📜

๑๒. สจฺจสํยุตฺตํ

๑. สมาธิวคฺโค

๑. สมาธิสุตฺตวณฺณนา

๑๐๗๑. จิตฺเตกคฺคตายาติ นิสฺสกฺกวจนํ ‘‘ปริหายนฺตี’’ติ ปทํ อเปกฺขิตฺวา. ยถาภูตาทิวเสนาติ ยถาคตาทิวเสน. ยถาภูตํ นาม อิมสฺมึ สุตฺเต ‘‘สมาหิโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติอาทิ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ตถา ยสฺมา’’ติอาทิสงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตถา หิ ยถาภูตวเสน การณจฺเฉโท กโต ‘‘ตถา ยสฺมา’’ติอาทิวจเนหิ. วณฺณาติ อกฺขรา, ‘‘คุณา’’ติ เกจิ. ปทพฺยฺชนานีติ นามาทิปทานิ เจว ตํสมุทายภูตพฺยฺชนานิ จ.

๓. ปมกุลปุตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๗๓-๗๕. สาสนาวจรา อธิปฺเปตา พาหิรกานํ สจฺจาภิสมยสฺส อภาวโต. ตถาติ อิมินา จตุตฺถปฺจเมสุ อตฺถวิเสสาภาวํ ทสฺเสติ. ยทิ เอวํ กสฺมา วิสุํ วิสุํ เทสนาติ อาห ‘‘เตน เตน อภิลาเปนา’’ติอาทิ.

๑๐. ติรจฺฉานกถาสุตฺตวณฺณนา

๑๐๘๐. ทุคฺคติโต สํสารโต จ นิยฺยาติ เอเตนาติ นิยฺยานํ, สคฺคมคฺโค โมกฺขมคฺโค จ. ตสฺมึ นิยฺยาเน นิยุตฺตา, ตํ เอตฺถ อตฺถีติ นิยฺยานิกา. วจีทุจฺจริตสํกิเลสโต วา นิยฺยาตีติ อี-การสฺส รสฺสตฺตํ ย-การสฺส ก-การํ กตฺวา นิยฺยานิกา. เจตนาย สทฺธึ สมฺผปฺปลาปา เวรมณิ. ตปฺปฏิปกฺขโต อนิยฺยานิกา, ตสฺส ภาโว อนิยฺยานิกตฺตํ. ติรจฺฉานภูตนฺติ ติโรกรณภูตํ. กมฺมฏฺานภาเวติ อนิจฺจตาปฏิสํยุตฺตจตุสจฺจกมฺมฏฺานภาเว. สาตฺถกนฺติ ทานสีลาทินิสฺสิตตฺตา หิตปฏิสํยุตฺตํ.

วิสิขาติ ฆรสนฺนิเวโส. วิสิขาคหเณน จ คามาทิคหเณ วิย ตนฺนิวาสิโน วิเสสโต คหิตา ‘‘อาคโต คาโม’’ติอาทีสุ วิย . เตนาห ‘‘สูรา สมตฺถา’’ติ. กุมฺภฏฺานาปเทเสน กุมฺภทาสิโย วุตฺตาติ อาห – ‘‘กุมฺภทาสิกถา’’ติ. อยาถาวโต อุปฺปตฺติฏฺิติสํหาราทิวเสน โลโก อกฺขายติ เอเตนาติ โลกกฺขายิกา. อิติ อิมินา ปกาเรน ภโว, อิมินา อภโวติ เอวํ ปวตฺตาย อิติภวาภวกถาย สทฺธึ.

สมาธิวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนวคฺโค

๑. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตวณฺณนา

๑๐๘๑. ‘‘อิสีนํ ปตนุปฺปตนวเสน โอสีทนอุปฺปตนฏฺานวเสน เอวํ ‘อิสิปตน’นฺติ ‘ลทฺธนาเม’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘เอตฺถ หี’’’ติอาทิ วุตฺตํ.

อามนฺเตสีติ เอตฺถ ยสฺมา ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนตฺถํ อยํ อามนฺตนา, ตสฺมา สมุทาคมโต ปฏฺาย สตฺถุ ปุพฺพจริตํ สงฺเขเปเนว ปกาเสตุํ วฏฺฏตีติ ‘‘ทีปงฺกรปาทมูเล กตาภินีหารโต ปฏฺายา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ มารพลํ ภินฺทิตฺวาติ มารฺจ มารพลฺจ ภฺชิตฺวา. อถ วา มารสฺส อพฺภนฺตรํ พาหิรฺจาติ ทุวิธํ พลํ ภฺชิตฺวา. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตา’’ติ เอตฺถ อนฺต-สทฺโท ‘‘ปุพฺพนฺเต าณํ อปรนฺเต าณ’’นฺติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๐๖๓) วิย ภาคปริยาโยติ อาห ‘‘ทฺเว อิเม, ภิกฺขเว, โกฏฺาสา’’ติ. สห สมุทาหาเรนาติ อุจฺจารณสมกาลํ. ปตฺถริตฺวา อฏฺาสิ พุทฺธานุภาเวน. พฺรหฺมาโน สมาคจฺฉึสุ ปริปกฺกกุสลมูลา สจฺจาภิสมฺโพธาย กตาธิการา.

คิหิสฺโชนนฺติ คิหิพนฺธนํ. ฉินฺทิตฺวาติ หริตฺวา. น วฬฺเชตพฺพาติ นานุยุฺเชตพฺพา. กิเลสกามสุขสฺสาติ กิเลสกามยุตฺตสฺส สุขสฺส. อนุโยโคติ อนุภโว. คามวาสีหิ เสวิตพฺพตฺตา คามวาสีนํ สนฺตโก. อตฺตโนติ อตฺตภาวสฺส. อาหิโต อหํมาโน เอตฺถาติ อตฺตา, อตฺตภาโว. ทุกฺขกรณนฺติ ทุกฺขุปฺปาทนํ. อตฺตมารเณหีติ อตฺตพาธเนหิ. อุปสมายาติ กิเลสวูปสโม อธิปฺเปโต, ตทตฺถสมฺปทานวจนนฺติ อาห ‘‘กิเลสูปสมตฺถายา’’ติ. เอส นโย เสเสสุปิ.

สจฺจาณาทิวเสน ตโย ปริวฏฺฏา เอตสฺสาติ ติปริวฏฺฏํ, าณทสฺสนํ. เตนาห ‘‘สจฺจาณา’’ติอาทิ. ยถาภูตํ าณนฺติ ปฏิเวธาณํ อาห. เตสุเยว สจฺเจสุ. าเณน กตฺตพฺพสฺส จ ปริฺาปฏิเวธาทิกิจฺจสฺส จ ชานนาณํ, ‘‘ตฺจ โข ปฏิเวธโต ปเควา’’ติ เกจิ. ปจฺฉาติ อปเร. ตถา กตาณํ. ทฺวาทสาการนฺติ ทฺวาทสวิธอาการเภทํ. อฺตฺถาติ อฺเสุ สุตฺเตสุ.

ปฏิเวธาณมฺปิ เทสนาาณมฺปิ ธมฺมจกฺกนฺติ อิทํ ตตฺถ าณกิจฺจํ ปธานนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. สทฺธินฺทฺริยาทิธมฺมสมุทาโย ปน ปวตฺตนฏฺเน จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกํ. อถ วา จกฺกนฺติ อาณา, ธมฺมโต อนเปตตฺตา ธมฺมฺจ ตํ จกฺกฺจ, ธมฺเมน าเยน จกฺกนฺติปิ ธมฺมจกฺกํ. ยถาห ‘‘ธมฺมฺจ ปวตฺเตติ จกฺกฺจาติ ธมฺมจกฺกํ, จกฺกฺจ ปวตฺเตติ ธมฺมฺจาติ ธมฺมจกฺกํ, ธมฺเมน ปวตฺตตีติ ธมฺมจกฺกํ, ธมฺมจริยาย ปวตฺตตีติ ธมฺมจกฺก’’นฺติอาทิ (ปฏิ. ม. ๒.๔๐-๔๑). อุภยมฺปีติ ปฏิเวธาณํ เทสนาาณนฺติ อุภยมฺปิ. เอตนฺติ ตทุภยํ. อิมาย เทสนายาติ อิมินา สุตฺเตน ปกาเสนฺเตน ภควตา ยถาวุตฺตาณทฺวยสงฺขาตํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ นาม ปวตฺตนกิจฺจสฺส อนิฏฺิตตฺตา. ปติฏฺิเตติ อฺาสิ โกณฺฑฺตฺเถเรน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิเต. ปวตฺติตํ นาม กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสนนฺตรธานโต ปฏฺาย ยาว พุทฺธุปฺปาโท, เอตฺตกํ กาลํ อปฺปวตฺตปุพฺพสฺส ปวตฺติตตฺตา, อุปริมคฺคาธิคโม ปนสฺส อตฺถงฺคโต เอวาติ.

เอกปฺปหาเรนาติ เอเกเนว ปหารสฺิเตน กาเลน. ทิวสสฺส หิ ตติโย ภาโค ปหาโร นาม. ปาฬิยํ ปน ‘‘เตน ขเณน เตน ลเยน เตน มุหุตฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. ตํ ปหารกฺขณสลฺลกฺขณเมว. สพฺพฺุตฺาโณภาโสติ สพฺพฺุตฺาณานุภาเวน ปวตฺโต โอภาโส จิตฺตํ ปฏิจฺจ อุตุสมุฏฺาโน เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ภควโต ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสฺส อารมฺเภ วิย ปริสมาปเน อติวิย อุฬารตมํ ปีติโสมนสฺสํ อุทปาทิ, ตสฺมา ‘‘อิมสฺสปิ อุทานสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๙. สงฺกาสนสุตฺตวณฺณนา

๑๐๘๙. อตฺถสํวณฺณเน วณฺณียนฺเตติ วณฺณา. เตเยว ปริยาเยน อกฺขรณโต อกฺขรานิ. อตฺถํ พฺยฺเชนฺตีติ พฺยฺชนานิ. ยสฺมา ปน อการาทิเก สรสมฺา, กการาทิเก พฺยฺชนสมฺา, อุภยตฺถ วณฺณสมฺา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘วณฺณานํ วา เอกเทสา ยทิทํ พฺยฺชนา นามา’’ติ. เนตฺติยํ ปน วากฺเย พฺยฺชนสมฺา. พฺยฺชนคฺคหเณเนว เจตฺถ อาการนิรุตฺตินิทฺเทสา คหิตา เอวาติ ทฏฺพฺพํ. สงฺกาสนาติ อตฺถสฺส าปนา ภาคโส. เตนาห ‘‘วิภตฺติโย’’ติ. สงฺกาสนคฺคหเณเนว เจตฺถ ปกาสนา วุตฺตา โหติ. วิภตฺติโย หิ อตฺถวจเนเนว วิวรนฺติ, ตาหิ การณปฺตฺติโย วุตฺตาเยวาติ, ตาหิปิ อตฺถปทานิ คหิตาเนว โหนฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺควณฺณนายํ เนตฺติอฏฺกถายฺจ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. สพฺพากาเรนาติ สภาคาทิวิภาวนากาเรน. วณฺณาทีนนฺติ ตสฺมึ ปน วิตฺถาเร ปวตฺตวณฺณาทีนํ. ตสฺมาติ วณฺณาทีนํ อนฺตอภาวโต. เอวมาหาติ ‘‘อปริมาณา วณฺณา พฺยฺชนา สงฺกาสนา’’ติ เอวมาห.

๑๐. ตถสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๐. สภาวาวิชหนฏฺเนาติ อตฺตโน ทุกฺขสภาวสฺส กทาจิปิ อปริจฺจชเนน ตถสภาวํ. เตนาห ‘‘ทุกฺขฺหิ ทุกฺขเมว วุตฺต’’นฺติ. สภาวสฺสาติ ทุกฺขสภาวสฺส. อโมฆตายาติ อวฺฌตาย. อวิตถนฺติ น วิตถํ. เตนาห ‘‘น หิ ทุกฺขํ อทุกฺขํ นาม โหตี’’ติ. อฺภาวานุปคเมนาติ สมุทยาทิสภาวานุปคมเนน มุสา น โหตีติ อฺโ อฺถา น โหตีติ อนฺถํ. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ.

ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. โกฏิคามวคฺโค

๑. โกฏิคามสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๑. อนนุโพธาติ ปฏิเวธสฺส อนุรูปโพธาภาเวน. อปฺปฏิเวธาติ สจฺจานํ ปฏิมุขํ เวธาภาเวน.

๒. ทุติยโกฏิคามสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๒. ผลสมาธิผลปฺานนฺติ อคฺคผลสมาธิอคฺคผลปฺานํ.

๗. ตถสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๗. อริยานนฺติ พุทฺธานํ อริยานํ. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ.

๘. โลกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๘. ปฏิวิทฺธตฺตา เทสิตตฺตา จาติ อิมินา ปฏิเวธาเณน เทสนาาเณน จ ปริคฺคหิตตฺตา อริยสนฺตกานิ โหนฺติ อริยสฺส ภควโต สนฺตกภาวโต.

๑๐. ควมฺปติสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๐. เอกปฺปฏิเวโธติ เอเกเนว าเณน จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ เอกชฺฌํ ปฏิเวโธ.

โกฏิคามวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สีสปาวนวคฺโค

๓. ทณฺฑสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๑. ปุนปฺปุนํ วฏฺฏสฺมึเยว นิพฺพตฺตนฺติ อทิฏฺตฺตา จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ.

๕. สตฺติสตสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๕. ภเวยฺยเจติ ทุกฺขโทมนสฺสานิ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา สหิเตหิ เตหิ สจฺจาภิสมโย ภเวยฺยาติ เอวํ ปริกปฺปนา น กาตพฺพาติ.

๙. อินฺทขีลสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๙. อชฺฌาสยนฺติ สสฺสตาทิเภทํ อชฺฌาสยํ. โส หิ ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ คาหสฺส มุขภูตตฺตา มุขนฺติ อธิปฺเปโต. ตฺจ อปเร อทิฏฺสจฺจา โอโลเกนฺติ, ทิฏฺสจฺจา ปน เนว โอโลเกนฺติ.

๑๐. วาทตฺถิกสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๐. กุกฺกุโก ปมาณมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส หตฺโถติ อตฺโถ. กุกฺกูติ ตสฺเสว นามํ.

สีสปาวนวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปปาตวคฺโค

๑. โลกจินฺตาสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๑. โลกจินฺตนฺติ โลกสนฺนิเวสปฏิสํยุตฺตวีมํสาว. ‘‘โลกจิตฺต’’นฺติปิ ปาโ, ตํตํโลกปริยาปนฺนํ จิตฺตนฺติ อตฺโถ. นาฬิเกราทโยติ อาทิ-สทฺเทน อวุตฺตานํ โอสธิติณวนปฺปติอาทีนํ สงฺคโห. เอวรูปนฺติ เอทิสํ อฺมฺปิ ตํตํโลกจิตฺตํ.

วิคตจิตฺโตติ อตฺตตฺถปรตฺถโต อปคตวิตกฺโก อทฺทส เอวํ อธิฏฺหึสูติ สมฺพนฺโธ. สมฺพริมายนฺติ สมฺพเรน อสุรินฺเทน อุปฺปาทิตํ อสุรมายํ, ยํ ‘‘อินฺทชาล’’นฺติปิ วุจฺจติ อินฺทสฺส โมหนตฺถํ อุปฺปาทิตตฺตา. สมฺปริวตฺเตตฺวาติ ปริธาเวตฺวา. ยถา เนติ เน อสุเร ยถา โส ปุริโส ปสฺสติ, เอวํ อธิฏฺหึสุ. กสฺมา ปเนเต เอวํ อธิฏฺหึสูติ? ตํ ปุริสํ ตตฺถ ตถานิสินฺนํ ทิสฺวา ‘‘อยฺจ เทโว’’ติ อาสงฺกนฺตา ตถา อธิฏฺหิตฺวา ภิสมุฬาลฉิทฺเทหิ ปวิสิตฺวา อตฺตโน อสุรภวนํ คตา. เตนาห ภควา – ‘‘เทวานํเยว โมหยมานา’’ติ.

๒-๓. ปปาตสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๑๒-๓. มริยาทปาสาโณติ คิชฺฌกูฏปพฺพตสฺส มริยาทปาการสทิโส มหนฺโต ปาสาโณ. อนิฏฺรูปนฺติ เอตฺถ รูป-สทฺโท สภาวตฺโถ ‘‘ปิยรูเป สาตรูเป’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๔๐๘-๔๐๙) วิยาติ อาห – ‘‘อนิฏฺสภาว’’นฺติ.

๕. วาลสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๕. อุปาสนนฺติ อาจริยอุปาสนํ, อาจริยํ อนฺเตวาสินา วา ทิวเส ทิวเส สิกฺขนวเสน อุปาสิตพฺพโต อุปาสนนฺติ ลทฺธนามํ กณฺฑขิปนสิปฺปํ. กณฺฑํ อติกฺกมนฺเตติ สรํ ขิปนฺเต. โปงฺขานุโปงฺขนฺติ โปงฺขสทฺทตฺถํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เอกํ กณฺฑํ ขิปิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อปรํ อนุโปงฺขนฺติ เอตฺถ อปรนฺติ ตติยกณฺฑํ. อนุโปงฺขํ นาม อิทนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุโปงฺขํ นาม ทุติยสฺส โปงฺข’’นฺติ วุตฺตํ. ตฺหิ ตติเยน สเรน วิชฺฌียติ. ปุน อปรํ ตสฺส โปงฺขนฺติ อิทํ ปน อปราปรํ อวิรชฺฌนํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ทุรภิสมฺภวตรนฺติ อภิภวิตุํ อสกฺกุเณยฺยตรํ. วาลนฺติ เกสํ. สตฺตธา ภินฺทิตฺวาติ สตฺตกฺขตฺตุํ วิผาเลตฺวา. ตสฺส เอกํ เภทนฺติ ตสฺส เกสสฺส เอกํ อํสุสงฺขาตํ เภทํ คเหตฺวา. วาติงฺคณมชฺเฌ พนฺธิตฺวาติ วาติงฺคณผลสฺส มชฺฌฏฺาเน พนฺธิตฺวา. อปรํ เภทนฺติ อปรํ เกสสฺส อํสุสงฺขาตํ เภทํ. อคฺคโกฏิยํ พนฺธิตฺวาติ ยถา ตสฺส วาลเภทสฺส อูกามตฺตํ ลิขามตฺตํ วา กณฺฑสฺส อคฺคโกฏึ อธิกํ หุตฺวา ติฏฺติ, เอวํ พนฺธิตฺวา. อุสภมตฺเตติ วีสติยฏฺิมตฺเต าเน ิโต. กณฺฑพทฺธาย โกฏิยาติ กณฺฑพทฺธาย วาลสฺส โกฏิยา วาติงฺคณพนฺธนวาลสฺส โกฏึ ปฏิวิชฺเฌยฺย.

๘. ทุติยฉิคฺคฬยุคสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๘. อธิจฺจุปฺปตฺติกนฺติ ยทิจฺฉาวเสน อุปฺปชฺชนกํ. ฉิคฺคเฬนาติ ฉิคฺคฬปเทเสน. ฉิคฺคฬุปรีติ เหฏฺิมยุคสฺส ฉิคฺคฬปเทสสฺส อุปริ. อารุฬฺหสฺส ฉิคฺคเฬนาติ อุภินฺนมฺปิ ฉิทฺเทน. คีวปฺปเวสนํ วิยาติ จตุนฺนํ ยุคานํ ฉิทฺทปเทเสเนว อุปรูปริ ิตานํ ฉิทฺทนฺตเรน กาณกจฺฉปสฺส คีวปฺปเวสนํ อธิจฺจตรสมฺภวํ. ตโตปิ อธิจฺจตรสมฺภโว มนุสฺสตฺตลาโภ, ตโต อธิจฺจตมสมฺภโว อริยมคฺคปฏิลาโภติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘จตุสจฺจปฏิเวโธ อติวิย อธิจฺจตรสมฺภโว’’ติ.

ปปาตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อภิสมยวคฺควณฺณนา

๑๑๒๑. อภิสมยสํยุตฺเตวิตฺถาริโตว, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว ตสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๗. ปมอามกธฺเปยฺยาลวคฺโค

๓. ปฺาสุตฺตวณฺณนา

๑๑๓๓. โลกิยมฺปิ วิสุทฺธตฺเถน ‘‘อริย’’นฺติ วตฺตพฺพตํ ลภตีติ ‘‘โลกิยโลกุตฺตเรนา’’ติ วุตฺตํ.

๔. สุราเมรยสุตฺตวณฺณนา

๑๑๓๔. ปิฏฺสุราติ ปิฏฺเน กาตพฺพสุรา, ตถา โอทนสุรา ปูวสุรา, มชฺชรสาทิภูเต กิณฺเณ ปกฺขิปิตฺวา กตฺตพฺพา สุรา กิณฺณปกฺขิตฺตสุรา. สมฺภารสํยุตฺตาติ มูลเภสชฺชสมฺภาเรหิ สํยุตฺตา. ปุปฺผาสโวติ นาฬิเกรปุปฺผาทิโต อสฺสวนกอาสโว. มุทฺทิกผลาทิโต อสฺสวนกอาสโว ผลาสโว. อิตีติอาทิอตฺโถ. เตน มธฺวาสวคุฬาสวสมฺภารสํยุตฺเต สงฺคณฺหาติ. สุราสววินิมุตฺตนฺติ ยถาวุตฺตสุราสววินิมุตฺตํ.

๑๐. ปจายิกสุตฺตวณฺณนา

๑๑๔๐. นีจวุตฺติโนติ กุเล เชฏฺานํ มหาปิตุจูฬปิตุเชฏฺภาติกาทีนํ อภิวาทนปจฺจุฏฺานอฺชลิกมฺมสามีจิกมฺมาทิวเสน นีจวุตฺติโน.

๘. ทุติยอามกธฺเปยฺยาลวคฺโค

๘. พีชคามสุตฺตวณฺณนา

๑๑๔๘. ‘‘มูลพีช’’นฺติอาทีสุ มูลเมว พีชนฺติ มูลพีชํ, มูลพีชํ เอตสฺสาติปิ มูลพีชํ. ตตฺถ ปุริเมน พีชคาโม วุตฺโต ‘‘พีชานํ สมูโห’’ติ กตฺวา, ทุติเยน ภูตคาโม. ทุวิโธเปโส สามฺนิทฺเทเสน, ‘‘มูลพีชฺจ มูลพีชฺจ มูลพีช’’นฺติ เอกเสสนเยน วา พีชตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอส นโย เสเสสุปิ. ผฬุพีชนฺติ ปพฺพพีชํ. พาหิรปจฺจยนฺตรสมวาเย สทิสผลุปฺปตฺติยา วิเสสการณภาวโต วิรุหนสมตฺเถ สารผเล นิรุฬฺโห พีช-สทฺโท. ตทตฺถสิทฺธิยา มูลาทีสุปิ เกสุจิ ปวตฺตตีติ ตโต นิวตฺตนตฺถํ เอเกน พีช-สทฺเทน วิเสเสตฺวา วุตฺตํ ‘‘พีชพีช’’นฺติ ‘‘รูปรูปํ, ทุกฺขทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๓๒๗) จ ยถา. นีลติณรุกฺขาทิกสฺสาติ อลฺลติณสฺส เจว อลฺลรุกฺขาทิกสฺส จ. อาทิ-สทฺเทน โอสธิคจฺฉลตาทีนํ คหณํ.

๙. วิกาลโภชนสุตฺตวณฺณนา

๑๑๔๙. อรุณุคฺคมนโต ปฏฺาย ยาว มชฺฌนฺหิโก, อยํ พุทฺธาทิอริยานํ อาจิณฺณสมาจิณฺโณ โภชนสฺส กาโล, ตทฺโ วิกาโลติ อาห – ‘‘วิกาลโภชนาติ กาลาติกฺกนฺตโภชนา’’ติ.

๑๐. คนฺธวิเลปนสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๐. ยํ กิฺจิ ปุปฺผนฺติ คนฺถิมํ อคนฺถิมํ วา ยํ กิฺจิ ปุปฺผชาตํ, ตถา ปิสิตาทิเภทํ ยํ กิฺจิ คนฺธชาตํ.

๙. ตติยอามกธฺเปยฺยาลวคฺโค

๑. นจฺจคีตสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๑. สงฺเขปโต ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (ที.นิ. ๒.๙๐; ธ.ป. ๑๘๓) ภควโต สาสนํ อจฺจนฺตฉนฺทราคปวตฺติโต นจฺจาทีนํ ทสฺสนํ น อนุโลเมตีติ อาห ‘‘สาสนสฺส อนนุโลมตฺตา’’ติ. อตฺตนา ปเรหิ จ ปโยชิยมานํ ปโยชาปิยมานฺจ เอเตเนว นจฺจ-สทฺเทน คหิตํ, ตถา คีตวาทิตสทฺเทหิ จาติ อาห – ‘‘นจฺจนนจฺจาปนาทิวเสนา’’ติ. อาทิ-สทฺเทน คายน-คายาปน-วาทน-วาทาปนาทีนิ สงฺคณฺหาติ. ทสฺสเนน เจตฺถ สวนมฺปิ สงฺคหิตํ วิรูเปกเสสนเยน. ยถาสกํ วิสยสฺส อาโลจนสภาวตาย วา ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ สวนกิริยายปิ ทสฺสนสงฺเขปสพฺภาวโต ‘‘ทสฺสนา’’อิจฺเจว วุตฺตํ. อวิสูกภูตสฺส คีตสฺส สวนํ กทาจิ วฏฺฏตีติ อาห – ‘‘วิสูกภูตา ทสฺสนา จา’’ติ. ตถา หิ วุตฺตํ ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทกอฏฺกถาย (ขุ. ปา. อฏฺ. ๒.ปจฺฉิมปฺจสิกฺขาปทวณฺณนา) – ‘‘ธมฺมูปสํหิตํ คีตํ วฏฺฏติ, คีตูปสํหิโต ธมฺโม น วฏฺฏตี’’ติ.

๒. อุจฺจาสยนสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๒. อุจฺจาติ อุจฺจ-สทฺเทน สมานตฺถํ เอกํ สทฺทนฺตรํ. เสติ เอตฺถาติ สยนํ, อุจฺจาสยนํ มหาสยนฺจ สมณสารุปฺปรหิตํ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ อาห – ‘‘ปมาณาติกฺกนฺตํ อกปฺปิยตฺถรณ’’นฺติ. อาสนฺทาทิอาสนฺเจตฺถ สยเนเนว สงฺคหิตํ. ยสฺมา ปน อาธาเร ปฏิกฺขิตฺเต ตทาธารกิริยา ปฏิกฺขิตฺตาว โหติ, ตสฺมา ‘‘อุจฺจาสยนมหาสยนา’’อิจฺเจว วุตฺตํ. อตฺถโต ปน ตทุปโภคภูตนิสชฺชานิปชฺชเนหิ วิรติ ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ. อถ วา อุจฺจาสยนมหาสยนฺจ อุจฺจาสยนมหาสยนฺจาติ อุจฺจาสยนมหาสยนนฺติ เอตสฺมึ อตฺเถ เอกเสสนเยน อยํ นิทฺเทโส กโต ยถา – ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ (อุทา. ๑). อาสนกิริยาปุพฺพกตฺตา วา สยนกิริยาย สยนคฺคหเณเนว อาสนมฺปิ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

๓. ชาตรูปสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๓. อฺเปิ อุคฺคหาปเน อุปนิกฺขิตฺตสาทิยเน จ ปฏิคฺคหณตฺโถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘น อุคฺคณฺหาเปนฺติ, น อุปนิกฺขิตฺตํ สาทิยนฺตี’’ติ. อถ วา ติวิธํ ปฏิคฺคหณํ กาเยน วาจาย มนสาติ. ตตฺถ กาเยน ปฏิคฺคหณํ อุคฺคหณํ, วาจาย ปฏิคฺคหณํ อุคฺคหาปณํ, มนสา ปฏิคฺคหณํ สาทิยนํ. ติวิธมฺปิ ปฏิคฺคหณํ สามฺนิทฺเทเสน, เอกเสสนเยน วา คเหตฺวา ‘‘ปฏิคฺคหณา’’ติ วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘เนว นํ อุคฺคณฺหนฺตี’’ติอาทิ. เอส นโย ‘‘อามกธฺปฏิคฺคหณา’’ติอาทีสุปิ.

๔. อามกธฺสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๔. นีวาราทิอุปธฺสฺส สาลิอาทิมูลธฺนฺโตคธตฺตา วุตฺตํ ‘‘สตฺตวิธสฺสา’’ติ.

๕. อามกมํสสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๕. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจ วสานิ เภสชฺชานิ – อจฺฉวสํ, มจฺฉวสํ, สุสุกาวสํ, สูกรวสํ, คทฺรภวส’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒; ปารา. อฏฺ. ๖๒๓) วุตฺตตฺตา อิทํ อุทฺทิสฺส อนุฺาตํ นาม. ตสฺส ปน ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิต’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) วุตฺตตฺตา ปฏิคฺคหณํ วฏฺฏตีติ อาห – ‘‘อฺตฺร อุทฺทิสฺส อนุฺาตา’’ติ. วินยวเสน อุปปริกฺขิตพฺโพ, ตสฺมา สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วุตฺตนเยเนตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

๑๐. จตุตฺถอามกธฺเปยฺยาลวคฺโค

๒-๓. กยวิกฺกยสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๖๒-๖๓. กสฺสจิ ภณฺฑสฺส คหณํ กโย, ทานํ วิกฺกโย. ตตฺถ ตตฺถาติ คามนฺตเร สนฺติเก จ คมนํ ทูตกมฺมนฺติ วุจฺจตีติ โยชนา. ปหิณคมนํ ขุทฺทกคมนํ.

๔. ตุลากูฏสุตฺตวณฺณนา

๑๑๖๔. รูปกูฏํ สรูเปน สทิเสน ฉลโวหาโร. องฺคกูฏํ อตฺตโน หตฺถาทินา องฺคานํ ฉลกรณํ . คหณกูฏํ มาเนสุ คหณวเสน. ปฏิจฺฉนฺนกูฏํ อยจุณฺณาทินา ปฏิจฺฉนฺเนน ฉลกรณํ. มหติยา ตุลาย. ปจฺฉาภาเคติ ตุลาย ปจฺฉิมภาเค. หตฺเถนาติ หตฺถปเทเสน. อกฺกมตีติ อุฏฺาตุํ อเทนฺโต คณฺหาติ. ททนฺโต ปุพฺพภาเคติ ปเรสํ ททนฺโต ปุพฺพภาเค หตฺเถน ตุลํ อกฺกมติ. นฺติ อยจุณฺณํ.

โลหปาติโยติ ตมฺพโลหปาติโย. สุวณฺณวณฺณา กโรนฺตีติ อสนิขาทสุวณฺณกนกลิมฺปิตา สุวณฺณวณฺณา กโรนฺติ. มานภาชนสฺส หทยภูตสฺส อพฺภนฺตรสฺส ภินฺนํ หทยเภโท. นิมิยมานสฺส ติลตณฺฑุลาทิกสฺส สิขาย อคฺคโกฏิยา ภินฺนํ สิขาเภโท. เขตฺตาทีนํ มินนรชฺชุยา อฺถากรณํ รชฺชุเภโท. รชฺชุคหเณเนว เจตฺถ ทณฺฑกสฺส คหณํ กตเมวาติ ทฏฺพฺพํ.

๖-๑๑. เฉทนสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๖๖-๗๑. วโธติ มุฏฺิปฺปหารกสาตาฬนาทีหิ หึสนํ, วิเหนนฺติ อตฺโถ. วิเหนตฺโถปิ หิ วธ-สทฺโท ทิสฺสติ ‘‘อตฺถานํ วธิตฺวา วธิตฺวา โรเทยฺยา’’ติอาทีสุ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘มารณ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ ปน โปถนํ สนฺธายาติ สกฺกา วิฺาตุํ มารณสทฺทสฺส วิหึสเนปิ ทิสฺสนโต. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

อามกธฺเปยฺยาลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

มหาวคฺควณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา นิฏฺิตา.

นิคมนกถาวณฺณนา

สกลรูปารูปสมฺมสเน สณฺหสุขุมวิสยาณตาย วิปสฺสนาจารนิปุณพุทฺธีนํ สุสํยตกายวจีสมาจารตาย สมถวิปสฺสนาสุ สมฺมเทว ยตนโต จ ยตีนํ ภิกฺขูนํ ขนฺธายตนธาตุสจฺจินฺทฺริยปฏิจฺจสมุปฺปาทเภเท ปรมตฺถธมฺเม นานานเยหิ าณวิภาคสฺส สนฺนิสฺสเยน พหุการสฺส สํยุตฺตาคมวรสฺส อตฺถสํวณฺณนํ กาตุํ สารตฺถปฺปกาสนโต เอว นิปุณา ยา มยา อฏฺกถา อารทฺธาติ สมฺพนฺโธ. สวิเสสํ ปฺาวหคุณตฺตา เอว หิสฺส คนฺถารมฺเภ อาทิโตปิ ‘‘ปฺาปเภทชนนสฺสา’’ติ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถาย สารนฺติ สํยุตฺตมหาอฏฺกถาย สารํ. เอกูนสฏฺิมตฺโตติ โถกํ อูนภาวโต มตฺต-สทฺทคฺคหณํ.

มูลฏฺกถาย สารนฺติ ปุพฺเพ วุตฺตสํยุตฺตมหาอฏฺกถาย สารเมว ปุน นิคมนวเสน วุตฺตนฺติ. อถ วา มูลฏฺกถาย สารนฺติ โปราณฏฺกถาสุ อตฺถสารํ. เตน เอตํ ทสฺเสติ ‘‘สํยุตฺตมหาอฏฺกถาย อตฺถสารํ อาทาย อิมํ สารตฺถปฺปกาสินึ กโรนฺเตน เสสมหานิกายานมฺปิ มูลฏฺกถาสุ อิธ วิโยคกฺขมํ อตฺถสารํ อาทาย อกาสิ’’นฺติ. ‘‘มหาวิหาราธิวาสีน’’นฺติ จ อิทํ ปุริมปจฺฉิมปเทหิ สทฺธึ สมฺพนฺธิตพฺพํ ‘‘มหาวิหาราธิวาสีนํ สมยํ ปกาสยนฺตึ มหาวิหาราธิวาสีนํ มูลฏฺกถาย สารํ อาทายา’’ติ จ. เตน ปุฺเน. โหตุ สพฺโพ สุขี โลโกติ กามาวจราทิวิภาโค สพฺโพ สตฺตโลโก ยถารหํ โพธิตฺตยาธิคมวเสน สมฺปยุตฺเตน นิพฺพานสุเขน สุขิโต โหตูติ สเทวกสฺส โลกสฺส อจฺจนฺตํ สุขาธิคมาย อตฺตโน ปุฺํ ปริณาเมติ.

เอตฺตาวตา สารตฺถปฺปกาสินิยา

สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย ลีนตฺถปฺปกาสนา นิฏฺิตา.

สํยุตฺตฏีกา สมตฺตา.