📜
(๙) ๔. สมณวคฺโค
๑. สมณสุตฺตวณฺณนา
๘๒. จตุตฺถสฺส ¶ ปเม สมณิยานีติ สมณสนฺตกานิ. สมณกรณียานีติ สมเณน กตฺตพฺพกิจฺจานิ. อธิสีลสิกฺขาสมาทานนฺติอาทีสุ สมาทานํ วุจฺจติ คหณํ, อธิสีลสิกฺขาย สมาทานํ คหณํ ปูรณํ ¶ อธิสีลสิกฺขาสมาทานํ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ สีลํ อธิสีลํ, จิตฺตํ อธิจิตฺตํ, ปฺา อธิปฺาติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ปฺจสีลํ สีลํ ¶ นาม, ตํ อุปาทาย ทสสีลํ อธิสีลํ นาม, ตมฺปิ อุปาทาย จตุปาริสุทฺธิสีลํ อธิสีลํ นาม. อปิจ สพฺพมฺปิ โลกิยสีลํ สีลํ นาม, โลกุตฺตรสีลํ อธิสีลํ, ตเทว สิกฺขิตพฺพโต สิกฺขาติ วุจฺจติ. กามาวจรจิตฺตํ ปน จิตฺตํ นาม, ตํ อุปาทาย รูปาวจรํ อธิจิตฺตํ นาม, ตมฺปิ อุปาทาย อรูปาวจรํ อธิจิตฺตํ นาม. อปิจ สพฺพมฺปิ โลกิยจิตฺตํ จิตฺตเมว, โลกุตฺตรํ อธิจิตฺตํ. ปฺายปิ เอเสว นโย. ตสฺมาติ ยสฺมา อิมานิ ตีณิ สมณกรณียานิ, ตสฺมา. ติพฺโพติ พหโล. ฉนฺโทติ กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺโท. อิติ อิมสฺมึ สุตฺตนฺเต ติสฺโส สิกฺขา โลกิยโลกุตฺตรา กถิตาติ.
๒. คทฺรภสุตฺตวณฺณนา
๘๓. ทุติเย ปิฏฺิโต ปิฏฺิโตติ ปจฺฉโต ปจฺฉโต. อหมฺปิ ทมฺโม อหมฺปิ ทมฺโมติ อหมฺปิ ‘‘ทมฺโม ทมฺมมาโน’’ติ วทมาโน คาวีติ. เสยฺยถาปิ คุนฺนนฺติ ยถา คาวีนํ. คาโว หิ กาฬาปิ รตฺตาปิ เสตาทิวณฺณาปิ โหนฺติ, คทฺรภสฺส ปน ตาทิโส วณฺโณ นาม นตฺถิ. ยถา จ วณฺโณ, เอวํ สโรปิ ปทมฺปิ อฺาทิสเมว. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว. อิมสฺมิมฺปิ สุตฺเต ติสฺโส สิกฺขา มิสฺสิกาว กถิตาติ.
๓. เขตฺตสุตฺตวณฺณนา
๘๔. ตติเย ¶ ปฏิกจฺเจวาติ ปมเมว. สุกฏฺํ กโรตีติ นงฺคเลน สุกฏฺํ กโรติ. สุมติกตนฺติ มติยา สุฏฺุ สมีกตํ. กาเลนาติ วปิตพฺพยุตฺตกาเลน. เสสํ อุตฺตานเมว. อิธาปิ ติสฺโส สิกฺขา มิสฺสิกาว กถิตา.
๔. วชฺชิปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๘๕. จตุตฺเถ ¶ วชฺชิปุตฺตโกติ วชฺชิราชกุลสฺส ปุตฺโต. ทิยฑฺฒสิกฺขาปทสตนฺติ ปณฺณาสาธิกํ สิกฺขาปทสตํ. ตสฺมึ สมเย ปฺตฺตานิ สิกฺขาปทาเนว สนฺธาเยตํ ¶ วุตฺตํ. โส กิร ภิกฺขุ อชฺชวสมฺปนฺโน อุชุชาติโก อวงฺโก อกุฏิโล, ตสฺมา ‘‘อหํ เอตฺตกานิ สิกฺขาปทานิ รกฺขิตุํ สกฺกุเณยฺยํ วา น วา’’ติ จินฺเตตฺวา สตฺถุ อาโรเจสิ. สกฺโกมหนฺติ สกฺโกมิ อหํ. โส กิร ‘‘เอตฺตเกสุ สิกฺขาปเทสุ สิกฺขนฺตสฺส อครุ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขิตุ’’นฺติ มฺมาโน เอวมาห. อถ ภควา ยถา นาม ปฺาส ติณกลาปิโย อุกฺขิปิตุํ อสกฺโกนฺตสฺส กลาปิยสตํ พนฺธิตฺวา สีเส เปยฺย, เอวเมว เอกิสฺสาปิ สิกฺขาย สิกฺขิตุํ อสกฺโกนฺตสฺส อปรา ทฺเวปิ สิกฺขา อุปริ ปกฺขิปนฺโต ตสฺมาติห ตฺวํ ภิกฺขูติอาทิมาห. สุขุมาโล กิร อุตฺตโร นาม ชานปทมนุสฺโส โลหปาสาทวิหาเร วสติ. อถ นํ ทหรภิกฺขู อาหํสุ – ‘‘อุตฺตร, อคฺคิสาลา โอวสฺสติ, ติณํ กปฺปิยํ กตฺวา เทหี’’ติ. ตํ อาทาย อฏวึ คนฺตฺวา เตน ลายิตํ ติณํเยว กรเฬ พนฺธิตฺวา ‘‘ปฺาส กรเฬ คเหตุํ สกฺขิสฺสสิ อุตฺตรา’’ติ อาหํสุ. โส ‘‘น สกฺขิสฺสามี’’ติ อาห. อสีตึ ปน สกฺขิสฺสสีติ? น สกฺขิสฺสามิ, ภนฺเตติ. เอกํ กรฬสตํ สกฺขิสฺสสีติ? อาม, ภนฺเต, คณฺหิสฺสามีติ. ทหรภิกฺขู กรฬสตํ พนฺธิตฺวา ตสฺส สีเส ปยึสุ. โส อุกฺขิปิตฺวา นิตฺถุนนฺโต คนฺตฺวา อคฺคิสาลาย สมีเป ปาเตสิ. อถ นํ ภิกฺขู ‘‘กิลนฺตรูโปสิ อุตฺตรา’’ติ อาหํสุ. อาม, ภนฺเต, ทหรา ภิกฺขู มํ วฺเจสุํ, อิมํ เอกมฺปิ กรฬสตํ อุกฺขิปิตุํ อสกฺโกนฺตํ มํ ‘‘ปณฺณาส กรเฬ อุกฺขิปาหี’’ติ วทึสุ. อาม, อุตฺตร, วฺจยึสุ ตนฺติ. เอวํ สมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. อิธาปิ ติสฺโส สิกฺขา มิสฺสิกาว กถิตา.
๕. เสกฺขสุตฺตวณฺณนา
๘๖. ปฺจเม ¶ อุชุมคฺคานุสาริโนติ อุชุมคฺโค วุจฺจติ อริยมคฺโค, ตํ อนุสฺสรนฺตสฺส ปฏิปนฺนกสฺสาติ อตฺโถ. ขยสฺมึ ปมํ าณนฺติ ปมเมว มคฺคาณํ อุปฺปชฺชติ. มคฺโค หิ กิเลสานํ เขปนโต ขโย นาม, ตํสมฺปยุตฺตํ ¶ าณํ ขยสฺมึ าณํ นาม. ตโต ¶ อฺา อนนฺตราติ ตโต จตุตฺถมคฺคาณโต อนนฺตรา อฺา อุปฺปชฺชติ, อรหตฺตผลํ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. อฺาวิมุตฺตสฺสาติ อรหตฺตผลวิมุตฺติยา วิมุตฺตสฺส. าณํ เว โหตีติ ปจฺจเวกฺขณาณํ โหติ. อิติ สุตฺเตปิ คาถาสุปิ สตฺต เสขา กถิตา. อวสาเน ปน ขีณาสโว ทสฺสิโตติ.
๖. ปมสิกฺขาสุตฺตวณฺณนา
๘๗. ฉฏฺเ อตฺตกามาติ อตฺตโน หิตกามา. ยตฺเถตํ สพฺพํ สโมธานํ คจฺฉตีติ ยาสุ สิกฺขาสุ สพฺพเมตํ ทิยฑฺฒสิกฺขาปทสตํ สงฺคหํ คจฺฉติ. ปริปูรการี โหตีติ สมตฺตการี โหติ. มตฺตโส การีติ ปมาเณน การโก, สพฺเพน สพฺพํ กาตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ. ขุทฺทานุขุทฺทกานีติ จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา เสสสิกฺขาปทานิ. ตตฺราปิ สงฺฆาทิเสสํ ขุทฺทกํ, ถุลฺลจฺจยํ อนุขุทฺทกํ นาม. ถุลฺลจฺจยฺจ ขุทฺทกํ, ปาจิตฺติยํ อนุขุทฺทกํ นาม, ปาจิตฺติยฺจ ขุทฺทกํ, ปาฏิเทสนิยทุกฺกฏทุพฺภาสิตานิ อนุขุทฺทกานิ นาม. อิเม ปน องฺคุตฺตรมหานิกายวฬฺชนกอาจริยา ‘‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา เสสานิ สพฺพานิปิ ขุทฺทานุขุทฺทกานี’’ติ วทนฺติ. ตานิ อาปชฺชติปิ วุฏฺาติปีติ เอตฺถ ปน ขีณาสโว ตาว โลกวชฺชํ นาปชฺชติ, ปณฺณตฺติวชฺชเมว อาปชฺชติ. อาปชฺชนฺโต จ กาเยนปิ วาจายปิ จิตฺเตนปิ อาปชฺชติ. กาเยน อาปชฺชนฺโต กุฏิการสหเสยฺยาทีนิ อาปชฺชติ, วาจาย อาปชฺชนฺโต สฺจริตฺตปทโสธมฺมาทีนิ, จิตฺเตน อาปชฺชนฺโต รูปิยปฏิคฺคหณํ อาปชฺชติ. เสกฺเขสุปิ เอเสว นโย. น หิ เมตฺถ, ภิกฺขเว, อภพฺพตา วุตฺตาติ, ภิกฺขเว, น หิ มยา เอตฺถ เอวรูปํ อาปตฺตึ อาปชฺชเน จ วุฏฺาเน จ อริยปุคฺคลสฺส อภพฺพตา กถิตา. อาทิพฺรหฺมจริยกานีติ ¶ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตานิ จตฺตาริ มหาสีลสิกฺขาปทานิ. พฺรหฺมจริยสารุปฺปานีติ ตานิเยว จตุมคฺคพฺรหฺมจริยสฺส สารุปฺปานิ อนุจฺฉวิกานิ. ตตฺถาติ เตสุ สิกฺขาปเทสุ. ธุวสีโลติ นิพทฺธสีโล. ิตสีโลติ ปติฏฺิตสีโล. โสตาปนฺโนติ โสตสงฺขาเตน ¶ มคฺเคน ผลํ ¶ อาปนฺโน. อวินิปาตธมฺโมติ จตูสุ อปาเยสุ อปตนสภาโว. นิยโตติ โสตาปตฺติมคฺคนิยาเมน นิยโต. สมฺโพธิปรายโณติ อุปริมคฺคตฺตยสมฺโพธิปรายโณ.
ตนุตฺตาติ ตนุภาโว. สกทาคามิโน หิ ราคาทโย อพฺภปฏลํ วิย มจฺฉิกาปตฺตํ วิย จ ตนุกา โหนฺติ, น พหลา. โอรมฺภาคิยานนฺติ เหฏฺาภาคิยานํ. สํโยชนานนฺติ พนฺธนานํ. ปริกฺขยาติ ปริกฺขเยน. โอปปาติโก โหตีติ อุปฺปนฺนโก โหติ. ตตฺถ ปรินิพฺพายีติ เหฏฺา อโนตริตฺวา อุปริเยว ปรินิพฺพานธมฺโม. อนาวตฺติธมฺโมติ โยนิคติวเสน อนาคมนธมฺโม.
ปเทสํ ปเทสการีติอาทีสุ ปเทสการี ปุคฺคโล นาม โสตาปนฺโน จ สกทาคามี จ อนาคามี จ, โส ปเทสเมว สมฺปาเทติ. ปริปูรการี นาม อรหา, โส ปริปูรเมว สมฺปาเทติ. อวฺฌานีติ อตุจฺฉานิ สผลานิ สอุทฺรยานีติ อตฺโถ. อิธาปิ ติสฺโส สิกฺขา มิสฺสกาว กถิตา.
๗. ทุติยสิกฺขาสุตฺตวณฺณนา
๘๘. สตฺตเม โกลํโกโลติ กุลา กุลํ คมนโก. กุลนฺติ เจตฺถ ภโว อธิปฺเปโต, ตสฺมา ‘‘ทฺเว วา ตีณิ วา กุลานี’’ติ เอตฺถปิ ทฺเว วา ตโย วา ภเวติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยฺหิ ทฺเว วา ภเว สนฺธาวติ ตโย วา, อุตฺตมโกฏิยา ฉ วา. ตสฺมา ทฺเว วา ตีณิ วา จตฺตาริ วา ปฺจ วา ฉ วาติ เอวเมตฺถ วิกปฺโป ทฏฺพฺโพ. เอกพีชีติ เอกสฺเสว ภวสฺส พีชํ เอตสฺส อตฺถีติ เอกพีชี. อุทฺธํโสโตติอาทีสุ อตฺถิ อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี, อตฺถิ ¶ อุทฺธํโสโต น อกนิฏฺคามี, อตฺถิ น อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี, อตฺถิ น อุทฺธํโสโต น อกนิฏฺคามี. ตตฺถ โย อิธ อนาคามิผลํ ปตฺวา อวิหาทีสุ นิพฺพตฺโต ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา อุปรูปริ นิพฺพตฺติตฺวา อกนิฏฺํ ปาปุณาติ, อยํ อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี นาม. โย ปน อวิหาทีสุ นิพฺพตฺโต ตตฺเถว อปรินิพฺพายิตฺวา อกนิฏฺมฺปิ อปฺปตฺวา อุปริมพฺรหฺมโลเก ปรินิพฺพายติ, อยํ อุทฺธํโสโต น อกนิฏฺคามี นาม. โย อิโต จวิตฺวา ¶ อกนิฏฺเเยว นิพฺพตฺตติ, อยํ น อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี นาม. โย ปน อวิหาทีสุ จตูสุ อฺตรสฺมึ นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพายติ, อยํ น อุทฺธํโสโต น อกนิฏฺคามี นาม.
ยตฺถ ¶ กตฺถจิ อุปฺปนฺโน ปน สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน อรหตฺตํ ปตฺโต สสงฺขารปรินิพฺพายี นาม. อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน ปตฺโต อสงฺขารปรินิพฺพายี นาม. โย ปน กปฺปสหสฺสายุเกสุ อวิเหสุ นิพฺพตฺติตฺวา ปฺจมํ กปฺปสตํ อติกฺกมิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต, อยํ อุปหจฺจปรินิพฺพายี นาม. อตปฺปาทีสุปิ เอเสว นโย. อนฺตราปรินิพฺพายีติ โย อายุเวมชฺฌํ อนติกฺกมิตฺวา ปรินิพฺพายติ, โส ติวิโธ โหติ. กปฺปสหสฺสายุเกสุ ตาว อวิเหสุ นิพฺพตฺติตฺวา เอโก นิพฺพตฺตทิวเสเยว อรหตฺตํ ปาปุณาติ. โน เจ นิพฺพตฺตทิวเส ปาปุณาติ, ปมสฺส ปน กปฺปสตสฺส มตฺถเก ปาปุณาติ, อยํ ปโม อนฺตราปรินิพฺพายี. อปโร เอวํ อสกฺโกนฺโต ทฺวินฺนํ กปฺปสตานํ มตฺถเก ปาปุณาติ, อยํ ทุติโย. อปโร เอวมฺปิ อสกฺโกนฺโต จตุนฺนํ กปฺปสตานํ มตฺถเก ปาปุณาติ, อยํ ตติโย อนฺตราปรินิพฺพายี. เสสํ วุตฺตนยเมว.
อิมสฺมึ ปน าเน ตฺวา จตุวีสติ โสตาปนฺนา, ทฺวาทส สกทาคามิโน, อฏฺจตฺตาลีส อนาคามิโน, ทฺวาทส จ อรหนฺโต กเถตพฺพา. อิมสฺมึ หิ สาสเน สทฺธาธุรํ ปฺาธุรนฺติ ¶ ทฺเว ธุรานิ, ทุกฺขปฏิปทาทนฺธาภิฺาทโย จตสฺโส ปฏิปทา. ตตฺเถโก สทฺธาธุเรน อภินิวิสิตฺวา โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา เอกเมว ภวํ นิพฺพตฺติตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ, อยเมโก เอกพีชี. โส ปฏิปทาวเสน จตุพฺพิโธ โหติ. ยถา เจส, เอวํ ปฺาธุเรน อภินิวิฏฺโปีติ อฏฺ เอกพีชิโน. ตถา โกลํโกลา สตฺตกฺขตฺตุปรมา จาติ อิเม จตุวีสติ โสตาปนฺนา นาม. ตีสุ ปน วิโมกฺเขสุ สฺุตวิโมกฺเขน สกทาคามิภูมึ ปตฺตา จตุนฺนํ ปฏิปทานํ วเสน จตฺตาโร สกทาคามิโน, ตถา อนิมิตฺตวิโมกฺเขน ปตฺตา จตฺตาโร, อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน ปตฺตา จตฺตาโรติ อิเม ทฺวาทส สกทาคามิโน. อวิเหสุ ปน ตโย อนฺตราปรินิพฺพายิโน, เอโก อุปหจฺจปรินิพฺพายี, เอโก อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามีติ ปฺจ อนาคามิโน, เต อสงฺขารปรินิพฺพายิโน ปฺจ, สสงฺขารปรินิพฺพายิโน ปฺจาติ ทส โหนฺติ, ตถา อตปฺปาทีสุ. อกนิฏฺเสุ ปน อุทฺธํโสโต นตฺถิ ¶ , ตสฺมา ตตฺถ จตฺตาโร สสงฺขารปรินิพฺพายี, จตฺตาโร อสงฺขารปรินิพฺพายีติ อฏฺ, อิเม อฏฺจตฺตาลีส อนาคามิโน. ยถา ปน สกทาคามิโน, ตเถว อรหนฺโตปิ ทฺวาทส เวทิตพฺพา. อิธาปิ ติสฺโส สิกฺขา มิสฺสิกาว กถิตา.
๘. ตติยสิกฺขาสุตฺตวณฺณนา
๘๙. อฏฺเม ¶ ตํ วา ปน อนภิสมฺภวํ อปฺปฏิวิชฺฌนฺติ ตํ อรหตฺตํ อปาปุณนฺโต อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต. อิมินา นเยน สพฺพฏฺาเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิธาปิ ติสฺโส สิกฺขา มิสฺสิกาว กถิตา. นวมํ อุตฺตานตฺถเมว. อิธาปิ ติสฺโส สิกฺขา มิสฺสิกาว กถิตา.
๑๐. ทุติยสิกฺขตฺตยสุตฺตวณฺณนา
๙๑. ทสเม อาสวานํ ขยาติ เอตฺถ อรหตฺตมคฺโค อธิปฺาสิกฺขา นาม. ผลํ ปน สิกฺขิตสิกฺขสฺส อุปฺปชฺชนโต สิกฺขาติ น วตฺตพฺพํ.
ยถา ¶ ปุเร ตถา ปจฺฉาติ ยถา ปมํ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขติ, ปจฺฉา ตเถว สิกฺขตีติ อตฺโถ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. ยถา อโธ ตถา อุทฺธนฺติ ยถา เหฏฺิมกายํ อสุภวเสน ปสฺสติ, อุปริมกายมฺปิ ตเถว ผรติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. ยถา ทิวา ตถา รตฺตินฺติ ยถา ทิวา ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขติ, รตฺติมฺปิ ตเถว สิกฺขตีติ อตฺโถ. อภิภุยฺย ทิสา สพฺพาติ สพฺพา ทิสา อารมฺมณวเสน อภิภวิตฺวา. อปฺปมาณสมาธินาติ อรหตฺตมคฺคสมาธินา.
เสกฺขนฺติ สิกฺขมานํ สกรณียํ. ปฏิปทนฺติ ปฏิปนฺนกํ. สํสุทฺธจาริยนฺติ สํสุทฺธจรณํ ปริสุทฺธสีลํ. สมฺพุทฺธนฺติ จตุสจฺจพุทฺธํ. ธีรํ ปฏิปทนฺตคุนฺติ ขนฺธธีรอายตนธีรวเสน ธีรํ ธิติสมฺปนฺนํ ปฏิปตฺติยา อนฺตํ คตํ. วิฺาณสฺสาติ จริมกวิฺาณสฺส. ตณฺหากฺขยวิมุตฺติโนติ ตณฺหากฺขยวิมุตฺติสงฺขาตาย อรหตฺตผลวิมุตฺติยา สมนฺนาคตสฺส. ปชฺโชตสฺเสว นิพฺพานนฺติ ปทีปนิพฺพานํ วิย. วิโมกฺโข โหติ เจตโสติ จิตฺตสฺส วิมุตฺติ วิมุจฺจนา อปฺปวตฺติภาโว โหติ. ตณฺหากฺขยวิมุตฺติโน หิ ขีณาสวสฺส จริมกวิฺาณนิโรเธน ¶ ปรินิพฺพานํ วิย เจตโส วิโมกฺโข โหติ, น คตฏฺานํ ปฺายติ, อปณฺณตฺติกภาวูปคโมเยว โหตีติ อตฺโถ.
๑๑. สงฺกวาสุตฺตวณฺณนา
๙๒. เอกาทสเม ¶ สงฺกวา นาม โกสลานํ นิคโมติ สงฺกวาติ เอวํนามโก โกสลรฏฺเ นิคโม. อาวาสิโกติ ภารหาโร นเว อาวาเส สมุฏฺาเปติ, ปุราเณ ปฏิชคฺคติ. สิกฺขาปทปฏิสํยุตฺตายาติ สิกฺขาสงฺขาเตหิ ปเทหิ ปฏิสํยุตฺตาย, ตีหิ สิกฺขาหิ สมนฺนาคตายาติ อตฺโถ. สนฺทสฺเสตีติ ¶ สมฺมุเข วิย กตฺวา ทสฺเสติ. สมาทเปตีติ คณฺหาเปติ. สมุตฺเตเชตีติ สมุสฺสาเหติ. สมฺปหํเสตีติ ปฏิลทฺธคุเณหิ วณฺณํ กเถนฺโต โวทาเปติ. อธิสลฺลิขเตติ อติวิย สลฺลิขติ, อติวิย สลฺลิขิตํ กตฺวา สณฺหํ สณฺหํ กเถตีติ อตฺโถ.
อจฺจโยติ อปราโธ. มํ อจฺจคมาติ มํ อติกฺกมฺม อธิภวิตฺวา ปวตฺโต. อหุเทว อกฺขนฺตีติ อโหสิเยว อนธิวาสนา. อหุ อปฺปจฺจโยติ อโหสิ อตุฏฺากาโร. ปฏิคฺคณฺหาตูติ ขมตุ. อายตึ สํวรายาติ อนาคเต สํวรตฺถาย, ปุน เอวรูปสฺส อปราธสฺส โทสสฺส ขลิตสฺส วา อกรณตฺถายาติ อตฺโถ. ตคฺฆาติ เอกํเสน. ยถาธมฺมํ ปฏิกโรสีติ ยถา ธมฺโม ิโต, ตถา กโรสิ, ขมาเปสีติ วุตฺตํ โหติ. ตํ เต มยํ ปฏิคฺคณฺหามาติ ตํ ตว อปราธํ มยํ ขมาม. วุทฺธิเหสา, กสฺสป, อริยสฺส วินเยติ เอสา กสฺสป พุทฺธสฺส ภควโต สาสเน วุทฺธิ นาม. กตมา? ยายํ อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกริตฺวา อายตึ สํวราปชฺชนา. เทสนํ ปน ปุคฺคลาธิฏฺานํ กโรนฺโต ‘‘โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรติ, อายตึ สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ อาห. น สิกฺขากาโมติ ติสฺโส สิกฺขา น กาเมติ น ปตฺเถติ น ปิเหติ. สิกฺขาสมาทานสฺสาติ สิกฺขาปริปูรณสฺส. น วณฺณวาทีติ คุณํ น กเถติ. กาเลนาติ ยุตฺตปฺปยุตฺตกาเลน. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สมณวคฺโค จตุตฺโถ.