📜
(๑๙) ๔. พฺราหฺมณวคฺโค
๑. โยธาชีวสุตฺตวณฺณนา
๑๘๑. จตุตฺถสฺส ¶ ปเม านกุสโลติ เยน าเนน ิโต อวิราเธตฺวา วิชฺฌิตุํ สกฺโกติ, ตสฺมึ าเน กุสโล. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๒. ปาฏิโภคสุตฺตวณฺณนา
๑๘๒. ทุติเย นตฺถิ โกจิ ปาฏิโภโคติ อหํ เต ปาฏิโภโคติ เอวํ ปาฏิโภโค ภวิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. ชราธมฺมนฺติ ชราสภาวํ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
๓. สุตสุตฺตวณฺณนา
๑๘๓. ตติเย ¶ นตฺถิ ตโต โทโสติ ตสฺมึ โทโส นาม นตฺถีติ อตฺโถ.
๔. อภยสุตฺตวณฺณนา
๑๘๔. จตุตฺเถ กิจฺฉาชีวิตการณฏฺเน โรโคว โรคาตงฺโก นาม. ผุฏฺสฺสาติ เตน โรคาตงฺเกน สมนฺนาคตสฺส. อุรตฺตาฬึ กนฺทตีติ อุรํ ตาเฬตฺวา โรทติ. อกตกลฺยาโณติอาทีสุ กลฺยาณํ วุจฺจติ ปฺุกมฺมํ ¶ , ตํ อกตํ เอเตนาติ อกตกลฺยาโณ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ปฺุกมฺมเมว หิ โกสลฺลสมฺภูตตฺตา กุสลํ, ภีตสฺส ปริตฺตายกตฺตา ภีรุตฺตาณนฺติ วุจฺจติ. กตปาโปติอาทีสุ ปาปํ วุจฺจติ ลามกํ อกุสลกมฺมํ. ลุทฺทนฺติ กกฺขฬกมฺมํ. กิพฺพิสนฺติ สมลํ อปริสุทฺธกมฺมํ. กงฺขี โหตีติ พุทฺธธมฺมสงฺฆคุเณสุ เจว สิกฺขาย จ ปุพฺพนฺเต จ อปรนฺเต จ ปุพฺพนฺตาปรนฺเต จ ปฏิจฺจสมุปฺปาเท จาติ อฏฺสุ าเนสุ กงฺขาย สมนฺนาคโต ¶ โหติ. วิจิกิจฺฉีติ วิจิกิจฺฉาย สมนฺนาคโต สาสนสทฺธมฺเม น นิฏฺํ คโต, อุคฺคหปริปุจฺฉาวเสน นิฏฺํ คนฺตุํ น สกฺโกติ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๕. พฺราหฺมณสจฺจสุตฺตวณฺณนา
๑๘๕. ปฺจเม พฺราหฺมณสจฺจานีติ พฺราหฺมณานํ สจฺจานิ ตถานิ. โส เตน น สมโณติ มฺตีติ โส ขีณาสโว เตน สจฺเจน ‘‘อหํ สมโณ’’ติ ตณฺหามานทิฏฺีหิ น มฺติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ยเทว ตตฺถ สจฺจํ, ตทภิฺายาติ ยํ ตตฺถ ‘‘สพฺเพ ปาณา ¶ อวชฺฌา’’ติ ปฏิปตฺติยา สจฺจํ ตถํ อวิปรีตํ. อิมินา วจีสจฺจํ อพฺภนฺตรํ กตฺวา ปรมตฺถสจฺจํ นิพฺพานํ ทสฺเสติ. ตทภิฺายาติ ตํ อุภยมฺปิ อภิวิสิฏฺาย ปฺาย ชานิตฺวา. อนุทฺทยาย อนุกมฺปาย ปฏิปนฺโน โหตีติ อนุทฺทยตฺถาย จ อนุกมฺปตฺถาย จ ยา ปฏิปทา, ตํ ปฏิปนฺโน โหติ, ปูเรตฺวา ิโตติ อตฺโถ. เสสปฏิปทาสุปิ เอเสว นโย.
สพฺเพ กามาติ สพฺเพ วตฺถุกามกิเลสกามา. อิติ วทํ พฺราหฺมโณ สจฺจมาหาติ เอวมฺปิ วทนฺโต ขีณาสวพฺราหฺมโณ สจฺจเมว อาห. สพฺเพ ภวาติ กามภวาทโย ตโยปิ. นาหํ กฺวจนีติ เอตฺถ ปน จตุกฺโกฏิกสฺุตา กถิตา. อยฺหิ ‘‘นาหํ กฺวจนี’’ติ กฺวจิ อตฺตานํ น ปสฺสติ, กสฺสจิ กิฺจนตสฺมินฺติ อตฺตโน อตฺตานํ กสฺสจิ ปรสฺส กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ น ปสฺสติ, ภาติฏฺาเน ภาตรํ, สหายฏฺาเน สหายํ, ปริกฺขารฏฺาเน วา ปริกฺขารํ มฺิตฺวา อุปเนตพฺพํ น ปสฺสตีติ อตฺโถ. น จ มม กฺวจนีติ เอตฺถ มมสทฺทํ ตาว เปตฺวา ‘‘น จ กฺวจนิ ปรสฺส จ อตฺตานํ กฺวจิ น ปสฺสตี’’ติ อยมตฺโถ. อิทานิ ‘‘มมสทฺทํ อาหริตฺวา ¶ มม กิสฺมิฺจิ กิฺจนํ นตฺถี’’ติ โส ปรสฺส อตฺตา มม กิสฺมิฺจิ กิฺจนภาเว อตฺถีติ น ปสฺสติ, อตฺตโน ภาติฏฺาเน ภาตรํ, สหายฏฺาเน ¶ สหายํ, ปริกฺขารฏฺาเน วา ปริกฺขารนฺติ กิสฺมิฺจิ าเน ปรสฺส อตฺตานํ อิมินา กิฺจนภาเวน อุปเนตพฺพํ น ปสฺสตีติ อตฺโถ. เอวมยํ ยสฺมา เนว กตฺถจิ อตฺตานํ ปสฺสติ, น ตํ ปรสฺส กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ ปสฺสติ, น ปรสฺส อตฺตานํ ปสฺสติ, น ปรสฺส อตฺตานํ อตฺตโน กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ ปสฺสตีติ. อิติ วทํ พฺราหฺมโณติ เอวํ จตุกฺโกฏิกํ สฺุตํ วทนฺโตปิ ขีณาสวพฺราหฺมโณ ตสฺสา ปฏิปทาย สมฺมา ปฏิวิทฺธตฺตา สจฺจเมว อาห, น มุสาติ สพฺเพสุปิ วาเรสุ มฺนานํ ปหีนตฺตาเยว น มฺตีติ จ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อากิฺจฺํเยว ¶ ปฏิปทนฺติ กิฺจนภาววิรหิตํ นิปฺปลิโพธํ นิคฺคหณเมว ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ ปูเรตฺวา ิโต.
อิมานิ โข ปริพฺพาชกา จตฺตาริ พฺราหฺมณสจฺจานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานีติ ยานิ ตุมฺเห โภวาทิพฺราหฺมณานํ สจฺจานิ วเทถ, เตหิ อฺานิ มยา อิมานิ พาหิตปาปพฺราหฺมณสฺส จตฺตาริ สจฺจานิ จตูหิ มคฺเคหิ โสฬสวิเธน กิจฺเจน ชานิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา ปเวทิตานิ เทสิตานิ โชติตานีติ อตฺโถ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต จตูสุปิ าเนสุ ขีณาสวสฺส วจีสจฺจเมว กถิตนฺติ.
๖. อุมฺมคฺคสุตฺตวณฺณนา
๑๘๖. ฉฏฺเ ปริกสฺสตีติ อากฑฺฒิยติ. อุมฺมคฺโคติ อุมฺมุชฺชนํ, ปฺาคมนนฺติ อตฺโถ. ปฺา เอว วา อุมฺมุชฺชนฏฺเน อุมฺมคฺโคติ วุจฺจติ. สาว ปฏิภานฏฺเน ปฏิภานํ. จิตฺตสฺส ¶ อุปฺปนฺนสฺส วสํ คจฺฉตีติ เย จิตฺตสฺส วสํ คจฺฉนฺติ, เตสํเยเวตฺถ คหณํ เวทิตพฺพํ. อตฺถมฺาย ธมฺมมฺายาติ อตฺถฺจ ปาฬิฺจ ชานิตฺวา. ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหตีติ โลกุตฺตรธมฺมสฺส อนุจฺฉวิกธมฺมํ สห สีเลน ปุพฺพภาคปฺปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ. นิพฺเพธิกปฺโติ นิพฺพิชฺฌนกปฺโ. อิทํ ทุกฺขนฺติ เปตฺวา ตณฺหํ เสสํ เตภูมกกฺขนฺธปฺจกํ ทุกฺขนฺติ สุตํ โหติ. ปฺายาติ มคฺคปฺาย. อยํ ทุกฺขสมุทโยติ วฏฺฏมูลกตณฺหา ตสฺส ทุกฺขสฺส สมุทโยติ สุตํ ¶ โหติ. อิมินา อุปาเยน เสสทฺวเยปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. จตุตฺถปฺหวิสฺสชฺชเนน อรหตฺตผลํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๗. วสฺสการสุตฺตวณฺณนา
๑๘๗. สตฺตเม โตเทยฺยสฺสาติ ตุทิคามวาสิกสฺส. ปริสตีติ สนฺนิปติตาย ปริสาย. ปรูปารมฺภํ วตฺเตนฺตีติ ปรครหํ ปวตฺเตนฺติ กเถนฺติ. พาโล อยํ ราชาติอาทิ ยํ เต อุปารมฺภํ วตฺเตนฺติ, ตสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สมเณ รามปุตฺเตติ อุทเก รามปุตฺเต. อภิปฺปสนฺโนติ อติกฺกมฺม ปสนฺโน. ปรมนิปจฺจการนฺติ อุตฺตมนิปาตกิริยํ นีจวุตฺตึ. ปริหารกาติ ปริจารกา. ยมโกติอาทีนิ ¶ เตสํ นามานิ. เตสุ หิ เอโก ยมโก นาม, เอโก โมคฺคลฺโล นาม, เอโก อุคฺโค ¶ นาม, เอโก นาวินฺทกี นาม, เอโก คนฺธพฺโพ นาม, เอโก อคฺคิเวสฺโส นาม. ตฺยาสฺสุทนฺติ เอตฺถ อสฺสุทนฺติ นิปาตมตฺตํ, เต อตฺตโน ปริสติ นิสินฺเนติ อตฺโถ. อิมินา นเยน เนตีติ อิมินา การเณน อนุเนติ ชานาเปติ. กรณียาธิกรณีเยสูติ ปณฺฑิเตหิ กตฺตพฺพกิจฺเจสุ จ อติเรกกตฺตพฺพกิจฺเจสุ จ. วจนียาธิวจนีเยสูติ วตฺตพฺเพสุ จ อติเรกวตฺตพฺเพสุ จ. อลมตฺถทสตเรหีติ เอตฺถ อตฺเถ ปสฺสิตุํ สมตฺถา อลมตฺถทสา, เต อติสิตฺวา ิตา อลมตฺถทสตรา, เตหิ อลมตฺถทสตเรหิ. อลมตฺถทสตโรติ อลมตฺถทสตาย อุตฺตริตโร, เฉเกหิ เฉกตโร ปณฺฑิเตหิ ปณฺฑิตตโรติ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. อถสฺส เต ปฏิปุจฺฉนฺตา เอวํ โภติอาทิมาหํสุ. อิติ พฺราหฺมโณ อตฺตโน สปฺปุริสตาย ตํ เอเฬยฺยราชานมฺปิ ตสฺส ปริวาริเกปิ อุทกมฺปิ รามปุตฺตํ ปสํสิ. อนฺโธ วิย หิ อสปฺปุริโส, จกฺขุมา วิย สปฺปุริโส. ยถา อนฺโธ เนว อนนฺธํ น อนฺธํ ปสฺสติ, เอวํ อสปฺปุริโส เนว สปฺปุริสํ น อสปฺปุริสํ ชานาติ. ยถา จกฺขุมา อนฺธมฺปิ อนนฺธมฺปิ ปสฺสติ, เอวํ สปฺปุริโส สปฺปุริสมฺปิ อสปฺปุริสมฺปิ ชานาติ. โตเทยฺโยปิ สปฺปุริสตาย ¶ อสปฺปุริเส อฺาสีติ อิมมตฺถวสํ ปฏิจฺจ ตุฏฺมานโส พฺราหฺมโณ อจฺฉริยํ โภ, โคตมาติอาทีนิ วตฺวา ตถาคตสฺส ภาสิตํ อนุโมทิตฺวา ปกฺกามิ.
๘. อุปกสุตฺตวณฺณนา
๑๘๘. อฏฺเม ¶ อุปโกติ ตสฺส นามํ. มณฺฑิกาปุตฺโตติ มณฺฑิกาย ปุตฺโต. อุปสงฺกมีติ โส กิร เทวทตฺตสฺส อุปฏฺาโก, ‘‘กึ นุ โข สตฺถา มยิ อตฺตโน สนฺติกํ อุปคเต วณฺณํ กเถสฺสติ, อุทาหุ อวณฺณ’’นฺติ ปริคฺคณฺหนตฺถํ อุปสงฺกมิ. ‘‘เนรยิโก เทวทตฺโต กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ’’ติ (จูฬว. ๓๔๘) วจนํ สุตฺวา สตฺถารํ ฆฏฺเฏตุกาโม อุปสงฺกมีติปิ วทนฺติ. ปรูปารมฺภํ วตฺเตตีติ ปรครหํ กเถติ. สพฺโพ โส น อุปปาเทตีติ สพฺโพปิ โส กุสลธมฺมํ น อุปฺปาเทติ, อตฺตโน วา วจนํ อุปปาเทตุํ อนุจฺฉวิกํ กาตุํ น สกฺโกติ. อนุปปาเทนฺโต คารยฺโห โหตีติ กุสลํ ธมฺมํ อุปฺปาเทตุํ อสกฺโกนฺโต อตฺตโน จ วจนํ อุปปนฺนํ อนุจฺฉวิกํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต คารยฺโห โหติ. อุปวชฺโชติ อุปวทิตพฺโพ จ โหติ, วชฺเชน วา อุเปโต โหติ, สโทโส โหตีติ อตฺโถ.
อถ ภควา ตสฺส วาทํ คเหตฺวา ตสฺเสว คีวาย ปฏิมฺุจนฺโต ปรูปารมฺภนฺติอาทิมาห. อุมฺมุชฺชมานกํเยวาติ ¶ อุทกโต สีสํ อุกฺขิปนฺตํเยว. ตตฺถ อปริมาณา ปทาติอาทีสุ ตสฺมึ อกุสลนฺติ ปฺาปเน ปทานิปิ อกฺขรานิปิ ธมฺมเทสนาปิ อปริมาณาเยว. อิติปิทํ ¶ อกุสลนฺติ อิทมฺปิ อกุสลํ อิทมฺปิ อกุสลํ อิมินาปิ การเณน อิมินาปิ การเณน อกุสลนฺติ เอวํ อกุสลปฺตฺติยํ อาคตานิปิ อปริมาณานิ. อถาปิ อฺเนากาเรน ตถาคโต ตํ ธมฺมํ เทเสยฺย, เอวมฺปิสฺส เทสนา อปริมาณา ภเวยฺย. ยถาห – ‘‘อปริยาทินฺนาวสฺส ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนา, อปริยาทินฺนํ ธมฺมปทพฺยฺชน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๖๑). อิมินา อุปาเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยาว ธํสี วตายนฺติ ยาว คุณธํสี วต อยํ. โลณการทารโกติ โลณการคามทารโก. ยตฺร หิ นามาติ โย หิ นาม. อาสาเทตพฺพํ มฺิสฺสตีติ ฆฏฺเฏตพฺพํ มฺิสฺสติ. อเปหีติ อปคจฺฉ, มา เม ปุรโต อฏฺาสิ. เอวฺจ ปน วตฺวา คีวาย คณฺหาเปตฺวา นิกฺกฑฺฒาเปสิเยวาติ.
๙. สจฺฉิกรณียสุตฺตวณฺณนา
๑๘๙. นวเม ¶ กาเยนาติ นามกาเยน. สจฺฉิกรณียาติ ปจฺจกฺขํ กาตพฺพา. สติยาติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยา. จกฺขุนาติ ทิพฺพจกฺขุนา. ปฺายาติ ฌานปฺาย วิปสฺสนาปฺา สจฺฉิกาตพฺพา, วิปสฺสนาปฺาย มคฺคปฺา, มคฺคปฺาย ผลปฺา, ผลปฺาย ปจฺจเวกฺขณปฺา สจฺฉิกาตพฺพา, ปตฺตพฺพาติ อตฺโถ. อาสวานํ ขยสงฺขาตํ ปน อรหตฺตํ ¶ ปจฺจเวกฺขณวเสน ปจฺจเวกฺขณปฺาย สจฺฉิกรณียํ นามาติ.
๑๐. อุโปสถสุตฺตวณฺณนา
๑๙๐. ทสเม ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตนฺติ ยโต ยโต อนุวิโลเกติ, ตโต ตโต ตุณฺหีภูตเมว. ภิกฺขู อามนฺเตสีติ ปฏิปตฺติสมฺปนฺเน ภิกฺขู ปสนฺเนหิ จกฺขูหิ อนุวิโลเกตฺวา อุปฺปนฺนธมฺมปาโมชฺโช โถเมตุกามตาย อามนฺเตสิ. อปลาปาติ ปลาปรหิตา. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. สุทฺธาติ นิมฺมลา. สาเร ปติฏฺิตาติ สีลาทิสาเร ปติฏฺิตา. อลนฺติ ยุตฺตํ. โยชนคณนานีติ เอกํ โยชนํ โยชนเมว, ทสปิ โยชนานิ โยชนาเนว. ตโต อุทฺธํ ‘‘โยชนคณนานี’’ติ วุจฺจติ. อิธ ปน โยชนสตมฺปิ โยชนสหสฺสมฺปิ อธิปฺเปตํ. ปุโฏเสนาปีติ ปุโฏสํ วุจฺจติ ปาเถยฺยํ, ปาเถยฺยํ คเหตฺวาปิ อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตเมวาติ อตฺโถ. ปุฏํเสนาติปิ ¶ ปาโ. ตสฺสตฺโถ – ปุโฏ อํเส อสฺสาติ ปุฏํโส, เตน ปุฏํเสน, อํเสน ปาเถยฺยปุฏํ วหนฺเตนาปีติ วุตฺตํ โหติ.
อิทานิ เอวรูเปหิ เอวรูเปหิ จ คุเณหิ สมนฺนาคตา เอตฺถ ภิกฺขู อตฺถีติ ทสฺเสตุํ สนฺติ ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ เทวปฺปตฺตาติ อุปปตฺติเทวนิพฺพตฺตกํ ทิพฺพวิหารํ ทิพฺพวิหาเรน จ อรหตฺตํ ปตฺตา. พฺรหฺมปฺปตฺตาติ ¶ นิทฺโทสฏฺเน พฺรหฺมภาวสาธกํ พฺรหฺมวิหารํ พฺรหฺมวิหาเรน จ อรหตฺตํ ปตฺตา. อาเนฺชปฺปตฺตาติ อนิฺชนภาวสาธกํ อาเนฺชํ อาเนฺเชน จ อรหตฺตํ ปตฺตา. อริยปฺปตฺตาติ ปุถุชฺชนภาวํ อติกฺกมฺม อริยภาวํ ปตฺตา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เทวปฺปตฺโต โหตีติอาทีสุ เอวํ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌาเน ตฺวา จิตฺตํ วิวฏฺเฏตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต เทวปฺปตฺโต นาม โหติ ¶ , จตูสุ พฺรหฺมวิหาเรสุ ตฺวา จิตฺตํ วิวฏฺเฏตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต พฺรหฺมปฺปตฺโต นาม, จตูสุ อรูปชฺฌาเนสุ ตฺวา จิตฺตํ วิวฏฺเฏตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต อาเนฺชปฺปตฺโต นาม. อิทํ ทุกฺขนฺติอาทีหิ จตูหิ สจฺเจหิ จตฺตาโร มคฺคา ตีณิ จ ผลานิ กถิตานิ. ตสฺมา อิมํ อริยธมฺมํ ปตฺโต ภิกฺขุ อริยปฺปตฺโต นาม โหตีติ.
พฺราหฺมณวคฺโค จตุตฺโถ.