📜
(๑๘) ๓. สฺเจตนิยวคฺโค
๑. เจตนาสุตฺตวณฺณนา
๑๗๑. ตติยสฺส ¶ ปเม กาเยติ กายทฺวาเร, กายวิฺตฺติยา สตีติ อตฺโถ. กายสฺเจตนาเหตูติอาทีสุ กายสฺเจตนา นาม กายทฺวาเร เจตนา ปกปฺปนา. สา อฏฺ กามาวจรกุสลวเสน อฏฺวิธา, อกุสลวเสน ทฺวาทสวิธาติ วีสติวิธา. ตถา วจีสฺเจตนา, ตถา มโนสฺเจตนา. อปิเจตฺถ นว มหคฺคตเจตนาปิ ลพฺภนฺติ. กายสฺเจตนาเหตูติ กายสฺเจตนาปจฺจยา. อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขนฺติ อฏฺกุสลกมฺมปจฺจยา นิยกชฺฌตฺเต สุขํ อุปฺปชฺชติ, ทฺวาทสอกุสลกมฺมปจฺจยา ทุกฺขํ. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. อวิชฺชาปจฺจยาวาติ อวิชฺชาการเณเนว. สเจ หิ อวิชฺชา ฉาทยมานา ปจฺจโย โหติ, เอวํ สนฺเต ตีสุ ทฺวาเรสุ สุขทุกฺขานํ ปจฺจยภูตา เจตนา อุปฺปชฺชติ. อิติ มูลภูตาย อวิชฺชาย วเสเนตํ วุตฺตํ.
สามํ วาติอาทีสุ ปเรหิ อนาณตฺโต สยเมว อภิสงฺขโรนฺโต ¶ สามํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ นาม. ยํ ปน ปเร สมาทเปตฺวา อาณาเปตฺวา กาเรนฺติ, ตสฺส ตํ กายสงฺขารํ ปเร อภิสงฺขโรนฺติ นาม. โย ปน กุสลํ กุสลนฺติ อกุสลํ อกุสลนฺติ กุสลวิปากํ กุสลวิปาโกติ อกุสลวิปากํ อกุสลวิปาโกติ ชานนฺโต กายทฺวาเร วีสติวิธํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อยํ สมฺปชาโน อภิสงฺขโรติ นาม. โย เอวํ อชานนฺโต อภิสงฺขโรติ, อยํ อสมฺปชาโน อภิสงฺขโรติ นาม. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ ¶ อสมฺปชานกมฺมํ เอวํ เวทิตพฺพํ – ทหรทารกา ‘‘มาตาปิตูหิ กตํ กโรมา’’ติ เจติยํ วนฺทนฺติ, ปุปฺผปูชํ กโรนฺติ, ภิกฺขุสงฺฆํ วนฺทนฺติ, เตสํ กุสลนฺติ อชานนฺตานมฺปิ ตํ กุสลเมว โหติ. ตถา มิคปกฺขิอาทโย ติรจฺฉานา ธมฺมํ สุณนฺติ, สงฺฆํ วนฺทนฺติ, เจติยํ วนฺทนฺติ, เตสํ ชานนฺตานมฺปิ อชานนฺตานมฺปิ ตํ กุสลเมว โหติ. ทหรทารกา ปน มาตาปิตโร หตฺถปาเทหิ ปหรนฺติ, ภิกฺขูนํ ตลสตฺติกํ อุคฺคิรนฺติ, ทณฺฑํ ขิปนฺติ, อกฺโกสนฺติ ¶ . คาวิโย ภิกฺขุสงฺฆํ อนุพนฺธนฺติ, สุนขา อนุพนฺธนฺติ, ฑํสนฺติ, สีหพฺยคฺฆาทโย อนุพนฺธนฺติ, ชีวิตา โวโรเปนฺติ. เตสํ ชานนฺตานมฺปิ อชานนฺตานมฺปิ อกุสลกมฺมํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ ตีสุปิ ทฺวาเรสุ อายูหนเจตนา สโมธาเนตพฺพา. เสยฺยถิทํ – กายทฺวาเร สยํกตมูลิกา วีสติ เจตนา, อาณตฺติมูลิกา วีสติ, สมฺปชานมูลิกา วีสติ, อสมฺปชานมูลิกา วีสตีติ อสีติ เจตนา โหนฺติ, ตถา วจีทฺวาเร. มโนทฺวาเร ¶ ปน เอเกกสฺมิมฺปิ วิกปฺเป เอกูนตึส กตฺวา สตฺจ โสฬส จ โหนฺติ. อิติ สพฺพาปิ ตีสุ ทฺวาเรสุ ทฺเว สตานิ ฉสตฺตติ จ เจตนา. ตา สพฺพาปิ สงฺขารกฺขนฺโธเตว สงฺขํ คจฺฉนฺติ, ตํสมฺปยุตฺโต เวทยิตากาโร เวทนากฺขนฺโธ, สฺชานนากาโร สฺากฺขนฺโธ, จิตฺตํ วิฺาณกฺขนฺโธ, กาโย อุปาทารูปํ, ตสฺส ปจฺจยา จตสฺโส ธาตุโย จตฺตาริ ภูตานีติ อิเม ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขสจฺจํ นาม.
อิเมสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อวิชฺชา อนุปติตาติ อิเมสุ วุตฺตปฺปเภเทสุ เจตนาธมฺเมสุ อวิชฺชา สหชาตวเสน จ อุปนิสฺสยวเสน จ อนุปติตา. เอวํ วฏฺฏฺเจว วฏฺฏมูลิกา จ อวิชฺชา ทสฺสิตา โหติ.
เอตฺตาวตา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตสฺส ขีณาสวสฺส อิทานิ ถุตึ กโรนฺโต อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธาติอาทิมาห. ตตฺถ อเสสวิราคนิโรธาติ อเสสวิราเคน เจว อเสสนิโรเธน จ. โส กาโย น โหตีติ ขีณาสวสฺส กาเยน กรณกมฺมํ ปฺายติ, เจติยงฺคณสมฺมชฺชนํ โพธิยงฺคณสมฺมชฺชนํ อภิกฺกมนํ ปฏิกฺกมนํ วตฺตานุวตฺตกรณนฺติ เอวมาทิ. กายทฺวาเร ปนสฺส วีสติ เจตนา อวิปากธมฺมตํ ¶ อาปชฺชนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘โส กาโย น โหติ, ยํ ปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺข’’นฺติ. กายทฺวารปฺปวตฺตา หิ เจตนา อิธ กาโยติ อธิปฺเปตา. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. เขตฺตนฺติอาทีนิปิ ¶ กุสลากุสลกมฺมสฺเสว นามานิ. ตฺหิ วิปากสฺส วิรุหนฏฺานฏฺเน เขตฺตํ, ปติฏฺานฏฺเน วตฺถุ, การณฏฺเน อายตนํ, อธิกรณฏฺเน อธิกรณนฺติ วุจฺจติ.
อิติ สตฺถา เอตฺตเกน าเนน ตีหิ ทฺวาเรหิ อายูหิตกมฺมํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺส กมฺมสฺส ¶ วิปจฺจนฏฺานํ ทสฺเสตุํ จตฺตาโรเม ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺตภาวปฺปฏิลาภาติ ปฏิลทฺธอตฺตภาวา. อตฺตสฺเจตนา กมตีติ อตฺตนา ปกปฺปิตเจตนา วหติ ปวตฺตติ.
อตฺตสฺเจตนาเหตุ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหา กายา จุติ โหตีติอาทีสุ ขิฑฺฑาปโทสิกา เทวา อตฺตสฺเจตนาเหตุ จวนฺติ. เตสฺหิ นนฺทนวนจิตฺตลตาวนผารุสกวนาทีสุ ทิพฺพรติสมปฺปิตานํ กีฬนฺตานํ ปานโภชเน สติ สมฺมุสฺสติ, เต อาหารุปจฺเฉเทน อาตเป ขิตฺตมาลา วิย มิลายนฺติ. มโนปโทสิกา เทวา ปรสฺเจตนาเหตุ จวนฺติ, เอเต จาตุมหาราชิกา เทวา. เตสุ กิร เอโก เทวปุตฺโต ‘‘นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามี’’ติ สปริวาโร รเถน วีถึ ปฏิปชฺชติ. อถฺโ นิกฺขมนฺโต ตํ ปุรโต คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘กึ, โภ, อยํ กปโณ อทิฏฺปุพฺพํ วิย เอตํ ทิสฺวา ปีติยา อุทฺธุมาโต วิย คชฺชมาโน วิย จ คจฺฉตี’’ติ กุชฺฌติ. ปุรโต คจฺฉนฺโตปิ นิวตฺติตฺวา ตํ กุทฺธํ ทิสฺวา กุทฺธา นาม สุวิชานา โหนฺตีติ กุทฺธภาวมสฺส ตฺวา ‘‘ตฺวํ กุทฺโธ ¶ มยฺหํ กึ กริสฺสสิ, อยํ สมฺปตฺติ มยา ทานสีลาทีนํ วเสน ลทฺธา, น ตุยฺหํ วเสนา’’ติ ปฏิกุชฺฌติ. เอกสฺมิฺหิ กุทฺเธ อิตโร อกุทฺโธ รกฺขติ, อุโภสุ ปน กุทฺเธสุ เอกสฺส โกโธ อิตรสฺส ปจฺจโย โหติ, ตสฺสปิ โกโธ อิตรสฺส ปจฺจโย โหตีติ อุโภ กนฺทนฺตานํเยว โอโรธานํ จวนฺติ. มนุสฺสา อตฺตสฺเจตนา จ ปรสฺเจตนา จ เหตุ จวนฺติ, อตฺตสฺเจตนาย จ ปรสฺเจตนาย จ เหตุภูตาย จวนฺตีติ อตฺโถ. มนุสฺสา หิ กุชฺฌิตฺวา อตฺตนาว อตฺตานํ หตฺเถหิปิ ทณฺเฑหิปิ ปหรนฺติ, รชฺชุพนฺธนาทีหิปิ พนฺธนฺติ, อสินาปิ สีสํ ฉินฺทนฺติ, วิสมฺปิ ขาทนฺติ, ปปาเตปิ ปตนฺติ, อุทกมฺปิ ปวิสนฺติ, อคฺคิมฺปิ ปวิสนฺติ, ปเรปิ ทณฺเฑน วา สตฺถเน วา ปหริตฺวา มาเรนฺติ. เอวํ เตสุ อตฺตสฺเจตนาปิ ปรสฺเจตนาปิ กมติ.
กตเม ¶ เตน เทวา ทฏฺพฺพาติ กตเม นาม เต เทวา ทฏฺพฺพาติ อตฺโถ. เตน วา อตฺตภาเวน กตเม เทวา ทฏฺพฺพาติปิ อตฺโถ. กสฺมา ปน เถโร อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉติ, กึ อตฺตนา กเถตุํ นปฺปโหตีติ? ปโหติ, อิทํ ปน ปทํ อตฺตโน สภาเวน พุทฺธวิสยํ ปฺหนฺติ เถโร น กเถสิ. เตน ทฏฺพฺพาติ เตน อตฺตภาเวน ทฏฺพฺพา. อยํ ปน ปฺโห เหฏฺา กามาวจเรปิ รูปาวจเรปิ ลพฺภติ, ภวคฺเคน ปน ปริจฺฉินฺทิตฺวา กถิโต นิปฺปเทเสน กถิโต โหตีติ ภควตา เอวํ กถิโต.
อาคนฺตาโร ¶ อิตฺถตฺตนฺติ อิตฺถภาวํ กามาวจรปฺจกฺขนฺธภาวเมว ¶ อาคนฺตาโร, เนว ตตฺรูปปตฺติกา น อุปรูปปตฺติกา โหนฺติ. อนาคนฺตาโร อิตฺถตฺตนฺติ อิมํ ขนฺธปฺจกํ อนาคนฺตาโร, เหฏฺูปปตฺติกา น โหนฺติ, ตตฺรูปปตฺติกา วา อุปรูปปตฺติกา วา ตตฺเถว วา ปรินิพฺพายิโน โหนฺตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ เหฏฺิมภเว นิพฺพตฺตานํ วเสน อุปรูปปตฺติกา เวทิตพฺพา. ภวคฺเค ปเนตํ นตฺถิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
๒. วิภตฺติสุตฺตวณฺณนา
๑๗๒. ทุติเย อตฺถปฏิสมฺภิทาติ ปฺจสุ อตฺเถสุ ปเภทคตํ าณํ. โอธิโสติ การณโส. พฺยฺชนโสติ อกฺขรโส. อเนกปริยาเยนาติ อเนเกหิ การเณหิ. อาจิกฺขามีติ กเถมิ. เทเสมีติ ปากฏํ กตฺวา กเถมิ. ปฺาเปมีติ ชานาเปมิ. ปฏฺเปมีติ ปฏฺเปตฺวา ปวตฺเตตฺวา กเถมิ. วิวรามีติ วิวฏํ กตฺวา กเถมิ. วิภชามีติ วิภชิตฺวา กเถมิ. อุตฺตานีกโรมีติ คมฺภีรํ อุตฺตานกํ กตฺวา กเถมิ. โส มํ ปฺเหนาติ โส มํ ปฺเหน อุปคจฺฉตุ. อหํ เวยฺยากรเณนาติ อหมสฺส ปฺหกถเนน จิตฺตํ อาราเธสฺสามิ. โย โน ธมฺมานํ สุกุสโลติ โย อมฺหากํ อธิคตธมฺมานํ ¶ สุกุสโล สตฺถา, โส เอส สมฺมุขีภูโต. ยทิ มยา อตฺถปฏิสมฺภิทา น สจฺฉิกตา, ‘‘สจฺฉิกโรหิ ตาว สาริปุตฺตา’’ติ วตฺวา มํ ปฏิพาหิสฺสตีติ สตฺถุ ปุรโต นิสินฺนโกว สีหนาทํ นทติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมาสุ จ ปน ปฏิสมฺภิทาสุ ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา โลกิยา, อตฺถปฏิสมฺภิทา โลกิยโลกุตฺตราติ.
๓. มหาโกฏฺิกสุตฺตวณฺณนา
๑๗๓. ตติเย ¶ ผสฺสายตนานนฺติ ผสฺสากรานํ, ผสฺสสฺส อุปฺปตฺติฏฺานานนฺติ อตฺโถ. อตฺถฺํ กิฺจีติ เอเตสุ อเสสโต นิรุทฺเธสุ ตโต ปรํ โกจิ อปฺปมตฺตโกปิ กิเลโส อตฺถีติ ปุจฺฉติ. นตฺถฺํ กิฺจีติ อิธาปิ ‘‘อปฺปมตฺตโกปิ กิเลโส นตฺถี’’ติ ปุจฺฉติ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. อิเม ปน จตฺตาโรปิ ปฺเห สสฺสตุจฺเฉทเอกจฺจสสฺสตอมราวิกฺเขปวเสน ปุจฺฉติ. เตนสฺส เถโร ปุจฺฉิตปุจฺฉิตํ ปฏิพาหนฺโต มา เหวนฺติ อาห. เอตฺถ หิอิติ นิปาตมตฺตํ, เอวํ มา ภณีติ อตฺโถ. อตฺตูปลทฺธิวเสเนว ‘‘อตฺถฺํ กิฺจิ อฺโ ¶ โกจิ อตฺตา นาม อตฺถี’’ติ สสฺสตาทิอากาเรน ปุจฺฉติ. กึ ปเนส อตฺตูปลทฺธิโกติ? น อตฺตูปลทฺธิโก. เอวํลทฺธิโก ปน ตตฺเถโก ภิกฺขุ นิสินฺโน, โส ปุจฺฉิตุํ น สกฺโกติ. ตสฺส ลทฺธึ วิสฺสชฺชาปนตฺถํ เอวํ ปุจฺฉติ. เยปิ จ อนาคเต เอวํลทฺธิกา ภวิสฺสนฺติ, เตสํ ‘‘พุทฺธกาเลเปโส ปฺโห มหาสาวเกหิ วิสฺสชฺชิโต’’ติ วจโนกาสุปจฺเฉทนตฺถํ ปุจฺฉติเยว.
อปฺปปฺจํ ¶ ปปฺเจตีติ น ปปฺเจตพฺพฏฺาเน ปปฺจํ กโรติ, อนาจริตพฺพํ มคฺคํ จรติ. ตาวตา ปปฺจสฺส คตีติ ยตฺตกา ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ คติ, ตตฺตกาว ตณฺหาทิฏฺิมานปฺปเภทสฺส ปปฺจสฺส คติ. ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา ปปฺจนิโรโธ ปปฺจวูปสโมติ เอเตสุ ฉสุ อายตเนสุ สพฺพโส นิรุทฺเธสุ ปปฺจาปิ นิรุทฺธาว โหนฺติ, วูปสนฺตาว โหนฺตีติ อตฺโถ. อารุปฺเป ปน ปุถุชฺชนเทวตานํ กิฺจาปิ ปฺจ ผสฺสายตนานิ นิรุทฺธานิ, ฉฏฺสฺส ปน อนิรุทฺธตฺตา ตโยปิ ปปฺจา อปฺปหีนาว. อปิจ ปฺจโวการภววเสเนว ปฺโห กถิโตติ. จตุตฺเถ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๕. อุปวาณสุตฺตวณฺณนา
๑๗๕-๑๗๖. ปฺจเม วิชฺชายนฺตกโร โหตีติ วิชฺชาย วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตกโร โหติ, สกลํ วฏฺฏทุกฺขํ ปริจฺฉินฺนํ ปริวฏุมํ กตฺวา ติฏฺตีติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. สอุปาทาโนติ สคหโณว หุตฺวา. อนฺตกโร อภวิสฺสาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตํ กตฺวา ิโต อภวิสฺส. จรณสมฺปนฺโนติ ปนฺนรสธมฺมเภเทน จรเณน สมนฺนาคโต. ยถาภูตํ ชานํ ¶ ปสฺสํ อนฺตกโร โหตีติ ยถาสภาวํ มคฺคปฺาย ชานิตฺวา ปสฺสิตฺวา วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตํ กตฺวา ิโต นาม โหตีติ อรหตฺตนิกูเฏน ปฺหํ นิฏฺเปสิ. ฉฏฺํ เหฏฺา เอกกนิปาตวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๗. ราหุลสุตฺตวณฺณนา
๑๗๗. สตฺตเม ¶ อชฺฌตฺติกาติ เกสาทีสุ วีสติยา โกฏฺาเสสุ ถทฺธาการลกฺขณา ปถวีธาตุ. พาหิราติ พหิทฺธา อนินฺทฺริยพทฺเธสุ ปาสาณปพฺพตาทีสุ ถทฺธาการลกฺขณา ปถวีธาตุ ¶ . อิมินาว นเยน เสสาปิ ธาตุโย เวทิตพฺพา. เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตาติ อิทํ ตยํ ตณฺหามานทิฏฺิคฺคาหปฏิกฺเขปวเสน วุตฺตํ. สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพนฺติ เหตุนา การเณน มคฺคปฺาย ปสฺสิตพฺพํ. ทิสฺวาติ สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺาย ปสฺสิตฺวา. อจฺเฉจฺฉิ ตณฺหนฺติ มคฺควชฺฌตณฺหํ สมูลกํ ฉินฺทิ. วิวตฺตยิ สํโยชนนฺติ ทสวิธมฺปิ สํโยชนํ วิวตฺตยิ อุพฺพตฺเตตฺวา ปชหิ. สมฺมา มานาภิสมยาติ เหตุนา การเณน นววิธสฺส มานสฺส ปหานาภิสมยา. อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสาติ วฏฺฏทุกฺขํ ปริจฺฉินฺนํ ปริวฏุมํ อกาสิ, กตฺวา ิโตติ อตฺโถ. อิติ สตฺถารา สํยุตฺตมหานิกาเย ราหุโลวาเท (สํ. นิ. ๓.๙๑ อาทโย) วิปสฺสนา กถิตา, จูฬราหุโลวาเทปิ (ม. นิ. ๓.๔๑๖ อาทโย) วิปสฺสนา กถิตา, อมฺพลฏฺิกราหุโลวาเท (ม. นิ. ๒.๑๐๗ อาทโย) ทหรสฺเสว สโต มุสาวาทา เวรมณี กถิตา, มหาราหุโลวาเท (ม. นิ. ๒.๑๑๓ อาทโย) วิปสฺสนา กถิตา. อิมสฺมึ องฺคุตฺตรมหานิกาเย อยํ จตุโกฏิกสฺุตา นาม กถิตาติ.
๘. ชมฺพาลีสุตฺตวณฺณนา
๑๗๘. อฏฺเม ¶ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตินฺติ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ อฺตรํ สมาปตฺตึ. สกฺกายนิโรธนฺติ เตภูมกวฏฺฏสงฺขาตสฺส สกฺกายสฺส นิโรธํ, นิพฺพานนฺติ อตฺโถ. น ปกฺขนฺทตีติ อารมฺมณวเสน น ปกฺขนฺทติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. น ปาฏิกงฺโขติ น ปาฏิกงฺขิตพฺโพ. เลปคเตนาติ เลปมกฺขิเตน.
อิมสฺมิฺจ ¶ ปนตฺเถ นทีปารํ คนฺตุกามปุริโสปมฺมํ อาหริตพฺพํ – เอโก กิร ปุริโส จณฺฑโสตาย วาฬมจฺฉากุลาย นทิยา ปารํ คนฺตุกาโม ‘‘โอริมํ ตีรํ สาสงฺกํ สปฺปฏิภยํ, ปาริมํ ตีรํ เขมํ อปฺปฏิภยํ, กึ นุ โข กตฺวา ปารํ คมิสฺสามี’’ติ ปฏิปาฏิยา ิเต อฏฺ กกุธรุกฺเข ทิสฺวา ‘‘สกฺกา อิมาย รุกฺขปฏิปาฏิยา คนฺตุ’’นฺติ มนสิกตฺวา ‘‘กกุธรุกฺขา นาม มฏฺสาขา โหนฺติ, สาขาย หตฺถา น สณฺเหยฺยุ’’นฺติ นิคฺโรธปิลกฺขรุกฺขาทีนํ อฺตรสฺส ลาขาย หตฺถปาเท มกฺเขตฺวา ทกฺขิณหตฺเถน เอกํ สาขํ คณฺหิ. หตฺโถ ตตฺเถว ลคิ. ปุน วามหตฺเถน ทกฺขิณปาเทน วามปาเทนาติ จตฺตาโรปิ หตฺถปาทา ตตฺเถว ลคึสุ. โส อโธสิโร ลมฺพมาโน อุปรินทิยํ เทเว วุฏฺเ ปุณฺณาย นทิยา โสเต นิมุคฺโค กุมฺภีลาทีนํ ภกฺโข อโหสิ.
ตตฺถ ¶ นทีโสตํ วิย สํสารโสตํ ทฏฺพฺพํ, โสตสฺส ปารํ คนฺตุกามปุริโส วิย โยคาวจโร, โอริมตีรํ วิย สกฺกาโย, ปาริมตีรํ วิย นิพฺพานํ, ปฏิปาฏิยา ิตา อฏฺ กกุธรุกฺขา วิย อฏฺ สมาปตฺติโย, เลปมกฺขิเตน ¶ หตฺเถน สาขาคหณํ วิย ฌานวิปสฺสนานํ ปาริปนฺถิเก อโสเธตฺวา สมาปตฺติสมาปชฺชนํ, จตูหิ หตฺถปาเทหิ สาขาย พทฺธสฺส โอลมฺพนํ วิย ปมชฺฌาเน นิกนฺติยา ลคฺคกาโล, อุปริโสเต วุฏฺิ วิย ฉสุ ทฺวาเรสุ กิเลสานํ อุปฺปนฺนกาโล, นทิยา ปุณฺณาย โสเต นิมุคฺคสฺส กุมฺภีลาทีนํ ภกฺขภูตกาโล วิย สํสารโสเต นิมุคฺคสฺส จตูสุ อปาเยสุ ทุกฺขานุภวนกาโล เวทิตพฺโพ.
สุทฺเธน หตฺเถนาติ สุโธเตน ปริสุทฺธหตฺเถน. อิมสฺมิมฺปิ อตฺเถ ตาทิสเมว โอปมฺมํ กาตพฺพํ – ตเถว หิ ปารํ คนฺตุกาโม ปุริโส ‘‘กกุธรุกฺขา นาม มฏฺสาขา, กิลิฏฺหตฺเถน คณฺหนฺตสฺส หตฺโถ ปริคเลยฺยา’’ติ หตฺถปาเท สุโธเต กตฺวา เอกํ สาขํ คณฺหิตฺวา ปมํ รุกฺขํ อารุฬฺโห. ตโต โอตริตฺวา ทุติยํ…เป… ตโต โอตริตฺวา อฏฺมํ, อฏฺมรุกฺขโต โอตริตฺวา ปาริมตีเร เขมนฺตภูมึ คโต.
ตตฺถ ‘‘อิเมหิ รุกฺเขหิ ปาริมตีรํ คมิสฺสามี’’ติ ตสฺส ปุริสสฺส จินฺติตกาโล วิย โยคิโน ‘‘อฏฺ สมาปตฺติโย สมาปชฺชิตฺวา สมาปตฺติโต ¶ วุฏฺาย อรหตฺตํ คมิสฺสามี’’ติ จินฺติตกาโล, สุทฺเธน หตฺเถน สาขาคหณํ วิย ฌานวิปสฺสนานํ ปาริปนฺถิกธมฺเม โสเธตฺวา สมาปตฺติสมาปชฺชนํ. ตตฺถ ปมรุกฺขาโรหณกาโล วิย ปมชฺฌานสมาปตฺติกาโล, ปมรุกฺขโต โอรุยฺห ทุติยํ ¶ อารุฬฺหกาโล วิย ปมชฺฌาเน นิกนฺติยา อพทฺธสฺส ตโต วุฏฺาย ทุติยชฺฌานสมาปนฺนกาโล…เป… สตฺตมรุกฺขโต โอรุยฺห อฏฺมํ อารุฬฺหกาโล วิย อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยํ นิกนฺติยา อพทฺธสฺส ตโต วุฏฺาย เนวสฺานาสฺายตนสมาปนฺนกาโล. อฏฺมรุกฺขโต โอรุยฺห ปาริมตีรํ เขมนฺตภูมึ คตกาโล วิย เนวสฺานาสฺายตเน นิกนฺติยา อพทฺธสฺส สมาปตฺติโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตกาโล เวทิตพฺโพ.
อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรตีติ อฏฺสุ าเนสุ อฺาณภูตาย คณพหลมหาอวิชฺชาย ปเภทสงฺขาตํ อรหตฺตํ มนสิ กโรติ. น ปกฺขนฺทตีติ อารมฺมณวเสเนว น ปกฺขนฺทติ. ชมฺพาลีติ คามโต นิกฺขนฺตสฺส มหาอุทกสฺส ปติฏฺานภูโต มหาอาวาโฏ. อเนกวสฺสคณิกาติ ¶ คามสฺส วา นครสฺส วา อุปฺปนฺนกาเลเยว อุปฺปนฺนตฺตา อเนกานิ วสฺสคณานิ อุปฺปนฺนาย เอติสฺสาติ อเนกวสฺสคณิกา. อายมุขานีติ จตสฺโส ปวิสนกนฺทรา. อปายมุขานีติ อปวาหนจฺฉิทฺทานิ. น อาฬิปฺปเภโท ปาฏิกงฺโขติ น ปาฬิปฺปเภโท ปาฏิกงฺขิตพฺโพ. น หิ ตโต อุทกํ อุฏฺาย ปาฬึ ภินฺทิตฺวา กจวรํ คเหตฺวา มหาสมุทฺทํ ปาปุณาติ.
อิมสฺส ปนตฺถสฺส วิภาวนตฺถํ อุยฺยานคเวสกโอปมฺมํ อาหริตพฺพํ. เอโก ¶ กิร นครวาสิโก กุลปุตฺโต อุยฺยานํ คเวสนฺโต นครโต นาติทูเร นจฺจาสนฺเน มหนฺตํ ชมฺพาลึ อทฺทส. โส ‘‘อิมสฺมึ าเน รมณียํ อุยฺยานํ ภวิสฺสตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา กุทฺทาลํ อาทาย จตฺตาริปิ กนฺทรานิ ปิธาย อปวาหนจฺฉิทฺทานิ วิวริตฺวา อฏฺาสิ. เทโว น สมฺมา วสฺสิ, อวเสสอุทกํ อปวาหนจฺฉิทฺเทน ปริสฺสวิตฺวา คตํ. จมฺมขณฺฑปิโลติกาทีนิ ตตฺเถว ปูติกานิ ชาตานิ, ปาณกา สณฺิตา, สมนฺตา อนุปคมนียา ชาตา. อุปคตานมฺปิ นาสาปุเฏ ปิธาย ปกฺกมิตพฺพํ โหติ ¶ . โส กติปาเหน อาคนฺตฺวา ปฏิกฺกมฺม ิโต โอโลเกตฺวา ‘‘น สกฺกา อุปคนฺตุ’’นฺติ ปกฺกามิ.
ตตฺถ นครวาสี กุลปุตฺโต วิย โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ, อุยฺยานํ คเวสนฺเตน คามทฺวาเร ชมฺพาลิยา ทิฏฺกาโล วิย จาตุมหาภูติกกาโย, อายมุขานํ ปิหิตกาโล วิย ธมฺมสฺสวโนทกสฺส อลทฺธกาโล, อปายมุขานํ วิวฏกาโล วิย ฉทฺวาริกสํวรสฺส วิสฺสฏฺกาโล, เทวสฺส สมฺมา อวุฏฺกาโล วิย สปฺปายกมฺมฏฺานสฺส อลทฺธกาโล, อวเสสอุทกสฺส อปายมุเขหิ ปริสฺสวิตฺวา คตกาโล วิย อพฺภนฺตเร คุณานํ ปริหีนกาโล, อุทกสฺส อุฏฺาย ปาฬึ ภินฺทิตฺวา กจวรํ อาทาย มหาสมุทฺทํ ปาปุณิตุํ อสมตฺถกาโล วิย อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺชาปาฬึ ภินฺทิตฺวา กิเลสราสึ วิธมิตฺวา นิพฺพานํ สจฺฉิกาตุํ อสมตฺถกาโล, จมฺมขณฺฑปิโลติกาทีนํ ตตฺเถว ปูติภาโว วิย อพฺภนฺตเร ราคาทิกิเลเสหิ ปริปูริตกาโล, ตสฺส อาคนฺตฺวา ทิสฺวา ¶ วิปฺปฏิสาริโน คตกาโล วิย วฏฺฏสมงฺคิปุคฺคลสฺส วฏฺเฏ อภิรตกาโล เวทิตพฺโพ.
อาฬิปฺปเภโท ปาฏิกงฺโขติ ปาฬิปฺปเภโท ปาฏิกงฺขิตพฺโพ. ตโต หิ อุทกํ อุฏฺาย ปาฬึ ภินฺทิตฺวา กจวรํ อาทาย มหาสมุทฺทํ ปาปุณิตุํ สกฺขิสฺสตีติ อตฺโถ.
อิธาปิ ¶ ตเทว โอปมฺมํ อาหริตพฺพํ. ตตฺถ อายมุขานํ วิวฏกาโล วิย สปฺปายธมฺมสฺสวนสฺส ลทฺธกาโล, อปายมุขานํ ปิหิตกาโล วิย ฉสุ ทฺวาเรสุ สํวรสฺส ปจฺจุปฏฺิตกาโล, เทวสฺส สมฺมา วุฏฺกาโล วิย สปฺปายกมฺมฏฺานสฺส ลทฺธกาโล, อุทกสฺส อุฏฺาย ปาฬึ ภินฺทิตฺวา กจวรํ อาทาย มหาสมุทฺทํ ปตฺตกาโล วิย อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺชํ ภินฺทิตฺวา อกุสลราสึ วิธมิตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉิกตกาโล, อายมุเขหิ ปวิฏฺเน อุทเกน สรสฺส ปริปุณฺณกาโล วิย อพฺภนฺตเร โลกุตฺตรธมฺเมหิ ปริปุณฺณกาโล, สมนฺตโต วตึ กตฺวา รุกฺเข โรเปตฺวา อุยฺยานมชฺเฌ ปาสาทํ มาเปตฺวา นาฏกานิ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา สุโภชนํ ภฺุชนฺตสฺส นิสินฺนกาโล วิย ธมฺมปาสาทํ อารุยฺห ¶ นิพฺพานารมฺมณํ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสินฺนกาโล เวทิตพฺโพ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. เทสนา ปน โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสิกา กถิตาติ.
๙. นิพฺพานสุตฺตวณฺณนา
๑๗๙. นวเม หานภาคิยา สฺาติอาทีสุ ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ลาภึ กามสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ, หานภาคินี ปฺา’’ติ (วิภ. ๗๙๙) อภิธมฺเม วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยถาภูตํ ¶ นปฺปชานนฺตีติ ยถาสภาวโต มคฺคาเณน น ชานนฺติ.
๑๐. มหาปเทสสุตฺตวณฺณนา
๑๘๐. ทสเม โภคนคเร วิหรตีติ ปรินิพฺพานสมเย จาริกํ จรนฺโต ตํ นครํ ปตฺวา ตตฺถ วิหรติ. อานนฺทเจติเยติ อานนฺทยกฺขสฺส ภวนฏฺาเน ปติฏฺิตวิหาเร. มหาปเทเสติ มหาโอกาเส มหาอปเทเส วา, พุทฺธาทโย มหนฺเต มหนฺเต อปทิสิตฺวา วุตฺตานิ มหาการณานีติ อตฺโถ. เนว อภินนฺทิตพฺพนฺติ หฏฺตุฏฺเหิ สาธุการํ ทตฺวา ปุพฺเพว น โสตพฺพํ. เอวํ กเต หิ ปจฺฉา ‘‘อิทํ น สเมตี’’ติ วุจฺจมาโนปิ ‘‘กึ ปุพฺเพว อยํ ธมฺโม, อิทานิ น ธมฺโม’’ติ วตฺวา ลทฺธึ น วิสฺสชฺเชติ. นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพนฺติ ‘‘กึ เอส พาโล วทตี’’ติ เอวํ ปุพฺเพว น วตฺตพฺพํ. เอวํ วุตฺเต หิ วตฺตุํ ยุตฺตมฺปิ น วกฺขติ. เตนาห – อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวาติ. ปทพฺยฺชนานีติ ปทสงฺขาตานิ พฺยฺชนานิ. สาธุกํ อุคฺคเหตฺวาติ ‘‘อิมสฺมึ าเน ปาฬิ วุตฺตา, อิมสฺมึ าเน อตฺโถ วุตฺโต, อิมสฺมึ าเน อนุสนฺธิ กถิตา ¶ , อิมสฺมึ าเน ปุพฺพาปรํ กถิต’’นฺติ สุฏฺุ คเหตฺวา. สุตฺเต โอตาเรตพฺพานีติ สุตฺเต โอตริตพฺพานิ. วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานีติ วินเย สํสนฺเทตพฺพานิ.
เอตฺถ จ สุตฺตนฺติ วินโย วุตฺโต. ยถาห – ‘‘กตฺถ ปฏิกฺขิตฺตํ, สาวตฺถิยํ สุตฺตวิภงฺเค’’ติ (จูฬว. ๔๕๗) วินโยติ ขนฺธโก. ยถาห – ‘‘วินยาติสาเร’’ติ. เอวํ วินยปิฏกมฺปิ น ปริยาทิยติ. อุภโตวิภงฺคา ปน ¶ สุตฺตํ, ขนฺธกปริวารา ¶ วินโยติ เอวํ วินยปิฏกํ ปริยาทิยติ. อถ วา สุตฺตนฺตปิฏกํ สุตฺตํ, วินยปิฏกํ วินโยติ เอวํ ทฺเวเยว ปิฏกานิ ปริยาทิยนฺติ. สุตฺตนฺตาภิธมฺมปิฏกานิ วา สุตฺตํ, วินยปิฏกํ วินโยติ เอวมฺปิ ตีณิ ปิฏกานิ น ตาว ปริยาทิยนฺติ. อสุตฺตนามกฺหิ พุทฺธวจนํ นาม อตฺถิ. เสยฺยถิทํ – ชาตกํ ปฏิสมฺภิทา นิทฺเทโส สุตฺตนิปาโต ธมฺมปทํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ วิมานวตฺถุ เปตวตฺถุ เถรคาถา เถรีคาถา อปทานนฺติ.
สุทินฺนตฺเถโร ปน ‘‘อสุตฺตนามกํ พุทฺธวจนํ นตฺถี’’ติ ตํ สพฺพํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘ตีณิ ปิฏกานิ สุตฺตํ, วินโย ปน การณ’’นฺติ อาห. ตโต ตํ การณํ ทสฺเสนฺโต อิทํ สุตฺตมาหริ –
‘‘เย โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ, อิเม ธมฺมา สราคาย สํวตฺตนฺติ โน วิราคาย, สํโยคาย สํวตฺตนฺติ โน วิสํโยคาย, สอุปาทานาย สํวตฺตนฺติ โน อนุปาทานาย, มหิจฺฉตาย สํวตฺตนฺติ โน อปฺปิจฺฉตาย, อสนฺตุฏฺิยา สํวตฺตนฺติ โน สนฺตุฏฺิยา, โกสชฺชาย สํวตฺตนฺติ โน วีริยารมฺภาย, สงฺคณิกาย สํวตฺตนฺติ โน ปวิเวกาย, อาจยาย สํวตฺตนฺติ โน อปจยาย. เอกํเสน, โคตมิ, ชาเนยฺยาสิ ‘เนโส ธมฺโม เนโส วินโย เนตํ สตฺถุ สาสน’นฺติ.
‘‘เย จ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ, อิเม ธมฺมา วิราคาย สํวตฺตนฺติ โน สราคาย, วิสํโยคาย สํวตฺตนฺติ โน สํโยคาย. อนุปาทานาย สํวตฺตนฺติ โน สอุปาทานาย, อปฺปิจฺฉตาย สํวตฺตนฺติ โน มหิจฺฉตาย, สนฺตุฏฺิยา สํวตฺตนฺติ โน อสนฺตุฏฺิยา, วีริยารมฺภาย สํวตฺตนฺติ โน โกสชฺชาย, ปวิเวกาย สํวตฺตนฺติ โน สงฺคณิกาย, อปจยาย สํวตฺตนฺติ โน อาจยาย. เอกํเสน, โคตมิ ¶ , ชาเนยฺยาสิ ‘เอโส ¶ ธมฺโม เอโส วินโย เอตํ สตฺถุ สาสน’’’นฺติ (จูฬว. ๔๐๖; อ. นิ. ๘.๕๓).
ตสฺมา สุตฺเตติ เตปิฏกพุทฺธวจเน โอตาเรตพฺพานิ. วินเยติ เอตสฺมึ ราคาทิวินยการเณ สํสนฺเทตพฺพานีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. น เจว สุตฺเต โอตรนฺตีติ สุตฺตปฏิปาฏิยา กตฺถจิ อนาคนฺตฺวา ฉลฺลึ อุฏฺเปตฺวา ¶ คุฬฺหเวสฺสนฺตร-คุฬฺหอุมฺมคฺค-คุฬฺหวินยเวทลฺลปิฏกานํ อฺตรโต อาคตานิ ปฺายนฺตีติ อตฺโถ. เอวํ อาคตานิ หิ ราคาทิวินเย จ อปฺายมานานิ ฉฑฺเฑตพฺพานิ โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อิติ หิทํ, ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถา’’ติ. เอเตนุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถาติ อิมํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ ธมฺมสฺส ปติฏฺาโนกาสํ ธาเรยฺยาถาติ.
สฺเจตนิยวคฺโค ตติโย.