📜

๑๑. โสตาปตฺติสํยุตฺตํ

๑. เวฬุทฺวารวคฺโค

๑. จกฺกวตฺติราชสุตฺตวณฺณนา

๙๙๗. อนุคฺคหครหเณสุนิปาโตติ อนุคฺคณฺหนครหตฺถโชตโก นิปาโต. กิเมตฺถ อนุคฺคณฺหาติ, กึ วา ครหตีติ อาห ‘‘จตุนฺน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อนุคฺคณฺหนฺโต อนุจฺฉวิกํ กตฺวา คณฺหนฺโต. ครหนฺโต นินฺทนฺโต. อิสฺสรสีโล อิสฺสโร, ตสฺส ภาโว อิสฺสริยํ, ปภุตา. อธีนํ ปติ อธิปติ, ตสฺส ภาโว อาธิปจฺจํ, สามิภาโวติ อาห – ‘‘อิสฺสริยาธิปจฺจ’’นฺติอาทิ. อนนฺตกานีติ อนฺตรหิตานิ.

อเวจฺจปฺปสาเทนาติ วตฺถุตฺตยสฺส คุเณ ยาถาวโต อเวจฺจ ปวิสิตฺวา ปสาโท. โส ปน เกนจิ จลนรหิโตติ อาห ‘‘อจลปฺปสาเทนา’’ติ. มคฺเคนาติ อริยมคฺเคน. อาคตปฺปสาโท ตสฺส อธิคเมน ลทฺธปฺปสาโท. อปุพฺพํ อจริมนฺติ เอกชฺฌํ. อริยสาวกานฺหิ อริยมคฺโค อุปฺปชฺชนฺโตว ตีสุ วตฺถูสุ อเวจฺจปฺปสาทํ อาวหนฺโต เอว อุปฺปชฺชติ. เตสนฺติ วิสยภูตานํ ติณฺณํ วตฺถูนํ วเสน ติธา วุตฺโต. ยสฺมา จ อตฺถโต เอโก, ตสฺมาว นินฺนานากรโณ โหติ ปวตฺตฏฺานเภเท สติปิ. อริยสาวกสฺส หีติอาทินา นเยน ตมตฺถํ วิวรติ. ปสาโท โอกปฺปนา. เปมํ ภตฺติ. คารวํ ครุกรณํ. มหนฺตํ อุฬารํ. เอตํ วิภาเคน นตฺถิ สพฺพตฺถ สมานตฺตา.

เอวนฺติ ภวนฺตเรปิ อโกปนียตาย. สทิสวเสนาติ อฺเหิ อขณฺฑาทีหิ สทิสวเสน. เตนาห ‘‘มุขวฏฺฏิ ยฺหิ ฉินฺเน’’ติอาทิ. ขณฺฑา เอติสฺสา อตฺถีติ ขณฺฑา. เอส นโย เสเสสุปิ. ปาติโมกฺเข อาคตานุกฺกเมน สีลสฺส อาทิมชฺฌวิภาโค เวทิตพฺโพ. ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วาติ สีลโกฏฺาสานํ. เอกนฺตรํ ภินฺนนฺติ อภินฺเนน เอกนฺตรํ หุตฺวา ภินฺนํ. เตสํ ขณฺฑาทีนํ. ‘‘ภุชิสฺเสหี’’ติ อุตฺตรปทโลเปน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ภุชิสฺสภาวกเรหี’’ติ. อิทํวีติกฺกนฺตนฺติ อิทมฺปิ สีลํ วีติกฺกนฺตํ. ‘‘อยํ สีลสฺส วีติกฺกโม’’ติ เอวํ ปรามสิตุํ อสกฺกุเณยฺเยหิ.

๒. พฺรหฺมจริโยคธสุตฺตวณฺณนา

๙๙๘. เยสนฺติ อนิยมโต สทฺธาทีนมาธารภูตปุคฺคลทสฺสนํ. พุทฺเธ ปสาโท คหิโต. โส หิ อิตเรหิ ปมํ คเหตพฺโพติ. อริยกนฺตานิ สีลานิ คหิตานิ โสตาปนฺนสฺส สีลานํ อธิปฺเปตตฺตา. สงฺเฆ ปสาโท คหิโต ธมฺมปฺปสาทสฺส อนนฺตรํ วุจฺจมานตฺตา. ธมฺเม ปสาโท คหิโต อเวจฺจปฺปสาทภาวโต. โสตํ อริยมคฺคํ อาทิโต ปตฺติ โสตาปตฺติ, ตสฺสา องฺคานิ โสตาปตฺติยงฺคานิ. ปจฺเจนฺตีติ ปชายนฺติ อธิคจฺฉนฺติ. เตนาห ‘‘ปาปุณนฺตี’’ติ. พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ. กตรปสาโท วตฺตมาโนติ อธิปฺปาโย. มคฺคปฺปสาโทติ มคฺคสมฺปยุตฺโต ปสาโท. อาคตมคฺคสฺสาติ อธิคตมคฺคสฺส. มิสฺสกปฺปสาโท เอโสติ ตสฺมา อุโภปิ เถรา ปณฺฑิตา พหุสฺสุตา.

๓. ทีฆาวุอุปาสกสุตฺตวณฺณนา

๙๙๙. ยทคฺเคน ตสฺมึ อุปาสเก ยถาวุตฺตานิ โสตาปตฺติยงฺคานิ สํวิชฺชนฺติ, ตทคฺเคน โส เตสุ วตฺติสฺสตีติ อาห ‘‘จตูสุ โสตาปตฺติยงฺเคสุ สนฺทิสฺสสี’’ติ. วิชฺชํ ภชนฺตีติ วิชฺชาภาคิยา, เตสุ โกฏฺาเสสุ ปริยาปนฺนาติ วุตฺตํ ‘‘วิชฺชาภาคิเยติ วิชฺชาโกฏฺาสิเก’’ติ.

๔-๕. ปมสาริปุตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๐๐-๑๐๐๑. ‘‘โสตาปตฺตี’’ติ ปมมคฺโค อธิปฺเปโต, ตสฺส อธิคมูปาโย โสตาปตฺติยงฺคํ. เตนาห ‘‘โสตาปตฺติยา ปุพฺพภาคปฏิลาภงฺค’’นฺติ. โสตาปตฺติอตฺถายาติ โสตาปตฺติมคฺคตฺถาย. องฺคนฺติ การณํ. อิตเร รตนตฺตยปฺปสาทาทโย. ปุพฺพภาคิยาย โสตาปตฺติยา องฺคํ การณนฺติ.

๖. ถปติสุตฺตวณฺณนา

๑๐๐๒. (วิตานํ กายานํ กาลนกาย, การณสฺส อุปคตานํ สาตปริยา สิชฺฌติ. ตตฺถ กายปริปชฺฌายมุเขน ตนฺตึ เปสิ ภควา. น หิ ปสฺสถ นมตฺเถหิ กรเณ นิรตฺถโก ปิติ วตฺตติ. ‘‘นิยตตฺตา’’ติ วุตฺตํ. ตเมว นิยมํ ‘‘มชฺฌิมปเทเสเยวา’’ติ อวธารเณน วิภาเวติ . มหามณฺฑลจาริกํ จรนฺโตปิ มชฺฌิมปเทสสฺส อนฺตนฺเตเนว จรติ. ตตฺถ จ วิเนยฺยชนสฺส สโมสรณตา มตฺตปนวาจมหตฺถสุปนนฺติ.) [เอตฺถนฺตเร ปาโ อสุทฺโธ ทุสฺโสธนีโย จ, สุทฺธปาโ คเวสิตพฺโพ.] อรุณุฏฺาปนมฺปิ ตตฺเถว โหติ. ปจฺจนฺตปเทเส ปน ทูเร วิเนยฺยชนา โหนฺติ, ตตฺถ คนฺตฺวา มคฺคผเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา ตโต ปจฺจาคนฺตฺวา มชฺฌิมปเทเส เอว วาสํ อุปคจฺฉติ, ตตฺถ มนุสฺเสหิ กตานํ การานํ มหปฺผลภาวนิยมนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อาสนฺเน โน ภควา’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น เกวล’’นฺติ อาทิมาห.

สกิฺจนสปลิโพธนฏฺเนาติ เอตฺถ กิฺจนํ ปลิโพโธ อสมาปิตกิจฺจตา, ตทุภยสฺส อตฺถิภาเวนาติ อตฺโถ. มหาวาเสติ มหาเคเห.

ทฺเวปิ ชนาติ อิสิทตฺตปุราณา. สิตํ นาม มนฺทหสิตํ. หสิตํ นาม วิสฺสฏฺหสิตํ. มุตฺตจาโคติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วิสุทฺธิมคฺคฏีกายํ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๖๐) วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. สํวิภาเคติ ปรสฺส ทานวเสน สํวิภชเน. อกตวิภาคนฺติ เทยฺยธมฺมวเสน น กตวิภาคํ. ปุคฺคลวเสน ปน ‘‘สีลวนฺเตหี’’ติ วุตฺตตฺตา กตวิภาคเมว มหปฺผลตากรเณน. เตนาห ‘‘สพฺพํ ทาตพฺพเมว หุตฺวา ิต’’นฺติ.

(เอตฺถนฺตเร ปาโ อสุทฺโธ ทุสฺโสธนีโย จ, สุทฺธปาโ คเวสิตพฺโพ.)

๗. เวฬุทฺวาเรยฺยสุตฺตวณฺณนา

๑๐๐๓. ปเวณิอาคตสฺสาติ อเนกปุริสยุควเสน ปรมฺปราคตสฺส. อตฺตนิ อุปเนตพฺพนฺติ อตฺตนิ เนตฺวา ปรสฺมึ อุปเนตพฺพํ. เตนาห ‘‘โย โข มฺยายํ ธมฺโม อปฺปิโย อมนาโป, ปรสฺสเปโส ธมฺโม อปฺปิโย อมนาโป’’ติอาทิ. อมนฺตภาเสนาติ สมฺผสฺส สมฺผปฺปลาปสฺส อมนฺตาย มนฺตารหิตภาสเนน.

๘-๙. ปมคิฺชกาวสถสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๐๔-๕. ทฺเว คามา ทฺวินฺนํ าตีนํ คามาติ กตฺวา. าติเกติ เอวํลทฺธนาเม เอกสฺมึ คามเก. คิฺชกาวสเถติ คิฺชกา วุจฺจนฺติ อิฏฺกา, คิฺชกาหิ เอว กโต อาวสโถ, ตสฺมึ. โส กิร อาวาโส ยถา สุธาหิ ปริกมฺเมน ปโยชนํ นตฺถิ, เอวํ อิฏฺกาหิ เอว จินิตฺวา กโต. เตน วุตฺตํ ‘‘อิฏฺกามเย อาวสเถ’’ติ. ตุลาถมฺภทฺวารพนฺธกวาฏผลกานิ ปน ทารุมยา เอว. โอรํ วุจฺจติ กามธาตุ, ปจฺจยภาเวน ตํ โอรํ ภชนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ, โอรมฺภาคสฺส วา หิตานิ โอรมฺภาคิยานิ. เตนาห ‘‘เหฏฺาภาคิยาน’’นฺติอาทิ. ตีหิ มคฺเคหีติ เหฏฺิเมหิ ตีหิ มคฺเคหิ. เตหิ ปหาตพฺพตาย หิ เตสํ สฺโชนานํ โอรมฺภาคิยตา, โอรํ ภฺชิยานิ วา โอรมฺภาคิยานิ วุตฺตานิ นิรุตฺตินเยน. อิทานิ พฺยติเรกมุเขน เนสํ โอรมฺภาคิยภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิกฺขมฺภิตานิ สมตฺถตาวิฆาเตน ปุถุชฺชนานํ, สมุจฺฉินฺนานิ สพฺพโส อภาเวน อริยานํ รูปารูปภวูปปตฺติยา วิพนฺธนาย น โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘อวิกฺขมฺภิตานิ มคฺเคน วา อสมุจฺฉินฺนานี’’ติ. นิพฺพตฺติวเสนาติ ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน คนฺตุํ น เทนฺติ. มหคฺคตภวคามิกมฺมายูหนสฺส วิพนฺธนโต สกฺกายทิฏฺิอาทีนิ ตีณิ สฺโชนานิ กามจฺฉนฺทพฺยาปาทา วิย มหคฺคตภวูปปตฺติยา วิเสสปจฺจยตฺตา ตตฺถ มหคฺคตภเว นิพฺพตฺตมฺปิ ตนฺนิพฺพตฺติเหตุกมฺมปริกฺขเย กามภวูปปตฺติปจฺจยตาย มหคฺคตภวโต อาเนตฺวา อิเธว กามภเว เอว นิพฺพตฺตาเปนฺติ. ตสฺมา สพฺพานิปิ ปฺจปิ สํโยชนานิ โอรมฺภาคิยาเนว. ปฏิสนฺธิวเสน อนาคมนสภาโวติ ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน ตสฺมา โลกา อิธ น อาคมนสภาโว. พุทฺธทสฺสน-เถรทสฺสน-ธมฺมสฺสวนานํ ปน อตฺถาย อสฺส อาคมนํ อนิวาริตํ.

กทาจิ อุปฺปตฺติยา วิรฬาการตา, ปริยุฏฺานมนฺทตาย อพหลตาติ ทฺเวธาปิ ตนุภาโว. อภิณฺหนฺติ พหุโส. พหลพหลาติ ติพฺพติพฺพา. ยตฺถ อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ สนฺตานํ มทฺทนฺตา ผรนฺตา สาเธนฺตา อนฺธการํ กโรนฺตา อุปฺปชฺชนฺติ, ทฺวีหิ ปน มคฺเคหิ ปหีนตฺตา ตนุกตนุกา มนฺทมนฺทา อุปฺปชฺชนฺติ. ปุตฺตธีตโร โหนฺตีติ อิทํ อการณํ. ตถา หิ องฺคปจฺจงฺคปรามสนมตฺเตนปิ เต โหนฺติ. อิทนฺติ ‘‘ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา’’ติ อิทํ วจนํ. ภวตนุกวเสนาติ อปฺปกภววเสน. นฺติ มหาสีวตฺเถรสฺส วจนํ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. เย ภวา อริยานํ ลพฺภนฺติ, เต ปริปุณฺณลกฺขณภวา เอว. เย น ลพฺภนฺติ, ตตฺถ กีทิสํ ตํ ภวตนุกํ. ตสฺมา อุภยถาปิ ภวตนุกสฺส อสมฺภโว เอวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘โสตาปนฺนสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺเม ภเว ภวตนุกํ นตฺถิ อฏฺมสฺเสว ภวสฺส สพฺพสฺเสว อภาวโต. เสเสสุปิ เอเสว นโย.

กามาวจรโลกํสนฺธาย วุตฺตํ อิตรสฺส โลกสฺส วเสน ตถา วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. โย หิ สกทาคามี เทวมนุสฺสโลเกสุ โวมิสฺสกวเสน นิพฺพตฺตติ, โสปิ กามภววเสเนว ปริจฺฉินฺทิตพฺโพ. ภควตา จ กามโลเก ตฺวา – ‘‘สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา’’ติ วุตฺตํ. อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวาติ จ อิมินา ปฺจสุ สกทาคามีสุ จตฺตาโร วชฺเชตฺวา เอโกว คหิโต. เอกจฺโจ หิ อิธ สกทาคามิผลํ ปตฺวา อิเธว ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ อิธ ปตฺวา เทวโลเก ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ เทวโลเก ปตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ เทวโลเก ปตฺวา อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายติ, อิเม จตฺตาโร อิธ น ลพฺภนฺติ. โย ปน อิธ ปตฺวา เทวโลเก ยาวตายุกํ วสิตฺวา ปุน อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยมิธ อธิปฺเปโต. อฏฺกถายํ ปน ‘‘อิมํ โลกนฺติ กามภโว อธิปฺเปโต’’ติ อิมมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘สเจ หี’’ติอาทินา อฺํเยว จตุกฺกํ ทสฺสิตํ.

จตูสุ…เป… สภาโวติ อตฺโถ อปายคมนียานํ ปาปธมฺมานํ สพฺพโส ปหีนตฺตา. ธมฺมนิยาเมนาติ มคฺคธมฺมนิยาเมน นิยโต อุปริมคฺคาธิคมสฺส อวสฺสํภาวิภาวโต. เตนาห ‘‘สมฺโพธิปรายโณ’’ติ. เตสํ เตสํ าณคตินฺติ เตสํ เตสํ สตฺตานํ ‘‘อสุโก โสตาปนฺโน, อสุโก สกทาคามี’’ติอาทินา ตํตําณาธิคมนํ าณูปปตฺตึ. าณาภิสมฺปรายนฺติ ตโต ปรมฺปิ – ‘‘นิยโต สมฺโพธิปรายโณ สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตี’’ติอาทินา าณสหิตํ อุปปตฺติปจฺจยภวํ. โอโลเกนฺตสฺส าณจกฺขุนา อเปกฺขนฺตสฺส. เกวลํ กายกิลมโถว, น เตน กาจิ ปเรสํ อตฺถสิทฺธีติ อธิปฺปาโย. จิตฺตวิเหสา จิตฺตเขโท, สา กิเลสูปสํหิตตฺตา พุทฺธานํ นตฺถิ.

อาทิสฺสติ อาโลกียติ อตฺตา เอเตนาติ อาทาสํ, ธมฺมภูตํ อาทาสํ ธมฺมาทาสํ, อริยมคฺคาณสฺเสตํ อธิวจนํ. เตน หิ อริยสาวโก จตูสุ อริยสจฺเจสุ วิทฺธสฺตสมฺโมหตฺตา อตฺตานํ ยาถาวโต ตฺวา ยาถาวโต พฺยากเรยฺย, ตปฺปกาสนโต ปน ธมฺมปริยายสฺส สุตฺตสฺส ธมฺมาทาสตา เวทิตพฺพาติ. เยน ธมฺมาทาเสนาติ อิธ ปน มคฺคธมฺมเมว วทติ. เสสํ อุตฺตานตฺถตฺตา สุวิฺเยฺยเมวาติ.

เวฬุทฺวารวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ราชการามวคฺโค

๑. สหสฺสภิกฺขุนิสงฺฆสุตฺตวณฺณนา

๑๐๐๗. ธมฺมิกตฺตา เทสวาสีหิ อนุกมฺปิโต ราชาติ ราชโก, ตสฺส อาราโม ราชการาโม, ตสฺมึ. ภูมิสีสํ เสฏฺปฺปเทโส, ยตฺถ วสนฺโต ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺโต โหตีติ เตสํ อธิปฺปาโย.

วาราเปหีติ ปฏิเสเธหิ. ยุชฺฌาเปตุนฺติ กลหํ การาเปตุํ. ปุน อาคจฺฉนฺตาติ อปรสฺมึ สํวจฺฉเร อาคจฺฉนฺตา. อุพฺพฏฺเฏตฺวาติ มหตี วีจิโย อุพฺพฏฺเฏตฺวา. ยถา ตสฺส สกลเมว รฏฺํ เอโกทกีภูตํ โหติ, เอวํ กตฺวา สมุทฺทเมว ชาตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สมุทฺทเมว อกํสู’’ติ.

อิสีนมนฺตรํ กตฺวาติ อิสีนํ การณํ กตฺวา, อิสีนํ เหตูติ อตฺโถ, อิสีนํ วา อนฺตรเภทํ กตฺวา. ตถา โลเก โกลาหลสฺส ปตฺถฏตํ วิภาเวนฺโต ภควา ‘‘เม สุต’’นฺติ อาห ปจฺจกฺขโต ชานมฺปิ. อุจฺฉินฺโนติ กุลจฺเฉเทน อุจฺฉินฺโน. น เกวลํ สยเมว, อถ โข สห รฏฺเหิ. วิภวนฺติ วินาสํ อุปคโต.

ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตนฺติ ตํ ยถาวุตฺตํ ปเสนทินา โกสลราเชน การิตํ วิหารํ สนฺธาย เอตํ ‘‘ราชการาเม’’ติ วุตฺตํ.

๒-๓. พฺราหฺมณสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๐๘-๙. อุทยคามินินฺติ อารมฺภโต ปฏฺาย สมฺปตฺติอาวหํ.

๔. ทุคฺคติภยสุตฺตวณฺณนา

๑๐๑๐. ทุฏฺา คติ นิปฺผตฺติ ทุคฺคติ, ทุคฺคตภาโว ทาลิทฺทิยํ, ตเทว ภยํ, ตํ สพฺพํ อนวเสสํ วา ทุคฺคติภยํ ทลิทฺทภยํ. สมฺมเทว อติกฺกนฺโตติ สมติกฺกนฺโต.

๖. ปมมิตฺตามจฺจสุตฺตวณฺณนา

๑๐๑๒. โวหารมิตฺตาติ ตํตํทานคฺคหณวเสน โวหารกา มิตฺตา. อามนฺตนปฏิมนฺตนอิริยาปถาทีสุปีติ อาลาปสลฺลาปคมนนิสชฺชาทิอตฺถสํวิธานาทีสุ . เอกโต ปวตฺตกิจฺจาติ สห ปวตฺตกตฺตพฺพา. อมา สห ภวนฺตีติ อมจฺจา. ‘‘อมฺหากํ อิเม’’ติ ายนฺตีติ าตี, อาวาหวิวาหสมฺพทฺธา. เตนาห ‘‘สสฺสุสสุรปกฺขิกา’’ติ. โยนิสมฺพนฺธา วา สาโลหิตา. เตนาห ‘‘ภาติภคินิมาตุลาทโย’’ติ.

๗. ทุติยมิตฺตามจฺจสุตฺตวณฺณนา

๑๐๑๓. กิสฺมิฺจิ กสฺสจิ จ ตถา ตถา อุปฺปนฺนสฺส ปสาทสฺส อฺถาภาโว ปสาทฺถตฺตํ. ภูตสงฺฆาตสฺส ฆนอาทิกสฺส อฺถาภาโว ภาวฺถตฺตํ. นิรยาทิคติอนฺตรอุปปตฺติ คติอฺถตฺตํ. สภาวธมฺมานํ กกฺขฬผุสนาทิลกฺขณสฺส อฺถาภาโว ลกฺขณฺถตฺตํ. ‘‘ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายตี’’ติ เอวํ วุตฺตํ อฺถตฺตํ วิปริณามฺถตฺตํ. ลกฺขณฺถตฺตํ น ลพฺภติ. เตนาห ‘‘ลกฺขณํ ปน น วิคจฺฉตี’’ติ, เสสํ ลพฺภตีติ. ปถวีธาตุยาติ สสมฺภารปถวีธาตุยา. อาโปธาตุยาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปุริมภาโวติ ฆนกินภาโว. ภาวฺถตฺตํ รสฺถตฺตสภาโว. คติอฺถตฺตํ อุคฺคตูปปตฺติ. เตนาห ‘‘ตฺหิ อริยสาวกสฺส นตฺถี’’ติ. ปสาทฺถตฺตมฺปิ นตฺถิเยว อริยสาวกสฺส.

ราชการามวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สรณานิวคฺโค

๑-๒. ปมมหานามสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๑๗-๑๘. สมิทฺธนฺติ สมฺปุณฺณํ. สุปุปฺผิตนฺติ อุปโสภิตตาย สุปุปฺผิตสทิสตฺตา. พฺยูหา นาม เยหิ เอว ปวิสนฺติ, เตหิ เอว นิกฺขมนฺติ. เตนาห ‘‘พฺยูหา วุจฺจนฺติ อวินิพฺพิทฺธรจฺฉาโย’’ติ. อุทฺธตจารินาติ ยฏฺนฺตรา.

๓. โคธสกฺกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๑๙. ตีหีติ รตนตฺตเย อุปฺปนฺเนหิ ตีหิ ปสาทธมฺเมหิ. จตูหีติ เตหิ เอว สทฺธึ สีเลน. โกจิเทวาติอาทิ ปริกปฺปวเสน วุตฺตํ ภควติ อตฺตโน สทฺธาย อุฬารตมภาวทสฺสนตฺถํ. เตนาห ‘‘ภควโต สพฺพฺุตายา’’ติอาทิ. ธมฺโม สมุปฺปาโทติ วิวาทธมฺมอุปฺปตฺติเหตุ. ตเทว หิ สนฺธายาห ‘‘กิฺจิเทว การณ’’นฺติ. การณนฺติ นานาการณํ. กลฺยาณกุสลวิมุตฺตนฺติ อกลฺยาณํ อกุสลํ, ตทิทํ ยถาวุตฺตอปฺปสาทเนน อปนีตอตฺถทสฺสนตฺถํ. อสฺสาติ มหานามสกฺกสฺส. อนวชฺชนโทโส เอโสติ จตูสุ ธมฺเมสุ เอเกนปิ สมนฺนาคโต โสตาปนฺโน โหตีติ อนุชานิตฺวา จตูหิปิ สมนฺนาคเตน อาจิกฺขิตพฺพนฺติ ยาถาวโต อนวชฺชนโทโสติ อตฺโถ.

๔. ปมสรณานิสกฺกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๒๐. ปมาเณนาติ เอเกน ปมาเณน, น สพฺพโส. โอโลกนํ ขมนฺตีติ ทสฺสนมคฺเคน จตุสจฺจธมฺมา ปจฺจตฺตํ ปสฺสิตพฺพา ปฏิวิชฺฌิตพฺพา. ปมมคฺคกฺขเณ หิ จตุสจฺจธมฺมา เอกเทสโตว ทิฏฺา นาม โหนฺติ. ‘‘ปริมุจฺจตี’’ติ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติ ปฏิวิชฺฌนกิริยาย วตฺตมานตฺตา. อคนฺตฺวา อปาเยสุ อนุปฺปตฺติรหตฺตา. เตนาห ‘‘น คจฺฉตี’’ติ, น อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. มหาสารรุกฺเข ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘โย โกจิ วิฺุชาติโก มม เจ โคจรํ คจฺฉติ, เอกสฺส อาคมนํ อวฺฌํ อโมฆ’’นฺติ ทสฺเสตุํ.

๕. ทุติยสรณานิสกฺกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๒๑. ทุกฺเขตฺตํ นิโรชกํ, ตาย เอว ทุกฺเขตฺตตาย วิสมํ โหตีติ อาห ‘‘วิสมเขตฺต’’นฺติ. โลณูปหตนฺติ ชาตสภาเวน โลเณน อูสเรน อุปหตํ. ขณฺฑานีติ ขณฺฑิตานิ. เตเมตฺวาติ เตมิตตฺตา. วาตาตปหตานีติ จิรกาลํ วาเตน เจว อาตเปน จ อุปหตานิ อาพาธิตานิ.

๖. ปมอนาถปิณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๒๒. านนฺติ านโส. เตนาห ‘‘ขเณนา’’ติ. นิยฺยานิกนฺติ ปวตฺตํ าณปฏิรูปกํ ปกติปุริสนฺตรชานนาทิมิจฺฉาาณํ. ตํ ปน อนิยฺยานิกํ ‘‘นิยฺยานิก’’นฺติ ปจฺจเวกฺขณวเสน ปวตฺเตยฺยาติ อาห ‘‘มิจฺฉาปจฺจเวกฺขเณนา’’ติ. คุณวิยุตฺตสฺส อตฺตโน สกตฺตนิ อวฏฺานสงฺขาตา วิมุตฺติ มิจฺฉาวิมุตฺติ.

๗. ทุติยอนาถปิณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๒๓. ยถากมฺมํ สมฺปเรตพฺพโต สมฺปราโย, เปจฺจภโว, สมฺปรายเหตุกํ สมฺปรายิกํ, มรณภยํ.

สรณานิวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปุฺาภิสนฺทวคฺโค

๑. ปมปุฺาภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา

๑๐๒๗. อวิจฺเฉเทน นิจฺจปฺปวตฺติยมานานิ ปุฺานิ อภิสนฺทนฏฺเน ‘‘ปุฺาภิสนฺทา’’ติ วุตฺตา, เตน ปุฺนทิโยติ อตฺโถ วุตฺโต. สุขสฺส อาหรณโต อานยนโต สุขสฺสาหาโร.

๔. ปมเทวปทสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓๐. เทวานนฺติ วิสุทฺธิเทวานํ. เทวปทานีติ เตสํ ปทานิ เทวปทานิ, เทโวติ วา สมฺมาสมฺพุทฺโธ. เทวสฺส าเณน อกฺกนฺตปทานีติ ปฏิเวธาเณน เจว เทสนาาเณน จ อกฺกนฺตปทานิ. เทวา นาม ชาติเทวา. เตสมฺปิ เทวฏฺเน เทโวติ เทวเทโว, สมฺพุทฺโธ.

๘. วสฺสสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓๔. ปารํ วุจฺจติ นิพฺพานํ สํสารมโหฆสฺส ปรตีรภาวโต. เตนาห – ‘‘ติณฺโณ ปารงฺคโต, ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ (สํ. นิ. ๔.๒๓๘; อิติวุ. ๖๙; ปุ. ป. ๑๘๘), เย ชนา ปารคามิโน’’ติ (ธ. ป. ๘๕) จ. อถ วา ปาติ รกฺขตีติ ปารํ, นิพฺพานํ. โย ปฏิวิชฺฌติ, ตํ วฏฺฏทุกฺขโต ปาติ รกฺขติ, อจฺจนฺตหิเตน จ วิมุตฺติสุเขน จ รเมติ, ตสฺมา ปารนฺติ วุจฺจติ. คจฺฉมานา เอวาติ ปารํ นิพฺพานํ คจฺฉมานา เอว. เต ธมฺมา อาสวานํ ขยาย สํวตฺตนฺติ สจฺฉิกิริยาปหานปฏิเวธานํ สมกาลตฺตา.

๑๐. นนฺทิยสกฺกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓๖. ปวิเวกตฺถายาติ ปวิเวกสุขตฺถาย. ปฏิสลฺลานตฺถายาติ พหิทฺธา นานารมฺมณโต จิตฺตํ ปฏินิวตฺเตตฺวา กมฺมฏฺาเน สมฺมเทว ลีนตฺถาย.

ปุฺาภิสนฺทวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สคาถกปุฺาภิสนฺทวคฺโค

๑. ปมอภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓๗. สงฺขฺยา อตฺถิ เหฏฺา มหาปถวิยา, อุปริ อากาเสน, ปริโต จกฺกวาฬปพฺพเตน, มชฺเฌ ตตฺถ ตตฺถ ิเตหิ ทีปปพฺพตปริยนฺเตหิ ปริจฺฉินฺนตฺตา. ชานนฺเตน โยชนโต สงฺขาตุํ สกฺกาติ อธิปฺปาโย. มหาสรีรมจฺฉ-กุมฺภีล-ยกฺข-รกฺขส-มหานาคทานวาทีนํ สวิฺาณกานํ, พฬวามุขปาตาลาทีนํ อวิฺาณกานํ เภรวารมฺมณานํ วเสน พหุเภรวํ.

๒. ทุติยอภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓๘. สมฺเภเทติ สมฺเภทํ สโมธานํ คตฏฺาเน. ยตฺถิมา มหานทิโย สํสนฺทนฺติ สเมนฺตีติ ปริกปฺปวจนเมตํ. ตาทิสาสุ หิ มหานทีสุ กาจิ ปุรตฺถิมสมุทฺทํ ปวิฏฺา, กาจิ ปจฺฉิมํ.

๓. ตติยอภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓๙. ‘‘กุสเล ปติฏฺิโต’’ติ เอตฺถ ยํ อจฺจนฺติกํ กุสเล ปติฏฺานํ. ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มคฺคกุสเล ปติฏฺิโต’’ติ อาห, เหฏฺิมมคฺคกุสเลติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ภาเวติ มคฺค’’นฺติ. อริยผลํเยว ธมฺมสาโร. กิเลสา ขียนฺติ เอตฺถาติ กิเลสกฺขโย, นิพฺพานํ, ตสฺมึ กิเลสกฺขเย รโต.

๔. ปมมหทฺธนสุตฺตวณฺณนา

๑๐๔๐. อริยานํ พุทฺธานํ ธนนฺติปิ อริยธนํ, นิพฺพานนฺติ เกจิ. อนยโตปิ วิสุทฺธฏฺเน อริยฺจ ตํ ธนฺจ ธนายิตฏฺเนาติ อริยธนํ, เตน อริยธเนน. เตเนว โภเคนาติ อริยธนโภเคน.

สคาถกปุฺาภิสนฺทวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สปฺปฺวคฺโค

๒. วสฺสํวุตฺถสุตฺตวณฺณนา

๑๐๔๘. สโมธาเนตฺวาติ เยหิ อินฺทฺริยาทีหิ ภาวิยมาเนหิ โสตาปตฺติมคฺโค อนุปฺปตฺโต, ตาเนว. ธมฺมสมานตาย เจตํ วุตฺตํ. อฺาเนว หิ อตฺถโต ตํ ตํ มคฺคํ สาธกานิ อินฺทฺริยาทีนิ. ตนฺติ ปเวณี กถิตาติ ยํ กฺจิ วิเนยฺยปุคฺคลํ อนเปกฺขิตฺวา เกวลํ ตนฺติวเสน ิติ กถิตา.

๓. ธมฺมทินฺนสุตฺตวณฺณนา

๑๐๔๙. สตฺตสุ ชเนสูติ สตฺตสุ กิตฺติยมาเนสุ อุปาสกชเนสุ. คมฺภีราติอาทีสุ ธมฺมคมฺภีราติ ปาฬิคติยา คมฺภีรา, ตถา จ สลฺลสุตฺตํ เหฏฺา ปกาสิตเมว. ‘‘เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามี’’ติอาทินา (อ. นิ. ๖.๖๓; กถา. ๕๓๙) อาคตํ เจตนาสุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘เจตนาสหชาตํ นานากฺขณิก’’นฺติอาทินา ปฏฺาเน อาคตนเยน, สุตฺเตสุ (อ. นิ. ๓.๑๐๑) จ ‘‘ทิฏฺธมฺมเวทนีย’’นฺติอาทินา อาคตนเยน คมฺภีรภาโว เวทิตพฺโพ, นิพฺพานสฺส เจว อริยมคฺคสฺส จ ปกาสนโต อสงฺขตสํยุตฺตสฺส โลกุตฺตรตฺถทีปกตา. ‘‘อตีตํปาหํ รูเปน ขชฺชึ, เอตรหิ ขชฺชามี’’ติอาทินา ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ขาทกภาวสฺส, ปุคฺคลสฺส ขาทิตพฺพตาย วิภาวเนน ขชฺชนียปริยาเย (สํ. นิ. ๓.๗๙) วิเสสโต นิสฺสตฺตนิชฺชีวตา ทีปิตาติ วุตฺตํ ‘‘สตฺตสุฺตาทีปกา ขชฺชนิกสุตฺตนฺตาทโย’’ติ. อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามาติ เย เตสุ สุตฺเตสุ วุตฺตปฏิปทํ สมฺมเทว ปริปูเรนฺติ, เต เตสุ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติ นาม . เอตฺถาติ ‘‘น โข เนต’’นฺติ เอตฺถ น-กาโร ‘‘อฺมฺ’’นฺติ เอตฺถ ม-กาโร วิย พฺยฺชนสนฺธิมตฺตเมว, นาสฺส โกจิ อตฺโถ.

๔. คิลานสุตฺตวณฺณนา

๑๐๕๐. น โข ปเนตนฺติ น โข เอตํ, โนติ จ อมฺเหหีติ อตฺโถติ อาห ‘‘น โข อมฺเหหี’’ติอาทิ. อสฺสสนฺตีติ อสฺสาสนียาติ อาห ‘‘อสฺสาสกเรหี’’ติ. มริสฺสตีติ มาริโส, เอกนฺตภาวิมรโณ, โส ปน มรณาธีนวุตฺติโกติ วุตฺตํ ‘‘มรณปฏิพทฺโธ’’ติ. อธิมุจฺเจหีติ อธิมุตฺตึ อุปฺปาเทหิ. ตํ ปน ตถา จิตฺตสฺส ปณิธานํ ปนนฺติ อาห ‘‘เปหี’’ติ. อาคมนียคุเณสูติ ปุพฺพภาคคุเณสุ. ปมาณํ นาม นตฺถิ อนนฺตาปริมาณตฺตา. นานากรณํ นตฺถิ วิมุตฺติยา นินฺนานตฺตา.

๙. ปฺาปฏิลาภสุตฺตวณฺณนา

๑๐๕๕. ปฺาปฏิลาภายาติ มคฺคผลปฺาย ปฏิลาภตฺถํ. เตนาห ‘‘สตฺต เสกฺขา’’ติอาทิ.

สปฺปฺวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. มหาปฺวคฺโค

๑. มหาปฺสุตฺตวณฺณนา

๑๐๕๘. มหนฺเตอตฺเถ ปริคฺคณฺหาตีติ สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิเก มหาวิตฺถาเร อตฺเถ ปริจฺฉิชฺช อเสเสตฺวา มุฏฺิคเต วิย กตฺวา คณฺหาติ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

มหาปฺวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

โสตาปตฺติสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.