📜

๓. สติปฏฺานสํยุตฺตํ

๑. อมฺพปาลิวคฺโค

๑. อมฺพปาลิสุตฺตวณฺณนา

๓๖๗. เอกายนฺวายนฺติ สนฺธิวเสน วุตฺตํ โอ-การสฺส ว-การํ อ-การสฺส ทีฆํ กตฺวา. อยํ กิร สํยุตฺตาภิลาโป, ตตฺถ อยน-สทฺโท มคฺคปริยาโย. น เกวลํ อยเมว, อถ โข อฺเปิ มคฺคปริยายาติ ปทุทฺธารํ กโรนฺโต ‘‘มคฺคสฺส หี’’ติอาทึ วตฺวา ยทิ มคฺคปริยาโย อายน-สทฺโท, กสฺมา ปุน มคฺโคติ วุตฺตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. ตตฺถ เอกมคฺโคติ เอโกว มคฺโค. น หิ นิพฺพานคามิมคฺโค อฺโ อตฺถีติ. นนุ สติปฏฺานํ อิธ มคฺโคติ อธิปฺเปตํ, ตทฺเปิ พหู มคฺคธมฺมา อตฺถีติ? สจฺจํ อตฺถิ, เต ปน สติปฏฺานคฺคหเณเนว คหิตา ตทวินาภาวโต. ตถา หิ าณวีริยาทโย นิทฺเทเส คหิตา, อุทฺเทเส สติยา เอว คหณํ เวเนยฺยชฺฌาสยวเสนาติ ทฏฺพฺพํ, สติยา มคฺคภาวทสฺสนตฺถฺจ. น ทฺเวธาปถภูโตติ อิมินา อิมสฺส ทฺวยภาวาภาวํ วิย อนิพฺพานคามิภาวาภาวฺจ ทสฺเสติ. นิพฺพานคมนฏฺเนาติ นิพฺพานํ คจฺฉติ เอเตนาติ นิพฺพานคมนํ, โส เอว อวิปรีตภาวนาย อตฺโถ, เตน นิพฺพานคมนฏฺเน, นิพฺพานาธิคมูปายตายาติ อตฺโถ. มคฺคนียฏฺเนาติ คเวสิตพฺพตาย.

ราคาทีหีติ ‘‘ราโค มลํ, โทโส มลํ, โมโห มล’’นฺติ (วิภ. ๙๒๔) เอวํ วุตฺเตหิ ราคาทีหิ มเลหิ. สา ปนายํ สํกิลิฏฺจิตฺตานํ วิสุทฺธิ สิชฺฌมานา ยสฺมา โสกาทีนํ อนุปฺปาทาย สํวตฺตติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘โสกปริเทวานํ สมติกฺกมายา’’ติอาทิ. ตตฺถ โสจนํ าติพฺยสนาทินิมิตฺตํ เจตโส สนฺตาโป อนฺโตนิชฺฌานํ โสโก. าติพฺยสนาทินิมิตฺตเมว โสกาธิกตาชนิโต ‘‘กหํ เอกปุตฺตกา’’ติอาทินา ปริเทวนวเสน วาจาวิปฺปลาโป ปริเทวนํ ปริเทโว. ตสฺส อายตึ อนุปฺปชฺชนํ อิธ สมติกฺกโมติ อาห ‘‘ปหานายา’’ติ. ทุกฺขโทมนสฺสานนฺติ เอตฺถ เจตสิกทุกฺขตาย โทมนสฺสสฺสปิ ทุกฺขสทฺเทเนว คหเณ สิทฺเธ สทฺเทน อนิวตฺตนโต สามฺโชตนาย วิเสสวจนํ เสฏฺนฺติ ‘‘โทมนสฺสาน’’นฺเตว วุตฺตํ. เจตสิกโทมนสฺสสฺสาติ ภูตกถนํ ทฏฺพฺพํ. ายติ เอเตน ยาถาวโต ปฏิวิชฺฌียติ จตุสจฺจนฺติ าโย วุจฺจติ อริยมคฺโค. นนุ อยมฺปิ มคฺโค, กึ มคฺโค เอว มคฺคสฺส อธิคมาย โหตีติ โจทนํ สนฺธายาห – ‘‘อยํ หี’’ติอาทิ. ตณฺหาว กมฺมกิเลสวิปากานํ วินนฏฺเน สํสิพฺพนฏฺเน วานํ. เตน ตณฺหาวาเนน วิรหิตตฺตา ตสฺส อภาวาติ อตฺโถ. อตฺตปจฺจกฺขายาติ อตฺตปจฺจกฺขตฺถาย.

วณฺณภาสนนฺติ ปสํสาวจนํ. วิสุทฺธินฺติ วิสุชฺฌนํ กิเลสปฺปหานํ. อุคฺคเหตพฺพนฺติ เอตฺถ วาจุคฺคตกรณํ อุคฺคโห. ปริจยกรณํ ปริปุจฺฉามูลกตฺตา ตคฺคหเณเนว คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

น ตโต เหฏฺาติ อิธ อธิปฺเปตกายาทีนํ เวทนาทิสภาวตฺตาภาวา กายเวทนาจิตฺตวิมุตฺตสฺส เตภูมกธมฺมสฺส วิสุํ วิปลฺลาสวตฺถนฺตรภาเวน คหิตตฺตา จ เหฏฺา คหเณสุ วิปลฺลาสวตฺถูนํ อนิฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฺจมสฺส ปน วิปลฺลาสวตฺถุโน อภาเวน ‘‘น อุทฺธ’’นฺติ อาห. อารมฺมณวิภาเคน เหตฺถ สติปฏฺานวิภาโคติ. ตโย สติปฏฺานาติ สติปฏฺานสทฺทสฺส อตฺถุทฺธารทสฺสนํ, น อิธ ปาฬิยํ วุตฺตสฺส สติปฏฺานสทฺทสฺส อตฺถทสฺสนํ. อาทีสุ หีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ผสฺสสมุทยา เวทนานํ สมุทโย, นามรูปสมุทยา จิตฺตสฺส สมุทโย, มนสิการสมุทยา ธมฺมานํ สมุทโย’’ติ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) สติปฏฺานาติ วุตฺตานํ สติโคจรานํ ปกาสเก สุตฺตปเทเส สงฺคณฺหาติ. เอวํ ปฏิสมฺภิทามคฺคปาฬิยมฺปิ อวเสสปาฬิปเทสทสฺสนตฺโถ อาทิ-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. สติยา ปฏฺานนฺติ สติยา ปติฏฺาตพฺพฏฺานํ.

อริโยติ อารกตฺตาทินา อริยํ สมฺมาสมฺพุทฺธมาห. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สฬายตนวิภงฺคสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๓๑๑). ตตฺถ หิ –

‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย…เป… มรหตีติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิธ, ภิกฺขเว, สตฺถา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ อนุกมฺปโก หิเตสี อนุกมฺปํ อุปาทาย – ‘อิทํ โว หิตาย อิทํ โว สุขายา’ติ. ตสฺส สาวกา น สุสฺสูสนฺติ, น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, โวกฺกมฺม จ สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ สติปฏฺานํ. ยทริโย เสวติ…เป... มรหติ. ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สตฺถา …เป… อิทํ โว สุขายาติ. ตสฺส เอกจฺเจ สาวกา น สุสฺสูสนฺติ…เป… เอกจฺเจ สาวกา สุสฺสูสนฺติ…เป… น จ โวกฺกมฺม สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ, น เจว อตฺตมโน โหติ, น จ อตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ. อนตฺตมนตฺจ อตฺตมนตฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ สติปฏฺานํ…เป… มรหติ. ปุน จปรํ, ภิกฺขเว,…เป… สุขายาติ, ตสฺส สาวกา สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตฺตมโน เจว โหติ, อตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ สติปฏฺาน’’นฺติ –

เอวํ ปฏิฆานุนเยหิ อนวสฺสุตตา นิจฺจํ อุปฏฺิตสฺสติตาย ตทุภยวีติวตฺตตา ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตา. พุทฺธานํเยว หิ นิจฺจํ อุปฏฺิตสฺสติตา โหติ อาเวณิกธมฺมภาวโต, น ปจฺเจกพุทฺธาทีนํ. ป-สทฺโท อารมฺภํ โชเตติ, อารมฺโภ จ ปวตฺตีติ กตฺวา อาห ‘‘ปวตฺตยิตพฺพโตติ อตฺโถ’’ติ. สติยา กรณภูตาย ปฏฺานํ ปฏฺเปตพฺพํ สติปฏฺานํ. อน-สทฺโท หิ พหุลวจเนน กมฺมตฺโถปิ โหตีติ.

ตถาสฺส กตฺตุอตฺโถปิ ลพฺภตีติ ‘‘ปติฏฺาตีติ ปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. อุปฏฺาตีติ เอตฺถ อุป-สทฺโท ภุสตฺถวิสิฏฺํ ปกฺขนฺทนํ ทีเปตีติ ‘‘โอกฺกนฺทิตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. ปุน ภาวตฺถํ สติสทฺทํ ปฏฺานสทฺทฺจ วณฺเณนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. เตน ปุริมวิกปฺเป สติ-สทฺโท ปฏฺาน-สทฺโท จ กตฺตุอตฺโถติ วิฺายติ. สรณฏฺเนาติ จิรกตสฺส จิรภาสิตสฺส จ อนุสฺสรณฏฺเน. อิทนฺติ ยํ ‘‘สติเยว สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ, อิทํ อิธ อิมสฺมึ สุตฺตปเทเส อธิปฺเปตํ.

ยทิเอวนฺติ ยทิ สติ เอว สติปฏฺานํ, สติ นาม เอโก ธมฺโม, เอวํ สนฺเต กสฺมา สติปฏฺานาติ พหุวจนนฺติ อาห ‘‘สตีนํ พหุตฺตา’’ติอาทิ. ยทิ พหุกา ตา สติโย, อถ กสฺมา มคฺโคติ เอกวจนนฺติ โยชนา. มคฺคนฏฺเนาติ นิยฺยานฏฺเน. นิยฺยานิโก หิ มคฺคธมฺโม, เตเนว นิยฺยานิกภาเวน เอกตฺตุปคโต เอกนฺตโต นิพฺพานํ คจฺฉติ, อตฺถิเกหิ จ ตทตฺถํ มคฺคียตีติ อาห ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ จตสฺโสปิ เจตาติ กายานุปสฺสนาทิวเสน จตุพฺพิธาปิ จ เอตา สติโย. อปรภาเคติ อริยมคฺคกฺขเณ. กิจฺจํ สาธยมานาติ ปุพฺพภาเค กายาทีสุ อารมฺมเณสุ สุภสฺาทิวิธมนวเสน วิสุํ วิสุํ ปวตฺติตฺวา มคฺคกฺขเณ สกึเยว ตตฺถ จตุพฺพิธสฺสปิ วิปลฺลาสสฺส สมุจฺเฉทวเสน ปหานกิจฺจํ สาธยมานา อารมฺมณกรณวเสน นิพฺพานํ คจฺฉนฺติ, ตเมวสฺส จตุกิจฺจสาธนตํ อุปาทาย พหุวจนนิทฺเทโส, ตถาปิ อตฺถโต เภทาภาวโต มคฺโคติ เอกวจเนน วุจฺจติ. เตนาห – ‘‘ตสฺมา จตสฺโสปิ เอโก มคฺโคติ วุตฺตา’’ติ.

กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา อิตราสํ ปุจฺฉานํ อิธ อสมฺภวโต นิทฺเทสาทิวเสน เทเสตุกามตาย จ ตถา วุตฺตตฺตา. ‘‘อยฺเจว กาโย พหิทฺธา จ นามรูป’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๗๑, ๒๘๗, ๒๙๗; ปารา. ๑๑) ขนฺธปฺจกํ, ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตี’’ติอาทีสุ เวทนาทโย ตโย อรูปกฺขนฺธา, ‘‘ยา ตสฺมึ สมเย กายสฺส ปสฺสทฺธิ ปฏิปฺปสฺสทฺธี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๔๐) เวทนาทโย ตโย เจตสิกา ขนฺธา ‘‘กาโย’’ติ วุจฺจนฺติ, ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘กาเยติ รูปกาเย’’ติ อาห. กายานุปสฺสีติ เอตฺถ ตสฺสีลตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กายํ อนุปสฺสนสีโล’’ติ อาห. อนิจฺจโต อนุปสฺสตีติ จตุสมุฏฺานิกกายํ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ อนุปสฺสติ, เอวํ ปสฺสนฺโต เอว จสฺส อนิจฺจาการมฺปิ อนุปสฺสตีติ วุจฺจติ, ตถาภูตสฺส จสฺส นิจฺจคาหสฺส วิเสโสปิ น โหตีติ วุตฺตํ ‘‘โน นิจฺจโต’’ติ. ตถา เหส ‘‘นิจฺจสฺํ ปชหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๘) วุตฺโต. เอตฺถ จ อนิจฺจโต เอว อนุปสฺสตีติ เอวกาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ เตน นิวตฺติตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘โน นิจฺจโต’’ติ วุตฺตํ. น เจตฺถ ทุกฺขานุปสฺสนาทินิวตฺตนมาสงฺกิตพฺพํ ปฏิโยคินิวตฺตนปรตฺตา เอว-การสฺส, อุปริ เทสนาอารุฬฺหตฺตา จ ตาสํ. ทุกฺขโต อนุปสฺสตีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – อนิจฺจสฺส ทุกฺขตฺตา ตเมว กายํ ทุกฺขโต อนุปสฺสติ, ทุกฺขสฺส อนตฺตตฺตา อนตฺตโต อนุปสฺสตีติ.

ยสฺมา ปน ยํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา, น ตํ อภินนฺทิตพฺพํ, ยฺจ น อภินนฺทิตพฺพํ, น ตตฺถ รชฺชิตพฺพํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, โน นิจฺจโต, ทุกฺขโต อนุปสฺสติ, โน สุขโต, อนตฺตโต อนุปสฺสติ, โน อตฺตโต, นิพฺพินฺทติ, โน นนฺทติ, วิรชฺชติ, โน รชฺชตี’’ติ. โส เอวํ อรชฺชนฺโต ราคํ นิโรเธติ, โน สมุเทติ, สมุทยํ น กโรตีติ อตฺโถ. เอวํ ปฏิปนฺโน จ ปฏินิสฺสชฺชติ, โน อาทิยติ. อยฺหิ อนิจฺจาทิอนุปสฺสนา ตทงฺควเสน สทฺธึ กายตนฺนิสฺสยขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลสานํ ปริจฺจชนโต สงฺขตโทสทสฺสเนน ตพฺพิปรีเต นิพฺพาเน ตนฺนินฺนตาย ปกฺขนฺทนโต ‘‘ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จา’’ติ วุจฺจติ. ตสฺมา ตาย สมนฺนาคโต ภิกฺขุ วุตฺตนเยน กิเลเส จ ปริจฺจชติ, นิพฺพาเน จ ปกฺขนฺทติ, ตถาภูโต จ ปริจฺจชนวเสน กิเลเส น อาทิยติ, นาปิ อโทสทสฺสิตาวเสน สงฺขตารมฺมณํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปฏินิสฺสชฺชติ, โน อาทิยตี’’ติ. อิทานิ นิสฺสิตาหิ อนุปสฺสนาหิ เยสํ ธมฺมานํ ปหานํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นิจฺจสฺนฺติ สงฺขารา นิจฺจาติ เอวํ ปวตฺตํ วิปรีตสฺํ. ทิฏฺิจิตฺตวิปลฺลาสปหานมุเขเนว สฺาวิปลฺลาสปฺปหานนฺติ สฺาคหณํ, สฺาสีเสน วา เตสมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. นนฺทินฺติ สปฺปีติกตณฺหํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

วิหรตีติ อิมินา กายานุปสฺสนาสมงฺคิโน อิริยาปถวิหาโร วุตฺโตติ อาห – ‘‘อิริยตี’’ติ, อิริยาปถํ ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. อารมฺมณกรณวเสน อภิพฺยาปนโต ‘‘ตีสุ ภเวสู’’ติ วุตฺตํ, อุปฺปชฺชนวเสน ปน กิเลสา ปริตฺตภูมกา เอวาติ. ยทิปิ กิเลสานํ ปหานํ อาตาปนนฺติ ตํ สมฺมาทิฏฺิอาทีนมฺปิ อตฺเถว, อาตปฺป-สทฺโทวิย ปน อาตาป-สทฺโทปิ วีริเย เอว นิรุฬฺโหติ วุตฺตํ ‘‘วีริยสฺเสตํ นาม’’นฺติ. อถ วา ปฏิปกฺขปฺปหาเน สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อพฺภุสฺสหนวเสน ปวตฺตมานสฺส วีริยสฺส สาติสยํ ตทาตาปนนฺติ วีริยเมว ตถา วุจฺจติ, น อฺเ ธมฺมา.

อาตาปีติ จายมีกาโร ปสํสาย, อติสยสฺส วา ทีปโกติ อาตาปีคหเณน สมฺมปฺปธานสมงฺคิตํ ทสฺเสติ. สมฺมา สมนฺตโต สามฺจ ปชานนฺโต สมฺปชาโน, อสมฺมิสฺสโต ววตฺถาเน อฺธมฺมานุปสฺสิตาภาเวน สมฺมา อวิปรีตํ, สพฺพาการปชานเนน สมนฺตโต, อุปรูปริ วิเสสาวหภาเวน ปวตฺติยา สามํ ปชานนฺโตติ อตฺโถ. ยทิ ปฺาย อนุปสฺสติ, กถํ สติปฏฺานตาติ อาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. ตสฺมา สติยา ลทฺธุปการาย เอว ปฺาย เอตฺถ ยถาวุตฺเต กาเย กมฺมฏฺานิโก ภิกฺขุ อนุปสฺสโก, ตสฺมา ‘‘กายานุปสฺสี’’ติ วุจฺจติ. อนฺโตสงฺเขโป อนฺโตลีนตา, โกสชฺชนฺติ อตฺโถ. อุปายปริคฺคโหติ เอตฺถ สีลวิโสธนาทิ คณนาทิ อุคฺคหโกสลฺลาทิ จ อุปาโย, ตพฺพิปริยายโต อนุปาโย เวทิตพฺโพ. ยสฺมา จ อุปฏฺิตสฺสตี ยถาวุตฺตํ อุปายํ น ปริจฺจชติ, อนุปายฺจ น อุปาทิยติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มุฏฺสฺสติ…เป… อสมตฺโถ โหตี’’ติ. เตนาติ อุปายานุปายานํ ปริคฺคหปริวชฺชเนสุ อปริจฺจาคาปริคฺคเหสุ จ อสมตฺถภาเวน. อสฺส โยคิโน.

ยสฺมา สติเยเวตฺถ สติปฏฺานํ วุตฺตา, ตสฺมาสฺส สมฺปยุตฺตธมฺมา วีริยาทโย องฺคนฺติ อาห – ‘‘สมฺปโยคงฺคฺจสฺส ทสฺเสตฺวา’’ติ. องฺค-สทฺโท เจตฺถ การณปริยาโย ทฏฺพฺโพ. สติคฺคหเณเนเวตฺถ สมฺมาสมาธิสฺสปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ ตสฺสา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตตฺตา. ยสฺมา วา สติสีเสนายํ เทสนา. น หิ เกวลาย สติยา กิเลสปฺปหานํ สมฺภวติ, นิพฺพานาธิคโม วา, นาปิ เกวลา สติ ปวตฺตติ, ตสฺมาสฺส ฌานเทสนายํ สวิตกฺกาทิวจนสฺส วิย สมฺปโยคงฺคทสฺสนตาติ องฺค-สทฺทสฺส อวยวปริยายตา ทฏฺพฺพา. ปหานงฺคนฺติ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติอาทีสุ วิย ปหาตพฺพงฺคํ ทสฺเสตุํ. ยสฺมา เอตฺถ ปุพฺพภาคมคฺโค อธิปฺเปโต, น โลกุตฺตรมคฺโค, ตสฺมา ปุพฺพภาคิยเมว วินยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตทงฺควินเยน วา วิกฺขมฺภนวินเยน วา’’ติ อาห. อสฺสาติ โยคิโน. เตสํ ธมฺมานนฺติ เวทนาทิธมฺมานํ. เตสฺหิ ตตฺถ อนธิปฺเปตตฺตา ‘‘อตฺถุทฺธารนเยเนตํ วุตฺต’’นฺติ อาห. ยํ ปนาติ วิภงฺเค, วิภงฺคปกรเณติ อธิปฺปาโย. เอตฺถาติ ‘‘โลเก’’ติ เอตสฺมึ ปเท, ตา จ โลกิยา เอว อนุปสฺสนา นาม สมฺมสนนฺติ กตฺวา.

ทุกฺขโตติ วิปริณามสงฺขารทุกฺขตาหิ ทุกฺขสภาวโต, ทุกฺขาติ อนุปสฺสิตพฺพาติ อตฺโถ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. โย สุขํทุกฺขโต อทฺทาติ โย ภิกฺขุ สุขํ เวทนํ วิปริณามทุกฺขตาย ทุกฺขนฺติ ปฺาจกฺขุนา อทฺทกฺขิ. ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโตติ ทุกฺขเวทนํ ปีฬาชนนโต อนฺโตตุทนโต ทุนฺนีหรณโต จ สลฺลนฺติ อทฺทกฺขิ ปสฺสิ. อทุกฺขมสุขนฺติ อุเปกฺขาเวทนํ. สนฺตนฺติ สุขทุกฺขานํ วิย อโนฬาริกตาย ปจฺจยวเสน วูปสนฺตสภาวตฺตา จ สนฺตํ. อนิจฺจโตติ หุตฺวา อภาวโต อุทยพฺพยวนฺตโต ตาวกาลิกโต นิจฺจปฏิกฺเขปโต จ อนิจฺจนฺติ โย อทฺทกฺขิ. ส เว สมฺมทฺทโส ภิกฺขูติ โส ภิกฺขุ เอกํเสน, ปริพฺยตฺตํ วา เวทนาย สมฺมา ปสฺสนโกติ อตฺโถ.

ทุกฺขาติปีติ สงฺขารทุกฺขตาย ทุกฺขา อิติปิ. สพฺพํ ตํ เวทยิตํ ทุกฺขสฺมึ อนฺโตคธํ ปริยาปนฺนนฺติ วทามิ สงฺขารทุกฺขนฺติ วตฺตพฺพโต. สุขทุกฺขโตปิ จาติ สุขาทีนํ ิติวิปริณามาณสุขตาย จ วิปริณามฏฺิติอฺาณทุกฺขตาย จ วุตฺตตฺตา ติสฺโสปิ สุขโต ติสฺโสปิ จ ทุกฺขโต อนุปสฺสิตพฺพาติ อตฺโถ. สตฺต อนุปสฺสนา เหฏฺา ปกาสิตา เอว.

อารมฺมณา…เป… เภทานนฺติ รูปาทิอารมฺมณนานตฺตสฺส นีลาทิตพฺเภทสฺส, ฉนฺทาทิอธิปตินานตฺตสฺส หีนาทิตพฺเภทสฺส, าณฌานาทิสหชาตนานตฺตสฺส สสงฺขาริกาสงฺขาริก-สวิตกฺก-สวิจาราทิตพฺเภทสฺส, กามาวจราทิภูมินานตฺตสฺส, อุกฺกฏฺมชฺฌิมาทิตพฺเภทสฺส, กุสลาทิกมฺมนานตฺตสฺส, เทวคติสํวตฺตนิยตาทิตพฺเภทสฺส, กณฺหสุกฺกวิปากนานตฺตสฺส, ทิฏฺธมฺมเวทนียตาทิตพฺเภทสฺส, ปริตฺตภูมกาทิกิริยานานตฺตสฺส, ติเหตุกาทิตพฺเภทสฺส วเสน อนุปสฺสิตพฺพนฺติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน สวตฺถุกาวตฺถุกาทินานตฺตสฺส ปุคฺคลตฺตยสาธารณาทิตพฺเภทสฺส จ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สราคาทีนนฺติ มหาสติปฏฺานสุตฺเต (ที. นิ. ๒.๓๘๑; ม. นิ. ๑.๑๑๔) อาคตานํ สราควีตราคาทิเภทานํ. สลกฺขณ-สามฺลกฺขณานนฺติ ผุสนาทิตํตํสลกฺขณานฺเจว อนิจฺจตาทิสามฺลกฺขณานฺจ วเสนาติ โยชนา.

สุฺตธมฺมสฺสาติ อนตฺตตาสงฺขาตสุฺตสภาวสฺส. ‘‘สลกฺขณ-สามฺลกฺขณาน’’นฺติ หิ อิมินา โย อิโต พาหิรเกหิ สามินิวาสีการกเวทกอธิฏฺายกภาเวน ปริกปฺปิโต อตฺตา, ตสฺส สงฺขาเรสุ นิจฺจตา สุขตา วิย กตฺถจิปิ อภาโว วิภาวิโต. นตฺถิ เอเตสํ อตฺตาติ อนตฺตา, ยสฺมา ปน สงฺขาเรสุ เอกธมฺโมปิ อตฺตา น โหติ, ตสฺมา เต น อตฺตาติปิ อนตฺตาติ อยํ เตสํ สุฺตธมฺโม. ตสฺส สุฺตธมฺมสฺส, ยํ วิภาเวตุํ อภิธมฺเม (ธ. ส. ๑๒๑) ‘‘ตสฺมึ โข ปน สมเย ธมฺมา โหนฺตี’’ติอาทินา สุฺตวารเทสนา วุตฺตา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

อมฺพปาลิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สติสุตฺตวณฺณนา

๓๖๘. สรตีติ สโต. อยํ ปน น ยาย กายจิ สติยา สโต, อถ โข เอทิสายาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กายาทิอนุปสฺสนาสติยา’’ติ อาห. จตุสมฺปชฺปฺายาติ จตุพฺพิธสมฺปชฺปฺาย, อภิกฺกมนํ อภิกฺกนฺตนฺติ อาห – ‘‘อภิกฺกนฺตํ วุจฺจติ คมน’’นฺติ. ตถา ปฏิกฺกมนํ ปฏิกฺกนฺตนฺติ วุตฺตํ – ‘‘ปฏิกฺกนฺตํ นิวตฺตน’’นฺติ. นิวตฺตนฺจ นิวตฺติมตฺตํ, นิวตฺติตฺวา ปน คมนํ คมนเมว. กายํ อภิหรนฺโต อภิคมนวเสน กายํ นาเมนฺโต. านนิสชฺชาสยเนสุ โย คมนาทิวิธินา กายสฺส ปุรโต อภิหาโร, โส อภิกฺกโม, ปจฺฉโต อปหรณํ ปฏิกฺกโมติ ทสฺเสนฺโต ‘‘าเนปี’’ติอาทิมาห. อาสนสฺสาติ ปีกาทิอาสนสฺส. ปุริมองฺคาภิมุโขติ อฏนิกาทิปุริมาวยวาภิมุโข. สํสรนฺโตติ สํสปฺปนฺโต. ปจฺจาสํสรนฺโตติ ปฏิอาสปฺปนฺโต. เอเสว นโยติ อิมินา สรีรสฺเสว อภิมุขสํสปฺปนปฏิอาสปฺปนานิ นิทสฺเสติ.

สมฺมา ปชานนํ สมฺปชานํ. เตน อตฺตนา กาตพฺพกิจฺจสฺส กรณสีโล สมฺปชานการีติ อาห – ‘‘สมฺปชฺเน สพฺพกิจฺจการี’’ติ. สมฺปชานเมว หิ สมฺปชฺํ. สมฺปชฺสฺเสว วา การีติ สมฺปชฺสฺเสว กรณสีโล. สมฺปชฺํ กโรเตวาติ อภิกฺกนฺตาทีสุ อสมฺโมหํ อุปฺปาเทติ เอว, สมฺปชานสฺเสว วา กาโร เอตสฺส อตฺถีติ สมฺปชานการี.

ธมฺมโต วฑฺฒิตสงฺขาเตน สห อตฺเถน วตฺตตีติ สาตฺถกํ, อภิกฺกนฺตาทิ, สาตฺถกสฺส สมฺปชานนํ สาตฺถกสมฺปชฺํ. สปฺปายสฺส อตฺตโน อุปการาวหสฺส หิตสฺส สมฺปชานนํ สปฺปายสมฺปชฺํ. อภิกฺกมาทีสุ ภิกฺขาจารโคจเร, อฺตฺถาปิ จ ปวตฺเตสุ อวิชหิเต กมฺมฏฺานสงฺขาเต โคจเร สมฺปชฺํ โคจรสมฺปชฺํ. อภิกฺกมาทีสุ อสมฺมุยฺหนเมว สมฺปชฺํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ. ปริคฺคณฺหิตฺวาติ ตุลยิตฺวา ตีเรตฺวา, ปฏิสงฺขายาติ อตฺโถ. สงฺฆทสฺสเนเนว อุโปสถปวารณาทิอตฺถํ คมนํ สงฺคหิตํ. อสุภทสฺสนาทีติ อาทิ-สทฺเทน กสิณปริกมฺมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘เจติยํ ทิสฺวาปิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อรหตฺตํ ปาปุณาตีติ อุกฺกฏฺนิทฺเทโส เอโส. สมถวิปสฺสนุปฺปาทนมฺปิ หิ ภิกฺขุโน วุทฺธิ เอว. ทกฺขิณทฺวาเรติ เจติยงฺคณสฺส ทกฺขิณทฺวาเร, ตถา ปจฺฉิมทฺวาเรติอาทีสุ. อภยวาปิ ปาฬิยนฺติ อภยวาปิยา ปุรตฺถิมตีเร.

พุทฺธวํส-อริยวํส-เจติยวํส-ทีปวํสาทิวํสกถนโต มหาอริยวํสภาณโก เถโร. ปฺายนฏฺาเนติ เจติยสฺส ปฺายนฏฺาเน. เอกปทุทฺธาเรติ ปทุทฺธารปติฏฺานปริวตฺตนํ อกตฺวา เอกสฺมึเยว อวฏฺาเน. เกจีติ อภยคิริวาสิโน.

ตสฺมึ ปนาติ สาตฺถกสมฺปชฺวเสน ปริคฺคหิตอตฺเถปิ คมเน. อตฺโถ นาม ธมฺมโต วฑฺฒีติ ยํ สาตฺถกนฺติ อธิปฺเปตํ คมนํ, ตํ สปฺปายเมวาติ สิยา กสฺสจิ อาสงฺกาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘เจติยทสฺสนํ ตาวา’’ติอาทิ อารทฺธํ. จิตฺตกมฺมรูปกานิ วิยาติ จิตฺตกมฺมกตา ปฏิมาโย วิย, ยนฺตปโยเคน วา วิจิตฺตกมฺมา ปฏิมาย สทิสา ยนฺตรูปกา วิย. อสมเปกฺขนํ เคหสฺสิตอฺาณุเปกฺขาวเสน อารมฺมเณ อโยนิโส โอโลกนาทิ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุปฺปชฺชติ อุเปกฺขา พาลสฺส มูฬฺหสฺส ปุถุชฺชนสฺสา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๓.๓๐๘). หตฺถิอาทิสมฺมทฺเทน ชีวิตนฺตราโย. วิสภาครูปทสฺสนาทินา พฺรหฺมจริยนฺตราโย.

ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย ภิกฺขูนํ อนุวตฺตนกถา อาจิณฺณา, อนนุวตฺตนกถา ปน ตสฺสา อปรา ทุติยา นาม โหตีติ อาห – ‘‘ทฺเว กถา นาม น กถิตปุพฺพา’’ติ. เอวนฺติ อิมินา ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิกํ สพฺพมฺปิ วุตฺตาการํ ปจฺจามสติ, น ‘‘ปุริสสฺส มาตุคามาสุภ’’นฺติอาทิกํ วุจฺจมานํ.

โยคกมฺมสฺส ปวตฺติฏฺานตาย ภาวนาย อารมฺมณํ กมฺมฏฺานํ วุจฺจตีติ อาห ‘‘กมฺมฏฺานสงฺขาตํ โคจร’’นฺติ. อุคฺคเหตฺวาติ ยถา อุคฺคหนิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, เอวํ อุคฺคหโกสลฺลสฺส สมฺปาทนวเสน อุคฺคเหตฺวา.

หรตีติ กมฺมฏฺานํ ปวตฺเตติ, ยาว ปิณฺฑปาตปฏิกฺกมา อนุยุฺชตีติ อตฺโถ. น ปจฺจาหรตีติ อาหารูปโภคโต ยาว ทิวาฏฺานุปสงฺกมนา กมฺมฏฺานํ น ปฏิเนติ. สมาทาย วตฺตติ สมฺมา อาทิยิตฺวา เตสํ วตฺตานํ ปริปูรณวเสน วตฺตติ. สรีรปริกมฺมนฺติ มุขโธวนาทิสรีรปฏิชคฺคนํ. ทฺเว ตโย ปลฺลงฺเกติ ทฺเว ตโย นิสชฺชาวาเร ทฺเว ตีณิ อุณฺหาสนานิ. เตนาห – ‘‘อุสุมํ คาหาเปนฺโต’’ติ. กมฺมฏฺานสีเสเนวาติ กมฺมฏฺานมุเขเนว กมฺมฏฺานํ อวิชหนฺโต เอว. เตน ‘‘ปตฺโตปิ อเจตโน’’ติอาทินา ปวตฺเตตพฺพกมฺมฏฺานํ, ยถาปริหริยมานํ วา กมฺมฏฺานํ อวิชหิตฺวาติ ทสฺเสติ. ตเถวาติ ติกฺขตฺตุเมว. ปริโภคเจติยโต สรีรเจติยํ ครุตรนฺติ กตฺวา ‘‘เจติยํ วนฺทิตฺวา’’ติ เจติยวนฺทนาย ปมํ กรณียตา วุตฺตา. ตถา หิ อฏฺกถายํ – ‘‘เจติยํ พาธยมานา โพธิสาขา หริตพฺพา’’ติ วุตฺตา. พุทฺธคุณานุสฺสรณวเสเนว โพธิฺจ ปณิปาตกรณนฺติ อาห – ‘‘พุทฺธสฺส ภควโต สมฺมุขา วิย นิปจฺจการํ ทสฺเสตฺวา’’ติ. คามสมีเปติ คามสฺส อุปจารฏฺาเน.

ชนสงฺคหณตฺถนฺติ ‘‘มยิ อกเถนฺเต เอเตสํ โก กเถสฺสตี’’ติ ธมฺมานุคฺคเหน ชนสงฺคหณตฺถํ. ตสฺมาติ ยสฺมา ‘‘ธมฺมกถา นาม กเถตพฺพา เอวา’’ติ อฏฺกถาจริยา วทนฺติ, ยสฺมา จ ธมฺมกถา กมฺมฏฺานวินิมุตฺตา นาม นตฺถิ, ตสฺมา. กมฺมฏฺานสีเสเนวาติ อตฺตนา ปริหริยมานํ กมฺมฏฺานํ อวิชหนฺโต ตทนุคุณํเยว ธมฺมกถํ กเถตฺวา. อนุโมทนํ กตฺวาติ เอตฺถาปิ ‘‘กมฺมฏฺานสีเสเนวา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. สมฺปตฺตปริจฺเฉเทเนวาติ ปริจิโต อปริจิโตติอาทิวิภาคํ อกตฺวา สมฺปตฺตโกฏิยา เอว, สมาคมมตฺเตเนวาติ อตฺโถ. ภเยติ ปรจกฺกาทิภเย.

กมฺมชเตโชติ คหณึ สนฺธายาห. กมฺมฏฺานวีถึ นาโรหติ ขุทาปริสฺสเมน กิลนฺตกายตฺตา สมาธานาภาวโต. อวเสสฏฺาเนติ ยาคุยา อคฺคหิตฏฺาเน. โปงฺขานุโปงฺขนฺติ กมฺมฏฺานุปฏฺานสฺส อวิจฺเฉท-ทสฺสนเมตํ, ยถา โปงฺขานุโปงฺขํ ปวตฺตาย สรปฏิปาฏิยา อนวิจฺเฉโท, เอวเมตสฺสปิ กมฺมฏฺานุปฏฺานสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.

นิกฺขิตฺตธุโร ภาวนานุโยเค. วตฺตปฏิปตฺติยา อปูรเณน สพฺพวตฺตานิ ภินฺทิตฺวา. กาเม อวีตราโค โหติ. กาเย อวีตราโค. รูเป อวีตราโค. ยาวทตฺถํ อุทราวเทหํ ภุฺชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรติ. อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๐; ม. นิ. ๑.๑๘๖) เอวํ วุตฺตํ ปฺจวิธเจโตวินิพนฺธจิตฺโต. จริตฺวาติ ปวตฺติตฺวา.

คตปจฺจาคติกวตฺตวเสนาติ ภาวนาสหิตํเยว ภิกฺขาย คตปจฺจาคตํ คมนปจฺจาคมนํ เอตสฺส อตฺถีติ คตปจฺจาคติกํ, ตเทว วตฺตํ, ตสฺส วเสน. อตฺตโน หิตสุขํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อตฺตกามา, ธมฺมจฺฉนฺทวนฺโต. ‘‘ธมฺโม’’ติ หิ หิตํ ตํนิมิตฺตกฺจ สุขนฺติ. อถ วา วิฺูนํ ธมฺมานํ อตฺตนิยตฺตา อตฺตภาวปริจฺฉนฺนตฺตา จ อตฺตา นาม ธมฺโม. เตนาห ภควา – ‘‘อตฺตทีปา, ภิกฺขเว, วิหรถ อตฺตสรณา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๓.๔๓). ตํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อตฺตกามา. อุสภํ นาม วีสติ ยฏฺิโย. ตาย สฺายาติ ตาย ปาสาณสฺาย, ‘‘เอตฺตกํ านมาคตา’’ติ ชานนฺตาติ อธิปฺปาโย. โส เอว นโย อยํ ภิกฺขูติอาทิโก โย าเน วุตฺโต, โส เอว นิสชฺชายปิ นโย. ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตานํ ฉินฺนภตฺตภาวภเยนปิ โยนิโสมนสิการํ ปริพฺรูเหติ.

มทฺทนฺตาติ ธฺกรณฏฺาเน สาลิสีสานิ มทฺทนฺตา. มหาปธานํ ปูเชสฺสามีติ อมฺหากํ อตฺถาย โลกนาเถน ฉ วสฺสานิ กตํ ทุกฺกรจริยํ เอวาหํ ยถาสตฺติ ปูเชสฺสามีติ. ปฏิปตฺติปูชา หิ สตฺถุปูชา, น อามิสปูชาติ. านจงฺกมเมวาติ อธิฏฺาตพฺพอิริยาปถกาลวเสน วุตฺตํ, น โภชนาทิกาเลสุ อวสฺสํ กาตพฺพนิสชฺชาย ปฏิกฺเขปวเสน.

วีถึ โอตริตฺวา อิโต จิโต อโนโลเกตฺวา ปมเมว วีถิโย สลฺลกฺเขตพฺพาติ อาห ‘‘วีถิโย สลฺลกฺเขตฺวา’’ติ. ยํ สนฺธาย วุจฺจติ – ‘‘ปาสาทิเกน อภิกฺกนฺเตนา’’ติอาทิ. ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อาหาเร ปฏิกูลสฺํ อุปฏฺเปตฺวาติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. อฏฺงฺคสมนฺนาคตนฺติ ‘‘ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; ๒.๒๔; ๓.๗๕; สํ. นิ. ๔.๑๒๐; อ. นิ. ๖.๕๘; ๘.๙) วุตฺเตหิ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ กตฺวา. เนว ทวายาติอาทิ ปน ปฏิกฺเขปทสฺสนํ.

ปจฺเจกโพธึ สจฺฉิกโรติ, ยทิ อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน โหตีติ สมฺพนฺโธ. อิทฺจ ยถา เหฏฺา ตีสุ าเนสุ, เอวํ อิโต ปเรสุ าเนสุ อุปเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตตฺถ ปจฺเจกโพธิยา อุปนิสฺสยสมฺปทา กปฺปานํ ทฺเว อสงฺขฺเยยฺยานิ สตสหสฺสฺจ ตชฺชํ ปุฺาณสมฺภารสมฺภรณํ, สาวกโพธิยํ อคฺคสาวกานํ เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ กปฺปสตสหสฺสฺจ, มหาสาวกานํ กปฺปสตสหสฺสเมว ตชฺชํ สมฺภารสมฺภรณํ, อิตเรสํ อตีตาสุ ชาตีสุ วิวฏฺฏสนฺนิสฺสยวเสน นิพฺพตฺติตํ นิพฺเพธภาคิยํ กุสลํ. พาหิโย ทารุจีริโยติ พาหิยวิสเย ชาตสํวทฺธตาย พาหิโย, ทารุจีรปริหรเณน ทารุจีริโยติ ลทฺธสมฺโ. โส หิ อายสฺมา ‘‘ตสฺมาติห เต, พาหิย, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสตี’’ติอาทิวสปฺปวตฺเตน (อุทา. ๑๐) สํขิตฺเตเนว โอวาเทน ขิปฺปตรํ วิเสสํ อธิคจฺฉิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ขิปฺปาภิฺโ วา โหติ เสยฺยถาปิ เถโร พาหิโย ทารุจีริโย’’ติ. เอวํ มหาปฺโ วาติอาทีสุ ยถารหํ วตฺตพฺพนฺติ.

นฺติ อสมฺมุยฺหนํ. เอวนฺติ อิทานิ วุจฺจมานาการทสฺสนํ. อตฺตา อภิกฺกมตีติ อิมินา อนฺธปุถุชฺชนสฺส ทิฏฺิคฺคาหวเสน อภิกฺกเม สมฺมุยฺหนํ ทสฺเสติ, อหํ อภิกฺกมามีติ ปน อิมินา มานคฺคาหวเสน, ตทุภยํ ปน ตณฺหาย วินา น โหตีติ ตณฺหาคฺคาหวเสนปิ สมฺมุยฺหนํ ทสฺสิตเมว โหติ, ‘‘ตถา อสมฺมุยฺหนฺโต’’ติ วตฺวา ตํ อสมฺมุยฺหนํ เยน ฆนวินิพฺโภเคน โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อภิกฺกมามีติ จิตฺเต อุปฺปชฺชมาเน’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา วาโยธาตุยา อนุคตา เตโชธาตุ อุทฺธรณสฺส ปจฺจโย. อุทฺธรณคติกา หิ เตโชธาตูติ อุทฺธรเณ วาโยธาตุยา ตสฺสา อนุคตภาโว, ตสฺมา อิมาสํ ทฺวินฺนเมตฺถ ธาตูนํ สามตฺถิยโต อธิมตฺตตา, อิตราสฺจ โอมตฺตตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอเกกปาทุทฺธรเณ…เป… พลวติโย’’ติ อาห. ยสฺมา ปน เตโชธาตุยา อนุคตา วาโยธาตุ อติหรณวีติหรณานํ ปจฺจโย. ติริยคติกาย หิ วาโยธาตุยา อติหรณวีติหรเณสุ สาติสโย พฺยาปาโรติ เตโชธาตุยา ตสฺสานุคตภาโว, ตสฺมา อิมาสํ ทฺวินฺนเมตฺถ สามตฺถิยโต อธิมตฺตตา, อิตราสฺจ โอมตฺตตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถา อติหรณวีติหรเณสู’’ติ อาห. สติปิ อนุคมนานุคนฺตพฺพตาวิเสเส เตโชธาตุวาโยธาตุภาวมตฺตํ สนฺธาย ตถา-สทฺทคฺคหณํ.

ตตฺถ อกฺกนฺตฏฺานโต ปาทสฺส อุกฺขิปนํ อุทฺธรณํ, ิตฏฺานํ อติกฺกมิตฺวา ปุรโต หรณํ อติหรณํ. รุกฺขขาณุอาทิปริหรณตฺถํ, ปติฏฺิตปาทฆฏฺฏนปริหรณตฺถํ วา ปสฺเสน หรณํ วีติหรณํ. ยาว ปติฏฺิตปาโท, ตาว อาหรณํ อติหรณํ, ตโต ปรํ หรณํ วีติหรณนฺติ อยํ วา เอเตสํ วิเสโส. ยสฺมา ปถวีธาตุยา อนุคตา อาโปธาตุ โวสฺสชฺชนสฺส ปจฺจโย. ครุตรสภาวา หิ อาโปธาตูติ โวสฺสชฺชเน ปถวีธาตุยา ตสฺสานุคตภาโว, ตสฺมา ตาสํ ทฺวินฺนเมตฺถ สามตฺถิยโต อธิมตฺตตา, อิตราสฺจ โอมตฺตตาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โวสฺสชฺชเน…เป… พลวติโย’’ติ. ยสฺมา ปน อาโปธาตุยา อนุคตา ปถวีธาตุ สนฺนิกฺเขปนสฺส ปจฺจโย. ปติฏฺาภาเว วิย ปติฏฺาปเนปิ ตสฺสา สาติสยกิจฺจตฺตา อาโปธาตุยา ตสฺสา อนุคตภาโว, ตถา ฆฏฺฏนกิริยาย ปถวีธาตุยา วเสน สนฺนิรุมฺภนสฺส สิชฺฌนโต ตตฺถาปิ ปถวีธาตุยา อาโปธาตุอนุคตภาโว, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘ตถา สนฺนิกฺเขปนสนฺนิรุมฺภเนสู’’ติ.

ตตฺถาติ ตสฺมึ อภิกฺกมเน, เตสุ วา วุตฺเตสุ อุทฺธรณาทีสุ ฉสุ โกฏฺาเสสุ. อุทฺธรเณติ อุทฺธรณกฺขเณ. รูปารูปธมฺมาติ อุทฺธรณากาเรน ปวตฺตา รูปธมฺมา ตํสมุฏฺาปกา อรูปธมฺมา จ. อติหรณํ น ปาปุณนฺติ ขณมตฺตาวฏฺานโต. ตตฺถ ตตฺเถวาติ ยตฺถ ยตฺถ อุปฺปนฺนา, ตตฺถ ตตฺเถว. น หิ ธมฺมานํ เทสนฺตรสงฺกมนํ อตฺถิ. ปพฺพํ ปพฺพนฺติอาทิ อุทฺธรณาทิโกฏฺาเส สนฺธาย สภาคสนฺตติวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อติอิตฺตโร หิ รูปธมฺมานมฺปิ ปวตฺติกฺขโณ, คมนสฺสาทานํ เทวปุตฺตานํ เหฏฺุปริยาเยน ปฏิมุขํ ธาวนฺตานํ สิรสิ ปาเท จ พทฺธขุรธาราสมาคมโตปิ สีฆตโร. ยถา ติลานํ ภชฺชิยมานานํ ตฏตฏายเนน เภโท ลกฺขียติ, เอวํ สงฺขตธมฺมานํ อุปฺปาเทนาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ตฏตฏายนฺตา’’ติ วุตฺตํ. อุปฺปนฺนา หิ เอกนฺตโต ภิชฺชนฺตีติ.

สทฺธึ รูเปนาติ อิทํ ตสฺส ตสฺส จิตฺตสฺส นิโรเธน สทฺธึ นิรุชฺฌนกรูปธมฺมวเสน วุตฺตํ, ยํ ตโต สตฺตรสมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนํ. อฺถา ยทิ รูปารูปธมฺมา สมานกฺขณา สิยุํ, ‘‘รูปํ ครุปริณามํ ทนฺธนิโรธ’’นฺติอาทิวจเนหิ วิโรโธ สิยา. ตถา – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ ลหุปริวตฺตํ, ยถยิทํ จิตฺต’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๘) เอวมาทิปาฬิยา จ. จิตฺตเจตสิกา หิ สารมฺมณสภาวา ยถาพลํ อตฺตโน อารมฺมณปจฺจยภูตมตฺถํ วิภาเวนฺตาเยว อุปฺปชฺชนฺตีติ เตสํ ตํสภาวนิปฺผตฺติอนนฺตรํ นิโรโธ, รูปธมฺมา ปน อนารมฺมณา ปกาเสตพฺพา. เอวํ เตสํ ปกาเสตพฺพภาวนิปฺผตฺติ โสฬสหิ จิตฺเตหิ โหตีติ ตงฺขณายุกตา เตสํ อิจฺฉิตา, ลหุกวิฺาณสฺส วิสยสงฺคติมตฺตปจฺจยตาย ติณฺณํ ขนฺธานํ, วิสยสงฺคติมตฺตตาย จ วิฺาณสฺส ลหุปริวตฺติตา, ทนฺธมหาภูตปจฺจยตาย รูปธมฺมานํ ทนฺธปริวตฺติตา. นานาธาตุยา ยถาภูตาณํ โข ปน ตถาคตสฺเสว, เตน จ ปุเรชาตปจฺจโย รูปธมฺโมว วุตฺโต, ปจฺฉาชาตปจฺจโย จ ตสฺเสวาติ รูปารูปธมฺมานํ สมานกฺขณตา น ยุชฺชเตว, ตสฺมา วุตฺตนเยเนเวตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อฺํอุปฺปชฺชเต จิตฺตํ, อฺํ จิตฺตํ นิรุชฺฌตีติ ยํ ปุริมุปฺปนฺนํ จิตฺตํ, ตํ อฺํ, ตํ ปน นิรุชฺฌนฺตํ อปรสฺส อนนฺตราทิปจฺจโย หุตฺวา เอว นิรุชฺฌตีติ ตถาลทฺธปจฺจยํ อฺํ อุปฺปชฺชเต จิตฺตํ. ยทิ เอวํ เตสํ อนฺตโร ลพฺเภยฺยาติ, โนติ อาห ‘‘อวีจิมนุปพนฺโธ’’ติ. ยถา วีจิ อนฺตโร น ลพฺภติ, ‘‘ตเทเวต’’นฺติ อวิเสสวิทู มฺนฺติ, เอวํ อนุ อนุ ปพนฺโธ จิตฺตสนฺตาโน รูปสนฺตาโน จ นทีโสโตว นทิยํ อุทกปฺปวาโห วิย วตฺตติ.

อภิมุขํ โลกิตํ อาโลกิตนฺติ อาห ‘‘ปุรโตเปกฺขน’’นฺติ. ยสฺมา ยํทิสาภิมุโข คจฺฉติ ติฏฺติ นิสีทติ วา, ตทภิมุขํ เปกฺขนํ อาโลกิตํ , ตสฺมา ตทนุคตํ วิทิสาโลกนํ วิโลกิตนฺติ อาห ‘‘วิโลกิตํ นาม อนุทิสาเปกฺขน’’นฺติ. สมฺมชฺชนปริภณฺฑาทิกรเณ โอโลกิตสฺส, อุลฺโลกาหรณาทีสุ อุลฺโลกิตสฺส, ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตสฺส ปริสฺสยสฺส ปริวชฺชนาทิวเสน อปโลกิตสฺส จ สิยา สมฺภโวติ อาห – ‘‘อิมินา วา มุเขน สพฺพานิปิ ตานิ คหิตาเนวา’’ติ.

กายสกฺขินฺติ กาเยน สจฺฉิกตวนฺตํ, ปจฺจกฺขการินนฺติ อตฺโถ. โสหายสฺมา วิปสฺสนากาเล เอว ‘‘ยเมวาหํ อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตํ นิสฺสาย สาสเน อนภิรติอาทิวิปฺปการํ ปตฺโต, ตเมว สุฏฺุ นิคฺคเหสฺสามี’’ติ อุสฺสาหชาโต พลวหิโรตฺตปฺโป, ตตฺถ จ กตาธิการตฺตา อินฺทฺริยสํวเร อุกฺกํสปารมิปฺปตฺโต, เตเนว นํ สตฺถา – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารานํ ยทิทํ นนฺโท’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๓๐) เอตทคฺเค เปสิ.

สาตฺถกตา จ สปฺปายตา จ เวทิตพฺพา อาโลกิตวิโลกิตสฺสาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. ตสฺมาติ กมฺมฏฺานาวิชหนสฺเสว โคจรสมฺปชฺภาวโตติ วุตฺตเมวตฺถํ เหตุภาเวน ปจฺจามสติ. อตฺตโน กมฺมฏฺานวเสเนว อาโลกนวิโลกนํ กาตพฺพํ, ขนฺธาทิกมฺมฏฺานิเกหิ อฺโ อุปาโย น คเวสิตพฺโพติ อธิปฺปาโย. ยสฺมา อาโลกิตาทิสมฺาปิ ธมฺมมตฺตสฺเสว ปวตฺติวิเสโส, ตสฺมา ตสฺส ยาถาวโต ปชานนํ อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อพฺภนฺตเร’’ติอาทิ วุตฺตํ. จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผารวเสนาติ กิริยมยจิตฺตสมุฏฺานวาโยธาตุยา จลนาการปวตฺติวเสน. อโธ สีทตีติ โถกํ โอตรติ. อุทฺธํ ลงฺเฆตีติ ลงฺฆนฺตํ วิย อุปริ คจฺฉติ.

องฺคกิจฺจํ สาธยมานนฺติ ปธานภูตํ องฺคกิจฺจํ นิปฺผาเทนฺตํ, อุปปตฺติภวสฺส สรีรํ หุตฺวาติ อตฺโถ. ปมชวเนปิ…เป… สตฺตมชวเนปิ น โหตีติ อิทํ ปฺจทฺวารวิฺาณวีถิยํ ‘‘อิตฺถี ปุริโส’’ติ รชฺชนาทีนํ อภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ หิ อาวชฺชนโวฏฺพฺพนานํ อโยนิโส อาวชฺชนโวฏฺพฺพนวเสน อิฏฺเ อิตฺถิรูปาทิมฺหิ โลภมตฺตํ, อนิฏฺเ ปฏิฆมตฺตํ อุปฺปชฺชติ. มโนทฺวาเร ปน ‘‘อิตฺถี ปุริโส’’ติ รชฺชนาทิ โหติ, ตสฺส ปฺจทฺวารชวนํ มูลํ, ยถาวุตฺตํ วา สพฺพํ ภวงฺคาทิ. เอวํ มโนทฺวารชวนสฺส มูลภูตธมฺมปริชานนวเสเนว มูลปริฺา วุตฺตา, อาคนฺตุกตาวกาลิกตา ปน ปฺจทฺวารชวนสฺเสว อปุพฺพภาววเสน เจว อิตฺตรภาววเสน จ วุตฺตา. เหฏฺุปริยวเสน ภิชฺชิตฺวา ปติเตสูติ เหฏฺิมสฺส อุปริมสฺส จ อปราปรํ ภงฺคปฺปตฺติมาห.

นฺติ ชวนํ. ตสฺส ชวนสฺส น ยุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. อาคนฺตุโก อพฺภาคโต. อุทยพฺพยปริจฺฉินฺโน ตาวตโก กาโล เอเตสนฺติ ตาวกาลิกานิ.

เอตํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ. สมวาเยติ สามคฺคิยํ. ตตฺถาติ ปฺจกฺขนฺธวเสน อาโลกนวิโลกเน ปฺายมาเน ตพฺพินิมุตฺโต – โก เอโก อาโลเกติ, โก วิโลเกติ. อุปนิสฺสยปจฺจโยติ อิทํ สุตฺตนฺตนเยน ปริยายโต วุตฺตํ. สหชาตปจฺจโยติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ อฺมฺสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตาทิปจฺจยานมฺปิ ลพฺภนโต.

กาเลติ สมิฺชิตุํ ยุตฺตกาเล สมิฺชนฺตสฺส, ตถา ปสาเรตุํ ยุตฺตกาเล ปสาเรนฺตสฺส. ‘‘มณิสปฺโป นาม เอกา สปฺปชาตี’’ติ วทนฺติ. ลฬนนฺติ กมฺปนํ, ลีฬากรณํ วา.

อุณฺหปกติโก ปริฬาหพหุลกาโย. สีลสฺส วิทูสเนน อหิตาวหตฺตา มิจฺฉาชีววเสน อุปฺปนฺนํ อสปฺปายํ. ‘‘จีวรมฺปิ อเจตน’’นฺติอาทินา จีวรสฺส วิย กาโยปิ อเจตโนติ กายสฺส อตฺตสุฺตาวิภาวเนน ‘‘อพฺภนฺตเร’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ ปริทีเปนฺโต อิตรีตรสนฺโตสสฺส การณํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ.

จตุปฺจคณฺิกาหโตติ อาหตจตุปฺจคณฺิโก, จตุปฺจคณฺิกาหิ วา หตโสโภ.

อฏฺวิโธปิ อตฺโถติ อฏฺวิโธปิ ปโยชนวิเสโส. มหาสิวตฺเถรวาทวเสน ‘‘อิมสฺส กายสฺส ิติยา’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต ทฏฺพฺโพ. อิมสฺมึ ปกฺเข ‘‘เนว ทวายาติอาทินา นเยนา’’ติ ปน อิทํ ปฏิกฺเขปงฺคทสฺสนมุเขน ปาฬิ อาคตาติ กตฺวา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

ปถวีสนฺธารกชลสฺส ตํสนฺธารกวายุนา วิย ปริภุตฺตสฺส อาหารสฺส วาโยธาตุยาว อาสเย อวฏฺานนฺติ อาห – ‘‘วาโยธาตุวเสเนว ติฏฺตี’’ติ. อติหรตีติ ยาว มุขา อภิหรติ. วีติหรตีติ ตโต กุจฺฉิยํ วิมิสฺสํ กโรนฺโต หรติ. อติหรตีติ วา มุขทฺวารํ อติกฺกาเมนฺโต หรติ. วีติหรตีติ กุจฺฉิคตํ ปสฺสโต หรติ. ปริวตฺเตตีติ อปราปรํ จาเรติ. เอตฺถ จ อาหารสฺส ธารณปริวตฺตนสฺจุณฺณนวิโสสนานิ ปถวีธาตุสหิตา เอว วาโยธาตุ กโรติ, น เกวลาติ ตานิ ปถวีธาตุยา กิจฺจภาเวน วุตฺตานิ, สา เอว ธารณาทีนิ กิจฺจานิ กโรนฺตสฺส สาธารณาติ วุตฺตานิ. อลฺลตฺตฺจ อนุปาเลตีติ ยถา วาโยธาตุอาทีหิ อฺเหิ วิโสสนํ น โหติ, ตถา อนุปาเลติ อลฺลภาวํ. เตโชธาตูติ คหณีสงฺขาตา เตโชธาตุ. สา หิ อนฺโตปวิฏฺํ อาหารํ ปริปาเจติ. อฺชโส โหตีติ อาหารสฺส ปวิสนาทีนํ มคฺโค โหติ. อาภุชตีติ ปริเยสนวเสน, อชฺโฌหรณชิณฺณาชิณฺณตาทิปฏิสํเวทนวเสน จ อาวชฺเชติ, วิชานาตีติ อตฺโถ. ตํตํวิชานนสฺส ปจฺจยภูโตเยว หิ ปโยโค ‘‘สมฺมาปโยโค’’ติ วุตฺโต. เยน หิ ปโยเคน ปริเยสนาทิ นิปฺผชฺชติ, โส ตพฺพิสยวิชานนมฺปิ นิปฺผาเทติ นาม ตทวินาภาวโต. อถ วา สมฺมาปโยคํ สมฺมาปฏิปตฺตึ อนฺวาย อาคมฺม อาภุชติ สมนฺนาหรติ. อาโภคปุพฺพโก หิ สพฺโพปิ วิฺาณพฺยาปาโรติ ตถา วุตฺตํ.

คมนโตติ ภิกฺขาจารวเสน โคจรคามํ อุทฺทิสฺส คมนโต. ปริเยสนโตติ โคจรคาเม ภิกฺขตฺถํ อาหิณฺฑนโต. ปริโภคโตติ อาหารสฺส ปริภุฺชนโต. อาสยโตติ ปิตฺตาทิอาสยโต. อาสยติ เอตฺถ เอกชฺฌํ ปวตฺตมาโนปิ กมฺมพลววตฺถิโต หุตฺวา มริยาทวเสน อฺมฺํ อสงฺกรโต สยติ ติฏฺติ ปวตฺตตีติ อาสโย, อามาสยสฺส อุปริ ติฏฺนโก ปิตฺตาทิโก. มริยาทตฺโถ หิ อยมากาโร. นิเธติ ยถาภุตฺโต อาหาโร นิจิโต หุตฺวา ติฏฺติ เอตฺถาติ นิธานํ, อามาสโย, ตโต นิธานโต. อปริปกฺกโตติ คหณีสงฺขาเตน กมฺมชเตเชน อวิปกฺกโต. ปริปกฺกโตติ ยถาภุตฺตสฺส อาหารสฺส วิปกฺกภาวโต. ผลโตติ นิปฺผตฺติโต. นิสฺสนฺทโตติ อิโต จิโต จ วิสฺสนฺทนโต . สมฺมกฺขนโตติ สพฺพโส มกฺขนโต. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาย (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๒๙๔) คเหตพฺโพ.

สรีรโต เสทา มุจฺจนฺตีติ เวคสนฺธารเณน อุปฺปนฺนปริฬาหโต สรีรโต เสทา มุจฺจนฺติ. อฺเ จ โรคา กณฺณสูลภคนฺทราทโย. อฏฺาเนติ มนุสฺสามนุสฺสปริคฺคเห อยุตฺตฏฺาเน เขตฺตเทวายตนาทิเก. กุทฺธา หิ มนุสฺสา อมนุสฺสาปิ วา ชีวิตกฺขยํ ปาเปนฺติ. วิสฺสฏฺตฺตา เนว ตสฺสภิกฺขุโน อตฺตโน, กสฺสจิ อนิสฺสชฺชิตตฺตา ชิคุจฺฉนียตฺตา จ น ปรสฺส, อุทกตุมฺพโตติ เวฬุนาฬิอาทิอุทกภาชนโต. นฺติ ฉฑฺฑิตอุทกํ.

เอตฺถ จ เอโก อิริยาปโถ ทฺวีสุ าเนสุ อาคโต, โส ปุพฺเพ อภิกฺกมปฏิกฺกมคหเณน. ‘‘คมเนปิ ปุรโต ปจฺฉโต จ กายสฺส อภิหรณํ วุตฺตนฺติ อิธ คมนเมว คหิต’’นฺติ อปเร. ยสฺมา อิธ สมฺปชฺกถายํ อสมฺโมหสมฺปชฺเมว ธุรํ, ตสฺมา อนฺตรนฺตเร อิริยาปเถ ปวตฺตานํ รูปารูปธมฺมานํ ตตฺถ ตตฺเถว นิโรธทสฺสนวเสน สมฺปชานการิตา คหิตาติ. มชฺฌิมภาณกา ปน เอวํ วทนฺติ – เอโก หิ ภิกฺขุ คจฺฉนฺโต อฺํ จินฺเตนฺโต, อฺํ วิตกฺเกนฺโต คจฺฉติ, เอโก กมฺมฏฺานํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว คจฺฉติ, ตถา เอโก ติฏฺนฺโต, นิสีทนฺโต, สยนฺโต อฺํ จินฺเตนฺโต, อฺํ วิตกฺเกนฺโต สยติ, เอโก กมฺมฏฺานํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว สยติ. เอตฺตเกน ปน น ปากฏํ โหตีติ จงฺกมเนน ทีเปนฺติ. โย ภิกฺขุ จงฺกมนํ โอตริตฺวา จงฺกมนโกฏิยํ ิโต ปริคฺคณฺหาติ – ‘‘ปาจีนจงฺกมนโกฏิยํ ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา ปจฺฉิมจงฺกมนโกฏึ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, ปจฺฉิมจงฺกมนโกฏิยํ ปวตฺตาปิ ปาจีนจงฺกมนโกฏึ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, จงฺกมนมชฺเฌ ปวตฺตา อุโภ โกฏิโย อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, จงฺกมเน ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา านํ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, าเน ปวตฺตา นิสชฺชํ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, นิสชฺชาย ปวตฺตา สยนํ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา’’ติ, เอวํ ปริคฺคณฺหนฺโต ปริคฺคณฺหนฺโต เอว จิตฺตํ ภวงฺคํ โอตาเรติ, อุฏฺหนฺโต ปน กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว อุฏฺหติ. อยํ ภิกฺขุ คตาทีสุ สมฺปชานการี นาม โหตีติ.

เอวมฺปิ สุตฺเต กมฺมฏฺานํ อวิภูตํ โหติ, กมฺมฏฺานํ อวิภูตํ น กาตพฺพํ, ตสฺมา โส ภิกฺขุ ยาว สกฺโกติ, ตาว จงฺกมิตฺวา ตฺวา นิสีทิตฺวา สยมาโน เอวํ ปริคฺคเหตฺวา สยติ – ‘‘กาโย อเจตโน มฺโจ อเจตโน, กาโย น ชานาติ ‘อหํ มฺเจ สยิโต’ติ, มฺโจปิ น ชานาติ ‘มยิ กาโย สยิโต’ติ, อเจตโน กาโย อเจตเน มฺเจ สยิโต’’ติ, เอวํ ปริคฺคณฺหนฺโต เอว จิตฺตํ ภวงฺคํ โอตาเรติ, ปพุชฺฌนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว ปพุชฺฌตีติ อยํ สุตฺเต สมฺปชานการี นาม โหติ. กายิกาทิกิริยานิพฺพตฺตเนน ตมฺมยตฺตา อาวชฺชนกิริยานิพฺพตฺตกตฺตา อาวชฺชนกิริยาสมุฏฺิตตฺตา จ ชวนํ, สพฺพมฺปิ วา ฉทฺวารปฺปวตฺตํ กิริยามยปวตฺตํ นาม, ตสฺมึ สติ ชาคริตํ นาม โหตีติ ปริคฺคณฺหนฺโต ชาคริเต สมฺปชานการี นาม. อปิจ รตฺตินฺทิวํ ฉ โกฏฺาเส กตฺวา ปฺจ โกฏฺาเส ชคฺคนฺโตปิ ชาคริเต สมฺปชานการี นาม โหตีติ.

วิมุตฺตายตนสีเส ตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโตปิ พาตฺตึสติรจฺฉานกถํ ปหาย ทสกถาวตฺถุนิสฺสิตสปฺปายกถํ กเถนฺโตปิ ภาสิเต สมฺปชานการี นาม โหติ. อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ จิตฺตรุจิยํ อารมฺมณํ มนสิการํ ปวตฺเตนฺโตปิ ทุติยชฺฌานํ สมาปนฺโนปิ ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี นาม. ทุติยฺหิ ฌานํ วจีสงฺขารปฺปหานโต วิเสสโต ตุณฺหีภาโว นามาติ. โอฏฺเ จาติอาทีสุ -สทฺเทน กณฺสีสนาภิอาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตทนุรูปํ ปโยคนฺติ ตสฺส อุปฺปตฺติยา อนุจฺฉวิกํ จิตฺตสฺส ปวตฺติอาการสฺิตํ ปโยคํ, ยโต สพฺเพ วิจาราทโย นิปฺผชฺชนฺติ. อุปาทารูปปวตฺติยาติ วิฺตฺติวิการสหิตสทฺทายตนุปฺปตฺติยา. เอวนฺติ วุตฺตปฺปกาเรน. สตฺตสุปิ าเนสุ อสมฺมุยฺหนวเสน ‘‘มิสฺสก’’นฺติ วุตฺตํ. มคฺคสมฺมาสติยาปิ กายานุปสฺสนาทิอนุรูปตฺตา สมฺปชฺานุรูปปุพฺพภาคํ สตฺตฏฺานิยสฺส เอกนฺตโลกิยตฺตา.

สติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา

๓๖๙. ยสฺมา โส ภิกฺขุ ‘‘เทเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สํขิตฺเตน ธมฺม’’นฺติ สํขิตฺเตน ธมฺมเทสนํ ยาจิ, ตสฺส สํขิตฺตรุจิภาวโต, ตสฺมา สํขิตฺเตเนว ธมฺมํ เทเสตุกาโม ภควา ‘‘ตสฺมาติหา’’ติอาทิมาหาติ วุตฺตํ – ‘‘ยสฺมา สํขิตฺเตน เทสนํ ยาจสิ, ตสฺมา’’ติ. กมฺมสฺสกตาทิฏฺิกสฺเสว โลกิยโลกุตฺตรคุณวิเสสา อิชฺฌนฺติ, น ทิฏฺิวิปนฺนสฺส, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ทิฏฺีติ กมฺมสฺสกตาทิฏฺี’’ติ.

๔. สาลสุตฺตวณฺณนา

๓๗๐. ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน อปายทุกฺเข อปาตนวเสน ธารณฏฺเน ธมฺโม, สาสนพฺรหฺมจริยํ, ตเทว ตทงฺคาทิวเสน กิเลสานํ วินยนฏฺเน วินโยติ อาห – ‘‘ธมฺโมติ วา…เป… นาม’’นฺติ. ปฏิปกฺขธมฺเมหิ อนภิภูตตาย เอโก อุเทตีติ เอโกทีติ ลทฺธนาโม สมาธิ ภูโต ชาโต เอเตสนฺติ เอโกทิภูตา. เอตฺถ จ เอโกทิภูตาติ เอเตน อุปจารชฺฌานาวโห ปุพฺพภาคิโก สมาธิ วุตฺโต. สมาหิตาติ เอเตน อุปจารปฺปนาสมาธิ. เอกคฺคจิตฺตาติ เอเตน สุภาวิโต วสิปฺปตฺโต อปฺปนาสมาธิ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. นวกภิกฺขูหิ ภาวิตสติปฏฺานา ปุพฺพภาคา. เต หิ ยถาภูตาณาย ภาวิตา. ยถาภูตาณนฺติ หิ โสตาปตฺติมคฺคาณํ อิธาธิปฺเปตํ. ขีณาสเวหิ ภาวิตสติปฏฺานาปิ ปุพฺพภาคา. เตสฺหิ กตกรณียานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย สติปฏฺานภาวนา, เสกฺขานํ ปน สติปฏฺานภาวนา ปริฺตฺถาย ปวตฺตา โลกิยา, ปริชานนวเสน ปวตฺตา โลกุตฺตราติ ‘‘มิสฺสกา’’ติ วุตฺตํ.

๕. อกุสลราสิสุตฺตวณฺณนา

๓๗๑. ปฺจเม เกวโลติ กุสลธมฺเมหิ อสมฺมิสฺโส, ตโต เอว สกโล สุกฺกปกฺโข อนวชฺชฏฺโ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

๖. สกุณคฺฆิสุตฺตวณฺณนา

๓๗๒. ปากติกสกุณกุเลสุ พลวภาวโต เตสํ หนนโต สกุณคฺฆิ. เสโนติ วุตฺตํ ‘‘เสนสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ, เสนวิเสโส ปน โส เวทิตพฺโพ. อามิสตฺถาย ปตฺตตฺตา ‘‘โลภสาหเสน ปตฺตา’’ติ วุตฺตํ, โลภนิมิตฺเตน สาหสากาเรน ปตฺตาติ อตฺโถ. นงฺคเลน กฏฺํ กสิตํ นงฺคลกฏฺํ, ตํ กรียติ เอตฺถาติ นงฺคลกฏฺกรณนฺติ อาห – ‘‘อธุนา กฏฺํ เขตฺตฏฺาน’’นฺติ. เลฑฺฑุโย ติฏฺนฺติ เอตฺถาติ เลฑฺฑุฏฺานํ, เลฑฺฑุนิมิตฺตํ กสิตฏฺานํ. วชฺชตีติ วทํ, วจนํ. กุจฺฉิตํ วทํ อวทํ. ครหเน หิ อยํ อ-กาโร ยถา – ‘‘อปุตฺโต อภริยา’’ติ. อวทํ มาเนตีติ อวทมานา, อตฺตโน พลมเทน ลาปํ อติมฺิตฺวา วทนฺตีติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘คจฺฉ โข, ตฺวํ ลาป, ตตฺรปิ เม คนฺตฺวา น โมกฺขสี’’ติ. ยํ ปน อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน พลสฺส สุฏฺุ วณฺณํ วทมานา’’ติ, ตตฺถ อตฺตโต อาปนฺนํ คเหตฺวา วุตฺตํ. ‘‘วทมาโน’’ติ วา ปาโ, สารมฺภวเสน อวฺหายนฺโตติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เอหิ โข ทานิ สกุณคฺฆี’’ติ. สุฏฺุ เปตฺวาติ ชิยามุตฺตสรสฺส วิย สีฆปาตโยคฺยตากรเณน อุโภ ปกฺเข สมฺมา เปตฺวา. อยนฺติ สกุณคฺฆิ. ตฺวาติ ยถาภูตทสฺสเนน อตฺตโน าเณน ชานิตฺวา. ผาลียิตฺถาติ ผาลจฺเฉทติขิณสิขเร สุกฺขเลฑฺฑุสฺมึ ภิชฺชิตฺถ.

๗. มกฺกฏสุตฺตวณฺณนา

๓๗๓. สฺจาโรติ สฺจรณํ. เลปนฺติ สิเลสสทิสํ อาเลปนํ. กาชสิกฺกา วิยาติ กาชทณฺฑเก โอลคฺเคตพฺพา สิกฺกา วิย. อปิจ จตสฺโส รชฺชุโย อุปริ พนฺธนฏฺานฺจาติ ปฺจฏฺานํ. โอฑฺฑิโตติ โอลมฺพิโต. ถุนนฺโตติ นิตฺถุนนฺโต.

๘. สูทสุตฺตวณฺณนา

๓๗๔. อาหารสมฺปาทเนน ตํตํอาหารวตฺถุคเต สูเทติ ปคฺฆเรตีติ สูโท, ภตฺตการโก. ทหเรหิ มนาปตรํ อจฺเจตพฺพโต อติกฺกมิตพฺพโต อจฺจยา, โภชเน รสวิเสสา, ตสฺมา นานจฺจเยหีติ นานปฺปการรสวิเสเสหีติ อตฺโถ. เตน วุตฺตํ ‘‘นานจฺจเยหี’’ติอาทิ. อคฺคียติ อสงฺกรโต วิภชียตีติ อคฺโค, อมฺพิลเมว อคฺโค อมฺพิลคฺโคติ อาห – ‘‘อมฺพิลคฺเคหีติ อมฺพิลโกฏฺาเสหี’’ติ. ทาตุํ อภิหริตพฺพตาย อภิหารา, เทยฺยธมฺมา. เตนาห – ‘‘อภิหฏานํ ทายาน’’นฺติ. อิทํ เม กมฺมฏฺานํ อนุโลมํวาติ อิทํ มม กมฺมฏฺานํ เอวํ ปวตฺตมานํ อนุโลมาวสานเมว หุตฺวา ติฏฺติ. เอวํ ปุน ปวตฺตมานํ อุสฺสกฺกิตฺวา วิเสสนิพฺพตฺตนตฺถเมว โหตีติ เอวํ นิมิตฺตํ คเหตุํ น สกฺโกติ พาโล อพฺยตฺโต, ปณฺฑิโต ปน สกฺโกติ. อตฺตโน จิตฺตสฺสาติ อตฺตโน ภาวนาจิตฺตสฺส. ปุพฺพภาควิปสฺสนา สติปฏฺานาว กถิตา ‘‘สกสฺส จิตฺตสฺส นิมิตฺตํ อุคฺคณฺหาตี’’ติ วุตฺตตฺตา.

๙. คิลานสุตฺตวณฺณนา

๓๗๕. ปาทคาโมติ นครสฺส ปทสทิโส มหนฺตคาโม. เตเนวาห ‘‘เวสาลิยํ วิหรติ เวฬุวคามเก’’ติ. อหิตนิเสธน-หิตนิโยชน-พฺยสนปริจฺจชน-ลกฺขโณ มิตฺตภาโว เยสุ อตฺถิ, เต มิตฺตา. เย ปน ทิฏฺมตฺตสหายา, เต สนฺทิฏฺา. เย สวิเสสํ ภตฺติมนฺโต, เต สมฺภตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มิตฺตาติ มิตฺตาวา’’ติอาทิมาห. อสฺสาติ ภควโต. ปฺจมิยํ อฏฺมิยํ จาตุทฺทสิยํ ปฺจทสิยนฺติ เอเกกสฺมึ ปกฺเข จตฺตาโร วาเร กตฺวา มาสสฺส อฏฺวาเร.

เวทนานํ พลวภาเวน ขโร ผรุโส กกฺขโฬ. อาพาโธติ ปุพฺพกมฺมเหตุตาย กมฺมสมุฏฺาโน อาพาโธ สงฺขารทุกฺขตาสงฺขาโต สพฺพกาลิกตฺตา สรีรสฺส สภาคโรโค นาม. นายมีทิโส อาพาโธ, อยํ ปน พหลตรพฺยาธิตาย ‘‘วิสภาคโรโค’’ติ วุตฺโต. อนฺต-สทฺโท สมีปปวตฺโตติ อาห – ‘‘มรณนฺตํ มรณสนฺติก’’นฺติ. เวทนา…เป… อกโรนฺโต อุกฺกํสคตภาวิตกายาทิตาย. อปีฬิยมาโนติ อปีฬิยมาโน วิย. โอวาทเมว ภิกฺขุสงฺฆสฺส อปโลกนนฺติ อาห – ‘‘โอวาทานุสาสนึ อทตฺวาติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. ปุพฺพภาควีริยํ นาม ผลสมาปตฺติยา ปริกมฺมภูตวิปสฺสนาวีริยํ. ชีวิตมฺปิ ชีวิตสงฺขาโร ปติตุํ อทตฺวา อตฺตภาวสฺส อภิสงฺขรณโต.

‘‘เอตฺตกํ กาลํ อติกฺกมิตฺวา วุฏฺหิสฺสามี’’ติ ขณปริจฺเฉทวตี สมาปตฺติ ขณิกสมาปตฺติ. นิคฺคุมฺพํ นิชฺชฏํ กตฺวาติ รูปสตฺตการูปสตฺตกวเสน ปวตฺติยมานํ วิปสฺสนาภาวนํ สพฺพโส ขิลวิรเหน นิคฺคุมฺพํ, อพฺยากุลตาย นิชฺชฏํ กตฺวา. มหาวิปสฺสนาวเสนาติ ปจฺเจกํ สวิเสสํ วิตฺถาริตานํ อฏฺารสาทีนํ มหาวิปสฺสนานํ วเสน วิปสฺสิตฺวา สมาปนฺนา ยา สมาปตฺติ, สา สุฏฺุ วิกฺขมฺเภติ เวทนํ มหาพลวตาย ปุพฺพารมฺมณสฺส, มหานุภาวตาย ตถาปวตฺติตวิปสฺสนาวีริยสฺส. ยถานามาติอาทินา ตสฺส นิทสฺสนํ ทสฺเสติ. เวทนาติ ทุกฺขเวทนา. จุทฺทสหากาเรหีติ ตสฺเสว สตฺตกทฺวยสฺส วเสน วทติ. สนฺเนตฺวาติ อนฺตรนฺตรา สมาปนฺนชฺฌานสมาปตฺติสมฺภูเตน วิปสฺสนาปีติสิเนเหน เตเมตฺวา. สมาปตฺตีติ ผลสมาปตฺติ.

คิลานา วุฏฺิโตติ คิลานภาวโต วุฏฺิโต. สรีรสฺส ครุถทฺธภาวปฺปตฺติ มธุรกตาติ อาห – ‘‘สฺชาตครุภาโว สฺชาตถทฺธภาโว’’ติ. นานาการโตติ ปุรตฺถิมาทิเภทโต. สติปฏฺานธมฺมาติ ปุพฺเพ อตฺตนา ภาวิยมานา สติปฏฺานธมฺมา. ปากฏา น โหนฺติ กายจิตฺตานํ อกมฺมฺตาย. ตนฺติ ธมฺมาติ ปริยตฺติธมฺมา น ายนฺติ.

อนนฺตรํ อพาหิรนฺติ ธมฺมวเสน ปุคฺคลวเสน จ อนฺตรพาหิรํ อกตฺวา. เอตฺตกนฺติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ วิวรติ. ทหรกาเลติ อตฺตโน ทหรกาเล. น เอวํ โหตีติ ‘‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’’ติอาทิโก มานตณฺหามูลโก อิสฺสามจฺฉริยานํ ปวตฺติอากาโร ตถาคตสฺส น โหติ, นตฺเถว ปเคว เตสํ สมุจฺฉินฺนตฺตาติ อาห – ‘‘โพธิปลฺลงฺเกเยวา’’ติอาทิ. ปฏิสงฺขรเณน เวเน มิสฺสเกน. มฺเติ ยถาวุตฺตํ ปฏิสงฺขรณสฺิเตน เวมิสฺสเกน วิย ชรสกฏํ. อรหตฺตผลเวเนาติ อรหตฺตผลสมาปตฺติสฺิเตน อตฺถภาวเวเน.

ผลสมาปตฺติยา อธิปฺเปตตฺตา ‘‘เอกจฺจานํ เวทนานนฺติ โลกิยานํ เวทนาน’’นฺติ วุตฺตํ. อตฺตทีปาติ เอตฺถ อตฺต-สทฺเทน ธมฺโม เอว วุตฺโต, สฺวายมตฺโถ เหฏฺา วิภาวิโต เอว. นววิโธ โลกุตฺตรธมฺโม เวทิตพฺโพ. โส หิ จตูหิ โอเฆหิ อนชฺโฌตฺถรณียโต ‘‘ทีโป’’ติ วุตฺโต. ตมอคฺเคติ ตมโยคาภาเวน สเทวกสฺส โลกสฺส อคฺเค. สพฺเพสนฺติ สพฺเพสํ สิกฺขากามานํ. เต ‘‘ธมฺมทีปา วิหรถา’’ติ วุตฺตา จตุสติปฏฺานโคจราว ภิกฺขู อคฺเค ภวิสฺสนฺติ.

๑๐. ภิกฺขุนุปสฺสยสุตฺตวณฺณนา

๓๗๖. กมฺมฏฺานกมฺมิกาติ กมฺมฏฺานมนุยุตฺตา. วิเสเสตีติ วิเสโส, อติสโย, สฺวายํ ปุพฺพาปรวิเสโส อุปาทายุปาทาย คเหตพฺโพติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห.

อุปฺปชฺชติกิเลสปริฬาโหติ กาเย อสุภาทิวเสน มนสิการํ อทหนฺตสฺส มนสิการสฺส วีถิยํ อปฏิปนฺนตา สุภาทิวเสน กายารมฺมโณ กิเลสปริฬาโห จ อุปฺปชฺชติ. วีริยารมฺภสฺส อภาเวน ตสฺมึ อารมฺมเณ เจตโส วา ลีนตฺตํ โหติ, โคจรชฺฌตฺตโต พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณ จิตฺตํ วิกฺขิปติ. เอวํ กิเลสปริฬาเห จาติอาทินา ติวิธมฺปิ ภาวนานุโยคสฺส กิเลสวตฺถุภาวํ อุปาทาย สมุจฺจยวเสน อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน เต ปริฬาหลีนตฺตวิกฺเขปา เอกชฺฌํ น ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา ปาฬิยํ ‘‘กายารมฺมโณ วา’’ติอาทินา อนิยมตฺโถ วา-สทฺโท คหิโต. กิเลสานุรฺชิเตนาติ กิเลสวิวณฺณิตจิตฺเตน หุตฺวา น วตฺติตพฺพํ. กถํ ปน วตฺติตพฺพนฺติ อาห ‘‘กิสฺมิฺจิเทวา’’ติ. น จ วิตกฺเกติ น จ วิจาเรตีติ กิเลสสหคเต วิตกฺกวิจาเร น ปวตฺเตติ. สุขิโตติ ฌานสุเขน สุขิโต.

อิมสฺส ภิกฺขุโน ภาวนา ปวตฺตาติ สมฺพนฺโธ. ยสฺมา หิ อิมสฺส ภิกฺขุโน ตํ มูลกมฺมฏฺานํ ปริปนฺเถ สติ เปตฺวา พุทฺธคุณาทิอนุสฺสรเณน จิตฺตํ ปสาเทตฺวา มูลกมฺมฏฺานภาวนา ปวตฺตา, ตสฺมา ปณิธาย ภาวนาติ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. อฏฺเปตฺวาติ จิตฺตํ อปฺปวตฺเตตฺวาติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กมฺมฏฺานาทีนํ ติณฺณมฺปิ วเสน อตฺถโยชนา สมฺภวติ. เตนาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. สาเรนฺโต วิยาติ รถํ วาหยนฺโต วิย. สมปฺปมาณโต อฏฺกาทิวเสน สุตจฺฉิตํ ปกฺขิปนฺโต วิย. สุเขเนว กิเลสานํ โอกาสํ อเทนฺโต อนฺตรา อสชฺชนฺโต อลคฺคนฺโต. วิปสฺสนาจารสฺส อารทฺธวุตฺติตํ อปริปนฺถตฺจ ทสฺเสนฺโต โอปมฺมทฺวยมาห. พฺยาภงฺคิยาติ กาชทณฺเฑน. กิเลสปริฬาหาทีนนฺติ กิเลสปริฬาหลีนตฺตวิกฺเขปานํ.

คุฬขณฺฑาทีนีติ คุฬขณฺฑสกฺขรขณฺฑาทีนิ อุจฺฉุวิการภูตานิ. ‘‘กาเย กายานุปสฺสี วิหรามี’’ติอาทิวจนโต ‘‘ปุพฺพภาควิปสฺสนา กถิตา’’ติ วุตฺตํ.

อมฺพปาลิวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. นาลนฺทวคฺโค

๒. นาลนฺทสุตฺตวณฺณนา

๓๗๘. ทุติยวคฺเค ปมสุตฺตํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยนฺติ ตํ ลงฺฆิตฺวา ‘‘ทุติเย’’ติ วุตฺตํ.

ภิยฺยตโร อภิฺาโตติ สมฺโพธิยา เสฏฺตโรติ อภิลกฺขิโต. ภิยฺยตราภิฺโติ สพฺพสตฺเตสุ อธิกตรปฺโ. เตนาห ‘‘อุตฺตริตราโณ’’ติ. สมฺมา อนวเสสโต พุชฺฌติ เอเตนาติ สมฺโพธีติ อาห – ‘‘สมฺโพธิยนฺติ สพฺพฺุตฺาเณ’’ติ. นิปฺปเทสา คหิตาติ อนวเสสา พุทฺธคุณา คหิตา อคฺคมคฺคสิทฺธิยาว ภควโต สพฺพคุณานํ สิทฺธตฺตา. น เกวลฺจ พุทฺธานํ, อถ โข อคฺคสาวกปจฺเจกพุทฺธานมฺปิ ตํตํคุณสมิชฺฌนํ อคฺคมคฺคาธิคเมเนวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทฺเวปิ อคฺคสาวกา’’ติอาทิมาห.

อปโร นโย – ปสนฺโนติ อิมินา ปสาทสฺส วตฺตมานตา ทีปิตาติ อุปฺปนฺนสทฺโธติ อิมินาปิ สทฺธาย ปจฺจุปฺปนฺนตา ปกาสิตาติ อาห – ‘‘เอวํ สทฺทหามีติ อตฺโถ’’ติ. อภิชานาติ อภิมุขภาเวน สพฺพฺเยฺยํ ชานาตีติ อภิฺโ, ภิยฺโย อธิโก อภิฺโติ ภิยฺโยภิฺโ. โส เอว อติสยวจนิจฺฉาวเสน ภิยฺโยภิฺตโรติ วุตฺโตติ อาห – ‘‘ภิยฺยตโร อภิฺาโต’’ติ. ทุติยวิกปฺเป ปน อภิชานาตีติ อภิฺา, อภิวิสิฏฺา ปฺา. ภิยฺโย อภิฺา เอตสฺสาติ ภิยฺโยภิฺโ, โส เอว อติสยวจนิจฺฉาวเสน ภิยฺโยภิฺตโร. สฺวายํ อสฺส อติสโย อภิฺาย ภิยฺโยภาวกโตติ อาห – ‘‘ภิยฺยตราภิฺโ วา’’ติ. สมฺพุชฺฌติ เอตายาติ สมฺโพธิ, สพฺพฺุตฺาณํ อคฺคมคฺคาณฺจ. สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานฺหิ อคฺคมคฺคาณํ, อคฺคมคฺคาณปทฏฺานฺจ สพฺพฺุตฺาณํ สมฺโพธิ นาม. ตตฺถ ปธานวเสน ตทตฺถทสฺสเน ปมวิกปฺโป, ปทฏฺานวเสน ทุติยวิกปฺโป. กสฺมา ปเนตฺถ อรหตฺตมคฺคาณสฺเสว คหณํ, นนุ เหฏฺิมานิปิ ภควโต มคฺคาณานิ สวาสนเมว ยถาสกํ ปฏิปกฺขวิธมนวเสน ปวตฺตานิ. สวาสนปฺปหานฺหิ เยฺยาวรณปฺปหานนฺติ? สจฺจเมตํ, ตํ ปน อปริปุณฺณํ ปฏิปกฺขวิธมนสฺส วิปฺปกตภาวโตติ อาห ‘‘อรหตฺตมคฺคาเณ วา’’ติ. สพฺพนฺติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน อธิคนฺตพฺพํ สพฺพํ.

ขาทนียานํ อุฬารตา สาตรสานุภาเวนาติ อาห ‘‘มธุเร อาคจฺฉตี’’ติ. ปสํสาย อุฬารตา วิสิฏฺภาเวนาติ อาห – ‘‘เสฏฺเ’’ติ. โอภาสสฺส อุฬารตา มหนฺตภาเวนาติ วุตฺตํ – ‘‘วิปุเล’’ติ. อุสภสฺส อยนฺติ อาสภี, อิธ ปน อาสภี วิยาติ อาสภี. เตนาห – ‘‘อุสภสฺส วาจาสทิสี’’ติ. เยน คุเณน สา ตํสทิสา, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อจลา อสมฺปเวธี’’ติ วุตฺตํ. ยโต กุโตจิ อนุสฺสวนํ อนุสฺสโว. วิชฺชาฏฺานาทีสุ กตปริจยานํ อาจริยานํ ตํ ตํ อตฺถํ าเปนฺตี ปเวณี อาจริยปรมฺปรา. เกวลํ อตฺตโน มติยา ‘‘อิติ กิร เอวํ กิรา’’ติ ปริกปฺปนา อิติกิรา. ปิฏกสฺส คนฺถสฺส สมฺปทานโต ภูตโต ตสฺส คหณํ ปิฏกสมฺปทานํ. ยถาสุตานํ อตฺตานํ อาการสฺส ปริวิตกฺกนํ อาการปริวิตกฺโก. ตเถวสฺส ‘‘เอวเมต’’นฺติ ทิฏฺิยา นิชฺฌานกฺขมนํ ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติ. อาคมาธิคเมหิ วินา เกวลํ อนุสฺสุตโต ตกฺกมคฺคํ นิสฺสาย ตกฺกนํ ตกฺโก. อนุมานวิธึ นิสฺสาย คหณํ นยคฺคาโห. ยสฺมา พุทฺธวิสเย ตฺวา ภควโต อยํ เถรสฺส โจทนา เถรสฺส จ โส อวิสโย, ตสฺมา ‘‘ปจฺจกฺขโต าเณน ปฏิวิชฺฌิตฺวา วิยา’’ติ วุตฺตํ. สีหนาโท วิยาติ สีหนาโท. ตํสทิสตา จสฺส เสฏฺภาเวน, โส เจตฺถ เอวํ เวทิตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สีหนาโท’’ติอาทิมาห. อุนฺนาทยนฺเตนาติ อสนิสทิสํ กโรนฺเตน.

อนุโยคทาปนตฺถนฺติ อนุโยคํ โสธาเปตุํ. วิมทฺทกฺขมฺหิ สีหนาทํ นทนฺโต อตฺถโต อนุโยคํ โสเธติ นาม, อนุยุชฺฌนฺโต จ นํ โสธาเปติ นาม. ทาตุนฺติ โสเธตุํ. เกจิ ‘‘ทานตฺถ’’นฺติ อตฺถํ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. น หิ โย สีหทานํ นทติ, โส เอว ตตฺถ อนุโยคํ เทตีติ ยุชฺชติ. นิฆํสนนฺติ วิมทฺทนํ. ธมมานนฺติ ตาปยมานํ. ตาปนฺเจตฺถ คคฺคริยา ธมฺมาปนสีเสน วทติ.

สพฺเพ เตติ สพฺเพ เต อตีเต นิรุทฺเธ สมฺมาสมฺพุทฺเธ. เตเนตํ ทสฺเสติ – เย เต อเหสุํ อตีตมทฺธานํ ตว อภินีหารโต โอรํ สมฺมาสมฺพุทฺธา, เตสํ ตาว สาวกาณโคจเร ธมฺเม ปริจฺฉินฺทนฺโต มาราทโย วิย จ พุทฺธานํ โลกิยจิตฺตาจารํ ตฺวํ ชาเนยฺยาสิ. เย ปน เต อพฺภตีตา, ตโต ปรโต ฉินฺนวฏุมา ฉินฺนปปฺจา ปริยาทินฺนวฏฺฏา สพฺพทุกฺขวีติวตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺธา, เตสํ สพฺเพสมฺปิ ตว สาวกาณสฺส อวิสยภูเต ธมฺเม กถํ ชานิสฺสสีติ. เตนาติ สมฺโพธิสงฺขาเตน สพฺพฺุตฺาณปทฏฺาเนน อรหตฺตมคฺคาเณน. เอวํสีลาติ ตาทิสสีลา. สมาธิปกฺขาติ สมาธิ จ สมาธิปกฺขา จ สมาธิปกฺขา เอกเทสสรูเปกเสสนเยน. ตตฺถ สมาธิปกฺขาติ วีริยสติโย ตทนุคุณา จ ธมฺมา เวทิตพฺพา . ฌานสมาปตฺตีสุ เยภุยฺเยน วิหารโวหาโร, ฌานสมาปตฺติโย สมาธิปฺปธานาติ วุตฺตํ ‘‘สมาธิปกฺขานํ ธมฺมานํ คหิตตฺตา วิหาโร คหิโต’’ติ.

ยถา ปน เหฏฺา คหิตาปิ สมาธิปฺา ปฏิปกฺขโต วิมุตฺตตฺตา วิมุจฺจน-สงฺขาต-กิจฺจวิเสส-ทสฺสนวเสน วิมุตฺติปริยาเยน ปุน คหิตา ‘‘เอวํวิมุตฺตา’’ติ, เอวํ ทิพฺพวิหาโร ทิพฺพวิหารวิเสสทสฺสนวเสน ปุน คหิโต ‘‘เอวํวิหารี’’ติ, ตสฺมา สพฺเพสํ สมาปตฺติวิหารานํ วเสเนตฺถ อตฺโถ ยุชฺชตีติ ทฏฺพฺพํ. วิมุตฺตีติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ วิมุจฺจิตฺถาติ กตฺวา. เอส นโย เสเสสุปิ. ปฏิปฺปสฺสทฺธนฺเตติ ปฏิปฺปสฺสมฺภโนสาปเนน. สพฺพกิเลเสหิ นิสฺสฏตฺตา อสํสฏฺตฺตา วิมุตฺตตฺตา จ นิสฺสรณวิมุตฺติ นิพฺพานํ.

อนาคตพุทฺธานํ ปนาติ ปน-สทฺโท วิเสสตฺถโชตโน. เตน อตีเตสุ ตาว ขนฺธานํ ภูตปุพฺพตฺตา ตตฺถ สิยา าณสฺส สวิสเย คติ, อนาคเตสุ ปน สพฺพโส อสฺชาเตสุ กถนฺติ อิมมตฺถํ โชเตติ. เตนาห ‘‘อนาคตาปี’’ติอาทิ. ‘‘อตฺตโน เจตสา ปริจฺฉินฺทิตฺวา วิทิตา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ? นนุ อตีตานาคเต สตฺตาเห เอว ปวตฺตํ จิตฺตํ เจโตปริยาณสฺส วิสโย, น ตโต ปรนฺติ? นยิทํ เจโตปริยาณกิจฺจวเสน วุตฺตํ, อถ โข ปุพฺเพนิวาสอนาคตํสาณานํ วเสน วุตฺตํ, ตสฺมา นายํ โทโส. วิทิตฏฺาเน น กโรติ สิกฺขาปเทเนว ตาทิสสฺส ปฏิกฺเขปสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา เสตุฆาตโต จ. กถํ ปน เถโร ทฺวยสมฺภเว ปฏิกฺเขปเมว อกาสิ, น วิภชฺช พฺยากาสีติ อาห ‘‘เถโร กิรา’’ติอาทิ. ปารํ ปริยนฺตํ มิโนตีติ ปารมี, สา เอว าณนฺติ ปารมิาณํ, สาวกานํ ปารมิาณํ สาวกปารมิาณํ. ตสฺมึ สาวกานํ อุกฺกํสปริยนฺตคเต ชานเน นายมนุโยโค, อถ โข สพฺพฺุตฺาเณ สพฺพฺุตาย ชานเน. เกจิ ปน ‘‘สาวกปารมิาเณติ สาวกปารมิาณวิสเย’’ติ อตฺถํ วทนฺติ, ตถา เสสปเทสุปิ. สีล…เป… สมตฺถนฺติ สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติาณสงฺขาตานํ การณานํ ชานนสมตฺถํ. พุทฺธสีลาทโย หิ พุทฺธานํ พุทฺธกิจฺจสฺส ปเรหิ เอเต พุทฺธาติ ชานนสฺส จ การณํ.

อนุมานาณํ วิย สํสยฏฺิตํ อหุตฺวา อิทมิทนฺติ ยถาสภาวโต เยฺยํ ธาเรติ นิจฺฉิโนตีติ ธมฺโม, ปจฺจกฺขาณนฺติ อาห ‘‘ธมฺมสฺส ปจฺจกฺขโต าณสฺสา’’ติ. อนุเอตีติ อนฺวโยติ อาห ‘‘อนุโยคํ อนุคนฺตฺวา’’ติ. ปจฺจกฺขสิทฺธฺหิ อตฺถํ อนุคนฺตฺวา อนุมานาณสฺส ปวตฺติ ‘‘ทิฏฺเน อทิฏฺสฺส อนุมาน’’นฺติ เวทิตพฺพา. วิทิเต เวทกมฺปิ าณํ อตฺถโต วิทิตเมว โหตีติ ‘‘อนุมานาณํ นยคฺคาโห วิทิโต’’ติ วุตฺตํ. วิทิโตติ วิทฺโธ ปฏิลทฺโธ, อธิคโตติ อตฺโถ. อปฺปมาโณติ อปริมาโณ มหาวิสยตฺตา. เตนาห ‘‘อปริยนฺโต’’ติ. เตนาติ อปริยนฺตตฺตา. เตน วา อปริยนฺเตน าเณน. เอเตน เถโร ยํ ยํ อนุเมยฺยมตฺถํ าตุกาโม โหติ, ตตฺถ ตตฺถ ตสฺส อสงฺคมปฺปฏิหตํ อนุมานาณํ ปวตฺเตตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘โส อิมินา’’ติอาทิ. ตตฺถ อิมินาติ อิมินา การเณน.

ปาการสฺส ถิรภาวํ อุทฺธมุทฺธํ อาเปตีติ อุทฺธาปํ, ปาการมูลํ. อาทิ-สทฺเทน ปาการทฺวารพนฺธปริขาทีนํ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ปจฺจนฺเต ภวํ ปจฺจนฺติมํ. ปณฺฑิตโทวาริกฏฺานิยํ กตฺวา เถโร อตฺตานํ ทสฺเสตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอกทฺวารนฺติ กสฺมา อาหา’’ติ โจทนํ สมุฏฺาเปสิ.

ยสฺสา ปฺาย วเสน ปุริโส ปณฺฑิโตติ วุจฺจติ, ตํ ปณฺฑิจฺจนฺติ อาห – ‘‘ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต’’ติ. ตํตํอิติกตฺตพฺพตาสุ เฉกภาโว พฺยตฺตภาโว เวยฺยตฺติยํ. เมธติ อฺาณํ หึสติ วิธมตีติ เมธา, สา เอตสฺส อตฺถีติ เมธาวี. าเน าเน อุปฺปตฺติ เอติสฺสา อตฺถีติ านุปฺปตฺติกา, านโส อุปฺปชฺชนปฺา. อนุปริยายนฺติ เอเตนาติ อนุปริยาโย, โส เอว ปโถติ อนุปริยายปโถ, ปริโต ปาการสฺส อนุยายนมคฺโค. ปาการภาคา สมฺพนฺธิตพฺพา เอตฺถาติ ปาการสนฺธิ, ปาการสฺส ผุลฺลิตปเทโส. โส ปน เหฏฺิมนฺเตน ทฺวินฺนมฺปิ อิฏฺกานํ วิคเมน เอวํ วุจฺจตีติ อาห – ‘‘ทฺวินฺนํ อิฏฺกานํ อปคตฏฺาน’’นฺติ. ฉินฺนฏฺานนฺติ ฉินฺนภินฺนปเทสํ, ฉินฺนฏฺานํ วา. ตฺหิ ‘‘วิวร’’นฺติ วุจฺจติ. กีลิฏฺนฺติ มลีนํ. อุปตาเปนฺตีติ กิเลสปริฬาเหน สนฺตาเปนฺติ. วิพาเธนฺตีติ ปีเฬนฺติ. อุปฺปนฺนาย ปฺาย นีวรเณหิ น กิฺจิ กาตุํ สกฺกาติ อาห ‘‘อนุปฺปนฺนาย ปฺาย อุปฺปชฺชิตุํ น เทนฺตี’’ติ. ตสฺมาติ ปจฺจยูปฆาเตน อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทานโต. จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุฏฺุ ปิตจิตฺตาติ จตุพฺพิธายปิ สติปฏฺานภาวนาย สมฺมเทว ปิตจิตฺตา อปฺปิตจิตฺตา. ยถาสภาเวน ภาเวตฺวาติ ยาถาวโต สมฺมเทว ยถา ปฏิปกฺขา สมุจฺฉิชฺชนฺติ, เอวํ ภาเวตฺวา.

ปุริมนเย สติปฏฺานานิ โพชฺฌงฺคา จ มิสฺสกา อธิปฺเปตาติ ตโต อฺถา วตฺตุํ ‘‘อปิเจตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. มิสฺสกาติ สมถวิปสฺสนามคฺควเสน มิสฺสกา. ‘‘จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปฺปติฏฺิตจิตฺตาติ ปมํ วุตฺตตฺตา สติปฏฺาเนสุ วิปสฺสนํ คเหตฺวา สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวาติ วุตฺตตฺตา มคฺคปริยาปนฺนานํเยว จ เนสํ นิปฺปริยายโพชฺฌงฺคภาวโต เตสุ จ อธิคตเมว โหตีติ โพชฺฌงฺเค มคฺโค จ สพฺพฺุตฺาณฺจาติ คหิเต สุนฺทโร ปฺโห ภเวยฺยา’’ติ มหาสิวตฺเถโร อาห. น ปเนวํ คหิตํ โปราเณหีติ อธิปฺปาโย. อิตีติ วุตฺตปฺปการปรามสนํ. เถโรติ สาริปุตฺตตฺเถโร.

ตตฺถาติ เตสุ ปจฺจนฺตนคราทีสุ. นครํ วิย นิพฺพานํ ตทตฺถิเกหิ อุปคนฺตพฺพโต อุปคตานฺจ ปริสฺสยรหิตสุขาธิคมฏฺานโต. ปากาโร วิย สีลํ ตทุปคตานํ ปริโต อารกฺขภาวโต. อนุปริยายปโถ วิย หิรี สีลปาการสฺส อธิฏฺานภาวโต. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปริยายปโถติ โข ภิกฺขุ หิริยา เอตํ อธิวจน’’นฺติ. ทฺวารํ วิย อริยมคฺโค นิพฺพานนครปฺปเวสเน อฺชสภาวโต. ปณฺฑิตโทวาริโก วิย ธมฺมเสนาปติ นิพฺพานนครํ ปวิฏฺปวิสนกานํ สตฺตานํ สลฺลกฺขณโต. ทินฺโนติ ทาปิโต, โสธิโตติ อตฺโถ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

๓. จุนฺทสุตฺตวณฺณนา

๓๗๙. ปุพฺเพ สาวตฺถิโต เวฬุวคามสฺส คตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อาคตมคฺเคเนว ปฏินิวตฺตนฺโต’’ติ. สตฺตนฺนนฺติ อุปเสโน, เรวโต, ขทิรวนิโย, จุนฺโท, สมณุทฺเทโส อหนฺติ จตุนฺนํ, จาลา, อุปจาลา, สีสูปจาลาติ, ติสฺสนฺนนฺติ อิเมสํ สตฺตนฺนํ อรหนฺตานํ. นตฺถิ นุ โขติ เอตฺถาปิ ‘‘โอโลเกนฺโต’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ สีหาวโลกนาเยน. ภวิสฺสนฺติ เม วตฺตาโร หริตุํ นาสกฺขีติ สมฺพนฺโธ. อิทํ ทานิ ปจฺฉิมทสฺสนนฺติ ภูตกถนมตฺตํ, น ตตฺถ สาลยตาทสฺสนํ ยถา ตถาคตสฺส เวสาลิยา นิกฺขมิตฺวา นาคาปโลกิตํ.

ตสฺส ตสฺส วิเสสสฺส อธิฏฺานวเสเนว อิทฺธิเภททสฺสนํ อิทฺธิวิกุพฺพนํ. สีหสฺส วิชมฺภนาทิวเสน กีฬิตฺวา นาทสทิสี อยํ ธมฺมกถาติ วุตฺตํ ‘‘สีหวิกีฬิโต ธมฺมปริยาโย’’ติ. คมนกาโล มยฺหนฺตีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ปริสมาปเน. เตน เถเรน ยถารมฺภสฺส วจนปพนฺธสฺส สมาปิตภาวํ โชเตติ. เอส นโย เสเสสุปิ เอทิเสสุ สพฺพฏฺาเนสุ. ยุคนฺธราทโย ปริภณฺฑปพฺพตาติ เวทิตพฺพา. เอกปฺปหาเรเนวาติ เอกปฺปหาเรน อิว. สฺวายํ อิว-สทฺโท น สกฺโกมีติ เอตฺถ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺโพ.

ปฏิปาเทสฺสามีติ ิตกายํ ปฏิปาเทสฺสามิ. ปตฺถนากาเล อโนมทสฺสิสฺส ภควโต วจนสุตานุสาเรน าเณน ทิฏฺมตฺตตํ สนฺธาย ‘‘ตํ ปมทสฺสน’’นฺติ วุตฺตํ. ธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี คุณสารํ. เอส มคฺโคติ เอโส ชาตานํ สตฺตานํ มรณนิฏฺิโต ปนฺโถ. ปุนปิ เอวํภาวิโน นาม สงฺขาราติ สงฺขารา นาม เอวํภาวิโน, มรณปริโยสานาติ อตฺโถ. เอตฺตกนฺติ เอตฺตกํ กาลํ. สงฺกฑฺฒิตฺวา สํหริตฺวา. มุขํ ปิธายาติ มุขํ ฉาเทตฺวา. อคฺฆิกสตานีติ มกุฬงฺกุรเจติยสตานิ.

ปุริมทิวเสติ อตีตทิวเส. ยสฺมา ธมฺมเสนาปติโน อรหตฺตปฺปตฺตทิวเสเยว สตฺถุ สาวกสนฺนิปาโต อโหสิ, ตสฺมา ‘‘ปูริตสาวกสนฺนิปาโต เอส ภิกฺขู’’ติ วุตฺตํ. ปฺจ ชาติสตานีติ ภุมฺมตฺเถ, อจฺจนฺตสํโยเค วา อุปโยควจนํ.

กโฬปิหตฺโถติ วิลีวมยภาชนหตฺโถ. ‘‘จมฺมมยภาชนหตฺโถ’’ติ จ วทนฺติ. ปุรนฺตเรติ นครมชฺเฌ. วเนติ อรฺเ.

โอสกฺกนาการวิรหิโตติ ธมฺมเทสนาย สงฺโกจเหตุวิรหิโต. วิสารโทติ สารทวิรหิโต. ธมฺโมชนฺติ ธมฺมรสํ, โอชวนฺตํ เทสนาธมฺมนฺติ อตฺโถ. ธมฺมโภคนฺติ ธมฺมปริโภคํ, ปเรหิ สทฺธึ สํวิภชนวเสน ปวตฺตํ ธมฺมสมฺโภคนฺติ เทสนาธมฺมเมว วทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุภเยนปิ ธมฺมปริโภโคว กถิโต’’ติ.

ปิยายิตพฺพโต ปิเยหิ. มนสฺส วฑฺฒนโต มนาเปหิ. ชาติยาติ ขตฺติยาทิชาติยา. นานาภาโว อสหภาโว วิสุํภาโว. อฺถาภาโว อฺถตฺตํ. สรีรนฺติ รูปธมฺมกายสงฺขาตํ สรีรํ. รูปกาเย หิ ภิชฺชนฺเต ภิชฺชนฺเตว. โส ภิชฺเชยฺยาติ โส มหนฺตตโร ขนฺโธ ภิชฺเชยฺย.

ทกฺขิณทิสํ คโตติ ทกฺขิณทิสามุเข ปวตฺโต. มหาขนฺโธ วิยาติ มหนฺโต สารวนฺโต สาขาขนฺโธ วิย. สาขขนฺธา หิ ทิสาภิมุขปวตฺตาการา, มูลขนฺโธ ปน อุทฺธมุคฺคโต. โสฬสนฺนํ ปฺหานนฺติ โสฬสนฺนํ อปราปริยปวตฺตนิยานํ อตฺถานํ. าตุํ อิจฺฉิโต หิ อตฺโถ ปฺโห.

๔-๕. อุกฺกเจลสุตฺตาทิวณฺณนา

๓๘๐-๓๘๑. อมาวสุโปสเถติ อมาวสิอุโปสเถ, กาลปกฺขอุโปสเถติ อตฺโถ. ปุริมนเยเนวาติ อนนฺตรสุตฺเต วุตฺตนเยเนว.

๖. อุตฺติยสุตฺตวณฺณนา

๓๘๒. มจฺจุเธยฺยสฺสาติ มจฺจุโน ปวตฺติฏฺานสฺส.

๘. พฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา

๓๘๔. ตสฺมึกาเลติ ปมาภิสมฺโพธิยํ. ภิกฺขุเยว นตฺถิ ธมฺมจกฺกสฺส อปฺปวตฺติตตฺตา, ภิกฺขุเยว ภิกฺขุลกฺขณโยคโต. เอกโก มคฺโค, น ทฺเวธาปถภูโตติ เอกมคฺโค, ตํ เอกมคฺคํ. ชาติยา ขโย วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตภูโตติ ชาติกฺขยนฺโต, นิพฺพานํ, ตํ ทิฏฺตฺตา ชาติกฺขยนฺตทสฺสีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

๙. เสทกสุตฺตวณฺณนา

๓๘๕. อยํ ตสฺส ลทฺธีติ อยํ อิทานิ วุจฺจมานา ตสฺส อาจริยสฺส ลทฺธิ. ตโต อนาเมนฺโตติ เยน วํโส นมติ, เตน กายํ อนาเมนฺโต. ตถา นมนฺโต หิ ปติตฺวา จุณฺณวิจุณฺณํ โหติ. นฺติ กายํ, ตํ วํสํ วา. อากฑฺเฒนฺโต วิยาติ นมิตฏฺานโต ปรภาเคน อากฑฺเฒนฺโต วิย. เอกโตภาคิยํ กตฺวาติ ยถาวุตฺตํ สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา โอนตํ วิย กตฺวา. ตถา กรณํ ปน ตถา วาตูปตฺถมฺภคาหาปเนนาติ อาห – ‘‘วาตูปตฺถมฺภํ คาหาเปตฺวา’’ติ. ตฺจ สติยา ตทตฺถํ อุปฏฺาเนนาติ วุตฺตํ ‘‘สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา’’ติ. นิจฺจโลว นิสีทนฺโต อนฺเตวาสี อาจริยํ รกฺขติ, เอตฺตกํ อาจริยสฺส ลทฺธิวเสน วุตฺตํ. ‘‘อาจริโย วํสํ สุคฺคหิตํ คณฺหนฺโต’’ติอาทิ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

‘‘อตฺตานเมว รกฺขตี’’ติ อิทํ อตฺตโน รกฺขณํ ปธานํ กตฺวา วุตฺตํ, น อนฺเตวาสิกนฺติ อวธารณผลํ. อตฺตรกฺขาย ปเนตฺถ สิชฺฌมานาย อนฺเตวาสิกรกฺขาปิ สิทฺธา เอว โหตีติ. ทุติยปกฺเขปิ เอเสว นโย. โส ตตฺถ าโยติ ยา อตฺตโน เอว รกฺขา, สา อตฺถโต ปรรกฺขาปิ โหตีติ อยเมตฺถ าโย ยุตฺตปฺปโยโค. อนุวฑฺฒิยาติ ยถาวฑฺฒิตสฺส อนุอนุวฑฺฒิยา. เอเตน ปฏิลทฺธสมฺปยุตฺตปโมทนากาโร ทสฺสิโตติ อาห – ‘‘สปุพฺพภาคาย มุทิตายาติ อตฺโถ’’ติ. อาเสวนายาติอาทีนิ ปทานิ อนุทยตาปริโยสานานิ (ยสฺมา สติปฏฺานํ เสวนฺตสฺส สิทฺธํ อตฺตโน จ ปรสฺส จ รกฺขณํ ปกาเสนฺติ, ตสฺมา) – ‘‘อตฺตานํ, ภิกฺขเว, รกฺขิสฺสามีติ สติปฏฺานํ เสวิตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

๑๐. ชนปทกลฺยาณีสุตฺตวณฺณนา

๓๘๖. ชนปทสฺมึ กลฺยาณีติ สกลชนปเท ภทฺทา รูปสมฺปตฺติยา สิกฺขาสมฺปตฺติยา จ สุนฺทรา เสฏฺา. รูปสมฺปตฺติ จ นาม สพฺพโส รูปโทสาภาเวน รูปคุณปาริปูริยา โหตีติ ตทุภยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฉสรีรโทสรหิตา ปฺจกลฺยาณสมนฺนาคตา’’ติ วุตฺตํ. ตํ ทุวิธมฺปิ วิวรนฺโต ‘‘สา หี’’ติอาทิมาห. ปฺจกลฺยาณสมนฺนาคตาติ ปฺจวิธสรีรคุณสมฺปทาหิ สมนฺนาคตา. นาติทีฆา นาติรสฺสาติ ปมาณมชฺฌิมา ทีฆตรปฺปมาณา น โหติ, น อติรสฺสา, ลกุณฺฑกรูปา น โหติ. นาติกิสาติ อติวิย กิสถทฺธมํสโลหิตา ทิสฺสมานา อฏฺิสรีรา ชาลสรีรา น โหติ. นาติถูลาติ ภาริยมํสา มโหทรา น โหติ. นาติกาฬา นาจฺโจทาตาติ อติวิย กาฬวณฺณา ฌามงฺคาโร วิย , ทธิตกฺกาทีหิ ปมชฺชิตมตฺตกํสโลหวณฺณา น โหติ. มนุสฺสโลเก ตาทิสิยา รูปสมฺปตฺติยา อภาวโต อติกฺกนฺตา มนุสฺสวณฺณํ. ยถา ปมาณยุตฺตา, เอวํ อาโรหปริณาหโยคโต จ ปเรสํ ปสาทาวหา นาติทีฆตาทโย. เอวํ มนุสฺสานํ ทิพฺพรูปตาสมฺปตฺตีปีติ วุตฺตํ ‘‘อปฺปตฺตา ทิพฺพวณฺณ’’นฺติ. เอตฺถ จ นาติทีฆนาติรสฺสตาวจเนน อาโรหสมฺปตฺติ วุตฺตา อุพฺเพเธน ปาสาทิกภาวโต. กิสถูลโทสาภาววจเนน ปริณาหสมฺปตฺติ วุตฺตา. อุภเยนปิ สณฺานสมฺปทา วิภาวิตา, นาติกาฬตาวจเนน วณฺณสมฺปตฺติ วุตฺตา วิวณฺณตาภาวโต. ปิยงฺคุสามาติ ปริณตปิยงฺคุปุปฺผสทิสสรีรนิภาสา. มุขปริโยสานนฺติ อธโรฏฺมาห. อยํ ยถาวุตฺตา สรีรวณฺณสมฺปตฺติ. อสฺสาติ ชนปทกลฺยาณิยา. ฉวิกลฺยาณตา ฉวิสมฺปตฺติเหตุกตฺตา ตสฺสา. เอส นโย เสเสสุปิ. นขา เอว ปตฺตสทิสตาย นขปตฺตานิ.

(ปสาโว สรีราวยเวน อิริยนนฺติ อาห – ‘‘ปวตฺตีติ อตฺโถ’’ติ, ปสาโว ยถาปริตเมว กนตนฺติ, น สภาวสนฺธานํ. ยถาวิภาวเสน อุตฺตมเมว นจฺจํ นจฺจติ. เต วา วีสติยาสูติรํ ธานปฺปตฺติยา ปวตฺติยา ปวตฺติมกตมนฺทตา วิภาวสุฏตสฺส อุตฺตมเมว คีตฺจ คายตีติ อตฺโถ.) [เอตฺถนฺตเร ปาโ อสุทฺโธ ทุสฺโสธนีโย จ. สุทฺธปาโ คเวสิตพฺโพ.] สมติตฺติโก เตลปตฺโตติ มุขวตฺติสมํ เตลานํ ปูริตตฺตา สมติตฺติกมุขํ เตลภาชนํ. อนฺตเรน จ มหาสมชฺชํ อนฺตเรน จ ชนปทกลฺยาณินฺติ ชนปทกลฺยาณิยา, ตสฺสา จ นจฺจคีตํ เปกฺขิตุํ สนฺนิปติตมหาชนสมูหสฺส มชฺฌโต ปริหริตพฺโพ เนตพฺโพ. นฺติ เตลํ. อาหเรยฺยาติ อาปชฺเชยฺย. ตตฺริทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – เตลปตฺตํ วิย กายคตาสติ, ตสฺส ปริหรณปุคฺคโล วิย วิปสฺสโก, ชนกายา วิย ปุถุตฺตารมฺมณานิ, อสิปุริโส วิย มโน, เตลสฺส จชนํ วิย กิเลสุปฺปาทนํ, สีสปาตนํ วิย อริยมคฺคาณสีสานุปฺปตฺติ. ‘‘กายคตา สติ โน ภาวิตา…เป… สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘ปุพฺพภาควิปสฺสนาว กถิตา’’ติ วุตฺตํ.

นาลนฺทวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สีลฏฺิติวคฺโค

๑-๒. สีลสุตฺตาทิวณฺณนา

๓๘๗-๓๘๘. สีลานีติ พหุวจนํ อเนกวิธตฺตา สีลสฺส. ตฺหิ สีลนฏฺเน เอกวิธมฺปิ จาริตฺตาทิวเสน อเนกวิธํ. เตนาห – ‘‘จตุปาริสุทฺธิสีลานี’’ติ. ปฺหมคฺโคติ าตุํ อิจฺฉิตสฺส อตฺถสฺส วีมํสนํ. เตนาห – ‘‘ปฺหคเวสน’’นฺติ.

๓-๕. ปริหานสุตฺตาทิวณฺณนา

๓๘๙-๓๙๑. ปุคฺคลวเสน ปริหานํ โหติ น ธมฺมวเสน. โย น ภาเวติ, ตสฺเสว ปริหายติ. เตนาห ‘‘โย หี’’ติอาทิ.

๖. ปเทสสุตฺตวณฺณนา

๓๙๒. ปเทสโต ภาวิตตฺตาติ เอกเทสโต ภาวิตตฺตา ภาวนาปาริปูริยา อนนุปฺปตฺตตฺตา. เตนาห – ‘‘จตฺตาโร หิ มคฺเค’’ติอาทิ.

๗. สมตฺตสุตฺตวณฺณนา

๓๙๓. สมตฺตา ภาวิตตฺตาติ ปริยตฺตา ภาวิตตฺตา.

๘-๑๐. โลกสุตฺตาทิวณฺณนา

๓๙๔-๓๙๖. มหาวิสยตฺตา มหติโย อภิฺา เอตสฺสาติ มหาภิฺโ, ตสฺส ภาโวติ สพฺพํ วตฺตพฺพํ. ‘‘สตตวิหารวเสน วุตฺต’’นฺติ วตฺวา ตมตฺถํ ปากฏํ กาตุํ ‘‘เถโร กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสาติ เถรสฺส. อาวชฺชนสฺส คตินฺติ เอกาวชฺชนสฺเสว คมนวีถึ. อนุพนฺธติ จกฺกวาฬานํ สหสฺสํ เอกาวชฺชเนเนว สหสฺสโลกธาตุยา อิจฺฉิตมตฺถํ ชานิตุํ สมตฺโถติ ทสฺเสติ.

สีลฏฺิติวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อนนุสฺสุตวคฺควณฺณนา

๓๙๗-๔๐๗. ยาเวทนา สมฺมสิตฺวาติ ยา เตภูมกเวทนา สมฺมสิตฺวา. ตาวสฺสาติ ตา เตภูมกเวทนา เอว อสฺส ภิกฺขุโน. สทิสวเสน เจตํ วุตฺตํ, อนิจฺจาทิสมฺมสนวเสน วิทิตา ปุพฺพภาเค สมฺมสนกาเล อุปฏฺหนฺติ. ปริคฺคหิเตสูติ ปริชานนวเสน ปริจฺฉิชฺช คหิเตสุ. ‘‘เวทนา ตณฺหาปปฺจสฺส, วิตกฺโก มานปปฺจสฺส, สฺา ทิฏฺิปปฺจสฺส มูลวเสน สมฺมสนํ วุตฺตา’’ติ วทนฺติ. ‘‘เวทนาวิตกฺกสฺา ตณฺหามานทิฏฺิปปฺจานํ มูลทสฺสนวเสนา’’ติ อปเร.

อนนุสฺสุตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อมตวคฺโค

๒. สมุทยสุตฺตวณฺณนา

๔๐๘. สารมฺมณสติปฏฺานาติ อารมฺมณลกฺขิตา สติปฏฺานา กถิตา, น สติลกฺขณา.

๔. สติสุตฺตวณฺณนา

๔๑๐. สุทฺธิกํ กตฺวา วิสุํ วิสุํ กตฺวา. ตถา จ วุตฺตํ ปาฬิยํ ‘‘กาเย วา ภิกฺขู’’ติ.

๖. ปาติโมกฺขสํวรสุตฺตวณฺณนา

๔๑๒. เชฏฺกสีลนฺติ ปธานกสีลํ. สีลคฺคหณฺหิ ปาฬิยํ ปาติโมกฺขสํวรวเสเนว อาคตํ. เตนาห ‘‘ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปาติโมกฺขสํวโรว สีลนฺติ อวธารณํ อิตเรสํ ติณฺณํ เอกเทเสน ปาติโมกฺขนฺโตคธภาวํ ทีเปติ. ตถา หิ อโนโลกิโยโลกเน อาชีวเหตุ จ ฉสิกฺขาปทวีติกฺกมเน คิลานปจฺจยสฺส อปฺปจฺจเวกฺขิตปริโภเค จ อาปตฺติ วิหิตาติ. ตีณีติ อินฺทฺริยสํวราทีนิ. สีลนฺติ วุตฺตฏฺานํ นาม นตฺถีติ สีลปริยาเยน เตสํ กตฺถจิ สุตฺเต คหิตฏฺานํ นาม นตฺถีติ นิปฺปริยายสีลตํ เตสํ ปฏิกฺขิปติ. ฉทฺวารรกฺขณมตฺตเมวาติ ตสฺส สลฺลหุกตมาห จิตฺตาธิฏฺานมตฺเตน ปฏิปากติกภาวปฺปตฺติโต. อิตรทฺวเยปิ เอเสว นโย. ปจฺจยุปฺปตฺติมตฺตกนฺติ ผเลน เหตุํ ทสฺเสติ. อุปฺปาทนเหตุกา หิ ปจฺจยานํ อุปฺปตฺติ. อิทมตฺถนฺติ อิทํ ปโยชนํ อิมสฺส ปจฺจยสฺส ปริภุฺชเนติ อธิปฺปาโย. นิปฺปริยาเยนาติ อิมินา อินฺทฺริยสํวราทีนิ ตีณิ ปธานสีลสฺส ปริปาลนปริโสธนวเสน ปวตฺติยา ปริยายสีลานิ นามาติ ทสฺเสติ. อิทานิ ปาติโมกฺขสีลสฺเสว ปธานภาวํ พฺยติเรกโต อนฺวยโต จ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โสติ ปาติโมกฺขสํวโร. เสสานิ อินฺทฺริยสํวราทีนิ. ปาติโมกฺขสทฺทสฺส อตฺโถ ปน วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาทีสุ วิตฺถาริโต, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

อาจาเรน จ โคจเรน จ สมฺปนฺโนติ กายิกเจตสิกอวีติกฺกมสงฺขาเตน อาจาเรน จ นเวสิยาทิโคจรตาทิสงฺขาเตน โคจเรน จ สมฺปนฺโน, สมฺปนฺนอาจารโคจโรติ อตฺโถ. อปฺปมตฺตเกสูติ อติปริตฺตเกสุ อนาปตฺติคมนีเยสุ. ‘‘ทุกฺกฏทุพฺภาสิตมตฺเตสู’’ติ อปเร. วชฺเชสูติ อกรณีเยสุ คารยฺเหสุ. เต ปน เอกนฺตโต อกุสลา โหนฺตีติ อาห – ‘‘อกุสลธมฺเมสู’’ติ. ภยทสฺสาวีติ ภยโต ทสฺสนสีโล, ปรมาณุมตฺตมฺปิ วชฺชํ สิเนรุปฺปมาณํ วิย กตฺวา ทสฺสนสีโล. สมฺมา อาทิยิตฺวาติ สมฺมเทว สกฺกจฺจํ สพฺพโส จ อาทิยิตฺวา. สิกฺขาปเทสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมนฺติ สมุทายโต อวยวนิทฺธารณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สิกฺขาปเทสุ ตํ ตํ สิกฺขาปท’’นฺติอาทิมาห. สิกฺขาปทํ สมาทาตพฺพํ สิกฺขิตพฺพฺจาติ อธิปฺปาโย. สิกฺขาติ อธิสีลสิกฺขา. ปุพฺเพ ปท-สทฺโท อธิฏฺานฏฺโ, อิธ ภาคตฺโถติ ทฏฺพฺพนฺติ อาห – ‘‘สิกฺขาโกฏฺาเสสู’’ติ. มูลปฺตฺติอนุปฺตฺติอาทิเภทํ ยํกิฺจิ สิกฺขิตพฺพํ ปูเรตพฺพํ สีลํ, ตํ ปน ทฺวารวเสน ทุวิธเมวาติ อาห – ‘‘กายิกํ วา วาจสิกํ วา’’ติ. อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป สิกฺขาปเทสูติ อาธาเร ภุมฺมํ สิกฺขาภาเคสุ กสฺสจิ วิสุํ อคฺคหณโต. เตนาห – ‘‘ตํ ตํ สพฺพ’’นฺติ. ‘‘ตโต ตฺวํ ภิกฺขุ สีลํ นิสฺสายา’’ติ วจนโต อนภิชฺฌา อพฺยาปาทสมฺมาทิฏฺิโยปิ สีลนฺติ วุตฺตา, ตสฺมา อิมสฺมึ สุตฺเต ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสีลเมว กถิต’’นฺติ วุตฺตํ.

๗. ทุจฺจริตสุตฺตวณฺณนา

๔๑๓. เอตฺถาปิ มโนสุจริตํ สีลํ นามาติ ทสฺเสตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปจฺฉิมาปิ ตโย’’ติ. อนภิชฺฌาอพฺยาปาทสมฺมาทิฏฺิธมฺมา สีลํ โหตีติ เวทิตพฺพา กายวจีสุจริเตหิ สทฺธึ มโนสุจริตมฺปิ วตฺวา ‘‘ตโต ตฺวํ ภิกฺขุ สีลํ นิสฺสาย สีเล ปติฏฺายา’’ติ วุตฺตตฺตา. เสสํ วุตฺตนยเมว. ฉฏฺสตฺตเมสูติ ฉฏฺสตฺตมวคฺเคสุ อปุพฺพํ นตฺถิ. เตน วุตฺตํ ‘‘เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ. วคฺคเปยฺยาลโต ปน อิมสฺมึ สติปฏฺานสํยุตฺเต กติปยวคฺคา สงฺคหํ อารูฬฺหา, ตถาปิ เตสํ อตฺถวิเสสาภาวโต เอกจฺเจสุ โปตฺถเกสุ มุขมตฺตํ ทสฺเสตฺวา สํขิตฺตา, เอกจฺเจสุ อติสํขิตฺตาว, เต สงฺเขปวเสน ทฺเว กตฺวา ‘‘ฉฏฺสตฺตเมสู’’ติ วุตฺตํ.

อมตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

สติปฏฺานสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.