏรถา วิย จตูสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตา จตฺตาโร สติปฏฺานา. เอเกน สกเฏน วา รเถน วา ปํสุปุฺชสฺส อุปหนนํ วิย กายานุปสฺสนาทีหิ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อุปฆาโต เวทิตพฺโพติ.

เอกธมฺมวคฺโค ปโม.

๒. ทุติยวคฺโค

๑-๒. อิจฺฉานงฺคลสุตฺตาทิวณฺณนา

๙๘๗-๙๘๘. ทุติยวคฺคสฺส ปเม เอวํ พฺยากเรยฺยาถาติ กสฺมา อตฺตโน วิหารสมาปตฺตึ อาจิกฺขติ? อุปารมฺภโมจนตฺถํ. สเจ หิ เต ‘‘น ชานามา’’ติ วเทยฺยุํ, อถ เนสํ ติตฺถิยา ‘‘ตุมฺเห ‘อสุกสมาปตฺติยา นาม โน สตฺถา เตมาสํ วิหาสี’ติปิ น ชานาถ, อถ กสฺมา นํ อุปฏฺหนฺตา วิหรถา’’ติ อุปารมฺภํ อาโรเปยฺยุํ, ตโต โมจนตฺถํ เอวมาห.

อถ กสฺมา ยถา อฺตฺถ ‘‘สโตว อสฺสสติ, ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. ๑.๑๐๗; สํ. นิ. ๕.๙๗๗) เอว-วากาโร วุตฺโต. เอวํ อิธ น วุตฺโตติ? เอกนฺตสนฺตตฺตา. อฺเสฺหิ อสฺสาโส วา ปากโฏ โหติ ปสฺสาโส วา, ภควโต อุภยมฺเปตํ ปากฏเมว นิจฺจํ อุปฏฺิตสฺสติตายาติ เอกนฺตสนฺตตฺตา น วุตฺโต. อถ ‘‘สิกฺขามี’’ติ อวตฺวา กสฺมา ‘‘อสฺสสามี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตนฺติ? สิกฺขิตพฺพาภาวา. สตฺต หิ เสขา สิกฺขิตพฺพภาวา เสขา นาม, ขีณาสวา สิกฺขิตพฺพาภาวา อเสขา นาม, ตถาคตา อสิกฺขิตพฺพา อเสกฺขา นาม นตฺถิ เตสํ สิกฺขิตพฺพกิจฺจนฺติ สิกฺขิตพฺพาภาวา น วุตฺตํ. ทุติยํ อุตฺตานเมว.

๓-๑๐. ปมอานนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา

๙๘๙-๙๙๖. ตติเย ปวิจินตีติ อนิจฺจาทิวเสน ปวิจินติ. อิตรํ ปททฺวยํ เอตสฺเสว เววจนํ. นิรามิสาติ นิกฺกิเลสา กายิกเจตสิกทรถปฏิปสฺสทฺธิยา กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ปสฺสมฺภติ. สมาธิยตีติ สมฺมา ปิยติ, อปฺปนาจิตฺตํ วิย โหติ. อชฺฌุเปกฺขิตา โหตีติ สหชาตอชฺฌุเปกฺขนาย อชฺฌุเปกฺขิตา โหติ.

เอวํ จุทฺทสวิเธน กายปริคฺคาหกสฺส ภิกฺขุโน ตสฺมึ กาเย สติ สติสมฺโพชฺฌงฺโค, ตาย สติยา สมฺปยุตฺตาณํ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค, ตํสมฺปยุตฺตเมว กายิกเจตสิกวีริยํ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค, ปีติปสฺสทฺธิจิตฺเตกคฺคตา ปีติปสฺสทฺธิสมาธิสมฺโพชฺฌงฺคา, อิเมสํ ฉนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ อโนสกฺกนอนติวตฺตนสงฺขาโต มชฺฌตฺตากาโร อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค. ยเถว หิ สมปฺปวตฺเตสุ อสฺเสสุ สารถิโน ‘‘อยํ โอลียตี’’ติ ตุทนํ วา, ‘‘อยํ อติธาวตี’’ติ อากฑฺฒนํ วา นตฺถิ, เกวลํ เอวํ ปสฺสมานสฺส ิตากาโรว โหติ, เอวเมว อิเมสํ ฉนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ อโนสกฺกนอนติวตฺตนสงฺขาโต มชฺฌตฺตากาโร อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค นาม โหติ. เอตฺตาวตา กึ กถิตํ? เอกจิตฺตกฺขณิกา นานาสรสลกฺขณา วิปสฺสนาโพชฺฌงฺคา นาม กถิตา.

วิเวกนิสฺสิตนฺติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. เอตฺถ ปน โสฬสกฺขตฺตุกา อานาปานสฺสติ มิสฺสกา กถิตา, อานาปานมูลกา สติปฏฺานา ปุพฺพภาคา , เตสํ มูลภูตา อานาปานสฺสติ ปุพฺพภาคา. โพชฺฌงฺคมูลกา สติปฏฺานา ปุพฺพภาคา, เตปิ โพชฺฌงฺคา ปุพฺพภาคาว. วิชฺชาวิมุตฺติปูรกา ปน โพชฺฌงฺคา นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรา, วิชฺชาวิมุตฺติโย อริยผลสมฺปยุตฺตา. วิชฺชา วา จตุตฺถมคฺคสมฺปยุตฺตา, วิมุตฺติ ผลสมฺปยุตฺตาติ. จตุตฺถปฺจมฉฏฺานิปิ อิมินาว สมานปริจฺเฉทานิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

อานาปานสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.