📜
๔. เทวทูตวคฺโค
๑. สพฺรหฺมกสุตฺตวณฺณนา
๓๑. จตุตฺถสฺส ¶ ปเม อชฺฌาคาเรติ สเก ฆเร. ปูชิตา โหนฺตีติ ยํ ฆเร อตฺถิ, เตน ปฏิชคฺคิตา โคปิตา โหนฺติ. อิติ มาตาปิตุปูชกานิ กุลานิ มาตาปิตูหิ สพฺรหฺมกานีติ ปกาเสตฺวา อิทานิ เนสํ ¶ สปุพฺพาจริยกาทิภาวํ ปกาเสนฺโต สปุพฺพาจริยกานีติอาทิมาห. ตตฺถ พฺรหฺมาติอาทีนิ เตสํ พฺรหฺมาทิภาวสาธนตฺถํ วุตฺตานิ. พหุการาติ ปุตฺตานํ พหูปการา. อาปาทกาติ ชีวิตสฺส อาปาทกา. ปุตฺตกานํ หิ มาตาปิตูหิ ชีวิตํ อาปาทิตํ ปาลิตํ ฆฏิตํ อนุปฺปพนฺเธน ปวตฺติตํ. โปสกาติ หตฺถปาเท วฑฺเฒตฺวา หทยโลหิตํ ปาเยตฺวา โปเสตาโร. อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโรติ ปุตฺตานํ หิ อิมสฺมึ โลเก อิฏฺานิฏฺารมฺมณสฺส ¶ ทสฺสนํ นาม มาตาปิตโร นิสฺสาย ชาตนฺติ อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโร นาม.
พฺรหฺมาติ มาตาปิตโรติ เสฏฺาธิวจนํ. ยถา พฺรหฺมุโน จตสฺโส ภาวนา อวิชหิตา โหนฺติ เมตฺตา กรุณา มุทิตา อุเปกฺขาติ, เอวเมว มาตาปิตูนํ ปุตฺตเกสุ จตสฺโส ภาวนา อวิชหิตา โหนฺติ. ตา ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล เวทิตพฺพา – กุจฺฉิคตสฺมึ หิ ทารเก ‘‘กทา นุ โข ปุตฺตกํ อโรคํ ปริปุณฺณงฺคปจฺจงฺคํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ มาตาปิตูนํ เมตฺตจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ยทา ปเนส มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก อูกาหิ วา มงฺกุลาทีหิ ปาณเกหิ ทฏฺโ ทุกฺขเสยฺยาย วา ปน ปีฬิโต ปโรทติ วิรวติ, ตทาสฺส สทฺทํ สุตฺวา มาตาปิตูนํ การฺุํ อุปฺปชฺชติ, อาธาวิตฺวา วิธาวิตฺวา กีฬนกาเล ปน โลภนียวยสฺมึ วา ิตกาเล ทารกํ โอโลเกตฺวา มาตาปิตูนํ จิตฺตํ สปฺปิมณฺเฑ ปกฺขิตฺตสตวิหตกปฺปาสปิจุปฏลํ วิย มุทุกํ โหติ อาโมทิตํ ปโมทิตํ, ตทา เตสํ มุทิตา ลพฺภติ. ยทา ปเนส ปุตฺโต ทาราภรณํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ปาฏิเยกฺกํ อคารํ อชฺฌาวสติ, ตทา มาตาปิตูนํ ‘‘สกฺโกติ ทานิ โน ปุตฺตโก อตฺตโน ธมฺมตาย ยาเปตุ’’นฺติ มชฺฌตฺตภาโว อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ กาเล อุเปกฺขา ลพฺภตีติ อิมินา การเณน ‘‘พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร’’ติ วุตฺตํ.
ปุพฺพาจริยาติ ¶ วุจฺจเรติ มาตาปิตโร หิ ชาตกาลโต ปฏฺาย ‘‘เอวํ นิสีท, เอวํ ติฏฺ, เอวํ คจฺฉ, เอวํ สย, เอวํ ขาท, เอวํ ภฺุช, อยํ เต, ตาตาติ วตฺตพฺโพ, อยํ ภาติกาติ, อยํ ภคินีติ, อิทํ นาม กาตุํ วฏฺฏติ, อิทํ น วฏฺฏติ, อสุกํ นาม อุปสงฺกมิตุํ วฏฺฏติ, อสุกํ น วฏฺฏตี’’ติ คาหาเปนฺติ สิกฺขาเปนฺติ. อถาปรภาเค ¶ อฺเ อาจริยา หตฺถิสิปฺปอสฺสสิปฺปรถสิปฺปธนุสิปฺปถรุสิปฺปมุทฺทาคณนาทีนิ สิกฺขาเปนฺติ. อฺโ ¶ สรณานิ เทติ, อฺโ สีเลสุ ปติฏฺาเปติ, อฺโ ปพฺพาเชติ, อฺโ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหาเปติ, อฺโ อุปสมฺปาเทติ, อฺโ โสตาปตฺติมคฺคาทีนิ ปาเปติ. อิติ สพฺเพปิ เต ปจฺฉาจริยา นาม โหนฺติ, มาตาปิตโร ปน สพฺพปมา, เตนาห – ‘‘ปุพฺพาจริยาติ วุจฺจเร’’ติ. ตตฺถ วุจฺจเรติ วุจฺจนฺติ กถิยนฺติ. อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตานนฺติ ปุตฺตานํ อาหุตํ ปาหุตํ อภิสงฺขตํ อนฺนปานาทึ อรหนฺติ, อนุจฺฉวิกา ตํ ปฏิคฺคเหตุํ. ตสฺมา ‘‘อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตาน’’นฺติ วุตฺตํ. ปชาย อนุกมฺปกาติ ปเรสํ ปาเณ อจฺฉินฺทิตฺวาปิ อตฺตโน ปชํ ปฏิชคฺคนฺติ โคปายนฺติ. ตสฺมา ‘‘ปชาย อนุกมฺปกา’’ติ วุตฺตํ.
นมสฺเสยฺยาติ นโม กเรยฺย. สกฺกเรยฺยาติ สกฺกาเรน ปฏิมาเนยฺย. อิทานิ ตํ สกฺการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนฺเนนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อนฺเนนาติ ยาคุภตฺตขาทนีเยน. ปาเนนาติ อฏฺวิธปาเนน. วตฺเถนาติ นิวาสนปารุปนเกน วตฺเถน. สยเนนาติ มฺจปีานุปฺปทาเนน. อุจฺฉาทเนนาติ ทุคฺคนฺธํ ปฏิวิโนเทตฺวา สุคนฺธกรณุจฺฉาทเนน. นฺหาปเนนาติ สีเต อุณฺโหทเกน, อุณฺเห สีโตทเกน คตฺตานิ ปริสิฺจิตฺวา นฺหาปเนน. ปาทานํ โธวเนนาติ อุณฺโหทกสีโตทเกหิ ปาทโธวเนน เจว เตลมกฺขเนน จ. เปจฺจาติ ปรโลกํ คนฺตฺวา. สคฺเค ปโมทตีติ อิธ ตาว มาตาปิตูสุ ปาริจริยํ ทิสฺวา ปาริจริยการณา ตํ ปณฺฑิตมนุสฺสา อิเธว ปสํสนฺติ ¶ , ปรโลกํ ปน คนฺตฺวา สคฺเค ิโต โส มาตาปิตุอุปฏฺาโก ทิพฺพสมฺปตฺตีหิ อาโมทติ ปโมทตีติ.
๒. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา
๓๒. ทุติเย ตถารูโปติ ตถาชาติโก. สมาธิปฏิลาโภติ จิตฺเตกคฺคตาลาโภ. อิมสฺมึ จ สวิฺาณเกติ เอตฺถ อตฺตโน จ ปรสฺส จาติ อุภเยสมฺปิ กาโย สวิฺาณกฏฺเน เอกโต กตฺวา อิมสฺมินฺติ วุตฺโต. อหงฺการมมงฺการมานานุสยาติ อหงฺการทิฏฺิ จ มมงฺการตณฺหา จ มานานุสโย ¶ จาติ อตฺตโน จ ปรสฺส ¶ จ กิเลสา. นาสฺสูติ น ภเวยฺยุํ. พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตสูติ รูปนิมิตฺตํ, สทฺทนิมิตฺตํ, คนฺธนิมิตฺตํ, รสนิมิตฺตํ, โผฏฺพฺพนิมิตฺตํ, สสฺสตาทินิมิตฺตํ, ปุคฺคลนิมิตฺตํ ธมฺมนิมิตฺตนฺติ เอวรูเปสุ จ พหิทฺธา สพฺพนิมิตฺเตสุ. เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตินฺติ ผลสมาธิฺเจว ผลาณฺจ. สิยาติ ภเวยฺย.
อิธานนฺท, ภิกฺขุโนติ, อานนฺท, อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุโน. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตนฺติ นิพฺพานํ ทสฺเสนฺโต อาห. นิพฺพานํ หิ กิเลสานํ สนฺตตาย สนฺตํ นาม, นิพฺพานํ สนฺตนฺติ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวาว ทิวสมฺปิ นิสินฺนสฺส จิตฺตุปฺปาโท สนฺตนฺเตว ปวตฺตตีติปิ สนฺตํ. ปณีตนฺติ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺสาปิ จิตฺตุปฺปาโท ปณีตนฺเตว ปวตฺตตีติ นิพฺพานํ ปณีตํ นาม. สพฺพสงฺขารสมโถติอาทีนิปิ ตสฺเสว เววจนานิ. ‘‘สพฺพสงฺขารสมโถ’’ติ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส หิ ทิวสภาคมฺปิ จิตฺตุปฺปาโท สพฺพสงฺขารสมโถเตว ปวตฺตติ…เป… ตถา ตีสุ ภเวสุ วานสงฺขาตาย ตณฺหาย อภาเวน นิพฺพานนฺติ ลทฺธนาเม ตสฺมึ สมาปตฺตึ ¶ อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส จิตฺตุปฺปาโท นิพฺพานํ นิพฺพานนฺเตว ปวตฺตตีติ สพฺพสงฺขารสมโถติอาทีนิ นามานิ ลภติ. อิมสฺมึ ปน อฏฺวิเธ อาโภคสมนฺนาหาเร อิมสฺมึ าเน เอโกปิ ลพฺภติ, ทฺเวปิ สพฺเพปิ ลพฺภนฺเตว.
สงฺขายาติ าเณน ชานิตฺวา. ปโรปรานีติ ปรานิ จ โอปรานิ จ. ปรอตฺตภาวสกอตฺตภาวานิ หิ ปรานิ จ โอปรานิ จาติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺสาติ ยสฺส อรหโต. อิฺชิตนฺติ ราคิฺชิตํ โทสโมหมานทิฏฺิกิเลสทุจฺจริติฺชิตนฺติ อิมานิ สตฺต อิฺชิตานิ จลิตานิ ผนฺทิตานิ. นตฺถิ กุหิฺจีติ กตฺถจิ เอการมฺมเณปิ นตฺถิ. สนฺโตติ ปจฺจนีกกิเลสานํ สนฺตตาย สนฺโต. วิธูโมติ กายทุจฺจริตาทิธูมวิรหิโต. อนีโฆติ ราคาทิอีฆวิรหิโต. นิราโสติ นิตฺตณฺโห. อตารีติ ติณฺโณ อุตฺติณฺโณ สมติกฺกนฺโต. โสติ โส อรหํ ขีณาสโว. ชาติชรนฺติ เอตฺถ ชาติชราคหเณเนว พฺยาธิมรณมฺปิ คหิตเมวาติ เวทิตพฺพํ. อิติ สุตฺตนฺเตปิ คาถายปิ อรหตฺตผลสมาปตฺติเยว กถิตาติ.
๓. สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๓๓. ตติเย ¶ สํขิตฺเตนาติ มาติกาปเนน. วิตฺถาเรนาติ ปิตมาติกาวิภชเนน. สํขิตฺตวิตฺถาเรนาติ ¶ กาเล สํขิตฺเตน กาเล วิตฺถาเรน. อฺาตาโร จ ทุลฺลภาติ ปฏิวิชฺฌนกปุคฺคลา ปน ทุลฺลภา. อิทํ ภควา ‘‘สาริปุตฺตตฺเถรสฺส าณํ ฆฏฺเฏมี’’ติ อธิปฺปาเยน กเถสิ. ตํ สุตฺวา เถโร กิฺจาปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, อาชานิสฺสามี’’ติ น วทติ, อธิปฺปาเยน ปน ‘‘วิสฺสตฺถา ตุมฺเห, ภนฺเต, เทเสถ, อหํ ตุมฺเหหิ เทสิตํ ธมฺมํ นยสเตน นยสหสฺเสน ปฏิวิชฺฌิสฺสามิ, มเมส ภาโร โหตู’’ติ สตฺถารํ เทสนาย อุสฺสาเหนฺโต เอตสฺส ภควา กาโลติอาทิมาห.
อถสฺส สตฺถา ตสฺมาติหาติ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ อิมสฺมิฺจ สวิฺาณเกติอาทิ วุตฺตนยเมว. อจฺเฉจฺฉิ ¶ ตณฺหนฺติ มคฺคาณสตฺเถน ตณฺหํ ฉินฺทิ. วิวตฺตยิ สํโยชนนฺติ ทสวิธมฺปิ สํโยชนํ สมูลกํ อุพฺพตฺเตตฺวา ฉฑฺเฑสิ. สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสาติ สมฺมา อุปาเยน สมฺมา ปฏิปตฺติยา นววิธสฺส มานสฺส ปหานาภิสมเยน วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตมกาสิ. อิทฺจ ปน เมตํ, สาริปุตฺต, สนฺธาย ภาสิตนฺติ, สาริปุตฺต, มยา ปารายเน อุทยปฺเห อิทํ ผลสมาปตฺติเมว สนฺธาย เอตํ ภาสิตํ.
อิทานิ ยํ ตํ ภควตา ภาสิตํ, ตํ ทสฺเสนฺโต ปหานํ กามสฺานนฺติอาทิ อารทฺธํ. อุทยปฺเห จ เอตํ ปทํ ‘‘ปหานํ กามจฺฉนฺทาน’’นฺติ (สุ. นิ. ๑๑๑๒; จูฬนิ. อุทยมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๗๕) อาคตํ, อิธ ปน องฺคุตฺตรภาณเกหิ ‘‘กามสฺาน’’นฺติ อาโรปิตํ. ตตฺถ พฺยฺชนเมว นานํ, อตฺโถ ปน เอโกเยว. กามสฺานนฺติ กาเม อารพฺภ อุปฺปนฺนสฺานํ, อฏฺหิ วา โลภสหคตจิตฺเตหิ สหชาตสฺานํ. โทมนสฺสาน จูภยนฺติ เอตาสฺจ กามสฺานํ เจตสิกโทมนสฺสานฺจาติ อุภินฺนมฺปิ ปหานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหานสงฺขาตํ อรหตฺตผลํ อฺาวิโมกฺขํ ปพฺรูมีติ อตฺโถ. นิทฺเทเส ปน ‘‘กามจฺฉนฺทสฺส จ โทมนสฺสสฺส จ อุภินฺนํ ปหานํ วูปสมํ ปฏินิสฺสคฺคํ ปฏิปฺปสฺสทฺธึ อมตํ นิพฺพาน’’นฺติ (จูฬนิ. อุทยมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๗๕) วุตฺตํ, ตํ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตํ. ปหานนฺติ หิ ขีณาการสงฺขาโต วูปสโมปิ วุจฺจติ, กิเลเส ปฏินิสฺสชฺชนฺโต มคฺโคปิ, กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิสงฺขาตํ ผลมฺปิ ¶ , ยํ อาคมฺม กิเลสา ปหียนฺติ, ตํ อมตํ นิพฺพานมฺปิ. ตสฺมา ตตฺถ ตานิ ปทานิ อาคตานิ. ‘‘อฺาวิโมกฺขํ ปพฺรูมี’’ติ วจนโต ปน อรหตฺตผลเมว อธิปฺเปตํ. ถินสฺส ¶ จ ปนูทนนฺติปิ ถินสฺส จ ปนูทนนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา อรหตฺตผลเมว อธิปฺเปตํ ¶ . กุกฺกุจฺจานํ นิวารณนฺติ กุกฺกุจฺจนิวารณสฺส มคฺคสฺส อนนฺตรํ อุปฺปนฺนตฺตา ผลเมว อธิปฺเปตํ.
อุเปกฺขาสติสํสุทฺธนฺติ จตุตฺถชฺฌานิเก ผเล อุปฺปนฺนาย อุเปกฺขาย จ สติยา จ สํสุทฺธํ. ธมฺมตกฺกปุเรชวนฺติ ธมฺมตกฺโก วุจฺจติ สมฺมาสงฺกปฺโป, โส อาทิโต โหติ, ปุรโต โหติ, ปุพฺพงฺคโม โหติ อฺาวิโมกฺขสฺสาติ ธมฺมตกฺกปุเรชโว. ตํ ธมฺมตกฺกปุเรชวํ. อฺาวิโมกฺขนฺติ อฺินฺทฺริยปริโยสาเน อุปฺปนฺนํ วิโมกฺขํ, อฺาย วา วิโมกฺขํ อฺาวิโมกฺขํ, ปฺาวิมุตฺตนฺติ อตฺโถ. อวิชฺชาย ปเภทนนฺติ อวิชฺชาย ปเภทนนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา, อวิชฺชาย ปเภทนสงฺขาตํ วา นิพฺพานํ อารพฺภ อุปฺปนฺนตฺตา เอวํลทฺธนามํ อรหตฺตผลเมว. อิติ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปหานนฺติอาทีหิ ปเทหิ อรหตฺตผลเมว ปกาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๔. นิทานสุตฺตวณฺณนา
๓๔. จตุตฺเถ นิทานานีติ การณานิ. กมฺมานนฺติ วฏฺฏคามิกมฺมานํ. โลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยายาติ ลุพฺภนปลุพฺภนสภาโว โลโภ วฏฺฏคามิกมฺมานํ สมุทยาย ปิณฺฑกรณตฺถาย นิทานํ การณํ ปจฺจโยติ อตฺโถ. โทโสติ ทุสฺสนปทุสฺสนสภาโว โทโส. โมโหติ มุยฺหนปมุยฺหนสภาโว โมโห.
โลภปกตนฺติ โลเภน ปกตํ, โลภาภิภูเตน ลุทฺเธน หุตฺวา กตกมฺมนฺติ อตฺโถ. โลภโต ชาตนฺติ โลภชํ. โลโภ นิทานมสฺสาติ โลภนิทานํ. โลโภ สมุทโย อสฺสาติ โลภสมุทยํ. สมุทโยติ ปจฺจโย, โลภปจฺจยนฺติ อตฺโถ. ยตฺถสฺส อตฺตภาโว นิพฺพตฺตตีติ ยสฺมึ าเน อสฺส โลภชกมฺมวโต ¶ ปุคฺคลสฺส อตฺตภาโว นิพฺพตฺตติ, ขนฺธา ปาตุภวนฺติ. ตตฺถ ตํ กมฺมํ วิปจฺจตีติ เตสุ ขนฺเธสุ ตํ กมฺมํ วิปจฺจติ. ทิฏฺเ วา ธมฺเมติอาทิ ยสฺมา ตํ กมฺมํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ วา โหติ อุปปชฺชเวทนียํ วา อปรปริยายเวทนียํ วา, ตสฺมา ตํ ปเภทํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย.
อขณฺฑานีติ ¶ อภินฺนานิ. อปูตีนีติ ปูติภาเวน อพีชตฺตํ อปฺปตฺตานิ. อวาตาตปหตานีติ ¶ น วาเตน น จ อาตเปน หตานิ. สาราทานีติ คหิตสารานิ สารวนฺตานิ น นิสฺสารานิ. สุขสยิตานีติ สนฺนิจยภาเวน สุขํ สยิตานิ. สุเขตฺเตติ มณฺฑเขตฺเต. สุปริกมฺมกตาย ภูมิยาติ นงฺคลกสเนน เจว อฏฺทนฺตเกน จ สุฏฺุ ปริกมฺมกตาย เขตฺตภูมิยา. นิกฺขิตฺตานีติ ปิตานิ โรปิตานิ. อนุปฺปเวจฺเฉยฺยาติ อนุปฺปเวเสยฺย. วุทฺธินฺติอาทีสุ อุทฺธคฺคมเนน วุทฺธึ, เหฏฺา มูลปฺปติฏฺาเนน วิรูฬฺหึ, สมนฺตา วิตฺถาริกภาเวน เวปุลฺลํ.
ยํ ปเนตฺถ ทิฏฺเ วา ธมฺเมติอาทิ วุตฺตํ, ตตฺถ อสมฺโมหตฺถํ อิมสฺมึ าเน กมฺมวิภตฺติ นาม กเถตพฺพา. สุตฺตนฺติกปริยาเยน หิ เอกาทส กมฺมานิ วิภตฺตานิ. เสยฺยถิทํ – ทิฏฺธมฺมเวทนียํ อุปปชฺชเวทนียํ อปรปริยายเวทนียํ, ยคฺครุกํ ยพฺพหุลํ ยทาสนฺนํ กฏตฺตา วา ปน กมฺมํ, ชนกํ อุปตฺถมฺภกํ อุปปีฬกํ อุปฆาตกนฺติ. ตตฺถ เอกชวนวีถิยํ สตฺตสุ จิตฺเตสุ กุสลา วา อกุสลา วา ปมชวนเจตนา ทิฏฺธมฺมเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากํ เทติ ¶ กากวฬิยปุณฺณเสฏฺีนํ วิย กุสลํ, นนฺทยกฺขนนฺทมาณวกนนฺทโคฆาตกโกกาลิยสุปฺปพุทฺธเทวทตฺตจิฺจมาณวิกานํ วิย จ อกุสลํ. ตถา อสกฺโกนฺตํ ปน อโหสิกมฺมํ นาม โหติ, อวิปากํ สมฺปชฺชติ. ตํ มิคลุทฺทโกปมาย สาเธตพฺพํ. ยถา หิ มิคลุทฺทเกน มิคํ ทิสฺวา ธนุํ อากฑฺฒิตฺวา ขิตฺโต สโร สเจ น วิรชฺฌติ, ตํ มิคํ ตตฺเถว ปาเตติ, อถ นํ มิคลุทฺทโก นิจฺจมฺมํ กตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ เฉตฺวา มํสํ อาทาย ปุตฺตทารํ โตเสนฺโต คจฺฉติ. สเจ ปน วิรชฺฌติ, มิโค ปลายิตฺวา ปุน ตํ ทิสํ น โอโลเกติ. เอวํ สมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. สรสฺส อวิรชฺฌิตฺวา มิควิชฺฌนํ วิย หิ ทิฏฺธมฺมเวทนียสฺส กมฺมสฺส วิปากวารปฏิลาโภ, อวิชฺฌนํ วิย อวิปากภาวาย สมฺปชฺชนนฺติ.
อตฺถสาธิกา ปน สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อนนฺตเร อตฺตภาเว วิปากํ เทติ. ตํ ปเนตํ กุสลปกฺเข อฏฺสมาปตฺติวเสน, อกุสลปกฺเข ปฺจานนฺตริยกมฺมวเสน เวทิตพฺพํ. ตตฺถ อฏฺสมาปตฺติลาภี เอกาย สมาปตฺติยา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ. ปฺจนฺนมฺปิ อานนฺตริยานํ กตฺตา เอเกน กมฺเมน นิรเย นิพฺพตฺตติ, เสสสมาปตฺติโย ¶ จ กมฺมานิ จ อโหสิกมฺมภาวํเยว อาปชฺชนฺติ, อวิปากานิ โหนฺติ. อยมฺปิ อตฺโถ ปุริมอุปมายเยว ทีเปตพฺโพ.
อุภินฺนํ ¶ อนฺตเร ปน ปฺจชวนเจตนา อปรปริยายเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อนาคเต ยทา โอกาสํ ลภติ, ตทา วิปากํ เทติ. สติ สํสารปฺปวตฺติยา อโหสิกมฺมํ นาม น โหติ. ตํ สพฺพํ สุนขลุทฺทเกน ทีเปตพฺพํ. ยถา หิ สุนขลุทฺทเกน มิคํ ทิสฺวา สุนโข วิสฺสชฺชิโต มิคํ อนุพนฺธิตฺวา ยสฺมึ าเน ปาปุณาติ, ตสฺมึ เยว ฑํสติ; เอวเมวํ ¶ อิทํ กมฺมํ ยสฺมึ าเน โอกาสํ ลภติ, ตสฺมึเยว วิปากํ เทติ, เตน มุตฺโต สตฺโต นาม นตฺถิ.
กุสลากุสเลสุ ปน ครุกาครุเกสุ ยํ ครุกํ โหติ, ตํ ยคฺครุกํ นาม. ตเทตํ กุสลปกฺเข มหคฺคตกมฺมํ, อกุสลปกฺเข ปฺจานนฺตริยกมฺมํ เวทิตพฺพํ. ตสฺมึ สติ เสสานิ กุสลานิ วา อกุสลานิ วา วิปจฺจิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตเทว ทุวิธมฺปิ ปฏิสนฺธึ เทติ. ยถา หิ สาสปปฺปมาณาปิ สกฺขรา วา อยคุฬิกา วา อุทกรหเท ปกฺขิตฺตา อุทกปิฏฺเ อุปฺลวิตุํ น สกฺโกติ, เหฏฺาว ปวิสติ; เอวเมว กุสเลปิ อกุสเลปิ ยํ ครุกํ, ตเทว คณฺหิตฺวา คจฺฉติ.
กุสลากุสเลสุ ปน ยํ พหุลํ โหติ, ตํ ยพฺพหุลํ นาม. ตํ ทีฆรตฺตํ ลทฺธาเสวนวเสน เวทิตพฺพํ. ยํ วา พลวกุสลกมฺเมสุ โสมนสฺสกรํ, อกุสลกมฺเมสุ สนฺตาปกรํ, เอตํ ยพฺพหุลํ นาม. ตเทตํ ยถา นาม ทฺวีสุ มลฺเลสุ ยุทฺธภูมึ โอติณฺเณสุ โย พลวา, โส อิตรํ ปาเตตฺวา คจฺฉติ; เอวเมว อิตรํ ทุพฺพลกมฺมํ อวตฺถริตฺวา ยํ อาเสวนวเสน วา พหุลํ, อาสนฺนวเสน วา พลวํ, ตํ วิปากํ เทติ, ทุฏฺคามณิอภยรฺโ กมฺมํ วิย.
โส กิร จูฬงฺคณิยยุทฺเธ ปราชิโต วฬวํ อารุยฺห ปลายิ. ตสฺส จูฬุปฏฺาโก ติสฺสามจฺโจ นาม เอกโกว ปจฺฉโต อโหสิ. โส เอกํ อฏวึ ปวิสิตฺวา นิสินฺโน ชิฆจฺฉาย พาธยมานาย – ‘‘ภาติก ติสฺส, อติวิย โน ชิฆจฺฉา พาธติ, กึ กริสฺสามา’’ติ อาห ¶ . อตฺถิ, เทว, มยา สาฏกนฺตเร เปตฺวา เอกํ สุวณฺณสรกภตฺตํ อาภตนฺติ. เตน หิ อาหราติ. โส นีหริตฺวา รฺโ ปุรโต เปสิ. ราชา ทิสฺวา, ‘‘ตาต, จตฺตาโร โกฏฺาเส กโรหี’’ติ อาห. มยํ ตโย ชนา, กสฺมา เทโว จตฺตาโร โกฏฺาเส การยตีติ? ภาติก ¶ ติสฺส, ยโต ปฏฺาย อหํ อตฺตานํ สรามิ, น เม อยฺยานํ อทตฺวา อาหาโร ปริภุตฺตปุพฺโพ อตฺถิ, สฺวาหํ อชฺชปิ อทตฺวา น ปริภฺุชิสฺสามีติ. โส จตฺตาโร โกฏฺาเส อกาสิ. ราชา ‘‘กาลํ โฆเสหี’’ติ อาห. ฉฑฺฑิตารฺเ กุโต, อยฺเย, ลภิสฺสาม เทวาติ ¶ . ‘‘นายํ ตว ภาโร. สเจ มม สทฺธา อตฺถิ, อยฺเย, ลภิสฺสาม, วิสฺสตฺโถ กาลํ โฆเสหี’’ติ อาห. โส ‘‘กาโล, ภนฺเต, กาโล, ภนฺเต’’ติ ติกฺขตฺตุํ โฆเสสิ.
อถสฺส โพธิมาตุมหาติสฺสตฺเถโร ตํ สทฺทํ ทิพฺพาย โสตธาตุยา สุตฺวา ‘กตฺถายํ สทฺโท’ติ ตํ อาวชฺเชนฺโต ‘‘อชฺช ทุฏฺคามณิอภยมหาราชา ยุทฺธปราชิโต อฏวึ ปวิสิตฺวา นิสินฺโน เอกํ สรกภตฺตํ จตฺตาโร โกฏฺาเส กาเรตฺวา ‘เอกโกว น ปริภฺุชิสฺสามี’ติ กาลํ โฆสาเปสี’’ติ ตฺวา ‘‘อชฺช มยา รฺโ สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ มโนคติยา อาคนฺตฺวา รฺโ ปุรโต อฏฺาสิ. ราชา ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ‘‘ปสฺส, ภาติก, ติสฺสา’’ติ วตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ปตฺตํ, ภนฺเต, เทถา’’ติ อาห. เถโร ปตฺตํ นีหริ. ราชา อตฺตโน โกฏฺาเสน สทฺธึ เถรสฺส โกฏฺาสํ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อาหารปริสฺสโย นาม มา กทาจิ โหตู’’ติ วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. ติสฺสามจฺโจปิ ‘‘มม อยฺยปุตฺเต ปสฺสนฺเต ภฺุชิตุํ น สกฺขิสฺสามี’’ติ อตฺตโน โกฏฺาสํ เถรสฺเสว ปตฺเต อากิริ. วฬวาปิ จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหมฺปิ โกฏฺาสํ เถรสฺเสว ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ราชา วฬวํ โอโลเกตฺวา ‘‘อยมฺปิ อตฺตโน โกฏฺาสํ เถรสฺเสว ปตฺเต ปกฺขิปนํ ปจฺจาสีสตี’’ติ ตฺวา ตมฺปิ ตตฺเถว ปกฺขิปิตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา อุยฺโยเชสิ. เถโร ตํ ภตฺตํ อาทาย คนฺตฺวา อาทิโต ปฏฺาย ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาโลปสงฺเขเปน อทาสิ.
ราชาปิ จินฺเตสิ – ‘‘อติวิยมฺหา ชิฆจฺฉิตา, สาธุ วตสฺส สเจ อติเรกภตฺตสิตฺถานิ ¶ ปหิเณยฺยา’’ติ. เถโร รฺโ จิตฺตํ ตฺวา อติเรกภตฺตํ ¶ เอเตสํ ยาปนมตฺตํ กตฺวา ปตฺตํ อากาเส ขิปิ, ปตฺโต อาคนฺตฺวา รฺโ หตฺเถ ปติฏฺาสิ. ภตฺตํ ติณฺณมฺปิ ชนานํ ยาวทตฺถํ อโหสิ. อถ ราชา ปตฺตํ โธวิตฺวา ‘‘ตุจฺฉปตฺตํ น เปสิสฺสามี’’ติ อุตฺตริสาฏกํ โมเจตฺวา อุทกํ ปฺุฉิตฺวา สาฏกํ ปตฺเต เปตฺวา ‘‘ปตฺโต คนฺตฺวา มม อยฺยสฺส หตฺเถ ปติฏฺาตู’’ติ อากาเส ขิปิ. ปตฺโต คนฺตฺวา เถรสฺส หตฺเถ ปติฏฺาสิ.
อปรภาเค รฺโ ตถาคตสฺส สรีรธาตูนํ อฏฺมภาคํ ปติฏฺาเปตฺวา วีสรตนสติกํ มหาเจติยํ กาเรนฺตสฺส อปรินิฏฺิเตเยว เจติเย กาลกิริยาสมโย อนุปฺปตฺโต. อถสฺส มหาเจติยสฺส ทกฺขิณปสฺเส นิปนฺนสฺส ปฺจนิกายวเสน ภิกฺขุสงฺเฆ สชฺฌายํ กโรนฺเต ฉหิ เทวโลเกหิ ฉ รถา อาคนฺตฺวา ปุรโต อากาเส อฏฺํสุ. ราชา ‘‘ปฺุโปตฺถกํ อาหรถา’’ติ อาทิโต ปฏฺาย ปฺุโปตฺถกํ วาจาเปสิ. อถ นํ กิฺจิ กมฺมํ น ปริโตเสสิ. โส ‘‘ปรโต ¶ วาเจถา’’ติ อาห. โปตฺถกวาจโก ‘‘จูฬงฺคณิยยุทฺเธ ปราชิเตน เต เทว อฏวึ ปวิสิตฺวา นิสินฺเนน เอกํ สรกภตฺตํ จตฺตาโร โกฏฺาเส กาเรตฺวา โพธิมาตุมหาติสฺสตฺเถรสฺส ภิกฺขา ทินฺนา’’ติ อาห. ราชา ‘‘เปหี’’ติ วตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ ปุจฺฉิ, ‘‘ภนฺเต, กตโร เทวโลโก รมณีโย’’ติ? สพฺพโพธิสตฺตานํ วสนฏฺานํ ตุสิตภวนํ มหาราชาติ. ราชา กาลํ กตฺวา ตุสิตภวนโต อาคตรเถว ปติฏฺาย ตุสิตภวนํ อคมาสิ. อิทํ พลวกมฺมสฺส วิปากทาเน วตฺถุ.
ยํ ปน กุสลากุสเลสุ อาสนฺนมรเณ อนุสฺสริตุํ สกฺโกติ, ตํ ยทาสนฺนํ นาม. ตเทตํ ยถา นาม โคคณปริปุณฺณสฺส วชสฺส ทฺวาเร วิวเฏ ปรภาเค ทมฺมควพลวคเวสุ ¶ สนฺเตสุปิ โย วชทฺวารสฺส อาสนฺโน โหติ อนฺตมโส ทุพฺพลชรคฺคโวปิ, โส เอว ปมตรํ นิกฺขมติ, เอวเมว อฺเสุ กุสลากุสเลสุ สนฺเตสุปิ มรณกาลสฺส อาสนฺนตฺตา วิปากํ เทติ.
ตตฺริมานิ วตฺถูนิ – มธุองฺคณคาเม กิร เอโก ทมิฬโทวาริโก ปาโตว พฬิสํ อาทาย คนฺตฺวา มจฺเฉ วธิตฺวา ตโย โกฏฺาเส กตฺวา ¶ เอเกน ตณฺฑุลํ คณฺหาติ, เอเกน ทธึ, เอกํ ปจติ. อิมินา นีหาเรน ปฺาส วสฺสานิ ปาณาติปาตกมฺมํ กตฺวา อปรภาเค มหลฺลโก อนุฏฺานเสยฺยํ อุปคจฺฉติ. ตสฺมึ ขเณ คิริวิหารวาสี จูฬปิณฺฑปาติกติสฺสตฺเถโร ‘‘มา อยํ สตฺโต มยิ ปสฺสนฺเต นสฺสตู’’ติ คนฺตฺวา ตสฺส เคหทฺวาเร อฏฺาสิ. อถสฺส ภริยา, ‘‘สามิ, เถโร อาคโต’’ติ อาโรเจสิ. อหํ ปฺาส วสฺสานิ เถรสฺส สนฺติกํ น คตปุพฺโพ, กตเรน เม คุเณน เถโร อาคมิสฺสติ, คจฺฉาติ นํ วทถาติ. สา ‘‘อติจฺฉถ, ภนฺเต’’ติ อาห. เถโร ‘‘อุปาสกสฺส กา สรีรปฺปวตฺตี’’ติ ปุจฺฉิ. ทุพฺพโล, ภนฺเตติ. เถโร ฆรํ ปวิสิตฺวา สตึ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘สีลํ คณฺหิสฺสสี’’ติ อาห. อาม, ภนฺเต, เทถาติ. เถโร ตีณิ สรณานิ ทตฺวา ปฺจ สีลานิ ทาตุํ อารภิ. ตสฺส ปฺจ สีลานีติ วจนกาเลเยว ชิวฺหา ปปติ. เถโร ‘‘วฏฺฏิสฺสติ เอตฺตก’’นฺติ นิกฺขมิตฺวา คโต. โสปิ กาลํ กตฺวา จาตุมหาราชิกภวเน นิพฺพตฺติ. นิพฺพตฺตกฺขเณเยว จ ‘‘กึ นุ โข กมฺมํ กตฺวา มยา อิทํ ลทฺธ’’นฺติ อาวชฺเชนฺโต เถรํ นิสฺสาย ลทฺธภาวํ ตฺวา เทวโลกโต อาคนฺตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. ‘‘โก เอโส’’ติ จ วุตฺเต ‘‘อหํ, ภนฺเต, ทมิฬโทวาริโก’’ติ อาห. กุหึ นิพฺพตฺโตสีติ? จาตุมหาราชิเกสุ, ภนฺเต, สเจ เม อยฺโย ปฺจ สีลานิ อทสฺส, อุปริ ¶ เทวโลเก นิพฺพตฺโต อสฺสํ. อหํ กึ กริสฺสามิ, ตฺวํ คณฺหิตุํ นาสกฺขิ, ปุตฺตกาติ. โส เถรํ วนฺทิตฺวา เทวโลกเมว คโต. อิทํ ตาว กุสลกมฺเม วตฺถุ.
อนฺตรคงฺคาย ¶ ปน มหาวาจกาลอุปาสโก นาม อโหสิ. โส ตึส วสฺสานิ โสตาปตฺติมคฺคตฺถาย ทฺวตฺตึสาการํ สชฺฌายิตฺวา ‘‘อหํ เอวํ ทฺวตฺตึสาการํ สชฺฌายนฺโต โอภาสมตฺตมฺปิ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขึ, พุทฺธสาสนํ อนิยฺยานิกํ ภวิสฺสตี’’ติ ทิฏฺิวิปลฺลาสํ ปตฺวา กาลกิริยํ กตฺวา มหาคงฺคาย นวอุสภิโก สุสุมารเปโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. เอกํ สมยํ กจฺฉกติตฺเถน สฏฺิ ปาสาณตฺถมฺภสกฏานิ อคมํสุ. โส สพฺเพปิ เต โคเณ จ ปาสาเณ จ ขาทิ. อิทํ อกุสลกมฺเม วตฺถุ.
เอเตหิ ¶ ปน ตีหิ มุตฺตํ อฺาณวเสน กตํ กฏตฺตา วา ปน กมฺมํ นาม. ตํ ยถา นาม อุมฺมตฺตเกน ขิตฺตทณฺฑํ ยตฺถ วา ตตฺถ วา คจฺฉติ, เอวเมว เตสํ อภาเว ยตฺถ กตฺถจิ วิปากํ เทติ.
ชนกํ นาม เอกํ ปฏิสนฺธึ ชเนตฺวา ปวตฺตึ น ชเนติ, ปวตฺเต อฺํ กมฺมํ วิปากํ นิพฺพตฺเตติ. ยถา หิ มาตา ชเนติเยว, ธาติเยว ปน ชคฺคติ; เอวเมวํ มาตา วิย ปฏิสนฺธินิพฺพตฺตกํ ชนกกมฺมํ, ธาติ วิย ปวตฺเต สมฺปตฺตกมฺมํ. อุปตฺถมฺภกํ นาม กุสเลปิ ลพฺภติ อกุสเลปิ. เอกจฺโจ หิ กุสลํ กตฺวา สุคติภเว นิพฺพตฺตติ. โส ตตฺถ ิโต ปุนปฺปุนํ กุสลํ กตฺวา ตํ กมฺมํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อเนกานิ วสฺสสตสหสฺสานิ สุคติภวสฺมึเยว วิจรติ. เอกจฺโจ อกุสลํ กตฺวา ทุคฺคติภเว นิพฺพตฺตติ. โส ตตฺถ ิโต ปุนปฺปุนํ อกุสลํ กตฺวา ตํ กมฺมํ อุปตฺถมฺเภตฺวา พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ ทุคฺคติภวสฺมึเยว วิจรติ.
อปโร นโย – ชนกํ นาม กุสลมฺปิ โหติ อกุสลมฺปิ. ตํ ปฏิสนฺธิยมฺปิ ปวตฺเตปิ รูปารูปวิปากกฺขนฺเธ ชเนติ. อุปตฺถมฺภกํ ปน วิปากํ ชเนตุํ น สกฺโกติ, อฺเน กมฺเมน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา ชนิเต วิปาเก อุปฺปชฺชนกสุขทุกฺขํ อุปตฺถมฺเภติ, อทฺธานํ ปวตฺเตติ. อุปปีฬกํ ¶ นาม อฺเน กมฺเมน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา ชนิเต วิปาเก อุปฺปชฺชนกสุขทุกฺขํ ปีเฬติ พาเธติ, อทฺธานํ ปวตฺติตุํ น เทติ. ตตฺรายํ นโย – กุสลกมฺเม วิปจฺจมาเน อกุสลกมฺมํ ¶ อุปปีฬกํ หุตฺวา ตสฺส วิปจฺจิตุํ น เทติ. อกุสลกมฺเม วิปจฺจมาเน กุสลกมฺมํ อุปปีฬกํ หุตฺวา ตสฺส วิปจฺจิตุํ น เทติ. ยถา วฑฺฒมานกํ รุกฺขํ วา คจฺฉํ วา ลตํ วา โกจิเทว ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา ภินฺเทยฺย วา ฉินฺเทยฺย วา, อถ โส รุกฺโข วา คจฺโฉ วา ลตา วา วฑฺฒิตุํ น สกฺกุเณยฺย; เอวเมวํ กุสลํ วิปจฺจมานํ อกุสเลน อุปปีฬิตํ, อกุสลํ วา ปน วิปจฺจมานํ กุสเลน อุปปีฬิตํ วิปจฺจิตุํ น สกฺโกติ. ตตฺถ สุนกฺขตฺตสฺส อกุสลกมฺมํ กุสลํ อุปปีเฬสิ, โจรฆาตกสฺส กุสลกมฺมํ อกุสลํ อุปปีเฬสิ.
ราชคเห กิร วาตกาฬโก ปฺาส วสฺสานิ โจรฆาตกมฺมํ อกาสิ. อถ นํ รฺโ อาโรเจสุํ – ‘‘เทว, วาตกาฬโก มหลฺลโก โจเร ฆาเตตุํ น สกฺโกตี’’ติ. ‘‘อปเนถ นํ ตสฺมา ¶ านนฺตราติ. อมจฺจา นํ อปเนตฺวา อฺํ ตสฺมึ าเน ปยึสุ. วาตกาฬโกปิ ยาว ตํ กมฺมํ อกาสิ, ตาว อหตวตฺถานิ วา อจฺฉาทิตุํ สุรภิปุปฺผานิ วา ปิฬนฺธิตุํ ปายาสํ วา ภฺุชิตุํ อุจฺฉาทนนฺหาปนํ วา ปจฺจนุโภตุํ นาลตฺถ. โส ‘‘ทีฆรตฺตํ เม กิลิฏฺเวเสน จริต’’นฺติ ‘‘ปายาสํ เม ปจาหี’’ติ ภริยํ อาณาเปตฺวา นฺหานียสมฺภารานิ คาหาเปตฺวา นฺหานติตฺถํ คนฺตฺวา สีสํ นฺหตฺวา อหตวตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา คนฺเธ วิลิมฺปิตฺวา ปุปฺผานิ ปิฬนฺธิตฺวา ฆรํ อาคจฺฉนฺโต สาริปุตฺตตฺเถรํ ทิสฺวา ‘‘สํกิลิฏฺกมฺมโต จมฺหิ อปคโต, อยฺโย จ เม ทิฏฺโ’’ติ ตุฏฺมานโส เถรํ ฆรํ เนตฺวา นวสปฺปิสกฺกรจุณฺณาภิสงฺขเตน ปายาเสน ปริวิสิ. เถโร ตสฺส อนุโมทนมกาสิ. โส อนุโมทนํ สุตฺวา อนุโลมิกขนฺตึ ปฏิลภิตฺวา ¶ เถรํ อนุคนฺตฺวา นิวตฺตมาโน อนฺตรามคฺเค ตรุณวจฺฉาย คาวิยา มทฺทิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาปิโต คนฺตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ. ภิกฺขู ตถาคตํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘ภนฺเต, โจรฆาตโก อชฺเชว กิลิฏฺกมฺมโต อปนีโต, อชฺเชว กาลงฺกโต, กหํ นุ โข นิพฺพตฺโต’’ติ? ตาวตึสภวเน, ภิกฺขเวติ. ภนฺเต, โจรฆาตโก ทีฆรตฺตํ ปุริเส ฆาเตสิ, ตุมฺเห จ เอวํ วเทถ, นตฺถิ นุ โข ปาปกมฺมสฺส ผลนฺติ. มา, ภิกฺขเว, เอวํ อวจุตฺถ, พลวกลฺยาณมิตฺตูปนิสฺสยํ ลภิตฺวา ธมฺมเสนาปติสฺส ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา อนุโมทนํ สุตฺวา อนุโลมิกขนฺตึ ปฏิลภิตฺวา โส ตตฺถ นิพฺพตฺโตติ.
‘‘สุภาสิตํ สุณิตฺวาน, นาคริโย โจรฆาตโก;
อนุโลมขนฺตึ ลทฺธาน, โมทตี ติทิวํ คโต’’ติ.
อุปฆาตกํ ¶ ปน สยํ กุสลมฺปิ อกุสลมฺปิ สมานํ อฺํ ทุพฺพลกมฺมํ ฆาเตตฺวา ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรติ. เอวํ ปน กมฺเมน กเต โอกาเส ตํ วิปากํ อุปฺปนฺนํ นาม วุจฺจติ. อุปจฺเฉทกนฺติปิ เอตสฺเสว นามํ. ตตฺรายํ นโย – กุสลกมฺมสฺส วิปจฺจนกาเล เอกํ อกุสลกมฺมํ อุฏฺาย ตํ กมฺมํ ฉินฺทิตฺวา ปาเตติ. อกุสลกมฺมสฺสปิ วิปจฺจนกาเล เอกํ กุสลกมฺมํ อุฏฺาย ตํ กมฺมํ ฉินฺทิตฺวา ปาเตติ. อิทํ อุปจฺเฉทกํ นาม. ตตฺถ อชาตสตฺตุโน กมฺมํ กุสลจฺเฉทกํ ¶ อโหสิ, องฺคุลิมาลตฺเถรสฺส อกุสลจฺเฉทกนฺติ. เอวํ สุตฺตนฺติกปริยาเยน เอกาทส กมฺมานิ วิภตฺตานิ.
อภิธมฺมปริยาเยน ปน โสฬส กมฺมานิ วิภตฺตานิ, เสยฺยถิทํ – ‘‘อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ, อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ อุปธิสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ, อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ กาลสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ, อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ ปโยคสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ ¶ . อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ คติวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺติ, อุปธิวิปตฺตึ, กาลวิปตฺตึ, ปโยควิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺติ. อตฺเถกจฺจานิ กลฺยาณานิ กมฺมสมาทานานิ คติวิปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ, อุปธิวิปตฺติ, กาลวิปตฺติ, ปโยควิปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ. อตฺเถกจฺจานิ กลฺยาณานิ กมฺมสมาทานานิ คติสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺติ, อุปธิสมฺปตฺตึ, กาลสมฺปตฺตึ, ปโยคสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺตี’’ติ (วิภ. ๘๑๐).
ตตฺถ ปาปกานีติ ลามกานิ. กมฺมสมาทานานีติ กมฺมคฺคหณานิ. คหิตสมาทินฺนานํ กมฺมานเมตํ อธิวจนํ. คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตีติอาทีสุ อนิฏฺารมฺมณานุภวนารเห กมฺเม วิชฺชมาเนเยว สุคติภเว นิพฺพตฺตสฺส ตํ กมฺมํ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. คติสมฺปตฺติยา ปติพาหิตํ หุตฺวา น วิปจฺจตีติ อตฺโถ. โย ปน ปาปกมฺเมน ทาสิยา วา กมฺมการิยา วา กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺติตฺวา อุปธิสมฺปนฺโน โหติ, อตฺตภาวสมิทฺธิยํ ติฏฺติ. อถสฺส สามิกา ตสฺส รูปสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘นายํ กิลิฏฺกมฺมสฺสานุจฺฉวิโก’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา อตฺตโน ชาตปุตฺตํ วิย ภณฺฑาคาริกาทิฏฺาเนสุ เปตฺวา สมฺปตฺตึ โยเชตฺวา ปริหรนฺติ. เอวรูปสฺส กมฺมํ อุปธิสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย ปน ปมกปฺปิกกาลสทิเส สุลภสมฺปนฺนรสโภชเน สุภิกฺขกาเล ¶ นิพฺพตฺตติ, ตสฺส วิชฺชมานมฺปิ ปาปกมฺมํ กาลสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย ปน สมฺมาปโยคํ นิสฺสาย ชีวติ, อุปสงฺกมิตพฺพยุตฺตกาเล อุปสงฺกมติ, ปฏิกฺกมิตพฺพยุตฺตกาเล ปฏิกฺกมติ, ปลายิตพฺพยุตฺตกาเล ปลายติ. ลฺชทานยุตฺตกาเล ลฺชํ เทติ, โจริกยุตฺตกาเล โจริกํ ¶ กโรติ, เอวรูปสฺส ปาปกมฺมํ ปโยคสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม.
ทุคฺคติภเว ¶ นิพฺพตฺตสฺส ปน ปาปกมฺมํ คติวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปน ทาสิยา วา กมฺมการิยา วา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺโต ทุพฺพณฺโณ โหติ ทุสฺสณฺาโน, ‘‘ยกฺโข นุ โข มนุสฺโส นุ โข’’ติ วิมตึ อุปฺปาเทติ. โส สเจ ปุริโส โหติ, อถ นํ ‘‘นายํ อฺสฺส กมฺมสฺส อนุจฺฉวิโก’’ติ หตฺถึ วา รกฺขาเปนฺติ อสฺสํ วา โคเณ วา, ติณกฏฺาทีนิ วา อาหราเปนฺติ, เขฬสรกํ วา คณฺหาเปนฺติ. สเจ อิตฺถี โหติ, อถ นํ หตฺถิอสฺสาทีนํ ภตฺตมาสาทีนิ วา ปจาเปนฺติ, กจวรํ วา ฉฑฺฑาเปนฺติ, อฺํ วา ปน ชิคุจฺฉนียกมฺมํ กาเรนฺติ. เอวรูปสฺส ปาปกมฺมํ อุปธิวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปน ทุพฺภิกฺขกาเล วา ปริหีนสมฺปตฺติกาเล วา อนฺตรกปฺเป วา นิพฺพตฺตติ, ตสฺส ปาปกมฺมํ กาลวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปน ปโยคํ สมฺปาเทตุํ น ชานาติ, อุปสงฺกมิตพฺพยุตฺตกาเล อุปสงฺกมิตุํ น ชานาติ…เป… โจริกยุตฺตกาเล โจริกํ กาตุํ น ชานาติ, ตสฺส ปาปกมฺมํ ปโยควิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม.
โย ปน อิฏฺารมฺมณานุภวนารเห กมฺเม วิชฺชมาเนเยว คนฺตฺวา ทุคฺคติภเว นิพฺพตฺตติ, ตสฺส ตํ กมฺมํ คติวิปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย ปน ปฺุานุภาเวน ราชราชมหามตฺตาทีนํ เคเห นิพฺพตฺติตฺวา กาโณ วา โหติ กุณี วา ขฺโช วา ปกฺขหโต วา, ตสฺส โอปรชฺชเสนาปติภณฺฑาคาริกฏฺานาทีนิ น อนุจฺฉวิกานีติ น เทนฺติ. อิจฺจสฺส ตํ ปฺุํ อุปธิวิปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย ปน ทุพฺภิกฺขกาเล วา ปริหีนสมฺปตฺติกาเล วา อนฺตรกปฺเป วา มนุสฺเสสุ นิพฺพตฺตติ, ตสฺส ตํ กลฺยาณกมฺมํ กาลวิปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปโยคํ สมฺปาเทตุํ น ชานาติ, ตสฺส กลฺยาณกมฺมํ ปโยควิปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม.
กลฺยาณกมฺเมน ปน สุคติภเว นิพฺพตฺตสฺส ตํ กมฺมํ คติสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม ¶ . ราชราชมหามตฺตาทีนํ ¶ กุเล นิพฺพตฺติตฺวา อุปธิสมฺปตฺตึ ปตฺตสฺส ¶ อตฺตภาวสมิทฺธิยํ ิตสฺส เทวนคเร สมุสฺสิตรตนโตรณสทิสํ อตฺตภาวํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส โอปรชฺชเสนาปติภณฺฑาคาริกฏฺานาทีนิ อนุจฺฉวิกานี’’ติ ทหรสฺเสว สโต ตานิ านนฺตรานิ เทนฺติ, เอวรูปสฺส กลฺยาณกมฺมํ อุปธิสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปมกปฺปิเกสุ วา สุลภนฺนปานกาเล วา นิพฺพตฺตติ, ตสฺส กลฺยาณกมฺมํ กาลสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย วุตฺตนเยเนว ปโยคํ สมฺปาเทตุํ ชานาติ, ตสฺส กมฺมํ ปโยคสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. เอวํ อภิธมฺมปริยาเยน โสฬส กมฺมานิ วิภตฺตานิ.
อปรานิปิ ปฏิสมฺภิทามคฺคปริยาเยน ทฺวาทส กมฺมานิ วิภตฺตานิ. เสยฺยถิทํ – ‘‘อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, ภวิสฺสติ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, ภวิสฺสติ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๔).
ตตฺถ ยํ กมฺมํ อตีเต อายูหิตํ อตีเตเยว วิปากวารํ ลภิ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ ชเนสิ, รูปชนกํ รูปํ, ตํ อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน วิปากวารํ น ลภิ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ นาสกฺขิ, ตํ อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน อตีเต อายูหิตํ เอตรหิ ลทฺธวิปากวารํ ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ ชเนตฺวา รูปชนกํ รูปํ ชเนตฺวา ิตํ, ตํ อโหสิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ อลทฺธวิปากวารํ ปฏิสนฺธิชนกํ วา ปฏิสนฺธึ ¶ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ นาสกฺขิ, ตํ อโหสิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน อตีเต อายูหิตํ อนาคเต วิปากวารํ ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ รูปํ ชเนตุํ สกฺขิสฺสติ, ตํ อโหสิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ อนาคเต วิปากวารํ น ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ น สกฺขิสฺสติ, ตํ อโหสิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ.
ยํ ¶ ¶ ปน เอตรหิ อายูหิตํ เอตรหิเยว วิปากวารํ ลภติ, ตํ อตฺถิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน เอตรหิ วิปากวารํ น ลภติ, ตํ อตฺถิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน เอตรหิ อายูหิตํ อนาคเต วิปากวารํ ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ รูปํ ชเนตุํ สกฺขิสฺสติ, ตํ อตฺถิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน วิปากวารํ น ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ สกฺขิสฺสติ, ตํ อตฺถิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ.
ยํ ปนานาคเต อายูหิสฺสติ, อนาคเตเยว วิปากวารํ ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนสฺสติ, ตํ ภวิสฺสติ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน วิปากวารํ น ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ น สกฺขิสฺสติ, ตํ ภวิสฺสติ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. เอวํ ปฏิสมฺภิทามคฺคปริยาเยน ทฺวาทส กมฺมานิ วิภตฺตานิ.
อิติ อิมานิ เจว ทฺวาทส อภิธมฺมปริยาเยน วิภตฺตานิ จ โสฬส กมฺมานิ อตฺตโน านา โอสกฺกิตฺวา สุตฺตนฺติกปริยาเยน วุตฺตานิ เอกาทส กมฺมานิเยว ภวนฺติ. ตานิปิ ตโต โอสกฺกิตฺวา ตีณิเยว กมฺมานิ โหนฺติ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ, อุปปชฺชเวทนียํ ¶ , อปรปริยายเวทนียนฺติ. เตสํ สงฺกมนํ นตฺถิ, ยถาาเนเยว ติฏฺนฺติ. ยทิ หิ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ กมฺมํ อุปปชฺชเวทนียํ วา อปรปริยายเวทนียํ วา ภเวยฺย, ‘‘ทิฏฺเ วา ธมฺเม’’ติ สตฺถา น วเทยฺย. สเจปิ อุปปชฺชเวทนียํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ วา อปรปริยายเวทนียํ วา ภเวยฺย, ‘‘อุปปชฺช วา’’ติ สตฺถา น วเทยฺย. อถาปิ อปรปริยายเวทนียํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ วา อุปปชฺชเวทนียํ วา ภเวยฺย, ‘‘อปเร วา ปริยาเย’’ติ สตฺถา น วเทยฺย.
สุกฺกปกฺเขปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ ปน โลเภ วิคเตติ โลเภ อปคเต นิรุทฺเธ. ตาลวตฺถุกตนฺติ ตาลวตฺถุ วิย กตํ, มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิย ปุน อวิรุฬฺหิสภาวํ กตนฺติ อตฺโถ. อนภาวํ กตนฺติ อนุอภาวํ กตํ, ยถา ปุน นุปฺปชฺชติ, เอวํ กตนฺติ อตฺโถ. เอวสฺสูติ เอวํ ภเวยฺยุํ. เอวเมว โขติ เอตฺถ พีชานิ วิย กุสลากุสลํ ¶ กมฺมํ ทฏฺพฺพํ, ตานิ อคฺคินา ฑหนปุริโส วิย โยคาวจโร, อคฺคิ วิย มคฺคาณํ ¶ , อคฺคึ ทตฺวา พีชานํ ฑหนกาโล วิย มคฺคาเณน กิเลสานํ ทฑฺฒกาโล, มสิกตกาโล วิย ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ฉินฺนมูลเก กตฺวา ปิตกาโล, มหาวาเต โอปุนิตฺวา นทิยา วา ปวาเหตฺวา อปฺปวตฺติกตกาโล วิย อุปาทินฺนกสนฺตานสฺส นิโรเธน ฉินฺนมูลกานํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อปฺปฏิสนฺธิกภาเวน นิรุชฺฌิตฺวา ปุน ภวสฺมึ ปฏิสนฺธึ อคฺคหิตกาโล เวทิตพฺโพ.
โมหชฺจาปวิทฺทสูติ โมหชฺจาปิ อวิทฺทสุ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ โส อวิทู อนฺธพาโล โลภชฺจ โทสชฺจ โมหชฺจาติ กมฺมํ กโรติ, เอวํ กโรนฺเตน ยํ เตน ปกตํ กมฺมํ อปฺปํ วา ยทิ วา พหุํ. อิเธว ตํ เวทนิยนฺติ ¶ ตํ กมฺมํ เตน พาเลน อิธ สเก อตฺตภาเวเยว เวทนียํ, ตสฺเสว ตํ อตฺตภาเว วิปจฺจตีติ อตฺโถ. วตฺถุํ อฺํ น วิชฺชตีติ ตสฺส กมฺมสฺส วิปจฺจนตฺถาย อฺํ วตฺถุ นตฺถิ. น หิ อฺเน กตํ กมฺมํ อฺสฺส อตฺตภาเว วิปจฺจติ. ตสฺมา โลภฺจ โทสฺจ, โมหชฺจาปิ วิทฺทสูติ ตสฺมา โย วิทู เมธาวี ปณฺฑิโต ตํ โลภชาทิเภทํ กมฺมํ น กโรติ, โส วิชฺชํ อุปฺปาทยํ ภิกฺขุ, สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห, อรหตฺตมคฺควิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ วา ปน วิชฺชํ อุปฺปาเทนฺโต สพฺพา ทุคฺคติโย ชหติ. เทสนาสีสเมเวตํ, สุคติโยปิ ปน โส ขีณาสโว ชหติเยว. ยมฺปิ เจตํ ‘‘ตสฺมา โลภฺจ โทสฺจา’’ติ วุตฺตํ, เอตฺถาปิ โลภโทสสีเสน โลภชฺจ โทสชฺจ กมฺมเมว นิทฺทิฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ สุตฺตนฺเตสุปิ คาถายปิ วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตนฺติ.
๕. หตฺถกสุตฺตวณฺณนา
๓๕. ปฺจเม อาฬวิยนฺติ อาฬวิรฏฺเ. โคมคฺเคติ คุนฺนํ คมนมคฺเค. ปณฺณสนฺถเรติ สยํ ปติตปณฺณสนฺถเร. อถาติ เอวํ คุนฺนํ คมนมคฺคํ อุชุํ มหาปถํ นิสฺสาย สึสปาวเน สยํ ปติตปณฺณานิ สงฺกฑฺฒิตฺวา กตสนฺถเร สุคตมหาจีวรํ ปตฺถริตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺเน ตถาคเต. หตฺถโก อาฬวโกติ หตฺถโต หตฺถํ คตตฺตา เอวํลทฺธนาโม อาฬวโก ราชปุตฺโต. เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘กจฺจิ, ภนฺเต ¶ , ภควา’’ติอาทิวจนํ อโวจ. กสฺมา ปน สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตํ านํ คนฺตฺวา นิสินฺโน, กสฺมา ราชกุมาโร ตตฺถ คโตติ? สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตาว อฏฺุปฺปตฺติกาย ธมฺมเทสนาย สมุฏฺานํ ทิสฺวา ตตฺถ นิสินฺโน, ราชกุมาโรปิ ปาโตว อุฏฺาย ปฺจหิ อุปาสกสเตหิ ปริวุโต พุทฺธุปฏฺานํ คจฺฉนฺโต ¶ มหามคฺคา โอกฺกมฺม โคปถํ คเหตฺวา ‘‘พุทฺธานํ ¶ ปูชนตฺถาย มิสฺสกมาลํ โอจินิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺโต สตฺถารํ ทิสฺวา อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอวํ โส ตตฺถ คโตติ. สุขมสยิตฺถาติ สุขํ สยิตฺถ.
อนฺตรฏฺโกติ มาฆผคฺคุณานํ อนฺตเร อฏฺทิวสปริมาโณ กาโล. มาฆสฺส หิ อวสาเน จตฺตาโร ทิวสา, ผคฺคุณสฺส อาทิมฺหิ จตฺตาโรติ อยํ ‘‘อนฺตรฏฺโก’’ติ วุจฺจติ. หิมปาตสมโยติ หิมสฺส ปตนสมโย. ขราติ ผรุสา กกฺขฬา วา. โคกณฺฏกหตาติ นววุฏฺเ เทเว คาวีนํ อกฺกนฺตกฺกนฺตฏฺาเน ขุรนฺตเรหิ กทฺทโม อุคฺคนฺตฺวา ติฏฺติ, โส วาตาตเปน สุกฺโข กกจทนฺตสทิโส โหติ ทุกฺขสมฺผสฺโส. ตํ สนฺธายาห – ‘‘โคกณฺฏกหตา ภูมี’’ติ. คุนฺนํ ขุรนฺตเรหิ ฉินฺนาติปิ อตฺโถ. เวรมฺโภ วาโต วายตีติ จตูหิ ทิสาหิ วายนฺโต วาโต วายติ. เอกาย ทิสาย วา ทฺวีหิ วา ทิสาหิ ตีหิ วา ทิสาหิ วายนฺโต วาโต เวรมฺโภติ น วุจฺจติ.
เตน หิ ราชกุมาราติ อิทํ สตฺถา ‘‘อยํ ราชกุมาโร โลกสฺมึ เนว สุขวาสิโน, น ทุกฺขวาสิโน ชานาติ, ชานาเปสฺสามิ น’’นฺติ อุปริ เทสนํ วฑฺเฒนฺโต อาห. ตตฺถ ยถา เต ขเมยฺยาติ ยถา ตุยฺหํ รุจฺเจยฺย. อิธสฺสาติ อิมสฺมึ โลเก อสฺส. โคนกตฺถโตติ จตุรงฺคุลาธิกโลเมน กาฬโกชเวน อตฺถโต. ปฏิกตฺถโตติ อุณฺณามเยน เสตตฺถรเณน อตฺถโต. ปฏลิกตฺถโตติ ฆนปุปฺเผน อุณฺณามยอตฺถรเณน อตฺถโต. กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรโณติ ¶ กทลิมิคจมฺมมเยน อุตฺตมปจฺจตฺถรเณน อตฺถโต. ตํ กิร ปจฺจตฺถรณํ เสตวตฺถสฺส อุปริ กทลิมิคจมฺมํ อตฺถริตฺวา สิพฺพิตฺวา กโรนฺติ. สอุตฺตรจฺฉโทติ สห อุตฺตรจฺฉเทน, อุปริ พทฺเธน รตฺตวิตาเนน สทฺธินฺติ อตฺโถ. อุภโตโลหิตกูปธาโนติ สีสูปธานฺจ ปาทูปธานฺจาติ ปลฺลงฺกสฺส อุภโต ปิตโลหิตกูปธาโน. ปชาปติโยติ ภริยาโย. มนาเปน ¶ ปจฺจุปฏฺิตา อสฺสูติ มนาเปน อุปฏฺานวิธาเนน ปจฺจุปฏฺิตา ภเวยฺยุํ.
กายิกาติ ปฺจทฺวารกายํ โขภยมานา. เจตสิกาติ มโนทฺวารํ โขภยมานา. โส ราโค ตถาคตสฺส ปหีโนติ ตถารูโป ราโค ตถาคตสฺส ปหีโนติ อตฺโถ. โย ปน ตสฺส ราโค, น โส ตถาคตสฺส ปหีโน นาม. โทสโมเหสุปิ เอเสว นโย.
พฺราหฺมโณติ พาหิตปาโป ขีณาสวพฺราหฺมโณ. ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต ¶ . น ลิมฺปติ กาเมสูติ วตฺถุกาเมสุ จ กิเลสกาเมสุ จ ตณฺหาทิฏฺิเลเปหิ น ลิมฺปติ. สีติภูโตติ อพฺภนฺตเร ตาปนกิเลสานํ อภาเวน สีติภูโต. นิรูปธีติ กิเลสูปธีนํ อภาเวน นิรูปธิ. สพฺพา อาสตฺติโย เฉตฺวาติ อาสตฺติโย วุจฺจนฺติ ตณฺหาโย, ตา สพฺพาปิ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ อาสตฺตวิสตฺตา อาสตฺติโย ฉินฺทิตฺวา. วิเนยฺย หทเย ทรนฺติ หทยนิสฺสิตํ ทรถํ วินยิตฺวา วูปสเมตฺวา. สนฺตึ ปปฺปุยฺย เจตโสติ จิตฺตสฺส กิเลสนิพฺพานํ ปาปุณิตฺวา. กรณวจนํ วา เอตํ ‘‘สพฺพเจตโส สมนฺนาหริตฺวา’’ติอาทีสุ วิย, เจตสา นิพฺพานํ ปาปุณิตฺวาติ อตฺโถ.
๖. เทวทูตสุตฺตวณฺณนา
๓๖. ฉฏฺเ ¶ เทวทูตานีติ เทวทูตา. อยํ ปเนตฺถ วจนตฺโถ – เทโวติ มจฺจุ, ตสฺส ทูตาติ เทวทูตา. ชิณฺณพฺยาธิมตา หิ สํเวคชนนฏฺเน ‘‘อิทานิ เต มจฺจุสมีปํ คนฺตพฺพ’’นฺติ โจเทนฺติ วิย, ตสฺมา เทวทูตาติ วุจฺจนฺติ. เทวา วิย ทูตาติปิ เทวทูตา. ยถา หิ อลงฺกตปฏิยตฺตาย เทวตาย อากาเส ตฺวา ‘‘ตฺวํ อสุกทิวเส มริสฺสสี’’ติ วุตฺเต ตสฺสา วจนํ สทฺธาตพฺพํ โหติ; เอวเมวํ ชิณฺณพฺยาธิมตาปิ ทิสฺสมานา ‘‘ตฺวมฺปิ เอวํธมฺโม’’ติ โจเทนฺติ วิย, เตสฺจ ตํ วจนํ อนฺถาภาวิตาย เทวตาย พฺยากรณสทิสเมว โหตีติ เทวา วิย ทูตาติ เทวทูตา. วิสุทฺธิเทวานํ ทูตาติปิ เทวทูตา. สพฺพโพธิสตฺตา หิ ชิณฺณพฺยาธิมตปพฺพชิเต ทิสฺวาว สํเวคํ อาปชฺชิตฺวา นิกฺขมฺม ปพฺพชึสุ. เอวํ วิสุทฺธิเทวานํ ทูตาติปิ เทวทูตา. อิธ ปน ลิงฺควิปลฺลาเสน ‘‘เทวทูตานี’’ติ วุตฺตํ.
กาเยน ¶ ทุจฺจริตนฺติอาทิ กสฺมา อารทฺธํ? เทวทูตานุยฺุชนฏฺานุปกฺกมกมฺมทสฺสนตฺถํ. อิมินา หิ กมฺเมน อยํ สตฺโต นิรเย นิพฺพตฺตติ, อถ นํ ตตฺถ ยโม ราชา เทวทูเต สมนุยฺุชติ. ตตฺถ กาเยน ทุจฺจริตํ จรตีติ กายทฺวาเรน ติวิธํ ทุจฺจริตํ จรติ. วาจายาติ วจีทฺวาเรน จตุพฺพิธํ ทุจฺจริตํ จรติ. มนสาติ มโนทฺวาเรน ติวิธํ ทุจฺจริตํ จรติ.
ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลาติ เอตฺถ เอกจฺเจ เถรา ‘‘นิรยปาลา นาม นตฺถิ, ยนฺตรูปํ วิย กมฺมเมว การณํ กาเรตี’’ติ วทนฺติ. ตํ ‘‘อตฺถิ นิรเย นิรยปาลาติ, อามนฺตา. อตฺถิ ¶ จ การณิกา’’ติอาทินา นเยน อภิธมฺเม (กถา. ๘๖๖) ปฏิเสธิตเมว. ยถา หิ มนุสฺสโลเก กมฺมการณการกา อตฺถิ, เอวเมว นิรเย นิรยปาลา อตฺถีติ. ยมสฺส ¶ รฺโติ ยมราชา นาม เวมานิกเปตราชา. เอกสฺมึ กาเล ทิพฺพวิมาเน ทิพฺพกปฺปรุกฺขทิพฺพอุยฺยานทิพฺพนาฏกาทิสพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวติ, เอกสฺมึ กาเล กมฺมวิปากํ, ธมฺมิโก ราชา, น เจส เอโกว โหติ, จตูสุ ปน ทฺวาเรสุ จตฺตาโร ชนา โหนฺติ. อมตฺเตยฺโยติ มาตุ หิโต มตฺเตยฺโย, มาตริ สมฺมา ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ. น มตฺเตยฺโยติ อมตฺเตยฺโย, มาตริ มิจฺฉา ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อพฺรหฺมฺโติ เอตฺถ จ ขีณาสวา พฺราหฺมณา นาม, เตสุ มิจฺฉา ปฏิปนฺโน อพฺรหฺมฺโ นาม.
สมนุยฺุชตีติ อนุโยควตฺตํ อาโรเปนฺโต ปุจฺฉติ, ลทฺธึ ปติฏฺาเปนฺโต ปน สมนุคฺคาหติ นาม, การณํ ปุจฺฉนฺโต สมนุภาสติ นาม. นาทฺทสนฺติ อตฺตโน สนฺติเก ปหิตสฺส กสฺสจิ เทวทูตสฺส อภาวํ สนฺธาย เอวํ วทติ.
อถ นํ ยโม ‘‘นายํ ภาสิตสฺส อตฺถํ สลฺลกฺเขตี’’ติ ตฺวา อตฺถํ สลฺลกฺขาเปตุกาโม อมฺโภติอาทิมาห. ตตฺถ ชิณฺณนฺติ ชราชิณฺณํ. โคปานสิวงฺกนฺติ โคปานสี วิย วงฺกํ. โภคฺคนฺติ ภคฺคํ. อิมินาปิสฺส วงฺกภาวเมว ทีเปติ. ทณฺฑปรายณนฺติ ทณฺฑปฏิสรณํ ทณฺฑทุติยํ. ปเวธมานนฺติ กมฺปมานํ. อาตุรนฺติ ชราตุรํ. ขณฺฑทนฺตนฺติ ชรานุภาเวน ขณฺฑิตทนฺตํ. ปลิตเกสนฺติ ปณฺฑรเกสํ. วิลูนนฺติ ลฺุจิตฺวา คหิตเกสํ วิย ¶ ขลฺลาฏํ. ขลิตสิรนฺติ มหาขลฺลาฏสีสํ. วลิตนฺติ สฺชาตวลึ. ติลกาหตคตฺตนฺติ ¶ เสตติลกกาฬติลเกหิ วิกิณฺณสรีรํ. ชราธมฺโมติ ชราสภาโว, อปริมุตฺโต ชราย, ชรา นาม มยฺหํ อพฺภนฺตเรเยว ปวตฺตตีติ. ปรโต พฺยาธิธมฺโม มรณธมฺโมติ ปททฺวเยปิ เอเสว นโย.
ปมํ เทวทูตํ สมนุยฺุชิตฺวาติ เอตฺถ ชราชิณฺณสตฺโต อตฺถโต เอวํ วทติ นาม – ‘‘ปสฺสถ, โภ, อหมฺปิ ตุมฺเห วิย ตรุโณ อโหสึ อูรุพลี พาหุพลี ชวสมฺปนฺโน, ตสฺส เม ตา พลชวสมฺปตฺติโย อนฺตรหิตา, วิชฺชมานาปิ เม หตฺถปาทา หตฺถปาทกิจฺจํ น กโรนฺติ, ชรายมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ ชราย อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ ชรา อาคมิสฺสติ. อิติ ตสฺสา ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ ¶ . เตเนเวส เทวทูโต นาม ชาโต. อาพาธิกนฺติ พาธิกํ. ทุกฺขิตนฺติ ทุกฺขปฺปตฺตํ. พาฬฺหคิลานนฺติ อธิมตฺตคิลานํ.
ทุติยํ เทวทูตนฺติ เอตฺถปิ คิลานสตฺโต อตฺถโต เอวํ วทติ นาม – ‘‘ปสฺสถ, โภ, อหมฺปิ ตุมฺเห วิย นิโรโค อโหสึ, โสมฺหิ เอตรหิ พฺยาธินา อภิหโต, สเก มุตฺตกรีเส ปลิปนฺโน, อุฏฺาตุมฺปิ น สกฺโกมิ. วิชฺชมานาปิ เม หตฺถปาทา หตฺถปาทกิจฺจํ น กโรนฺติ, พฺยาธิโตมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ พฺยาธิโต อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ พฺยาธิ อาคมิสฺสติ. อิติ ตสฺส ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนเวส เทวทูโต นาม ชาโต.
เอกาหมตนฺติอาทีสุ เอกาหํ มตสฺส อสฺสาติ เอกาหมโต, ตํ เอกาหมตํ. ปรโต ¶ ปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ภสฺตา วิย วายุนา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา ยถากฺกมํ สมุคฺคเตน สูนภาเวน อุทฺธุมาตตฺตา อุทฺธุมาตกํ. วินีโล วุจฺจติ วิปริภินฺนวณฺโณ, วินีโลว วินีลโก, ตํ วินีลกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วินีลนฺติ วินีลกํ. วิปุพฺพกนฺติ วิสฺสนฺทมานปุพฺพกํ, ปริภินฺนฏฺาเน หิ ปคฺฆริเตน ปุพฺเพน ปลิมกฺขิตนฺติ อตฺโถ.
ตติยํ ¶ เทวทูตนฺติ เอตฺถ มตกสตฺโต อตฺถโต เอวํ วทติ นาม – ‘‘ปสฺสถ, โภ, มํ อามกสุสาเน ฉฑฺฑิตํ อุทฺธุมาตกาทิภาวปฺปตฺตํ, มรณโตมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ มรณโต อปริมุตฺตา. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ มรณํ อาคมิสฺสติ. อิติ ตสฺส ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนวสฺส เทวทูโต นาม ชาโต.
อิมํ ปน เทวทูตานุโยคํ โก ลภติ, โก น ลภติ? เยน ตาว พหุํ ปาปํ กตํ, โส คนฺตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตติเยว. เยน ปน ปริตฺตํ ปาปํ กตํ, โส ลภติ. ยถา หิ สภณฺฑํ โจรํ คเหตฺวา กตฺตพฺพเมว กโรนฺติ น วินิจฺฉินนฺติ. อนุวิชฺชิตฺวา คหิตํ ปน วินิจฺฉยฏฺานํ นยนฺติ, โส วินิจฺฉยํ ลภติ. เอวํสมฺปทเมตํ. ปริตฺตปาปกมฺมา หิ อตฺตโน ธมฺมตายปิ สรนฺติ, สารียมานาปิ สรนฺติ.
ตตฺถ ¶ ทีฆชยนฺตทมิโฬ นาม อตฺตโน ธมฺมตาย สริ. โส กิร ทมิโฬ สุมนคิริมหาวิหาเร อากาสเจติยํ รตฺตปเฏน ปูเชสิ, อถ นิรเย อุสฺสทสามนฺเต นิพฺพตฺโต อคฺคิชาลสทฺทํ สุตฺวาว อตฺตนา ปูชิตปฏํ อนุสฺสริ, โส คนฺตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺโต. อปโรปิ ปุตฺตสฺส ทหรภิกฺขุโน ขลิสาฏกํ เทนฺโต ปาทมูเล เปสิ, มรณกาลมฺหิ ปฏปฏาติ สทฺเท นิมิตฺตํ คณฺหิ ¶ , โสปิ อุสฺสทสามนฺเต นิพฺพตฺโต ชาลสทฺเทน ตํ สาฏกํ อนุสฺสริตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺโต. เอวํ ตาว อตฺตโน ธมฺมตาย กุสลํ กมฺมํ สริตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตตีติ.
อตฺตโน ธมฺมตาย อสรนฺเต ปน ตโย เทวทูเต ปุจฺฉติ. ตตฺถ โกจิ ปเมน เทวทูเตน สรติ, โกจิ ทุติยตติเยหิ, โกจิ ตีหิปิ นสฺสรติ. ตํ ยโม ราชา ทิสฺวา สยํ สาเรติ. เอโก กิร อมจฺโจ สุมนปุปฺผกุมฺเภน มหาเจติยํ ปูเชตฺวา ยมสฺส ปตฺตึ อทาสิ, ตํ อกุสลกมฺเมน นิรเย นิพฺพตฺตํ ยมสฺส สนฺติกํ นยึสุ. ตสฺมึ ตีหิปิ เทวทูเตหิ กุสลํ อสรนฺเต ยโม สยํ โอโลเกนฺโต ทิสฺวา – ‘‘นนุ ตฺวํ มหาเจติยํ สุมนปุปฺผกุมฺเภน ปูเชตฺวา มยฺหํ ปตฺตึ อทาสี’’ติ สาเรสิ, โส ตสฺมึ กาเล สริตฺวา เทวโลกํ คโต ¶ . ยโม ปน สยํ โอโลเกตฺวาปิ อปสฺสนฺโต – ‘‘มหาทุกฺขํ นาม อนุภวิสฺสติ อยํ สตฺโต’’ติ ตุณฺหี อโหสิ.
ตตฺตํ อโยขิลนฺติ ติคาวุตํ อตฺตภาวํ สมฺปชฺชลิตาย โลหปถวิยา อุตฺตานกํ นิปชฺชาเปตฺวา ทกฺขิณหตฺเถ ตาลปฺปมาณํ อยสูลํ ปเวเสนฺติ, ตถา วามหตฺถาทีสุ. ยถา จ ตํ อุตฺตานกํ นิปชฺชาเปตฺวา, เอวํ อุเรนปิ วามปสฺเสนปิ ทกฺขิณปสฺเสนปิ นิปชฺชาเปตฺวา เต ตํ กมฺมการณํ กโรนฺติเยว. สํเวเสตฺวาติ ชลิตาย โลหปถวิยา ติคาวุตํ อตฺตภาวํ นิปชฺชาเปตฺวา. กุารีหีติ มหตีหิ เคหสฺส เอกปกฺขจฺฉทนมตฺตาหิ กุารีหิ ตจฺฉนฺติ, โลหิตํ นที หุตฺวา สนฺทติ, โลหปถวิโต ชาลา อุฏฺหิตฺวา ตจฺฉิตฏฺานํ คณฺหาติ, มหาทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ตจฺฉนฺตา ปน สุตฺตาหตํ กริตฺวา ทารุํ วิย อฏฺํสมฺปิ ฉฬํสมฺปิ กโรนฺติ. วาสีหีติ มหาสุปฺปปฺปมาณาหิ วาสีหิ. รเถ โยเชตฺวาติ สทฺธึ ยุคโยตฺตปกฺขรถจกฺกกุพฺพรปาชเนหิ สพฺพโต ปชฺชลิเต รเถ โยเชตฺวา. มหนฺตนฺติ ¶ มหากูฏาคารปฺปมาณํ. อาโรเปนฺตีติ สมฺปชฺชลิเตหิ อยมุคฺคเรหิ โปเถนฺตา อาโรเปนฺติ. สกิมฺปิ อุทฺธนฺติ สุปกฺกุถิตาย อุกฺขลิยา ปกฺขิตฺตตณฺฑุลา วิย อุทฺธมโธติริยฺจ คจฺฉติ. มหานิรเยติ อวีจิมหานิรยมฺหิ.
ภาคโส ¶ มิโตติ ภาเค เปตฺวา วิภตฺโต. ปริยนฺโตติ ปริกฺขิตฺโต. อยสาติ อุปริ อยปฏฺเฏน ฉาทิโต. สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺตีติ เอวํ ผริตฺวา ติฏฺติ, ยถา ตํ สมนฺตา โยชนสเต ตฺวา โอโลเกนฺตสฺส อกฺขีนิ ยมกโคฬกา วิย นิกฺขมนฺติ.
หีนกายูปคาติ หีนํ กายํ อุปคตา หุตฺวา. อุปาทาเนติ ตณฺหาทิฏฺิคฺคหเณ. ชาติมรณสมฺภเวติ ชาติยา จ มรณสฺส จ การณภูเต. อนุปาทาติ จตูหิ อุปาทาเนหิ อนุปาทิยิตฺวา. ชาติมรณสงฺขเยติ ชาติมรณสงฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน วิมุจฺจนฺติ. ทิฏฺธมฺมาภินิพฺพุตาติ ทิฏฺธมฺเม อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว สพฺพกิเลสนิพฺพาเนน นิพฺพุตา. สพฺพทุกฺขํ อุปจฺจคุนฺติ สกลวฏฺฏทุกฺขํ อติกฺกนฺตา.
๗. จตุมหาราชสุตฺตวณฺณนา
๓๗. สตฺตเม ¶ อมจฺจา ปาริสชฺชาติ ปริจาริกเทวตา. อิมํ โลกํ อนุวิจรนฺตีติ อฏฺมีทิวเส กิร สกฺโก เทวราชา จตฺตาโร มหาราชาโน อาณาเปติ – ‘‘ตาตา, อชฺช อฏฺมีทิวเส มนุสฺสโลกํ อนุวิจริตฺวา ปฺุานิ กโรนฺตานํ นามโคตฺตํ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ. เต คนฺตฺวา อตฺตโน ปริจารเก เปเสนฺติ – ‘‘คจฺฉถ, ตาตา, มนุสฺสโลกํ วิจริตฺวา ปฺุการกานํ นามโคตฺตานิ สุวณฺณปฏฺเฏ ลิขิตฺวา อาเนถา’’ติ. เต ตถา กโรนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อิมํ โลกํ อนุวิจรนฺตี’’ติ. กจฺจิ ¶ พหูติอาทิ เตสํ อุปปริกฺขาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอวํ อุปปริกฺขนฺตา หิ เต อนุวิจรนฺติ. ตตฺถ อุโปสถํ อุปวสนฺตีติ มาสสฺส อฏฺวาเร อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺหนฺติ. ปฏิชาคโรนฺตีติ ปฏิชาครอุโปสถกมฺมํ นาม กโรนฺติ. ตํ กโรนฺตา เอกสฺมึ อทฺธมาเส จตุนฺนํ อุโปสถทิวสานํ ปจฺจุคฺคมนานุคฺคมนวเสน กโรนฺติ. ปฺจมีอุโปสถํ ปจฺจุคฺคจฺฉนฺตา จตุตฺถิยํ อุโปสถิกา โหนฺติ, อนุคจฺฉนฺตา ฉฏฺิยํ. อฏฺมีอุโปสถํ ปจฺจุคฺคจฺฉนฺตา สตฺตมิยํ, อนุคจฺฉนฺตา นวมิยํ. จาตุทฺทสึ ปจฺจุคฺคจฺฉนฺตา เตรสิยํ, ปนฺนรสีอุโปสถํ อนุคจฺฉนฺตา ปาฏิปเท อุโปสถิกา โหนฺติ. ปฺุานิ กโรนฺตีติ สรณคมนนิจฺจสีลปุปฺผปูชาธมฺมสฺสวนปทีปสหสฺสอาโรปนวิหารกรณาทีนิ นานปฺปการานิ ปฺุานิ กโรนฺติ. เต เอวํ อนุวิจริตฺวา ปฺุกมฺมการกานํ นามโคตฺตานิ โสวณฺณมเย ปฏฺเฏ ลิขิตฺวา อาหริตฺวา จตุนฺนํ มหาราชานํ เทนฺติ. ปุตฺตา อิมํ โลกํ อนุวิจรนฺตีติ จตูหิ มหาราเชหิ ¶ ปุริมนเยเนว ปหิตตฺตา อนุวิจรนฺติ. ตทหูติ ตํทิวสํ. อุโปสเถติ อุโปสถทิวเส.
สเจ, ภิกฺขเว, อปฺปกา โหนฺตีติ จตุนฺนํ มหาราชานํ อมจฺจา ปาริสชฺชา ตา ตา คามนิคมราชธานิโย อุปสงฺกมนฺติ, ตโต ตํ อุปนิสฺสาย อธิวตฺถา เทวตา ‘‘มหาราชานํ อมจฺจา อาคตา’’ติ ปณฺณาการํ คเหตฺวา เตสํ สนฺติกํ คจฺฉนฺติ. เต ปณฺณาการํ คเหตฺวา ‘‘กจฺจิ นุ โข มาริสา พหู มนุสฺสา มตฺเตยฺยา’’ติ วุตฺตนเยน มนุสฺสานํ ปฺุปฏิปตฺตึ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, มาริส, อิมสฺมึ คาเม อสุโก จ อสุโก จ ปฺุานิ กโรนฺตี’’ติ วุตฺเต เตสํ นามโคตฺตํ ลิขิตฺวา อฺตฺถ ¶ คจฺฉนฺติ. อถ จาตุทฺทสิยํ จตุนฺนํ มหาราชานํ ปุตฺตาปิ ตเมว สุวณฺณปฏฺฏํ คเหตฺวา เตเนว นเยน อนุวิจรนฺตา นามโคตฺตานิ ลิขนฺติ. ตทหุโปสเถ ¶ ปนฺนรเส จตฺตาโรปิ มหาราชาโน เตเนว นเยน ตสฺมึเยว สุวณฺณปฏฺเฏ นามโคตฺตานิ ลิขนฺติ. เต สุวณฺณปฏฺฏปริมาเณเนว – ‘‘อิมสฺมึ กาเล มนุสฺสา อปฺปกา, อิมสฺมึ กาเล พหุกา’’ติ ชานนฺติ. ตํ สนฺธาย ‘‘สเจ, ภิกฺขเว, อปฺปกา โหนฺติ มนุสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เทวานํ ตาวตึสานนฺติ ปมํ อภินิพฺพตฺเต เตตฺตึส เทวปุตฺเต อุปาทาย เอวํลทฺธนามานํ. เตสํ ปน อุปฺปตฺติกถา ทีฆนิกาเย สกฺกปฺหสุตฺตวณฺณนาย วิตฺถาริตา. เตนาติ เตน อาโรจเนน, เตน วา ปฺุการกานํ อปฺปกภาเวน. ทิพฺพา วต, โภ, กายา ปริหายิสฺสนฺตีติ นวนวานํ เทวปุตฺตานํ อปาตุภาเวน เทวกายา ปริหายิสฺสนฺติ, รมณียํ ทสโยชนสหสฺสํ เทวนครํ สฺุํ ภวิสฺสติ. ปริปูริสฺสนฺติ อสุรกายาติ จตฺตาโร อปายา ปริปูริสฺสนฺติ. อิมินา ‘‘มยํ ปริปุณฺเณ เทวนคเร เทวสงฺฆมชฺเฌ นกฺขตฺตํ กีฬิตุํ น ลภิสฺสามา’’ติ อนตฺตมนา โหนฺติ. สุกฺกปกฺเขปิ อิมินาว อุปาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโทติ อตฺตโน สกฺกเทวราชกาลํ สนฺธาย กเถติ. เอกสฺส วา สกฺกสฺส อชฺฌาสยํ คเหตฺวา กเถตีติ วุตฺตํ. อนุนยมาโนติ อนุโพธยมาโน. ตายํ เวลายนฺติ ตสฺมึ กาเล.
ปาฏิหาริยปกฺขฺจาติ เอตฺถ ปาฏิหาริยปกฺโข นาม อนฺโตวสฺเส เตมาสํ นิพทฺธุโปสโถ, ตํ อสกฺโกนฺตสฺส ทฺวินฺนํ ปวารณานํ อนฺตเร เอกมาสํ นิพทฺธุโปสโถ, ตมฺปิ อสกฺโกนฺตสฺส ปมปวารณโต ปฏฺาย เอโก อทฺธมาโส ปาฏิหาริยปกฺโขเยว นาม. อฏฺงฺคสุสมาคตนฺติ อฏฺหิ ¶ คุณงฺเคหิ สมนฺนาคตํ. โยปิสฺส ¶ มาทิโส นโรติ โยปิ สตฺโต มาทิโส ภเวยฺย. สกฺโกปิ กิร วุตฺตปฺปการสฺส อุโปสถกมฺมสฺส คุณํ ชานิตฺวา ทฺเว เทวโลกสมฺปตฺติโย ปหาย มาสสฺส อฏฺ วาเร อุโปสถํ อุปวสติ. ตสฺมา เอวมาห. อปโร นโย – โยปิสฺส มาทิโส นโรติ โยปิ สตฺโต มาทิโส อสฺส, มยา ปตฺตํ ¶ สมฺปตฺตึ ปาปุณิตุํ อิจฺเฉยฺยาติ อตฺโถ. สกฺกา หิ เอวรูเปน อุโปสถกมฺเมน สกฺกสมฺปตฺตึ ปาปุณิตุนฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.
วุสิตวาติ วุตฺถวาโส. กตกรณีโยติ จตูหิ มคฺเคหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ กตฺวา ิโต. โอหิตภาโรติ ขนฺธภารกิเลสภารอภิสงฺขารภาเร โอตาเรตฺวา ิโต. อนุปฺปตฺตสทตฺโถติ สทตฺโถ วุจฺจติ อรหตฺตํ, ตํ อนุปฺปตฺโต. ปริกฺขีณภวสํโยชโนติ เยน สํโยชเนน พทฺโธ ภเวสุ อากฑฺฒียติ, ตสฺส ขีณตฺตา ปริกฺขีณภวสํโยชโน. สมฺมทฺา วิมุตฺโตติ เหตุนา นเยน การเณน ชานิตฺวา วิมุตฺโต. กลฺลํ วจนายาติ ยุตฺตํ วตฺตุํ.
โยปิสฺส มาทิโส นโรติ โยปิ มาทิโส ขีณาสโว อสฺส, โสปิ เอวรูปํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยาติ อุโปสถกมฺมสฺส คุณํ ชานนฺโต เอวํ วเทยฺย. อปโร นโย โยปิสฺส มาทิโส นโรติ โยปิ สตฺโต มาทิโส อสฺส, มยา ปตฺตํ สมฺปตฺตึ ปาปุณิตุํ อิจฺเฉยฺยาติ อตฺโถ. สกฺกา หิ เอวรูเปน อุโปสถกมฺเมน ขีณาสวสมฺปตฺตึ ปาปุณิตุนฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. อฏฺมํ อุตฺตานตฺถเมว.
๙. สุขุมาลสุตฺตวณฺณนา
๓๙. นวเม สุขุมาโลติ นิทฺทุกฺโข. ปรมสุขุมาโลติ ปรมนิทฺทุกฺโข. อจฺจนฺตสุขุมาโลติ สตตนิทฺทุกฺโข. อิมํ ¶ ภควา กปิลปุเร นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย นิทฺทุกฺขภาวํ คเหตฺวา อาห, จริยกาเล ปน เตน อนุภูตทุกฺขสฺส อนฺโต นตฺถีติ. เอกตฺถาติ เอกิสฺสา โปกฺขรณิยา. อุปฺปลํ วปฺปตีติ อุปฺปลํ โรเปติ. สา นีลุปฺปลวนสฺฉนฺนา โหติ. ปทุมนฺติ ปณฺฑรปทุมํ. ปุณฺฑรีกนฺติ รตฺตปทุมํ. เอวํ อิตราปิ ทฺเว ปทุมปุณฺฑรีกวเนหิ สฺฉนฺนา โหนฺติ. โพธิสตฺตสฺส กิร สตฺตฏฺวสฺสิกกาเล ราชา อมจฺเจ ปุจฺฉิ – ‘‘ตรุณทารกา กตรกีฬิกํ ปิยายนฺตี’’ติ? อุทกกีฬิกํ เทวาติ. ตโต ราชา กุทฺทาลกมฺมการเก สนฺนิปาเตตฺวา โปกฺขรณิฏฺานานิ คณฺหาเปสิ. อถ สกฺโก เทวราชา อาวชฺเชนฺโต ตํ ปวตฺตึ ¶ ตฺวา – ‘‘น ยุตฺโต มหาสตฺตสฺส มานุสกปริโภโค, ทิพฺพปริโภโค ยุตฺโต’’ติ วิสฺสกมฺมํ อามนฺเตตฺวา – ‘‘คจฺฉ, ตาต, มหาสตฺตสฺส กีฬาภูมิยํ โปกฺขรณิโย มาเปหี’’ติ อาห. กีทิสา โหนฺตุ ¶ , เทวาติ? อปคตกลลกทฺทมา โหนฺตุ วิปฺปกิณฺณมณิมุตฺตปวาฬิกา สตฺตรตนมยปาการปริกฺขิตฺตา ปวาฬมยอุณฺหีเสหิ มณิมยโสปานพาหุเกหิ สุวณฺณรชตมณิมยผลเกหิ โสปาเนหิ สมนฺนาคตา. สุวณฺณรชตมณิปวาฬมยา เจตฺถ นาวา โหนฺตุ, สุวณฺณนาวาย รชตปลฺลงฺโก โหตุ, รชตนาวาย สุวณฺณปลฺลงฺโก, มณินาวาย ปวาฬปลฺลงฺโก, ปวาฬนาวาย มณิปลฺลงฺโก, สุวณฺณรชตมณิปวาฬมยาว อุทกเสจนนาฬิกา โหนฺตุ, ปฺจวณฺเณหิ จ ปทุเมหิ สฺฉนฺนา โหนฺตูติ. ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ วิสฺสกมฺมเทวปุตฺโต สกฺกสฺส ปฏิสฺสุตฺวา รตฺติภาเค โอตริตฺวา รฺโ คาหาปิตโปกฺขรณิฏฺาเนสุเยว เตเนว นิยาเมน โปกฺขรณิโย มาเปสิ.
นนุ เจตา ¶ อปคตกลลกทฺทมา, กถเมตฺถ ปทุมานิ ปุปฺผึสูติ? โส กิร ตาสุ โปกฺขรณีสุ ตตฺถ ตตฺถ สุวณฺณรชตมณิปวาฬมยา ขุทฺทกนาวาโย มาเปตฺวา ‘‘เอตา กลลกทฺทมปูริตา จ โหนฺตุ, ปฺจวณฺณานิ เจตฺถ ปทุมานิ ปุปฺผนฺตู’’ติ อธิฏฺาสิ. เอวํ ปฺจวณฺณานิ ปทุมานิ ปุปฺผึสุ, เรณุวฏฺฏิโย อุคฺคนฺตฺวา อุทกปิฏฺํ อชฺโฌตฺถริตฺวา วิจรนฺติ. ปฺจวิธา ภมรคณา อุปกูชนฺตา วิจรนฺติ. เอวํ ตา มาเปตฺวา วิสฺสกมฺโม เทวปุรเมว คโต. ตโต วิภาตาย รตฺติยา มหาชโน ทิสฺวา ‘‘มหาปุริสฺสสฺส มาปิตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา มหาชนปริวาโร คนฺตฺวา โปกฺขรณิโย ทิสฺวา ‘‘มม ปุตฺตสฺส ปฺุิทฺธิยา เทวตาหิ มาปิตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ อตฺตมโน อโหสิ. ตโต ปฏฺาย มหาปุริโส อุทกกีฬิกํ อคมาสิ.
ยาวเทว มมตฺถายาติ เอตฺถ ยาวเทวาติ ปโยชนาวธินิยามวจนํ, ยาว มเมว อตฺถาย, นตฺเถตฺถ อฺํ การณนฺติ อตฺโถ. น โข ปนสฺสาหนฺติ น โข ปนสฺส อหํ. อกาสิกํ จนฺทนนฺติ อสณฺหํ จนฺทนํ. กาสิกํ, ภิกฺขเว, สุ เม ตํ เวนนฺติ, ภิกฺขเว, เวนมฺปิ เม กาสิกํ โหติ. เอตฺถ หิ สุอิติ จ ตนฺติ จ นิปาตมตฺตํ, เมติ สามิวจนํ. เวนมฺปิ เม สณฺหเมว โหตีติ ทสฺเสติ. กาสิกา กฺจุกาติ ปารุปนกฺจุโกปิ สณฺหกฺจุโกว. เสตจฺฉตฺตํ ธารียตีติ มานุสกเสตจฺฉตฺตมฺปิ ทิพฺพเสตจฺฉตฺตมฺปิ อุปริธาริตเมว โหติ. มา นํ ผุสิ สีตํ วาติ ¶ มา เอตํ โพธิสตฺตํ สีตํ วา อุณฺหาทีสุ วา อฺตรํ ผุสตูติ อตฺโถ.
ตโย ¶ ปาสาทา อเหสุนฺติ โพธิสตฺเต กิร โสฬสวสฺสุทฺเทสิเก ชาเต ¶ สุทฺโธทนมหาราชา ‘‘ปุตฺตสฺส วสนกปาสาเท กาเรสฺสามี’’ติ วฑฺฒกิโน สนฺนิปาตาเปตฺวา ภทฺทเกน นกฺขตฺตมุหุตฺเตน นวภูมิกตปริกมฺมํ กาเรตฺวา ตโย ปาสาเท การาเปสิ. เต สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เหมนฺติโกติอาทีสุ ยตฺถ สุขํ เหมนฺเต วสิตุํ, อยํ เหมนฺติโก. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปเนตฺถ วจนตฺโถ – เหมนฺเต วาโส เหมนฺตํ, เหมนฺตํ อรหตีติ เหมนฺติโก. อิตเรสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ เหมนฺติโก ปาสาโท นวภูมโก อโหสิ, ภูมิโย ปนสฺส อุณฺหอุตุคฺคาหาปนตฺถาย นีจา อเหสุํ. ตตฺถ ทฺวารวาตปานานิ สุผุสิตกวาฏานิ อเหสุํ นิพฺพิวรานิ. จิตฺตกมฺมมฺปิ กโรนฺตา ตตฺถ ตตฺถ ปชฺชลิเต อคฺคิกฺขนฺเธเยว อกํสุ. ภูมตฺถรณํ ปเนตฺถ กมฺพลมยํ, ตถา สาณิวิตานนิวาสนปารุปนเวนานิ. วาตปานานิ อุณฺหคฺคาหาปนตฺถํ ทิวา วิวฏานิ รตฺตึ ปิหิตานิ โหนฺติ.
คิมฺหิโก ปน ปฺจภูมโก อโหสิ. สีตอุตุคฺคาหาปนตฺถํ ปเนตฺถ ภูมิโย อุจฺจา อสมฺพาธา อเหสุํ. ทฺวารวาตปานานิ นาติผุสิตานิ สวิวรานิ สชาลานิ อเหสุํ. จิตฺตกมฺเม อุปฺปลานิ ปทุมานิ ปุณฺฑรีกานิเยว อกํสุ. ภูมตฺถรณํ ปเนตฺถ ทุกูลมยํ, ตถา สาณิวิตานนิวาสนปารุปนเวนานิ. วาตปานสมีเปสุ เจตฺถ นว จาฏิโย เปตฺวา อุทกสฺส ปูเรตฺวา นีลุปฺปลาทีหิ สฺฉาเทนฺติ. เตสุ เตสุ ปเทเสสุ อุทกยนฺตานิ กโรนฺติ, เยหิ เทเว วสฺสนฺเต วิย อุทกธารา นิกฺขมนฺติ. อนฺโตปาสาเท ตตฺถ ตตฺถ กลลปูรา โทณิโย เปตฺวา ปฺจวณฺณานิ ปทุมานิ โรปยึสุ. ปาสาทมตฺถเก สุกฺขมหึสจมฺมํ พนฺธิตฺวา ยนฺตํ ปริวตฺเตตฺวา ยาว ฉทนปิฏฺิยา ปาสาเณ อาโรเปตฺวา ตสฺมึ วิสฺสชฺเชนฺติ. เตสํ จมฺเม ปวฏฺฏนฺตานํ สทฺโท เมฆคชฺชิตํ วิย โหติ. ทฺวารวาตปานานิ ¶ ปเนตฺถ ทิวา ปิหิตานิ โหนฺติ รตฺตึ วิวฏานิ.
วสฺสิโก ¶ สตฺตภูมโก อโหสิ. ภูมิโย ปเนตฺถ ทฺวินฺนมฺปิ อุตูนํ คาหาปนตฺถาย นาติอุจฺจา นาตินีจา อกํสุ. เอกจฺจานิ ทฺวารวาตปานานิ สุผุสิตานิ, เอกจฺจานิ สวิวรานิ. ตตฺถ จิตฺตกมฺมมฺปิ เกสุจิ าเนสุ ปชฺชลิตอคฺคิกฺขนฺธวเสน, เกสุจิ ชาตสฺสรวเสน กตํ. ภูมตฺถรณาทีนิ ปเนตฺถ กมฺพลทุกูลวเสน อุภยมิสฺสกานิ. เอกจฺเจ ทฺวารวาตปานา ¶ รตฺตึ วิวฏา ทิวา ปิหิตา, เอกจฺเจ ทิวา วิวฏา รตฺตึ ปิหิตา. ตโยปิ ปาสาทา อุพฺเพเธน สมปฺปมาณา. ภูมิกาสุ ปน นานตฺตํ อโหสิ.
เอวํ นิฏฺิเตสุ ปาสาเทสุ ราชา จินฺเตสิ – ‘‘ปุตฺโต เม วยปฺปตฺโต, ฉตฺตมสฺส อุสฺสาเปตฺวา รชฺชสิรึ ปสฺสิสฺสามี’’ติ. โส สากิยานํ ปณฺณานิ ปหิณิ – ‘‘ปุตฺโต เม วยปฺปตฺโต, รชฺเช นํ ปติฏฺาเปสฺสามิ, สพฺเพ อตฺตโน อตฺตโน เคเหสุ วยปฺปตฺตา, ทาริกา อิมํ เคหํ เปเสนฺตู’’ติ. เต สาสนํ สุตฺวา – ‘‘กุมาโร เกวลํ ทสฺสนกฺขโม รูปสมฺปนฺโน, น กิฺจิ สิปฺปํ ชานาติ, ทารภรณํ กาตุํ น สกฺขิสฺสติ, น มยํ ธีตโร ทสฺสามา’’ติ อาหํสุ. ราชา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ปุตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาโรเจสิ. โพธิสตฺโต ‘‘กึ สิปฺปํ ทสฺเสตุํ วฏฺฏติ, ตาตา’’ติ อาห. สหสฺสถามธนุํ อาโรเปตุํ วฏฺฏติ, ตาตาติ. เตน หิ อาหราเปถาติ. ราชา อาหราเปตฺวา อทาสิ. ธนุํ ปุริสสหสฺสํ อาโรเปติ, ปุริสสหสฺสํ โอโรเปติ. มหาปุริโส ธนุํ อาหราเปตฺวา ปลฺลงฺเก นิสินฺโนว ชิยํ ปาทงฺคุฏฺเก เวเตฺวา กฑฺฒนฺโต ปาทงฺคุฏฺเกเนว ธนุํ อาโรเปตฺวา วาเมน หตฺเถน ทณฺเฑ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน กฑฺฒิตฺวา ชิยํ โปเถสิ. สกลนครํ อุปฺปตนาการปฺปตฺตํ อโหสิ. ‘‘กึ สทฺโท เอโส’’ติ จ วุตฺเต ‘‘เทโว คชฺชตี’’ติ อาหํสุ. อถฺเ ‘‘ตุมฺเห น ชานาถ, น เทโว คชฺชติ, องฺคีรสสฺส กุมารสฺส สหสฺสถามธนุํ อาโรเปตฺวา ชิยํ โปเถนฺตสฺส ชิยปฺปหารสทฺโท เอโส’’ติ ¶ อาหํสุ. สากิยา ตาวตเกเนว อารทฺธจิตฺตา อเหสุํ.
มหาปุริโส ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. อฏฺงฺคุลมตฺตพหลํ อโยปฏฺฏํ กณฺเฑน วินิวิชฺฌิตุํ วฏฺฏตีติ. ตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. จตุรงฺคุลพหลํ อสนผลกํ วินิวิชฺฌิตุํ วฏฺฏตีติ. ตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. วิทตฺถิพหลํ อุทุมฺพรผลกํ วินิวิชฺฌิตุํ ¶ วฏฺฏตีติ. ตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ยนฺเต พทฺธํ ผลกสตํ วินิวิชฺฌิตุํ วฏฺฏตีติ. ตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. สฏฺิปฏลํ สุกฺขมหึสจมฺมํ วินิวิชฺฌิตุํ วฏฺฏตีติ. ตมฺปิ วินิวิชฺฌิตฺวา ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. ตโต วาลิกสกฏาทีนิ อาจิกฺขึสุ. มหาสตฺโต วาลิกสกฏมฺปิ ปลาลสกฏมฺปิ วินิวิชฺฌิตฺวา อุทเก เอกุสภปฺปมาณํ กณฺฑํ เปเสสิ, ถเล อฏฺอุสภปฺปมาณํ. อถ นํ ‘‘อิทานิ วาติงฺคณสฺาย วาลํ วิชฺฌิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาหํสุ. เตน หิ พนฺธาเปถาติ. สทฺทนฺตเร พชฺฌตุ, ตาตาติ. ปุรโต คจฺฉนฺตุ, คาวุตนฺตเร พนฺธนฺตูติ. ปุรโต คจฺฉนฺตุ, อทฺธโยชเน พนฺธนฺตูติ ¶ . ปุรโต คจฺฉนฺตุ โยชเน พนฺธนฺตูติ. พนฺธาเปถ, ตาตาติ โยชนมตฺถเก วาติงฺคณสฺาย วาลํ พนฺธาเปตฺวา รตฺตนฺธกาเร เมฆปฏลจฺฉนฺนาสุ ทิสาสุ กณฺฑํ ขิปิ, ตํ คนฺตฺวา โยชนมตฺถเก วาลํ ผาเลตฺวา ปถวึ ปาวิสิ. น เกวลฺจ เอตฺตกเมว, ตํ ทิวสํ ปน มหาสตฺโต โลเก วตฺตมานสิปฺปํ สพฺพเมว สนฺทสฺเสสิ. สกฺยราชาโน อตฺตโน อตฺตโน ธีตโร อลงฺกริตฺวา เปสยึสุ, จตฺตาลีสสหสฺสนาฏกิตฺถิโย อเหสุํ. มหาปุริโส ตีสุ ปาสาเทสุ เทโว มฺเ ปริจาเรนฺโต มหาสมฺปตฺตึ อนุภวติ.
นิปฺปุริเสหีติ ปุริสวิรหิเตหิ. น เกวลํ เจตฺถ ตูริยาเนว นิปฺปุริสานิ, สพฺพฏฺานานิปิ นิปฺปุริสาเนว. โทวาริกาปิ อิตฺถิโยว, นฺหาปนาทิปริกมฺมกราปิ อิตฺถิโยว ¶ . ราชา กิร ‘‘ตถารูปํ อิสฺสริยสุขสมฺปตฺตึ อนุภวมานสฺส ปุริสํ ทิสฺวา ปริสงฺกา อุปฺปชฺชติ, สา เม ปุตฺตสฺส มา อโหสี’’ติ สพฺพกิจฺเจสุ อิตฺถิโยว เปสิ. ปริจารยมาโนติ โมทมาโน. น เหฏฺาปาสาทํ โอโรหามีติ ปาสาทโต เหฏฺา น โอตรามิ. อิติ มํ จตฺตาโร มาเส อฺโ สิขาพทฺโธ ปุริโส นาม ปสฺสิตุํ นาลตฺถ. ยถาติ เยน นิยาเมน. ทาสกมฺมกรโปริสสฺสาติ ทาสานฺเจว เทวสิกภตฺตเวตนาภตานํ กมฺมกรานฺจ นิสฺสาย ชีวมานปุริสานฺจ. กณาชกนฺติ สกุณฺฑกภตฺตํ. พิลงฺคทุติยนฺติ กฺชิกทุติยํ.
เอวรูปาย อิทฺธิยาติ เอวํชาติกาย ปฺุิทฺธิยา สมนฺนาคตสฺส. เอวรูเปน จ สุขุมาเลนาติ เอวํชาติเกน จ นิทฺทุกฺขภาเวน. โสขุมาเลนาติปิ ¶ ปาโ. เอวํ ตถาคโต เอตฺตเกน าเนน อตฺตโน สิริสมฺปตฺตึ กเถสิ. กเถนฺโต จ น อุปฺปิลาวิตภาวตฺถํ กเถสิ, ‘‘เอวรูปายปิ ปน สมฺปตฺติยา ิโต ปมาทํ อกตฺวา อปฺปมตฺโตว อโหสิ’’นฺติ อปฺปมาทลกฺขณสฺเสว ทีปนตฺถํ กเถสิ. เตเนว อสฺสุตวา โข ปุถุชฺชโนติอาทิมาห. ตตฺถ ปรนฺติ ปรปุคฺคลํ. ชิณฺณนฺติ ชราชิณฺณํ. อฏฺฏียตีติ อฏฺโฏ ปีฬิโต โหติ. หรายตีติ หิรึ กโรติ ลชฺชติ. ชิคุจฺฉตีติ อสุจึ วิย ทิสฺวา ชิคุจฺฉํ อุปฺปาเทติ. อตฺตานํเยว อติสิตฺวาติ ชราธมฺมมฺปิ สมานํ อตฺตานํ อติกฺกมิตฺวา อฏฺฏียติ หรายตีติ อตฺโถ. ชราธมฺโมติ ชราสภาโว. ชรํ อนตีโตติ ชรํ อนติกฺกนฺโต, อนฺโต ชราย วตฺตามิ. อิติ ปฏิสฺจิกฺขโตติ เอวํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส. โยพฺพนมโทติ โยพฺพนํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโก มานมโท. สพฺพโส ¶ ปหียีติ สพฺพากาเรน ปหีโน. มคฺเคน ปหีนสทิโส กตฺวา ทสฺสิโต. น ปเนส มคฺเคน ปหีโน, ปฏิสงฺขาเนน ปหีโนว กถิโตติ เวทิตพฺโพ. โพธิสตฺตสฺส หิ เทวตา ¶ ชราปตฺตํ ทสฺเสสุํ. ตโต ปฏฺาย ยาว อรหตฺตา อนฺตรา มหาสตฺตสฺส โยพฺพนมโท นาม น อุปฺปชฺชติ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน อาโรคฺยมโทติ อหํ นิโรโคติ อาโรคฺยํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโก มานมโท. ชีวิตมโทติ อหํ จิรํ ชีวีติ ตํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโก มานมโท. สิกฺขํ ปจฺจกฺขายาติ สิกฺขํ ปฏิกฺขิปิตฺวา. หีนายาวตฺตตีติ หีนาย ลามกาย คิหิภาวาย อาวตฺตติ.
ยถาธมฺมาติ พฺยาธิอาทีหิ ยถาสภาวา. ตถาสนฺตาติ ยถา สนฺตา เอว อวิปรีตพฺยาธิอาทิสภาวาว หุตฺวาติ อตฺโถ. ชิคุจฺฉนฺตีติ ปรปุคฺคลํ ชิคุจฺฉนฺติ. มม เอวํ วิหาริโนติ มยฺหํ เอวํ ชิคุจฺฉาวิหาเรน วิหรนฺตสฺส เอวํ ชิคุจฺฉนํ นปฺปติรูปํ ภเวยฺย นานุจฺฉวิกํ. โสหํ เอวํ วิหรนฺโตติ โส อหํ เอวํ ปรํ ชิคุจฺฉมาโน วิหรนฺโต, เอวํ วา อิมินา ปฏิสงฺขานวิหาเรน วิหรนฺโต. ตฺวา ธมฺมํ นิรูปธินฺติ สพฺพูปธิวิรหิตํ นิพฺพานธมฺมํ ตฺวา. สพฺเพ มเท อภิโภสฺมีติ สพฺเพ ตโยปิ มเท อภิภวึ สมติกฺกมึ. เนกฺขมฺเม ทฏฺุ เขมตนฺติ นิพฺพาเน เขมภาวํ ทิสฺวา. เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโตติปิ ปาโ, นิพฺพานํ เขมโต ทิสฺวาติ อตฺโถ. ตสฺส ¶ เม อหุ อุสฺสาโหติ ตสฺส มยฺหํ ตํ เนกฺขมฺมสงฺขาตํ นิพฺพานํ อภิปสฺสนฺตสฺส อุสฺสาโห อหุ, วายาโม อโหสีติ อตฺโถ. นาหํ ¶ ภพฺโพ เอตรหิ, กามานิ ปฏิเสวิตุนฺติ อหํ ทานิ ทุวิเธปิ กาเม ปฏิเสวิตุํ อภพฺโพ. อนิวตฺติ ภวิสฺสามีติ ปพฺพชฺชโต จ สพฺพฺุตฺาณโต จ น นิวตฺติสฺสามิ, อนิวตฺตโก ภวิสฺสามิ. พฺรหฺมจริยปรายโณติ มคฺคพฺรหฺมจริยปรายโณ ชาโตสฺมีติ อตฺโถ. อิติ อิมาหิ คาถาหิ มหาโพธิปลฺลงฺเก อตฺตโน อาคมนียวีริยํ กเถสิ.
๑๐. อาธิปเตยฺยสุตฺตวณฺณนา
๔๐. ทสเม อาธิปเตยฺยานีติ เชฏฺกการณโต นิพฺพตฺตานิ. อตฺตาธิปเตยฺยนฺติอาทีสุ อตฺตานํ เชฏฺกํ กตฺวา นิพฺพตฺติตํ คุณชาตํ อตฺตาธิปเตยฺยํ. โลกํ เชฏฺกํ กตฺวา นิพฺพตฺติตํ โลกาธิปเตยฺยํ. นววิธํ โลกุตฺตรธมฺมํ เชฏฺกํ กตฺวา นิพฺพตฺติตํ ธมฺมาธิปเตยฺยํ. น อิติ ภวาภวเหตูติ อิติ ภโว, อิติ ภโวติ เอวํ อายตึ, น ตสฺส ตสฺส สมฺปตฺติภวสฺส เหตุ. โอติณฺโณติ อนุปวิฏฺโ. ยสฺส หิ ชาติ อนฺโตปวิฏฺา, โส ชาติยา โอติณฺโณ นาม. ชราทีสุปิ เอเสว นโย. เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ สกลสฺส วฏฺฏทุกฺขราสิสฺส. อนฺตกิริยา ¶ ปฺาเยถาติ อนฺตกรณํ ปริจฺเฉทปริวฏุมกรณํ ปฺาเยยฺย. โอหายาติ ปหาย. ปาปิฏฺตเรติ ลามกตเร. อารทฺธนฺติ ปคฺคหิตํ ปริปุณฺณํ, อารทฺธตฺตาว อสลฺลีนํ. อุปฏฺิตาติ จตุสติปฏฺานวเสน อุปฏฺิตา. อุปฏฺิตตฺตาว อสมฺมุฏฺา. ปสฺสทฺโธ กาโยติ นามกาโย จ กรชกาโย จ ปสฺสทฺโธ วูปสนฺตทรโถ. ปสฺสทฺธตฺตาว อสารทฺโธ. สมาหิตํ จิตฺตนฺติ อารมฺมเณ จิตฺตํ สมฺมา อาหิตํ สุฏฺุ ปิตํ. สมฺมา อาหิตตฺตาว เอกคฺคํ. อธิปตึ กริตฺวาติ เชฏฺกํ กตฺวา. สุทฺธํ ¶ อตฺตานํ ปริหรตีติ สุทฺธํ นิมฺมลํ กตฺวา อตฺตานํ ปริหรติ ปฏิชคฺคติ, โคปายตีติ อตฺโถ. อยฺจ ยาว อรหตฺตมคฺคา ปริยาเยน สุทฺธมตฺตานํ ปริหรติ นาม, ผลปฺปตฺโตว ปน นิปฺปริยาเยน สุทฺธมตฺตานํ ปริหรติ.
สฺวากฺขาโตติอาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๗) วิตฺถาริตานิ. ชานํ ปสฺสํ วิหรนฺตีติ ตํ ธมฺมํ ชานนฺตา ปสฺสนฺตา วิหรนฺติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ อาธิปเตยฺยานีติ ¶ เอตฺตาวตา ตีณิ อาธิปเตยฺยานิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานิ กถิตานิ.
ปกุพฺพโตติ กโรนฺตสฺส. อตฺตา เต ปุริส ชานาติ, สจฺจํ วา ยทิ วา มุสาติ ยํ ตฺวํ กโรสิ, ตํ ยทิ วา ยถาสภาวํ ยทิ วา โน ยถาสภาวนฺติ ตว อตฺตาว ชานาติ. อิมินา จ การเณน เวทิตพฺพํ ‘‘ปาปกมฺมํ กโรนฺตสฺส โลเก ปฏิจฺฉนฺนฏฺานํ นาม นตฺถี’’ติ. กลฺยาณนฺติ สุนฺทรํ. อติมฺสีติ อติกฺกมิตฺวา มฺสิ. อตฺตานํ ปริคูหสีติ ยถา เม อตฺตาปิ น ชานาติ, เอวํ นํ ปริคูหามีติ วายมสิ. อตฺตาธิปเตยฺยโกติ อตฺตเชฏฺโก. โลกาธิโปติ โลกเชฏฺโก. นิปโกติ ปฺวา. ฌายีติ ฌายนฺโต. ธมฺมาธิโปติ ธมฺมเชฏฺโก. สจฺจปรกฺกโมติ ถิรปรกฺกโม ภูตปรกฺกโม. ปสยฺห มารนฺติ มารํ ปสหิตฺวา. อภิภุยฺย อนฺตกนฺติ อิทํ ตสฺเสว เววจนํ. โย จ ผุสี ชาติกฺขยํ ปธานวาติ โย ฌายี ปธานวา มารํ อภิภวิตฺวา ชาติกฺขยํ อรหตฺตํ ผุสิ. โส ¶ ตาทิโสติ โส ตถาวิโธ ตถาสณฺิโต. โลกวิทูติ ตโย โลเก วิทิเต ปากเฏ กตฺวา ิโต. สุเมโธติ สุปฺโ. สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อตมฺมโย มุนีติ สพฺเพ เตภูมกธมฺเม ตณฺหาสงฺขาตาย ตมฺมยตาย อภาเวน อตมฺมโย ขีณาสวมุนิ กทาจิ กตฺถจิ น หียติ น ปริหียตีติ วุตฺตํ โหตีติ.
เทวทูตวคฺโค จตุตฺโถ.