📜

๔. สมจิตฺตวคฺโค

๓๓. ‘‘อสปฺปุริสภูมิฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ สปฺปุริสภูมิฺจ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ. ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสภูมิ? อสปฺปุริโส, ภิกฺขเว, อกตฺู โหติ อกตเวที. อสพฺภิ เหตํ, ภิกฺขเว, อุปฺาตํ ยทิทํ อกตฺุตา อกตเวทิตา. เกวลา เอสา, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสภูมิ ยทิทํ อกตฺุตา อกตเวทิตา. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, กตฺู โหติ กตเวที. สพฺภิ เหตํ, ภิกฺขเว, อุปฺาตํ ยทิทํ กตฺุตา กตเวทิตา. เกวลา เอสา, ภิกฺขเว, สปฺปุริสภูมิ ยทิทํ กตฺุตา กตเวทิตา’’ติ.

๓๔. ‘‘ทฺวินฺนาหํ, ภิกฺขเว, น สุปฺปติการํ วทามิ. กตเมสํ ทฺวินฺนํ? มาตุ จ ปิตุ จ. เอเกน, ภิกฺขเว, อํเสน มาตรํ ปริหเรยฺย , เอเกน อํเสน ปิตรํ ปริหเรยฺย วสฺสสตายุโก วสฺสสตชีวี โส จ เนสํ อุจฺฉาทนปริมทฺทนนฺหาปนสมฺพาหเนน. เต จ ตตฺเถว มุตฺตกรีสํ จเชยฺยุํ. น ตฺเวว, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ กตํ วา โหติ ปฏิกตํ วา. อิมิสฺสา จ, ภิกฺขเว, มหาปถวิยา ปหูตรตฺตรตนาย [ปหูตสตฺตรตนาย (สี. สฺยา. กํ. ปี.) ติกนิปาเต มหาวคฺเค ทสมสุตฺตฏีกายํ ทสฺสิตปาฬิยา สเมติ] มาตาปิตโร อิสฺสราธิปจฺเจ รชฺเช ปติฏฺาเปยฺย, น ตฺเวว, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ กตํ วา โหติ ปฏิกตํ วา. ตํ กิสฺส เหตุ? พหุการา [พหูปการา (ก.)], ภิกฺขเว, มาตาปิตโร ปุตฺตานํ อาปาทกา โปสกา อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโร. โย จ โข, ภิกฺขเว, มาตาปิตโร อสฺสทฺเธ สทฺธาสมฺปทาย สมาทเปติ นิเวเสติ ปติฏฺาเปติ, ทุสฺสีเล สีลสมฺปทาย สมาทเปติ นิเวเสติ ปติฏฺาเปติ, มจฺฉรี จาคสมฺปทาย สมาทเปติ นิเวเสติ ปติฏฺาเปติ, ทุปฺปฺเ ปฺาสมฺปทาย สมาทเปติ นิเวเสติ ปติฏฺาเปติ, เอตฺตาวตา โข, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ กตฺจ โหติ ปฏิกตฺจา’’ติ [ปฏิกตฺจ อติกตฺจาติ (สี. ปี.)].

๓๕. อถ โข อฺตโร พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ…เป… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึวาที ภวํ โคตโม กิมกฺขายี’’ติ? ‘‘กิริยวาที จาหํ, พฺราหฺมณ, อกิริยวาที จา’’ติ. ‘‘ยถากถํ ปน ภวํ โคตโม กิริยวาที จ อกิริยวาที จา’’ติ?

‘‘อกิริยํ โข อหํ, พฺราหฺมณ, วทามิ กายทุจฺจริตสฺส วจีทุจฺจริตสฺส มโนทุจฺจริตสฺส, อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อกิริยํ วทามิ. กิริยฺจ โข อหํ, พฺราหฺมณ, วทามิ กายสุจริตสฺส วจีสุจริตสฺส มโนสุจริตสฺส, อเนกวิหิตานํ กุสลานํ ธมฺมานํ กิริยํ วทามิ. เอวํ โข อหํ, พฺราหฺมณ, กิริยวาที จ อกิริยวาที จา’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

๓๖. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต, โลเก ทกฺขิเณยฺยา, กตฺถ จ ทานํ ทาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ทฺเว โข, คหปติ, โลเก ทกฺขิเณยฺยา – เสโข จ อเสโข จ. อิเม โข, คหปติ, ทฺเว โลเก ทกฺขิเณยฺยา, เอตฺถ จ ทานํ ทาตพฺพ’’นฺติ.

อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน [วตฺวา (สี. ปี.) เอวมีทิเสสุ าเนสุ] สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘เสโข อเสโข จ อิมสฺมึ โลเก,

อาหุเนยฺยา ยชมานานํ โหนฺติ;

เต อุชฺชุภูตา [อุชุภูตา (สฺยา. กํ. ก.)] กาเยน, วาจาย อุท เจตสา;

เขตฺตํ ตํ ยชมานานํ, เอตฺถ ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ.

๓๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุตฺโต สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ – ‘‘อชฺฌตฺตสํโยชนฺจ, อาวุโส, ปุคฺคลํ เทเสสฺสามิ พหิทฺธาสํโยชนฺจ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –

‘‘กตโม จาวุโส, อชฺฌตฺตสํโยชโน ปุคฺคโล? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน , อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. โส ตโต จุโต อาคามี โหติ, อาคนฺตา อิตฺถตฺตํ. อยํ วุจฺจติ, อาวุโส, อชฺฌตฺตสํโยชโน ปุคฺคโล อาคามี โหติ, อาคนฺตา อิตฺถตฺตํ.

‘‘กตโม จาวุโส, พหิทฺธาสํโยชโน ปุคฺคโล? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. โส ตโต จุโต อนาคามี โหติ, อนาคนฺตา อิตฺถตฺตํ. อยํ วุจฺจตาวุโส, พหิทฺธาสํโยชโน ปุคฺคโล อนาคามี โหติ, อนาคนฺตา อิตฺถตฺตํ.

‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส กามานํเยว นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ. โส ภวานํเยว นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ. โส ตณฺหากฺขยาย ปฏิปนฺโน โหติ. โส โลภกฺขยาย ปฏิปนฺโน โหติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. โส ตโต จุโต อนาคามี โหติ, อนาคนฺตา อิตฺถตฺตํ. อยํ วุจฺจตาวุโส, พหิทฺธาสํโยชโน ปุคฺคโล อนาคามี โหติ, อนาคนฺตา อิตฺถตฺต’’นฺติ.

อถ โข สมฺพหุลา สมจิตฺตา เทวตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข ตา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘เอโส, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท ภิกฺขูนํ อชฺฌตฺตสํโยชนฺจ ปุคฺคลํ เทเสติ พหิทฺธาสํโยชนฺจ. หฏฺา, ภนฺเต, ปริสา. สาธุ, ภนฺเต, ภควา เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข ภควา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ [สมฺมิฺชิตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย , เอวเมวํ – เชตวเน อนฺตรหิโต ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สมฺมุเข ปาตุรโหสิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. อายสฺมาปิ โข สาริปุตฺโต ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘อิธ, สาริปุตฺต, สมฺพหุลา สมจิตฺตา เทวตา เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข, สาริปุตฺต, ตา เทวตา มํ เอตทโวจุํ – ‘เอโส, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท ภิกฺขูนํ อชฺฌตฺตสํโยชนฺจ ปุคฺคลํ เทเสติ พหิทฺธาสํโยชนฺจ. หฏฺา, ภนฺเต, ปริสา. สาธุ, ภนฺเต, ภควา เยน อายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’ติ. ตา โข ปน, สาริปุตฺต, เทวตา ทสปิ หุตฺวา วีสมฺปิ หุตฺวา ตึสมฺปิ หุตฺวา จตฺตาลีสมฺปิ หุตฺวา ปฺาสมฺปิ หุตฺวา สฏฺิปิ หุตฺวา อารคฺคโกฏินิตุทนมตฺเตปิ ติฏฺนฺติ, น จ อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺติ [พฺยาพาเธนฺตีติ (สพฺพตฺถ)]. สิยา โข ปน [ปน เต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], สาริปุตฺต, เอวมสฺส – ‘ตตฺถ นูน ตาสํ เทวตานํ ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ เยน ตา เทวตา ทสปิ หุตฺวา วีสมฺปิ หุตฺวา ตึสมฺปิ หุตฺวา จตฺตาลีสมฺปิ หุตฺวา ปฺาสมฺปิ หุตฺวา สฏฺิปิ หุตฺวา อารคฺคโกฏินิตุทนมตฺเตปิ ติฏฺนฺติ น จ อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺตี’ติ. น โข ปเนตํ, สาริปุตฺต, เอวํ ทฏฺพฺพํ. อิเธว โข, สาริปุตฺต, ตาสํ เทวตานํ ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ, เยน ตา เทวตา ทสปิ หุตฺวา…เป… น จ อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺติ. ตสฺมาติห, สาริปุตฺต, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘สนฺตินฺทฺริยา ภวิสฺสาม สนฺตมานสา’ติ. เอวฺหิ โว, สาริปุตฺต, สิกฺขิตพฺพํ. ‘สนฺตินฺทฺริยานฺหิ โว, สาริปุตฺต, สนฺตมานสานํ สนฺตํเยว กายกมฺมํ ภวิสฺสติ สนฺตํ วจีกมฺมํ สนฺตํ มโนกมฺมํ. สนฺตํเยว อุปหารํ อุปหริสฺสาม สพฺรหฺมจารีสู’ติ. ‘เอวฺหิ โว, สาริปุตฺต, สิกฺขิตพฺพํ. อนสฺสุํ โข, สาริปุตฺต, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เย อิมํ ธมฺมปริยายํ นาสฺโสสุ’’’นฺติ.

๓๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา มหากจฺจาโน วรณายํ วิหรติ ภทฺทสาริตีเร [กทฺทมทหตีเร (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. อถ โข อารามทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหากจฺจาเนน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อารามทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, โภ กจฺจาน, เหตุ โก ปจฺจโย เยน ขตฺติยาปิ ขตฺติเยหิ วิวทนฺติ, พฺราหฺมณาปิ พฺราหฺมเณหิ วิวทนฺติ, คหปติกาปิ คหปติเกหิ วิวทนฺตี’’ติ? ‘‘กามราคาภินิเวสวินิพนฺธ [กามราควินิเวสวินิพทฺธ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานเหตุ โข, พฺราหฺมณ, ขตฺติยาปิ ขตฺติเยหิ วิวทนฺติ, พฺราหฺมณาปิ พฺราหฺมเณหิ วิวทนฺติ, คหปติกาปิ คหปติเกหิ วิวทนฺตี’’ติ.

‘‘โก ปน, โภ กจฺจาน, เหตุ โก ปจฺจโย เยน สมณาปิ สมเณหิ วิวทนฺตี’’ติ? ‘‘ทิฏฺิราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานเหตุ โข, พฺราหฺมณ, สมณาปิ สมเณหิ วิวทนฺตี’’ติ.

‘‘อตฺถิ ปน, โภ กจฺจาน, โกจิ โลกสฺมึ โย อิมฺเจว กามราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต, อิมฺจ ทิฏฺิราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต’’ติ? ‘‘อตฺถิ, พฺราหฺมณ, โลกสฺมึ โย อิมฺเจว กามราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต, อิมฺจ ทิฏฺิราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต’’ติ.

‘‘โก ปน โส, โภ กจฺจาน, โลกสฺมึ โย อิมฺเจว กาคราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต, อิมฺจ ทิฏฺิราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต’’ติ? ‘‘อตฺถิ, พฺราหฺมณ, ปุรตฺถิเมสุ ชนปเทสุ สาวตฺถี นาม นครํ. ตตฺถ โส ภควา เอตรหิ วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. โส หิ, พฺราหฺมณ, ภควา อิมฺเจว กามราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต , อิมฺจ ทิฏฺิราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อารามทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทกฺขิณํ ชาณุมณฺฑลํ ปถวิยํ นิหนฺตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส, นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส, นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. โย หิ โส ภควา อิมฺเจว กามราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต, อิมฺจ ทิฏฺิราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ กจฺจาน, อภิกฺกนฺตํ, โภ กจฺจาน! เสยฺยถาปิ, โภ กจฺจาน, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ, เอวเมวํ โภตา กจฺจาเนน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, โภ กจฺจาน, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ กจฺจาโน ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

๓๙. เอกํ สมยํ อายสฺมา มหากจฺจาโน มธุรายํ วิหรติ คุนฺทาวเน. อถ โข กนฺทรายโน [กณฺฑรายโน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] พฺราหฺมโณ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหากจฺจาเนน สทฺธึ…เป… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข กนฺทรายโน พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ กจฺจาน, ‘น สมโณ กจฺจาโน พฺราหฺมเณ ชิณฺเณ วุทฺเธ มหลฺลเก อทฺธคเต วโยอนุปฺปตฺเต อภิวาเทติ วา ปจฺจุฏฺเติ วา อาสเนน วา นิมนฺเตตี’ติ. ตยิทํ, โภ กจฺจาน, ตเถว? น หิ ภวํ กจฺจาโน พฺราหฺมเณ ชิณฺเณ วุทฺเธ มหลฺลเก อทฺธคเต วโยอนุปฺปตฺเต อภิวาเทติ วา ปจฺจุฏฺเติ วา อาสเนน วา นิมนฺเตติ. ตยิทํ, โภ กจฺจาน, น สมฺปนฺนเมวา’’ติ.

‘‘อตฺถิ, พฺราหฺมณ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน วุทฺธภูมิ จ อกฺขาตา ทหรภูมิ จ. วุทฺโธ เจปิ, พฺราหฺมณ, โหติ อาสีติโก วา นาวุติโก วา วสฺสสติโก วา ชาติยา, โส จ กาเม ปริภุฺชติ กามมชฺฌาวสติ กามปริฬาเหน ปริฑยฺหติ กามวิตกฺเกหิ ขชฺชติ กามปริเยสนาย อุสฺสุโก. อถ โข โส พาโล น เถโรตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ทหโร เจปิ, พฺราหฺมณ, โหติ ยุวา สุสุกาฬเกโส ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต ปเมน วยสา . โส จ น กาเม ปริภุฺชติ น กามมชฺฌาวสติ, น กามปริฬาเหน ปริฑยฺหติ, น กามวิตกฺเกหิ ขชฺชติ, น กามปริเยสนาย อุสฺสุโก. อถ โข โส ปณฺฑิโต เถโรตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต กนฺทรายโน พฺราหฺมโณ อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทหรานํ สตํ [สุทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ภิกฺขูนํ ปาเท สิรสา วนฺทติ – ‘‘วุทฺธา ภวนฺโต, วุทฺธภูมิยํ ิตา. ทหรา มยํ, ทหรภูมิยํ ิตา’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ กจฺจาน…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ กจฺจาโน ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

๔๐. ‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย โจรา พลวนฺโต โหนฺติ, ราชาโน ตสฺมึ สมเย ทุพฺพลา โหนฺติ. ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย รฺโ น ผาสุ โหติ อติยาตุํ วา นิยฺยาตุํ วา ปจฺจนฺติเม วา ชนปเท อนุสฺาตุํ. พฺราหฺมณคหปติกานมฺปิ ตสฺมึ สมเย น ผาสุ โหติ อติยาตุํ วา นิยฺยาตุํ วา พาหิรานิ วา กมฺมนฺตานิ ปฏิเวกฺขิตุํ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย ปาปภิกฺขู พลวนฺโต โหนฺติ, เปสลา ภิกฺขู ตสฺมึ สมเย ทุพฺพลา โหนฺติ. ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย เปสลา ภิกฺขู ตุณฺหีภูตา ตุณฺหีภูตาว สงฺฆมชฺเฌ สงฺกสายนฺติ [สงฺกมฺม ฌายนฺติ (ก.), สฺจายนฺติ (สี. อฏฺ.)] ปจฺจนฺติเม วา ชนปเท อจฺฉนฺติ [ภชนฺติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. ตยิทํ, ภิกฺขเว, โหติ พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย, พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ.

‘‘ยสฺมึ , ภิกฺขเว, สมเย ราชาโน พลวนฺโต โหนฺติ, โจรา ตสฺมึ สมเย ทุพฺพลา โหนฺติ. ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย รฺโ ผาสุ โหติ อติยาตุํ วา นิยฺยาตุํ วา ปจฺจนฺติเม วา ชนปเท อนุสฺาตุํ. พฺราหฺมณคหปติกานมฺปิ ตสฺมึ สมเย ผาสุ โหติ อติยาตุํ วา นิยฺยาตุํ วา พาหิรานิ วา กมฺมนฺตานิ ปฏิเวกฺขิตุํ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย เปสลา ภิกฺขู พลวนฺโต โหนฺติ, ปาปภิกฺขู ตสฺมึ สมเย ทุพฺพลา โหนฺติ. ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ปาปภิกฺขู ตุณฺหีภูตา ตุณฺหีภูตาว สงฺฆมชฺเฌ สงฺกสายนฺติ, เยน วา ปน เตน ปกฺกมนฺติ [ปปตนฺติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. ตยิทํ, ภิกฺขเว, โหติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย, พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ.

๔๑. ‘‘ทฺวินฺนาหํ , ภิกฺขเว, มิจฺฉาปฏิปตฺตึ น วณฺเณมิ, คิหิสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา. คิหี วา, ภิกฺขเว, ปพฺพชิโต วา มิจฺฉาปฏิปนฺโน มิจฺฉาปฏิปตฺตาธิกรณเหตุ น อาราธโก โหติ ายํ ธมฺมํ กุสลํ.

‘‘ทฺวินฺนาหํ, ภิกฺขเว, สมฺมาปฏิปตฺตึ วณฺเณมิ, คิหิสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา. คิหี วา, ภิกฺขเว, ปพฺพชิโต วา สมฺมาปฏิปนฺโน สมฺมาปฏิปตฺตาธิกรณเหตุ อาราธโก โหติ ายํ ธมฺมํ กุสล’’นฺติ.

๔๒. ‘‘เย เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ทุคฺคหิเตหิ สุตฺตนฺเตหิ พฺยฺชนปฺปติรูปเกหิ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ ปฏิวาหนฺติ เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู พหุชนาหิตาย ปฏิปนฺนา พหุชนาสุขาย, พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ. พหุฺจ เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อปุฺํ ปสวนฺติ, เต จิมํ สทฺธมฺมํ อนฺตรธาเปนฺติ.

‘‘เย เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สุคฺคหิเตหิ สุตฺตนฺเตหิ พฺยฺชนปฺปติรูปเกหิ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุโลเมนฺติ เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนา พหุชนสุขาย, พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. พหุฺจ เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ปุฺํ ปสวนฺติ, เต จิมํ สทฺธมฺมํ เปนฺตี’’ติ.

สมจิตฺตวคฺโค จตุตฺโถ.