📜
๖. อจฺฉราสงฺฆาตวคฺควณฺณนา
๕๑. ฉฏฺสฺส ¶ ปเม อสฺสุตวาติ เอตฺถ ‘‘สาธุ ปฺาณวา นโร’’ติอาทีสุ (ชา. ๒.๑๘.๑๐๑) อตฺถิตามตฺตสฺส โพธโก วา-สทฺโท. ‘‘สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๘๑) ปสํสาวิสิฏฺาย อตฺถิตาย. ‘‘ปฺวา โหติ ¶ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๑๗; ม. นิ. ๒.๒๕) อติสยตฺถวิสิฏฺาย อตฺถิตาย, ตสฺมา ยสฺส ปสตฺถํ อติสเยน วา สุตํ อตฺถิ, โส สุตวา, สํกิเลสวิทฺธํสนสมตฺถํ ปริยตฺติธมฺมสฺสวนํ, ตํ สุตฺวา ตถตฺตาย ปฏิปตฺติ จ ‘‘สุตวา’’ติ อิมินา ปเทน ปกาสิตา. โสตพฺพยุตฺตํ สุตฺวา กตฺตพฺพนิปฺผตฺติวเสน สุณีติ วา สุตวา, ตปฺปฏิกฺเขเปน น สุตวาติ อสฺสุตวา.
อยฺหิ อกาโร ‘‘อเหตุกา ธมฺมา (ธ. ส. ๒ ทุกมาติกา), อภิกฺขุโก อาวาโส’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๑๐๔๗) ตํสมาโยคนิวตฺติยํ ทิฏฺโ. ‘‘อปฺปจฺจยา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๗ ทุกมาติกา) ตํสมฺพนฺธิภาวนิวตฺติยํ. ปจฺจยุปฺปนฺนฺหิ ปจฺจยสมฺพนฺธีติ อปจฺจยุปฺปนฺนตฺตา อตํสมฺพนฺธิตา เอตฺถ โชติตา. ‘‘อนิทสฺสนา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๙ ทุกมาติกา) ตํสภาวนิวตฺติยํ. นิทสฺสนฺหิ เอตฺถ ทฏฺพฺพตา. อถ วา ปสฺสตีติ นิทสฺสนํ, จกฺขุวิฺาณํ. ตคฺคเหตพฺพตานิวตฺติยํ, ตถา ‘‘อนาสวา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๑๕ ทุกมาติกา). ‘‘อปฺปฏิฆา ธมฺมา (ธ. ส. ๑๐ ทุกมาติกา) อนารมฺมณา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๕๕ ทุกมาติกา) ตํกิจฺจนิวตฺติยํ. ‘‘อรูปิโน ธมฺมา อเจตสิกาธมฺมา’’ติ ตํสภาวนิวตฺติยํ. ตทฺตา หิ อิธ ปกาสิตา. ‘‘อมนุสฺโส’’ติ ตพฺภาวมตฺตนิวตฺติยํ. มนุสฺสตฺตมตฺตํ นตฺถิ, อฺํ ตํสทิสนฺติ. สทิสตา หิ เอตฺถ สูจิตา. ‘‘อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๓) จ ตํสมฺภาวนียคุณนิวตฺติยํ. ครหา หิ อิธ ายติ. ‘‘กจฺจิ โภโต อนามยํ (ชา. ๑.๑๕.๑๔๖; ๒.๒๐.๑๒๙) อนุทรา กฺา’’ติ จ ตทนปฺปภาวนิวตฺติยํ. ‘‘อนุปฺปนฺนา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๑๗ ติกมาติกา) ตํสทิสภาวนิวตฺติยํ. อตีตานฺหิ อุปฺปนฺนปุพฺพตฺตา อุปฺปาทิธมฺมานฺจ ปจฺจเยกเทสสิทฺธิยา อารทฺธุปฺปาทภาวโต กาลวินิมุตฺตสฺส จ วิชฺชมานตฺตา อุปฺปนฺนานุกูลตา, ปเคว ปจฺจุปฺปนฺนานนฺติ ตพฺพิธุรตา เหตฺถ วิฺายติ. ‘‘อเสกฺขา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๑๑ ติกมาติกา) ตทปริโยสานนิวตฺติยํ. ตนฺนิฏฺานฺเหตฺถ ปกาสิตนฺติ เอวํ อเนเกสํ ¶ อตฺถานํ โชตโก. อิธ ปน ‘‘อรูปิโน ธมฺมา (ธ. ส. ๑๑ ทุกมาติกา), อเจตสิกา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๕๗ ทุกมาติกา) วิย ตํสภาวนิวตฺติยํ ทฏฺพฺโพ, อฺตฺเถติ อตฺโถ. เอเตนสฺส สุตาทิาณวิรหํ ทสฺเสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อาคมาธิคมาภาวา เยฺโย อสฺสุตวา อิตี’’ติ.
อิทานิ ¶ ตสฺสตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘โย หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา ขนฺธธาตาทิโกสลฺเลนปิ อุปกฺกิเลสอุปกฺกิลิฏฺานํ ชานนเหตุภูตํ พาหุสจฺจํ โหติ. ยถาห – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, พหุสฺสุโต โหติ? ยโต โข, ภิกฺขุ, ขนฺธกุสโล โหติ. ธาตุ…เป… อายตน…เป… ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสโล โหติ. เอตฺตาวตา โข, ภิกฺขุ, พหุสฺสุโต โหตี’’ติ. ตสฺมา ‘‘ยสฺส จ ขนฺธธาตุอายตนปจฺจยาการสติปฏฺานาทีสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วาจุคฺคตกรณํ อุคฺคโห. อตฺถปริปุจฺฉนํ ปุริปุจฺฉา. กุสเลหิ สห โจทนาปริหรณวเสน วินิจฺฉยกรณํ วินิจฺฉโย. อาจริเย ปน ปยิรุปาสิตฺวา อตฺถธมฺมานํ อาคมนํ สุตมยาณวเสน อวพุชฺฌนํ อาคโม. มคฺคผลนิพฺพานานํ สจฺฉิกิริยา อธิคโม.
พหูนํ นานปฺปการานํ สกฺกายทิฏฺาทีนํ อวิหตตฺตา ตา ชเนนฺติ, ตาหิ วา ชนิตาติ ปุถุชฺชนา. อวิฆาตเมว วา ชน-สทฺโท วทติ. ปุถุ สตฺถารานํ มุขุลฺโลกิกาติ เอตฺถ ปุถู ชนา สตฺถุปฏิฺา เอเตสนฺติ ปุถุชฺชนา. สพฺพคตีหิ อวุฏฺิตาติ เอตฺถ ชเนตพฺพา, ชายนฺติ วา เอตฺถ สตฺตาติ ชนา, คติโย, ตา ปุถู เอเตสนฺติ ปุถุชฺชนา. อิโต ปเร ชายนฺติ เอเตหีติ ชนา, อภิสงฺขาราทโย, เต เอเตสํ ปุถู วิชฺชนฺตีติ ปุถุชฺชนา. อภิสงฺขาราทิอตฺโถ เอว วา ชน-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. โอฆา กาโมฆาทโย. ราคคฺคิอาทโย สนฺตาปา. เต เอว สพฺเพปิ วา กิเลสา ปริฬาหา. ปุถุ ปฺจสุ กามคุเณสุ รตฺตาติ เอตฺถ ชายตีติ ชโน, ราโค เคโธติ เอวมาทิโก, ปุถุ ชโน เอเตสนฺติ ปุถุชฺชนา. ปุถูสุ ชนา ชาตา รตฺตาติ เอวํ ราคาทิอตฺโถ เอว วา ชน-สทฺโท ทฏฺพฺโพ.
รตฺตาติ วตฺถํ วิย รงฺคชาเตน จิตฺตสฺส วิปริณามกเรน ฉนฺทราเคน รตฺตา สารตฺตา. คิทฺธาติ อภิกงฺขนสภาเวน อภิคิชฺฌเนน คิทฺธา เคธํ อาปนฺนา. คธิตาติ คนฺถิตา วิย ทุมฺโมจนียภาเวน ตตฺถ ปฏิพทฺธา. มุจฺฉิตาติ กิเลสวเสน วิสฺิภูตา วิย อนฺกิจฺจา โมหมาปนฺนา. อชฺโฌปนฺนาติ อนฺสาธารเณ วิย กตฺวา คิลิตฺวา ปรินิฏฺาเปตฺวา ิตา. ลคฺคาติ วงฺกกณฺฏเก วิย อาสตฺตา, มหาปลิเป ยาว นาสิกคฺคา ปลิปนฺนปุริโส วิย อุทฺธริตุํ อสกฺกุเณยฺยภาเวน นิมุคฺคา ¶ . ลคฺคิตาติ มกฺกฏาเลเป อาลคฺคภาเวน ¶ สมฺมสิโต วิย มกฺกโฏ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ วเสน อาลคฺคิตา. ปลิพุทฺธาติ สมฺพทฺธา, อุปทฺทุตา วา. อาวุตาติ อาวริตา. นิวุตาติ นิวาริตา. โอวุตาติ ปลิคุณฺิตา, ปริโยนทฺธา วา. ปิหิตาติ ปิทหิตา. ปฏิจฺฉนฺนาติ ฉาทิตา. ปฏิกุชฺชิตาติ เหฏฺามุขชาตา.
‘‘อสฺสุตวา’’ติ เอเตน อวิชฺชนฺธตา วุตฺตาติ อาห – ‘‘อนฺธปุถุชฺชโน วุตฺโต’’ติ. จิตฺตฏฺิติ จิตฺตปริคฺคโห นตฺถีติ ยาย ปฏิปตฺติยา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ตโต วิปฺปมุตฺติฺจ ยถาสภาวโต ชาเนยฺย, สา จิตฺตภาวนา จิตฺตฏฺิติ. เอการมฺมเณ สุฏฺุ สมาธานวเสน อวฏฺิตึ ปาทกํ กตฺวา ปวตฺติตา สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ นิสฺสยารมฺมเณหิ จ สทฺธึ จิตฺตสฺส ปริคฺคหสฺิตา วิปสฺสนาภาวนาปิ นตฺถิ, ยาย วุตฺตมตฺถํ ยถาสภาวโต ชาเนยฺย.
๕๒. ทุติเย สุตวาติ ปทสฺส อตฺโถ อนนฺตรสุตฺเต วุตฺโตเยว. อริยสาวโกติ เอตฺถ จตุกฺกํ สมฺภวตีติ ตํ ทสฺเสตุํ – ‘‘อตฺถิ อริโย’’ติอาทิ อารทฺธํ. ปจฺเจกํ สจฺจานิ พุทฺธวนฺโตติ ปจฺเจกพุทฺธา. นนุ สพฺเพปิ อริยา ปจฺเจกเมว สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺติ ธมฺมสฺส ปจฺจตฺตเวทนียภาวโต? นยิทมีทิสํ ปฏิเวธํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยถา ปน สาวกา อฺเสํ นิสฺสเยน สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺติ ปรโตโฆเสน วินา เตสํ ทสฺสนมคฺคสฺส อนุปฺปชฺชนโต. ยถา จ สมฺมาสมฺพุทฺธา อฺเสํ นิสฺสยภาเวน สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌนฺติ, น เอวเมเต, เอเต ปน อปรเนยฺยา หุตฺวา อปรนายกภาเวน สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปจฺเจกํ สจฺจานิ พุทฺธวนฺโตติ ปจฺเจกพุทฺธา’’ติ.
อตฺถิ สาวโก น อริโยติ เอตฺถ โปถุชฺชนิกาย สทฺธาย รตนตฺตเย อภิปฺปสนฺโน สทฺโธปิ คหิโต เอว. คิหี อนาคตผโลติ อิทํ ปน นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. ยถาวุตฺตปุคฺคโล หิ สรณคมนโต ปฏฺาย โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโนอิจฺเจว วตฺตพฺพตํ ลภติ. สฺวายมตฺโถ ทกฺขิณาวิสุทฺธิสุตฺเตน (ม. นิ. ๓.๓๗๖ อาทโย) ทีเปตพฺโพ. สุตวาติ เอตฺถ วุตฺตอตฺโถ นาม อตฺตหิตปรหิตปฺปฏิปตฺติ, ตสฺส วเสน สุตสมฺปนฺโน. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘โส จ โหติ สุเตน อุปปนฺโน, อปฺปมฺปิ ¶ เจ สหิตํ ภาสมาโน’’ติ จ อาทิ. อริยสาวโกติ เวทิตพฺโพติ อริยสฺส ภควโต ธมฺมสฺสวนกิจฺเจ ยุตฺตปฺปยุตฺตภาวโต วุตฺตํ. อุปกฺกิเลเสหิ วิปฺปมุตฺติ อนุปกฺกิลิฏฺตา, ตสฺสา ยถาสภาวชานนํ ทฬฺหตราย เอว จิตฺตภาวนาย สติ โหติ, น อฺถาติ ‘‘พลววิปสฺสนา กถิตา’’ติ วุตฺตํ.
๕๓. ตติเย อคฺคิกฺขนฺโธปมสุตฺตนฺตอฏฺุปฺปตฺติยนฺติ อคฺคิกฺขนฺโธปมสุตฺเต (อ. นิ. ๗.๗๒) เทสนาอฏฺุปฺปตฺติยํ ¶ . ตํเทสนาเหตุกฺหิ เอกจฺจานํ ภิกฺขูนํ มิจฺฉาปฏิปตฺตึ นิมิตฺตํ กตฺวา ภควา อิมํ สุตฺตํ เทเสสิ. อวิชหิตเมว โหติ สพฺพกาลํ สุปฺปติฏฺิตสติสมฺปชฺตฺตา. ยสฺมา พุทฺธานํ รูปกาโย พาหิรพฺภนฺตเรหิ มเลหิ อนุปกฺกิลิฏฺโ สุโธตชาติมณิสทิโส, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘อุปฏฺากานุคฺคหตฺถํ สรีรผาสุกตฺถฺจา’’ติ. วีตินาเมตฺวาติ ผลสมาปตฺตีหิ วีตินาเมตฺวา. กาลปริจฺเฉทวเสน วิวิตฺตาสเน วีตินามนํ วิเวกนินฺนตาย เจว ปเรสํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนตฺถฺจ. นิวาเสตฺวาติ วิหารนิวาสนปริวตฺตนวเสน นิวาเสตฺวา. กทาจิ เอกกสฺส, กทาจิ ภิกฺขุสงฺฆปริวุตสฺส, กทาจิ ปกติยา, กทาจิ ปาฏิหาริเยหิ วตฺตมาเนหิ จ คามปฺปเวโส ตถา ตถา วิเนตพฺพปุคฺคลวเสน. อุปสํหริตฺวาติ หิมวนฺตาทีสุ ปุปฺผิตรุกฺขาทิโต อาเนตฺวา. โอณตุณฺณตาย ภูมิยา สตฺถุ ปทนิกฺเขปสมเย สมภาวาปตฺติ, สุขสมฺผสฺสวิกสิตปทุมสมฺปฏิจฺฉนฺจ สุปฺปติฏฺิตปาทตาย นิสฺสนฺทผลํ, น อิทฺธินิมฺมานํ. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ สกฺขรากลกณฺฏกสงฺกุกลลาทิอปคโม สุจิภาวาปตฺตีติ เอวมาทีนมฺปิ ตทา ลพฺภนโต.
อินฺทขีลสฺส อนฺโต ปิตมตฺเตติ อิทํ ยาวเทว เวเนยฺยชนวินยตฺถาย สตฺถุ ปาฏิหาริยํ ปวตฺตนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. ทกฺขิณปาเทติ อิทํ พุทฺธานํ สพฺพปทกฺขิณตาย. ‘‘ฉพฺพณฺณรสฺมิโย’’ติ วตฺวาปิ ‘‘สุวณฺณรสปิฺชรานิ วิยา’’ติ อิทํ พุทฺธานํ สรีเร ปีตาภาย เยภุยฺยตาย วุตฺตํ. มธุเรนากาเรน สทฺทํ กโรนฺติ ทฏฺพฺพสารสฺส ทิฏฺตาย. เภริอาทีนํ ปน สทฺทายนํ ธมฺมตาว. ปฏิมาเนนฺตีติ ‘‘สุทุลฺลภํ อิทํ อชฺช อมฺเหหิ ลพฺภติ, เย มยํ อีทิเสน ปณีเตน อาหาเรน ภควนฺตํ อุปฏฺหามา’’ติ ปตีตมานสา มาเนนฺติ ปูเชนฺติ. เตสํ สนฺตานานิ โอโลเกตฺวาติ ¶ เตสํ ตถา อุปฏฺากานํ ปุคฺคลานํ อตีเต เอตรหิ จ ปวตฺตจิตฺตสนฺตานานิ โอโลเกตฺวา. อรหตฺเต ปติฏฺหนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถาติ วิหาเร. คนฺธมณฺฑลมาเฬติ จตุชฺชาติยคนฺเธน กตปริภณฺเฑ มณฺฑลมาเฬ.
ทุลฺลภา ขณสมฺปตฺตีติ สติปิ มนุสฺสตฺตปฺปฏิลาเภ ปติรูปเทสวาสอินฺทฺริยาเวกลฺลสทฺธาปฏิลาภาทโย คุณา ทุลฺลภาติ อตฺโถ. จาตุมหาราชิก…เป… วสวตฺติภวนํ คจฺฉนฺตีติ อิทํ ตตฺถ สฺุวิมานานิ สนฺธาย วุตฺตํ. ภควา คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ตโย ภาเค กตฺวา ปมภาเค สเจ อากงฺขติ, ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปติ. สเจ อากงฺขติ, พุทฺธาจิณฺณผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ. อถ ยถากาลปริจฺเฉทํ ตโต วุฏฺหิตฺวา ทุติยภาเค ปจฺฉิมยาเม ตติยโกฏฺาเส วิย โลกํ โวโลเกติ เวเนยฺยานํ าณปริปากํ ปสฺสิตุํ. เตนาห – ‘‘สเจ อากงฺขตี’’ติอาทิ.
กาลยุตฺตนฺติ ¶ ปตฺตกลฺลํ, ‘‘อิมิสฺสา เวลาย อิมสฺส เอวํ วตฺตพฺพ’’นฺติ ตํกาลานุรูปํ. สมยยุตฺตนฺติ ตสฺเสว เววจนํ, อฏฺุปฺปตฺติอนุรูปํ วา. สมยยุตฺตนฺติ วา อริยสมยสํยุตฺตํ. เทสกาลานุรูปเมว หิ พุทฺธา ภควนฺโต ธมฺมํ เทเสนฺติ, เทเสนฺตา จ อริยสมฺมตํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทนยํ ทีเปนฺตาว เทเสนฺติ. อถ วา สมยยุตฺตนฺติ เหตูทาหรณสหิตํ. กาเลน สาปเทสฺหิ ภควา ธมฺมํ เทเสติ, กาลํ วิทิตฺวา ปริสํ อุยฺโยเชติ, น ยาว สมนฺธการา ธมฺมํ เทเสติ.
อุตุํ คณฺหาเปติ, น ปน มลํ ปกฺขาเลตีติ อธิปฺปาโย. น หิ ภควโต กาเย รโชชลฺลํ อุปลิมฺปตีติ. ตโต ตโตติ อตฺตโน อตฺตโน ทิวาฏฺานาทิโต. โอกาสํ ลภมานาติ ปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตปุริมยาเมสุ โอกาสํ อลภิตฺวา อิทานิ มชฺฌิมยาเม โอกาสํ ลภมานา, ภควตา วา กโตกาสตาย โอกาสํ ลภมานา. ปจฺฉาภตฺตสฺส ตีสุ ภาเคสุ ปมภาเค สีหเสยฺยกปฺปนํ เอกนฺติกํ น โหตีติ อาห – ‘‘ปุเรภตฺตโต ปฏฺาย นิสชฺชาปีฬิตสฺส สรีรสฺสา’’ติ. เตเนว หิ ตตฺถ ‘‘สเจ อากงฺขตี’’ติ ตทา สีหเสยฺยกปฺปนสฺส อนิพทฺธตา วิภาวิตา. กิลาสุภาโว ปริสฺสโม ¶ . สีหเสยฺยํ กปฺเปติ สรีรสฺส กิลาสุภาวโมจนตฺถนฺติ โยเชตพฺพํ. พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกตีติ อิทํ ปจฺฉิมยาเม ภควโต พหุลํ อาจิณฺณวเสน วุตฺตํ. อปฺเปกทา อวสิฏฺพลาเณหิ สพฺพฺุตฺาเณเนว จ ภควา ตมตฺถํ สาเธตีติ.
อิมสฺมึเยว กิจฺเจติ ปจฺฉิมยามกิจฺเจ. พลวตา ปจฺจนุตาเปน สํวฑฺฒมาเนน กรชกาเย มหาปริฬาโห อุปฺปชฺชตีติ อาห – ‘‘นามกาเย สนฺตตฺเต กรชกาโย สนฺตตฺโต’’ติ. นิธานคตนฺติ สนฺนิจิตโลหิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อุณฺหํ โลหิตํ มุขโต อุคฺคฺฉีติ โลหิตํ อุณฺหํ หุตฺวา มุขโต อุคฺคฺฉิ. านนฺติ ภิกฺขุปฏิฺํ. ตํ ปาปํ วฑฺฒมานนฺติ ภิกฺขุปฏิฺาย อวิชหิตตฺตา ตถา ปวฑฺฒมานปาปํ. อนฺติมวตฺถุอชฺฌาปนฺนานมฺปิ อุปาเยน ปวตฺติยมาโน โยนิโสมนสิกาโร สาตฺถโก โหติเยวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ชาตสํเวคา’’ติอาทิมาห. อโห สลฺเลขิตนฺติ อโห อติวิย สลฺเลเขน อิตํ ปวตฺตํ. กาสาวปชฺโชโตติ ภิกฺขูนํ พหุภาวโต อิโต จิโต จ วิจรนฺตานํ เตสํ กาสาวชุติยา ปชฺโชติโต. อิสิวาตปริวาโตติ สีลกฺขนฺธาทีนํ นิพฺพานสฺส จ เอสนโต อิสีนํ ภิกฺขูนํ คุณคนฺเธน เจว คุณคนฺธวาสิเตน สรีรคนฺเธน จ ปริโต สมนฺตโต วายิโต.
ธมฺมสํเวโค อุปฺปชฺชิ อนาวชฺชเนน ปุพฺเพ ตสฺส อตฺถสฺส อสํวิทิตตฺตา. ธมฺมสํเวโคติ จ ¶ ตาทิเส อตฺเถ ธมฺมตาวเสน อุปฺปชฺชนกํ สโหตฺตปฺปาณํ. อสฺสาสฏฺานนฺติ จิตฺตสฺสาสการณํ กมฺมฏฺานํ. สพฺเพสํ กิจฺจานํ ปุพฺพภาโค สพฺพปุพฺพภาโค. ‘‘สพฺเพ สตฺตา อเวรา โหนฺตู’’ติอาทินา หิ จิตฺตสฺส ปฏฺานํ อุปฏฺานํ หิตผรณํ. อิตรํ อิโต โถกํ มหนฺตนฺติ กตฺวา อิทํ ‘‘จูฬจฺฉราสงฺฆาตสุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อจฺฉราสงฺฆาโต วุจฺจติ องฺคุลิโผฏนกฺขโณ อกฺขินิมิสกาโล, โย เอกสฺส อกฺขรสฺส อุจฺจารณกฺขโณ. เตนาห – ‘‘ทฺเว องฺคุลิโย ปหริตฺวา สทฺทกรณมตฺต’’นฺติ. สพฺพสตฺตานํ หิตผรณจิตฺตนฺติ สพฺเพสมฺปิ สตฺตานํ สมฺมเทว หิเตสิตวเสน ปวตฺตจิตฺตํ. อาวชฺเชนฺโต อาเสวตีติ หิเตสิตวเสน อาวชฺเชนฺโต. อาวชฺชเนน อาภุชนฺโตปิ อาเสวติ นาม าณวิปฺปยุตฺเตน. ชานนฺโตติ ตถา าณมตฺตํ อุปฺปาเทนฺโตปิ. ปสฺสนฺโตติ ตถา าณจกฺขุนา ปจฺจกฺขโต วิย วิปสฺสนฺโตปิ. ปจฺจเวกฺขนฺโตติ ตมตฺถํ ปติ ¶ ปติ อเวกฺขนฺโตปิ. สทฺธาย อธิมุจฺจนฺโตติอาทิ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ วเสน วุตฺตํ. อภิฺเยฺยนฺติอาทิ จตุสจฺจวเสน วุตฺตํ. สพฺพเมว เจตํ วิตฺถารโต, สามฺเน อาเสวนทสฺสนเมวาติ อิธาธิปฺเปตเมว อาเสวนตฺถํ ทสฺเสตุํ – ‘‘อิธ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
อริตฺตชฺฌาโนติ อวิรหิตชฺฌาโน. อตุจฺฉชฺฌาโนติ ฌาเนน อตุจฺโฉ. จาโค วา เววจนนฺติ อาห – ‘‘อปริจฺจตฺตชฺฌาโน’’ติ. วิหรตีติ ปทสฺส วิภงฺเค (วิภ. ๕๔๐) อาคตนเยน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิหรตีติ อิริยตี’’ติอาทิมาห. อยํ ปเนตฺถ สทฺทตฺโถ – วิหรตีติ เอตฺถ วิ-สทฺโท วิจฺเฉทตฺถโชตโน. หรตีติ เนติ, ปวตฺเตตีติ อตฺโถ, วิจฺฉินฺทิตฺวา หรติ วิหรตีติ วุตฺตํ โหติ. โส หิ เอกํ อิริยาปถพาธนํ อฺเน อิริยาปเถน วิจฺฉินฺทิตฺวา อปริปตนฺตํ อตฺตภาวํ หรติ ปวตฺเตติ, ตสฺมา ‘‘วิหรตี’’ติ วุจฺจติ. อิริยตีติ านนิสชฺชาทิกิริยํ กโรนฺโต ปวตฺตติ. ปวตฺตตีติ านาทิสมงฺคี หุตฺวา ปวตฺตติ. ปาเลตีติ เอกํ อิริยาปถพาธนํ อิริยาปถนฺตเรหิ รกฺขนฺโต ปาเลติ. ยเปติ ยาเปตีติ ตสฺเสว เววจนํ. เอกฺหิ อิริยาปถพาธนํ อฺเน อิริยาปเถน วิจฺฉินฺทิตฺวา อปริปตนฺตํ อตฺตภาวํ ปาเลนฺโต ยเปติ ยาเปตีติ วุจฺจติ. จรตีติ านนิสชฺชาทีสุ อฺตรสมงฺคี หุตฺวา ปวตฺตติ. อิมินา ปเทนาติ ‘‘วิหรตี’’ติ อิมินา ปเทน.
อิริยาปถวิหาโรติ เอตฺถ อิริยนํ ปวตฺตนํ อิริยา, กายปฺปโยโค กายิกกิริยา. ตสฺสา ปวตฺตนูปายภาวโต อิริยาย ปโถ อิริยาปโถ, านนิสชฺชาทิ. น หิ านนิสชฺชาทีหิ อวตฺถาหิ วินา กิฺจิ กายิกกิริยํ ปวตฺเตตุํ สกฺกา. านสมงฺคี วา หิ กาเยน กิฺจิ กเรยฺย, คมนาทีสุ อฺตรสมงฺคี วา. วิหรณํ, วิหรติ เอเตนาติ วา วิหาโร, อิริยาปโถว วิหาโร อิริยาปถวิหาโร, โส จ อตฺถโต านนิสชฺชาทิอาการปฺปวตฺโต จตุสนฺตติรูปปฺปพนฺโธ ¶ เอว. โอวาทานุสาสนีนํ เอกาเนกวาราทิวิสิฏฺโเยว เภโท, น ปน ปรมตฺถโต เตสํ นานากรณนฺติ ทสฺเสตุํ – ‘‘ปรมตฺถโต ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เอเส เอเก เอกฏฺเติอาทีสุ เอโส เอโก เอกตฺโถติอาทินา อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
รฏฺสฺส ¶ , รฏฺโต วา ลทฺโธ ปิณฺโฑ รฏฺปิณฺโฑ. เตนาห – ‘‘าติปริวฏฺฏํ ปหายา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘อมฺหากเมเต’’ติ วิฺายนฺตีติ าตี, ปิตามหปิตุปุตฺตาทิวเสน ปริวฏฺฏนฏฺเน ปริวฏฺโฏ, าติเยว ปริวฏฺโฏ าติปริวฏฺโฏ. เถยฺยปริโภโค นาม อนรหสฺส ปริโภโค. ภควตา หิ อตฺตโน สาสเน สีลวโต ปจฺจยา อนฺุาตา, น ทุสฺสีลสฺส. ทายกานมฺปิ สีลวโต เอว ปริจฺจาโค, น ทุสฺสีลสฺส อตฺตโน การานํ มหปฺผลภาวสฺส ปจฺจาสีสนโต. อิติ สตฺถารา อนนฺุาตตฺตา ทายเกหิ จ อปริจฺจตฺตตฺตา สงฺฆมชฺเฌปิ นิสีทิตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส ทุสฺสีลสฺส ปริโภโค เถยฺยาย ปริโภโค เถยฺยปริโภโค. อิณวเสน ปริโภโค อิณปริโภโค ปฏิคฺคาหกโต ทกฺขิณาวิสุทฺธิยา อภาวโต อิณํ คเหตฺวา ปริโภโค วิยาติ อตฺโถ.
ทาตพฺพฏฺเน ทายํ, ตํ อาทิยนฺตีติ ทายาทา, ปุตฺตานเมตํ อธิวจนํ, เตสํ ภาโว ทายชฺชํ, ทายชฺชวเสน ปริโภโค ทายชฺชปริโภโค, ปุตฺตภาเวน ปริโภโคติ วุตฺตํ โหติ. เสกฺขา หิ ภิกฺขู ภควโต โอรสปุตฺตา, เต ปิตุ สนฺตกานํ ทายาทา หุตฺวา เต ปจฺจเย ปริภฺุชนฺติ. กึ ปน เต ภควโต ปจฺจเย ปริภฺุชนฺติ, อุทาหุ คิหีนนฺติ? คิหีหิ ทินฺนาปิ ภควตา อนฺุาตตฺตา ภควโต สนฺตกา อนนฺุาเตสุ สพฺเพน สพฺพํ ปริโภคาภาวโต, อนฺุาเตสุเยว จ ปริโภคสมฺภวโต. ธมฺมทายาทสุตฺตฺเจตฺถ สาธกํ.
วีตราคา เอว ตณฺหาย ทาสพฺยํ อตีตตฺตา สามิโน หุตฺวา ปริภฺุชนฺตีติ อาห – ‘‘ขีณาสวสฺส ปริโภโค สามิปริโภโค นามา’’ติ. อวีตราคานฺหิ ตณฺหาปรวสตาย ปจฺจยปริโภเค สามิภาโว นตฺถิ, ตทภาเวน วีตราคานํ ตตฺถ สามิภาโว ยถารุจิปริโภคสมฺภวโต. ตถา หิ เต ปฏิกูลมฺปิ อปฺปฏิกูลากาเรน, อปฺปฏิกูลมฺปิ ปฏิกูลากาเรน, ตทุภยมฺปิ วชฺเชตฺวา อชฺฌุเปกฺขนากาเรน ปจฺจเย ปริภฺุชนฺติ, ทายกานฺจ มโนรถํ ปูเรนฺติ. โย ปนายํ สีลวโต ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค, โส อิณปริโภคสฺส ปจฺจนีกตฺตา อาณณฺยปริโภโค นาม โหติ. ยถา หิ อิณายิโก อตฺตโน รุจิยา อิจฺฉิตํ เทสํ คนฺตุํ น ลภติ, เอวํ อิณปริโภคยุตฺโต โลกโต ¶ นิสฺสริตุํ น ลภตีติ ตปฺปฏิปกฺขตฺตา สีลวโต ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค ‘‘อาณณฺยปริโภโค’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา นิปฺปริยายโต จตุปริโภควินิมุตฺโต ¶ วิสุํเยวายํ ปริโภโคติ เวทิตพฺโพ. โส อิธ วิสุํ น วุตฺโต, ทายชฺชปริโภเคเยว วา สงฺคหํ คจฺฉติ. สีลวาปิ หิ อิมาย สิกฺขาย สมนฺนาคตตฺตา ‘‘เสโข’’ตฺเวว วุจฺจติ. อิเมสุ ปริโภเคสุ สามิปริโภโค ทายชฺชปริโภโค จ อริยานํ ปุถุชฺชนานฺจ วฏฺฏติ, อิณปริโภโค น วฏฺฏติ. เถยฺยปริโภเค กถาเยว นตฺถิ. กถํ ปเนตฺถ สามิปริโภโค ทายชฺชปริโภโค จ ปุถุชฺชนานํ สมฺภวติ? อุปจารวเสน. โย หิ ปุถุชฺชนสฺสปิ สลฺเลขปฺปฏิปตฺติยํ ิตสฺส ปจฺจยเคธํ ปหาย ตตฺถ อนุปลิตฺเตน จิตฺเตน ปริโภโค, โส สามิปริโภโค วิย โหติ. สีลวโต ปน ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค ทายชฺชปริโภโค วิย โหติ ทายกานํ มโนรถสฺส อวิราธนโต. กลฺยาณปุถุชฺชนสฺส ปริโภเค วตฺตพฺพเมว นตฺถิ ตสฺส เสกฺขสงฺคหโต. เสกฺขสุตฺตํ (สํ. นิ. ๕.๑๓) เหตสฺส อตฺถสฺส สาธกํ.
อิมสฺส ภิกฺขุโนติ อจฺฉราสงฺฆาตมตฺตมฺปิ กาลํ เมตฺตจิตฺตํ อาเสวนฺตสฺส ภิกฺขุโน. อโมโฆ รฏฺปิณฺฑปริโภโคติ ‘‘อยํ ปพฺพชิโต สมโณ ภิกฺขูติ อามิสํ เทนฺตานํ ตาย เมตฺตาเสวนาย อตฺตโน สนฺตาเน โทสมลสฺส วา ตเทกฏฺานฺจ ปาปธมฺมานํ ปพฺพาชนโต วูปสมนโต สํสาเร จ ภยสฺส สมฺมาว อิกฺขณโต อชฺฌาสยสฺส อวิสํวาทเนนสฺส อโมโฆ รฏฺปิณฺฑปริโภโค. มหฏฺิยนฺติ มหตฺถิกํ มหาปโยชนํ. มหปฺผลนฺติ วิปุลปฺผลํ. มหานิสํสนฺติ มหานิสฺสนฺทปฺผลํ. มหาชุติกนฺติ มหานุภาวํ. มหาวิปฺผารนฺติ มหาวิตฺถารํ. เอตฺถ จ ปมํ การณํ เมตฺตาเสวนาย ตสฺส ภิกฺขุโน สามิอาทิภาเวน รฏฺปิณฺฑปริโภคารหตา, ทุติยํ ปเรหิ ทินฺนสฺส ทานสฺส มหฏฺิยภาวกรณํ. โก ปน วาโทติ เมตฺตาย อาเสวนมตฺตมฺปิ เอวํมหานุภาวํ, โก ปน วาโท พหุลีกาเร, เอตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถี’’ติ อตฺโถ.
๕๔. จตุตฺเถ อุปฺปาเทติ วฑฺเฒตีติ เอตฺถ ภาวนาสทฺทสฺส อุปฺปาทนวฑฺฒนตฺถตา ปุพฺเพ วุตฺตา เอว.
๕๕. ปฺจเม ¶ อิเมสุ ทฺวีสูติ จตุตฺถปฺจเมสุ. ‘‘ตติเย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ตถา เวทิตพฺพตํ ทสฺเสตุํ – ‘‘โย หิ อาเสวตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน อาเสวนาภาวนามนสิการานํ อตฺถวิเสสาภาวมาห. ยทิ เอวํ สุตฺตนฺตสฺส เทสนา กถนฺติ อาห – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปนา’’ติอาทิ. ยาย ธมฺมธาตุยาติ สพฺพฺุตฺาณมาห. เตน หิ ธมฺมานํ อาการเภทํ ตฺวา ตทนุรูปํ เอกมฺปิ ธมฺมํ ตถา วิภชิตฺวา ภควา ทสฺเสติ. ตีหิ โกฏฺาเสหีติ ¶ อาเสวนาภาวนามนสิการภาเคหิ. เมตฺตา หิ สพฺพวตฺถุโน เมตฺตายนวเสน อานีตา เสวนา อาเสวนา, ตสฺสา วฑฺฒนา ภาวนา, อวิสฺสชฺเชตฺวา มนสิ ปนํ มนสิกาโร.
๕๖. ฉฏฺเ อนิยมิตวจนํ ‘‘อิเม นามา’’ติ นิยเมตฺวา อวุตฺตตฺตา. นิยมิตวจนํ ‘‘อกุสลา’’ติ สรูเปเนว วุตฺตตฺตา. อเสสโต ปริยาทินฺนา โหนฺติ อปฺปกสฺสปิ อกุสลภาคสฺส อคฺคหิตสฺส อภาวโต. อกุสลํ ภชนฺตีติ อกุสลภาคิยา. อกุสลปกฺเข ภวาติ อกุสลปกฺขิกา. เตนาห – ‘‘อกุสลาเยวา’’ติอาทิ. ปมตรํ คจฺฉตีติ ปมตรํ ปวตฺตติ, ปโม ปธาโน หุตฺวา วตฺตตีติ อตฺโถ. เอกุปฺปาทาทิวเสน หิ เอกชฺฌํ ปวตฺตมาเนสุ จตูสุ อรูปกฺขนฺเธสุ อยเมว ปมํ อุปฺปชฺชตีติ อิทํ นตฺถิ, โลกุตฺตรมคฺเคสุ วิย ปน ปฺินฺทฺริยสฺส, โลกิยธมฺเมสุ มนินฺทฺริยสฺส ปุเรตรสฺส ภาโว สาติสโยติ ‘‘สพฺเพเต มโนปุพฺพงฺคมา’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ อภิธมฺเมปิ (ธ. ส. ๑) ‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ เชฏฺํ กตฺวา เทสนา ปวตฺตา. สุตฺเตสุปิ วุตฺตํ – ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา (ธ. ป. ๑, ๒), ฉทฺวาราธิปติ ราชา’’ติ (ธ. ป. อฏฺ. ๒.พุทฺธวคฺโค, เอรกปตฺตนาคราชวตฺถุ). เตนาห – ‘‘เอเต หี’’ติอาทิ. เตสํ มโน อุปฺปาทโกติ จ ยทคฺเคน มโน สมฺปยุตฺตธมฺมานํ เชฏฺโก หุตฺวา ปวตฺตติ, ตทคฺเคน เต อตฺตานํ อนุวตฺตาเปนฺโต เต ตถา อุปฺปาเทนฺโต นาม โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน จิตฺตสฺส เชฏฺกภาวเมว สนฺธาย ราชคมนฺาเยน สหุปฺปตฺติปิ ปมุปฺปตฺติ วิย กตฺวา วุตฺตาติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต. อนฺวเทวาติ เอเตเนว จิตฺตสฺส ขณวเสน ปมุปฺปตฺติยา อภาโว ทีปิโตติ ทฏฺพฺโพ. เตเนวาห – ‘‘เอกโตเยวาติ อตฺโถ’’ติ.
๕๗. สตฺตเม ¶ จตุภูมกาปิ กุสลา ธมฺมา กถิตาติ ‘‘เย เกจิ กุสลา ธมฺมา’’ติ อนวเสสปริยาทานโต วุตฺตํ.
๕๘. อฏฺเม อิทนฺติ ลิงฺควิปลฺลาเสน นิทฺเทโส, นิปาตปทํ วา เอตํ ‘‘ยทิท’’นฺติอาทีสุ วิยาติ อาห – ‘‘อยํ ปมาโทติ อตฺโถ’’ติ. ปมชฺชนากาโรติ ปมาทาปตฺติ. จิตฺตสฺส โวสฺสคฺโคติ อิเมสุ เอตฺตเกสุ าเนสุ สติยา อนิคฺคณฺหิตฺวา จิตฺตสฺส โวสฺสชฺชนํ สติวิรโห. โวสฺสคฺคานุปฺปทานนฺติ โวสฺสคฺคสฺส อนุ อนุ ปทานํ ปุนปฺปุนํ วิสฺสชฺชนํ. อสกฺกจฺจกิริยตาติ เอเตสํ ทานาทีนํ กุสลธมฺมานํ ปวตฺตเน ปุคฺคลสฺส วา เทยฺยธมฺมสฺส วา อสกฺกจฺจกิริยา. สตตภาโว สาตจฺจํ, สาตจฺเจน กิริยา สาตจฺจกิริยา, สาเยว สาตจฺจกิริยตา, น สาตจฺจกิริยตา อสาตจฺจกิริยตา. อนฏฺิตกิริยตาติ ¶ อนิฏฺิตกิริยตา นิรนฺตรํ น อนุฏฺิตกิริยตา จ. โอลีนวุตฺติตาติ นิรนฺตรกรณสงฺขาตสฺส วิปฺผารสฺส อภาเวน โอลีนวุตฺติตา. นิกฺขิตฺตฉนฺทตาติ กุสลกิริยาย วีริยฉนฺทสฺส นิกฺขิตฺตภาโว. นิกฺขิตฺตธุรตาติ วีริยธุรสฺส โอโรปนํ, โอสกฺกิตมานสตาติ อตฺโถ. อนธิฏฺานนฺติ กุสลกรเณ อปฺปติฏฺิตภาโว. อนนุโยโคติ อนนุยฺุชนํ. กุสลธมฺเมสุ อาเสวนาทีนํ อภาโว อนาเสวนาทโย. ปมาโทติ สรูปนิทฺเทโส. ปมชฺชนาติ อาการนิทฺเทโส. ปมชฺชิตตฺตนฺติ ภาวนิทฺเทโส. ปริหายนฺตีติ อิมินา ปมาทสฺส สาวชฺชตํ ทสฺเสติ. ตยิทํ โลกิยานํ วเสน, น โลกุตฺตรานนฺติ อาห – ‘‘อุปฺปนฺนา…เป… อิท’’นฺติอาทิ.
๕๙. นวเม น ปมชฺชติ เอเตนาติ อปฺปมาโท, ปมาทสฺส ปฏิปกฺโข สติยา อวิปฺปวาโส. อตฺถโต นิจฺจํ อุปฏฺิตาย สติยา เอตํ นามํ. ปมาโท ปน สติยา สติสมฺปชฺสฺส วา ปฏิปกฺขภูโต อกุสลจิตฺตุปฺปาโท ทฏฺพฺโพ. เตนาห – ‘‘ปมาทสฺส ปฏิปกฺขวเสน วิตฺถารโต เวทิตพฺโพ’’ติ.
๖๐. ทสเม กุจฺฉิตํ สีทตีติ กุสีโต ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา, ตสฺส ภาโว โกสชฺชํ, อาลสิยนฺติ อตฺโถ.
อจฺฉราสงฺฆาตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.