📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

สํยุตฺตนิกาเย

มหาวคฺคฏีกา

๑. มคฺคสํยุตฺตํ

๑. อวิชฺชาวคฺโค

๑-๒. อวิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา

๑-๒. ปุพฺพงฺคมาติ ปุพฺเพจรา. อวิชฺชา หิ อฺาณลกฺขณา สมฺมุยฺหนากาเรน อารมฺมเณ ปวตฺตตีติ สมฺปยุตฺตธมฺมานมฺปิ ตทาการานุวิธานตาย ปจฺจโย โหติ. ตถา หิ เต อนิจฺจาสุภทุกฺขานตฺตสภาเวปิ ธมฺเม นิจฺจาทิโต คณฺหนฺติ, อยมสฺสา เตสํ สหชาตวเสน ปุพฺพงฺคมตา. ยํ ปน โมเหน อภิภูโต ปาปกิริยาย อาทีนวํ อปสฺสนฺโต ปาณํ หนติ, อทินฺนํ อาทิยติ, กาเมสุ มิจฺฉา จรติ, มุสา ภณติ, อฺมฺปิ วิวิธํ ทุสฺสีลฺยํ อาจรติ, อยมสฺส สหชาตวเสน จ อุปนิสฺสยวเสน จ ปุพฺพงฺคมตา. สมาปชฺชนายาติ ตพฺภาวาปชฺชนาย อกุสลปฺปตฺติยา. สภาวปฏิลาภายาติ อตฺตลาภาย. เตนาห ‘‘อุปฺปตฺติยา’’ติ. สา ปเนสา วุตฺตากาเรน อกุสลานํ ปุพฺพงฺคมภูตา อวิชฺชา อุปฺปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. ยเทตนฺติ ยํ เอตํ ปาปาชิคุจฺฉนตาย ปาปโต อลชฺชนาการสณฺิตํ อหิริกํ, ปาปานุตฺราสตาย ปาปโต อภายนาการสณฺิตฺจ อโนตฺตปฺปํ, เอตํ ทฺวยํ อนุเทว อนฺวาคตเมว. อนุ-สทฺเทน เจตฺถ เอตนฺติ อุปโยควจนํ. อนุเทวาติ เอตสฺส อตฺโถ สเหว เอกโตติ. เอตฺถ อวิชฺชาย วุตฺตนยานุสาเรน ตปฺปฏิปกฺขโต จ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – ตตฺถ ยถา อกุสลกมฺมปถวเสน ปวตฺติยํ ปุพฺพงฺคมตา อวิชฺชาย, เอวํ กุสลกมฺมปถวเสน ปุฺกิริยวตฺถุวเสน จ ปวตฺติยํ วิชฺชาย ปุพฺพงฺคมตา วตฺตพฺพา. วีมํสาธิปติวเสน ปวตฺติยํ อาธิปจฺจาการวเสน จ ปุพฺพงฺคมตา เวทิตพฺพา. ทฺวีเหวาติ จ อวธารณํ อาธิปจฺจาการสฺส สหชาเตเนว สงฺคเหตพฺพโต.

ลชฺชนาการสณฺิตาติ ปาปโต ชิคุจฺฉนาการสณฺิตา. ภายนาการสณฺิตนฺติ อุตฺตสนาการสณฺิตํ. เอตฺถาติ หิริโอตฺตปฺเป. วิทติ, วินฺทตีติ วา วิชฺชา. วิทฺทสูติ จ สปฺปฺปริยาโยติ อาห ‘‘วิทฺทสุโนติ วิทุโน’’ติ. ยาถาวทิฏฺีติ อวิปรีตา ทิฏฺิ, สํกิเลสโต นิยฺยานิกทิฏฺิ. สมฺมาทิฏฺิ ปโหตีติ เอตฺถ สา วิชฺชา สมฺมาทิฏฺิ เวทิตพฺพา. น เอกโต สพฺพานิ ลพฺภนฺติ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวานํ ปุพฺพาภิสงฺขารสฺส อเนกรูปตฺตา. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ เอกโต ลพฺภนฺติ กิจฺจโต ภินฺนานมฺปิ ตาสํ ตตฺถ สรูปโต อภินฺนตฺตา. เอกา เอว หิ วิรติ มคฺคกฺขเณ ติสฺสนฺนมฺปิ วิรตีนํ กิจฺจํ สาเธนฺตี ปวตฺตติ, ยถา เอกา เอว สมฺมาทิฏฺิ ปริชานนาทิวเสน จตุพฺพิธกิจฺจํ สาเธนฺตี ปวตฺตติ. ตานิ จ โข สพฺพานิ อฏฺปิ ปมชฺฌานิเก มคฺเค ลพฺภนฺตีติ โยชนา. ปมชฺฌานิเกติ ปมฌานวนฺเต.

ตถาภูตสฺสาติ อริยมคฺคสมงฺคิโน. ยสฺมา มหาสฬายตนสุตฺเต วุตฺตํ ‘‘สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ ปฺจนฺนํ เอว องฺคานํ วเสนา’’ติ, ตสฺมา ปฺจงฺคิโก โลกุตฺตรมคฺโค โหติ. ‘‘ปุพฺเพว โข ปนา’’ติ หิ วจนํ ตทา มคฺคกฺขเณ วิรตีนํ อภาวํ าเปติ, ตสฺมา กามาวจรจิตฺเตสุ วิย โลกุตฺตรจิตฺเตสุ วิรติ อนิยตาติ อธิปฺปาโย. ปริสุทฺธภาวทสฺสนนฺติ ปริสุทฺธสีลภาวทสฺสนตฺถํ. อยมตฺโถ ทีปิโต, น อริยมคฺเค วิรตีนํ อภาโว.

ยทิ เอวํ กสฺมา อภิธมฺเม มคฺควิภงฺเค ปฺจงฺคิกวาโร อาคโตติ อาห ‘‘ยมฺปิ อภิธมฺเม’’ติอาทิ. นฺติ ‘‘ปฺจงฺคิโก มคฺโค โหตี’’ติ วจนํ. ‘‘เอกํกิจฺจนฺตรํ ทสฺเสตุํ วุตฺต’’นฺติ วตฺวา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมิฺหิ กาเล’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมิฺหิ กาเลติ โลกิยกาเล . เตน ‘‘เอกํ กิจฺจนฺตร’’นฺติ วุตฺตํ อฏฺงฺคิกกิจฺจํ ทสฺเสติ. วิรติอุปฺปาทเนน มิจฺฉาวาจาทีนิ ปุคฺคเลน มคฺคสมเย ปชหาเปนฺตีติ สมฺมาทิฏฺิอาทีนิ ‘‘ปฺจ การกงฺคานี’’ติ วุตฺตานิ. สมฺมาวาจาทิกิริยา หิ วิรติ, ตฺจ เอตานิ การาเปนฺตีติ. วิรติวเสนาติ วิรมณกิริยาวเสน การาปกภาเวน, กตฺตุภาเวน วาติ อตฺโถ. ‘‘วิรติตฺตยวเสนา’’ติ วา ปาโ.

สมฺมากมฺมนฺโต ปูรตีติ อิเมหิ สมฺมาทิฏฺิอาทีหิ สมฺมากมฺมนฺตกิจฺจํ ปูรติ นาม เตหิ วีริยาทิเกหิ ตทตฺถสิทฺธิโต. ตมฺปิ สนฺธาย ‘‘เอกํ กิจฺจนฺตรํ ทสฺเสตุ’’นฺติ วุตฺตํ. อิมํ กิจฺจนฺตรํ ทสฺเสตุนฺติ โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณปิ อิมาเนว ปฺจ สมฺมาวาจาทิวิรติตฺตยสฺส เอกกฺขเณ การาปกงฺคานีติ ทสฺเสตุํ. เอวํ วุตฺตนฺติ ‘‘ตสฺมึ สมเย ปฺจงฺคิโก มคฺโค โหตี’’ติ (วิภ. ๔๙๔) เอวํ วุตฺตํ. โลกิยมคฺคกฺขเณ ปฺเจว โหนฺติ, วิรติ ปน อนิยตา, ตสฺมา ‘‘ฉองฺคิโก’’ติ อวตฺวา ‘‘ปฺจงฺคิโก’’อิจฺเจว วุตฺตํ. ตยิทํ อภิธมฺเม ปฺจงฺคิกวารเทสนาย การณกิตฺตนมคฺโค, อริยมคฺโค ปน อฏฺงฺคิโกวาติ ทสฺเสตุํ, ‘‘ยา จ, ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห, ตํ สุวิฺเยฺยเมว. มิจฺฉาทิฏฺิอาทิกา ทส, ตปฺปจฺจยา อกุสลา จ ทสาติ วีสติ อกุสลปกฺขิยา, สมฺมาทิฏฺิอาทิกา ทส, ตปฺปจฺจยา กุสลา จ ทสาติ วีสติ กุสลปกฺขิยา มหาจตฺตารีสกสุตฺเต วุตฺตา. มหาจตฺตารีสกนฺติ ตสฺเสตํ นามํ. มิสฺสโกว กถิโต โลกุตฺตรสฺสปิ อิธ ลพฺภมานตฺตา.

ยสฺมา โกสลสํยุตฺเตปิ อิธ จ เถเรน ‘‘อุปฑฺฒมิทํ, ภนฺเต, พฺรหฺมจริยสฺสา’’ติอาทินา วุตฺตํ ‘‘มา เหวํ อานนฺทา’’ติอาทินา ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘สกลเมวิทํ อานนฺทา’’ติอาทินา ภควตา เทสิตํ สุตฺตํ อาคตํ. ตสฺสตฺโถ โกสลสํยุตฺตวณฺณนายํ วุตฺโต, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘โกสลสํยุตฺเต วุตฺตตฺถเมวา’’ติ.

อวิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา

. สาวกโพธิ สาวกปารมิโย, ตปฺปริยาปนฺนํ าณํ สาวกปารมิาณํ, ตํ ปน ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานํ ตตฺถปิ ธมฺมเสนาปติโน เอว สวิเสสํ มตฺถกํ ปตฺตํ, น อิตเรสนฺติ อาห – ‘‘สาวก…เป… อปฺปตฺตตายา’’ติ. ตสฺมา ตสฺส มตฺถกปฺปตฺติยา มคฺคพฺรหฺมจริเย อิชฺฌนฺเต ตสฺส เอกเทโส อิธ อิชฺฌติ, น สกลนฺติ. น หิ อทฺธพฺรหฺมจริยํ นาม อตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ, ‘‘สกลมฺปิ…เป… ลพฺภตี’’ติ, ตํ ปน ภณฺฑาคาริโก นาฺาสิ าณสฺส สาวกวิสเยปิ สปฺปเทสิกตฺตา, ธมฺมเสนาปติ ปน าณสฺส ตตฺถ นิปฺปเทสิกตฺตา อฺาสีติ. เตนาห – ‘‘อานนฺทตฺเถโร…เป… อฺาสี’’ติ. เอวมาหาติ ‘‘สกลมิทํ, ภนฺเต’’ติ เอวํ อโวจ.

สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ชาณุสฺโสณิพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

. วฬวาภิ-สทฺโท วฬวาปริยาโยติ อาห ‘‘จตูหิ วฬวาหิ ยุตฺตรเถนา’’ติ. โยธรโถติ โยเธหิ ยุชฺฌนตฺถํ อาโรหิตพฺพรโถ. อลงฺการรโถ มงฺคลทิวเสสุ อลงฺกตปฏิยตฺเตหิ อาโรหิตพฺพรโถ. ฆนทุกุเลน ปริวาริโตติ รชตปฏฺฏวณฺเณน เสตทุกุเลน ปฏิจฺฉาทิโต. ปฏิจฺฉาทนตฺโถ หิ อิธ ปริวารสทฺโท. รชตปนาฬิสุปริกฺขิตฺตา เสตภาวกรณตฺถํ.

ฉนฺนํ ฉนฺนํ มาสานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ. เอกวารํ นครํ ปทกฺขิณํ กโรตีติ อิทํ ตสฺมึ านนฺตเร ิเตน กาตพฺพํ จาริตฺตํ. นครโต น ปกฺกนฺตาติ นครโต พหิ น คตา. มงฺคลวจเน นิยุตฺตา มงฺคลิกา, สุวตฺถิวจเน นิยุตฺตา โสวตฺถิกา. อาทิ-สทฺเทน ถุติมาคธวนฺทิกาจริยเก สงฺคณฺหาติ. สุกปตฺตสทิสานิ วณฺณโต.

วณฺณคีตนฺติ ถุติคีตํ. พฺรหฺมภูตํ เสฏฺภูตํ ยานํ, พฺรหฺมภูตานํ เสฏฺภูตานํ ยานนฺติ วา พฺรหฺมยานํ. วิชิตตฺตา วิเสเสน ชินนโต. ราคํ วินยมานา ปริโยสาเปตีติ สพฺพมฺปิ ราคํ สมุจฺเฉทวินยวเสน วิเนติ, อตฺตโน กิจฺจํ ปริโยสาเปติ. กิจฺจปริโยสาปเนเนว หิ สยมฺปิ ปริโยสานํ นิปฺผตฺตึ อุปคจฺฉติ. เตนาห ‘‘ปริโยสานํ คจฺฉติ นิปฺผชฺชตี’’ติ.

ธุรนฺติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘ตตฺรมชฺฌตฺตตายุเค ยุตฺตา’’ติ. อีสาติ ยุคสนฺธาริกา ทารุยุคฬา. ยถา วา พาหิรํ ยุคํ ธาเรติ, ตสฺสา ิตาย เอว กิจฺจสิทฺธิ, เอวํ กิริยาวเสน ลทฺธพเลน ตตฺรมชฺฌตฺตตายุเค ถิรํ ธาเรติ, เตเหว อริยมคฺครถสฺส ปวตฺตนํ. หิริคฺคหเณน เจตฺถ ตํสหจรณโต โอตฺตปฺปมฺปิ คหิตํเยว โหติ. เตนาห ‘‘อตฺตนา สทฺธิ’’นฺติอาทิ. นาฬิยา มินมาโน ปุริโส วิย อารมฺมณํ มินาตีติ มโน. กตรํ ปน ตํ มโน, กถฺจสฺส โยตฺตสทิสตาติ อาห ‘‘วิปสฺสนาจิตฺต’’นฺติอาทิ. เตน โยตฺตํ วิยาติ โยตฺตนฺติ ทสฺเสติ. โลกิยวิปสฺสนาจิตฺตํ อติเรกปฺาส กุสลธมฺเม เอกาพทฺเธ เอกสงฺคหิเต กโรตีติ สมฺพนฺโธ. เต ปน ‘‘ผสฺโส โหติ…เป… อวิกฺเขโป โหตี’’ติ จิตฺตงฺควเสน ธมฺมสงฺคเห (ธ. ส. ๑) อาคตนเยเนว เวทิตพฺพา. โลกุตฺตรวิปสฺสนาจิตฺตนฺติ มคฺคจิตฺตํ อาห. อติเรกสฏฺีติ เต เอว สมฺมากมฺมนฺตาชีเวหิ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยาทีหิ จ สทฺธึ อติเรกสฏฺิ กุสลธมฺเม. เอกาพทฺเธติ เอกสฺมึ เอว อารมฺมเณ อาพทฺเธ. เอกสงฺคเหติ ตเถว วิปสฺสนากิจฺจวเสน เอกสงฺคเห กโรติ. ปุพฺพงฺคมภาเวน อารกฺขํ สาเรตีติ อารกฺขสารถี. ‘‘ยถา หิ รถสฺส…เป… สารถี’’ติ วตฺวา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โยคฺคิโย’’ติ วุตฺตํ. ธุรํ วาเหติ โยคฺเค. โยเชติ โยคฺเค สมคติยฺจ. อกฺขํ อพฺภฺชติ สุขปฺปวตฺตนตฺถํ. รถํ เปเสติ โยคฺคโจทเนน. นิพฺพิเสวเน กโรติ คมนวีถิยํ ปฏิปาทเนน สนฺนิโยเชติ. อารกฺขปจฺจุปฏฺานาติ อารกฺขํ ปจฺจุปฏฺเปติ อสมฺโมสสภาวตฺตา. คติโยติ ปวตฺติโย, นิปฺผตฺติโย วา. สมนฺเวสตีติ คเวสติ.

อริยปุคฺคลสฺส นิพฺพานํ ปฏิมุขํ สมฺปาปเน รโถ วิยาติ รโถ. ปริกโรติ วิภูสยตีติ ปริกฺขาโร, วิภูสนํ, สีลฺจ อริยมคฺคสฺส วิภูสนฏฺานิยํ. เตน วุตฺตํ ‘‘จตุปาริสุทฺธิสีลาลงฺกาโร’’ติ, สีลภูสโนติ อตฺโถ. วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตานนฺติ โลกิยาย โลกุตฺตราย จ วิปสฺสนาย สมฺปยุตฺตานํ. วิธินา อีเรตพฺพโต ปวตฺเตตพฺพโต วีริยํ, สมฺมาวายาโม. สมํ สมฺมา จ ธิยตีติ สมาธิ, ธุรฺจ ตํ สมาธิ จาติ ธุรสมาธิ, อุเปกฺขา ธุรสมาธิ เอตสฺสาติ อุเปกฺขาธุรสมาธิ, อริยมคฺโค อุเปกฺขาสงฺขาตธุรสมาธีติ อตฺโถ. อฏฺกถายํ ปน พฺยฺชนํ อนาทิยิตฺวา ธุรสมาธิสทฺทานํ ภินฺนาธิกรณตา วุตฺตา. ปโยคมชฺฌตฺเตติ วีริยสมตาย. อนิจฺฉาติ อิจฺฉาปฏิปกฺขา. เตนาห ‘‘อโลภสงฺขาตา’’ติ. ปริวารณนฺติ ปริวาโร, ปริจฺฉโทติ อตฺโถ.

เมตฺตาติ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ. ตถา กรุณา. ปุพฺพภาโคติ อุภินฺนมฺปิ อุปจาโร. ทฺเวปิ กายจิตฺตวิเวกา วิย ปุพฺพภาคธมฺมวเสน วุตฺตา. อริยมคฺครเถติ ปริสุทฺธมคฺคสงฺขาเต รเถ. อริยมคฺครโถ จ มคฺครโถ จาติ อริยมคฺครโถ, เอวํ เอกเสสนเยน วา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘อิมสฺมึ โลกิยโลกุตฺตรมคฺครเถ ิโต’’ติ. สนฺนทฺธจมฺโมติ โยคาวจรสฺส ปฏิมุกฺกจมฺมํ. น นํ เต วิชฺฌนฺตีติ วจนปถา น นํ วิชฺฌนฺติ. ธมฺมเภทนวเสน น ภฺชติ, ตสฺส อริยมคฺคสฺส รถสฺส สมฺมา โยชิตสฺส อนฺตรา ภงฺโค นตฺถีติ อตฺโถ.

อตฺตโน ปุริสการํ นิสฺสาย ลทฺธตฺตา อตฺตโน สนฺตาเนติ อธิปฺปาโย. อนุตฺตรนฺติ อุตฺตรรหิตํ. ตโต เอว เสฏฺยานํ, นสฺส เกนจิ สทิสนฺติ อสทิสํ. ธิติสมฺปนฺนตาย ธีรา ปณฺฑิตปุริสาโลกมฺหา นิยฺยนฺติ คจฺฉนฺติ. ‘‘ชยํ ชย’’นฺติ คาถายํ วจนวิปลฺลาเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ชินนฺตา ชินนฺตา’’ติ.

ชาณุสฺโสณิพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๖. กิมตฺถิยสุตฺตาทิวณฺณนา

๕-๖. นิยมตฺโถติ อวธารณตฺโถ. เตน นิยเมน อวธารเณน – อฺํ มคฺคํ ปฏิกฺขิปติ อิโต อฺสฺส นิยฺยานิกมคฺคสฺส อภาวโต. ‘‘ทุกฺขสฺส ปริฺตฺถ’’นฺติ วุตฺตตฺตา วฏฺฏทุกฺขํ กถิตํ. อริยมคฺเค คหิเต ตสฺส ปุพฺพภาคมคฺโค วิปสฺสนาย คหิโต เอวาติ ‘‘มิสฺสกมคฺโค กถิโต’’ติ วุตฺตํ. อุตฺตานเมว อปุพฺพสฺส อภาวา. อยํ ปน วิเสโส ‘‘ราคกฺขโย’’ติอาทีหิ ยทิปิ นิพฺพานํ วุตฺตํ. ตถาปิ อรหตฺตํ วิย พฺรหฺมจริยมฺปิ. เตน นิพฺพานํ เอว วุจฺจติ ‘‘อิทํ พฺรหฺมจริยปริโยสาน’’นฺติ.

กิมตฺถิยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ทุติยอฺตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา

. ราควินยาทิปเทหิ นิพฺพานํ วาปิ วุจฺเจยฺย อรหตฺตํ วาปิ. ยสฺมา โส ภิกฺขุ อุภยตฺถปิ นิวิฏฺพุทฺธิ, ตสฺมา ภควา ตสฺส อชฺฌาสยวเสน ‘‘นิพฺพานธาตุยา โข เอต’’นฺติอาทินา นิพฺพานธาตุํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปุน ‘‘อาสวานํ ขโย เตน วุจฺจตี’’ติ อาห. ยสฺมา อริยมคฺโค ราคาทิเก สมุจฺเฉทวเสน วิเนติ, อาสวฺจ สพฺพโส เขเปติ, เตน จ วุตฺตํ นิพฺพานํ อรหตฺตฺจ, ตสฺมา ตทุภยํ ‘‘ราควินโยติอาทิ นามเมวา’’ติ วุตฺตํ. อนุสนฺธิกุสลตาย ปุจฺฉนฺโต เอตํ อโวจาติ อิมินา ‘‘ปุจฺฉานุสนฺธิ อิธ ลพฺภตี’’ติ ทีปิตํ, อชฺฌาสยานุสนฺธิปิ เอตฺถ ลพฺภเตวาติ ทฏฺพฺพํ.

ทุติยอฺตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. วิภงฺคสุตฺตวณฺณนา

. เอเกน ปริยาเยน อฏฺงฺคิกมคฺคํ วิภชิตฺวาติ ‘‘สมฺมาทิฏฺี’’ติอาทินา เอเกน ปริยาเยน อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ วิภาเคน ทสฺเสตฺวา ‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺี’’ติอาทินา ปุน อปเรน ปริยาเยน วิภชิตุกาโม. อุคฺคหธารณปริจยาณานิปิ สวนาเณ เอว อวโรธํ คจฺฉนฺตีติ ‘‘สวนสมฺมสนปฏิเวธปจฺจเวกฺขณวเสนา’’ติ วุตฺตํ.

กมฺมฏฺานาภินิเวโสติ กมฺมฏฺานปฏิปตฺติ. ปุริมานิ ทฺเว สจฺจานิ อุคฺคณฺหิตฺวาติ สมฺพนฺโธ. อิฏฺํ กนฺตํ มนาปนฺติ นิโรธมคฺเคสุ นินฺนภาวํ ทสฺเสติ, น อภินนฺทนํ, ตนฺนินฺนภาโว เอว จ ตตฺถ กมฺมกรณํ ทฏฺพฺพํ. เอเกเนวากาเรน สจฺจานํ ปฏิเวธนิมิตฺตตา, โส เอว อภิมุขภาโว เตสํ สมาคโมติ เอกาภิสมโย.

อสฺสาติ าณสฺส, โยคิโน วา. เอตฺถ จ เกจิ ‘‘โลกิยาณมฺปิ ปฏิเวโธ สพฺพสฺส ยาถาวโพธภาวโต’’ติ วทนฺติ. นนุ อุคฺคหาทิปฏิเวโธ จ ปฏิเวโธว, น จ โส โลกุตฺตโรติ? ตํ น, เกวเลน ปฏิเวธ-สทฺเทน อุคฺคหาทิปฏิเวธานํ อวจนียตฺตา, ปฏิเวธนิมิตฺตตฺตา วา อุคฺคหาทิวเสน ปวตฺตํ ทุกฺขาทีสุ ปุพฺพภาเค าณํ ‘‘ปฏิเวโธ’’ติ วุจฺจติ, น ปฏิเวธตฺตา, ปฏิเวธภูตเมว ปน าณํ อุชุกํ ปฏิเวโธติ วตฺตพฺพตํ อรหติ. กิจฺจโตติ ปริฺาทิกิจฺจโต. อารมฺมณปฏิเวโธติ สจฺฉิกิริยาปฏิเวธมาห. กิจฺจโตติ อสมฺโมหปฏิเวธํ. อุคฺคหาทีหิ สจฺจสฺส ปริคฺคณฺหนํ ปริคฺคโห.

ทุทฺทสตฺตาติ อนธิคตาเณน ยาถาวสรสลกฺขณโต ทฏฺุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา อุปฺปตฺติโต ปากฏานิปิ. เตนาห ‘‘ทุกฺขสจฺจํ หี’’ติอาทิ. อุภยนฺติ ปุริมํ สจฺจทฺวยํ. ปโยโคติ กิริยา, วายาโม วา. ตสฺส มหนฺตตรสฺส อิจฺฉิตพฺพตํ ทุกฺกรตรตฺจ อุปมาหิ ทสฺเสติ ‘‘ภวคฺคคฺคหณตฺถ’’นฺติอาทินา. ยถา ปุริมํ สจฺจทฺวยํ วิย เกนจิ ปริยาเยน อปากฏตาย ปรมคมฺภีรตฺตา อุคฺคหาทิวเสน ปุพฺพภาเค ปวตฺติเภทํ คเหตฺวา ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทินา จตุพฺพิธํ กตฺวา วุตฺตํ. เอกเมว ตํ าณํ โหติ เอกาภิสมยวเสเนว ปวตฺตนโต.

กามปจฺจนีกฏฺเนาติ กามานํ อุชุปจฺจนีกภาเวน. กามโต นิสฺสฏภาเวนาติ กาเมหิ วิสํยุตฺตภาเวน. กามํ สมฺมสนฺตสฺสาติ ทุวิธมฺปิ กามํ อนิจฺจาทิโต สมฺมสนฺตสฺส. ปชฺชติ ปวตฺตติ เอเตนาติ ปทํ, กามสฺส ปทนฺติ กามปทํ, กามสฺส อุปฺปตฺติการณสฺส ฆาโต สมุคฺฆาโต, ตํ กามปทฆาตํ. เตนาห ‘‘กามวูปสม’’นฺติ. กาเมหิ วิวิตฺตํ กามวิวิตฺตํ. โส เอว จ เนสํ อนฺโต สมุจฺเฉทวิเวเกติ กตฺวา ตสฺมึ สาเธตพฺเพ อุปฺปนฺโนติ วุตฺตํ ‘‘กามวิวิตฺตนฺเต อุปฺปนฺโน’’ติ. กามโต นิกฺขมตีติ นิกฺขโม, โส เอว เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป. อิมสฺมิฺจ เนกฺขมฺมสงฺกปฺปสฺส สทฺทตฺถวิภาเวน ยถาวุตฺโต กามปจฺจนีกฏฺาทิโก อตฺถนิทฺธารณวิเสโส อนฺโตคโธ.

เอเสว นโยติ อิมินา พฺยาปาทปจฺจนีกฏฺเน วิหึสาย ปจฺจนีกฏฺเนาติอาทิกํ อพฺยาปาทาวิหึสาสงฺกปฺปานํ อตฺถุทฺธารณวิธึ อติทิสติ. เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโยติ อาทิ-สทฺเทน อพฺยาปาทอวิหึสาสงฺกปฺเป เอว สงฺคณฺหาติ. กาม…เป… สฺานนฺติ กามวิตกฺกาทิวิรติสมฺปยุตฺตานํ เนกฺขมฺมาทิสฺานํ. นานตฺตาติ นานาขณิกตฺตา. ตีสุ าเนสูติ ติปฺปกาเรสุ การเณสุ. อุปฺปนฺนสฺสาติ อุปฺปชฺชนารหสฺส. ภูมิลทฺธอุปฺปนฺนํ อิธาธิปฺเปตํ. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ. ปทจฺเฉทโตติ การณุปจฺเฉทโต. ปทนฺติ หิ อุปฺปตฺติการณนฺติ วุตฺโตวายมตฺโถ. อนุปฺปตฺติสาธนวเสนาติ ยถา สงฺกปฺโป อายตึ นุปฺปชฺชติ, เอวํ อนุปฺปตฺติสาธนวเสน. สมฺมาทิฏฺิ วิย เอโกว กุสลสงฺกปฺโป อุปฺปชฺชติ.

จตูสุ าเนสูติ วิสํวาทนาทีสุ จตูสุ วีติกฺกมฏฺาเนสุ. ปพฺพชิตานํ มิจฺฉาชีโว นาม อาหารนิมิตฺตโกติ อาห ‘‘ขาทนียโภชนียาทีนํ อตฺถายา’’ติ. สพฺพโส อเนสนาย ปหานํ สมฺมาอาชีโวติ อาห ‘‘พุทฺธปฺปสตฺเถน อาชีเวนา’’ติ. กมฺมปถปตฺตานํ วเสน ‘‘สตฺตสุ าเนสู’’ติ วุตฺตํ. อกมฺมปถปตฺตาย หิ อเนสนาย โส ปทฆาตํ กโรติเยว.

ตถารูเป วา อารมฺมเณติ ยสฺมึ อารมฺมเณ อิมสฺส ปุพฺเพ กิเลสา น อุปฺปนฺนา, ตสฺมึ เอว. อนุปฺปนฺนานนฺติ อนุปฺปาทสฺสปิ ปตฺถนาวเสน อนุปฺปนฺนานํ. วีริยจฺฉนฺทนฺติ วีริยสฺส นิพฺพตฺเตตุกามตาฉนฺทํ. ‘‘ฉนฺทสมฺปยุตฺตวีริยฺจา’’ติ วทนฺติ. วีริยเมว ปน อนุปฺปนฺนากุสลานุปฺปาทเน ลพฺภมานฉนฺทตาย ธุรสมฺปคฺคหตาย ฉนฺทปริยาเยน วุตฺตํ. ตถา หิ วีริยํ – ‘‘อนิกฺขิตฺตฉนฺทตา อนิกฺขิตฺตธุรตา’’ติ (ธ. ส. ๒๖) นิทฺทิฏฺํ. โกสชฺชปกฺเข ปติตุํ อทตฺวา จิตฺตํ ปคฺคหิตํ กโรติ. ปธานนฺติ ปธานภูตวีริยํ.

อุปฺปตฺติปพนฺธวเสนาติ นิรนฺตรุปฺปาทนวเสน. จตูสุ าเนสุ กิจฺจสาธนวเสนาติ ยถาวุตฺเตสุ จตูสุ าเนสุ ปธานกิจฺจสฺส นิปฺผาทนวเสน อนุปฺปาทนาทิวเสน. กิจฺจสาธนวเสนาติ กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ สุภสุขนิจฺจอตฺตคาหวิธมนวเสน อสุภทุกฺขานิจฺจานตฺตสาธนวเสน.

อยนฺติ ยถาวุตฺโต สทิสาสทิสตาวิเสโส. อสฺสาติ มคฺคสฺส. เอตฺถ กถนฺติ ยทิ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานโต ปฏฺาย ยาว สพฺพภวคฺคา ฌานงฺคมคฺคงฺคโพชฺฌงฺคานํ สทิสตา, เอวํ สนฺเต ‘‘อารุปฺเป จตุกฺกปฺจกชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ, ตฺจ โลกุตฺตร’’นฺติ เอตฺถ กถํ อตฺโถ คเหตพฺโพติ อาห ‘‘เอตฺถาปี’’ติอาทิ. ตํฌานิกาวาติ ปมชฺฌานาทีสุ ยํ ฌานํ มคฺคปฏิลาภสฺส ปาทกภูตํ, ตํฌานิกาว อสฺส อริยสฺส อุปริปิ ตโย มคฺคา. เอวนฺติ วุตฺตากาเรน. ปาทกชฺฌานเมว นิยเมติ อารุปฺเป จตุกฺกปฺจกชฺฌานุปฺปตฺติยํ. วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธาติ สมฺมสิตขนฺเธ วทนฺติ. ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมติ ปาทกสมฺมสิตชฺฌานานํ เภเท. ยสฺมา สงฺขารุเปกฺขาาณเมว อริยมคฺคสฺส โพชฺฌงฺคาทิวิเสสํ นิยเมติ, ตโต ทุติยาทิปาทกชฺฌานโต อุปฺปนฺนสฺส สงฺขารุเปกฺขาาณสฺส ปาทกชฺฌานาติกฺกนฺตานํ องฺคานํ อสมาปชฺชิตุกามตาวิราคภาวโต อิตรสฺส จ อตพฺภาวโต ตีสุปิ วาเทสุ วิปสฺสนาว นิยเมตีติ เวทิตพฺโพ, ตสฺมา วิปสฺสนานิยเมเนว หิ ปมวาเทปิ อปาทกชฺฌานาทิปาทกาปิ มคฺคา ปมชฺฌานิกา โหนฺติ. อิตเรหิ จ ปาทกชฺฌาเนหิ วิปสฺสนานิยเมหิ ตํตํฌานิกาว. เอวํ เสสวาเทสุ วิปสฺสนานิยโม ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพ. ทุติยวาเท ตํตํฌานิกตา สมฺมสิตสงฺขารวิปสฺสนานิยเมหิ โหติ. ตตฺร หิ วิปสฺสนา ตํตํวิราคภาวนา ภาเวตพฺพา, น โสมนสฺสสหคตา อุเปกฺขาสหคตา หุตฺวา ฌานงฺคาทินิยมํ มคฺคสฺส กโรตีติ เอวํ วิปสฺสนานิยโม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อิมสฺมิฺจ วาเท ปาทกสมฺมสิตชฺฌานุปนิสฺสยสพฺภาเว อชฺฌาสโย เอกนฺเตน โหตีติ ‘‘ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมตีติ วทนฺตี’’ติ วุตฺตํ, อฏฺกถายํ ปน วิสุทฺธิมคฺคสฺส เอติสฺสา อฏฺกถาย เอกสงฺคหิตตฺตา ‘‘เตสํ วาทวินิจฺฉโย…เป… เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ปุพฺพภาเคติ วิปสฺสนากฺขเณ.

วิภงฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. สูกสุตฺตวณฺณนา

. สูกนฺติ สาลิยวาทีนํ วาลมาห. โส หิ นิกนฺตกสทิโส ปฏิมุขคตํ หตฺถํ วา ปาทํ วา ภินฺทติ, ตสฺมา เภทํ อิจฺฉนฺเตน อุทฺธคฺคํ กตฺวา ปิตํ สมฺมาปณิหิตํ นาม, ตถา อฏฺปิตํ มิจฺฉาปณิหิตํ นามาติ วุตฺตํ. มิจฺฉาปณิหิตายาติ กมฺมสฺสกตปฺาย มิจฺฉาปนํ นาม – ‘‘อิเม สตฺตา กมฺมวเสน สุขทุกฺขํ ปจฺจนุภวนฺติ, ตํ ปน กมฺมํ อิสฺสรสฺส อิจฺฉาวเสน พฺรหฺมา นิมฺมินาตี’’ติอาทินา มิจฺฉาปกปฺปนํ. เกจิ ปน ‘‘นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทินา นเยน ปวตฺติ, ตสฺส วา าณสฺส อปฺปวตฺตี’’ติ วทนฺติ. มคฺคภาวนายาติ เอตฺถาปิ มิจฺฉามคฺคสฺส ปวตฺตนํ, อริยมคฺคสฺส วา อปฺปวตฺตนํ มิจฺฉาปนํ. เตนาห ‘‘อปฺปวตฺติตตฺตา’’ติ. อวิชฺชํ ภินฺทิสฺสตีติ อวิชฺชํ สมุจฺฉินฺทิสฺสติ. มคฺคนิสฺสิตํ กตฺวา มคฺเค เอว ปกฺขิปิตฺวา. ตฺหิ าณํ มคฺคสฺส มูลการณํ มคฺเค สิทฺเธ ตสฺส กิจฺจสฺส มตฺถกปฺปตฺติโต. ‘‘สมฺมาปณิหิตาย ทิฏฺิยา สมฺมาปณิหิตาย มคฺคภาวนายา’’ติ วุตฺตตฺตา มิสฺสกมคฺโค กถิโต. ฉวิเภทสทิโส เจตฺถ อวิชฺชาเภโท, โลหิตุปฺปาทสทิโส โลกุตฺตรมคฺคภาโว ทฏฺพฺโพ.

สูกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. นนฺทิยสุตฺตวณฺณนา

๑๐. ฉนฺนปริพฺพาชโก วตฺถจฺฉาทิยา ฉนฺนงฺคปริพฺพาชโก, น นคฺคปริพฺพาชโก.

อวิชฺชาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิหารวคฺโค

๑. ปมวิหารสุตฺตวณฺณนา

๑๑. อฑฺฒมาสนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ปฏิสลฺลียิตุนฺติ ยถาวุตฺตํ กาลํ ปฏิ ทิวเส ทิวเส สมาปตฺติยํ ธมฺมจินฺตายํ จิตฺตํ นิลียิตุํ. วิเนตพฺโพติ สมุจฺเฉทวินเยน วิเนตพฺโพ อริยมคฺคาธิคนฺตพฺโพ. นฺติ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนํ. อสฺสาติ ชนตาย. อปคจฺฉตีติ สตฺถุ สนฺติกโต อเปติ. สูติ นิปาตมตฺตํ.

ปเทเสนาติ เอกเทเสน. สห ปเทเสนาติ สปเทโส. สฺวายํ สปเทโส ยสฺมา เวทนาวเสเนว ปาฬิยํ อาคโต, ตสฺมา ปรมตฺถธมฺมโกฏฺาเส เวทนา อนวเสสโต ลพฺภติ, เต คณฺหนฺโต ‘‘ขนฺธปเทโส’’ติอาทิมาห. ตํ สพฺพนฺติ ขนฺธปเทสาทิกํ สพฺพมฺปิ. ‘‘สมฺมสนฺโต’’ติ ปทสฺส อตฺถทสฺสนวเสน ‘‘ปจฺจเวกฺขนฺโต’’ติ อาห. ปจฺจเวกฺขณา อิธ สมฺมสนํ นาม, น วิปสฺสนา. วิปสฺสนาสมฺมสนํ ปน ภควโต วิสาขปุณฺณมายํ เอว นิปฺผนฺนํ, ตสฺมา ภควโต อฺภูมิกาปิ เวทนา อฺภูมิกานํ สตฺตานํ วิรุทฺธา อุปฺปชฺชเตวาติ วุตฺตํ ‘‘ยาว ภวคฺคา ปวตฺตา สุขา เวทนา’’ติ. สพฺพากาเรนาติ สรูปโต สมุทยโต อตฺถงฺคมโต อสฺสาทาทิโตติ สพฺพากาเรน. ปริคฺคณฺหนฺโต อุปปริกฺขนฺโต.

นิปฺปเทสาเนว อนวเสสาเนว. อินฺทฺริยสติปฏฺานปเทโส สุวิฺเยฺโยติ อนุทฺธโต. อสฺสาติ ภควโต. าเนติ ตสฺมึ ตสฺมึ ปจฺจเวกฺขิตพฺพสงฺขาเต โอกาเส. สา สา จ วิหารสมาปตฺตีติ ขนฺธวเสน อายตนาทิวเสน จ ปวตฺติตฺวา เตสํ เอกเทสภูตํ เวทนํเยว ปริคฺคเหตฺวา ตํ สมฺมสิตฺวา อนุกฺกเมน สมาปนฺนา ฌานสมาปตฺติ ผลสมาปตฺติ จ. ผลสมาปตฺติ หิ ตถา สมฺมสิตฺวา ปุนปฺปุนํ สมาปชฺชนวเสน อตฺถโต อภินฺนาปิ อธิฏฺานภูตธมฺมเภเทน ภินฺนา วิย วุจฺจติ, ยโต จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสเภทา เทวสิกํ วฬฺชนสมาปตฺติโย อฏฺกถายํ วุตฺตา. กามํ อฺธมฺมวเสนปิ ชาตา เอว, เวทนาวเสน ปเนตฺถ อภินิเวโส กโต เวทนานุภาเวน ชาตา. กสฺมา เอวํ ชาตาติ? พุทฺธานํ าณปทสฺส อนฺตรวิภาคตฺตา. ตถา หิ ภควา สกลมฺปิ อฑฺฒมาสํ เวทนาวเสเนว สมฺมสนํ ปวตฺเตติ, ตทนุสาเรน จ ตา วิหารสมาปตฺติโย สมาปชฺชิ. ตยิทํ อจฺฉริยํ อนฺสาธารณํ ภิกฺขู ปเวเทนฺโต สตฺถา – ‘‘เยน สฺวาห’’นฺติอาทิมโวจ.

อกุสลาวาติ ปาณาติปาต-อทินฺนาทาน-กาเมสุมิจฺฉาจาร-มุสาวาท-ปิสุณวาจาสมฺผปฺปลาป-อภิชฺฌา-พฺยาปาทวเสน ตํตํมิจฺฉาทสฺสนวเสน จ อกุสลา เวทนา เอว โหติ. พฺรหฺมโลกาทีสุ อุปฺปชฺชิตฺวา ตตฺถ นิจฺจา ธุวา ภวิสฺสามาติ เอวํ ทิฏฺึ อุปนิสฺสายาติ โยเชตพฺพํ. เทวกุลาทีสุ เทวปูชตฺถํ, สพฺพชนปริโภคตฺถํ วา มาลาวจฺฉํ โรเปนฺติ. วธพนฺธนาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อทินฺนาทาน-มิจฺฉาจาร-มุสาวาท-ปิสุณวาจา-สมฺผปฺปลาปาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ทิฏฺธมฺมวิปากสฺส อปจุรตฺตา อปากฏตฺตา จ ‘‘ภวนฺตรคตาน’’นฺติ วุตฺตํ.

อิติ เนสนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, ปการตฺโถ วา. เตน ยถา ผรุสวาจาวเสน, เอวํ ตทฺเสมฺปิ อกุสลกมฺมานํ วเสน สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา อกุสลเวทนาปฺปวตฺติ ยถารหํ นีหริตฺวา วตฺตพฺพา. เอเสว นโยติ อิมินา ยถา มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ กุสลากุสลวิปากเวทนา สหชาตโกฏิยา อุปนิสฺสยโกฏิยา จ วเสน ยถารหํ โยเชตฺวา ทสฺสิตา, เอวํ มิจฺฉาสงฺกปฺปปจฺจยาทีสุปิ ยถารหํ โยเชตฺวา ทสฺเสตพฺพาติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. ฉนฺทปจฺจยาติ เอตฺถ ตณฺหาฉนฺทสหิโต กตฺตุกามตาฉนฺโท อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ฉนฺทปจฺจยาติอาทีสุ ปน ฉนฺทปจฺจยา อฏฺโลภสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตา เวทนา เวทิตพฺพา’’ติ. วิตกฺกปจฺจยาติ เอตฺถ อปฺปนาปฺปตฺโตว วิตกฺโก อธิปฺเปโตติ วุตฺตํ ‘‘วิตกฺกปจฺจยา ปมชฺฌานเวทนาวา’’ติ. วิตกฺกปจฺจยา ปมชฺฌานเวทนาย คหิตตฺตา ‘‘เปตฺวา ปมชฺฌาน’’นฺติ. อุปริ ติสฺโส รูปาวจรา, เหฏฺา ติสฺโส อรูปาวจรา เอวํ เสสา ฉ สฺาสมาปตฺติเวทนา.

ติณฺณนฺติ ฉนฺทวิตกฺกสฺานํ. อวูปสเมติ ปฏิปกฺเขน อวูปสมิเต. ติณฺณฺหิ เตสํ สหภาเวน ปจฺจยตา อฏฺโลภสหคตจิตฺเตสุ เอว. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ วุตฺตเมว. ฉนฺทมตฺตสฺสาติ เตสุ ตีสุ ฉนฺทมตฺตสฺส. วูปสเม ปมชฺฌานเวทนาว อปฺปนาปฺปตฺตสฺส อธิปฺเปตตฺตา. ฉนฺทวิตกฺกานํ วูปสเม ทุติยชฺฌานาทิเวทนา อธิปฺเปตา สฺาย อวูปสนฺตตฺตา. ทุติยชฺฌานาทิเวทนาคหเณน หิ สพฺพา สฺาสมาปตฺติโย จ คหิตาว โหนฺติ. ติณฺณมฺปิ วูปสเมติ ฉนฺทวิตกฺกสฺานํ วูปสเม เนวสฺานาสฺายตนเวทนา อธิปฺเปตา. ภวคฺคปฺปตฺตสฺา หิ วูปสมนฺติ ฉนฺทสงฺกปฺปานํ อจฺจนฺตสุขุมภาวปฺปตฺติยา. เหฏฺา ‘‘สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา’’ติ เอตฺถ สมฺมาทิฏฺิคฺคหเณน เหฏฺิมมคฺคสมฺมาทิฏฺิปิ คหิตาว โหตีติ อาห – ‘‘อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยาติ อรหตฺตผลสฺส ปตฺตตฺถายา’’ติ. อถ วา เหฏฺิมมคฺคาธิคเมน วินา อคฺคมคฺโค นตฺถีติ เหฏฺิมมคฺคาธิคมํ อตฺถาปนฺนํ กตฺวา ‘‘อรหตฺตผลสฺส ปตฺตตฺถายา’’ติ วุตฺตํ. อายเมติ ผเลน มิสฺสิโต โหติ เอเตนาติ อายาโม, สมฺมาวายาโมติ อาห ‘‘อตฺถิ อายามนฺติ อตฺถิ วีริย’’นฺติ. ตสฺส วีริยารมฺภสฺสาติ อฺาธิคมการณสฺส สมฺมาวายามสฺส วเสน. ปาฬิยํ าน-สทฺโท การณปริยาโยติ อาห – ‘‘อรหตฺตผลสฺส การเณ’’ติ. ตปฺปจฺจยาติ เอตฺถ ตํ-สทฺเทน ‘‘าเน’’ติ วุตฺตการณเมว ปจฺจามฏฺนฺติ อาห – ‘‘อรหตฺตสฺส านปจฺจยา’’ติ. จตุมคฺคสหชาตาติ เอเตน ‘‘อรหตฺตผลสฺส ปตฺตตฺถายา’’ติ เอตฺถ เหฏฺิมมคฺคานํ อตฺถาปตฺติวเสน คหิตภาวเมว โชเตติ. เกจิ ปน ‘‘จตุมคฺคสหชาตาติ วตฺวา นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรเวทนาติ ภูตกถนํ วิเสสนํ. นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรเวทนาติ ปมํ อเปกฺขิตพฺพํ, ปจฺฉา จตุมคฺคสหชาตา’’ติ วทนฺติ.

ปมวิหารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยวิหารสุตฺตวณฺณนา

๑๒. มิจฺฉาทิฏฺิ วูปสมติ สพฺพโส ปหียติ เอเตนาติ มิจฺฉาทิฏฺิวูปสโม. ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิวูปสโม นาม สมฺมาทิฏฺิ. ภวนฺตเร อุปฺปชฺชนฺโต อติทูเรติ มฺมาโน วิปากเวทนํ น คณฺหาตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ‘‘อิมินา นเยนา’’ติ อติทิสิตฺวาปิ ตมตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ยสฺส ยสฺสา’’ติอาทึ วตฺวา เอว สามฺวเสน วุตฺตมตฺถํ ปจฺฉิเมสุ ตีสุ ปเทสุ สรูปโตว ทสฺเสตุํ ‘‘ฉนฺทวูปสมปจฺจยา’’ติอาทิมาห, ตํ สุวิฺเยฺยเมว. วุตฺตตฺถาเนว อนนฺตรสุตฺเต.

ทุติยวิหารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓-๗. เสกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๓-๑๗. ติสฺสนฺนมฺปิ สิกฺขานํ สิกฺขนํ สีลํ เอตสฺสาติ สิกฺขนสีโล. สิกฺขตีติปิ วา เสกฺโข. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สิกฺขตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา เสกฺโขติ วุจฺจติ. กิฺจ สิกฺขติ? อธิสีลมฺปิ สิกฺขตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๓.๘๖). ตีหิ ผเลหิ เหฏฺา. สาปิ จตุตฺถมคฺเคน สทฺธึ อุปฺปนฺนสิกฺขาปิ. มคฺคกฺขเณ หิ สิกฺขากิจฺจํ น นิฏฺิตํ วิปฺปกตภาวโต, ผลกฺขเณ ปน นิฏฺิตํ นาม. อุตฺตานตฺถาเนว เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา.

เสกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

วิหารวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. มิจฺฉตฺตวคฺควณฺณนา

๒๑-๓๐. มิจฺฉาสภาวนฺติ อยาถาวสภาวํ อนิยฺยานิกสภาวํ. สมฺมาสภาวนฺติ ยาถาวสภาวํ นิยฺยานิกสภาวํ. มิจฺฉาปฏิปตฺตาธิกรณเหตูติ เอตฺถ อธิ-สทฺโท อนตฺถโกติ อาห – ‘‘มิจฺฉาปฏิปตฺติกรณเหตู’’ติ. ายติ ปฏิวิทฺธวเสน นิพฺพานํ คจฺฉตีติ าโย. โส เอว ตํสมงฺคีนํ วฏฺฏทุกฺขปาตโต ธารณฏฺเน ธมฺโมติ อาห – ‘‘ายํ ธมฺมนฺติ อริยมคฺคธมฺม’’นฺติ. าณสฺส มิจฺฉาสภาโว นาม นตฺถีติ วิฺาณเมเวตฺถ ปจฺจเวกฺขณวเสน ปวตฺตํ าณ-สทฺเทน วุจฺจตีติ อาห ‘‘มิจฺฉาวิฺาโณ’’ติ. มิจฺฉาปจฺจเวกฺขโณติ กิฺจิ ปาปํ กตฺวา ‘‘อโห มยา กตํ สุกต’’นฺติ เอวํ ปวตฺโต มิจฺฉาปจฺจเวกฺขโณ. โคสีลโควตาทิปูรณํ มุตฺตีติ เอวํ คณฺหโต มิจฺฉาวิมุตฺติ นาม. มิจฺฉาปฏิปทาทีหิ วิวฏฺฏนฺติ เอวํ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ. ปุคฺคโล ปุจฺฉิโตติ นิคมิโต จ ‘‘อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส’’ติอาทินา. กิฺจาปิ ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิโก โหตี’’ติอาทินา ปุคฺคโลว นิทฺทิฏฺโ, ตถาปิ ปุคฺคลสีเสนายํ ธมฺมเทสนาติ อาห ‘‘ธมฺโม วิภตฺโต’’ติ. เตเนวาห ‘‘ธมฺเมน ปุคฺคโล ทสฺสิโต’’ติ. ธมฺเมนาติ มิจฺฉาทิฏฺิอาทิเกน ธมฺเมน. กลฺยาณปุถุชฺชนโต ปฏฺาย สพฺพโส สปฺปุริสา นาม, ขีณาสโว สปฺปุริสตโร. สุปฺปวตฺตนิโยติ สุเขน ปวตฺเตตุํ สกฺกุเณยฺโย. ธาวตีติ คจฺฉติ. ปจฺจยุปฺปนฺเนน อุเปจฺจ นิสฺสิตพฺพโต อุปนิสา, ปจฺจโย, เอกสฺส ส-การสฺส โลปํ กตฺวา วาติ อาห – ‘‘สอุปนิสํ สปจฺจย’’นฺติ. ปริกรณโต ปริกฺขาโร, ปริวาโรติ อาห – ‘‘สปริกฺขารํ สปริวาร’’นฺติ. สหชาตวเสน อุปนิสฺสยวเสน จ สปจฺจยตา กิจฺจสาธเน นิปฺผาทเน สหายภาวูปคมเน จ สปริวารตา ทฏฺพฺพา.

มิจฺฉตฺตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปฏิปตฺติวคฺควณฺณนา

๓๑-๔๐. อยาถาวปฏิปตฺติ, น ยถาปฏิปตฺติ, เหตุมฺหิปิ ผเลปิ อยาถาววตฺถุสาธนโต. เอกํ สุตฺตํ ธมฺมวเสน กถิตํ ปฏิปตฺติวเสน. เอกํ สุตฺตํ ปุคฺคลวเสน กถิตํ ปฏิปนฺนกวเสน. สํสารมโหฆสฺส ปรตีรภาวโต โย นํ อธิคจฺฉติ, ตํ ปาเรติ คเมตีติ ปารํ, นิพฺพานํ, ตพฺพิธุรตาย นตฺถิ เอตฺถ ปารนฺติ อปารํ, สํสาโรติ วุตฺตํ – ‘‘อปาราปารนฺติ วฏฺฏโต นิพฺพาน’’นฺติ. ปารงฺคตาติ อเสกฺเข สนฺธาย. เยปิ คจฺฉนฺตีติ เสกฺเข. เยปิ คมิสฺสนฺตีติ กลฺยาณปุถุชฺชเน. ปารคามิโนติ เอตฺถ กิต-สทฺโท ติกาลวาจีติ เอวํ วุตฺตํ.

ตีรนฺติ โอริมตีรมาห. เตน วุตฺตํ ‘‘วฏฺฏเมว อนุธาวตี’’ติ. เอกนฺตกาฬกตฺตา จิตฺตสฺส อปภสฺสรภาวกรณโต กณฺหาภิชาติเหตุโต จ วุตฺตํ ‘‘กณฺหนฺติ อกุสลธมฺม’’นฺติ. โวทานภาวโต จิตฺตสฺส ปภสฺสรภาวกรณโต สุกฺกาภิชาติเหตุโต จ วุตฺตํ – ‘‘สุกฺกนฺติ กุสลธมฺม’’นฺติ. กิเลสมาร-อภิสงฺขารมาร-มจฺจุมารานํ ปวตฺติฏฺานตาย โอกํ วุจฺจติ วฏฺฏํ, ตพฺพิธุรตาย อโนกนฺติ นิพฺพานนฺติ อาห – ‘‘โอกา อโนกนฺติ วฏฺฏโต นิพฺพาน’’นฺติ.

ปรมตฺถโต สมณา วุจฺจนฺติ อริยา, สมณานํ ภาโว สามฺํ, อริยมคฺโค, เตน อรณียโต อุปคนฺตพฺพโต สามฺตฺโถ นิพฺพานนฺติ อาห – ‘‘สามฺตฺถนฺติ นิพฺพานํ, ตํ หี’’ติอาทิ. พฺรหฺมฺตฺถนฺติ เอตฺถาปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. พฺรหฺมฺเน อริยมคฺเคน. ราคกฺขโยติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิสทฺทตฺโถ. เตน ‘‘โทสกฺขโย โมหกฺขโย’’ติ ปททฺวยํ สงฺคณฺหาติ. วฏฺฏติเยวาติ วทนฺติ ‘‘ราคกฺขโย’’ติ. ปริยาเยน หิ อรหตฺตสฺส วตฺตพฺพตฺตาติ.

ปฏิปตฺติวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อฺติตฺถิยเปยฺยาลวคฺควณฺณนา

๔๑-๔๘. อปราปรํ ปริวตฺตมาเนน วตฺตสมฺปนฺเนน สํสารทฺธานปริฺาวเสเนว นิพฺพานสฺส ปตฺตพฺพตฺตา วุตฺตํ – ‘‘นิพฺพานํ ปตฺวา ปริฺาตํ นาม โหตี’’ติ. นิพฺพานํ ปตฺวาติ นิพฺพานปฺปตฺติเหตุ. เหตุอตฺโถ หิ อยํ ตฺวา-สทฺโท ยถา – ‘‘ฆตํ ปิวิตฺวา พลํ โหติ, สีหํ ทิสฺวา ภยํ โหตี’’ติ. ตสฺมาติ ยสฺมา อปริฺเยฺยปริชานนกิจฺเจน นิพฺพานสฺส ปตฺติยา อทฺธานปริฺาสิทฺธิ ายติ, ตสฺมา อุปจารวเสน นิพฺพานํ ‘‘อทฺธานปริฺา’’ติ วุจฺจติ ยถา ‘‘หิมสนฺติ สูริยํ อุคฺคเมตี’’ติ. วิชฺชาวิมุตฺติผลสจฺฉิกิริยตฺถนฺติ เอตฺถ วิชฺชาติ อคฺคมคฺควิชฺชา. วิมุตฺตีติ อคฺคมคฺคสมาธิ อธิปฺเปโต . เตสํ ผลํ อฺาติ อาห – ‘‘วิชฺชาวิมุตฺติผเลน อรหตฺตํ กถิต’’นฺติ. ยาถาวโต ชานนโต ปจฺจกฺขโต ทสฺสนโต จ าณทสฺสนนฺติ อิธ ผลนิพฺพานปจฺจเวกฺขณา อธิปฺเปตาติ อาห – ‘‘าณทสฺสเนน ปจฺจเวกฺขณา กถิตา’’ติ. เสเสหีติ ราค-วิราค-สํโยชนปฺปหาน-อนุสยสมุคฺฆาต-อทฺธานปริฺา- อาสวกฺขย-วิชฺชา-วิมุตฺติ-ผลสจฺฉิกิริยา-าณทสฺสน-อนุปาทาปรินิพฺพานปเทหิ.

อฺติตฺถิยเปยฺยาลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สูริยเปยฺยาลวคฺควณฺณนา

๔๙-๖๒. ยถา อรุณุคฺคํ สูริยุคฺคมนสฺส เอกนฺติกํ ปุพฺพนิมิตฺตํ, เอวํ กลฺยาณมิตฺตตา อริยมคฺคปาตุภาวสฺสาติ สทิสูปมา อรุณุคฺคํ กลฺยาณมิตฺตตาย. กลฺยาณมิตฺโตติ เจตฺถ อริโย, อริยมคฺโค วา ทฏฺพฺโพ สูริยปาตุภาโว วิย เตน วิธูปนียนฺธการวิธมนโต. กุสลกตฺตุกมฺยตาฉนฺโท ฉนฺทสมฺปทา อิตรฉนฺทโต สมฺปนฺนตฺตา. การาปกอปฺปมาทสฺสาติ สจฺจปฏิเวธสฺส การาปกสฺส. เอวํ สพฺพตฺเถว สมฺปทาสทฺทา วิเสสาธิคมเหตุตาย เวทิตพฺพา. อฺเนปิ อากาเรนาติ ‘‘วิเวกนิสฺสิต’’นฺติอาทิอาการโต อฺเน ‘‘ราควินยปริโยสาน’’นฺติอาทินา อากาเรน.

สูริยเปยฺยาลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. เอกธมฺมเปยฺยาลวคฺคาทิวณฺณนา

๖๓-๑๓๘. ตถาตถา วุตฺเต พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสยวเสน กถิโต, ตสฺมา ‘‘วุตฺโต เอว อตฺโถ, กสฺมา ปุน วุตฺโต’’ติ น โจเทตพฺพํ.

เอกธมฺมเปยฺยาลวคฺคาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อปฺปมาทเปยฺยาลวคฺโค

๑. ตถาคตสุตฺตวณฺณนา

๑๓๙. การาปกอปฺปมาโท นาม ‘‘อิเม อกุสลา ธมฺมา ปหาตพฺพา, อิเม กุสลา ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา’’ติ วุตฺตวชฺเชตพฺพวชฺชนสมฺปาเทตพฺพสมฺปาทนวเสน ปวตฺโต อปฺปมาโท. เอสาติ อปฺปมาโท. โลกิโยว. น โลกุตฺตโร. อยนฺติ เอสาติ จ อปฺปมาทเมว วทติ. เตสนฺติ จตุภูมกธมฺมานํ. ปฏิลาภกฏฺเนาติ ปฏิลาภาปนฏฺเน.

ตถาคตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปทสุตฺตวณฺณนา

๑๔๐. ชงฺคลานนฺติ ชงฺคลวาสีนํ. ชงฺคล-สทฺโท เจตฺถ ถทฺธภาวสามฺเน ปถวีปริยาโย, น อนุปฏฺานวิทูรเทสวาจี. เตนาห – ‘‘ปถวีตลวาสีน’’นฺติ. ปทานํ วุจฺจมานตฺตา ‘‘สปาทกปาณาน’’นฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. สโมธานนฺติ อนฺโตคธภาวํ. เตนาห – ‘‘โอธานํ อุปกฺเขป’’นฺติ, อุปเนตฺวา ปกฺขิปิตพฺพนฺติ อตฺโถ.

ปทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓-๑๐. กูฏสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๔๑-๑๔๘. วสฺสิกาย ปุปฺผํ วสฺสิกํ ยถา ‘‘อามลกิยา ผลํ อามลก’’นฺติ. มหาตลสฺมินฺติ อุปริปาสาเท. ‘‘ยานิ กานิจี’’ติ ปเทหิ อิตรานิ สมานาธิกรณานิ ภวิตุํ ยุตฺตานีติ ‘‘ปจฺจตฺเต สามิวจน’’นฺติ วตฺวา ตถา วิภตฺติวิปริณาโม กโต. ‘‘ตนฺตาวุตาน’’นฺติ ปทํ นิทฺธารเณ สามิวจนนฺติ ตตฺถ ‘‘วตฺถานี’’ติ วจนเสเสน อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

กูฏสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

อปฺปมาทวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. พลกรณียวคฺโค

๑. พลสุตฺตวณฺณนา

๑๔๙. กมฺมานิเยว กมฺมนฺตา ยถา สุตฺตนฺตา. อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคนฺติ เอตฺถ นานนฺตริยกตาย วิปสฺสนาปิ คหิตา เอว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สหวิปสฺสน’’นฺติ.

๒. พีชสุตฺตวณฺณนา

๑๕๐. ปฺจวิธมฺปิ สมูหฏฺเน พีชคาโม นาม. ตเทวาติ มูลพีชาทิ เอว. สมฺปนฺนนฺติ สหชาตมูลวนฺตํ. นีลภาวโต ปฏฺายาติ นีลภาวาปตฺติโต ปฏฺาย.

๓. นาคสุตฺตวณฺณนา

๑๕๑. พลํ คาเหนฺตีติ อตฺตโน สรีรพลํ คาเหนฺติ. ตํ ปน นาคานํ พลปฺปตฺติ เอวาติ อาห – ‘‘พลํ คณฺหนฺตี’’ติ. สมฺเภชฺชมุขทฺวารนฺติ มหาสมุทฺเทน สมฺเภทคตมหานทีนํ มุขทฺวารํ. นาคา กายํ วฑฺเฒนฺตีติอาทิ ยสฺมา จ ภควตา อุปมาวเสน อาภตํ, ตสฺมา เอวเมว โขติ เอตฺถาติอาทินา อุปมํ สํสนฺทติ. อาคเตสูติอาทีสุ ตีสุ ปเทสุ ภาเวนภาวลกฺขเณ.

๕. กุมฺภสุตฺตวณฺณนา

๑๕๓. ปติอาวมตีติ จ นิกุชฺชิตภาเวน อุทกวมโน ฆโฏ, น ตํ ปุน มุเขน คณฺหาติ. เตนาห ‘‘น อนฺโต ปเวเสตี’’ติ.

๗. อากาสสุตฺตวณฺณนา

๑๕๕. เตเนตํ วุตฺตนฺติ เตน อริยมคฺคสฺส อิชฺฌเนน เอเตสํ สพฺเพสํ โพธิปกฺขิยธมฺมานํ อิชฺฌนํ วุตฺตํ.

๘-๙-๑๐. ปมเมฆสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๕๖-๑๕๘. ปํสุรโชชลฺลนฺติ ภูมิเรณุสหชาตมลํ. วาณิชโกปเมติ วาณิชโกปมปมสุตฺเต จาปิ.

๑๑-๑๒. อาคนฺตุกสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๕๙-๑๖๐. สหวิปสฺสนสฺส อริยมคฺคสฺส ภาวนาย อิชฺฌเนน เอตํ อภิฺาปริฺเยฺยาทิธมฺมานํ อภิฺาปริชานนาทีนํ อิชฺฌนํ วุตฺตํ ขตฺติยาทีนํ วิสยอาทิกํ กโรนฺตสฺส กถาย สชฺชิตตฺตา.

พลกรณียวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. เอสนาวคฺโค

๑. เอสนาสุตฺตวณฺณนา

๑๖๑. กามานนฺติ วตฺถุกามกิเลสกามานํ. กิเลสกาโมปิ หิ กามิตนฺติ ปริกปฺปิเตน วิธินา จ อธิกราเคหิ เอสนีโย. ภวานนฺติ ติณฺณํ คตีนํ. ทิฏฺิคติกปริกปฺปิตสฺส พฺรหฺมจริยสฺส นิมิตฺตภาวโต มิจฺฉาทิฏฺิ ‘‘พฺรหฺมจริย’’นฺติ อธิปฺเปตา.

๒-๑๑. วิธาสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๖๒-๑๗๑. เสยฺโยหมสฺมีติอาทินา ตํตํวิภาเคน ธียนฺติ วิธียนฺตีติ วิธา, มานโกฏฺาสา, มานฏฺปนา วา. นีหนนฺตีติ วิพาเธนฺติ.

เอสนาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. โอฆวคฺโค

๑-๒. โอฆสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๗๒-๑๗๓. วฏฺเฏ โอหนนฺติ โอสีทาเปนฺตีติ โอฆา. รูปารูปภเวติ รูปภเว จ อรูปภเว จ รูปารูปตณฺโหปนิสฺสยา รูปารูปาวจรกมฺมนิพฺพตฺตา ขนฺธา. โยชนฏฺเน โยโค.

๓-๔. อุปาทานสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๗๔-๑๗๕. กามนวเสน อุปาทิยนโต กามุปาทานํ. เตนาห ‘‘กามคฺคหณ’’นฺติ. นามกายสฺสาติ เวทนาทีนํ จตุนฺนํ อรูปกฺขนฺธานํ. ฆฏนปพนฺธนกิเลโสติ เหตุนา ผลสฺส กมฺมวฏฺฏสฺส วิปากวฏฺเฏน ทุกฺขปฺปพนฺธสฺิตสฺส ฆฏนสฺส สมฺพชฺฌนสฺส นิพฺพตฺตกกิเลโส. อนฺตคฺคาหิกทิฏฺิ สสฺสตุจฺเฉทคาโห.

อุปาทานสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๑๐. อนุสยสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๗๖-๑๘๑. ถามคตฏฺเนาติ สตฺตสนฺตาเน ถิรภาวูปคมนภาเวน. ถามคตนฺติ จ อฺเหิ อสาธารโณ กามราคาทีนํเยว อาเวณิโก สภาโว ทฏฺพฺโพ. กามราโควาติ กามราโค เอว อปฺปหีโน. โส สติ ปจฺจยลาเภ อุปฺปชฺชนารหตาย สนฺตาเน อนุเสตีติ อนุสโย. เสเสสุปีติ ปฏิฆานุสยาทีสุ. โอรมฺภาโค วุจฺจติ กามธาตุ รูปารูปภาวโต เหฏฺาภูตตฺตา. ตตฺถ ปวตฺติยา ปจฺจยภาวโต โอรมฺภาคิยานิ ยถา ‘‘ปจฺฉิโย โคทุหโก’’ติ. สํโยเชนฺตีติ สํโยชนานิ, เหฏฺา วิย อตฺโถ วตฺตพฺโพ. อุทฺธมฺภาโค มหคฺคตภาโค, ตสฺส หิตานีติ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา น วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.

อนุสยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

โอฆวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

มคฺคสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.