📜

๔. อินฺทฺริยสํยุตฺตํ

๑. สุทฺธิกวคฺโค

๑. สุทฺธิกสุตฺตวณฺณนา

๔๗๑. จตุภูมก…เป… ลพฺภนฺติ กุสลาพฺยากตภาวโต เตสํ ติณฺณํ อินฺทฺริยานํ. วีริยินฺทฺริยสมาธินฺทฺริยานิ…เป… สพฺพตฺถ ลพฺภนฺติ กุสลตฺติกสาธารณตฺตา. จตุภูมก …เป… วเสนาติ จตุภูมกธมฺมปริจฺเฉทวเสน เจว กุสลาทีหิ สพฺพสงฺคาหกธมฺมปริจฺเฉทวเสน จ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.

ทุติยสมณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๔๗๗. ทุกฺขสจฺจวเสนาติ ทุกฺขสจฺจภาเวน น ปชานนฺติ. ตฺหิ ปริฺเยฺยตาย ทุกฺขสจฺจสงฺคหํ. สมุทยสจฺจวเสนาติ ตณฺหาวิชฺชาทึ สทฺธินฺทฺริยสฺส สมุทยสจฺจภาเวน น ปชานนฺติ. นิโรธนฺติ สทฺธินฺทฺริยสฺส อนุปาทาย นิโรธนิมิตฺตํ นิพฺพานํ. ปฏิปทนฺติ สทฺธินฺทฺริยนิโรธคามินึ ปฏิปทํ อริยมคฺคํ. เสเสสูติ วีริยินฺทฺริยาทีสุ.

สุกฺกปกฺเขติ ‘‘สทฺธินฺทฺริยํ ปชานนฺตี’’ติอาทินยปฺปวตฺเต อนวชฺชปกฺเข. อธิโมกฺขวเสน อาวชฺชนสมุทยาติ ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตปุพฺพภาคภูตสทฺธาธิโมกฺขวเสน อาวชฺชนุปฺปตฺติยา. ตสฺมา ปมุปฺปนฺนา สทฺธา เอว เหตฺถ ‘‘อาวชฺชน’’นฺติ วุตฺตา, น มโนทฺวาราวชฺชนํ. เอส นโย เสเสสุปิ. ตสฺมา ปมุปฺปนฺนา อาวชฺชนา ปคฺคหุปฺปตฺติฏฺานานํ ติกฺขานํ วีริยินฺทฺริยาทีนํ ปมุปฺปตฺติยา อาวชฺชนปริยาเยน วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. ทุพฺพลา หิ ปมุปฺปนฺนา ปคฺคหาภาวโต วีริยินฺทฺริยาทีนํ สมุทโยติ พลวภาวปฺปตฺตวีริยินฺทฺริยาทิกสฺส อาวชฺชนฏฺานิยานิ โหนฺตีติ เตสํ สมุทโยติ วุตฺตา, ปุพฺเพ อธิมุจฺจนาทิวเสน ปวตฺตสฺส อาวชฺชนสฺส สมุทยาติ อตฺโถ. ปุน ฉนฺทวเสนาติ กตฺตุกามตากุสลจฺฉนฺทวเสน สทฺธาทีนํ อุปฺปาเทตุกามตาการปฺปวตฺตสฺส ฉนฺทสฺส วเสน. มนสิการวเสน อาวชฺชนสมุทยาติ สทฺธินฺทฺริยาทิวเสน ปวตฺตสฺส ทุพฺพลสฺส ตสฺส นิพฺพตฺตกโยนิโสมนสิการวเสน อาวชฺชนสฺส อุปฺปตฺติยา. เอวมฺปีติ ‘‘อธิโมกฺขวเสนา’’ติอาทินา วุตฺตากาเรนปิ. ฉสุ สุตฺเตสูติ ทุติยโต ปฏฺาย ฉสุ สุตฺเตสุ. จตุสจฺจเมว กถิตํ. อสฺสาทคฺคหเณน หิ สมุทยสจฺจํ, อาทีนวคฺคหเณน ทุกฺขสจฺจํ, นิสฺสรณคฺคหเณน นิโรธมคฺคสจฺจานิ คหิตานีติ. ปมสุตฺเต ปน อินฺทฺริยานํ สรูปทสฺสนเมวาติ.

๘. ทพฺพสุตฺตวณฺณนา

๔๗๘. โสโต อาปชฺชียติ เอเตนาติ โสตาปตฺติ, อนาคตํ ปติ ปมมคฺโค. โสโตติ อริยมคฺคโสโต ทฏฺพฺโพ. อาปชฺชียตีติอาทิโต ปฏิปชฺชียติ. ปมมคฺคปฏิลาภนิมิตฺตานิ โสตาปนฺนสฺส องฺคานิ อิธ ‘‘โสตาปตฺติยงฺคานี’’ติ วุตฺตานิ. ตานิ ปน ตีสุ าเนสุ สทฺธา อริยกนฺตสีลฺจาติ เวทิตพฺพานิ. สวิสเยติ สกวิสเย. เชฏฺกภาวทสฺสนตฺถนฺติ ปธานภาวทสฺสนตฺถํ. ยตฺถ สทฺธาทิอินฺทฺริยานํ สาติสยกิจฺจํ, เตสํ กิจฺจาติเรกตํ ทสฺเสตุนฺติ อตฺโถ. อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาหิ วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปตฺวาติ อตฺตโน กิจฺจาติเรกฏฺานํ ปฏิลภิตฺวา. ปุพฺพงฺคมนฺติ สทฺทหนกิจฺเจสุ ปุเรจารํ โธรยฺหํ. เสสานิ วีริยินฺทฺริยาทีนิ. ตทนฺวยานีติ ตทนุคตานิ ตสฺส สทฺธินฺทฺริยาทิกสฺส ปกฺขิกานิ. เอส นโย เสเสสุปิ. ฌานวิโมกฺเขติ ฌานสงฺขาเต วิโมกฺเข สมาธิปธานตาย ฌานานํ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘โสตาปตฺติยงฺคานิ ปตฺวา’’ติ อิทฺจ วจนํ สมตฺถิตํ โหติ. สทฺธูปนิสฺหิ สีลนฺติ. อริยสจฺจานิ ปตฺวาติ จตฺตาริ สจฺจานิ อภิสเมตพฺพานิ ปาปุณิตฺวา.

๙-๑๐. ปมวิภงฺคสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๗๙-๔๘๐. เนปกฺกํ วุจฺจติ ปฺาติ อาห – ‘‘ปฺาเยตํ นาม’’นฺติ. นิปายติ สํกิเลสธมฺเม วิโสเสติ นิกฺขาเมตีติ นิปโก, ถิรติกฺขสติปุคฺคโล, ตสฺส ภาโว เนปกฺกนฺติ สติยาปิ เนปกฺกภาโว ยุชฺชเตว. เอวฺหิ ‘‘สติเนปกฺเกนา’’ติ อิทํ วจนํ สมตฺถิตํ โหติ, สติยา จ เนปกฺเกนาติ เอวํ วุจฺจมาเนน สตินิทฺเทโส นาม กโต โหติเยว. อสุกํ นาม สุตฺตํ วา กมฺมฏฺานํ วา เม ภาสิตนฺติ. โวสฺสชฺชียติ สงฺขารคตํ เอตสฺมึ อธิคเตติ โวสฺสคฺโค, นิพฺพานํ. ตํ อารมฺมณํ กริตฺวาติ อาห – ‘‘นิพฺพานารมฺมณํ กตฺวา’’ติ. คจฺฉนฺติยาติ สงฺขารานํ อุทยฺจ วยฺจ อุทยพฺพยํ คจฺฉนฺติยา พุชฺฌนฺติยา. เตนาห ‘‘อุทยพฺพยปริคฺคาหิกายา’’ติ. สทฺธาสติปฺินฺทฺริยานิ ปุพฺพภาคานิ ‘‘อิติปิ โส ภควา อรหํ, จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา, อุทยตฺถคามินิยา ปฺายา’’ติ จ วุตฺตตฺตา. ‘‘อารทฺธวีริโย วิหรติ, โส อนุปฺปนฺนาน’’นฺติอาทินา จ วุตฺตตฺตา วีริยินฺทฺริยํ มิสฺสกํ. ‘‘โวสฺสคฺคารมฺมณํ กริตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา สมาธินฺทฺริยํ นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรเมว. อยเมวาติ ยฺวายํ นวเม วุตฺโต. อยเมว ปุพฺพภาคมิสฺสกโลกุตฺตรตฺตธมฺมปริจฺเฉโท.

สุทฺธิกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. มุทุตรวคฺโค

๑. ปฏิลาภสุตฺตวณฺณนา

๔๘๑. สมฺมปฺปธาเน อารพฺภาติ สมฺมปฺปธาเน ภาวนาวเสน อารพฺภ. เตนาห ‘‘ภาเวนฺโต’’ติ. ยถา วีริยินฺทฺริยนิทฺเทเส ‘‘จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน อารพฺภ วีริยํ ปฏิลภตี’’ติ เทสนา อาคตา, เอวํ สตินฺทฺริยนิทฺเทเส ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺาเน อารพฺภ สตึ ปฏิลภตี’’ติ, ตสฺมา ‘‘สตินฺทฺริเยปิ เอเสว นโย’’ติ วุตฺตํ. สทฺธินฺทฺริยาทินิทฺเทเสสุ ปน น ตถา เทเสติ.

๒. ปมสํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๔๘๒. อินฺทฺริยานํ ติกฺขาทิภาโว วิปสฺสนาวเสน วา มคฺควเสน วา ผลวเสน วา คเหตพฺโพติ วุตฺตํ ‘‘ตโตติ…เป… เวทิตพฺพ’’นฺติ. นนุ เจตฺถ มุทุภาโว เอว ปาฬิยํ คหิโตติ? สจฺจเมตํ, ตํ ปน ติกฺขภาเว อสติ น โหติ ติกฺขาทิภาโวติ วุตฺตํ. ยโต หิ อยํ มุทุ, อิโต ตํ ติกฺขนฺติ วตฺตพฺพตํ ลภติ อเปกฺขาสิทฺธตฺตา ติกฺขมุทุภาวานํ ปาราปารํ วิย. อิทานิ ‘‘ตโต’’ติอาทินา สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘สมตฺตานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมตฺตานีติ สมฺปนฺนานิ. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. สมตฺตานีติ วา ปริยตฺตานิ, สมตฺตานีติ อตฺโถ. ‘‘ตโต มุทุตรานิ ธมฺมานุสารีมคฺคสฺสา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ? ตโตติ หิ โสตาปตฺติมคฺควิปสฺสนินฺทฺริยานิ อธิปฺเปตานิเยว, ‘‘ตโต มุทุตรานี’’ติ วุตฺตปมมคฺโค ธมฺมานุสารี วา สิยา สทฺธานุสารี วาติ พฺยภิจรติ? นายํ โทโส, โสตาปตฺติมคฺเคกเทสวเสเนว ลทฺธพฺพปมมคฺคาเปกฺขาย วิปสฺสนาย วิภาคสฺส อธิปฺเปตตฺตา. โย หิ โสตาปนฺโน หุตฺวา อิริยาปถํ อโกเปตฺวา ยถานิสินฺโนว สกทาคามิมคฺคํ ปาปุณาติ, ตสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ สนฺธาย อวิภาเคน วุตฺตํ – ‘‘ตโต มุทุตรานิ โสตาปตฺติมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นามา’’ติ. โย ปน โสตาปนฺโน หุตฺวา กาลนฺตเรน สกทาคามี โหติ, ตสฺส โสตาปตฺติมคฺคตฺถาย ปวตฺตานิ วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ. โส เจ ธมฺมานุสารีโคตฺโต, ตสฺส ยถาวุตฺตวิปสฺสนินฺทฺริยโต มุทุตรานีติ ‘‘ตโต มุทุตรานิ ธมฺมานุสารีมคฺคสฺสา’’ติ วุตฺตํ. วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นามาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. ธมฺมานุสารีวิปสฺสนินฺทฺริยโต สทฺธานุสารีวิปสฺสนินฺทฺริยานํ มุทุภาวสฺส การณํ สยเมว วกฺขติ. ธมฺเมน ปฺาย มคฺคโสตํ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี, ปฺุตฺตโร อริโย. สทฺธาย มคฺคโสตํ อนุสฺสรตีติ สทฺธานุสารี, สทฺธุตฺตโร อริโย.

เอวํ วิปสฺสนาวเสน ทสฺเสตฺวา มคฺควเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ตถา’’ติอาทิ อารทฺธํ. สมฺปโยคโต สภาวโต จ อรหตฺตมคฺคปริยาปนฺนานิ อรหตฺตมคฺคินฺทฺริยานิ. อรหตฺตผลินฺทฺริยานีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

อิทานิ ผลวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘สมตฺตานิ ปริปุณฺณานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โสตาปตฺติมคฺคฏฺปุคฺคลวเสน นานตฺตํ ชาตํ, ตสฺมา เต ทฺเวปิ อิธ ตติยวาเร น ลพฺภนฺตีติ อธิปฺปาโย. ธมฺมานุสารีสทฺธานุสารีนํ นานตฺตํ กถํ ชาตนฺติ อาห ‘‘อาคมเนนปิ มคฺเคนปี’’ติ. ตทุภยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สทฺธานุสารีปุคฺคโล’’ติอาทิมาห. อุทฺทิสาเปนฺโตติ อุทฺเทสํ คณฺหนฺโต.

มคฺโค ติกฺโข โหติ อุปนิสฺสยินฺทฺริยานํ ติกฺขวิสทภาวโต. เตนาห ‘‘สูรํ าณํ วหตี’’ติ. อสงฺขาเรนาติ สรเสเนว. อปฺปโยเคนาติ ตสฺเสว เววจนํ. ธมฺมานุสารีปุคฺคโล หิ อาคมนมฺหิ กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต อปฺปทุกฺเขน อปฺปกสิเรน อกิลมนฺโตว วิกฺขมฺเภตุํ สกฺโกติ. สทฺธานุสารีปุคฺคโล ปน ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต หุตฺวา วิกฺขมฺเภตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา ธมฺมานุสาริสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ กิเลสจฺเฉทกาณํ อทนฺธํ ติขิณํ หุตฺวา วหติ, ยถา นาม ติขิเณน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ มฏฺํ โหติ, อสิ ขิปฺปํ วหติ, สทฺโท น สุยฺยติ, พลววายามกิจฺจํ น โหติ, เอวรูปา ธมฺมานุสาริโน ปุพฺพภาคภาวนา โหติ, สทฺธานุสาริโน ปน ปุพฺพภาคกฺขเณ กิเลสจฺเฉทกาณํ ทนฺธํ น ติขิณํ อสูรํ หุตฺวา วหติ, ยถา นาม นาติติขิเณน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ น มฏฺํ โหติ, อสิ สีฆํ น วหติ, สทฺโท สุยฺยติ, พลววายามกิจฺจํ อิจฺฉิตพฺพํ โหติ, เอวรูปา สทฺธานุสาริโน ปุพฺพภาคภาวนา โหติ. เอวํ สนฺเตปิ กิเลสกฺขเย นานตฺตํ นตฺถิ. เตนาห ‘‘กิเลสกฺขเย ปนา’’ติอาทิ. อวเสสา จ กิเลสา ขียนฺติ สํโยชนกฺขยาย โยคตฺตา.

๓. ทุติยสํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๔๘๓. ตโตติ ผลโต ผลเวมตฺตตาย จริยมานตฺตา. อินฺทฺริยเวมตฺตตา สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ นานตฺเตน. ผลนานตฺตนฺติ อรหตฺตผลาทินานตฺตํ. ปุคฺคลนานตฺตนฺติ อนาคามิอาทิปุคฺคลนานตฺตํ.

๔. ตติยสํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๔๘๔. สีลกฺขนฺธาทีหิ สทฺธินฺทฺริยาทีหิ จ ปริโต ปูรเณน ปริปูรํ อรหตฺตมคฺคํ กโรนฺโต นิปฺผตฺติโต อรหตฺตผลํ อาราเธติ นิปฺผาเทติ. ตโย ปเทสมคฺเคติ สีลกฺขนฺธาทีนํ อปาริปูริยา เอกเทสภูเต ตโย เหฏฺิมมคฺเค. ปเทสํ เหฏฺิมผลตฺตยํ. จตูสูติ อิมสฺมึ วคฺเค ปมาทีสุ จตูสุ สุตฺเตสุ. กามฺเจตฺถ ตติเย ‘‘ตโตติ ผลวเสน นิสฺสกฺก’’นฺติ วุตฺตํ, จตุตฺเถ ‘‘ปริปูรํ ปริปูรการี อาราเธติ, ปเทสํ ปเทสการี’’ติ, ‘‘จตูสุปิ สุตฺเตสุ มิสฺสกาเนว อินฺทฺริยานิ กถิตานี’’ติ ปน วจนโต วิปสฺสนาวเสนปิ โยชนา ลพฺภเตวาติ ทฏฺพฺพํ.

๕-๗. ปมวิตฺถารสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๘๕-๔๘๗. วิปสฺสนาวเสน นิสฺสกฺกํ เวทิตพฺพํ, น มคฺคผลวเสน, อิมสฺมึ สุตฺเต สพฺพโสว วิปสฺสนินฺทฺริยานํ เอว อธิปฺเปตตฺตา. อิทานิ ตมตฺถํ ปากฏํ กาตุํ ‘‘ปริปุณฺณานิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อวิหาทีสุ ปฺจสุ สุทฺธาวาเสสุ ตตฺถ ตตฺถ อายุเวมชฺฌํ อนติกฺกมิตฺวา อนฺตรา กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนโต อนฺตราปรินิพฺพายี, อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน สรสโตว ปรินิพฺพายนโต อสงฺขารปรินิพฺพายี, ตพฺพิปริยายโต สสงฺขารปรินิพฺพายี, อุทฺธํ วาหิภาเวน อุทฺธมสฺส ตณฺหาโสตํ วฏฺฏโสตํ วาติ อุทฺธํโสโต, อุทฺธํ วา คนฺตฺวา ปฏิลภิตพฺพโต อุทฺธมสฺส มคฺคโสตนฺติ อุทฺธํโสโต, อกนิฏฺภวํ คจฺฉตีติ อกนิฏฺคามีติ เอวเมตฺถ สทฺทตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

อิมสฺมึ ปน าเนติ ‘‘วิปสฺสนาวเสน นิสฺสกฺก’’นฺติ วุตฺตฏฺาเน. อรหตฺตมคฺเคเยว ตฺวาติ อิมสฺมึเยว ภเว อรหตฺตมคฺเคเยว, น วิปสฺสนาย จ ตฺวา. ปฺจ นิสฺสกฺกานิ นีหริตพฺพานีติ ‘‘ตโต มุทุตเรหิ อนฺตราปรินิพฺพายี โหตี’’ติอาทีนิ ปฺจ นิสฺสกฺกานิ นิทฺธาเรตฺวา กเถตพฺพานิ. อิทานิ ตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘อรหตฺตมคฺคสฺส หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อวิหาทีสุ อุปฺปชฺชิตฺวา อุปฺปนฺนสมนนฺตราย ปรินิพฺพายนโต ปมอนฺตราปรินิพฺพายี. ตตฺถ อายุปฺปมาณเวมชฺฌํ อปฺปตฺวาว ปรินิพฺพายนโต ทุติยอนฺตราปรินิพฺพายี, อายุเวมชฺฌํ ปตฺวา ปรินิพฺพายนโต ตโต ปรํ ตติยอนฺตราปรินิพฺพายี เวทิตพฺโพ. ‘‘ปฺจ นิสฺสกฺกานี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ? นนุ อสงฺขารสสงฺขารปรินิพฺพายีติ วตฺตพฺพนฺติ? น วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส สสงฺขารปรินิพฺพายิโนปิ เอเตว ปฺจ ชนา’’ติ.

ตีณิ นิสฺสกฺกานีติ ‘‘ตโต มุทุตเรหิ โสตาปนฺโน โหตี’’ติอาทีนิ ตีณิ นิสฺสกฺกปทานิ. อิธ สกทาคามี น คหิโต, โส อนาคามิมคฺเค ตฺวา นีหริตพฺโพ, อนาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริเยหิ มุทุตเรหิ สกทาคามี โหติ. สกทา…เป… มุทุตรานีติ อิทํ สกทาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริเยหิ เอกพีชิสงฺขาตโสตาปนฺนวิปสฺสนินฺทฺริยานิ มุทุตรานิ โหนฺตีติ ตีณิ กตฺวา วุตฺตํ. ธมฺมานุสารีติอาทิทฺวยํ โกลํโกลาทิทฺวเยน คหิตํ โหตีติ. สกทาคามิมคฺคสฺส หีติอาทิ วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส วิวรณํ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. ฉฏฺสตฺตมานิ วุตฺตนยาเนวาติ ฉฏฺสตฺตมานิ สุตฺตานิ ทุติยตติเยสุ วุตฺตนยาเนว. ตตฺถ ปน มิสฺสกานิ อินฺทฺริยานิ กถิตานิ, อิธ ปุพฺพภาควิปสฺสนินฺทฺริยานิ กถิตานีติ อยเมว วิเสโส.

๘. ปฏิปนฺนสุตฺตวณฺณนา

๔๘๘. นฺติ มคฺคผลวเสน นิสฺสกฺกํ. ปาฬิยํ วุตฺตเมว ‘‘อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน โหตี’’ติอาทินา. อฏฺหีติ จตูหิ ผเลหิ จตูหิ จ มคฺเคหีติ อฏฺหิ. พหิภูโต น อนฺโตภาโว. โลกุตฺตราเนว อินฺทฺริยานิ กถิตานิ มคฺคผลจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนตฺตา.

๙-๑๐. สมฺปนฺนสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๘๙-๔๙๐. อินฺทฺริยสมฺปนฺโนติ เอตฺถ สมฺปนฺนสทฺโท ปริปูริอตฺโถติ อาห ‘‘ปริปุณฺณินฺทฺริโย’’ติ. มิสฺสกานิ อินฺทฺริยานิ กถิตานิ สามฺโตว เทสิตตฺตา.

มุทุตรวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ฉฬินฺทฺริยวคฺโค

๒. ชีวิตินฺทฺริยสุตฺตวณฺณนา

๔๙๒. อิตฺถิภาเวติ อิตฺถิตาย. อินฺทฏฺํ กโรติ ตถาสตฺตชนสามฺการณภาวโต. อิตฺถิยา เอว อินฺทฺริยํ อิตฺถินฺทฺริยํ. เอส นโย ปุริสินฺทฺริเย. ชีวิเตติ สหชาตธมฺมานํ ชีวเน ปาลเน ปวตฺตเน. วฏฺฏินฺทฺริยานีติ วฏฺฏเหตุภูตานิ อินฺทฺริยานิ. อิเมสุ หิ อุปาทินฺนอินฺทฺริเยสุ สติ วฏฺฏํ วตฺตติ ปฺายติ.

๓. อฺินฺทฺริยสุตฺตวณฺณนา

๔๙๓. อชานิตปุพฺพํ ธมฺมนฺติ จตุสจฺจธมฺมมาห, ตถา เตสํเยว าตธมฺมานนฺติ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – อาชานาตีติ อฺา, ปมมคฺเคน าตมนติกฺกมิตฺวา ชานาตีติ อตฺโถ. โสตาปนฺนาทีนํ ฉอริยานํ เอตํ นามํ. อฺสฺส อินฺทฺริยานิ อฺินฺทฺริยานิ. อฺาตาวีสูติ อาชานิตวนฺเตสุ. ยสฺมา อคฺคผลธมฺเมสุ าณกิจฺจํ สาติสยํ, ตสฺมา ตํ กิจฺจํ เสสธมฺเมสุปิ สมาโรเปตฺวา วุตฺตํ ‘‘อฺาตาวีสุ อรหตฺตผลธมฺเมสู’’ติ. ตตฺถ ตตฺถ เตสุ เตสุ มคฺคผเลสุ. เตน เตนากาเรนาติ อนฺาตชานนาทิอากาเรน.

๔. เอกพีชิสุตฺตวณฺณนา

๔๙๔. วิปสฺสนโตนิสฺสกฺกนฺติ วิปสฺสนินฺทฺริเยหิ นิสฺสกฺกํ. อิทานิ ตเมว สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘สมตฺตานี’’ติอาทิมาห. ตีณิ นิสฺสกฺกานิ เอวมิธ ปฺจ นิสฺสกฺกานิ นีหริตพฺพานิ เอกพีชิอาทิวิภาวนโต. เตนาห ‘‘สกทาคามิมคฺคสฺส หี’’ติอาทิ. โสตาปตฺติมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นาม เตนตฺตภาเวน สกทาคามิมคฺคํ ปตฺตุํ คจฺฉนฺตสฺส โสตาปนฺนสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ. ปฺจปิ เต โสตาปตฺติมคฺคสฺส เภทาเยวาติ ‘‘สกทาคามิมคฺเค ตฺวา นีหริตพฺพานี’’ติ วุตฺตํ.

เอกพีชีติ เอตฺถ ขนฺธพีชํ นาม กถิตํ. ยสฺส หิ โสตาปนฺนสฺส เอกํ ขนฺธพีชํ อตฺถิ, เอกํ อตฺตภาวคฺคหณํ, โส เอกพีชิ นาม. เตนาห – ‘‘โสตาปนฺโน หุตฺวา’’ติอาทิ. มานุสกํภวนฺติ อิทํ ปเนตฺถ เทสนามตฺตํ, เทวภวํ นิพฺพตฺเตตีติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. ภควตา คหิตนามาเนตานิ. เอตฺตกฺหิ ปมาณํ คโต สตฺตกฺขตฺตุปรโม นาม โหติ, เอตฺตกํ โกลํโกโล, เอตฺตกํ เอกพีชีติ ภควตา เอเตสํ นามํ คหิตํ.

ทฺเว ตโย ภเวติ เทวมนุสฺเสสุ เอว ทฺเว ตโย ภเว. สมฺโพธิจตุสจฺจธมฺโม ปรํ อยนํ นิสฺสโย คติ เอตสฺสาติ สมฺโพธิปรายโณ. กุลโต กุลํ คจฺฉตีติ โกลํโกโล. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยโต ปฏฺาย หิ นีจกุเล อุปฺปตฺติ นาม นตฺถิ, มหาโภเคสุ กุเลสุ เอว นิพฺพตฺตตีติ อตฺโถ. เกวโลปิ หิ กุล-สทฺโท มหาโภคกุลเมว วทติ. ทฺเว วา ตีณิ วา กุลานีติ เทวมนุสฺสวเสน ทฺเว วา ตโย วา ภเวติ อยมฺปิ มิสฺสกภเวน กถิโต. ชาตสฺส กุมารสฺส วิย อริยาย ชาติยา ชาตสฺส นามเมตํ, ยทิทํ นิยโตติ สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิโกติ จ สมฺาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ภควตา คหิตนามวเสเนวา’’ติอาทิ.

ยทิ ปุพฺพเหตุนิยมโต โสตาปนฺโน จ นิยโตติ โสตาปตฺติมคฺคโต อุทฺธํ ติณฺณํ มคฺคานํ อุปนิสฺสยาภาวโต ปุพฺพเหตุกิจฺจํ นตฺถีติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส อุปนิสฺสยภาโว อาปชฺชติ. ยทิ ตสฺสปิ ปุพฺพเหตุอุปนิสฺสโย สิยา, ตาว นิยมโต โสตาปตฺติมคฺคุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ เอว นิยมิโต, ยาวฺจ อกนิฏฺํ ตสฺส ปุพฺพเหตุ นาม , อเหตุกตา อาปนฺนา, อิจฺจสฺส อเหตุ อปฺปจฺจยา นิปฺผตฺติ ปาปุณาติ. กิฺจ เหตุ เจ? นิยมโต โสตาปนฺโน จ นิยโตติ ปมมคฺคาธิคเมเนว อนุกฺกเมน อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ กิจฺจานิ นิปฺผชฺชนฺติ, เอวํ สตฺตกฺขตฺตุปรมตาทินิยเม สติ สตฺตมภวาทิโต อุทฺธํ ปวตฺตตาย ทุกฺขสฺส มูลภูตา กิเลสา ปมมคฺเคเนว ขีณาติ อุปริ ตโย มคฺคา อกิจฺจา สิยุํ. เตนาห ‘‘ปมมคฺคสฺส อุปนิสฺสโย กโต นามา’’ติอาทิ.

ยทิ อุปริ ตโย มคฺคา สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิตํ นิยเมนฺติ, ตโต จ อฺโ โสตาปนฺโน นตฺถีติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส อกิจฺจกตา นิปฺปโยชนตา อาปชฺเชยฺย. อถ สกฺกายทิฏฺิอาทิปฺปหานํ ตสฺส กิจฺจํ, เตสํ เตสํ ปหาเนน สตฺตกฺขตฺตุปรมาทินิยมตาย. ภวิตพฺพํ, ยาว อุปริมคฺคา เอว โหนฺตีติ สตฺตภวาทิโต อุทฺธมปวตฺตนโต เตน วินาเนน สกฺกายทิฏฺิอาทิปฺปหาเนน จ เตน วินา ภวิตพฺพนฺติ อาห – ‘‘ปมมคฺเค อนุปฺปนฺเนว อุปริ ตโย มคฺคา อุปฺปนฺนาติ อาปชฺชตี’’ติ. ติณฺณํ มคฺคานนฺติ อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ. วิปสฺสนา นิยเมตีติ ยุชฺชตีติ วุตฺตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘สเจ หี’’ติอาทิมาห.

โสตาปนฺโน วฏฺฏชฺฌาสโย. ตตฺเรกจฺเจ ปากเฏ ปฺาเต ทสฺเสนฺโต ‘‘อนาถปิณฺฑิโก’’ติอาทิมาห. อิธฏฺกโวกิณฺณสุกฺขวิปสฺสกสฺสาติ โย อิมสฺมึ กามภเว ิโต มนุสฺสเทววเสน โวกิณฺณภวูปปตฺติโก สุกฺขวิปสฺสโก จ, ตสฺส วเสน. นามํ กถิตนฺติ สตฺตกฺขตฺตุปรโมติ นามํ กถิตํ. เกจิ ปน ‘‘กามภเว สตฺตกฺขตฺตุํเยว อุปฺปชฺชติ, น ตโต’’ติ วทนฺติ, ตํ วีมํสิตพฺพํ.

โสเธสฺสามีติ ชมฺพุทีเป เกนจิ เตปิฏเกน ภิกฺขุนา สทฺธึ ปิฏกตฺตยเมว มยฺหํ อุคฺคหปริปุจฺฉาวเสน โสเธยฺยามีติ ปรตีรํ ชมฺพุทีปํ คโต. โย ภิกฺขุ สกฺโกตีติ โยชนา. อนิจฺจานุปสฺสนาทีสุ เอกมุเขน อภินิวิฏฺเนปิ อภิธมฺมปริยาเยน ตีหิ เอว วิโมกฺเขหิ มคฺคํ ลภตีติ อภินิเวสเภเทน ตโย ปุคฺคลา สุฺตโต วุฏฺิตา, ตถา ตโย อปฺปณิหิตโต วุฏฺิตาติ ฉ โหนฺติ, เตว สทฺธาธุรปฺาธุรวเสน ทฺวาทส สกทาคามิโน. ตถา อรหนฺโต, ตโย อนฺตราปรินิพฺพายิโน เอโก อุปหจฺจปรินิพฺพายี เอโก อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามีติ ปฺจ, เต อสงฺขารสสงฺขารปรินิพฺพายิเภเทน ทสาติ อวิหาทีสุ จตูสุปิ จตฺตาลีส, อกนิฏฺเ ปน อุทฺธํโสโต นตฺถีติ อฏฺจตฺตาลีส อนาคามิโน. วิปสฺสนา กถิตา สมฺมสนจารสฺส กถิตตฺตา.

๕-๑๐. สุทฺธกสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๙๕-๕๐๐. ยถา จกฺขุสฺส สหชาตตทินฺทฺริยนิสฺสิตธมฺเมสุ อธิปเตยฺยํ อนุวตฺตนียตฺตา, เอวํ ตํทฺวาริกธมฺเมสุปิ อธิปเตยฺยํ เตหิ อนุวตฺตนียตฺตาติ วุตฺตํ – ‘‘อธิปเตยฺยสงฺขาเตน อินฺทฏฺเนา’’ติ. เอส นโย เสสินฺทฺริยาทีสุปิ. จตุสจฺจวเสน กถิตานิ สภาวาทิวิภาวนสฺส กถิตตฺตา.

ฉฬินฺทฺริยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สุขินฺทฺริยวคฺโค

๑-๕. สุทฺธิกสุตฺตาทิวณฺณนา

๕๐๑-๕๐๕. ยถา จกฺขุ ทสฺสเน อธิปเตยฺยฏฺเน จกฺขุนฺทฺริยํ, เอวํ สุขเวทนา สุขเน อธิปเตยฺยฏฺเน สุขินฺทฺริยํ. เอส นโย เสเสสุปิ. เสสํ เตภูมกนฺติ เสสํ ภูมิตฺตยวเสน เตภูมกํ.

๖. ปมวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา

๕๐๖. กายิกนฺติ อยมสฺส นิสฺสยวเสน นิทฺเทโสติ อาห – ‘‘กายปสาทวตฺถุก’’นฺติ. สรูปนิทฺเทโส สุขํ สุขินฺทฺริยสฺส สรูปนฺติ. สาทนียฏฺเน ธมฺมปทานิ อตฺตนิ อสฺสาทยตีติ สาตํ, มธุรํ. เวทยิตนฺติ เวทิยนํ, อนุภวนนฺติ อตฺโถ. อฺธมฺมวิสิฏฺโติ ผสฺสาทีหิ อฺเหิ ธมฺเมหิ วิสทิโส. กายิกนฺติ ปสาทกายสนฺนิสฺสิตํ. เจตสิกนฺติ เจโตสนฺนิสฺสิตํ, เตน วุตฺตํ ‘‘เอตฺถ ปนา’’ติอาทิ. กายปสาท…เป… นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘จตฺตาโร ปสาทกาเย วตฺถุํ กตฺวา’’ติ วุตฺตํ.

๙. กฏฺโปมสุตฺตวณฺณนา

๕๐๙. ทฺวินฺนํอรณีนนฺติ อธรุตฺตรารณีนํ. กิฺจิ ทฺวยํ สงฺฆฏฺฏิตมตฺตํ หุตฺวา น สโมธานคตํ โหตีติ ตํนิวตฺตนตฺถํ ‘‘สงฺฆฏฺฏนสโมธานา’’ติ วุตฺตํ. ปุนปฺปุนํ สงฺฆฏฺฏเนน หิ เตโชปาตุภาโว. อธรารณี วิย วตฺถารมฺมณํ อสติปิ วายาเม ตชฺชสมฺผสฺสปจฺจยโต. อุตฺตรารณี วิย ผสฺโส วตฺถารมฺมณาทิผสฺเสน ปวตฺตนโต. สงฺฆฏฺโฏ วิย ผสฺสสงฺฆฏฺฏนํ อรณิทฺวยสงฺฆฏฺฏนา วิย ผสฺสสฺเสว วตฺถารมฺมเณสุ สงฺฆฏฺฏนากาเรน ปวตฺติโต. อคฺคิ วิย เวทนา อนุทหนฏฺเน ขณิกาวายฺจ. วตฺถารมฺมณํ วา อุตฺตรารณี วิย อินฺธนาปาตคหณาทีสุ อุสฺสาหสฺส วิย ปวตฺติสมฺภวโต. ผสฺโส อธรารณี วิย นิรุสฺสาหนิรีหตาวเสน อตฺตสาธนโต.

๑๐. อุปฺปฏิปาฏิกสุตฺตวณฺณนา

๕๑๐. รสนํ ภฺชนํ นิรุชฺฌนํ รโส. โย โย ธมฺมานํ รโส ยถาธมฺมรโส, เตน ยถาธมฺมรเสน. ปฏิปาฏิยาติ กเมน, อุภเยนปิ ธมฺมานํ ปหานกฺกเมนาติ วุตฺตํ โหติ. อิมสฺมึ อินฺทฺริยวิภงฺเคติ อิมสฺมึ อินฺทฺริยสํยุตฺตสฺิเต อินฺทฺริยวิภงฺเค. อเทสิตตฺตาติ เสสสุตฺตานิ วิย ‘‘สุขินฺทฺริย’’นฺติอาทินา อเทสิตตฺตา อิทํ อุปฺปฏิปาฏิกสุตฺตํ นาม. วลิยา ขรสมฺผสฺสาย ผุฏฺสฺส. ตนฺติ กณฺฏกเวทนาทึ. เอตสฺส ทุกฺขินฺทฺริยสฺส.

เตสํเตสนฺติ โทมนสฺสินฺทฺริยาทีนํ. การณวเสเนวาติ ตํตํอสาธารณการณวเสน. เตสฺหิ วิเสสการณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปตฺตจีวราทีนํ วา’’ติ อาห.

เอกโตวาติ ปุนปฺปุนํ ปทุทฺธารณํ อกตฺวา เอกชฺฌเมว. ทุติยชฺฌานาทีนํ อุปจารกฺขเณ เอว นิรุชฺฌนฺตีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. เตสํ ทุกฺขินฺทฺริยโทมนสฺสาทีนํ. อติสยนิโรโธติ สุฏฺุ ปหานํ อุชุปฺปฏิปกฺเขน วูปสโม. นิโรโธเยวาติ นิโรธมตฺตเมว. นานาวชฺชเนติ เยน อาวชฺชเนน อปฺปนาวีถิ โหติ, ตโต ภิชฺชาวชฺชเน, อเนกาวชฺชเน วา. อปฺปนาวีถิยฺหิ อุปจาโร เอกาวชฺชโน, อิตโร อเนกาวชฺชโน อเนกกฺขตฺตุํ ปวตฺตนโต. วิสมนิสชฺชาย อุปฺปนฺนกิลมโถ วิสมาสนุปตาโป. ปีติผรเณนาติ ปีติยา ผรณรสตฺตา. ปีติสมุฏฺานานํ วา ปณีตรูปานํ กายสฺส พฺยาปนโต วุตฺตํ. เตนาห ‘‘สพฺโพ กาโย สุโขกฺกนฺโต โหตี’’ติ. วิตกฺกวิจารปจฺจเยปีติ ปิ-สทฺโท อฏฺานปยุตฺโต, โส ‘‘ปหีนสฺสา’’ติ เอตฺถ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺโพ ‘‘ปหีนสฺสปิ โทมนสฺสินฺทฺริยสฺสา’’ติ. เอตํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตสฺส มยฺหํ อติจิรํ วิตกฺกยโต วิจารยโต กาโยปิ กิลมิ, จิตฺตมฺปิ วิหฺี’’ติ จ วจนโต กายจิตฺตเขทานํ วิตกฺกวิจารปจฺจยตา เวทิตพฺพา. วิตกฺกวิจารภาเว อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสินฺทฺริยนฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตีติ ตตฺถ ทุติยชฺฌานุปจาเร อสฺส โทมนสฺสสฺส อุปฺปตฺติ ภเวยฺย. ‘‘ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตี’’ติ อิทํ ปริกปฺปวจนํ อุปจารกฺขเณ โทมนสฺสสฺส สุปฺปหีนภาวทสฺสนตฺถํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘น ตฺเวว ทุติยชฺฌาเน ปหีนปจฺจยตฺตา’’ติ. ปหีนมฺปิ โสมนสฺสินฺทฺริยํ ปีติ วิย น ทูเรติ กตฺวา ‘‘อาสนฺนตฺตา’’ติ วุตฺตํ. นานาวชฺชนุปจาเร ปหีนมฺปิ ปหานงฺคํ ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺเชยฺยาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปฺปนาปฺปตฺตายา’’ติอาทิมาห. ‘‘ตาทิสาย อาเสวนาย อิจฺฉิตพฺพตฺตา ยถา มคฺควีถิโต ปุพฺเพ ทฺเว ตโย ชวนวารา สทิสานุปสฺสนาว ปวตฺตนฺติ, เอวมิธาปิ อปฺปนาวารโต ปุพฺเพ ทฺเว ตโย ชวนวารา อุเปกฺขาสหคตาว ปวตฺตนฺตี’’ติ วทนฺติ. อปริเสสนฺติ สุวิกฺขมฺภิตนฺติ กตฺวา วิกฺขมฺภเนน อนวเสสํ.

ตถตฺตายาติ ตถภาวาย ปมชฺฌานสมงฺคิตาย. สา ปนสฺส อุปฺปาทเนน วา อุปฺปนฺนสฺส สมาปชฺชเนน วา โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อุปฺปาทนตฺถาย สมาปชฺชนตฺถายา’’ติ. ทฺวีสูติ นวมทสเมสุ สุตฺตนฺเตสุ.

สุขินฺทฺริยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ชราวคฺโค

๑. ชราธมฺมสุตฺตวณฺณนา

๕๑๑. ปมุเข , ปาสาทสฺส จ ปจฺฉิมภาเค อาตโป ปจฺฉาตโป, ตสฺมึ ปจฺฉาตเป. โส หิ ปาสาทสฺส ปมุขภาเวน กโต. กึ ปน ภควโต วชิรสารํ สรีรํ โอตาเปตพฺพํ โหตีติ อาห – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติอาทิ . อยฺจ อิมํ สุตฺตํ เทสิตสมเย. น สกฺโกติ พฺยามปฺปภาย กายจิ ปภาย อนภิภวนียตฺตา. กิฺจาปิ พุทฺธาภา สูริยาภาย อนภิภวนียา, ฆมฺมสภาวตาย ปน รสฺมีนํ ปริโต ผรนฺตี สูริยาภา ติขิณา อุณฺหาติ อาห ‘‘รสฺมิเตช’’นฺติ. อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยเถว หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

สุวณฺณาวฏฺฏํ วิยาติ อจฺเฉ สุวณฺณปตฺเต วินิวตฺตอาวฏฺฏํ วิย. ครหณจฺฉริยํ นาม กิเรตํ ‘‘อจฺฉริยเมตํ อวิสิจฺเฉผลวท’’นฺติอาทีสุ วิย. น เอวเมตรหีติ อตฺตโน ปากฏวเสน วทติ, น อิตเรสมฺปีติ. สิราชาลาติ สิราสนฺตานา. เอวรูปํ น โหตีติ อฺเสํ ปากติกสตฺตานํ วุตฺตาการํ วิย น โหติ ปุฺสมฺภารสฺส อุฬารตมตฺตา วิปจฺจนสฺส ปริยนฺตคตตฺตา. เตนาห ‘‘อฺเสํ อปากฏ’’นฺติ. วลิยาวฏฺฏกนฺติ อปฺปกํ วลิยาวฏฺฏํ. เตนาห ‘‘เกสคฺคปฺปมาณ’’นฺติ. สพฺพานีติ สิราชาลานิ. ปุรโต วงฺโกติ โถกํ ปุรโต นตมตฺตํ สนฺธายาห. เตน วุตฺตํ ‘‘สฺวายํ อฺเสํ อปากโฏ’’ติ. นยคฺคาหโตติ อนุมานโต. ธี ตนฺติ ธี-สทฺทโยเค อุปโยควจนํ. ธีติ ชิคุจฺฉนตฺเถ นิปาโต. ธิกฺกาโรติ ชิคุจฺฉาปโยโค. ตํ ผุสตูติ ตุยฺหํ ปาปุณาตุ.

๒. อุณฺณาภพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๕๑๒. อฺมฺสฺสาติ อฺโ อฺสฺส. น ปจฺจนุโภติ อตฺตโน อวิสยภาวโต. อิทานิ ตํ อฺวิสยตํ อนฺวยโต พฺยติเรกโต วิภาเวตุํ ‘‘สเจ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

วิสยานิ ปฏิสรนฺติ เอตฺถาติ ปฏิสรณํ. อินฺทฺริยวิฺาณานิ หิ อสติปิ ตาทิเส อธิปฺปาเย อตฺตโน อารมฺมณสฺส ยาถาวโต สมฺปชานนโต ปเวทนวิชานนานิ กโรนฺตานิ วิย ปวตฺตนฺติ, ตถา โลกสฺส อฺตฺถ สิทฺธิโต. เตนาห ภควา – ‘‘มโน ปฏิสรณํ, มโนว เนสํ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภตี’’ติ มโนทฺวาริกชวนมโน หิ สวิเสสํ มโนวิสยํ ปจฺจนุโภติ, ปฺจทฺวาริกชวนมโน มนนมตฺตเมว ปจฺจนุภวติ. รชฺชนาทิคฺคหณฺเจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ, ตสฺมา สทฺทหนาทิปิ คหิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ, ปฺจทฺวารปฺปวตฺติวเสน ตถา วุตฺตํ. เอกสฺมึ ปน ทฺวาเรติ จกฺขุทฺวาเร.

ทุพฺพลโภชกาติ อปฺปานุภาวา ราชโภคฺคา. อายนฺติ โภคุปฺปตฺติฏฺานํ. โยตฺตพนฺธาทินิมิตฺตํ ลทฺธพฺพกหาปโณ โยตฺตกหาปโณ. อทฺทุพนฺธาทินิมิตฺตํ คเหตพฺพกหาปโณ อทฺทุกหาปโณ. มาฆาตโฆสนาย กตาย หึสานิมิตฺตํ คเหตพฺพกหาปโณ มาปหารกหาปโณ. ตสฺส ปริมาณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺกหาปโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ. สตวตฺถุกนฺติ สตกรีสวตฺถุกํ.

มคฺคสตีติ อริยมคฺคสติ. ภาวนมนุยุฺชนฺตสฺส หิ ชวนมโน อุสฺสกฺกิตฺวาว มคฺคสตึ ปฏิสรติ ตปฺปริโยสานตฺตา. นฺติ นิพฺพานํ. สาติ ผลวิมุตฺติ. ปฏิสรติ อคฺคมคฺคสติยา. ผลวิมุตฺติ นิพฺพานนฺติ อุภยํ มคฺคสฺส สิทฺธาเยวาติ. อารมฺมณวเสน นตฺถิ เอตสฺส ปฏิสรณนฺติ อปฺปฏิสรณํ อสงฺขตามตสฺส สนฺตินิจฺจสภาวตฺตา. สยํ ปน สพฺเพสํเยว อริยานํ ปฏิสรณํ. เตนาห ‘‘นิพฺพานํ อรหโต คตี’’ติ (ปริ. ๓๓๙). นิพฺพานํ อนุปวิฏฺํ นิพฺพานนิสฺสยตฺตา. น ตโต ปรํ คจฺฉติ คตสฺส อฺสฺส ตาทิสสฺส อภาวา. นิพฺพานํ ปริ สพฺพโส โอสานนฺติ นิพฺพานปริโยสานํ.

มูลชาตา ชาตมูลา. ตโต เอว ปติฏฺิตา. กา ปนสฺสาติ อาห ‘‘มคฺเคน อาคตสทฺธา’’ติ. มคฺโค ทฬฺหาย อสํหาริยสทฺธาย มูลํ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตานิ เจว วิจิกิจฺฉาจิตฺตฺจาติ ปฺจ อกุสลจิตฺตานิ สมุจฺเฉทวเสน ปหีนานิ. ปฺจ นีวรณานีติ เอตฺถ อปายคมนียานิ ปมมคฺเคเนว ปหีนานิ, อิตรานิ วิกฺขมฺภนวเสน ฌาเนน ปหีนานีติ ปฺจสุ โอรมฺภาคิยกิเลสสํโยชเนสุ เอกเทสวิคเมเนว พหิทฺธาสํโยชโน วิย ชาโตติ วุตฺตํ ‘‘ฌานอนาคามิฏฺาเน ิโต’’ติ. เตนาห ‘‘โส อปริหีน…เป… นิพฺพาเยยฺยา’’ติ.

๕. ปมปุพฺพารามสุตฺตวณฺณนา

๕๑๕. ปุพฺพโกฏฺเก เอวํ อาคตสุตฺตํ อาทึ กตฺวา ผลินฺทฺริยาเนว กถิตานิ อคฺคผลวเสน เทสนาย อาคตตฺตา.

๑๐. อาปณสุตฺตวณฺณนา

๕๒๐. อุปริสห วิปสฺสนาย ตโย มคฺคาติ วิปสฺสนาย สห โสตาปตฺติผลโต อุปริ ตโย มคฺคา. มคฺคาธิคเมน อิทานิ ปจฺจกฺขภูตตฺตา ‘‘อิเม โข เต ธมฺมา’’ติ วุตฺตา. ตตฺถ ยํ อคฺคภูตํ, ตสฺส วเสน ทสฺเสตุํ ‘‘อรหตฺตผลินฺทฺริยํ นามา’’ติ วุตฺตํ อินฺทฺริยภาวสามฺเน เอกชฺฌํ กตฺวา. อติวิชฺฌิตฺวา ปสฺสามีติ สจฺฉิกตฺวา ยาถาวโต ปสฺสามิ. จตูหิ อินฺทฺริเยหีติ วีริยินฺทฺริยาทีหิ จตูหิ อินฺทฺริเยหิ. สา วิปสฺสนามคฺคผลสหคตา สิยาติ มิสฺสกา วุตฺตา.

ชราวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สูกรขตวคฺโค

๑. สาลสุตฺตวณฺณนา

๕๒๑. สูรภาเวนาติ อติสูรภาเวน. พุชฺฌนตฺถายาติ สจฺจปฏิเวธาย.

๒. มลฺลิกสุตฺตวณฺณนา

๕๒๒. จตฺตาริ อินฺทฺริยานีติ ปฺินฺทฺริยํ เปตฺวา เสสานิ จตฺตาริ. ‘‘อริยาณํ โลกุตฺตร’’นฺติ วุตฺตํ มคฺคาณํ กตฺวา. อริย-สทฺโท ปน ยถา ตถา วิสุทฺเธปิ โหตีติ ตาทิสํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ตมฺปิ ปนา’’ติอาทิ. ยถา หิ จตฺตารินฺทฺริยานิ มิสฺสกานิ, เอวํ ปฺินฺทฺริยมฺปิ มิสฺสกนฺติ วุจฺจมาเน น โกจิ วิโรโธติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ตมฺปิ ปน…เป… วฏฺฏตี’’ติ.

๓. เสขสุตฺตวณฺณนา

๕๒๓. น สกฺโกติ อินฺทฺริยานํ อปริปกฺกตฺตา. อตฺถีติ ปชานาติ นยคฺคาเหน, น ปจฺจกฺขโต. น หิ อริยาปิ อนธิคตํ มคฺคผลํ ปจฺจเวกฺขิตุํ สกฺโกนฺติ.

๖. ปติฏฺิตสุตฺตวณฺณนา

๕๒๖. สาสเวสูติ จตุราสววินิมุตฺเตสุ เสสธมฺเมสุ อารมฺมเณสุ. เตสุปิ อุปฺปชฺชนกอนตฺถโต จิตฺตํ รกฺขติ นาม.

๘. สูกรขตสุตฺตวณฺณนา

๕๒๘. ตํสนฺธายาติ ตํ สูกรขตเลณํ สนฺธาย. เอตํ ‘‘สูกรขตาย’’นฺติ วจนํ วุตฺตํ. ภาวนปุํสกนฺติ ภาวโชตกํ นปุํสกวจนํ ยถา ‘‘วิสมํ วาตา วายนฺติ, เอกมนฺตํ นิสีที’’ติ. กิจฺจปฏิปตฺติ เตสํ สํกาสนฏฺเน สปติโส, สปติโส เอว สปฺปติสฺโส, สเชฏฺโกติ อาห ‘‘สปฺปติสฺโสติ สเชฏฺโก’’ติ.

สูกรขตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. โพธิปกฺขิยวคฺควณฺณนา

๕๓๑-๖๕๐. สตฺตานํ ผลานํ เหตุภูตานิ ‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ภาวิตตฺตา’’ติอาทินา วุตฺตานิ, ปฺจินฺทฺริยานิเยว ผลูปจาเรน ‘‘สตฺต ผลานี’’ติ วุตฺตานิ. ตานิ จ ปุพฺพภาคานิ ‘‘อิเมสํ, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ภาวิตตฺตา…เป… สตฺตานิสํสา ปาฏิกงฺขา’’ติ วจนโต. เตสนฺติ สตฺตานํ ผลานํ. ‘‘ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผล’’นฺติ เอวํ อตีตสุตฺเต วุตฺตานิ เหฏฺา ทฺเว ผลานิ นามาติ วทนฺติ. เยหิ ปน อินฺทฺริเยหิ อฺตฺร ปน อนฺตราปรินิพฺพายึ เสสานิ ผลานิ โหนฺติ, ตานิ จตฺตาริ สปุพฺพภาคานิ โลกุตฺตรานีติ วุตฺตํ สิยา.

อินฺทฺริยสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.