📜

๓. อุรุเวลวคฺโค

๑. ปมอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา

๒๑. ตติยสฺส ปเม อุรุเวลายนฺติ เอตฺถ อุรุเวลาติ มหาเวลา, มหาวาลิกราสีติ อตฺโถ. อถ วา อุรูติ วาลุกา วุจฺจติ, เวลาติ มริยาทา. เวลาติกฺกมนเหตุ อาหฏา อุรุ อุรุเวลาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อตีเต กิร อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ทสสหสฺสา กุลปุตฺตา ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ตสฺมึ ปเทเส วิหรนฺตา เอกทิวสํ สนฺนิปติตฺวา กติกวตฺตํ อกํสุ – ‘‘กายกมฺมวจีกมฺมานิ นาม ปเรสมฺปิ ปากฏานิ โหนฺติ, มโนกมฺมํ ปน อปากฏํ. ตสฺมา โย กามวิตกฺกํ วา พฺยาปาทวิตกฺกํ วา วิหึสาวิตกฺกํ วา วิตกฺเกติ, ตสฺส อฺโ โจทโก นาม นตฺถิ. โส อตฺตนาว อตฺตานํ โจเทตฺวา ปตฺตปุเฏน วาลุกํ อาหริตฺวา อิมสฺมึ าเน อากิรตุ, อิทมสฺส ทณฺฑกมฺม’’นฺติ. ตโต ปฏฺาย โย ตาทิสํ วิตกฺกํ วิตกฺเกติ, โส ตตฺถ ปตฺตปุเฏน วาลุกํ อากิรติ, เอวํ ตตฺถ อนุกฺกเมน มหาวาลุกราสิ ชาโต. ตโต นํ ปจฺฉิมา ชนตา ปริกฺขิปิตฺวา เจติยฏฺานมกาสิ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อุรุเวลาติ มหาเวลา, มหาวาลิกราสีติ อตฺโถ’’ติ. ตเมว สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อถ วา อุรูติ วาลุกา วุจฺจติ, เวลาติ มริยาทา, เวลาติกฺกมนเหตุ อาหฏา อุรุ อุรุเวลาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ.

นชฺชา เนรฺชราย ตีเรติ อุรุเวลคามํ นิสฺสาย เนรฺชรานทีตีเร วิหรามีติ ทสฺเสติ. อชปาลนิคฺโรเธติ อชปาลกา ตสฺส นิคฺโรธสฺส ฉายาย นิสีทนฺติปิ ติฏฺนฺติปิ, ตสฺมา โส อชปาลนิคฺโรโธตฺเวว สงฺขํ คโต, ตสฺส เหฏฺาติ อตฺโถ. ปมาภิสมฺพุทฺโธติ สมฺพุทฺโธ หุตฺวา ปมเมว. อุทปาทีติ อยํ วิตกฺโก ปฺจเม สตฺตาเห อุทปาทิ. กสฺมา อุทปาทีติ? สพฺพพุทฺธานํ อาจิณฺณตฺตา เจว ปุพฺพาเสวนตาย จ. ตตฺถ ปุพฺพาเสวนาย ปกาสนตฺถํ ติตฺติรชาตกํ อาหริตพฺพํ. หตฺถิวานรติตฺติรา กิร เอกสฺมึ ปเทเส วิหรนฺตา ‘‘โย อมฺหากํ มหลฺลโก, ตสฺมึ สคารวา วิหริสฺสามา’’ติ นิคฺโรธํ ทสฺเสตฺวา ‘‘โก นุ โข อมฺหากํ มหลฺลโก’’ติ วีมํสนฺตา ติตฺติรสฺส มหลฺลกภาวํ ตฺวา ตสฺส เชฏฺาปจายนกมฺมํ กตฺวา อฺมฺํ สมคฺคา สมฺโมทมานา วิหริตฺวา สคฺคปรายณา อเหสุํ. ตํ การณํ ตฺวา รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา อิมํ คาถมาห –

‘‘เย วุฑฺฒมปจายนฺติ, นรา ธมฺมสฺส โกวิทา;

ทิฏฺเว ธมฺเม ปาสํสา, สมฺปราเย จ สุคฺคตี’’ติ. (ชา. ๑.๑.๓๗);

เอวํ อเหตุกติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺโตปิ ตถาคโต สคารววาสํ โรเจสิ, อิทานิ กสฺมา น โรเจสฺสตีติ. อคารโวติ อฺสฺมึ คารวรหิโต, กฺจิ ครุฏฺาเน อฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ. อปฺปติสฺโสติ ปติสฺสยรหิโต, กฺจิ เชฏฺกฏฺาเน อฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ. สมณํวา พฺราหฺมณํ วาติ เอตฺถ สมิตปาปพาหิตปาปาเยว สมณพฺราหฺมณา อธิปฺเปตา. สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวาติ สกฺการฺเจว กตฺวา ครุการฺจ อุปฏฺเปตฺวา.

สเทวเก โลเกติอาทีสุ สทฺธึ เทเวหิ สเทวเก. เทวคฺคหเณน เจตฺถ มารพฺรหฺเมสุ คหิเตสุปิ มาโร นาม วสวตฺตี สพฺเพสํ อุปริ วสํ วตฺเตติ, พฺรหฺมา นาม มหานุภาโว, เอกงฺคุลิยา เอกสฺมึ จกฺกวาฬสหสฺเส อาโลกํ ผรติ, ทฺวีหิ ทฺวีสุ, ทสหิ องฺคุลีหิ ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ อาโลกํ ผรติ. โส อิมินา สีลสมฺปนฺนตโรติ วตฺตุํ มา ลภนฺตูติ สมารเก สพฺรหฺมเกติ วิสุํ วุตฺตํ. ตถา สมณา นาม เอกนิกายาทิวเสน พหุสฺสุตา สีลวนฺโต ปณฺฑิตา, พฺราหฺมณาปิ วตฺถุวิชฺชาทิวเสน พหุสฺสุตา ปณฺฑิตา. เต อิมินา สมฺปนฺนตราติ วตฺตุํ มา ลภนฺตูติ สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชายาติ วุตฺตํ. สเทวมนุสฺสายาติ อิทํ ปน นิปฺปเทสโต ทสฺสนตฺถํ คหิตเมว คเหตฺวา วุตฺตํ. อปิเจตฺถ ปุริมานิ ตีณิ ปทานิ โลกวเสน วุตฺตานิ, ปจฺฉิมานิ ทฺเว ปชาวเสน. สีลสมฺปนฺนตรนฺติ สีเลน สมฺปนฺนตรํ, อธิกตรนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ สีลาทโย จตฺตาโร ธมฺมา โลกิยโลกุตฺตรา กถิตา, วิมุตฺติาณทสฺสนํ โลกิยเมว. ปจฺจเวกฺขณาณเมว เหตํ. ปาตุรโหสีติ ‘‘อยํ สตฺถา อวีจิโต ยาว ภวคฺคา สีลาทีหิ อตฺตนา อธิกตรํ อปสฺสนฺโต ‘มยา ปฏิวิทฺธนวโลกุตฺตรธมฺมเมว สกฺกตฺวา อุปนิสฺสาย วิหริสฺสามี’ติ จินฺเตติ, การณํ ภควา จินฺเตติ, อตฺถํ วุฑฺฒึ วิเสสํ จินฺเตติ, คจฺฉามิสฺส อุสฺสาหํ ชเนสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุรโต ปากโฏ อโหสิ, อภิมุเข อฏฺาสีติ อตฺโถ.

วิหํสุวิหรนฺติ จาติ เอตฺถ โย วเทยฺย – ‘‘วิหรนฺตีติ วจนโต ปจฺจุปฺปนฺเนปิ พหู พุทฺธา’’ติ, โส ‘‘ภควาปิ ภนฺเต เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ อิมินา วจเนน ปฏิพาหิตพฺโพ.

‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ;

สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล’’ติ. (มหาว. ๑๑; ม. นิ. ๒.๓๔๑) –

อาทีหิ จสฺส สุตฺเตหิ อฺเสํ พุทฺธานํ อภาโว ทีเปตพฺโพ. ตสฺมาติ ยสฺมา สพฺเพปิ พุทฺธา สทฺธมฺมครุโน, ตสฺมา. มหตฺตมภิกงฺขตาติ มหนฺตภาวํ ปตฺถยมาเนน. สรํ พุทฺธาน สาสนนฺติ พุทฺธานํ สาสนํ สรนฺเตน.

ยโตติ ยสฺมึ กาเล. มหตฺเตน สมนฺนาคโตติ รตฺตฺุมหตฺตํ เวปุลฺลมหตฺตํ พฺรหฺมจริยมหตฺตํ ลาภคฺคมหตฺตนฺติ อิมินา จตุพฺพิเธน มหตฺเตน สมนฺนาคโต. อถ เม สงฺเฆปิ คารโวติ อถ มยฺหํ สงฺเฆปิ คารโว ชาโต. กิสฺมึ ปน กาเล ภควตา สงฺเฆ คารโว กโตติ? มหาปชาปติยา ทุสฺสยุคทานกาเล. ตทา หิ ภควา อตฺตโน อุปนีตํ ทุสฺสยุคํ ‘‘สงฺเฆ, โคตมิ, เทหิ, สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปูชิโต ภวิสฺสามิ สงฺโฆ จา’’ติ วทนฺโต สงฺเฆ คารวํ อกาสิ นาม.

๒. ทุติยอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา

๒๒. ทุติเย สมฺพหุลาติ พหุกา. พฺราหฺมณาติ หุหุกฺกชาติเกน พฺราหฺมเณน สทฺธึ อาคตา พฺราหฺมณา. ชิณฺณาติ ชราชิณฺณา. วุฑฺฒาติ วโยวุทฺธา. มหลฺลกาติ ชาติมหลฺลกา. อทฺธคตาติ ตโย วเย อทฺเธ อติกฺกนฺตา. สุตเมตนฺติ อมฺเหหิ สุตํ เอตํ. ตยิทํ โภ, โคตม, ตเถวาติ โภ, โคตม, เอตํ อมฺเหหิ สุตการณํ ตถา เอว. ตยิทํ โภ, โคตม, น สมฺปนฺนเมวาติ ตํ เอตํ อภิวาทนาทิอกรณํ อนนุจฺฉวิกเมว.

อกาลวาทีติอาทีสุ อกาเล วทตีติ อกาลวาที. อสภาวํ วทตีติ อภูตวาที. อนตฺถํ วทติ, โน อตฺถนฺติ อนตฺถวาที. อธมฺมํ วทติ, โน ธมฺมนฺติ อธมฺมวาที. อวินยํ วทติ , โน วินยนฺติ อวินยวาที. อนิธานวตึ วาจํ ภาสิตาติ น หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ วาจํ ภาสิตา. อกาเลนาติ กเถตุํ อยุตฺตกาเลน. อนปเทสนฺติ อปเทสรหิตํ, สาปเทสํ สการณํ กตฺวา น กเถติ. อปริยนฺตวตินฺติ ปริยนฺตรหิตํ, น ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา กเถติ. อนตฺถสํหิตนฺติ น โลกิยโลกุตฺตรอตฺถนิสฺสิตํ กตฺวา กเถติ. พาโล เถโรตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตีติ อนฺธพาโล เถโรติ สงฺขํ คจฺฉติ.

กาลวาทีติอาทีนิ วุตฺตปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพานิ. ปณฺฑิโต เถโรตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตีติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตตฺตา ปณฺฑิโต, ถิรภาวปฺปตฺติยา เถโรติ สงฺขํ คจฺฉติ.

พหุสฺสุโต โหตีติ พหุํ อสฺส สุตํ โหติ, นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ ปาฬิอนุสนฺธิปุพฺพาปรวเสน อุคฺคหิตํ โหตีติ อตฺโถ. สุตธโรติ สุตสฺส อาธารภูโต. ยสฺส หิ อิโต คหิตํ อิโต ปลายติ, ฉิทฺทฆเฏ อุทกํ วิย น ติฏฺติ, ปริสมชฺเฌ เอกสุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถตุํ วา วาเจตุํ วา น สกฺโกติ, อยํ น สุตธโร นาม. ยสฺส ปน อุคฺคหิตํ พุทฺธวจนํ อุคฺคหิตกาลสทิสเมว โหติ, ทสปิ วีสติปิ วสฺสานิ สชฺฌายํ อกโรนฺตสฺส เนว นสฺสติ, อยํ สุตธโร นาม. สุตสนฺนิจโยติ สุตสฺส สนฺนิจยภูโต. ยสฺส หิ สุตํ หทยมฺชูสาย สนฺนิจิตํ สิลาย เลขา วิย สุวณฺณปตฺเต ปกฺขิตฺตสีหวสา วิย จ ติฏฺติ, อยํ สุตสนฺนิจโย นาม. ธาตาติ ธาตา ปคุณา. เอกจฺจสฺส หิ อุคฺคหิตพุทฺธวจนํ ธาตํ ปคุณํ นิจฺจลิกํ น โหติ, ‘‘อสุกํ สุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถหี’’ติ วุตฺเต ‘‘สชฺฌายิตฺวา สํสนฺทิตฺวา สมนุคฺคาหิตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ วทติ. เอกจฺจสฺส ธาตํ ปคุณํ ภวงฺคโสตสทิสํ โหติ, ‘‘อสุกํ สุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถหี’’ติ วุตฺเต อุทฺธริตฺวา ตเมว กเถติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ธาตา’’ติ. วจสาปริจิตาติ สุตฺตทสก-วคฺคทสกปณฺณาสทสกวเสน วาจาย สชฺฌายิตา. มนสานุเปกฺขิตาติ จิตฺเตน อนุเปกฺขิตา. ยสฺส วาจาย สชฺฌายิตํ พุทฺธวจนํ มนสา จินฺเตนฺตสฺส ตตฺถ ตตฺถ ปากฏํ โหติ, มหาทีปํ ชาเลตฺวา ิตสฺส รูปคตํ วิย ปฺายติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธาติ อตฺถโต จ การณโต จ ปฺาย สุปฺปฏิวิทฺธา.

อาภิเจตสิกานนฺติ อภิเจโตติ อภิกฺกนฺตํ วิสุทฺธํ จิตฺตํ วุจฺจติ, อธิจิตฺตํ วา, อภิเจตสิ ชาตานิ อาภิเจตสิกานิ, อภิเจโตสนฺนิสฺสิตานีติ วา อาภิเจตสิกานิ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานนฺติ ทิฏฺธมฺเม สุขวิหารานํ. ทิฏฺธมฺโมติ ปจฺจกฺโข อตฺตภาโว วุจฺจติ, ตตฺถ สุขวิหารภูตานนฺติ อตฺโถ. รูปาวจรชฺฌานานเมตํ อธิวจนํ. ตานิ หิ อปฺเปตฺวา นิสินฺนา ฌายิโน อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว อสํกิลิฏฺเนกฺขมฺมสุขํ วินฺทนฺติ, ตสฺมา ‘‘ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานี’’ติ วุจฺจติ. นิกามลาภีติ นิกาเมน ลาภี, อตฺตโน อิจฺฉาวเสน ลาภี, อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปชฺชิตุํ สมตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. อกิจฺฉลาภีติ สุเขเนว ปจฺจนีกธมฺเม วิกฺขมฺเภตฺวา สมาปชฺชิตุํ สมตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. อกสิรลาภีติ อกสิรานํ ลาภี วิปุลานํ, ยถาปริจฺเฉเทน วุฏฺาตุํ สมตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. เอกจฺโจ หิ ลาภีเยว โหติ, น ปน อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สกฺโกติ สมาปชฺชิตุํ. เอกจฺโจ สกฺโกติ ตถาสมาปชฺชิตุํ, ปาริปนฺถิเก จ ปน กิจฺเฉน วิกฺขมฺเภติ. เอกจฺโจ ตถา จ สมาปชฺชติ, ปาริปนฺถิเก จ อกิจฺเฉเนว วิกฺขมฺเภติ, น สกฺโกติ นาฬิกยนฺตํ วิย ยถาปริจฺเฉเทเยว วุฏฺาตุํ. ยสฺส ปน อยํ ติวิธาปิ สมฺปทา อตฺถิ, โส ‘‘อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี’’ติ วุจฺจติ. อาสวานํ ขยาติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. เอวมิธ สีลมฺปิ พาหุสจฺจมฺปิ ขีณาสวสฺเสว สีลํ พาหุสจฺจฺจ, ฌานานิปิ ขีณาสวสฺเสว วฬฺชนกชฺฌานานิ กถิตานิ. ‘‘อาสวานํ ขยา’’ติอาทีหิ ปน อรหตฺตํ กถิตํ. ผเลน เจตฺถ มคฺคกิจฺจํ ปกาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อุทฺธเตนาติ อุทฺธจฺจสหคเตน. สมฺผนฺติ ปลาปกถํ. อสมาหิตสงฺกปฺโปติ อฏฺปิตสงฺกปฺโป. มโคติ มคสทิโส. อาราติ ทูเร. ถาวเรยฺยมฺหาติ ถาวรภาวโต. ปาปทิฏฺีติ ลามกทิฏฺิ. อนาทโรติ อาทรรหิโต. สุตวาติ สุเตน อุปคโต. ปฏิภานวาติ ทุวิเธน ปฏิภาเนน สมนฺนาคโต. ปฺายตฺถํ วิปสฺสตีติ สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺาย จตุนฺนํ สจฺจานํ อตฺถํ วินิวิชฺฌิตฺวา ปสฺสติ. ปารคู สพฺพธมฺมานนฺติ สพฺเพสํ ขนฺธาทิธมฺมานํ ปารํ คโต, อภิฺาปารคู, ปริฺาปารคู, ปหานปารคู, ภาวนาปารคู, สจฺฉิกิริยาปารคู, สมาปตฺติปารคูติ เอวํ ฉพฺพิเธน ปารคมเนน สพฺพธมฺมานํ ปารํ ปริโยสานํ คโต. อขิโลติ ราคขิลาทิวิรหิโต. ปฏิภานวาติ ทุวิเธเนว ปฏิภาเนน สมนฺนาคโต. พฺรหฺมจริยสฺส เกวลีติ สกลพฺรหฺมจริโย. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

๓. โลกสุตฺตวณฺณนา

๒๓. ตติเย โลโกติ ทุกฺขสจฺจํ. อภิสมฺพุทฺโธติ าโต ปจฺจกฺโข กโต. โลกสฺมาติ ทุกฺขสจฺจโต. ปหีโนติ มหาโพธิมณฺเฑ อรหตฺตมคฺคาเณน ปหีโน. ตถาคตสฺส ภาวิตาติ ตถาคเตน ภาวิตา.

เอวํ เอตฺตเกน าเนน จตูหิ สจฺเจหิ อตฺตโน พุทฺธภาวํ กเถตฺวา อิทานิ ตถาคตภาวํ กเถตุํ ยํ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ ทิฏฺนฺติ รูปายตนํ. สุตนฺติ สทฺทายตนํ. มุตนฺติ ปตฺวา คเหตพฺพโต คนฺธายตนํ รสายตนํ โผฏฺพฺพายตนํ. วิฺาตนฺติ สุขทุกฺขาทิ ธมฺมารมฺมณํ. ปตฺตนฺติ ปริเยสิตฺวา วา อปริเยสิตฺวา วา ปตฺตํ. ปริเยสิตนฺติ ปตฺตํ วา อปฺปตฺตํ วา ปริเยสิตํ. อนุวิจริตํ มนสาติ จิตฺเตน อนุสฺจริตํ.

ตถาคเตนอภิสมฺพุทฺธนฺติ อิมินา เอตํ ทสฺเสติ – ยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส นีลํ ปีตกนฺติอาทิ รูปารมฺมณํ จกฺขุทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, ‘‘อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม รูปารมฺมณํ ทิสฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโต’’ติ สพฺพํ ตถาคตสฺส เอวํ อภิสมฺพุทฺธํ. ตถา ยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส เภริสทฺโท มุทิงฺคสทฺโทติอาทิ สทฺทารมฺมณํ โสตทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, มูลคนฺโธ ตจคนฺโธติอาทิ คนฺธารมฺมณํ ฆานทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, มูลรโส ขนฺธรโสติอาทิ รสารมฺมณํ ชิวฺหาทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, กกฺขฬํ มุทุกนฺติอาทิ ปถวีธาตุเตโชธาตุวาโยธาตุเภทํ โผฏฺพฺพารมฺมณํ กายทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, ‘‘อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม โผฏฺพฺพารมฺมณํ ผุสิตฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโต’’ติ สพฺพํ ตถาคตสฺส เอวํ อภิสมฺพุทฺธํ. ตถา ยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส สุขทุกฺขาทิเภทํ ธมฺมารมฺมณํ มโนทฺวารสฺส อาปาถํ อาคจฺฉติ, ‘‘อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม ธมฺมารมฺมณํ วิชานิตฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโต’’ติ สพฺพํ ตถาคตสฺส เอวํ อภิสมฺพุทฺธํ. ยฺหิ, ภิกฺขเว, อิเมสํ สพฺพสตฺตานํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ, ตตฺถ ตถาคเตน อทิฏฺํ วา อสุตํ วา อมุตํ วา อวิฺาตํ วา นตฺถิ, อิมสฺส ปน มหาชนสฺส ปริเยสิตฺวา อปฺปตฺตมฺปิ อตฺถิ, อปริเยสิตฺวา อปฺปตฺตมฺปิ อตฺถิ, ปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อตฺถิ, อปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อตฺถิ, สพฺพมฺปิ ตถาคตสฺส อปฺปตฺตํ นาม นตฺถิ าเณน อสจฺฉิกตํ.

ตสฺมา ตถาคโตติ วุจฺจตีติ ยํ ยถา โลเกน คตํ, ตสฺส ตเถว คตตฺตา ตถาคโตติ วุจฺจติ . ปาฬิยํ ปน ‘‘อภิสมฺพุทฺธ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ คตสทฺเทน เอกตฺถํ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ ตถาคโตติ นิคมสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตสฺส ยุตฺติ เอกปุคฺคลวณฺณนายํ ตถาคตสทฺทวิตฺถาเร วุตฺตาเยว. อปิเจตฺถ อฺทตฺถูติ เอกํสตฺเถ นิปาโต. ทกฺขตีติ ทโส. วสํ วตฺเตตีติ วสวตฺตี.

สพฺพํ โลกํ อภิฺาติ เตธาตุกํ โลกสนฺนิวาสํ ชานิตฺวา. สพฺพํ โลเก ยถาตถนฺติ ตสฺมึ เตธาตุกโลกสนฺนิวาเส ยํกิฺจิ เนยฺยํ, สพฺพํ ตํ ยถาตถํ อวิปรีตํ ชานิตฺวา. วิสํยุตฺโตติ จตุนฺนํ โยคานํ ปหาเนน วิสํยุตฺโต. อนูปโยติ ตณฺหาทิฏฺิอุปเยหิ วิรหิโต. สพฺพาภิภูติ รูปาทีนิ สพฺพารมฺมณานิ อภิภวิตฺวา ิโต. ธีโรติ ธิติสมฺปนฺโน. สพฺพคนฺถปฺปโมจโนติ สพฺเพ จตฺตาโรปิ คนฺเถ โมเจตฺวา ิโต. ผุฏฺสฺสาติ ผุฏฺา อสฺส. อิทฺจ กรณตฺเถ สามิวจนํ. ปรมา สนฺตีติ นิพฺพานํ. ตฺหิ เตน าณผุสเนน ผุฏฺํ. เตเนวาห – นิพฺพานํ อกุโตภยนฺติ. อถ วา ปรมาสนฺตีติ อุตฺตมา สนฺติ. กตรา สาติ? นิพฺพานํ. ยสฺมา ปน นิพฺพาเน กุโตจิ ภยํ นตฺถิ, ตสฺมา ตํ อกุโตภยนฺติ วุจฺจติ. วิมุตฺโต อุปธิสงฺขเยติ อุปธิสงฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน ตทารมฺมณาย ผลวิมุตฺติยา วิมุตฺโต. สีโห อนุตฺตโรติ ปริสฺสยานํ สหนฏฺเน กิเลสานฺจ หึสนฏฺเน ตถาคโต อนุตฺตโร สีโห นาม. พฺรหฺมนฺติ เสฏฺํ. อิตีติ เอวํ ตถาคตสฺส คุเณ ชานิตฺวา. สงฺคมฺมาติ สมาคนฺตฺวา. ตํ นมสฺสนฺตีติ ตํ ตถาคตํ เต สรณํ คตา นมสฺสนฺติ. อิทานิ ยํ วทนฺตา เต นมสฺสนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ทนฺโตติอาทิ วุตฺตํ. ตํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

๔. กาฬการามสุตฺตวณฺณนา

๒๔. จตุตฺถํ อตฺถุปฺปตฺติยํ นิกฺขิตฺตํ. กตราย อตฺถุปฺปตฺติยนฺติ? ทสพลคุณกถาย. อนาถปิณฺฑิกสฺส กิร ธีตา จูฬสุภทฺทา ‘‘สาเกตนคเร กาฬกเสฏฺิปุตฺตสฺส เคหํ คจฺฉิสฺสามี’’ติ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อหํ มิจฺฉาทิฏฺิกกุลํ คจฺฉามิ. สเจ ตตฺถ สกฺการํ ลภิสฺสามิ, เอกสฺมึ ปุริเส เปสิยมาเน ปปฺโจ ภวิสฺสติ, มํ อาวชฺเชยฺยาถ ภควา’’ติ ปฏิฺํ คเหตฺวา อคมาสิ. เสฏฺิ ‘‘สุณิสา เม อาคตา’’ติ มงฺคลํ กโรนฺโตว พหุํ ขาทนียโภชนียํ ปฏิยาเทตฺวา ปฺจ อเจลกสตานิ นิมนฺเตสิ. โส เตสุ นิสินฺเนสุ ‘‘ธีตา เม อาคนฺตฺวา อรหนฺเต วนฺทตู’’ติ จูฬสุภทฺทาย เปเสสิ. อาคตผลา อริยสาวิกา อรหนฺเตติ วุตฺตมตฺเตเยว ‘‘ลาภา วต เม’’ติ อุฏฺหิตฺวา คตา เต นิสฺสิริกทสฺสเน อเจลเก ทิสฺวาว ‘‘สมณา นาม น เอวรูปา โหนฺติ, ตาต, เยสํ เนว อชฺฌตฺตํ หิรี, น พหิทฺธา โอตฺตปฺปํ อตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘น อิเม สมณา, ธีธี’’ติ เขฬํ ปาเตตฺวา นิวตฺติตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานเมว คตา.

ตโต อเจลกา ‘‘มหาเสฏฺิ กุโต เต เอวรูปา กาลกณฺณี ลทฺธา, กึ สกลชมฺพุทีเป อฺา ทาริกา นตฺถี’’ติ เสฏฺึ ปริภาสึสุ. โส ‘‘อาจริยา ชานิตฺวา วา กตํ โหตุ อชานิตฺวา วา, อหเมตฺถ ชานิสฺสามี’’ติ อเจลเก อุยฺโยเชตฺวา สุภทฺทาย สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อมฺม, กสฺมา เอวรูปํ อกาสิ, กสฺมา อรหนฺเต ลชฺชาเปสี’’ติ อาห. ตาต, อรหนฺตา นาม เอวรูปา น โหนฺตีติ. อถ นํ โส อาห –

‘‘กีทิสา สมณา ตุยฺหํ, พาฬฺหํ โข เน ปสํสสิ;

กึสีลา กึสมาจารา, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิตา’’ติ.

สา อาห –

‘‘สนฺตินฺทฺริยา สนฺตมนา, สนฺตเตชา คุณมคฺคสณฺิตา;

โอกฺขิตฺตจกฺขู มิตภาณี, ตาทิสา สมณา มม.

‘‘วสนฺติ วนโมคยฺห, นาโค เฉตฺวาว พนฺธนํ;

เอกกิยา อทุติยา, ตาทิสา สมณา มมา’’ติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา เสฏฺิสฺส ปุเร ตฺวา ติณฺณํ รตนานํ คุณํ กเถสิ. เสฏฺิ ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘ยทิ เอวํ, ตว สมเณ อาเนตฺวา มงฺคลํ กโรมา’’ติ. สา ปุจฺฉิ ‘‘กทา กริสฺสถ, ตาตา’’ติ. เสฏฺิ จินฺเตสิ – ‘‘กติปาหจฺจเยนาติ วุตฺเต เปเสตฺวา ปกฺโกสาเปยฺยา’’ติ. อถ นํ ‘‘สฺเว อมฺมา’’ติ อาห. สา สายนฺหสมเย อุปริปาสาทํ อารุยฺห มหนฺตํ ปุปฺผสมุคฺคํ คเหตฺวา สตฺถุ คุเณ อนุสฺสริตฺวา อฏฺ ปุปฺผมุฏฺิโย ทสพลสฺส วิสฺสชฺเชตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห นมสฺสมานา อฏฺาสิ. เอวฺจ อวจ – ‘‘ภควา สฺเว ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ มยฺหํ ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ. ตานิ ปุปฺผานิ คนฺตฺวา ทสพลสฺส มตฺถเก วิตานํ หุตฺวา อฏฺํสุ. สตฺถา อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ อทฺทส. ธมฺมเทสนาปริโยสาเน อนาถปิณฺฑิกมหาเสฏฺิ ทสพลํ วนฺทิตฺวา ‘‘สฺเว, ภนฺเต, ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ มม เคเห ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ อาห. จูฬสุภทฺทาย นิมนฺติตมฺห เสฏฺีติ. น, ภนฺเต, กฺจิ อาคตํ ปสฺสามาติ. อาม, เสฏฺิ, สทฺธา ปน อุปาสิกา ทูเร โยชนสตมตฺถเกปิ โยชนสหสฺสมตฺถเกปิ ิตา หิมวนฺโต วิย ปฺายตีติ วตฺวา –

‘‘ทูเร สนฺโต ปกาเสนฺติ, หิมวนฺโตว ปพฺพโต;

อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ, รตฺตึ ขิตฺตา ยถา สรา’’ติ. (ธ. ป. ๓๐๔) –

อิมํ คาถมาห. อนาถปิณฺฑิโก ‘‘ภนฺเต, มม, ธีตุ สงฺคหํ กโรถา’’ติ วนฺทิตฺวา ปกฺกามิ.

สตฺถา อานนฺทตฺเถรํ อามนฺเตสิ – ‘‘อหํ, อานนฺท, สาเกตํ คมิสฺสามิ, ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ สลากํ เทหิ. ททนฺโต จ ฉฬภิฺานํเยว ทเทยฺยาสี’’ติ. เถโร ตถา อกาสิ. จูฬสุภทฺทา รตฺติภาคสมนนฺตเร จินฺเตสิ – ‘‘พุทฺธา นาม พหุกิจฺจา พหุกรณียา, มํ สลฺลกฺเขยฺย วา น วา, กึ นุ โข กริสฺสามี’’ติ. ตสฺมึ ขเณ เวสฺสวโณ มหาราชา จูฬสุภทฺทาย กเถสิ – ‘‘ภทฺเท, มา โข ตฺวํ วิมนา อโหสิ, มา ทุมฺมนา. อธิวุตฺถํ เต ภควตา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. สา ตุฏฺปหฏฺา ทานเมว สํวิทหิ. สกฺโกปิ โข เทวราชา วิสฺสกมฺมํ อามนฺเตสิ – ‘‘ตาต, ทสพโล จูฬสุภทฺทาย สนฺติกํ สาเกตนครํ คจฺฉิสฺสติ, ปฺจ กูฏาคารสตานิ มาเปหี’’ติ. โส ตถา อกาสิ. สตฺถา ปฺจหิ ฉฬภิฺสเตหิ ปริวุโต กูฏาคารยาเนน มณิวณฺณํ อากาสํ วิลิขนฺโต วิย สาเกตนครํ อคมาสิ.

สุภทฺทา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ ทตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา อาห – ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ สสุรปกฺโข มิจฺฉาทิฏฺิโก, สาธุ เตสํ อนุจฺฉวิกธมฺมํ กเถถา’’ติ. สตฺถา ธมฺมํ เทเสสิ. กาฬกเสฏฺิ โสตาปนฺโน หุตฺวา อตฺตโน อุยฺยานํ ทสพลสฺส อทาสิ. อเจลกา ‘‘อมฺหากํ ปมํ ทินฺน’’นฺติ นิกฺขมิตุํ น อิจฺฉนฺติ. ‘‘คจฺฉถ นีหริตพฺพนิยาเมน เต นีหรถา’’ติ สพฺเพ นีหราเปตฺวา ตตฺเถว สตฺถุ วิหารํ กาเรตฺวา พฺรหฺมเทยฺยํ กตฺวา อุทกํ ปาเตสิ . โส กาฬเกน การิตตาย กาฬการาโม นาม ชาโต. ภควา ตสฺมึ สมเย ตตฺถ วิหรติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สาเกเต วิหรติ กาฬการาเม’’ติ.

ภิกฺขู อามนฺเตสีติ ปฺจสเต ภิกฺขู อามนฺเตสิ. เต กิร สาเกตนครวาสิโน กุลปุตฺตา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อุปฏฺานสาลาย นิสินฺนา ‘‘อโห พุทฺธคุณา นาม มหนฺตา, เอวรูปํ นาม มิจฺฉาทิฏฺิกํ กาฬกเสฏฺึ ทิฏฺิโต โมเจตฺวา โสตาปตฺติผลํ ปาเปตฺวา สกลนครํ สตฺถารา เทวโลกสทิสํ กต’’นฺติ ทสพลสฺส คุณํ กเถนฺติ. สตฺถา เตสํ คุณํ กเถนฺตานํ จิตฺตํ อุปปริกฺขิตฺวา – ‘‘มยิ คเต มหตี เทสนา สมุฏฺิสฺสติ, เทสนาปริโยสาเน จ อิเม ปฺจสตา ภิกฺขู อรหตฺเต ปติฏฺหิสฺสนฺติ, มหาปถวี อุทกปริยนฺตํ กตฺวา กมฺปิสฺสตี’’ติ ธมฺมสภํ คนฺตฺวา ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสินฺโน เต ภิกฺขู อาทึ กตฺวา ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺสาติ อิมํ เทสนํ อารภิ. เอวมิทํ สุตฺตํ คุณกถาย นิกฺขิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ ‘‘ตมหํ ชานามี’’ติ ปทปริโยสาเน มหาปถวี อุทกปริยนฺตํ กตฺวา อกมฺปิตฺถ. อพฺภฺาสินฺติ อภิอฺาสึ, ชานินฺติ อตฺโถ. วิทิตนฺติ ปากฏํ กตฺวา าตํ. อิมินา เอตํ ทสฺเสติ – อฺเ ชานนฺติเยว, มยา ปน ปากฏํ กตฺวา วิทิตนฺติ. อิเมหิ ตีหิ ปเทหิ สพฺพฺุตภูมิ นาม กถิตา. ตํ ตถาคโต น อุปฏฺาสีติ ตํ ฉทฺวาริกํ อารมฺมณํ ตถาคโต ตณฺหาย วา ทิฏฺิยา วา น อุปฏฺาสิ น อุปคฺฉิ. อยฺหิ ปสฺสติ ภควา จกฺขุนา รูปํ, ฉนฺทราโค ภควโต นตฺถิ, สุวิมุตฺตจิตฺโต โส ภควา. สุณาติ ภควา โสเตน สทฺทํ. ฆายติ ภควา ฆาเนน คนฺธํ. สายติ ภควา ชิวฺหาย รสํ. ผุสติ ภควา กาเยน โผฏฺพฺพํ. วิชานาติ ภควา มนสา ธมฺมํ, ฉนฺทราโค ภควโต นตฺถิ, สุวิมุตฺตจิตฺโต โส ภควา. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตํ ตถาคโต น อุปฏฺาสี’’ติ. อิมินา ปเทน ขีณาสวภูมิ กถิตาติ เวทิตพฺพา.

ตํ มมสฺส มุสาติ ตํ เม วจนํ มุสาวาโท นาม ภเวยฺย. ตํ ปสฺส ตาทิสเมวาติ ตมฺปิ มุสาวาโท ภเวยฺย. ตํ มมสฺส กลีติ ตํ วจนํ มยฺหํ โทโส ภเวยฺยาติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา สจฺจภูมิ นาม กถิตาติ เวทิตพฺพา.

ทฏฺาทฏฺพฺพนฺติ ทิสฺวา ทฏฺพฺพํ. ทิฏฺํ น มฺตีติ ตํ ทิฏฺํ รูปายตนํ ‘‘อหํ มหาชเนน ทิฏฺเมว ปสฺสามี’’ติ ตณฺหามานทิฏฺีหิ น มฺติ. อทิฏฺํ น มฺตีติ ‘‘อหํ มหาชเนน อทิฏฺเมว เอตํ ปสฺสามี’’ติ เอวมฺปิ ตณฺหาทีหิ มฺนาหิ น มฺติ. ทฏฺพฺพํ น มฺตีติ ‘‘มหาชเนน ทิฏฺํ ปสฺสามี’’ติ เอวมฺปิ ตาหิ มฺนาหิ น มฺติ. ทฏฺพฺพฺหิ อทิฏฺมฺปิ โหติเยว. เอวรูปานิ หิ วจนานิ ตีสุปิ กาเลสุ ลพฺภนฺติ, เตนสฺส อตฺโถ วุตฺโต. ทฏฺารํน มฺตีติ ปสฺสิตารํ เอกสตฺตํ นาม ตาหิ มฺนาหิ น มฺตีติ อตฺโถ. เสสฏฺาเนสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมินา เอตฺตเกน าเนน สุฺตาภูมิ นาม กถิตา.

อิติ โข, ภิกฺขเวติ เอวํ โข, ภิกฺขเว. ตาทีเยว ตาทีติ ตาทิตา นาม เอกสทิสตา. ตถาคโต จ ยาทิโส ลาภาทีสุ, ตาทิโสว อลาภาทีสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ลาเภปิ ตาที, อลาเภปิ ตาที. ยเสปิ ตาที, อยเสปิ ตาที. นินฺทายปิ ตาที, ปสํสายปิ ตาที. สุเขปิ ตาที, ทุกฺเขปิ ตาที’’ติ (มหานิ. ๓๘, ๑๙๒). อิมาย ตาทิตาย ตาที. ตมฺหา จ ปน ตาทิมฺหาติ ตโต ตถาคตตาทิโต อฺโ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา ตาที นตฺถีติ เอตฺตาวตา ตาทิภูมิ นาม กถิตา. อิมาหิ ปฺจภูมีหิ เทสนํ นิฏฺาเปนฺตสฺส ปฺจสุปิ าเนสุ มหาปถวี สกฺขิภาเวน อกมฺปิตฺถ. เทสนาปริโยสาเน เต ปฺจสเต อธุนาปพฺพชิเต กุลปุตฺเต อาทึ กตฺวา ตํ านํ ปตฺตานํ เทวมนุสฺสานํ จตุราสีติ ปาณสหสฺสานิ อมตปานํ ปิวึสุ.

ภควาปิ สุตฺตํ นิฏฺาเปตฺวา คาถาหิ กูฏํ คณฺหนฺโต ยํกิฺจีติอาทิมาห. ตตฺถ อชฺโฌสิตํ สจฺจมุตํ ปเรสนฺติ ปเรสํ สทฺธาย ปรปตฺติยายนาย สจฺจมุตนฺติ มฺิตฺวา อชฺโฌสิตํ คิลิตฺวา ปรินิฏฺาเปตฺวา คหิตํ. สยสํวุเตสูติ สยเมว สํวริตฺวา ปิยายิตฺวา คหิตคหเณสุ, ทิฏฺิคติเกสูติ อตฺโถ. ทิฏฺิคติกา หิ สยํ สํวุตาติ วุจฺจนฺติ. สจฺจํ มุสา วาปิ ปรํ ทเหยฺยาติ เตสุ สยํ สํวุตสงฺขาเตสุ ทิฏฺิคติเกสุ ตถาคโต ตาที เตสํ เอกมฺปิ วจนํ ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ เอวํ สจฺจํ มุสา วาปิ ปรํ อุตฺตมํ กตฺวา น โอทเหยฺย, น สทฺทเหยฺย, น ปตฺติยาเยยฺย. เอตฺจ สลฺลนฺติ เอตํ ทิฏฺิสลฺลํ. ปฏิกจฺจ ทิสฺวาติ ปุเรตรํ โพธิมูเลเยว ทิสฺวา. วิสตฺตาติ ลคฺคา ลคิตา ปลิพุทฺธา. ชานามิ ปสฺสามิ ตเถว เอตนฺติ ยถายํ ปชา อชฺโฌสิตา คิลิตฺวา ปรินิฏฺาเปตฺวา วิสตฺตา ลคฺคา ลคิตา, เอวํ อหมฺปิ ชานามิ ปสฺสามิ. ตถา เอวํ ยถา เอตาย ปชาย คหิตนฺติ เอวํ อชฺโฌสิตํ นตฺถิ ตถาคตานนฺติ อตฺโถ.

๕. พฺรหฺมจริยสุตฺตวณฺณนา

๒๕. ปฺจเม ชนกุหนตฺถนฺติ ตีหิ กุหนวตฺถูหิ ชนสฺส กุหนตฺถาย. น ชนลปนตฺถนฺติ น ชนสฺส อุปลาปนตฺถํ. น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถนฺติ น จีวราทิถุติวจนตฺถํ. น อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสตฺถนฺติ น เตน เตน การเณน กตวาทานิสํสตฺถํ, น วาทสฺส ปโมกฺขานิสํสตฺถํ. น อิติ มํ ชโน ชานาตูติ น ‘‘เอวํ กิร เอส ภิกฺขุ, เอวํ กิร เอส ภิกฺขู’’ติ ชนสฺส ชานนตฺถาย. สํวรตฺถนฺติ ปฺจหิ สํวเรหิ สํวรณตฺถาย. ปหานตฺถนฺติ ตีหิ ปหาเนหิ ปชหนตฺถาย. วิราคตฺถนฺติ ราคาทีนํ วิรชฺชนตฺถาย. นิโรธตฺถนฺติ เตสํเยว นิรุชฺฌนตฺถาย. อนีติหนฺติ อิติหปริวชฺชิตํ, อปรปตฺติยนฺติ อตฺโถ. นิพฺพาโนคธคามินนฺติ นิพฺพานสฺส อนฺโตคามินํ. มคฺคพฺรหฺมจริยฺหิ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กริตฺวา นิพฺพานสฺส อนฺโตเยว วตฺตติ ปวตฺตติ. ปฏิปชฺชนฺตีติ ทุวิธมฺปิ ปฏิปชฺชนฺติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กเถตฺวา คาถาสุ วิวฏฺฏเมว กถิตํ.

๖. กุหสุตฺตวณฺณนา

๒๖. ฉฏฺเ กุหาติ กุหกา. ถทฺธาติ โกเธน จ มาเนน จ ถทฺธา. ลปาติ อุปลาปกา. สิงฺคีติ ‘‘ตตฺถ กตมํ สิงฺคํ, ยํ สิงฺคํ สิงฺคารตา จาตุรตา จาตุริยํ ปริกฺขตฺตตา ปาริกฺขตฺติย’’นฺติ (วิภ. ๘๕๒) เอวํ วุตฺเตหิ สิงฺคสทิเสหิ ปากฏกิเลเสหิ สมนฺนาคตา. อุนฺนฬาติ อุคฺคตนฬา ตุจฺฉมานํ อุกฺขิปิตฺวา ิตา. อสมาหิตาติ จิตฺเตกคฺคมตฺตสฺสาปิ อลาภิโน. เม เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู มามกาติ เต มยฺหํ ภิกฺขู มม สนฺตกา น โหนฺติ. ‘‘เต มยฺห’’นฺติ อิทํ ปน สตฺถารํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิตตฺตา วุตฺตํ. เต โข เม, ภิกฺขเว, ภิกฺขู มามกาติ อิธาปิ เมติ อตฺตานํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิตตฺตา วทติ, สมฺมาปฏิปนฺนตฺตา ปน ‘‘มามกา’’ติ อาห. วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนฺตีติ สีลาทีหิ คุเณหิ วฑฺฒนโต วุทฺธึ, นิจฺจลภาเวน วิรูฬฺหึ, สพฺพตฺถ ปตฺถฏตาย เวปุลฺลํ ปาปุณนฺติ. เต ปเนเต ยาว อรหตฺตมคฺคา วิรุหนฺติ, อรหตฺตผลํ ปตฺเต วิรูฬฺหา นาม โหนฺติ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเตปิ คาถาสุปิ วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตํ.

๗. สนฺตุฏฺิสุตฺตวณฺณนา

๒๗. สตฺตเม อปฺปานีติ ปริตฺตานิ. สุลภานีติ สุเขน ลทฺธพฺพานิ, ยตฺถ กตฺถจิ สกฺกา โหนฺติ ลภิตุํ. อนวชฺชานีติ นิทฺโทสานิ. ปิณฺฑิยาโลปโภชนนฺติ ชงฺฆาปิณฺฑิยพเลน จริตฺวา อาโลปมตฺตํ ลทฺธํ โภชนํ. ปูติมุตฺตนฺติ ยํกิฺจิ มุตฺตํ. ยถา หิ สุวณฺณวณฺโณปิ กาโย ปูติกาโยติ วุจฺจติ, เอวํ อภินวมฺปิ มุตฺตํ ปูติมุตฺตเมว.

วิฆาโตติ วิคตฆาโต, จิตฺตสฺส ทุกฺขํ น โหตีติ อตฺโถ. ทิสานปฺปฏิหฺตีติ ยสฺส หิ ‘‘อสุกฏฺานํ นาม คโต จีวราทีนิ ลภิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ทิสา ปฏิหฺติ นาม. ยสฺส เอวํ น อุปฺปชฺชติ, ตสฺส นปฺปฏิหฺติ นาม. ธมฺมาติ ปฏิปตฺติธมฺมา. สามฺสฺสานุโลมิกาติ สมณธมฺมสฺส อนุโลมา. อธิคฺคหิตาติ สพฺเพเต ตุฏฺจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน อธิคฺคหิตา โหนฺติ อนฺโตคตา น ปริพาหิราติ.

๘. อริยวํสสุตฺตวณฺณนา

๒๘. อฏฺมสฺส อชฺฌาสยิโก นิกฺเขโป. อิมํ กิร มหาอริยวํสสุตฺตนฺตํ ภควา เชตวนมหาวิหาเร ธมฺมสภายํ ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสินฺโน อตฺตโนปิ ปรปุคฺคลานมฺปิ อชฺฌาสยวเสน ปริวาเรตฺวา นิสินฺนานิ จตฺตาลีส ภิกฺขุสหสฺสานิ, ‘‘ภิกฺขเว’’ติ อามนฺเตตฺวา จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อริยวํสาติ อารภิ. ตตฺถ อริยวํสาติ อริยานํ วํสา. ยถา หิ ขตฺติยวํโส พฺราหฺมณวํโส เวสฺสวํโส สุทฺทวํโส สมณวํโส กุลวํโส ราชวํโส, เอวํ อยมฺปิ อฏฺโม อริยวํโส อริยตนฺติ อริยปเวณี นาม โหติ. โส โข ปนายํ อริยวํโส อิเมสํ วํสานํ มูลคนฺธาทีนํ กาฬานุสาริคนฺธาทโย วิย อคฺคมกฺขายติ.

เก ปน เต อริยา, เยสํ เอเต วํสาติ? อริยา วุจฺจนฺติ พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ ตถาคตสาวกา จ, เอเตสํ อริยานํ วํสาติ อริยวํสา. อิโต ปุพฺเพ หิ สตสหสฺสกปฺปาธิกานํ จตุนฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ มตฺถเก ตณฺหงฺกโร, เมธงฺกโร , สรณงฺกโร, ทีปงฺกโรติ จตฺตาโร พุทฺธา อุปฺปนฺนา, เต อริยา, เตสํ อริยานํ วํสาติ อริยวํสา. เตสํ พุทฺธานํ ปรินิพฺพานโต อปรภาเค อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา โกณฺฑฺโ นาม พุทฺโธ อุปฺปนฺโน…เป… อิมสฺมึ กปฺเป กกุสนฺโธ, โกณาคมโน, กสฺสโป, อมฺหากํ ภควา โคตโมติ จตฺตาโร พุทฺธา อุปฺปนฺนา, เตสํ อริยานํ วํสาติ อริยวํสา. อปิจ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ สพฺพพุทฺธ-ปจฺเจกพุทฺธ-พุทฺธสาวกานํ อริยานํ วํสาติ อริยวํสา.

เต โข ปเนเต อคฺคฺา อคฺคาติ ชานิตพฺพา, รตฺตฺา ทีฆรตฺตํ ปวตฺตาติ ชานิตพฺพา, วํสฺา วํสาติ ชานิตพฺพา. โปราณา น อธุนุปฺปตฺติกา. อสํกิณฺณา อวิกิณฺณา อนปนีตา. อสํกิณฺณปุพฺพา อตีตพุทฺเธหิปิ น สํกิณฺณปุพฺพา, ‘‘กิ อิเมหี’’ติ น อปนีตปุพฺพา. น สํกียนฺตีติ อิทานิปิ น อปนียนฺติ. น สํกียิสฺสนฺตีติ อนาคตพุทฺเธหิปิ น อปนียิสฺสนฺติ. เย โลเก วิฺู สมณพฺราหฺมณา, เตหิ อปฺปฏิกุฏฺา, สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ อนินฺทิตา อครหิตา.

สนฺตุฏฺโ โหตีติ ปจฺจยสนฺโตสวเสน สนฺตุฏฺโ โหติ. อิตรีตเรนาติ น ถูลสุขุมลูขปณีตถิรชิณฺณานํ เยน เกนจิ, อถ โข ยถาลทฺธาทีนํ อิตรีตเรน เยน เกนจิ สนฺตุฏฺโ โหตีติ อตฺโถ. จีวรสฺมิฺหิ ตโย สนฺโตสา ยถาลาภสนฺโตโส ยถาพลสนฺโตโส ยถาสารุปฺปสนฺโตโสติ. ปิณฺฑปาตาทีสุปิ เอเสว นโย. เตสํ วิตฺถารกถา ‘‘สนฺตุฏฺสฺส, ภิกฺขเว, อนุปฺปนฺนา เจว กุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ อิมสฺมึ สุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อิติ อิเม ตโย สนฺโตเส สนฺธาย ‘‘สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตเรน จีวเรน, ยถาลทฺธาทีสุ เยน เกนจิ จีวเรน สนฺตุฏฺโ โหตี’’ติ วุตฺตํ.

เอตฺถ จ จีวรํ ชานิตพฺพํ, จีวรกฺเขตฺตํ ชานิตพฺพํ, ปํสุกูลํ ชานิตพฺพํ, จีวรสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, จีวรปฺปฏิสํยุตฺตานิ ธุตงฺคานิ ชานิตพฺพานิ. ตตฺถ จีวรํ ชานิตพฺพนฺติ โขมาทีนิ ฉ จีวรานิ ทุกูลาทีนิ ฉ อนุโลมจีวรานิ ชานิตพฺพานิ. อิมานิ ทฺวาทส กปฺปิยจีวรานิ. กุสจีรํ, วากจีรํ, ผลกจีรํ, เกสกมฺพลํ, วาฬกมฺพลํ, โปตฺถโก, จมฺมํ, อุลูกปกฺขํ, รุกฺขทุสฺสํ, ลตาทุสฺสํ, เอรกทุสฺสํ, กทลิทุสฺสํ, เวฬุทุสฺสนฺติ เอวมาทีนิ ปน อกปฺปิยจีวรานิ.

จีวรกฺเขตฺตนฺติ ‘‘สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา อตฺตโน วา ธเนน, ปํสุกูลํ วา’’ติ เอวํ อุปฺปชฺชนโต ฉ เขตฺตานิ, อฏฺนฺนฺจ มาติกานํ วเสน อฏฺ เขตฺตานิ ชานิตพฺพานิ.

ปํสุกูลนฺติ โสสานิกํ, ปาปณิกํ, รถิยํ, สงฺการกูฏกํ, โสตฺถิยํ, สินานํ, ติตฺถํ, คตปจฺจาคตํ, อคฺคิทฑฺฒํ, โคขายิตํ, อุปจิกขายิตํ, อุนฺทูรขายิตํ , อนฺตจฺฉินฺนํ, ทสจฺฉินฺนํ, ธชาหฏํ, ถูปํ, สมณจีวรํ, สามุทฺทิยํ, อาภิเสกิยํ, ปนฺถิกํ, วาตาหฏํ, อิทฺธิมยํ, เทวทตฺติยนฺติ เตวีสติ ปํสุกูลานิ เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ จ โสตฺถิยนฺติ คพฺภมลหรณํ. คตปจฺจาคตนฺติ มตกสรีรํ ปารุปิตฺวา สุสานํ เนตฺวา อานีตจีวรํ. ธชาหฏนฺติ ธชํ อุสฺสาเปตฺวา ตโต อานีตํ. ถูปนฺติ วมฺมิเก ปูชิตจีวรํ. สามุทฺทิยนฺติ สมุทฺทวีจีหิ ถลํ ปาปิตํ. ปนฺถิกนฺติ ปนฺถํ คจฺฉนฺเตหิ โจรภเยน ปาสาเณหิ โกฏฺเฏตฺวา ปารุตจีวรํ. อิทฺธิมยนฺติ เอหิภิกฺขุจีวรํ. เสสํ ปากฏเมวาติ.

จีวรสนฺโตโสติ วีสติ จีวรสนฺโตสา – จีวเร วิตกฺกสนฺโตโส, คมนสนฺโตโส, ปริเยสนสนฺโตโส, ปฏิลาภสนฺโตโส, มตฺตปฏิคฺคหณสนฺโตโส, โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส, ยถาลาภสนฺโตโส, ยถาพลสนฺโตโส, ยถาสารุปฺปสนฺโตโส, อุทกสนฺโตโส, โธวนสนฺโตโส, กรณสนฺโตโส, ปริมาณสนฺโตโส, สุตฺตสนฺโตโส, สิพฺพนสนฺโตโส, รชนสนฺโตโส, กปฺปสนฺโตโส, ปริโภคสนฺโตโส, สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส, วิสฺสชฺชนสนฺโตโสติ.

ตตฺถ สาทกภิกฺขุนา เตมาสํ นิพทฺธวาสํ วสิตฺวา เอกมาสมตฺตํ วิตกฺเกตุํ วฏฺฏติ. โส หิ ปวาเรตฺวา จีวรมาเส จีวรํ กโรติ, ปํสุกูลิโก อฑฺฒมาเสเนว กโรติ. อิทํ มาสฑฺฒมาสมตฺตํ วิตกฺกนํ วิตกฺกสนฺโตโส นาม. วิตกฺกสนฺโตเสน ปน สนฺตุฏฺเน ภิกฺขุนา ปาจีนขณฺฑราชิวาสิกปํสุกูลิกตฺเถรสทิเสน ภวิตพฺพํ.

เถโร กิร ‘‘เจติยปพฺพตวิหาเร เจติยํ วนฺทิสฺสามี’’ติ อาคโต เจติยํ วนฺทิตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ จีวรํ ชิณฺณํ, พหูนํ วสนฏฺาเน ลภิสฺสามี’’ติ. โส มหาวิหารํ คนฺตฺวา สงฺฆตฺเถรํ ทิสฺวา วสนฏฺานํ ปุจฺฉิตฺวา ตตฺถ วุตฺโถ ปุนทิวเส จีวรํ อาทาย อาคนฺตฺวา เถรํ วนฺทิ. เถโร ‘‘กึ , อาวุโส’’ติ อาห. คามทฺวารํ, ภนฺเต, คมิสฺสามีติ. อหมฺปาวุโส, คมิสฺสามีติ . สาธุ, ภนฺเตติ คจฺฉนฺโต มหาโพธิทฺวารโกฏฺเก ตฺวา ‘‘ปุฺวนฺตานํ วสนฏฺาเน มนาปํ ลภิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อปริสุทฺโธ เม วิตกฺโก’’ติ ตโตว ปฏินิวตฺติ. ปุนทิวเส อมฺพงฺคณสมีปโต, ปุนทิวเส มหาเจติยสฺส อุตฺตรทฺวารโต ตตฺเถว ปฏินิวตฺติตฺวา จตุตฺถทิวเส เถรสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. เถโร ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน วิตกฺโก น ปริสุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ จีวรํ คเหตฺวา เตน สทฺธึเยว ปฺหํ ปุจฺฉมาโน คามํ ปาวิสิ. ตฺจ รตฺตึ เอโก มนุสฺโส อุจฺจารปลิพุทฺโธ สาฏเกเยว วจฺจํ กตฺวา ตํ สงฺการฏฺาเน ฉฑฺเฑสิ. ปํสุกูลิกตฺเถโร ตํ นีลมกฺขิกาหิ สมฺปริกิณฺณํ ทิสฺวา อฺชลึ ปคฺคเหสิ. มหาเถโร ‘‘กึ, อาวุโส, สงฺการฏฺานสฺส อฺชลึ ปคฺคณฺหาสี’’ติ. นาหํ, ภนฺเต, สงฺการฏฺานสฺส อฺชลึ ปคฺคณฺหามิ, มยฺหํ ปิตุ ทสพลสฺส ปคฺคณฺหามิ, ปุณฺณทาสิยา สรีรํ ปารุปิตฺวา ฉฑฺฑิตํ ปํสุกูลํ ตุมฺพมตฺเต ปาณเก วิธุนิตฺวา สุสานโต คณฺหนฺเตน ทุกฺกรตรํ กตํ , ภนฺเตติ. มหาเถโร ‘‘ปริสุทฺโธ วิตกฺโก ปํสุกูลิกสฺสา’’ติ จินฺเตสิ. ปํสุกูลิกตฺเถโรปิ ตสฺมึเยว าเน ิโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ตีณิ ผลานิ ปตฺโต ตํ สาฏกํ คเหตฺวา จีวรํ กตฺวา ปารุปิตฺวา ปาจีนขณฺฑราชึ คนฺตฺวา อคฺคผลํ อรหตฺตํ ปาปุณิ.

จีวรตฺถาย คจฺฉนฺตสฺส ปน ‘‘กตฺถ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา กมฺมฏฺานสีเสเนว คมนํ คมนสนฺโตโส นาม. ปริเยสนฺตสฺส ปน เยน วา เตน วา สทฺธึ อปริเยสิตฺวา ลชฺชึ เปสลํ ภิกฺขุํ คเหตฺวา ปริเยสนํ ปริเยสนสนฺโตโส นาม. เอวํ ปริเยสนฺตสฺส อาหริยมานํ จีวรํ ทูรโต ทิสฺวา ‘‘เอตํ มนาปํ ภวิสฺสติ, เอตํ อมนาป’’นฺติ เอวํ อวิตกฺเกตฺวา ถูลสุขุมาทีสุ ยถาลทฺเธเนว สนฺตุสฺสนํ ปฏิลาภสนฺโตโส นาม. เอวํ ลทฺธํ คณฺหนฺตสฺสาปิ ‘‘เอตฺตกํ ทุปฏฺฏสฺส ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ เอกปฏฺฏสฺสา’’ติ อตฺตโน ปโหนกมตฺเตเนว สนฺตุสฺสนํ มตฺตปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม. จีวรํ ปริเยสนฺตสฺส ปน ‘‘อสุกสฺส ฆรทฺวาเร มนาปํ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ทฺวารปฏิปาฏิยา จรณํ โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส นาม.

ลูขปณีเตสุ เยน เกนจิ ยาเปตุํ สกฺโกนฺตสฺส ยถาลทฺเธเนว ยาปนํ ยถาลาภสนฺโตโส นาม. อตฺตโน ถามํ ชานิตฺวา เยน ยาเปตุํ สกฺโกติ, เตน ยาปนํ ยถาพลสนฺโตโส นาม. มนาปํ อฺสฺส ทตฺวา อตฺตนา เยน เกนจิ ยาปนํ ยถาสารุปฺปสนฺโตโส นาม.

‘‘กตฺถ อุทกํ มนาปํ, กตฺถ อมนาป’’นฺติ อวิจาเรตฺวา เยน เกนจิ โธวนูปเคน อุทเกน โธวนํ อุทกสนฺโตโส นาม. ปณฺฑุมตฺติกเครุกปูติปณฺณรสกิลิฏฺานิ ปน อุทกานิ วชฺเชตุํ วฏฺฏติ. โธวนฺตสฺส ปน มุคฺคราทีหิ อปหริตฺวา หตฺเถหิ มทฺทิตฺวา โธวนํ โธวนสนฺโตโส นาม. ตถา อสุชฺฌนฺตํ ปณฺณานิ ปกฺขิปิตฺวา ตาปิตอุทเกนาปิ โธวิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ โธวิตฺวา กโรนฺตสฺส ‘‘อิทํ ถูลํ, อิทํ สุขุม’’นฺติ อโกเปตฺวา ปโหนกนีหาเรเนว กรณํ กรณสนฺโตโส นาม. ติมณฺฑลปติจฺฉาทนมตฺตสฺเสว กรณํ ปริมาณสนฺโตโส นาม. จีวรกรณตฺถาย ปน มนาปํ สุตฺตํ ปริเยสิสฺสามีติ อวิจาเรตฺวา รถิกาทีสุ วา เทวฏฺาเน วา อาหริตฺวา ปาทมูเล วา ปิตํ ยํกิฺจิเทว สุตฺตํ คเหตฺวา กรณํ สุตฺตสนฺโตโส นาม.

กุสิพนฺธนกาเล ปน องฺคุลมตฺเต สตฺต วาเร น วิชฺฌิตพฺพํ. เอวํ กโรนฺตสฺส หิ โย ภิกฺขุ สหาโย น โหติ, ตสฺส วตฺตเภโทปิ นตฺถิ. ติวงฺคุลมตฺเต ปน สตฺต วาเร วิชฺฌิตพฺพํ. เอวํ กโรนฺตสฺส มคฺคปฺปฏิปนฺเนนาปิ สหาเยน ภวิตพฺพํ. โย น โหติ, ตสฺส วตฺตเภโท. อยํ สิพฺพนสนฺโตโส นาม. รชนฺเตน ปน กาฬกจฺฉกาทีนิ ปริเยสนฺเตน น จริตพฺพํ, โสมวกฺกลาทีสุ ยํ ลภติ, เตน รชิตพฺพํ. อลภนฺเตน ปน มนุสฺเสหิ อรฺเ วากํ คเหตฺวา ฉฑฺฑิตรชนํ วา ภิกฺขูหิ ปจิตฺวา ฉฑฺฑิตกสฏํ วา คเหตฺวา รชิตพฺพํ. อยํ รชนสนฺโตโส นาม. นีลกทฺทมกาฬสาเมสุ ยํกิฺจิ คเหตฺวา หตฺถิปิฏฺเ นิสินฺนสฺส ปฺายมานกปฺปกรณํ กปฺปสนฺโตโส นาม.

หิริโกปีนปฺปฏิจฺฉาทนมตฺตวเสน ปริภุฺชนํ ปริโภคสนฺโตโส นาม. ทุสฺสํ ปน ลภิตฺวา สุตฺตํ วา สูจึ วา การกํ วา อลภนฺเตน เปตุํ วฏฺฏติ, ลภนฺเตน น วฏฺฏติ. กตมฺปิ สเจ อนฺเตวาสิกาทีนํ ทาตุกาโม โหติ, เต จ อสนฺนิหิตา, ยาว อาคมนา เปตุํ วฏฺฏติ. อาคตมตฺเตสุ ทาตพฺพํ. ทาตุํ อสกฺโกนฺเตน อธิฏฺาตพฺพํ. อฺสฺมึ จีวเร สติ ปจฺจตฺถรณมฺปิ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ. อนธิฏฺิตเมว หิ สนฺนิธิ โหติ, อธิฏฺิตํ น โหตีติ มหาสีวตฺเถโร อาห. อยํ สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส นาม. วิสฺสชฺเชนฺเตน ปน น มุขํ โอโลเกตฺวา ทาตพฺพํ, สารณียธมฺเม ตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺพนฺติ อยํ วิสฺสชฺชนสนฺโตโส นาม.

จีวรปฺปฏิสํยุตฺตานิ ธุตงฺคานิ นาม ปํสุกูลิกงฺคฺเจว เตจีวริกงฺคฺจ. เตสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔-๒๕) เวทิตพฺพา. อิติ จีวรสนฺโตสมหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ภิกฺขุ อิมานิ ทฺเว ธุตงฺคานิ โคเปติ. อิมานิ โคเปนฺโต จีวรสนฺโตสมหาอริยวํสวเสน สนฺตุฏฺโ โหตีติ.

วณฺณวาทีติ เอโก สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ น กเถติ. เอโก น สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ. เอโก เนว สนฺตุฏฺโ โหติ, น สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ. เอโก สนฺตุฏฺโ เจว โหติ, สนฺโตสสฺส จ วณฺณํ กเถติ. ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที’’ติ วุตฺตํ.

อเนสนนฺติ ทูเตยฺยปหินคมนานุโยคปเภทํ นานปฺปการํ อเนสนํ. อปฺปติรูปนฺติ อยุตฺตํ. อลทฺธาจาติ อลภิตฺวา. ยถา เอกจฺโจ ‘‘กถํ นุ โข จีวรํ ลภิสฺสามี’’ติ ปุฺวนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เอกโต หุตฺวา โกหฺํ กโรนฺโต อุตฺตสติ ปริตสฺสติ, สนฺตุฏฺโ ภิกฺขุ เอวํ อลทฺธา จีวรํ น ปริตสฺสติ. ลทฺธา จาติ ธมฺเมน สเมน ลภิตฺวา. อคธิโตติ วิคตโลภคิทฺโธ. อมุจฺฉิโตติ อธิมตฺตตณฺหาย มุจฺฉํ อนาปนฺโน. อนชฺโฌปนฺโนติ ตณฺหาย อโนตฺถโต อปริโยนทฺโธ. อาทีนวทสฺสาวีติ อเนสนาปตฺติยฺจ เคธิตปริโภเค จ อาทีนวํ ปสฺสมาโน. นิสฺสรณปฺโติ ‘‘ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติ วุตฺตํ นิสฺสรณเมว ปชานนฺโต.

อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยาติ เยน เกนจิ จีวเรน สนฺตุฏฺิยา. เนวตฺตานุกฺกํเสตีติ ‘‘อหํ ปํสุกูลิโก, มยา อุปสมฺปทมาเฬเยว ปํสุกูลิกงฺคํ คหิตํ, โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ อตฺตุกฺกํสนํ น กโรติ. โน ปรํ วมฺเภตีติ ‘‘อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น ปํสุกูลิกา’’ติ วา, ‘‘ปํสุกูลิกงฺคมตฺตมฺปิ เอเตสํ นตฺถี’’ติ วา เอวํ ปรํ น วมฺเภติ. โย หิ ตตฺถ ทกฺโขติ โย ตสฺมึ จีวรสนฺโตเส วณฺณวาทาทีสุ วา ทกฺโข เฉโก พฺยตฺโต. อนลโสติ สาตจฺจกิริยาย อาลสิยวิรหิโต. สมฺปชาโน ปฏิสฺสโตติ สมฺปชานปฺาย เจว สติยา จ ยุตฺโต. อริยวํเส ิโตติ อริยวํเส ปติฏฺิโต.

อิตรีตเรนปิณฺฑปาเตนาติ เยน เกนจิ ปิณฺฑปาเตน. เอตฺถาปิ ปิณฺฑปาโต ชานิตพฺโพ, ปิณฺฑปาตกฺเขตฺตํ ชานิตพฺพํ, ปิณฺฑปาตสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, ปิณฺฑปาตปฺปฏิสํยุตฺตํ ธุตงฺคํ ชานิตพฺพํ . ตตฺถ ปิณฺฑปาโตติ โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มจฺโฉ มํสํ ขีรํ ทธิ สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ ยาคุ ขาทนียํ สายนียํ เลหนียนฺติ โสฬส ปิณฺฑปาตา.

ปิณฺฑปาตกฺเขตฺตนฺติ สงฺฆภตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนํ สลากภตฺตํ ปกฺขิกํ อุโปสถิกํ ปาฏิปทิกภตฺตํ อาคนฺตุกภตฺตํ คมิกภตฺตํ คิลานภตฺตํ คิลานุปฏฺากภตฺตํ ธุรภตฺตํ กุฏิภตฺตํ วารภตฺตํ วิหารภตฺตนฺติ ปนฺนรส ปิณฺฑปาตกฺเขตฺตานิ.

ปิณฺฑปาตสนฺโตโสติ ปิณฺฑปาเต วิตกฺกสนฺโตโส คมนสนฺโตโส ปริเยสนสนฺโตโส ปฏิลาภสนฺโตโส ปฏิคฺคหณสนฺโตโส มตฺตปฏิคฺคหณสนฺโตโส โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส ยถาลาภสนฺโตโส ยถาพลสนฺโตโส ยถาสารุปฺปสนฺโตโส อุปการสนฺโตโส ปริมาณสนฺโตโส ปริโภคสนฺโตโส สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส วิสฺสชฺชนสนฺโตโสติ ปนฺนรส สนฺโตสา.

ตตฺถ สาทโก ภิกฺขุ มุขํ โธวิตฺวา วิตกฺเกติ. ปิณฺฑปาติเกน ปน คเณน สทฺธึ จรตา สายํ เถรูปฏฺานกาเล ‘‘สฺเว กตฺถ ปิณฺฑาย จริสฺสามาติ? อสุกคาเม, ภนฺเต’’ติ เอตฺตกํ จินฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย น วิตกฺเกตพฺพํ. เอกจาริเกน วิตกฺกมาฬเก ตฺวา วิตกฺเกตพฺพํ. ตโต ปฏฺาย วิตกฺเกนฺโต อริยวํสา จุโต โหติ ปริพาหิโร. อยํ วิตกฺกสนฺโตโส นาม.

ปิณฺฑาย ปวิสนฺเตน ‘‘กุหึ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา กมฺมฏฺานสีเสน คนฺตพฺพํ. อยํ คมนสนฺโตโส นาม. ปริเยสนฺเตน ยํ วา ตํ วา อคฺคเหตฺวา ลชฺชึ เปสลเมว คเหตฺวา ปริเยสิตพฺพํ. อยํ ปริเยสนสนฺโตโส นาม. ทูรโตว อาหริยมานํ ทิสฺวา ‘‘เอตํ มนาปํ , เอตํ อมนาป’’นฺติ จิตฺตํ น อุปฺปาเทตพฺพํ. อยํ ปฏิลาภสนฺโตโส นาม. ‘‘อิมํ มนาปํ คณฺหิสฺสามิ, อิมํ อมนาปํ น คณฺหิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ยํกิฺจิ ยาปนมตฺตํ คเหตพฺพเมว. อยํ ปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม.

เอตฺถ ปน เทยฺยธมฺโม พหุ, ทายโก อปฺปํ ทาตุกาโม, อปฺปํ คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโมปิ พหุ, ทายโกปิ พหุํ ทาตุกาโม, ปมาเณเนว คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโม น พหุ, ทายโกปิ อปฺปํ ทาตุกาโม, อปฺปํ คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโม น พหุ, ทายโก ปน พหุํ ทาตุกาโม, ปมาเณน คเหตพฺพํ . ปฏิคฺคหณสฺมิฺหิ มตฺตํ อชานนฺโต มนุสฺสานํ ปสาทํ มกฺเขติ, สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ, สาสนํ น กโรติ, วิชาตมาตุยาปิ จิตฺตํ คเหตุํ น สกฺโกติ. อิติ มตฺตํ ชานิตฺวาว ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ อยํ มตฺตปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม. อฑฺฒกุลานิเยว อคนฺตฺวา ทฺวารปฏิปาฏิยา คนฺตพฺพํ. อยํ โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส นาม. ยถาลาภสนฺโตสาทโย จีวเร วุตฺตนยา เอว.

ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา ‘‘สมณธมฺมํ อนุปาเลสฺสามี’’ติ เอวํ อุปการํ ตฺวา ปริภุฺชนํ อุปการสนฺโตโส นาม. ปตฺตํ ปูเรตฺวา อานีตํ น ปฏิคฺคเหตพฺพํ. อนุปสมฺปนฺเน สติ เตน คาหาเปตพฺพํ, อสติ หราเปตฺวา ปฏิคฺคหณมตฺตํ คเหตพฺพํ. อยํ ปริมาณสนฺโตโส นาม. ‘‘ชิฆจฺฉาย ปฏิวิโนทนํ อิทเมตฺถ นิสฺสรณ’’นฺติ เอวํ ปริภุฺชนํ ปริโภคสนฺโตโส นาม. นิทหิตฺวา น ปริภุฺชิตพฺพนฺติ อยํ สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส นาม. มุขํ อโนโลเกตฺวา สารณียธมฺเม ิเตน วิสฺสชฺเชตพฺพํ. อยํ วิสฺสชฺชนสนฺโตโส นาม.

ปิณฺฑปาตปฺปฏิสํยุตฺตานิ ปน ปฺจ ธุตงฺคานิ ปิณฺฑปาติกงฺคํ สปทานจาริกงฺคํ เอกาสนิกงฺคํ ปตฺตปิณฺฑิกงฺคํ ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคนฺติ. เตสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๖-๓๐) วุตฺตา. อิติ ปิณฺฑปาตสนฺโตสมหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ภิกฺขุ อิมานิ ปฺจ ธุตงฺคานิ โคเปติ, อิมานิ โคเปนฺโต ปิณฺฑปาตสนฺโตสมหาอริยวํเสน สนฺตุฏฺโ โหติ. วณฺณวาทีติอาทีนิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.

เสนาสเนนาติ อิธ เสนาสนํ ชานิตพฺพํ, เสนาสนกฺเขตฺตํ ชานิตพฺพํ, เสนาสนสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, เสนาสนปฺปฏิสํยุตฺตํ ธุตงฺคํ ชานิตพฺพํ. ตตฺถ เสนาสนนฺติ มฺโจ ปีํ ภิสิ พิมฺโพหนํ วิหาโร อฑฺฒโยโค ปาสาโท หมฺมิยํ คุหา เลณํ อฏฺโฏ มาโฬ เวฬุคุมฺโพ รุกฺขมูลํ ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺตีติ อิมานิ ปนฺนรส เสนาสนานิ.

เสนาสนกฺเขตฺตนฺติ สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา อตฺตโน วา ธเนน ปํสุกูลํ วาติ ฉ เขตฺตานิ.

เสนาสนสนฺโตโสติ เสนาสเน วิตกฺกสนฺโตสาทโย ปนฺนรส สนฺโตสา. เต ปิณฺฑปาเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เสนาสนปฺปฏิสํยุตฺตานิ ปน ปฺจ ธุตงฺคานิ อารฺิกงฺคํ รุกฺขมูลิกงฺคํ อพฺโภกาสิกงฺคํ โสสานิกงฺคํ ยถาสนฺถติกงฺคนฺติ. เตสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑-๓๕) วุตฺตา. อิติ เสนาสนสนฺโตสมหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ภิกฺขุ อิมานิ ปฺจ ธุตงฺคานิ โคเปติ. อิมานิ โคเปนฺโต เสนาสนสนฺโตสมหาอริยวํเสน สนฺตุฏฺโ โหติ.

คิลานปจฺจโย ปน ปิณฺฑปาเตเยว ปวิฏฺโ. ตตฺถ ยถาลาภยถาพลยถาสารุปฺปสนฺโตเสเนว สนฺตุสฺสิตพฺพํ. เนสชฺชิกงฺคํ ภาวนารามอริยวํสํ ภชติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ปฺจ เสนาสเน วุตฺตา, ปฺจ อาหารนิสฺสิตา;

เอโก วีริยสํยุตฺโต, ทฺเว จ จีวรนิสฺสิตา’’ติ.

อิติ ภควา ปถวึ ปตฺถรมาโน วิย สาครกุจฺฉึ ปูรยมาโน วิย อากาสํ วิตฺถารยมาโน วิย จ ปมํ จีวรสนฺโตสํ อริยวํสํ กเถตฺวา จนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย สูริยํ อุลฺลงฺเฆนฺโต วิย จ ทุติยํ ปิณฺฑปาตสนฺโตสํ กเถตฺวา สิเนรุํ อุกฺขิปนฺโต วิย ตติยํ เสนาสนสนฺโตสํ อริยวํสํ กเถตฺวา อิทานิ สหสฺสนยปฏิมณฺฑิตํ จตุตฺถํ ภาวนารามํ อริยวํสํ กเถตุํ ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหตีติ เทสนํ อารภิ.

ตตฺถ อารมณํ อาราโม, อภิรตีติ อตฺโถ. ภาวนาย อาราโม อสฺสาติ ภาวนาราโม. ภาวนาย รโตติ ภาวนารโต. ปฺจวิเธ ปหาเน อาราโม อสฺสาติ ปหานาราโม. อปิจ ภาเวนฺโต รมตีติ ภาวนาราโม. ปชหนฺโต รมตีติ ปหานาราโมติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อยฺหิ จตฺตาโร สติปฏฺาเน ภาเวนฺโต รมติ, รตึ วินฺทตีติ อตฺโถ. ตถา จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน. จตฺตาโร อิทฺธิปาเท, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺเค, สตฺต อนุปสฺสนา, อฏฺารส มหาวิปสฺสนา, สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺเม, อฏฺตึส อารมฺมณวิภตฺติโย ภาเวนฺโต รมติ, รตึ วินฺทติ. กามจฺฉนฺทาทโย ปน กิเลเส ปชหนฺโต รมติ, รตึ วินฺทติ.

อิเมสุ ปน จตูสุ อริยวํเสสุ ปุริเมหิ ตีหิ เตรสนฺนํ ธุตงฺคานํ จตุปจฺจยสนฺโตสสฺส จ วเสน สกลํ วินยปิฏกํ กถิตํ โหติ, ภาวนาราเมน อวเสสํ ปิฏกทฺวยํ. อิมํ ปน ภาวนารามํ อริยวํสํ กเถนฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิสมฺภิทามคฺเค เนกฺขมฺมปาฬิยา กเถตพฺโพ, ทีฆนิกาเย ทสุตฺตรสุตฺตนฺตปริยาเยน กเถตพฺโพ, มชฺฌิมนิกาเย สติปฏฺานสุตฺตนฺตปริยาเยน กเถตพฺโพ, อภิธมฺเม นิทฺเทสปริยาเยน กเถตพฺโพ.

ตตฺถ ปฏิสมฺภิทามคฺเค เนกฺขมฺมปาฬิยาติ –

‘‘เนกฺขมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ, กามจฺฉนฺทํ ปชหนฺโต รมติ. อพฺยาปาทํ, พฺยาปาทํ… อาโลกสฺํ… ถินมิทฺธํ… อวิกฺเขปํ, อุทฺธจฺจํ… ธมฺมววตฺถานํ… วิจิกิจฺฉํ… าณํ… อวิชฺชํ… ปาโมชฺชํ… อรตึ… ปมชฺฌานํ, ปฺจ นีวรเณ… ทุติยชฺฌานํ… วิตกฺกวิจาเร… ตติยชฺฌานํ… ปีตึ… จตุตฺถชฺฌานํ… สุขทุกฺเข… อากาสานฺจายตนสมาปตฺตึ ภาเวนฺโต รมติ, รูปสฺํ ปฏิฆสฺํ นานตฺตสฺํ ปชหนฺโต รมติ. วิฺาณฺจายตนสมาปตฺตึ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ภาเวนฺโต รมติ, อากิฺจฺายตนสฺํ ปชหนฺโต รมติ.

‘‘อนิจฺจานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต รมติ, นิจฺจสฺํ ปชหนฺโต รมติ. ทุกฺขานุปสฺสนํ… สุขสฺํ… อนตฺตานุปสฺสนํ… อตฺตสฺํ… นิพฺพิทานุปสฺสนํ… นนฺทึ… วิราคานุปสฺสนํ… ราคํ… นิโรธานุปสฺสนํ… สมุทยํ… ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนํ… อาทานํ… ขยานุปสฺสนํ … ฆนสฺํ… วยานุปสฺสนํ… อายูหนํ… วิปริณามานุปสฺสนํ… ธุวสฺํ… อนิมิตฺตานุปสฺสนํ … นิมิตฺตํ… อปฺปณิหิตานุปสฺสนํ… ปณิธึ… สุฺตานุปสฺสนํ… อภินิเวสํ… อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนํ… สาราทานาภินิเวสํ… ยถาภูตาณทสฺสนํ… สมฺโมหาภินิเวสํ… อาทีนวานุปสฺสนํ… อาลยาภินิเวสํ… ปฏิสงฺขานุปสฺสนํ… อปฺปฏิสงฺขํ… วิวฏฺฏานุปสฺสนํ… สํโยคาภินิเวสํ… โสตาปตฺติมคฺคํ… ทิฏฺเกฏฺเ กิเลเส… สกทาคามิมคฺคํ… โอฬาริเก กิเลเส… อนาคามิมคฺคํ… อนุสหคเต กิเลเส… อรหตฺตมคฺคํ ภาเวนฺโต รมติ, สพฺพกิเลเส ปชหนฺโต รมตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๑,๙๕).

เอวํ ปฏิสมฺภิทามคฺเค เนกฺขมฺมปาฬิยา กเถตพฺโพ.

ทีฆนิกาเยทสุตฺตรสุตฺตนฺตปริยาเยนาติ –

‘‘เอกํ ธมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ, เอกํ ธมฺมํ ปชหนฺโต รมติ…เป… ทส ธมฺเม ภาเวนฺโต รมติ, ทส ธมฺเม ปชหนฺโต รมติ. กตมํ เอกํ ธมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ? กายคตาสตึ สาตสหคตํ, อิมํ เอกํ ธมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ. กตมํ เอกํ ธมฺมํ ปชหนฺโต รมติ? อสฺมิมานํ, อิมํ เอกํ ธมฺมํ ปชหนฺโต รมติ. กตเม ทฺเว ธมฺเม…เป… กตเม ทส ธมฺเม ภาเวนฺโต รมติ? ทส กสิณายตนานิ, อิเม ทส ธมฺเม ภาเวนฺโต รมติ. กตเม ทส ธมฺเม ปชหนฺโต รมติ? ทส มิจฺฉตฺเต, อิเม ทส ธมฺเม ปชหนฺโต รมติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๑-๓๖๐).

เอวํ ทีฆนิกาเย ทสุตฺตรสุตฺตนฺตปริยาเยน กเถตพฺโพ.

มชฺฌิมนิกาเย สติปฏฺานสุตฺตนฺตปริยาเยนาติ –

‘‘เอกายโน อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค…เป… ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย. อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหติ ภาวนารโต. ปหานาราโม โหติ ปหานรโต. ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คจฺฉนฺโต วา คจฺฉามีติ ปชานาติ…เป… ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ…เป… ปูตีนิ จุณฺณกชาตานิ. โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ…เป… เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๖ อาทโย).

เอวํ มชฺฌิมนิกาเย สติปฏฺานสุตฺตนฺตปริยาเยน กเถตพฺโพ.

อภิธมฺเม นิทฺเทสปริยาเยนาติ สพฺเพปิ สงฺขเต ‘‘อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต …เป… สํกิเลสิกธมฺมโต ปสฺสนฺโต รมติ, เอวํ โข ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหตี’’ติ (มหานิ. ๑๓; จูฬนิ. อุปสีวมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๓๙, นนฺทมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๕๑). เอวํ นิทฺเทสปริยาเยน กเถตพฺโพ.

เนวตฺตานุกฺกํเสตีติ ‘‘อชฺช เม สฏฺิ วา สตฺตติ วา วสฺสานิ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตสฺส โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ เอวํ อตฺตุกฺกํสนํ น กโรติ. โน ปรํ วมฺเภตีติ ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขนฺติ วิปสฺสนามตฺตกมฺปิ นตฺถิ, กึ อิเม วิสฺสฏฺกมฺมฏฺานา จรนฺตี’’ติ เอวํ ปรวมฺภนํ น กโรติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อริยวํสาติ, ภิกฺขเว, อิเม จตฺตาโร อริยวํสา อริยตนฺติโย อริยปเวณิโย อริยฺชสา อริยวฏุมานีติ สุตฺตนฺตํ วินิวฏฺเฏตฺวา อิทานิ มหาอริยวํสปริปูรกสฺส ภิกฺขุโน วสนทิสา ทสฺเสนฺโต อิเมหิ จ ปน, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ สฺเวว อรตึ สหตีติ โสเยว อรตึ อนภิรตึ อุกฺกณฺิตํ สหติ อภิภวติ. น ตํ อรติ สหตีติ ตํ ปน ภิกฺขุํ ยา เอสา ปนฺเตสุ เสนาสเนสุ อธิกุสลานํ ธมฺมานํ ภาวนาย อรติ นาม โหติ, สา สหิตุํ อธิภวิตุํ น สกฺโกติ. อรติรติสโหติ อรติฺจ ปฺจกามคุณรติฺจ สหติ, อธิภวิตุํ สกฺโกติ.

อิทานิ คาถาหิ กูฏํ คณฺหนฺโต นารตีติอาทิมาห. ตตฺถ ธีรนฺติ วีริยวนฺตํ. นารติ ธีรํ สหตีติ อิทํ ปุริมสฺเสว การณวจนํ. ยสฺมา สา ธีรํ น สหติ นปฺปโหติ ธีรํ สหิตุํ อธิภวิตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา นารติ สหติ ธีรํ. ธีโร หิ อรติสฺสโหติ อรติสหตฺตา หิ โส ธีโร นาม, ตสฺมา อรตึ สหตีติ อตฺโถ. สพฺพกมฺมวิหายีนนฺติ สพฺพํ เตภูมกกมฺมํ จชิตฺวา ปริจฺฉินฺนํ ปริวฏุมํ กตฺวา ิตํ. ปนุณฺณํ โก นิวารเยติ กิเลเส ปนุทิตฺวา ิตํ โก นาม ราโค วา โทโส วา นิวาเรยฺย. เนกฺขํชมฺโพนทสฺเสว, โก ตํ นินฺทิตุมรหตีติ ชมฺโพนทสงฺขาตสฺส ชาติรตฺตสุวณฺณสฺส นิกฺขสทิสํ ครหิตพฺพโทสวิมุตฺตํ โก ตํ ปุคฺคลํ นินฺทิตุํ อรหติ. พฺรหฺมุนาปิ ปสํสิโตติ มหาพฺรหฺมุนาปิ เอส ปุคฺคโล ปสํสิโตเยวาติ. เทสนาปริโยสาเน จตฺตาลีส ภิกฺขุสหสฺสานิ อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ.

๙. ธมฺมปทสุตฺตวณฺณนา

๒๙. นวเม ธมฺมปทานีติ ธมฺมโกฏฺาสา. อนภิชฺฌาติอาทีสุ อภิชฺฌาปฏิกฺเขเปน อนภิชฺฌา, พฺยาปาทปฏิกฺเขเปน อพฺยาปาโท, มิจฺฉาสติปฏิกฺเขเปน สมฺมาสติ, มิจฺฉาสมาธิปฏิกฺเขเปน สมฺมาสมาธิ เวทิตพฺโพ.

อนภิชฺฌาลูติ นิตฺตณฺโห หุตฺวา. อพฺยาปนฺเนน เจตสาติ สพฺพกาลํ ปกติภาวํ อวิชหนฺเตน จิตฺเตน. สโต เอกคฺคจิตฺตสฺสาติ สติยา สมนฺนาคโต อารมฺมเณ เอกคฺคจิตฺโต อสฺส. อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโตติ นิยกชฺฌตฺเต สุฏฺุ ปิตจิตฺโต อิมสฺมึ สุตฺเตปิ คาถายปิ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.

๑๐. ปริพฺพาชกสุตฺตวณฺณนา

๓๐. ทสเม อภิฺาตาติ าตา ปากฏา. อนฺนภาโรติอาทีนิ เตสํ นามานิ. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ ผลสมาปตฺติโต วุฏฺิโต. สา หิ อิธ ปฏิสลฺลานนฺติ อธิปฺเปตา. ปจฺจกฺขายาติ ปฏิกฺขิปิตฺวา. อภิชฺฌาลุนฺติ สตณฺหํ. กาเมสุติพฺพสาราคนฺติ วตฺถุกาเมสุ พหลราคํ. ตมหํ ตตฺถ เอวํ วเทยฺยนฺติ ตํ อหํ ตสฺมึ การเณ เอวํ วเทยฺยํ. ปฏิกฺโกสิตพฺพํ มฺเยฺยาติ ปฏิกฺโกสิตพฺพานิ ปฏิพาหิตพฺพนิ วา มฺเยฺย. สหธมฺมิกาติ สการณา. วาทานุปาตาติ ธมฺมิกวาเท ฆฏฺฏยมานา อธมฺมิกวาทานุปาตา, วาทปฺปวตฺติโยติ อตฺโถ. คารยฺหา านาติ ครหิตพฺพยุตฺตกา ปจฺจยา. อาคจฺฉนฺตีติ อุปคจฺฉนฺติ.

อุกฺกลาติ อุกฺกลชนปทวาสิโน. วสฺสภฺาติ วสฺโส จ ภฺโ จาติ ทฺเว ชนา. อเหตุกวาทาติ ‘‘นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ วิสุทฺธิยา’’ติเอวมาทิวาทิโน. อกิริยวาทาติ ‘‘กโรโต น กรียติ ปาป’’นฺติ เอวํ กิริยปฏิกฺเขปวาทิโน. นตฺถิกวาทาติ ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิวาทิโน. เต อิเมสุ ตีสุปิ ทสฺสเนสุ โอกฺกนฺตนิยามา อเหสุํ. กถํ ปน เตสุ นิยาโม โหตีติ? โย หิ เอวรูปํ ลทฺธึ คเหตฺวา รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ นิสินฺโน สชฺฌายติ วีมํสติ, ตสฺส ‘‘นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย กโรโต น กรียติ ปาปํ…เป… นตฺถิ ทินฺนํ…เป… กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชตี’’ติ ตสฺมึ อารมฺมเณ มิจฺฉาสติ สนฺติฏฺติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ชวนานิ ชวนฺติ. ปมชวเน สเตกิจฺโฉ โหติ, ตถา ทุติยาทีสุ, สตฺตเม พุทฺธานมฺปิ อเตกิจฺโฉ อนิวตฺติ อริฏฺกณฺฏกสทิโส โหติ . ตตฺถ โกจิ เอกํ ทสฺสนํ โอกฺกมติ, โกจิ ทฺเว, โกจิ ตีณิปิ. นิยตมิจฺฉาทิฏฺิโกว โหติ, ปตฺโต สคฺคมคฺคาวรณฺเจว โมกฺขมคฺคาวรณฺจ, อภพฺโพ ตสฺส อตฺตภาวสฺส อนนฺตรํ สคฺคมฺปิ คนฺตุํ, ปเคว โมกฺขํ. วฏฺฏขาณุโก นาเมส สตฺโต ปถวิโคปโก, เยภุยฺเยน เอวรูปสฺส ภวโต วุฏฺานํ นตฺถิ. วสฺสภฺาปิ เอทิสา อเหสุํ. นินฺทาพฺยาโรสนอุปารมฺภภยาติ อตฺตโน นินฺทภเยน ฆฏฺฏนภเยน อุปวาทภเยน จาติ อตฺโถ. อภิชฺฌาวินเย สิกฺขนฺติ อภิชฺฌาวินโย วุจฺจติ อรหตฺตํ, อรหตฺเต สิกฺขมาโน อปฺปมตฺโต นาม วุจฺจตีติ สุตฺตนฺเต วฏฺฏวิฏฺฏํ กเถตฺวา คาถาย ผลสมาปตฺติ กถิตาติ.

อุรุเวลวคฺโค ตติโย.