📜

๕. ปณิหิตอจฺฉวคฺควณฺณนา

๔๑. ปฺจมสฺส ปเม เสยฺยถาปีติ โอปมฺมตฺเถ นิปาโต. ตตฺร ภควา กตฺถจิ อตฺเถน อุปมํ ปริวาเรตฺวา ทสฺเสติ วตฺถสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๗๐ อาทโย) วิย, ปาริจฺฉตฺตโกปม- (อ. นิ. ๗.๖๙) อคฺคิกฺขนฺโธปมาทิสุตฺเตสุ (อ. นิ. ๗.๗๒) วิย จ, กตฺถจิ อุปมาย อตฺถํ ปริวาเรตฺวา ทสฺเสติ โลณมฺพิลสุตฺเต (อ. นิ. ๓.๑๐๑) วิย, สุวณฺณการสุตฺตสูริโยปมาทิสุตฺเตสุ (อ. นิ. ๗.๖๖) วิย จ. อิมสฺมึ ปน สาลิสูโกปเม อุปมาย อตฺถํ ปริวาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ สาลิสูกนฺติ สาลิผลสฺส สูกํ. ยวสูเกปิ เอเสว นโย. วา-สทฺโท วิกปฺปตฺโถ. มิจฺฉาปณิหิตนฺติ มิจฺฉาปิตํ. ยถา วิชฺฌิตุํ สกฺโกติ, น เอวํ อุทฺธคฺคํ กตฺวา ปิตนฺติ อตฺโถ. เภจฺฉตีติ ภินฺทิสฺสติ, ฉวึ ฉินฺทิสฺสตีติ อตฺโถ. มิจฺฉาปณิหิเตน จิตฺเตนาติ มิจฺฉาปิเตน จิตฺเตน. วฏฺฏวเสน อุปฺปนฺนจิตฺตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อวิชฺชนฺติ อฏฺสุ าเนสุ อฺาณภูตํ ฆนพหลํ มหาอวิชฺชํ. วิชฺชํ อุปฺปาเทสฺสตีติ เอตฺถ วิชฺชนฺติ อรหตฺตมคฺคาณํ. นิพฺพานนฺติ ตณฺหาวานโต นิกฺขนฺตภาเวน เอวํ วุตฺตํ อมตํ. สจฺฉิกริสฺสตีติ ปจฺจกฺขํ กริสฺสติ.

๔๒. ทุติเย สมฺมาปณิหิตนฺติ ยถา ภินฺทิตุํ สกฺโกติ, เอวํ อุทฺธคฺคํ กตฺวา สุฏฺุ ปิตํ. อกฺกนฺตนฺติ เอตฺถ ปาเทเนว อกฺกนฺตํ นาม โหติ, หตฺเถน อุปฺปีฬิตํ. รุฬฺหิสทฺทวเสน ปน อกฺกนฺตนฺเตว วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อริยโวหาโร. กสฺมา ปน อฺเ เสปณฺณิกณฺฏกมทนกณฺฏกาทโย มหนฺเต อคฺคเหตฺวา สุขุมํ ทุพฺพลํ สาลิสูกยวสูกเมว คหิตนฺติ? อปฺปมตฺตกสฺสาปิ กุสลกมฺมสฺส วิวฏฺฏาย สมตฺถภาวทสฺสนตฺถํ. ยถา หิ สุขุมํ ทุพฺพลํ สาลิสูกํ วา ยวสูกํ วา โหตุ, มหนฺตมหนฺตา เสปณฺณิกณฺฏกมทนกณฺฏกาทโย วา, เอเตสุ ยํกิฺจิ มิจฺฉา ปิตํ หตฺถํ วา ปาทํ วา ภินฺทิตุํ โลหิตํ วา อุปฺปาเทตุํ น สกฺโกติ, สมฺมา ปิตํ ปน สกฺโกติ, เอวเมว อปฺปมตฺตกํ ติณมุฏฺิ มตฺตทานกุสลํ วา โหตุ, มหนฺตํ เวลามทานาทิกุสลํ วา, สเจ วฏฺฏสมฺปตฺตึ ปตฺเถตฺวา วฏฺฏสนฺนิสฺสิตวเสน มิจฺฉา ปิตํ โหติ, วฏฺฏเมว อาหริตุํ สกฺโกติ, โน วิวฏฺฏํ. ‘‘อิทํ เม ทานํ อาสวกฺขยาวหํ โหตู’’ติ เอวํ ปน วิวฏฺฏํ ปตฺเถนฺเตน วิวฏฺฏวเสน สมฺมา ปิตํ อรหตฺตมฺปิ ปจฺเจกโพธิาณมฺปิ สพฺพฺุตาณมฺปิ ทาตุํ สกฺโกติเยว. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ปฏิสมฺภิทา วิโมกฺขา จ, ยา จ สาวกปารมี;

ปจฺเจกโพธิ พุทฺธภูมิ, สพฺพเมเตน ลพฺภตี’’ติ. (ขุ. ปา. ๘.๑๕);

อิมสฺมึ สุตฺตทฺวเย จ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.

๔๓. ตติเย ปทุฏฺจิตฺตนฺติ โทเสน ปทุฏฺจิตฺตํ. เจตสา เจโตปริจฺจาติ อตฺตโน จิตฺเตน ตสฺส จิตฺตํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา. ยถาภตํ นิกฺขิตฺโตติ ยถา อาหริตฺวา ปิโต. เอวํ นิรเยติ เอวํ นิรเย ิโตเยวาติ วตฺตพฺโพ. อปายนฺติอาทิ สพฺพํ นิรยเววจนเมว. นิรโย หิ อยสงฺขาตา สุขา อเปโตติ อปาโย, ทุกฺขสฺส คติ ปฏิสรณนฺติ ทุคฺคติ, ทุกฺกฏการิโน เอตฺถ วิวสา นิปตนฺตีติ วินิปาโต, นิรสฺสาทตฺเถน นิรโย.

๔๔. จตุตฺเถ ปสนฺนนฺติ สทฺธาปสาเทน ปสนฺนํ. สุคตินฺติ สุขสฺส คตึ. สคฺคํ โลกนฺติ รูปาทิสมฺปตฺตีหิ สุฏฺุ อคฺคํ โลกํ.

๔๕. ปฺจเม อุทกรหโทติ อุทกทโห. อาวิโลติ อวิปฺปสนฺโน. ลุฬิโตติ อปริสณฺิโต. กลลีภูโตติ กทฺทมีภูโต. สิปฺปิสมฺพุกนฺติอาทีสุ สิปฺปิโย จ สมฺพุกา จ สิปฺปิสมฺพุกํ. สกฺขรา จ กลานิ จ สกฺขรกลํ. มจฺฉานํ คุมฺพํ ฆฏาติ มจฺฉคุมฺพํ. จรนฺตมฺปิ ติฏฺนฺตมฺปีติ เอตฺถ สกฺขรกลํ ติฏฺติเยว, อิตรานิ จรนฺติปิ ติฏฺนฺติปิ. ยถา ปน อนฺตรนฺตรา ิตาสุปิ นิสินฺนาสุปิ นิปชฺชมานาสุปิ ‘‘เอตา คาวิโย จรนฺตี’’ติ จรนฺติโย อุปาทาย อิตราปิ ‘‘จรนฺตี’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวํ ติฏฺนฺตเมว สกฺขรกลํ อุปาทาย อิตรมฺปิ ทฺวยํ ‘‘ติฏฺนฺต’’นฺติ วุตฺตํ, อิตรํ ทฺวยํ จรนฺตํ อุปาทาย สกฺขรกลมฺปิ ‘‘จรนฺต’’นฺติ วุตฺตํ.

อาวิเลนาติ ปฺจหิ นีวรเณหิ ปริโยนทฺเธน. อตฺตตฺถํ วาติอาทีสุ อตฺตโน ทิฏฺธมฺมิโก โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสโก อตฺโถ อตฺตตฺโถ นาม. อตฺตโนว สมฺปราเย โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสโก อตฺโถ ปรตฺโถ นาม โหติ. โส หิ ปรตฺถ อตฺโถติ ปรตฺโถ. ตทุภยํ อุภยตฺโถ นาม. อปิจ อตฺตโน ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิโกปิ โลกิยโลกุตฺตโร อตฺโถ อตฺตตฺโถ นาม, ปรสฺส ตาทิโสว อตฺโถ ปรตฺโถ นาม, ตทุภยมฺปิ อุภยตฺโถ นาม. อุตฺตรึ วา มนุสฺสธมฺมาติ ทสกุสลกมฺมปถสงฺขาตา มนุสฺสธมฺมา อุตฺตรึ. อยฺหิ ทสวิโธ ธมฺโม วินาปิ อฺํ สมาทาปกํ สตฺถนฺตรกปฺปาวสาเน ชาตสํเวเคหิ มนุสฺเสหิ สยเมว สมาทินฺนตฺตา มนุสฺสธมฺโมติ วุจฺจติ, ตโต อุตฺตรึ ปน ฌานวิปสฺสนามคฺคผลานิ เวทิตพฺพานิ. อลมริยาณทสฺสนวิเสสนฺติ อริยานํ ยุตฺตํ, อริยภาวํ วา กาตุํ สมตฺถํ าณทสฺสนสงฺขาตํ วิเสสํ. าณเมว หิ ชานนฏฺเน าณํ, ทสฺสนฏฺเน ทสฺสนนฺติ เวทิตพฺพํ, ทิพฺพจกฺขุาณวิปสฺสนาาณมคฺคาณผลาณปจฺจเวกฺขณาณานเมตํ อธิวจนํ.

๔๖. ฉฏฺเ อจฺโฉติ อพหโล, ปสนฺโนติปิ วฏฺฏติ. วิปฺปสนฺโนติ สุฏฺุ ปสนฺโน. อนาวิโลติ น อาวิโล, ปริสุทฺโธติ อตฺโถ, เผณปุพฺพุฬสงฺขเสวาลปณกวิรหิโตติ วุตฺตํ โหติ. อนาวิเลนาติ ปฺจนีวรณวิมุตฺเตน. เสสํ จตุตฺเถ วุตฺตนยเมว. อิมสฺมิมฺปิ สุตฺตทฺวเย วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตํ.

๔๗. สตฺตเม รุกฺขชาตานนฺติ ปจฺจตฺเต สามิวจนํ, รุกฺขชาตานีติ อตฺโถ. รุกฺขานเมตํ อธิวจนํ. ยทิทนฺติ นิปาตมตฺตํ. มุทุตายาติ มุทุภาเวน. โกจิ หิ รุกฺโข วณฺเณน อคฺโค โหติ, โกจิ คนฺเธน, โกจิ รเสน, โกจิ ถทฺธตาย. ผนฺทโน ปน มุทุตาย เจว กมฺมฺตาย จ อคฺโค เสฏฺโติ ทสฺเสติ. จิตฺตํ, ภิกฺขเว, ภาวิตํ พหุลีกตนฺติ เอตฺถ สมถวิปสฺสนาวเสน ภาวิตฺเจว ปุนปฺปุนกตฺจ จิตฺตํ อธิปฺเปตํ. กุรุนฺทกวาสิ ผุสฺสมิตฺตตฺเถโร ปนาห – ‘‘เอกนฺตํ มุทุ เจว กมฺมนิยฺจ จิตฺตํ นาม อภิฺาปาทกจตุตฺถชฺฌานจิตฺตเมว, อาวุโส’’ติ.

๔๘. อฏฺเม เอวํ ลหุปริวตฺตนฺติ เอวํ ลหุํ อุปฺปชฺชิตฺวา ลหุํ นิรุชฺฌนกํ. ยาวฺจาติ อธิมตฺตปมาณตฺเถ นิปาโต, อติวิย น สุกราติ อตฺโถ. อิทนฺติ นิปาตมตฺตํ. จิตฺตนฺติ เอกจฺเจ ตาว อาจริยา ‘‘ภวงฺคจิตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ ปน ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อิธ จิตฺตนฺติ ยํกิฺจิ อนฺตมโส จกฺขุวิฺาณมฺปิ อธิปฺเปตเมวา’’ติ วุตฺตํ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ มิลินฺทราชา ธมฺมกถิกํ นาคเสนตฺเถรํ ปุจฺฉิ, ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เอกสฺมึ อจฺฉรากฺขเณ ปวตฺติตจิตฺตสงฺขารา สเจ รูปิโน อสฺสุ, กีว มหาราสิ ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘วาหสตานํ โข, มหาราช, วีหีนํ อฑฺฒจูฬฺจ วาหา วีหิสตฺตมฺพณานิ ทฺเว จ ตุมฺพา เอกจฺฉรากฺขเณ ปวตฺติตสฺส จิตฺตสฺส สงฺขมฺปิ น อุเปนฺติ, กลมฺปิ น อุเปนฺติ, กลภาคมฺปิ น อุเปนฺตี’’ติ (มิ. ป. ๔.๑.๒). อถ กสฺมา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ‘‘อุปมาปิ น สุกรา’’ติ วุตฺตํ? ยเถว หิ อุปมํ ปฏิกฺขิปิตฺวาปิ กปฺปทีฆภาวสฺส โยชนิกปพฺพเตน โยชนิกสาสปปุณฺณนคเรน, นิรยทุกฺขสฺส สตฺติสตาหโตปเมน, สคฺคสุขสฺส จ จกฺกวตฺติสมฺปตฺติยา อุปมา กตา, เอวมิธาปิ กาตพฺพาติ? ตตฺถ ‘‘สกฺกา ปน, ภนฺเต, อุปมา กาตุ’’นฺติ เอวํ ปุจฺฉาวเสน อุปมา กตา, อิมสฺมึ สุตฺเต ปุจฺฉาย อภาเวน น กตา. อิทฺหิ สุตฺตํ ธมฺมเทสนาปริโยสาเน วุตฺตํ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต จิตฺตราสิ นาม กถิโตติ.

๔๙. นวเม ปภสฺสรนฺติ ปณฺฑรํ ปริสุทฺธํ. จิตฺตนฺติ ภวงฺคจิตฺตํ. กึ ปน จิตฺตสฺส วณฺโณ นาม อตฺถีติ? นตฺถิ. นีลาทีนฺหิ อฺตรวณฺณํ วา โหตุ อวณฺณํ วา ยํกิฺจิ ปริสุทฺธตาย ‘‘ปภสฺสร’’นฺติ วุจฺจติ. อิทมฺปิ นิรุปกฺกิเลสตาย ปริสุทฺธนฺติ ปภสฺสรํ. ตฺจ โขติ ตํ ภวงฺคจิตฺตํ. อาคนฺตุเกหีติ อสหชาเตหิ ปจฺฉา ชวนกฺขเณ อุปฺปชฺชนเกหิ. อุปกฺกิเลเสหีติ ราคาทีหิ อุปกฺกิลิฏฺตฺตา อุปกฺกิลิฏฺํ นามาติ วุจฺจติ. กถํ? ยถา หิ สีลวนฺตา อาจารสมฺปนฺนา มาตาปิตโร วา อาจริยุปชฺฌายา วา ทุสฺสีลานํ ทุราจารานํ อวตฺตสมฺปนฺนานํ ปุตฺตานฺเจว อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริกานฺจ วเสน ‘‘อตฺตโน ปุตฺเต วา อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริเก วา น ตชฺเชนฺติ น สิกฺขาเปนฺติ น โอวทนฺติ นานุสาสนฺตี’’ติ อวณฺณํ อกิตฺตึ ลภนฺติ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. อาจารสมฺปนฺนา มาตาปิตโร วิย จ อาจริยุปชฺฌายา วิย จ ภวงฺคจิตฺตํ ทฏฺพฺพํ, ปุตฺตาทีนํ วเสน เตสํ อกิตฺติลาโภ วิย ชวนกฺขเณ รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนสภาวานํ โลภสหคตาทีนํ จิตฺตานํ วเสน อุปฺปนฺเนหิ อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ ปกติปริสุทฺธมฺปิ ภวงฺคจิตฺตํ อุปกฺกิลิฏฺํ นาม โหตีติ.

๕๐. ทสเมปิ ภวงฺคจิตฺตเมว จิตฺตํ. วิปฺปมุตฺตนฺติ ชวนกฺขเณ อรชฺชมานํ อทุสฺสมานํ อมุยฺหมานํ ติเหตุกาณสมฺปยุตฺตาทิกุสลวเสน อุปฺปชฺชมานํ อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิปฺปมุตฺตํ นาม โหติ. อิธาปิ ยถา สีลวนฺตานํ อาจารสมฺปนฺนานํ ปุตฺตาทีนํ วเสน มาตาทโย ‘‘โสภนา เอเตเยว อตฺตโน ปุตฺตกาทโย สิกฺขาเปนฺติ โอวทนฺติ อนุสาสนฺตี’’ติ วณฺณกิตฺติลาภิโน โหนฺติ, เอวํ ชวนกฺขเณ อุปฺปนฺนกุสลจิตฺตวเสน อิทํ ภวงฺคจิตฺตํ อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิปฺปมุตฺตนฺติ วุจฺจตีติ.

ปณิหิตอจฺฉวคฺควณฺณนา.