📜
๑. ภณฺฑคามวคฺโค
๑. อนุพุทฺธสุตฺตวณฺณนา
๑. จตุกฺกนิปาตสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม อนนุโพธาติ อพุชฺฌเนน อชานเนน. อปฺปฏิเวธาติ อปฺปฏิวิชฺฌเนน อปจฺจกฺขกิริยาย. ทีฆมทฺธานนฺติ จิรกาลํ. สนฺธาวิตนฺติ ภวโต ภวํ คมนวเสน สนฺธาวิตํ. สํสริตนฺติ ปุนปฺปุนํ คมนาคมนวเสน สํสริตํ. มมฺเจว ตุมฺหากฺจาติ มยา จ ตุมฺเหหิ จ. อถ วา สนฺธาวิตํ สํสริตนฺติ สนฺธาวนํ สํสรณํ มมฺเจว ¶ ตุมฺหากฺจ อโหสีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อริยสฺสาติ นิทฺโทสสฺส. สีลํ สมาธิ ปฺาติ อิเม ปน ตโย ธมฺมา มคฺคผลสมฺปยุตฺตาว เวทิตพฺพา, วิมุตฺตินาเมน ผลเมว นิทฺทิฏฺํ. ภวตณฺหาติ ภเวสุ ตณฺหา. ภวเนตฺตีติ ¶ ภวรชฺชุ. ตณฺหาย เอว เอตํ นามํ. ตาย หิ สตฺตา โคณา วิย คีวาย พนฺธิตฺวา ตํ ตํ ภวํ นียนฺติ, ตสฺมา ภวเนตฺตีติ วุจฺจติ.
อนุตฺตราติ โลกุตฺตรา. ทุกฺขสฺสนฺตกโรติ วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตกโร. จกฺขุมาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา. ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต. อิทมสฺส โพธิมณฺเฑ ปมปรินิพฺพานํ, ปจฺฉา ปน ยมกสาลานมนฺตเร อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโตติ ยถานุสนฺธินา เทสนํ นิฏฺาเปสิ.
๒. ปปติตสุตฺตวณฺณนา
๒. ทุติเย ปปติโตติ ปติโต จุโต. อปฺปปติโตติ อปติโต ปติฏฺิโต. ตตฺถ โลกิยมหาชโน ปติโตเยว นาม, โสตาปนฺนาทโย กิเลสุปฺปตฺติกฺขเณ ปติตา นาม, ขีณาสโว เอกนฺตปติฏฺิโต นาม.
จุตา ¶ ปตนฺตีติ เย จุตา, เต ปตนฺติ นาม. ปติตาติ เย ปติตา, เต จุตา นาม. จุตตฺตา ปติตา, ปติตตฺตา จุตาติ อตฺโถ. คิทฺธาติ ราครตฺตา. ปุนราคตาติ ปุน ชาตึ ปุน ชรํ ปุน พฺยาธึ ปุน มรณํ อาคตา นาม โหนฺติ. กตํ กิจฺจนฺติ จตูหิ มคฺเคหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ กตํ. รตํ รมฺมนฺติ รมิตพฺพยุตฺตเก คุณชาเต รมิตํ. สุเขนานฺวาคตํ สุขนฺติ สุเขน สุขํ อนุอาคตํ สมฺปตฺตํ. มานุสกสุเขน ทิพฺพสุขํ, ฌานสุเขน วิปสฺสนาสุขํ, วิปสฺสนาสุเขน มคฺคสุขํ, มคฺคสุเขน ¶ ผลสุขํ, ผลสุเขน นิพฺพานสุขํ สมฺปตฺตํ อธิคตนฺติ อตฺโถ.
๓. ปมขตสุตฺตวณฺณนา
๓. ตติยํ ทุกนิปาตวณฺณนายํ วุตฺตเมว. คาถาสุ ปน นินฺทิยนฺติ นินฺทิตพฺพยุตฺตกํ. นินฺทตีติ ครหติ. ปสํสิโยติ ปสํสิตพฺพยุตฺโต. วิจินาติ มุเขน โส กลินฺติ โย เอวํ ปวตฺโต ¶ , เตน มุเขน กลึ วิจินาติ นาม. กลินา เตน สุขํ น วินฺทตีติ เตน จ กลินา สุขํ น ปฏิลภติ. สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนาติ สพฺเพนปิ สเกน ธเนน เจว อตฺตนา จ สทฺธึ โย ปราชโย, โส อปฺปมตฺตโกว กลีติ อตฺโถ. โย สุคเตสูติ โย ปน สมฺมคฺคเตสุ ปุคฺคเลสุ จิตฺตํ ปทุสฺเสยฺย, อยํ จิตฺตปโทโสว ตโต กลิโต มหนฺตตโร กลิ. อิทานิ ตสฺส มหนฺตตรภาวํ ทสฺเสนฺโต สตํ สหสฺสานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สตํ สหสฺสานนฺติ นิรพฺพุทคณนาย สตสหสฺสํ. ฉตฺตึสตีติ อปรานิ จ ฉตฺตึสติ นิรพฺพุทานิ. ปฺจ จาติ อพฺพุทคณนาย จ ปฺจ อพฺพุทานิ. ยมริยครหีติ ยํ อริเย ครหนฺโต นิรยํ อุปปชฺชติ, ตตฺถ เอตฺตกํ อายุปฺปมาณนฺติ.
๔. ทุติยขตสุตฺตวณฺณนา
๔. จตุตฺเถ ¶ มาตริ ปิตริ จาติอาทีสุ มิตฺตวินฺทโก มาตริ มิจฺฉาปฏิปนฺโน นาม, อชาตสตฺตุ ปิตริ มิจฺฉาปฏิปนฺโน นาม, เทวทตฺโต ตถาคเต มิจฺฉาปฏิปนฺโน นาม, โกกาลิโก ตถาคตสาวเก มิจฺฉาปฏิปนฺโน นาม. พหฺุจาติ พหุกเมว. ปสวตีติ ปฏิลภติ. ตายาติ ตาย มิจฺฉาปฏิปตฺติสงฺขาตาย อธมฺมจริยาย. เปจฺจาติ อิโต คนฺตฺวา. อปายํ คจฺฉตีติ นิรยาทีสุ อฺตรสฺมึ นิพฺพตฺตติ. สุกฺกปกฺเขปิ เอเสว นโย.
๕. อนุโสตสุตฺตวณฺณนา
๕. ปฺจเม ¶ อนุโสตํ คจฺฉตีติ อนุโสตคามี. กิเลสโสตสฺส ปจฺจนีกปฏิปตฺติยา ปฏิโสตํ คจฺฉตีติ ปฏิโสตคามี. ิตตฺโตติ ิตสภาโว. ติณฺโณติ โอฆํ ตริตฺวา ิโต. ปารงฺคโตติ ปรตีรํ คโต. ถเล ติฏฺตีติ นิพฺพานถเล ติฏฺติ. พฺราหฺมโณติ เสฏฺโ นิทฺโทโส. อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. กาเม จ ปฏิเสวตีติ กิเลสกาเมหิ วตฺถุกาเม ปฏิเสวติ. ปาปฺจ กมฺมํ กโรตีติ ปาปฺจ ปาณาติปาตาทิกมฺมํ กโรติ. ปาปฺจ กมฺมํ น กโรตีติ ปฺจเวรกมฺมํ น กโรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ิตตฺโตติ อยํ อนาคามี ปุคฺคโล ตสฺมา โลกา ปุน ปฏิสนฺธิวเสน อนาคมนโต ิตตฺโต นาม.
ตณฺหาธิปนฺนาติ ¶ ตณฺหาย อธิปนฺนา อชฺโฌตฺถฏา, ตณฺหํ วา อธิปนฺนา อชฺโฌคาฬฺหา. ปริปุณฺณเสโขติ ¶ สิกฺขาปาริปูริยา ิโต. อปริหานธมฺโมติ อปริหีนสภาโว. เจโตวสิปฺปตฺโตติ จิตฺตวสีภาวํ ปตฺโต. เอวรูโป ขีณาสโว โหติ, อิธ ปน อนาคามี กถิโต. สมาหิตินฺทฺริโยติ สมาหิตฉฬินฺทฺริโย. ปโรปราติ ปโรวรา อุตฺตมลามกา, กุสลากุสลาติ อตฺโถ. สเมจฺจาติ าเณน สมาคนฺตฺวา. วิธูปิตาติ วิทฺธํสิตา ฌาปิตา วา. วุสิตพฺรหฺมจริโยติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ วสิตฺวา ิโต. โลกนฺตคูติ ติวิธสฺสาปิ โลกสฺส อนฺตํ คโต. ปารคโตติ ฉหากาเรหิ ปารคโต. อิธ ขีณาสโวว กถิโต. อิติ สุตฺเตปิ คาถาสุปิ วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตํ.
๖. อปฺปสฺสุตสุตฺตวณฺณนา
๖. ฉฏฺเ อนุปปนฺโนติ อนุปาคโต. สุตฺตนฺติอาทีสุ อุภโตวิภงฺคนิทฺเทสขนฺธกปริวารสุตฺตนิปาตมงฺคลสุตฺตรตนสุตฺต- นาฬกสุตฺตตุวฏกสุตฺตานิ, อฺมฺปิ จ สุตฺตนามกํ ตถาคตวจนํ สุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สพฺพมฺปิ สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยนฺติ เวทิตพฺพํ, วิเสเสน สํยุตฺตเก สกโลปิ สคาถาวคฺโค. สกลมฺปิ อภิธมฺมปิฏกํ, นิคฺคาถกสุตฺตํ, ยฺจ อฺมฺปิ อฏฺหิ องฺเคหิ อสงฺคหิตํ ¶ พุทฺธวจนํ, ตํ เวยฺยากรณนฺติ เวทิตพฺพํ. ธมฺมปท-เถรคาถา-เถริคาถา สุตฺตนิปาเต โนสุตฺตนามิกา สุทฺธิกคาถา ¶ จ คาถาติ เวทิตพฺพา. โสมนสฺสาณมยิกคาถาปฏิสํยุตฺตา ทฺเวอสีติ สุตฺตนฺตา อุทานนฺติ เวทิตพฺพา. ‘‘วุตฺตฺเหตํ ภควตา’’ติอาทินยปฺปวตฺตา ทสุตฺตรสตสุตฺตนฺตา อิติวุตฺตกนฺติ เวทิตพฺพา. อปณฺณกชาตกาทีนิ ปฺาสาธิกานิ ปฺจ ชาตกสตานิ ชาตกนฺติ เวทิตพฺพานิ. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท’’ติอาทินยปฺปวตฺตา สพฺเพปิ อจฺฉริยอพฺภุตธมฺมปฏิสํยุตฺตา สุตฺตนฺตา อพฺภุตธมฺมนฺติ เวทิตพฺพา. จูฬเวทลฺลมหาเวทลฺลสมฺมาทิฏฺิสกฺกปฺหสงฺขารภาชนิยมหาปุณฺณมสุตฺตาทโย สพฺเพปิ เวทฺจ ตุฏฺิฺจ ลทฺธา ลทฺธา ปุจฺฉิตา สุตฺตนฺตา เวทลฺลนฺติ เวทิตพฺพา. น อตฺถมฺาย น ธมฺมมฺายาติ อฏฺกถฺจ ปาฬิฺจ อชานิตฺวา. ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโนติ นวโลกุตฺตรธมฺมสฺส อนุรูปธมฺมํ สหสีลํ ปุพฺพภาคปฏิปทํ น ปฏิปนฺโน โหติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปมวาเร ปเนตฺถ อปฺปสฺสุตทุสฺสีโล กถิโต, ทุติเย อปฺปสฺสุตขีณาสโว, ตติเย พหุสฺสุตทุสฺสีโล, จตุตฺเถ พหุสฺสุตขีณาสโว.
สีเลสุ ¶ อสมาหิโตติ สีเลสุ อปริปูรการี. สีลโต จ สุเตน จาติ สีลภาเคน จ ¶ สุตภาเคน จ ‘‘อยํ ทุสฺสีโล อปฺปสฺสุโต’’ติ เอวํ ตํ ครหนฺตีติ อตฺโถ. ตสฺส สมฺปชฺชเต สุตนฺติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ยสฺมา เตน สุเตน สุตกิจฺจํ กตํ, ตสฺมา ตสฺส สุตํ สมฺปชฺชติ นาม. นาสฺส สมฺปชฺชเตติ สุตกิจฺจสฺส อกตตฺตา น สมฺปชฺชติ. ธมฺมธรนฺติ สุตธมฺมานํ อาธารภูตํ. สปฺปฺนฺติ สุปฺํ. เนกฺขํ ชมฺโพนทสฺเสวาติ ชมฺพุนทํ วุจฺจติ ชาติสุวณฺณํ, ตสฺส ชมฺพุนทสฺส เนกฺขํ วิย, ปฺจสุวณฺณปริมาณํ สุวณฺณฆฏิกํ วิยาติ อตฺโถ.
๗. โสภนสุตฺตวณฺณนา
๗. สตฺตเม วิยตฺตาติ ปฺาเวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคตา. วินีตาติ วินยํ อุเปตา สุวินีตา. วิสารทาติ เวสารชฺเชน โสมนสฺสสหคเตน าเณน สมนฺนาคตา. ธมฺมธราติ สุตธมฺมานํ อาธารภูตา. ภิกฺขุ จ สีลสมฺปนฺโนติ คาถาย กิฺจาปิ เอเกกสฺเสว เอเกโก คุโณ กถิโต, สพฺเพสํ ปน สพฺเพปิ วฏฺฏนฺตีติ.
๘. เวสารชฺชสุตฺตวณฺณนา
๘. อฏฺเม ¶ เวสารชฺชานีติ เอตฺถ สารชฺชปฏิปกฺโข เวสารชฺชํ, จตูสุ าเนสุ สารชฺชาภาวํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนโสมนสฺสมยาณสฺเสตํ นามํ. อาสภํ านนฺติ เสฏฺฏฺานํ อุตฺตมฏฺานํ. อาสภา วา ปุพฺพพุทฺธา, เตสํ านนฺติ อตฺโถ. อปิจ ควสตเชฏฺโก อุสโภ, ควสหสฺสเชฏฺโก วสโภ. วชสตเชฏฺโก วา อุสโภ, วชสหสฺสเชฏฺโก วสโภ ¶ , สพฺพควเสฏฺโ สพฺพปริสฺสยสโห เสโต ปาสาทิโก มหาภารวโห อสนิสตสทฺเทหิปิ อสมฺปกมฺปิโย นิสโภ, โส อิธ อุสโภติ อธิปฺเปโต. อิทมฺปิ หิ ตสฺส ปริยายวจนํ. อุสภสฺส อิทนฺติ อาสภํ. านนฺติ จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา ววตฺถานํ. อิทํ ปน อาสภํ วิยาติ อาสภํ. ยเถว หิ นิสภสงฺขาโต อุสโภ จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา อจลฏฺาเนน ติฏฺติ, เอวํ ตถาคโตปิ จตูหิ เวสารชฺชปาเทหิ อฏฺปริสปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา สเทวเก โลเก เกนจิ ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน อกมฺปิโย อจลฏฺาเนน ติฏฺติ. เอวํ ติฏฺมาโนว ตํ อาสภํ านํ ปฏิชานาติ อุปคจฺฉติ น ปจฺจกฺขาติ, อตฺตนิ อาโรเปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อาสภํ านํ ปฏิชานาตี’’ติ.
ปริสาสูติ ¶ อฏฺสุ ปริสาสุ. สีหนาทํ นทตีติ เสฏฺนาทํ อภีตนาทํ นทติ, สีหนาทสทิสํ วา นาทํ นทติ. อยมตฺโถ สีหนาทสุตฺเตน ทสฺเสตพฺโพ. ยถา วา สีโห สหนโต จ หนนโต จ สีโหติ วุจฺจติ, เอวํ ตถาคโต โลกธมฺมานํ สหนโต ปรปฺปวาทานฺจ หนนโต สีโหติ วุจฺจติ. เอวํ วุตฺตสฺส สีหสฺส นาทํ สีหนาทํ. ตตฺถ ยถา สีโห สีหพเลน สมนฺนาคโต สพฺพตฺถ วิสารโท วิคตโลมหํโส สีหนาทํ นทติ, เอวํ ตถาคตสีโหปิ ตถาคตพเลหิ สมนฺนาคโต อฏฺสุ ปริสาสุ วิสารโท วิคตโลมหํโส ‘‘อิติ รูป’’นฺติอาทินา นเยน นานาวิธเทสนาวิลาสสมฺปนฺนํ ¶ สีหนาทํ นทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปริสาสุ สีหนาทํ นทตี’’ติ.
พฺรหฺมจกฺกํ ¶ ปวตฺเตตีติ เอตฺถ พฺรหฺมนฺติ เสฏฺํ อุตฺตมํ วิสุทฺธํ. จกฺกสทฺโท ปนายํ –
‘‘สมฺปตฺติยํ ลกฺขเณ จ, รถงฺเค อิริยาปเถ;
ทาเน รตนธมฺมูร-จกฺกาทีสุ จ ทิสฺสติ;
ธมฺมจกฺเก อิธ มโต, ตฺจ ทฺเวธา วิภาวเย’’.
‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, จกฺกานิ, เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสาน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๑) หิ อยํ สมฺปตฺติยํ ทิสฺสติ. ‘‘ปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕) เอตฺถ ลกฺขเณ. ‘‘จกฺกํว วหโต ปท’’นฺติ (ธ. ป. ๑) เอตฺถ รถงฺเค. ‘‘จตุจกฺกํ นวทฺวาร’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๙) เอตฺถ อิริยาปเถ. ‘‘ททํ ภฺุช มา จ ปมาโท, จกฺกํ วตฺตย สพฺพปาณิน’’นฺติ (ชา. ๑.๗.๑๔๙) เอตฺถ ทาเน. ‘‘ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุรโหสี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๔๓; ม. นิ. ๓.๒๕๖) เอตฺถ รตนจกฺเก. ‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺก’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๖๒) เอตฺถ ธมฺมจกฺเก. ‘‘อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส, จกฺกํ ภมติ มตฺถเก’’ติ (ชา. ๑.๑.๑๐๔; ๑.๕.๑๐๓) เอตฺถ อุรจกฺเก. ‘‘ขุรปริยนฺเตน เจปิ จกฺเกนา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๖) เอตฺถ ปหรณจกฺเก. ‘‘อสนิวิจกฺก’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๖๑; สํ. นิ. ๒.๑๖๒) เอตฺถ อสนิมณฺฑเล. อิธ ¶ ปนายํ ธมฺมจกฺเก มโต.
ตํ ปเนตํ ธมฺมจกฺกํ ทุวิธํ โหติ ปฏิเวธาณฺจ เทสนาาณฺจ. ตตฺถ ปฺาปภาวิตํ อตฺตโน อริยผลาวหํ ปฏิเวธาณํ, กรุณาปภาวิตํ สาวกานํ อริยผลาวหํ เทสนาาณํ. ตตฺถ ¶ ปฏิเวธาณํ อุปฺปชฺชมานํ อุปฺปนฺนนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ อภินิกฺขมนโต ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ตุสิตภวนโต วา ยาว มหาโพธิปลฺลงฺเก อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ทีปงฺกรโต ปฏฺาย วา ยาว โพธิปลฺลงฺเก อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. เทสนาาณมฺปิ ปวตฺตมานํ ปวตฺตนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ ยาว อฺาสิโกณฺฑฺสฺส โสตาปตฺติมคฺคา ปวตฺตมานํ, ผลกฺขเณ ปวตฺตํ นาม. เตสุ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ, เทสนาาณํ โลกิยํ. อุภยมฺปิ ปเนตํ อฺเหิ อสาธารณํ, พุทฺธานํเยว โอรสาณํ.
สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโตติ ‘‘อหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สพฺเพ ธมฺมา มยา อภิสมฺพุทฺธา’’ติ เอวํ ปฏิชานโต ตว. อนภิสมฺพุทฺธาติ อิเม นาม ¶ ธมฺมา ตยา อนภิสมฺพุทฺธา. ตตฺร วตาติ เตสุ ‘‘อนภิสมฺพุทฺธา’’ติ เอวํ ทสฺสิตธมฺเมสุ. สหธมฺเมนาติ สเหตุนา สการเณน วจเนน. นิมิตฺตเมตนฺติ เอตฺถ ปุคฺคโลปิ ธมฺโมปิ นิมิตฺตนฺติ อธิปฺเปโต ¶ . ตํ ปุคฺคลํ น ปสฺสามิ, โย มํ ปฏิโจเทสฺสติ. ตํ ธมฺมํ น ปสฺสามิ, ยํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อยํ นาม ธมฺโม ตยา อนภิสมฺพุทฺโธ’’ติ มํ ปฏิโจเทสฺสตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เขมปฺปตฺโตติ เขมํ ปตฺโต. เสสปททฺวยํ อิมสฺเสว เววจนํ. สพฺพมฺเปตํ เวสารชฺชาณเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ทสพลสฺส หิ ‘‘อยํ นาม ธมฺโม ตยา อนภิสมฺพุทฺโธ’’ติ โจทกํ ปุคฺคลํ วา โจทนาการณํ อนภิสมฺพุทฺธธมฺมํ วา อปสฺสโต ‘‘สภาวพุทฺโธเยว วต สมาโน อหํ พุทฺโธสฺมีติ วทามี’’ติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส พลวตรํ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, เตน สมฺปยุตฺตํ าณํ เวสารชฺชํ นาม. ตํ สนฺธาย ‘‘เขมปฺปตฺโต’’ติอาทิมาห. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อนฺตรายิกา ธมฺมาติ เอตฺถ ปน อนฺตรายํ กโรนฺตีติ อนฺตรายิกา. เต อตฺถโต สฺจิจฺจ วีติกฺกนฺตา สตฺต อาปตฺติกฺขนฺธา. สฺจิจฺจ วีติกฺกนฺตํ หิ อนฺตมโส ทุกฺกฏทุพฺภาสิตมฺปิ มคฺคผลานํ อนฺตรายํ กโรติ. อิธ ปน เมถุนธมฺโม อธิปฺเปโต. เมถุนํ เสวโต หิ ยสฺส กสฺสจิ นิสฺสํสยเมว มคฺคผลานํ อนฺตราโย โหติ.
ยสฺส โข ปน เต อตฺถายาติ ราคกฺขยาทีสุ ยสฺส อตฺถาย. ธมฺโม เทสิโตติ อสุภภาวนาทิธมฺโม กถิโต. ตตฺร วต มนฺติ ตสฺมึ อนิยฺยานิกธมฺเม มํ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
วาทปถาติ ¶ วาทาเยว. ปุถูติ พหู. สิตาติ ¶ อุปนิพทฺธา อภิสงฺขตา. อถ วา ปุถุสฺสิตาติ ปุถุภาวํ สิตา อุปคตา, ปุถูหิ วา สิตาติปิ ปุถุสฺสิตา. ยํ นิสฺสิตาติ เอตรหิปิ ยํ วาทปถํ นิสฺสิตา. น เต ภวนฺตีติ เต วาทปถา น ภวนฺติ ภิชฺชนฺติ วินสฺสนฺติ. ธมฺมจกฺกนฺติ เทสนาาณสฺสปิ ปฏิเวธาณสฺสปิ เอตํ นามํ. เตสุ เทสนาาณํ โลกิยํ, ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ. เกวลีติ สกลคุณสมนฺนาคโต. ตาทิสนฺติ ตถาวิธํ.
๙. ตณฺหุปฺปาทสุตฺตวณฺณนา
๙. นวเม ¶ อุปฺปชฺชติ เอเตสูติ อุปฺปาทา. กา อุปฺปชฺชติ? ตณฺหา. ตณฺหาย อุปฺปาทา ตณฺหุปฺปาทา, ตณฺหาวตฺถูนิ ตณฺหาการณานีติ อตฺโถ. จีวรเหตูติ ‘‘กตฺถ มนาปํ จีวรํ ลภิสฺสามี’’ติ จีวรการณา อุปฺปชฺชติ. อิติภวาภวเหตูติ เอตฺถ อิตีติ นิทสฺสนตฺเถ นิปาโต. ยถา จีวราทิเหตุ, เอวํ ภวาภวเหตุปีติ อตฺโถ. ภวาภโวติ เจตฺถ ปณีตตรานิ สปฺปินวนีตาทีนิ อธิปฺเปตานิ. สมฺปตฺติภเวสุ ปณีตตรปณีตตมภโวติปิ วทนฺติเยว.
ตณฺหาทุติโยติ อยฺหิ สตฺโต อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ สํสรนฺโต น เอกโกว สํสรติ, ตณฺหํ ปน ทุติยิกํ ลภนฺโตว สํสรติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตณฺหาทุติโย’’ติ. อิตฺถภาวฺถาภาวนฺติ ¶ เอตฺถ อิตฺถภาโว นาม อยํ อตฺตภาโว, อฺถาภาโว นาม อนาคตตฺตภาโว. เอวรูโป วา อฺโปิ อตฺตภาโว อิตฺถภาโว นาม, น เอวรูโป อฺถาภาโว นาม. ตํ อิตฺถภาวฺถาภาวํ. สํสารนฺติ ขนฺธธาตุอายตนานํ ปฏิปาฏึ. นาติวตฺตตีติ นาติกฺกมติ. เอวมาทีนวํ ตฺวาติ เอวํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ ขนฺเธสุ อาทีนวํ ชานิตฺวา. ตณฺหํ ทุกฺขสฺส สมฺภวนฺติ ตณฺหํ จ ‘‘อยํ วฏฺฏทุกฺขสมฺภูโต สภาโว การณ’’นฺติ เอวํ ชานิตฺวา. เอตฺตาวตา อิมสฺส ภิกฺขุโน วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตภาโว ทสฺสิโต. อิทานิ ตํ ขีณาสวํ โถเมนฺโต วีตตณฺโหติอาทิมาห. ตตฺถ อนาทาโนติ นิคฺคหโณ. สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเชติ สติสมฺปชฺเ เวปุลฺลปฺปตฺโต ขีณาสโว ภิกฺขุ สโต สมฺปชาโน จเรยฺย วิหเรยฺยาติ อตฺโถ. อิติ สุตฺตนฺเต วฏฺฏํ กเถตฺวา คาถาสุ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตนฺติ.
๑๐. โยคสุตฺตวณฺณนา
๑๐. ทสเม ¶ วฏฺฏสฺมึ โยเชนฺตีติ โยคา. กามโยโคติอาทีสุ ปฺจกามคุณิโก ราโค กามโยโค. รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค ภวโยโค, ตถา ฌานนิกนฺติ. สสฺสตทิฏฺิสหคโต จ ราโค ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย จ ทิฏฺิโยโค. จตูสุ สจฺเจสุ อฺาณํ อวิชฺชาโยโค. กาเมสุ วา โยเชตีติ กามโยโค. ภเวสุ โยเชตีติ ¶ ภวโยโค. ทิฏฺีสุ โยเชตีติ ทิฏฺิโยโค. อวิชฺชาย โยเชตีติ อวิชฺชาโยโคติ เหฏฺา วุตฺตธมฺมานํเยเวตํ อธิวจนํ.
อิทานิ ¶ เต วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต กตโม จ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ สมุทยนฺติ อุปฺปตฺตึ. อตฺถงฺคมนฺติ เภทํ. อสฺสาทนฺติ มธุรภาวํ. อาทีนวนฺติ อมธุรภาวํ โทสํ. นิสฺสรณนฺติ นิสฺสฏภาวํ. กาเมสูติ วตฺถุกาเมสุ. กามราโคติ กาเม อารพฺภ อุปฺปนฺนราโค. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อนุเสตีติ นิพฺพตฺตติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กามโยโคติ, ภิกฺขเว, อิทํ กาเมสุ โยชนการณํ พนฺธนการณํ วุจฺจตีติ เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ผสฺสายตนานนฺติ จกฺขาทีนํ จกฺขุสมฺผสฺสาทิการณานํ. อวิชฺชา อฺาณนฺติ าณปฏิปกฺขภาเวน อฺาณสงฺขาตา อวิชฺชา. อิติ กามโยโคติ เอตฺถ อิติ สทฺโท จตูหิปิ โยเคหิ สทฺธึ โยเชตพฺโพ ‘‘เอวํ กามโยโค, เอวํ ภวโยโค’’ติ. สํยุตฺโตติ ปริวาริโต. ปาปเกหีติ ลามเกหิ. อกุสเลหีติ อโกสลฺลสมฺภูเตหิ. สํกิเลสิเกหีติ สํกิเลสนเกหิ, ปสนฺนสฺส จิตฺตสฺส ปสนฺนภาวทูสเกหีติ อตฺโถ. โปโนพฺภวิเกหีติ ปุนพฺภวนิพฺพตฺตเกหิ. สทเรหีติ สทรเถหิ. ทุกฺขวิปาเกหีติ วิปากกาเล ทุกฺขุปฺปาทเกหิ. อายตึ ชาติชรามรณิเกหีติ อนาคเต ปุนปฺปุนํ ชาติชรามรณนิพฺพตฺตเกหิ. ตสฺมา ¶ อโยคกฺเขมีติ วุจฺจตีติ ยสฺมา อปฺปหีนโยโค ปุคฺคโล เอเตหิ ธมฺเมหิ สมฺปยุตฺโต โหติ, ตสฺมา จตูหิ โยเคหิ เขมํ นิพฺพานํ อนธิคตตฺตา น โยคกฺเขมีติ วุจฺจติ.
วิสํโยโคติ วิสํโยชนการณานิ. กามโยควิสํโยโคติ กามโยคโต วิสํโยชนการณํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อสุภชฺฌานํ กามโยควิสํโยโค, ตํ ปาทกํ กตฺวา อธิคโต อนาคามิมคฺโค เอกนฺเตเนว กามโยควิสํโยโค นาม. อรหตฺตมคฺโค ภวโยควิสํโยโค นาม, โสตาปตฺติมคฺโค ทิฏฺิโยควิสํโยโค ¶ นาม, อรหตฺตมคฺโค อวิชฺชาโยควิสํโยโค ¶ นาม. อิทานิ เต วิตฺถารวเสน ทสฺเสนฺโต กตโม จ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
ภวโยเคน จูภยนฺติ ภวโยเคน จ สํยุตฺตา, กิฺจิ ภิยฺโย อุภเยนาปิ สมฺปยุตฺตา, เยน เกนจิ โยเคน สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. ปุรกฺขตาติ ปุรโต กตา, ปริวาริตา วา. กาเม ปริฺายาติ ทุวิเธปิ กาเม ปริชานิตฺวา. ภวโยคฺจ สพฺพโสติ ภวโยคฺจ สพฺพเมว ปริชานิตฺวา. สมูหจฺจาติ สมูหนิตฺวา. วิราชยนฺติ วิราเชนฺโต, วิราเชตฺวา วา. ‘‘วิราเชนฺโต’’ติ หิ วุตฺเต มคฺโค กถิโต โหติ, ‘‘วิราเชตฺวา’’ติ วุตฺเต ผลํ. มุนีติ ขีณาสวมุนิ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเตปิ คาถาสุปิ วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตนฺติ.
ภณฺฑคามวคฺโค ปโม.