📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
องฺคุตฺตรนิกาเย
ทุกนิปาต-อฏฺกถา
๑. ปมปณฺณาสกํ
๑. กมฺมการณวคฺโค
๑. วชฺชสุตฺตวณฺณนา
๑. ทุกนิปาตสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม วชฺชานีติ โทสา อปราธา. ทิฏฺธมฺมิกนฺติ ทิฏฺเว ธมฺเม อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว อุปฺปนฺนผลํ. สมฺปรายิกนฺติ สมฺปราเย อนาคเต อตฺตภาเว อุปฺปนฺนผลํ. อาคุจารินฺติ ปาปการึ อปราธการกํ. ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺเตติ โจรํ คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา ราชปุริสา กโรนฺติ, ราชาโน ปน ตา กาเรนฺติ นาม. ตํ โจรํ เอวํ ¶ กมฺมการณา การิยมานํ เอส ปสฺสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปสฺสติ โจรํ อาคุจารึ ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺเต’’ติ. อทฺธทณฺฑเกหีติ มุคฺคเรหิ, ปหารสาธนตฺถํ วา จตุหตฺถทณฺฑํ ทฺเวธา เฉตฺวา คหิตทณฺฑเกหิ. พิลงฺคถาลิกนฺติ กฺชิยอุกฺขลิกกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา สีสกฏาหํ อุปฺปาเฏตฺวา ตตฺตํ อโยคุฬํ สณฺฑาเสน คเหตฺวา ตตฺถ ปกฺขิปนฺติ, เตน มตฺถลุงฺคํ ปกฺกุถิตฺวา ¶ อุตฺตรติ. สงฺขมุณฺฑิกนฺติ สงฺขมุณฺฑกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา อุตฺตโรฏฺอุภโตกณฺณจูฬิกคลวาฏกปริจฺเฉเทน ¶ จมฺมํ ฉินฺทิตฺวา สพฺพเกเส เอกโต คณฺึ กตฺวา ทณฺฑเกน เวเตฺวา อุปฺปาเฏนฺติ, สห เกเสหิ จมฺมํ อุฏฺหติ. ตโต สีสกฏาหํ ถูลสกฺขราหิ ฆํสิตฺวา โธวนฺตา สงฺขวณฺณํ กโรนฺติ. ราหุมุขนฺติ ราหุมุขกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา สงฺกุนา มุขํ วิวริตฺวา อนฺโตมุเข ทีปํ ชาเลนฺติ, กณฺณจูฬิกาหิ วา ปฏฺาย มุขํ นิขาทเนน ขนนฺติ, โลหิตํ ปคฺฆริตฺวา มุขํ ปูเรติ.
โชติมาลิกนฺติ สกลสรีรํ เตลปิโลติกาย เวเตฺวา อาลิมฺเปนฺติ. หตฺถปชฺโชติกนฺติ หตฺเถ เตลปิโลติกาย เวเตฺวา ทีปํ วิย ปชฺชาเลนฺติ. เอรกวตฺติกนฺติ เอรกวตฺตกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา เหฏฺาคีวโต ปฏฺาย จมฺมวฏฺเฏ กนฺติตฺวา โคปฺผเก เปนฺติ, อถ นํ โยตฺเตหิ พนฺธิตฺวา กฑฺฒนฺติ. โส อตฺตโน จมฺมวฏฺเฏ อกฺกมิตฺวา อกฺกมิตฺวา ปตติ. จีรกวาสิกนฺติ จีรกวาสิกกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา ตเถว จมฺมวฏฺเฏ กนฺติตฺวา กฏิยํ เปนฺติ, กฏิโต ปฏฺาย กนฺติตฺวา โคปฺผเกสุ เปนฺติ, อุปริเมหิ เหฏฺิมสรีรํ จีรกนิวาสนนิวตฺถํ วิย โหติ. เอเณยฺยกนฺติ เอเณยฺยกกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา อุโภสุ กปฺปเรสุ จ อุโภสุ ชาณุเกสุ จ อยวลยานิ ทตฺวา อยสูลานิ โกฏฺเฏนฺติ. โส จตูหิ อยสูเลหิ ภูมิยํ ปติฏฺหติ. อถ นํ ปริวาเรตฺวา อคฺคึ กโรนฺติ. ‘‘เอเณยฺยโก โชติปริคฺคโห ยถา’’ติ อาคตฏฺาเนปิ อิทเมว วุตฺตํ. ตํ กาเลน กาลํ สูลานิ อปเนตฺวา จตูหิ อฏฺิโกฏีหิเยว เปนฺติ. เอวรูปา กมฺมการณา นาม นตฺถิ.
พฬิสมํสิกนฺติ ¶ อุภโตมุเขหิ พฬิเสหิ ปหริตฺวา จมฺมมํสนฺหารูนิ อุปฺปาเฏนฺติ. กหาปณิกนฺติ สกลสรีรํ ติณฺหาหิ วาสีหิ โกฏิโต ปฏฺาย กหาปณมตฺตํ, กหาปณมตฺตํ ปาเตนฺตา โกฏฺเฏนฺติ. ขาราปตจฺฉิกนฺติ สรีรํ ตตฺถ ตตฺถ อาวุเธหิ ปหริตฺวา โกจฺเฉหิ ขารํ ฆํสนฺติ, จมฺมมํสนฺหารูนิ ปคฺฆริตฺวา อฏฺิกสงฺขลิกาว ติฏฺติ. ปลิฆปริวตฺติกนฺติ เอเกน ปสฺเสน นิปชฺชาเปตฺวา กณฺณจฺฉิทฺเทน อยสูลํ โกฏฺเฏตฺวา ปถวิยา เอกาพทฺธํ กโรนฺติ. อถ นํ ปาเท ¶ คเหตฺวา อาวิฺฉนฺติ. ปลาลปีกนฺติ เฉโก ¶ การณิโก ฉวิจมฺมํ อจฺฉินฺทิตฺวา นิสทโปเตหิ อฏฺีนิ ภินฺทิตฺวา เกเสสุ คเหตฺวา อุกฺขิปติ, มํสราสิเยว โหติ. อถ นํ เกเสเหว ปริโยนนฺธิตฺวา คณฺหนฺติ, ปลาลวฏฺฏึ วิย กตฺวา ปุน เวเนฺติ. สุนเขหิปีติ กติปยานิ ทิวสานิ อาหารํ อทตฺวา ฉาตกสุนเขหิ ขาทาเปนฺติ. เต มุหุตฺเตน อฏฺิกสงฺขลิกเมว กโรนฺติ. สูเล อุตฺตาเสนฺเตติ สูเล อาโรเปนฺเต.
น ปเรสํ ปาภตํ วิลุมฺปนฺโต จรตีติ ปเรสํ สนฺตกํ ภณฺฑํ ปรมฺมุขํ อาภตํ อนฺตมโส อนฺตรวีถิยํ ปติตํ สหสฺสภณฺฑิกมฺปิ ทิสฺวา ‘‘อิมินา ชีวิสฺสามี’’ติ วิลุมฺปนฺโต น วิจรติ, โก อิมินา อตฺโถติ ปิฏฺิปาเทน วา ปวฏฺเฏตฺวา คจฺฉติ.
ปาปโกติ ¶ ลามโก. ทุกฺโขติ อนิฏฺโ. กิฺจ ตนฺติ กึ นาม ตํ การณํ ภเวยฺย. ยาหนฺติ เยน อหํ. กายทุจฺจริตนฺติ ปาณาติปาตาทิ ติวิธํ อกุสลํ กายกมฺมํ. กายสุจริตนฺติ ตสฺส ปฏิปกฺขภูตํ ติวิธํ กุสลกมฺมํ. วจีทุจฺจริตนฺติ มุสาวาทาทิ จตุพฺพิธํ อกุสลํ วจีกมฺมํ. วจีสุจริตนฺติ ตสฺส ปฏิปกฺขภูตํ จตุพฺพิธํ กุสลกมฺมํ. มโนทุจฺจริตนฺติ อภิชฺฌาทิ ติวิธํ อกุสลกมฺมํ. มโนสุจริตนฺติ ตสฺส ปฏิปกฺขภูตํ ติวิธํ กุสลกมฺมํ. สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรตีติ เอตฺถ ทุวิธา สุทฺธิ – ปริยายโต จ นิปฺปริยายโต จ. สรณคมเนน หิ ปริยาเยน สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ นาม. ตถา ปฺจหิ สีเลหิ, ทสหิ สีเลหิ – จตุปาริสุทฺธิสีเลน, ปมชฺฌาเนน…เป… เนวสฺานาสฺายตเนน, โสตาปตฺติมคฺเคน, โสตาปตฺติผเลน…เป… อรหตฺตมคฺเคน ปริยาเยน สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ นาม. อรหตฺตผเล ปติฏฺิโต ปน ขีณาสโว ฉินฺนมูลเก ปฺจกฺขนฺเธ นฺหาเปนฺโตปิ ขาทาเปนฺโตปิ ภฺุชาเปนฺโตปิ นิสีทาเปนฺโตปิ นิปชฺชาเปนฺโตปิ นิปฺปริยาเยเนว สุทฺธํ นิมฺมลํ อตฺตานํ ปริหรติ ปฏิชคฺคตีติ เวทิตพฺโพ.
ตสฺมาติ ยสฺมา อิมานิ ทฺเว วชฺชาเนว, โน น วชฺชานิ, ตสฺมา. วชฺชภีรุโนติ วชฺชภีรุกา. วชฺชภยทสฺสาวิโนติ วชฺชานิ ภยโต ทสฺสนสีลา. เอตํ ปาฏิกงฺขนฺติ เอตํ อิจฺฉิตพฺพํ, เอตํ อวสฺสํภาวีติ อตฺโถ. ยนฺติ นิปาตมตฺตํ, การณวจนํ วา เยน การเณน ปริมุจฺจิสฺสติ สพฺพวชฺเชหิ ¶ . เกน ปน การเณน ปริมุจฺจิสฺสตีติ? จตุตฺถมคฺเคน เจว จตุตฺถผเลน จ. มคฺเคน ¶ หิ ปริมุจฺจติ นาม, ผลํ ปตฺโต ปริมุตฺโต นาม โหตีติ. กึ ปน ¶ ขีณาสวสฺส อกุสลํ น วิปจฺจตีติ? วิปจฺจติ, ตํ ปน ขีณาสวภาวโต ปุพฺเพ กตํ. ตฺจ โข อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว, สมฺปราเย ปนสฺส กมฺมผลํ นาม นตฺถีติ. ปมํ.
๒. ปธานสุตฺตวณฺณนา
๒. ทุติเย ปธานานีติ วีริยานิ. วีริยฺหิ ปทหิตพฺพโต ปธานภาวกรณโต วา ปธานนฺติ วุจฺจติ. ทุรภิสมฺภวานีติ ทุสฺสหานิ ทุปฺปูริยานิ, ทุกฺกรานีติ อตฺโถ. อคารํ อชฺฌาวสตนฺติ อคาเร วสนฺตานํ. จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานุปฺปทานตฺถํ ปธานนฺติ เอเตสํ จีวราทีนํ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ อนุปฺปทานตฺถาย ปธานํ นาม ทุรภิสมฺภวนฺติ ทสฺเสติ. จตุรตนิกมฺปิ หิ ปิโลติกํ, ปสตตณฺฑุลมตฺตํ วา ภตฺตํ, จตุรตนิกํ วา ปณฺณสาลํ, เตลสปฺปินวนีตาทีสุ วา อปฺปมตฺตกมฺปิ เภสชฺชํ ปเรสํ เทถาติ วตฺตุมฺปิ นีหริตฺวา ทาตุมฺปิ ทุกฺกรํ อุภโตพฺยูฬฺหสงฺคามปฺปเวสนสทิสํ. เตนาห ภควา –
‘‘ทานฺจ ยุทฺธฺจ สมานมาหุ,
อปฺปาปิ สนฺตา พหุเก ชินนฺติ;
อปฺปมฺปิ เจ สทฺทหาโน ททาติ,
เตเนว โส โหติ สุขี ปรตฺถา’’ติ. (ชา. ๑.๘.๗๒; สํ. นิ. ๑.๓๓);
อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานนฺติ เคหโต นิกฺขมิตฺวา อคารสฺส ฆราวาสสฺส หิตาวเหหิ กสิโครกฺขาทีหิ วิรหิตํ อนคาริยํ ปพฺพชฺชํ อุปคตานํ. สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคตฺถาย ปธานนฺติ สพฺเพสํ ขนฺธูปธิกิเลสูปธิอภิสงฺขารูปธิสงฺขาตานํ อุปธีนํ ปฏินิสฺสคฺคสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส อตฺถาย วิปสฺสนาย เจว มคฺเคน จ สหชาตวีริยํ. ตสฺมาติ ¶ ยสฺมา อิมานิ ทฺเว ปธานานิ ทุรภิสมฺภวานิ, ตสฺมา. ทุติยํ.
๓. ตปนียสุตฺตวณฺณนา
๓. ตติเย ¶ ตปนียาติ อิธ เจว สมฺปราเย จ ตปนฺตีติ ตปนียา. ตปฺปตีติ จิตฺตสนฺตาเปน ¶ ตปฺปติ อนุโสจติ กายทุจฺจริตํ กตฺวา นนฺทยกฺโข วิย นนฺทมาณโว วิย นนฺทโคฆาตโก วิย เทวทตฺโต วิย ทฺเวภาติกา วิย จ. เต กิร คาวํ วธิตฺวา มํสํ ทฺเว โกฏฺาเส อกํสุ. ตโต กนิฏฺโ เชฏฺกํ อาห – ‘‘มยฺหํ ทารกา พหู, อิมานิ เม อนฺตานิ เทหี’’ติ. อถ นํ โส ‘‘สพฺพํ มํสํ ทฺเวธา วิภตฺตํ, ปุน กึ มคฺคสี’’ติ ปหริตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสิ. นิวตฺติตฺวา จ นํ โอโลเกนฺโต มตํ ทิสฺวา ‘‘ภาริยํ เม กมฺมํ กต’’นฺติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. อถสฺส พลวโสโก อุปฺปชฺชิ. โส ิตฏฺาเนปิ นิสินฺนฏฺาเนปิ ตเทว กมฺมํ อาวชฺเชติ, จิตฺตสฺสาทํ น ลภติ. อสิตปีตขายิตสายิตมฺปิสฺส สรีเร โอชํ น ผรติ, อฏฺิจมฺมมตฺตเมว อโหสิ. อถ นํ เอโก เถโร ทิสฺวา – ‘‘อุปาสก, ตฺวํ ปหูตอนฺนปาโน, อฏฺิจมฺมมตฺตเมว เต อวสิฏฺํ, อตฺถิ นุ โข เต กิฺจิ ตปนียกมฺม’’นฺติ? โส ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ สพฺพํ อาโรเจสิ. อถ นํ เถโร ‘‘ภาริยํ เต อุปาสก กมฺมํ กตํ, อนปราธฏฺาเน อปรทฺธ’’นฺติ อาห. โส เตเนว กมฺเมน กาลํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺโต. วจีทุจฺจริเตน สุปฺปพุทฺธสกฺกโกกาลิกจิฺจมาณวิกาทโย วิย ตปฺปติ. เสสเมตฺถ จตุตฺเถ จ อุตฺตานตฺถเมว. ตติยํ.
๕. อุปฺาตสุตฺตวณฺณนา
๕. ปฺจเม ทฺวินฺนาหนฺติ ทฺวินฺนํ อหํ. อุปฺาสินฺติ อุปคนฺตฺวา คุณํ อฺาสึ, ชานึ ปฏิวิชฺฌินฺติ อตฺโถ. อิทานิ เต ธมฺเม ทสฺเสนฺโต ยา จ อสนฺตุฏฺิตาติอาทิมาห. อิมฺหิ ¶ ธมฺมทฺวยํ นิสฺสาย สตฺถา สพฺพฺุตํ ปตฺโต, ตสฺมา ตสฺสานุภาวํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. ตตฺถ อสนฺตุฏฺิตา กุสเลสุ ธมฺเมสูติ อิมินา อิมํ ทีเปติ – ‘‘อหํ ฌานมตฺตเกน วา โอภาสนิมิตฺตมตฺตเกน วา อสนฺตุฏฺโ หุตฺวา อรหตฺตมคฺคเมว อุปฺปาเทสึ. ยาว โส น อุปฺปชฺชิ, น ตาวาหํ สนฺตุฏฺโ อโหสึ. ปธานสฺมึ จ อนุกฺกณฺิโต หุตฺวา อโนสกฺกนาย ตฺวาเยว ปธานกิริยํ อกาสิ’’นฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ยา จ อปฺปฏิวานิตาติอาทิมาห. ตตฺถ อปฺปฏิวานิตาติ อปฺปฏิกฺกมนา อโนสกฺกนา. อปฺปฏิวานี สุทาหํ ¶ , ภิกฺขเว, ปทหามีติ เอตฺถ สุทนฺติ นิปาตมตฺตํ. อหํ, ภิกฺขเว, อโนสกฺกนายํ ิโต โพธิสตฺตกาเล สพฺพฺุตํ ปตฺเถนฺโต ปธานมกาสินฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
อิทานิ ยถา เตน ตํ ปธานํ กตํ, ตํ ทสฺเสนฺโต กามํ ตโจ จาติอาทิมาห. ตตฺถ ปตฺตพฺพนฺติ ¶ อิมินา ปตฺตพฺพํ คุณชาตํ ทสฺเสติ. ปุริสถาเมนาติอาทินา ปุริสสฺส าณถาโม าณวีริยํ าณปรกฺกโม จ กถิโต. สณฺานนฺติ ปนา อปฺปวตฺตนา โอสกฺกนา, ปฏิปฺปสฺสทฺธีติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา เตน จตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยาธิฏฺานํ นาม กถิตํ. เอตฺถ หิ กามํ ตโจ จาติ เอกํ องฺคํ, นฺหารุ จาติ เอกํ, อฏฺิ จาติ เอกํ, มํสโลหิตนฺติ เอกํ, อิมานิ จตฺตาริ องฺคานิ. ปุริสถาเมนาติอาทีนิ อธิมตฺตวีริยาธิวจนานิ. อิติ ปุริเมหิ จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคเตน หุตฺวา เอวํ อธิฏฺิตํ วีริยํ จตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยาธิฏฺานํ นามาติ เวทิตพฺพํ. เอตฺตาวตา ¶ เตน โพธิปลฺลงฺเก อตฺตโน อาคมนียปฏิปทา กถิตา.
อิทานิ ตาย ปฏิปทาย ปฏิลทฺธคุณํ กเถตุํ ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อปฺปมาทาธิคตาติ สติอวิปฺปวาสสงฺขาเตน อปฺปมาเทน อธิคตา, น สุตฺตปฺปมตฺเตน ลทฺธา. สมฺโพธีติ จตุมคฺคาณฺเจว สพฺพฺุตฺาณฺจ. น หิ สกฺกา เอตํ สุตฺตปฺปมตฺเตน อธิคนฺตุนฺติ. เตนาห – ‘‘อปฺปมาทาธิคตา สมฺโพธี’’ติ. อนุตฺตโร โยคกฺเขโมติ น เกวลํ โพธิเยว, อรหตฺตผลนิพฺพานสงฺขาโต อนุตฺตโร โยคกฺเขโมปิ อปฺปมาทาธิคโตว.
อิทานิ อตฺตนา ปฏิลทฺธคุเณสุ ภิกฺขุสงฺฆํ สมาทเปนฺโต ตุมฺเห เจปิ ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺสตฺถายาติ ยสฺส อตฺถาย, ยํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุกามา หุตฺวาติ อตฺโถ. ตทนุตฺตรนฺติ ตํ อนุตฺตรํ. พฺรหฺมจริยปริโยสานนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส ปริโยสานภูตํ อริยผลํ. อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ อภิฺาย อุตฺตมปฺาย ปจฺจกฺขํ กตฺวา. อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถาติ ปฏิลภิตฺวา ปาปุณิตฺวา วิหริสฺสถ. ตสฺมาติ ยสฺมา อปฺปฏิวานปธานํ นาเมตํ พหูปการํ อุตฺตมตฺถสาธกํ, ตสฺมา. ปฺจมํ.
๖. สํโยชนสุตฺตวณฺณนา
๖. ฉฏฺเ ¶ สํโยชนิเยสุ ธมฺเมสูติ ทสนฺนํ สํโยชนานํ ปจฺจยภูเตสุ เตภูมกธมฺเมสุ. อสฺสาทานุปสฺสิตาติ อสฺสาทโต ปสฺสิตา ปสฺสนภาโวติ อตฺโถ. นิพฺพิทานุปสฺสิตาติ นิพฺพิทาวเสน อุกฺกณฺนวเสน ปสฺสนภาโว. ชาติยาติ ขนฺธนิพฺพตฺติโต. ชรายาติ ขนฺธปริปากโต. มรเณนาติ ขนฺธเภทโต. โสเกหีติ อนฺโตนิชฺฌายนลกฺขเณหิ โสเกหิ. ปริเทเวหีติ ¶ ¶ ตนฺนิสฺสิตลาลปฺปิตลกฺขเณหิ ปริเทเวหิ. ทุกฺเขหีติ กายปฏิปีฬนทุกฺเขหิ. โทมนสฺเสหีติ มโนวิฆาตโทมนสฺเสหิ. อุปายาเสหีติ อธิมตฺตายาสลกฺขณอุปายาเสหิ. ทุกฺขสฺมาติ สกลวฏฺฏทุกฺขโต. ปชหตีติ มคฺเคน ปชหติ. ปหายาติ เอตฺถ ปน ผลกฺขโณ กถิโต. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ. ฉฏฺํ.
๗. กณฺหสุตฺตวณฺณนา
๗. สตฺตเม กณฺหาติ น กาฬวณฺณตาย กณฺหา, กณฺหตาย ปน อุปเนนฺตีติ นิปฺผตฺติกาฬตาย กณฺหา. สรเสนาปิ วา สพฺพากุสลธมฺมา กณฺหา เอว. น หิ เตสํ อุปฺปตฺติยา จิตฺตํ ปภสฺสรํ โหติ. อหิริกนฺติ อหิริกภาโว. อโนตฺตปฺปนฺติ อโนตฺตาปิภาโว. สตฺตมํ.
๘. สุกฺกสุตฺตวณฺณนา
๘. อฏฺเม สุกฺกาติ น วณฺณสุกฺกตาย สุกฺกา, สุกฺกตาย ปน อุปเนนฺตีติ นิปฺผตฺติสุกฺกตาย สุกฺกา. สรเสนาปิ วา สพฺพกุสลธมฺมา สุกฺกา เอว. เตสํ หิ อุปฺปตฺติยา จิตฺตํ ปภสฺสรํ โหติ. หิรี จ โอตฺตปฺปฺจาติ เอตฺถ ปาปโต ชิคุจฺฉนลกฺขณา หิรี, ภายนลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ. ยํ ปเนตฺถ วิตฺถารโต วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตเมว. อฏฺมํ.
๙. จริยสุตฺตวณฺณนา
๙. นวเม โลกํ ปาเลนฺตีติ โลกํ สนฺธาเรนฺติ เปนฺติ รกฺขนฺติ. นยิธ ปฺาเยถ มาตาติ อิมสฺมึ โลเก ชนิกา มาตา ‘‘อยํ เม มาตา’’ติ ¶ ครุจิตฺตีการวเสน น ปฺาเยถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. สมฺเภทนฺติ สงฺกรํ มริยาทเภทํ วา. ยถา อเชฬกาติอาทีสุ เอเต หิ สตฺตา ‘‘อยํ เม มาตา’’ติ วา ‘‘มาตุจฺฉา’’ติ วา ครุจิตฺตีการวเสน น ชานนฺติ. ยํ วตฺถุํ ¶ นิสฺสาย อุปฺปนฺนา, ตตฺเถว วิปฺปฏิปชฺชนฺติ. ตสฺมา อุปมํ อาหรนฺโต ‘‘ยถา อเชฬกา’’ติอาทิมาห. นวมํ.
๑๐. วสฺสูปนายิกสุตฺตวณฺณนา
๑๐. ทสมํ ¶ อฏฺุปฺปตฺติยํ วุตฺตํ. กตรอฏฺุปฺปตฺติยํ? มนุสฺสานํ อุชฺฌายเน. ภควตา หิ ปมโพธิยํ วีสติ วสฺสานิ วสฺสูปนายิกา อปฺปฺตฺตา อโหสิ. ภิกฺขู อนิพทฺธวาสา วสฺเสปิ อุตุวสฺเสปิ ยถาสุขํ วิจรึสุ. เต ทิสฺวา มนุสฺสา ‘‘กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา เหมนฺตมฺปิ คิมฺหมฺปิ วสฺสมฺปิ จาริกํ จริสฺสนฺติ หริตานิ ติณานิ สมฺมทฺทนฺตา เอกินฺทฺริยํ ชีวํ วิเหเนฺตา พหู ขุทฺทเก ปาเณ สงฺฆาตํ อาปาเทนฺตา. อิเม หิ นาม อฺติตฺถิยา ทุรกฺขาตธมฺมา วสฺสาวาสํ อลฺลียิสฺสนฺติ สํกสายิสฺสนฺติ, อิเม นาม สกุณา รุกฺขคฺเคสุ กุลาวกานิ กตฺวา วสฺสาวาสํ อลฺลียิสฺสนฺติ สํกสายิสฺสนฺตี’’ติอาทีนิ วตฺวา อุชฺฌายึสุ. ตมตฺถํ ภิกฺขู ภควโต อาโรเจสุํ. ภควา ตํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา อิมํ สุตฺตํ เทเสนฺโต ปมํ ตาว ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํ อุปคนฺตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๘๔) เอตฺตกเมวาห. อถ ภิกฺขูนํ ‘‘กทา นุ โข วสฺสํ อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ อุปฺปนฺนํ วิตกฺกํ สุตฺวา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสาเน วสฺสํ อุปคนฺตุ’’นฺติ อาห. อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กติ นุ โข วสฺสูปนายิกา’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ตํ สุตฺวา สกลมฺปิ อิทํ สุตฺตํ เทเสนฺโต ทฺเวมา, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ วสฺสูปนายิกาติ วสฺสูปคมนานิ. ปุริมิกาติ อปรชฺชุคตาย อาสาฬฺหิยา อุปคนฺตพฺพา ปุริมกตฺติกปุณฺณมิปริโยสานา ปมา เตมาสี. ปจฺฉิมิกาติ มาสคตาย อาสาฬฺหิยา อุปคนฺตพฺพา ปจฺฉิมกตฺติกปริโยสานา ปจฺฉิมา เตมาสีติ. ทสมํ.
กมฺมการณวคฺโค ปโม.