📜
(๗) ๒. มหาวคฺโค
๑. ติตฺถายตนสุตฺตวณฺณนา
๖๒. ทุติยสฺส ¶ ¶ ปเม ติตฺถายตนานีติ ติตฺถภูตานิ อายตนานิ, ติตฺถิยานํ วา อายตนานิ. ตตฺถ ติตฺถํ ชานิตพฺพํ, ติตฺถกรา ชานิตพฺพา, ติตฺถิยา ชานิตพฺพา, ติตฺถิยสาวกา ชานิตพฺพา. ติตฺถํ นาม ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย. ติตฺถิกรา นาม ตาสํ ทิฏฺีนํ อุปฺปาทกา. ติตฺถิยา นาม เยสํ ตา ทิฏฺิโย รุจฺจนฺติ ขมนฺติ. ติตฺถิยสาวกา นาม เตสํ ปจฺจยทายกา. อายตนนฺติ ‘‘กมฺโพโช อสฺสานํ อายตนํ, คุนฺนํ ทกฺขิณาปโถ อายตน’’นฺติ เอตฺถ สฺชาติฏฺานํ อายตนํ นาม.
‘‘มโนรเม อายตเน, เสวนฺติ นํ วิหงฺคมา;
ฉายํ ฉายตฺถิโน ยนฺติ, ผลตฺถํ ผลโภชิโน’’ติ. (อ. นิ. ๕.๓๘) –
เอตฺถ สโมสรณฏฺานํ. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, วิมุตฺตายตนานี’’ติ (อ. นิ. ๕.๒๖) เอตฺถ การณํ. ตํ ¶ อิธ สพฺพมฺปิ ลพฺภติ. สพฺเพปิ หิ ทิฏฺิคติกา สฺชายมานา อิเมสุเยว ตีสุ าเนสุ สฺชายนฺติ, สโมสรณมานาปิ เอเตสุเยว ตีสุ าเนสุ สโมสรนฺติ สนฺนิปตนฺติ, ทิฏฺิคติกภาเว จ เนสํ เอตาเนว ตีณิ การณานีติ ติตฺถภูตานิ สฺชาติอาทินา อตฺเถน อายตนานีติปิ ติตฺถายตนานิ. เตเนวตฺเถน ติตฺถิยานํ อายตนานีติปิ ติตฺถายตนานิ. สมนุยฺุชิยมานานีติ กา นาเมตา ทิฏฺิโยติ เอวํ ปุจฺฉิยมานานิ. สมนุคาหิยมานานีติ กึการณา เอตา ทิฏฺิโย อุปฺปนฺนาติ เอวํ สมฺมา อนุคฺคาหิยมานานิ. สมนุภาสิยมานานีติ ปฏินิสฺสชฺเชถ เอตานิ ปาปกานิ ทิฏฺิคตานีติ เอวํ สมฺมา อนุสาสิยมานานิ. อปิจ ตีณิปิ เอตานิ อนุโยคปุจฺฉาเววจนาเนว. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ – ‘‘สมนุยฺุชตีติ วา สมนุคฺคาหตีติ วา สมนุภาสตีติ วา เอเสเส เอกฏฺเ สเม สมภาเค ตชฺชาเต ตฺเวา’’ติ.
ปรมฺปิ ¶ คนฺตฺวาติ อาจริยปรมฺปรา ลทฺธิปรมฺปรา อตฺตภาวปรมฺปราติ เอเตสุ ยํกิฺจิ ปรมฺปรํ คนฺตฺวาปิ. อกิริยาย สณฺหนฺตีติ อกิริยมตฺเต สํติฏฺนฺติ. ‘‘อมฺหากํ อาจริโย ปุพฺเพกตวาที, อมฺหากํ ปาจริโย ปุพฺเพกตวาที, อมฺหากํ อาจริยปาจริโย ปุพฺเพกตวาที. อมฺหากํ อาจริโย อิสฺสรนิมฺมานวาที ¶ , อมฺหากํ ปาจริโย อิสฺสรนิมฺมานวาที, อมฺหากํ อาจริยปาจริโย อิสฺสรนิมฺมานวาที. อมฺหากํ อาจริโย อเหตุอปจฺจยวาที, อมฺหากํ ปาจริโย อเหตุอปจฺจยวาที, อมฺหากํ อาจริยปาจริโย อเหตุอปจฺจยวาที’’ติ เอวํ คจฺฉนฺตานิ หิ เอตานิ อาจริยปรมฺปรํ คจฺฉนฺติ นาม. ‘‘อมฺหากํ อาจริโย ปุพฺเพกตลทฺธิโก, อมฺหากํ ปาจริโย…เป… อมฺหากํ อาจริยปาจริโย อเหตุอปจฺจยลทฺธิโก’’ติ เอวํ คจฺฉนฺตานิ ลทฺธิปรมฺปรํ คจฺฉนฺติ นาม. ‘‘อมฺหากํ อาจริยสฺส อตฺตภาโว ปุพฺเพกตเหตุ, อมฺหากํ ปาจริยสฺส…เป… ¶ อมฺหากํ อาจริยปาจริยสฺส อตฺตภาโว อเหตุ อปจฺจโย’’ติ เอวํ คจฺฉนฺตานิ อตฺตภาวปรมฺปรํ คจฺฉนฺติ นาม. เอวํ ปน สุวิทูรมฺปิ คจฺฉนฺตานิ อกิริยมตฺเตเยว สณฺหนฺติ, เอโกปิ เอเตสํ ทิฏฺิคติกานํ กตฺตา วา กาเรตา วา น ปฺายติ.
ปุริสปุคฺคโลติ สตฺโต. กามฺจ ปุริโสติปิ วุตฺเต ปุคฺคโลติปิ วุตฺเต สตฺโตเยว วุตฺโต โหติ, อยํ ปน สมฺมุติกถา นาม โย ยถา ชานาติ, ตสฺส ตถา วุจฺจติ. ปฏิสํเวเทตีติ อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปนฺนํ ชานาติ ปฏิสํวิทิตํ กโรติ, อนุภวติ วา. ปุพฺเพกตเหตูติ ปุพฺเพกตการณา, ปุพฺเพกตกมฺมปจฺจเยเนว ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อิมินา กมฺมเวทนฺจ กิริยเวทนฺจ ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกํ วิปากเวทนเมว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เย วา อิเม ปิตฺตสมุฏฺานา อาพาธา เสมฺหสมุฏฺานา วาตสมุฏฺานา สนฺนิปาติกา อุตุปริณามชา วิสมปริหารชา โอปกฺกมิกา อาพาธา กมฺมวิปากชา อาพาธาติ อฏฺ โรคา วุตฺตา, เตสุ สตฺต ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกํ วิปากเวทนํเยว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เยปิเม ทิฏฺธมฺมเวทนียํ อุปปชฺชเวทนียํ อปรปริยายเวทนียนฺติ ตโย กมฺมราสโย วุตฺตา, เตสุปิ ทฺเว ปฏิพาหิตฺวา เอกํ อปรปริยายกมฺมํเยว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เยปิเม ทิฏฺธมฺมเวทนีโย วิปาโก อุปปชฺชเวทนีโย อปรปริยายเวทนีโยติ ตโย วิปากราสโย วุตฺตา, เตสุปิ ทฺเว ปฏิพาหิตฺวา เอกํ อปรปริยายวิปากเมว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เยปิเม กุสลเจตนา อกุสลเจตนา วิปากเจตนา กิริยเจตนาติ จตฺตาโร เจตนาราสโย วุตฺตา, เตสุปิ ตโย ปฏิพาหิตฺวา เอกํ วิปากเจตนํเยว สมฺปฏิจฺฉนฺติ.
อิสฺสรนิมฺมานเหตูติ ¶ อิสฺสรนิมฺมานการณา, อิสฺสเรน นิมฺมิตตฺตา ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อยํ หิ เตสํ อธิปฺปาโย ¶ – อิมา ติสฺโส เวทนา ¶ ปจฺจุปฺปนฺเน อตฺตนา กตมูลเกน วา อาณตฺติมูลเกน วา ปุพฺเพกเตน วา อเหตุอปจฺจยา วา ปฏิสํเวทิตุํ นาม น สกฺกา, อิสฺสรนิมฺมานการณาเยว ปน อิมา ปฏิสํเวเทตีติ. เอวํวาทิโน ปเนเต เหฏฺา วุตฺเตสุ อฏฺสุ โรเคสุ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺเพ ปฏิพาหนฺติ, เหฏฺา วุตฺเตสุ จ ตีสุ กมฺมราสีสุ ตีสุ วิปากราสีสุ จตูสุ เจตนาราสีสุ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺเพปิ ปฏิพาหนฺติ.
อเหตุอปจฺจยาติ เหตฺุจ ปจฺจยฺจ วินา, อการเณเนว ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อยฺหิ เนสํ อธิปฺปาโย – อิมา ติสฺโส เวทนา ปจฺจุปฺปนฺเน อตฺตนา กตมูลเกน วา อาณตฺติมูลเกน วา ปุพฺเพกเตน วา อิสฺสรนิมฺมานเหตุนา วา ปฏิสํเวทิตุํ นาม น สกฺกา, อเหตุอปจฺจยาเยว ปน อิมา ปฏิสํเวเทตีติ. เอวํวาทิโน ปเนเต เหฏฺา วุตฺเตสุ โรคาทีสุ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺพํ ปฏิพาหนฺติ.
เอวํ สตฺถา มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา อิทานิ ตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ตตฺร, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํ วทามีติ ลทฺธิปติฏฺาปนตฺถํ เอวํ วทามีติ ทสฺเสติ. ลทฺธิฺหิ อปฺปติฏฺาเปตฺวา นิคฺคยฺหมานา ลทฺธิโต ลทฺธึ สงฺกมนฺติ, โภ โคตม, น มยํ ปุพฺเพกตวาทํ วทามาติอาทีนิ วทนฺติ. ลทฺธิยา ปน ปติฏฺาปิตาย สงฺกมิตุํ อลภนฺตา สุนิคฺคหิตา โหนฺติ, อิติ เนสํ ลทฺธิปติฏฺาปนตฺถํ เอวํ วทามีติ อาห. เตนหายสฺมนฺโตติ เตน หิ อายสฺมนฺโต. กึ วุตฺตํ โหติ – ยทิ เอตํ สจฺจํ, เอวํ สนฺเต เตน ตุมฺหากํ วาเทน. ปาณาติปาติโน ภวิสฺสนฺติ ปุพฺเพกตเหตูติ เย เกจิ โลเก ปาณํ อติปาเตนฺติ, สพฺเพ เต ปุพฺเพกตเหตุ ปาณาติปาติโน ภวิสฺสนฺติ. กึการณา? น หิ ปาณาติปาตกมฺมํ อตฺตนา กตมูลเกน น อาณตฺติมูลเกน น อิสฺสรนิมฺมานเหตุนา ¶ น อเหตุอปจฺจยา สกฺกา ปฏิสํเวเทตุํ, ปุพฺเพกตเหตุเยว ปฏิสํเวเทตีติ อยํ โว ลทฺธิ. ยถา จ ปาณาติปาติโน, เอวํ ปาณาติปาตา วิรมนฺตาปิ ปุพฺเพกตเหตุเยว วิรมิสฺสนฺตีติ. อิติ ภควา เตสํเยว ลทฺธึ คเหตฺวา เตสํ นิคฺคหํ อาโรเปติ. อิมินา นเยน อทินฺนาทายิโนติอาทีสุปิ โยชนา เวทิตพฺพา.
สารโต ¶ ปจฺจาคจฺฉตนฺติ สารภาเวน คณฺหนฺตานํ. ฉนฺโทติ กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท. อิทํ วา กรณียํ ¶ อิทํ วา อกรณียนฺติ เอตฺถ อยํ อธิปฺปาโย – อิทํ วา กรณียนฺติ กตฺตพฺพสฺส กรณตฺถาย, อิทํ วา อกรณียนฺติ อกตฺตพฺพสฺส อกรณตฺถาย กตฺตุกมฺยตา วา ปจฺจตฺตปุริสกาโร วา น โหติ. ฉนฺทวายาเมสุ วา อสนฺเตสุ ‘‘อิทํ กตฺตพฺพ’’นฺติปิ ‘‘อิทํ น กตฺตพฺพ’’นฺติปิ น โหติ. อิติ กรณียากรณีเย โข ปน สจฺจโต เถตโต อนุปลพฺภิยมาเนติ เอวํ กตฺตพฺเพ จ อกตฺตพฺเพ จ ภูตโต ถิรโต อปฺายมาเน อลพฺภมาเน. ยทิ หิ กตฺตพฺพํ กาตุํ อกตฺตพฺพโต จ วิรมิตุํ ลเภยฺย, กรณียากรณียํ สจฺจโต เถตโต อุปลพฺเภยฺย. ยสฺมา ปน อุภยมฺปิ ตํ เอส นุปลพฺภติ, ตสฺมา ตํ สจฺจโต เถตโต น อุปลพฺภติ, เอวํ ตสฺมึ จ อนุปลพฺภิยมาเนติ อตฺโถ. มุฏฺสฺสตีนนฺติ นฏฺสฺสตีนํ วิสฺสฏฺสฺสตีนํ. อนารกฺขานํ วิหรตนฺติ ฉสุ ทฺวาเรสุ นิรารกฺขานํ วิหรนฺตานํ. น โหติ ปจฺจตฺตํ สหธมฺมิโก สมณวาโทติ เอวํ ภูตานํ ตุมฺหากํ วา อฺเสํ วา มยํ สมณาติ ปจฺจตฺตํ สการโณ สมณวาโท น โหติ น อิชฺฌติ. สมณาปิ หิ ปุพฺเพกตการณาเยว โหนฺติ, อสฺสมณาปิ ปุพฺเพกตการณาเยวาติ. สหธมฺมิโกติ สการโณ. นิคฺคโห ¶ โหตีติ มม นิคฺคโห โหติ, เต ปน นิคฺคหิตา โหนฺตีติ.
เอวํ ปุพฺเพกตวาทิโน นิคฺคเหตฺวา อิทานิ อิสฺสรนิมฺมานวาทิโน นิคฺคเหตุํ ตตฺร, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ ปุพฺเพกตวาเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ, ตถา อเหตุกวาเทปิ.
เอวํ อิเมสํ ติตฺถายตนานํ ปรมฺปิ คนฺตฺวา อกิริยาย สณฺหนภาเวน ตุจฺฉภาวํ อนิยฺยานิกภาวํ, อสารภาเวน ถุสโกฏฺฏนสทิสตํ อาปชฺชนภาเวน อคฺคิสฺาย ธมมานขชฺชุปนกสริกฺขตํ ตํทิฏฺิกานํ ปุริมสฺสปิ มชฺฌิมสฺสปิ ปจฺฉิมสฺสปิ อตฺถทสฺสนตาย อภาเวน อนฺธเวณูปมตํ สทฺทมตฺเตเนว ตานิ คเหตฺวา สารทิฏฺิกานํ ปถวิยํ ปติตสฺส เพลุวปกฺกสฺส ททฺทภายิตสทฺทํ สุตฺวา ‘‘ปถวี สํวฏฺฏมานา อาคจฺฉตี’’ติ สฺาย ปลายนฺเตน สสเกน สริกฺขภาวฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตนา เทสิตสฺส ธมฺมสฺส สารภาวฺเจว นิยฺยานิกภาวฺจ ทสฺเสตุํ อยํ ¶ โข ปน, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อนิคฺคหิโตติ อฺเหิ อนิคฺคหิโต นิคฺคเหตุํ อสกฺกุเณยฺโย. อสํกิลิฏฺโติ นิกฺกิเลโส ปริสุทฺโธ, ‘‘สํกิลิฏฺํ นํ กริสฺสามา’’ติ ปวตฺเตหิปิ ตถา กาตุํ อสกฺกุเณยฺโย. อนุปวชฺโชติ อุปวาทวินิมุตฺโต. อปฺปฏิกุฏฺโติ ‘‘กึ อิมินา หรถ น’’นฺติ เอวํ อปฺปฏิพาหิโต ¶ , อนุปกฺกุฏฺโ วา. วิฺูหีติ ปณฺฑิเตหิ. อปณฺฑิตานฺหิ อชานิตฺวา กเถนฺตานํ วจนํ อปฺปมาณํ. ตสฺมา วิฺูหีติ อาห.
อิทานิ ตสฺส ธมฺมสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว’’ติ ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมา ฉ ธาตุโย’’ติอาทินา นเยน มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา ยถาปฏิปาฏิยา วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ปุน อิมา ฉ ธาตุโยติอาทิมาห. ตตฺถ ธาตุโยติ สภาวา. นิชฺชีวนิสฺสตฺตภาวปฺปกาสโก หิ สภาวฏฺโ ธาตฺวฏฺโ นาม. ผสฺสายตนานีติ ¶ วิปากผสฺสานํ อากรฏฺเน อายตนานิ. มโนปวิจาราติ วิตกฺกวิจารปาเทหิ อฏฺารสสุ าเนสุ มนสฺส อุปวิจารา.
ปถวีธาตูติ ปติฏฺาธาตุ. อาโปธาตูติ อาพนฺธนธาตุ. เตโชธาตูติ ปริปาจนธาตุ. วาโยธาตูติ วิตฺถมฺภนธาตุ. อากาสธาตูติ อสมฺผุฏฺธาตุ. วิฺาณธาตูติ วิชานนธาตุ. เอวมิทํ ธาตุกมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ โข ปเนตํ สงฺเขปโต อาคตฏฺาเน สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ กเถตุํ วฏฺฏติ. วิตฺถารโต อาคตฏฺาเน สงฺเขปโต กเถตุํ น วฏฺฏติ, วิตฺถารโตว วฏฺฏติ. อิมสฺมึ ปน ติตฺถายตนสุตฺเต อิทํ สงฺเขปโต ฉธาตุวเสน กมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ อุภยถาปิ กเถตุํ วฏฺฏติ.
สงฺเขปโต ฉธาตุวเสน กมฺมฏฺานํ ปริคฺคณฺหนฺโตปิ เอวํ ปริคฺคณฺหาติ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตูติ อิมานิ จตฺตาริ มหาภูตานิ, อากาสธาตุ อุปาทารูปํ. เอกสฺมึ จ อุปาทารูเป ทิฏฺเ เสสานิ เตวีสติ ทิฏฺาเนวาติ สลฺลกฺเขตพฺพานิ. วิฺาณธาตูติ จิตฺตํ วิฺาณกฺขนฺโธ โหติ, เตน สหชาตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สฺา สฺากฺขนฺโธ, ผสฺโส จ เจตนา จ สงฺขารกฺขนฺโธติ อิเม จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา นาม. จตฺตาริ ปน มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทารูปํ ¶ รูปกฺขนฺโธ นาม. ตตฺถ จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา นามํ, รูปกฺขนฺโธ รูปนฺติ นามฺจ รูปฺจาติ ทฺเวเยว ธมฺมา โหนฺติ, ตโต อุทฺธํ สตฺโต วา ชีโว วา นตฺถีติ เอวํ เอกสฺส ภิกฺขุโน สงฺเขปโต ฉธาตุวเสน อรหตฺตสมฺปาปกํ กมฺมฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
วิตฺถารโต ปริคฺคณฺหนฺโต ปน จตฺตาริ มหาภูตานิ ปริคฺคณฺหิตฺวา อากาสธาตุปริคฺคหานุสาเรน เตวีสติ อุปาทารูปานิ ปริคฺคณฺหาติ. อถ เนสํ ปจฺจยํ อุปปริกฺขนฺโต ¶ ปุน จตฺตาเรว มหาภูตานิ ทิสฺวา เตสุ ปถวีธาตุ ¶ วีสติโกฏฺาสา, อาโปธาตุ ทฺวาทส, เตโชธาตุ จตฺตาโร, วาโยธาตุ ฉโกฏฺาสาติ โกฏฺาสวเสน สโมธาเนตฺวา ทฺวาจตฺตาลีส มหาภูตานิ จ ววตฺถเปตฺวา เตสุ เตวีสติ อุปาทารูปานิ ปกฺขิปิตฺวา ปฺจสฏฺิ รูปานิ ววตฺถเปติ. ตานิ จ วตฺถุรูเปน สทฺธึ ฉสฏฺิ โหนฺตีติ ฉสฏฺิ รูปานิ ปสฺสติ. วิฺาณธาตุ ปน โลกิยจิตฺตวเสน เอกาสีติ จิตฺตานิ. ตานิ สพฺพานิปิ วิฺาณกฺขนฺโธ นาม โหติ. เตหิ สหชาตา เวทนาทโยปิ ตตฺตกาเยวาติ เอกาสีติ เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, เอกาสีติ สฺา สฺากฺขนฺโธ, เอกาสีติ เจตนา สงฺขารกฺขนฺโธติ อิเม จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา เตภูมกวเสน คยฺหมานา จตุวีสาธิกานิ ตีณิ ธมฺมสตานิ โหนฺตีติ อิติ อิเม จ อรูปธมฺมา ฉสฏฺิ จ รูปธมฺมาติ สพฺเพปิ สโมธาเนตฺวา นามฺจ รูปฺจาติ ทฺเวว ธมฺมา โหนฺติ, ตโต อุทฺธํ สตฺโต วา ชีโว วา นตฺถีติ นามรูปวเสน ปฺจกฺขนฺเธ ววตฺถเปตฺวา เตสํ ปจฺจยํ ปริเยสนฺโต อวิชฺชาปจฺจยา ตณฺหาปจฺจยา กมฺมปจฺจยา อาหารปจฺจยาติ เอวํ ปจฺจยํ ทิสฺวา ‘‘อตีเตปิ อิเมหิ ปจฺจเยหิ อิทํ วฏฺฏํ ปวตฺติตฺถ, อนาคเตปิ เอเตหิ ปจฺจเยหิ ปวตฺติสฺสติ, เอตรหิปิ เอเตหิเยว ปวตฺตตี’’ติ ตีสุ กาเลสุ กงฺขํ วิตริตฺวา อนุกฺกเมน ปฏิปชฺชมาโน อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เอวํ วิตฺถารโตปิ ฉธาตุวเสน อรหตฺตสมฺปาปกํ กมฺมฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
จกฺขุ ผสฺสายตนนฺติ สุวณฺณาทีนํ สุวณฺณาทิอากโร วิย ทฺเว จกฺขุวิฺาณานิ ทฺเว สมฺปฏิจฺฉนานิ ตีณิ สนฺตีรณานีติ อิเมหิ สตฺตหิ วิฺาเณหิ สหชาตานํ สตฺตนฺนํ ผสฺสานํ สมุฏฺานฏฺเน อากโรติ อายตนํ. โสตํ ผสฺสายตนนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. มโน ผสฺสายตนนฺติ ¶ เอตฺถ ปน ทฺวาวีสติ วิปากผสฺสา โยเชตพฺพา. อิติ ¶ หิทํ ฉผสฺสายตนานํ วเสน กมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ กเถตพฺพํ. สงฺเขปโต ตาว – เอตฺถ หิ ปุริมานิ ปฺจ อายตนานิ อุปาทารูปํ, เตสุ ทิฏฺเสุ อวเสสํ อุปาทารูปํ ทิฏฺเมว โหติ. ฉฏฺํ อายตนํ จิตฺตํ, ตํ วิฺาณกฺขนฺโธ โหติ, เตน สหชาตา เวทนาทโย เสสา ตโย อรูปกฺขนฺธาติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สงฺเขปโต จ วิตฺถารโต จ อรหตฺตสมฺปาปกํ กมฺมฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ปสฺสิตฺวา. โสมนสฺสฏฺานิยนฺติ โสมนสฺสสฺส การณภูตํ. อุปวิจรตีติ ตตฺถ มนํ จาเรนฺโต อุปวิจรติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย ¶ . เอตฺถ จ อิฏฺํ วา โหตุ อนิฏฺํ วา, ยํ รูปํ ทิสฺวา โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ตํ โสมนสฺสฏฺานิยํ นาม. ยํ ทิสฺวา โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ตํ โทมนสฺสฏฺานิยํ นาม. ยํ ทิสฺวา อุเปกฺขา อุปฺปชฺชติ, ตํ อุเปกฺขาฏฺานิยํ นามาติ เวทิตพฺพํ. สทฺทาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ อิทํ สงฺเขปโต กมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ โข ปเนตํ สงฺเขปโต อาคตฏฺาเน สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ กเถตุํ วฏฺฏติ. วิตฺถารโต อาคตฏฺาเน สงฺเขปโต กเถตุํ น วฏฺฏติ. อิมสฺมึ ปน ติตฺถายตนสุตฺเต อิทํ สงฺเขปโต อฏฺารสมโนปวิจารวเสน กมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ กเถตุํ วฏฺฏติ.
ตตฺถ สงฺเขปโต ตาว – จกฺขุ โสตํ ฆานํ ชิวฺหา กาโย, รูปํ สทฺโท คนฺโธ รโสติ อิมานิ นว อุปาทารูปานิ, เตสุ ทิฏฺเสุ เสสํ อุปาทารูปํ ทิฏฺเมว โหติ. โผฏฺพฺพํ ตีณิ มหาภูตานิ, เตหิ ทิฏฺเหิ จตุตฺถํ ทิฏฺเมว โหติ. มโน วิฺาณกฺขนฺโธ, เตน สหชาตา เวทนาทโย ตโย อรูปกฺขนฺธาติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สงฺเขปโต จ วิตฺถารโต จ อรหตฺตสมฺปาปกํ กมฺมฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
อริยสจฺจานีติ ¶ อริยภาวกรานิ, อริยปฏิวิทฺธานิ วา สจฺจานิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปเนตํ ปทํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๒๙) ปกาสิตํ. ฉนฺนํ, ภิกฺขเว, ธาตูนนฺติ อิทํ กิมตฺถํ อารทฺธํ? สุขาวโพธนตฺถํ. ยสฺส หิ ตถาคโต ทฺวาทสปทํ ปจฺจยาวฏฺฏํ กเถตุกาโม โหติ, ตสฺส คพฺภาวกฺกนฺติ วฏฺฏํ ทสฺเสติ. คพฺภาวกฺกนฺติ วฏฺฏสฺมึ หิ ทสฺสิเต กเถตุมฺปิ สุขํ โหติ ¶ ปรํ อวโพเธ อุตุมฺปีติ สุขาวโพธนตฺถํ อิทมารทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ฉนฺนํ ธาตูนนฺติ เหฏฺา วุตฺตานํเยว ปถวีธาตุอาทีนํ. อุปาทายาติ ปฏิจฺจ. เอเตน ปจฺจยมตฺตํ ทสฺเสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘ฉธาตุปจฺจยา คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหตี’’ติ. กสฺส ฉนฺนํ ธาตูนํ ปจฺจเยน, กึ มาตุ, อุทาหุ ปิตูติ? น มาตุ น ปิตุ, ปฏิสนฺธิคฺคณฺหนกสตฺตสฺเสว ปน ฉนฺนํ ธาตูนํ ปจฺจเยน คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ นาม โหติ. คพฺโภ จ นาเมส นิรยคพฺโภ ติรจฺฉานโยนิคพฺโภ เปตฺติวิสยคพฺโภ มนุสฺสคพฺโภ เทวคพฺโภติ นานปฺปกาโร โหติ. อิมสฺมึ ปน าเน มนุสฺสคพฺโภ อธิปฺเปโต. อวกฺกนฺติ โหตีติ โอกฺกนฺติ นิพฺพตฺติ ปาตุภาโว โหติ, กถํ โหตีติ? ติณฺณํ สนฺนิปาเตน. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ติณฺณํ โข ปน, ภิกฺขเว, สนฺนิปาตา คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหติ. กตเมสํ ติณฺณํ ¶ ? อิธ มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ น อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ น ปจฺจุปฏฺิโต โหติ. เนว ตาว คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหติ. อิธ มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ น ปจฺจุปฏฺิโต โหติ, เนว ตาว คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหติ. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ ปจฺจุปฏฺิโต โหติ. เอวํ ติณฺณํ สนฺนิปาตา คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๘).
โอกฺกนฺติยา ¶ สติ นามรูปนฺติ ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ วุตฺตฏฺาเน วตฺถุทสกํ กายทสกํ ภาวทสกํ ตโย อรูปิโน ขนฺธาติ เตตฺตึส ธมฺมา คหิตา, อิมสฺมึ ปน ‘‘โอกฺกนฺติยา สติ นามรูป’’นฺติ วุตฺตฏฺาเน วิฺาณกฺขนฺธมฺปิ ปกฺขิปิตฺวา คพฺภเสยฺยกานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จตุตฺตึส ธมฺมา คหิตาติ เวทิตพฺพา. นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติอาทีหิ ยเถว โอกฺกนฺติยา สติ นามรูปปาตุภาโว ทสฺสิโต, เอวํ นามรูเป สติ สฬายตนปาตุภาโว, สฬายตเน สติ ผสฺสปาตุภาโว, ผสฺเส สติ เวทนาปาตุภาโว ทสฺสิโต.
เวทิยมานสฺสาติ ¶ เอตฺถ เวทนํ อนุภวนฺโตปิ เวทิยมาโนติ วุจฺจติ ชานนฺโตปิ. ‘‘เวทิยามหํ, ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) เอตฺถ หิ อนุภวนฺโต เวทิยมาโน นาม, ‘‘สุขํ เวทนํ เวทิยมาโน สุขํ เวทนํ เวทิยามีติ ปชานาตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๑๓; ที. นิ. ๒.๓๘๐; วิภ. ๓๖๓) เอตฺถ ชานนฺโต. อิธาปิ ชานนฺโตว อธิปฺเปโต. อิทํ ทุกฺขนฺติ ปฺเปมีติ เอวํ ชานนฺตสฺส สตฺตสฺส ‘‘อิทํ ทุกฺขํ เอตฺตกํ ทุกฺขํ, นตฺถิ อิโต อุทฺธํ ทุกฺข’’นฺติ ปฺเปมิ โพเธมิ ชานาเปมิ. อยํ ทุกฺขสมุทโยติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ ทุกฺขาทีสุ อยํ สนฺนิฏฺานกถา – เปตฺวา หิ ตณฺหํ เตภูมกา ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขํ นาม, ตสฺเสว ปภาวิกา ปุพฺพตณฺหา ทุกฺขสมุทโย นาม, เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ สจฺจานํ อนุปฺปตฺตินิโรโธ ทุกฺขนิโรโธ นาม, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา นาม. อิติ ภควา โอกฺกนฺติยา สติ นามรูปนฺติ กเถนฺโตปิ เวทิยมานสฺส ชานมานสฺเสว กเถสิ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติ กเถนฺโตปิ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ กเถนฺโตปิ, ผสฺสปจฺจยา เวทนาติ กเถนฺโตปิ, เวทิยมานสฺส โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, อิทํ ทุกฺขนฺติ ปฺเปมีติ ¶ กเถนฺโตปิ ¶ , อยํ ทุกฺขสมุทโยติ, อยํ ทุกฺขนิโรโธติ, อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ปฺเปมีติ กเถนฺโตปิ เวทิยมานสฺส ชานมานสฺเสว กเถสิ.
อิทานิ ตานิ ปฏิปาฏิยา ปิตานิ สจฺจานิ วิตฺถาเรนฺโต กตมฺจ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๓๗) วิตฺถาริตเมว. ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ตตฺถ ‘‘ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ ยายํ ตณฺหา โปโนพฺภวิกา’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๓; ที. นิ. ๒.๔๐๐; วิภ. ๒๐๓) อิมาย ตนฺติยา อาคตํ, อิธ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ ปจฺจยาการวเสน. ตตฺถ จ ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ ‘‘โย ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๔; ที. นิ. ๒.๔๐๑; วิภ. ๒๐๔) อิมาย ตนฺติยา อาคตํ, อิธ ‘‘อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา’’ติ ปจฺจยาการนิโรธวเสน.
ตตฺถ อเสสวิราคนิโรธาติ อเสสวิราเคน จ อเสสนิโรเธน จ. อุภยมฺเปตํ อฺมฺเววจนเมว. สงฺขารนิโรโธติ สงฺขารานํ อนุปฺปตฺตินิโรโธ ¶ โหติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อิเมหิ ปน ปเทหิ ยํ อาคมฺม อวิชฺชาทโย นิรุชฺฌนฺติ, อตฺถโต ตํ นิพฺพานํ ทีปิตํ โหติ. นิพฺพานฺหิ อวิชฺชานิโรโธติปิ สงฺขารนิโรโธติปิ เอวํ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ นิโรธนาเมน กถียติ. เกวลสฺสาติ สกลสฺส. ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ วฏฺฏทุกฺขราสิสฺส. นิโรโธ โหตีติ อปฺปวตฺติ โหติ. ตตฺถ ยสฺมา อวิชฺชาทีนํ นิโรโธ นาม ขีณากาโรปิ วุจฺจติ อรหตฺตมฺปิ นิพฺพานมฺปิ, ตสฺมา อิธ ขีณาการทสฺสนวเสน ทฺวาทสสุ าเนสุ อรหตฺตํ, ทฺวาทสสุเยว นิพฺพานํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทํ วุจฺจตีติ เอตฺถ นิพฺพานเมว สนฺธาย อิทนฺติ วุตฺตํ. อฏฺงฺคิโกติ น อฏฺหิ องฺเคหิ วินิมุตฺโต อฺโ มคฺโค นาม อตฺถิ. ยถา ปน ปฺจงฺคิกํ ตูริยนฺติ วุตฺเต ปฺจงฺคมตฺตเมว ¶ ตูริยนฺติ วุตฺตํ โหติ, เอวมิธาปิ อฏฺงฺคิกมตฺตเมว มคฺโค โหตีติ เวทิตพฺโพ. อนิคฺคหิโตติ น นิคฺคหิโต. นิคฺคณฺหนฺโต หิ หาเปตฺวา วา ทสฺเสติ วฑฺเฒตฺวา วา ตํ ปริวตฺเตตฺวา วา. ตตฺถ ยสฺมา จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ‘‘น อิมานิ จตฺตาริ, ทฺเว วา ตีณิ วา’’ติ เอวํ หาเปตฺวาปิ ‘‘ปฺจ วา ฉ วา’’ติ เอวํ วฑฺเฒตฺวาปิ ‘‘น อิมานิ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, อฺาเนว จตฺตาริ อริยสจฺจานี’’ติ ทสฺเสตุํ น สกฺกา. ตสฺมา อยํ ธมฺโม อนิคฺคหิโต นาม. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
๒. ภยสุตฺตวณฺณนา
๖๓. ทุติเย ¶ อมาตาปุตฺติกานีติ มาตา จ ปุตฺโต จ มาตาปุตฺตํ, ปริตฺตาตุํ สมตฺถภาเวน นตฺถิ เอตฺถ มาตาปุตฺตนฺติ อมาตาปุตฺติกานิ. ยนฺติ ยสฺมึ สมเย. ตตฺถ มาตาปิ ปุตฺตํ นปฺปฏิลภตีติ ตสฺมึ อคฺคิภเย อุปฺปนฺเน มาตาปิ ปุตฺตํ ปสฺสิตุํ น ลภติ, ปุตฺโตปิ มาตรํ ปสฺสิตุํ น ลภตีติ อตฺโถ. ภยํ โหตีติ จิตฺตุตฺราสภยํ โหติ. อฏวิสงฺโกโปติ อฏวิยา สงฺโกโป. อฏวีติ เจตฺถ อฏวิวาสิโน โจรา เวทิตพฺพา. ยทา หิ เต อฏวิโต ชนปทํ โอตริตฺวา คามนิคมราชธานิโย ปหริตฺวา วิลุมฺปนฺติ, ตทา อฏวิสงฺโกโป นาม โหติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. จกฺกสมารูฬฺหาติ เอตฺถ อิริยาปถจกฺกมฺปิ วฏฺฏติ ยานจกฺกมฺปิ. ภยสฺมึ หิ สมฺปตฺเต เยสํ ยานกานิ อตฺถิ, เต อตฺตโน ปริกฺขารภณฺฑํ เตสุ อาโรเปตฺวา ปลายนฺติ. เยสํ นตฺถิ ¶ , เต กาเชน วา อาทาย สีเสน วา อุกฺขิปิตฺวา ปลายนฺติเยว. เต จกฺกสมารูฬฺหา นาม โหนฺติ. ปริยายนฺตีติ อิโต จิโต จ คจฺฉนฺติ. กทาจีติ กิสฺมิฺจิเทว กาเล. กรหจีติ ตสฺเสว เววจนํ. มาตาปิ ปุตฺตํ ปฏิลภตีติ อาคจฺฉนฺตํ วา คจฺฉนฺตํ วา เอกสฺมึ าเน นิลีนํ วา ปสฺสิตุํ ลภติ. อุทกวาหโกติ ¶ นทีปูโร. มาตาปิ ปุตฺตํ ปฏิลภตีติ กุลฺเล วา อุฬุมฺเป วา มตฺติกาภาชเน วา ทารุกฺขณฺเฑ วา ลคฺคํ วุยฺหมานํ ปสฺสิตุํ ปฏิลภติ, โสตฺถินา วา ปุน อุตฺตริตฺวา คาเม วา อรฺเ วา ิตํ ปสฺสิตุํ ลภตีติ.
เอวํ ปริยายโต อมาตาปุตฺติกานิ ภยานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิปฺปริยาเยน ทสฺเสนฺโต ตีณิมานีติอาทิมาห. ตตฺถ ชราภยนฺติ ชรํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยํ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ชรํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ภยํ ภยานกํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส เจตโส อุตฺราโส. พฺยาธึ ปฏิจฺจ, มรณํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ภยํ ภยานกํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส เจตโส อุตฺราโส’’ติ (วิภ. ๙๒๑). เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
๓. เวนาคปุรสุตฺตวณฺณนา
๖๔. ตติเย โกสเลสูติ เอวํนามเก ชนปเท. จาริกํ จรมาโนติ อทฺธานคมนํ คจฺฉนฺโต. จาริกา จ นาเมสา ภควโต ทุวิธา โหติ ตุริตจาริกา จ อตุริตจาริกา จาติ. ตตฺถ ทูเรปิ โพธเนยฺยปุคฺคลํ ทิสฺวา ตสฺส โพธนตฺถาย สหสา คมนํ ตุริตจาริกา นาม ¶ . สา มหากสฺสปปจฺจุคฺคมนาทีสุ ทฏฺพฺพา. ยํ ปน คามนิคมปฏิปาฏิยา เทวสิกํ โยชนอทฺธโยชนวเสน ปิณฺฑปาตจริยาทีหิ โลกํ อนุคฺคณฺหนฺตสฺส คมนํ, อยํ อตุริตจาริกา นาม. อิมํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ – ‘‘จาริกํ จรมาโน’’ติ. วิตฺถาเรน ปน จาริกากถา สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย อมฺพฏฺสุตฺตวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๕๔) วุตฺตา. พฺราหฺมณคาโมติ พฺราหฺมณานํ สโมสรณคาโมปิ พฺราหฺมณคาโมติ วุจฺจติ, พฺราหฺมณานํ โภคคาโมปิ. อิธ สโมสรณคาโม พฺราหฺมณวสนคาโมติ อธิปฺเปโต. ตทวสรีติ ตตฺถ อวสริ, สมฺปตฺโตติ อตฺโถ. วิหาโร ปเนตฺถ ¶ อนิยามิโต. ตสฺมา ตสฺส อวิทูเร พุทฺธานํ ¶ อนุจฺฉวิโก เอโก วนสณฺโฑ อตฺถิ, สตฺถา ตํ วนสณฺฑํ คโตติ เวทิตพฺโพ.
อสฺโสสุนฺติ สุณึสุ อุปลภึสุ, โสตทฺวารสมฺปตฺตวจนนิคฺโฆสานุสาเรน ชานึสุ. โขติ อวธารณตฺเถ, ปทปูรณมตฺเต วา นิปาโต. ตตฺถ อวธารณตฺเถน ‘‘อสฺโสสุํ เอว, น เตสํ โกจิ สวนนฺตราโย อโหสี’’ติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปทปูรเณน พฺยฺชนสิลิฏฺตามตฺตเมว.
อิทานิ ยมตฺถํ อสฺโสสุํ, ตํ ปกาเสตุํ สมโณ ขลุ, โภ, โคตโมติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมิตปาปตฺตา สมโณติ เวทิตพฺโพ. ขลูติ อนุสฺสวตฺเถ นิปาโต. โภติ เตสํ อฺมฺํ อาลปนมตฺตํ. โคตโมติ ภควโต โคตฺตวเสน ปริทีปนํ, ตสฺมา ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม’’ติ เอตฺถ สมโณ กิร, โภ, โคตมโคตฺโตติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สกฺยปุตฺโตติ อิทํ ปน ภควโต อุจฺจากุลปริทีปนํ. สกฺยกุลา ปพฺพชิโตติ สทฺธาปพฺพชิตภาวปริทีปนํ, เกนจิ ปาริชฺุเน อนภิภูโต อปริกฺขีณํเยว ตํ กุลํ ปหาย สทฺธาย ปพฺพชิโตติ วุตฺตํ โหติ. ตํ โข ปนาติ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ อุปโยควจนํ, ตสฺส โข ปน โภโต โคตมสฺสาติ อตฺโถ. กลฺยาโณติ กลฺยาณคุณสมนฺนาคโต, เสฏฺโติ วุตฺตํ โหติ. กิตฺติสทฺโทติ กิตฺติเยว, ถุติโฆโส วา. อพฺภุคฺคโตติ สเทวกํ โลกํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อุคฺคโต. กินฺติ? อิติปิ โส ภควา…เป… พุทฺโธ ภควาติ. ตตฺรายํ ปทสมฺพนฺโธ – โส ภควา อิติปิ อรหํ, อิติปิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… อิติปิ ภควาติ. อิมินา จ อิมินา จ การเณนาติ วุตฺตํ โหติ.
ตตฺถ ‘‘อารกตฺตา, อรีนํ อรานฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวาติ อิเมหิ การเณหิ โส ภควา อรหนฺติ ¶ เวทิตพฺโพ’’ติอาทินา นเยน มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา ¶ สพฺพาเนว เอตานิ ปทานิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๕-๑๒๗) พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส วิตฺถาริตานีติ ตโต เนสํ วิตฺถาโร คเหตพฺโพ.
โส ¶ อิมํ โลกนฺติ โส ภวํ โคตโม อิมํ โลกํ, อิทานิ วตฺตพฺพํ นิทสฺเสติ. สเทวกนฺติ สห เทเวหิ สเทวกํ. เอวํ สห มาเรน สมารกํ. สห พฺรหฺมุนา สพฺรหฺมกํ. สห สมณพฺราหฺมเณหิ สสฺสมณพฺราหฺมณึ. ปชาตตฺตา ปชา, ตํ ปชํ. สห เทวมนุสฺเสหิ สเทวมนุสฺสํ. ตตฺถ สเทวกวจเนน ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ เวทิตพฺพํ, สมารกวจเนน ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณํ, สพฺรหฺมกวจเนน พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณํ, สสฺสมณพฺราหฺมณิวจเนน สาสนสฺส ปจฺจตฺถิกปจฺจามิตฺตสมณพฺราหฺมณคฺคหณํ, สมิตปาปพาหิตปาปสมณพฺราหฺมณคฺคหณฺจ, ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณํ, สเทวมนุสฺสวจเนน สมฺมุติเทวอวเสสมนุสฺสคฺคหณํ. เอวเมตฺถ ตีหิ ปเทหิ โอกาสโลเกน สทฺธึ สตฺตโลโก, ทฺวีหิ ปชาวเสน สตฺตโลโกว คหิโตติ เวทิตพฺโพ.
อปโร นโย – สเทวกคฺคหเณน อรูปาวจรโลโก คหิโต, สมารกคฺคหเณน ฉกามาวจรเทวโลโก, สพฺรหฺมกคฺคหเณน รูปีพฺรหฺมโลโก, สสฺสมณพฺราหฺมณาทิคฺคหเณน จตุปริสวเสน, สมฺมุติเทเวหิ วา สห มนุสฺสโลโก, อวเสสสพฺพสตฺตโลโก วา. โปราณา ปนาหุ – สเทวกนฺติ เทวตาหิ สทฺธึ อวเสสโลกํ. สมารกนฺติ มาเรน สทฺธึ อวเสสโลกํ. สพฺรหฺมกนฺติ พฺรหฺเมหิ สทฺธึ อวเสสโลกํ. เอวํ สพฺเพปิ ติภวูปเค สตฺเต ตีหากาเรหิ ตีสุ ปเทสุ ปกฺขิปิตฺวา ปุน ทฺวีหิ ปเทหิ ปริยาทาตุํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสนฺติ วุตฺตํ. เอวํ ปฺจหิ ปเทหิ เตน เตนากาเรน เตธาตุกเมว ปริยาทินฺนนฺติ.
สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทตีติ สยนฺติ สามํ, อปรเนยฺโย หุตฺวา. อภิฺาติ อภิฺาย, อธิเกน าเณน ตฺวาติ อตฺโถ. สจฺฉิกตฺวาติ ปจฺจกฺขํ กตฺวา ¶ , เอเตน อนุมานาทิปฏิกฺเขโป กโต. ปเวเทตีติ โพเธติ าเปติ ปกาเสติ.
โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… ปริโยสานกลฺยาณนฺติ โส ภควา สตฺเตสุ การฺุตํ ปฏิจฺจ หิตฺวาปิ อนุตฺตรํ วิเวกสุขํ ธมฺมํ ¶ เทเสติ. ตฺจ โข อปฺปํ วา พหุํ วา เทเสนฺโต อาทิกลฺยาณาทิปฺปการเมว เทเสติ, อาทิมฺหิปิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา ¶ เทเสติ, มชฺเฌปิ, ปริโยสาเนปิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา เทเสตีติ วุตฺตํ โหติ.
ตตฺถ อตฺถิ เทสนาย อาทิมชฺฌปริโยสานํ, อตฺถิ สาสนสฺส. เทสนาย ตาว จตุปฺปทิกายปิ คาถาย ปมปาโท อาทิ นาม, ตโต ทฺเว มชฺฌํ นาม, อนฺเต เอโก ปริโยสานํ นาม. เอกานุสนฺธิกสฺส สุตฺตสฺส นิทานํ อาทิ, อิทมโวจาติ ปริโยสานํ, อุภินฺนํ อนฺตรา มชฺฌํ. อเนกานุสนฺธิกสฺส สุตฺตสฺส ปมานุสนฺธิ อาทิ, อนฺเต อนุสนฺธิ ปริโยสานํ, มชฺเฌ เอโก วา ทฺเว วา พหู วา มชฺฌเมว.
สาสนสฺส สีลสมาธิวิปสฺสนา อาทิ นาม. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ, สีลฺจ สุวิสุทฺธํ ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙). ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา’’ติ เอวํ วุตฺโต ปน อริยมคฺโค มชฺฌํ นาม. ผลฺเจว นิพฺพานฺจ ปริโยสานํ นาม. ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมจริยํ เอตํปารํ เอตํปริโยสาน’’นฺติ เอตฺถ ผลํ ปริโยสนนฺติ วุตฺตํ. ‘‘นิพฺพาโนคธฺหิ, อาวุโส วิสาข, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ นิพฺพานปรายณํ นิพฺพานปริโยสาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๔๖๖) เอตฺถ นิพฺพานํ ปริโยสานนฺติ วุตฺตํ. อิธ ¶ ปน เทสนาย อาทิมชฺฌปริโยสานํ อธิปฺเปตํ. ภควา หิ ธมฺมํ เทเสนฺโต อาทิมฺหิ สีลํ ทสฺเสตฺวา มชฺเฌ มคฺคํ ปริโยสาเน นิพฺพานํ ทสฺเสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณ’’นฺติ. ตสฺมา อฺโปิ ธมฺมกถิโก ธมฺมํ กเถนฺโต –
‘‘อาทิมฺหิ สีลํ ทสฺเสยฺย, มชฺเฌ มคฺคํ วิภาวเย;
ปริโยสานมฺหิ นิพฺพานํ, เอสา กถิกสณฺิตี’’ติ.
สาตฺถํ สพฺยฺชนนฺติ ยสฺส หิ ยาคุภตฺตอิตฺถิปุริสาทิวณฺณนานิสฺสิตา เทสนา โหติ, น โส สาตฺถํ เทเสติ. ภควา ปน ตถารูปํ เทสนํ ปหาย จตุสติปฏฺานาทินิสฺสิตํ เทสนํ เทเสติ. ตสฺมา ‘‘สาตฺถํ เทเสตี’’ติ ¶ วุจฺจติ. ยสฺส ปน เทสนา เอกพฺยฺชนาทิยุตฺตา วา สพฺพนิโรฏฺพฺยฺชนา วา สพฺพวิสฺสฏฺพฺยฺชนา วา สพฺพนิคฺคหิตพฺยฺชนา วา, ตสฺส ทมิฬกิราตยวนาทิมิลกฺขานํ ¶ ภาสา วิย พฺยฺชนปาริปูริยา อภาวโต อพฺยฺชนา นาม เทสนา โหติ. ภควา ปน –
‘‘สิถิลํ ธนิตฺจ ทีฆรสฺสํ, ลหุกํ ครุกฺจ นิคฺคหีตํ;
สมฺพนฺธํ ววตฺถิตํ วิมุตฺตํ, ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโท’’ติ. –
เอวํ วุตฺตํ ทสวิธํ พฺยฺชนํ อมกฺเขตฺวา ปริปุณฺณพฺยฺชนเมว กตฺวา ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺมา ‘‘สพฺยฺชนํ กตฺวา เทเสตี’’ติ วุจฺจติ. เกวลปริปุณฺณนฺติ เอตฺถ เกวลนฺติ สกลาธิวจนํ. ปริปุณฺณนฺติ อนูนาธิกวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สกลปริปุณฺณเมว เทเสติ, เอกเทสนาปิ อปริปุณฺณา นตฺถีติ. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. โย หิ ‘‘อิมํ ธมฺมเทสนํ นิสฺสาย ลาภํ วา สกฺการํ วา ลภิสฺสามี’’ติ เทเสติ, ตสฺส อปริสุทฺธา เทสนา นาม โหติ. ภควา ปน โลกามิสนิรเปกฺโข ¶ หิตผรเณเนว เมตฺตาภาวนาย มุทุหทโย อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺิเตน จิตฺเตน เทเสติ. ตสฺมา ปริสุทฺธํ เทเสตีติ วุจฺจติ. พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ เอตฺถ พฺรหฺมจริยนฺติ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สกลํ สาสนํ. ตสฺมา พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… ปริสุทฺธํ, เอวํ เทเสนฺโต จ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สกลสาสนพฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. พฺรหฺมจริยนฺติ เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมภูตํ จริยํ, พฺรหฺมภูตานํ วา พุทฺธาทีนํ จริยนฺติ วุตฺตํ โหติ.
สาธุ โข ปนาติ สุนฺทรํ โข ปน, อตฺถาวหํ สุขาวหนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตถารูปานํ อรหตนฺติ ยถารูโป โส ภวํ โคตโม, เอวรูปานํ อเนเกหิปิ กปฺปโกฏิสตสหสฺเสหิ ทุลฺลภทสฺสนานํ พฺยามปฺปภาปริกฺขิตฺเตหิ อสีติอนุพฺยฺชนปฏิมณฺฑิเตหิ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณวเรหิ สมากิณฺณมโนรมสรีรานํ อนปฺปกทสฺสนานํ อติมธุรธมฺมนิคฺโฆสานํ ยถาภูตคุณาธิคเมน โลเก อรหนฺโตติ ลทฺธสทฺทานํ อรหตํ. ทสฺสนํ โหตีติ ปสาทโสมฺมานิ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหติ. สเจ ปน อฏฺงฺคสมนฺนาคเตน พฺรหฺมสฺสเรน ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส เอกปทมฺปิ โสตุํ ลภิสฺสาม, สาธุตรํเยว ภวิสฺสตีติ ¶ เอวํ อชฺฌาสยํ กตฺวา. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ สพฺพกิจฺจานิ ปหาย ตุฏฺมานสา อคมํสุ. อฺชลึ ปณาเมตฺวาติ เอเต อุภโตปกฺขิกา, เต เอวํ จินฺเตสุํ – ‘‘สเจ โน มิจฺฉาทิฏฺิกา โจเทสฺสนฺติ ‘กสฺมา ตุมฺเห สมณํ โคตมํ วนฺทิตฺถา’ติ, เตสํ ‘กึ อฺชลิกรณมตฺเตนาปิ วนฺทิตํ โหตี’ติ วกฺขาม ¶ . สเจ โน สมฺมาทิฏฺิกา โจเทสฺสนฺติ ‘กสฺมา ภควนฺตํ น วนฺทิตฺถา’ติ, ‘กึ สีเสน ภูมึ ปหรนฺเตเนว วนฺทิตํ โหติ. นนุ อฺชลิกมฺมมฺปิ วนฺทนา เอวา’ติ วกฺขามา’’ติ.
นามโคตฺตนฺติ ¶ , ‘‘โภ โคตม, อหํ อสุกสฺส ปุตฺโต ทตฺโต นาม มิตฺโต นาม อิธาคโต’’ติ วทนฺตา นามํ สาเวนฺติ นาม. ‘‘โภ โคตม, อหํ วาเสฏฺโ นาม กจฺจาโน นาม อิธาคโต’’ติ วทนฺตา โคตฺตํ สาเวนฺติ นาม. เอเต กิร ทลิทฺทา ชิณฺณกุลปุตฺตา ‘‘ปริสมชฺเฌ นามโคตฺตวเสน ปากฏา ภวิสฺสามา’’ติ เอวํ อกํสุ. เย ปน ตุณฺหีภูตา นิสีทึสุ, เต เกราฏิกา เจว อนฺธพาลา จ. ตตฺถ เกราฏิกา ‘‘เอกํ ทฺเว กถาสลฺลาเป กโรนฺเต วิสฺสาสิโก โหติ, อถ วิสฺสาเส สติ เอกํ ทฺเว ภิกฺขา อทาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ ตโต อตฺตานํ โมเจนฺตา ตุณฺหีภูตา นิสีทนฺติ. อนฺธพาลา อฺาณตาเยว อวกฺขิตฺตมตฺติกาปิณฺฑา วิย ยตฺถ กตฺถจิ ตุณฺหีภูตา นิสีทนฺติ.
เวนาคปุริโกติ เวนาคปุรวาสี. เอตทโวจาติ ปาทนฺตโต ปฏฺาย ยาว เกสคฺคา ตถาคตสฺส สรีรํ โอโลเกนฺโต อสีติอนุพฺยฺชนสมุชฺชเลหิ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ ปฏิมณฺฑิตํ สรีรา นิกฺขมิตฺวา สมนฺตโต อสีติหตฺถปฺปเทสํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตาหิ ฉพฺพณฺณาหิ ฆนพุทฺธรํสีหิ สมฺปริวาริตํ ตถาคตสฺส สรีรํ ทิสฺวา สฺชาตวิมฺหโย วณฺณํ ภณนฺโต เอตํ ‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตมา’’ติอาทิวจนํ อโวจ.
ตตฺถ ยาวฺจิทนฺติ อธิมตฺตปฺปมาณปริจฺเฉทวจนเมตํ. ตสฺส วิปฺปสนฺนปเทน สทฺธึ สมฺพนฺโธ. ยาวฺจ วิปฺปสนฺนานิ อธิมตฺตวิปฺปสนฺนานีติ อตฺโถ. อินฺทฺริยานีติ จกฺขาทีนิ ฉ อินฺทฺริยานิ. ตสฺส หิ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ปติฏฺิโตกาสสฺส วิปฺปสนฺนตํ ทิสฺวา เตสํ วิปฺปสนฺนตา ปากฏา อโหสิ. ยสฺมา ปน สา มเน วิปฺปสนฺเนเยว โหติ, อวิปฺปสนฺนจิตฺตานฺหิ อินฺทฺริยปฺปสาโท นาม นตฺถิ, ตสฺมาสฺส มนินฺทฺริยปฺปสาโทปิ ปากโฏ อโหสิ. ตํ เอส วิปฺปสนฺนตํ ¶ คเหตฺวา ‘‘วิปฺปสนฺนานิ อินฺทฺริยานี’’ติ อาห. ปริสุทฺโธติ นิมฺมโล. ปริโยทาโตติ ปภสฺสโร. สารทํ ¶ พทรปณฺฑุนฺติ สรทกาเล ชาตํ นาติสุปริปกฺกํ พทรํ. ตฺหิ ปริสุทฺธฺเจว โหติ ปริโยทาตฺจ. ตาลปกฺกนฺติ สุปริปกฺกตาลผลํ. สมฺปติ พนฺธนา ปมุตฺตนฺติ ตํขณฺเว พนฺธนา ปมุตฺตํ. ตสฺส หิ พนฺธนมูลํ อปเนตฺวา ปรมุขํ กตฺวา ผลเก ปิตสฺส จตุรงฺคุลมตฺตํ านํ โอโลเกนฺตานํ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตํ หุตฺวา ขายติ. ตํ สนฺธาเยวมาห ¶ . เนกฺขํ ชมฺโพนทนฺติ สุรตฺตวณฺณสฺส ชมฺโพนทสุวณฺณสฺส ฆฏิกา. ทกฺขกมฺมารปุตฺตสุปริกมฺมกตนฺติ ทกฺเขน สุวณฺณการปุตฺเตน สุฏฺุ กตปริกมฺมํ. อุกฺกามุเข สุกุสลสมฺปหฏฺนฺติ สุวณฺณการอุทฺธเน ปจิตฺวา สุกุสเลน สุวณฺณกาเรน ฆฏฺฏนปริมชฺชนหํสเนน สุฏฺุ ปหฏฺํ สุปริมทฺทิตนฺติ อตฺโถ. ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺตนฺติ อคฺคินา ปจิตฺวา ทีปิทาาย ฆํสิตฺวา เครุกปริกมฺมํ กตฺวา รตฺตกมฺพเล ปิตํ. ภาสเตติ สฺชาตโอภาสตาย ภาสเต. ตปเตติ อนฺธการวิทฺธํสนตาย ตปเต. วิโรจตีติ วิชฺโชตมานํ หุตฺวา วิโรจติ, โสภตีติ อตฺโถ.
อุจฺจาสยนมหาสยนานีติ เอตฺถ อติกฺกนฺตปฺปมาณํ อุจฺจาสยนํ นาม, อายตวิตฺถตํ อกปฺปิยภณฺฑํ มหาสยนํ นาม. อิทานิ ตานิ ทสฺเสนฺโต เสยฺยถิทํ, อาสนฺทีติอาทิมาห. ตตฺถ อาสนฺทีติ อติกฺกนฺตปฺปมาณํ อาสนํ. ปลฺลงฺโกติ ปาเทสุ วาฬรูปานิ เปตฺวา กโต. โคนโกติ ทีฆโลมโก มหาโกชโว. จตุรงฺคุลาธิกานิ กิร ตสฺส โลมานิ. จิตฺตโกติ วานจิตฺตํ อุณฺณามยตฺถรณํ. ปฏิกาติ อุณฺณามโย เสตตฺถรโก. ปฏลิกาติ ¶ ฆนปุปฺโผ อุณฺณามยตฺถรโก, โย อามลกปฏฺโฏติปิ วุจฺจติ. ตูลิกาติ ติณฺณํ ตูลานํ อฺตรปุณฺณา ตูลิกา. วิกติกาติ สีหพฺยคฺฆาทิรูปวิจิตฺโร อุณฺณามยตฺถรโก. อุทฺทโลมีติ อุภโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณํ. เกจิ เอกโต อุคฺคตปุปฺผนฺติ วทนฺติ. เอกนฺตโลมีติ เอกโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณํ. เกจิ อุภโต อุคฺคตปุปฺผนฺติ วทนฺติ. กฏฺฏิสฺสนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยํ ปจฺจตฺถรณํ. โกเสยฺยนฺติ รตนปริสิพฺพิตเมว โกสิยสุตฺตมยํ ปจฺจตฺถรณํ. กุตฺตกนฺติ โสฬสนฺนํ นาฏกิตฺถีนํ ตฺวา นจฺจนโยคฺคํ อุณฺณามยตฺถรณํ. หตฺถตฺถราทโย หตฺถิปิฏฺาทีสุ อตฺถรณกอตฺถรกา เจว ¶ หตฺถิรูปาทีนิ ทสฺเสตฺวา กตอตฺถรกา จ. อชินปฺปเวณีติ อชินจมฺเมหิ มฺจปฺปมาเณน สิพฺพิตฺวา กตปฺปเวณี. เสสํ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว.
นิกามลาภีติ อติกามลาภี อิจฺฉิติจฺฉิตลาภี. อกิจฺฉลาภีติ อทุกฺขลาภี. อกสิรลาภีติ วิปุลลาภี มหนฺตลาภี, อุฬารุฬาราเนว ลภติ มฺเติ สนฺธาย วทติ. อยํ กิร พฺราหฺมโณ สยนครุโก, โส ภควโต วิปฺปสนฺนินฺทฺริยาทิตํ ทิสฺวา ‘‘อทฺธา เอส เอวรูเปสุ อุจฺจาสยนมหาสยเนสุ นิสีทติ เจว นิปชฺชติ จ. เตนสฺส วิปฺปสนฺนานิ อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต’’ติ มฺมาโน อิมํ เสนาสนวณฺณํ กเถสิ.
ลทฺธา ¶ จ ปน น กปฺปนฺตีติ เอตฺถ กิฺจิ กิฺจิ กปฺปติ. สุทฺธโกเสยฺยฺหิ มฺเจปิ อตฺถริตุํ วฏฺฏติ, โคนกาทโย จ ภูมตฺถรณปริโภเคน, อาสนฺทิยา ปาเท ฉินฺทิตฺวา, ปลฺลงฺกสฺส ¶ วาเฬ ภินฺทิตฺวา, ตูลิกํ วิชเฏตฺวา ‘‘พิมฺโพหนฺจ กาตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต อิมานิปิ เอเกน วิธาเนน กปฺปนฺติ. อกปฺปิยํ ปน อุปาทาย สพฺพาเนว น กปฺปนฺตีติ วุตฺตานิ.
วนนฺตฺเว ปวิสามีติ อรฺํเยว ปวิสามิ. ยเทวาติ ยานิเยว. ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ พนฺธิตฺวา. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทนฺโต อุชุํ กายํ เปตฺวา. ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ เปตฺวา, ปริคฺคหิตนิยฺยานํ วา กตฺวาติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ. มุขนฺติ นิยฺยานฏฺโ. สตีติ อุปฏฺานฏฺโ. เตน วุจฺจติ ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๔). อุปสมฺปชฺช วิหรามีติ ปฏิลภิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา วิหรามิ. เอวํภูโตติ เอวํ ปมชฺฌานาทีสุ อฺตรสมงฺคี หุตฺวา. ทิพฺโพ เม เอโส ตสฺมึ สมเย จงฺกโม โหตีติ จตฺตาริ หิ รูปชฺฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา จงฺกมนฺตสฺส จงฺกโม ทิพฺพจงฺกโม นาม โหติ, สมาปตฺติโต วุฏฺาย จงฺกมนฺตสฺสาปิ จงฺกโม ทิพฺพจงฺกโมเยว. านาทีสุปิ เอเสว นโย. ตถา อิตเรสุ ทฺวีสุ วิหาเรสุ.
โส ¶ เอวํ ปชานามิ ‘‘ราโค เม ปหีโน’’ติ มหาโพธิปลฺลงฺเก อรหตฺตมคฺเคน ปหีนราคเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘โส เอวํ ปชานามิ ราโค เม ปหีโน’’ติ อาห. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อิมินา ปน กึ กถิตํ โหตีติ? ปจฺจเวกฺขณา กถิตา, ปจฺจเวกฺขณาย ผลสมาปตฺติ กถิตา. ผลสมาปตฺติฺหิ สมาปนฺนสฺสปิ สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺสาปิ จงฺกมาทโย อริยจงฺกมาทโย โหนฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๔. สรภสุตฺตวณฺณนา
๖๕. จตุตฺเถ ¶ ราชคเหติ เอวํนามเก นคเร. คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเตติ คิชฺฌสทิสานิสฺส กูฏานิ, คิชฺฌา วา ตสฺส กูเฏสุ วสนฺตีติ คิชฺฌกูโฏ, ตสฺมึ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เอเตนสฺส ราชคหํ โคจรคามํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส วสนฏฺานํ ทสฺสิตํ. คิชฺฌกูฏสฺมิฺหิ ตถาคตํ ¶ อุทฺทิสฺส วิหาโร การิโต, คิชฺฌกูฏวิหาโรตฺเววสฺส นามํ. ตตฺถายํ ตสฺมึ สมเย วิหรตีติ. สรโภ นาม ปริพฺพาชโก อจิรปกฺกนฺโต โหตีติ สรโภติ เอวํนามโก ปริพฺพาชโก อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิตฺวา นจิรสฺเสว ปกฺกนฺโต โหติ, อธุนา วิพฺภนฺโตติ อตฺโถ. สมฺมาสมฺพุทฺเธ หิ โลเก อุปฺปนฺเน ติตฺถิยา นฏฺลาภสกฺการา อเหสุํ, ติณฺณํ รตนานํ มหาลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชิ. ยถาห –
‘‘เตน โข ปน สมเยน ภควา สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. อฺติตฺถิยา ปน ปริพฺพาชกา อสกฺกตา โหนฺติ อครุกตา อมานิตา อปูชิตา น ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติ (อุทา.๑๔; สํ.นิ.๑.๒.๗๐).
เต เอวํ ปริหีนลาภสกฺการา ปฺจสตมตฺตา เอกสฺมึ ปริพฺพาชการาเม สนฺนิปติตฺวา สมฺมนฺตยึสุ – ‘‘โภ, มยํ สมณสฺส โคตมสฺส อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย หตลาภสกฺการา ชาตา, สมณสฺส โคตมสฺส สาวกานฺจสฺส เอกํ อวณฺณํ อุปธาเรถ, อวณฺณํ ปตฺถริตฺวา เอตสฺส ¶ สาสนํ ครหิตฺวา อมฺหากํ ลาภสกฺการํ อุปฺปาเทสฺสามา’’ติ. เต วชฺชํ โอโลเกนฺตา – ‘‘ตีสุ ทฺวาเรสุ อาชีเว จาติ จตูสุปิ าเนสุ สมณสฺส โคตมสฺส วชฺชํ ปสฺสิตุํ น สกฺกา, อิมานิ จตฺตาริ านานิ มฺุจิตฺวา อฺตฺถ โอโลเกถา’’ติ ¶ อาหํสุ. อถ เนสํ อนฺตเร เอโก เอวมาห – ‘‘อหํ อฺํ น ปสฺสามิ, อิเม อนฺวฑฺฒมาสํ สนฺนิปติตฺวา ทฺวารวาตปานานิ ปิธาย สามเณรานมฺปิ ปเวสนํ น เทนฺติ. ชีวิตสทิสาปิ อุปฏฺากา ทฏฺุํ น ลภนฺติ, อาวฏฺฏนิมายํ โอสาเรตฺวา โอสาเรตฺวา ชนํ อาวฏฺเฏตฺวา อาวฏฺเฏตฺวา ขาทนฺติ. สเจ ตํ มยํ อาหริตุํ สกฺขิสฺสาม, เอวํ โน ลาภสกฺการอุฬาโร ภวิสฺสตี’’ติ. อปโรปิ เอวเมว วทนฺโต อุฏฺาสิ. สพฺเพ เอกวาทา อเหสุํ. ตโต อาหํสุ – ‘‘โย ตํ อาหริตุํ สกฺขิสฺสติ, ตํ มยํ อมฺหากํ สมเย เชฏฺกํ กริสฺสามา’’ติ.
ตโต โกฏิโต ปฏฺาย ‘‘ตฺวํ สกฺขิสฺสสิ, ตฺวํ สกฺขิสฺสสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อหํ น สกฺขิสฺสามิ, อหํ น สกฺขิสฺสามี’’ติ พหูหิ วุตฺเต สรภํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘ตฺวํ สกฺขิสฺสสิ อาจริยา’’ติ. โส อาห – ‘‘อครุ เอตํ อาหริตุํ, สเจ ตุมฺเห อตฺตโน กถาย ตฺวา มํ เชฏฺกํ ¶ กริสฺสถา’’ติ. อครุ เอตมาจริย อาหร, ตฺวํ กโตเยวาสิ อมฺเหหิ เชฏฺโกติ. โส อาห – ‘‘ตํ อาหรนฺเตน เถเนตฺวา วา วิลุมฺปิตฺวา วา อาหริตุํ น สกฺกา, สมณสฺส ปน โคตมสฺส สาวกสทิเสน หุตฺวา ตสฺส สาวเก วนฺทิตฺวา วตฺตปฏิวตฺตํ กตฺวา เตสํ ปตฺเต ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา อาหริตุํ สกฺกา. รุจฺจติ โว เอตสฺส เอตฺตกสฺส กิริยา’’ติ. ยํกิฺจิ กตฺวา อาหริตฺวา จ โน เทหีติ. เตน หิ มํ ทิสฺวา อปสฺสนฺตา วิย ภเวยฺยาถาติ ปริพฺพาชกานํ สฺํ ทตฺวา ทุติยทิวเส ปาโตว อุฏฺาย คิชฺฌกูฏมหาวิหารํ คนฺตฺวา ทิฏฺทิฏฺานํ ภิกฺขูนํ ปฺจปติฏฺิเตน ปาเท วนฺทิ. ภิกฺขู อาหํสุ – ‘‘อฺเ ปริพฺพาชกา จณฺฑา ผรุสา, อยํ ปน สทฺโธ ภวิสฺสติ ปสนฺโน’’ติ. ภนฺเต, ตุมฺเห ตฺวา ยุตฺตฏฺานสฺมึเยว ปพฺพชิตา, มยํ ปน อนุปธาเรตฺวา อติตฺเถเนว ปกฺขนฺตา อนิยฺยานิกมคฺเค วิจรามาติ. โส เอวํ วตฺวา ทิฏฺเ ทิฏฺเ ภิกฺขู ปุนปฺปุนํ วนฺทติ, นฺหาโนทกาทีนิ ปฏิยาเทติ, ทนฺตกฏฺํ กปฺปิยํ กโรติ, ปาเท โธวติ มกฺเขติ, อติเรกภตฺตํ ลภิตฺวา ภฺุชติ.
ตํ ¶ อิมินา นีหาเรน วสนฺตํ เอโก มหาเถโร ทิสฺวา, ‘‘ปริพฺพาชก, ตฺวํ สทฺโธ ปสนฺโน, กึ ¶ น ปพฺพชสี’’ติ. โก มํ, ภนฺเต, ปพฺพาเชสฺสติ. มยฺหิ จิรกาลํ ภทนฺตานํ ปจฺจตฺถิกา หุตฺวา วิจริมฺหาติ. เถโร ‘‘สเจ ตฺวํ ปพฺพชิตุกาโม, อหํ ตํ ปพฺพาเชสฺสามี’’ติ วตฺวา ปพฺพาเชสิ. โส ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย นิรนฺตรํ วตฺตปฏิวตฺตมกาสิ. อถ นํ เถโร วตฺเต ปสีทิตฺวา นจิรสฺเสว อุปสมฺปาเทสิ. โส อุโปสถทิวเส ภิกฺขูหิ สทฺธึ อุโปสถคฺคํ ปวิสิตฺวา ภิกฺขู มหนฺเตน อุสฺสาเหน ปาติโมกฺขํ ปคฺคณฺหนฺเต ทิสฺวา ‘‘อิมินา นีหาเรน โอสาเรตฺวา โอสาเรตฺวา โลกํ ขาทนฺติ, กติปาเหน หริสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. โส ปริเวณํ คนฺตฺวา อุปชฺฌายํ วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, โก นาโม อยํ ธมฺโม’’ติ ปุจฺฉิ. ปาติโมกฺโข นาม, อาวุโสติ. อุตฺตมธมฺโม เอส, ภนฺเต, ภวิสฺสตีติ. อาม, อาวุโส, สกลสาสนธารณี อยํ สิกฺขาติ. ภนฺเต, สเจ เอส สิกฺขาธมฺโม อุตฺตโม, อิมเมว ปมํ คณฺหามีติ. คณฺหาวุโสติ เถโร สมฺปฏิจฺฉิ. โส คณฺหนฺโต ปริพฺพาชเก ปสฺสิตฺวา ‘‘กีทิสํ อาจริยา’’ติ ปุจฺฉิโต, ‘‘อาวุโส, มา จินฺตยิตฺถ, กติปาเหน อาหริสฺสามี’’ติ วตฺวา นจิรสฺเสว อุคฺคณฺหิตฺวา อุปชฺฌายํ อาห – ‘‘เอตฺตกเมว, ภนฺเต, อุทาหุ อฺมฺปิ อตฺถี’’ติ. เอตฺตกเมว, อาวุโสติ.
โส ปุนทิวเส ยถานิวตฺถปารุโตว คหิตนีหาเรเนว ปตฺตํ คเหตฺวา คิชฺฌกูฏา นิกฺขมฺม ปริพฺพาชการามํ อคมาสิ. ปริพฺพาชกา ทิสฺวา ‘‘กีทิสํ, อาจริย, นาสกฺขิตฺถ มฺเ อาวฏฺฏนิมายํ ¶ อาหริตุ’’นฺติ ตํ ปริวารยึสุ. มา จินฺตยิตฺถ, อาวุโส, อาหฏา เม อาวฏฺฏนิมายา, อิโต ปฏฺาย อมฺหากํ ลาภสกฺกาโร มหา ภวิสฺสติ. ตุมฺเห อฺมฺํ สมคฺคา โหถ, มา วิวาทํ อกตฺถาติ. สเจ เต, อาจริย, สุคฺคหิตา, อมฺเหปิ นํ วาเจหีติ. โส อาทิโต ปฏฺาย ปาติโมกฺขํ โอสาเรสิ. อถ เต สพฺเพปิ – ‘‘เอถ, โภ, นคเร วิจรนฺตา สมณสฺส โคตมสฺส อวณฺณํ กเถสฺสามา’’ติ อนุคฺฆาฏิเตสุเยว นครทฺวาเรสุ ทฺวารสมีปํ คนฺตฺวา วิวเฏน ทฺวาเรน ¶ สพฺพปมํ ปวิสึสุ. เอวํ สลิงฺเคเนว อปกฺกนฺตํ ตํ ปริพฺพาชกํ สนฺธาย – ‘‘สรโภ นาม ปริพฺพาชโก อจิรปกฺกนฺโต โหตี’’ติ วุตฺตํ.
ตํ ¶ ทิวสํ ปน ภควา ปจฺจูสสมเย โลกํ โอโลเกนฺโต อิทํ อทฺทส – ‘‘อชฺช สรโภ ปริพฺพาชโก นคเร วิจริตฺวา ปกาสนียกมฺมํ กริสฺสติ, ติณฺณํ รตนานํ อวณฺณํ กเถนฺโต วิสํ สิฺจิตฺวา ปริพฺพาชการามํ คมิสฺสติ, อหมฺปิ ตตฺเถว คมิสฺสามิ, จตสฺโสปิ ปริสา ตตฺเถว โอสริสฺสนฺติ. ตสฺมึ สมาคเม จตุราสีติ ปาณสหสฺสานิ อมตปานํ ปิวิสฺสนฺตี’’ติ. ตโต ‘‘ตสฺส โอกาโส โหตุ, ยถารุจิยา อวณฺณํ ปตฺถรตู’’ติ จินฺเตตฺวา อานนฺทตฺเถรํ อามนฺเตสิ – ‘‘อานนฺท, อฏฺารสสุ มหาวิหาเรสุ ภิกฺขุสงฺฆสฺส มยา สทฺธึเยว ปิณฺฑาย จริตุํ อาโรเจหี’’ติ. เถโร ตถา อกาสิ. ภิกฺขู ปตฺตจีวรมาทาย สตฺถารเมว ปริวารยึสุ. สตฺถา ภิกฺขุสงฺฆํ อาทาย ทฺวารคามสมีเปเยว ปิณฺฑาย จริ. สรโภปิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ นครํ ปวิฏฺโ ตตฺถ ตตฺถ ปริสมชฺเฌ ราชทฺวารวีถิจตุกฺกาทีสุ จ คนฺตฺวา ‘‘อฺาโต มยา สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ ธมฺโม’’ติอาทีนิ อภาสิ. ตํ สนฺธาย โส ราชคเห ปริสติ เอวํ วาจํ ภาสตีติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อฺาโตติ าโต อวพุทฺโธ, ปากฏํ กตฺวา อุคฺคหิโตติ ทีเปติ. อฺายาติ ชานิตฺวา. อปกฺกนฺโตติ สลิงฺเคเนว อปกฺกนฺโต. สเจ หิ สมณสฺส โคตมสฺส สาสเน โกจิ สาโร อภวิสฺส, นาหํ อปกฺกมิสฺสํ. ตสฺส ปน สาสนํ อสารํ นิสฺสารํ, อาวฏฺฏนิมายํ โอสาเรตฺวา สมณา โลกํ ขาทนฺตีติ เอวมตฺถํ ทีเปนฺโต เอวมาห.
อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขูติ อถ เอวํ ตสฺมึ ปริพฺพาชเก ภาสมาเน อรฺวาสิโน ปฺจสตา ภิกฺขู ‘‘อสุกฏฺานํ นาม สตฺถา ปิณฺฑาย จริตุํ คโต’’ติ อชานนฺตา ภิกฺขาจารเวลายํ ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิสึสุ. เต สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อสฺโสสุนฺติ สุณึสุ. เยน ¶ ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ ‘‘อิมํ การณํ ทสพลสฺส อาโรเจสฺสามา’’ติ อุปสงฺกมึสุ.
สิปฺปินิกาตีรนฺติ ¶ สิปฺปินิกาติ เอวํนามิกาย นทิยา ตีรํ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนาติ กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา อพฺภนฺตเร ขนฺตึ ธาเรตฺวา จิตฺเตเนว อธิวาเสสีติ อตฺโถ. เอวํ อธิวาเสตฺวา ปุน จินฺเตสิ – ‘‘กึ นุ โข อชฺช มยา สรภสฺส วาทํ มทฺทิตุํ คจฺฉนฺเตน เอกเกน คนฺตพฺพํ ¶ , อุทาหุ ภิกฺขุสงฺฆปริวุเตนา’’ติ. อถสฺส เอตทโหสิ – สจาหํ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต คมิสฺสามิ, มหาชโน เอวํ จินฺเตสฺสติ – ‘‘สมโณ โคตโม วาทุปฺปตฺติฏฺานํ คจฺฉนฺโต ปกฺขํ อุกฺขิปิตฺวา คนฺตฺวา ปริสพเลน อุปฺปนฺนํ วาทํ มทฺทติ, ปรวาทีนํ สีสํ อุกฺขิปิตุํ น เทตี’’ติ. น โข ปน มยฺหํ อุปฺปนฺเน วาเท ปรํ คเหตฺวา มทฺทนกิจฺจํ อตฺถิ, อหเมว คนฺตฺวา มทฺทิสฺสามิ. อนจฺฉริยํ เจตํ ยฺวาหํ อิทานิ พุทฺธภูโต อตฺตโน อุปฺปนฺนํ วาทํ มทฺเทยฺยํ, จริยํ จรณกาเล อเหตุกปฏิสนฺธิยํ นิพฺพตฺเตนาปิ หิ มยา วหิตพฺพํ ธุรํ อฺโ วหิตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ. อิมสฺส ปนตฺถสฺส สาธนตฺถํ –
‘‘ยโต ยโต ครุ ธุรํ, ยโต คมฺภีรวตฺตนี;
ตทาสฺสุ กณฺหํ ยฺุเชนฺติ, สฺวาสฺสุ ตํ วหเต ธุร’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๒๙) –
อิทํ กณฺหชาตกํ อาหริตพฺพํ. อตีเต กิร เอโก สตฺถวาโห เอกิสฺสา มหลฺลิกาย เคเห นิวาสํ คณฺหิ. อถสฺส เอกิสฺสา เธนุยา รตฺติภาคสมนนฺตเร คพฺภวุฏฺานํ อโหสิ. สา เอกํ วจฺฉกํ วิชายิ. มหลฺลิกาย วจฺฉกํ ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย ปุตฺตสิเนโห อุทปาทิ. ปุนทิวเส สตฺถวาหปุตฺโต – ‘‘ตว เคหเวตนํ คณฺหาหี’’ติ อาห. มหลฺลิกา ‘‘มยฺหํ อฺเน กิจฺจํ น อตฺถิ, อิมเมว วจฺฉกํ เทหี’’ติ อาห. คณฺห, อมฺมาติ. สา ตํ คณฺหิตฺวา ขีรํ ปาเยตฺวา ยาคุภตฺตติณาทีนิ ททมานา ¶ โปเสสิ. โส วุทฺธิมนฺวาย ปริปุณฺณรูโป พลวีริยสมฺปนฺโน อโหสิ สมฺปนฺนาจาโร, กาฬโก นาม นาเมน. อเถกสฺส สตฺถวาหสฺส ปฺจหิ สกฏสเตหิ อาคจฺฉนฺตสฺส อุทกภินฺนฏฺาเน สกฏจกฺกํ ลคฺคิ. โส ทสปิ วีสมฺปิ ตึสมฺปิ โยเชตฺวา นีหราเปตุํ อสกฺโกนฺโต กาฬกํ อุปสงฺกมิตฺวา อาห – ‘‘ตาต, ตว เวตนํ ทสฺสามิ, สกฏํ เม อุกฺขิปิตฺวา เทหี’’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา ตํ อาทาย – ‘‘อฺโ อิมินา สทฺธึ ธุรํ วหิตุํ สมตฺโถ นตฺถี’’ติ ธุรสกเฏ โยตฺตํ พนฺธิตฺวา ตํ เอกกํเยว โยเชสิ. โส ตํ สกฏํ อุกฺขิปิตฺวา ถเล ปติฏฺาเปตฺวา เอเตเนว นิหาเรน ปฺจ สกฏสตานิ นีหริ. โส สพฺพปจฺฉิมสกฏํ นีหริตฺวา โมจิยมาโน ‘‘สุ’’นฺติ กตฺวา สีสํ อุกฺขิปิ.
สตฺถวาโห ¶ ¶ ‘‘อยํ เอตฺตกานิ สกฏานิ อุกฺขิปนฺโต เอวํ น อกาสิ, เวตนตฺถํ มฺเ กโรตี’’ติ สกฏคณนาย กหาปเณ คเหตฺวา ปฺจสตภณฺฑิกํ ตสฺส คีวาย พนฺธาเปสิ. โส อฺเสํ อตฺตโน สนฺติกํ อลฺลียิตุํ อเทนฺโต อุชุกํ เคหเมว อคมาสิ. มหลฺลิกา ทิสฺวา โมเจตฺวา กหาปณภาวํ ตฺวา ‘‘กสฺมา, ปุตฺต, เอวมกาสิ, มา ตฺวํ ‘มยา กมฺมํ กตฺวา อาภเตน อยํ ชีวิสฺสตี’ติ สฺมกาสี’’ติ วตฺวา โคณํ อุณฺโหทเกน นฺหาเปตฺวา เตเลน อพฺภฺชิตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย ปุน มา เอวมกาสี’’ติ โอวทิ. เอวํ สตฺถา ‘‘จริยํ จรณกาเล อเหตุกปฏิสนฺธิยํ นิพฺพตฺเตนาปิ หิ มยา วหิตพฺพธุรํ อฺโ วหิตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสี’’ติ จินฺเตตฺวา เอกโกว อคมาสิ. ตํ ทสฺเสตุํ อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถ ปฏิสลฺลานาติ ปุถุตฺตารมฺมเณหิ จิตฺตํ ปฏิสํหริตฺวา สลฺลานโต, ผลสมาปตฺติโตติ อตฺโถ. เตนุปสงฺกมีติ ปริพฺพาชเกสุ สกลนคเร ปกาสนียกมฺมํ กตฺวา นครา นิกฺขมฺม ปริพฺพาชการาเม สนฺนิปติตฺวา ‘‘สเจ, อาวุโส สรภ, สมโณ โคตโม อาคมิสฺสติ, กึ ¶ กริสฺสสี’’ติ. สมเณ โคตเม เอกํ กโรนฺเต อหํ ทฺเว กริสฺสามิ, ทฺเว กโรนฺเต จตฺตาริ, จตฺตาริ กโรนฺเต ปฺจ, ปฺจ กโรนฺเต ทส, ทส กโรนฺเต วีสติ, วีสติ กโรนฺเต ตึสํ, ตึสํ กโรนฺเต จตฺตาลีสํ, จตฺตาลีสํ กโรนฺเต ปฺาสํ, ปฺาสํ กโรนฺเต สตํ, สตํ กโรนฺเต สหสฺสํ กริสฺสามีติ เอวํ อฺมฺํ สีหนาทกถํ สมุฏฺาเปตฺวา นิสินฺเนสุ อุปสงฺกมิ.
อุปสงฺกมนฺโต ปน ยสฺมา ปริพฺพาชการามสฺส นครมชฺเฌเนว มคฺโค, ตสฺมา สุรตฺตทุปฏฺฏํ นิวาเสตฺวา สุคตมหาจีวรํ ปารุปิตฺวา วิสฺสฏฺพโล ราชา วิย เอกโกว นครมชฺเฌน อคมาสิ. มิจฺฉาทิฏฺิกา ทิสฺวา ‘‘ปริพฺพาชกา สมณสฺส โคตมสฺส ปกาสนียกมฺมํ กโรนฺตา อวณฺณํ ปตฺถรึสุ, โส เอเต อนุวตฺติตฺวา สฺาเปตุํ คจฺฉติ มฺเ’’ติ อนุพนฺธึสุ. สมฺมาทิฏฺิกาปิ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปตฺตจีวรํ อาทาย เอกโกว นิกฺขนฺโต, อชฺช สรเภน สทฺธึ มหาธมฺมสงฺคาโม ภวิสฺสติ. มยมฺปิ ตสฺมึ สมาคเม กายสกฺขิโน ภวิสฺสามา’’ติ อนุพนฺธึสุ. สตฺถา ปสฺสนฺตสฺเสว มหาชนสฺส ปริพฺพาชการามํ อุปสงฺกมิ.
ปริพฺพาชกา ¶ รุกฺขานํ ขนฺธวิฏปสาขนฺตเรหิ สมุคฺคจฺฉนฺตา ฉพฺพณฺณฆนพุทฺธรสฺมิโย ทิสฺวา ‘‘อฺทา เอวรูโป โอภาโส นาม นตฺถิ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ อุลฺโลเกตฺวา ‘‘สมโณ ¶ โคตโม อาคจฺฉตี’’ติ อาหํสุ. ตํ สุตฺวาว สรโภ ชาณุกนฺตเร สีสํ เปตฺวา อโธมุโข นิสีทิ. เอวํ ตสฺมึ สมเย ภควา ตํ อารามํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. ตถาคโต หิ ชมฺพุทีปตเล อคฺคกุเล ชาตตฺตา อคฺคาสนารโหติสฺส สพฺพตฺถ อาสนํ ปฺตฺตเมว โหติ. เอวํ ปฺตฺเต มหารเห พุทฺธาสเน นิสีทิ.
เต ปริพฺพาชกา สรภํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจุนฺติ สมฺมาสมฺพุทฺเธ กิร สรเภน สทฺธึ เอตฺตกํ กเถนฺเตเยว ¶ ภิกฺขุสงฺโฆ สตฺถุ ปทานุปทิโก หุตฺวา ปริพฺพาชการามํ สมฺปาปุณิ, จตสฺโสปิ ปริสา ปริพฺพาชการาเมเยว โอสรึสุ. ตโต เต ปริพฺพาชกา ‘‘อจฺฉริยํ สมณสฺส โคตมสฺส กมฺมํ, สกลนครํ วิจริตฺวา อวณฺณํ ปตฺถริตฺวา ปกาสนียกมฺมํ กตฺวา อาคตานํ เวรีนํ ปฏิสตฺตูนํ ปจฺจามิตฺตานํ สนฺติกํ อาคนฺตฺวา โถกมฺปิ วิคฺคาหิกกถํ น กเถสิ, อาคตกาลโต ปฏฺาย สตปากเตเลน มกฺเขนฺโต วิย อมตปานํ ปาเยนฺโต วิย มธุรกถํ กเถตี’’ติ สพฺเพปิ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อนุวตฺตนฺตา เอตทโวจุํ.
ยาเจยฺยาสีติ อายาเจยฺยาสิ ปตฺเถยฺยาสิ ปิเหยฺยาสิ. ตุณฺหีภูโตติ ตุณฺหีภาวํ อุปคโต. มงฺกุภูโตติ นิตฺเตชตํ อาปนฺโน. ปตฺตกฺขนฺโธติ โอนตคีโว. อโธมุโขติ เหฏฺามุโข. สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโตติ ‘‘อหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สพฺเพ ธมฺมา มยา อภิสมฺพุทฺธา’’ติ เอวํ ปฏิชานโต ตว. อนภิสมฺพุทฺธาติ อิเม นาม ธมฺมา ตยา อนภิสมฺพุทฺธา. ตตฺถาติ เตสุ อนภิสมฺพุทฺธาติ เอวํ ทสฺสิตธมฺเมสุ. อฺเน วา อฺํ ปฏิจริสฺสตีติ อฺเน วา วจเนน อฺํ วจนํ ปฏิจฺฉาเทสฺสติ, อฺํ ปุจฺฉิโต อฺํ กเถสฺสตีติ อธิปฺปาโย. พหิทฺธา กถํ อปนาเมสฺสตีติ พหิทฺธา อฺํ อาคนฺตุกกถํ อาหรนฺโต ปุริมกถํ อปนาเมสฺสติ. อปฺปจฺจยนฺติ อนภิรทฺธึ อตุฏฺาการํ ปาตุกริสฺสตีติ ปากฏํ กริสฺสติ. เอตฺถ จ อปฺปจฺจเยน โทมนสฺสํ วุตฺตํ, ปุริเมหิ ทฺวีหิ มนฺทพลวเภโท โกโธเยว.
เอวํ ¶ ภควา ปมเวสารชฺเชน สีหนาทํ นทิตฺวา ปุน ทุติยาทีหิ นทนฺโต โย โข มํ ปริพฺพาชกาติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโตติ ยสฺส มคฺคสฺส ¶ วา ผลสฺส วา อตฺถาย ตยา จตุสจฺจธมฺโม เทสิโต. โส น นิยฺยาตีติ โส ธมฺโม น นิยฺยาติ น นิคฺคจฺฉติ, น ตํ อตฺถํ สาเธตีติ วุตฺตํ โหติ. ตกฺกรสฺสาติ โย นํ กโรติ, ตสฺส ปฏิปตฺติปูรกสฺส ปุคฺคลสฺสาติ อตฺโถ. สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ เหตุนา นเยน การเณน สกลสฺส ¶ วฏฺฏทุกฺขสฺส ขยาย. อถ วา ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโตติ ยสฺส เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโต. เสยฺยถิทํ – ราคปฏิฆาตตฺถาย อสุภกมฺมฏฺานํ, โทสปฏิฆาตตฺถาย เมตฺตาภาวนา, โมหปฏิฆาตตฺถาย ปฺจ ธมฺมา, วิตกฺกุปจฺเฉทาย อานาปานสฺสติ. โส น นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ โส ธมฺโม โย นํ ยถาเทสิตํ กโรติ, ตสฺส ตกฺกรสฺส สมฺมา เหตุนา นเยน การเณน วฏฺฏทุกฺขกฺขยาย น นิยฺยาติ น นิคฺคจฺฉติ, ตํ อตฺถํ น สาเธตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เสยฺยถาปิ สรโภ ปริพฺพาชโกติ ยถา อยํ สรโภ ปริพฺพาชโก ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน นิสินฺโน, เอวํ นิสีทิสฺสตีติ.
เอวํ ตีหิ ปเทหิ สีหนาทํ นทิตฺวา เทสนํ นิวตฺเตนฺตสฺเสว ตถาคตสฺส ตสฺมึ าเน สนฺนิปติตา จตุราสีติปาณสหสฺสปริมาณา ปริสา อมตปานํ ปิวิ, สตฺถา ปริสาย อมตปานสฺส ปีตภาวํ ตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปกฺกามิ. ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ อถ โข ภควาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สีหนาทนฺติ เสฏฺนาทํ อภีตนาทํ อปฺปฏินาทํ. เวหาสํ ปกฺกามีติ อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อธิฏฺาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน อากาสํ ปกฺขนฺทิ. เอวํ ปกฺขนฺโท จ ปน ตํขณฺเว คิชฺฌกูฏมหาวิหาเร ปติฏฺาสิ.
วาจาย สนฺนิโตทเกนาติ วจนปโตเทน. สฺชมฺภริมกํสูติ ¶ สมฺภริตํ นิรนฺตรผุฏํ อกํสุ, อุปริ วิชฺฌึสูติ วุตฺตํ โหติ. พฺรหารฺเติ มหารฺเ. สีหนาทํ นทิสฺสามีติ สีหสฺส นทโต อาการํ ทิสฺวา ‘‘อยมฺปิ ติรจฺฉานคโต, อหมฺปิ, อิมสฺส จตฺตาโร ปาทา, มยฺหมฺปิ, อหมฺปิ เอวเมว สีหนาทํ นทิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. โส สีหสฺส สมฺมุขา นทิตุํ อสกฺโกนฺโต ¶ ตสฺมึ โคจราย ปกฺกนฺเต เอกโก นทิตุํ อารภิ. อถสฺส สิงฺคาลสทฺโทเยว นิจฺฉริ. เตน วุตฺตํ – สิงฺคาลกํเยว นทตีติ. เภรณฺฑกนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. อปิจ ภินฺนสฺสรํ อมนาปสทฺทํ นทตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวเมว โข ตฺวนฺติ อิมินา โอปมฺเมน ปริพฺพาชกา ตถาคตํ สีหสทิสํ กตฺวา สรภํ สิงฺคาลสทิสํ อกํสุ. อมฺพุกสฺจรีติ ขุทฺทกกุกฺกุฏิกา. ปุริสกรวิตํ รวิสฺสามีติ มหากุกฺกุฏํ รวนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺสปิ ทฺเว ปาทา ทฺเว ปกฺขา, มยฺหมฺปิ ตเถว, อหมฺปิ เอวรูปํ รวิตํ รวิสฺสามี’’ติ สา ตสฺส สมฺมุขา รวิตุํ อสกฺโกนฺตี ตสฺมึ ปกฺกนฺเต รวมานา กุกฺกุฏิการวํเยว รวิ. เตน วุตฺตํ – อมฺพุกสฺจริรวิตํเยว รวตีติ. อุสโภติ โคโณ. สฺุายาติ ตุจฺฉาย เชฏฺกวสเภหิ วิรหิตาย ¶ . คมฺภีรํ นทิตพฺพํ มฺตีติ เชฏฺกวสภสฺส นาทสทิสํ คมฺภีรนาทํ นทิตพฺพํ มฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๕. เกสมุตฺติสุตฺตวณฺณนา
๖๖. ปฺจเม กาลามานํ นิคโมติ กาลามา นาม ขตฺติยา, เตสํ นิคโม. เกสมุตฺติยาติ เกสมุตฺตนิคมวาสิโน. อุปสงฺกมึสูติ สปฺปินวนีตาทิเภสชฺชานิ เจว อฏฺวิธปานกานิ จ คาหาเปตฺวา อุปสงฺกมึสุ. สกํเยว วาทํ ทีเปนฺตีติ อตฺตโนเยว ลทฺธึ กเถนฺติ. โชเตนฺตีติ ปกาเสนฺติ. ขุํเสนฺตีติ ฆฏฺเฏนฺติ. วมฺเภนฺตีติ ¶ อวชานนฺติ. ปริภวนฺตีติ ลามกํ กโรนฺติ. โอมกฺขึ กโรนฺตีติ อุกฺขิตฺตกํ กโรนฺติ, อุกฺขิปิตฺวา ฉฑฺเฑนฺติ. อปเรปิ, ภนฺเตติ โส กิร อฏวิมุเข คาโม, ตสฺมา ตตฺถ อฏวึ อติกฺกนฺตา จ อติกฺกมิตุกามา จ วาสํ กปฺเปนฺติ. เตสุปิ ปมํ อาคตา อตฺตโน ลทฺธึ ทีเปตฺวา ปกฺกมึสุ, ปจฺฉา อาคตา ‘‘กึ เต ชานนฺติ, อมฺหากํ อนฺเตวาสิกา เต, อมฺหากํ สนฺติเก กิฺจิ กิฺจิ สิปฺปํ อุคฺคณฺหึสู’’ติ อตฺตโน ลทฺธึ ทีเปตฺวา ปกฺกมึสุ. กาลามา เอกลทฺธิยมฺปิ สณฺหิตุํ น สกฺขึสุ. เต เอตมตฺถํ ทีเปตฺวา ภควโต เอวมาโรเจตฺวา เตสํ โน, ภนฺเตติอาทิมาหํสุ. ตตฺถ โหเตว กงฺขาติ โหติเยว กงฺขา. วิจิกิจฺฉาติ ตสฺเสว เววจนํ. อลนฺติ ยุตฺตํ.
มา ¶ อนุสฺสเวนาติ อนุสฺสวกถายปิ มา คณฺหิตฺถ. มา ปรมฺปรายาติ ปรมฺปรกถายปิ มา คณฺหิตฺถ. มา อิติกิรายาติ เอวํ กิร เอตนฺติ มา คณฺหิตฺถ. มา ปิฏกสมฺปทาเนนาติ อมฺหากํ ปิฏกตนฺติยา สทฺธึ สเมตีติ มา คณฺหิตฺถ. มา ตกฺกเหตูติ ตกฺกคฺคาเหนปิ มา คณฺหิตฺถ. มา นยเหตูติ นยคฺคาเหนปิ มา คณฺหิตฺถ. มา อาการปริวิตกฺเกนาติ สุนฺทรมิทํ การณนฺติ เอวํ การณปริวิตกฺเกนปิ มา คณฺหิตฺถ. มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยาติ อมฺหากํ นิชฺฌายิตฺวา ขมิตฺวา คหิตทิฏฺิยา สทฺธึ สเมตีติปิ มา คณฺหิตฺถ. มา ภพฺพรูปตายาติ อยํ ภิกฺขุ ภพฺพรูโป, อิมสฺส กถํ คเหตุํ ยุตฺตนฺติปิ มา คณฺหิตฺถ. มา สมโณ โน ครูติ อยํ สมโณ อมฺหากํ ครุ, อิมสฺส กถํ คเหตุํ ยุตฺตนฺติปิ มา คณฺหิตฺถ. สมตฺตาติ ปริปุณฺณา. สมาทินฺนาติ ¶ คหิตา ปรามฏฺา. ยํส โหตีติ ยํ การณํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส โหติ. อโลภาทโย ¶ โลภาทิปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพา. วิคตาภิชฺโฌติอาทีหิ เมตฺตาย ปุพฺพภาโค กถิโต.
อิทานิ เมตฺตาทิกํ กมฺมฏฺานํ กเถนฺโต เมตฺตาสหคเตนาติอาทิมาห. ตตฺถ กมฺมฏฺานกถาย วา ภาวนานเย วา ปาฬิวณฺณนาย วา ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔๐) วุตฺตเมว. เอวํ อเวรจิตฺโตติ เอวํ อกุสลเวรสฺส จ ปุคฺคลเวริโน จ นตฺถิตาย อเวรจิตฺโต. อพฺยาพชฺฌจิตฺโตติ โกธจิตฺตสฺส อภาเวน นิทฺทุกฺขจิตฺโต. อสํกิลิฏฺจิตฺโตติ กิเลสสฺส นตฺถิตาย อสํกิลิฏฺจิตฺโต. วิสุทฺธจิตฺโตติ กิเลสมลาภาเวน วิสุทฺธจิตฺโต โหตีติ อตฺโถ. ตสฺสาติ ตสฺส เอวรูปสฺส อริยสาวกสฺส. อสฺสาสาติ อวสฺสยา ปติฏฺา. สเจ โข ปน อตฺถิ ปโร โลโกติ ยทิ อิมมฺหา โลกา ปรโลโก นาม อตฺถิ. อถาหํ กายสฺส เภทา ปรมฺมรณา…เป… อุปปชฺชิสฺสามีติ อตฺเถตํ การณํ, เยนาหํ กายสฺส เภทา ปรมฺมรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสามีติ เอวํ สพฺพตฺถ นโย เวทิตพฺโพ. อนีฆนฺติ นิทฺทุกฺขํ. สุขินฺติ สุขิตํ. อุภเยเนว วิสุทฺธํ อตฺตานํ สมนุปสฺสามีติ ยฺจ ปาปํ น กโรมิ, ยฺจ กโรโตปิ น กรียติ, อิมินา อุภเยนาปิ วิสุทฺธํ อตฺตานํ สมนุปสฺสามิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๖. สาฬฺหสุตฺตวณฺณนา
๖๗. ฉฏฺเ ¶ มิคารนตฺตาติ มิคารเสฏฺิโน นตฺตา. เสขุนิยนตฺตาติ เสขุนิยเสฏฺิโน นตฺตา. อุปสงฺกมึสูติ ภุตฺตปาตราสา ทาสกมฺมกรปริวุตา ¶ อุปสงฺกมึสุ. เตสํ กิร ปุเรภตฺเต ปุพฺพณฺหสมเยเยว เคเห เอโก ปฺโห สมุฏฺิโต, ตํ ปน กเถตุํ โอกาโส นาโหสิ. เต ‘‘ตํ ปฺหํ โสสฺสามา’’ติ เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ตุณฺหี นิสีทึสุ. เถโร ‘‘คาเม ตํ สมุฏฺิตํ ปฺหํ โสตุํ อาคตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ เตสํ มนํ ตฺวา ตเมว ปฺหํ อารภนฺโต เอถ ตุมฺเห สาฬฺหาติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺถิ โลโภติ ลุพฺภนสภาโว โลโภ นาม อตฺถีติ ปุจฺฉติ. อภิชฺฌาติ โข อหํ สาฬฺหา เอตมตฺถํ วทามีติ เอตํ โลภสงฺขาตํ อตฺถํ อหํ ‘‘อภิชฺฌา’’ติ วทามิ, ‘‘ตณฺหา’’ติ วทามีติ สมุฏฺิตปฺหสฺส อตฺถํ ทีเปนฺโต อาห. เอวํ สพฺพวาเรสุ นโย เนตพฺโพ.
โส ¶ เอวํ ปชานาตีติ โส จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา ิโต อริยสาวโก สมาปตฺติโต วุฏฺาย วิปสฺสนํ อารภนฺโต เอวํ ปชานาติ. อตฺถิ อิทนฺติ อตฺถิ ทุกฺขสจฺจสงฺขาตํ ขนฺธปฺจกํ นามรูปวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปชานนฺโต เอส ‘‘เอวํ ปชานาติ อตฺถิ อิท’’นฺติ วุตฺโต. หีนนฺติ สมุทยสจฺจํ. ปณีตนฺติ มคฺคสจฺจํ. อิมสฺส สฺาคตสฺส อุตฺตริ นิสฺสรณนฺติ อิมสฺส วิปสฺสนาสฺาสงฺขาตสฺส สฺาคตสฺส อุตฺตริ นิสฺสรณํ นาม นิพฺพานํ, ตมตฺถีติ อิมินา นิโรธสจฺจํ ทสฺเสติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณนฺติ เอกูนวีสติวิธํ ปจฺจเวกฺขณาณํ กถิตํ. อหุ ปุพฺเพ โลโภติ ปุพฺเพ เม โลโภ อโหสิ. ตทหุ อกุสลนฺติ ตํ อกุสลํ นาม อโหสิ, ตทา วา อกุสลํ นาม อโหสิ. อิจฺเจตํ กุสลนฺติ อิติ เอตํ กุสลํ, ตสฺเสว อกุสลสฺส นตฺถิภาวํ กุสลํ เขมนฺติ สนฺธาย วทติ. นิจฺฉาโตติ นิตฺตณฺโห. นิพฺพุโตติ ¶ อพฺภนฺตเร สนฺตาปกรานํ กิเลสานํ อภาเวน นิพฺพุโต. สีติภูโตติ สีตลีภูโต. สุขปฺปฏิสํเวทีติ กายิกเจตสิกสฺส สุขสฺส ปฏิสํเวทิตา. พฺรหฺมภูเตนาติ เสฏฺภูเตน. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๗. กถาวตฺถุสุตฺตวณฺณนา
๖๘. สตฺตเม ¶ กถาวตฺถูนีติ กถาการณานิ, กถาย ภูมิโย ปติฏฺาโยติ อตฺโถ. อตีตํ วา, ภิกฺขเว, อทฺธานนฺติ อตีตมทฺธานํ นาม กาโลปิ วฏฺฏติ ขนฺธาปิ. อนาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อตีเต กสฺสโป นาม สมฺมาสมฺพุทฺโธ อโหสิ, ตสฺส กิกี นาม กาสิกราชา อคฺคุปฏฺาโก อโหสิ, วีสติ วสฺสสหสฺสานิ อายุ อโหสีติ อิมินา นเยน กเถนฺโต อตีตํ อารพฺภ กถํ กเถติ นาม. อนาคเต เมตฺเตยฺโย นาม พุทฺโธ ภวิสฺสติ, ตสฺส สงฺโข นาม ราชา อคฺคุปฏฺาโก ภวิสฺสติ, อสีติ วสฺสสหสฺสานิ อายุ ภวิสฺสตีติ อิมินา นเยน กเถนฺโต อนาคตํ อารพฺภ กถํ กเถติ นาม. เอตรหิ อสุโก นาม ราชา ธมฺมิโกติ อิมินา นเยน กเถนฺโต ปจฺจุปฺปนฺนํ อารพฺภ กถํ กเถติ นาม.
กถาสมฺปโยเคนาติ กถาสมาคเมน. กจฺโฉติ กเถตุํ ยุตฺโต. อกจฺโฉติ กเถตุํ น ยุตฺโต. เอกํสพฺยากรณียํ ปฺหนฺติอาทีสุ, ‘‘จกฺขุ, อนิจฺจ’’นฺติ ปุฏฺเน, ‘‘อาม, อนิจฺจ’’นฺติ เอกํเสเนว พฺยากาตพฺพํ. เอเสว นโย โสตาทีสุ. อยํ เอกํสพฺยากรณีโย ปฺโห. ‘‘อนิจฺจํ นาม จกฺขู’’ติ ปุฏฺเน ปน ‘‘น จกฺขุเมว, โสตมฺปิ อนิจฺจํ, ฆานมฺปิ อนิจฺจ’’นฺติ เอวํ วิภชิตฺวา ¶ พฺยากาตพฺพํ. อยํ วิภชฺชพฺยากรณีโย ปฺโห. ‘‘ยถา จกฺขุ, ตถา โสตํ. ยถา โสตํ, ตถา จกฺขู’’ติ ปุฏฺเน ‘‘เกนฏฺเน ปุจฺฉสี’’ติ ปฏิปุจฺฉิตฺวา ‘‘ทสฺสนฏฺเน ปุจฺฉามี’’ติ วุตฺเต ‘‘น หี’’ติ พฺยากาตพฺพํ. ‘‘อนิจฺจฏฺเน ปุจฺฉามี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อามา’’ติ พฺยากาตพฺพํ. อยํ ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณีโย ปฺโห. ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติอาทีนิ ¶ ปุฏฺเน ปน ‘‘อพฺยากตเมตํ ภควตา’’ติ เปตพฺโพ, เอส ปฺโห น พฺยากาตพฺโพ. อยํ ปนีโย ปฺโห.
านาาเน น สณฺาตีติ การณาการเณ น สณฺาติ. ตตฺรายํ นโย – สสฺสตวาที ยุตฺเตน การเณน ปโหติ อุจฺเฉทวาทึ นิคฺคเหตุํ, อุจฺเฉทวาที เตน นิคฺคยฺหมาโน ‘‘กึ ปนาหํ อุจฺเฉทํ วทามี’’ติ สสฺสตวาทิภาวเมว ทีเปติ, อตฺตโน วาเท ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ. เอวํ อุจฺเฉทวาทิมฺหิ ปโหนฺเต สสฺสตวาที, ปุคฺคลวาทิมฺหิ ปโหนฺเต สฺุตวาที, สฺุตวาทิมฺหิ ปโหนฺเต ปุคฺคลวาทีติ เอวํ านาาเน น สณฺาติ นาม.
ปริกปฺเป ¶ น สณฺาตีติ อิทํ ปฺหปุจฺฉเนปิ ปฺหกถเนปิ ลพฺภติ. กถํ? เอกจฺโจ หิ ‘‘ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ กณฺํ โสเธติ, โส อิตเรน ‘‘อิทํ นาม ตฺวํ ปุจฺฉิสฺสสี’’ติ วุตฺโต าตภาวํ ตฺวา ‘‘น เอตํ, อฺํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ วทติ. ปฺหํ ปุฏฺโปิ ‘‘ปฺหํ กเถสฺสามี’’ติ หนุํ สํโสเธติ, โส อิตเรน ‘‘อิทํ นาม กเถสฺสสี’’ติ วุตฺโต าตภาวํ ตฺวา ‘‘น เอตํ, อฺํ กเถสฺสามี’’ติ วทติ. เอวํ ปริกปฺเป น สณฺาติ นาม.
อฺาตวาเท น สณฺาตีติ อฺาตวาเท ชานิตวาเท น สณฺาติ. กถํ? เอกจฺโจ ปฺหํ ปุจฺฉติ, ตํ อิตโร ‘‘มนาโป ตยา ปฺโห ปุจฺฉิโต, กหํ เต เอส อุคฺคหิโต’’ติ วทติ. อิตโร ปุจฺฉิตพฺพนิยาเมเนว ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวาปิ ตสฺส กถาย ‘‘อปฺหํ นุ โข ปุจฺฉิต’’นฺติ วิมตึ กโรติ. อปโร ปฺหํ ปุฏฺโ กเถติ, ตมฺโ ‘‘สุฏฺุ เต ปฺโห กถิโต, กตฺถ เต อุคฺคหิโต, ปฺหํ กเถนฺเตน นาม เอวํ กเถตพฺโพ’’ติ วทติ. อิตโร กเถตพฺพนิยาเมเนว ปฺหํ กเถตฺวาปิ ตสฺส กถาย ‘‘อปฺโห นุ โข มยา กถิโต’’ติ วิมตึ กโรติ.
ปฏิปทาย น สณฺาตีติ ปฏิปตฺติยํ น ติฏฺติ, วตฺตํ อชานิตฺวา อปุจฺฉิตพฺพฏฺาเน ปุจฺฉตีติ อตฺโถ. อยํ ปฺโห ¶ นาม เจติยงฺคเณ ปุจฺฉิเตน น กเถตพฺโพ, ตถา ภิกฺขาจารมคฺเค ¶ คามํ ปิณฺฑาย จรณกาเล. อาสนสาลาย นิสินฺนกาเล ยาคุํ วา ภตฺตํ วา คเหตฺวา นิสินฺนกาเล ปริภฺุชิตฺวา นิสินฺนกาเล ทิวาวิหารฏฺานคมนกาเลปิ. ทิวาฏฺาเน นิสินฺนกาเล ปน โอกาสํ กาเรตฺวาว ปุจฺฉนฺตสฺส กเถตพฺโพ, อกาเรตฺวา ปุจฺฉนฺตสฺส น กเถตพฺโพ. อิทํ วตฺตํ อชานิตฺวา ปุจฺฉนฺโต ปฏิปทาย น สณฺาติ นาม. เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อกจฺโฉ โหตีติ, ภิกฺขเว, เอตํ อิมสฺมึ จ การเณ สติ อยํ ปุคฺคโล น กเถตุํ ยุตฺโต นาม โหติ.
านาาเน สณฺาตีติ สสฺสตวาที ยุตฺเตน การเณน ปโหติ อุจฺเฉทวาทึ นิคฺคเหตุํ, อุจฺเฉทวาที เตน นิคฺคยฺหมาโนปิ ‘‘อหํ ตยา สตกฺขตฺตุํ นิคฺคยฺหมาโนปิ อุจฺเฉทวาทีเยวา’’ติ วทติ. อิมินา นเยน สสฺสตปุคฺคลสฺุตวาทาทีสุปิ นโย เนตพฺโพ. เอวํ านาาเน สณฺาติ ¶ นาม. ปริกปฺเป สณฺาตีติ ‘‘ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ กณฺํ โสเธนฺโต ‘‘ตฺวํ อิมํ นาม ปุจฺฉิสฺสสี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อาม, เอตํเยว ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ วทติ. ปฺหํ กเถสฺสามีติ หนุํ สํโสเธนฺโตปิ ‘‘ตฺวํ อิมํ นาม กเถสฺสสี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อาม, เอตํเยว กเถสฺสามี’’ติ วทติ. เอวํ ปริกปฺเป สณฺาติ นาม.
อฺาตวาเท สณฺาตีติ อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สุฏฺุ เต ปฺโห ปุจฺฉิโต, ปุจฺฉนฺเตน นาม เอวํ ปุจฺฉิตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต สมฺปฏิจฺฉติ, วิมตึ น อุปฺปาเทติ. ปฺหํ กเถตฺวาปิ ‘‘สุฏฺุ เต ปฺโห กถิโต, กเถนฺเตน นาม เอวํ กเถตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต สมฺปฏิจฺฉติ, วิมตึ น อุปฺปาเทติ. ปฏิปทาย สณฺาตีติ เคเห นิสีทาเปตฺวา ยาคุขชฺชกาทีนิ ทตฺวา ยาว ภตฺตํ นิฏฺาติ, ตสฺมึ อนฺตเร นิสินฺโน ปฺหํ ปุจฺฉติ ¶ . สปฺปิอาทีนิ เภสชฺชานิ อฏฺวิธานิ ปานกานิ วตฺถจฺฉาทนมาลาคนฺธาทีนิ วา อาทาย วิหารํ คนฺตฺวา ตานิ ทตฺวา ทิวาฏฺานํ ปวิสิตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉติ. เอวฺหิ วตฺตํ ตฺวา ปุจฺฉนฺโต ปฏิปทาย สณฺาติ นาม. ตสฺส ปฺหํ กเถตุํ วฏฺฏติ.
อฺเนฺํ ปฏิจรตีติ อฺเน วจเนน อฺํ ปฏิจฺฉาเทติ, อฺํ วา ปุจฺฉิโต อฺํ กเถติ. พหิทฺธา กถํ อปนาเมตีติ อาคนฺตุกกถํ โอตาเรนฺโต ปุริมกถํ พหิทฺธา อปนาเมติ. ตตฺริทํ วตฺถุ – ภิกฺขู กิร สนฺนิปติตฺวา เอกํ ทหรํ, ‘‘อาวุโส, ตฺวํ อิมฺจิมฺจ อาปตฺตึ อาปนฺโน’’ติ อาหํสุ. โส อาห – ‘‘ภนฺเต, นาคทีปํ คโตมฺหี’’ติ. อาวุโส ¶ , น มยํ ตว นาคทีปคมเนน อตฺถิกา, อาปตฺตึ ปน อาปนฺโนติ ปุจฺฉามาติ. ภนฺเต, นาคทีปํ คนฺตฺวา มจฺเฉ ขาทินฺติ. อาวุโส, ตว มจฺฉขาทเนน กมฺมํ นตฺถิ, อาปตฺตึ กิรสิ อาปนฺโนติ. โส ‘‘นาติสุปกฺโก มจฺโฉ มยฺหํ อผาสุกมกาสิ, ภนฺเต’’ติ. อาวุโส, ตุยฺหํ ผาสุเกน วา อผาสุเกน วา กมฺมํ นตฺถิ, อาปตฺตึ อาปนฺโนสีติ. ภนฺเต, ยาว ตตฺถ วสึ, ตาว เม อผาสุกเมว ชาตนฺติ. เอวํ อาคนฺตุกกถาวเสน พหิทฺธา กถํ อปนาเมตีติ เวทิตพฺพํ.
อภิหรตีติ อิโต จิโต จ สุตฺตํ อาหริตฺวา อวตฺถรติ. เตปิฏกติสฺสตฺเถโร วิย. ปุพฺเพ กิร ภิกฺขู มหาเจติยงฺคเณ สนฺนิปติตฺวา สงฺฆกิจฺจํ กตฺวา ภิกฺขูนํ โอวาทํ ทตฺวา อฺมฺํ ปฺหสากจฺฉํ กโรนฺติ. ตตฺถายํ เถโร ตีหิ ปิฏเกหิ ตโต ตโต สุตฺตํ อาหริตฺวา ทิวสภาเค เอกมฺปิ ปฺหํ นิฏฺาเปตุํ น เทติ. อภิมทฺทตีติ การณํ ¶ อาหริตฺวา มทฺทติ. อนุปชคฺฆตีติ ปเรน ปฺเห ปุจฺฉิเตปิ กถิเตปิ ปาณึ ปหริตฺวา มหาหสิตํ หสติ, เยน ปรสฺส ‘‘อปุจฺฉิตพฺพํ นุ โข ปุจฺฉึ, อกเถตพฺพํ นุ โข กเถสิ’’นฺติ วิมติ อุปฺปชฺชติ. ขลิตํ คณฺหาตีติ อปฺปมตฺตกํ มุขโทสมตฺตํ คณฺหาติ ¶ , อกฺขเร วา ปเท วา พฺยฺชเน วา ทุรุตฺเต ‘‘เอวํ นาเมตํ วตฺตพฺพ’’นฺติ อุชฺฌายมาโน วิจรติ. สอุปนิโสติ สอุปนิสฺสโย สปจฺจโย.
โอหิตโสโตติ ปิตโสโต. อภิชานาติ เอกํ ธมฺมนฺติ เอกํ กุสลธมฺมํ อภิชานาติ อริยมคฺคํ. ปริชานาติ เอกํ ธมฺมนฺติ เอกํ ทุกฺขสจฺจธมฺมํ ตีรณปริฺาย ปริชานาติ. ปชหติ เอกํ ธมฺมนฺติ เอกํ สพฺพากุสลธมฺมํ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ. สจฺฉิกโรติ เอกํ ธมฺมนฺติ เอกํ อรหตฺตผลธมฺมํ นิโรธเมว วา ปจฺจกฺขํ กโรติ. สมฺมาวิมุตฺตึ ผุสตีติ สมฺมา เหตุนา นเยน การเณน อรหตฺตผลวิโมกฺขํ าณผสฺเสน ผุสติ.
เอตทตฺถา, ภิกฺขเว, กถาติ, ภิกฺขเว, ยา เอสา กถาสมฺปโยเคนาติ กถา ทสฺสิตา, สา เอตทตฺถา, อยํ ตสฺสา กถาย ภูมิ ปติฏฺา. อิทํ วตฺถุ ยทิทํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ เอวํ สพฺพปเทสุ โยชนา เวทิตพฺพา. เอตทตฺถา มนฺตนาติ ยา อยํ กจฺฉากจฺเฉสุ ปุคฺคเลสุ กจฺเฉน สทฺธึ มนฺตนา, สาปิ เอตทตฺถาเยว. เอตทตฺถา อุปนิสาติ โอหิตโสโต สอุปนิโสติ เอวํ วุตฺตา อุปนิสาปิ เอตทตฺถาเยว. เอตทตฺถํ โสตาวธานนฺติ ตสฺสา อุปนิสาย โสตาวธานํ ¶ , ตมฺปิ เอตทตฺถเมว. อนุปาทาติ จตูหิ อุปาทาเนหิ อคฺคเหตฺวา. จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ อรหตฺตผลวิโมกฺโข. อรหตฺตผลตฺถาย หิ สพฺพเมตนฺติ สุตฺตนฺตํ วินิวตฺเตตฺวา อุปริ คาถาหิ กูฏํ คณฺหนฺโต เย วิรุทฺธาติอาทิมาห.
ตตฺถ วิรุทฺธาติ วิโรธสงฺขาเตน โกเปน วิรุทฺธา. สลฺลปนฺตีติ สลฺลาปํ กโรนฺติ. วินิวิฏฺาติ อภินิวิฏฺา หุตฺวา. สมุสฺสิตาติ ¶ มานุสฺสเยน สุฏฺุ อุสฺสิตา. อนริยคุณมาสชฺชาติ อนริยคุณกถํ คุณมาสชฺช กเถนฺติ. คุณํ ฆฏฺเฏตฺวา กถา หิ อนริยกถา นาม, น อริยกถา, ตํ ¶ กเถนฺตีติ อตฺโถ. อฺโฺวิวเรสิโนติ อฺมฺสฺส ฉิทฺทํ อปราธํ คเวสมานา. ทุพฺภาสิตนฺติ ทุกฺกถิตํ. วิกฺขลิตนฺติ อปฺปมตฺตกํ มุขโทสขลิตํ. สมฺปโมหํ ปราชยนฺติ อฺมฺสฺส อปฺปมตฺเตน มุขโทเสน สมฺปโมหฺจ ปราชยฺจ. อภินนฺทนฺตีติ ตุสฺสนฺติ. นาจเรติ น จรติ น กเถติ. ธมฺมฏฺปฏิสํยุตฺตาติ ยา จ ธมฺเม ิเตน กถิตกถา, สา ธมฺมฏฺา เจว โหติ เตน จ ธมฺเมน ปฏิสํยุตฺตาติ ธมฺมฏฺปฏิสํยุตฺตา. อนุนฺนเตน มนสาติ อนุทฺธเตน เจตสา. อปฬาโสติ ยุคคฺคาหปฬาสวเสน อปฬาโส หุตฺวา. อสาหโสติ ราคโทสโมหสาหสานํ วเสน อสาหโส หุตฺวา.
อนุสูยายมาโนติ น อุสูยมาโน. ทุพฺภฏฺเ นาปสาทเยติ ทุกฺกถิตสฺมึ น อปสาเทยฺย. อุปารมฺภํ น สิกฺเขยฺยาติ การณุตฺตริยลกฺขณํ อุปารมฺภํ น สิกฺเขยฺย. ขลิตฺจ น คาหเยติ อปฺปมตฺตกํ มุขขลิตํ ‘‘อยํ เต โทโส’’ติ น คาหเยยฺย. นาภิหเรติ นาวตฺถเรยฺย. นาภิมทฺเทติ เอกํ การณํ อาหริตฺวา น มทฺเทยฺย. น ¶ วาจํ ปยุตํ ภเณติ สจฺจาลิกปฏิสํยุตฺตํ วาจํ น ภเณยฺย. อฺาตตฺถนฺติ ชานนตฺถํ. ปสาทตฺถนฺติ ปสาทชนนตฺถํ. น สมุสฺเสยฺย มนฺตเยติ น มานุสฺสเยน สมุสฺสิโต ภเวยฺย. น หิ มานุสฺสิตา หุตฺวา ปณฺฑิตา กถยนฺติ, มาเนน ปน อนุสฺสิโตว หุตฺวา มนฺตเย กเถยฺย ภาเสยฺยาติ.
๘. อฺติตฺถิยสุตฺตวณฺณนา
๖๙. อฏฺเม ภควํมูลกาติ ภควา มูลํ เอเตสนฺติ ภควํมูลกา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิเม, ภนฺเต, อมฺหากํ ธมฺมา ปุพฺเพ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺเธน อุปฺปาทิตา, ตสฺมึ ปรินิพฺพุเต เอกํ พุทฺธนฺตรํ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิเม ธมฺเม อุปฺปาเทตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ, ภควโต ¶ ปน โน อิเม ธมฺมา อุปฺปาทิตา. ภควนฺตฺหิ นิสฺสาย มยํ อิเม ธมฺเม อาชานาม ปฏิวิชฺฌามาติ เอวํ ภควํมูลกา โน, ภนฺเต, ธมฺมาติ. ภควํเนตฺติกาติ ภควา ธมฺมานํ เนตา วิเนตา อนุเนตา ยถาสภาวโต ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ นามํ คเหตฺวาว ทสฺเสตาติ ธมฺมา ภควํเนตฺติกา นาม ¶ โหนฺติ. ภควํปฏิสรณาติ จตุภูมกธมฺมา สพฺพฺุตฺาณสฺส อาปาถํ อาคจฺฉมานา ภควติ ปฏิสรนฺติ นามาติ ภควํปฏิสรณา. ปฏิสรนฺตีติ โอสรนฺติ สโมสรนฺติ. อปิจ มหาโพธิมณฺเฑ นิสินฺนสฺส ภควโต ปฏิเวธวเสน ผสฺโส อาคจฺฉติ – ‘‘อหํ ภควา กินฺนาโม’’ติ. ตฺวํ ผุสนฏฺเน ผสฺโส นาม. เวทนา, สฺา, สงฺขารา, วิฺาณํ อาคจฺฉติ – ‘‘อหํ ภควา กินฺนาม’’นฺติ. ตฺวํ วิชานนฏฺเน วิฺาณํ นามาติ. เอวํ จตุภูมกธมฺมานํ ยถาสภาวโต ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ นามํ คณฺหนฺโต ภควา ธมฺเม ปฏิสรตีติ ภควํปฏิสรณา. ภควนฺตํเยว ปฏิภาตูติ ภควโตว เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ อุปฏฺาตุ, ตุมฺเหเยว โน กเถตฺวา เทถาติ อตฺโถ.
ราโค ¶ โขติ รชฺชนวเสน ปวตฺตราโค. อปฺปสาวชฺโชติ โลกวชฺชวเสนปิ วิปากวชฺชวเสนปีติ ทฺวีหิปิ วชฺเชหิ อปฺปสาวชฺโช, อปฺปโทโสติ อตฺโถ. กถํ? มาตาปิตโร หิ ภาติภคินิอาทโย จ ปุตฺตภาติกานํ อาวาหวิวาหมงฺคลํ นาม กาเรนฺติ. เอวํ ตาเวโส โลกวชฺชวเสน อปฺปสาวชฺโช. สทารสนฺโตสมูลิกา ปน อปาเย ปฏิสนฺธิ นาม น โหตีติ เอวํ วิปากวชฺชวเสน อปฺปสาวชฺโช. ทนฺธวิราคีติ วิรชฺชมาโน ปเนส สณิกํ วิรชฺชติ, น สีฆํ มุจฺจติ. เตลมสิราโค วิย จิรํ อนุพนฺธติ, ทฺเว ตีณิ ภวนฺตรานิ คนฺตฺวาปิ นาปคจฺฉตีติ ทนฺธวิราคี.
ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร ปุริโส ภาตุ ชายาย มิจฺฉาจารํ จรติ. ตสฺสาปิ อิตฺถิยา อตฺตโน สามิกโต โสเยว ปิยตโร อโหสิ. สา ตมาห – ‘‘อิมสฺมึ การเณ ปากเฏ ชาเต มหตี ครหา ภวิสฺสติ, ตว ภาติกํ ฆาเตหี’’ติ. โส ‘‘นสฺส, วสลิ, มา เอวํ ปุน อวจา’’ติ อปสาเทสิ. สา ตุณฺหี หุตฺวา กติปาหจฺจเยน ปุน กเถสิ, ตสฺส จิตฺตํ ทฺวชฺฌภาวํ อคมาสิ. ตโต ตติยวารํ กถิโต ‘‘กินฺติ กตฺวา โอกาสํ ลภิสฺสามี’’ติ อาห. อถสฺส สา อุปายํ กเถนฺตี ‘‘ตฺวํ มยา วุตฺตเมว กโรหิ, อสุกฏฺาเน มหากกุธสมีเป ติตฺถํ อตฺถิ, ตตฺถ ติขิณํ ทณฺฑกวาสึ คเหตฺวา ติฏฺาหี’’ติ. โส ตถา อกาสิ. เชฏฺภาตาปิสฺส อรฺเ กมฺมํ กตฺวา ฆรํ อาคโต. สา ตสฺมึ มุทุจิตฺตา วิย หุตฺวา ‘‘เอหิ ¶ สามิ ¶ , สีเส เต โอลิขิสฺสามี’’ติ โอลิขนฺตี ‘‘อุปกฺกิลิฏฺํ เต สีส’’นฺติ อามลกปิณฺฑํ ทตฺวา ‘‘คจฺฉ อสุกฏฺาเน สีสํ โธวิตฺวา อาคจฺฉาหี’’ติ เปเสสิ. โส ตาย วุตฺตติตฺถเมว คนฺตฺวา อามลกกกฺเกน สีสํ มกฺเขตฺวา อุทกํ โอรุยฺห โอนมิตฺวา สีสํ ¶ โธวิ. อถ นํ อิตโร รุกฺขนฺตรโต นิกฺขมิตฺวา ขนฺธฏฺิเก ปหริตฺวา ชีวิตา โวโรเปตฺวา เคหํ อคมาสิ.
อิตโร ภริยาย สิเนหํ ปริจฺจชิตุมสกฺโกนฺโต ตสฺมึเยว เคเห มหาธมฺมนิ หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส ตสฺสา ิตายปิ นิสินฺนายปิ คนฺตฺวา สรีเร ปตติ. อถ นํ สา ‘‘โสเยว อยํ ภวิสฺสตี’’ติ ฆาตาเปสิ. โส ปุน ตสฺสา สิเนเหน ตสฺมึเยว เคเห กุกฺกุโร หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส ปทสา คมนกาลโต ปฏฺาย ตสฺสา ปจฺฉโต ปจฺฉโต จรติ. อรฺํ คจฺฉนฺติยาปิ สทฺธึเยว คจฺฉติ. ตํ ทิสฺวา มนุสฺสา ‘‘นิกฺขนฺโต สุนขลุทฺทโก, กตรฏฺานํ คมิสฺสตี’’ติ อุปฺปณฺเฑนฺติ. สา ปุน ตํ ฆาตาเปสิ.
โสปิ ปุน ตสฺมึเยว เคเห วจฺฉโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตเถว ตสฺสา ปจฺฉโต ปจฺฉโต จรติ. ตทาปิ นํ มนุสฺสา ทิสฺวา ‘‘นิกฺขนฺโต โคปาลโก, กตฺถ คาวิโย จริสฺสนฺตี’’ติ อุปฺปณฺเฑนฺติ. สา ตสฺมิมฺปิ าเน ตํ ฆาตาเปสิ. โส ตทาปิ ตสฺสา อุปริ สิเนหํ ฉินฺทิตุํ อสกฺโกนฺโต จตุตฺเถ วาเร ตสฺสาเยว กุจฺฉิยํ ชาติสฺสโร หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส ปฏิปาฏิยา จตูสุ อตฺตภาเวสุ ตาย ฆาติตภาวํ ทิสฺวา ‘‘เอวรูปาย นาม ปจฺจตฺถิกาย กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺโตสฺมี’’ติ ตโต ปฏฺาย ตสฺสา หตฺเถน อตฺตานํ ผุสิตุํ น เทติ. สเจ นํ สา ผุสติ, กนฺทติ โรทติ. อถ นํ อยฺยโกว ปฏิชคฺคติ. ตํ อปรภาเค วุทฺธิปฺปตฺตํ อยฺยโก อาห – ‘‘ตาต, กสฺมา ตฺวํ มาตุ หตฺเถน อตฺตานํ ผุสิตุํ น เทสิ. สเจปิ ตํ ผุสติ, มหาสทฺเทน โรทสิ กนฺทสี’’ติ. อยฺยเกน ปุฏฺโ ‘‘น เอสา มยฺหํ มาตา, ปจฺจามิตฺตา เอสา’’ติ ตํ ปวตฺตึ สพฺพํ อาโรเจสิ. โส ตํ อาลิงฺคิตฺวา โรทิตฺวา ‘‘เอหิ, ตาต, กึ อมฺหากํ ¶ อีทิเส าเน นิวาสกิจฺจ’’นฺติ ตํ อาทาย นิกฺขมิตฺวา เอกํ วิหารํ คนฺตฺวา ปพฺพชิตฺวา อุโภปิ ตตฺถ วสนฺตา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ.
มหาสาวชฺโชติ ¶ โลกวชฺชวเสนปิ วิปากวชฺชวเสนปีติ ทฺวีหิปิ การเณหิ มหาสาวชฺโช. กถํ? โทเสน หิ ทุฏฺโ หุตฺวา มาตริปิ อปรชฺฌติ, ปิตริปิ ภาติภคินิอาทีสุปิ ¶ ปพฺพชิเตสุปิ. โส คตคตฏฺาเนสุ ‘‘อยํ ปุคฺคโล มาตาปิตูสุปิ อปรชฺฌติ, ภาติภคินิอาทีสุปิ, ปพฺพชิเตสุปี’’ติ มหตึ ครหํ ลภติ. เอวํ ตาว โลกวชฺชวเสน มหาสาวชฺโช. โทสวเสน ปน กเตน อานนฺตริยกมฺเมน กปฺปํ นิรเย ปจฺจติ. เอวํ วิปากวชฺชวเสน มหาสาวชฺโช. ขิปฺปวิราคีติ ขิปฺปํ วิรชฺชติ. โทเสน หิ ทุฏฺโ มาตาปิตูสุปิ เจติเยปิ โพธิมฺหิปิ ปพฺพชิเตสุปิ อปรชฺฌิตฺวา ‘‘มยฺหํ ขมถา’’ติ. อจฺจยํ เทเสติ. ตสฺส สห ขมาปเนน ตํ กมฺมํ ปากติกเมว โหติ.
โมโหปิ ทฺวีเหว การเณหิ มหาสาวชฺโช. โมเหน หิ มูฬฺโห หุตฺวา มาตาปิตูสุปิ เจติเยปิ โพธิมฺหิปิ ปพฺพชิเตสุปิ อปรชฺฌิตฺวา คตคตฏฺาเน ครหํ ลภติ. เอวํ ตาว โลกวชฺชวเสน มหาสาวชฺโช. โมหวเสน ปน กเตน อานนฺตริยกมฺเมน กปฺปํ นิรเย ปจฺจติ. เอวํ วิปากวชฺชวเสนปิ มหาสาวชฺโช. ทนฺธวิราคีติ สณิกํ วิรชฺชติ. โมเหน มูฬฺเหน หิ กตกมฺมํ สณิกํ มุจฺจติ. ยถา หิ อจฺฉจมฺมํ สตกฺขตฺตุมฺปิ โธวิยมานํ น ปณฺฑรํ โหติ, เอวเมว โมเหน มูฬฺเหน กตกมฺมํ สีฆํ น มุจฺจติ, สณิกเมว มุจฺจตีติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
๙. อกุสลมูลสุตฺตวณฺณนา
๗๐. นวเม อกุสลมูลานีติ อกุสลานํ มูลานิ, อกุสลานิ จ ตานิ มูลานิ จาติ วา อกุสลมูลานิ. ยทปิ, ภิกฺขเว, โลโภติ โยปิ, ภิกฺขเว, โลโภ. ตทปิ ¶ อกุสลมูลนฺติ โสปิ อกุสลมูลํ. อกุสลมูลํ วา สนฺธาย อิธ ตมฺปีติ อตฺโถ วฏฺฏติเยว. เอเตนุปาเยน สพฺพตฺถ นโย เนตพฺโพ. อภิสงฺขโรตีติ อายูหติ สมฺปิณฺเฑติ ราสึ กโรติ. อสตา ทุกฺขํ อุปฺปาทยตีติ อภูเตน อวิชฺชมาเนน ยํกิฺจิ ตสฺส อภูตํ โทสํ วตฺวา ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ. วเธน วาติอาทิ เยนากาเรน ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ, ตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ ชานิยาติ ธนชานิยา. ปพฺพาชนายาติ คามโต วา รฏฺโต วา ปพฺพาชนียกมฺเมน ¶ . พลวมฺหีติ อหมสฺมิ พลวา. พลตฺโถ อิติปีติ พเลน เม อตฺโถ อิติปิ, พเล วา ิโตมฺหีติปิ วทติ.
อกาลวาทีติ กาลสฺมึ น วทติ, อกาลสฺมึ วทติ นาม. อภูตวาทีติ ภูตํ น วทติ ¶ , อภูตํ วทติ นาม. อนตฺถวาทีติ อตฺถํ น วทติ, อนตฺถํ วทติ นาม. อธมฺมวาทีติ ธมฺมํ น วทติ, อธมฺมํ วทติ นาม. อวินยวาทีติ วินยํ น วทติ, อวินยํ วทติ นาม.
ตถา หายนฺติ ตถา หิ อยํ. น อาตปฺปํ กโรติ ตสฺส นิพฺเพนายาติ ตสฺส อภูตสฺส นิพฺเพนตฺถาย วีริยํ น กโรติ. อิติเปตํ อตจฺฉนฺติ อิมินาปิ การเณน เอตํ อตจฺฉํ. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ.
ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขาติ นิรยาทิกา ทุคฺคติ อิจฺฉิตพฺพา, สา อสฺส อวสฺสภาวินี, ตตฺถาเนน นิพฺพตฺติตพฺพนฺติ อตฺโถ. อุทฺธสฺโตติ อุปริ ธํสิโต. ปริโยนทฺโธติ สมนฺตา โอนทฺโธ. อนยํ อาปชฺชตีติ อวุฑฺฒึ อาปชฺชติ. พฺยสนํ ¶ อาปชฺชตีติ วินาสํ อาปชฺชติ. คิมฺหกาลสฺมิฺหิ มาลุวาสิปาฏิกาย ผลิตาย พีชานิ อุปฺปติตฺวา วฏรุกฺขาทีนํ มูเล ปตนฺติ. ตตฺถ ยสฺส รุกฺขสฺส มูเล ตีสุ ทิสาสุ ตีณิ พีชานิ ปติตานิ โหนฺติ, ตสฺมึ รุกฺเข ปาวุสฺสเกน เมเฆน อภิวฏฺเ ตีหิ พีเชหิ ตโย องฺกุรา อุฏฺหิตฺวา ตํ รุกฺขํ อลฺลียนฺติ. ตโต ปฏฺาย รุกฺขเทวตาโย สกภาเวน สณฺาตุํ น สกฺโกนฺติ. เตปิ องฺกุรา วฑฺฒมานา ลตาภาวํ อาปชฺชิตฺวา ตํ รุกฺขํ อภิรุหิตฺวา สพฺพวิฏปสาขาปสาขา สํสิพฺพิตฺวา ตํ รุกฺขํ อุปริ ปริโยนนฺธนฺติ. โส มาลุวาลตาหิ สํสิพฺพิโต ฆเนหิ มหนฺเตหิ มาลุวาปตฺเตหิ สฺฉนฺโน เทเว วา วสฺสนฺเต วาเต วา วายนฺเต ตตฺถ ตตฺถ ปลุชฺชิตฺวา ขาณุมตฺตเมว อวสิสฺสติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
เอวเมว โขติ เอตฺถ ปน อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – สาลาทีสุ อฺตรรุกฺโข วิย หิ อยํ สตฺโต ทฏฺพฺโพ, ติสฺโส มาลุวาลตา วิย ตีณิ อกุสลมูลานิ, ยาว รุกฺขสาขา อสมฺปตฺตา, ตาว ตาสํ ลตานํ อุชุกํ รุกฺขาโรหนํ วิย โลภาทีนํ ทฺวารํ อสมฺปตฺตกาโล, สาขานุสาเรน ¶ คมนกาโล วิย ทฺวารวเสน คมนกาโล, ปริโยนทฺธกาโล วิย โลภาทีหิ ปริยุฏฺิตกาโล, ขุทฺทกสาขานํ ปลุชฺชนกาโล วิย ทฺวารปฺปตฺตานํ กิเลสานํ วเสน ขุทฺทานุขุทฺทกา อาปตฺติโย อาปนฺนกาโล, มหาสาขานํ ปลุชฺชนกาโล วิย ครุกาปตฺตึ อาปนฺนกาโล, ลตานุสาเรน โอติณฺเณน อุทเกน มูเลสุ ตินฺเตสุ รุกฺขสฺส ภูมิยํ ปตนกาโล วิย กเมน จตฺตาริ ปาราชิกานิ อาปชฺชิตฺวา จตูสุ อปาเยสุ นิพฺพตฺตนกาโล ทฏฺพฺโพ.
สุกฺกปกฺโข ¶ วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺโพ. เอวเมว โขติ เอตฺถ ปน อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – สาลาทีสุ อฺตรรุกฺโข วิย อยํ สตฺโต ทฏฺพฺโพ, ติสฺโส มาลุวาลตา วิย ตีณิ อกุสลมูลานิ, ตาสํ อปฺปวตฺตึ กาตุํ อาคตปุริโส วิย โยคาวจโร, กุทฺทาโล วิย ปฺา, กุทฺทาลปิฏกํ วิย สทฺธาปิฏกํ, ปลิขนนขณิตฺติ วิย ¶ วิปสฺสนาปฺา, ขณิตฺติยา มูลจฺเฉทนํ วิย วิปสฺสนาาเณน อวิชฺชามูลสฺส ฉินฺทนกาโล, ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺทนกาโล วิย ขนฺธวเสน ทิฏฺกาโล, ผาลนกาโล วิย มคฺคาเณน กิเลสานํ สมุคฺฆาติตกาโล, มสิกรณกาโล วิย ธรมานกปฺจกฺขนฺธกาโล, มหาวาเต โอปุณิตฺวา อปฺปวตฺตนกาโล วิย อุปาทินฺนกกฺขนฺธานํ อปฺปฏิสนฺธิกนิโรเธน นิรุชฺฌิตฺวา ปุนพฺภเว ปฏิสนฺธิอคฺคหณกาโล ทฏฺพฺโพติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.
๑๐. อุโปสถสุตฺตวณฺณนา
๗๑. ทสเม ตทหุโปสเถติ ตสฺมึ อหุ อุโปสเถ ตํ ทิวสํ อุโปสเถ, ปนฺนรสิกอุโปสถทิวเสติ วุตฺตํ โหติ. อุปสงฺกมีติ อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย คนฺธมาลาทิหตฺถา อุปสงฺกมิ. หนฺทาติ ววสฺสคฺคตฺเถ นิปาโต. ทิวา ทิวสฺสาติ ทิวสสฺส ทิวา นาม มชฺฌนฺโห, อิมสฺมึ ิเต มชฺฌนฺหิเก กาเลติ อตฺโถ. กุโต นุ ตฺวํ อาคจฺฉสีติ กึ กโรนฺตี วิจรสีติ ปุจฺฉติ. โคปาลกุโปสโถติ โคปาลเกหิ สทฺธึ อุปวสนอุโปสโถ. นิคณฺุโปสโถติ นิคณฺานํ อุปวสนอุโปสโถ. อริยุโปสโถติ อริยานํ อุปวสนอุโปสโถ. เสยฺยถาปิ วิสาเขติ ยถา นาม, วิสาเข. สายนฺหสมเย ¶ สามิกานํ คาโว นิยฺยาเตตฺวาติ โคปาลกา หิ เทวสิกเวตเนน วา ปฺจาหทสาหอทฺธมาสมาสฉมาสสํวจฺฉรปริจฺเฉเทน วา คาโว คเหตฺวา รกฺขนฺติ. อิธ ปน เทวสิกเวตเนน รกฺขนฺตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ – นิยฺยาเตตฺวาติ ปฏิจฺฉาเปตฺวา ‘‘เอตา โว คาโว’’ติ ทตฺวา. อิติ ¶ ปฏิสฺจิกฺขตีติ อตฺตโน เคหํ คนฺตฺวา ภฺุชิตฺวา มฺเจ นิปนฺโน เอวํ ปจฺจเวกฺขติ. อภิชฺฌาสหคเตนาติ ตณฺหาย สมฺปยุตฺเตน. เอวํ โข, วิสาเข, โคปาลกุโปสโถ โหตีติ อริยุโปสโถว อยํ, อปริสุทฺธวิตกฺกตาย ปน โคปาลกอุโปสถฏฺาเน ิโต. น มหปฺผโลติ วิปากผเลน น มหปฺผโล. น มหานิสํโสติ วิปากานิสํเสน น มหานิสํโส. น มหาชุติโกติ วิปาโกภาเสน น มหาโอภาโส. น มหาวิปฺผาโรติ วิปากวิปฺผารสฺส อมหนฺตตาย น มหาวิปฺผาโร.
สมณชาติกาติ ¶ สมณาเยว. ปรํ โยชนสตนฺติ โยชนสตํ อติกฺกมิตฺวา ตโต ปรํ. เตสุ ทณฺฑํ นิกฺขิปาหีติ เตสุ โยชนสตโต ปรภาเคสุ ิเตสุ สตฺเตสุ ทณฺฑํ นิกฺขิป, นิกฺขิตฺตทณฺโฑ โหหิ. นาหํ กฺวจนิ กสฺสจิ กิฺจนตสฺมินฺติ อหํ กตฺถจิ กสฺสจิ ปรสฺส กิฺจนตสฺมึ น โหมิ. กิฺจนํ วุจฺจติ ปลิโพโธ, ปลิโพโธ น โหมีติ วุตฺตํ โหติ. น จ มม กฺวจนิ กตฺถจิ กิฺจนตตฺถีติ มมาปิ กฺวจนิ อนฺโต วา พหิทฺธา วา กตฺถจิ เอกปริกฺขาเรปิ กิฺจนตา นตฺถิ, ปลิโพโธ นตฺถิ, ฉินฺนปลิโพโธหมสฺมีติ วุตฺตํ โหติ. โภเคติ มฺจปียาคุภตฺตาทโย. อทินฺนํเยว ปริภฺุชตีติ ปุนทิวเส มฺเจ นิปชฺชนฺโตปิ ปีเ นิสีทนฺโตปิ ยาคุํ ปิวนฺโตปิ ภตฺตํ ภฺุชนฺโตปิ เต โภเค อทินฺเนเยว ปริภฺุชติ. น มหปฺผโลติ นิปฺผโล. พฺยฺชนเมว หิ เอตฺถ สาวเสสํ, อตฺโถ ปน นิรวเสโส. เอวํ อุปวุตฺถสฺส หิ อุโปสถสฺส อปฺปมตฺตกมฺปิ วิปากผลํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา นิปฺผโลตฺเวว เวทิตพฺโพ. เสสปเทสุปิ ¶ เอเสว นโย.
อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺสาติ อิทํ กสฺมา อาห? สํกิลิฏฺเน หิ จิตฺเตน อุปวุตฺโถ อุโปสโถ น มหปฺผโล โหตีติ ทสฺสิตตฺตา วิสุทฺเธน จิตฺเตน อุปวุตฺถสฺส มหปฺผลตา อนฺุาตา โหติ. ตสฺมา เยน กมฺมฏฺาเนน จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, ตํ จิตฺตวิโสธนกมฺมฏฺานํ ทสฺเสตุํ อิทมาห ¶ . ตตฺถ อุปกฺกเมนาติ ปจฺจตฺตปุริสกาเรน, อุปาเยน วา. ตถาคตํ อนุสฺสรตีติ อฏฺหิ การเณหิ ตถาคตคุเณ อนุสฺสรติ. เอตฺถ หิ อิติปิ โส ภควาติ โส ภควา อิติปิ สีเลน, อิติปิ สมาธินาติ สพฺเพ โลกิยโลกุตฺตรา พุทฺธคุณา สงฺคหิตา. อรหนฺติอาทีหิ ปาฏิเยกฺกคุณาว นิทฺทิฏฺา. ตถาคตํ อนุสฺสรโต จิตฺตํ ปสีทตีติ โลกิยโลกุตฺตเร ตถาคตคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺส จิตฺตุปฺปาโท ปสนฺโน โหติ.
จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสาติ ปฺจ นีวรณา. กกฺกนฺติ อามลกกกฺกํ. ตชฺชํ วายามนฺติ ตชฺชาติกํ ตทนุจฺฉวิกํ กกฺเกน มกฺขนฆํสนโธวนวายามํ. ปริโยทปนา โหตีติ สุทฺธภาวกรณํ โหติ. กิลิฏฺสฺมึ หิ สีเส ปสาธนํ ปสาเธตฺวา นกฺขตฺตํ กีฬมาโน น โสภติ, ปริสุทฺเธ ปน ตสฺมึ ปสาธนํ ปสาเธตฺวา นกฺขตฺตํ กีฬมาโน โสภติ, เอวเมว กิลิฏฺจิตฺเตน อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย อุโปสโถ อุปวุตฺโถ น มหปฺผโล โหติ, ปริสุทฺเธน ปน จิตฺเตน อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย อุปวุตฺโถ อุโปสโถ มหปฺผโล โหตีติ อธิปฺปาเยน เอวมาห. พฺรหฺมุโปสถํ อุปวสตีติ พฺรหฺมา วุจฺจติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ตสฺส คุณานุสฺสรณวเสน อยํ อุโปสโถ พฺรหฺมุโปสโถ ¶ นาม, ตํ อุปวสติ. พฺรหฺมุนา สทฺธึ สํวสตีติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน สทฺธึ สํวสติ. พฺรหฺมฺจสฺส ¶ อารพฺภาติ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อารพฺภ.
ธมฺมํ อนุสฺสรตีติ สหตนฺติกํ โลกุตฺตรธมฺมํ อนุสฺสรติ. โสตฺตินฺติ กุรุวินฺทกโสตฺตึ. กุรุวินฺทกปาสาณจุณฺเณน หิ สทฺธึ ลาขํ โยเชตฺวา มณิเก กตฺวา วิชฺฌิตฺวา สุตฺเตน อาวุณิตฺวา ตํ มณิ กลาปปนฺตึ อุภโต คเหตฺวา ปิฏฺึ ฆํเสนฺติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘โสตฺติฺจ ปฏิจฺจา’’ติ. จุณฺณนฺติ นฺหานียจุณฺณํ. ตชฺชํ วายามนฺติ อุพฺพฏฺฏนฆํสนโธวนาทิกํ ตทนุรูปวายามํ. ธมฺมุโปสถนฺติ สหตนฺติกํ นวโลกุตฺตรธมฺมํ อารพฺภ อุปวุตฺถตฺตา อยํ อุโปสโถ ‘‘ธมฺมุโปสโถ’’ติ วุตฺโต. อิธาปิ ปริโยทปนาติ ปเท ตฺวา ปุริมนเยเนว โยชนา กาตพฺพา.
สงฺฆํ อนุสฺสรตีติ อฏฺนฺนํ อริยปุคฺคลานํ คุเณ อนุสฺสรติ. อุสฺมฺจ ปฏิจฺจาติ ทฺเว ตโย วาเร คาหาปิตํ อุสุมํ ปฏิจฺจ. อุสฺจาติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ ¶ . ขารนฺติ ฉาริกํ. โคมยนฺติ โคมุตฺตํ วา อชลณฺฑิกา วา. ปริโยทปนาติ อิธาปิ ปุริมนเยเนว โยชนา กาตพฺพา. สงฺฆุโปสถนฺติ อฏฺนฺนํ อริยปุคฺคลานํ คุเณ อารพฺภ อุปวุตฺถตฺตา อยํ อุโปสโถ ‘‘สงฺฆุโปสโถ’’ติ วุตฺโต.
สีลานีติ คหฏฺโ คหฏฺสีลานิ, ปพฺพชิโต ปพฺพชิตสีลานิ. อขณฺฑานีติอาทีนํ อตฺโถ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑) วิตฺถาริโตว. วาลณฺฑุปกนฺติ อสฺสวาเลหิ วา มกจิวาลาทีหิ วา กตํ อณฺฑุปกํ. ตชฺชํ ¶ วายามนฺติ เตเลน เตเมตฺวา มลสฺส ตินฺตภาวํ ตฺวา ฉาริกํ ปกฺขิปิตฺวา วาลณฺฑุปเกน ฆํสนวายาโม. อิธ ปริโยทปนาติ ปเท ตฺวา เอวํ โยชนา กาตพฺพา กิลิฏฺสฺมิฺหิ อาทาเส มณฺฑิตปสาธิโตปิ อตฺตภาโว โอโลกิยมาโน น โสภติ, ปริสุทฺเธ โสภติ. เอวเมว กิลิฏฺเน จิตฺเตน อุปวุตฺโถ อุโปสโถ น มหปฺผโล โหติ, ปริสุทฺเธน ปน มหปฺผโล โหตีติ. สีลุโปสถนฺติ อตฺตโน สีลานุสฺสรณวเสน อุปวุตฺโถ อุโปสโถ สีลุโปสโถ นาม. สีเลน สทฺธินฺติ อตฺตโน ปฺจสีลทสสีเลน สทฺธึ. สีลฺจสฺส อารพฺภาติ ปฺจสีลํ ทสสีลฺจ อารพฺภ.
เทวตา อนุสฺสรตีติ เทวตา สกฺขิฏฺาเน เปตฺวา อตฺตโน สทฺธาทิคุเณ อนุสฺสรติ. อุกฺกนฺติ ¶ อุทฺธนํ. โลณนฺติ โลณมตฺติกา. เครุกนฺติ เครุกจุณฺณํ. นาฬิกสณฺฑาสนฺติ ธมนนาฬิกฺเจว ปริวตฺตนสณฺฑาสฺจ. ตชฺชํ วายามนฺติ อุทฺธเน ปกฺขิปนธมนปริวตฺตนาทิกํ อนุรูปํ วายามํ. อิธ ปริโยทปนาติ ปเท ตฺวา เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา – สํกิลิฏฺสุวณฺณมเยน หิ ปสาธนภณฺเฑน ปสาธิตา นกฺขตฺตํ กีฬมานา น โสภนฺติ, ปริสุทฺธสุวณฺณมเยน โสภนฺติ. เอวเมว สํกิลิฏฺจิตฺตสฺส อุโปสโถ น มหปฺผโล โหติ, ปริสุทฺธจิตฺตสฺส มหปฺผโล. เทวตุโปสถนฺติ เทวตา สกฺขิฏฺาเน เปตฺวา อตฺตโน คุเณ อนุสฺสรนฺเตน อุปวุตฺถอุโปสโถ เทวตุโปสโถ นาม. เสสํ อิเมสุ พุทฺธานุสฺสติอาทีสุ กมฺมฏฺาเนสุ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๓ อาทโย) วุตฺตเมว.
ปาณาติปาตนฺติ ¶ ปาณวธํ. ปหายาติ ตํ ปาณาติปาตเจตนาสงฺขาตํ ทุสฺสีลฺยํ ปชหิตฺวา. ปฏิวิรตาติ ¶ ปหีนกาลโต ปฏฺาย ตโต ทุสฺสีลฺยโต โอรตา วิรตาว. นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถาติ ปรูปฆาตตฺถาย ทณฺฑํ วา สตฺถํ วา อาทาย อวตฺตนโต นิกฺขิตฺตทณฺฑา เจว นิกฺขิตฺตสตฺถา จาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ เปตฺวา ทณฺฑํ สพฺพมฺปิ อวเสสํ อุปกรณํ สตฺตานํ วิหึสนภาวโต สตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. ยํ ปน ภิกฺขู กตฺตรทณฺฑํ วา ทนฺตกฏฺวาสึ วา ปิปฺผลกํ วา คเหตฺวา วิจรนฺติ, น ตํ ปรูปฆาตตฺถาย. ตสฺมา นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถาตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ. ลชฺชีติ ปาปชิคุจฺฉนลกฺขณาย ลชฺชาย สมนฺนาคตา. ทยาปนฺนาติ ทยํ เมตฺตจิตฺตตํ อาปนฺนา. สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปีติ สพฺเพ ปาณภูเต หิเตน อนุกมฺปกา, ตาย เอว ทยาปนฺนตาย สพฺเพสํ ปาณภูตานํ หิตจิตฺตกาติ อตฺโถ. อหมฺปชฺชาติ อหมฺปิ อชฺช. อิมินาปิ องฺเคนาติ อิมินาปิ คุณงฺเคน. อรหตํ อนุกโรมีติ ยถา ปุรโต คจฺฉนฺตํ ปจฺฉโต คจฺฉนฺโต อนุคจฺฉติ นาม, เอวํ อหมฺปิ อรหนฺเตหิ ปมํ กตํ อิมํ คุณํ ปจฺฉา กโรนฺโต เตสํ อรหนฺตานํ อนุกโรมิ. อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตีติ เอวํ กโรนฺเตน มยา อรหตฺจ อนุกตํ ภวิสฺสติ, อุโปสโถ จ อุปวุตฺโถ ภวิสฺสติ.
อทินฺนาทานนฺติ อทินฺนสฺส ปรปริคฺคหิตสฺส อาทานํ, เถยฺยํ โจริกนฺติ อตฺโถ. ทินฺนเมว อาทิยนฺตีติ ทินฺนาทายี. จิตฺเตนปิ ทินฺนเมว ปฏิกงฺขนฺตีติ ทินฺนปาฏิกงฺขี. เถเนตีติ เถโน, น เถเนน อเถเนน. อเถนตฺตาเยว สุจิภูเตน. อตฺตนาติ อตฺตภาเวน, อเถนํ ¶ สุจิภูตํ อตฺตภาวํ กตฺวา วิหรนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
อพฺรหฺมจริยนฺติ ¶ อเสฏฺจริยํ. พฺรหฺมํ เสฏฺํ อาจารํ จรนฺตีติ พฺรหฺมจารี. อาราจารีติ อพฺรหฺมจริยโต ทูราจารี. เมถุนาติ ราคปริยุฏฺานวเสน สทิสตฺตา เมถุนกาติ ลทฺธโวหาเรหิ ปฏิเสวิตพฺพโต เมถุโนติ สงฺขํ คตา อสทฺธมฺมา. คามธมฺมาติ คามวาสีนํ ธมฺมา.
มุสาวาทาติ อลิกวจนา ตุจฺฉวจนา. สจฺจํ วทนฺตีติ สจฺจวาที. สจฺเจน สจฺจํ สํทหนฺติ ฆฏฺเฏนฺตีติ สจฺจสนฺธา, น อนฺตรนฺตรา มุสา วทนฺตีติ อตฺโถ ¶ . โย หิ ปุริโส กทาจิ มุสาวาทํ วทติ, กทาจิ สจฺจํ. ตสฺส มุสาวาเทน อนฺตริตตฺตา สจฺจํ สจฺเจน น ฆฏียติ. ตสฺมา น โส สจฺจสนฺโธ. อิเม ปน น ตาทิสา, ชีวิตเหตุปิ มุสา อวตฺวา สจฺเจน สจฺจํ สํทหนฺติเยวาติ สจฺจสนฺธา. เถตาติ ถิรา, ิตกถาติ อตฺโถ. เอโก ปุคฺคโล หลิทฺทิราโค วิย ถุสราสิมฺหิ นิขาตขาณุ วิย อสฺสปิฏฺเ ปิตกุมฺภณฺฑมิว จ น ิตกโถ โหติ. เอโก ปาสาณเลขา วิย อินฺทขีโล วิย จ ิตกโถ โหติ, อสินา สีสํ ฉินฺทนฺเตปิ ทฺเว กถา น กเถติ. อยํ วุจฺจติ เถโต. ปจฺจยิกาติ ปตฺติยายิตพฺพกา, สทฺธายิกาติ อตฺโถ. เอกจฺโจ หิ ปุคฺคโล น ปจฺจยิโก โหติ, ‘‘อิทํ เกน วุตฺตํ, อสุเกน นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘มา ตสฺส วจนํ สทฺทหถา’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. เอโก ปจฺจยิโก โหติ, ‘‘อิทํ เกน วุตฺตํ, อสุเกนา’’ติ วุตฺเต ‘‘ยทิ เตน วุตฺตํ, อิทเมว ปมาณํ, อิทานิ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ นตฺถิ, เอวเมวํ อิท’’นฺติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ ปจฺจยิโก. อวิสํวาทกา ¶ โลกสฺสาติ ตาย สจฺจวาทิตาย โลกํ น วิสํวาเทนฺตีติ อตฺโถ.
สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานนฺติ สุราเมรยมชฺชานํ ปานเจตนาสงฺขาตํ ปมาทการณํ. เอกภตฺติกาติ ปาตราสภตฺตํ สายมาสภตฺตนฺติ ทฺเว ภตฺตานิ. เตสุ ปาตราสภตฺตํ อนฺโตมชฺฌนฺหิเกน ปริจฺฉินฺนํ, อิตรํ มชฺฌนฺหิกโต อุทฺธํ อนฺโตอรุเณน. ตสฺมา อนฺโตมชฺฌนฺหิเก ทสกฺขตฺตุํ ภฺุชมานาปิ เอกภตฺติกาว โหนฺติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘เอกภตฺติกา’’ติ. รตฺติโภชนํ รตฺติ, ตโต อุปรตาติ รตฺตูปรตา. อติกฺกนฺเต มชฺฌนฺหิเก ยาว สูริยตฺถงฺคมนา โภชนํ วิกาลโภชนํ นาม, ตโต วิรตตฺตา วิรตา วิกาลโภชนา.
สาสนสฺส อนนุโลมตฺตา วิสูกํ ปฏาณิภูตํ ทสฺสนนฺติ วิสูกทสฺสนํ, อตฺตนา นจฺจนนจฺจาปนาทิวเสน นจฺจฺจ คีตฺจ วาทิตฺจ, อนฺตมโส มยูรนจฺจนาทิวเสนาปิ ปวตฺตานํ นจฺจาทีนํ วิสูกภูตํ ทสฺสนฺจาติ นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนํ. นจฺจาทีนิ หิ อตฺตนา ¶ ปโยเชตุํ วา ปเรหิ ปโยชาเปตุํ วา ปยุตฺตานิ ปสฺสิตุํ วา เนว ภิกฺขูนํ, น ภิกฺขุนีนํ วฏฺฏนฺติ.
มาลาทีสุ ¶ มาลาติ ยํกิฺจิ ปุปฺผํ. คนฺธนฺติ ยํกิฺจิ คนฺธชาตํ. วิเลปนนฺติ ฉวิราคกรณํ. ตตฺถ ปิฬนฺธนฺโต ธาเรติ นาม, อูนฏฺานํ ปูเรนฺโต มณฺเฑติ นาม, คนฺธวเสน ฉวิราควเสน จ สาทิยนฺโต วิภูเสติ นาม. านํ วุจฺจติ การณํ, ตสฺมา ยาย ทุสฺสีลฺยเจตนาย ตานิ มาลาธารณาทีนิ มหาชโน กโรติ, ตโต ปฏิวิรตาติ อตฺโถ. อุจฺจาสยนํ วุจฺจติ ปมาณาติกฺกนฺตํ, มหาสยนํ อกปฺปิยตฺถรณํ, ตโต ปฏิวิรตาติ อตฺโถ.
กีวมหปฺผโลติ กิตฺตกํ มหปฺผโล. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ปหูตรตฺตรตนานนฺติ ปหูเตน รตฺตสงฺขาเตน รตเนน สมนฺนาคตานํ, สกลชมฺพุทีปตลํ เภริตลสทิสํ ¶ กตฺวา กฏิปฺปมาเณหิ สตฺตหิ รตเนหิ ปูริตานนฺติ อตฺโถ. อิสฺสริยาธิปจฺจนฺติ อิสฺสรภาเวน วา อิสฺสริยเมว วา อาธิปจฺจํ, น เอตฺถ สาหสิกกมฺมนฺติปิ อิสฺสริยาธิปจฺจํ. รชฺชํ กาเรยฺยาติ เอวรูปํ จกฺกวตฺติรชฺชํ กาเรยฺย. องฺคานนฺติอาทีนิ เตสํ ชนปทานํ นามานิ. กลํ นาคฺฆติ โสฬสินฺติ เอกํ อโหรตฺตํ อุปวุตฺถอุโปสเถ ปฺุํ โสฬสภาเค กตฺวา ตโต เอกํ ภาคฺจ น อคฺฆติ. เอกรตฺตุโปสถสฺส โสฬสิยา กลาย ยํ วิปากผลํ, ตํเยว ตโต พหุตรํ โหตีติ อตฺโถ. กปณนฺติ ปริตฺตกํ.
อพฺรหฺมจริยาติ อเสฏฺจริยโต. รตฺตึ น ภฺุเชยฺย วิกาลโภชนนฺติ อุโปสถํ อุปวสนฺโต รตฺติโภชนฺจ ทิวาวิกาลโภชนฺจ น ภฺุเชยฺย. มฺเจ ฉมายํว สเยถ สนฺถเตติ มุฏฺิหตฺถปาทเก กปฺปิยมฺเจ วา สุธาทิปริกมฺมกตาย ภูมิยํ วา ติณปณฺณปลาลาทีนิ สนฺถริตฺวา กเต สนฺถเต วา สเยถาติ อตฺโถ. เอตํ หิ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถนฺติ เอวํ ปาณาติปาตาทีนิ อสมาจรนฺเตน อุปวุตฺถํ อุโปสถํ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตตฺตา อฏฺงฺคิกนฺติ วทนฺติ. ตํ ปน อุปวสนฺเตน ‘‘สฺเว อุโปสถิโก ภวิสฺสามี’’ติ อชฺเชว ‘‘อิทฺจ อิทฺจ กเรยฺยาถา’’ติ อาหาราทิวิธานํ วิจาเรตพฺพํ. อุโปสถทิวเส ปาโตว ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา ทสสีลลกฺขณฺุโน อุปาสกสฺส วา อุปาสิกาย วา สนฺติเก วาจํ ภินฺทิตฺวา ¶ อุโปสถงฺคานิ สมาทาตพฺพานิ. ปาฬึ อชานนฺเตน ปน ‘‘พุทฺธปฺตฺตํ อุโปสถํ อธิฏฺามี’’ติ อธิฏฺาตพฺพํ. อฺํ อลภนฺเตน อตฺตนาปิ อธิฏฺาตพฺพํ, วจีเภโท ปน กาตพฺโพเยว ¶ . อุโปสถํ อุปวสนฺเตน ปรูปโรธปฏิสํยุตฺตา กมฺมนฺตา น วิจาเรตพฺพา, อายวยคณนํ ¶ กโรนฺเตน น วีตินาเมตพฺพํ, เคเห ปน อาหารํ ลภิตฺวา นิจฺจภตฺติกภิกฺขุนา วิย ปริภฺุชิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ธมฺโม วา โสตพฺโพ, อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ อฺตรํ วา มนสิกาตพฺพํ.
สุทสฺสนาติ สุนฺทรทสฺสนา. โอภาสยนฺติ โอภาสยมานา. อนุปริยนฺตีติ วิจรนฺติ. ยาวตาติ ยตฺตกํ านํ. อนฺตลิกฺขคาติ อากาสงฺคมา. ปภาสนฺตีติ โชตนฺติ ปภา มฺุจนฺติ. ทิสาวิโรจนาติ สพฺพทิสาสุ วิโรจมานา. อถ วา ปภาสนฺตีติ ทิสาหิ ทิสา โอภาสนฺติ. วิโรจนาติ วิโรจมานา. เวฬุริยนฺติ มณีติ วตฺวาปิ อิมินา ชาติมณิภาวํ ทสฺเสติ. เอกวสฺสิกเวฬุวณฺณฺหิ เวฬุริยํ ชาติมณิ นาม. ตํ สนฺธาเยวมาห. ภทฺทกนฺติ ลทฺธกํ. สิงฺคีสุวณฺณนฺติ โคสิงฺคสทิสํ หุตฺวา อุปฺปนฺนตฺตา เอวํ นามกํ สุวณฺณํ. กฺจนนฺติ ปพฺพเตยฺยํ ปพฺพเต ชาตสุวณฺณํ. ชาตรูปนฺติ สตฺถุวณฺณสุวณฺณํ. หฏกนฺติ กิปิลฺลิกาหิ นีหฏสุวณฺณํ. นานุภวนฺตีติ น ปาปุณนฺติ. จนฺทปฺปภาติ สามิอตฺเถ ปจฺจตฺตํ, จนฺทปฺปภายาติ อตฺโถ. อุปวสฺสุโปสถนฺติ อุปวสิตฺวา อุโปสถํ. สุขุทฺรยานีติ สุขผลานิ สุขเวทนียานิ. สคฺคมุเปนฺติ านนฺติ สคฺคสงฺขาตํ านํ อุปคจฺฉนฺติ, เกนจิ อนินฺทิตา หุตฺวา เทวโลเก อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ ยํ อนฺตรนฺตรา น วุตฺตํ, ตํ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพนฺติ.
มหาวคฺโค ทุติโย.