📜

๒. นีวรณปฺปหานวคฺควณฺณนา

๑๑. ทุติยสฺสาติ ทุติยวคฺคสฺส. เอกธมฺมมฺปีติ เอตฺถ ‘‘เอกสภาวมฺปี’’ติ อิมินา สภาวตฺโถยํ ธมฺมสทฺโท ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติอาทีสุ วิยาติ ทสฺสิตํ โหติ. ยทคฺเคน จ สภาวตฺโถ, ตทคฺเคน นิสฺสตฺตตฺโถ สิทฺโธ เอวาติ ‘‘นิสฺสตฺตฏฺเน ธมฺโม เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. สุภนิมิตฺตนฺติ ธมฺมปริยาเยน วุตฺตํ. ตฺหิ อตฺถโต กามจฺฉนฺโท วา สิยา. โส หิ อตฺตโน คหณากาเรน สุภนฺติ, เตนากาเรน ปวตฺตนกสฺส อฺสฺส กามจฺฉนฺทสฺส นิมิตฺตตฺตา ‘‘สุภนิมิตฺต’’นฺติ จ วุจฺจติ. ตสฺส อารมฺมณํ วา สุภนิมิตฺตํ. อิฏฺฺหิ อิฏฺากาเรน วา คยฺหมานํ รูปาทิอารมฺมณํ ‘‘สุภนิมิตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. อารมฺมณเมว เจตฺถ นิมิตฺตํ. ตถา หิ วกฺขติ – ‘‘สุภนิมิตฺตนฺติ ราคฏฺานิยํ อารมฺมณ’’นฺติ. สมุจฺจยตฺโถ วา-สทฺโท อเนกตฺถตฺตา นิปาตานํ. ภิยฺโยภาวายาติ ปุนปฺปุนํ ภาวาย. เวปุลฺลายาติ วิปุลภาวาย, วฑฺฒิยาติ อตฺโถ. อชาโต นิชฺชาโต. เสสปทานิ ตสฺเสว เววจนานิ. กาเมสูติ ปฺจสุ กามคุเณสุ. กามจฺฉนฺโทติ กามสงฺขาโต ฉนฺโท, น กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท น ธมฺมจฺฉนฺโท. กามนวเสน รชฺชนวเสน จ กาโม เอว ราโค กามราโค. กามนวเสน นนฺทนวเสน จ กาโม เอว นนฺทีติ กามนนฺที. กามนวเสน ตณฺหายนวเสน จ กามตณฺหา. อาทิสทฺเทน ‘‘กามสฺเนโห กามปริฬาโห กามมุจฺฉา กามชฺโฌสาน’’นฺติ เอเตสํ ปทานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ วุตฺตนเยเนว กามตฺถํ วิทิตฺวา สิเนหนฏฺเน กามสฺเนโห, ปริฬาหนฏฺเน กามปริฬาโห, มุจฺฉนฏฺเน กามมุจฺฉา, คิลิตฺวา ปรินิฏฺาปนฏฺเน กามชฺโฌสานํ เวทิตพฺพํ. กามจฺฉนฺโท เอว กุสลปฺปวตฺติโต จิตฺตสฺส นีวรณฏฺเน กามจฺฉนฺทนีวรณํ, โสติ กามจฺฉนฺโท. อสมุทาจารวเสนาติ อสมุทาจารภาเวน. อนนุภูตารมฺมณวเสนาติ ‘‘อิทํ นาเมต’’นฺติ วตฺถุวเสน อุตฺวา ตสฺมึ อตฺตภาเว อนนุภูตสฺส อารมฺมณสฺส วเสน. รูปสทฺทาทิเภทํ ปน อารมฺมณํ เอกสฺมิมฺปิ อตฺตภาเว อนนุภูตํ นาม นตฺเถว, กิมงฺคํ ปน อนาทิมติ สํสาเร.

ยํ วุตฺตํ – ‘‘อสมุทาจารวเสน จา’’ติอาทิ, ตํ อติสํขิตฺตนฺติ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ – ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ภวคฺคหเณน มหคฺคตภโว คหิโต. โส หิ โอฬาริกกิเลสสมุทาจารรหิโต. ตชฺชนียกมฺมกตาทิกาเล ปาริวาสิกกาเล จ จริตพฺพานิ ทฺเวอสีติ ขุทฺทกวตฺตานิ นาม. น หิ ตานิ สพฺพาสุ อวตฺถาสุ จริตพฺพานิ, ตสฺมา ตานิ น มหาวตฺเตสุ อนฺโตคธานีติ ‘‘จุทฺทส มหาวตฺตานี’’ติ วุตฺตํ. ตถา อาคนฺตุกวตฺตอาวาสิกคมิก-อนุโมทนภตฺตคฺค- ปิณฺฑจาริกอารฺกเสนาสนชนฺตาฆรวจฺจกุฏิอุปชฺฌาย- สทฺธิวิหาริกอาจริย-อนฺเตวาสิกวตฺตานีติ เอตานิ จุทฺทส มหาวตฺตานิ นามาติ วุตฺตํ. อิตรานิ ปน ‘‘ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตํ ปฺาเปสฺสามี’’ติ (จูฬว. ๗๕) อารภิตฺวา ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น ฉมายํ จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๘๑) วุตฺตานิ ปกตตฺเต จริตพฺพวตฺตานิ ฉสฏฺิ, ตโต ปรํ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิกวุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ, มูลายปฏิกสฺสนารเหน, มานตฺตารเหน, มานตฺตจาริเกน, อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺทึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพ’’นฺติอาทีนิ ปกตตฺเต จริตพฺเพหิ อนฺตฺตา วิสุํ วิสุํ อคเณตฺวา ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีสุ ปุคฺคลนฺตเรสุ จริตพฺพตฺตา เตสํ วเสน สมฺปิณฺเฑตฺวา เอเกกํ กตฺวา คณิตานิ ปฺจาติ เอกสตฺตติวตฺตานิ. อุกฺเขปนียกมฺมกตวตฺเตสุ วตฺตปฺาปนวเสน วุตฺตํ – ‘‘น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ…เป… ปิฏฺิปริกมฺมํ สาทิตพฺพ’’นฺติ อิทํ อภิวาทนาทีนํ อสฺสาทิยนํ เอกํ, ‘‘น ปกตตฺโต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ’’ติอาทีนิ (จูฬว. ๕๑) จ ทสาติ เอวํ ทฺวาสีติ โหนฺติ. เอเตสฺเวว ปน กานิจิ ตชฺชนียกมฺมกตาทิวตฺตานิ กานิจิ ปาริวาสิกาทิวตฺตานีติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาวีสติวตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘จุทฺทส มหาวตฺตานี’’ติ วตฺวาปิ ‘‘อาคนฺตุกคมิกวตฺตานิ จา’’ติ อิเมสํ วิสุํ คหณํ อิมานิ อภิณฺหํ สมฺภวนฺตีติ กตฺวา. กิเลโส โอกาสํ น ลภติ สพฺพทา วตฺตปฺปฏิปตฺติยํเยว พฺยาวฏจิตฺตตาย. อโยนิโสมนสิการนฺติ อนิจฺจาทีสุ ‘‘นิจฺจ’’นฺติอาทินา ปวตฺตํ อนุปายมนสิการํ. สติโวสฺสคฺคนฺติ สติยา วิสฺสชฺชนํ, สติวิรหนฺติ อตฺโถ. เอวมฺปีติ วกฺขมานาเปกฺขาย อวุตฺตสมฺปิณฺฑนตฺโถ ปิ-สทฺโท.

อนุสนฺธิวเสนาติ ปุจฺฉานุสนฺธิอาทิอนุสนฺธิวเสน. ปุพฺพาปรวเสนาติ ปุพฺพาปรคนฺถสลฺลกฺขณวเสน. คณฺหนฺตสฺสาติ อาจริยมุขโต คณฺหนฺตสฺส. สชฺฌายนฺตสฺสาติ อาจริยมุขโต อุคฺคหิตคนฺถํ สชฺฌายนฺตสฺส. วาเจนฺตสฺสาติ ปาฬึ ตทตฺถฺจ อุคฺคณฺหาปนวเสน ปเรสํ วาเจนฺตสฺส. เทเสนฺตสฺสาติ เทสนาวเสน ปเรสํ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส. ปกาเสนฺตสฺสาติ อตฺตโน อตฺตโน สํสยฏฺาเน ปุจฺฉนฺตานํ ยาถาวโต อตฺถํ ปกาเสนฺตสฺส. กิเลโส โอกาสํ น ลภติ รตฺตินฺทิวํ คนฺถกมฺเมสุเยว พฺยาวฏจิตฺตตาย. เอวมฺปีติ วุตฺตสมฺปิณฺฑนตฺโถ ปิ-สทฺโท. เอวํ เสเสสุปิ.

ธุตงฺคธโร โหตีติ วุตฺตเมวตฺถํ ปกาเสติ ‘‘เตรส ธุตงฺคคุเณ สมาทาย วตฺตตี’’ติ. พาหุลฺลายาติ จีวราทิปจฺจยพาหุลฺลาย. ยถา จีวราทโย ปจฺจยา พหุลํ อุปฺปชฺชนฺติ, ตถา อาวตฺตสฺส ปวตฺตสฺสาติ อตฺโถ. ปริหีนชฺฌานสฺสาติ ฌานนฺตรายกเรน วิสภาครูปทสฺสนาทินา เกนจิ นิมิตฺเตน ปริหีนชฺฌานสฺส. วิสฺสฏฺชฺฌานสฺสาติ อสมาปชฺชนวเสน ปริจฺจตฺตชฺฌานสฺส. ภสฺสาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน คณสงฺคณิกนิทฺทานวกมฺมาทึ สงฺคณฺหาติ. สตฺตสุ วา อนุปสฺสนาสูติ เอตฺถ สตฺต อนุปสฺสนา นาม อนิจฺจานุปสฺสนา ทุกฺขานุปสฺสนา อนตฺตานุปสฺสนา นิพฺพิทานุปสฺสนา วิราคานุปสฺสนา นิโรธานุปสฺสนา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา ขยานุปสฺสนา วยานุปสฺสนา วิปริณามานุปสฺสนา อนิมิตฺตานุปสฺสนา อปฺปณิหิตานุปสฺสนา สุฺตานุปสฺสนา อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนา ยถาภูตาณทสฺสนํ อาทีนวานุปสฺสนา ปฏิสงฺขานุปสฺสนา วิวฏฺฏานุปสฺสนาติ อิมาสุ อฏฺารสสุ มหาวิปสฺสนาสุ อาทิโต วุตฺตา อนิจฺจานุปสฺสนาทิ-ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาปริยนฺตา สตฺต. เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาโต (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๒.๗๔๑) คเหตพฺพํ.

อนาเสวนตายาติ ปุริมตฺตภาเว ฌาเนน วิกฺขมฺภิตกิเลสสฺส กามจฺฉนฺทาทิอาเสวนาย อภาวโต. อนนุภูตปุพฺพนฺติ ตสฺมึ อตฺตภาเว อนนุภูตปุพฺพํ. ชาโตติ เอตสฺเสว เววจนํ สฺชาโตติอาทิ. นนุ จ ขณิกตฺตา สพฺพธมฺมานํ อุปฺปนฺนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส ตงฺขณํเยว อวสฺสํ นิโรธสมฺภวโต นิรุทฺเธ จ ตสฺมึ ปุน อฺสฺเสว อุปฺปชฺชนโต จ กถํ ตสฺส ปุนปฺปุนภาโว ราสิภาโว จาติ อาห – ‘‘ตตฺถ สกึ อุปฺปนฺโน กามจฺฉนฺโท’’ติอาทิ. อฏฺานเมตนฺติ อการณเมตํ. เยน การเณน อุปฺปนฺโน กามจฺฉนฺโท น นิรุชฺฌติ, นิรุทฺโธ จ สฺเวว ปุน อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตาทิสํ การณํ นตฺถีติ อตฺโถ.

ราคฏฺานิยนฺติ ราคชนกํ. อนิจฺจาทีสุ นิจฺจาทิวเสน วิปรีตมนสิกาโร, อิธ อโยนิโสมนสิกาโรติ อาห – ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติอาทิ. อโยนิโสมนสิกาโรติ อนุปายมนสิกาโร, กุสลธมฺมปฺปวตฺติยา อการณภูโต มนสิกาโรติ อตฺโถ. อุปฺปถมนสิกาโรติ กุสลธมฺมปฺปวตฺติยา อมคฺคภูโต มนสิกาโร. สจฺจวิปฺปฏิกูเลนาติ สจฺจาภิสมยสฺส อนุนุโลมวเสน. อาวชฺชนาติอาทินา อาวชฺชนาย ปจฺจยภูตา ตโต ปุริมุปฺปนฺนา มโนทฺวาริกา อกุสลชวนปฺปวตฺติ ผลโวหาเรน ตถา วุตฺตา. ตสฺส หิ วเสน สา อกุสลปฺปวตฺติยา อุปนิสฺสโย โหติ. อาวชฺชนาติ ภวงฺคจิตฺตํ อาวชฺชยตีติ อาวชฺชนา. อนุ อนุ อาวชฺเชตีติ อนฺวาวชฺชนา. ภวงฺคารมฺมณโต อฺํ อาภุชตีติ อาโภโค. สมนฺนาหรตีติ สมนฺนาหาโร. ตเทวารมฺมณํ อตฺตานํ อนุพนฺธิตฺวา อุปฺปชฺชมาโน มนสิ กโรติ เปตีติ มนสิกาโร. อยํ วุจฺจติ อโยนิโสมนสิกาโรติ อยํ อนุปายอุปฺปถมนสิการลกฺขโณ อโยนิโสมนสิกาโร นาม วุจฺจติ.

๑๒. ทุติเย ภตฺตพฺยาปตฺติ วิยาติ ภตฺตสฺส ปูติภาเวน วิปฺปการปฺปตฺติ วิย, จิตฺตสฺส พฺยาปชฺชนนฺติ จิตฺตสฺส วิการภาวาปาทนํ. เตเนวาห – ‘‘ปกติวิชหนภาโว’’ติ. พฺยาปชฺชติ เตน จิตฺตํ ปูติกุมฺมาสาทโย วิย ปุริมปกตึ ชหตีติ พฺยาปาโท. ปฏิโฆเยว อุปรูปริ อุปฺปชฺชมานสฺส ปฏิฆสฺส นิมิตฺตภาวโต ปฏิฆนิมิตฺตํ, ปฏิฆสฺส จ การณภูตํ อารมฺมณํ ปฏิฆนิมิตฺตนฺติ อาห – ‘‘ปฏิฆสฺสปิ ปฏิฆารมฺมณสฺสปิ เอตํ อธิวจน’’นฺติ. อฏฺกถายนฺติ มหาอฏฺกถายํ.

๑๓. ตติเย ถินตา ถินํ, สปฺปิปิณฺโฑ วิย อวิปฺผาริกตาย จิตฺตสฺส ฆนภาโว พทฺธตาติ อตฺโถ. เมธตีติ มิทฺธํ, อกมฺมฺภาเวน หึสตีติ อตฺโถ. ‘‘ยา ตสฺมึ สมเย จิตฺตสฺส อกลฺยตา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๑๖๒) ถินสฺส, ‘‘ยา ตสฺมึ สมเย กายสฺส อกลฺยตา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๑๖๓) จ มิทฺธสฺส อภิธมฺเม นิทฺทิฏฺตฺตา วุตฺตํ – ‘‘จิตฺตสฺส อกมฺมฺตา ถินํ, ติณฺณํ ขนฺธานํ อกมฺมฺตา มิทฺธ’’นฺติ. สติปิ อฺมฺาวิปฺปโยเค จิตฺตกายลหุตาทีนํ วิย จิตฺตเจตสิกานํ ยถากฺกมํ ตํตํวิเสโส สิยา, ยา เตสํ อกลฺยตาทีนํ วิเสสปจฺจยตา, อยเมเตสํ สภาโวติ ทฏฺพฺพํ. กปิมิทฺธสฺสาติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวติ ‘‘ปจลายิกภาวสฺสา’’ติ. อกฺขิทลานํ ปจลภาวํ กโรตีติ ปจลายิโก, ปจลายิกสฺส ภาโว ปจลายิกภาโว, ปจลายิกตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. อุภินฺนนฺติ ถินมิทฺธานํ. ‘‘วิตฺถาโร เวทิตพฺโพ’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. จิตฺตสฺส อกลฺยตาติ จิตฺตสฺส คิลานภาโว. คิลาโน หิ อกลฺยโกติ วุจฺจติ. วินเยปิ วุตฺตํ – ‘‘นาหํ, ภนฺเต, อกลฺยโก’’ติ (ปารา. ๑๕๑). กาลํ ขมตีติ หิ กลฺยํ, อโรคตา, ตสฺสํ นิยุตฺโต กลฺยโก, น กลฺยโก อกลฺยโก. อกมฺมฺตาติ จิตฺตเคลฺสงฺขาโตว อกมฺมฺตากาโร. โอลียนาติ โอลียนากาโร. อิริยาปถูปตฺถมฺภิตฺหิ จิตฺตํ อิริยาปถํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตํ รุกฺเข วคฺคุลิ วิย ขีเล ลคฺคิตผาณิตวารโก วิย จ โอลียติ ลมฺพติ, ตสฺส ตํ อาการํ สนฺธาย – ‘‘โอลียนา’’ติ วุตฺตํ. ทุติยปทํ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตํ. กายสฺสาติ เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยสงฺขาตสฺส นามกายสฺส. อกลฺยตา อกมฺมฺตาติ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. เมโฆ วิย อากาสํ โอนยฺหตีติ โอนาโห. โอนยฺหตีติ จ ฉาเทติ อวตฺถรติ วาติ อตฺโถ . สพฺพโตภาเคน โอนาโหติ ปริโยนาโห. อรติอาทีนํ อตฺโถ วิภงฺเค (วิภ. ๘๕๖) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ ตตฺถ วุตฺตปาฬิยา ทสฺเสตุํ – ‘‘วุตฺตํ เหต’’นฺติอาทิมาห.

ตตฺถ ปนฺเตสูติ ทูเรสุ, วิวิตฺเตสุ วา. อธิกุสเลสูติ สมถวิปสฺสนาธมฺเมสุ. อรตีติ รติปฺปฏิกฺเขโป. อรติตาติ อรมนากาโร. อนภิรตีติ อนภิรตภาโว. อนภิรมนาติ อนภิรมนากาโร . อุกฺกณฺิตาติ อุกฺกณฺนากาโร. ปริตสฺสิตาติ อุกฺกณฺนวเสเนว ปริตสฺสนา, อุกฺกณฺิตสฺเสว ตตฺถ ตตฺถ ตณฺหายนาติ วุตฺตํ โหติ. ปริตสฺสิตาติ วา กมฺปนา. ตนฺทีติ ชาติอาลสิยํ, ปกติอาลสิยนฺติ อตฺโถ. ตถา หิ กุสลกรเณ กายสฺส อวิปฺผาริกตา ลีนตา ชาติอาลสิยํ ตนฺที นาม, น โรคอุตุชาทีหิ กายเคลฺํ. ตนฺทิยนาติ ตนฺทิยนากาโร. ตนฺทิมนตาติ ตนฺทิยา อภิภูตจิตฺตตา. อลสสฺส ภาโว อาลสฺยํ, อาลสฺยายนากาโร อาลสฺยายนา. อาลสฺยายิตสฺส ภาโว อาลสฺยายิตตฺตํ. อิติ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ กิเลสวเสน กายาลสิยํ กถิตํ. ถินมิทฺธการณานฺหิ ราคาทิกิเลสานํ วเสน นามกายสฺส อาลสิยํ, ตเทว รูปกายสฺสาปีติ ทฏฺพฺพํ. ชมฺภนาติ ผนฺทนา. ปุนปฺปุนํ ชมฺภนา วิชมฺภนา. อานมนาติ ปุรโต นมนา. วินมนาติ ปจฺฉโต นมนา. สนฺนมนาติ สมนฺตโต นมนา. ปณมนาติ ยถา ตนฺตโต อุฏฺิตเปสกาโร กิสฺมิฺจิเทว คเหตฺวา อุชุํ กายํ อุสฺสาเปติ, เอวํ กายสฺส อุทฺธํ ปนา. พฺยาธิยกนฺติ อุปฺปนฺนพฺยาธิตา. อิติ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ ถินมิทฺธการณานํ ราคาทิกิเลสานํ วเสน กายพทฺธนเมว กถิตํ. ภุตฺตาวิสฺสาติ ภุตฺตวโต. ภตฺตมุจฺฉาติ ภตฺตเคลฺํ. พลวภตฺเตน หิ มุจฺฉาปตฺโต วิย โหติ. ภตฺตกิลมโถติ ภตฺเตน กิลนฺตภาโว. ภตฺตปริฬาโหติ ภตฺตทรโถ. ตสฺมิฺหิ สมเย ปริฬาหุปฺปตฺติยา อุปหตินฺทฺริโย โหติ, กาโย ชีรตีติ. กายทุฏฺุลฺลนฺติ ภตฺตํ นิสฺสาย กายสฺส อกมฺมฺตํ. อกลฺยตาติอาทิ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. ลีนนฺติ อวิปฺผาริกตาย ปฏิกุฏิตํ. อิตเร ทฺเว อาการภาวนิทฺเทสา. ถินนฺติ สปฺปิปิณฺโฑ วิย อวิปฺผาริกตาย ฆนภาเวน ิตํ. ถิยนาติ อาการนิทฺเทโส. ถิยิภาโว ถิยิตตฺตํ, อวิปฺผารวเสเนว พทฺธตาติ อตฺโถ. อิเมหิ ปน สพฺเพหิปิ ปเทหิ ถินมิทฺธการณานํ ราคาทิกิเลสานํ วเสน จิตฺตสฺส คิลานากาโร กถิโตติ เวทิตพฺโพ. ปุริมา จตฺตาโร ธมฺมาติ อรติ, ตนฺที, วิชมฺภิตา, ภตฺตสมฺมโทติ เอเต จตฺตาโร ธมฺมา. ยทา ถินมิทฺธํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ตทา อรติอาทีนมฺปิ สมฺภวโต ‘‘อุปนิสฺสยโกฏิยา ปน โหตี’’ติ วุตฺตํ, อุปนิสฺสยโกฏิยา ปจฺจโย โหตีติ อตฺโถ.

๑๔. จตุตฺเถ อุทฺทตสฺส ภาโว อุทฺธจฺจํ. ยสฺส ธมฺมสฺส วเสน อุทฺธตํ โหติ จิตฺตํ, ตํสมฺปยุตฺตา วา ธมฺมา, โส ธมฺโม อุทฺทจฺจํ. กุจฺฉิตํ กตํ กุกตํ, ทุจฺจริตํ สุจริตฺจ. อกตมฺปิ หิ กุกตเมว. เอวฺหิ วตฺตาโร โหนฺติ ‘‘ยํ มยา น กตํ, ตํ กุกต’’นฺติ. เอวํ กตากตํ ทุจฺจริตํ สุจริตฺจ กุกตํ, ตํ อารพฺภ วิปฺปฏิสารวเสน ปวตฺตํ ปน จิตฺตํ อิธ กุกตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺส ภาโว กุกฺกุจฺจํ. จิตฺตสฺส อุทฺธตากาโรติ จิตฺตสฺส อวูปสมากาโรว วุตฺโต. อวูปสมลกฺขณฺหิ อุทฺธจฺจํ. ยถาปวตฺตสฺส กตากตาการวิสิฏฺสฺส ทุจฺจริตสุจริตสฺส อนุโสจนวเสน วิรูปํ ปฏิสรณํ วิปฺปฏิสาโร. กุกฺกุจฺจสฺสปิ กตากตานุโสจนวเสน จิตฺตวิกฺเขปภาวโต อวูปสมากาโร สมฺภวตีติ อาห – ‘‘เจตโส อวูปสโมติ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺเสวตํ นาม’’นฺติ. สฺเวว จ เจตโส อวูปสโมติ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจเมว นิทฺทิฏฺํ. ตฺจ อตฺตโนว อตฺตนา สหชาตํ น โหตีติ อาห – ‘‘อยํ ปน อุปนิสฺสยโกฏิยา ปจฺจโย โหตี’’ติ. อุปนิสฺสยปจฺจยตา จ ปุริมุปฺปนฺนวเสน เวทิตพฺพา.

๑๕. ปฺจเม วิคตา จิกิจฺฉา อสฺสาติ วิจิกิจฺฉา. สภาวํ วิจินนฺโต ตาย กิจฺฉตีติ วา วิจิกิจฺฉา.

๑๖. ฉฏฺเ เหตุํ วา ปจฺจยํ วา น ลภตีติ เอตฺถ เหตุคฺคหเณน ชนกํ การณมาห, ปจฺจยคฺคหเณน อนุปาลนกํ การณํ. เหตุนฺติ วา อุปาทานการณํ. ปจฺจยนฺติ สหการณํ วุตฺตํ. นฺติ กิเลสํ. วิวฏฺเฏตฺวา อรหตฺตํ คณฺหาตีติ วิวฏฺฏาภิมุขํ จิตฺตํ เปเสตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺโต อรหตฺตผลํ คณฺหาติ. ภิกฺขาย จรนฺติ เอตฺถาติ ภิกฺขาจาโร, โคจรคามสฺเสตํ อธิวจนํ, ตสฺมึ ภิกฺขาจาเร. วยํ อาคมฺมาติ ทารภรณานุรูปํ วยํ อาคมฺม. อายูหนฺโตติ อุปจินนฺโต. องฺคารปกฺกนฺติ วีตจฺจิกงฺคาเรสุ ปกฺกํ. กึ นาเมตนฺติ ภิกฺขู ครหนฺโต อาห. ชีวมานเปตกสตฺโตติ ชีวมาโน หุตฺวา ‘‘เตเนว อตฺตภาเวน เปตภาวํ ปตฺตสตฺโต ภวิสฺสตี’’ติ ปริกปฺปวเสน วุตฺตํ. กุฏนฺติ ปานียฆฏํ. ยาว ทารุณนฺติ อติวิย ทารุณํ. วิปาโก กีทิโส ภวิสฺสตีติ ตยา กตกมฺมสฺส อายตึ อนุภวิตพฺพวิปาโก กีทิโส ภวิสฺสติ.

วิสงฺขริตฺวาติ เฉทนเภทนาทีหิ วินาเสตฺวา. ทีปกมิคปกฺขิโนติ อตฺตโน นิสินฺนภาวสฺส ทีปนโต เอวํลทฺธนามา มิคปกฺขิโน, เยน อรฺํ เนตฺวา เนสาโท เตสํ สทฺเทน อาคตาคเต มิคปกฺขิโน วธิตฺวา คณฺหาติ. เถรนฺติ จูฬปิณฺฑปาติกติสฺสตฺเถรํ. อิทฺธิยา อภิสงฺขริตฺวาติ อธิฏฺานาทิวเสน อิทฺธึ อภิสงฺขริตฺวา. อุปโยคตฺเถ เจตํ กรณวจนํ. อคฺคิปปฏิกนฺติ อจฺจิกรณํ, วิปฺผุลิงฺคนฺติ อตฺโถ. ปสฺสนฺตสฺเสวาติ อนาทเร สามิวจนํ. ตสฺส เถรสฺสาติ ตสฺส มิลกฺขติสฺสตฺเถรสฺส. ตสฺสาติ ตสฺสา อคฺคิปปฏิกาย. ปฏิพลสฺสาติ อุคฺคหณสชฺฌายาทีสุ ปฏิพลสฺส. ทุกฺขํ อุปนิสา การณเมติสฺสาติ ทุกฺขูปนิสา, ทุกฺขนิพนฺธนา ทุกฺขเหตุกา สทฺธาติ วุตฺตํ โหติ. วตฺตมุเขน กมฺมฏฺานสฺส กถิตตฺตา ‘‘วตฺตสีเส ตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ปลาลวรณกนฺติ ปลาลปุฺชํ.

อารมฺภถาติ สมถวิปสฺสนาทีสุ วีริยํ กโรถ. นิกฺกมถาติ โกสชฺชโต นิกฺขมถ, กามานํ วา ปนูทนาย นิกฺขมถ, อุภเยนปิ วีริยเมว วุตฺตํ. วีริยฺหิ อารมฺภนกวเสน อารมฺโภ, โกสชฺชโต นิกฺขมนวเสน ‘‘นิกฺกโม’’ติ วุจฺจติ. ยุฺชถ พุทฺธสาสเนติ พุทฺธสฺส ภควโต ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธสงฺขาเต ติวิธสาสเน ยุฺชถ โยคํ กโรถ. เอวมนุยุฺชนฺตา มจฺจุโน เสนํ ธุนาถ วิทฺธํเสถ. ตตฺถ มจฺจุโน เสนนฺติ –

‘‘กามา เต ปมา เสนา, ทุติยา อรติ วุจฺจติ;

ตติยา ขุปฺปิปาสา เต, จตุตฺถี ตณฺหา ปวุจฺจติ.

‘‘ปฺจมํ ถินมิทฺธํ เต, ฉฏฺา ภีรู ปวุจฺจติ;

สตฺตมี วิจิกิจฺฉา เต, มกฺโข ถมฺโภ เต อฏฺโม.

‘‘ลาโภ สิโลโก สกฺกาโร,

มิจฺฉาลทฺโธ จ โย ยโส;

โย จตฺตานํ สมุกฺกํเส,

ปเร จ อวชานาติ.

‘‘เอสา นมุจิ เต เสนา, กณฺหสฺสาภิปฺปหารินี;

น นํ อสูโร ชินาติ, เชตฺวา จ ลภเต สุข’’นฺติ. (สุ. นิ. ๔๓๘-๔๔๑) –

เอวมาคตํ กามาทิเภทํ มจฺจุโน เสนํ. เอตฺถ จ ยสฺมา อาทิโตว อคาริยภูเต สตฺเต วตฺถุกาเมสุ กิเลสกามา โมสยนฺติ, เต อภิภุยฺย อนคาริยภาวํ อุปคตานํ ปนฺเตสุ เสนาสเนสุ อฺตรฺตเรสุ วา อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ อรติ อุปฺปชฺชติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปพฺพชิเตน โข, อาวุโส, อภิรติ ทุกฺกรา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๓๑). ตโต เต ปรปฺปฏิพทฺธชีวิกตฺตา ขุปฺปิปาสา พาธติ, ตาย พาธิตานํ ปริเยสนตณฺหา จิตฺตํ กิลมยติ. อถ เนสํ กิลนฺตจิตฺตานํ ถินมิทฺธํ โอกฺกมติ, ตโต วิเสสมนธิคจฺฉนฺตานํ ทุรภิสมฺภเวสุ อรฺวนปตฺเถสุ ปนฺเตสุ เสนาสเนสุ วิหรตํ อุตฺราสสฺิตา ภีรุ ชายติ. เตสํ อุสฺสงฺกิตปริสงฺกิตานํ ทีฆรตฺตํ วิเวกรสมนสฺสาทยมานานํ วิหรตํ ‘‘น สิยา นุ โข เอส มคฺโค’’ติ ปฏิปตฺติยํ วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชติ. ตํ วิโนเทตฺวา วิหรตํ อปฺปมตฺตเกน วิเสสาธิคเมน มานมกฺขถมฺภา ชายนฺติ. เตปิ วิโนเทตฺวา วิหรตํ ตโต อธิกตรํ วิเสสาธิคมนํ นิสฺสาย ลาภสกฺการสิโลกา อุปฺปชฺชนฺติ. ลาภาทีหิ มุจฺฉิตฺวา ธมฺมปฺปติรูปกานิ ปกาเสนฺโต มิจฺฉายสํ อธิคนฺตฺวา ตตฺถ ิตา ชาติอาทีหิ อตฺตานํ อุกฺกํเสนฺติ, ปรํ วมฺเภนฺติ, ตสฺมา กามาทีนํ ปมเสนาทิภาโว เวทิตพฺโพ. นฬาคารนฺติ นเฬหิ วินทฺธติณจฺฉนฺนเคหํ.

วิหสฺสตีติ อุคฺคหณสชฺฌายนมนสิการาทีหิ วิหริสฺสติ. ชาติสํสารนฺติ ปุนปฺปุนํ ชาติสงฺขาตสํสารวฏฺฏํ. ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตีติ ทุกฺขสฺส อนฺตสงฺขาตํ นิพฺพานํ สจฺฉิกริสฺสติ. ปลาลปุฺชาหนฺติ ปลาลปุฺชํ อหนฺติ ปทจฺเฉโท. ตติยํ านนฺติ อนาคามิผลํ สนฺธาย วทติ.

ติวสฺสภิกฺขุกาเลติ อุปสมฺปทโต ตีณิ วสฺสานิ อสฺสาติ ติวสฺโส, ติวสฺโส จ โส ภิกฺขุ จาติ ติวสฺสภิกฺขุ, ตสฺส, เตน วา อุปลกฺขิโต กาโล ติวสฺสภิกฺขุกาโล, ตสฺมึ. ยทา โส ติวสฺโส ภิกฺขุ นาม โหติ, ตทาติ วุตฺตํ โหติ. กมฺมํ กโรตีติ ภาวนากมฺมํ กโรติ. คนฺถกมฺมนฺติ คนฺถวิสยํ อุคฺคหณาทิกมฺมํ. ปิณฺฑาปจิตึ กตฺวาติ อนฺโตวสฺเส เตมาสํ ทินฺนปิณฺฑสฺส กิเลสกฺขยกรเณน อปจิตึ ปูชํ กตฺวา. ปิณฺฑาปจิตึ กโรนฺโต หิ ภิกฺขุ เยหิ อตฺตโน โย ปิณฺฑปาโต ทินฺโน, เตสํ ตสฺส มหปฺผลภาวํ อิจฺฉนฺโต อตฺตโน สนฺตานเมว กิเลสกฺขยกรเณน วิโสเธตฺวา อรหตฺตํ คณฺหาติ.

มหาภูตีติ เอตฺถ ปูชาวจโน มหนฺตสทฺโท, ภูตีติ จ นาเมกเทเสน ติสฺสภูติตฺเถรํ อาลปติ. ภวติ หิ นาเมกเทเสนปิ โวหาโร ยถา ‘‘เทวทตฺโต ทตฺโต’’ติ. มหาภูตีติ วา ปิยสมุทาหาโร, โส มหติ ภูติ วิภูติ ปุฺาณาทิสมฺปทา อสฺสาติ มหาภูติ. ฉนฺนํ เสปณฺณิคจฺฉมูลนฺติ สาขาปลาสาทีหิ ฉนฺนํ ฆนจฺฉายํ เสปณฺณิคจฺฉมูลํ. อสุภกมฺมฏฺานํ ปาทกํ กตฺวาติ เกสาทิอสุภโกฏฺาสภาวนาย ปฏิลทฺธํ อุปจารสมาธึ อปฺปนาสมาธึ วา ปาทกํ กตฺวา. อสุภวิสยํ อุปจารชฺฌานาทิกมฺมเมเวตฺถ อุปริ ปวตฺเตตพฺพภาวนากมฺมสฺส การณภาวโต านนฺติ กมฺมฏฺานํ.

สหสฺสทฺวิสหสฺสสงฺขามตฺตตฺตา ‘‘มหาคเณ’’ติ วุตฺตํ. อตฺตโน วสนฏฺานโต เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวาติ อตฺตโน วสนฏฺานโต อากาเสน คนฺตฺวา วิหารสมีเป โอตริตฺวา ทิวาฏฺาเน นิสินฺนตฺเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา. กึ อาคโตสีติ กึการณา อาคโตสิ. สพฺเพสุ รตฺติทิวสภาเคสุ โอกาสํ อลภนฺโตติ โส กิร เถโร ‘‘ตุยฺหํ โอกาโส น ภวิสฺสติ, อาวุโส’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘วิตกฺกมาฬเก ิตกาเล ปุจฺฉิสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา ‘‘ตสฺมึ าเน อฺเ ปุจฺฉิสฺสนฺตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขาจารมคฺเค, ภนฺเต’’ติ วตฺวา ‘‘ตตฺราปิ อฺเ ปุจฺฉนฺตี’’ติ วุตฺเต ทุปฏฺฏนิวาสนฏฺาเน, สงฺฆาฏิปารุปนฏฺาเน, ปตฺตนีหรณฏฺาเน, คาเม จริตฺวา อาสนสาลาย ยาคุปีตกาเล, ภนฺเตติ. ตตฺถาปิ เถรา อตฺตโน กงฺขํ วิโนเทนฺติ, อาวุโสติ. อนฺโตคามโต นิกฺขมนกาเล ปุจฺฉิสฺสามิ, ภนฺเตติ. ตตฺราปิ อฺเ ปุจฺฉนฺติ, อาวุโสติ. อนฺตรามคฺเค, ภนฺเตติ. โภชนสาลาย ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน, ภนฺเต. ทิวาฏฺาเน ปาทโธวนกาเล, ภนฺเตติ. ตโต ปฏฺาย ยาว อรุณา อปเร ปุจฺฉนฺติ, อาวุโสติ. ทนฺตกฏฺํ คเหตฺวา มุขโธวนตฺถํ คมนกาเล, ภนฺเตติ. ตทาปิ อฺเ ปุจฺฉนฺตีติ. มุขํ โธวิตฺวา อาคมนกาเล, ภนฺเตติ. ตตฺราปิ อฺเ ปุจฺฉิสฺสนฺตีติ. เสนาสนํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนกาเล, ภนฺเตติ. ตตฺราปิ อฺเ ปุจฺฉนฺติ, อาวุโสติ. เอวํ สพฺเพสุ รตฺติทิวสภาเคสุ ยาจมาโน โอกาสํ น ลภิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ – ‘‘เอวํ โอกาเส อสติ มรณสฺส กถํ โอกาสํ ลภิสฺสถา’’ติ. ภนฺเต, นนุ มุขํ โธวิตฺวา เสนาสนํ ปวิสิตฺวา ตโย จตฺตาโร ปลฺลงฺเก อุณฺหาเปตฺวา โยนิโสมนสิการกมฺมํ กโรนฺตานํ โอกาสลาเภน ภวิตพฺพํ สิยาติ อธิปฺปาเยน วทติ. มณิวณฺเณติ อินฺทนีลมณิวณฺเณ.

ฆเฏนฺตสฺเสวาติ วายามนฺตสฺเสว. วิสุทฺธิปวารณนฺติ ‘‘ปริสุทฺโธ อห’’นฺติ เอวํ ปวตฺตํ วิสุทฺธิปวารณํ. อรหนฺตานเมว เหสา ปวารณา. กาฬกํ วาติ มหนฺตํ กาฬกํ สนฺธาย วทติ, ติลโก วาติ ขุทฺทกํ สนฺธาย. อุภเยนปิ สีลสฺส ปริสุทฺธภาวเมว วิภาเวติ.

ปธานกมฺมิกาติ ปธานกมฺเม นิยุตฺตา. ลทฺธมคฺคนฺติ ลทฺธูปายํ, ปมเมว ลทฺธูปเทสนฺติ วุตฺตํ โหติ. อปตฺตานีติ ฉฑฺฑิตานิ. อลาพูเนว สารเทติ สรทกาเล วาตาตปหตานิ ตตฺถ ตตฺถ วิปฺปกิณฺณอลาพูนิ วิย. กาโปตกานีติ กโปตกวณฺณานิ. ตานิ ทิสฺวาน กา รตีติ ตานิ เอวรูปานิ อฏฺีนิ ทิสฺวา ตุมฺหากํ กา นาม รติ, นนุ อปฺปมตฺตกาปิ รติ กาตุํ น วฏฺฏติเยวาติ อตฺโถ. ทุติยกถํ อกถิตปุพฺโพติ อตฺตโน วุฑฺฒตเรน สทฺธึ วุตฺตวจนสฺส ปจฺจนีกํ ทุติยกถํ อกถิตปุพฺโพ.

ตทงฺเคน, ตทงฺคสฺส ปหานํ ตทงฺคปฺปหานํ. ยฺหิ รตฺติภาเค สมุชฺชลิเตน ทีเปน อนฺธการสฺส วิย เตน เตน วิปสฺสนาย อวยวภูเตน าณงฺเคน ปฏิปกฺขวเสเนว ตสฺส ตสฺส ปหาตพฺพธมฺมสฺส ปหานมิทํ ตทงฺคปฺปหานํ นาม. ยถา กามจฺฉนฺทาทโย น จิตฺตํ ปริยุฏฺาย ติฏฺนฺติ, เอวํ ปริยุฏฺานสฺส นิเสธนํ อปฺปวตฺติกรณํ วิกฺขมฺภนํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ. ยฺหิ สเสวาเล อุทเก ปกฺขิตฺเตน ฆเฏน เสวาลสฺส วิย เตน เตน โลกิยสมาธินา นีวรณาทีนํ ปจฺจนีกธมฺมานํ วิกฺขมฺภนมิทํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ นาม. สมฺมา อุปจฺฉิชฺชนฺติ เอเตน กิเลสาติ สมุจฺเฉโท, ปหียนฺติ เอเตน กิเลสาติ ปหานํ, สมุจฺเฉทสงฺขาตํ ปหานํ นิรวเสสปฺปหานนฺติ สมุจฺเฉทปฺปหานํ. ยฺหิ อสนิวิจกฺกาภิหตสฺส รุกฺขสฺส วิย อริยมคฺคาเณน สํโยชนาทีนํ ธมฺมานํ ยถา น ปุน วตฺตนฺติ, เอวํ ปหานมิทํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ นาม. ปฏิปฺปสฺสมฺภติ วูปสมฺมติ กิเลสทรโถ เอตายาติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ, ผลํ, สาเยว ปหานนฺติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ. สพฺเพ กิเลสา สพฺพสงฺขตา วา นิสฺสรนฺติ อปคจฺฉนฺติ เอเตนาติ นิสฺสรณํ, นิพฺพานํ, ตเทว ปหานนฺติ นิสฺสรณปฺปหานํ. ปฏิปฺปสฺสมฺภยมานนฺติ ปฏิปฺปสฺสมฺภํ กิเลสวูปสมํ กุรุมานํ. โลกิยโลกุตฺตเรหีติ ตทงฺควิกฺขมฺภนปฺปหานานํ โลกิยตฺตา, อิตเรสํ โลกุตฺตรตฺตา วุตฺตํ.

นิมียติ ผลํ เอเตน อุปฺปชฺชนฏฺาเน ปกฺขิปมานํ วิย โหตีติ นิมิตฺตํ, การณสฺเสตํ อธิวจนํ. อสุภสฺส นิมิตฺตํ, อสุภเมว วา นิมิตฺตนฺติ อสุภนิมิตฺตํ. อสุภนิสฺสิตมฺปิ หิ ฌานํ นิสฺสิเต นิสฺสยโวหาเรน อสุภนฺติ โวหรียติ ยถา ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติ. เตเนวาห – ‘‘ทสสุ อสุเภสุ อุปฺปนฺนํ สารมฺมณํ ปมชฺฌาน’’นฺติ. อนิจฺเจ อนิจฺจนฺติอาทินา นเยน วุตฺตสฺสาติ อิมินา จตุพฺพิธํ โยนิโสมนสิการํ ทสฺเสติ. เหฏฺา เจตฺถ อิธ จ จตุพฺพิธสฺส อโยนิโสมนสิการสฺส โยนิโสมนสิการสฺส จ คหณํ นิรวเสสทสฺสนตฺถํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตสุ ปน อสุเภ ‘‘อสุภ’’นฺติ มนสิกาโร อิธาธิปฺเปโต, ตทนุกูลตฺตา วา อิตเรสมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ.

เอกาทสสุ อสุเภสุ ปฏิกูลาการสฺส อุคฺคณฺหนํ, ยถา วา ตตฺถ อุคฺคหนิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตถา ปฏิปตฺติ อสุภนิมิตฺตสฺส อุคฺคโห. อุปจารปฺปนาวหาย อสุภภาวนาย อนุยุฺชนํ อสุภภาวนานุโยโค. โภชเน มตฺตฺุโน ถินมิทฺธาภิภวาภาวา โอตารํ อลภมาโน กามจฺฉนฺโท ปหียตีติ วทนฺติ. โภชนนิสฺสิตํ ปน อาหาเร ปฏิกูลสฺํ, ตพฺพิปริณามสฺส ตทาธารสฺส ตสฺส จ อุทริยภูตสฺส อสุภตาทสฺสนํ, กายสฺส จ อาหารฏฺิติกตาทสฺสนํ โย อุปฺปาเทติ, โส วิเสสโต โภชเน ปมาณฺู นาม, ตสฺส จ กามจฺฉนฺโท ปหียเตว. ทสวิธฺหิ อสุภนิมิตฺตนฺติ ปากฏวเสน วุตฺตํ. กายคตาสตึ ปน คเหตฺวา เอกาทสวิธมฺปิ อสุภนิมิตฺตํ เวทิตพฺพํ.

อภุตฺวา อุทกํ ปิเวติ ปานียสฺส โอกาสทานตฺถํ จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป อภุตฺวา ปานียํ ปิเวยฺยาติ อตฺโถ. เตน วุตฺตํ – ‘‘จตุนฺนํปฺจนฺนํ อาโลปานํ โอกาเส สตี’’ติ. อภิธมฺมฏีกากาเรน ปเนตฺถ ‘‘จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป, ภุตฺวาน อุทกํ ปิเว’’ติ ปาํ ปริกปฺเปตฺวา อฺถา อตฺโถ วณฺณิโต, โส อฏฺกถาย น สเมติ. อสุภกมฺมิกติสฺสตฺเถโร ทนฺตฏฺิทสฺสาวี.

๑๗. สตฺตเม มิชฺชติ หิตผรณวเสน สินิยฺหตีติ มิตฺโต, หิเตสี ปุคฺคโล, ตสฺมึ มิตฺเต ภวา, มิตฺตสฺส วา เอสาติ เมตฺตา, หิเตสิตา. ตตฺถ ‘‘เมตฺตา’’ติ วุตฺเต อปฺปนาปิ อุปจาโรปิ วฏฺฏติ สาธารณวจนภาวโตติ อาห – ‘‘เมตฺตาติ เอตฺตาวตา ปุพฺพภาโคปิ วฏฺฏตี’’ติ. อปิ-สทฺโท อปฺปนํ สมฺปิณฺเฑติ. อปฺปนํ อปฺปตฺตาย เมตฺตาย สุฏฺุ มุจฺจนสฺส อภาวโต เจโตวิมุตฺตีติ ‘‘อปฺปนาว อธิปฺเปตา’’ติ วุตฺตํ.

สตฺเตสุ เมตฺตายนสฺส หิตูปสํหารสฺส อุปฺปาทนํ ปวตฺตนํ เมตฺตานิมิตฺตสฺส อุคฺคโห. ปมุปฺปนฺโน เมตฺตามนสิกาโร ปรโต อุปฺปชฺชนกสฺส การณภาวโต เมตฺตามนสิกาโรว เมตฺตานิมิตฺตํ. กมฺมํเยว สกํ เอเตสนฺติ กมฺมสฺสกา, สตฺตา, ตพฺภาโว กมฺมสฺสกตา, กมฺมทายาทตา. โทสเมตฺตาสุ ยาถาวโต อาทีนวานิสํสานํ ปฏิสงฺขานวีมํสา อิธ ปฏิสงฺขานํ. เมตฺตาวิหารีกลฺยาณมิตฺตวนฺตตา อิธ กลฺยาณมิตฺตตา. โอทิสฺสกอโนทิสฺสกทิสาผรณานนฺติ อตฺตอติปิยมชฺฌตฺตเวริวเสน โอทิสฺสกตา, สีมาสมฺเภเท กเต อโนทิสฺสกตา, เอกาทิทิสาผรณวเสน ทิสาผรณตา เมตฺตาย อุคฺคหเณ เวทิตพฺพา. วิหารรจฺฉคามาทิวเสน วา โอทิสฺสกทิสาผรณํ. วิหาราทิอุทฺเทสรหิตํ ปุรตฺถิมาทิทิสาวเสน อโนทิสฺสกทิสาผรณํ. เอวํ วา ทฺวิธา อุคฺคหณํ สนฺธาย – ‘‘โอทิสฺสกอโนทิสฺสกทิสาผรณ’’นฺติ วุตฺตํ. อุคฺคโห จ ยาว อุปจารา ทฏฺพฺโพ. อุคฺคหิตาย อาเสวนา ภาวนา. ตตฺถ สพฺเพ สตฺตา, ปาณา, ภูตา, ปุคฺคลา, อตฺตภาวปริยาปนฺนาติ เอเตสํ วเสน ปฺจวิธา. เอเกกสฺมึ อเวรา โหนฺตุ, อพฺยาปชฺฌา, อนีฆา, สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตูติ จตุธา ปวตฺติโต วีสติวิธา อโนธิโสผรณา เมตฺตา. สพฺพา อิตฺถิโย, ปุริสา, อริยา, อนริยา, เทวา, มนุสฺสา, วินิปาติกาติ สตฺตาธิกรณวเสน ปวตฺตา สตฺตวิธา อฏฺวีสติวิธา วา, ทสหิ ทิสาหิ ทิสาธิกรณวเสน ปวตฺตา ทสวิธา จ, เอเกกาย วา ทิสาย สตฺตาทิอิตฺถาทิอเวราทิเภเทน อสีตาธิกจตุสตปฺปเภทา จ โอธิโสผรณา เวทิตพฺพา. เมตฺตํ ภาเวนฺตสฺสาติ เมตฺตาฌานํ ภาเวนฺตสฺส. ตฺวํ เอตสฺส กุทฺโธติอาทิ ปจฺจเวกฺขณาวิธิทสฺสนํ. อปฺปฏิจฺฉิตปเหณกํ วิยาติ อสมฺปฏิจฺฉิตปณฺณาการํ วิย. ปฏิสงฺขาเนติ วีมํสายํ. วตฺตนิอฏวิยํ อตฺตคุตฺตตฺเถรสทิเส.

๑๘. อฏฺเม กุสลธมฺมสมฺปฏิปตฺติยา ปฏฺปนสภาวตาย ตปฺปฏิปกฺขานํ วิโสสนสภาวตาย จ อารมฺภธาตุอาทิโต ปวตฺตวีริยนฺติ อาห – ‘‘ปมารมฺภวีริย’’นฺติ. ยสฺมา ปมารมฺภมตฺตสฺส โกสชฺชวิธมนํ ถามคมนฺจ นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘โกสชฺชโต นิกฺขนฺตตฺตา ตโต พลวตร’’นฺติ. ยสฺมา ปน อปราปรุปฺปตฺติยา ลทฺธาเสวนํ อุปรูปริ วิเสสํ อาวหนฺตํ อติวิย ถามคตเมว โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนโต ตโตปิ พลวตร’’นฺติ. ปนูทนายาติ นีหรณาย. ยถา มหโต ปลิฆสฺส อุคฺฆาฏกชนสฺส มหนฺโต อุสฺสาโห อิจฺฉิตพฺโพ, เอวมิธาปีติ ‘‘นิกฺกโม เจตโส ปลิฆุคฺฆาฏนายา’’ติ วุตฺตํ. มหาปรกฺกโม เอว ปเรน กตํ พนฺธนํ ฉินฺเทยฺย, เอวมิธาปีติ วุตฺตํ – ‘‘ปรกฺกโม เจตโส พนฺธนจฺเฉทนายา’’ติ.

อารทฺธํ สํสาธิตํ ปริปูริตํ วีริยํ เอตสฺสาติ อารทฺธวีริโย, นิปฺผนฺนวีริโย, อารทฺธํ ปฏฺปิตํ วีริยํ เอตสฺสาติ อารทฺธวีริโย. วีริยารมฺภปฺปสุโตติ อาห – ‘‘อารทฺธวีริยสฺสาติ ปริปุณฺณวีริยสฺสเจว ปคฺคหิตวีริยสฺส จา’’ติ. จตุโทสาปคตนฺติ อติลีนตาทีหิ จตูหิ โทเสหิ อปคตํ. จตุโทสาปคตตฺตเมว วิภาเวติ ‘‘น จ อติลีน’’นฺติอาทินา. อติลีนฺหิ ภาวนาจิตฺตํ โกสชฺชปกฺขิกํ สิยา, อติปคฺคหิตฺจ อุทฺธจฺจปกฺขิกํ. ภาวนาวีถึ อนชฺโฌคาเหตฺวา สงฺโกจาปตฺติ อติลีนตา. อชฺโฌคาเหตฺวา อนฺโตสงฺโกโจ อชฺฌตฺตํ สํขิตฺตตา. อติปคฺคหิตตา อจฺจารทฺธวีริยตา. พหิทฺธา วิกฺขิตฺตตา พหิวิสฏวิตกฺกานุธาวนา. ตเทตํ วีริยํ จงฺกมาทิกายิกปฺปโยคาวหํ กายิกํ, ตทฺํ เจตสิกํ. รตฺติทิวสฺส ปฺจ โกฏฺาเสติ ปุพฺพณฺหสายนฺหปมมชฺฌิมปจฺฉิมยามสงฺขาเต ปฺจ โกฏฺาเส. ตทุภยมฺปีติ กายิกํ เจตสิกฺจ วีริยํ. มิลกฺขติสฺสตฺเถรสฺส มหาสีวตฺเถรสฺส จ วตฺถุ เหฏฺา ทสฺสิตเมว.

ปีติมลฺลกตฺเถรสฺส วตฺถุ ปน เอวํ เวทิตพฺพํ. โส กิร คิหิกาเล มลฺลยุทฺธาย อาหิณฺฑนฺโต ตีสุ รชฺเชสุ ปฏากํ คเหตฺวา ตมฺพปณฺณิทีปํ อาคมฺม ราชานํ ทิสฺวา รฺา กตานุคฺคโห เอกทิวสํ กิลฺจกาสนสาลาทฺวาเรน คจฺฉนฺโต ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, น ตุมฺหากํ, ตํ ปชหถ, ตํ โว ปหีนํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ภวิสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๓๓-๓๔; ๔.๑๐๒; ม. นิ. ๑.๒๔๗) นตุมฺหากวคฺคํ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘เนว กิร รูปํ อตฺตโน, น เวทนา’’ติ. โส ตํเยว องฺกุสํ กตฺวา นิกฺขมิตฺวา มหาวิหารํ คนฺตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา ปพฺพชิโต อุปสมฺปนฺโน ทฺเวมาติกา ปคุณํ กตฺวา ตึส ภิกฺขู คเหตฺวา อวรวาลิยองฺคณํ คนฺตฺวา สมณธมฺมํ อกาสิ. ปาเทสุ อวหนฺเตสุ ชณฺณุเกหิ จงฺกมติ. ตเมนํ รตฺตึ เอโก มิคลุทฺทโก ‘‘มิโค’’ติ มฺมาโน ปหริ, สตฺติ วินิวิชฺฌิตฺวา คตา. โส ตํ สตฺตึ หราเปตฺวา ปหารมุขานิ ติณวฏฺฏิยา ปูราเปตฺวา ปาสาณปิฏฺิยํ อตฺตานํ นิสีทาเปตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อุกฺกาสิตสทฺเทน อาคตานํ ภิกฺขูนํ พฺยากริตฺวา อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ภาสิตํ พุทฺธเสฏฺสฺส, สพฺพโลกคฺควาทิโน;

น ตุมฺหากํ อิทํ รูปํ, ตํ ชเหยฺยาถ ภิกฺขโว. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๖);

‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา, อุปฺปาทวยธมฺมิโน;

อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ, เตสํ วูปสโม สุโข’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๖; เถรคา. ๑๑๖๘);

กุฏุมฺพิยปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺสปิ วตฺถุ เอวํ เวทิตพฺพํ. สาวตฺถิยํ กิร ติสฺโส นาม กุฏุมฺพิยปุตฺโต จตฺตาลีส หิรฺโกฏิโย ปหาย ปพฺพชิตฺวา อคามเก อรฺเ วิหรติ, ตสฺส กนิฏฺภาตุภริยา ‘‘คจฺฉถ, นํ ชีวิตา โวโรเปถา’’ติ ปฺจสเต โจเร เปเสสิ, เต คนฺตฺวา เถรํ ปริวาเรตฺวา นิสีทึสุ. เถโร อาห – ‘‘กสฺมา อาคตตฺถ อุปาสกา’’ติ? ตํ ชีวิตา โวโรเปสฺสามาติ. ปาฏิโภคํ เม อุปาสกา คเหตฺวา อชฺเชกรตฺตึ ชีวิตํ เทถาติ. โก เต, สมณ, อิมสฺมึ าเน ปาฏิโภโค ภวิสฺสตีติ? เถโร มหนฺตํ ปาสาณํ คเหตฺวา อูรุฏฺีนิ ภินฺทิตฺวา ‘‘วฏฺฏติ อุปาสกา ปาฏิโภโค’’ติ อาห. เต อปกฺกมิตฺวา จงฺกมนสีเส อคฺคึ กตฺวา นิปชฺชึสุ. เถรสฺส เวทนํ วิกฺขมฺเภตฺวา สีลํ ปจฺจเวกฺขโต ปริสุทฺธสีลํ นิสฺสาย ปีติปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชิ. ตโต อนุกฺกเมน วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺโต ติยามรตฺตึ สมณธมฺมํ กตฺวา อรุณุคฺคมเน อรหตฺตํ ปตฺโต อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘อุโภ ปาทานิ ภินฺทิตฺวา, สฺเปสฺสามิ โว อหํ;

อฏฺฏิยามิ หรายามิ, สราคมรณํ อหํ.

‘‘เอวาหํ จินฺตยิตฺวาน, ยถาภูตํ วิปสฺสิสํ;

สมฺปตฺเต อรุณุคฺคมฺหิ, อรหตฺตํ อปาปุณิ’’นฺติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๐; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๖);

อติโภชเนนิมิตฺตคฺคาโหติ อติโภชเน ถินมิทฺธสฺส นิมิตฺตคฺคาโห, ‘‘เอตฺตเก ภุตฺเต ตํ โภชนํ ถินมิทฺธสฺส การณํ โหติ, เอตฺตเก น โหตี’’ติ ถินมิทฺธสฺส การณาการณคฺคาโห โหตีติ อตฺโถ. พฺยติเรกวเสน เจตํ วุตฺตํ, ตสฺมา เอตฺตเก ภุตฺเต ตํ โภชนํ ถินมิทฺธสฺส การณํ น โหตีติ โภชเน มตฺตฺุตาว อตฺถโต ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห – ‘‘จตุปฺจ…เป… ตํ น โหตี’’ติ. ทิวา สูริยาโลกนฺติ ทิวา คหิตนิมิตฺตํ สูริยาโลกํ รตฺติยํ มนสิกโรนฺตสฺสปีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ธุตงฺคานํ วีริยนิสฺสิตตฺตา วุตฺตํ – ‘‘ธุตงฺคนิสฺสิตสปฺปายกถายปี’’ติ.

๑๙. นวเม ฌาเนน วา วิปสฺสนาย วา วูปสมิตจิตฺตสฺสาติ ฌาเนน วา วิปสฺสนาย วา อวูปสมกรกิเลสวิคมเนน วูปสมิตจิตฺตสฺส. กุกฺกุจฺจมฺปิ กตากตานุโสจนวเสน ปวตฺตมานํ เจตโส อวูปสมาวหตาย อุทฺธจฺเจน สมานลกฺขณนฺติ อุภยสฺส ปหานการณํ อภินฺนํ กตฺวา วุตฺตํ. พหุสฺสุตสฺส คนฺถโต อตฺถโต จ สุตฺตาทีนิ วิจาเรนฺตสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อตฺถเวทาทิปฺปฏิลาภสมฺภวโต วิกฺเขโป น โหติ. ยถา วิธิปฺปฏิปตฺติยา ยถานุรูปปตฺติการปฺปวตฺติยา จ วิกฺเขโป จ กตากตานุโสจนฺจ น โหตีติ ‘‘พาหุสจฺเจนปิ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียตี’’ติ อาห. ยทคฺเคน พาหุสจฺเจน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียติ, ตทคฺเคน ปริปุจฺฉกตาวินยปฺปกตฺุตาหิปิ ตํ ปหียตีติ ทฏฺพฺพํ. วุทฺธเสวิตา จ วุทฺธสีลิตํ อาวหตีติ เจตโส วูปสมกรตฺตา ‘‘อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปฺปหานการี’’ติ วุตฺตํ, วุทฺธตํ ปน อนเปกฺขิตฺวา กุกฺกุจฺจวิโนทกา วินยธรา กลฺยาณมิตฺตาติ วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. วิกฺเขโป จ ปพฺพชิตานํ เยภุยฺเยน กุกฺกุจฺจเหตุโก โหตีติ ‘‘กปฺปิยากปฺปิยปริปุจฺฉาพหุลสฺสา’’ติอาทินา วินยนเยเนว ปริปุจฺฉกตาทโย นิทฺทิฏฺา.

๒๐. ทสเม พหุสฺสุตานํ ธมฺมสภาวาวโพธสมฺภวโต วิจิกิจฺฉา อนวกาสา เอวาติ อาห – ‘‘พาหุสจฺเจนปิ…เป… วิจิกิจฺฉา ปหียตี’’ติ. กามํ พาหุสจฺจปริปุจฺฉกตาหิ สพฺพาปิ อฏฺวตฺถุกา วิจิกิจฺฉา ปหียติ, ตถาปิ รตนตฺตยวิจิกิจฺฉามูลิกา เสสวิจิกิจฺฉาติ อาห – ‘‘ตีณิ รตนานิ อารพฺภ ปริปุจฺฉาพหุลสฺสปี’’ติ. รตนตฺตยคุณาวโพเธหิ ‘‘สตฺถริ กงฺขตี’’ติอาทิวิจิกิจฺฉาย อสมฺภโวติ. วินเย ปกตฺุตา ‘‘สิกฺขาย กงฺขตี’’ติ (ธ. ส. ๑๐๐๘; วิภ. ๙๑๕) วุตฺตาย วิจิกิจฺฉาย ปหานํ กโรตีติ อาห – ‘‘วินเย จิณฺณวสีภาวสฺสปี’’ติ. โอกปฺปนิยสทฺธาสงฺขาตอธิโมกฺขพหุลสฺสาติ สทฺเธยฺยวตฺถุโน อนุปฺปวิสนสทฺธาสงฺขาตอธิโมกฺเขน อธิมุจฺจนพหุลสฺส. อธิมุจฺจนฺจ อธิโมกฺขุปฺปาทนเมวาติ ทฏฺพฺพํ. สทฺธาย วา ตํนินฺนโปณตา อธิมุตฺติ อธิโมกฺโข . นีวรณานํ ปจฺจยสฺส เจว ปจฺจยฆาตสฺส จ วิภาวิตตฺตา วุตฺตํ – ‘‘วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิต’’นฺติ.

นีวรณปฺปหานวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.