📜

(๒๐) ๕. มหาวคฺโค

๑. โสตานุคตสุตฺตวณฺณนา

๑๙๑. ปฺจมสฺส ปเม โสตานุคตานนฺติ ปสาทโสตํ โอทหิตฺวา าณโสเตน ววตฺถปิตานํ. จตฺตาโร อานิสํสา ปาฏิกงฺขาติ จตฺตาโร คุณานิสํสา ปาฏิกงฺขิตพฺพา. อิทํ ปน ภควตา อตฺถุปฺปตฺติวเสน อารทฺธํ. กตรอตฺถุปฺปตฺติวเสนาติ? ภิกฺขูนํ ธมฺมสฺสวนาย อนุปสงฺกมนอตฺถุปฺปตฺติวเสน. ปฺจสตา กิร พฺราหฺมณปพฺพชิตา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ลิงฺควจนวิภตฺติปทพฺยฺชนาทีหิ กเถนฺโต อมฺเหหิ าตเมว กเถสฺสติ, อฺาตํ กึ กเถสฺสตี’’ติ ธมฺมสฺสวนตฺถํ น คจฺฉนฺติ. สตฺถา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา เต ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘กสฺมา เอวํ กโรถ, สกฺกจฺจํ ธมฺมํ สุณาถ, สกฺกจฺจํ ธมฺมํ สุณนฺตานฺจ สชฺฌายนฺตานฺจ อิเม เอตฺตกา อานิสํสา’’ติ ทสฺเสนฺโต อิมํ เทสนํ อารภิ.

ตตฺถ ธมฺมํ ปริยาปุณาตีติ สุตฺตํ เคยฺยนฺติอาทิกํ นวงฺคํ สตฺถุสาสนภูตํ ตนฺติธมฺมํ วฬฺเชติ. โสตานุคตา โหนฺตีติ โสตํ อนุปฺปตฺตา อนุปวิฏฺา โหนฺติ. มนสานุเปกฺขิตาติ จิตฺเตน โอโลกิตา. ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธาติ อตฺถโต จ การณโต จ ปฺาย สุฏฺุ ปฏิวิทฺธา ปจฺจกฺขํ กตา. มุฏฺสฺสติ กาลํ กุรุมาโนติ นยิทํ พุทฺธวจนํ อนุสฺสรณสติยา อภาเวน วุตฺตํ, ปุถุชฺชนกาลกิริยํ ปน สนฺธาย วุตฺตํ. ปุถุชฺชโน หิ มุฏฺสฺสติ กาลํ กโรติ นาม. อุปปชฺชตีติ สุทฺธสีเล ปติฏฺิโต เทวโลเก นิพฺพตฺตติ. ธมฺมปทา ปฺลวนฺตีติ อนฺตราภเว นิพฺพตฺตมุฏฺสฺสติโน, เยปิ ปุพฺเพ สชฺฌายมูลิกา วาจาปริจิตพุทฺธวจนธมฺมา, เต สพฺเพ ปสนฺเน อาทาเส ฉายา วิย ปฺลวนฺติ, ปากฏา หุตฺวา ปฺายนฺติ. ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโทติ พุทฺธวจนานุสฺสรณสติยา อุปฺปาโท ทนฺโธ ครุ. อถ โส สตฺโต ขิปฺปํเยว วิเสสคามี โหติ, นิพฺพานคามี โหตีติ อตฺโถ.

อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโตติ อิทฺธิสมฺปนฺโน จิตฺตสฺส วสิภาวปตฺโต ขีณาสโว. อยํวา โส ธมฺมวินโยติ เอตฺถ วิภาวนตฺโถ วา-สทฺโท. ยตฺถาติ ยสฺมึ ธมฺมวินเย. พฺรหฺมจริยํ อจรินฺติ พฺรหฺมจริยวาสํ วสึ. อิทมฺปิ พุทฺธวจนํ มยา ปุพฺเพ วฬฺชิตนฺติ พุทฺธวจนานุสฺสรณวเสเนตํ วุตฺตํ. เทวปุตฺโตติ ปฺจาลจณฺโฑ วิย หตฺถกมหาพฺรหฺมา วิย สนงฺกุมารพฺรหฺมา วิย จ เอโก ธมฺมกถิกเทวปุตฺโต. โอปปาติโก โอปปาติกํ สาเรตีติ ปมํ อุปฺปนฺโน เทวปุตฺโต ปจฺฉา อุปฺปนฺนํ สาเรติ. สหปํสุกีฬิกาติ เอเตน เนสํ ทีฆรตฺตํ กตปริจยภาวํ ทสฺเสติ. สมาคจฺเฉยฺยุนฺติ สาลาย วา รุกฺขมูเล วา สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยุํ. เอวํ วเทยฺยาติ สาลาย วา รุกฺขมูเล วา ปมตรํ นิสินฺโน ปจฺฉา อาคตํ เอวํ วเทยฺย. เสสเมตฺถ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพํ.

๒. านสุตฺตวณฺณนา

๑๙๒. ทุติเย านานีติ การณานิ. าเนหีติ การเณหิ. โสเจยฺยนฺติ สุจิภาโว. สํวสมาโนติ เอกโต วสมาโน. น สนฺตตการีติ น สตตการี. น สนฺตตวุตฺติ สีเลสูติ สตตํ สพฺพกาลํ สีลชีวิตํ น ชีวตีติ อตฺโถ. สํโวหารมาโนติ กเถนฺโต. เอเกน เอโก โวหรตีติ เอเกน สทฺธึ เอโก หุตฺวา กเถติ. โวกฺกมตีติ โอกฺกมติ. ปุริมโวหารา ปจฺฉิมโวหารนฺติ ปุริมกถาย ปจฺฉิมกถํ, ปุริมกถาย จ ปจฺฉิมกถา, ปจฺฉิมกถาย จ ปุริมกถา น สเมตีติ อตฺโถ.

าติพฺยสเนนาติอาทีสุ าตีนํ พฺยสนํ าติพฺยสนํ, าติวินาโสติ อตฺโถ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. โรคพฺยสเน ปน โรโคเยว อาโรคฺยวินาสนโต พฺยสนํ โรคพฺยสนํ. อนุปริวตฺตนฺตีติ อนุพนฺธนฺติ. ลาโภ จาติอาทีสุ เอกํ อตฺตภาวํ ลาโภ อนุปริวตฺตติ, เอกํ อลาโภติ เอวํ นโย เนตพฺโพ. สากจฺฉายมาโนติ ปฺหปุจฺฉนวิสฺสชฺชนวเสน สากจฺฉํ กโรนฺโต. ยถาติ เยนากาเรน . อุมฺมคฺโคติ ปฺหุมฺมคฺโค. อภินีหาโรติ ปฺหาภิสงฺขรณวเสน จิตฺตสฺส อภินีหาโร. สมุทาหาโรติ ปฺหปุจฺฉนํ. สนฺตนฺติ ปจฺจนีกสนฺตตาย สนฺตํ กตฺวา น กเถตีติ อตฺโถ. ปณีตนฺติ อตปฺปกํ. อตกฺกาวจรนฺติ ยถา ตกฺเกน นยคฺคาเหน คเหตุํ สกฺกา โหติ, เอวํ น กเถตีติ อตฺโถ. นิปุณนฺติ สณฺหํ. ปณฺฑิตเวทนียนฺติ ปณฺฑิเตหิ ชานิตพฺพกํ. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ.

๓. ภทฺทิยสุตฺตวณฺณนา

๑๙๓. ตติเย อุปสงฺกมีติ ภุตฺตปาตราโส หุตฺวา มาลาคนฺธวิเลปนํ คเหตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิสฺสามีติ อุปสงฺกมิ. มา อนุสฺสเวนาติอาทีสุ อนุสฺสววจเนน มม กถํ มา คณฺหถาติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สารมฺโภติ กรณุตฺตริยลกฺขโณ สารมฺโภ. อโลภาทโย โลภาทิปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพา. กุสลธมฺมูปสมฺปทายาติ กุสลธมฺมานํ สมฺปาทนตฺถาย, ปฏิลาภตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ. อิเม เจปิ, ภทฺทิย, มหาสาลาติ ปุรโต ิเต สาลรุกฺเข ทสฺเสนฺโต เอวมาห. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถตฺตา จ สุวิฺเยฺยเมว. สตฺถริ ปน เทสนํ วินิวฏฺเฏนฺเต ภทฺทิโย โสตาปนฺโน ชาโตติ.

๔. สามุคิยาสุตฺตวณฺณนา

๑๙๔. จตุตฺเถ สามุคิยาติ สามุคนิคมวาสิโน. พฺยคฺฆปชฺชาติ เต อาลปนฺโต เอวมาห. โกลนครสฺส หิ โกลรุกฺเข หาเรตฺวา กตตฺตา โกลนครนฺติ จ พฺยคฺฆปเถ มาปิตตฺตา พฺยคฺฆปชฺชนฺติ จ ทฺเว นามานิ. เอเตสฺจ ปุพฺพปุริสา ตตฺถ วสึสูติ พฺยคฺฆปชฺชวาสิตาย พฺยคฺฆปชฺชวาสิโน พฺยคฺฆปชฺชาติ วุจฺจนฺติ. เต อาลปนฺโต เอวมาห. ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานีติ ปาริสุทฺธิอตฺถาย ปธานิยงฺคานิ ปทหิตพฺพวีริยสฺส องฺคานิ, โกฏฺาสาติ อตฺโถ. สีลปาริสุทฺธิปธานิยงฺคนฺติ สีลปริโสธนวีริยสฺเสตํ นามํ. ตฺหิ สีลปาริสุทฺธิปริปูรณตฺถาย ปธานิยงฺคนฺติ สีลปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน วิปสฺสนาปฺาย อนุคฺคเหสฺสามิ . โย ตตฺถ ฉนฺโทติอาทีสุ โย ตสฺมึ อนุคฺคณฺหเน กตฺตุกามตาฉนฺโทติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สติสมฺปชฺํ ปเนตฺถ สตึ อุปฏฺเปตฺวา าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา วีริยปคฺคหนตฺถํ วุตฺตํ. รชนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ วิราเชตีติ ราคปจฺจเยสุ อิฏฺารมฺมเณสุ ยถา จิตฺตํ วิรชฺชติ, เอวํ กโรติ. วิโมจนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ วิโมเจตีติ เยหิ อารมฺมเณหิ จิตฺตํ วิโมเจตพฺพํ, เตสุ ยถา วิมุจฺจติ, เอวํ กโรติ. วิราเชตฺวาติ เอตฺถ มคฺคกฺขเณ วิราเชติ นาม, ผลกฺขเณ วิรตฺตํ นาม โหติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. สมฺมาวิมุตฺตึ ผุสตีติ เหตุนา นเยน อรหตฺตผลวิมุตฺตึ าณผสฺเสน ผุสตีติ.

๕. วปฺปสุตฺตวณฺณนา

๑๙๕. ปฺจเม วปฺโปติ ทสพลสฺส จูฬปิตา สกฺยราชา. นิคณฺสาวโกติ เวสาลิยํ สีหเสนาปติ วิย นาฬนฺทายํ อุปาลิคหปติ วิย จ นิคณฺสฺส นาฏปุตฺตสฺส อุปฏฺาโก. กาเยน สํวุโตติ กายทฺวารสฺส สํวุตตฺตา ปิหิตตฺตา กาเยน สํวุโต นาม. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. อวิชฺชาวิราคาติ อวิชฺชาย ขยวิราเคน. วิชฺชุปฺปาทาติ มคฺควิชฺชาย อุปฺปาเทน. ตํ านนฺติ ตํ การณํ. อวิปกฺกวิปากนฺติ อลทฺธวิปากวารํ. ตโตนิทานนฺติ ตํเหตุ ตปฺปจฺจยา. ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุนฺติ ทุกฺขเวทนาย ปจฺจยภูตา กิเลสา อสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส ปุริสสฺส อุปฺปชฺเชยฺยุนฺติ อตฺโถ. อภิสมฺปรายนฺติ ทุติเย อตฺตภาเว. กายสมารมฺภปจฺจยาติ กายกมฺมปจฺจเยน. อาสวาติ กิเลสา. วิฆาตปริฬาหาติ เอตฺถ วิฆาโตติ ทุกฺขํ. ปริฬาโหติ กายิกเจตสิโก ปริฬาโห. ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตีกโรตีติ าณวชฺฌํ กมฺมํ าณผสฺเสน ผุสิตฺวา ผุสิตฺวา ขยํ คเมติ, วิปากวชฺฌํ กมฺมํ วิปากผสฺเสน ผุสิตฺวา ผุสิตฺวา ขยํ คเมติ. นิชฺชราติ กิเลสชีรณกปฏิปทา. เสสวาเรสุปิ เอเสว นโย. อิธ ตฺวา อยํ ภิกฺขุ ขีณาสโว กาตพฺโพ, จตฺตาริ มหาภูตานิ นีหริตฺวา จตุสจฺจววตฺถานํ ทสฺเสตฺวา ยาว อรหตฺตผลํ กมฺมฏฺานํ กเถตพฺพํ.

อิทานิ ปน ตสฺส ขีณาสวสฺส สตตวิหาเร ทสฺเสตุํ เอวํ สมฺมา วิมุตฺตจิตฺตสฺสาติอาทิมาห. ตตฺถ สมฺมา วิมุตฺตจิตฺตสฺสาติ เหตุนา การเณน สมฺมา วิมุตฺตสฺส. สตตวิหาราติ นิจฺจวิหารา นิพทฺธวิหารา. เนว สุมโน โหตีติ อิฏฺารมฺมเณ ราควเสน น โสมนสฺสชาโต โหติ. น ทุมฺมโนติ อนิฏฺารมฺมเณ ปฏิฆวเสน น โทมนสฺสชาโต โหติ. อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโนติ สติสมฺปชฺปริคฺคหิตาย มชฺฌตฺตาการลกฺขณาย อุเปกฺขาย เตสุ อารมฺมเณสุ อุเปกฺขโก มชฺฌตฺโต หุตฺวา วิหรติ.

กายปริยนฺติกนฺติ กายนฺติกํ กายปริจฺฉินฺนํ, ยาว ปฺจทฺวารกาโย ปวตฺตติ, ตาว ปวตฺตํ ปฺจทฺวาริกเวทนนฺติ อตฺโถ. ชีวิตปริยนฺติกนฺติ ชีวิตนฺติกํ ชีวิตปริจฺฉินฺนํ, ยาว ชีวิตํ ปวตฺตติ, ตาว ปวตฺตํ มโนทฺวาริกเวทนนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ ปฺจทฺวาริกเวทนา ปจฺฉา อุปฺปชฺชิตฺวา ปมํ นิรุชฺฌติ, มโนทฺวาริกเวทนา ปมํ อุปฺปชฺชิตฺวา ปจฺฉา นิรุชฺฌติ. สา หิ ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุรูปสฺมึเยว ปติฏฺาติ. ปฺจทฺวาริกา ปวตฺเต ปฺจทฺวารวเสน ปวตฺตมานา ปมวเย วีสติวสฺสกาเล รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนวเสน อธิมตฺตา พลวตี โหติ, ปณฺณาสวสฺสกาเล ิตา โหติ, สฏฺิวสฺสกาลโต ปฏฺาย ปริหายมานา, อสีตินวุติวสฺสกาเล มนฺทา โหติ. ตทา หิ สตฺตา ‘‘จิรรตฺตํ เอกโต นิสีทิมฺหา นิปชฺชิมฺหา’’ติ วทนฺเตปิ น ชานามาติ วทนฺติ. อธิมตฺตานิปิ รูปาทิอารมฺมณานิ น ปสฺสาม, สุคนฺธทุคฺคนฺธํ วา สาทุอสาทุํ วา ถทฺธมุทุกํ วาติ น ชานามาติปิ วทนฺติ. อิติ เนสํ ปฺจทฺวาริกเวทนา ภคฺคา โหติ, มโนทฺวาริกา ปวตฺตติ. สาปิ อนุปุพฺเพน ปริหายมานา มรณสมเย หทยโกฏึเยว นิสฺสาย ปวตฺตติ. ยาว ปเนสา ปวตฺตติ, ตาว สตฺโต ชีวตีติ วุจฺจติ. ยทา นปฺปวตฺตติ, ตทา ‘‘มโต นิรุทฺโธ’’ติ วุจฺจติ.

สฺวายมตฺโถ วาปิยา ทีเปตพฺโพ – ยถา หิ ปุริโส ปฺจอุทกมคฺคสมฺปนฺนํ วาปึ กเรยฺย. ปมํ เทเว วุฏฺเ ปฺจหิ อุทกมคฺเคหิ อุทกํ ปวิสิตฺวา อนฺโตวาปิยํ อาวาเฏ ปูเรยฺย. ปุนปฺปุนํ เทเว วสฺสนฺเต อุทกมคฺเค ปูเรตฺวา คาวุตฑฺฒโยชนมตฺตํ โอตฺถริตฺวา อุทกํ ติฏฺเยฺย ตโต ตโต วิสฺสนฺทมานํ. อถ นิทฺธมนตุมฺเพ วิวริตฺวา เขตฺเตสุ กมฺเม กยิรมาเน อุทกํ นิกฺขมนฺตํ, สสฺสปากกาเล อุทกํ นิกฺขนฺตํ อุทกํ ปริหีนํ, ‘‘มจฺเฉ คณฺหามา’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺเชยฺย. ตโต กติปาเหน อาวาเฏสุเยว อุทกํ สณฺเหย. ยาว ปน ตํ อาวาเฏสุ โหติ, ตาว มหาวาปิยํ อุทกํ อตฺถีติ สงฺขํ คจฺฉติ. ยทา ปน ตตฺถ ฉิชฺชติ, ตทา ‘‘วาปิยํ อุทกํ นตฺถี’’ติ วุจฺจติ. เอวํ สมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ.

ปมํ เทเว วสฺสนฺเต ปฺจหิ มคฺเคหิ อุทเก ปวิสนฺเต อาวาฏานํ ปูรณกาโล วิย หิ ปมเมว ปฏิสนฺธิกฺขเณ มโนทฺวาริกเวทนาย วตฺถุรูเป ปติฏฺิตกาโล, ปุนปฺปุนํ เทเว วสฺสนฺเต ปฺจมคฺคานํ ปูรณกาโล วิย ปวตฺเต ปฺจทฺวาริกเวทนาย ปวตฺติ, คาวุตฑฺฒโยชนมตฺตํ อชฺโฌตฺถรณํ วิย ปมวเย วีสติวสฺสกาเล รชฺชนาทิวเสน ตสฺส อธิมตฺตพลวภาโว, ยาว วาปิโต อุทกํ น นิคฺคจฺฉติ, ตาว ปูราย วาปิยา ิตกาโล วิย ปฺาสวสฺสกาเล ตสฺส ิตกาโล, นิทฺธมนตุมฺเพสุ วิวเฏสุ กมฺเม กยิรมาเน อุทกสฺส นิกฺขมนกาโล วิย สฏฺิวสฺสกาลโต ปฏฺาย ตสฺส ปริหานิ, อุทเก ภฏฺเ อุทกมคฺเคสุ ปริตฺตอุทกสฺส ิตกาโล วิย อสีตินวุติกาเล ปฺจทฺวาริกเวทนาย มนฺทกาโล, อาวาเฏสุเยว อุทกสฺส ปติฏฺิตกาโล วิย หทยวตฺถุโกฏึ นิสฺสาย มโนทฺวาเร เวทนาย ปวตฺติกาโล, อาวาเฏสุ ปริตฺเตปิ อุทเก สติ ‘‘วาปิยํ อุทกํ อตฺถี’’ติ วตฺตพฺพกาโล วิย ยาว สา ปวตฺตติ, ตาว ‘‘สตฺโต ชีวตี’’ติ วุจฺจติ. ยถา ปน อาวาเฏสุ อุทเก ฉินฺเน ‘‘นตฺถิ วาปิยํ อุทก’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ มโนทฺวาริกเวทนาย อปฺปวตฺตมานาย สตฺโต มโตติ วุจฺจติ. อิมํ เวทนํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยมาโน’’ติ.

กายสฺส เภทาติ กายสฺส เภเทน. อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานาติ ชีวิตกฺขยโต อุทฺธํ. อิเธวาติ ปฏิสนฺธิวเสน ปรโต อคนฺตฺวา อิเธว. สีตีภวิสฺสนฺตีติ ปวตฺติวิปฺผนฺทนทรถรหิตานิ สีตานิ อปฺปวตฺตนธมฺมานิ ภวิสฺสนฺติ.

ถูณํ ปฏิจฺจาติ รุกฺขํ ปฏิจฺจ. กุทฺทาลปิฏกํ อาทายาติ กุทฺทาลฺจ ขณิตฺติฺจ ปจฺฉิฺจ คเหตฺวาติ อตฺโถ. เทสนา ปน กุทฺทาลวเสเนว กตา. มูเล ฉินฺเทยฺยาติ มูลมฺหิ กุทฺทาเลน ฉินฺเทยฺย. ปลิขเณยฺยาติ ขณิตฺติยา สมนฺตา ขเณยฺย.

เอวเมวโขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – รุกฺโข วิย หิ อตฺตภาโว ทฏฺพฺโพ, รุกฺขํ ปฏิจฺจ ฉายา วิย กุสลากุสลํ กมฺมํ, ฉายํ อปฺปวตฺตํ กาตุกาโม ปุริโส วิย โยคาวจโร, กุทฺทาโล วิย ปฺา, ปิฏกํ วิย สมาธิ, ขณิตฺติ วิย วิปสฺสนา, ขณิตฺติยา มูลานํ ปลิขณนกาโล วิย อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺชาย เฉทนกาโล, ขณฺฑาขณฺฑํ กรณกาโล วิย ขนฺธวเสน ทิฏฺกาโล, ผาลนกาโล วิย อายตนวเสน ทิฏฺกาโล, สกลีกรณกาโล วิย ธาตุวเสน ทิฏฺกาโล, วาตาตเปน วิโสสนกาโล วิย กายิกเจตสิกสฺส วีริยสฺส กรณกาโล, อคฺคินา ฑหนกาโล วิย าเณน กิเลสานํ ฑหนกาโล, มสิกรณกาโล วิย วตฺตมานก-ปฺจกฺขนฺธกาโล, มหาวาเต โอผุนนกาโล วิย นทีโสเต ปวาหนกาโล วิย จ ฉินฺนมูลกานํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อปฺปฏิสนฺธิกนิโรโธ, โอผุนนปฺปวาหเนหิ อปฺตฺติกภาวูปคโม วิย ปุนพฺภเว วิปากกฺขนฺธานํ อนุปฺปาเทน อปณฺณตฺติกภาโว เวทิตพฺโพ.

ภควนฺตํ เอตทโวจาติ สตฺถริ เทสนํ วินิวฏฺเฏนฺเต โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา เอตํ ‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ อุทยตฺถิโกติ วฑฺฒิอตฺถิโก. อสฺสปณิยํ โปเสยฺยาติ ปฺจ อสฺสโปตสตานิ กิณิตฺวา ปจฺฉา วิกฺกิณิสฺสามีติ โปเสยฺย. สหสฺสคฺฆนกสฺส อสฺสสฺส ปฺจสตมตฺตํ อุปกรณํ คนฺธมาลาทิวเสน โปสาวนิกํเยว อคมาสิ. อถสฺส เต อสฺสา เอกทิวเสเนว โรคํ ผุสิตฺวา สพฺเพ ชีวิตกฺขยํ ปาปุเณยฺยุนฺติ อิมินา อธิปฺปาเยน เอวมาห. อุทยฺเจว นาธิคจฺเฉยฺยาติ วฑฺฒิฺจ เคหโต นีหริตฺวา ทินฺนมูลฺจ กิฺจิ น ลเภยฺย. ปยิรุปาสินฺติ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหึ. สฺวาหํ อุทยฺเจว นาธิคจฺฉินฺติ โส อหํ เนว อุทยํ น เคหโต ทินฺนธนํ อธิคจฺฉึ, ปณิยอสฺสชคฺคนโก นาม ชาโตสฺมีติ ทสฺเสติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

๖. สาฬฺหสุตฺตวณฺณนา

๑๙๖. ฉฏฺเ ทฺวเยนาติ ทฺวีหิ โกฏฺาเสหิ. โอฆสฺสนิตฺถรณนฺติ จตุโรฆนิตฺถรณํ. ตโปชิคุจฺฉาเหตูติ ทุกฺกรการิกสงฺขาเตน ตเปน ปาปชิคุจฺฉนเหตุ . อฺตรํ สามฺงฺคนฺติ เอกํ สมณธมฺมโกฏฺาสํ. อปริสุทฺธกายสมาจาราติอาทีสุ ปุริเมหิ ตีหิ ปเทหิ กายิกวาจสิกเจตสิกสีลานํ อปริสุทฺธตํ ทสฺเสตฺวา ปจฺฉิเมน ปเทน อปริสุทฺธาชีวตํ ทสฺเสติ. าณทสฺสนายาติ มคฺคาณสงฺขาตาย ทสฺสนาย. อนุตฺตราย สมฺโพธายาติ อรหตฺตาย, อรหตฺตาณผสฺเสน ผุสิตุํ อภพฺพาติ วุตฺตํ โหติ. สาลลฏฺินฺติ สาลรุกฺขํ. นวนฺติ ตรุณํ. อกุกฺกุจฺจกชาตนฺติ ‘‘ภเวยฺย นุ โข, น ภเวยฺยา’’ติ อชเนตพฺพกุกฺกุจฺจํ. เลขณิยา ลิเขยฺยาติ อวเลขนมตฺตเกน อวลิเขยฺย. โธเวยฺยาติ ฆํเสยฺย. อนฺโต อวิสุทฺธาติ อพฺภนฺตเร อสุทฺธา อปนีตสารา.

เอวเมว โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – สาลลฏฺิ วิย หิ อตฺตภาโว ทฏฺพฺโพ, นทีโสตํ วิย สํสารโสตํ, ปารํ คนฺตุกามปุริโส วิย ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย คเหตฺวา ิตปุริโส, สาลลฏฺิยา พหิทฺธา สุปริกมฺมกตกาโล วิย พหิทฺธา ตปจรณํ คาฬฺหํ กตฺวา คหิตกาโล, อนฺโต อสุทฺธกาโล วิย อพฺภนฺตเร สีลานํ อปริสุทฺธกาโล, สาลลฏฺิยา สํสีทิตฺวา อโธคมนํ วิย ทิฏฺิคติกสฺส สํสารโสเต สํสีทนํ เวทิตพฺพํ.

ผิยาริตฺตํ พนฺเธยฺยาติ ผิยฺจ อริตฺตฺจ โยเชยฺย. เอวเมวาติ เอตฺถาปิ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – สาลลฏฺิ วิย อตฺตภาโว, นทีโสตํ วิย สํสารโสตํ, ปารํ คนฺตุกามปุริโส วิย โยคาวจโร, พหิทฺธา สุปริกมฺมกตกาโล วิย ฉสุ ทฺวาเรสุ สํวรสฺส ปจฺจุปฏฺิตกาโล, อนฺโต สุวิโสธิตภาโว วิย อพฺภนฺตเร ปริสุทฺธสีลภาโว, ผิยาริตฺตพนฺธนํ วิย กายิกเจตสิกวีริยกรณํ, โสตฺถินา ปาริมตีรคมนํ วิย อนุปุพฺเพน สีลํ ปูเรตฺวา สมาธึ ปูเรตฺวา ปฺํ ปูเรตฺวา นิพฺพานคมนํ ทฏฺพฺพํ.

กณฺฑจิตฺรกานีติ สรลฏฺิสรรชฺชุสรปาสาทสรสาณิสรโปกฺขรณิสรปทุมานีติ อเนกานิ กณฺเฑหิ กตฺตพฺพจิตฺรานิ. อถ โข โส ตีหิ าเนหีติ โส เอวํ พหูนิ กณฺฑจิตฺรกานิ ชานนฺโตปิ น ราชารโห โหติ, ตีหิเยว ปน าเนหิ โหตีติ อตฺโถ. สมฺมาสมาธิโหตีติ มคฺคสมาธินา จ ผลสมาธินา จ สมาหิโต โหตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. สมฺมาทิฏฺีติ มคฺคสมฺมาทิฏฺิยา สมนฺนาคโต. อิทํ ทุกฺขนฺติอาทีหิ จตูหิ สจฺเจหิ จตฺตาโร มคฺคา ตีณิ จ ผลานิ กถิตานิ. อยํ ปน มคฺเคเนว อวิราธิตํ วิชฺฌติ นามาติ เวทิตพฺโพ. สมฺมาวิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติยา สมนฺนาคโต. อวิชฺชากฺขนฺธํ ปทาเลตีติ อรหตฺตมคฺเคน ปทาเลติ นามาติ วุจฺจติ. อิมินา หิ เหฏฺา อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺชากฺขนฺโธ ปทาลิโต , อิธ ปน ปทาลิตํ อุปาทาย ปทาเลตีติ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ.

๗. มลฺลิกาเทวีสุตฺตวณฺณนา

๑๙๗. สตฺตเม มลฺลิกา เทวีติ ปเสนทิรฺโ เทวี. เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโมติ เยน อิเธกจฺจา อิตฺถี. ทุพฺพณฺณาติ พีภจฺฉวณฺณา. ทุรูปาติ ทุสฺสณฺิตา. สุปาปิกาติ สุฏฺุ ปาปิกา สุฏฺุ ลามิกา. ทสฺสนายาติ ปสฺสิตุํ. ทลิทฺทาติ ธนทลิทฺทา. อปฺปสฺสกาติ สเกน ธเนน รหิตา. อปฺปโภคาติ อุปโภคปริโภคภณฺฑกรหิตา. อปฺเปสกฺขาติ อปฺปปริวารา. อฑฺฒาติ อิสฺสรา. มหทฺธนาติ วฬฺชนกธเนน มหทฺธนา. มหาโภคาติ อุปโภคปริโภคภณฺฑโภเคน มหาโภคา. มเหสกฺขาติ มหาปริวารา. อภิรูปาติ อุตฺตมรูปา. ทสฺสนียาติ ทสฺสนยุตฺตา. ปาสาทิกาติ ทสฺสเนน ปาสาทิกา. วณฺณโปกฺขรตายาติ วณฺเณน เจว สรีรสณฺาเนน จ.

อภิสชฺชตีติ ลคฺคติ. พฺยาปชฺชตีติ ปกตึ ปชหติ. ปติตฺถียตีติ โกธวเสน ถินภาวํ ถทฺธภาวํ อาปชฺชติ. ทาตา โหตีติ น ทายิกา โหติ. เสยฺยาวสถปทีเปยฺยนฺติ เอตฺถ เสยฺยาติ มฺจปลฺลงฺกาทิสยนํ. อาวสโถติ อาวสถาคารํ. ปทีเปยฺยํ วุจฺจติ วฏฺฏิเตลาทิปทีปูปกรณํ. อิสฺสามนิกาติ อิสฺสาย สมฺปยุตฺตจิตฺตา. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ . โกธนา อโหสินฺติ โกธมนา อโหสึ. อนิสฺสามนิกา อโหสินฺติ อิสฺสาวิรหิตจิตฺตา อโหสึ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

๘. อตฺตนฺตปสุตฺตวณฺณนา

๑๙๘. อฏฺเม อตฺตนฺตปาทีสุ อตฺตานํ ตปติ ทุกฺขาเปตีติ อตฺตนฺตโป. อตฺตโน ปริตาปนานุโยคํ อตฺตปริตาปนานุโยคํ. ปรํ ตปตีติ ปรนฺตโป. ปเรสํ ปริตาปนานุโยคํ ปรปริตาปนานุโยคํ. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. นิจฺฉาโตติ ฉาตํ วุจฺจติ ตณฺหา, สา อสฺส นตฺถีติ นิจฺฉาโต. สพฺพกิเลสานํ นิพฺพุตตฺตา นิพฺพุโต. อนฺโต ตาปนกิเลสานํ อภาวา สีตโล ชาโตติ สีตีภูโต. ฌานมคฺคผลนิพฺพานสุขานิ ปฏิสํเวเทตีติ สุขปฺปฏิสํเวที. พฺรหฺมภูเตน อตฺตนาติ เสฏฺภูเตน อตฺตนา.

อเจลโกติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. โอรพฺภิกาทีสุ อุรพฺภา วุจฺจนฺติ เอฬกา, อุรพฺเภ หนตีติ โอรพฺภิโก. สูกริกาทีสุปิ เอเสว นโย. ลุทฺโทติ ทารุโณ กกฺขโฬ. มจฺฉฆาตโกติ มจฺฉพนฺโธ เกวฏฺโฏ. พนฺธนาคาริโกติ พนฺธนาคารโคปโก. กุรูรกมฺมนฺตาติ ทารุณกมฺมนฺตา.

มุทฺธาวสิตฺโตติ ขตฺติยาภิเสเกน มุทฺธนิ อภิสิตฺโต. ปุรตฺถิเมน นครสฺสาติ นครโต ปุรตฺถิมาย ทิสาย. สนฺถาคารนฺติ ยฺสาลํ. ขราชินํ นิวาเสตฺวาติ สขุรํ อชินจมฺมํ นิวาเสตฺวา. สปฺปิเตเลนาติ สปฺปินา เจว เตเลน จ. เปตฺวา หิ สปฺปึ อวเสโส โย โกจิ สฺเนโห เตลนฺติ วุจฺจติ. กณฺฑุวมาโนติ นขานํ ฉินฺนตฺตา กณฺฑุวิตพฺพกาเล เตน กณฺฑุวมาโน. อนนฺตรหิตายาติ อสนฺถตาย. สรูปวจฺฉายาติ สทิสวจฺฉาย. สเจ คาวี เสตา โหติ, วจฺโฉปิ เสตโกว. สเจ กปิลา วา รตฺตา วา, วจฺฉโกปิ ตาทิโสวาติ เอวํ สรูปวจฺฉาย. โส เอวมาหาติ โส ราชา เอวํ วเทติ. วจฺฉตราติ ตรุณวจฺฉกภาวํ อติกฺกนฺตา พลววจฺฉา. วจฺฉตรีสุปิ เอเสว นโย. พริหิสตฺถายาติ ปริกฺเขปกรณตฺถาย เจว ยฺภูมิยํ อตฺถรณตฺถาย จ.

จตุตฺถปุคฺคลํ พุทฺธุปฺปาทโต ปฏฺาย ทสฺเสตุํ อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโตติอาทิมาห. ตตฺถ ตถาคโตติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. ตํ ธมฺมนฺติ ตํ วุตฺตปฺปการสมฺปทํ ธมฺมํ. สุณาติ, คหปติ, วาติ กสฺมา ปมํ คหปตึ นิทฺทิสติ? นิหตมานตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา จ. เยภุยฺเยน หิ ขตฺติยกุลโต ปพฺพชิตา ชาตึ นิสฺสาย มานํ กโรนฺติ. พฺราหฺมณกุลา ปพฺพชิตา มนฺเต นิสฺสาย มานํ กโรนฺติ, หีนชจฺจกุลา ปพฺพชิตา อตฺตโน วิชาติตาย ปติฏฺาตุํ น สกฺโกนฺติ. คหปติทารกา ปน กจฺเฉหิ เสทํ มุฺจนฺเตหิ ปิฏฺิยา โลณํ ปุปฺผมานาย ภูมึ กสิตฺวา ตาทิสสฺส มานสฺส อภาวโต นิหตมานทปฺปา โหนฺติ. เต ปพฺพชิตฺวา มานํ วา ทปฺปํ วา อกตฺวา ยถาพลํ พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตา สกฺโกนฺติ อรหตฺเต ปติฏฺาตุํ. อิตเรหิ จ กุเลหิ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตา น พหุกา, คหปติกาว พหุกา. อิติ นิหตมานตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา จ ปมํ คหปตึ นิทฺทิสตีติ.

อฺตรสฺมึ วาติ อิตเรสํ วา กุลานํ อฺตรสฺมึ. ปจฺจาชาโตติ ปติชาโต. ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภตีติ ปริสุทฺธํ ธมฺมํ สุตฺวา ธมฺมสามิมฺหิ ตถาคเต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต ภควา’’ติ สทฺธํ ปฏิลภติ. อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ เอวํ ปจฺจเวกฺขติ. สมฺพาโธ ฆราวาโสติ สเจปิ สฏฺิหตฺเถ ฆเร โยชนสตนฺตเรปิ วา ทฺเว ชายมฺปติกา วสนฺติ, ตถาปิ เนสํ สกิฺจนสปลิโพธฏฺเน ฆราวาโส สมฺพาโธว. รชาปโถติ ราครชาทีนํ อุฏฺานฏฺานนฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. อาคมนปโถติปิ วฏฺฏติ. อลคฺคนฏฺเน อพฺโภกาโส วิยาติ อพฺโภกาโส. ปพฺพชิโต หิ กูฏาคารรตนปาสาทเทววิมานาทีสุ ปิหิตทฺวารวาตปาเนสุ ปฏิจฺฉนฺเนสุ วสนฺโตปิ เนว ลคฺคติ น สชฺชติ น พชฺฌติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา’’ติ. อปิจ สมฺพาโธ ฆราวาโส กุสลกิริยาย ยถาสุขํ โอกาสาภาวโต, รชาปโถ อสํวุตสงฺการฏฺานํ วิย รชานํ, กิเลสรชานํ สนฺนิปาตฏฺานโต. อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา กุสลกิริยาย ยถาสุขํ โอกาสสพฺภาวโต.

นยิทํ สุกรํ…เป… ปพฺพเชยฺยนฺติ เอตฺถ อยํ สงฺเขปกถา – ยเทตํ สิกฺขตฺตยพฺรหฺมจริยํ เอกมฺปิ ทิวสํ อขณฺฑํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริปุณฺณํ, เอกทิวสมฺปิ จ กิเลสมเลน อมลินํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริสุทฺธํ, สงฺขลิขิตํ ลิขิตสงฺขสทิสํ โธตสงฺขสปฺปฏิภาคํ จริตพฺพํ. อิทํ น สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา อคารมชฺเฌ วสนฺเตน เอกนฺตปริปุณฺณํ…เป… จริตุํ. ยํนูนาหํ เกเส จ มสฺสุฺจ โอหาเรตฺวา กสายรสปีตตาย กาสายานิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตานํ อนุจฺฉวิกานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา ปริทหิตฺวา อคารสฺมา นิกฺขมิตฺวา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺยนฺติ. เอตฺถ จ ยสฺมา อคารสฺส หิตํ กสิวณิชฺชาทิกมฺมํ อคาริยนฺติ วุจฺจติ, ตฺจ ปพฺพชฺชาย นตฺถิ, ตสฺมา ปพฺพชฺชา อนคาริยาติ าตพฺพา, ตํ อนคาริยํ. ปพฺพเชยฺยนฺติ ปฏิปชฺเชยฺยํ.

อปฺปํ วาติ สหสฺสโต เหฏฺา โภคกฺขนฺโธ อปฺโป นาม โหติ, สหสฺสโต ปฏฺาย มหา. อาพนฺธนฏฺเน าติเยว าติปริวฏฺโฏ. โส วีสติยา เหฏฺา อปฺโป นาม โหติ, วีสติยา ปฏฺาย มหา. ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโนติ ยา ภิกฺขูนํ อธิสีลสงฺขาตา สิกฺขา, ตฺจ, ยตฺถ เจเต สห ชีวนฺติ, เอกชีวิกา สภาควุตฺติโน โหนฺติ, ตํ ภควตา ปฺตฺตสิกฺขาปทสงฺขาตํ สาชีวฺจ ตตฺถ สิกฺขนภาเวน สมาปนฺโนติ ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน. สมาปนฺโนติ สิกฺขํ ปริปูเรนฺโต สาชีวฺจ อวีติกฺกมนฺโต หุตฺวา ตทุภยํ อุปคโตติ อตฺโถ.

ปาณาติปาตํ ปหายาติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. อิเมสํ เภทายาติ เยสํ อิโตติ วุตฺตานํ สนฺติเก สุตํ, เตสํ เภทาย. ภินฺนานํ วา สนฺธาตาติ ทฺวินฺนํ มิตฺตานํ วา สมานุปชฺฌายกาทีนํ วา เกนจิเทว การเณน ภินฺนานํ เอกเมกํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อีทิเส กุเล ชาตานํ เอวํ พหุสฺสุตานํ อิทํ น ยุตฺต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา สนฺธานํ กตฺตา. อนุปฺปทาตาติ สนฺธานานุปฺปทาตา, ทฺเว ชเน สมคฺเค ทิสฺวา ‘‘ตุมฺหากํ เอวรูเป กุเล ชาตานํ เอวรูเปหิ คุเณหิ สมนฺนาคตานํ อนุจฺฉวิกเมต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา ทฬฺหีกมฺมํ กตฺตาติ อตฺโถ. สมคฺโค อาราโม อสฺสาติ สมคฺคาราโม. ยตฺถ สมคฺคา นตฺถิ, ตตฺถ วสิตุมฺปิ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. สมคฺคราโมติปิ ปาฬิ, อยเมว อตฺโถ. สมคฺครโตติ สมคฺเคสุ รโต, เต ปหาย อฺตฺถ คนฺตุํ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. สมคฺเค ทิสฺวาปิ สุตฺวาปิ นนฺทตีติ สมคฺคนนฺที. สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตาติ ยา วาจา สตฺเต สมคฺเคเยว กโรติ, ตํ สามคฺคิคุณปริทีปิกเมว วาจํ ภาสติ, น อิตรนฺติ.

เนลาติ เอลํ วุจฺจติ โทโส, นาสฺสา เอลนฺติ เนลา, นิทฺโทสาติ อตฺโถ ‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท’’ติ (อุทา. ๖๕) เอตฺถ วุตฺตเนลํ วิย. กณฺณสุขาติ พฺยฺชนมธุรตาย กณฺณานํ สุขา, สูจิวิชฺฌนํ วิย กณฺณสูลํ น ชเนติ. อตฺถมธุรตาย สกลสรีเร โกปํ อชเนตฺวา เปมํ ชเนตีติ เปมนียา. หทยํ คจฺฉติ อปฺปฏิหฺมานา สุเขน จิตฺตํ ปวิสตีติ หทยงฺคมา. คุณปริปุณฺณตาย ปุเร ภวาติ โปรี. ปุเร สํวฑฺฒนารี วิย สุกุมาราติปิ โปรี. ปุรสฺส เอสาติปิ โปรี, นครวาสีนํ กถาติ อตฺโถ. นครวาสิโน หิ ยุตฺตกถา โหนฺติ, ปิติมตฺตํ ปิตาติ, ภาติมตฺตํ ภาตาติ วทนฺติ. เอวรูปี กถา พหุโน ชนสฺส กนฺตา โหตีติ พหุชนกนฺตา. กนฺตภาเวเนว พหุชนสฺส มนาปา จิตฺตวุฑฺฒิกราติ พหุชนมนาปา.

กาเล วทตีติ กาลวาที, วตฺตพฺพยุตฺตกาลํ สลฺลกฺเขตฺวา วทตีติ อตฺโถ. ภูตํ ตจฺฉํ สภาวเมว วทตีติ ภูตวาที. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกอตฺถสนฺนิสฺสิตเมว กตฺวา วทตีติ อตฺถวาที. นวโลกุตฺตรธมฺมสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทตีติ ธมฺมวาที. สํวรวินยปหานวินยสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทตีติ วินยวาที. นิธานํ วุจฺจติ ปโนกาโส, นิธานมสฺสา อตฺถีติ นิธานวตี. หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ วาจํ ภาสิตาติ อตฺโถ. กาเลนาติ เอวรูปึ ภาสมาโนปิ จ ‘‘อหํ นิธานวตึ วาจํ ภาสิสฺสามี’’ติ น อกาเลน ภาสติ, ยุตฺตกาลํ ปน อเวกฺขิตฺวาว ภาสตีติ อตฺโถ. สาปเทสนฺติ สอุปมํ, สการณนฺติ อตฺโถ. ปริยนฺตวตินฺติ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา, ยถาสฺสา ปริจฺเฉโท ปฺายติ, เอวํ ภาสตีติ อตฺโถ. อตฺถสํหิตนฺติ อเนเกหิปิ นเยหิ วิภชนฺเตน ปริยาทาตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อตฺถสมฺปนฺนํ ภาสติ. ยํ วา โส อตฺถวาที อตฺถํ วทติ, เตน อตฺเถน สํหิตตฺตา อตฺถสํหิตํ วาจํ ภาสติ, น อฺํ นิกฺขิปิตฺวา อฺํ ภาสตีติ วุตฺตํ โหติ.

พีชคามภูตคามสมารมฺภาติ มูลพีชํ ขนฺธพีชํ ผฬุพีชํ อคฺคพีชํ พีชพีชนฺติ ปฺจวิธสฺส พีชคามสฺส เจว ยสฺส กสฺสจิ นีลติณรุกฺขาทิกสฺส ภูตคามสฺส จ สมารมฺภา, เฉทนเภทนปจนาทิภาเวน วิโกปนา ปฏิวิรโตติ อตฺโถ.

เอกภตฺติโกติ ปาตราสภตฺตํ สายมาสภตฺตนฺติ ทฺเว ภตฺตานิ. เตสุ ปาตราสภตฺตํ อนฺโตมชฺฌนฺหิเกน ปริจฺฉินฺนํ, อิตรํ มชฺฌนฺหิกโต อุทฺธํ อนฺโตอรุเณน. ตสฺมา อนฺโตมชฺฌนฺหิเก ทสกฺขตฺตุํ ภุฺชมาโนปิ เอกภตฺติโกว โหติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เอกภตฺติโก’’ติ. รตฺติยา โภชนํ รตฺติ, ตโต อุปรโตติ รตฺตูปรโต. อติกฺกนฺเต มชฺฌนฺหิเก ยาว สูริยตฺถงฺคมนา โภชนํ วิกาลโภชนํ นาม, ตโต วิรตตฺตา วิรโต วิกาลโภชนา.

ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. รชตนฺติ กหาปโณ โลหมาสโก ชตุมาสโก ทารุมาสโกติ เย โวหารํ คจฺฉนฺติ. ตสฺส อุภยสฺสาปิ ปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต, เนว ตํ อุคฺคณฺหาติ, น อุคฺคณฺหาเปติ, น อุปนิกฺขิตฺตํ สาทิยตีติ อตฺโถ.

อามกธฺปฏิคฺคหณาติ สาลิวีหิยวโคธูมกงฺคุวรกกุทฺรูสกสงฺขาตสฺส สตฺตวิธสฺสปิ อามกธฺสฺส ปฏิคฺคหณา. น เกวลฺจ เอเตสํ ปฏิคฺคหณเมว, อามสนมฺปิ ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติเยว. อามกมํสปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ อฺตฺร โอทิสฺส อนุฺาตา อามกมํสมจฺฉานํ ปฏิคฺคหณเมว ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติ, โน อามสนนฺติ.

อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ อิตฺถีติ ปุริสนฺตรคตา, อิตรา กุมาริกา นาม, ตาสํ ปฏิคฺคหณมฺปิ อามสนมฺปิ อกปฺปิยเมว. ทาสิทาสปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ ทาสิทาสวเสเนว เตสํ ปฏิคฺคหณํ น วฏฺฏติ, ‘‘กปฺปิยการกํ ทมฺมิ, อารามิกํ ทมฺมี’’ติ เอวํ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ. อเชฬกาทีสุปิ เขตฺตวตฺถุปริโยสาเนสุ กปฺปิยากปฺปิยนโย วินยวเสน อุปปริกฺขิตพฺโพ. ตตฺถ เขตฺตํ นาม ยสฺมึ ปุพฺพณฺณํ รุหติ. วตฺถุ นาม ยสฺมึ อปรณฺณํ รุหติ. ยตฺถ วา อุภยมฺปิ รุหติ, ตํ เขตฺตํ. ตทตฺถาย อกตภูมิภาโค วตฺถุ. เขตฺตวตฺถุสีเสน เจตฺถ วาปิ-ตฬากาทีนิปิ สงฺคหิตาเนว.

ทูเตยฺยํ วุจฺจติ ทูตกมฺมํ คิหีนํ ปณฺณํ วา สาสนํ วา คเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ คมนํ. ปหิณคมนํ วุจฺจติ ฆรา ฆรํ เปสิตสฺส ขุทฺทกคมนํ. อนุโยโค นาม ตทุภยกรณํ. ตสฺมา ทุเตยฺยปหิณคมนานํ อนุโยโคติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กยวิกฺกยาติ กยา จ วิกฺกยา จ. ตุลากูฏาทีสุ กูฏนฺติ วฺจนํ. ตตฺถ ตุลากูฏํ ตาว รูปกูฏํ, องฺคกูฏํ, คหณกูฏํ, ปฏิจฺฉนฺนกูฏนฺติ จตุพฺพิธํ โหติ. ตตฺถ รูปกูฏํ นาม ทฺเว ตุลา สมรูปา กตฺวา คณฺหนฺโต มหติยา คณฺหาติ, ททนฺโต ขุทฺทิกาย เทติ. องฺคกูฏํ นาม คณฺหนฺโต ปจฺฉาภาเค หตฺเถน ตุลํ อกฺกมติ, ททนฺโต ปุพฺพภาเค. คหณกูฏํ นาม คณฺหนฺโต มูเล รชฺชุํ คณฺหาติ , ททนฺโต อคฺเค. ปฏิจฺฉนฺนกูฏํ นาม ตุลํ สุสิรํ กตฺวา อนฺโต อยจุณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา คณฺหนฺโต ตํ ปจฺฉาภาเค กโรติ, ททนฺโต อคฺคภาเค.

กํโส วุจฺจติ สุวณฺณปาติ, ตาย วฺจนํ กํสกูฏํ. กถํ? เอกํ สุวณฺณปาตึ กตฺวา อฺา ทฺเว ติสฺโส โลหปาติโย สุวณฺณวณฺณา กโรติ. ตโต ชนปทํ คนฺตฺวา กิฺจิเทว อฑฺฒกุลํ ปวิสิตฺวา ‘‘สุวณฺณภาชนานิ กิณถา’’ติ วตฺวา อคฺเฆ ปุจฺฉิเต สมคฺฆตรํ ทาตุกามา โหนฺติ. ตโต เตหิ ‘‘กถํ อิเมสํ สุวณฺณภาโว ชานิตพฺโพ’’ติ วุตฺเต ‘‘วีมํสิตฺวา คณฺหถา’’ติ สุวณฺณปาตึ ปาสาเณ ฆํสิตฺวา สพฺพปาติโย ทตฺวา คจฺฉติ.

มานกูฏํ นาม หทยเภท-สิขาเภท-รชฺชุเภทวเสน ติวิธํ โหติ. ตตฺถ หทยเภโท สปฺปิเตลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต เหฏฺาฉิทฺเทน มาเนน ‘‘สณิกํ อาสิฺจา’’ติ วตฺวา อตฺตโน ภาชเน พหุํ ปคฺฆราเปตฺวา คณฺหาติ, ททนฺโต ฉิทฺทํ ปิธาย สีฆํ ปูเรตฺวา เทติ. สิขาเภโท ติลตณฺฑุลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต สณิกํ สิขํ อุสฺสาเปตฺวา คณฺหาติ, ททนฺโต เวเคน ปูเรตฺวา สิขํ ฉินฺทนฺโต เทติ. รชฺชุเภโท เขตฺตวตฺถุมินนกาเล ลพฺภติ. ลฺชํ อลภนฺตา หิ เขตฺตํ อมหนฺตมฺปิ มหนฺตํ กตฺวา มินนฺติ.

อุกฺโกฏนาทีสุ อุกฺโกฏนนฺติ สามิเก อสฺสามิเก กาตุํ ลฺชคฺคหณํ. วฺจนนฺติ เตหิ เตหิ อุปาเยหิ ปเรสํ วฺจนํ. ตตฺริทเมกํ วตฺถุ – เอโก กิร ลุทฺทโก มิคฺจ มิคโปตกฺจ คเหตฺวา อาคจฺฉติ. ตเมโก ธุตฺโต ‘‘กึ โภ มิโค อคฺฆติ, กึ มิคโปตโก’’ติ อาห. ‘‘มิโค ทฺเว กหาปเณ, มิคโปตโก เอก’’นฺติ จ วุตฺเต เอกํ กหาปณํ ทตฺวา มิคโปตกํ คเหตฺวา โถกํ คนฺตฺวา นิวตฺโต ‘‘น เม โภ มิคโปตเกนตฺโถ, มิคํ เม เทหี’’ติ อาห. เตน หิ ทฺเว กหาปเณ เทหีติ. โส อาห – ‘‘นนุ เต โภ มยา ปมํ เอโก กหาปโณ ทินฺโน’’ติ? อาม ทินฺโนติ. อิมมฺปิ มิคโปตกํ คณฺห, เอวํ โส จ กหาปโณ อยฺจ กหาปณคฺฆนโก มิคโปตโก’’ติ ทฺเว กหาปณา ภวิสฺสนฺตีติ. โส ‘‘การณํ วทตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา มิคโปตกํ คเหตฺวา มิคํ อทาสีติ. นิกตีติ โยควเสน วา มายาวเสน วา อปามงฺคํ ปามงฺคนฺติ, อมณึ มณินฺติ, อสุวณฺณํ สุวณฺณนฺติ กตฺวา ปติรูปเกน วฺจนํ. สาจิโยโคติ กุฏิลโยโค. เอเตสํเยว อุกฺโกฏนาทีนเมตํ นามํ. ตสฺมา อุกฺโกฏนสาจิโยโค วฺจนสาจิโยโค นิกติสาจิโยโคติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกจิ อฺํ ทสฺเสตฺวา อฺสฺส ปริวตฺตนํ สาจิโยโคติ วทนฺติ, ตํ ปน วฺจเนเนว สงฺคหิตํ.

เฉทนาทีสุ เฉทนนฺติ หตฺถจฺเฉทนาทิ. วโธติ มารณํ. พนฺโธติ รชฺชุพนฺธนาทีหิ พนฺธนํ. วิปราโมโสติ หิมวิปราโมโส, คุมฺพวิปราโมโสติ ทุวิโธ. ยํ หิมปาตสมเย หิเมน ปฏิจฺฉนฺนา หุตฺวา มคฺคปฺปฏิปนฺนํ ชนํ มุสนฺติ, อยํ หิมวิปราโมโส. ยํ คุมฺพาทีหิ ปฏิจฺฉนฺนา มุสนฺติ, อยํ คุมฺพวิปราโมโส. อาโลโป วุจฺจติ คามนิคมาทีนํ วิโลปกรณํ. สหสากาโรติ สาหสิกกิริยา, เคหํ ปวิสิตฺวา มนุสฺสานํ อุเร สตฺถํ เปตฺวา อิจฺฉิตภณฺฑคฺคหณํ. เอวเมตสฺมา เฉทน…เป… สหสาการา ปฏิวิรโต โหติ.

โส สนฺตุฏฺโ โหตีติ สฺวายํ ภิกฺขุ เหฏฺา วุตฺเตน จตูสุ ปจฺจเยสุ ทฺวาทสวิเธน อิตรีตรปจฺจยสนฺโตเสน สมนฺนาคโต โหติ. อิมินา ปน ทฺวาทสวิเธน อิตรีตรปจฺจยสนฺโตเสน สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อฏฺ ปริกฺขารา วฏฺฏนฺติ – ตีณิ จีวรานิ, ปตฺโต, ทนฺตกฏฺจฺเฉทนวาสิ, เอกา สูจิ, กายพนฺธนํ ปริสฺสาวนนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ติจีวรฺจ ปตฺโต จ, วาสิ สูจิ จ พนฺธนํ;

ปริสฺสาวเนน อฏฺเเต, ยุตฺตโยคสฺส ภิกฺขุโน’’ติ.

เต สพฺเพ กายปริหาริกาปิ โหนฺติ, กุจฺฉิปริหาริกาปิ. กถํ? ติจีวรํ ตาว นิวาเสตฺวา ปารุปิตฺวา จ วิจรณกาเล กายํ ปริหรติ โปเสตีติ กายปริหาริกํ โหติ. จีวรกณฺเณน อุทกํ ปริสฺสาเวตฺวา ปิวนกาเล, ขาทิตพฺพผลาผลํ คหณกาเล จ กุจฺฉึ ปริหรติ โปเสตีติ กุจฺฉิปริหาริกํ โหติ. ปตฺโตปิ เตน อุทกํ อุทฺธริตฺวา นฺหานกาเล กุฏิปริภณฺฑกรณกาเล จ กายปริหาริโก โหติ, อาหารํ คเหตฺวา ภุฺชนกาเล กุจฺฉิปริหาริโก. วาสิปิ ตาย ทนฺตกฏฺจฺเฉทนกาเล มฺจปีานํ องฺคปาทจีวรกุฏิทณฺฑกสชฺชนกาเล จ กายปริหาริกา โหติ, อุจฺฉุจฺเฉทนนาฬิเกราทิตจฺฉนกาเล กุจฺฉิปริหาริกา. สูจิปิ จีวรสิพฺพนกาเล กายปริหาริกา โหติ, ปูวํ วา ผลํ วา วิชฺฌิตฺวา ขาทนกาเล กุจฺฉิปริหาริกา. กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา วิจรณกาเล กายปริหาริกํ, อุจฺฉุอาทีนิ พนฺธิตฺวา คหณกาเล กุจฺฉิปริหาริกํ. ปริสฺสาวนํ เตน อุทกํ ปริสฺสาเวตฺวา นฺหานกาเล เสนาสนปริภณฺฑกรณกาเล จ กายปริหาริกํ, ปานียปานกปริสฺสาวนกาเล เตเนว ติลตณฺฑุลปุถุกาทีนิ คเหตฺวา ขาทนกาเล จ กุจฺฉิปริหาริกํ. อยํ ตาว อฏฺปริกฺขาริกสฺส ปริกฺขารมตฺตา.

นวปริกฺขาริกสฺส ปน เสยฺยํ ปวิสนฺตสฺส ตตฺรฏฺกปจฺจตฺถรณํ วา กุฺจิกา วา วฏฺฏติ. ทสปริกฺขาริกสฺส นิสีทนํ วา จมฺมขณฺฑํ วา วฏฺฏติ. เอกาทสปริกฺขาริกสฺส กตฺตรยฏฺิ วา เตลนาฬิกา วา วฏฺฏติ. ทฺวาทสปริกฺขาริกสฺส ฉตฺตํ วา อุปาหนํ วา วฏฺฏติ. เอเตสุ จ อฏฺปริกฺขาริโกว สนฺตุฏฺโ, อิตเร อสนฺตุฏฺา มหิจฺฉา มหาภาราติ น วตฺตพฺพา. เอเตปิ อปฺปิจฺฉาว สนฺตุฏฺาว สุภราว สลฺลหุกวุตฺติโนว. ภควา ปน น อิมํ สุตฺตํ เตสํ วเสน กเถสิ, อฏฺปริกฺขาริกสฺส วเสน กเถสิ. โส หิ ขุทฺทกวาสิฺจ สูจิฺจ ปริสฺสาวเน ปกฺขิปิตฺวา ปตฺตสฺส อนฺโต เปตฺวา ปตฺตํ อํสกูเฏ ลคฺเคตฺวา ติจีวรํ กายปฺปฏิพทฺธํ กตฺวา เยนิจฺฉกํ สุขํ ปกฺกมติ, ปฏินิวตฺติตฺวา คเหตพฺพํ นามสฺส น โหติ. อิติ อิมสฺส ภิกฺขุโน สลฺลหุกวุตฺติตํ ทสฺเสนฺโต ภควา สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรนาติอาทิมาห.

ตตฺถ กายปริหาริเกนาติ กายปริหรณมตฺตเกน. กุจฺฉิปริหาริเกนาติ กุจฺฉิปริหรณมตฺตเกน. สมาทาเยว ปกฺกมตีติ ตํ อฏฺปริกฺขารมตฺตกํ สพฺพํ คเหตฺวาว กายปฺปฏิพทฺธํ กตฺวาว คจฺฉติ, ‘‘มม วิหาโร ปริเวณํ อุปฏฺาโก’’ติสฺส สงฺโค วา พนฺโธ วา น โหติ. โส ชิยา มุตฺโต สโร วิย, ยูถา อปกฺกนฺโต มตฺตหตฺถี วิย อิจฺฉิติจฺฉิตํ เสนาสนํ, วนสณฺฑํ, รุกฺขมูลํ, นวํ ปพฺภารํ ปริภุฺชนฺโต เอโก ติฏฺติ, เอโก นิสีทติ, สพฺพิริยาปเถสุ เอโก อทุติโย.

‘‘จาตุทฺทิโส อปฺปฏิโฆ จ โหติ,

สนฺตุสฺสมาโน อิตรีตเรน;

ปริสฺสยานํ สหิตา อฉมฺภี,

เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป’’ติ. (สุ. นิ. ๔๒; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทโส ๑๒๘) –

เอวํ วณฺณิตํ ขคฺควิสาณกปฺปตํ อาปชฺชติ.

อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย สาเธนฺโต เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ตตฺถ ปกฺขี สกุโณติ ปกฺขยุตฺโต สกุโณ. เฑตีติ อุปฺปตติ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – สกุณา นาม ‘‘อสุกสฺมึ ปเทเส รุกฺโข ปริปกฺกผโล’’ติ ตฺวา นานาทิสาหิ อาคนฺตฺวา นขปกฺขตุณฺฑาทีหิ ตสฺส ผลานิ วิชฺฌนฺตา วิธุนนฺตา ขาทนฺติ, ‘‘อิทํ อชฺชตนาย, อิทํ สฺวาตนาย ภวิสฺสตี’’ติ เนสํ น โหติ. ผเล ปน ขีเณ เนว รุกฺขสฺส อารกฺขํ เปนฺติ, น ตตฺถ ปกฺขํ วา ปตฺตํ วา นขํ วา ตุณฺฑํ วา เปนฺติ, อถ โข ตสฺมึ รุกฺเข อนเปกฺขา หุตฺวา โย ยํ ทิสาภาคํ อิจฺฉติ, โส เตน สปตฺตภาโรว อุปฺปติตฺวา คจฺฉติ. เอวเมว อยํ ภิกฺขุ นิสฺสงฺโค นิรเปกฺโขเยว ปกฺกมติ, สมาทาเยว ปกฺกมติ. อริเยนาติ นิทฺโทเสน. อชฺฌตฺตนฺติ สเก อตฺตภาเว. อนวชฺชสุขนฺติ นิทฺโทสสุขํ.

โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ปสฺสิตฺวาติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๕) วุตฺตํ. อพฺยาเสกสุขนฺติ กิเลเสหิ อนาสิตฺตสุขํ, อวิกิณฺณสุขนฺติปิ วุตฺตํ. อินฺทฺริยสํวรสุขํ หิ ทิฏฺาทีสุ ทิฏฺมตฺตาทิวเสน ปวตฺตตาย อวิกิณฺณํ โหติ.

โส อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเตติ โส มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ สํวเรน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อิเมสุ อภิกฺกนฺตปฏิกฺกนฺตาทีสุ สตฺตสุ าเนสุ สติสมฺปชฺวเสน สมฺปชานการี โหติ. ตตฺถ อภิกฺกนฺตนฺติ ปุรโต คมนํ. ปฏิกฺกนฺตนฺติ ปจฺฉาคมนํ.

สมฺปชานการีโหตีติ สาตฺถกสมฺปชฺํ, สปฺปายสมฺปชฺํ, โคจรสมฺปชฺํ, อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ สติสมฺปยุตฺตานํ สมฺปชฺานํ วเสน สตึ อุปฏฺเปตฺวา าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวาเยว ตานิ อภิกฺกนฺตปฏิกฺกนฺตานิ กโรติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน อิจฺฉนฺเตน ทีฆนิกาเย สามฺผลวณฺณนาโต วา มชฺฌิมนิกาเย สติปฏฺานวณฺณนาโต วา คเหตพฺโพ.

โส อิมินา จาติอาทินา กึ ทสฺเสติ? อรฺวาสสฺส ปจฺจยสมฺปตฺตึ ทสฺเสติ. ยสฺส หิ อิเม จตฺตาโร ปจฺจยา นตฺถิ, ตสฺส อรฺวาโส น อิชฺฌติ, ติรจฺฉานคเตหิ วา วนจรเกหิ วา สทฺธึ วตฺถพฺพตํ อาปชฺชติ. อรฺเ อธิวตฺถา เทวตา ‘‘กึ เอวรูปสฺส ปาปภิกฺขุโน อรฺวาเสนา’’ติ เภรวสทฺทํ สาเวนฺติ, หตฺเถหิ สีสํ ปหริตฺวา ปลายนาการํ กโรนฺติ. ‘‘อสุโก ภิกฺขุ อรฺํ ปวิสิตฺวา อิทฺจิทฺจ ปาปกมฺมมกาสี’’ติ อยโส ปตฺถรติ. ยสฺส ปเนเต จตฺตาโร ปจฺจยา อตฺถิ, ตสฺส อรฺวาโส อิชฺฌติ. โส หิ อตฺตโน สีลํ ปจฺจเวกฺขนฺโต กิฺจิ กาฬกํ วา ติลกํ วา อปสฺสนฺโต ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ขยโต วยโต สมฺมสนฺโต อริยภูมึ โอกฺกมติ. อรฺเ อธิวตฺถา เทวตา อตฺตมนา วณฺณํ ภาสนฺติ. อิติสฺส อุทเก ปกฺขิตฺตเตลพินฺทุ วิย ยโส วิตฺถาริโก โหติ.

ตตฺถ วิวิตฺตนฺติ สุฺํ, อปฺปสทฺทํ, อปฺปนิคฺโฆสนฺติ อตฺโถ. เอตเทว หิ สนฺธาย วิภงฺเค ‘‘วิวิตฺตนฺติ สนฺติเก เจปิ เสนาสนํ โหติ, ตฺจ อนากิณฺณํ คหฏฺเหิ ปพฺพชิเตหิ, เตน ตํ วิวิตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๒๖) วุตฺตํ. เสติ เจว อาสติ จ เอตฺถาติ เสนาสนํ. มฺจปีานเมตํ อธิวจนํ. เตนาห – ‘‘เสนาสนนฺติ มฺโจปิ เสนาสนํ, ปีมฺปิ, ภิสิปิ, พิมฺโพหนมฺปิ, วิหาโรปิ, อฑฺฒโยโคปิ, ปาสาโทปิ, หมฺมิยมฺปิ, คุหาปิ, อฏฺโฏปิ, มาโฬปิ, เลณมฺปิ, เวฬุคุมฺโพปิ, รุกฺขมูลมฺปิ, มณฺฑโปปิ เสนาสนํ, ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺติ, สพฺพเมตํ เสนาสน’’นฺติ (วิภ. ๕๒๗). อปิจ วิหาโร, อฑฺฒโยโค, ปาสาโท, หมฺมิยํ, คุหาติ อิทํ วิหารเสนาสนํ นาม. มฺโจ, ปีํ, ภิสิ, พิมฺโพหนนฺติ อิทํ มฺจปีเสนาสนํ นาม. จิมิลิกา, จมฺมขณฺโฑ, ติณสนฺถาโร, ปณฺณสนฺถาโรติ อิทํ สนฺถตเสนาสนํ นาม. ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺตีติ เอตํ โอกาสเสนาสนํ นามาติ เอวํ จตุพฺพิธํ เสนาสนํ โหติ. ตํ สพฺพมฺปิ เสนาสนคฺคหเณน คหิตเมว.

อิมสฺส ปน สกุณสทิสสฺส จาตุทฺทิสสฺส ภิกฺขุโน อนุจฺฉวิกํ ทสฺเสนฺโต อรฺํ รุกฺขมูลนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อรฺนฺติ ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (วิภ. ๕๒๙) ‘‘อิทํ ภิกฺขุนีนํ วเสน อาคตํ อรฺํ. ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) อิทํ ปน อิมสฺส ภิกฺขุโน อนุรูปํ. ตสฺส ลกฺขณํ วิสุทฺธิมคฺเค ธุตงฺคนิทฺเทเส วุตฺตํ. รุกฺขมูลนฺติ ยํกิฺจิ สีตจฺฉายํ วิวิตฺตํ รุกฺขมูลํ. ปพฺพตนฺติ เสลํ. ตตฺถ หิ อุทกโสณฺฑีสุ อุทกกิจฺจํ กตฺวา สีตาย รุกฺขจฺฉายาย นิสินฺนสฺส นานาทิสาสุ ขายมานาสุ สีเตน วาเตน พีชิยมานสฺส จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. กนฺทรนฺติ กํ วุจฺจติ อุทกํ, เตน ทาริตํ อุทกภินฺนํ ปพฺพตปเทสํ, ยํ นิตมฺพนฺติปิ นทีนิกุฺชนฺติปิ วทนฺติ. ตตฺถ หิ รชตปฏฺฏสทิสา วาลิกา โหติ, มตฺถเก มณิวิตานํ วิย วนคหนํ, มณิกฺขนฺธสทิสํ อุทกํ สนฺทติ. เอวรูปํ กนฺทรํ โอรุยฺห ปานียํ ปิวิตฺวา คตฺตานิ สีตานิ กตฺวา วาลิกํ อุสฺสาเปตฺวา ปํสุกูลจีวรํ ปฺาเปตฺวา นิสินฺนสฺส สมณธมฺมํ กโรโต จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. คิริคุหนฺติ ทฺวินฺนํ ปพฺพตานํ อนฺตรํ, เอกสฺมึเยว วา อุมงฺคสทิสํ มหาวิวรํ. สุสานลกฺขณํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๔) วุตฺตํ. วนปตฺถนฺติ คามนฺตํ อติกฺกมิตฺวา มนุสฺสานํ อนุปจารฏฺานํ, ยตฺถ น กสนฺติ น วปนฺติ. เตเนวาห – ‘‘วนปตฺถนฺติ ทูรานเมตํ เสนาสนานํ อธิวจน’’นฺติอาทิ. อพฺโภกาสนฺติ อจฺฉนฺนํ. อากงฺขมาโน ปเนตฺถ จีวรกุฏึ กตฺวา วสติ. ปลาลปุฺชนฺติ ปลาลราสึ . มหาปลาลปุฺชโต หิ ปลาลํ นิกฺกฑฺฒิตฺวา ปพฺภารเลณสทิเส อาลเย กโรนฺติ, คจฺฉคุมฺพาทีนมฺปิ อุปริ ปลาลํ ปกฺขิปิตฺวา เหฏฺา นิสินฺนา สมณธมฺมํ กโรนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

ปจฺฉาภตฺตนฺติ ภตฺตสฺส ปจฺฉโต. ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโตติ ปิณฺฑปาตปริเยสนโต ปฏิกฺกนฺโต. ปลฺลงฺกนฺติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ. อาภุชิตฺวาติ พนฺธิตฺวา. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อุปริมสรีรํ อุชุกํ เปตฺวา อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทตฺวา. เอวฺหิ นิสินฺนสฺส จมฺมมํสนฺหารูนิ น ปณมนฺติ. อถสฺส ยา เตสํ ปณมนปจฺจยา ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตา น อุปฺปชฺชนฺติ. ตาสุ น อุปฺปชฺชมานาสุ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, กมฺมฏฺานํ น ปริปตติ, วุทฺธึ ผาตึ อุปคจฺฉติ. ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ ปยิตฺวา, มุขสมีเป วา กตฺวาติ อตฺโถ. เตเนว วิภงฺเค วุตฺตํ – ‘‘อยํ สติ อุปฏฺิตา โหติ สูปฏฺิตา นาสิกคฺเค วา มุขนิมิตฺเต วา. เตน วุจฺจติ ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ (วิภ. ๕๓๗). อถ วา ‘‘ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ. มุขนฺติ นิยฺยานฏฺโ. สตีติ อุปฏฺานฏฺโ. เตน วุจฺจติ – ‘ปริมุขํ สติ’’’นฺติ เอวํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๔) วุตฺตนเยน ปเนตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺรายํ สงฺเขโป ‘‘ปริคฺคหิตนิยฺยานํ สตึ กตฺวา’’ติ.

อภิชฺฌํ โลเกติ เอตฺถ ลุชฺชน-ปลุชฺชนฏฺเน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา โลโก. ตสฺมา ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ราคํ ปหาย กามจฺฉนฺทํ วิกฺขมฺเภตฺวาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. วิคตาภิชฺเฌนาติ วิกฺขมฺภนวเสน ปหีนตฺตา วิคตาภิชฺเฌน, น จกฺขุวิฺาณสทิเสนาติ อตฺโถ. อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธตีติ อภิชฺฌาโต จิตฺตํ ปริโมเจติ, ยถา นํ สา มุฺจติ เจว มุฺจิตฺวา จ น ปุน คณฺหาติ, เอวํ กโรตีติ อตฺโถ. พฺยาปาทปโทสํ ปหายาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. พฺยาปชฺชติ อิมินา จิตฺตํ ปูติกุมฺมาสาทโย วิย ปุริมปกตึ ปชหตีติ พฺยาปาโท. วิการปฺปตฺติยา ปทุสฺสติ, ปรํ วา ปทูเสติ วินาเสตีติ ปโทโส. อุภยมฺเปตํ โกธสฺเสว อธิวจนํ . ถินํ จิตฺตเคลฺํ, มิทฺธํ เจตสิกเคลฺํ. ถินฺจ มิทฺธฺจ ถินมิทฺธํ. อาโลกสฺีติ รตฺติมฺปิ ทิวาปิ ทิฏฺอาโลกสฺชานนสมตฺถาย วิคตนีวรณาย ปริสุทฺธาย สฺาย สมนฺนาคโต . สโต สมฺปชาโนติ สติยา จ าเณน จ สมนฺนาคโต. อิทํ อุภยํ อาโลกสฺาย อุปการกตฺตา วุตฺตํ. อุทฺธจฺจฺจ กุกฺกุจฺจฺจ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ. ติณฺณวิจิกิจฺโฉติ วิจิกิจฺฉํ ตริตฺวา อติกฺกมิตฺวา ิโต. ‘‘กถมิทํ กถมิท’’นฺติ เอวํ นปฺปวตฺตตีติ อกถํกถี. กุสเลสุ ธมฺเมสูติ อนวชฺเชสุ ธมฺเมสุ. ‘‘อิเม นุ โข กุสลา, กถมิเม กุสลา’’ติ เอวํ น วิจิกิจฺฉติ น กงฺขตีติ อตฺโถ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. อิเมสุ ปน นีวรเณสุ วจนตฺถลกฺขณาทิเภทโต ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๗๑-๗๒) วุตฺตํ. ปฺาย ทุพฺพลีกรเณติ ยสฺมา อิเม ปฺจ นีวรณา อุปฺปชฺชมานา อนุปฺปนฺนาย โลกิยโลกุตฺตราย ปฺาย อุปฺปชฺชิตุํ น เทนฺติ, อุปฺปนฺนาปิ อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ วา อภิฺา อุจฺฉินฺทิตฺวา ปาเตนฺติ. ตสฺมา ปฺาย ทุพฺพลีกรณาติ วุจฺจนฺติ. วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตานิ.

อิเม อาสวาติอาทิ อปเรนาปิ ปริยาเยน จตุสจฺจปฺปกาสนตฺถํ วุตฺตํ. นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาตีติ เอตฺตาวตา เหฏฺา ตีหิ องฺเคหิ พาหิรสมยสฺส นิปฺผลภาวํ ทสฺเสตฺวา จตุตฺเถน องฺเคน อตฺตโน สาสนสฺส คมฺภีรภาวํ ปกาเสตฺวา เทสนาย อรหตฺเตน กูฏํ คณฺหิ. อิทานิ เทสนํ อปฺเปนฺโต เอวํ โข, ภิกฺขเวติอาทิมาห.

๙. ตณฺหาสุตฺตวณฺณนา

๑๙๙. นวเม ชาลินินฺติ ชาลสทิสํ. ยถา หิ ชาลํ สมนฺตโต สํสิพฺพิตํ อากุลพฺยากุลํ, เอวํ ตณฺหาปีติ ชาลสทิสตฺตา ชาลินีติ วุตฺตา. ตโย วา ภเว อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตาย เอติสฺสา ตตฺถ ตตฺถ อตฺตโน โกฏฺาสภูตํ ชาลํ อตฺถีติปิ ชาลินี. สริตนฺติ ตตฺถ ตตฺถ สริตฺวา สํสริตฺวา ิตํ. วิสฏนฺติ ปตฺถฏํ วิกฺขิตฺตํ. วิสตฺติกนฺติ ตตฺถ ตตฺถ วิสตฺตํ ลคฺคํ ลคิตํ. อปิจ ‘‘วิสมูลาติ วิสตฺติกา. วิสผลาติ วิสตฺติกา’’ติอาทินาปิ (มหานิ. ๓; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๒๒) นเยเนตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อุทฺธสฺโตติ อุปริ ธํสิโต. ปริโยนทฺโธติ สมนฺตา เวิโต. ตนฺตากุลกชาโตติ ตนฺตํ วิย อากุลชาโต. ยถา นาม ทุนฺนิกฺขิตฺตํ มูสิกจฺฉินฺนํ เปสการานํ ตนฺตํ ตหึ ตหึ อากุลํ โหติ, ‘‘อิทํ อคฺคํ อิทํ มูล’’นฺติ อคฺเคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ ทุกฺกรํ โหติ, เอวํ สตฺตา อิมาย ตณฺหาย ปริโยนทฺธา อากุลพฺยากุลา น สกฺโกนฺติ อตฺตโน นิสฺสรณมคฺคํ อุชุํ กาตุํ. คุลาคุณฺิกชาโตติ คุลาคุณฺิกํ วุจฺจติ เปสการกฺชิยสุตฺตํ. คุลา นาม สกุณิกา, ตสฺสา กุลาวโกติปิ เอเก. ยถา ตทุภยมฺปิ อากุลํ อคฺเคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ ทุกฺกรนฺติ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. มุฺชปพฺพชภูโตติ มุฺชติณํ วิย ปพฺพชติณํ วิย จ ภูโต, ตาทิโส ชาโต. ยถา ตานิ ติณานิ โกฏฺเฏตฺวา กตรชฺชุํ ชิณฺณกาเล กตฺถจิ ปติตํ คเหตฺวา เตสํ ติณานํ ‘‘อิทํ อคฺคํ อิทํ มูล’’นฺติ อคฺเคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ ทุกฺกรํ. ตมฺปิ จ ปจฺจตฺตปุริสกาเร ตฺวา สกฺกา ภเวยฺย อุชุํ กาตุํ, เปตฺวา ปน โพธิสตฺเต อฺโ สตฺโต อตฺตโน ธมฺมตาย ตณฺหาชาลํ ปทาเลตฺวา อตฺตโน นิสฺสรณมคฺคํ อุชุํ กาตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. เอวมยํ โลโก ตณฺหาชาเลน ปริโยนทฺโธ อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ สํสารํ นาติวตฺตติ. ตตฺถ อปาโยติ นิรย-ติรจฺฉานโยนิ-เปตฺติวิสย-อสุรกายา. สพฺเพปิ หิ เต วฑฺฒิสงฺขาตสฺส อายสฺส อภาวโต อปายาติ วุจฺจนฺติ. ตถา ทุกฺขสฺส คติภาวโต ทุคฺคติ. สุขสมุสฺสยโต วินิปติตตฺตา วินิปาโต. อิตโร ปน –

‘‘ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;

อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, สํสาโรติ ปวุจฺจติ.

ตํ สพฺพํ นาติวตฺตติ นาติกฺกมติ, อถ โข จุติโต ปฏิสนฺธึ ปฏิสนฺธิโต จุตินฺติ เอวํ ปุนปฺปุนํ จุติปฏิสนฺธิโย คณฺหมาโน ตีสุ ภเวสุ จตูสุ โยนีสุ ปฺจสุ คตีสุ สตฺตสุ วิฺาณฏฺิตีสุ นวสุ สตฺตาวาเสสุ มหาสมุทฺเท วาตกฺขิตฺตนาวา วิย ยนฺเต ยุตฺตโคโณ วิย จ ปริพฺภมติเยว.

อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทายาติ อชฺฌตฺติกํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย. อิทฺหิ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. พาหิรสฺส อุปาทายาติ พาหิรํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย, อิทมฺปิ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. อสฺมีติ, ภิกฺขเว, สตีติ, ภิกฺขเว, ยเทตํ อชฺฌตฺตํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย ตณฺหามานทิฏฺิวเสน สมูหคฺคาหโต อสฺมีติ โหติ, ตสฺมึ สตีติ อตฺโถ. อิตฺถสฺมีติ โหตีติอาทีสุ ปน เอวํ สมูหโต อหนฺติ คหเณ สติ ตโต อนุปนิธาย จ อุปนิธาย จาติ ทฺวิธา คหณํ โหติ. ตตฺถ อนุปนิธายาติ อฺํ อาการํ อนุปคมฺม สกภาวเมว อารมฺมณํ กตฺวา อิตฺถสฺมีติ โหติ, ขตฺติยาทีสุ อิทํปกาโร อหนฺติ เอวํ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน โหตีติ อตฺโถ. อิทํ ตาว อนุปนิธาย คหณํ. อุปนิธาย คหณํ ปน ทุวิธํ โหติ สมโต จ อสมโต จ. ตํ ทสฺเสตุํ เอวํสฺมีติ อฺถาสฺมีติ จ วุตฺตํ. ตตฺถ เอวํสฺมีติ อิทํ สมโต อุปนิธาย คหณํ, ยถายํ ขตฺติโย ยถายํ พฺราหฺมโณ, เอวมหมฺปีติ อตฺโถ. อฺถาสฺมีติ อิทํ ปน อสมโต คหณํ, ยถายํ ขตฺติโย ยถายํ พฺราหฺมโณ, ตโต อฺถา อหํ, หีโน วา อธิโก วาติ อตฺโถ. อิมานิ ตาว ปจฺจุปฺปนฺนวเสน จตฺตาริ ตณฺหาวิจริตานิ.

อสสฺมีติ สตสฺมีติ อิมานิ ปน ทฺเว ยสฺมา อตฺถีติ อสํ, นิจฺจสฺเสตํ อธิวจนํ. สีทตีติ สตํ, อนิจฺจสฺเสตํ อธิวจนํ. ตสฺมา สสฺสตุจฺเฉทวเสน วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. อิโต ปรานิ นฺติ เอวมาทีนิ จตฺตาริ สํสยปริวิตกฺกวเสน วุตฺตานิ. สนฺติ โหตีติ เอวมาทีสุ อหํ สิยนฺติ โหตีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อธิปฺปาโย ปเนตฺถ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว คเหตพฺโพ. อปิหํ สนฺติอาทีนิ ปน จตฺตาริ อปิ นาม อหํ ภเวยฺยนฺติ เอวํ ปตฺถนากปฺปนวเสน วุตฺตานิ. ตานิปิ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. ภวิสฺสนฺติอาทีนิ ปน จตฺตาริ อนาคตวเสน วุตฺตานิ. เตสมฺปิ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวเมเต –

‘‘ทฺเว ทิฏฺิสีสา สีสฺเ, จตฺตาโร สีสมูลกา;

ตโย ตโยติ เอตานิ, อฏฺารส วิภาวเย.

เอเตสุ หิ อสสฺมิ, สตสฺมีติ เอเต ทฺเว ทิฏฺิสีสา นาม. อสฺมิ, สนฺติ, อปิหํ สนฺติ, ภวิสฺสนฺติ เอเต จตฺตาโร สุทฺธสีสา เอว. อิตฺถสฺมีติอาทโย ตโย ตโยติ ทฺวาทส สีสมูลกา นามาติ เอวเมเต ทฺเว ทิฏฺิสีสา จตฺตาโร สุทฺธสีสา ทฺวาทส สีสมูลกาติ อฏฺารส ตณฺหาวิจริตธมฺมา เวทิตพฺพา. อิมานิ ตาว อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ. พาหิรสฺส อุปาทาย ตณฺหาวิจริเตสุปิ เอเสว นโย. อิมินาติ อิมินา รูเปน วา…เป… วิฺาเณน วาติ เอส วิเสโส เวทิตพฺโพ. เสสํ ตาทิสเมว.

อิติ เอวรูปานิ อตีตานิ ฉตฺตึสาติ เอกเมกสฺส ปุคฺคลสฺส อตีเต อทฺธนิ ฉตฺตึส. อนาคตานิฉตฺตึสาติ เอกเมกสฺเสว ปุคฺคลสฺส จ อนาคเต อทฺธนิ ฉตฺตึส. ปจฺจุปฺปนฺนานิ ฉตฺตึสาติ เอกสฺส วา ปุคฺคลสฺส ยถาสมฺภวโต พหูนํ วา ปจฺจุปฺปนฺเน อทฺธนิ ฉตฺตึสาว. สพฺพสตฺตานํ ปน นิยเมเนว อตีเต อทฺธนิ ฉตฺตึส, อนาคเต ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺเน ฉตฺตึส. อนนฺตา หิ อสทิสตณฺหามานทิฏฺิเภทา สตฺตา. อฏฺสตํตณฺหาวิจริตํ โหนฺตีติ เอตฺถ ปน อฏฺสตสงฺขาตํ ตณฺหาวิจริตํ โหตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

๑๐. เปมสุตฺตวณฺณนา

๒๐๐. ทสเม น อุสฺเสเนตีติ ทิฏฺิวเสน น อุกฺขิปติ. น ปฏิเสเนตีติ ปฏิวิรุทฺโธ หุตฺวา กลหภณฺฑนวเสน น อุกฺขิปติ. น ธูปายตีติ อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย ตณฺหาวิจริตวเสน น ธูปายติ. น ปชฺชลตีติ พาหิรสฺส อุปาทาย ตณฺหาวิจริตวเสน น ปชฺชลติ. น สมฺปชฺฌายตีติ อสฺมิมานวเสน น สมฺปชฺฌายติ. เสสํ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพํ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตนฺติ.

มหาวคฺโค ปฺจโม.

จตุตฺถปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๕. ปฺจมปณฺณาสกํ