📜

(๑๒) ๒. อายาจนวคฺโค

๑๓๑. ‘‘สทฺโธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ สมฺมา อายาจมาโน อายาเจยฺย – ‘ตาทิโส โหมิ ยาทิสา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’ติ. เอสา, ภิกฺขเว, ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ยทิทํ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’’ติ.

๑๓๒. ‘‘สทฺธา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนี เอวํ สมฺมา อายาจมานา อายาเจยฺย – ‘ตาทิสี โหมิ ยาทิสี เขมา จ ภิกฺขุนี อุปฺปลวณฺณา จา’ติ. เอสา, ภิกฺขเว, ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวิกานํ ภิกฺขุนีนํ ยทิทํ เขมา จ ภิกฺขุนี อุปฺปลวณฺณา จา’’ติ.

๑๓๓. ‘‘สทฺโธ, ภิกฺขเว, อุปาสโก เอวํ สมฺมา อายาจมาโน อายาเจยฺย – ‘ตาทิโส โหมิ ยาทิโส จิตฺโต จ คหปติ หตฺถโก จ อาฬวโก’ติ. เอสา, ภิกฺขเว, ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวกานํ อุปาสกานํ ยทิทํ จิตฺโต จ คหปติ หตฺถโก จ อาฬวโก’’ติ.

๑๓๔. ‘‘สทฺธา , ภิกฺขเว, อุปาสิกา เอวํ สมฺมา อายาจมานา อายาเจยฺย – ‘ตาทิสี โหมิ ยาทิสี ขุชฺชุตฺตรา จ อุปาสิกา เวฬุกณฺฑกิยา [เวฬุกณฺฑกี (อ. นิ. ๖.๓๗; อ. นิ. ๔.๑๗๖ อาคตํ] จ นนฺทมาตา’ติ. เอสา , ภิกฺขเว, ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวิกานํ อุปาสิกานํ ยทิทํ ขุชฺชุตฺตรา จ อุปาสิกา เวฬุกณฺฑกิยา จ นนฺทมาตา’’ติ.

๑๓๕. ‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวติ. กตเมหิ ทฺวีหิ? อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวตีติ.

‘‘ทฺวีหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวติ. กตเมหิ ทฺวีหิ? อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวตี’’ติ.

๑๓๖. ‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวติ. กตเมหิ ทฺวีหิ? อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํเสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํเสติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวตีติ.

‘‘ทฺวีหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวติ. กตเมหิ ทฺวีหิ? อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํเสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํเสติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวตี’’ติ.

๑๓๗. ‘‘ทฺวีสุ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาปฏิปชฺชมาโน พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ , พหุฺจ อปุฺํ ปสวติ. กตเมสุ ทฺวีสุ? มาตริ จ ปิตริ จ. อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีสุ มิจฺฉาปฏิปชฺชมาโน พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวตีติ.

‘‘ทฺวีสุ, ภิกฺขเว, สมฺมาปฏิปชฺชมาโน ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวติ. กตเมสุ ทฺวีสุ? มาตริ จ ปิตริ จ. อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีสุ สมฺมาปฏิปชฺชมาโน ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวตี’’ติ.

๑๓๘. ‘‘ทฺวีสุ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาปฏิปชฺชมาโน พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวติ. กตเมสุ ทฺวีสุ? ตถาคเต จ ตถาคตสาวเก จ. อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, มิจฺฉาปฏิปชฺชมาโน พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวตีติ.

‘‘ทฺวีสุ , ภิกฺขเว, สมฺมาปฏิปชฺชมาโน ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวติ. กตเมสุ ทฺวีสุ? ตถาคเต จ ตถาคตสาวเก จ. อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีสุ สมฺมาปฏิปชฺชมาโน ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวตี’’ติ.

๑๓๙. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? สจิตฺตโวทานฺจ น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

๑๔๐. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? โกโธ จ อุปนาโห จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

๑๔๑. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? โกธวินโย จ อุปนาหวินโย จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

อายาจนวคฺโค ทุติโย.