📜
(๑๓) ๓. กุสินารวคฺโค
๑. กุสินารสุตฺตวณฺณนา
๑๒๔. ตติยสฺส ¶ ¶ ปเม กุสินารายนฺติ เอวํนามเก นคเร. พลิหรเณ วนสณฺเฑติ เอวํนามเก วนสณฺเฑ. ตตฺถ กิร ภูตพลิกรณตฺถํ พลึ หรนฺติ, ตสฺมา พลิหรณนฺติ วุจฺจติ. อากงฺขมาโนติ อิจฺฉมาโน. สหตฺถาติ สหตฺเถน. สมฺปวาเรตีติ อลํ อลนฺติ วาจาย เจว หตฺถวิกาเรน จ ปฏิกฺขิปาเปติ. สาธุ วต มายนฺติ สาธุ วต มํ อยํ. คถิโตติ ตณฺหาเคเธน คถิโต. มุจฺฉิโตติ ¶ ตณฺหามุจฺฉนายเยว มุจฺฉิโต. อชฺโฌปนฺโนติ ตณฺหาย คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา ปวตฺโต. อนิสฺสรณปฺโติ ฉนฺทราคํ ปหาย สํกฑฺฒิตฺวา ปริภฺุชนฺโต นิสฺสรณปฺโ นาม โหติ, อยํ น ตาทิโส, สจฺฉนฺทราโค ปริภฺุชตีติ อนิสฺสรณปฺโ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺโพ. เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโย ปเนตฺถ มิสฺสกา กถิตาติ เวทิตพฺพา.
๒. ภณฺฑนสุตฺตวณฺณนา
๑๒๕. ทุติเย ปชหึสูติ ปชหนฺติ. พหุลมกํสูติ ปุนปฺปุนํ กโรนฺติ. อิธาปิ ตโย วิตกฺกา มิสฺสกาว กถิตา.
๓. โคตมกเจติยสุตฺตวณฺณนา
๑๒๖. ตติเย โคตมเก เจติเยติ โคตมกยกฺขสฺส ภวเน. ตถาคโต หิ ปมโพธิยํ วีสติ วสฺสานิ กทาจิ จาปาเล เจติเย, กทาจิ สารนฺทเท, กทาจิ พหุปุตฺเต, กทาจิ โคตมเกติ เอวํ เยภุยฺเยน เทวกุเลสุเยว วิหาสิ. อิมสฺมึ ปน กาเล เวสาลึ อุปนิสฺสาย โคตมกสฺส ยกฺขสฺส ภวนฏฺาเน วิหาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘โคตมเก เจติเย’’ติ. เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘อภิฺายาห’’นฺติอาทิกํ สุตฺตํ อโวจ.
อิทฺจ ¶ ภควตา สุตฺตํ อตฺถุปฺปตฺติยํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. กตรอตฺถุปฺปตฺติยนฺติ? มูลปริยายอตฺถุปฺปตฺติยํ (ม. นิ. ๑.๑ อาทโย). สมฺพหุลา กิร พฺราหฺมณปพฺพชิตา อตฺตนา ¶ อุคฺคหิตพุทฺธวจนํ นิสฺสาย ชานนมทํ อุปฺปาเทตฺวา ธมฺมสฺสวนคฺคํ น คจฺฉนฺติ – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ กเถนฺโต อมฺเหหิ าตเมว กเถสฺสติ, โน อฺาต’’นฺติ. ภิกฺขู ตถาคตสฺส อาโรเจสุํ. สตฺถา เต ภิกฺขู ปกฺโกสาเปตฺวา มุขปฏิฺํ คเหตฺวา มูลปริยายํ เทเสสิ. เต ภิกฺขู เทสนาย เนว อาคตฏฺานํ, น คตฏฺานํ อทฺทสํสุ. อปสฺสนฺตา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ‘มยฺหํ กถา นิยฺยาตี’ติ มุขสมฺปตฺตเมว กเถตี’’ติ จินฺตยึสุ. สตฺถา เตสํ มนํ ชานิตฺวา อิมํ สุตฺตนฺตํ อารภิ.
ตตฺถ อภิฺายาติ ‘‘อิเม ปฺจกฺขนฺธา, ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺารส ¶ ธาตุโย, พาวีสตินฺทฺริยานิ, จตฺตาริ สจฺจานิ, นว เหตู, สตฺต ผสฺสา, สตฺต เวทนา, สตฺต เจตนา, สตฺต สฺา, สตฺต จิตฺตานี’’ติ ชานิตฺวา ปฏิวิชฺฌิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา, ตถา – ‘‘อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทินา นเยน เต เต ธมฺเม ชานิตฺวา ปฏิวิชฺฌิตฺวา ปจฺจกฺขเมว กตฺวาติ อตฺโถ. สนิทานนฺติ สปฺปจฺจยเมว กตฺวา กเถมิ, โน อปฺปจฺจยํ. สปฺปาฏิหาริยนฺติ ปจฺจนีกปฏิหรเณน สปฺปาฏิหาริยเมว กตฺวา กเถมิ, โน อปฺปาฏิหาริยํ. อลฺจ ปน โวติ ยุตฺตฺจ ปน ตุมฺหากํ. ตุฏฺิยาติ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’’ติ ตีณิ รตนานิ คุณโต อนุสฺสรนฺตานํ ตุมฺหากํ ยุตฺตเมว ตุฏฺึ กาตุนฺติ อตฺโถ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย.
อกมฺปิตฺถาติ ฉหิ อากาเรหิ อกมฺปิตฺถ. เอวรูโป หิ ปถวิกมฺโป โพธิมณฺเฑปิ อโหสิ. โพธิสตฺเต กิร ทกฺขิณทิสาภาเคน โพธิมณฺฑํ อภิรุฬฺเห ทกฺขิณทิสาภาโค เหฏฺา อวีจึ ปาปุณนฺโต วิย อโหสิ, อุตฺตรภาโค อุคฺคนฺตฺวา ภวคฺคํ อภิหนนฺโต วิย. ปจฺฉิมทิสํ คเต ปจฺฉิมภาโค เหฏฺา อวีจึ ปาปุณนฺโต วิย อโหสิ, ปาจีนภาโค อุคฺคนฺตฺวา ภวคฺคํ อภิหนนฺโต วิย. อุตฺตรทิสํ คเต อุตฺตรทิสาภาโค เหฏฺา อวีจึ ปาปุณนฺโต วิย, ทกฺขิณทิสาภาโค อุคฺคนฺตฺวา ภวคฺคํ อภิหนนฺโต วิย. ปาจีนทิสํ คเต ปาจีนทิสาภาโค เหฏฺา อวีจึ ปาปุณนฺโต วิย, ปจฺฉิมภาโค อุคฺคนฺตฺวา ภวคฺคํ อภิหนนฺโต วิย. โพธิรุกฺโขปิ สกึ เหฏฺา อวีจึ ปาปุณนฺโต วิย, สกึ อุคฺคนฺตฺวา ภวคฺคํ อภิหนนฺโต วิย. ตสฺมิมฺปิ ทิวเส เอวํ ฉหิ อากาเรหิ จกฺกวาฬสหสฺสี มหาปถวี อกมฺปิตฺถ.
๔. ภรณฺฑุกาลามสุตฺตวณฺณนา
๑๒๗. จตุตฺเถ ¶ ¶ เกวลกปฺปนฺติ สกลกปฺปํ. อนฺวาหิณฺฑนฺโตติ วิจรนฺโต. นาทฺทสาติ กึ การณา น อทฺทส? อยํ กิร ภรณฺฑุ กาลาโม สกฺยานํ อคฺคปิณฺฑํ ขาทนฺโต วิจรติ. ตสฺส วสนฏฺานํ สมฺปตฺตกาเล เอกา ธมฺมเทสนา สมุฏฺหิสฺสตีติ ¶ ตฺวา ภควา เอวํ อธิฏฺาสิ, ยถา อฺโ อาวสโถ น ปฺายิตฺถ. ตสฺมา น อทฺทส. ปุราณสพฺรหฺมจารีติ โปราณโก สพฺรหฺมจารี. โส กิร อาฬารกาลามกาเล ตสฺมึเยว อสฺสเม อโหสิ, ตํ สนฺธาเยวมาห. สนฺถรํ ปฺาเปหีติ สนฺถริตพฺพํ สนฺถราหีติ อตฺโถ. สนฺถรํ ปฺาเปตฺวาติ กปฺปิยมฺจเก ปจฺจตฺถรณํ ปฺาเปตฺวา. กามานํ ปริฺํ ปฺาเปตีติ เอตฺถ ปริฺา นาม สมติกฺกโม, ตสฺมา กามานํ สมติกฺกมํ ปมชฺฌานํ ปฺาเปติ. น รูปานํ ปริฺนฺติ รูปานํ สมติกฺกมภูตํ อรูปาวจรสมาปตฺตึ น ปฺาเปติ. น เวทนานํ ปริฺนฺติ เวทนานํ สมติกฺกมํ นิพฺพานํ น ปฺาเปติ. นิฏฺาติ คติ นิปฺผตฺติ. อุทาหุ ปุถูติ อุทาหุ นานา.
๕. หตฺถกสุตฺตวณฺณนา
๑๒๘. ปฺจเม อภิกฺกนฺตาย รตฺติยาติ เอตฺถ อภิกฺกนฺตสทฺโท ขยสุนฺทราภิรูปอพฺภนุโมทนาทีสุ ทิสฺสติ. ตตฺถ ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ, อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ เอวมาทีสุ ขเย ทิสฺสติ. ‘‘อยํ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๐๐) สุนฺทเร.
‘‘โก เม วนฺทติ ปาทานิ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;
อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, สพฺพา โอภาสยํ ทิสา’’ติ. (วิ. ว. ๘๕๗) –
เอวมาทีสุ อภิรูเป. ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตมา’’ติ เอวมาทีสุ (ปารา. ๑๕) อพฺภนุโมทเน. อิธ ปน สุนฺทเร. เตน อภิกฺกนฺตาย รตฺติยาติ อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย รตฺติยาติ วุตฺตํ โหติ. อภิกฺกนฺตวณฺณาติ อิธ อภิกฺกนฺตสทฺโท อภิรูเป, วณฺณสทฺโท ¶ ปน ฉวิถุติกุลวคฺคการณสณฺานปมาณรูปายตนาทีสุ ทิสฺสติ. ตตฺถ ‘‘สุวณฺณวณฺโณสิ ภควา’’ติ ¶ ¶ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๒.๓๙๙; สุ. นิ. ๕๕๓) ฉวิยํ. ‘‘กทา สฺูฬฺหา ปน เต คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส วณฺณา’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๒.๗๗) ถุติยํ. ‘‘จตฺตาโรเม, โภ โคตม, วณฺณา’’ติ เอวมาทีสุ (ที. นิ. ๓.๑๑๕) กุลวคฺเค. ‘‘อถ เกน นุ วณฺเณน, คนฺธตฺเถโนติ วุจฺจตี’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๓๔) การเณ. ‘‘มหนฺตํ หตฺถิราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๓๘) สณฺาเน. ‘‘ตโย ปตฺตสฺส วณฺณา’’ติ เอวมาทีสุ (ปารา. ๖๐๒) ปมาเณ. ‘‘วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา’’ติ เอวมาทีสุ รูปายตเน. โส อิธ ฉวิยา ทฏฺพฺโพ. เตน อภิกฺกนฺตวณฺณาติ อภิรูปจฺฉวิ, อิฏฺวณฺณา มนาปวณฺณาติ วุตฺตํ โหติ.
เกวลกปฺปนฺติ เอตฺถ เกวลสทฺโท อนวเสสเยภุยฺยาพฺยามิสฺสานติเรกทฬฺหตฺถวิสํโยคาทิอเนกตฺโถ. ตถา หิสฺส ‘‘เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริย’’นฺติ เอวมาทีสุ (ปารา. ๑) อนวเสสตา อตฺโถ. ‘‘เกวลกปฺปา จ องฺคมคธา ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย อุปสงฺกมิสฺสนฺตี’’ติ เอวมาทีสุ (มหาว. ๔๓) เยภุยฺยตา. ‘‘เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติ เอวมาทีสุ (วิภ. ๒๒๕) อพฺยามิสฺสตา. ‘‘เกวลํ สทฺธามตฺตกํ นูน อยมายสฺมา’’ติ เอวมาทีสุ (มหาว. ๒๔๔) อนติเรกตา. ‘‘อายสฺมโต, ภนฺเต, อนุรุทฺธสฺส พาหิโย นาม สทฺธิวิหาริโก เกวลกปฺปํ สงฺฆเภทาย ิโต’’ติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๔.๒๔๓) ทฬฺหตฺถตา. ‘‘เกวลี วุสิตวา อุตฺตมปุริโสติ วุจฺจตี’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๕๗) วิสํโยโค. อิธ ¶ ปน อนวเสสตา อตฺโถติ อธิปฺเปตา.
กปฺปสทฺโท ปนายํ อภิสทฺทหนโวหารกาลปฺตฺติเฉทนวิกปฺปเลสสมนฺตภาวาทิอเนกตฺโถ. ตถา หิสฺส ‘‘โอกปฺปนิยเมตํ โภโต โคตมสฺส, ยถา ตํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) อภิสทฺทหนมตฺโถ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภฺุชิตุ’’นฺติ เอวมาทีสุ (จูฬว. ๒๕๐) โวหาโร. ‘‘เยน สุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) กาโล. ‘‘อิจฺจายสฺมา กปฺโป’’ติ เอวมาทีสุ (สุ. นิ. ๑๐๙๘; จูฬนิ. กปฺปมาณวปุจฺฉา ๑๑๗, กปฺปมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๖๑) ปฺตฺติ ¶ . ‘‘อลงฺกโต กปฺปิตเกสมสฺสู’’ติ เอวมาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๑๓๖๘; วิ. ว. ๑๐๙๔) เฉทนํ. ‘‘กปฺปติ ทฺวงฺคุลกปฺโป’’ติ เอวมาทีสุ (จูฬว. ๔๔๖) วิกปฺโป. ‘‘อตฺถิ กปฺโป นิปชฺชิตุ’’นฺติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๘.๘๐) เลโส. ‘‘เกวลกปฺปํ เวฬุวนํ ¶ โอภาเสตฺวา’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๙๔) สมนฺตภาโว. อิธ ปนสฺส สมนฺตภาโว อตฺโถ อธิปฺเปโต. ตสฺมา เกวลกปฺปํ เชตวนนฺติ เอตฺถ อนวเสสํ สมนฺตโต เชตวนนฺติ อตฺโถ.
โอภาเสตฺวาติ อาภาย ผริตฺวา. วาลุกายาติ สณฺหาย วาลุกาย. น สณฺาตีติ น ปติฏฺาติ. โอฬาริกนฺติ พฺรหฺมเทวตาย หิ ปถวิยํ ปติฏฺานกาเล อตฺตภาโว โอฬาริโก มาเปตุํ วฏฺฏติ ปถวี วา, ตสฺมา เอวมาห. ธมฺมาติ อิมินา ปุพฺเพ อุคฺคหิตพุทฺธวจนํ ทสฺเสติ. นปฺปวตฺติโน อเหสุนฺติ สชฺฌายมูฬฺหกา วาจา ปริหีนาเยว อเหสุํ. อปฺปฏิวาโนติ ¶ อนิวตฺโต อนุกฺกณฺิโต.
ทสฺสนสฺสาติ จกฺขุวิฺาเณน ทสฺสนสฺส. อุปฏฺานสฺสาติ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺานสฺส. อธิสีลนฺติ ทสวิธํ สีลํ. ตฺหิ ปฺจสีลํ อุปาทาย อธิสีลนฺติ วุจฺจติ. อวิหํ คโตติ อวิหพฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺโตสฺมีติ ทสฺเสติ.
๖. กฏุวิยสุตฺตวณฺณนา
๑๒๙. ฉฏฺเ โคโยคปิลกฺขสฺมินฺติ คาวีนํ วิกฺกยฏฺาเน อุฏฺิตปิลกฺขสฺส สนฺติเก. ริตฺตสฺสาทนฺติ ฌานสุขาภาเวน ริตฺตสฺสาทํ. พาหิรสฺสาทนฺติ กามคุณสุขวเสน พาหิรสฺสาทํ. กฏุวิยนฺติ อุจฺฉิฏฺํ. อามคนฺเธนาติ โกธสงฺขาเตน วิสฺสคนฺเธน. อวสฺสุตนฺติ ตินฺตํ. มกฺขิกาติ กิเลสมกฺขิกา. นานุปติสฺสนฺตีติ อุฏฺาย น อนุพนฺธิสฺสนฺติ. นานฺวาสฺสวิสฺสนฺตีติ อนุพนฺธิตฺวา น ขาทิสฺสนฺติ. สํเวคมาปาทีติ โสตาปนฺโน ชาโต.
กฏุวิยกโตติ อุจฺฉิฏฺกโต. อารกา โหตีติ ทูเร โหติ. วิฆาตสฺเสว ภาควาติ ทุกฺขสฺเสว ภาคี. จเรตีติ จรติ คจฺฉติ. ทุมฺเมโธติ ทุปฺปฺโ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏเมว กถิตํ, คาถาสุ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตนฺติ. สตฺตเม วฏฺฏเมว ภาสิตํ.
๘. ทุติยอนุรุทฺธสุตฺตวณฺณนา
๑๓๑. อฏฺเม ¶ ¶ อิทํ เต มานสฺมินฺติ อยํ เต นววิเธน วฑฺฒิตมาโนติ อตฺโถ. อิทํ เต อุทฺธจฺจสฺมินฺติ อิทํ ตว อุทฺธจฺจํ จิตฺตสฺส อุทฺธตภาโว. อิทํ ¶ เต กุกฺกุจฺจสฺมินฺติ อิทํ ตว กุกฺกุจฺจํ.
๙. ปฏิจฺฉนฺนสุตฺตวณฺณนา
๑๓๒. นวเม อาวหนฺตีติ นิยฺยนฺติ. ปฏิจฺฉนฺโน อาวหตีติ ปฏิจฺฉนฺโนว หุตฺวา นิยฺยาติ. วิวโฏ วิโรจตีติ เอตฺถ เอกโต อุภโต อตฺตโต สพฺพตฺถกโตติ จตุพฺพิธา วิวฏตา เวทิตพฺพา. ตตฺถ เอกโต วิวฏํ นาม อสาธารณสิกฺขาปทํ. อุภโต วิวฏํ นาม สาธารณสิกฺขาปทํ. อตฺตโต วิวฏํ นาม ปฏิลทฺธธมฺมคุโณ. สพฺพตฺถกวิวฏํ นาม เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ.
๑๐. เลขสุตฺตวณฺณนา
๑๓๓. ทสเม อภิณฺหนฺติ อภิกฺขณํ นิรนฺตรํ. อาคาฬฺเหนาติ คาฬฺเหน กกฺขเฬน. ผรุเสนาติ ผรุสวจเนน. คาฬฺหํ กตฺวา ผรุสํ กตฺวา วุจฺจมาโนปีติ อตฺโถ. อมนาเปนาติ มนํ อนลฺลียนฺเตน อวฑฺฒนฺเตน. สนฺธิยติเมวาติ ฆฏิยติเยว. สํสนฺทติเมวาติ นิรนฺตโรว โหติ. สมฺโมทติเมวาติ เอกีภาวเมว คจฺฉติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
กุสินารวคฺโค ตติโย.