📜

๗. วีริยารมฺภาทิวคฺควณฺณนา

๖๑. สตฺตมสฺส ปเม วีรานํ กมฺมนฺติ วีริยํ, วิธินา วา อีรยิตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ วีริยํ, ตเทว กุสลกิริยาย ปธานฏฺเน อารมฺโภ วีริยารมฺโภ. อารทฺธวีริยตา ปคฺคหิตวีริยตา ปริปุณฺณวีริยตาติ ปจฺเจกํ วีริยตาสทฺโท โยเชตพฺโพ.

๖๒. ทุติเย มหตี อิจฺฉา เอตสฺสาติ มหิจฺโฉ, ตสฺส ภาโว มหิจฺฉตา. มหาวิสโย โลโภ มหาโลโภ มหนฺตานํ วตฺถูนํ พหูนฺจ อภิคิชฺฌนโต. อิตรีตราติอาทินา ปพฺพชิตานํ อุปฺปชฺชนมหิจฺฉตา วุตฺตา. ปฺจหิ กามคุเณหีติอาทิ คหฏฺานํ วเสน วุตฺตํ. อิจฺฉาติ สภาวนิทฺเทโส. อิจฺฉาคตาติ อิจฺฉาปวตฺตา. มหิจฺฉตาติ มหาอิจฺฉตา. อตฺถโต ปนายํ ราโค เอวาติ วุตฺตํ – ‘‘ราโค สาราโค’’ติอาทิ.

๖๓. ตติเย อปฺปิจฺฉสฺสาติ เอตฺถ อปฺป-สทฺโท อภาวตฺโถ ‘‘อปฺปาพาโธ โหติ อปฺปาตงฺโก’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๓๐๔) วิยาติ อาห – ‘‘อนิจฺฉสฺสา’’ติ. โลเก ปากฏสฺส หิ อกฺขิโรคกุจฺฉิโรคาทิเภทสฺส อาพาธสฺส อภาวํ สนฺธาย ‘‘อปฺปาพาโธ’’ติ วุตฺตํ. อิทานิ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘เอตฺถ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. พฺยฺชนํ สาวเสสํ วิย ปริตฺตเกปิ อปฺปสทฺทสฺส ทิสฺสมานตฺตา. อตฺโถ ปน นิรวเสโส สพฺพโส ปจฺจยิจฺฉาย อภาวสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เตนาห – ‘‘น หี’’ติอาทิ.

อิจฺฉาย อภาเวเนว อปฺปิจฺโฉ นาม โหตีติ อิมมตฺถํ ปการนฺตเรน ทีเปตุํ – ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตฺริจฺฉตา นาม อตฺร อตฺร อิจฺฉา. อสนฺตคุณสมฺภาวนตาย ปาปา ลามิกา นิหีนา อิจฺฉา ปาปิจฺฉตา. ยาย ปจฺจยุปฺปาทนตฺถํ อตฺตนิ วิชฺชมานคุเณ สมฺภาเวติ, ปจฺจยานํ ปฏิคฺคหเณ จ น มตฺตํ ชานาติ, อยํ มหิจฺฉตา. อสนฺตคุณสมฺภาวนตาติ อตฺตนิ อวิชฺชมานานํ คุณานํ วิชฺชมานานํ วิย ปเรสํ ปกาสนา. สนฺตคุณสมฺภาวนตาติ อิจฺฉาจาเร ตฺวา อตฺตนิ วิชฺชมานสีลธุตธมฺมาทิคุณวิภาวนา. ตาทิสสฺสปิ ปฏิคฺคหเณ อมตฺตฺุตาปิ โหติ, สาปิ อภิธมฺเม อาคตาเยวาติ สมฺพนฺโธ. ทุสฺสนฺตปฺปโยติ ทุตฺตปฺปโย.

อติลูขภาวนฺติ ปตฺตจีวรวเสน อติวิย ลูขภาวํ. ตทสฺส ทิสฺวา มนุสฺสา ‘‘อยํ อมงฺคลทิวโส , สุมฺภกสินิทฺธปตฺตจีวโร อยฺโย ปุพฺพงฺคโม กาตพฺโพ’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘ภนฺเต, โถกํ พหิ โหถา’’ติ อาหํสุ. อุมฺมุชฺชีติ มนุสฺสานํ อชานนฺตานํเยว ปถวิยํ นิมุชฺชิตฺวา คณฺหนฺโตเยว อุมฺมุชฺชิ. ยทิ เถโร ‘‘ขีณาสวภาวํ ชานนฺตู’’ติ อิจฺเฉยฺย, น นํ มนุสฺสา ‘‘พหิ โหถา’’ติ วเทยฺยุํ, ขีณาสวานํ ปน ตถาจิตฺตเมว น อุปฺปชฺเชยฺย.

อปฺปิจฺฉตาปธานํ ปุคฺคลาธิฏฺานํ จตุพฺพิธอิจฺฉาปเภทํ ทสฺเสตฺวา ปุนปิ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน จตุพฺพิธํ อิจฺฉาเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปโรปิ จตุพฺพิโธ อปฺปิจฺโฉ’’ติอาทิมาห. ปจฺจยอปฺปิจฺโฉติ ปจฺจเยสุ อิจฺฉารหิโต. ธุตงฺคอปฺปิจฺโฉติ ธุตคุณสมฺภาวนาย อิจฺฉารหิโต. ปริยตฺติอปฺปิจฺโฉติ พหุสฺสุตสมฺภาวนาย อิจฺฉารหิโต. อธิคมอปฺปิจฺโฉติ ‘‘อริโย’’ติ สมฺภาวนาย อิจฺฉารหิโต. ทายกสฺส วสนฺติ อปฺปํ วา ยํ ทาตุกาโม พหุํ วาติ ทายกสฺส จิตฺตสฺส วสํ, อชฺฌาสยนฺติ อตฺโถ. เทยฺยธมฺมสฺส วสนฺติ เทยฺยธมฺมสฺส อพหุภาวํ. อตฺตโน ถามนฺติ อตฺตโน ปมาณํ. ยตฺตเกน อตฺตา ยาเปติ, ตตฺตกสฺเสว คหณํ. ยทิ หีติอาทิ สงฺเขปโต วุตฺตสฺส อตฺถสฺส วิวรณํ. ปมาเณเนวาติ ยาปนปฺปมาเณเนว.

เอกภิกฺขุปิ นาฺาสีติ โสสานิกวตฺเต สมฺมเทว วตฺติตตฺตา เอโกปิ ภิกฺขุ น อฺาสิ. อพฺโพกิณฺณนฺติ อวิจฺเฉทํ. ทุติโย มํ ชาเนยฺยาติ ทุติโย สหายภูโตปิ ยถา มํ ชานิตุํ น สกฺกุเณยฺย, ตถา สฏฺิ วสฺสานิ นิรนฺตรํ สุสาเน วสามิ, ตสฺมา อหํ อโห โสสานิกุตฺตโม. อุปกาโร หุตฺวาติ อุคฺคหปริปุจฺฉาทีหิ ปริยตฺติธมฺมวเสน อุปกาโร หุตฺวา. ธมฺมกถาย ชนปทํ โขเภตฺวาติ โลมหํสนสาธุการทานเจลุกฺเขปาทิวเสน สนฺนิปติตํ อิตรฺจ ‘‘กถํ นุ โข อปฺปํ อยฺยสฺส สนฺติเก ธมฺมํ โสสฺสามา’’ติ โกลาหลวเสน มหาชนํ โขเภตฺวา? ยทิ เถโร พหุสฺสุตภาวํ ชานาเปตุํ อิจฺเฉยฺย, ปุพฺเพว ชนปทํ โขเภนฺโต ธมฺมํ กเถยฺย. คโตติ ‘‘อยํ โส, เยน รตฺติยํ ธมฺมกถา กตา’’ติ ชานนภาเวน ปริยตฺติอปฺปิจฺฉตาย ปุรารุณาว คโต.

ตโยกุลปุตฺตา วิยาติ ปาจีนวํสทาเย สามคฺคิวาสํวุฏฺา อนุรุทฺโธ, นนฺทิโย, กิมิโลติ อิเม ตโย กุลปุตฺตา วิย. เอเตสุปิ หิ อนุรุทฺธตฺเถเรน ภควตา ‘‘อตฺถิ ปน โว อนุรุทฺธา เอวํ อปฺปมตฺตานํ อาตาปีนํ ปหิตตฺตานํ วิหรนฺตานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม อลมริยาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๒๘) ปุฏฺเน ‘‘อิธ ปน มยํ, ภนฺเต, ยาวเทว อากงฺขาม, วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๓๒๘) อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺตีสุ อาโรจิตาสุ อิตเร เถรา น อิจฺฉึสุ. ตถา หิ เต ปกฺกนฺเต ภควติ อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจุํ – ‘‘กินฺนุ มยํ อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส เอวมาโรจิมฺห ‘อิมาสฺจ อิมาสฺจ วิหารสมาปตฺตีนํ มยํ ลาภิโน’ติ? ยํ โน อายสฺมา อนุรุทฺโธ ภควโต สมฺมุขาปิ อาสวานํ ขยํ ปกาเสตี’’ติ? ฆฏีกาโรปิ อตฺตโน อริยภาเว กิกิสฺส รฺโ ภควตา อาโรจิเต น อตฺตมโน อโหสิ? เตนาห – ‘‘ฆฏีการกุมฺภกาโร วิยา’’ติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถติ ‘‘ยถยิทํ, ภิกฺขเว, อปฺปิจฺฉตา’’ติ วุตฺเต อปฺปิจฺฉตาสงฺขาเต อตฺเถ. พลวอโลเภนาติ ทฬฺหตรปฺปวตฺติเกน อโลเภน.

๖๔. จตุตฺเถ นตฺถิ เอตสฺส สนฺตุฏฺีติ อสนฺตุฏฺิ, ตสฺส ภาโว อสนฺตุฏฺิตา. ตํ ปน สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘อสนฺตุฏฺเ ปุคฺคเล…เป… โลโภ’’ติ อาห. เสวนฺตสฺสาติอาทีนิ อฺมฺเววจนานิ.

๖๕-๖๗. ปฺจเม ตุสฺสนํ ตุฏฺิ, สมํ, สเกน, สนฺเตน วา ตุฏฺิ เอตสฺสาติ สนฺตุฏฺิ, ตสฺส ภาโว สนฺตุฏฺิตา. ยสฺส สนฺโตสสฺส อตฺถิตาย ภิกฺขุ ‘‘สนฺตุฏฺโ’’ติ วุจฺจติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิตรีตรปจฺจยสนฺโตเสน สมนฺนาคตสฺสา’’ติ อาห – จีวราทิเก ยตฺถ กตฺถจิ กปฺปิเย ปจฺจเย สนฺตุสฺสเนน สมงฺคีภูตสฺสาติ อตฺโถ. อถ วา อิตรํ วุจฺจติ หีนํ ปณีตโต อฺตฺตา, ตถา ปณีตมฺปิ อิตรํ หีนโต อฺตฺตา. อเปกฺขาสิทฺธา หิ อิตรตา. อิติ เยน ธมฺเมน หีเนน วา ปณีเตน วา จีวราทิปจฺจเยน สนฺตุสฺสติ, โส ตถา ปวตฺโต อโลโภ อิตรีตรปจฺจยสนฺโตโส, เตน สมนฺนาคตสฺส . ยถาลาภํ อตฺตโน ลาภานุรูปํ สนฺโตโส ยถาลาภสนฺโตโส. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ลพฺภตีติ วา ลาโภ, โย โย ลาโภ ยถาลาโภ, เตน สนฺโตโส ยถาลาภสนฺโตโส. พลนฺติ กายพลํ. สารุปฺปนฺติ ภิกฺขุโน อนุจฺฉวิกตา.

ยถาลทฺธโต อฺสฺส อปตฺถนา นาม สิยา อปฺปิจฺฉตาปิ ปวตฺติอากาโรติ ตโต วินิเวจิตเมว สนฺโตสสฺส สรูปํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ลภนฺโตปิ น คณฺหาตี’’ติ อาห. ตํ ปริวตฺเตตฺวา ปกติทุพฺพลาทีนํ ครุจีวรํ อผาสุภาวาวหํ สรีรเขทาวหฺจ โหตีติ ปโยชนวเสน น อตฺริจฺฉตาทิวเสน ตํ ปริวตฺเตตฺวา ลหุกจีวรปริโภโค สนฺโตสวิโรธิ น โหตีติ อาห – ‘‘ลหุเกน ยาเปนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหตี’’ติ. มหคฺฆจีวรํ พหูนิ วา จีวรานิ ลภิตฺวา ตานิ วิสฺสชฺเชตฺวา ตทฺสฺส คหณํ ยถาสารุปฺปนเย ิตตฺตา น สนฺโตสวิโรธีติ อาห – ‘‘เตสํ…เป… ธาเรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหตี’’ติ. เอวํ เสสปจฺจเยสุปิ ยถาสารุปฺปนิทฺเทเส อปิ-สทฺทคฺคหเณ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ. มุตฺตหรีตกนฺติ โคมุตฺตปริภาวิตํ, ปูติภาเวน วา ฉฑฺฑิตํ หรีตกํ. พุทฺธาทีหิ วณฺณิตนฺติ อปฺปิจฺฉตาสนฺตุฏฺีสุ ภิกฺขู นิโยเชตุํ ‘‘ปูติมุตฺตเภสชฺชํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา’’ติอาทินา (มหาว. ๗๓, ๑๒๘) พุทฺธาทีหิ ปสตฺถํ. ปรมสนฺตุฏฺโว โหติ ปรเมน อุกฺกํสคเตน สนฺโตเสน สมนฺนาคตตฺตา. ยถาสารุปฺปสนฺโตโสว อคฺโคติ ตตฺถ ตตฺถ ภิกฺขุ สารุปฺปํเยว นิสฺสาย สนฺตุสฺสนวเสน ปวตฺตนโต อคฺโค. ฉฏฺสตฺตเมสุ นตฺถิ วตฺตพฺพํ.

๖๘-๖๙. อฏฺมนวเมสุ น สมฺปชานาตีติ อสมฺปชาโน, ตสฺส ภาโว อสมฺปชฺํ. วุตฺตปฺปฏิปกฺเขน สมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

๗๐. ทสเม ปาปมิตฺตา เทวทตฺตสทิสา. เต หิ หีนาจารตาย, ทุกฺขสฺส วา สมฺปาปกตาย ‘‘ปาปา’’ติ วุจฺจนฺติ. เตนากาเรน ปวตฺตานนฺติ โย ปาปมิตฺตสฺส ขนฺติ รุจิ อธิมุตฺติ ตนฺนินฺนตาตํสมฺปวงฺกตาทิอากาโร, เตนากาเรน ปวตฺตานํ. จตุนฺนํ ขนฺธานเมเวตํ นามนฺติ จตุนฺนํ อรูปกฺขนฺธานํ ‘‘ปาปมิตฺตตา’’ติ เอตํ นามํ. ยสฺมา อสฺสทฺธิยาทิปาปธมฺมสมนฺนาคตา ปุคฺคลา วิเสสโต ปาปา ปุฺธมฺมวิโมกฺขตาย, เต ยสฺส มิตฺตา สหายา, โส ปาปมิตฺโต, ตสฺส ภาโว ปาปมิตฺตตา. เตนาห – ‘‘เย เต ปุคฺคลา อสฺสทฺธา’’ติอาทิ.

วีริยารมฺภาทิวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.