📜

๑๙. กายคตาสติวคฺควณฺณนา

๕๖๓. เจตสาผุโฏติ จิตฺเตน ผริโต. จิตฺเตน ผรณฺจ สมุทฺทสฺส ทฺวิธา สมฺภวตีติ อาห – ‘‘ทุวิธํ ผรณ’’นฺติอาทิ. ปุริเมน อตฺเถนาติ ‘‘สมฺปโยควเสน วิชฺชํ ภชนฺตี’’ติ วุตฺเตน อตฺเถน. ปจฺฉิเมนาติ ‘‘วิชฺชาภาเค วิชฺชาโกฏฺาเส วตฺตนฺตี’’ติ วุตฺเตน.

๕๖๔. มหโต สํเวคาย สํวตฺตตีติอาทีสุ อยํ ปน อปโร นโย. ยาถาวโต กายสภาวปฺปเวทนโต มหโต สํเวคาย สํวตฺตติ. อตฺถายาติ ทิฏฺธมฺมิกาทิอตฺถาย. โยคกฺเขมายาติ จตูหิ โยเคหิ เขมภาวาย. สติสมฺปชฺายาติ สพฺพตฺถ สติอวิปฺปวาสาย สตฺตฏฺานิยสมฺปชฺาย จ. าณทสฺสนปฺปฏิลาภายาติ วิปสฺสนาาณาธิคมาย. วิชฺชาวิมุตฺติผลสจฺฉิกิริยายาติ ติสฺโส วิชฺชา จิตฺตสฺส อธิมุตฺติ นิพฺพานํ จตฺตาริ สามฺผลานีติ เอเตสํ ปจฺจกฺขกรณาย.

๕๘๔. ปฺาปฏิลาภายาติอาทีสุ โสฬสสุ ปเทสุ ปฺาปฏิลาภาย ปฺาวุทฺธิยา ปฺาเวปุลฺลาย ปฺาพาหุลฺลายาติ อิมานิ จตฺตาริ ปฺาวเสน ภาววจนานิ, เสสานิ ทฺวาทส ปุคฺคลวเสน ภาววจนานิ. สปฺปุริสสํเสโวติ สปฺปุริสานํ ภชนํ. สทฺธมฺมสฺสวนนฺติ เตสํ สปฺปุริสานํ สนฺติเก สีลาทิปฺปฏิปตฺติทีปกสฺส สทฺธมฺมวจนสฺส สวนํ. โยนิโส มนสิกาโรติ สุตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขาวเสน อุปาเยน มนสิกาโร. ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺตีติ โลกุตฺตรธมฺเม อนุคตสฺส สีลาทิปฺปฏิปทาธมฺมสฺส ปฏิปชฺชนํ.

ฉนฺนํ อภิฺาาณานนฺติ อิทฺธิวิธทิพฺพโสตเจโตปริยปุพฺเพนิวาสทิพฺพจกฺขุอาสวกฺขยาณานํ. เตสตฺตตีนํ าณานนฺติ ปฏิสมฺภิทาปาฬิยํ (ปฏิ. ม. ๑.๑-๒ มาติกา) ‘‘โสตาวธาเน ปฺา สุตมเย าณํ, สุตฺวาน สํวเร ปฺา สีลมเย าณ’’นฺติอาทินา าณกถาย นิทฺทิฏฺานํ สาวกสาธารณาสาธารณานํ าณานํ. อิเมสฺหิ เตสตฺตติาณานํ สุตมยาณาทีนิ สตฺตสฏฺิาณานิ สาวกสฺส สาธารณานิ, ‘‘อินฺทฺริยปโรปริยตฺเต าณํ, สตฺตานํ อาสยานุสเย าณํ, ยมกปาฏิหีเร าณํ, มหากรุณาสมาปตฺติยา าณํ, สพฺพฺุตฺาณํ, อนาวรณาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๖๘-๗๓ มาติกา) อิมานิ ฉ อสาธารณาณานิ สาวเกหิ.

สตฺตสตฺตตีนําณานนฺติ เอตฺถ –

‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ าณํ, อสติ ชาติยา นตฺถิ ชรามรณนฺติ าณํ. อตีตมฺปิ อทฺธานํ ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ าณํ, อสติ ชาติยา นตฺถิ ชรามรณนฺติ าณํ. อนาคตมฺปิ อทฺธานํ ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ าณํ, อสติ ชาติยา นตฺถิ ชรามรณนฺติ าณํ. ยมฺปิสฺส ตํ ธมฺมฏฺิติาณํ, ตมฺปิ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ าณํ. ภวปจฺจยา ชาตีติ าณํ…เป… อุปาทานปจฺจยา ภโวติ าณํ, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานนฺติ าณํ, เวทนาปจฺจยา ตณฺหาติ าณํ, ผสฺสปจฺจยา เวทนาติ าณํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ าณํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติ าณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ าณํ, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณนฺติ าณํ, อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ าณํ, อสติ อวิชฺชาย นตฺถิ สงฺขาราติ าณํ, อตีตมฺปิ อทฺธานํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ าณํ, อสติ อวิชฺชาย นตฺถิ สงฺขาราติ าณํ, อนาคตมฺปิ อทฺธานํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ าณํ, อสติ อวิชฺชาย นตฺถิ สงฺขาราติ าณํ, ยมฺปิสฺส ตํ ธมฺมฏฺิติาณํ, ตมฺปิ ขยธมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ าณ’’นฺติ –

ภควตา นิทานวคฺเค (สํ. นิ. ๒.๓๔-๓๕) ชรามรณาทีสุ เอกาทสสุ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ ปจฺเจกํ สตฺต สตฺต กตฺวา วุตฺตานิ สตฺตสตฺตติาณานิ.

ตตฺถ ธมฺมฏฺิติาณนฺติ ปจฺจยาการาณํ. ปจฺจยากาโร หิ ธมฺมานํ ปวตฺติสงฺขาตาย ิติยา การณตฺตา ‘‘ธมฺมฏฺิตี’’ติ วุจฺจติ, ตตฺถ าณํ ธมฺมฏฺิติาณํ, ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติอาทินา วุตฺตสฺเสว ฉพฺพิธสฺส าณสฺเสตํ อธิวจนํ. ขยธมฺมนฺติ ขยคมนสภาวํ. วยธมฺมนฺติ วยคมนสภาวํ. วิราคธมฺมนฺติ วิรชฺชนสภาวํ. นิโรธธมฺมนฺติ นิรุชฺฌนสภาวนฺติ อตฺโถ.

ลาโภติอาทีสุ ลาโภเยว อุปสคฺเคน วิเสเสตฺวา ‘‘ปฏิลาโภ’’ติ วุตฺโต. ปุน ตสฺเสว อตฺถวิวรณวเสน ‘‘ปตฺติ สมฺปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ผุสนาติ อธิคมนวเสน ผุสนา. สจฺฉิกิริยาติ ปฏิลาภสจฺฉิกิริยา. อุปสมฺปทาติ นิปฺผาทนา.

สตฺตนฺนฺจเสกฺขานนฺติ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขนฺตีติ เสกฺขสฺิตานํ โสตาปตฺติมคฺคฏฺาทีนํ สตฺตนฺนํ. ปุถุชฺชนกลฺยาณกสฺส จาติ นิพฺพานคามินิยา ปฏิปทาย ยุตฺตตฺตา สุนฺทรฏฺเน กลฺยาณสฺิตสฺส ปุถุชฺชนสฺส. วฑฺฒิตํ วฑฺฒนํ เอกายาติ วฑฺฒิตวฑฺฒนา. ยถาวุตฺตานํ อฏฺนฺนมฺปิ ปฺานํ วเสน วิเสสโตว อรหโต ปฺาวเสน ปฺาวุทฺธิยา. ตถา ปฺาเวปุลฺลาย.

ยสฺส กสฺสจิปิ วิเสสโต อนุรูปธมฺมสฺส มหนฺตํ นาม กิจฺจสิทฺธิยา เวทิตพฺพนฺติ ตทสฺส กิจฺจสิทฺธิยา ทสฺเสนฺโต ‘‘มหนฺเต อตฺเถ ปริคฺคณฺหาตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺถาทีนํ มหนฺตภาโว มหาวิสยตาย เวทิตพฺโพ, มหาวิสยตา จ เตสํ ปฏิสมฺภิทามคฺเค อาคตนเยน เวทิตพฺพา. สีลกฺขนฺธสฺส ปน เหตุมหนฺตตาย, ปจฺจยมหนฺตตาย, นิสฺสยมหนฺตตาย , ปเภทมหนฺตตาย, กิจฺจมหนฺตตาย, ผลมหนฺตตาย, อานิสํสมหนฺตตาย จ มหนฺตภาโว เวทิตพฺโพ. ตตฺถ เหตุ อโลภาทโย. ปจฺจโย หิโรตฺตปฺปสทฺธาสติวีริยาทโย. นิสฺสโย สาวกโพธิปจฺเจกโพธินิยตตา ตํสมงฺคิโน จ ปุริสวิเสสา. ปเภโท จาริตฺตวาริตฺตาทิวิภาโค. กิจฺจํ ตทงฺคาทิวเสน ปฏิปกฺขวิธมนํ. ผลํ สคฺคสมฺปทา นิพฺพานสมฺปทา จ. อานิสํโส ปิยมนาปตาทิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๙) อากงฺเขยฺยสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๑.๖๔ อาทโย) จ อาคตนเยน เวทิตพฺโพ. อิมินา นเยน สมาธิกฺขนฺธาทีนมฺปิ มหนฺตตา ยถารหํ นิทฺธาเรตฺวา วตฺตพฺพา. านาฏฺานาทีนํ มหนฺตภาโว ปน มหาวิสยตาย เวทิตพฺโพ. ตตฺถ านาฏฺานานํ มหาวิสยตา พหุธาตุกสุตฺตาทีสุ อาคตนเยน เวทิตพฺพา.

วิหารสมาปตฺตีนํ มหาวิสยตา สมาธิกฺขนฺเธ มหาวิสยตานิทฺธารณนเยน เวทิตพฺพา, อริยสจฺจานํ สกลยานสงฺคาหกโต สจฺจวิภงฺเค (วิภ. ๑๘๙ อาทโย) ตํสํวณฺณนาสุ (วิภ. อฏฺ. ๑๘๙ อาทโย) จ อาคตนเยน, สติปฏฺานาทีนํ สติปฏฺานวิภงฺคาทีสุ (วิภ. ๓๕๕ อาทโย) ตํสํวณฺณนาทีสุ (วิภ. อฏฺ. ๓๕๕ อาทโย) จ อาคตนเยน, สามฺผลานํ มหโต หิตสฺส มหโต สุขสฺส มหโต อตฺถสฺส มหโต โยคกฺเขมสฺส นิปฺผตฺติภาวโต สนฺตปณีตอตกฺกาวจรปณฺฑิตเวทนียภาวโต, อภิฺานํ มหาสมฺภารโต มหาวิสยโต มหากิจฺจโต มหานุภาวโต มหานิปฺผตฺติโต, นิพฺพานสฺส มทนิมฺมทนาทิมหตฺถสิทฺธิโต จ มหนฺตภาโว เวทิตพฺโพ. ปริคฺคณฺหาตีติ สภาวาทิโต ปริจฺฉิชฺช คณฺหาติ ชานาติ, ปฏิวิชฺฌตีติ อตฺโถ.

ปุถุปฺาติ เอตฺถาปิ วุตฺตนยานุสาเรน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – ปุถุ นานากฺขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ‘‘อยํ รูปกฺขนฺโธ นาม…เป… อยํ วิฺาณกฺขนฺโธ นามา’’ติ เอวํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ นานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ. เตสุปิ เอกวิเธน รูปกฺขนฺโธ…เป… เอกาทสวิเธน รูปกฺขนฺโธ. เอกวิเธน เวทนากฺขนฺโธ…เป… พหุวิเธน เวทนากฺขนฺโธ. เอกวิเธน สฺากฺขนฺโธ…เป… พหุวิเธน สฺากฺขนฺโธ. เอกวิเธน สงฺขารกฺขนฺโธ…เป… พหุวิเธน สงฺขารกฺขนฺโธ. เอกวิเธน วิฺาณกฺขนฺโธ…เป… พหุวิเธน วิฺาณกฺขนฺโธติ เอวํ เอเกกสฺส ขนฺธสฺส เอกวิธาทิวเสน อตีตาทิวเสนปิ นานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ.

ปุถุ นานาธาตูสูติ ‘‘อยํ จกฺขุธาตุ นาม…เป… อยํ มโนวิฺาณธาตุ นาม. ตตฺถ โสฬส ธาตุโย กามาวจรา, ทฺเว จาตุภูมิกา’’ติ เอวํ ธาตูสุ นานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ. ตยิทํ อุปาทินฺนธาตุวเสน วุตฺตํ. ปจฺเจกพุทฺธานฺหิ ทฺวินฺนฺจ อคฺคสาวกานํ อุปาทินฺนธาตูสุ เอว นานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ, ตฺจ โข เอกเทสโตว, น นิปฺปเทสโต. พหิทฺธา อนุปาทินฺนธาตูนํ นานากรณํ เตสํ อวิสโยว, สพฺพฺุพุทฺธานํเยว ปน ‘‘อิมาย ธาตุยา อุสฺสนฺนตฺตา อิมสฺส รุกฺขสฺส ขนฺโธ เสโต โหติ, อิมสฺส กาโฬ, อิมสฺส มฏฺโ, อิมสฺส ขโร, อิมสฺส พหลตโจ, อิมสฺส สุกฺขตโจ. อิมสฺส ปตฺตํ วณฺณสณฺานาทิวเสน เอวรูปํ. อิมสฺส ปุปฺผํ นีลํ, ปีตํ, โลหิตํ, โอทาตํ, สุคนฺธํ, ทุคฺคนฺธํ, มิสฺสกคนฺธํ. ผลํ ขุทฺทกํ, มหนฺตํ, ทีฆํ, วฏฺฏํ, สุวณฺณํ, ทุพฺพณฺณํ, มฏฺํ, ผรุสํ, สุคนฺธํ, ทุคฺคนฺธํ, มธุรํ, ติตฺตกํ, อมฺพิลํ, กฏุกํ, กสาวํ. กณฺฏโก ติขิโณ, อติขิโณ, อุชุโก, กุฏิโล, ตมฺโพ, นีโล, โลหิโต, โอทาโต’’ติอาทินา ธาตุนานตฺตํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ.

ปุถุ นานาอายตเนสูติ ‘‘อิทํ จกฺขายตนํ นาม…เป… อิทํ ธมฺมายตนํ นาม. ตตฺถ ทสายตนา กามาวจรา, ทฺเว จาตุภูมกา’’ติ เอวํ อายตนนานตฺตํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ.

ปุถุ นานาปฏิจฺจสมุปฺปาเทสูติ อชฺฌตฺตพหิทฺธาเภทโต สนฺตานเภทโต จ นานปฺปเภเทสุ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ. อวิชฺชาทิองฺคานิ หิ ปจฺเจกํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺิตานิ. เตนาห – สงฺขารปิฏเก ‘‘ทฺวาทส ปจฺจยา ทฺวาทส ปฏิจฺจสมุปฺปาทา’’ติ (สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑๑๐).

ปุถุ นานาสุฺตมนุปลพฺเภสูติ นานาสภาเวสุ นิจฺจสาราทิวิรหิเตสุ สุฺสภาเวสุ, ตโต เอว อิตฺถิปุริสอตฺตตฺตนิยาทิวเสน อนุปลพฺภมานสภาเวสุ. -กาโร เหตฺถ ปทสนฺธิกโร.

ปุถุนานาอตฺเถสูติ อตฺถปฏิสมฺภิทาวิสเยสุ ปจฺจยุปฺปนฺนาทินานาอตฺเถสุ. ธมฺเมสูติ ธมฺมปฏิสมฺภิทาวิสเยสุ ปจฺจยาทินานาธมฺเมสุ. นิรุตฺตีสูติ เตสํเยว อตฺถธมฺมานํ นิทฺธารณวจนสงฺขาเตสุ นานานิรุตฺตีสุ. ปุถุ นานาปฏิภาเนสูติ อตฺถปฏิสมฺภิทาทิวิสเยสุ อิมานิ าณานิ อิทมตฺถโชตกานีติ ตถา ตถา ปฏิภานโต อุปติฏฺนโต ปฏิภานานีติ ลทฺธนาเมสุ นานาาเณสุ.

ปุถุ นานาสีลกฺขนฺเธสูติอาทีสุ สีลสฺส ปุถุตฺตํ นานตฺตฺจ วุตฺตเมว, อิตเรสํ ปน วุตฺตนยานุสาเรน สุวิฺเยฺยตฺตา ปากฏเมว. ยํ ปน อภินฺนํ เอกเมว นิพฺพานํ, ตตฺถ อุปจารวเสน ปุถุตฺตํ คเหตพฺพนฺติ อาห – ‘‘ปุถุ นานาชนสาธารเณ ธมฺเม สมติกฺกมฺมา’’ติ. เตนสฺส มทนิมฺมทนาทิปริยาเยน ปุถุตฺตํ ปริทีปิตํ โหติ.

วิปุเล อตฺเถติ มหนฺเต อตฺเถ. มหนฺตปริยาโย หิ วิปุลสทฺโท. คมฺภีเรสูติ สสาทีหิ วิย มหาสมุทฺโท อนุปจิตาณสมฺภาเรหิ อลพฺภเนยฺยปฺปติฏฺเสุ ขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ วิสยสฺส คมฺภีรตาย าณสฺส คมฺภีรตา วิภาวิตา.

ติกฺขวิสทภาวาทิคุเณหิ อสาธารณตฺตา ปเรสํ ปฺาย น สามนฺตา, อถ โข สุวิทูรวิทูเรติ อสมนฺตปฺา อาการสฺส รสฺสตฺตํ กตฺวา. เกจิ ‘‘อสมตฺถปฺา’’ติ ปนฺติ, เตสํ ยถาวุตฺตคุเณหิ อฺเหิ อสาธารณตฺตา นตฺถิ เอติสฺสา กายจิ สมตฺถนฺติ อสมตฺถา ปฺาติ โยชนา. อตฺถววตฺถานโตติ อตฺถปฺปเภทสฺส ยาถาวโต สนฺนิฏฺานโต. น อฺโ โกจิ สกฺโกติ อภิสมฺภวิตุนฺติ าณคติยา สมฺปาปุณิตุํ น อฺโ โกจิปิ สกฺโกติ, ตสฺมา อยํ สุวิทูรวิทูเรติ อสมนฺตปฺา. อิทานิ ปุคฺคลนฺตรวเสน อสมนฺตปฺํ วิภาเวตุํ, ‘‘ปุถุชฺชนกลฺยาณกสฺสา’’ติอาทิ อารทฺธํ.

‘‘ปฺาปเภทกุสโล อภินฺนาโณ อธิคตปฺปฏิสมฺภิโท จตุเวสารชฺชปฺปตฺโต ทสพลธารี ปุริสาสโภ ปุริสสีโห ปุริสนาโค ปุริสาชฺโ ปุริสโธรยฺโห อนนฺตาโณ อนนฺตเตโช อนนฺตยโส อฑฺโฒ มหทฺธโน พลวา เนตา วิเนตา อนุเนตา ปฺาเปตา วินิชฺฌาเปตา เปกฺขตา ปสาเทตา. โส หิ ภควา อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสฺชาตสฺส มคฺคสฺส สฺชเนตา, อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา, มคฺคฺู มคฺควิทู มคฺคโกวิโท. มคฺคานุคามี จ ปน เอตรหิ สาวกา วิหรนฺติ ปจฺฉา สมนฺนาคตา.

‘‘โส หิ ภควา ชานํ ชานาติ, ปสฺสํ ปสฺสติ, จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต, นตฺถิ ตสฺส ภควโต อฺาตํ อทิฏฺํ อวิทิตํ อสจฺฉิกตํ อผสฺสิตํ ปฺาย. อตีตํ อนาคตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ อุปาทาย สพฺเพ ธมฺมา สพฺพากาเรน พุทฺธสฺส ภควโต าณมุเข อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, ยํ กิฺจิ เนยฺยํ นาม อตฺถิ ตํ สพฺพํ ชานิตพฺพํ, อตฺตตฺโถ วา ปรตฺโถ วา อุภยตฺโถ วา ทิฏฺธมฺมิโก วา อตฺโถ สมฺปรายิโก วา อตฺโถ อุตฺตาโน วา อตฺโถ คมฺภีโร วา อตฺโถ คูฬฺโห วา อตฺโถ ปฏิจฺฉนฺโน วา อตฺโถ เนยฺโย วา อตฺโถ นีโต วา อตฺโถ อนวชฺโช วา อตฺโถ นิกฺกิเลโส วา อตฺโถ โวทาโน วา อตฺโถ ปรมตฺโถ วา อตฺโถ, สพฺพํ ตํ อนฺโตพุทฺธาเณ ปริวตฺตติ.

‘‘สพฺพํ กายกมฺมํ พุทฺธสฺส ภควโต าณานุปริวตฺติ, สพฺพํ วจีกมฺมํ พุทฺธสฺส ภควโต าณานุปริวตฺติ, สพฺพํ มโนกมฺมํ พุทฺธสฺส ภควโต าณานุปริวตฺติ. อตีเต พุทฺธสฺส ภควโต อปฺปฏิหตํ าณํ, อนาคเต พุทฺธสฺส ภควโต อปฺปฏิหตํ าณํ, ปจฺจุปฺปนฺเน พุทฺธสฺส ภควโต อปฺปฏิหตํ าณํ, ยาวตกํ เนยฺยํ, ตาวตกํ าณํ. ยาวตกํ าณํ, ตาวตกํ เนยฺยํ. เนยฺยปริยนฺติกํ าณํ, าณปริยนฺติกํ เนยฺยํ, เนยฺยํ อติกฺกมิตฺวา าณํ นปฺปวตฺตติ, าณํ อติกฺกมิตฺวา เนยฺยปโถ นตฺถิ, อฺมฺปริยนฺตฏฺายิโน เต ธมฺมา, ยถา ทฺวินฺนํ สมุคฺคปฏลานํ สมฺมา ผุสิตานํ เหฏฺิมํ สมุคฺคปฏลํ อุปริมํ นาติวตฺตติ, อุปริมํ สมุคฺคปฏลํ เหฏฺิมํ นาติวตฺตติ, อฺมฺปริยนฺตฏฺายิโน, เอวเมวํ พุทฺธสฺส ภควโต เนยฺยฺจ าณฺจ อฺมฺปริยนฺตฏฺายิโน. ยาวตกํ เนยฺยํ, ตาวตกํ าณํ. ยาวตกํ าณํ, ตาวตกํ เนยฺยํ, เนยฺยปริยนฺติกํ าณํ, าณปริยนฺติกํ เนยฺยํ, เนยฺยํ อติกฺกมิตฺวา าณํ นปฺปวตฺตติ, าณํ อติกฺกมิตฺวา เนยฺยปโถ นตฺถิ. อฺมฺปริยนฺตฏฺายิโน เต ธมฺมา. สพฺพธมฺเมสุ พุทฺธสฺส ภควโต าณํ ปวตฺตติ.

‘‘สพฺเพ ธมฺมา พุทฺธสฺส ภควโต อาวชฺชนปฺปฏิพทฺธา อากงฺขปฺปฏิพทฺธา มนสิการปฺปฏิพทฺธา จิตฺตุปฺปาทปฺปฏิพทฺธา, สพฺพสตฺเตสุ พุทฺธสฺส ภควโต าณํ ปวตฺตติ. สพฺเพสํ สตฺตานํ พุทฺโธ อาสยํ ชานาติ, อนุสยํ ชานาติ, จริตํ ชานาติ, อธิมุตฺตึ ชานาติ, อปฺปรชกฺเข มหารชกฺเข ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเย สฺวากาเร ทฺวากาเร สุวิฺาปเย ทุวิฺาปเย ภพฺพา สพฺเพ สตฺเต ปชานาติ, สเทวโก โลโก สมารโก สพฺรหฺมโก สสฺสมณพฺราหฺมณี ปชา สเทวมนุสฺสา อนฺโตพุทฺธาเณ ปริวตฺตติ.

‘‘ยถา เย เกจิ มจฺฉกจฺฉปา อนฺตมโส ติมิติมิงฺคลํ อุปาทาย อนฺโตมหาสมุทฺเท ปริวตฺตนฺติ, เอวเมว สเทวโก โลโก สมารโก สพฺรหฺมโก สสฺสมณพฺราหฺมณี ปชา สเทวมนุสฺสา อนฺโตพุทฺธาเณ ปริวตฺตติ. ยถา เย เกจิ ปกฺขิโน อนฺตมโส ครุฬํ เวนเตยฺยํ อุปาทาย อากาสสฺส ปเทเส ปริวตฺตนฺติ, เอวเมว เยปิ เต สาริปุตฺตสมา ปฺาย, เตปิ พุทฺธาณสฺส ปเทเส ปริวตฺตนฺติ, พุทฺธาณํ เทวมนุสฺสานํ ปฺํ ผริตฺวา อติฆํสิตฺวา ติฏฺติ. เยปิ เต ขตฺติยปณฺฑิตา พฺราหฺมณปณฺฑิตา คหปติปณฺฑิตา สมณปณฺฑิตา นิปุณา กตปรปฺปวาทา วาลเวธิรูปา, โวภินฺทนฺตา มฺเ จรนฺติ ปฺาคเตน ทิฏฺิคตานิ, เต เต ปฺหํ อภิสงฺขริตฺวา อภิสงฺขริตฺวา’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๕) –

อาทินา นิทฺทิฏฺปาฬึ เปยฺยาลมุเขน สํขิปิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺาปเภทกุสโล ปภินฺนาโณ…เป… เต ปฺหํ อภิสงฺขริตฺวา อภิสงฺขริตฺวา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ปภินฺนาโณติ อตฺถาทีสุ ปเภทคตาโณ. ‘‘ปเภทาโณ’’ติปิ ปนฺติ, โสเยว อตฺโถ. เต ปฺหนฺติ เต เต อตฺตนา อธิปฺเปตํ ปฺหํ. นิทฺทิฏฺการณาติ วิสฺสชฺชิตการณา. อุปกฺขิตฺตกาติ ภควโต ปฺาเวยฺยตฺติเยน สมีเป ขิตฺตกา อนฺเตวาสิกา สมฺปชฺชนฺติ.

ภวติ อภิภวตีติ ภูริ. กึ? ราคาทึ. อุปสคฺเค สติปิ ตเทว ปทํ ตมตฺถํ วทตีติ อุปสคฺเคน วินาปิ โส อตฺโถ วิฺเยฺโย อเนกตฺถตฺตา ธาตูนนฺติ วุตฺตํ – ‘‘อภิภุยฺยตี’’ติ. การกพฺยตฺตเยน เจตํ วุตฺตํ, ตสฺมา ราคํ อภิภุยฺยตีติ สา สา มคฺคปฺา อตฺตนา อตฺตนา วชฺฌํ ราคํ อภิภุยฺยติ อภิภวติ, มทตีติ อตฺโถ. อภิภวตีติ สา สา ผลปฺา ตํ ตํ ราคํ ภวิ อภิภวิ มทฺทีติ ภูริปฺา. ‘‘อภิภวิตา’’ติ วา ปาโ, ‘‘อภิภวิตฺวา’’ติปิ ปนฺติ. อภิภวิตฺวาติ จ กิริยาย สิทฺธภาวทสฺสนํ. ปฺา เจ สิทฺธา, ราคาภิภโว จ สิทฺโธ เอวาติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.

ราคาทีสุ ปน รชฺชนลกฺขโณ ราโค. ทุสฺสนลกฺขโณ โทโส. มุยฺหนลกฺขโณ โมโห. กุชฺฌนลกฺขโณ โกโธ, อุปนนฺธนลกฺขโณ อุปนาโห. ปุพฺพกาลํ โกโธ, อปรกาลํ อุปนาโห. ปรคุณมกฺขนลกฺขโณ มกฺโข, ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปลาโส. ปรสมฺปตฺติขียนลกฺขณา อิสฺสา, อตฺตโน สมฺปตฺตินิคฺคูหนลกฺขณํ มจฺฉริยํ. อตฺตนา กตปาปปฺปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา, อตฺตโน อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนลกฺขณํ สาเยฺยํ. จิตฺตสฺส อุทฺธุมาตภาวลกฺขโณ ถมฺโภ, กรณุตฺตริยลกฺขโณ สารมฺโภ. อุนฺนติลกฺขโณ มาโน, อพฺภุนฺนติลกฺขโณ อติมาโน. มตฺตภาวลกฺขโณ มโท, ปฺจกามคุเณสุ จิตฺตโวสฺสคฺคลกฺขโณ ปมาโท. ภวติ อภิภวติ อรินฺติ ภูริ อสรูปโต ปรสฺส อการสฺส โลปํ กตฺวา. เตนาห – ‘‘อรึ มทฺทนิปฺาติ ภูริปฺา’’ติ. ภวติ เอตฺถ ถาวรชงฺคมนฺติ ภูริ วุจฺจติ ปถวี ยถา ‘‘ภูมี’’ติ ภูริ วิยาติ ภูริปฺา วิตฺถตวิปุลฏฺเน สพฺพํ สหตาย จ. เตนาห – ‘‘ตายา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปถวิสมายาติ วิตฺถตวิปุลฏฺเเนว ปถวิสมาย. วิตฺถตายาติ ปชานิตพฺเพ วิสเย วิตฺถตาย, น เอกเทเส วตฺตมานาย. วิปุลายาติ อุฬารภูตาย. สมนฺนาคโตติ ปุคฺคโล. อิติ-สทฺโท การณตฺเถ, อิมินา การเณน ปุคฺคลสฺส ภูริปฺาย สมนฺนาคตตฺตา ตสฺส ปฺา ภูริปฺา นามาติ อตฺโถ. ‘‘ภูริปฺสฺส ปฺา ภูริปฺปฺา’’ติ วตฺตพฺเพ เอกสฺส ปฺาสทฺทสฺส โลปํ กตฺวา ‘‘ภูริปฺา’’ติ วุตฺตํ.

อปิจาติ ปฺาปริยายทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปฺายเมตนฺติ ปฺาย เอตํ. อธิวจนนฺติ อธิกํ วจนํ. ภูรีติ ภูเต อตฺเถ ขนฺธาทิเก รมติ สจฺจสภาเวน, ทิฏฺิ วิย น อภูเตติ ภูริ. เมธาติ อสนิ วิย สิลุจฺจเย กิเลเส เมธติ หึสตีติ เมธา, ขิปฺปํ คหณธารณฏฺเน วา เมธา. ปริณายิกาติ ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ สตฺตํ อตฺตหิตปฺปฏิปตฺติยํ สมฺปยุตฺตธมฺเม จ ยาถาวลกฺขณปฺปฏิเวเธ ปริเณตีติ ปริณายิกา. อิเมเหว อฺานิปิ ปฺาปริยายวจนานิ โหนฺติ.

ปฺาพาหุลฺลนฺติ ปฺา พหุลา อสฺสาติ ปฺาพหุโล, ตสฺส ภาโว ปฺาพาหุลฺลํ. ตฺจ ปฺาย พาหุลฺลํ ปวตฺติ เอวาติ ตมตฺถํ ปฺาครุกสฺส ปุคฺคลสฺส วเสน ทสฺเสนฺโต, ‘‘อิเธกจฺโจ ปฺาครุโก โหตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิเธกจฺโจติ ปุถุชฺชนกลฺยาณโก, อริโย วา. ปฺา ครุ เอกสฺสาติ ปฺาครุโก. ปฺาย จริโต ปวตฺติโต ปฺาจริโต, ปฺาย จริตํ ปวตฺตํ อสฺสาติ วา ปฺาจริโต. อนุโลมิกขนฺติอาทิวิภาคา ปฺา อาสโย เอตสฺสาติ ปฺาสโย. ปฺาย อธิมุตฺโต ตนฺนินฺโนติ ปฺาธิมุตฺโต. สมุสฺสิตฏฺเน ปฺา ธโช เอตสฺสาติ ปฺาธโช. ปฺาเกตูติ ตสฺเสว เววจนํ. ปฺานิมิตฺตํ อาธิปเตยฺยํ เอตสฺสาติ ปฺาธิปเตยฺโย. ปฺาสงฺขาโต วิจโย, ธมฺมสภาววิจินนํ วา พหุลํ เอตสฺสาติ วิจยพหุโล. นานปฺปกาเรน ธมฺมสภาววิจินนํ พหุลํ อสฺสาติ ปวิจยพหุโล. โอกฺขายนํ ยาถาวโต ธมฺมานํ อุปฏฺานํ พหุลํ เอตสฺสาติ โอกฺขายนพหุโล. ปฺาย ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส สมฺมาเปกฺขนา สมฺเปกฺขา, สมฺเปกฺขาย อยนํ ปวตฺตนํ สมฺเปกฺขายนํ, สมฺเปกฺขายนํ ธมฺโม ปกติ อสฺสาติ สมฺเปกฺขายนธมฺโม. สมฺเปกฺขายนํ วา ยาถาวโต ทสฺสนธมฺโม สภาโว เอตสฺสาติ สมฺเปกฺขายนธมฺโม. สพฺพํ ธมฺมชาตํ วิภูตํ วิภาวิตํ กตฺวา วิหรณสีโลติ วิภูตวิหารี.

ตจฺจริโตติอาทีสุ ตํ-สทฺเทน ปฺา ปจฺจามฏฺา, ตสฺมา ตตฺถ ‘‘ปฺาจริโต’’ติอาทินา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สา ปฺา จริตา ครุกา พหุลา อสฺสาติ ตจฺจริโต ตคฺครุโก ตพฺพหุโล. ตสฺสํ ปฺายํ นินฺโน โปโณ ปพฺภาโร อธิมุตฺโตติ ตนฺนินฺโน ตปฺโปโณ ตปฺปพฺภาโร ตทธิมุตฺโต. สา ปฺา อธิปติ ตทธิปติ, ตทธิปติโต อาคโต ตทาธิปเตยฺโย. ปฺาครุโกติอาทีนิ ‘‘กามํ เสวนฺตํเยว ชานาติ, อยํ ปุคฺคโล เนกฺขมฺมครุโก’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๔) วิย ปุริมชาติโต ปภุติ วุตฺตานิ. ตจฺจริโตติอาทีนิ อิมิสฺสา ชาติยา วุตฺตานิ. อิทานิ วุตฺตเมวตฺถํ นิทสฺสนวเสนปิ ทสฺเสตุํ – ‘‘ยถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวเมวนฺติอาทีนิ ทสฺสิตพฺพนิคมนํ.

สีฆปฺาติ อตฺตโน วิสเย สีฆปฺปวตฺติกา ปฺา, ยา สมารทฺธา อตฺตโน ปฺากิจฺจํ อทนฺธายนฺตี อวิตฺถายนฺตี ขิปฺปเมว สมฺปาเปติ. เตนาห – ‘‘สีฆํ สีฆํ สีลานิ ปริปูเรตี’’ติอาทิ. ตตฺถ สีฆํ สีฆนฺติ พหูนํ สีลาทีนํ สงฺคหตฺถํ ทฺวิกฺขตฺตุํ วุตฺตํ. สีลานีติ จาริตฺตวาริตฺตวเสน ปฺตฺตานิ ปาติโมกฺขสํวรสีลานิ, เปตฺวา วา อินฺทฺริยสํวรํ ตสฺส วิสุํ คหิตตฺตา อิตรานิ ติวิธสีลานิ. อินฺทฺริยสํวรนฺติ จกฺขาทีนํ ฉนฺนํ อินฺทฺริยานํ ราคปฺปฏิฆปฺปเวสํ อกตฺวา สติกวาเฏน นิวารณํ ถกนํ. โภชเน มตฺตฺุตนฺติ ปจฺจเวกฺขิตปริโภควเสน โภชเน ปมาณฺุภาวํ. ชาคริยานุโยคนฺติ ทิวสสฺส ตีสุ โกฏฺาเสสุ รตฺติยา ปมมชฺฌิมโกฏฺาเสสุ จ ชาครติ น นิทฺทายติ, สมณธมฺมเมว กโรตีติ ชาคโร, ชาครสฺส ภาโว, กมฺมํ วา ชาคริยํ, ชาคริยสฺส อนุโยโค ชาคริยานุโยโค, ตํ ชาคริยานุโยคํ. สีลกฺขนฺธนฺติ เสกฺขํ วา อเสกฺขํ วา สีลกฺขนฺธํ. เอวมิตเรปิ ขนฺธา เวทิตพฺพา. ปฺากฺขนฺธนฺติ มคฺคปฺา จ เสกฺขาเสกฺขานํ โลกิยปฺา จ. วิมุตฺติกฺขนฺธนฺติ ผลวิมุตฺติ. วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺธนฺติ ปจฺจเวกฺขณาณํ. สีฆปฺานิทฺเทสสทิโสเยว ลหุปฺานิทฺเทโส, ตถา หาสปฺานิทฺเทโส. ชวนปฺานิทฺเทโส ปน กลาปสมฺมสนนเยน ปวตฺโต. ติกฺขปฺานิทฺเทโส วีริยสฺส อุสฺสุกฺกาปนวเสน, นิพฺเพธิกปฺานิทฺเทโส สพฺพโลเก อนภิรตสฺาวเสน ปวตฺโต. ตตฺถ ตุริตกิริยา สีฆตา. อทนฺธตา ลหุตา. เวคายิตตฺตํ ขิปฺปตา.

หาสพหุโลติ ปีติพหุโล. เสสปทานิ ตสฺเสว เววจนานิ. อถ วา หาสพหุโลติ มูลปทํ. เวทพหุโลติ ตสฺสา เอว ปีติยา สมฺปยุตฺตโสมนสฺสเวทนาวเสน นิทฺเทสปทํ. ตุฏฺิพหุโลติ นาติพลวปีติยา ตุฏฺาการวเสน. ปาโมชฺชพหุโลติ พลวปีติยา ปมุทิตภาววเสน. สีลานิ ปริปูเรตีติ หฏฺปฺปหฏฺโ อุทคฺคูทคฺโค สมฺปิยายมาโน สีลานิ สมฺปาเทติ. ปีติโสมนสฺสสหคตา หิ ปฺา อภิรติวเสน อารมฺมเณ ผุลฺลิตา วิกสิตา วิย ปวตฺตติ, น เอวํ อุเปกฺขาสหคตาติ.

อนิจฺจโต ขิปฺปํ ชวตีติ ‘‘ขนฺธปฺจกํ อนิจฺจ’’นฺติ เวคายิเตน ปวตฺตติ, ปฏิปกฺขทูรีภาเวน ปุพฺพาภิสงฺขารสฺส สาติสยตฺตา อินฺเทน วิสฺสฏฺวชิรํ วิย ลกฺขณํ อวิรชฺฌนฺตี อทนฺธายนฺตี อนิจฺจลกฺขณํ เวคสา ปฏิวิชฺฌติ, ตสฺมา สา ชวนปฺา นามาติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เอวํ ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาวเสน ชวนปฺํ ทสฺเสตฺวา พลววิปสฺสนาวเสน ทสฺเสตุํ – ‘‘รูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ขยฏฺเนาติ ยตฺถ ยตฺถ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนโต ขยสภาวตฺตา. ภยฏฺเนาติ ภยานกภาวโต. อสารกฏฺเนาติ อตฺตสารวิรหโต นิจฺจสาราทิวิรหโต จ. ตุลยิตฺวาติ ตุลาภูตาย วิปสฺสนาปฺาย ตุเลตฺวา. ตีรยิตฺวาติ ตาย เอว ตีรณภูตาย ตีเรตฺวา. วิภาวยิตฺวาติ ยาถาวโต ปกาเสตฺวา ปากฏํ กตฺวา. อถ วา ตุลยิตฺวาติ กลาปสมฺมสนวเสน ตุลยิตฺวา. ตีรยิตฺวาติ อุทยพฺพยานุปสฺสนาวเสน ตีเรตฺวา. วิภาวยิตฺวาติ ภงฺคานุปสฺสนาทิวเสน ปากฏํ กตฺวา. วิภูตํ กตฺวาติ สงฺขารุเปกฺขานุโลมวเสน ผุฏํ กตฺวา. รูปนิโรเธติ รูปกฺขนฺธสฺส นิโรธภูเต นิพฺพาเน. ขิปฺปํ ชวตีติ นินฺนโปณปพฺภารวเสน ชวติ ปวตฺตติ. อิทานิ สิขาปฺปตฺตวิปสฺสนาวเสน ชวนปฺํ ทสฺเสตุํ, ปุน ‘‘รูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

าณสฺส ติกฺขภาโว นาม สวิเสสํ ปฏิปกฺขสมุจฺฉินฺทเนน เวทิตพฺโพติ ‘‘ขิปฺปํ กิเลเส ฉินฺทตีติ ติกฺขปฺา’’ติ วตฺวา เต ปน กิเลเส วิภาเคน ทสฺเสนฺโต, ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺก’’นฺติอาทิมาห. สมถวิปสฺสนาหิ วิกฺขมฺภนตทงฺควเสน ปหีนมฺปิ อริยมคฺเคน อสมูหตตฺตา อุปฺปตฺติธมฺมตํ อนตีตตาย อสมูหตุปฺปนฺนนฺติ วุจฺจติ, ตํ อิธ ‘‘อุปฺปนฺน’’นฺติ อธิปฺเปตํ. นาธิวาเสตีติ สนฺตานํ อาโรเปตฺวา น วาเสติ. ปชหตีติ สมุจฺเฉทวเสน ปชหติ. วิโนเทตีติ ขิปติ. พฺยนฺตึ กโรตีติ วิคตนฺตํ กโรติ. อนภาวํ คเมตีติ อนุ อภาวํ คเมติ, วิปสฺสนากฺกเมน อริยมคฺคํ ปตฺวา สมุจฺเฉทวเสเนว อภาวํ คมยตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ กามปฺปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก กามวิตกฺโก. ‘‘อิเม สตฺตา มรนฺตู’’ติ ปเรสํ มรณปฺปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก พฺยาปาทวิตกฺโก. ‘‘อิเม สตฺตา วิหึสิยนฺตู’’ติ ปเรสํ วิหึสาปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก วิหึสาวิตกฺโก. ปาปเกติ ลามเก. อกุสเล ธมฺเมติ อโกสลฺลสมฺภูเต ธมฺเม. ติกฺขปฺโ นาม ขิปฺปาภิฺโ โหติ, ปฏิปทา จสฺส น จลตีติ อาห – ‘‘เอกมฺหิ อาสเน จตฺตาโร อริยมคฺคา’’ติอาทิ.

‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา’’ติ ยาถาวโต ทสฺสเนน สจฺจปฺปฏิเวโธ อิชฺฌติ, น อฺถาติ การณมุเขน นิพฺเพธิกปฺํ ทสฺเสตุํ – ‘‘สพฺพสงฺขาเรสุ อุพฺเพคพหุโล โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุพฺเพคพหุโลติ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทินา (ธ. ป. ๒๗๗) นเยน สพฺพสงฺขาเรสุ อภิณฺหปฺปวตฺตสํเวโค. อุตฺตาสพหุโลติ าณภยวเสน สพฺพสงฺขาเรสุ พหุโส อุตฺรสฺตมานโส. เตน อาทีนวานุปสฺสนมาห. อุกฺกณฺนพหุโลติ สงฺขารโต อุทฺธํ วิสงฺขาราภิมุขตาย อุกฺกณฺนพหุโล. อิมินา นิพฺพิทานุปสฺสนมาห. อรติพหุโลติอาทินา ตสฺสา เอว อปราปรูปปตฺตึ. พหิมุโขติ สพฺพสงฺขารโต พหิภูตํ นิพฺพานํ อุทฺทิสฺส ปวตฺตาณมุโข. ตถา ปวตฺติตวิโมกฺขมุโข. นิพฺพิชฺฌนํ ปฏิวิชฺฌนํ นิพฺเพโธ, โส เอติสฺสา อตฺถีติ นิพฺเพธิกา, นิพฺพิชฺฌตีติ วา นิพฺเพธิกา, สา เอว ปฺา นิพฺเพธิกปฺา. อนิพฺพิทฺธปุพฺพนฺติ อนมตคฺเค สํสาเร อนฺตํ ปาเปตฺวา อนิวิทฺธปุพฺพํ. อปฺปทาลิตปุพฺพนฺติ ตสฺเสว อตฺถวจนํ, อนฺตกรเณเนว อปฺปทาลิตปุพฺพนฺติ อตฺโถ. โลภกฺขนฺธนฺติ โลภราสึ, โลภโกฏฺาสํ วา.

กายคตาสติวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.