📜
๒. โพชฺฌงฺคสํยุตฺตํ
๑. ปพฺพตวคฺโค
๑.หิมวนฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๘๒. พุชฺฌติ ¶ ¶ จตุสจฺจํ อริยสาวโก เอตายาติ โพธํ, ธมฺมสามคฺคี, อริยสาวโก ปน จตุสจฺจํ พุชฺฌตีติ โพธิ. องฺคาติ การณา. ยาย ธมฺมสามคฺคิยาติ สมฺพนฺโธ. ตณฺหาวเสน ปติฏฺานํ, ทิฏฺิวเสน อายูหนา. สสฺสตทิฏฺิยา ปติฏฺานํ, อุจฺเฉททิฏฺิยา อายูหนา. ลีนวเสน ปติฏฺานํ, อุทฺธจฺจวเสน อายูหนา. กามสุขานุโยควเสน ปติฏฺานํ, อตฺตกิลมถานุโยควเสน อายูหนา. โอฆตรณสุตฺตวณฺณนายํ (สํ. นิ. ๑.๑) –
‘‘กิเลสวเสน ปติฏฺานํ, อภิสงฺขารวเสน อายูหนา. ตณฺหาทิฏฺีหิ ปติฏฺานํ, อวเสสกิเลสาภิสงฺขาเรหิ อายูหนา, สพฺพากุสลาภิสงฺขารวเสน ปติฏฺานํ, สพฺพโลกิยกุสลาภิสงฺขารวเสน อายูหนา’’ติ –
วุตฺเตสุ ปกาเรสุ อิธ อวุตฺตานํ วเสน เวทิตพฺโพ. กิเลสสนฺตานนิทฺทาย อุฏฺหตีติ เอเตน สิขาปตฺตวิปสฺสนาสหคตานมฺปิ สติอาทีนํ โพชฺฌงฺคภาวํ ทสฺเสติ. จตฺตารีติอาทินา มคฺคผเลน สหคตานํ. สตฺตหิ โพชฺฌงฺเคหิ ภาวิเตหิ สจฺจปฏิเวโธ โหตีติ กถมิทํ ชานิตพฺพนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ. ฌานงฺคมคฺคงฺคาทโย วิยาติ เอเตน โพธิโพชฺฌงฺคสทฺทานํ สมุทายาวยววิสยตํ ทสฺเสติ. เสนงฺครถงฺคาทโย วิยาติ เอเตน ปุคฺคลปฺตฺติยา อวิชฺชมานปฺตฺติภาวํ ทสฺเสติ.
โพธาย สํวตฺตนฺตีติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ ‘‘การณตฺโถ องฺคสทฺโท’’ติ. พุชฺฌตีติ โพธิ, โพธิยา เอว องฺคาติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ ‘‘พุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา’’ติ. วิปสฺสนาทีนํ การณานํ พุชฺฌิตพฺพานํ สจฺจานํ อนุรูปํ ปจฺจกฺขภาเวน ปฏิมุขํ อวิปรีตํ สมฺมา พุชฺฌนฺตีติ เอวํ วตฺถุวิเสสทีปเกหิ ¶ อุปริมคฺเคหิ อนุพุชฺฌนฺตีติอาทินา วุตฺตโพธิสทฺเทหิ นิปฺปเทเสน วุตฺตํ ¶ ‘‘พุชฺฌนตาสามฺเน สงฺคณฺหาตี’’ติ. เอตฺถ จ ลีนปติฏฺาน-กามสุขลฺลิกานุโยค-อุจฺเฉทาภินิเวสานํ ธมฺมวิจย-วีริยปีติปธาน-ธมฺมสามคฺคี ปฏิปกฺโข. อุทฺธจฺจายูหนอตฺตกิลมถานุโยค-สสฺสตาภินิเวสานํ ปสฺสทฺธิสมาธิ-อุเปกฺขาปธาน-ธมฺมสามคฺคี ปฏิปกฺโข. สติ ปน อุภยตฺถาปิ อิจฺฉิตพฺพา. ตถา หิ สา สพฺพตฺถิกา วุตฺตา.
สํ-สทฺโท ปสํสายํ. ปุนเทว สุนฺทโร จ อตฺโถปีติ อาห ‘‘ปสตฺโถ สุนฺทโร จ โพชฺฌงฺโค’’ติ. อภินิพฺพตฺเตตีติ อภิวิสิฏฺภาเวน นิพฺพตฺเตติ สวิเสสภาวํ วทติ. ‘‘เอเก วณฺณยนฺตี’’ติ วตฺวา ตตฺถ ยถาวุตฺตวิเวกตฺตยโต อฺํ วิเวกทฺวยํ อุทฺธริตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เต หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ฌานกฺขเณ ตาว กิจฺจโต วิกฺขมฺภนวิเวกนิสฺสิตํ, วิปสฺสนากฺขเณ อชฺฌาสยโต ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตํ ภาเวตีติ. เตนาห – ‘‘อนุตฺตรํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามี’’ติ. ตตฺถ ตตฺถ นิจฺฉยตาย กสิณชฺฌานคฺคหเณน อนุปฺปาทานมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ.
หิมวนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. กายสุตฺตวณฺณนา
๑๘๓. ติฏฺนฺติ เอเตนาติ ิติ, การณํ. กมฺมอุตุจิตฺตาหารสฺิโต จตุพฺพิโธ ปจฺจโย ิติ เอตสฺสาติ ปจฺจยฏฺิติโก. อาหารปจฺจยสทฺทา หิ เอกตฺถา. สุภมฺปีติ กามจฺฉนฺโท ปจฺจโย, อสุเภ สุภากาเรน ปวตฺตนโต สุภนฺติ วุจฺจติ. เตน การเณน ปวตฺตนกสฺส อฺสฺส กามจฺฉนฺทสฺส นิมิตฺตตฺตา สุภนิมิตฺตนฺติ. สุภสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส สุภสฺส. อารมฺมณมฺปีติ สุภากาเรน, อิฏฺากาเรน วา คยฺหมานํ รูปาทิอารมฺมณมฺปิ สุภนิมิตฺตํ วุตฺตากาเรน. อนุปายมนสิกาโรติ อากงฺขิตสฺส หิตสุขสฺส อนุปายภูโต มนสิกาโร, ตโต เอว อุปฺปถมนสิกาโรติ อโยนิโสมนสิกาโร. ตสฺมินฺติ ยถานิทฺธาริเต กามจฺฉนฺทภูเต ตทารมฺมณภูเต จ ทุวิเธปิ สุภนิมิตฺเต. อฏฺกถายํ ปน ‘‘สุภารมฺมเณ’’อิจฺเจว วุตฺตํ. อตฺถิ, ภิกฺขเว, สุภนิมิตฺตนฺติอาทีติ อาทิ-สทฺเทน กามจฺฉนฺทนีวรณสฺส อาหารทสฺสนปาฬิ อุตฺตานาติ กตฺวา วุตฺตํ – ‘‘เอวํ สพฺพนีวรเณสุ โยชนา เวทิตพฺพา’’ติ.
ปฏิโฆปิ ¶ ปฏิฆนิมิตฺตํ ปุริมุปฺปนฺนสฺส ปจฺฉา อุปฺปชฺชนกสฺส นิมิตฺตภาวโต. ปฏิฆารมฺมณํ นาม เอกูนวีสติ อาฆาตวตฺถุภูตา สตฺตสงฺขารา. อรตีติ ปนฺตเสนาสนาทีสุ อรมณํ ¶ . อุกฺกณฺิตาติ อุกฺกณฺภาโว. ปนฺเตสูติ ทูเรสุ, วิวิตฺเตสุ วา. อธิกุสเลสูติ สมถวิปสฺสนาธมฺเมสุ. อรติ รติปฏิปกฺโข. อรติตาติ อรมณากาโร. อนภิรตีติ อนภิรตภาโว. อนภิรมณาติ อนภิรมณากาโร. อุกฺกณฺิตาติ อุกฺกณฺนากาโร. ปริตสฺสิตาติ อุกฺกณฺนวเสเนว ปริตสฺสนา.
อาคนฺตุกํ, น สภาวสิทฺธํ. กายาลสิยนฺติ นามกาเย อลสภาโว. สมฺโมหวิโนทนิยํ ปน ‘‘ตนฺทีติ ชาติอาลสิย’’นฺติ วุตฺตํ. วทตีติ เอเตน อติสีตาทิปจฺจยา สงฺโกจาปตฺตึ ทสฺเสติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ กิเลสวตฺถุวิภงฺเค (วิภ. อฏฺ. ๘๕๗). ตนฺทีติ ชาติอาลสิยํ. ตนฺทิยนาติ ตนฺทิยนากาโร. ตนฺทิมนกตาติ ตนฺทิยา อภิภูตจิตฺตตา. อลสสฺส ภาโว อาลสฺยํ. อาลสฺยายนากาโร อาลสฺยายนา. อาลสฺยายิตสฺส ภาโว อาลสฺยายิตตฺตํ. อิติ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ กิเลสวเสน กายาลสิยํ กถิตํ.
กิเลสวเสนาติ สมฺโมหวเสน. กายวินมนาติ กายสฺส วิรูปโต นมนา. ชมฺภนาติ ผนฺทนา. ปุนปฺปุนํ ชมฺภนา วิชมฺภนา. อานมนาติ ปุรโต นมนา. วินมนาติ ปจฺฉโต นมนา. สนฺนมนาติ สมนฺตโต นมนา. ปณมนาติ ยถา หิ ตนฺตโต อุฏฺิตเปสกาโร กิฺจิเทว อุปริฏฺิตํ คเหตฺวา อุชุํ กายํ อุสฺสาเปติ, เอวํ กายสฺส อุทฺธํ ปนา. พฺยาธิยกนฺติ อุปฺปนฺนพฺยาธิตา. อิติ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ กิเลสวเสน กายผนฺทนเมว กถิตํ (วิภ. อฏฺ. ๘๕๘).
ภตฺตปริฬาโหติ ภตฺตวเสน ปริฬาหุปฺปตฺติ. ภุตฺตาวิสฺสาติ ภุตฺตวโต. ภตฺตมุจฺฉาติ ภตฺตเคลฺํ. อติภุตฺตปจฺจยา หิ มุจฺฉาปตฺโต วิย โหติ. ภตฺตกิลมโถติ ภุตฺตปจฺจยา กิลนฺตภาโว. ภตฺตปริฬาโหติ ภตฺตทรโถ. กุจฺฉิปูรํ ภุตฺตวโต หิ ปริฬาหุปฺปตฺติยา อุปหตินฺทฺริโย วิย โหติ, กาโย ขิชฺชติ. กายทุฏฺุลฺลนฺติ ภุตฺตภตฺตํ นิสฺสาย กายสฺส อกมฺมฺตา.
จิตฺตสฺส ¶ ลียนากาโรติ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส สงฺโกจปฺปตฺติ. จิตฺตสฺส อกลฺยตาติ จิตฺตสฺส คิลานภาโว. คิลาโนติ อกลฺลโก วุจฺจติ. ตถา จาห ‘‘นาหํ, ภนฺเต, อกลฺลโก’’ติ. อกมฺมฺตาติ จิตฺตเคลฺสงฺขาโต อกมฺมฺนากาโร. โอลียนาติ โอลียนากาโร. อิริยาปถิกมฺปิ จิตฺตํ ยสฺส วเสน อิริยาปถํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต โอลียติ, ตสฺส ตํ อาการํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โอลียนา’’ติ. ทุติยปทํ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตํ. ลีนนฺติ อวิปฺผาริกตาย ¶ สงฺโกจปฺปตฺตํ. อิตเร ทฺเว อาการนิทฺเทสา. ถินนฺติ อวิปฺผาริกตาย อนุสฺสาหนา อสงฺคหนสงฺคหนํ. ถิยนากาโร ถิยนา. ถิยิตตฺตนฺติ ถิยิตสฺส อากาโร, อวิปฺผาริกตาติ อตฺโถ.
เจตโส อวูปสโมติ จิตฺตสฺส อวูปสนฺตตา อสนฺนิสินฺนภาโว. เตนาห – ‘‘อวูปสนฺตากาโร’’ติ. อตฺถโต ปเนตนฺติ สฺวายํ อวูปสนฺตากาโร วิกฺเขปสภาวตฺตา วิกฺเขปเหตุตาย จ อตฺถโต เอตํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจเมว.
วิจิกิจฺฉาย อารมฺมณธมฺมา นาม ‘‘พุทฺเธ กงฺขตี’’ติอาทินา อาคตอฏฺกงฺขาวตฺถุภูตา ธมฺมา. ยสฺมา วิจิกิจฺฉา พฺยาปาทาทโย วิย อนุ อนุ อุคฺคหณปจฺจยา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา กงฺขาฏฺานียํ อารมฺมณเมว ทสฺสิตํ ‘‘วิจิกิจฺฉาย อารมฺมณธมฺมา’’ติ. ยสฺมา ปุริมุปฺปนฺนา วิจิกิจฺฉา ปจฺฉา วิจิกิจฺฉาย ปจฺจโย โหติ, ตสฺมา วิจิกิจฺฉาปิ วิจิกิจฺฉาฏฺานียธมฺมา เวทิตพฺพา. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – ติฏฺนฺติ ปวตฺตนฺติ เอตฺถาติ านียา, วิจิกิจฺฉา เอว านียา วิจิกิจฺฉาฏฺานียา. อฏฺกถายํ ปน อารมฺมณสฺสปิ ตตฺถ วิเสสปจฺจยตํ อุปาทาย ‘‘กามจฺฉนฺโท วิจิกิจฺฉาติ อิเม ทฺเว ธมฺมา อารมฺมเณน กถิตา’’ติ วุตฺตํ. สุภนิมิตฺตสฺส หิ ปจฺจยภาวมตฺตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ, ตถาปิ ยถา ‘‘ปฏิฆมฺปิ ปฏิฆนิมิตฺต’’นฺติ กตฺวา ‘‘พฺยาปาโท อุปนิสฺสเยน กถิโต’’ติ วุตฺตํ, เอวํ สุภมฺปิ สุภนิมิตฺตนฺติ กตฺวา กามจฺฉนฺโท อุปนิสฺสเยน กถิโตติ สกฺกา วิฺาตุํ. เสสา ถินมิทฺธอุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจานิ. ตตฺถ ถินมิทฺธํ อฺมฺํ สหชาตาทิวเสน ปจฺจโย, ตถา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจนฺติ. อุภเยสมฺปิ อุปนิสฺสยโกฏิยา ปจฺจยภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อาห ‘‘สหชาเตน จ อุปนิสฺสเยน จา’’ติ.
ยสฺมา ¶ สติ นาม ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทินา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ อนุสฺสรณวเสน วตฺตติ, ตสฺมา เต ธมฺมา สติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา นาม. โลกุตฺตรธมฺเม จ อนุสฺสวาทิวเสน คเหตฺวา ตถา ปวตฺตเตว. เตน วุตฺตํ ‘‘สติยา’’ติอาทิ.
โกสลฺลํ วุจฺจติ ปฺา, ตโต อุปฺปนฺนา โกสลฺลสมฺภูตา. อนวชฺชสุขวิปากาติ อนวชฺชา หุตฺวา สุขวิปากา วิปจฺจนกา. ปททฺวเยน ปจฺจยโต สภาวโต กิจฺจโต ผลโต กุสลธมฺมํ ทสฺเสติ. อกุสลนิทฺเทเสปิ เอเสว นโย. สาวชฺชาติ คารยฺหา. อนวชฺชาติ อคารยฺหา. หีนา ลามกา. ปณีตา เสฏฺา. กณฺหา กาฬกา อสุทฺธา. สุกฺกา โอทาตา สุทฺธา ¶ . ปฏิภาค-สทฺโท ปเม วิกปฺเป สทิสโกฏฺาสตฺโถ, ทุติเย ปฏิปกฺขโกฏฺาสตฺโถ, ตติเย นิคฺคเหตพฺพปฏิปกฺขโกฏฺาสตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
กุสลกิริยาย อาทิกมฺมภาเวน ปวตฺตวีริยํ ธิติสภาวตาย ธาตูติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อารมฺภธาตูติ ปมารมฺภวีริย’’นฺติ. ลทฺธาเสวนํ วีริยํ พลปฺปตฺตํ หุตฺวา ปฏิปกฺขํ วิธมตีติ อาห – ‘‘นิกฺกมธาตูติ โกสชฺชโต นิกฺขนฺตตฺตา ตโต พลวตร’’นฺติ. อธิมตฺตาธิมตฺตตรานํ ปฏิปกฺขธมฺมานํ วิธมนสมตฺถํ ปฏุปฏุตราทิภาวปฺปตฺตํ โหตีติ อาห – ‘‘ปรกฺกมธาตูติ ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนตาย ตโตปิ พลวตร’’นฺติ.
ติฏฺติ ปวตฺตติ เอตฺถาติ านียา. อารมฺมณธมฺมา, ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส านียาติ ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียาติ ‘‘ปีติยา อารมฺมณธมฺมา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา อปราปรุปฺปตฺติยา ปีติปิ ตถา วตฺตพฺพตํ ลภตีติ วุตฺตํ วิสุทฺธิมคฺเค ‘‘ปีติยา เอว ตํ นาม’’นฺติ. ทรถปสฺสทฺธีติ ทรโถ กิเลสปริฬาโห, โส ปสฺสมฺภติ เอตายาติ ทรถปสฺสทฺธิ, กายปสฺสทฺธิยา เวทนาทิขนฺธตฺตยสฺส วิย รูปกายสฺสปิ ปสฺสมฺภนํ โหติ, จิตฺตปสฺสทฺธิยา จิตฺตสฺเสว ปสฺสมฺภนํ, ตโต เอเวตฺถ ภควตา ลหุตาทีนํ วิย ทุวิธตา วุตฺตา. ตถา สมาหิตาการํ สลฺลกฺเขตฺวา คยฺหมาโน สมโถว สมถนิมิตฺตํ, ตสฺส อารมฺมณภูตํ ปฏิภาคนิมิตฺตมฺปิ. วิวิธํ อคฺคํ เอตสฺสาติ พฺยคฺโค, วิกฺเขโป. ตถา หิ โส อนวฏฺานรโส ภนฺตตาปจฺจุปฏฺาโน วุตฺโต. เอกคฺคภาวโต พฺยคฺคปฏิปกฺโขติ อพฺยคฺโค, สมาธิ, โส เอว นิมิตฺตนฺติ ปุพฺเพ วิย วตฺตพฺพํ. เตนาห ‘‘ตสฺเสว เววจน’’นฺติ.
โย ¶ อารมฺมเณ อิฏฺานิฏฺาการํ อนาทิยิตฺวา คเหตพฺโพ มชฺฌตฺตากาโร, โย จ ปุพฺเพ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาวเสน อุปฺปนฺโน มชฺฌตฺตากาโร, ทุวิโธปิ โส อุเปกฺขาย อารมฺมณธมฺโมติ อธิปฺเปโตติ อาห – ‘‘อตฺถโต ปน มชฺฌตฺตากาโร อุเปกฺขาฏฺานียา ธมฺมาติ เวทิตพฺโพ’’ติ. อารมฺมเณน กถิตา อารมฺมณสฺเสว เตสํ วิเสสปจฺจยภาวโต. เสสาติ วีริยาทโย จตฺตาโร ธมฺมา. เตสฺหิ อุปนิสฺสโยว สาติสโย อิจฺฉิตพฺโพติ.
กายสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สีลสุตฺตวณฺณนา
๑๘๔. ขีณาสวสฺส โลกุตฺตรํ สีลํ นาม มคฺคผลปริยาปนฺนา สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา สีลลกฺขณปฺปตฺตา ¶ ตทฺเ เจตนาทโย. โลกิยํ ปน กิริยาพฺยากตจิตฺตปริยาปนฺนํ จาริตฺตสีลํ, วาริตฺตสีลสฺส ปน สมฺภโว เอว นตฺถิ วิรมณวเสน ปวตฺติยา อภาวโต. ‘‘ปุพฺพภาคสีลํ โลกิยสีล’’นฺติ เกจิ.
จกฺขุทสฺสนนฺติ จกฺขูหิ ทสฺสนํ. ลกฺขณสฺส ทสฺสนนฺติ สภาวธมฺมานํ สงฺขตานํ ปจฺจตฺตลกฺขณสฺส าตปริฺาย, อนิจฺจาทิสามฺลกฺขณสฺส ตีรณปริฺาย ทสฺสนํ. ปชหนฺโตปิ หิ เต ปหาตพฺพาการโต ปสฺสติ นาม. นิพฺพานสฺส ตถลกฺขณํ มคฺคผเลหิ ทสฺสนํ, ตํ ปน ปฏิวิชฺฌนํ. ฌาเนน ปถวีกสิณาทีนํ, อภิฺาหิ รูปานํ ทสฺสนมฺปิ าณทสฺสนเมว. จกฺขุทสฺสนํ อธิปฺเปตํ สวนปยิรุปาสนานํ ปรโต คหิตตฺตา. ปฺหปยิรุปาสนนฺติ ปฺหปุจฺฉนวเสน ปยิรุปาสนํ อฺกมฺมตฺถาย อุปสงฺกมนสฺส เกวลํ อุปสงฺกมเนเนว โชติตตฺตา.
อริยานํ อนุสฺสติ นาม คุณวเสน, ตตฺถาปิ ลทฺธโอวาทาวชฺชนมุเขน ยถาภูตสีลาทิคุณานุสฺสรณนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ฌานวิปสฺสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฺเสํเยว สนฺติเกติ อริเยหิ อฺเสํ สาสนิกานํเยว สนฺติเก. เตนาห – ‘‘อนุปพฺพชฺชา นามา’’ติ. อฺเสูติ สาสนิเกหิ อฺเสุ ตาปสปริพฺพาชกาทีสุ. ตตฺถ หิ ปพฺพชฺชา อริยานํ อนุปพฺพชฺชา นาม น โหตีติ วุตฺตํ.
สตสหสฺสมตฺตา ¶ อเหสุํ สมนฺตปาสาทิกตฺตา มหาเถรสฺส. ลงฺกาทีเปติ นิสฺสยสีเสน นิสฺสิตสลฺลกฺขณํ. น หิ ปพฺพชฺชา ทีปปฏิลทฺธา, อถ โข ทีปนิวาสิอาจริยปฏิลทฺธา. มหินฺท…เป… ปพฺพชนฺติ นาม ตสฺส ปริวารตาย ปพฺพชฺชายาติ.
สรตีติ ตํ โอวาทานุสาสนิธมฺมํ จินฺเตติ จิตฺเต กโรติ. วิตกฺกาหตํ กโรตีติ ปุนปฺปุนํ ปริวิตกฺกเนน ตทตฺถํ วิตกฺกนิปฺผาทิตํ กโรติ. อารทฺโธ โหตีติ สมฺปาทิโต โหติ. ตํ ปน สมฺปาทนํ ปาริปูริ เอวาติ อาห ‘‘ปริปุณฺโณ โหตี’’ติ. ตตฺถาติ ยถาวุตฺเต ธมฺเม. าณจารวเสนาติ าณสฺส ปวตฺตนวเสน. เตสํ เตสํ ธมฺมานนฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ โอวาทธมฺเม อาคตานํ รูปารูปธมฺมานํ. ลกฺขณนฺติ วิเสสลกฺขณํ สามฺลกฺขณฺจ. ปวิจินตีติ ‘‘อิทํ รูปํ เอตฺตกํ รูป’’นฺติอาทินา วิจยํ อาปชฺชติ. าณฺจ โรเปตีติ ‘‘อนิจฺจํ จลํ ปโลกํ ปภงฺคู’’ติอาทินา าณํ ปวตฺเตติ. วีมํสนํ…เป… อาปชฺชตีติ รูปสตฺตการูปสตฺตกกฺกเมน ¶ วิปสฺสนํ ปจฺจกฺขโต วิย อนิจฺจตาทีนํ ทสฺสนํ สมฺมสนํ อาปชฺชติ.
อุภยมฺเปตนฺติ ผลานิสํสาติ วุตฺตทฺวยํ. อตฺถโต เอกํ ปริยายสทฺทตฺตา. ปฏิกจฺจาติ ปเคว. มรณกาเลติ มรณกาลสมีเป. สมีปตฺเถ หิ อิทํ ภุมฺมนฺติ อาห ‘‘มรณสฺส อาสนฺนกาเล’’ติ.
โส ติวิโธ โหติ าณสฺส ติกฺขมชฺฌมุทุภาเวน. เตนาห ‘‘กปฺปสหสฺสายุเกสู’’ติอาทิ. อุปหจฺจปรินิพฺพายี นาม อายุเวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา ปรินิพฺพายนโต. ยตฺถ กตฺถจีติ อวิหาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ. สปฺปโยเคนาติ วิปสฺสนาาณสงฺขารสงฺขาเตน ปโยเคน, สห วิปสฺสนาปโยเคนาติ อตฺโถ. สุทฺธาวาสภูมิยํ อุทฺธํเยว มคฺคโสโต เอตสฺสาติ อุทฺธํโสโต. ปฏิสนฺธิวเสน อกนิฏฺภวํ คจฺฉตีติ อกนิฏฺคามี.
อวิหาทีสุ วตฺตมาโนปิ เอกํสโต อุทฺธํคมนารโห ปุคฺคโล อกนิฏฺคามี เอว นามาติ วุตฺตํ ‘‘เอโก อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามีติ ปฺจ โหนฺตี’’ติ. เตสนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ. อุทฺธํโสตภาวโต ยทิปิ เหฏฺิมาทีสุปิ อริยภูมิ นิพฺพตฺตเตว, ตถาปิ ตตฺถ ภูมีสุ อายุํ ¶ อคฺคเหตฺวา อกนิฏฺภเว อายุวเสเนว โสฬสกปฺปสหสฺสายุกตา ทฏฺพฺพา. ‘‘สตฺต ผลา สตฺตานิสํสา ปาฏิกงฺขา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘อรหตฺตมคฺคสฺส ปุพฺพภาควิปสฺสนา โพชฺฌงฺคา กถิตา’’ติ วุตฺตํ. สตฺตนฺนมฺปิ สหภาโว ลพฺภตีติ ‘‘อปุพฺพํ อจริมํ เอกจิตฺตกฺขณิกา’’ติ วุตฺตํ. ตยิทํ ปาฬิยํ ตตฺถ ตตฺถ ‘‘ตสฺมึ สมเย’’ติ อาคตวจเนน วิฺายติ, โพชฺฌงฺคานํ ปน นานาสภาวตฺตา ‘‘นานาลกฺขณา’’ติ วุตฺตํ.
สีลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. วตฺถสุตฺตวณฺณนา
๑๘๕. ‘‘สติสมฺโพชฺฌงฺโค’’ติ เอวํ เจ มยฺหํ โหตีติ สติสมฺโพชฺฌงฺโค นาม เสฏฺโ อุตฺตโม ปวโร, ตสฺมาหํ สติสมฺโพชฺฌงฺคสีเสน ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา วิหริสฺสามีติ เอวํ เจ มยฺหํ ปุพฺพภาเค โหตีติ อตฺโถ. ‘‘อปฺปมาโณ’’ติ เอวํ มยฺหํ โหตีติ สฺวายํ สติสมฺโพชฺฌงฺโค, สพฺพโส ปมาณกรกิเลสาภาวโต อปฺปมาณธมฺมารมฺมณโต จ อปฺปมาโณติ เอวํ มยฺหํ อนฺโตสมาปตฺติยํ อสมฺโมหวเสน โหติ. สุปริปุณฺโณติ ภาวนาปาริปูริยา สุฏฺุ ปริปุณฺโณติ เอวํ ¶ มยฺหํ อนฺโตสมาปตฺติยํ อสมฺโมหวเสน โหตีติ. ติฏฺตีติ ยถากาลปริจฺเฉทสมาปตฺติยา อวฏฺาเนน ตปฺปริยาปนฺนตาย สติสมฺโพชฺฌงฺโค ติฏฺติ ปฏิพนฺธวเสน. อุปฺปาทํ อนาวชฺชิตตฺตาติ อุปฺปาทสฺส อนาวชฺชเนน อสมนฺนาหาเรน. อุปฺปาทสีเสน เจตฺถ อุปฺปาทวนฺโตว สงฺขารา คหิตา. อนุปฺปาทนฺติ นิพฺพานํ อุปฺปาทาภาวโต อุปฺปาทวนฺเตหิ จ วินิสฺสฏตฺตา. ปวตฺตนฺติ วิปากปฺปวตฺตํ. อปฺปวตฺตนฺติ นิพฺพานํ ตปฺปฏิกฺเขปโต. นิมิตฺตนฺติ สพฺพสงฺขารนิมิตฺตํ. อนิมิตฺตนฺติ นิพฺพานํ. สงฺขาเรติ อุปฺปาทาทิอนามสเนน เกวลเมว สงฺขารคหณํ. วิสงฺขารนฺติ นิพฺพานํ. อาวชฺชิตตฺตา อาวชฺชิตกาลโต ปฏฺาย อารพฺภ ปวตฺติยา สติสมฺโพชฺฌงฺโค ติฏฺติ. อฏฺหากาเรหีติ อฏฺหิ การเณหิ. ชานาตีติ สมาปตฺติโต วุฏฺิตกาเล ปชานาติ. อฏฺหากาเรหีติ อุปฺปาทาวชฺชนาทีหิ เจว อนุปฺปาทาวชฺชนาทีหิ จ วุตฺตาการวิปรีเตหิ อฏฺหิ อากาเรหิ จวนฺตํ สมาปตฺติวเสน อนวฏฺานโตปิ คจฺฉนฺตํ จวตีติ เถโร ปชานาตีติ.
ผลโพชฺฌงฺคาติ ¶ ผลสมาปตฺติปริยาปนฺนา โพชฺฌงฺคา. กึ ปน เต วิสุํ วิสุํ ปวตฺตนฺตีติ อาห ‘‘ยทา หี’’ติอาทิ. สีสํ กตฺวาติ ปธานํ เสฏฺํ กตฺวา. ตทนฺวยาติ ตทนุคตา สติสมฺโพชฺฌงฺคํ อนุคจฺฉนกา. ตฺจ โข ตถา กตฺวา ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขณวเสน. เกจิ ปน ‘‘ตํ ปจฺจเวกฺขณาทิกํ กตฺวา’’ติ วทนฺติ.
วตฺถสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา
๑๘๖. โพธายาติ เอตฺถ โพโธ นาม พุชฺฌนํ, ตํ ปน กิสฺส เกนาติ ปุจฺฉนฺโต ‘‘กึ พุชฺฌนตฺถายา’’ติ วตฺวา ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มคฺเคนา’’ติอาทิมาห. มคฺเคน นิพฺพานํ พุชฺฌนตฺถาย สํวตฺตนฺติ, ปจฺจเวกฺขณาย กตกิจฺจตํ พุชฺฌนตฺถาย สํวตฺตนฺติ, ปมวิกปฺเป สจฺฉิกิริยาภิสมโย เอว ทสฺสิโตติ เตน อตุฏฺเ ‘‘มคฺเคน วา’’ติ ทุติยวิกปฺปมาห. วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตนฺติ ปเทหิ สพฺพํ มคฺคกิจฺจํ ตสฺส ผลฺจ ทสฺสิตํ. นิโรธนิสฺสิตนฺติ อิมินา นิพฺพานสจฺฉิกิริยา. กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจตีติอาทินา กิเลสปฺปหานํ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหตีติอาทินา ปจฺจเวกฺขณา ทสฺสิตา.
ภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖-๗. กุณฺฑลิยสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๘๗-๑๘๘. นิพทฺธวาสวเสน ¶ อาราเม นิสีทนสีโลติ อารามนิสาที. ปริสํ โอคาฬฺโห หุตฺวา จรตีติ ปริสาวจโรติ อาห – ‘‘โย ปนา’’ติอาทิ. เอวนฺติ อิมินากาเรน. คหณนฺติ นิคฺคหณํ. เตน ปุจฺฉาปทสฺส อตฺถํ วิวรติ. นิพฺเพนนฺติ นิคฺคหนิพฺเพนํ. เตน วิสฺสชฺชนปทสฺส อตฺถํ วิวรติ. อิมินา นเยนาติ เอเตน ‘‘อิติวาโท’’ติ เอตฺถ อิติ-สทฺทสฺส อตฺถํ ทสฺเสติ. อุปารมฺภาธิปฺปาโย วทติ เอเตนาติ วาโท, โทโส. อิติวาโท โหตีติ เอวํ อิมสฺส อุปริ วาทาโรปนํ โหติ. อิติวาทปฺปโมกฺโขติ เอวํ ตโต ปโมกฺโข โหติ ¶ . เอวํ วาทปฺปโมกฺขานิสํสํ ปเรหิ อาโรปิตโทสสฺส นิพฺเพนวเสน ทสฺเสตฺวา อิทานิ โทสปเวทนวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ ปุจฺฉาย โทโส’’ติอาทิ วุตฺตํ.
เอตฺตกํ านนฺติอาทิโต ปฏฺาย ยาว ‘‘ตีณิ สุจริตานี’’ติ เอตฺตกํ านํ. อิมํ เทสนนฺติ ‘‘อินฺทฺริยสํวโร โข’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ อิมํ เทสนํ. นาภิชฺฌายตีติ น อภิชฺฌายติ. นาภิหํสตีติ น อภิตุสฺสติ. โคจรชฺฌตฺเต ิตํ โหตีติ กมฺมฏฺานารมฺมเณ สมาธานวเสน ิตํ โหติ อวฏฺิตํ. เตนาห ‘‘สุสณฺิต’’นฺติ. สุสณฺิตนฺติ สมฺมา อวิกฺเขปวเสน ิตํ. กมฺมฏฺานวิมุตฺติยาติ กมฺมฏฺานานุยฺุชนวเสน ปฏิปกฺขโต นีวรณโต วิมุตฺติยา. สุฏฺุ วิมุตฺตนฺติ สุวิมุตฺตํ. ตสฺมึ อมนาปรูปทสฺสเน น มงฺกุ วิลกฺโข น โหติ. กิเลสวเสน โทสวเสน. อฏฺิตจิตฺโต อถทฺธจิตฺโต. โกเวเสน หิ จิตฺตํ ถทฺธํ โหติ, น มุทุกํ. อทีนมานโสติ โทมนสฺสวเสน โย ทีนภาโว, ตทภาเวน นิทฺโทสมานโส. อปูติจิตฺโตติ พฺยาปชฺชาภาเวน สีติภูตจิตฺโต.
อิเมสุ ฉสุ ทฺวาเรสุ อฏฺารส ทุจฺจริตานิ โหนฺติ ปจฺเจกํ กายวจีมโนทุจฺจริตเภเทน. ตานิ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเตติ นยทานมตฺตเมตํ. เตน ‘‘อนิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต โทสํ อุปฺปาเทนฺตสฺสา’’ติอาทินา ติวิธทุจฺจริตํ นีหริตฺวา วตฺตพฺพํ, ตถา ‘‘มชฺฌตฺตารมฺมเณ โมหํ อุปฺปาเทนฺตสฺสา’’ติอาทินา จ. มโนทุจฺจริตาทิสามฺเน ปน ตีณิเยว ทุจฺจริตานิ โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ.
ปฺตฺติวเสนาติ วตฺถุํ อนามสิตฺวา ปิณฺฑคหณมุเขน เกวลํ ปฺตฺติวเสเนว. ภาวนาปฏิสงฺขาเนติ ภาวนาสิทฺเธ ปฏิสงฺขาเน, ภาวนาย ปฏิสงฺขาเน วาติ อตฺโถ. อิมานีติ ยถาวุตฺตานิ ฉทฺวารารมฺมณานิ. ทุจฺจริตานีติ ทุจฺจริตการณานิ. อปฺปฏิสงฺขาเน ิตสฺส ทุจฺจริตานิ ¶ สุจริตานิ กตฺวา. ปริณาเมตีติ ปริวตฺเตติ ทุจฺจริตานิ ตตฺถ อนุปฺปาเทตฺวา สุจริตานิ ¶ อุปฺปาเทนฺโต. เอวนฺติ วุตฺตปฺปกาเรน. อินฺทฺริยสํวโร…เป… เวทิตพฺโพ อินฺทฺริยสํวรสมฺปาทนวเสน ติณฺณํ สุจริตานํ สิชฺฌนโต. เตนาห ‘‘เอตฺตาวตา’’ติอาทิ. เอตฺตาวตาติ อาทิโต ปฏฺาย ยาว ‘‘ตีณิ สุจริตานิ ปริปูเรนฺตี’’ติ ปทํ, เอตฺตาวตา. สีลานุรกฺขกํ อินฺทฺริยสํวรสีลนฺติ จตุปาริสุทฺธิสีลสฺส อนุรกฺขกํ อินฺทฺริยสํวรสีลํ กถิกํ. กถํ ปน ตเทว ตสฺส อนุรกฺขกํ โหตีติ? อปราปรุปฺปตฺติยา อุปนิสฺสยภาวโต.
ตีณิ สีลานีติ อินฺทฺริยสํวร-อาชีวปาริสุทฺธิ-ปจฺจยสนฺนิสฺสิต-สีลานิ. โลกุตฺตรมิสฺสกาติ โลกิยาปิ โลกุตฺตราปิ โหนฺตีติ อตฺโถ. สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานนฺติ โลกุตฺตรานํ สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ. มูลภูตา สติปฏฺานา ปุพฺพภาคา, เต สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘จตฺตาโร โข, กุณฺฑลิย, สติปฏฺานา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺตี’’ติ. เตปีติ ยถาวุตฺตสติปฏฺานา. สติปฏฺานมูลกา โพชฺฌงฺคาติ โลกิยสติปฏฺานมูลกา โพชฺฌงฺคาว. ปุพฺพภาคาวาติ เอตฺถ เกจิ ‘‘ปุพฺพภาคา จา’’ติ ปาํ กตฺวา ‘‘ปุพฺเพว โลกุตฺตรา ปุพฺพภาคา จา’’ติ อตฺถํ วทนฺติ. วิชฺชาวิมุตฺติมูลกาติ ‘‘สตฺต โข, กุณฺฑลิย, โพชฺฌงฺคา ภาวิตา พหุลีกตา วิชฺชาวิมุตฺตึ ปริปูเรนฺตี’’ติ เอวํ วุตฺตา โพชฺฌงฺคา โลกุตฺตราว วิชฺชาวิมุตฺติสหคตภาวโต.
กุณฺฑลิยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อุปวานสุตฺตวณฺณนา
๑๘๙. ปจฺจตฺตนฺติ กรณนิทฺเทโส อยนฺติ อาห – ‘‘อตฺตนาวา’’ติ. กุรุมาโนเยวาติ อุปฺปาเทนฺโต เอว. กมฺมฏฺานวิมุตฺติยา สุฏฺุ วิมุตฺตนฺติ กมฺมฏฺานมนสิกาเรน นีวรณานํ ทูรีภาวโต เตหิ สุฏฺุ วิมุตฺตํ. อตฺถํ กริตฺวาติ ภาวนามนสิการํ อุตฺตมํ กตฺวา. ‘‘มหา วต เม อยํ อตฺโถ อุปฺปนฺโน’’ติ อตฺถิโก หุตฺวา.
๙. ปมอุปฺปนฺนสุตฺตวณฺณนา
๑๙๐. ตถาคตสฺส ปาตุภาวาติอาทินา พุทฺธุปฺปาทกาเล เอว โพชฺฌงฺครตนปฏิลาโภติ ทสฺเสติ.
ปพฺพตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. คิลานวคฺโค
๑-๓. ปาณสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๙๒-๑๙๔. เยสนฺติ ¶ ¶ เยสํ สตฺตานํ. จตฺตาโร อิริยาปถา อตฺถิ ลพฺภนฺติ ตทุปคสรีราวยวลาเภน. เอตนฺติ ‘‘จตฺตาโร อิริยาปเถ กปฺเปนฺตี’’ติ เอตํ วจนํ. ‘‘วิเวกนิสฺสิต’’นฺติอาทิวจนโต ‘‘สหวิปสฺสนเก มคฺคโพชฺฌงฺเค’’อิจฺเจว วุตฺตํ. ทุติยตติยานิ อุตฺตานตฺถาเนว เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา.
๔-๑๐. ปมคิลานสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๙๕-๒๐๑. วิสุทฺธํ อโหสิ วิสภาคธาตุกฺโขภํ วูปสเมนฺตํ. เตนาห – ‘‘โปกฺขรปตฺเต …เป… วินิวตฺติตฺวา คโต’’ติ. เอเสว นโย ปาฬิโต อตฺถโต จ จตุตฺเถน ปฺจมฉฏฺานํ สมานตฺตา. วิสรุกฺขวาตสมฺผสฺเสนาติ วิสรุกฺขสนฺนิสฺสิตวาตสมฺผสฺเสน. มนฺทสีตชโรติ มุทุโก สีตชโร. เสสนฺติ วุตฺตาวเสสํ. สพฺพตฺถาติ สตฺตมาทีสุ จตูสุ.
คิลานวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อุทายิวคฺโค
๑-๒. โพธายสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๐๒-๒๐๓. กิตฺตเกน นุ โข การเณน พุชฺฌนกองฺคา นาม วุจฺจนฺติ พุชฺฌนกสฺส ปุคฺคลสฺส องฺคาติ วตฺตพฺพตํ ลภนฺติ. มิสฺสกโพชฺฌงฺคา กถิตา สหวิปสฺสนา มคฺคโพชฺฌงฺคา กถิตาติ กตฺวา. ธมฺมปริจฺเฉโท กถิโต คณนามตฺเตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา วุตฺตตฺตา น ภูมนฺตรปริจฺเฉโท, วิปสฺสนาทิปริจฺเฉโท วา.
๓-๕. านิยสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๐๔-๒๐๖. กามราเคน ¶ คธิตพฺพฏฺานภูตา กามราคฏฺานิยาติ อาห ‘‘อารมฺมณธมฺมาน’’นฺติ. ‘‘มนสิการพหุลีการา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘อารมฺมเณเนว กถิต’’นฺติ ¶ วุตฺตํ. วุตฺตปริจฺเฉโทติ เอเตน น เกวลํ อารมฺมณวเสเนว, อถ โข อุปนิสฺสยวเสนเปตฺถ อตฺโถ ลพฺภตีติ ทสฺเสติ. ปมวคฺคสฺส หิ ทุติเย สุตฺเต อุปนิสฺสยวเสเนว อตฺโถ ทสฺสิโต. มิสฺสกโพชฺฌงฺคา กถิตา อวิภาเคเนว กถิตตฺตา. อปริหานิเยติ ตีหิ สิกฺขาหิ อปริหานาวเห.
๖-๗. ตณฺหกฺขยสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๐๗-๒๐๘. ‘‘โส มํ ปุจฺฉิสฺสตี’’ติ อธิปฺปาเยน ภควตา โอสาปิตเทสนํ. ปตฺถฏตฺตา ภาวนาปาริปูริยา วิตฺถาริตํ คตตฺตา. มหนฺตภาวนฺติ ภาวนาวเสเนว มหตฺตํ คตตฺตา. ตโต เอว วฑฺฒิปฺปมาณา. นีวรณวิคเม สมฺภวโต ปจฺจยโต พฺยาปาโท วิคโต โหตีติ อาห – ‘‘นีวรณานํ ทูรีภาเวน พฺยาปาทวิรหิตตฺตา’’ติ. ตณฺหามูลกนฺติ ตณฺหาปจฺจยํ. ยฺหิ ตณฺหาสหคตํ อสหคตมฺปิ ตณฺหํ อุปนิสฺสาย นิปฺผนฺนํ, สพฺพํ ตํ ตณฺหามูลกํ. ปหียติ อนุปฺปาทปฺปหาเนน. ตณฺหาทีนํเยว ขยา, น เตสํ สงฺขารานํ ขยา. เอเตหิ ตณฺหกฺขยาทิปเทหิ.
๘. นิพฺเพธภาคิยสุตฺตวณฺณนา
๒๐๙. นิพฺพิชฺฌนฺตีติ นิพฺเพธา, นิพฺพิชฺฌนธมฺมา ธมฺมวินยาทโย, ตปฺปริยาปนฺนตาย นิพฺเพธภาเค คโต นิพฺเพธภาคิโย, ตํ นิพฺเพธภาคิยํ. เตนาห ‘‘นิพฺพิชฺฌนโกฏฺาสิย’’นฺติ. ภาเวตฺวา ิเตน จิตฺเตน. วิปสฺสนามคฺคมฺปิ คเหตฺวา ‘‘มคฺคโพชฺฌงฺคา มิสฺสกา’’ติ วุตฺตา. เตหีติ โพชฺฌงฺเคหิ ภาวิตํ จิตฺตํ. เต วา โพชฺฌงฺเค ภาเวตฺวา ิตํ จิตฺตํ นาม ผลจิตฺตํ, ตสฺมา นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรเมว. ตมฺปีติ ผลจิตฺตมฺปิ มคฺคานนฺตรตาย มคฺคนิสฺสิตํ กตฺวา มิสฺสกเมว กเถตุํ วฏฺฏติ ‘‘โพธาย สํวตฺตนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา.
๙. เอกธมฺมสุตฺตวณฺณนา
๒๑๐. สํโยชนสงฺขาตา วินิพนฺธาติ กามราคาทิสํโยชนสฺิตา พนฺธนา. ปรินิฏฺเปตฺวา คหณาติ คิลิตฺวา วิย ปรินิฏฺเปตฺวา คหณาการา.
๑๐. อุทายิสุตฺตวณฺณนา
๒๑๑. พหุกตํ ¶ ¶ วุจฺจติ พหุกาโร พหุมาโน, นตฺถิ เอตสฺส พหุกตนฺติ อพหุกโต, อกตพหุมาโน. ธมฺโม อุปฺปชฺชมาโน อุกฺกุชฺชนฺโต วิย นิรุชฺฌมาโน อวกุชฺชนฺโต วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อุกฺกุชฺชํ วุจฺจติ อุทโย, อวกุชฺชํ วโย’’ติ. ปริวตฺเตนฺโตติ อนิจฺจาติปิ ทุกฺขาติปิ อนตฺตาติปิ. ‘‘เอโส หิ เต อุทายิ มคฺโค ปฏิลทฺโธ, โย เต…เป… ตถตฺตาย อุปเนสฺสตี’’ติ ปริโยสาเน ภควโต วจนฺเจตฺถ สาธกํ ทฏฺพฺพํ. เตน เตนากาเรน วิหรนฺตนฺติ เยน สมฺมสนากาเรน วิปสฺสนาวิหาเรน วิหรนฺตํ. ตถาภาวายาติ ขีณาสวภาวปจฺจเวกฺขณาย. เตนาห – ‘‘ขีณา ชาตีติ…เป… ตํ ทสฺเสนฺโต เอวมาหา’’ติ.
อุทายิวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. นีวรณวคฺโค
๓-๔. อุปกฺกิเลสสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๑๔-๒๑๕. น จ ปภาวนฺตนฺติ น จ ปภาสมฺปนฺนํ. ปภิชฺชนสภาวนฺติ ตาเปตฺวา ตาลเน ปภงฺคุตํ. อวเสสํ โลหนฺติ วุตฺตาวเสสํ ชาติโลหํ, วิชาติโลหํ, กิตฺติมโลหนฺติ ปเภทํ สพฺพมฺปิ โลหํ. อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนนาติ เอตฺถ นนุ โลกิยกุสลจิตฺตสฺสปิ สุวิสุทฺธสฺส อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนน อุปกฺกิเลสตาติ? สจฺจเมตํ, ยสฺมึ ปน สนฺตาเน นีวรณานิ ลทฺธปติฏฺานิ, ตตฺถ มหคฺคตกุสลสฺสปิ อสมฺภโว, ปเคว โลกุตฺตรกุสลสฺส, ปริตฺตกุสลํ ปน ยถาปจฺจยํ อุปฺปชฺชติ. นีวรเณ หิ วูปสนฺเต สนฺตาเน อุปฺปตฺติยา อปริสุทฺธํ โหติ, อุปกฺกิลิฏฺํ นาม โหติ, อปริสุทฺธทีปกปลฺลิกวฏฺิเตลาทิสนฺนิสฺสโย ทีโป วิย, อปิจ นิปฺปริยายโต อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนเนว เตสํ อุปกฺกิเลสตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยทคฺเคน หี’’ติอาทิมาห. อารมฺมเณ วิกฺขิตฺตปฺปตฺติวเสน จุณฺณวิจุณฺณตา เวทิตพฺพา. น อาวรนฺตีติ กุสลธมฺเม อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทานวเสน น อาวรนฺติ, อถ โข เตสํ อุปฺปตฺติยา โหนฺติ. น ปฏิจฺฉาเทนฺตีติ น ¶ วินนฺธนฺติ. จตุภูมกจิตฺตสฺสาติ จตุตฺถภูมกกุสลจิตฺตสฺส อนุปกฺกิเลสา, เตหิ อกิลิสฺสนโต.
๘. อาวรณนีวรณสุตฺตวณฺณนา
๒๑๙. ปฺา ¶ ทุพฺพลา โหติ, น พลวตี ปฏิปกฺเขน อุปกฺกิลิฏฺภาวโต. เตนาห ‘‘มนฺทา อวิสทา’’ติ.
ปฺจ นีวรณา ทูเร โหนฺติ อาวรณาภาวโต. ตเมว ปีตินฺติ สปฺปายธมฺมสวเน อุปฺปนฺนํ ปีตึ. ตสฺสา ตทา อุปฺปนฺนาการสลฺลกฺขเณน อวิชหนฺโต ปุนปฺปุนํ ตสฺสา นิพฺพตฺตเนน. เตนาห ‘‘ปฺจ นีวรเณ วิกฺขมฺเภตฺวา’’ติ. อิทํ สนฺธายาติ เอตฺตเก ทิวเสปิ น วินสฺสนฺติ, สา ธมฺมปีติ ลทฺธปจฺจยา หุตฺวา วิเสสาวหาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย เอตํ ‘‘อิมสฺส ปฺจ นีวรณา ตสฺมึ สมเย น โหนฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปีติปาโมชฺชปกฺขิยาติ ปีติปาโมชฺชปจฺจยา. นสฺสนฺตีติ นิโรธปจฺจยวเสน ปวตฺตนโต นสฺสนฺติ. สภาคปจฺจยวเสน ปุน อุปฺปชฺชนฺตาปิ…เป… วุจฺจติ กิจฺจสาธนวเสน ปวตฺตนโต.
๙. รุกฺขสุตฺตวณฺณนา
๒๒๐. อภิรุหนกาติ สมีปรุกฺเข อภิภวิตฺวา รุหนกา. อฏฺิกจฺฉโกติ อฏฺิพหุลกจฺฉโก. กปิถนสทิสผลตฺตา กปิตฺถโนติ ลทฺธนาโม.
๑๐. นีวรณสุตฺตวณฺณนา
๒๒๑. อนฺธภาวกรณา ปฺาจกฺขุสฺส วิพนฺธนโต. ตถา หิ เต ‘‘อจกฺขุกรณา ปฺานิโรธิกา’’ติ วุตฺตา. วิหนติ วิพาธตีติ วิฆาโต, ทุกฺขนฺติ อาห ‘‘วิฆาตปกฺขิยาติ ทุกฺขปกฺขิกา’’ติ. นิพฺพานตฺถาย น สํวตฺตนฺตีติ อนิพฺพานสํวตฺตนิกา. มิสฺสกโพชฺฌงฺคาว กถิตา ปุพฺพภาคิกานํ กถิตตฺตา.
นีวรณวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จกฺกวตฺติวคฺโค
๑. วิธาสุตฺตวณฺณนา
๒๒๒. วิธียนฺตีติ ¶ ¶ วิธา, มานาทิภาคา โกฏฺาสาติ อาห ‘‘ตโย มานโกฏฺาสา’’ติ. ตถา ตถา วิทหนโตติ ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินา เตน เตนากาเรน วิทหนโต ปนโต, เปตพฺพโต วา.
๒. จกฺกวตฺติสุตฺตวณฺณนา
๒๒๓. สิริสมฺปตฺติยา ราชติ ทิปฺปติ โสภตีติ ราชา, ทานปิยวจนอตฺถจริยาสมานตฺตตาสงฺขาเตหิ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ. รฺเชตีติ รเมติ. อพฺภุคฺคตายาติ อุทีริตา นิพฺพตฺติโต ตตฺถ ตตฺถ คจฺฉนโต. จกฺกํ วตฺเตตีติ จกฺกรตนํ ปวตฺเตติ. เทวฏฺานนฺติ ปูชนียเทวฏฺานํ. จิตฺตีกตฏฺเนาติ ปูชนียภาเวน. อคฺโฆ นตฺถิ จิรกาลสมฺภวปฺุานุภาวสิทฺธรตนสพฺภาวโต. อฺเหิ จกฺกวตฺติโน ปริคฺคหภูตรตเนหิ. โลเกติ มนุสฺสโลเก. เตน ตทฺโลกํ นิวตฺเตติ. วิชฺชมานคฺคหเณน อตีตานาคตํ นิวตฺเตติ. พุทฺธา จ กทาจิ กรหจิ อุปฺปชฺชนฺติ จกฺกวตฺติโนปิ เยภุยฺเยน ตสฺมึเยว อุปฺปชฺชนโตติ อธิปฺปาโย. อโนมสฺสาติ อลามกสฺส อุกฺกฏฺสฺส. เสสานิ รตนานิ.
ตตฺราติ วากฺโยปฺาสเน นิปาโต, ตสฺมึ ปาตุภาววจเน. ‘‘อยุตฺต’’นฺติ วตฺวา ตตฺถ อธิปฺปายํ วิวรนฺโต ‘‘อุปฺปนฺนํ หี’’ติอาทิมาห. เตหิ รตเนหิ จกฺกวตฺตนนิยมาเปกฺขตาย จกฺกวตฺติวจนสฺส. นิยเมนาติ เอกนฺเตน. วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ ภาวินิ ภูเต วิย อุปจาโรติ ยถา – ‘‘อคมา ราชคหํ พุทฺโธ’’ติ (สุ. นิ. ๔๑๐). ลทฺธนามสฺสาติ จกฺกวตฺตีติ โลเก ลทฺธสมฺสฺส ปตฺถนียสฺส ปุริสวิเสสสฺส. มูลุปฺปตฺติวจนโตปีติ ‘‘จกฺกวตฺติสฺส ปาตุภาวา’’ติ เอตสฺส ปมุปฺปตฺติยา วจนโตปิ. อิทานิ ตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘โย หี’’ติอาทิมาห. โย หิ จกฺกวตฺติราชา, ตสฺส อุปฺปตฺติยา จกฺกรตนสฺส อุปฺปชฺชนโต จกฺกวตฺตีติ เอวํ นามํ อุปฺปชฺชติ. ‘‘จกฺกํ วตฺเตสฺสตี’’ติ อิทํ ปน นิยามํ อนเปกฺขิตฺวา ตสฺส อุปฺปชฺชตีติ รตนานุปฺปตฺตึ ¶ คเหตฺวา วุตฺตนยโต สฺา อุปฺปชฺชติ ‘‘จกฺกวตฺตี’’ติ. เอกเมวาติ จกฺกรตนเมว ปมํ ปาตุภวติ. ยสฺมึ ภูเต รฺโ จกฺกวตฺติสมฺา, อถ ปจฺฉา ¶ รตนานิ ปาตุภวนฺตีติ พหูนํ ปาตุภาวํ อุปาทาย พหุลวจนโตปิ เอตํ ‘‘จกฺกวตฺติสฺส ปาตุภาวา รตนานํ ปาตุภาโว’’ติ วุตฺตํ. อยํ เหตุกตฺตุสฺิโต อตฺถเภโท. ปาตุภาวาติ ปาตุภาวโต. ปฺุสมฺภาโร ภินฺนสนฺตานตาย รตนานมฺปิ ปริยาเยน อุปนิสฺสยเหตูติ วุตฺตํ. ยุตฺตเมเวตํ ยถาวุตฺตยุตฺติยุตฺตตฺตา.
วตฺตพฺพภูโต อธิปฺปาโย เอตสฺส อตฺถีติ อธิปฺปาโย, อตฺถนิทฺเทโส, สงฺเขปโต อธิปฺปาโย สงฺเขปาธิปฺปาโย. จกฺกรตนานุภาเวน จกฺกวตฺติสฺสริยสฺส สิชฺฌนโต ‘‘ทาตุํ สมตฺถสฺสา’’ติ วุตฺตํ. โยชนปฺปมาเณ ปเทเส ปวตฺตตฺตา โยชนปฺปมาณํ อนฺธการํ. อติทีฆาติรสฺสตาทึ ฉพฺพิธํ โทสํ วิวชฺเชตฺวา ิตสฺสาติ วจนเสโส.
สพฺเพสํ จตุภูมกธมฺมานํ ปุเรจรํ กุสลานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสนวเสน ปวตฺตนโต. พุทฺธาทีหิปิ อปฺปหานียตาย มหนฺตธมฺมสภาวตฺตา ธมฺมกาเย จ เชฏฺกฏฺเน ธมฺมกายูปปนฺนํ. ปฺาปาสาทตาย จสฺส อุปริคตฏฺเน อจฺจุคฺคตํ. วิตฺถตฏฺเน วิปุลํ. มหนฺตตาย มหนฺตํ. อนาทิกาลภาวิตสฺส กิเลสสนฺตานสฺส ขเณเนว วิทฺธํสนโต สีฆํ ลหุ ชวนฺติ ปริยายา. โพชฺฌงฺคธมฺมปริยาปนฺนตฺตา หิ วุตฺตํ ‘‘เอกนฺต-กุสลตฺตา’’ติ. สมฺปยุตฺตวเสน ปีติยา อาโลกวิทฺธํสนภาววเสนาติ วุตฺตํ ‘‘สหชาตปจฺจยาที’’ติอาทิ. สพฺพสงฺคาหิกธมฺมปริจฺเฉโทติ จตุภูมกตฺตา สพฺพสงฺคาหโก โพชฺฌงฺคธมฺมปริจฺเฉโท กถิโต.
๔-๑๐. ทุปฺปฺสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๒๕-๒๓๑. เอฬํ วุจฺจติ โทโส, เอเฬน มูโค วิยาติ เอฬมูโคติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มุเขน วาจ’’นฺติอาทิมาห.
จกฺกวตฺติวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สากจฺฉวคฺโค
๑. อาหารสุตฺตวณฺณนา
๒๓๒. ปุริมนยโตติ ¶ ¶ ‘‘สติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียานํ ธมฺมาน’’นฺติอาทินา อาคตนยโต. เอวนฺติ อิทานิ วุจฺจมานากาเรน. สติ จ สมฺปชฺฺจ สติสมฺปชฺํ. สติปธานํ วา อภิกฺกนฺตาทีสุ สตฺถกภาวปริคฺคณฺหกาณํ สติสมฺปชฺํ. ตํ สพฺพตฺถ สโตการีภาวาวหตฺตา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตติ. ยถา จ ปจฺจนีกธมฺมปฺปหานํ อนุรูปธมฺมเทสนา จ อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย โหติ, เอวํ สติรหิตปุคฺคลวชฺชนา สโตการีปุคฺคลเสวนา จ ตตฺถ จ ยุตฺตปยุตฺตตา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย โหตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘สติสมฺปชฺ’’นฺติอาทินา. อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ. ตถา หิ อรหาว ‘‘สติเวปุลฺลปฺปตฺโต’’ติ วุจฺจติ.
ธมฺมานํ, ธมฺเมสุ วา วิจโย, โส เอว เหฏฺา วุตฺตนเยน สมฺโพชฺฌงฺโค, ตสฺส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส. ปริปุจฺฉกตาติ อาจริยํ ปยิรุปาสิตฺวา ปฺจปิ นิกาเย สหฏฺกถาย ปริโยคาเหตฺวา ยํ ยํ ตตฺถ คณฺิฏฺานํ, ตสฺส ตสฺส ‘‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ อิมสฺส โก อตฺโถ’’ติ เอวํ ขนฺธาทีสุ อตฺถปุจฺฉกภาโว. เตนาห ‘‘ขนฺธ…เป… พหุลตา’’ติ.
วตฺถุวิสทกิริยาติ จิตฺตเจตสิกานํ ปวตฺติฏฺานภาวโต สรีรํ ตปฺปฏิพทฺธานิ จ จีวราทีนิ อิธ ‘‘วตฺถูนี’’ติ อธิปฺเปตานิ, ตานิ ยถา จิตฺตสฺส สุขาวหานิ โหนฺติ, ตถา กรณํ เตสํ วิสทภาวกรณํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อชฺฌตฺติกพาหิราน’’นฺติอาทิ. อุสฺสนฺนโทสนฺติ วาตาทิอุสฺสนฺนโทสํ. เสทมลมกฺขิตนฺติ เสเทน เจว ชลฺลิกาสงฺขาเตน สรีรมเลน จ มกฺขิตํ. จ-สทฺเทน อฺมฺปิ สรีรสฺส จ จิตฺตสฺส จ ปีฬาวหํ สงฺคณฺหาติ. เสนาสนํ วาติ วา-สทฺเทน ปตฺตาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อวิสเท สติ, วิสยภูเต วา. กถํ ภาวนมนุยุตฺตสฺส ตานิ วิสโยติ? อนฺตรนฺตรา ปวตฺตนกจิตฺตุปฺปาทวเสน เอวํ วุตฺตํ. เต หิ จิตฺตุปฺปาทา จิตฺเตกคฺคตาย อิชฺฌนฺติยาปิ อปริสุทฺธภาวาย สํวตฺตนฺติ. จิตฺตเจตสิเกสุ นิสฺสยาทิปจฺจยภูเตสุ. าณมฺปีติ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑเน. เตน น เกวลํ ตํ วตฺถุเยว ¶ , อถ โข ตสฺมึ อปริสุทฺเธ าณมฺปิ อปริสุทฺธํ โหตีติ นิสฺสยาปริสุทฺธิยา นิสฺสิตาปริสุทฺธิ วิย วิสยสฺส อปริสุทฺธตาย วิสยีนํ อปริสุทฺธึ ทสฺเสติ อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ.
สมภาวกรณํ ¶ กิจฺจโต อนูนาธิกภาวกรณํ. ยถาปจฺจยํ สทฺเธยฺยวตฺถุสฺมึ อธิโมกฺขกิจฺจสฺส ปฏุตรภาเวน ปฺาย อวิสทตาย วีริยาทีนฺจ อนุพลปฺปทานสิถิลตาทินา สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ โหติ. เตนาห ‘‘อิตรานิ มนฺทานี’’ติ. ตโตติ ตสฺมา สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาวโต อิตเรสฺจ มนฺทตฺตา. โกสชฺชปกฺเข ปติตุํ อทตฺวา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปคฺคณฺหนํ อนุพลปฺปทานํ ปคฺคโห, ปคฺคหกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกตีติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา านํ, อนิสฺสชฺชนํ วา อุปฏฺานํ, วิกฺเขปปฏิปกฺโข. เยน วา สมฺปยุตฺตา อวิกฺขิตฺตา โหนฺติ, โส อวิกฺเขโป. รูปคตํ วิย จกฺขุนา เยน ยาถาวโต วิสยสภาวํ ปสฺสติ, ตํ ทสฺสนกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ พลวตา สทฺธินฺทฺริเยน อภิภูตตฺตา. สหชาตธมฺเมสุ หิ อินฺทฏฺํ กโรนฺตานํ สห ปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ เอกรสตาวเสเนว อตฺถสิทฺธิ, น อฺถา. ตสฺมาติ วุตฺตเมวตฺถํ การณภาเวน ปจฺจามสติ. ตนฺติ สทฺธินฺทฺริยํ.
ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณนาติ ยสฺส สทฺเธยฺยวตฺถุโน อุฬารตาทิคุเณ อธิมุจฺจนสฺส สาติสยปฺปวตฺติยา สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ ชาตํ, ตสฺส ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตาทิวิภาคโต ยาถาวโต วีมํสเนน. เอวฺหิ เอวํธมฺมตานเยน สภาวสรสโต ปริคฺคยฺหมาเน สวิปฺผาโร อธิโมกฺโข น โหติ – ‘‘อยํ อิเมสํ ธมฺมานํ สภาโว’’ติ ปฺาพฺยาปารสฺส สาติสยตฺตา. ธุริยธมฺเมสุ หิ ยถา สทฺธาย พลวภาเว ปฺาย มนฺทภาโว โหติ, เอวํ ปฺาย พลวภาเว สทฺธาย มนฺทภาโว โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตํ ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน…เป… หาเปตพฺพ’’นฺติ. ตถา อมนสิกรเณนาติ เยนากาเรน ภาวนมนุยฺุชนฺตสฺส สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ ชาตํ, เตนากาเรน ภาวนํ นานุยฺุชเนนาติ วุตฺตํ โหติ. อิธ ทุวิเธน สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาโว อตฺตโน วา ปจฺจยวิเสเสน กิจฺจุตฺตริยโต วีริยาทีนํ วา มนฺทกิจฺจตาย. ตตฺถ ปมวิกปฺเป หาปนวิธิ ทสฺสิโต, ทุติยวิกปฺเป ปน ยถา มนสิกโรโต วีริยาทีนํ มนฺทกิจฺจตาย สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ ชาตํ, ตถา อมนสิกาเรน วีริยาทีนํ ปฏุตรภาวาวเหน มนสิกาเรน สทฺธินฺทฺริยํ เตหิ ¶ สมตํ กโรนฺเตน หาเปตพฺพํ. อิมินา นเยน เสสินฺทฺริเยสุปิ หาปนวิธิ เวทิตพฺโพ.
วกฺกลิตฺเถรวตฺถูติ โส หิ อายสฺมา สทฺธาธิมุตฺโต ตตฺถ จ กตาธิกาโร สตฺถุ รูปกายทสฺสเน ปสุโต เอว หุตฺวา วิหรนฺโต สตฺถารา – ‘‘กึ เต, วกฺกลิ, อิมินา ปูติกาเยน ทิฏฺเน, โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๘๗) โอวทิยมาโน กมฺมฏฺาเน นิโยชิโตปิ ตํ อนนุยฺุชนฺโต ปณามิโต อตฺตานํ ¶ วินิปาเตตุํ ปปาตฏฺานํ อภิรุหิ. อถ นํ สตฺถา ยถานิสินฺโนว โอภาสวิสฺสชฺชเนน อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา –
‘‘ปาโมชฺชพหุโล ภิกฺขุ, ปสนฺโน พุทฺธสาสเน;
อธิคจฺเฉ ปทํ สนฺตํ, สงฺขารูปสมํ สุข’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๘๑) –
คาถํ วตฺวา ‘‘เอหิ, วกฺกลี’’ติ อาห. โส เตน วจเนน อมเตเนว อภิสิตฺโต หฏฺตุฏฺโ หุตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปสิ, สทฺธาย พหุลภาวโต วิปสฺสนาวีถึ นาโรหติ. ตํ ตฺวา ภควา อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนาย กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา อทาสิ. โส สตฺถารา ทินฺนนเยน วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘วกฺกลิตฺเถรวตฺถุ เจตฺถ นิทสฺสน’’นฺติ. เอตฺถาติ สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตภาเว เสสินฺทฺริยานํ สกิจฺจากรเณ.
อิตรกิจฺจเภทนฺติ อุปฏฺานาทิกิจฺจวิเสสํ. ปสฺสทฺธาทีติ อาทิ-สทฺเทน สมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. หาเปตพฺพนฺติ ยถา สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาโว ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน หายติ, เอวํ วีริยินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตา ปสฺสทฺธิยาทิภาวนาย หายติ สมาธิปกฺขิกตฺตา ตสฺสา. ตถา หิ สมาธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตํ โกสชฺชปาตโต รกฺขนฺตี วีริยาทิภาวนา วิย วีริยินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตํ อุทฺธจฺจปาตโต รกฺขนฺตี เอกํสโต หาเปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปสฺสทฺธาทิภาวนาย หาเปตพฺพ’’นฺติ. โสณตฺเถรสฺส วตฺถูติ สุกุมารโสณตฺเถรสฺส วตฺถุ. โส หิ อายสฺมาปิ สตฺถุ สนฺติกา กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา สีตวเน วิหรนฺโต – ‘‘มม สรีรํ สุขุมาลํ, น จ สกฺกา สุเขเนว สุขํ อธิคนฺตุํ, กายํ กิลเมตฺวาปิ สมณธมฺโม กาตพฺโพ’’ติ านจงฺกมนเมว อธิฏฺาย ¶ ปธานมนุยฺุชนฺโต ปาทตเลสุ โผเฏสุ อุฏฺิเตสุปิ เวทนํ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา ทฬฺหวีริยํ กโรนฺโต อจฺจารทฺธวีริยตาย วิเสสํ ปวตฺเตตุํ นาสกฺขิ. สตฺถา ตตฺถ คนฺตฺวา วีโณปโมวาเทน โอวทิตฺวา วีริยสมตาโยชนวิธึ ทสฺเสนฺโต กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา คิชฺฌกูฏํ คโต. เถโรปิ สตฺถารา ทินฺนนเยน วีริยสมตํ ยาเชตฺวา ภาเวนฺโต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺเตว ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘โสณตฺเถรสฺส วตฺถุ ทสฺเสตพฺพ’’นฺติ. เสเสสุปีติ สติสมาธิปฺินฺทฺริเยสุปิ.
สมตนฺติ สทฺธาปฺานํ อฺมฺํ อนูนาธิกภาวํ, ตถา สมาธิวีริยานฺจ. ยถา หิ สทฺธาปฺานํ วิสุํ วิสุํ ธุริยธมฺมภูตานํ กิจฺจโต อฺมฺนาติวตฺตนํ วิเสสโต อิจฺฉิตพฺพํ. ยโต เตสํ สมธุรตาย อปฺปนา สมฺปชฺชติ, เอวํ สมาธิวีริยานํ โกสชฺชุทฺธจฺจปกฺขิกานํ ¶ สมตาย สติ อฺมฺุปตฺถมฺภนโต สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อนฺตทฺวยปาตาภาเวน สมฺมเทว อปฺปนา อิชฺฌตีติ. พลวสทฺโธติอาทิ วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส พฺยติเรกมุเขน สมตฺถนํ. ตสฺสตฺโถ – โย พลวติยา สทฺธาย สมนฺนาคโต อวิสทาโณ, โส มุธปฺปสนฺโน โหติ, น อเวจฺจปฺปสนฺโน. ตถา หิ โส อวตฺถุสฺมึ ปสีทติ, เสยฺยถาปิ ติตฺถิยสาวกา. เกราฏิกปกฺขนฺติ สาเยฺยปกฺขํ ภชติ. สทฺธาหีนาย ปฺาย อติธาวนฺโต ‘‘เทยฺยวตฺถุปริจฺจาเคน วินา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตนปิ ทานมยํ ปฺุํ โหตี’’ติอาทีนิ ปริกปฺเปติ เหตุปติรูปเกหิ วฺจิโต, เอวํภูโต จ ลูขตกฺกวิลุตฺตจิตฺโต ปณฺฑิตานํ วจนํ นาทิยติ, สฺตฺตึ น คจฺฉติ. เตนาห ‘‘เภสชฺชสมุฏฺิโต วิย โรโค อเตกิจฺโฉ โหตี’’ติ. ยถา เจตฺถ สทฺธาปฺานํ อฺมฺํ สมภาโว อตฺถาวโห, วิสมภาโว อนตฺถาวโห, เอวํ สมาธิวีริยานํ อฺมฺํ สมภาโว อตฺถาวโห, อิตโร อนตฺถาวโห, ตถา สมภาโว อวิกฺเขปาวโห, อิตโร วิกฺเขปาวโห. โกสชฺชํ อภิภวติ, เตน อปฺปนํ น ปาปุณาตีติ อธิปฺปาโย. เอส นโย อุทฺธจฺจํ อภิภวตีติ เอตฺถาปิ. ตทุภยนฺติ สทฺธาปฺาทฺวยํ สมาธิวีริยทฺวยฺจ. สมํ กาตพฺพนฺติ สมตํ กาตพฺพํ.
สมาธิกมฺมิกสฺสาติ สมถกมฺมฏฺานิกสฺส. เอวนฺติ เอวํ สนฺเต, สทฺธาย โถกํ พลวภาเว สตีติ อตฺโถ. สทฺทหนฺโตติ ‘‘ปถวี ปถวีติ มนสิการมตฺเตน ¶ กถํ ฌานุปฺปตฺตี’’ติ อจินฺเตตฺวา ‘‘อทฺธา สมฺพุทฺเธน วุตฺตวิธิ อิชฺฌตี’’ติ สทฺทหนฺโต สทฺธํ ชเนนฺโต. โอกปฺเปนฺโตติ อารมฺมณํ อนุปวิสิตฺวา วิย อธิมุจฺจนวเสน อวกปฺเปนฺโต ปกฺขนฺทนฺโต. เอกคฺคตา พลวตี วฏฺฏติ สมาธิปธานตฺตา ฌานสฺส. อุภินฺนนฺติ สมาธิปฺานํ. สมาธิกมฺมิกสฺส สมาธิโน อธิมตฺตตาย ปฺาย อธิมตฺตตาปิ อิจฺฉิตพฺพาติ อาห ‘‘สมตายปี’’ติ, สมภาเวนาปีติ อตฺโถ. อปฺปนาติ โลกิยอปฺปนา. ตถา หิ ‘‘โหติเยวา’’ติ สาสงฺกํ วทติ, โลกุตฺตรปฺปนา ปน เตสํ สมภาเวเนว อิจฺฉิตา. ยถาห ‘‘สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๗๐). ยทิ วิเสสโต สทฺธาปฺานํ สมาธิวีริยานฺจ สมานตํ อิจฺฉติ, กถํ สตีติ อาห – ‘‘สติ ปน สพฺพตฺถ พลวตี วฏฺฏตี’’ติ. สพฺพตฺถาติ ลีนุทฺธจฺจปกฺขิเกสุ ปฺจินฺทฺริเยสุ. อุทฺธจฺจปกฺขิเกกเทเส คณฺหนฺโต ‘‘สทฺธาวีริยปฺาน’’นฺติ อาห. อฺถา ปีติ จ คเหตพฺพา สิยา. ตถา หิ ‘‘โกสชฺชปกฺขิเกน สมาธินา’’อิจฺเจว วุตฺตํ, น จ ‘‘ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาหี’’ติ. สาติ สติ. สพฺเพสุ ราชกมฺเมสุ นิยุตฺโตติ สพฺพกมฺมิโก. เตนาติ เยน การเณน สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพา, เตน อาห อฏฺกถายํ. สพฺพตฺถ นิยุตฺตา สพฺพตฺถิกา ¶ , สพฺเพน วา ลีนุทฺธจฺจปกฺขิเกน โพชฺฌงฺเคน อตฺเถตพฺพา สพฺพตฺถิยา, สพฺพตฺถิยาว สพฺพตฺถิกา. จิตฺตนฺติ กุสลจิตฺตํ. ตสฺส หิ สติปฏิสรณํ ปรายณํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย. เตนาห – ‘‘อารกฺขปจฺจุปฏฺานา’’ติอาทิ.
ขนฺธาทิเภเท อโนคาฬฺหปฺานนฺติ ปริยตฺติพาหุสจฺจวเสนปิ ขนฺธายตนาทีสุ อปฺปติฏฺิตพุทฺธีนํ. พหุสฺสุตเสวนา หิ สุตมยาณาวหา. ตรุณวิปสฺสนาสมงฺคีปิ ภาวนามยาเณ ิตตฺตา เอกํสโต ปฺวา เอว นาม โหตีติ อาห – ‘‘สมปฺาส…เป… ปุคฺคลเสวนา’’ติ. เยฺยธมฺมสฺส คมฺภีรภาววเสน ตปฺปริจฺเฉทกาณสฺส คมฺภีรภาวคหณนฺติ อาห – ‘‘คมฺภีเรสุ ขนฺธาทีสุ ปวตฺตาย คมฺภีรปฺายา’’ติ. ตฺหิ เยฺยํ ตาทิสาย ปฺาย จริตพฺพโต คมฺภีราณจริยํ, ตสฺสา วา ปฺาย ตตฺถ ปเภทโต ปวตฺติ คมฺภีราณจริยา, ตสฺสา ปจฺจเวกฺขณาติ อาห ‘‘คมฺภีรปฺาย ปเภทปจฺจเวกฺขณา’’ติ. ยถา สติเวปุลฺลปฺปตฺโต นาม อรหา เอว, เอวํ โส เอว ปฺาเวปุลฺลปฺปตฺโตปีติ อาห ¶ ‘‘อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหตี’’ติ. วีริยาทีสุปิ เอเสว นโยติ.
‘‘ตตฺตํ อโยขิลํ หตฺเถ คเมนฺตี’’ติอาทินา วุตฺตปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณา นิรเย นิพฺพตฺตสตฺตสฺส สพฺพปมํ กโรนฺตีติ เทวทูตสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๕๐), ตสฺสา อาทิโต วุตฺตตฺตา จ อาห – ‘‘ปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณโต ปฏฺายา’’ติ. สกฏวหนาทิกาเลติ อาทิ-สทฺเทน ตทฺมนุสฺเสหิ ติรจฺฉาเนหิ จ วิพาธนียกาลํ สงฺคณฺหาติ. เอกํ พุทฺธนฺตรนฺติ อิทํ อปราปรํ เปเตสุ เอว อุปฺปชฺชนกสตฺตวเสน วุตฺตํ, เอกจฺจานํ วา เปตานํ, เอกจฺจติรจฺฉานานํ วิย ตถา ทีฆายุกตาปิ สิยาติ ตถา วุตฺตํ. ตถา หิ กาโล นาคราชา จตุนฺนํ พุทฺธานํ รูปทสฺสาวี.
เอวํ อานิสํสทสฺสาวิโนติ ‘‘วีริยายตฺโต เอว สกลโลกิยโลกุตฺตรวิเสสาธิคโม’’ติ เอวํ อานิสํสทสฺสนสีลสฺส. คมนวีถินฺติ สปุพฺพภาคํ นิพฺพานคามินึ ปฏิปทํ. สห วิปสฺสนาย อริยมคฺคปฏิปาฏิ, สตฺตวิสุทฺธิปรมฺปรา วา. สา หิ วฏฺฏโต นิยฺยานาย คนฺตพฺพา ปฏิปทาติ กตฺวา คมนวีถิ นาม.
กายทฬฺหีพหุโลติ กายสฺส โปสนปสุโต. ปิณฺฑนฺติ รฏฺปิณฺฑํ. ปจฺจยทายกานํ อตฺตนิ การสฺส อตฺตโน สมฺมาปฏิปตฺติยา มหปฺผลภาวสฺส กรเณน ปิณฺฑาย ภิกฺขาย ปฏิปูชนา ปิณฺฑาปจายนา. นีหรนฺโตติ ปตฺตตฺถวิกโต นีหรนฺโต. ตํ สทฺทํ สุตฺวาติ ตํ อุปาสิกาย วจนํ ปณฺณสาลทฺวาเร ิโตว ปฺจาภิฺตาย ทิพฺพโสเตน สุตฺวาติ วทนฺติ. มนุสฺสสมฺปตฺติ, ทิพฺพสมฺปตฺติ ¶ , อนฺเต นิพฺพานสมฺปตฺตีติ ติสฺโส สมฺปตฺติโย. สิตํ กโรนฺโตวาติ ‘‘อกิจฺเฉเนว มยา วฏฺฏทุกฺขํ สมติกฺกนฺต’’นฺติ ปจฺจเวกฺขณาวสาเน สฺชาตปาโมชฺชวเสน สิตํ กโรนฺโต เอว.
อลสานํ ภาวนาย นามมตฺตมฺปิ อชานนฺตานํ กายสฺส โปสนพหุลานํ ยาวทตฺถํ ปริภฺุชิตฺวา เสยฺยสุขาทึ อนุยฺุชนฺตานํ ติรจฺฉานกถิกานํ ทูรโตว วชฺชนํ กุสีตปุคฺคลปริวชฺชนา. ‘‘ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชายา’’ติอาทินา ภาวนารมฺภวเสน อารทฺธวีริยานํ ทฬฺหปรกฺกมานํ กาเลนกาลํ ¶ อุปสงฺกมนา อารทฺธวีริยปุคฺคลเสวนา. เตนาห ‘‘กุจฺฉึ ปูเรตฺวา’’ติอาทิ.
วิสุทฺธิมคฺเค ปน ‘‘ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณา, สพฺรหฺมจาริมหตฺตปจฺจเวกฺขณา’’ติ อิทํ ทฺวยํ น คหิตํ, ‘‘ถินมิทฺธวิโนทนตา, สมฺมปฺปธานปจฺจเวกฺขณา’’ติ อิทํ ทฺวยํ คหิตํ. ตตฺถ อานิสํสทสฺสาวิตาย เอว สมฺมปฺปธานปจฺจเวกฺขณา คหิตา โลกิยโลกุตฺตรวิเสสาธิคมสฺส วีริยายตฺตตาทสฺสนภาวโต. ถินมิทฺธวิโนทนํ ตทธิมุตฺตตาย คหิตํ, วีริยุปฺปาทเน ยุตฺตปยุตฺตสฺส ถินมิทฺธวิโนทนํ อตฺถโต สิทฺธเมว. ตตฺถ ถินมิทฺธวิโนทนํ กุสีตปุคฺคลปริวชฺชน-อารทฺธวีริยปุคฺคล-เสวน- ตทธิมุตฺตตาปฏิปกฺขวิธมน-ปจฺจยูปสํหารวเสน, อปายภยปจฺจเวกฺขณาทโย สมุตฺเตชนวเสน วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทกาติ ทฏฺพฺพา.
พุทฺธานุสฺสติยา อุปจารสมาธินิฏฺตฺตา วุตฺตํ ‘‘ยาว อุปจารา’’ติ. สกลสรีรํ ผรมาโนติ ปีติสมุฏฺาเนหิ ปณีตรูเปหิ สกลสรีรํ ผรมาโน. ธมฺมสงฺฆคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺสปิ ยาว อุปจารา สกลสรีรํ ผรมาโน ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชตีติ โยชนา. เอวํ เสสอนุสฺสตีสุ ปสาทนียสุตฺตนฺตปจฺจเวกฺขณาย จ โยเชตพฺพํ ตสฺสาปิ วิมุตฺตายตนภาเวน ตคฺคติกตฺตา. เอวรูเป กาเลติ ทุพฺภิกฺขภยาทีสูติ วุตฺตกาเล. สมาปตฺติยา…เป… น สมุทาจรนฺตีติ อิทํ อุปสมานุสฺสติยา วเสน วุตฺตํ. สงฺขารานฺหิ สปฺปเทสวูปสเมปิ นิปฺปเทสวูปสเม วิย ตตฺถ สปฺาย ปวตฺตนโต ภาวนามนสิกาโร กิเลสวิกฺขมฺภนสมตฺโถ หุตฺวา อุปจารสมาธึ อาวหนฺโต ตถารูปปีติโสมนสฺสสมนฺนาคโต ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย โหตีติ. ปสาทนีเยสุ าเนสุ ปสาทสิเนหาภาเวน สํสูจิตหทยตา ลูขตา. สา จ ตตฺถ อาทรคารวากรเณน วิฺายตีติ อาห ‘‘อสกฺกจฺจกิริยาย สํสูจิตลูขภาเว’’ติ.
กายจิตฺตทรถวูปสมลกฺขณา ปสฺสทฺธิ เอว ยถาวุตฺตโพธิองฺคภูโต ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค, ตสฺส ¶ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส. ปณีตโภชนเสวนตาติ ปณีตสปฺปายโภชนเสวนตา. อุตุอิริยาปถสุขคฺคหเณหิ สปฺปายอุตุอิริยาปถํ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตฺหิ ติวิธมฺปิ สปฺปายํ เสวิยมานํ กายสฺส กลฺลตาปาทนวเสน จิตฺตสฺส กลฺลตํ ¶ อาวหนฺตํ ทุวิธายปิ ปสฺสทฺธิยา การณํ โหติ. สตฺเตสุ ลพฺภมานํ สุขทุกฺขํ อเหตุกนฺติ อยเมโก อนฺโต, อิสฺสราทิวิสมเหตุกนฺติ อยํ ทุติโย, เอเต อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม ยถาสกํ กมฺมุนา โหตีติ อยํ มชฺฌิมา ปฏิปตฺติ. มชฺฌตฺโต ปโยโค ยสฺส โส มชฺฌตฺตปโยโค, ตสฺส ภาโว มชฺฌตฺตปโยคตา. อยฺหิ ปหานสารทฺธกายตา-สงฺขาตปสฺสทฺธกายตาย การณํ โหนฺตี ปสฺสทฺธิทฺวยํ อาวหติ. เอเตเนว สารทฺธกายปุคฺคลปริวชฺชน-ปสฺสทฺธกายปุคฺคลเสวนานํ ตทาวหนตา สํวณฺณิตาติ ทฏฺพฺพํ.
วตฺถุวิสทกิริยา อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา จ ‘‘ปฺาวหา’’ติ วุตฺตา. สมถาวหาปิ ตา โหนฺติ สมถาวหภาเวเนว ปฺาวหตฺตาติ วุตฺตํ ‘‘วตฺถุวิสท…เป… เวทิตพฺพา’’ติ.
กรณโกสลฺลภาวนาโกสลฺลานํ นานนฺตริยภาวโต รกฺขณโกสลฺลสฺส จ ตํมูลกตฺตา ‘‘นิมิตฺตกุสลตา นาม กสิณนิมิตฺตสฺส อุคฺคหณกุสลตา’’อิจฺเจว วุตฺตํ. อติสิถิลวีริยตาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ปฺาปโยคมนฺทตํ อปฺปมาทเวกลฺลฺจ สงฺคณฺหาติ. ตสฺส ปคฺคณฺหนนฺติ ตสฺส ลีนสฺส จิตฺตสฺส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทิสมุฏฺาปเนน ลยาปตฺติโต สมุฏฺาปนํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘ยสฺมิฺจ โข, ภิกฺขเว, สมเย ลีนํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. ตํ กิสฺส เหตุ? ลีนํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตํ เอเตหิ ธมฺเมหิ สุสมุฏฺาปยํ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ สุกฺขานิ เจว ติณานิ ปกฺขิเปยฺย, สุกฺขานิ โคมยานิ ปกฺขิเปยฺย, สุกฺขานิ กฏฺานิ ปกฺขิเปยฺย, มุขวาตฺจ ทเทยฺย, น จ ปํสุเกน โอกิเรยฺย, ภพฺโพ นุ โข โส ปุริโส ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตุนฺติ. เอวํ, ภนฺเต’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔).
เอตฺถ จ ยถาสกํ อาหารวเสน ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ ภาวนา สมุฏฺาปนาติ เวทิตพฺพา, สา อนนฺตรํ วิภาวิตา เอว.
อจฺจารทฺธวีริยตาทีหีติ ¶ ¶ อาทิ-สทฺเทน ปฺาปโยคพลวตํ ปโมทุปฺปิลาวนฺจ สงฺคณฺหาติ. ตสฺส นิคฺคณฺหนนฺติ ตสฺส อุทฺธตสฺส จิตฺตสฺส สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคาทิสมุฏฺาปเนน อุทฺธตาปตฺติโต นิเสธนํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา –
‘‘ยสฺมิฺจ โข, ภิกฺขเว, สมเย อุทฺธตํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อุทฺธตํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตํ เอเตหิ ธมฺเมหิ สุวูปสมยํ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ อลฺลานิ เจว ติณานิ….เป… ปํสุเกน จ โอกิเรยฺย, ภพฺโพ นุ โข โส ปุริโส มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุนฺติ. เอวํ, ภนฺเต’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔).
เอตฺถาปิ ยถาสกํ อาหารวเสน ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ ภาวนา สมุฏฺาปนาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนา วุตฺตา เอว, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส วุจฺจมานา, อิตรสฺส อนนฺตรํ วกฺขติ. ปฺาปโยคมนฺทตายาติ ปฺาพฺยาปารสฺส อปฺปภาเวน. ยถา หิ ทานํ อโลภปฺปธานํ, สีลํ อโทสปฺปธานํ, เอวํ ภาวนา อโมหปฺปธานา. ตตฺถ ยทา ปฺา น พลวตี โหติ, ตทา ภาวนา ปุพฺเพนาปรํ วิเสสาวหา น โหติ, อนภิสงฺขโต วิย อาหาโร ปุริสสฺส โยคิโน จิตฺตสฺส อภิรุจึ น อุปฺปาเทติ, เตน ตํ นิรสฺสาทํ โหติ. ตถา ภาวนาย สมฺมเทว วีถิปฏิปตฺติยา อภาเวน อุปสมสุขํ น วินฺทติ, เตนปิ จิตฺตํ นิรสฺสาทํ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปฺาปโยค…เป… นิรสฺสาทํ โหตี’’ติ.
ตสฺส สํเวคุปฺปาทนฺจ ปสาทุปฺปาทนฺจ ติกิจฺฉนนฺติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อฏฺ สํเวควตฺถูนี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ชาติชราพฺยาธิมรณานิ ยถารหํ สุคติยํ ทุคฺคติยฺจ โหนฺตีติ ตทฺเมว ปฺจวิธพนฺธนาทิขุปฺปิปาสาทิอฺมฺวิพาธนาทิเหตุกํ อปายทุกฺขํ ทฏฺพฺพํ. ตยิทํ สพฺพํ เตสํ เตสํ สตฺตานํ ปจฺจุปฺปนฺนภวนิสฺสิตํ คหิตนฺติ อตีเต อนาคเต จ กาเล ¶ วฏฺฏมูลกทุกฺขานิ วิสุํ คหิตานิเยว. เย ปน สตฺตา อาหารูปชีวิโน ตตฺถ จ อุฏฺานผลูปชีวิโน, เตสํ อฺเหิ อสาธารณํ ชีวิกทุกฺขํ อฏฺมํ สํเวควตฺถุ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อยํ วุจฺจติ สมเย สมฺปหํสนาติ อยํ สมฺปหํสิตพฺพสมเย วุตฺตนเยน สํเวคชนนวเสน เจว ปสาทุปฺปาทนวเสน จ สมฺมเทว ปหํสนา, สํเวคชนนปุพฺพกปสาทุปฺปาทเนน ภาวนาจิตฺตสฺส โตสนาติอตฺโถ.
สมฺมาปฏิปตฺตึ ¶ อาคมฺมาติ ลีนุทฺธจฺจวิรเหน สมถวีถิปฏิปตฺติยา จ สมฺมเทว ภาวนาปฏิปตฺตึ อาคมฺม.
อลีนนฺติอาทีสุ โกสชฺชปกฺขิกานํ ธมฺมานํ อนธิมตฺตตาย อลีนํ, อุทฺธจฺจปกฺขิกานํ อนธิมตฺตตาย อนุทฺธตํ, ปฺาปโยคสมฺปตฺติยา อุปสมสุขาธิคเมน จ อนิรสฺสาทํ, ตโต เอว อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ สมถวีถิปฏิปนฺนฺจ. ตตฺถ อลีนตาย ปคฺคเห, อนุทฺธตาย จ นิคฺคเห, อนิรสฺสาทตาย สมฺปหํสเน น พฺยาปารํ อาปชฺชติ. อลีนานุทฺธจฺจตาหิ อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ, อนิรสฺสาทตาย สมถวีถิปฏิปนฺนํ, สมปฺปวตฺติยา วา อลีนํ อนุทฺธตํ, สมถวีถิปฏิปตฺติยา อนิรสฺสาทนฺติ ทฏฺพฺพํ. อยํ วุจฺจติ สมเย อชฺฌุเปกฺขนตาติ อยํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพสมเย จิตฺตสฺส ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ พฺยาวฏตาสงฺขาตํ ปฏิปกฺขํ อภิภุยฺย อุเปกฺขนา วุจฺจติ. เอสาติ สมาธิโพชฺฌงฺโค อนุปฺปนฺโน อุปฺปชฺชติ. อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหตีติ เอเตน นิปฺปริยายโต สมาธิเวปุลฺลปฺปตฺโตปิ อรหา เอวาติ ทสฺเสติ.
อนุโรธวิโรธปหานวเสน มชฺฌตฺตภาโว อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส การณํ ตสฺมึ สติ สิชฺฌนโต, อสติ จ อสิชฺฌนโต, โส จ มชฺฌตฺตภาโว วิสยวเสน ทุวิโธติ อาห ‘‘สตฺตมชฺฌตฺตตา สงฺขารมชฺฌตฺตตา’’ติ. ตทุภยวเสน จสฺส วิรุชฺฌนํ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย เอว ทูรีกตนฺติ อนุรุชฺฌนสฺเสว ปหานวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘สตฺตมชฺฌตฺตตา’’ติอาทิมาห. ตถา หิสฺส สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลปริวชฺชนํ ‘‘อุปฺปตฺติยา การณ’’นฺติ วุจฺจติ. อุเปกฺขาย หิ วิเสสโต ราโค ปฏิปกฺโข, ตโต ราคพหุลสฺส ปุคฺคลสฺส อุเปกฺขา ‘‘วิสุทฺธิมคฺโค’’ติ วุจฺจติ. ทฺวีหากาเรหีติ กมฺมสฺสกตาปจฺจเวกฺขณํ อตฺตสฺุตาปจฺจเวกฺขณนฺติ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ. ทฺวีเหวาติ อวธารณํ สงฺขารสหิตาย สงฺขฺยาสมานตาย ทสฺสนตฺถํ. สงฺขฺยา เอว เหตฺถ สมานํ, น ¶ สงฺขฺเยยฺยํ สพฺพถา สมานนฺติ. อสฺสามิกภาโว อนตฺตนิยตา. สติ หิ อตฺตนิ ตสฺส กิฺจนภาเวน จีวรํ อฺํ วา กิฺจิ อตฺตนิยํ นาม สิยา, โส ปน โกจิ นตฺเถวาติ อธิปฺปาโย. อนทฺธนิยนฺติ, น อทฺธานกฺขมํ, น จิรฏฺายิ อิตฺตรํ อนิจฺจนฺติ อตฺโถ. ตาวกาลิกนฺติ ตสฺเสว เววจนํ.
มมายตีติ มมตฺตํ กโรติ. มมาติ ตณฺหาย ปริคฺคยฺห ติฏฺติ. ธนายนฺตาติ ธนํ ทพฺพํ กโรนฺตา. อสฺสาติ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ. ตถา หิ อรหโต เอว ฉฬงฺคุเปกฺขานิปฺผตฺติ.
อสุภารมฺมณา ¶ ธมฺมาติ อสุภปฺปการา อสุภฌานสฺส อารมฺมณภูตา ธมฺมา. กามํ อินฺทฺริยพทฺธาปิ เกสาทโย อสุภปฺปการา เอว, วิเสสโต ปน ชิคุจฺฉิตพฺเพ ชิคุจฺฉาวเห คณฺหนฺโต ‘‘ทสา’’ติ อาห. ยถา มนสิกโรโต สภาวสรสโต ตตฺถ อสุภสฺา สนฺติฏฺติ, ตถา ปวตฺโต มนสิกาโร อุปายมนสิกาโร. อสุเภ อสุภปฏิกฺกูลาการสฺส อุคฺคณฺหนํ, ยถา วา ตตฺถ อุคฺคหนิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตถา มนสิกาโร อสุภนิมิตฺตสฺส อุคฺคโห. อุปจารปฺปนาวหาย อสุภภาวนาย อนุยฺุชนา อสุภภาวนานุโยโค.
มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ สุฏฺุ สุสํวรเณ สติ อวสรํ อลภนฺโต กามจฺฉนฺโท ปหียเตว, ตถา โภชเน มตฺตฺุโน มิตาหารสฺส ถินมิทฺธาภิภวาภาวา โอตารํ อลภมาโน กามจฺฉนฺโท ปหียติ. โย ปน อาหาเร ปฏิกฺกูลสฺํ ตพฺพิปริณามสฺส ตทาธารสฺส ตสฺส จ อุทริยภูตสฺส อติวิย เชคุจฺฉตํ, กายสฺส จ อาหารติฏฺกตํ สมฺมเทว ชานาติ, โส สพฺพโส โภชเน ปมาณสฺส ชานเนน วิเสสโต โภชเน มตฺตฺู นาม. ตสฺส กามจฺฉนฺโท ปหียเตว, อฏฺกถายํ ปน อปฺปาหารตํเยว ทสฺเสตุํ ‘‘จตุนฺน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อสุภกมฺมิกติสฺสตฺเถโร ทนฺตฏฺิทสฺสาวี. ปหีนสฺสาติ วิกฺขมฺภนวเสน ปหีนสฺส. อภิธมฺมปริยาเยน สพฺโพปิ โลโภ กามจฺฉนฺทนีวรณนฺติ ‘‘อรหตฺตมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท’’ติ วุตฺตํ.
เมชฺชติ หิตผรณวเสน สินิยฺหตีติ มิตฺโต, หิเตสี ปุคฺคโล, ตสฺมึ มิตฺเต ภวา, มิตฺตสฺส วา เอสาติ เมตฺตา, หิเตสิตา. สา เอว ปฏิปกฺขโต ¶ เจตโส วิมุตฺตีติ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ. ตตฺถ เมตฺตายนสฺส สตฺเตสุ หิตผรณสฺส อุปฺปาทนํ ปวตฺตนํ เมตฺตานิมิตฺตสฺส อุคฺคโห. เตนาห ‘‘โอทิสฺสกา’’ติอาทิ.
ตตฺถ อตฺตปิยสหายมชฺฌตฺตเวริวเสน โอทิสฺสกตา. สีมาสมฺเภเท กเต อโนทิสฺสกตา. เอกาทิทิสาผรณวเสน ทิสาผรณตา เมตฺตาย อุคฺคณฺหเน เวทิตพฺพา. อุคฺคโห ยาว อุปจารา ทฏฺพฺโพ. อุคฺคหิตาย อาเสวนา ภาวนา, สพฺพา อิตฺถิโย ปุริสา อริยา อนริยา เทวา มนุสฺสา วินิปาติกาติ สตฺโตธิกรณวเสน ปวตฺตา สตฺตวิธา, อฏฺวีสติวิธา วา, ทสหิ ทิสาหิ ทิโสธิกรณวเสน ปวตฺตา ทสวิธา, เอเกกาย ทิสาย สตฺตาทิอิตฺถาทิอเวราทิเภเทน อสีตาธิกจตุสตปฺปเภทา จ โอธิโสผรณเมตฺตา. สพฺเพ สตฺตา, ปาณา, ภูตา, ปุคฺคลา, อตฺตภาวปริยาปนฺนาติ เอเตสํ วเสน ปฺจวิธา. เอเกกสฺมึ อเวรา โหนฺตุ, อพฺยาปชฺชา, อนีฆา, สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตูติ จตุธา ปวตฺติยา วีสติวิธา อโนธิโสผรณเมตฺตา, ตํ สนฺธายาห – ‘‘โอธิโส…เป… ภาเวนฺตสฺสปี’’ติ. ตฺวํ เอตสฺสาติอาทินา กมฺมสฺสกตาปจฺจเวกฺขณํ ทสฺเสติ ¶ . ปฏิสงฺขาเน ิตสฺสาติ โกเธ ยถาวุตฺตสฺส อาทีนวสฺส ตปฺปฏิปกฺขโต อโกเธ เมตฺตาย อานิสํสสฺส จ ปฏิสงฺขาเน สมฺมเทว ชานเน. เสวนฺตสฺสาติ ภชนฺตสฺส พฺยาปาโท ปหียติ.
อติโภชเน นิมิตฺตคฺคาโหติ อาหารสฺส อธิกโภชเน ถินมิทฺธสฺส นิมิตฺตคฺคาโห, ‘‘เอตฺตเก ภุตฺเต ถินมิทฺธํ อุปฺปชฺชติ, เอตฺตเก โน’’ติ ถินมิทฺธสฺส การณาการณคฺคาโหติ อตฺโถ. ทิวา สูริยาโลกนฺติ ทิวา คหิตนิมิตฺตํ สูริยาโลกํ, รตฺติยํ มนสิกโรนฺตสฺสปีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ธุตงฺคานํ วีริยนิสฺสิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘ธุตงฺคนิสฺสิตสปฺปายกถายปี’’ติ.
กุกฺกุจฺจมฺปิ กตากตานุโสจนวเสน ปวตฺตมานํ เจตโส อวูปสมาวหตาย อุทฺธจฺเจน สมานลกฺขณเมวาติ ตทุภยสฺส ปหานการณํ ทสฺเสนฺโต ภควา – ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, เจตโส วูปสโม’’ติอาทิมาห. ตสฺมา พาหุสจฺจาทิ ตสฺส ปหานการณนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจ ฉ ธมฺมา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ พหุสฺสุตสฺส คนฺถโต, อตฺถโต ธมฺมํ วิจาเรนฺตสฺส อตฺตเวทาทิปฏิลาภสมฺภวโต วิกฺเขโป น โหติ. ยถาวิหิตปฏิปตฺติยา ¶ ยถาธมฺมปฏิการปฺปตฺติยา จ วิปฺปฏิสาโร อนวสโรวาติ ‘‘พาหุสจฺเจนปิ…เป… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียตี’’ติ วุตฺตํ. ยทคฺเคน พหุสฺสุตสฺส ปฏิสงฺขานวโต อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียติ, ตทคฺเคน ปริปุจฺฉกตาวินยปกตฺุตาหิปิ ตํ ปหียตีติ ทฏฺพฺพํ. วุทฺธเสวิตา จ วุทฺธสีลิตํ อาวหตีติ เจตโส วูปสมกรตฺตา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปหานการี วุตฺตา, วุทฺธภาวํ ปน อนเปกฺขิตฺวา วินยธรา กุกฺกุจฺจวิโนทกา กลฺยาณมิตฺตาติ ทฏฺพฺพา. วิกฺเขโป จ ภิกฺขูนํ เยภุยฺเยน กุกฺกุจฺจเหตุโก โหตีติ ‘‘กปฺปิยากปฺปิยปริปุจฺฉาพหุลสฺสา’’ติอาทินา วินยนเยเนว ปริปุจฺฉกตาทโย นิทฺทิฏฺา. ปหีเน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺเจติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. กุกฺกุจฺจสฺส โทมนสฺสสหคตตฺตา อนาคามิมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท วุตฺโต.
กุสลากุสลา ธมฺมาติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. กามํ พาหุสจฺจปริปุจฺฉกตาหิ อฏฺวตฺถุกาปิ วิจิกิจฺฉา ปหียติ, ตถาปิ รตนตฺตยวิจิกิจฺฉามูลิกา เสสวิจิกิจฺฉาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ตีณิ รตนานิ อารพฺภา’’ติอาทิ. วินเย ปกตฺุตาย จ สติ สิกฺขาย กงฺขาย อสมฺภโว เอว, ตถา รตนตฺตยคุณาวโพเธ สติ ปุพฺพนฺตาทีสุ สํสยสฺสาติ อาห – ‘‘วินเย’’ติอาทิ. โอกปฺปนียสทฺธา สทฺเธยฺยวตฺถุํ อนุปวิสิตฺวา วิย อธิมุจฺจนํ, ตฺจ ตถา อธิโมกฺขุปฺปาทนเมว. สทฺธาย นินฺนโปณปพฺภารตา อธิมุตฺติ. อรหตฺเตน กูฏํ คณฺหิ สตฺตปิ โพชฺฌงฺเค วิตฺถาเรตฺวา เทสนาย โอสาปิตตฺตา.
อาหารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปริยายสุตฺตวณฺณนา
๒๓๓. สมฺพหุลาติ ¶ วุจฺจนฺติ สงฺฆสมฺาย อภาวโต. ตโต ปรนฺติ ติณฺณํ ชนานํ อุปริ สงฺโฆ จตุวคฺคกรณียาทิสงฺฆกมฺมวเสน กมฺมปฺปตฺตตฺตา. ปวิสึสูติ ภาวินิ ปวิสเน ภูเต วิย กตฺวา อุปจาเรน วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘ปวิฏฺา’’ติ. ภาวินิ หิ ภูเต วิย อุปจาโร. เตนาห – ‘‘เต ปนา’’ติอาทิ, เต ปน ภิกฺขูติ อตฺโถ. ปุน เต ปนาติ ติตฺถิยา ติตฺถิยสาวกา จ.
อิมสฺมึ ¶ ปฺาปเนติ ‘‘ปฺจ นีวรเณ ปหายา’’ติอาทินยปฺปวตฺเต อิมสฺมึ ปกาเร อตฺถปฺาปเน. วิสิสฺสติ อฺมฺโต ปภิชฺชตีติ วิเสโส, เภโท. สฺวายํ อิธ อนฺโตคธาธิกภาโว อธิปฺเปโตติ อาห – ‘‘โก วิเสโสติ กึ อธิก’’นฺติ. อธิกํ ปยสนํ ปยฺุชนนฺติ อธิปฺปยาโส, อธิกปฺปโยโค. นานา กรียติ เอเตนาติ นานากรณํ, เภโทติ อาห – ‘‘กึ นานตฺต’’นฺติ. ทุติยปเทติ ‘‘อนุสาสนิยา วา อนุสาสนิ’’นฺติ เอตสฺมึ ปเท. เอเสว นโยติ ยถา ปมสฺมึ ปเท อตฺถโยชนา, เอวํ ทุติยปเทปิ โยเชตพฺพา.
ตีณิ านานีติ เทวมารพฺรหฺมฏฺานานิ ตีณิ ‘‘สเทวเก โลเก’’ติอาทินา โลเก ปกฺขิปิตฺวา. ‘‘สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสายา’’ติ ทฺเว านานิ. ‘‘ปชายา’’ติ เอตฺถ ปกฺขิปิตฺวา อิติ ปฺจหิ ปเทหิ. อุทฺเทสนฺติ อุทฺทิสิตพฺพตํ. คณนนฺติ เอโก กามจฺฉนฺโทติ คเหตพฺพตํ คจฺฉติ. อตฺตโน หตฺถปาทาทีสูติ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ สมุทายํ อารพฺภ ปฏิฆสฺส อุปฺปชฺชนโต. อตฺตโน ขนฺเธสุ วิมติ ‘‘อหํ นุ โขสฺมี’’ติอาทินา.
กิฺจาปิ สพฺพํ วีริยํ เจตสิกเมว, ยํ ปน กายกมฺมาธิฏฺานาทิวเสน มนสิ กายิกปโยคสมุฏฺาปนํ วีริยํ กายิกนฺติ ลทฺธปริยายนฺติ ตโต วิเสเสตฺวา เจตสิกนฺติ ยถาธิปฺเปตทุติยตาทสฺสนตฺถํ. ยทิปิ ยถากปฺปิตอิริยาปถสนฺธารณวเสน ปวตฺตมานํ วีริยํ กายสฺส ตถาปวตฺตสฺส ปจฺจยภูตนฺติ น สกฺกา วตฺตุํ, ตถาปิ น ตาทิโส กายปโยโค, ตทา ปวตฺโต นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘กายปโยคํ วินา อุปฺปนฺนวีริย’’นฺติ. สติสมฺโพชฺฌงฺคสทิโส วาติ อิมินา อชฺฌตฺติเก สงฺขาเร อชฺฌุเปกฺขนวเสน ปวตฺตา อชฺฌตฺตธมฺเมสุ อุเปกฺขาติอาทินยํ อติทิสติ.
‘‘มิสฺสกโพชฺฌงฺคา กถิตา’’ติ วตฺวา ตมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘เอเตสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. จงฺกมนฺเตนปิ ¶ อริยมคฺคํ อธิคนฺตุํ สกฺกาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘มคฺคํ อปตฺตํ กายิกวีริย’’นฺติ. โพชฺฌงฺคา น ลพฺภนฺตีติ นิปฺปริยายโพชฺฌงฺคา น ลพฺภนฺตี. โพชฺฌงฺเค อุทฺธรนฺติ ปริยายโตติ อธิปฺปาโย. เสสาติ พหิทฺธาธมฺเมสุ สติ-ธมฺมวิจย-อุเปกฺขา-เจตสิก-วีริย-สวิตกฺก-สวิจาร-ปีติ-สมาธี ทฺเว ปสฺสทฺธิโย จ. อยํ ปน นโย ปจุรปฺปวตฺติวเสน อฏฺกถานเยเนว ¶ วุตฺโต. เถรวาทวเสน ปน อวิตกฺกอวิจารมตฺตา ปีติสมาธิสมฺโพชฺฌงฺคา รูปาวจราปิ อตฺถีติ เตปิ คเหตฺวา ทส มิสฺสกาว โหนฺตีติ วตฺตพฺพํ สิยาติ.
ปริยายสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อคฺคิสุตฺตวณฺณนา
๒๓๔. โลณธูปนนฺติ โลณฺจ ธูปนฺจ โลณธูปนํ. โยธกมฺมนฺติ โยธปุคฺคเลน กตฺตพฺพํ กมฺมํ. มนฺตกมฺมนฺติ ราชกิจฺจมนฺตนํ. ปฏิหารกมฺมนฺติ รฺโ สนฺติกํ อาคตานํ วจนํ รฺโ นิเวเทตฺวา ตโต เนสํ ปฏิหรณกมฺมํ. ตสฺมาติ สพฺพตฺถิกตฺตา สติยา. เอวํ ‘‘สติฺจ ขฺวาห’’นฺติอาทิกํ อโวจ. ปุพฺพภาควิปสฺสนา โพชฺฌงฺคาว กถิตา ปคฺคหนิคฺคหวิโนทิตตฺตา.
อคฺคิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. เมตฺตาสหคตสุตฺตวณฺณนา
๒๓๕. กีทิสา คติ นิพฺพตฺติ เอติสฺสาติ กึคติกา, กึนิฏฺาติ วุตฺตํ โหติ. กีทิสี ปรมา อุตฺตมา โกฏิ เอติสฺสาติ กึปรมา. กีทิสํ ผลํ อานิสํสํ อุทโย เอติสฺสาติ กึผลา. สํสฏฺํ สมฺปยุตฺตนฺติ อิทํ สหคต-สทฺทสฺส อตฺถทสฺสนมตฺตํ, อิธ ปน เมตฺตาฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนาปุพฺพภาคโพชฺฌงฺคา จ ‘‘เมตฺตาสหคตํ สติสมฺโพชฺฌงฺค’’นฺติอาทินา วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ โพชฺฌงฺเคสุ สพฺเพสุ จ พฺรหฺมวิหาเรสุ.
ปฏิกูเลติ วิรชฺชตีติ ปฏิกูลํ, อนิฏฺํ. น ปฏิกูลํ อปฺปฏิกูลํ, อิฏฺํ. เตนาห ‘‘อิฏฺเ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ. เอตฺถาติ อปฺปฏิกูลวตฺถุสฺมึ. เอวนฺติ ปฏิกูลสฺี. สตฺเต อปฺปฏิกูเล อสุภผรณํ, สงฺขาเร อปฺปฏิกูเล อนิจฺจนฺติ มนสิการํ กโรนฺโต. อสุภายาติ อสุภสฺาย. อนิจฺจโต วา อุปสํหรตีติ อนิจฺจนฺติ มนสิการํ ปวตฺเตติ. ‘‘เอเสว นโย’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘อปฺปฏิกูลปฏิกูเลสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ฉฬงฺคุเปกฺขนฺติ ฉสุ อารมฺมเณสุ ปหีนานุโรธสฺส อุปฺปตฺติยา ฉฬงฺควนฺตํ อุเปกฺขํ.
เมตฺตายาติ ¶ ¶ เมตฺตาภาวนาย. ปฏิกูลาทีสุ วตฺถูสุ อิจฺฉิตวิหาเรน วิหริตุํ สมตฺถตา อริยานํ เอว, ตตฺถ จ อรหโต เอว อิชฺฌนโต อริยิทฺธิ นาม. ตสฺสา อริยิทฺธิยา จ ทสฺสิตตฺตา เทสนา วินิวฏฺเฏตพฺพา ปริโยสาเนตพฺพา สิยา. อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ น สกฺโกติ อินฺทฺริยานํ อปริปกฺกตฺตา นิกนฺติยา จ ทุปฺปริยาทานโต. อยํ เทสนาติ ‘‘เมตฺตาสหคตํ โพชฺฌงฺคํ ภาเวตี’’ติอาทินา อยํ เทสนา อารทฺธา. โย หิ เมตฺตาฌานํ ปาทกํ กตฺวา สมฺมสนํ อารภิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ อสกฺโกนฺโต ปริสุทฺเธสุ วณฺณกสิเณสุ วิโมกฺขสงฺขาตํ รูปาวจรชฺฌานํ นิพฺพตฺเตติ, ตํ สนฺธายาห ภควา – ‘‘สุภํ โข ปน วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ.
สุภปรมนฺติ สุภวิโมกฺขปรมํ. อิธ โลเก เอว ปฺา อสฺส. เตนาห ‘‘โลกิยปฺสฺสาติ อตฺโถ’’ติ. อรหตฺตปรมาว เมตฺตา อรหตฺตมคฺคสฺส ปาทกตฺตา. กรุณาทีสุปิ เอเสว นโยติ กรุณาทิฌานํ ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺโต อรหตฺตํ ปตฺตุํ สกฺโกติ, ตสฺส อรหตฺถปรมา กรุณา โหติ, เอวํ มุทิตาอุเปกฺขาสุปิ วตฺตพฺพนฺติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. ปุน เทสนารมฺภปโยชนํ ปน ‘‘อิมินา นเยนา’’ติ เหฏฺา อติทิฏฺเมว.
สุภปรมาทิตาติ เมตฺตากรุณามุทิตาอุเปกฺขานํ สุภปรมตา อากาสานฺจายตนปรมตา, วิฺาณฺจายตนปรมตา, อากิฺจฺายตนปรมตา. ตสฺส ตสฺสาติ สุภวิโมกฺขสฺส เหฏฺา ติณฺณํ อรูปชฺฌานานฺจ ยถากฺกมํ อุปนิสฺสยตฺตา. อปฺปฏิกูลปริจยาติ อิฏฺารมฺมเณ มนสิการพหุลีการา. อปฺปกสิเรเนวาติ สุเขเนว. ตตฺถาติ วิสุทฺธตาย อิฏฺเสุ วณฺณกสิเณสุ. จิตฺตนฺติ ภาวนามยจิตฺตํ ปกฺขนฺทติ อปฺปนาวเสน. ตโต ปรนฺติ ตโต สุภวิโมกฺขโต ปรํ วิโมกฺขานํ อุปนิสฺสโย นาม น โหติ, เมตฺตาสหคตภาโว ทฏฺพฺโพ.
สตฺตทุกฺขํ สมนุปสฺสนฺตสฺสาติ ทณฺเฑน อภิหฏปฺปตฺตรูปเหตุํ สตฺเตสุ อุปฺปชฺชนกทุกฺขํ าเณน วีมํสนฺตสฺส. ตยิทํ รูปนิมิตฺตกํ สตฺเตสุ อุปฺปชฺชนกํ ทุกฺขํ าเณน กรุณาวิหาริสฺส วิเสสโต ปกฺขนฺทตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อปฺปกสิเรเนว ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทตี’’ติ, น ปน สพฺพโส อรูเป อานิสํสทสฺสนโต.
วิฺาณํ ¶ สมนุปสฺสนฺตสฺสาติ อิทํ ปาโมชฺชคหณมุเขน ตนฺนิสฺสยวิฺาณสฺส คหณํ สมฺภวตีติ กตฺวา วุตฺตํ. วิฺาณคฺคหณปริจิตนฺติ วุตฺตนเยน วิฺาณคฺคหเณ ปริจิตํ.
อุเปกฺขาวิหาริสฺสาติ ¶ อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหารํ วิหรโต. อาโภคาภาวโตติ สุขาทิวเสน อาภุชนาภาวโต. สุข…เป… สมฺภวโตติ สุขทุกฺขาติ ปรมตฺถกมฺมคฺคหเณ วิมุขตาสมฺภวโต. อวิชฺชมานคฺคหณทุกฺขนฺติ ปรมตฺถโต อวิชฺชมานสตฺตปฺตฺติคหณปริจิตํ ตสฺส ตสฺส อภาวมตฺตกสฺส คหณมฺปิ ทุกฺขํ กุสลมฺปิ โหติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
เมตฺตาสหคตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา
๒๓๖. ปมฺเวาติ ปุเรตรํเยว. อสชฺฌายกตานํ มนฺตานํ อปฺปฏิภานํ ปเคว ปมํเยว สิทฺธํ, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ปริยุฏฺานํ นาม อภิภโว คหณนฺติ อาห – ‘‘กามราคปริยุฏฺิเตนาติ กามราคคหิเตนา’’ติ. วิกฺขมฺเภติ อปเนตีติ วิกฺขมฺภนํ, ปฏิปกฺขโต นิสฺสรติ เอเตนาติ นิสฺสรณํ, วิกฺขมฺภนฺจ ตํ นิสฺสรณฺจาติ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ. เตนาห – ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. อตฺตนา อรณิโย ปตฺตพฺโพ อตฺตตฺโถ, ตถา ปรตฺโถ เวทิตพฺโพ.
‘‘อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหตี’’ติอาทีสุ พฺยาปาทาทีนํ อนาคตตฺตา อพฺยาปาทวาเร ตทงฺคนิสฺสรณํ น คหิตํ. กิฺจาปิ น คหิตํ, ปฏิสงฺขานวเสน ปน ตสฺส วิโนเทตพฺพตาย ตทงฺคนิสฺสรณมฺปิ ลพฺภเตวาติ สกฺกา วิฺาตุํ. อาโลกสฺา อุปจารปฺปตฺตา, อปฺปนาปฺปตฺตา วา, โย โกจิ กสิณชฺฌานาทิเภโท สมโถ. ธมฺมววตฺถานํ อุปจารปฺปนาปฺปตฺตวเสน คเหตพฺพํ.
กุถิโตติ ตตฺโต. อุสฺมุทกชาโตติ ตสฺเสว กุถิตภาวสฺส อุสฺมุทกตํ อจฺจุณฺหตํ ปตฺโต. เตนาห ‘‘อุสุมชาโต’’ติ. ติลพีชกาทิเภเทนาติ ติลพีชกกณฺณิกเกสราทิเภเทน. เสวาเลน…เป… ปณเกนาติ อุทกปิจฺฉิเลน. อปฺปสนฺโน อากุลตาย. อสนฺนิสินฺโน ¶ กลลุปฺปตฺติยา. อนาโลกฏฺาเนติ อาโลกรหิเต าเน.
สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อภยสุตฺตวณฺณนา
๒๓๗. เอกํเสน ภควา นีวรณาติ เอกํสโต เอว ภควา เอเต ธมฺมา นีวรณา จิตฺเต กุสลปฺปวตฺติยา ¶ นีวรณโต. กายกิลมโถติ กายปริสฺสโม, โส ปน อฏฺุปฺปตฺติยา ปจฺจยตฺตา ‘‘ทรโถ’’ติ วุตฺโต. จิตฺตกิลมโถ ตปฺปจฺจยชาโต ทฏฺพฺโพ. เตนาห – ‘‘ตสฺส กิรา’’ติอาทิ. จิตฺตทรโถปิ ปฏิปฺปสฺสมฺภีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. มคฺเคเนวาติ ยถาธิคเตน อริยมคฺเคเนว. อสฺสาติ อภยสฺส ราชกุมารสฺส. เอตํ กายจิตฺตทรถทฺวยํ.
อภยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
สากจฺฉวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อานาปานวคฺโค
๑. อฏฺิกมหปฺผลสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๓๘. อุปฺปนฺนสฺาติ สฺาสีเสน อุปจารชฺฌานํ วทติ. เตนาห ‘‘ตํ ปเนต’’นฺติอาทิ. ฉวิจมฺมมฺปิ อุปฏฺาตีติ อิทํ สวิฺาณกํ อวิฺาณกมฺปิ กายสามฺโต คเหตฺวา วุตฺตํ. สติ วา อุปาทิเสเสติ เอตฺถ อุปาทิยติ อตฺตโน อารมฺมณํ คณฺหาตีติ อุปาทิ, อุปาทานํ, เอตสฺส เอกเทเส อปฺปหีเน สตีติ อตฺโถ.
อานาปานวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. นิโรธวคฺโค
๑-๑๐. อสุภสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๔๘-๒๕๗. อนภิรตินฺติ อนภิรมณํ อนเปกฺขิตํ. อจฺจนฺตนิโรธภูเต นิพฺพาเน ปวตฺตสฺา นิโรธสฺา. ตตฺถ สา มคฺคสหคตา โลกุตฺตรา ¶ , ยา ปน นิพฺพาเน นินฺนภาเวน ปวตฺตา, อุปสมานุสฺสติสหคตา จ, สา โลกิยาติ อาห – ‘‘นิโรธสฺา มิสฺสกา’’ติ. ‘‘เตสํ นวสู’’ติอาทิ ปมาทปาโ. ‘‘เอกาทสสุ อปฺปนา โหติ, นว อุปจารชฺฌานิกา’’ติ ปาโ คเหตพฺโพ. วีสติ กมฺมฏฺานานีติ อิทมฺปิ อิธาคตนโย, น วิสุทฺธิมคฺคาทีสุ อาคตนโย ¶ . เอตฺถ จ อารมฺมณาทีสุ ยถาโยคํ อปฺปนํ อุปจารํ วา ปาปุณิตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตสฺส ปุพฺพภาคภูตา วิปสฺสนามคฺคโพชฺฌงฺคา กถิตา.
นิโรธวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
โพชฺฌงฺคสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.