📜
๑๕. อฏฺานปาฬิ (ปมวคฺค)
(๑๕) ๑. อฏฺานปาฬิ-ปมวคฺควณฺณนา
๒๖๘. อฏฺานปาฬิวณฺณนายํ ¶ ¶ อวิชฺชมานํ านํ อฏฺานํ, นตฺถิ านนฺติ วา อฏฺานํ. อนวกาโสติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตทตฺถนิคมนเมว หิ ‘‘เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ วจนนฺติ. เตนาห – ‘‘อุภเยนปี’’ติอาทิ. ยนฺติ การณตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ. เหตุอตฺโถ เจตฺถ การณตฺโถติ อาห – ‘‘ยนฺติ เยน การเณนา’’ติ. อุกฺกฏฺนิทฺเทเสเนตฺถ ทิฏฺิสมฺปตฺติ เวทิตพฺพาติ วุตฺตํ – ‘‘มคฺคทิฏฺิยา สมฺปนฺโน’’ติ. กุโต ปนายมตฺโถ ลพฺภตีติ? ลิงฺคโต, ลิงฺคํ เจตสฺส นิจฺจโต อุปคมนปฺปฏิกฺเขโป. จตุภูมเกสูติ อิทํ จตุตฺถภูมกสงฺขารานํ อริยสาวกสฺส วิสยภาวูปคมนโต วุตฺตํ, น ปน เต อารพฺภ นิจฺจโต อุปคมนสพฺภาวโต. วกฺขติ หิ ‘‘ตทภาเว จตุตฺถภูมกสงฺขารา ปนา’’ติอาทินา. อภิสงฺขตสงฺขารอภิสงฺขรณกสงฺขารานํ สปฺปเทสตฺตา นิปฺปเทสสงฺขารคฺคหณตฺถํ ‘‘สงฺขตสงฺขาเรสู’’ติ วุตฺตํ, โลกุตฺตรสงฺขารานํ ปน นิวตฺตเน การณํ สยเมว วกฺขติ. เอตํ การณํ นตฺถีติ ตถา อุปคมเน เสตุฆาโต นตฺถิ. เตชุสฺสทตฺตาติ สํกิเลสวิธมนเตชสฺส อธิกภาวโต. ตถา หิ เต คมฺภีรภาเวน ทุทฺทสา อกุสลานํ อารมฺมณํ น โหนฺตีติ. อิทํ ปน ปกรณวเสน วุตฺตํ. อปฺปหีนวิปลฺลาสานฺหิ สนฺตาเนสุ กุสลธมฺมานมฺปิ เต อารมฺมณํ น โหนฺติ.
๒๖๙. อสุเข สุขนฺติ วิปลฺลาโส จ อิธ สุขโต อุปคมนสฺส านนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอกนฺต…เป… อตฺตทิฏฺิวเสนา’’ติ ปธานทิฏฺิมาห. คูถนฺติ คูถฏฺานํ, ทิฏฺิยา นิพฺพานสฺส อวิสยภาโว เหฏฺา วุตฺโต เอวาติ กสิณาทิปณฺณตฺติสงฺคหตฺถนฺติ วุตฺตํ.
๒๗๐. ปริจฺเฉโทติ ปริจฺฉินฺทนํ ปริจฺฉิชฺช ตสฺส คหณํ. สฺวายํ เยสุ นิจฺจาทิโต อุปคมนํ สมฺภวติ, เตสํ วเสนเยว กาตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺพวาเรสุ วา’’ติอาทิมาห. สพฺพวาเรสูติ ‘‘นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺยา’’ติอาทินา อาคเตสุ สพฺเพสุ สุตฺตปเทสุ. ปุถุชฺชโน หีติ หิ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. ยสฺมา ยํ ยํ สงฺขารํ ปุถุชฺชโน นิจฺจาทิวเสน คณฺหาติ, ตํ ตํ อริยสาวโก อนิจฺจาทิวเสน คณฺหนฺโต ยาถาวโต ¶ ชานนฺโต ตํ คาหํ ตํ ทิฏฺึ วิสฺสชฺเชติ, ตสฺมา ยตฺถ ¶ คาโห, ตตฺถ วิสฺสชฺชนาติ จตุภูมกสงฺขารา อิธ สงฺขารคฺคหเณน น คยฺหนฺตีติ อตฺโถ.
๒๗๑. ปุตฺตสมฺพนฺเธน มาตุปิตุสมฺา ทตฺตกิตฺติมาทิวเสนปิ ปุตฺตโวหาโร โลเก ทิสฺสติ, โส จ โข ปริยาเยนาติ นิปฺปริยาเยน สิทฺธํ ตํ ทสฺเสตุํ – ‘‘ชนิกาว มาตา, ชนโกว ปิตา’’ติ วุตฺตํ. ตถา อานนฺตริยกมฺมสฺส อธิปฺเปตตฺตา ‘‘มนุสฺสภูโตว ขีณาสโว อรหาติ อธิปฺเปโต’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อฏฺานเมต’’นฺติอาทินา ‘‘มาตุอาทีนํเยว ชีวิตา โวโรปเน อริยสาวกสฺส อภพฺพภาวทสฺสนโต ตทฺํ อริยสาวโก ชีวิตา โวโรเปตีติ อิทํ อตฺถโต อาปนฺนเมวา’’ติ มฺมาโน วทติ – ‘‘กึ ปน อริยสาวโก อฺํ ชีวิตา โวโรเปยฺยา’’ติ? ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส, ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ วจนโต ‘‘เอตมฺปิ อฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. เตเนวาห – ‘‘สเจ หี’’ติอาทิ. เอวํ สนฺเต กสฺมา ‘‘มาตร’’นฺติอาทินา วิเสเสตฺวา วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘ปุถุชฺชนภาวสฺส ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ พลทีปนตฺถนฺติ สทฺธาทิพลสมนฺนาคมทีปนตฺถํ. อริยมคฺเคนาคตสทฺธาธิพลวเสน หิ อริยสาวโก ตาทิสํ สาวชฺชํ น กโรติ.
๒๗๕. ปฺจหิ การเณหีติ อิทเมตฺถ นิปฺผาทกานิ เตสํ ปุพฺพภาคิยานิ จ การณานิ การณภาวสามฺเน เอกชฺฌํ คเหตฺวา วุตฺตํ, น ปน สพฺเพสํ สมานโยคกฺขมตฺตา. อากาเรหีติ การเณหิ. อนุสฺสาวเนนาติ อนุรูปํ สาวเนน. เภทสฺส อนุรูปํ ยถา เภโท โหติ, เอวํ ภินฺทิตพฺพานํ ภิกฺขูนํ อตฺตโน วจนสฺส สาวเนน วิฺาปเนน. เตนาห – ‘‘นนุ ตุมฺเห’’ติอาทิ. กณฺณมูเล วจีเภทํ กตฺวาติ เอเตน ปากฏํ กตฺวา เภทกรวตฺถุทีปนํ โวหาโร, ตตฺถ อตฺตโน นิจฺฉิตมตฺถํ รหสฺสวเสน วิฺาปนํ อนุสฺสาวนนฺติ ทสฺเสติ.
กมฺมเมว อุทฺเทโส วา ปมาณนฺติ เตหิ สงฺฆเภทสิทฺธิโต วุตฺตํ, อิตเร ปน เตสํ สมฺภารภูตา. เตนาห – ‘‘โวหารา’’ติอาทิ. ตตฺถาติ โวหรเณ. จุติอนนฺตรํ ผลํ อนนฺตรํ นาม, ตสฺมึ อนนฺตเร นิยุตฺตานิ, ตนฺนิพฺพตฺตเนน อนนฺตรกรณสีลานิ, อนนฺตรปฺปโยชนานิ จาติ อานนฺตริยานิ, ตานิ เอว กมฺมานีติ อานนฺตริยกมฺมานิ.
กมฺมโตติ ¶ ‘‘เอวํ อานนฺตริยกมฺมํ โหติ, เอวํ อานนฺตริยกมฺมสทิส’’นฺติ เอวํ กมฺมวิภาคโต. ทฺวารโตติ กายทฺวารโต. กปฺปฏฺิติยโตติ ‘‘อิทํ กปฺปฏฺิติยวิปากํ, อิทํ น กปฺปฏฺิติยวิปาก’’นฺติ เอวํ กปฺปฏฺิติยวิภาคโต. ปากสาธารณาทีหีติ ‘‘อิทเมตฺถ วิปจฺจติ, อิทํ ¶ น วิปจฺจตี’’ติ วิปจฺจนวิภาคโต, คหฏฺปพฺพชิตานํ สาธารณาสาธารณโต, อาทิ-สทฺเทน เวทนาทิวิภาคโต จ.
กมฺมโต ตาว วินิจฺฉโย วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. ยสฺมา มนุสฺสตฺตภาเว ิตสฺเสว กุสลธมฺมานํ ติกฺขวิสทภาวาปตฺติ, ยถา ติณฺณํ โพธิสตฺตานํ โพธิตฺตยนิพฺพตฺติยํ, เอวํ มนุสฺสภาเว ิตสฺเสว เอทิสานํ อกุสลธมฺมานมฺปิ ติกฺขวิสทภาวาปตฺตีติ อาห – ‘‘มนุสฺสภูตสฺเสวา’’ติ. ปากติกมนุสฺสานมฺปิ จ กุสลธมฺมานํ วิเสสปฺปตฺติ วิมานวตฺถุอฏฺกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. ยถาวุตฺโต จ อตฺโถ สมานชาติยสฺส วิโกปเน ครุตโร, น ตถา วิชาติยสฺสาติ วุตฺตํ – ‘‘มนุสฺสภูตํ มาตรํ วา ปิตรํ วา’’ติ. ลิงฺคปริวตฺเต จ โส เอว เอกกมฺมนิพฺพตฺโต ภวงฺคปฺปพนฺโธ ชีวิตินฺทฺริยปพนฺโธ จ, น อฺโติ อาห – ‘‘อปิ ปริวตฺตลิงฺค’’นฺติ. อรหตฺตํ ปตฺเตปิ เอเสว นโย. ตสฺส วิปากนฺติอาทิ กมฺมสฺส อานนฺตริยภาวสมตฺถนํ. จตุกฺโกฏิยฺเจตฺถ สมฺภวติ. ตตฺถ ปมา โกฏิ ทสฺสิตา, อิตราสุ วิสงฺเกตภาวํ ทสฺเสตุํ – ‘‘โย ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยทิปิ ตตฺถ วิสงฺเกโต, กมฺมํ ปน ครุตรํ อานนฺตริยสทิสํ ภายิตพฺพนฺติ อาห – ‘‘ภาริยํ…เป… ติฏฺตี’’ติ. อยํ ปฺโหติ าปนิจฺฉานิพฺพตฺตา กถา.
อภิสนฺธินาติ อธิปฺปาเยน. อานนฺตริยํ ผุสตีติ มรณาธิปฺปาเยเนว อานนฺตริยวตฺถุโน วิโกปิตตฺตา วุตฺตํ. อานนฺตริยํ น ผุสตีติ อานนฺตริยวตฺถุอภาวโต อานนฺตริยํ น โหติ. สพฺพตฺถ หิ ปุริมํ อภิสนฺธิจิตฺตํ อปฺปมาณํ, วธกจิตฺตํ ปน ตทารมฺมณํ ชีวิตินฺทฺริยฺจ อานนฺตริยภาเว ปมาณนฺติ ทฏฺพฺพํ. สงฺคามจตุกฺกํ สมฺปตฺตวเสน โยเชตพฺพํ. โย หิ ปรเสนาย อฺฺจ โยธํ ปิตรฺจ กมฺมํ กโรนฺเต ทิสฺวา โยธสฺส อุสุํ ขิปติ ‘‘เอตํ วิชฺฌิตฺวา มม ปิตรํ วิชฺฌิสฺสตี’’ติ, ยถาธิปฺปายํ คเต ปิตุฆาตโก โหติ. ‘‘โยเธ วิทฺเธ มม ปิตา ปลายิสฺสตี’’ติ ขิปติ, อุสุํ อยถาธิปฺปายํ คนฺตฺวา ปิตรํ มาเรติ, โวหารวเสน ปิตุฆาตโกติ วุจฺจติ, อานนฺตริยํ ปน นตฺถีติ. โจรจตุกฺกํ ปน โย ‘‘โจรํ มาเรสฺสามี’’ติ ¶ โจรเวเสน คจฺฉนฺตํ ปิตรํ มาเรติ, อานนฺตริยํ ผุสตีติอาทินา โยเชตพฺพํ. เตเนวาติ เตเนว ปโยเคน. อรหนฺตฆาตโก โหติเยวาติ อรหโต มาริตตฺตา วุตฺตํ, ปุถุชฺชนสฺเสว ตํ ทินฺนํ โหตีติ เอตฺถายมธิปฺปาโย – ยถา วธกเจตนา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาปิ ปพนฺธวิจฺเฉทนวเสน ชีวิตินฺทฺริยํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตติ, น เอวํ จาคเจตนา. สา หิ จชิตพฺพวตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา จชนมตฺตเมว โหติ, อฺสนฺตกภาวกรณฺจ ตสฺส จชนํ, ตสฺมา ยสฺส ตํ สนฺตกํ กตํ, ตสฺเสว ทินฺนํ โหตีติ.
โลหิตํ ¶ สโมสรตีติ อภิฆาเตน ปกุปฺปมานํ สฺจิตํ โหติ. มหนฺตตรนฺติ ครุตรํ. สรีรปฺปฏิชคฺคเน วิยาติ สตฺถุรูปกายปฺปฏิชคฺคเน วิย.
อสนฺนิปติเตติ อิทํ สามคฺคิยทีปนํ. เภโท จ โหตีติ สงฺฆสฺส เภโท จ โหติ. วฏฺฏตีติ สฺายาติ ‘‘อีทิสํ กรณํ สงฺฆเภทาย น โหตี’’ติ สฺาย. ตถา นวโต อูนปริสายาติ นวโต อูนปริสาย กโรนฺตสฺส ตถาติ โยเชตพฺพํ. ตถาติ จ อิมินา ‘‘น อานนฺตริยกมฺม’’นฺติ อิมํ อากฑฺฒติ, น ปน ‘‘เภโทว โหตี’’ติ อิทํ. เหฏฺิมนฺเตน หิ นวนฺนเมว วเสน สงฺฆเภโท. ธมฺมวาทิโน อนวชฺชาติ ยถาธมฺมํ อนวฏฺานโต. สงฺฆเภทสฺส ปุพฺพภาโค สงฺฆราชิ.
กายทฺวารเมว ปูเรนฺติ กายกมฺมภาเวเนว ลกฺขิตพฺพโต. สณฺหนฺเตหิ กปฺเป…เป… มุจฺจตีติ อิทํ กปฺปฏฺกถาย (กถา. ๖๕๔ อาทโย) น สเมติ. ตตฺถ หิ อฏฺกถาย (กถา. อฏฺ. ๖๕๔-๖๕๗) วุตฺตํ – ‘‘อาปายิโกติ อิทํ สุตฺตํ ยํ โส เอกํ กปฺปํ อสีติภาเค กตฺวา ตโต เอกภาคมตฺตํ กาลํ ติฏฺเยฺย, ตํ อายุกปฺปํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. กปฺปวินาเสเยวาติ จ อายุกปฺปวินาเส เอวาติ อตฺเถ สติ นตฺถิ วิโรโธ. เอตฺถ จ สณฺหนฺเตติ อิทมฺปิ ‘‘สฺเวว วินสฺสิสฺสตี’’ติ วิย อภูตปริกปฺปวเสน วุตฺตํ. เอกทิวสเมว นิรเย ปจฺจติ, ตโต ปรํ กปฺปาภาเว อายุกปฺปสฺสปิ อภาวโตติ อวิโรธโต อตฺถโยชนา ทฏฺพฺพา. เสสานีติ สงฺฆเภทโต อฺานิ อานนฺตริยกมฺมานิ.
ยทิ ตานิ อโหสิกมฺมสงฺขํ คจฺฉนฺติ, เอวํ สติ กถํ เนสํ อานนฺตริยตา จุติอนนฺตรํ วิปากทานาภาวโต. อถ สติ ผลทาเน จุติอนนฺตโร ¶ เอว เอเตสํ ผลกาโล, น อฺโติ ผลกาลนิยเมน นิยตตา อิจฺฉิตา, น ผลทานนิยเมน. เอวมฺปิ นิยตผลกาลานํ อฺเสมฺปิ อุปปชฺชเวทนียานํ ทิฏฺธมฺมเวทนียานฺจ นิยตตา อาปชฺเชยฺย, ตสฺมา วิปากธมฺมธมฺมานํ ปจฺจยนฺตรวิกลตาทีหิ อวิปจฺจมานานมฺปิ อตฺตโน สภาเวน วิปากธมฺมตา วิย พลวตา อานนฺตริเยน วิปาเก ทินฺเน อวิปจฺจมานานมฺปิ อานนฺตริยานํ ผลทาเน นิยตสภาวา อานนฺตริยสภาวา จ ปวตฺตีติ อตฺตโน สภาเวน ผลทานนิยเมเนว นิยตา อานนฺตริยตา จ เวทิตพฺพา. อวสฺสฺจ อานนฺตริยสภาวา ตโต เอว นิยตสภาวา จ เตสํ ปวตฺตีติ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพเมตํ, อฺสฺส พลวโต อานนฺตริยสฺส อภาเว สติ จุติอนนฺตรํ เอกนฺเตน ผลทานโต.
นนุ ¶ เอวํ อฺเสมฺปิ อุปปชฺชเวทนียานํ อฺสฺมึ วิปากทายเก อสติ จุติอนนฺตรเมว เอกนฺเตน ผลทานโต นิยตสภาวา อานนฺตริยสภาวา จ ปวตฺติ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ อสมานชาติเกน เจโตปณิธิวเสน อุปฆาตเกน จ นิวตฺเตตพฺพวิปากตฺตา อนนฺตเร เอกนฺตผลทายกตฺตาภาวา, น ปน อานนฺตริยานํ ปมชฺฌานาทีนํ ทุติยชฺฌานาทีนิ วิย อสมานชาติกํ ผลนิวตฺตกํ อตฺถิ สพฺพานนฺตริยานํ อวีจิผลตฺตา, น จ เหฏฺูปปตฺตึ อิจฺฉโต สีลวโต เจโตปณิธิ วิย อุปรูปปตฺติชนกกมฺมผลํ อานนฺตริยผลํ นิวตฺเตตุํ สมตฺโถ เจโตปณิธิ อตฺถิ อนิจฺฉนฺตสฺเสว อวีจิปาตนโต, น จ อานนฺตริโยปฆาตกํ กิฺจิ กมฺมํ อตฺถิ, ตสฺมา เตสํเยว อนนฺตเร เอกนฺตวิปากชนกสภาวา ปวตฺตีติ. อเนกานิ จ อานนฺตริยานิ กตานิ เอกนฺเตน วิปาเก นิยตสภาวตฺตา อุปรตาวิปจฺจนสภาวาสงฺกตฺตา นิจฺฉิตานิ สภาวโต นิยตาเนว. เตสุ ปน สมานสภาเวสุ เอเกน วิปาเก ทินฺเน อิตรานิ อตฺตนา กตฺตพฺพกิจฺจสฺส เตเนว กตตฺตา น ทุติยํ ตติยมฺปิ จ ปฏิสนฺธึ กโรนฺติ, น สมตฺถตาวิฆาตตฺตาติ นตฺถิ เตสํ อานนฺตริยกตานิวตฺติ, ครุครุตรภาโว ปน เตสํ ลพฺภเตวาติ สงฺฆเภทสฺส สิยา ครุตรภาโวติ ‘‘เยน…เป… วิปจฺจตี’’ติ อาห. เอกสฺส ปน อฺานิ อุปตฺถมฺภกานิ โหนฺตีติ ทฏฺพฺพานิ. ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจตีติ วจเนน อิตเรสํ ปวตฺติวิปากทายิตา อนฺุาตา วิย ทิสฺสติ. โน วา ตถา สีลวตีติ ยถา ปิตา สีลวา, ตถา สีลวตี ¶ โน วา โหตีติ โยชนา. สเจ มาตา สีลวตี, มาตุฆาโต ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจตีติ โยชนา.
ปกตตฺโตติ อนุกฺขิตฺโต. สมานสํวาสโกติ อปาราชิโก. สมานสีมายนฺติ เอกสีมายํ.
๒๗๖. สตฺถุ กิจฺจํ กาตุํ อสมตฺโถติ ยํ สตฺถารา กาตพฺพกิจฺจํ อนุสาสนาทิ, นํ กาตุํ อสมตฺโถติ ภควนฺตํ ปจฺจกฺขาย. อฺํ ติตฺถกรนฺติ อฺํ สตฺถารํ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ติตฺถํ ชานิตพฺพํ, ติตฺถกโร ชานิตพฺโพ, ติตฺถิยา ชานิตพฺพา, ติตฺถิยสาวกา ชานิตพฺพา. ตตฺถ ติตฺถํ นาม ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย. เอตฺถ หิ สตฺถา ตรนฺติ อุปฺลวนฺติ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรนฺติ, ตสฺมา ติตฺถนฺติ วุจฺจนฺติ. ตาทิสานํ ทิฏฺีนํ อุปฺปาเทตา ติตฺถกโร นาม ปูรณกสฺสปาทิโก. ตสฺส ลทฺธึ คเหตฺวา ปพฺพชิตา ติตฺถิยา นาม. เต หิ ติตฺเถ ชาตาติ ติตฺถิยา. ยถาวุตฺตํ วา ทิฏฺิคตสงฺขาตํ ติตฺถํ เอเตสํ อตฺถีติ ติตฺถิกา ¶ , ติตฺถิกา เอว ติตฺถิยา. เตสํ ปจฺจยทายกา ติตฺถิยสาวกาติ เวทิตพฺพา’’ติ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๐).
๒๗๗. อภิชาติอาทีสุ ปกมฺปนเทวตูปสงฺกมนาทินา ชาตจกฺกวาเฬน สมานโยคกฺขมํ ทสสหสฺสปริมาณํ จกฺกวาฬํ ชาติเขตฺตํ. สรเสเนว อาณาปวตฺตนฏฺานํ อาณาเขตฺตํ. วิสยภูตํ านํ วิสยเขตฺตํ. ทสสหสฺสี โลกธาตูติ อิมาย โลกธาตุยา สทฺธึ อิมํ โลกธาตุํ ปริวาเรตฺวา ิตา ทสสหสฺสี โลกธาตุ. ตตฺตกานํเยว ชาติเขตฺตภาโว ธมฺมตาวเสน เวทิตพฺโพ. ‘‘ปริคฺคหวเสนา’’ติ เกจิ, ‘‘สพฺเพสํเยว พุทฺธานํ ตตฺตกํเยว ชาติเขตฺตํ ตนฺนิวาสีนํเยว เทวตานํ ธมฺมาภิสมโย’’ติ จ วทนฺติ. มาตุกุจฺฉิ โอกฺกมนกาลาทีนํ ฉนฺนํ เอว คหณํ นิทสฺสนมตฺตํ มหาภินีหาราทิกาเลปิ ตสฺส ปกมฺปนสฺส ลพฺภนโต. อาณาเขตฺตํ นาม ยํ เอกชฺฌํ สํวฏฺฏติ วิวฏฺฏติ จ, อาณา ปวตฺตติ อาณาย ตนฺนิวาสิเทวตานํ สิรสา สมฺปฏิจฺฉเนน, ตฺจ โข เกวลํ พุทฺธานํ อานุภาเวเนว, น อธิปฺปายวเสน. อธิปฺปายวเสน ¶ ปน ‘‘ยาวตา วา ปน อากงฺเขยฺยา’’ติ (อ. นิ. ๓.๘๑) วจนโต ตโต ปรมฺปิ อาณา วตฺเตยฺเยว.
น อุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถีติ ‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชตี’’ติอาทึ (ม. นิ. ๑.๒๘๕; มหาว. ๑๑; กถา. ๔๐๕) อิมิสฺสา โลกธาตุยา ตฺวา วทนฺเตน ภควตา ‘‘กึ ปนาวุโส, สาริปุตฺต, อตฺเถตรหิ อฺเ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภควตา สมสมา สมฺโพธิยนฺติ, เอวํ ปุฏฺโ อหํ, ภนฺเต, ‘โน’ติ วเทยฺย’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๖๑) วตฺวา ตสฺส การณํ ทสฺเสตุํ – ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุ’’นฺติ อิมํ สุตฺตํ (อ. นิ. ๑.๒๗๗; วิภ. ๘๐๙; ม. นิ. ๓.๑๒๙; มิ. ป. ๕.๑.๑) อาหรนฺเตน ธมฺมเสนาปตินา จ พุทฺธเขตฺตภูตํ อิมํ โลกธาตุํ เปตฺวา อฺตฺถ อนุปฺปตฺติ วุตฺตา โหตีติ อธิปฺปาโย.
เอกโตติ สห, เอกสฺมึ กาเลติ อตฺโถ, โส ปน กาโล กถํ ปริจฺฉินฺโนติ จริมภเว ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺาย ยาว ธาตุปรินิพฺพานาติ ทสฺเสนฺโต, ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห. อนจฺฉริยตฺตาติ ทฺวีสุปิ อุปฺปชฺชมาเนสุ อจฺฉริยตฺตาภาวโตติ อตฺโถ. ทฺวีสุปิ อุปฺปชฺชมาเนสุ อนจฺฉริยตา, กิมงฺคํ ปน พหูสูติ ทสฺเสนฺโต, ‘‘ยทิ จา’’ติอาทิมาห. พุทฺธา นาม มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณํ วิย เอกสทิสาติ เตสํ เทสนาปิ เอกรสา เอกธาติ อาห – ‘‘เทสนาย จ วิเสสาภาวโต’’ติ ¶ . เอเตนปิ อนจฺฉริยตฺตเมว สาเธติ. วิวาทภาวโตติ เอเตน วิวาทาภาวตฺถํ ทฺเว พุทฺธา เอกโต น อุปฺปชฺชนฺตีติ ทสฺเสติ. เอตํ การณนฺติ เอตํ อนจฺฉริยตาทิการณํ. ตตฺถาติ มิลินฺทปฺเห.
เอกํ เอว พุทฺธํ ธาเรตีติ เอกพุทฺธธารณี. เอเตน เอวํสภาวา เอเต พุทฺธคุณา, เยน ทุติยพุทฺธคุเณ ธาเรตุํ อสมตฺถา อยํ โลกธาตูติ ทสฺเสติ. ปจฺจยวิเสสนิปฺผนฺนานฺหิ คุณธมฺมานํ ภาริโย วิเสโส มหาปถวิยาปิ ทุสฺสโหติ สกฺกา วิฺาตุํ. ตถา หิ อภิสมฺโพธิสมเย อุปคตสฺส โลกนาถสฺส คุณภารํ โพธิรุกฺขสฺส ตีสุปิ ทิสาสุ มหาปถวี สนฺธาเรตุํ นาสกฺขิ. ตสฺมา ‘‘น ธาเรยฺยา’’ติ วตฺวา ตเมว อธารณํ ปริยายนฺตเรหิ ปกาเสนฺโต ‘‘จเลยฺยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จเลยฺยาติ ปริปฺผนฺเทยฺย. กมฺเปยฺยาติ ปเวเธยฺย ¶ . นเมยฺยาติ เอกปสฺเสน นเมยฺย. โอนเมยฺยาติ โอสีเทยฺย. วินเมยฺยาติ วิวิธํ อิโต จิโต จ นเมยฺย. วิกิเรยฺยาติ วาเตน ถุสมุฏฺิ วิย วิปฺปกิเรยฺย. วิธเมยฺยาติ วินสฺเสยฺย. วิทฺธํเสยฺยาติ สพฺพโส วิทฺธสฺตา ภเวยฺย. ตถาภูตา จ น กตฺถจิ ติฏฺเยฺยาติ อาห – ‘‘น านมุปคจฺเฉยฺยา’’ติ.
อิทานิ ตตฺถ นิทสฺสนํ ทสฺเสนฺโต, ‘‘ยถา, มหาราชา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เอเก ปุริเสติ เอกสฺมึ ปุริเส. สมุปาทิกาติ สมํ อุทฺธํ ปชฺชติ ปวตฺตตีติ สมุปาทิกา, อุทกสฺส อุปริ สมํ คามินีติ อตฺโถ. ‘‘สมุปฺปาทิกา’’ติปิ ปนฺติ, อยเมวตฺโถ. วณฺเณนาติ สณฺาเนน. ปมาเณนาติ อาโรเหน. กิสถูเลนาติ กิสถูลภาเวน, ปริณาเหนาติ อตฺโถ. ทฺวินฺนมฺปีติ ทฺเวปิ, ทฺวินฺนมฺปิ วา สรีรภารํ.
ฉาเทนฺตนฺติ โรเจนฺตํ รุจึ อุปฺปาเทนฺตํ. ตนฺทิกโตติ เตน โภชเนน ตนฺทิภูโต. อโนนมิตทณฺฑชาโตติ ยาวทตฺถํ โภชเนน โอนมิตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อโนนมนทณฺโฑ วิย ชาโต. สกึ ภุตฺโต วเมยฺยาติ เอกมฺปิ อาโลปํ อชฺโฌหริตฺวา วเมยฺยาติ อตฺโถ.
อติธมฺมภาเรน ปถวี จลตีติ ธมฺเมน นาม ปถวี ติฏฺเยฺย. สา กึ เตเนว จลติ วินสฺสตีติ อธิปฺปาเยน ปุจฺฉติ. ปุน เถโร ‘‘รตนํ นาม โลเก กุฏุมฺพํ สนฺธาเรนฺตํ อภิมตฺจ โลเกน อตฺตโน ครุสภาวตาย สกฏภงฺคสฺส การณํ อติภารภูตํ ทิฏฺํ. เอวํ ธมฺโม จ หิตสุขวิเสเสหิ ตํสมงฺคีนํ ธาเรนฺโต อภิมโต จ วิฺูนํ คมฺภีรปฺปเมยฺยภาเวน ครุสภาวตฺตา อติภารภูโต ปถวีจลนสฺส การณํ โหตี’’ติ ทสฺเสนฺโต, ‘‘อิธ, มหาราช, ทฺเว สกฏา’’ติอาทิมาห ¶ . เอเตเนว ตถาคตสฺส มาตุกุจฺฉิโอกฺกมนาทิกาเล ปถวีกมฺปนการณํ สํวณฺณิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอกสฺสาติ เอกสฺมา, เอกสฺส วา สกฏสฺส รตนํ, ตสฺมา สกฏา คเหตฺวาติ อตฺโถ.
โอสาริตนฺติ อุจฺจาริตํ, วุตฺตนฺติ อตฺโถ. อคฺโคติ สพฺพสตฺเตหิ อคฺโค. เชฏฺโติ วุทฺธตโร. เสฏฺโติ ปสตฺถตโร. วิสิฏฺเหิ สีลาทีหิ คุเณหิ สมนฺนาคตตฺตา วิสิฏฺโ. อุคฺคตตโมติ อุตฺตโม. ปวโรติ ¶ ตสฺเสว เววจนํ. นตฺถิ เอตสฺส สโมติ อสโม. อสมา ปุพฺพพุทฺธา, เตหิ สโมติ อสมสโม. นตฺถิ เอตสฺส ปฏิสโม ปฏิปุคฺคโลติ อปฺปฏิสโม. นตฺถิ เอตสฺส ปฏิภาโคติ อปฺปฏิภาโค. นตฺถิ เอตสฺส ปฏิปุคฺคโลติ อปฺปฏิปุคฺคโล.
สภาวปกติกาติ สภาวภูตา อกิตฺติมา ปกติ. การณมหนฺตตฺตาติ การณานํ มหนฺตตาย, มหนฺเตหิ พุทฺธกรธมฺเมหิ ปารมิสงฺขาเตหิ การเณหิ พุทฺธคุณานํ นิพฺพตฺติโตติ วุตฺตํ โหติ. ปถวีอาทีนิ มหนฺตานิ วตฺถูนิ, มหนฺตา จกฺกวาฬาทโย อตฺตโน อตฺตโน วิสเย เอเกกาว, เอวํ สมฺมาสมฺพุทฺโธปิ มหนฺโต อตฺตโน วิสเย เอโก เอว. โก จ ตสฺส วิสโย? พุทฺธภูมิ, ยาวตกํ วา เยฺยํ. ‘‘อากาโส วิย อนนฺตวิสโย ภควา เอโก เอว โหตี’’ติ วทนฺโต ปรจกฺกวาเฬสุปิ ทุติยสฺส พุทฺธสฺส อภาวํ ทสฺเสติ.
อิมินาว ปเทนาติ ‘‘เอกิสฺสา โลกธาตุยา’’ติ อิมินา เอว ปเทน. ทส จกฺกวาฬสหสฺสานิ คหิตานีติ ชาติเขตฺตาเปกฺขาย คหิตานิ. เอกจกฺกวาเฬเนวาติ อิมินา เอว เอกจกฺกวาเฬน, น เยน เกนจิ. ยถา ‘‘อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ วุตฺเต อิมสฺมิมฺปิ จกฺกวาเฬ ชมฺพุทีเป เอว, ตตฺถาปิ มชฺฌิมเทเส เอวาติ ปริจฺฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ, เอวํ ‘‘เอกิสฺสา โลกธาตุยา’’ติ ชาติเขตฺเต อธิปฺเปเตปิ อิมินาว จกฺกวาเฬน ปริจฺฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ.
ปมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.